๑
ก คำนำ รายงานการจัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ในระดับปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ ๒ - ๓ ได้จัดทำโครงานเรื่อง ฝาขวดมหัศจรรย์เพื่อศึกษาสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ที่เด็กสนใจเด็กได้ทดลองการปฏิบัติกิจกรรมโดยใช้กิจกรรม การทำทดลอง โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย ให้มีเจตคติที่ตต่อวิทยาศาสตร์ สนุกกับการเรียนวิทยาศาสตร์ และมีทักษะพื้นฐานที่ดีด้านวิทยาศาสตร์ ให้กับเด็กปฐมวัย มุ่งเน้นพัฒนาการ ทั้ง ๔ ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้าน อารมณ์ - จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา เพื่อให้เด็กเกิดการพัฒนาการไปพร้อม ๆ กัน ทั้ง ๔ ด้านโดย ในปีการศึกษา ๒๕๖๖ ทางโรงเรียนได้ดำเนินการตามโครงการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และประสบความสำเร็จ ตามเป้าหมาย โรงเรียนบ้านเขาวง ขอขอบพระคุณศึกษานิเทศก์ทุกท่าน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต ๕ นายพิบูลย์ คำดอกรับ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาวง คณะครูนักเรียนโรงเรียนบ้านเขาวงทุกคน ที่คอยให้คำปรึกษาชี้แนะและเสนอแนวทางการดำเนินงานในครั้งนี้จนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ไว้ ณ โอกาสนี้ คณะครูและนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปี่ที่ ๒ - ๓ โรงเรียนบ้านเขาวง
ข สารบัญ เรื่อง หน้า โครงงานฝาขวดมหัศจรรย์ ที่มาของโครงงาน ๑ คำถามที่ ๑ " จะนำอะไรมาทำแทมบูรีนได้บ้าง " ๓ ขั้นที่ ๑ ตั้งคำถามที่อยากรู้ ๔ ขั้นที่ ๒ รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ ๔ ขั้นที่ ๓ ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ ๖ ขั้นที่ ๔ สังเกตและการบรรยาย ๘ ขั้นที่ ๕ บันทึกผล ๙ ขั้นที่ ๖ สรุปและอภิปรายผล ๑๔ ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย ๑๕ คำถามที่ 2 จะนำฝาขวดพลาสติกและฝาขวดโลหะมาทำแทมบูรีนได้อย่างไร ๑๖ ขั้นที่ ๑ ตั้งคำถามที่อยากรู้ ๑๖ ขั้นที่ ๒ รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ ๑๖ ขั้นที่ ๓ ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ ๑๗ ขั้นที่ ๔ สังเกตและการบรรยาย ๒๒ ขั้นที่ ๕ บันทึกผล ๒๕ ขั้นที่ ๖ สรุปและอภิปรายผล ๒๖ ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย ๒๘ ภาคผนวก - เกียรติบัตรอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดประสบการณ์โครงงานบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
ก ระยะที่ 1 การกำหนดหัวข้อโครงงาน สิ่งที่เด็กสงสัย : เอาฝาขวดมา ทำเครื่องดนตรีแทมบูรีนได้ อย่างไร ความรู้เดิม คำถามที่ ๑ ฝาขวดน้ำมีกี่แบบ แทมบูรีนมีหลายรูปแบบ หลายขนาดทำ มาจากวัสดุหลายชนิด และแต่ละแบบก็จะ มีลักษณะเสียงที่แตกต่างกัน ฝาขวดใช้ปิดขวดไม่ให้น้ำไหลออก หรือหก ฝาขวดน้ำมีหลายแบบ หลายสีสามารถนำไป ประยุกต์เป็นของเล่น หรือเครื่องดนตรีได้ คำถามที่ ๒ จะนำฝาขวดพลาสติกและฝาขวดโลหะมาทำแทมบูรีนได้อย่างไร การทำแทมบูรีนครั้งที่ ๑ - นำฝาขวดพลาสติกมาขัดล้างทำความ สะอาด - เจาะรู ร้อยใส่กับลวดวงกลม พันด้วย เทปกาวประกอบเข้าด้ามจับตามที่ ออกแบบไว้ - การทำแทมบูรีนครั้งที่ ๒ - นำฝาขวดน้ำโลหะ มาขัดล้างทำความ สะอาด - เจาะรู ร้อยใส่กับลวด ,พันด้วยเทป กาวประกอบเข้าด้ามจับตามที่ ออกแบบไว้ ความรู้ใหม่
