คู่มือการปฏิบัติงานกลุ่มบริหารบุคคล

คมู่ ือการปฏิบตั ิงาน
กล่มุ บรหิ ารบคุ คล

โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๖ จังหวดั ลาพนู
สานกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ
กระทรวงศึกษาธิการ

คู่มือการปฏิบตั ิงานกลุ่มบริหารบคุ คล ก

คานา

การบริหารงานบุคคลโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๖ เป็นภารกิจสาคัญที่มุ่งส่งเสริม
ให้สามารถปฏิบตั ิงานเพอ่ื ตอบสนองภารกจิ ของโรงเรยี น เน้นในการปฏิบัติหน้าที่การให้บริการและการจัด
การศึกษาแก่ นักเรียน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยจัดทาให้สอดคล้องกับโครงสร้างการบริหารงาน
โรงเรยี นตามแนวทางการ กระจายอานาจสู่สถานศึกษา กลุ่มบริหารบุคคลได้ดาเนินงานเพ่ือสนับสนุนการ
พัฒนาบุคคลทางการศึกษา ของโรงเรียนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกท้ังต้องปฏิบัติอยู่ภายใต้
กฎระเบียบที่ทางราชการกาหนดกลุ่มบริหารบุคคลโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๖ จังหวัดลาพูน
จึงได้พิจารณาจัดทาคู่มือการปฏิบัติงานตามมาตรฐานกระบวนการบริหารงบประมาณข้ึน เพ่ือสนับสนุน
การบริหารงานในด้านอื่นๆ ของโรงเรียนให้ประสบผลสาเร็จและบรรลุตามวัตถุประสงค์ได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ

คู่มือการปฏิบัติงานกลุ่มบริหารบุคคล มีสาระสาคัญของความเป็นมาและความสาคัญ
ในการจัดทาคมู่ ือ วัตถปุ ระสงค์ ขอบเขต กรอบแนวคิด ข้อกาหนดท่ีสาคัญของกระบวนการ คาจากัด
ความ แสดงแผนผังของกระบวนการ ข้ันตอนการปฏิบัติงาน หน้าที่ความรับผิดชอบและระบบติดตาม
ประเมินผล มุ่งหวังให้เกิดมาตรฐานการปฏิบัติงานเป็นฐาน ในการพัฒนากระบวนการนี้ เพื่อสนับสนุน
กระบวนการสร้างคณุ คา่ หลักของโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๖ จงั หวดั ลาพูนให้ดีย่งิ ข้นึ ไป

กลุ่มบริหารบุคคล โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๖ จังหวัดลาพูน หวังให้ผู้ปฏิบัติงาน
ดา้ นการบริหารงานบคุ คล และผทู้ ี่สนใจไดใ้ ช้ประโยชนจ์ ากคู่มือฉบับน้ใี นการปฏิบตั งิ านตามหนา้ ท่ี

กล่มุ บรหิ ารบุคคล
โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๖ จังหวัดลาพูน

คมู่ ือการปฏบิ ัตงิ านกลุ่มบริหารบคุ คล ข

สารบญั หน้า

คานา ก
สว่ นท่ี ๑ บทนา
1
ประวัติโรงเรยี น
วิสัยทศั น์ อัตลกั ษณ์ เอกลักษณ์ พนั ธกจิ เป้าประสงค์ และกลยทุ ธ์การพัฒนา 2
ส่วนที่ ๒ การบริหารงานบคุ คล
ความเปน็ มาและความสาคัญ 7
วตั ถุประสงค์/ขอบเขต/กรอบแนวคดิ 8
ขอบข่าย/ภารกจิ 9
ส่วนที่ ๓ ขอบขา่ ยงานการบริหารงานบุคคล
บทบาทหน้าท่รี องผู้อานวยการ 10
งานคณะกรรมการสถานศกึ ษา 12
งานวางแผนอัตรากาลัง การกาหนดตาแหน่งการสรรหาและบรรจุแตง่ ต้งั 12
งานพัฒนามาตรฐานวชิ าชพี 13
งานวนิ ัยและการรักษาวนิ ัย 14
งานบาเหนจ็ ความดีความชอบ 14
งานทะเบยี นประวตั ิ 14
งานสถิตบิ ุคลากร 15
งานเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ 15
งานขอทาบตั รประจาตัวข้าราชการ 16
งานออกจากราชการ 16
งานสารบรรณกลุม่ บริหารงานบุคคล 16
งานสารบรรณกลาง (โรงเรียน) 17
สว่ นที่ ๔ มาตรฐานการปฏบิ ัติงานกล่มุ บรหิ ารบุคคล
แนวทางการพัฒนางานกล่มุ บริหารงานบคุ คล 18

คูม่ อื การปฏบิ ัติงานกลุ่มบริหารบคุ คล

สว่ นที่ ๑

บทนา

ค่มู อื การปฏบิ ัติงานกลุ่มบริหารบคุ คล ๑

ส่วนท่ี ๑
บทนา

ประวัตโิ รงเรียน

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๖ จังหวัดลาพูน จัดต้ังขึ้นตามประกาศของกระทรวง

