The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ของ
ธาราชัย ห้วยดอกหอม
เอกสารประกอบการสัมภาษณ์
เพื่อเข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา
(ภาคพิเศษ) หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
ประจำปีการศึกษา 2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ธาราชัย ห้วยดอกหอม, 2023-07-12 12:36:00

โครงร่างการวิจัย - การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2

ของ
ธาราชัย ห้วยดอกหอม
เอกสารประกอบการสัมภาษณ์
เพื่อเข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา
(ภาคพิเศษ) หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
ประจำปีการศึกษา 2566

โครงร่างการวิจัย การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครพนม เขต 2 ของ ธาราชัย ห้วยดอกหอม เสนอต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาหลักสูตร ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร


โครงร่างการวิจัย การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครพนม เขต 2 ของ ธาราชัย ห้วยดอกหอม เสนอต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาหลักสูตร ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร


แบบเสนอโครงร่างการวิจัยโดยสรุป (Concept paper) 1. ชื่อเรื่องวิจัย การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครพนม เขต 2 DEVELOPMENT OF A SUPPLEMENTARY READING EXERCISE ON BASIC VOCABULARY GRADE 1 OF THAI LANGUAGE LEARNING STRAND IN BAN NAKHA KHAMPHOK SCHOOL UNDER THE OFFICE OF NAKHONPHANOM PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA 2 2. ผู้เข้าสอบสัมภาษณ์ ชื่อ-สกุล : นายธาราชัย ห้วยดอกหอม วุฒิการศึกษา : ปริญญาตรี (ค.บ.) สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะครุศาสตร์ สถาบัน : มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ประวัติการทำงาน : 1 พฤศจิกายน 2565 - ปัจจุบัน ข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม


2 3. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาการวิจัย ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็น ถึงความเป็นเอกลักษณ์ ความมั่นคง ความสามัคคี ตลอดจนความมีวัฒนธรรม ดังนั้น ภาษาจึงนับว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่ายิ่ง ควรค่าแก่การธำรงรักษาไว้ ด้วยการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ถ่ายทอดให้แก่เยาวชนด้วยการให้การศึกษา ภาษาไทย จึงจะดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง (บรรหาร บุญจำเนียร, 2547, หน้า 1) ด้วยเหตุนี้หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จึงให้อัตราเวลาเรียนวิชาภาษาไทย ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงร้อยละ 20 ของจำนวนเวลาเรียนทั้งหมด และมุ่งเน้น ให้นักเรียนมีพัฒนาการทางภาษา ทั้งในด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำรงชีวิต อยู่ร่วมกันในสังคมไทยได้อย่างมีความสุข (วรรณี โสมประยูร, 2542, คำนำ) ทักษะการอ่านเป็นทักษะทางภาษาที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต ของมนุษย์เพราะการดำรงชีวิตประจำวันของคนเรา การอ่านเป็นการสื่อความหมายถึงกัน ได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะการอ่าน กล่าวคือ ต้องอ่านได้ถูกต้อง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยความสำคัญดังกล่าว หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งเป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี มีปัญญา มีความเป็นไทย มีศักยภาพ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าว จะต้องให้นักเรียนได้ฝึกทักษะต่าง ๆ อย่างสมดุลกันเป็นไปตามธรรมชาติ โดยความสามารถของนักเรียน ทั้งการดู การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ต้องสัมพันธ์กันโดยใช้กระบวนการคิดเป็นตัวเชื่อมโยง ไม่เน้นการอ่านออกเขียนได้เพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร กับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ภาษาแก้ปัญหาในการดำรงชีวิต และแก้ปัญหาสังคม เน้นการสอนภาษาในฐานะของเครื่องมือการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนได้แสวงหาความรู้ ด้วยตนเอง สามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง ดังนั้น ครูผู้สอนต้องศึกษา วิเคราะห์จุดหมายหลักสูตรและมาตรฐานการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อวางแผนจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยบทบาทของครูเป็นผู้สนับสนุนการเรียนรู้ เสริมประสบการณ์การเรียนรู้ แก่นักเรียน เลือกรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย และเหมาะสม กับนักเรียน คิดค้นเทคนิคกลวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้