ข ระยะที่ ๒ การวางแผน โครงงาน : ฝาขวดมหัศจรรย์ ความรู้เดิม ฝาขวดใช้ปิดขวดไม่ให้น้ำไหลออกหรือหก สำรวจ สำรวจ สิ่งของ อุปกรณ์ที่ นำมาทำแทม บูรีน ทดลอง ทดลองทำแทมบูรีนจาก ฝาขวดพลาสติกและฝา ขวดโลหะ สืบค้น แทมบูรีนที่ทำจากฝาขวดน้ำ พลาสติกเคาะเป็นจังหวะแล้วเกิดเสียง เบา ดังไม่เพราะ จะทำแทมบูรีนให้ เสียงดังและเพราะได้อย่างไร แหล่เรียนรู้ - สอบถามครูผู้สอน วิทยาศาสตร์ ในโรงเรียน - ค้นหาใน อินเตอร์เน็ต ยูทูป - Tik Tok แทมบูรีน ทำจากฝาขวดเพื่อช่วยลดปัญหาขยะ และเป็นการนำเอาของที่เหลือใช้มาทำให้เกิด ประโยชน์และทำให้ขยะคืนสู่สิ่งแวดล้อมที่ดีได้อีก ด้วย
๑ ชื่อโครงงาน ฝาขวดมหัศจรรย์ ผู้จัดทำโครงงาน นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๒ - ๓ โรงเรียนบ้านเขาวง คุณครูที่ปรึกษา นางสาววิลัย ไกรรบ ระยะเวลาในการจัดทำ วันที่ ๗ - ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๗ ............................................................................................................................. ....................................................... ที่มาของโครงงาน จากการสำรวจขยะในโรงเรียน และชุมชน พบว่าขยะส่วนใหญ่เป็นฝาขวดและขวดพลาสติกซึ่งใน ปัจจุบันคนนิยมนำมาบรรจุอาหาร และเครื่องดื่มเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสะดวกในการใช้งานหาง่ายและมีราคา ถูก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะทำให้เกิดขยะมูลฝอย พลาสติกซึ่งเป็นสาเหตุประการหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม และมีผลต่อสุขภาพอนามัย ดังนั้นครูและนักเรียนจึงช่วยกันคิดโครงงานฝาขวดมหัศจรรย์เพื่อช่วยลดปัญหาขยะ และเป็นการนำเอาของที่เหลือใช้มาทำให้มีค่าเกิดประโยชน์ และทำให้ขยะคืนสู่สิ่งแวดล้อมที่ดีได้อีกด้วย ครูและ นักเรียนร่วมกันค้นคว้าข้อมูลการทำแทมบูรีนจากฝาขวด พร้อมทั้งช่วยกันระดมความคิดเพื่อตั้งคำถาม ให้นักเรียน เสนอความคิดในการเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์เดิม การสนทนาระหว่างครูและนักเรียนจนทำให้เกิดชื่อโครงงานฝาขวดมหัศจรรย์ ครู “เด็ก ๆ คะ จากที่เราเดินสำรวจในชุมชนและบริเวณโรงเรียน เราได้พบเห็นขยะอะไรกันบ้างคะ” เมญ่า “หนูเห็นหลอดดูดน้ำค่ะ” แทรกเตอร์ “ผมเห็นถุงขนมครับ” แอลมอล “หนูเห็นฝาขวดค่ะ แม่หนูเก็บไว้ที่บ้านเยอะเลย” กฤต “ผมเห็นกล่องลังครับ” วุ้นเส้น “หนูเห็นใบไม้แห้งค่ะ” ตะวัน “ผมเห็นขวดพลาสติกครับ” ใบข้าว “หนูเห็นไม้ตะเกียบค่ะ” ครู “เราสามารถเรียนรู้จากสิ่งที่อยู่รอบตัวของเรา แล้วเด็กๆ รู้จักวิธีกำจัดขยะได้อย่างไรบ้าง” ใบข้าว “เอาไปเผาทิ้งค่ะ” โฟกัส “เอาไปทิ้งลงบ่อขยะครับ” แอลมอล “เอาไปขายค่ะ” แตงโม “เอาไปทำของเล่น” ตะวัน “ขุดหลุมฝังครับ” ครู “จากที่เด็ก ๆ พูดมาเกี่ยวกับขยะ เด็ก ๆ มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมากมาย คุณครูอยากให้เด็ก ๆ ยกตัวอย่างขยะที่ขายได้และขายไม่ได้”