ศึกษาธิการ เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗ เนื่องในมหาวโรกาส พระบาทสมเด็จ

พระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติได้ ๕๐ ปี โดยจัดให้เป็นโรงเรียน แบบศึกษาสงเคราะห์เพ่ือเป็น

อนสุ รณส์ ถาน รับนักเรียนสหศกึ ษาตงั้ แตช่ ้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ถึงช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ซึ่งเป็นเด็กยากไร้

ทางเศรษฐกจิ ทางสงั คมและเสริมสร้างความมน่ั คงของชาติ จัดการศึกษาอบรมในวิชาสามัญและวิชาชีพท่ี

สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและท้องถิ่นของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้ความสามารถ อยู่ใน

สงั คมระบอบประชาธิปไตย โดยสามารถเป็นผ้นู าหรอื เป็นสื่อกลางระหว่างรัฐกับชมุ ชนที่ตนอย่ไู ด้

เร่ิมดาเนินการโดยเปิดโรงเรียนในปีการศึกษา ๒๕๓๘ รับนักเรียนเข้าศึกษาในระดับช้ัน

ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ และชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ จานวน ๒๕๖ คน มีบุคลากร ๑๗ คน

ลูกจ้างประจา ๙ คน โดยมีนายเล่ห์ ไทยเที่ยง ดารงตาแหน่งครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ และผู้อานวยการ

โรงเรียน ตามลาดบั และตอ่ มามีผู้อานวยการโรงเรียนมารบั ตาแหนง่ โดยมีรายนามดังน้ี

นายเล่ห์ ไทยเที่ยง พ.ศ.๒๕๓๗ – พ.ศ.๒๕๔๑

นายขจร เสวี มกราคม พ.ศ.๒๕๔๒ – กนั ยายน พ.ศ.๒๕๕๒

นายสุมนต์ มอนไข่ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๕๓ – ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๕

นายสกุ จิ ไชยนวล ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕ – ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๑

นายประพนั ธ์ โพธห์ิ ยา่ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑ - ปัจจบุ ัน

ปัจจุบันมีการจัดระบบห้องเรียน ระดับประถมศึกษาแบบ ๑-๑-๑-๑-๑-๑ ระดับมัธยมศึกษา

ตอนต้นแบบ ๓-๓-๓ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายแบบ ๓-๓-๓ และมีนักเรียนเรียนรวมบกพร่องทางการ

ได้ยินจานวน ๑ ห้องเรียน รวมเป็น ๒๔ ห้องเรียน มีนักเรียนจานวน ๗๘๑ คน (ข้อมูล ณ วันท่ี ๑๐

มิถุนายน ๒๕๖๒)

จานวนเนอ้ื ที่ ที่ต้ัง ลกั ษณะชุมชน และเขตบรกิ าร

โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๖ จังหวดั ลาพูน มที ดี่ นิ จานวน ๒ แปลง รวมพื้นท่ีท้ังหมด ๑๕๒

ไร่ ๓ งาน ๘๕.๕ ตารางวา แบ่งเป็นพื้นที่ซ่ึงเป็นท่ีต้ังของโรงเรียน ตั้งอยู่เลขท่ี ๔๒๔ หมู่ ๑๑ ตาบลน้าดิบ

อาเภอป่าซาง จังหวัดลาพูน จานวน ๑๔๐ ไร่ ๕๗ ตารางวา และพ้ืนที่สาหรับฝึกปฏิบัติการเกษตร ต้ังอยู่

หมู่บ้านเหล่ายาว อาเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลาพูน ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ ๗ กิโลเมตรอีกจานวน

๑๒ ไร่ ๓ งาน ๒๘.๕ ตารางวา

ที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ห่างจากท่ีว่าการอาเภอป่าซาง จังหวัดลาพูน มาทางทิศใต้ประมาณ ๒๑

กิโลเมตร ต้ังอยู่ในหมู่บ้านสันป่าฮัก ซ่ึงได้ประกาศจัดต้ังเป็นหมู่บ้านเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ ประชากร

คูม่ ือการปฏิบตั ิงานกลุ่มบริหารบุคคล ๒

ส่วนใหญ่มอี าชีพรับจ้างและทาสวน โดยเฉพาะสวนลาไย ฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างยากจน มีอาณาเขต
ติดต่อดังนี้

ทศิ เหนือติดบา้ นหว้ ยอ้อ ตาบลนา้ ดิบ อาเภอป่าซาง

ทิศใต้ ตดิ บ้านร้องเครือกวาว ตาบลเหล่ายาว อาเภอบา้ นโฮง่

ทิศตะวันตก ติดบ้านสนั เจริญ ตาบลน้าดิบ อาเภอปา่ ซาง

ทศิ ตะวนั ออก ตดิ บา้ นแม่อาว ตาบลนครเจดยี ์ อาเภอป่าซาง

นักเรียนในเขตพ้ืนทบ่ี ริการของโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๖ จงั หวัดลาพูน ได้แก่

