The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ฝากบ้านไว้กับตำรวจ.. ตำรวจไม่ตรวจ ไม่ติดตู้แดง ถือว่าละเมิดทางปกครอง”

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ฝากบ้านไว้กับตำรวจ.. ตำรวจไม่ตรวจ ไม่ติดตู้แดง ถือว่าละเมิดทางปกครอง”

ฝากบ้านไว้กับตำรวจ.. ตำรวจไม่ตรวจ ไม่ติดตู้แดง ถือว่าละเมิดทางปกครอง”

Keywords: ฝากบ้านไว้กับตำรวจ

บทความ “ฝากบ้านไว้กับตำรวจ.. ตำรวจไม่ตรวจ ไม่ติดตู้แดง ถือว่าละเมิด ทางปกครอง” พ.ต.ท.ดร.ปรัชญ์ชา กระมลนิติธรรม ******************************************** วิเคราะห์คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดหมายเลขคดีแดงที่ อ.318/2555 คดีฝากบ้านไว้กับตำรวจ สวัสดีครับท่านนิติกร เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่สนใจเรื่อง คดีปกครองทุก ๆ ท่านโดยเฉพาะ ในส่วนหน่วยงานตำรวจทุก บช. ที่มีโครงการฝากบ้าน ฯ คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว มีผลกระทบอย่างมาก ที่ ตร. จะต้องนำไปปรับ ใช้ แก้ไขจุดอ่อน รวมทั้งวิเคราะห์ประเด็นที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงโครงการฝากบ้าน ฯ เกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น ข้อพิพาทของคดีมีอยู่ว่า นาย ส. ผู้ฟ้องคดี ได้ฝากบ้านไว้ตาม “โครงการฝากบ้านไว้ กับตำรวจ” ในเขต สน.หนองค้างพลู หน่วยงานในสังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เกิด เหตุคนร้ายโจรกรรมทรัพย์สินภายในช่วงระหว่างที่ฝากบ้านไว้ ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่ง ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ ตร. ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นาย สุวัฒิชัย ฯ ผู้ฟ้องคดี เป็นเงิน 55,535 บาทภายใน 30 วันนับแต่คดีถึงที่สุด ผู้เขียนเห็นว่า จาก พรบ.รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ฯ หลักการของการกระทำละเมิดทางปกครองจะต้องเกิดจาก ต้องมีกฎหมาย กำหนดให้อำนาจไว้ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕” ตาม มาตรา 46 (๗) สํานักงานตํารวจแห่งชาติมีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบ เรียบร้อยและอํานาจหนาที่ตามที่กําหนดไว้ในกฎหมาย ประกอบกับ พรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 6 หน้าที่ป้องกันและปราบปราม บริการสาธารณะถือเป็นหน้าที่ที่ บัญญัติไว้อย่างชัดเจน ซึ่งโดยการป้องกันและปราบปรามเป็นหน้าที่โดยทั่วไปที่ไม่มีการ เฉพาะเจาะจงบ้านหลังใด หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่โครงการฝากบ้านเป็นการที่เจ้าหน้าที่ ตำรวจสมัครใจที่จะผูกพันการบริการสาธารณะโดยเฉพาะเจาะจงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดย ชัดเจน และมีกระบวนการ ขั้นตอนการปฏิบัติอย่างชัดเจน ถือได้ว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจสมัคร ใจที่จะผูกพันต่อกลุ่มผู้ฝากบ้านตามโครงการฝากบ้านตามหลักกฎหมายมหาชนแล้ว


