คาศพั ท์ ความหมาย
คาศพั ท์ ความหมาย
ไตรภพ
ธาตรี
บทบงสุ์
พระสรุ สั วดี
เพลา
ภกั ษ์
๑) การเลน่ เสียงพยญั ชนะ
“…เปน็ โฉมนางเทพอัปสร เฉลิมศรี
จรลี ไปอยูท่ ี่นนทกจะเดินมา
๒) การเล่นเสยี งสระ
“...เมอ่ื นั้น เท สุ ฤทธิ์ทกุ ทิศา
สุ คน วทิ ยา ต่างมาเฝ้าองคพ์ ระศลุ ี
๑) การซา้ คา พศิ พกั ตรผ์ อ่ งเพียงแขไข
“...เหลือบเหน็ สตรวี ิไลลักษณ์ นัยนเ์ นตร กร
โอษฐง์ ามแกม้ งามจุไร องคย์ ิง่ เทพอปั สร
ถนั กรรณงามขนง เอว อ่อนท้งั กายา...”
จรติ กิริยา งอน
๒) การหลากคา
“…เมื่อน้นั พระ เรืองศรี
ไดฟ้ ังนนทกพาที ภูมีนงิ่ นกึ ตรกึ ไป...”
๑) อุปมา
“…ตอ้ งสุบรรณเทวานาคี พิษอสุนีไม่ทนได้
ล้มฟาดกลาดเกลอื่ นลงทนั ใด บรรลยั ไมท่ ันพริบตา...”
๑) อปุ ลกั ษณ์ นนทกผู้ใจแกลว้ หาญ
“…บัดน้ัน ซึ่งพระองค์จะผลาญชวี ี
ได้ฟงั คาจง่ึ ตอบพจมาน ไม่บดั สี
เหตใุ ดมิทาซึง่ หนา้ จะชีพ้ ระองค์ให้บรรลัย
ฤๅวา่ กลัวน้วิ เพชรน้ี
๑) การใชถ้ อ้ ยคาแสดงอารมณ์ ดเู งาในน้าแลว้ รอ้ งไห้
จนผมโกร๋นโลน้ เกลย้ี งถึงเพียงหู ตาแดงดั่งแสงไฟฟา้
แนน่ ใจ มติ ายจะไดม้ าเหน็ หน้า
เฝ้าพระอิศราธิบดี ฯ
เป็นชาย มาหมิน่ ชาย
คดิ แลว้ ก็รีบเดินมา
๑) เสาวรจนี พศิ พักตร์ผ่องเพยี งแขไข
เหลือบเห็นสตรีวิไลลักษณ์ งามนัยนเ์ นตรงามกร
งามองค์ยง่ิ เทพอปั สร
งามโอษฐ์งามแกม้ งามจุไร งามเอวงามอ่อนท้ังกายา
งามถันงามกรรณงามขนง
งามจรติ กริ ยิ างามงอน
๒) นารปี ราโมทย์
สุดเอยสุดสวาท โฉมประหลาดลา้ เทพอปั สร
ท้ังวาจาจรติ กง็ ามงอน ควรเป็นนางฟอ้ นวไิ ลลักษณ์
อันซ่งึ ธรุ ะของเจา้ หนกั เบาจงแจง้ ใหป้ ระจกั ษ์
ถา้ วาสนาเราเคยบารุงรัก กจ็ ะเป็นภักดิผ์ ลสืบไป
ตัวพม่ี ิไดล้ วนลาม จะถอื ความสิง่ น้ีนี่ไม่ได้
สาวสรรคข์ วญั ฟา้ ยาใจ พไี่ ร้คูจ่ ะพ่งึ แต่ไมตรี
๓) พโิ รธวาทงั นนทกน้าใจแกล้วกลา้
บดั นนั้
สุดคิดทีเ่ ราจะอดกลัน้
จนหัวไม่มีผมติด ขบฟันแล้วชี้นิ้วไป
วันน้จี ะไดเ้ ห็นกัน
๔) สัลลาปงั คพสิ ยั
ผ้ใู ดทาชอบต่อเบอ้ื งบาท กป็ ระสาททง้ั พรแลยศศักด์ิ
ตวั ขา้ นีม้ ชี อบนกั ลา้ งเท้าสรุ ารักษ์ถึงโกฏิปี
๑) ความแตกตา่ งระหว่างชนชน้ั ถึงนนทกน้าใจกลา้ หาญ
“...มาจะกลา่ วบทไป ประทานให้
สุราฤทธิ์ตบหวั แลว้ ลบู หน้า
ตั้งแต่พระสยมภวู ญาณ บา้ งถอนเสน้ เกศาวนุ่ ไป
อยู่บนั ไดไกรลาสเปน็ นจิ ดเู งาในน้าแล้วร้องไห้
บ้างให้ตกั น้าล้างบาทา ตาแดงด่ังแสงไฟฟ้า
จนผมโกรน๋ โลน้ เกลี้ยงถงึ เพยี งหู มิตายก็จะได้มาเหน็ หน้า
ฮึดฮดั ขดั แค้นแน่นใจ เฝา้ พระอศิ ราธบิ ด.ี ..”
เปน็ ชายดดู ูม๋ าหมิน่ ชาย
คดิ แลว้ กร็ ีบเดนิ มา
๒) ค่านิยมเกีย่ วกบั ความดี (ทาไดด้ ี ทาช่ัวไดช้ ่วั )
เมือ่ นนั้ พระสยมภวู ญาณเรอื งศรี
ไดฟ้ งั นนทกพาที ภูมนี ง่ิ นึกตรึกไป
คิดแล้วก็ประสิทธพิ์ รชยั จงไดส้ าเร็จมโนรถ ฯ
๓) การกลับชาตมิ าเกิด
“…เมอ่ื น้ัน พระนารายณ์ทรงสวัสดิร์ ศั มี
ได้ฟงั จง่ึ ตอบวาที กนู ี้แปลงเป็นสตรีมา
เพราะมงึ จะถึงแก่ความตาย ฉบิ หายด้วยหลงเสน่หา
ใชว่ า่ จะกลวั ฤทธา ศักดานิ้วเพชรน้ันเม่อื ไร
ชาตนิ ี้มงึ มแี ต่สองหตั ถ์ จงไป
ใหส้ บิ เศียรสิบพักตร์เกรียงไกร เหาะเหินเดนิ ได้ในอมั พร
มีมอื ยส่ี ิบซ้ายขวา ถือคทาอาวธุ ธนูศร
กจู ะเป็นมนษุ ย์แต่สองกร ตามไปราญรอนชวี ี
ให้สน้ิ วงศ์มงึ อันศกั ดา ประจักษ์แกเ่ ทวาทุกราศี
วา่ แล้วกวัดแกว่งพระแสงตรี ภูมตี ดั เศียรกระเดน็ ไป…”
ครุฑ คนธรรพ์ นาค