The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัยเรื่อง การพัฒนาการอ่านของ
นักศึกษา กศน. ระดับ ม.ต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

วิจัยเรื่อง การพัฒนาการอ่านของ นักศึกษา กศน. ระดับ ม.ต้น

วิจัยเรื่อง การพัฒนาการอ่านของ
นักศึกษา กศน. ระดับ ม.ต้น

ชื่องานวิจัย เรื่อง การพัฒนาการอ่านของนักศึกษา กศน. ระดับ ม.ต้น ชื่อผู้วิจัย ครู ทิพย์วารี เจาะจง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ความสำคัญของปัญหา การจัดการเรียนการสอนมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาให้นักเรียนเกิดทักษะทั้ง 4 ด้าน คือ การอ่าน การฟัง การพูด การเขียน โดยเฉพาะทักษะการอ่าน เป็นทักษะที่มีความสำคัญเพื่อใช้ในการสื่อสาร และการเรียนรู้ในระดับสูงขึ้นต่อไป แต่จากการทดสอบของนักศึกษา จำนวน 29 คน จากนักเรียน 80 คน พบว่า นักเรียนมีพื้นฐานการอ่านสะกดคำที่ใช้ทั่วไปและคำศัพท์แต่แตกต่างกันมาก และอ่าน สะกดคำผิดเป็นส่วนมาก จึงควรหาทางพัฒนาให้นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำที่ใช้ทั่วไปและคำศัพท์ให้ ถูกต้อง ข้าพเจ้าในฐานะครูผู้สอนจึงสนใจที่จะสร้างแบบฝึกการอ่านสะกดคำขึ้นเพื่อนำไปใช้พัฒนา ความสามารถในการอ่านสะกดคำของนักเรียน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านสะกดคำก่อนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกการ อ่านคำยากในบทเรียน 2. เพื่อให้นักศึกษาอ่านออกเสียงได้ถูกต้องและชัดเจน 3. เพื่อฝึกทักษะกระบวนการอ่านออกเสียงจากใบงาน 4. เพื่อศึกษาข้อมูลทักษะกระบวนการอ่าน ตัวแปรที่ศึกษา ในการวิจัยครั้งนี้ ตัวแปรที่ศึกษาประกอบด้วย 1. ตัวแปรอิสระ ได้แก่ ให้นักศึกษาฝึกอ่านจากชุดแบบฝึกอ่าน 2. ตัวแปรตาม ได้แก่ ความสามารถในการอ่านสะกดคำ กรอบแนวคิดในการวิจัย แบบฝึกการอ่านสะกดคำ หมายถึง แบบฝึกการอ่านสะกดคำที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นมา ให้เป็น ระบบซึ่งประกอบด้วย คำศัพท์ที่รวบรวมจากคำศัพท์ที่นักเรียนมักอ่านสะกดคำผิดในแบบฝึกหัด ภาษาไทย ความสามารถในการอ่านสะกดคำ หมายถึง คะแนนที่ได้จากการอ่านแบบทดสอบ ก่อนเรียน และหลังเรียนที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้น


ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียนมีความสามารถในการอ่านสะกดคำดีขึ้น 2. นักเรียนอ่านคำในภาษาไทยได้ถูกต้องมากขึ้น 3. นักเรียนมีแนวทางเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการอ่านภาษาไทยในเรื่องอื่น ๆ ได้ ขอบเขตของการวิจัย 1. นักศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 29 คน 2. แบบทดสอบคำยาก วิธีดำเนินการวิจัย 1. ขั้นตอนการสร้างแบบฝึกการอ่านสะกดคำยากในบทเรียน ผู้วิจัยดำเนินการดังนี้ 1.1 ศึกษาวิเคราะห์ปัญหาการเรียนรู้ของนักศึกษา 1.2 วิเคราะห์เนื้อหาและรวบรวมคำที่นักศึกษาอ่านผิด 1.3 กำหนดโครงร่างของแบบฝึกหัดการอ่านคำยากในบทเรียน 1.4 อ่านมาตราตัวสะกดต่าง ๆ ของแบบฝึกอ่านตามโครงร่าง 1.5 ให้เพื่อนครูในหมวดภาษาไทยตรวจสอบคุณภาพของแบบฝึก 1.6 ปรับปรุงแบบฝึกและจัดทำแบบฝึก 2. การใช้แบบฝึกการอ่านสะกดคำ ผู้วิจัยดำเนินการดังนี้ 2.1 ประชากรในการวิจัย ได้แก่ นักศึกษา จำนวน 29 คน ปีการศึกษา 2565 มีปัญหา การอ่านสะกดคำจากคำยากในบทเรียนไม่ถูกต้อง โดยศึกษากับประชากรทั้งหมด 2.2 เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านคำยากใน บทเรียนจำนวนใบงานละ 15 คำ 2.3 การใช้แบบฝึกอ่าน ผู้วิจัยใช้แบบฝึกอ่านสะกดคำ ในช่วงเวลาเช้าก่อนเข้าเรียนและ พักเที่ยง ในปีการศึกษา 2565 2.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล โดยให้นักศึกษาอ่านแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน จากแบบ ฝึกการอ่านคำยากในบทเรียน 2.5 การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าเฉลี่ยของคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน (X1 ) การ ทดสอบหลังเรียน(X2 ) คะแนนความก้าวหน้า (X1 - X2 ) ผลต่างของคะแนนคือ ค่า D เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แบบฝึกอ่านสะกดคำ 2. เครื่องมือแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน


ขั้นตอนการดำเนินการ 1. นำแบบสะกดคำมาตราตัวสะกด 9 แม่ให้ผู้เรียนเรียนเพิ่มเติมนอกเหนือจากการพบกลุ่มสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 2 .ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนแบบฝึกการเขียนตามคำบอกในบทเรียน วิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยทำการรวบรวมข้อมูลของนักศึกษาจำนวน 29 คน จากการอ่านแบบฝึกอ่านสะกดคำ 1. การทดสอบก่อนเรียน นักเรียนคัดเลือกคำศัพท์ที่สะกดด้วยมาตราตัวสะกดต่างๆจาก หนังสือพิมพ์ แล้วนำคำศัพท์มาติดลงในใบงานที่ครูกำหนดให้ 9 มาตราตำสะกด ผลการเขียน สะกดคำนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 จำนวน 7 มาตราตัวสะกด มาตราแม่ ก กา และแม่ กม ไม่ ผ่านเกณฑ์ รวมเฉลี่ยทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 78.66 2. การทดสอบหลังเรียน ใบงานที่ 1 มาตราตัวสะกดแม่ ก กา นักเรียนเขียนคำจาก ภาพที่กำหนดให้ ผลการเขียนสะกดคำผ่านเกณฑ์ร้อยละ 83.33 3. ใบงานที่ 2 มาตราตัวสะกด แม่ กง เติมคำที่มีตัวสะกด 8 ข้อ ผลการเขียนสะกด คำผ่านเกณฑ์ร้อยละ 100 4. ใบงานที่ 3 มาตราตัวสะกดแม่ กน เติมตัวสะกด เขียนคำ และแต่งประโยค จำนวน 26 ข้อ ผลการเขียนสะกดคำผ่านเกณฑ์ร้อยละ 69.25 5. ใบงานที่ 4 มาตราตัวสะกด แม่ กม เติมคำที่มีตัวสะกด จำนวน 10 ข้อ ผลการ เขียนสะกดคำผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 6. ใบงานที่ 5 มาตราตัวสะกด แม่ เกย หาคำที่มี ย สะกด และแต่งประโยค เติมคำ ในประโยค จำนวน 15 ข้อ ผลการเขียนสะกดคำผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 7. ใบงานที่ 6 มาตราตัวสะกด แม่ เกอว ระบายสีคำที่มี ว สะกด จำนวน 8 ข้อผล การเขียนสะกดคำผ่านเกณฑ์ร้อยละ 62 8.ใบงานที่ 7 มาตราตัวสะกด แม่ กก ระบายสีคำที่มีตัวสะกด จำนวน 21 ข้อ ผลการเขียนสะกดคำผ่านเเกณฑ์ร้อยละ 23.80 9.ใบงานที่ 8 มาตราตัวสะกด แม่ กด เติมคำที่มีตัวสะกด จำนวน 12 ข้อ ผล การเขียนสะกดคำผ่านเกณฑ์ร้อยละ 25 10.ใบงานที่ 9 มาตราตัวสะกด แม่ กบ เติมคำที่มีตัวสะกด จำนวน 10 ข้อ ผลการ เขียนสะกดคำผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 11. ผลจากการเขียนสะกดคำจากใบงานทั้ง 9 มาตราตัวสะกด นักเรียนยังเขียนสะกดคำ ไม่ผ่านร้อยละ 60 จำนวน 2 มาตราตัวสะกด คือ แม่ กก แม่กด รวมเฉลี่ยทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 64.87


สรุปผลการวิจัย จากการศึกษาการวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อฝึกให้นักเรียนเขียน สะกดคำจากมาตราตัวสะกดต่างๆ ได้ถูกต้องแม่นยำ ผู้วิจัยได้จัดทำแบบทดสอบก่อนเรียน และหลัง เรียน เพื่อพัฒนาการเขียนสะกดคำของนักเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วได้ สรุปผลแล้วจึงนำมาจัดทำเป็นรูปเล่ม เพื่อเป็นข้อมูลในการวิจัยในครั้งต่อไป


Click to View FlipBook Version