๒ ตะวัน “ขวดพลาสติกขายได้ครับ” โฟกัส “ใบไม้ขายไม่ได้” แทรกเตอร์ “ถุงขนมขายไม่ได้” กฤต “กล่องลังขายได้” ใบข้าว “ตะเกียบขายไม่ได้” ครู ในเมื่อเด็ก ๆ รู้แล้วว่าขยะมีหลายชนิด บางชนิดสามารถนำไปขายได้บางชนิดไม่สามารถนำไปขายได้ เช่น ถุงขนม กับใบไม้ แล้วเราจะเลือกขยะที่สามารถนำมาประดิษฐ์เป็นเครื่องดนตรีกันนะคะ ตะวัน “ผมเลือกขวดพลาสติก” ใบข้าว “หนูเลือกตะเกียบ” แตงโม “หนูเลือกฝาขวด” กฤต “ผมเลือกกล่องลัง” ครู เพื่อน ๆ เลือกขยะมา ๔ ชนิด คือ ขวดพลาสติก ตะเกียบ ฝาขวด กล่องลัง แอลมอล “เห็นด้วยค่ะ” ตะวัน “เห็นด้วยครับ” นักเรียน “เห็นด้วยครับ/ค่ะ” ครู เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ มีใครคัดค้านไหมคะ นักเรียน ไม่มีครับ/ ค่ะ เด็ก ๆ ช่วยกันบอกชื่อสิ่งประดิษฐ์ที่ทำมาจากขยะ และเลือกมาจำนวน ๓ ชื่อ ได้แก่ กลอง ระนาด และแทมบูรีน ขั้นที่ ๑ ตั้งคำถามที่อยากรู้ จากการสนทนาร่วมกับเด็กๆ แล้ว เด็กเลือกสิ่งประดิษฐ์มา ๓ ชนิด ได้แก่ กลอง ระนาด และแทมบูรีน คำถามที่ ๑ แทมบูรีนมีกี่แบบ คำถามที่ ๒ แทมบูรีนมีรูปร่างลักษณะอย่างไร คำถามที่ ๓ จะนำอะไรมาทำแทมบูรีนได้บ้าง จากคำถามที่เด็กอยากรู้ ๓ คำถาม เด็กและครูได้สนทนาเพื่อเลือกคำถามที่จะนำไปตรวจสอบหา คำตอบ ปรากฏว่าคำถามที่เด็กต้องการทราบคำตอบมากที่สุดคือข้อที่ ๓
๓ โดยจะทำการตรวจสอบหาคำตอบ ข้อที่ ๓ "จะนำอะไรมาทำแทมบูรีนได้บ้าง" เด็ก ๆ สำรวจแทมบูรีนในมุมดนตรีในห้องเรียนและศึกษาจากยูทูปว่าทำมาจากอะไร เด็ก ๆ ช่วยเก็บขยะที่จะนำมาประดิษฐ์แทมบูรีนได้ เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บฝาขวดที่จะนำมาประดิษฐ์เป็นเครื่องเคาะ จังหวะ
๔ คำถามที่ ๑ "จะนำอะไรมาทำแทมบูรีนได้บ้าง" จุดประสงค์เพื่อเปรียบวัสดุที่นำมาทำแทมบูรีน ขั้นที่ ๑ ตั้งคำถามที่อยากรู้ เด็ก ๆ และครูสนทนาเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะ แหล่งกำเนิดเสียง และน้ำหนักของแทมบูรีน ครู เด็กๆ รู้ไหมว่าแทมบูรีนมีลักษณะอย่างไรบ้าง ใบข้าว แทมบูรีนเป็นวงกลมค่ะ โฟกัส แทมบูรีนเป็นครึ่งวงกลมค่ะ ตะวัน ขอบของแทมบูรีนเป็นไม้และพลาสติกครับ แตงโม เราจะรู้ได้อย่างไรค่ะว่าแทมบูรีนแบบไหนเสียงเพราะ ครู ถ้าอยากรู้เด็กๆ คิดว่าเราควรจะทำอย่างไร ครู/เด็ก สรุปว่าแทมบูรีนเสียงที่เกิดขึ้นมีลักษณะแตกต่างกัน ขั้นที่ ๒ การรวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ เด็กและครูสนทนาร่วมกัน โดยครูใช้คำถามกระตุ้นว่าเสียงแทมบูรีนที่เกิดขึ้นดังเหมือนกันหรือไม่ ให้เด็กช่วยกันสังเกตลักษณะและเสียงของแทมบูรีนแต่ละชนิดมีเสียงหรือความแตกต่างกันอย่างไร ครู ลักษณะและเสียงแทมบูรีนที่นักเรียนรู้จักและได้ยินมีเสียงอย่างไร แตงโม เสียงก่องแล่ง ๆ วุ้นเส้น แทมบูรีนเป็นครึ่งวงกลมเหมือนของเล่นค่ะ ดังกริ๊งกริ่งๆ ใบข้าว เสียงกริ่งหริ่งๆค่ะ เฟร์ญ่า เสียงกริ่งๆค่ะ โฟกัส แทมบูรีนเป็นวงกลมเหมือนพระอาทิตย์ กฤต เป็นวงกลมเหมือนล้อรถครับ แอลมอล เสียงเหมือนกระดิ่งคอแมวค่ะ ตะวัน เสียงดังฉิ่ง ๆ ครับ ครู ให้นักเรียนวาดรูปแทมบูรีน ๒ ชนิด คือ แทมบูรีนแบบวงกลม และแทมบูรีนแบบครึ่งวงกลม ตามความคิดของตนเองว่าแทมบูรีนมีรูปร่างลักษณะและสียงเป็นอย่างไร
๕ ภาพวาดแทมบูรีนจากความคิดของน้องตะวัน ภาพวาดแทมบูรีนจากความคิดของน้องแอลมอล ภาพวาดแทมบูรีนจากความคิดของน้องแตงโม ภาพวาดแทมบูรีนจากความคิดของน้องโฟกัส ภาพวาดแทมบูรีนจากความคิดของน้องใบข้าว ภาพวาดแทมบูรีนจากความคิดของน้องกฤต ภาพวาดแทมบูรีนจากความคิดของเด็ก
