The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติศาสตร์ ป.4 หน่วยที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kru.science01, 2021-07-11 11:21:16

ประวัติศาสตร์ ป.4 หน่วยที่ 2

ประวัติศาสตร์ ป.4 หน่วยที่ 2

๑. ยุคสมยั ในการศกึ ษาประวัติศาสตร์

ก า ร แ บ่ ง ยุ ค ส ม ั ย ท า ง ป ร ะ ว ั ติ ศ า ส ต ร์ ยุ ค ส ม ั ย ท า ง
ประวัติศาสตร์เป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน ดังน้ัน เพ่ือความสะดวก
ในการศึกษาประวัติศาสตร์ นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดี
จึงแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์โดยใช้เกณฑ์จากการท่ีมนษุ ย์
รู้จกั คิดประดิษฐ์ตวั อกั ษรข้ึนมาใช้ แบง่ ออกเป็น ๒ สมยั ดงั นี้



๑.๑ สมัยก่อนประวตั ศิ าสตร์

คือ ยุคสมัยท่ีมนุษย์ยังไม่ได้ประดิษฐ์ตัวอักษรข้ึนมาใช้
การศึกษาเร่ืองราวของผู้คนในยุคน้ี จึงศึกษาจากเคร่ืองมือ
เคร่ืองใช้ที่ส่วนใหญ่ทาจากหินหรือโลหะ นอกจากน้ียังศึกษาจาก
โครงกระดูก ซากพืช ซากสัตว์ และถ้าท่ีอยู่อาศัย สมัยก่อน
ประวตั ศิ าสตรแ์ บง่ ยคุ สมยั ย่อยลงไป ไดแ้ ก่ ยคุ หนิ และยคุ โลหะ

ยุคหิน คอื ยุคที่มนษุ ยน์ าหินมาประดษิ ฐ์
เป็นเคร่อื งมือเคร่ืองใช้ แบ่งตามลกั ษณะ
ของเคร่อื งมอื หินออกเป็น ๓ ยคุ ไดแ้ ก่
ยคุ หินเก่า ยคุ หนิ กลาง ยุคหนิ ใหม่

เคร่อื งมือเคร่อื งใชใ้ นยคุ หนิ

ยุคโลหะ คอื ยุคทม่ี นษุ ยน์ าโลหะมา
ประดษิ ฐ์เป็นเคร่อื งมือเคร่ืองใช้
และเคร่ืองประดับ เช่น สารดิ เหล็ก
เคร่อื งมอื เคร่อื งใช้ในยคุ โลหะ

๑.๒ สมยั ประวตั ศิ าสตร์

คือ ยุคสมัยที่มนุษย์รู้จักคิดประดิษฐ์ตัวอักษรข้ึนใช้
เพ่อื บนั ทกึ เร่อื งราวตา่ ง ๆ

การศึกษาประวัติศาสตร์ไทย นักประวัติศาสตร์อาจใช้
เหตุการณ์สาคัญในแต่ละช่วงเวลาของการเป็นเมืองหลวงเป็น
เกณฑ์ในการแบ่งยคุ สมัย คอื

๑) สมัยกอ่ นสโุ ขทยั เร่มิ ตน้ เม่อื มีการพบหลักฐานการใช้ตวั อกั ษร
ในดินแดนไทย ในพุทธศตวรรษท่ี ๑๒ ของกลุ่มคนท่ีตั้งถ่ินฐาน
เป็นบา้ นเมอื ง แคว้น ในแผน่ ดินไทย แคว้นสาคญั ได้แก่ ทวารวดี
หริภญุ ชัย ศรีวชิ ัย และตามพรลิงค์
๒) สมัยสุโขทัย เร่ิมจากปีท่ีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ข้ึนครองราชย์
และสถาปนาสุโขทัยเป็นเมืองหลวงจนกระท่ังสุโขทัยถูกรวมเข้า
กับอาณาจกั รอยธุ ยา ประมาณ พ.ศ. ๑๗๙๒ ถึง พ.ศ. ๒๐๐๖