ผดู้ ้อยโอกาสทางการศกึ ษา เศรษฐกจิ และสงั คม ทมี่ ภี ูมลิ าเนาอยู่ในพน้ื ท่ีจงั หวัดลาพูน

วิสยั ทัศน์ อัตลกั ษณ์ เอกลกั ษณ์ พันธกิจ เปา้ ประสงค์ และกลยุทธ์การพฒั นา

ตราสญั ลักษณ์ของโรงเรยี น คอื ตรามหาพชิ ัยมงกฎุ ซึง่ เป็นเครื่องหมายของ

มลู นธิ ริ าชประชานุเคราะหใ์ นพระบรมราชูปถมั ภ์

รองรับด้วยชือ่ ของโรงเรียน

ปรชั ญาของโรงเรียน คือ การศกึ ษาเพ่ือชวี ติ และสงั คม

คติพจน์ของโรงเรยี น คอื ใฝร่ ู้ สงู้ าน สานสรา้ งคุณธรรม

คาขวญั ของโรงเรยี น คอื รักษ์ศักดิ์ศรี มีคณุ ธรรม นาวิชาการ สืบสานงานพระราชดาริ

สปี ระจาโรงเรยี น คือ สเี หลือง – สแี ดง

สีเหลอื ง หมายถงึ ความสงบ ความบริสทุ ธิ์ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม

เป็นสีแห่งพระพุทธศาสนา และเป็นสีประจาวันพระราชสมภพ

ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ฯ ผทู้ รงพระราชทานนาม

และพระราชทรัพยจ์ ัดตัง้ โรงเรียนในเบอ้ื งต้น

สแี ดง หมายถงึ ความฉลาดกลา้ หาญ ความก้าวหน้าเจรญิ รงุ่ เรือง

และเป็นสปี ระจาวันพระราชสมภพของ

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

ซ่งึ ประทานพระราชทรพั ย์จัดตงั้ โรงเรียนในเบอ้ื งต้น

ค่มู ือการปฏิบตั งิ านกลุ่มบริหารบุคคล ๓

วสิ ยั ทศั น์
ภายในปี 2564 บคุ ลากรมคี ุณภาพ นกั เรียนมีมาตรฐาน บรหิ ารแบบมสี ่วนร่วม ตามหลกั

ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

นโยบายโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๖ จังหวัดลาพูน
๑. เปิดโอกาสและช่วยเหลือ นักเรียนด้อยโอกาสทางการศึกษา ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา

อย่างท่ัวถงึ
๒. พัฒนาความรู้ ทักษะ และเจตคติต่อการประกอบอาชีพ และส่งเสริมการฝึกอาชีพเพื่อหา

รายได้ระหว่างเรียน เพ่อื ใหน้ ักเรียนสามารถนาความรไู้ ปประกอบอาชีพได้
๓. พัฒนาระบบการเรียนการสอนและจัดประสบการณ์เรียนรู้ ให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัยทัน

เหตุการณ์ ทันโลกเหมาะสมกับนักเรียน ด้วยรูปแบบ วิธีการ และกิจกรรมท่ีหลากหลาย เพื่อยกระดับ
ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น

๔. ส่งเสริมพัฒนาด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมทักษะการ
ดารงชีวิต

๕. ส่งเสริมความเปน็ เลศิ ดา้ นศิลปะ ดนตรี กีฬา
๖. ส่งเสริมให้นักเรียนและบุคลากรเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม สานึกในความเป็นไทย มีความ
จงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดารงชีวติ ตามระบอบประชาธปิ ไตย
๗. ส่งเสรมิ บคุ ลากรให้ได้รับการพฒั นาตามมาตรฐานวิชาชพี อยา่ งสมา่ เสมอ
๘. ส่งเสริมและสนับสนุนงานตามโครงการพระราชดาริ เช่น งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ศูนย์เรียนรพู้ ระราชกรณียกจิ และขยายผลพระราชดาริในสถานศึกษา และศูนย์การเรียนตามหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นตน้

อัตลักษณ์ของโรงเรยี น
“จงรกั ภักดี มีคุณธรรม นอ้ มนาแนวพระราชดาริ”

คาอธิบายอัตลักษณข์ องโรงเรยี น
จงรกั ภกั ดี หมายถงึ
มคี ณุ ธรรม หมายถงึ การยดึ ถือและปฏบิ ตั ิตนตามหลักคาสอนของศาสนา มีวิถีชีวิตที่พอเพียง รักความ

สามคั คี อยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข
น้อมนาแนวพระราชดาริ หมายถึง การศึกษา เรียนรู้ และน้อมนา โครงการ งานหรือ

