โครงร่างการวิจัย การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครพนม เขต 2 ของ ธาราชัย ห้วยดอกหอม เสนอต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาหลักสูตร ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
โครงร่างการวิจัย การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครพนม เขต 2 ของ ธาราชัย ห้วยดอกหอม เสนอต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาหลักสูตร ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
แบบเสนอโครงร่างการวิจัยโดยสรุป (Concept paper) 1. ชื่อเรื่องวิจัย การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครพนม เขต 2 DEVELOPMENT OF A SUPPLEMENTARY READING EXERCISE ON BASIC VOCABULARY GRADE 1 OF THAI LANGUAGE LEARNING STRAND IN BAN NAKHA KHAMPHOK SCHOOL UNDER THE OFFICE OF NAKHONPHANOM PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA 2 2. ผู้เข้าสอบสัมภาษณ์ ชื่อ-สกุล : นายธาราชัย ห้วยดอกหอม วุฒิการศึกษา : ปริญญาตรี (ค.บ.) สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะครุศาสตร์ สถาบัน : มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ประวัติการทำงาน : 1 พฤศจิกายน 2565 - ปัจจุบัน ข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม
2 3. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาการวิจัย ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็น ถึงความเป็นเอกลักษณ์ ความมั่นคง ความสามัคคี ตลอดจนความมีวัฒนธรรม ดังนั้น ภาษาจึงนับว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่ายิ่ง ควรค่าแก่การธำรงรักษาไว้ ด้วยการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ถ่ายทอดให้แก่เยาวชนด้วยการให้การศึกษา ภาษาไทย จึงจะดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง (บรรหาร บุญจำเนียร, 2547, หน้า 1) ด้วยเหตุนี้หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จึงให้อัตราเวลาเรียนวิชาภาษาไทย ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงร้อยละ 20 ของจำนวนเวลาเรียนทั้งหมด และมุ่งเน้น ให้นักเรียนมีพัฒนาการทางภาษา ทั้งในด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำรงชีวิต อยู่ร่วมกันในสังคมไทยได้อย่างมีความสุข (วรรณี โสมประยูร, 2542, คำนำ) ทักษะการอ่านเป็นทักษะทางภาษาที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต ของมนุษย์เพราะการดำรงชีวิตประจำวันของคนเรา การอ่านเป็นการสื่อความหมายถึงกัน ได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะการอ่าน กล่าวคือ ต้องอ่านได้ถูกต้อง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยความสำคัญดังกล่าว หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งเป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี มีปัญญา มีความเป็นไทย มีศักยภาพ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าว จะต้องให้นักเรียนได้ฝึกทักษะต่าง ๆ อย่างสมดุลกันเป็นไปตามธรรมชาติ โดยความสามารถของนักเรียน ทั้งการดู การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ต้องสัมพันธ์กันโดยใช้กระบวนการคิดเป็นตัวเชื่อมโยง ไม่เน้นการอ่านออกเขียนได้เพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร กับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ภาษาแก้ปัญหาในการดำรงชีวิต และแก้ปัญหาสังคม เน้นการสอนภาษาในฐานะของเครื่องมือการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนได้แสวงหาความรู้ ด้วยตนเอง สามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง ดังนั้น ครูผู้สอนต้องศึกษา วิเคราะห์จุดหมายหลักสูตรและมาตรฐานการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อวางแผนจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยบทบาทของครูเป็นผู้สนับสนุนการเรียนรู้ เสริมประสบการณ์การเรียนรู้ แก่นักเรียน เลือกรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย และเหมาะสม กับนักเรียน คิดค้นเทคนิคกลวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้
3 หลายรูปแบบโดยคำนึงถึงสภาพและลักษณะของนักเรียน เน้นให้นักเรียนฝึกปฏิบัติ และเรียนรู้อย่างมีความสุข เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าวจะต้องให้นักเรียนได้ฝึกทักษะต่าง ๆ อย่างสมดุลกันเป็นไปตามธรรมชาติและความสามารถของนักเรียน (ไพวรรณ ชาติผา, 2558, หน้า 135) จากการรายงานการทดสอบเพื่อประเมินความสามารถในการอ่าน (Reading Test : RT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก ปีการศึกษา 2565 พบว่า นักเรียนได้คะแนนการอ่านออกเสียงเฉลี่ยร้อยละ 51.00 ได้คะแนนการอ่านรู้เรื่อง เฉลี่ยร้อยละ 64.50 ได้คะแนนรวม 2 ด้านเฉลี่ยร้อยละ 57.75 อยู่ในระดับที่ต่ำ จากคะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่ จังหวัด ศึกษาธิการภาค สังกัด และประเทศ ซึ่งจากผลการประเมินดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียน รู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก ในปีการศึกษาที่ผ่านมาพบว่านักเรียนอ่านสะกดคำไม่คล่อง ได้แก่ การอ่านแจกลูก สระในภาษาไทย คำที่มีรูปวรรณยุกต์และไม่มีรูปวรรณยุกต์ คำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตรา และไม่ตรงตามมาตรา คำที่ประวิสรรชนีย์และคำที่ไม่ประวิสรรชนีย์ อักษรนำ คำควบกล้ำ ฯลฯ ทำให้สื่อความหมายและเขียนไม่ถูกต้อง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเด็กได้รับการฝึกฝน ไม่มากเท่าที่ควร ส่งผลให้นักเรียนขาดทักษะในการอ่าน และอีกสาเหตุหนึ่ง คือ ครูผู้สอน ใช้หนังสือเรียนเป็นหลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการจัดหาสื่อการเรียนรู้ ที่ไม่หลากหลาย ทำให้นักเรียนขาดความกระตือรือร้นในการเรียน ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของผู้เรียนอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ จากสภาพปัญหาและสาเหตุดังกล่าว ผู้วิจัยจึงเห็นความสำคัญและความจำเป็น ในการฝึกทักษะการอ่าน โดยผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการ แก้ปัญหาด้านการอ่าน เพื่อนำมาใช้พัฒนาการเรียนรู้แก่ผู้เรียน จึงมีความสนใจที่จะศึกษา เรื่อง การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อเป็นการวางพื้นฐานในการพัฒนานำไปสู่ทักษะการอ่าน ในระดับที่สูงขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ และนำไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวันต่อไป