๓) สมยั อยธุ ยา เร่ิมจากปีทส่ี มเดจ็ พระรามาธบิ ดีท่ี ๑ (พระเจ้าอทู่ อง)
ข้ึนครองราชย์ และสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองหลวงจนกระทั่ง
ถึงปีท่ีกรุงศรีอยุธยาแตก ซ่ึงเป็นช่วงระหว่าง พ.ศ. ๑๘๙๓ ถึง
พ.ศ. ๒๓๑๐

วัดมหาธาตใุ นอทุ ยานประวัตศิ าสตรส์ โุ ขทัย
เป็นหลกั ฐานท่ีแสดงให้เห็นถึงความเจรญิ รงุ่ เรอื งในสมยั สุโขทัย

๔) สมัยธนบุรี เร่ิมจากปี ท่ีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ข้ึนครองราชย์และสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง จนถึงปี
สุ ด ท้ า ย ข อ ง ร ั ช ก า ล ซ่ึ ง เ ป็ น ช่ ว ง ร ะ ห ว่ า ง พ . ศ . ๒ ๓ ๑ ๐
ถึง พ.ศ. ๒๓๒๕
๕) สมัยรัตนโกสินทร์ เร่ิมจากปีที่พระบาทสมเด็จพระพุทธ-
ย อ ด ฟ้ า จุ ฬ า โ ล ก ม ห า ร า ช ข้ึ น ค ร อ ง ร า ช ย์ แ ล ะ ส ถ า ป น า
กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวง ซ่ึงเป็นช่วงระหว่าง พ.ศ. ๒๓๒๕
ถึงปัจจุบัน

๒. หลักฐานทางประวัติศาสตร์

การศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดีเป็นการศึกษาอดีตหรอื
เหตุการณ์ท่ีผ่านไปแล้ว เราสามารถศึกษาเหตุการณ์ในอดีตได้
โดยใชห้ ลักฐานทางประวัติศาสตร์ หรอื หลกั ฐานทางโบราณคดี

๒.๑ ความหมายและความสาคญั ของหลกั ฐาน
ทางประวัตศิ าสตร์

ห ล ั ก ฐ า น ท า ง ป ร ะ ว ั ติ ศ า ส ต ร์ ห ม า ย ถึ ง ร่ อ ง ร อ ย
ท่ีเกิดข้ึนในอดีต ซ่ึงสามารถนามาใช้เพ่ือเป็นข้อมูลในการศึกษา
เก่ียวกับเร่ืองราวในอดีต มีทั้งหลักฐานท่ีเป็นลายลักษณ์อักษร
และหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณอ์ ักษร

กฎหมายตราสามดวง
เป็นประมวลกฎหมาย
ในรชั กาลท่ี ๑ ทใ่ี ชบ้ งั คับ
ใหท้ กุ คนในสงั คมปฏิบตั ติ าม

ประชุมพงศาวดาร
ฉบับกาญจนาภเิ ษก
เล่มที่ ๑๑ บันทกึ เร่ืองราว
ทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย

เบา้ หลอมโลหะ
พบทีบ่ ้านเชยี ง จงั หวดั อดุ รธานี
เป็นหลกั ฐานท่แี สดง
ถงึ เคร่อื งมอื ของคนในอดตี

คาบอกเลา่ ของผอู้ ยู่ในเหตุการณ์
หรือเคยไดฟ้ ังเร่อื งราวมากอ่ น

โบราณสถานแสดงถึงความเจริญรงุ่ เรอื ง
ของชุมชนในอดีต

๒.๒ ประเภทของหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ สามารถแบ่งออกเป็นหลาย
ประเภท แต่ถ้าคานึงถึงความน่าเช่ือถือของหลักฐาน อาจจาแนก
ได้เป็น หลักฐานชั้นตน้ และหลักฐานช้นั รอง