กิจกรรมตามพระราชดาริ มาพัฒนาตนเอง ครอบครัว และชมุ ชน
รักษ์ไทย หมายถึง มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ีพึงประสงค์ มีจิตสานึกในความเป็นไทย

อนรุ ักษว์ ฒั นธรรม ภูมปิ ัญญา และสงิ่ แวดล้อม
ใฝ่รู้ หมายถึง มีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่าง

ต่อเนือ่ ง

ค่มู อื การปฏิบัติงานกลุ่มบริหารบคุ คล ๔

สู้งาน หมายถึง มีทักษะในการทางาน รักการทางาน สามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้ และมีเจต
คตทิ ด่ี ีตอ่ อาชีพสุจรติ

มาตรการสง่ เสริมอตั ลกั ษณ์ของโรงเรียน
๑. โครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักเรยี นประจา
๒. โครงการโรงเรยี นวถิ พี ุทธ
๓. โครงการหอ้ งสมุดเฉลิมพระเกียรตฯิ
๔. กจิ กรรมจติ อาสาพฒั นาโรงเรยี น
๕. กิจกรรมส่งเสรมิ อาชพี อสิ ระเพอ่ื การมรี ายได้ระหว่างเรยี น (สอร.)
๖. กิจกรรมกลมุ่ ยุวเกษตรกรและยุวชนคนกลา้ คนื ถ่ิน

เอกลกั ษณ์ของโรงเรยี น
“สบื สานราชปณธิ านสร้างคนดีสู่สงั คม”

คาอธิบายเอกลกั ษณ์ของโรงเรียน
รักษ์ศักด์ิศรี หมายถึง การประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นลูกท่ีดีของพ่อแม่ เป็นนักเรียนท่ีดีของ
โรงเรยี น และเป็นพลเมืองที่ดขี องชาติ
นาวิชาการ หมายถึง มีความรู้และทักษะที่จาเป็นตามศักยภาพของตนเอง เพื่อเป็นพ้ืนฐานใน
การประกอบอาชพี และพง่ึ ตนเองได้
สืบสานงานพระราชดาริ หมายถึง

มาตรการสง่ เสริมเอกลักษณ์ของโรงเรยี น
๑. โครงการพฒั นาทกั ษะชวี ติ นกั เรียนประจา
๒. โครงการโรงเรียนวถิ พี ุทธ
๓. โครงการห้องสมดุ เฉลิมพระเกียรตฯิ
๔. กจิ กรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมนักเรยี น
๕. กิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนระบบทางไกลผา่ นดาวเทียม
๖. กจิ กรรมส่งเสรมิ อาชพี อสิ ระเพ่ือการมีรายไดร้ ะหวา่ งเรยี น (สอร.)
๗. กจิ กรรมตามโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ

จดุ เนน้
การจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ท้ังร่างกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ และ

สติปญั ญา

จุดเด่น
“การสง่ เสรมิ อาชพี เพอ่ื การมงี านทา”

คู่มือการปฏิบตั ิงานกลุ่มบริหารบคุ คล ๕

พันธกิจ
๑. จัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ได้รับการศึกษาอย่าง

ทวั่ ถงึ และมีคณุ ภาพ
๒. ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม สานึกในความเป็นไทย มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์

และสมรรถนะสาคัญตามหลักสูตร มีค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ มีวิถีชีวิตตามหลักปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพยี งและกา้ วสู่ประชาคมอาเซยี น

๓. สง่ เสรมิ สขุ ภาพและทักษะการดารงชีวิต
๔. พัฒนาครแู ละบคุ ลากรใหม้ ีคุณภาพตามาตรฐานวิชาชพี
๕. พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาท่ีเน้นการมีส่วนร่วม เพ่ือเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อ
คุณภาพการศึกษา และบูรณาการการจัดการศึกษา และพัฒนาอย่างเป็นระบบครบวงจรให้บรรลุ
เปา้ หมายการศึกษา
๖. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร พัฒนาแหล่งเรียนรู้ตามหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่อื การเรยี นร้แู ละการบรหิ ารจดั การ
๗. สง่ เสริมการมีส่วนร่วมของเครือขา่ ยจัดการศกึ ษา
เปา้ ประสงค์
๑.นกั เรียนระดับการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานทุกคนมีพฒั นาการเหมาะสมตามช่วงวยั และมีคุณภาพตาม
มาตรฐานการศึกษา
๒. นักเรยี นทกุ คนไดร้ บั โอกาสในการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานอยา่ งทั่วถึงมคี ุณภาพและเสมอภาค
๓. นักเรยี นมคี ุณธรรมจรยิ ธรรม สานกึ ในความเป็นไทย มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ตามหลักสูตร
มีค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ มีวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและก้าวสู่ประชาคม
อาเซยี น
๔. นกั เรยี นมสี ุขภาพกาย สุขภาพใจดีและมีทักษะการดารงชีวติ
๕. ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่นมีทักษะท่ีเหมาะสมและมีวัฒนธรรม
การทางานทีม่ ่งุ เน้นผลสัมฤทธ์ิ
๖. สถานศึกษามปี ระสิทธภิ าพและเป็นกลไกขับเคลอ่ื นการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน การศึกษาสู่คุณภาพ
มาตรฐานระดับสากล
๗. สถานศกึ ษาบูรณาการการทางานเนน้ การบริหารแบบมีสว่ นร่วมกระจายอานาจและความ
รบั ผิดชอบ
๘. สถานศึกษามีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารที่มีคุณภาพ มีแหล่งเรียนรู้ตามหลัก
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เพื่อการเรยี นรู้และการบริหารจัดการ