สตช.ได้กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติตามโครงการไว้อย่างชัดเจน ถือได้ว่าเป็นหน้าที่ที่ ต้องปฏิบัติ แต่การไม่ ปฏิบัติการหรือละเลยไม่กระทำการตามอำนาจหน้าที่นั้น ๆ จน เกิดผลกระทบการกระทำหรือละเลยไม่กระทำการเป็นการละเมิดต่อบุคคลอื่น คดีนี้เป็น เรื่องฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดทางปกครอง ของ ตร. วิเคราะห์คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โดยแยกตามประเด็นองค์ประกอบ 1) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองค้างพลู ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดหน่วยงานรัฐ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2) ซึ่งมีอำนาจตามที่กฎหมายกำหนด ศาลเห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ใน การรักษาความสงบเรียบร้อย พรบ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 ตาม มาตรา 46 (7) กับ พรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 6 ส่วนโครงการฝากบ้าน ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นมาตรการเชิงป้องกันอาชญากรรม เชิงรุก แสวงหาความร่วมมือจากประชาชน ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ทราบถึงความห่วงใยของ ตร. ต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และมี การกำหนดขั้นตอน วิธีการปฏิบัติหลายประการ ที่สำคัญคือการใช้สายตรวจเพิ่มความ เข้มงวดในการตรวจตราป้องกันเหตุบ้านที่เข้าร่างโครงการ ฯ โดยมีการติดตู้แดง ใส่สมุด ตรวจไว้ที่ประตูหรือรั้วหน้าบ้านสำหรับไว้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการบันทึกลงในสมุดตรวจ จะปรากฏ ระบุ วัน เวลาที่ตรวจ และชื่อผู้ตรวจ ดังนั้น ลักษณะของโครงการปฏิบัติหน้าที่ใน การรักษาความสงบเรียบร้อยตามอำนาจหน้าที่ของตำรวจ จึงเข้าองค์ประกอบตาม ข้อ 2 แล้ว 3) กระทำการหรือละเลยไม่กระทำการตามอำนาจหน้าที่นั้น ๆ ศาลเห็นว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯ ไม่ได้นำตู้แดงไปไว้หน้าบ้านนาย สุวัฒิ ชัย ฯ ผู้ฟ้องคดี แต่ได้นำสมุดตรวจไปสอดไว้ที่ตรงรั้วประตูบ้าน และมีเจ้าหน้าที่ ตร.ไปตรวจ และลงนามในสมุดตรวจดังกล่าววันละ 8-9 ครั้ง แต่ข้อเท็จจริง เนื่องจากบันทึกการตรวจ ระบุการตรวจตั้งแต่วันที่ 16 -21 ต.ค.2546 แต่วันที่ 16 -17 ต.ค.2546 ผู้ฟ้องคดียังไม่ เดินทางไปต่างจังหวัดและไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจแต่อย่างใด แม้ในวันที่เกิดเหตุ คนร้ายเข้าไปโจรกรรมคือวันที่ 21 ต.ค. 46 เจ้าหน้าที่ตำรวจลงสมุดไปตรวจเยี่ยมบ้านนาย สุวัฒิชัย ฯ ผู้ฟ้องคดี ถึง 8 ครั้ง คือช่วงเวลา 02.00 – 23.20 น. แต่ปรากฏว่าในประจำวัน


เกี่ยวกับคดี ของ สน.หนองค้างพลู ระบุว่าเวลา 14.30 น. ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ในบ้าน ของผู้ฟ้องคดี จะเห็นได้ว่า การลงบันทึกของ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่น่าเชื่อถือ และไม่อาจยืนยันว่ามี การไปตรวจบ้านของนาย สุวัฒิชัย ฯ ผู้ฟ้องคดี จริง ประกอบ วิธีปฏิบัติตามโครงการฝาก บ้าน ฯ จะต้องนำตู้แดงใส่สมุดตรวจไปติดไว้หน้าที่หน้าบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ ตร.กลับใช้วิธีสอด สมุดไว้ที่รั้วบ้าน ด้วยเหตุที่ศาลเห็นว่า “ตู้แดง” เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่า บ้านดังกล่าว เป็นบ้านที่มีการตรวจตราอย่างเข้มข้น ย่อมเป็นที่เกรงกลัวของพวกขโมยได้ ดังนั้นจึงถือได้ ว่า การกระทำการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองค้างพลู เป็นการละเลยไม่กระทำการตาม อำนาจหน้าที่นั้น ๆ ตามองค์ประกอบข้อ 3 และผลกระทบการกระทำหรือละเลยไม่กระทำ การเป็นการละเมิดต่อบุคคลอื่นจึงเข้าองค์ประกอบใน ข้อ 4 ผู้เขียนเห็นว่า ประเด็นที่น่าสนใจในคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดนี้คือ ศาลได้ ตั้งข้อสังเกตและวางแนวทางให้ ตร. ไปปรับปรุงวิธีการทำงาน สรุปได้ดังนี้ 1. ประเด็นความพร้อมของโครงการฝากบ้าน ฯ ในช่วงเทศกาลการรับฝากบ้านของ ตร. ไม่มีการจำกัดจำนวนคนที่เข้าร่วมโครงการ ฯ แม้ว่าโครงการฯจะเป็นการบริการ สาธารณะแก่ประชาชน แต่การดำเนินการต้องคำนึงถึงกำลังอัตราเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนภารกิจประจำอื่น ๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย 2. ความสามารถที่จะปฏิบัติตามโครงการให้เกิดผลได้จริง อย่างหวังเพียงการ ประชาสัมพันธ์ 3.การออกแบบแผนการปฏิบัติหน้าที่ควรที่จะให้แต่ละท้องที่เขียนแผนงานในการ ปฏิบัติ ไม่ใช่เป็นการเขียนแผนมาจาก ตร.แล้วสั่งการให้หน่วยงานล่างปฏิบัติ เพราะว่าแต่ละ พื้นที่ ภูมิประเทศ ชุมชน ไม่เหมือนกัน ดังนั้น กองคดีปกครอง สำนักกฎหมายและคดี จึงขอฝากหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ต้องไปปรับแนวทางการปฏิบัติโครงการฝากบ้าน ฯ ตามแนวทางในคำพิพากษาของ ศาลปกครองสูงสุด ต่อไป ***************************


Click to View FlipBook Version