๖ ขั้นตอนที่ ๓ ดำเนินการทดลองและค้นคว้า ๑. เด็กและครูสนทนาร่วมกัน โดยครูใช้คำถามกระตุ้นว่าแทมบูรีนที่นักเรียนเห็นมีหลายรูปแบบ มีแทม บูรีนแบบใดบ้างที่เด็ก ๆ รู้จัก ๒. เด็กสังเกตแทมบูรีนที่เตรียมไว้ ๓ แบบ ครู เด็ก ๆ คะ เมื่อเรารู้กันแล้วว่าแทมบูรีนมีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีเสียงที่แตกต่างกันใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นครูจะให้นักเรียนอธิบายลักษณะเสียงและวัสดุที่ใช้ทำแทมบูรีนให้เพื่อน ๆ ฟัง น้องตะวัน แทมบูรีนที่ทำจากขอบไม้และแผ่นโลหะเคาะแล้วเสียงกรุ๊งกริ่งเสียงแหลม ๆ น้องใบข้าว แทมบูรีนเคาะเสียงดังก่อง ๆ ก่องค่ะ น้องแอลมอล แทมบูรีนที่ทำจากขอบพลาสติกสีสวยน้ำหนักเบาเสียงดังกรุ๊งกริ๋ง ๆ เพราะค่ะ น้องแตงโม แทมบูรีนเป็นวงกลมตีเป็นกลองได้ค่ะ น้องโฟกัส แทมบูรีนแบบครึ่งวงเคาะแล้วเสียงกรุ๊งกริ๊ง ๆ ใส ๆ น้องแทรกเตอร์ แทมบูรีนทำมาจากไม้,พลาสติกและโลหะครับ ครู สรุปได้ว่าแทมบูรีนที่ทำมาจากขอบพลาสติกมีสีสวยน้ำหนักเบาและเสียงเพราะ ๓. เด็ก ๆ สังเกตลักษณะและวัสดุของแทมบูรีนแต่ละแบบและบันทึกผล เด็ก ๆ สังเกตแทมบูรีน พร้อมอธิบายให้เพื่อนฟัง
๗ เด็กช่วยกันบอกวัสดุที่นำมาทำแทมบูรีน
๘ ขั้นที่ ๔ สังเกตและบรรยาย เด็กและครูร่วมกันสังเกตและสนทนา โดยครูใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กเล่าผลการสังเกตว่า"แทมบูรีนมีรูปร่าง ลักษณะและเสียงอย่างไร" แทมบูรีนแบบที่ ๑ ขอบไม้ ตะวัน : แทมบูรีนขอบไม้หนักเสียงกรุ๊งกริ่งๆเแหลมๆ ใบข้าว : มีเสียงดังก่องๆก่องๆค่ะ น้องแอลมอล : เสียงดังเหมือนกระดิ่งแมวค่ะ โฟกัส : แทบบูรีนเป็นรูปวงกลมใหญ่ เฟร์ญ่า : เสียงดังกริ่งๆ แทมบูรีนแบบที่ ๒ ขอบพลาสติกหน้ากลอง
๙ น้องแตงโม : แทมบูรีนขอบพลาสติกน้ำหนักเบาเสียงใสค่ะ น้องวุ้นเส้น : เป็นวงกลมเล็กสีสวยค่ะ น้องแทรกเตอร์: ขอบเป็นสีเขียวเสียงกุงกริ๊งๆเพราะดีครับ น้องโฟกัส : แทมบูรีนเสียงดังคล้ายๆกันค่ะ แทมบูรีนแบบที่ ๓ ขอบพลาสติกครึ่งวงกลม ๒ ชั้น น้องตะวัน : แทมบูรีนแบบครึ่งวงกลมเคาะแล้วเสียงดังดีกว่าเพื่อนครับ น้องใบข้าว : เป็นครึ่งวงกลมสีแดงสวยค่ะ น้องกฤต : ขอบพลาสติกเป็นสีแดงเคาะเสียงกุงกริ๊ง ๆ เพราะดีครับ น้องโฟกัส : แทมบูรีนเสียงดังติ่งลิ่งๆเพราะค่ะ น้องเมญ่า : เสียงกริ๊งกริ่ง ๆ น้องเฟร์ญ่า : เสียงฉิ่ง ๆ ค่ะ ขั้นที่ ๕ บันทึกผล เด็กแต่ละคนบันทึกผลตามวิธีที่ออกแบบร่วมกันไว้โดยการวาดรูปภาพตามที่ตนเองสังเกตเห็น แล้วนำมาเล่าให้ เพื่อนและครูฟังหน้าชั้นเรียน
๑๐ ๑. เด็ก ๆ สังเกตรูปร่างลักษณะของแทมบูรีน ดังนี้ ลำดับ แทมบูรีน รูปร่างลักษณะ ขนาด/สี ๑ แทมบูรีนขอบไม้แผ่นโลหะ น้องใบข้าว :เป็นวงกลม เหมือนล้อรถ มีแผ่นโลหะ ตรงกลาง เป็นขอบไม้ หนัก อันใหญ่ สีเหลืองอ่อน ออกน้ำตาล ๒ แทมบูรีนขอบพลาสติกหน้ากลอง น้องวุ้นเส้น :เป็นวงกลม มี แผ่นกระกระดาษหุ้ม ด้านบน น้ำหนักเบาน่ารัก อันเล็ก สีเขียว ๓ แทมบูรีนขอบพลาสติกครึ่งวงกลม ๒ ชั้น น้องตะวัน:เป็นครึ่งวงกลม ๒ ชั้น อันใหญ่ แดง
๑๑ การสังเกตลักษณะเสียงของแทมบูรีนจากการเคาะ ลำดับ แทมบูรีนขอบไม้แบบที่ ๑ ลักษณะเสียง ๑ น้องใบข้าวทดลองเคาะ เสียงดังก่อง ๆ ก่อง ๆ ๒ น้องแอลมอลทดลองเคาะ เสียงดังกริ่งริ่ง ๆ กริ่งริ่งใหญ่ๆ ค่ะ ๓ น้องตะวันทดลองเคาะ เสียงดังติ่งลิ่ง ๆ ติ่งลิ่ง ๆ ครับ