คู่มอื การปฏิบตั งิ านกลุ่มบริหารบคุ คล ๖

กลยุทธ์ของสถานศกึ ษา
กลยุทธ์ที่ ๑ ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม จิตสานึกในความเป็นไทย มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตาม
หลกั สตู รและตามพระบรมราโชบาย๑๒ประการ มีทักษะการประกอบอาชีพและทักษะการดารงชีวิต ตาม
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
กลยทุ ธท์ ี่ ๒ พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
กลยทุ ธท์ ี่ ๓ เพิม่ โอกาสการเข้าถึงบริการการศึกษาข้นั พ้นื ฐานใหท้ ่ัวถึงผเู้ รยี นในกลุ่มเป้าหมาย
กลยทุ ธท์ ่ี ๔ พัฒนาคุณภาพผบู้ รหิ าร ครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
กลยทุ ธ์ท่ี ๕ สง่ เสรมิ สถานศึกษาให้มีระบบการบริหารจดั การแบบมีสว่ นรว่ ม
กลยุทธ์ท่ี ๖ สง่ เสริมการจัดการศกึ ษาใหเ้ ทียบทันประชาคมอาเซียน และประชาคมโลก

คู่มือการปฏบิ ัตงิ านกลุ่มบริหารบคุ คล

ส่วนท่ี ๒

กลุ่มบรหิ ารบคุ คล

คมู่ ือการปฏบิ ัตงิ านกลุ่มบริหารบคุ คล ๗

ส่วนท่ี ๒
กล่มุ บรหิ ารบคุ คล

ความเปน็ มาและความสาคญั

การบริหารงานบุคคล เป็นงานที่สรรค์หาทางใช้คนที่อยู่ร่วมกันในองค์กรน้ัน ๆ ให้ทางานได้ผลดี
ท่ีสุด สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยท่ีสุด ในขณะเดียวกันก็สามารถทาให้ผู้ร่วมงานมีความสุขมีความพอใจ
ที่จะให้ความร่วมมือและทางานร่วมกับผู้บริหาร เพื่อให้งานขององค์กรนั้นๆ สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี
หากหน่วยงานหรือองค์กรใดมีความพร้อมและมีระบบการบริหารงานบุคคลท่ีมีคุณภาพแล้ว ย่อมส่งผล
ต่อการบริหารงานในด้านอื่นๆ ของหน่วยงานหรือองค์กรนั้นๆ ให้ประสบผลสาเร็จและบรรลุตาม
วัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากการปรับเปลี่ยนระบบบริหารภาครัฐแนวใหม่
ที่เน้นการทางานโดยยึดผลลัพธ์เป็นหลัก มีการจัดบุคลากรให้ปฏิบัติงานได้เหมาะสมกับความรู้
ความสามารถจะมีส่วนทาให้บุคลากร มีขวัญกาลังใจ มีความสุขในการปฏิบัติงาน ส่งผลให้งานประสบ
ผลสาเรจ็ อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเป้าหมายหลกั ในการปฏิรูป และผลักดันระบบงานบุคคลของประเทศ
ไทยให้เป็นเครื่องมือสาคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การบริหารเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม
ซึ่งการบริหารจัดการงานบุคลจึงเป็นสิ่งจาเป็นอย่างย่ิงในการบริหารงานทุกชนิด ทุกหน่วยงานและ
ทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานบุคคลจึงมีการคานึงถึงข้อจากัดของงานบุคคลที่ได้รับ และบริหารงานบุคคล
ให้เกิดผลประโยชน์มากที่สุด จึงมีความจาเป็นท่ีจะต้องใช้และบริหารงานบุคคลที่มีอยู่อย่างจากัดให้เกิด
ประโยชนส์ งู สุด การใช้เครื่องมือและกลไกทางงานบุคคลในทุก ๆ ด้านเพ่ือการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้
ความสามารถอย่างสม่าเสมอและต่อเน่ืองจะทาให้บุคลากร เปล่ียนแปลงพฤติกรรมและกระตือรือร้น
พัฒนางานให้ดียง่ิ ขึ้น

ในการบริหารงานบุคคลโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๖ เป็นภารกิจสาคัญที่การบริหารงาน
บุคคลมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลบุคลากรต้องมีความรู้ ความเข้าใจและมีความสามารถสูงในการ
บริหารงานบุคคลและจัดบุคลากรให้ปฏิบัติงานได้เหมาะสมกับความรู้ความสาม ารถจะมีส่วนทาให้
บุคลากร มีขวัญกาลังใจ มีความสุขในการปฏิบัติงาน ส่งผลให้งานประสบผลสาเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อตอบสนองภารกิจของโรงเรียน การบริหารงานบุคคลเน้นการมีส่วนร่วมของบุคลากรและผู้มีส่วนได้
เสียเป็นสาคัญ กลุ่มบริหารงานบุคคลได้ดาเนินงานเพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา
ของโรงเรียนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกท้ังต้องปฏิบัติอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่ทางราชการกาหนด
ตอ้ งประสานความเขา้ ใจในระเบยี บการปฏิบตั สิ ามารถตรวจสอบให้เกดิ ความถูกต้อง และสร้างความมั่นใจ
ในการปฏิบัติงานของบุคลากรในโรงเรียน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตามนโยบายของโรงเรียน โดยบริหาร
จัดการงานบุคคลของสถานศึกษาตามขั้นตอน PDCA มีแผนการบริหารจัดการงานบุคคล มีการจัดสรรหา
บุคลากรการศึกษาในโรงเรียนอย่างเหมาะสม และเป็นเหตุเป็นผลสาหรับแต่ละโครงการ /กิจกรรม
คานึงการใช้ประโยชน์ของการใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่า งคุ้มค่า ดาเนินงานตามแผนงานบุคคล
ของสถานศึกษา นาผลการติดตามมาพัฒนาและปรับปรุง เพื่อพัฒนาบุคลกรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ

คูม่ อื การปฏบิ ตั ิงานกลุ่มบริหารบุคคล ๘

มากยิ่งขึ้น เน่ืองจากการปฏิบัติงานด้านงานบุคคลนั้น จะต้องเป็นไปตามระเบียบที่กาหนด หรืออยู่ใน
กรอบของกฎ ข้อบังคับ ท่ีเก่ียวข้อง และที่สาคัญระเบียบ แนวปฏิบัติหรือคู่มือการปฏิบัติงานด้านงาน
บุคคลน้ันมักจะมีการปรบั ปรุงเปลี่ยนแปลงและแก้ไขอยู่เป็นประจา จงึ จาเปน็ ตอ้ งอาศัยบุคลากรที่มีความรู้
ความสามารถและมีความเข้าใจเก่ียวกับงานท่ีจะปฏิบัติเป็นอย่างดี อีกทั้งผู้บริหาร ก็ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้
ความสามารถ มีวิสยั ทัศน์และทันต่อเหตกุ ารณ์ จงึ จะสามารถบรหิ ารงบประมาณของโรงเรียนให้บรรลุตาม
วัตถุประสงคแ์ ละประสบผลสาเร็จได้

ดว้ ยเหตุน้ี กลมุ่ บริหารบคุ คลจงึ ได้เล็งเหน็ ถึงความสาคญั ทีจ่ ะพัฒนาคณุ ภาพการบริหารงานบุคคล
ให้มีประสทิ ธิภาพจึงไดจ้ ดั ทาคูม่ อื กลมุ่ บริหารบุคคลข้ึนเพ่ือให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการบริหารงานบุคคล และผู้
ที่สนใจได้ใช้ประโยชนจ์ ากคมู่ อื ฉบับน้ใี นการปฏิบตั ิงานตามหนา้ ท่ี

วัตถปุ ระสงค์

การจัดทาเอกสารคู่มือกลุ่มบริหารบุคคลฉบับน้ี เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้าใจให้เจ้าหน้าท่ี
ท่ีเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่กลุ่มบริหารบุคคลของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๖ จังหวัดลาพูน
เพอื่ ใช้เป็นแนวทางในการบรหิ ารงานบุคคลให้มีประสทิ ธิภาพใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด และคุม้ คา่ มากขน้ึ

ขอบเขต

คู่มือปฏิบัติงานกลุ่มบริหารบุคคลฉบับน้ี จะครอบคลุมเน้ือหาหน้าที่ความรับผิดชอบ ตลอดจน
การแสดงข้นั ตอนการปฏิบัติงานของงานแตล่ ะหนา้ ที่