3 หลายรูปแบบโดยคำนึงถึงสภาพและลักษณะของนักเรียน เน้นให้นักเรียนฝึกปฏิบัติ และเรียนรู้อย่างมีความสุข เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าวจะต้องให้นักเรียนได้ฝึกทักษะต่าง ๆ อย่างสมดุลกันเป็นไปตามธรรมชาติและความสามารถของนักเรียน (ไพวรรณ ชาติผา, 2558, หน้า 135) จากการรายงานการทดสอบเพื่อประเมินความสามารถในการอ่าน (Reading Test : RT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก ปีการศึกษา 2565 พบว่า นักเรียนได้คะแนนการอ่านออกเสียงเฉลี่ยร้อยละ 51.00 ได้คะแนนการอ่านรู้เรื่อง เฉลี่ยร้อยละ 64.50 ได้คะแนนรวม 2 ด้านเฉลี่ยร้อยละ 57.75 อยู่ในระดับที่ต่ำ จากคะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่ จังหวัด ศึกษาธิการภาค สังกัด และประเทศ ซึ่งจากผลการประเมินดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียน รู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก ในปีการศึกษาที่ผ่านมาพบว่านักเรียนอ่านสะกดคำไม่คล่อง ได้แก่ การอ่านแจกลูก สระในภาษาไทย คำที่มีรูปวรรณยุกต์และไม่มีรูปวรรณยุกต์ คำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตรา และไม่ตรงตามมาตรา คำที่ประวิสรรชนีย์และคำที่ไม่ประวิสรรชนีย์ อักษรนำ คำควบกล้ำ ฯลฯ ทำให้สื่อความหมายและเขียนไม่ถูกต้อง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเด็กได้รับการฝึกฝน ไม่มากเท่าที่ควร ส่งผลให้นักเรียนขาดทักษะในการอ่าน และอีกสาเหตุหนึ่ง คือ ครูผู้สอน ใช้หนังสือเรียนเป็นหลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการจัดหาสื่อการเรียนรู้ ที่ไม่หลากหลาย ทำให้นักเรียนขาดความกระตือรือร้นในการเรียน ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของผู้เรียนอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ จากสภาพปัญหาและสาเหตุดังกล่าว ผู้วิจัยจึงเห็นความสำคัญและความจำเป็น ในการฝึกทักษะการอ่าน โดยผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการ แก้ปัญหาด้านการอ่าน เพื่อนำมาใช้พัฒนาการเรียนรู้แก่ผู้เรียน จึงมีความสนใจที่จะศึกษา เรื่อง การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อเป็นการวางพื้นฐานในการพัฒนานำไปสู่ทักษะการอ่าน ในระดับที่สูงขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ และนำไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวันต่อไป


4 4. จุดมุ่งหมายของการวิจัย ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดความมุ่งหมายของการวิจัย ไว้ดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านทักษะการอ่านของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 5. ประโยชน์ของการวิจัย 1. ได้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ที่มีประสิทธิภาพและเป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษาที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ในระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพ 2. เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น ๆ ในการใช้และพัฒนานวัตกรรมแบบฝึกเสริมทักษะ เพื่อพัฒนาผู้เรียน และพัฒนาวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูงต่อไป 6. ขอบเขตของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดขอบเขตของการวิจัย ไว้ดังนี้ 1. ขอบเขตด้านเนื้อหา เนื้อหาที่นำมาสร้างแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ประกอบด้วยชุดแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน จำนวน 10 ชุด จัดการเรียนการสอนชุดละ 2 ชั่วโมง ดังนี้ 1.1 ชุดที่ 1 เรื่อง สระอา สระอี สระอู 1.2 ชุดที่ 2 เรื่อง สระเอ สระแอ