๑๒ ลำดับ แทมบูรีนขอบพลาสติกหน้ากลองแบบที่ ๒ ลักษณะเสียง ๑ น้องแอลมอลทดลองเคาะ เสียงดังกรุ๊งกริ่งๆเหมือนกระดิ่งแมว ๒ น้องแตงโมทดลองเคาะ เสียงดังกะรุงกะกริ่งกะรุงกะกริ่งๆ ๓ น้องโฟกัสทดลองเคาะ เสียงดังปิ๊งปิ๊งๆ
๑๓ ลำดับ แทมบูรีนขอบพลาสติกครึ่งวงกลม ๒ ชั้น แบบที่ ๓ ลักษณะเสียง ๑ น้องเมญ่าทดลองเคาะ เสียงเคาะเสียงดังกริ๊งๆ ๒ น้องกฤตทดลองเคาะ เสียงดังกรุ๊งกริ๊งคล้ายกันแต่ไม่ เหมือนกัน ๓ น้องใบข้าวทดลองเคาะ เสียงดัง กิ้งลิ๋งๆดังกว่าทุกอัน
๑๔ วัสดุที่นำมาทำแทมบูรีน นักเรียน วัสดุที่นำมาทำแทมบูรีน น้องกฤต ไม้ครับ น้องใบข้าว โลหะค่ะ น้องโฟกัส ขวดพลาสติก น้องแทรกเตอร์ ลวด น้องตะวัน งั้นเรามาลองเอาฝาขวดต่างๆมาทำแทมบูรีนกันไหม นักเรียน เราไปถามครูกัน แทมบูรีนขอบไม้และแผ่นโลหะ แทมบูรีนขอบพลาสติกหน้ากลองด้านบน แทมบูรีนขอบพลาสติกครึ่งวงกลม ขั้นที่ ๖ สรุปผลและอภิปราย ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการสังเกตลักษณะของแทมบูรีนทั้ง ๓ แบบ สรุปได้ว่า แทมบูรีนทั้ง ๓ แบบ มีรูปร่างลักษณะไม่เหมือนกันและมีการเกิดเสียงที่แตกต่างกัน ๑. แทมบูรีนแบบที่ ๑ ทำจากขอบไม้แผ่นโลหะหนักเคาะแล้วเสียงดังกรุ๊งริ่งๆกรุ๊งริ่งใหญ่ๆ ๒ .แทมบูรีนแบบที่ ๒ ที่ทำมาจากขอบพลาสติกหน้ากลองมีน้ำหนักเบาเคาะแล้วเสียงเพราะดังกรุ๊งกริ๊งๆเสียงใส ๓. แทมบูรีนแบบที่ ๓ ทำมาจากขอบพลาสติกครึ่งวงกลม ๒ ชั้นเคาะแล้วเสียงเพราะดังกรุ๊งกริ๊งๆเสียงใส การสังเกตรูปร่างลักษณะและเสียงของแทมบูรีนแต่ละชนิดได้ดังนี้ น้องเมญ่า : แทมบูรีนเป็นวงกลม เคาะเสียงดังกิ๋งกริ๊งๆ ตะวัน : แทมบูรีนเป็นครึ่งวงกลม เคาะเสียงดังกริ๊งริ่งๆเสียงใส น้องโฟกัส : แทมบูรีนเป็นรูปวงกลม เคาะแล้วเสียงกรุ๊งกริ๊งๆ
๑๕ การสังเกตวัสดุที่นำมาทำแทมบูรีนแต่ละชนิดดังนี้ น้องใบข้าว : โลหะค่ะ แอลมอล : พลาสติกค่ะ น้องกฤต : ไม้ครับ ๑. ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย ๔ ด้าน ๑.๑ พัฒนาการด้านการเรียนรู้ คือ เด็กอยากรู้อยากเห็นจนเกิดการตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบ การตอบ คำถาม การแก้ปัญหาด้วยตนเอง การวาดภาพ การยกตัวอย่างสิ่งของหรือวัสดุที่พบเห็น ๑.๒ พัฒนาด้านภาษา คือ การสื่อสารระหว่างเพื่อนและการสื่อสารระหว่างครูกับผู้เรียน การเขียนเพื่อ บันทึกผลที่ได้จากการสังเกต พัฒนาการด้านสังคม คือ เด็กเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันกับผู้อื่น เกิดกระบวนการ ทำงานกลุ่มเพื่อให้เกิด ความสามัคคี มีความรับผิดชอบต่องานและหน้าที่ของตนเอง การเรียนรู้การมีปฏิสัมพันธ์ ทางสังคม มีความเป็น ผู้นำและผู้ตามที่ดี เกิดการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีความอดทนและมีวินัยในตนเอง ส่งผลให้เด็กเกิด พฤติกรรมทางสังคมที่ดีในอนาคต ๑.๓ พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว คือ เด็กได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งการใช้ กล้ามเนื้อ การใช้แขนและขาซึ่งเกิดจากการหยิบจับอุปกรณ์ การทรงตัวของร่างกาย การเดิน และเกิดการใช้ ประสาทสัมผัสทั้ง ๕ กิจกรรมที่เด็กสร้างสรรค์ให้เดีกวาดภาพแทมบูรีนและการวาดภาพบันทึกผลที่ได้จากการ สังเกตทำให้เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อเล็กในด้านของการประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อมือกับตา ๒.ผลการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ ๒.๑ ทักษะการสังเกต เด็กได้หยิบจับแทมบูรีนของจากของจริง จับสัมผัสเพื่อให้เห็นขนาดที่แตกต่างของแทม บูรีนแต่ละชนิด การสังเกตวัสดุที่นำมาทำแทมบูรีนในส่วนที่แตกต่างกัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลองซึ่งเหมาะกับสิ่งที่ ทดลอง ๒.๒ ทักษะการพยากรณ์และการคาดคะเนคำตอบ เด็กคาดคะเนคำตอบว่าแทมบูรีนแต่ละชนิดมีน้ำหนักและ การเกิดเสียงที่แตกต่างกัน ๒.๓ ทักษะการทดลอง เด็กสามารถออกแบบ กำหนดขั้นตอนการทดลองได้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ เกิดผลที่ต้องการ และปฏิบัติตามขั้นบันทึกผลได้ ๒.๔ ทักษะการจัดทำและสื่อความหมายข้อมูล เด็กสามารถสรุปผลจากสิ่งที่สังเกตและทดลองได้โคยการ ภาพและการนำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียนให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ๒.๕ ทักษะการลงความคิดเห็นจากข้อมูล เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นหรือให้เหตุผลเพิ่มเดิมได้ว่าเป็น เพราะอะไรที่แทมบูรีนแต่ละชนิดมีลักษณะและสียงที่แตกต่างกัน
๑๖ คำถามที่ ๒ จะนำฝาขวดพลาสติกและฝาขวดโลหะมาทำแทมบูรีนได้อย่างไร จุดประสงค์ เพื่อศึกษาวิธีการทำแทมบูรีนจากฝาขวด ขั้นที่ ๑ ตั้งคำถามที่อยากรู้ จากการที่เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องแทมบูรีนเด็กๆ สามารถแยกประเภทแทมบูรีนแต่ละแบบได้ว่าแบบไหน แข็งแรงและเคาะจังหวะเสียงได้เพราะ ตะวัน เราเลือกฝาขวดมาสัก ๒ แบบ ดีไหมมาทดลองดู เพื่อนๆเห็นด้วยไหมครับ แตงโม ใช่ๆเราเลือกมาสัก ๒ แบบ แบบพลาสติกและแบบโลหะดีไหม ครู เรามาเลือกดูว่าเราจะใช้ฝาขวดอะไรกันบ้าง ใบข้าว นำฝาขวดมาทำแทมบูรีนจะเป็นอย่างไร ขั้นที่ ๒ รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ ๑. เด็กและครูสนทนาร่วมกัน โดยที่ครูใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กเล่าประสบการณ์ว่า "เด็กๆ คิดว่าฝาขวด ๒ แบบ แบบไหนมีความแข็งแรงและเสียงเพราะมากกว่ากัน เด็ก ๆ ช่วยกันคาดคะเนคำตอบ ครู ฝาขวดมีหลายขนาดหลายแบบเราจะเลือกฝาขวดอะไรได้บ้าง น้องวุ้นเส้น เอาฝาขวดน้ำดื่มค่ะ น้องเมญ่า เอาฝาขเอาขวดน้ำโค๊กค่ะ น้องเฟร์ญ่า เอาฝาขวดโออิชิคะ น้องแตงโม เอาฝาขวดแบบโลหะค่ะ(น้ำอัดลม) น้องโฟกัส เอาฝาโซดาค่ะ น้องแทรกเตอร์ เอาฝาน้ำส้มครับ ครู จะเอาฝาแบบไหนมาทำแทมบูรีน น้องตะวัน เอาฝาขวดแบบโลหะครับ น้องใบข้าว เอาฝาขวดแบบพลาสติกค่ะ ครู เอาฝาขวดแบบโลหะหรือเอาฝาขวดแบบพลาสติกดี น้องแอลมอล เอาฝาโลหะค่ะ ครู เราจะออกแบบแทมบูรีนอย่างไร นักเรียน แทมบูรีนเป็นวงกลม ใช้ลวดสำหรับร้อยฝาขวดมีที่จับจะได้ไม่เจ็บมือ ครู คาดว่าฝาขวดพลาสติกหรือฝาขวดโลหะจะทำให้แทมบูรีนเสียงเพราะกว่ากัน
๑๗ ๒. เด็กๆคาดว่าฝาขวดโลหะจะทำให้แทมบูรีนเสียงเพราะกว่าฝาขวดพลาสติก ขั้นที่ ๓ ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ เด็กออกแบบแทมบูรีน เด็กๆช่วยกันเก็บฝาขวดมา ๒ แบบ คัดแยกชนิด และนับจำนวน สังเกตบันทึก การคัดแยกฝาขวด การคัดแยกฝาขวดโลหะ