4 4. จุดมุ่งหมายของการวิจัย ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดความมุ่งหมายของการวิจัย ไว้ดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านทักษะการอ่านของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 5. ประโยชน์ของการวิจัย 1. ได้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ที่มีประสิทธิภาพและเป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษาที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ในระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพ 2. เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น ๆ ในการใช้และพัฒนานวัตกรรมแบบฝึกเสริมทักษะ เพื่อพัฒนาผู้เรียน และพัฒนาวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูงต่อไป 6. ขอบเขตของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดขอบเขตของการวิจัย ไว้ดังนี้ 1. ขอบเขตด้านเนื้อหา เนื้อหาที่นำมาสร้างแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ประกอบด้วยชุดแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน จำนวน 10 ชุด จัดการเรียนการสอนชุดละ 2 ชั่วโมง ดังนี้ 1.1 ชุดที่ 1 เรื่อง สระอา สระอี สระอู 1.2 ชุดที่ 2 เรื่อง สระเอ สระแอ
5 1.3 ชุดที่ 3 เรื่อง สระโอ สระไอ สระใอ มาตราแม่ ก กา 1.4 ชุดที่ 4 เรื่อง สระอือ วรรณยุกต์ไม้เอก ไม้โท ตัวสะกดแม่กง แม่กน 1.5 ชุดที่ 5 เรื่อง สระเอีย สระอัว วรรณยุกต์ไม้ตรี ไม้จัตวา 1.6 ชุดที่ 6 เรื่อง สระอะ สระอิ สระอึ สระอุวรรณยุกต์ตัวสะกด แม่กม แม่เกย แม่เกอว 1.7 ชุดที่ 7 เรื่อง สระอำ สระเอา สระเอะ สระแอะ ผันวรรณยุกต์ อักษรกลาง 1.8 ชุดที่ 8 เรื่อง สระโอะ สระเอาะ สระออ ผันวรรณยุกต์อักษรสูง ตัวสะกดแม่กก แม่กด แม่กบ 1.9 ชุดที่ 9 เรื่อง สระเออะ สระเออ สระเอือ ผันวรรณยุกต์อักษรต่ำ 1.10 ชุดที่ 10 เรื่อง แบบฝึกอ่านทบทวน 2. ประชากร และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย 2.1 ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษา ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 จำนวน 9 คน 2.2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษา ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 จำนวน 9 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 3. ตัวแปรที่ศึกษา 3.1 ตัวแปรอิสระ คือ คือ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านนาข่าคำพอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 3.2 ตัวแปรตาม 3.2.1 ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3.2.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
6 2.2.3 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 7. กรอบแนวคิดการวิจัย ตัวแปรอิสระ (Independent Variable) ภาพประกอบ 1 กรอบแนวคิดของการวิจัย การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่าน เรื่อง คำศัพท์พื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 10 ชุด ประกอบด้วย 1.1 ชุดที่ 1 เรื่อง สระอา สระอี สระอู 1.2 ชุดที่ 2 เรื่อง สระเอ สระแอ 1.3 ชุดที่ 3 เรื่อง สระโอ สระไอ สระใอ มาตราแม่ ก กา 1.4 ชุดที่ 4 เรื่อง สระอือ วรรณยุกต์ไม้เอก ไม้โท ตัวสะกดแม่กง แม่กน 1.5 ชุดที่ 5 เรื่อง สระเอีย สระอัว วรรณยุกต์ ไม้ตรี ไม้จัตวา 1.6 ชุดที่ 6 เรื่อง สระอะ สระอิ สระอึ สระอุ วรรณยุกต์ ตัวสะกดแม่กม แม่เกย แม่เกอว 1.7 ชุดที่ 7 เรื่อง สระอำ สระเอา สระเอะ สระแอะ ผันวรรณยุกต์อักษรกลาง 1.8 ชุดที่ 8 เรื่อง สระโอะ สระเอาะ สระออ ผันวรรณยุกต์อักษรสูง ตัวสะกดแม่กก แม่กด แม่กบ 1.9 ชุดที่ 9 เรื่อง สระเออะ สระเออ สระเอือ ผันวรรณยุกต์อักษรต่ำ 1.10 ชุดที่ 10 เรื่อง แบบฝึกอ่านทบทวน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประสิทธิภาพของแบบฝึก 80/80 ความพึงพอใจของนักเรียน ตัวแปรตาม (Dependent Variable)
บรรณานุกรม
7 บรรณานุกรม จิราพร บุดดีอ้วน. (2564). การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยคของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านหนองบัวงาม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ. วิทยานิพนธ์ ค.ม. สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏ สกลนคร บรรหาร บุญจำเนียร. (2547). การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านคำที่ออกเสียง ไม่ตรงกับรูปวรรณยุกต์ วิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ ค.ม. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. ไพวรรณ ชาติผา. (2558). การพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา โดยใช้แบบฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ ค.ม. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยอีสาน. วรรณี โสมประยูร. (2542). การสอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.