5 1.3 ชุดที่ 3 เรื่อง สระโอ สระไอ สระใอ มาตราแม่ ก กา 1.4 ชุดที่ 4 เรื่อง สระอือ วรรณยุกต์ไม้เอก ไม้โท ตัวสะกดแม่กง แม่กน 1.5 ชุดที่ 5 เรื่อง สระเอีย สระอัว วรรณยุกต์ไม้ตรี ไม้จัตวา 1.6 ชุดที่ 6 เรื่อง สระอะ สระอิ สระอึ สระอุวรรณยุกต์ตัวสะกด แม่กม แม่เกย แม่เกอว 1.7 ชุดที่ 7 เรื่อง สระอำ สระเอา สระเอะ สระแอะ ผันวรรณยุกต์ อักษรกลาง 1.8 ชุดที่ 8 เรื่อง สระโอะ สระเอาะ สระออ ผันวรรณยุกต์อักษรสูง ตัวสะกดแม่กก แม่กด แม่กบ 1.9 ชุดที่ 9 เรื่อง สระเออะ สระเออ สระเอือ ผันวรรณยุกต์อักษรต่ำ 1.10 ชุดที่ 10 เรื่อง แบบฝึกอ่านทบทวน 2. ประชากร และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย 2.1 ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษา ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 จำนวน 9 คน 2.2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษา ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 จำนวน 9 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 3. ตัวแปรที่ศึกษา 3.1 ตัวแปรอิสระ คือ คือ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 3.2 ตัวแปรตาม 3.2.1 ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3.2.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย


6 2.2.3 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 7. กรอบแนวคิดการวิจัย ตัวแปรอิสระ (Independent Variable) ภาพประกอบ 1 กรอบแนวคิดของการวิจัย การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 10 ชุด ประกอบด้วย 1.1 ชุดที่ 1 เรื่อง สระอา สระอี สระอู 1.2 ชุดที่ 2 เรื่อง สระเอ สระแอ 1.3 ชุดที่ 3 เรื่อง สระโอ สระไอ สระใอ มาตราแม่ ก กา 1.4 ชุดที่ 4 เรื่อง สระอือ วรรณยุกต์ไม้เอก ไม้โท ตัวสะกดแม่กง แม่กน 1.5 ชุดที่ 5 เรื่อง สระเอีย สระอัว วรรณยุกต์ ไม้ตรี ไม้จัตวา 1.6 ชุดที่ 6 เรื่อง สระอะ สระอิ สระอึ สระอุ วรรณยุกต์ ตัวสะกดแม่กม แม่เกย แม่เกอว 1.7 ชุดที่ 7 เรื่อง สระอำ สระเอา สระเอะ สระแอะ ผันวรรณยุกต์อักษรกลาง 1.8 ชุดที่ 8 เรื่อง สระโอะ สระเอาะ สระออ ผันวรรณยุกต์อักษรสูง ตัวสะกดแม่กก แม่กด แม่กบ 1.9 ชุดที่ 9 เรื่อง สระเออะ สระเออ สระเอือ ผันวรรณยุกต์อักษรต่ำ 1.10 ชุดที่ 10 เรื่อง แบบฝึกอ่านทบทวน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประสิทธิภาพของแบบฝึก 80/80 ความพึงพอใจของนักเรียน ตัวแปรตาม (Dependent Variable)


บรรณานุกรม


7 บรรณานุกรม จิราพร บุดดีอ้วน. (2564). การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยคของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านหนองบัวงาม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ. วิทยานิพนธ์ ค.ม. สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏ สกลนคร บรรหาร บุญจำเนียร. (2547). การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านคำที่ออกเสียง ไม่ตรงกับรูปวรรณยุกต์ วิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ ค.ม. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. ไพวรรณ ชาติผา. (2558). การพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา โดยใช้แบบฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ ค.ม. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยอีสาน. วรรณี โสมประยูร. (2542). การสอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.


Click to View FlipBook Version