๒.๒.๑ หลักฐานช้ันต้น หมายถึง หลักฐานท่ีเกิดข้ึน
ในช่วงท่ีเกิดเหตุการณ์น้ันหรือหลักฐานท่ีได้จากการบันทึกหรือ
จากคาบอกเล่าของผู้ท่ีมีส่วนร่วมเหตุการณ์ด้วยตนเอง หลักฐาน
ชน้ั ต้นมที ั้งทเ่ี ป็นลายลักษณอ์ ักษรและไม่เป็นลายลกั ษณอ์ ักษร

ภาพจติ รกรรมฝาผนัง กลองมโหระทกึ พบที่
เร่ือง รามเกียรต์ิ อยู่บรเิ วณระเบยี งรอบ เกาะสมยุ จังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี
อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

เคร่อื งประดับโบราณ

ศลิ าจารึกหลักท่ี ๑ พระราชพงศาวดาร
อยทู่ ่ีพพิ ธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ กรุงรัตนโกสนิ ทร์ รัชกาลท่ี ๑

พระนคร กรงุ เทพมหานคร

วดั ไชยมงคล จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

๒.๒.๒ หลักฐานชั้นรอง หมายถึง หลักฐานท่ีสร้างข้ึน
โดยผู้ที่ไม่ได้พบเห็นเหตุการณ์นั้นโดยตรง เช่น บทความทาง
วชิ าการ ตานาน ภาพยนตร์ ส่ิงกอ่ สรา้ ง หนงั สอื ตา่ ง ๆ
ตัวอยา่ งหนงั สอื เกย่ี วกบั ประวตั ิศาสตร์ทจ่ี ัดเป็นหลักฐานช้นั รอง

๓. เกณฑ์การจาแนกหลกั ฐานทพ่ี บในท้องถ่ิน

ท้องถ่ิน หมายถึง พ้ืนที่ซ่ึงมีขนาดเล็กท่ีมีขนาดต่างกัน เช่น
ชุมชน หมู่บ้าน เมือง การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถ่ิน จึงเป็น
การศึกษาเหตุการณ์ในอดีตของคนหรือกลุ่มชนท่ีอยู่ในท้องถ่ิน
ต่าง ๆ

๓.๑ หลกั ฐานชนั้ ต้นท่ีพบในท้องถ่ินตา่ ง ๆ

หลักฐานช้ันต้นที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น ตารา
ยาแผนโบราณ ตาราดูฤกษ์ยาม คัมภีร์พระพุทธศาสนา จารึก
กฎหมาย เอกสารพ้ืนบ้านต่าง ๆ เหรียญทองคาจารึกเป็นภาษา
อาหรบั ซ่ึงพบท่ีเมอื งบางแกว้ อาเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง

หลักฐานชั้นต้นท่ีไม่ได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
เช่น ภาษาถ่นิ เพลงพ้นื บ้าน โบราณวัตถุ และโบราณสถานตา่ ง ๆ
ในท้องถ่นิ

๓.๒ หลกั ฐานช้นั รองทีพ่ บในทอ้ งถ่นิ ต่าง ๆ

หลักฐานช้ันรองที่นามาศึกษาเกี่ยวกับท้องถ่ิน ได้แก่
หนังสือต่าง ๆ เช่น บางลาพูภาพจากความทรงจา โดย กุลวดี
เจริญศรี ผู้ศึกษาได้เลือกศึกษาชุมชนบางลาพูในอดีต ซ่ึงเป็น
ย่านเก่าแก่แห่งหน่ึงของกรุงเทพมหานคร โดยใช้หลักฐาน
ชน้ั ตน้ ท่เี ป็นลายลักษณอ์ กั ษร

ชมุ ชนบางลาพใู นอดตี

การค้าในลุ่มน้ าบางปะกง โดย อิงตะวัน แพลูกอินทร์
ผู้ศึกษาได้เลือกศึกษาการค้าในลุ่มน้าบางปะกง เมืองฉะเชิงเทรา
ในอดีต โดยใช้หลักฐานช้ันต้นที่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น
หนังสือประกาศของราชการ พระราชบัญญัติต่าง ๆ และใช้
หลักฐานช้ันตน้ ท่ีไม่เป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร

แม่น้ าบางปะกง






















Click to View FlipBook Version