๑๘ การคัดแยกฝาขวดพลาสติก จำนวนฝาขวด ครู : เมื่อเราได้ฝาขวดแล้ว เราจะทำอย่างไรต่อ น้องใบข้าว : ล้างทำความสะอาดค่ะ น้องเมญ่า : ตาดแดดให้แห้ง น้องตะวัน : เจาะรูตรงกลางฝาครับ น้องแตงโม : ร้อยใส่ลวด ครู : เด็กๆ คิดว่าเราจะเอาอะไรมาทำเป็นที่จับแทมบูรีนดีค่ะ น้องกฤต : เอาไม้และเทปกาวครับ น้องแอลมอล : เทปกาวและสายยางค่ะ โฟกัส: เอามาทั้งสองอย่างเลยค่ะ สังเกตและบันผล เด็กล้างทำความสะอาดฝาขวด
๑๙ เด็กเจาะรูฝาขวด เด็กช่วยกันร้อยฝาขวดโลหะเข้ากับลวด เด็กช่วยกันร้อยฝาขวดพลาสติกเข้ากับลวด
๒๐ แทมบูรีนจากฝาขวดพลาสติก แทมบูรีนจากฝาขวดโลหะ เด็กทดลองเคาะแทมบูรีนจากฝาขวดพลาสติก เด็กทดลองเคาะแทมบูรีนจากฝาขวดโลหะ
๒๑ สังเกตจากการทดลองเคาะแทมบูรีนที่ทำจากฝาขวดพลาสติกจำนวน ๓ คน มีน้องแตงโม น้องแทรกเตอร์ น้องวุ้นเส้น น้องแตงโมทดลองเคาะแทมบูรีน น้องวุ้นเส้นทดลองเคาะแทมบูรีน น้องแทรกเตอร์ทดลอลเคาะแทมบูรีน
๒๒ ผลงานของเด็ก เด็กนำเสนอผลงาน ขั้นที่ ๔ สังเกตและบรรยาย ๑. น้องแตงโมเคาะแทมบูรีน น้องวุ้นเส้นเคาะแทมบูรีน น้องแทรกเตอร์เคาะแทมบูรีน ๒.เด็กและครูร่วมกันสนทนา ตั้งคำถามกระตุ้นให้เด็กสังเกตว่าแทมบูรีนจากฝาขวดพลาสติกมีการเกิดเสียง อย่างไร ครู:เด็กๆสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเสียงที่ทำจากแทมบูรีนที่ทำจากพลาสติกไหม
๒๓ แตงโม: มีค่ะเสียงเบาดังไม่ค่อนดี วุ้นเส้น: มีค่ะเคาะแล้วเสียงไม่ใสค่ะ น้องแทรกเตอร์: มีครับเคาะแล้วเสียงแปลกๆครับ ๓.เด็กๆและครูร่วมกันสนทนา ตั้งคำถามกระตุ้นให้เด็กสังเกตว่าเราจะเปลี่ยนเป็นฝาขวดโลหะมาทำแทมบูรีนกันดี ไหม ตะวัน: ดีครับ เมญ่า: ดีค่ะ แอลมอล เห็นด้วยค่ะ
๒๔ แทมบูรีนจากฝาขวดโลหะ เด็กทดลองเคาะแทมบูรีนที่ทำจากฝาขวดโลหะ เด็กนำเสนอผลงาน การทดลองครั้งที่ ๒ สังเกตและบรรยาย ๑. เด็กเคาะแทมบูรีน น้องแอลมอล น้องใบข้าว น้องตะวัน
๒๕ ๒. เด็กและครูร่วมกันสนทนา ตั้งคำถามกระตุ้นให้เด็กสังเกตว่าแทมบูรีนจากฝาขวดโลหะมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไร ครู : เด็กๆ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเสียงแทมบูรีนที่เกิดจากฝาโลหะไหม น้องแตงโม : ไม่ค่ะ เคาะแล้วเสียงแทมบูรีนไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ น้องตะวัน : ไม่ครับ ผมเคาะแล้วเสียงเหมือนของแท้เลยครับ น้องแอลมอล : ไม่ค่ะ หนูเคาะแล้วเสียงใสดีค่ะ สังเกตการทดลองเคาะแทมบูรีนจากฝาขวดโลหะของเด็กจำนวน ๓ คน มีน้องแอลมอล น้องใบข้าว น้องตะวัน น้องแอลมอล น้องใบข้าว น้องตะวัน ขั้นที่ ๕ บันทึกผล ๑.นำฝาขวดมาทำแทมบูรีน นักเรียนสังเกตการเปลี่ยนแปลงการเกิดเสียงของแทมบูรีนและบันทึกผลการทดลอง น้องแอลมอล : แทมบูรีนมีเสียงแตกต่างกันค่ะ น้องใบข้าว : แทมบูรีนมีเสียงคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันค่ะ น้องตะวัน : แทมบูรีนมีเสียงคล้ายกันครับ
๒๖ ๓.เปรียบเทียบลักษะและการเกิดเสียงของฝาขวดทั้ง ๒ ชนิด ลำดับ ลักษณะแทมบูรีน ลักษณะการเกิดเสียงหลัง เคาะคนที่ ๑ ลักษณะการเกิดเสียงหลัง เคาะคนที่ ๒ ๑ ทำจากฝาขวดพลาสติก เสียงดัง กุงกริ่งๆไม่ค่อยเพราะ เสียงดังก่องก่องๆเสียงไม่ใส ๒ ทำจากฝาขวดโลหะ เสียงดังกรุ๊งกริ๊งๆเพราะ เสียงดังกิ๊งลิ่งๆเสียงใส - แทมบูรีนที่ทำจากฝาขวดพลาสติกเคาะแล้วมีลักษณะเสียงเบาเสียงไม่ใส - แทมบูรีนที่ทำจากฝาขวดโลหะเคาะแล้วมีลักษณะเสียงใสและเพราะกว่า ขั้นที่ ๖ สรุปผลและอภิปราย เด็กครูร่วมกันสนทนาถึงแทมบูรีนที่ทำจากฝาขวดพลาสติกและฝาขวดโลหะ ครู: จากการที่เด็กๆ นำฝาขวดพลาสติกและฝาขวดโลหะมาทำแทมบูรีนเห็นการเกิดเสียงกันอย่างไรบ้างคะ น้องแอลมอล : หนูเคาะแทมบูรีนที่ทำจากฝาขวดพลาสติก เมื่อเคาะแล้วเสียงเบาดังไม่ค่อยดีเสียงไม่ใสค่ะ น้องตะวัน: ผมเคาะแทมบูรีนที่ทำจากฝาขวดโลหะ เมื่อเคาะแล้วเสียงดังกรุ๊งกริ๊งๆเสียงใสเพราะครับ ครู : เพื่อนๆ คนอื่น มีความคิดเห็นที่แตกต่างไหมคะ น้องใบข้าว : ไม่มีค่ะ ครู : จากที่เพื่อนพูดมา เด็กๆ จะเห็นได้ว่าแทมบูรีนที่ทำจากโลหะเมื่อเคาะแล้วมีลักษณะเสียงใสเพราะกว่า แทมบูรีนที่ทำจากฝาขวดพลาสติก
๒๗ แทมบูรีนจากฝาขวดพลาสติก แทมบูรีนจากฝาขวดโหะ
๒๘ ๑. ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย ๔ ด้าน ๑.๑ พัฒนาการด้านการเรียนรู้ คือ เด็กอยากรู้อยากเห็นจนเกิดการตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบ การตอบ คำถาม การแก้ปัญหาด้วยตนเอง การวาดภาพ การยกตัวอย่างสิ่งของหรือวัสดุที่พบเห็น ๑.๒ พัฒนาด้านภาษา คือ การสื่อสารระหว่างเพื่อนและการสื่อสารระหว่างครูกับผู้เรียน การเขียนเพื่อ บันทึกผลที่ได้จากการสังเกต พัฒนาการด้านสังคม คือ เด็กเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันกับผู้อื่น เกิดกระบวนการ ทำงานกลุ่มเพื่อให้เกิด ความสามัคคี มีความรับผิดชอบต่องานและหน้าที่ของตนเอง การเรียนรู้การมีปฏิสัมพันธ์ ทางสังคม มีความเป็น ผู้นำและผู้ตามที่ดี เกิดการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีความอดทนและมีวินัยในตนเอง ส่งผลให้เด็กเกิด พฤติกรรมทางสังคมที่ดีในอนาคต ๑.๓ พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว คือ เด็กได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งการใช้ กล้ามเนื้อ การใช้แขนและขาซึ่งเกิดจากการหยิบจับอุปกรณ์ การทรงตัวของร่างกาย การเดิน และเกิดการใช้ ประสาทสัมผัสทั้ง ๕ กิจกรรมที่เด็กสร้างสรรค์ให้เดีกวาดภาพแทมบูรีนและการวาดภาพบันทึกผลที่ได้จากการ สังเกตทำให้เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อเล็กในด้านของการประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อมือกับตา ๒.ผลการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ ๒.๑ ทักษะการสังเกต เด็กได้หยิบจับแทมบูรีนของจากของจริง จับสัมผัสเพื่อให้เห็นขนาดที่แตกต่างของแทม บูรีนแต่ละชนิด การสังเกตวัสดุที่นำมาทำแทมบูรีนในส่วนที่แตกต่างกัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลองซึ่งเหมาะกับสิ่งที่ ทดลอง ๒.๒ ทักษะการพยากรณ์และการคาดคะเนคำตอบ เด็กคาดคะเนคำตอบว่าแทมบูรีนแต่ละชนิดมีน้ำหนักและ การเกิดเสียงที่แตกต่างกัน ๒.๓ ทักษะการทดลอง เด็กสามารถออกแบบ กำหนดขั้นตอนการทดลองได้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ เกิดผลที่ต้องการ และปฏิบัติตามขั้นบันทึกผลได้ ๒.๔ ทักษะการจัดทำและสื่อความหมายข้อมูล เด็กสามารถสรุปผลจากสิ่งที่สังเกตและทดลองได้โคยการ ภาพและการนำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียนให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ๒.๕ ทักษะการลงความคิดเห็นจากข้อมูล เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นหรือให้เหตุผลเพิ่มเดิมได้ว่าเป็น เพราะอะไรที่แทมบูรีนแต่ละชนิดมีลักษณะและสียงที่แตกต่างกัน
๒๙ ภาคผนวก
๓๐