กรอบแนวคิด

กรอบแนวคิดพิจารณาจากความเป็นมาและความสาคัญในการจัดทาคู่มือ เพ่ือสนับสนุนการ
ทางานของกลุ่มบริหารบุคคลของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๖ จังหวัดลาพูน ให้เกิดประสิทธิภาพ
คุ้มค่า การบริหารจัดการงานบุคคลของสถานศึกษาตามขั้นตอน PDCA มีแผนการบริหารจัดการงาน
บคุ คล มกี ารจดั สรรหาบคุ คลให้อยา่ งเหมาะสม และเป็นเหตเุ ปน็ ผลสาหรับแต่ละโครงการ/กิจกรรม คานึง
การใช้ประโยชน์ของการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ดาเนินงานตามแผนงานบุคคลของสถานศึกษา
มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผู้บริหารจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจและมีความสามารถสูงในการ
บรหิ ารงานบุคคล ให้งานประสบผลสาเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ การนาแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มาใชใ้ นการบริหารจัดการ ตามหลกั แนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย

๑. ความพอประมาณ
๒. ความมเี หตผุ ล
๓. การมีภูมคิ มุ้ กันในตัวที่ดี
๔. เงอ่ื นไขความรู้ (รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง)
๕. เงือ่ นไขคณุ ธรรม (ซ่ือสตั ยส์ ุจริต ขยันอดทน ความเพยี ร การใช้สตปิ ญั ญา)

คู่มือการปฏิบตั งิ านกลุ่มบริหารบคุ คล ๙

โครงสรา้ งกลมุ่ บริหารบุคคล

โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 26 จังหวดั ลาพนู

ผู้อานวยการโรงเรยี น

รองผู้อานวยการโรงเรยี น
กลุ่มบริหารบุคคล

หัวหน้ากล่มุ บริหารบุคคล

1. งานคณะกรรมการสถานศกึ ษา

2. งานวางแผนอัตรากาลัง การกาหนดตาแหน่งการสรรหาและบรรจแุ ตง่ ตั้ง
3. งานพัฒนาครแู ละบคุ ลากร

- งานวทิ ยฐานะ
- งานส่งเสรมิ ยกย่องเชิดชูเกียรติ
- งานขวัญกาลงั ใจ
- งานขอมีบัตร
- งานเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณ์

4. งานวนิ ัยและการรกั ษาวินัย
5. งานบาเหนจ็ ความดคี วามชอบ
6. งานทะเบยี นประวตั ิ
7. งานออกจากราชการ
8. งานธรุ การโรงเรียน
9. งานยายพาหนะ
10.งานเลขาและแผนงานกลุ่มบรหิ ารบุคคล

คู่มอื การปฏิบัตงิ านกลุ่มบริหารบคุ คล

ส่วนท่ี ๓

ขอบข่ายกลุ่มบริหารบุคคล

คู่มือการปฏิบตั ิงานกลุ่มบริหารบุคคล ๑๐
๐

ส่วนที่ ๓
ขอบข่ายกลุ่มบริหารบคุ คล

1.ขอบขา่ ย
1. งานคณะกรรมการสถานศกึ ษา
2. งานวางแผนอัตรากาลงั การกาหนดตาแหนง่ การสรรหาและบรรจุแตง่ ตั้ง
3. งานพัฒนาครแู ละบุคลากร
- งานวิทยฐานะ
- งานสง่ เสรมิ ยกย่องเชดิ ชูเกยี รติ
- งานขวัญกาลังใจ
- งานขอมีบตั ร
- งานเครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณ์
4. งานวินยั และการรักษาวนิ ัย
5. งานบาเหน็จความดีความชอบ
6. งานทะเบยี นประวตั ิ
7. งานออกจากราชการ
8. งานธรุ การโรงเรียน
9. งานยายพาหนะ
10. งานเลขาและแผนงานกลุ่มบริหารบุคคล

2.รองผูอ้ านวยการโรงเรยี น กลมุ่ บริหารบุคคล
มหี น้าทีด่ ูแลรับผดิ ชอบ ดงั น้ี
๑. ปฏบิ ัติหน้าท่ีรองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารงานบคุ คลของโรงเรียน
๒. จัดทาแผน/โครงงาน วางแผนดาเนินงานและกาหนดปฏทิ ินกลุ่มบรหิ ารงานบคุ คล
๓. กากับ ติดตาม การดาเนินงานของกลุม่ บริหารงานบุคคลให้ดาเนินไปด้วยความเรียบร้อยและ

มปี ระสทิ ธภิ าพ
๔. กาหนดหน้าทีข่ องบคุ ลากรในกลมุ่ บริหารงานบุคคล และควบคุมการปฏิบัติงานของสานักงาน

กล่มุ บริหารงานบุคคล
๕. บริหารจัดการในสายงานตามบทบาทและหน้าทคี่ วามรับผดิ ชอบได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
๖. กากับ ติดตาม ประสานงานให้มีการรวบรวมข้อมูล สารสนเทศเกี่ยวกับงานบริหารงานบุคคล

ใหเ้ ป็นปัจจุบนั เพ่อื นาไปใช้ในการพัฒนา และแกไ้ ขปญั หา

คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านกลุ่มบริหารบคุ คล ๑๑
๐

๗. ควบคุม กากับ ติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรและการดาเนินงานในกลุ่ม
บริหารงานบุคคล อย่างต่อเน่ือง พร้อมรายงานผลสรุปปัญหา และอุปสรรคในการดาเนินงาน เพื่อหา
แนวทางในการพฒั นางานให้มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน

๘. ติดตามประสานประโยชน์ของครู ผู้ปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าท่ีพิเศษ เพื่อสร้างขวัญและ
กาลงั ใจ

๙. วินิจฉยั สง่ั การงานทีร่ บั มอบหมายไปยังงานผทู้ เ่ี ก่ียวข้อง
๑๐. ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีอื่น ๆ ตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

3.หวั หน้ากลมุ่ บริหารบุคคล
มีหนา้ ทีด่ ูแลรับผิดชอบ ดงั น้ี
๑. ร่วมกาหนดนโยบายของกลุ่มบริหารบุคคล แนวทางการดาเนินงาน แผนพัฒนาฝ่าย

แผนปฏิบัติการ ปฏิทินปฏิบัติงาน คู่มือปฏิบัติงาน ตลอดจนมาตรฐานการปฏิบัติงานของกลุ่มบริหาร
บุคคล ปฏิบตั งิ านตามขอบข่ายภาระงานในกลมุ่ บริหารบุคคล

๒. รับแนวปฏิบัติจากรองผู้อานวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารบุคคล เพื่อกากับดูแล ติดตามงานใน
สายงานทีร่ บั ผิดชอบ

๓. ควบคุมการปฏบิ ตั ิงานของกลุม่ บริหารบุคคล
๔. ตรวจสอบงานด้านเอกสาร ควบคมุ เอกสาร แบบพมิ พต์ า่ งๆ ของของกลมุ่ บรหิ ารบคุ คล
๕. ประสานงานกบั หน่วยงานต้นสังกดั และหน่วยงานทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
๖. จดั ทาแฟ้มสะสมงาน เอกสาร บันทึกการมอบหมายและบันทึกผลงานเพื่อเป็นแนวทางในการ
พจิ ารณาผลการปฏบิ ตั งิ านประจาปี
๗. ปฏิบัติหน้าท่ีแทนรองผู้อานวยการกลุ่มบริหารบุคคล ในกรณีท่ีรองผู้อานวยการกลุ่มบริหาร
บุคคลไมอ่ ยู่
๘. วางแผนการจัดทา จัดเก็บรักษาเอกสาร หนังสือคาส่ังต่างๆ ของกลุ่มบริหารบุคคล อย่างเป็น
ระบบ และถกู ต้อง
๙. ร่วมมือและประสานงานกับบุคลาการในกลุ่มบริหารบุคคล และกลุ่มบริหารอื่นๆ เพื่อ
ดาเนินการไปตามเป้าหมาย
๑๐. ทาหนา้ ทีเ่ ปน็ เลขานุการของกลุ่มบริหารบุคคล
๑๑. ปฏิบัตหิ นา้ ทอี่ ื่นๆ ตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย

คูม่ ือการปฏบิ ัติงานกลุ่มบริหารบุคคล ๑๒
๐

ขอบข่ายภาระงานในกลมุ่ บริหารงานบุคคล
๑.งานเลขานกุ ารคณะกรรมการสถานศึกษา

มหี นา้ ทดี่ ูแลรบั ผิดชอบ ดงั นี้
๑.รวบรวมประมวลวเิ คราะห์และสังเคราะห์ข้อมลู ที่ใช้ในการประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษา
ขัน้ พนื้ ฐาน
๒.ดาเนินงานดา้ นธุรการในการจัดประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน
๓.จัดทารายงานการประชุมและแจง้ มติทปี่ ระชุมให้ผู้ที่เกย่ี วขอ้ งเพอ่ื ทราบดาเนินการหรอื ถอื
ปฏิบัติแลว้ แตก่ รณี
๔.ประสานการดาเนินงานตามมตกิ ารประชุมในเรื่องการอนมุ ัติ อนุญาต ส่ังการ เรง่ รัด การ
ดาเนินการ และรายงานผลการดาเนินการให้คณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน
๕. ปฏบิ ัตหิ น้าทอ่ี ่นื ๆ ตามที่ได้รบั มอบหมาย

๒. งานวางแผนอตั รากาลงั การกาหนดตาแหน่งการสรรหาและบรรจแุ ต่งต้ัง
มหี นา้ ท่ดี ูแลรับผิดชอบ ดงั น้ี
๑.วเิ คราะห์ภารกิจและประเมินสภาพความต้องการกาลังคนกับภารกิจของโรงเรยี น
๒.จัดทาแผนอตั รากาลังขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาของสถานศึกษาโดยความ

เห็นชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน ตามเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด
๓.นาเสนอแผนอัตรากาลงั เพ่ือขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรยี น
๔.นาแผนอัตรากาลังของสถานศกึ ษาสู่การปฏบิ ัตใิ ห้เกิดคณุ ภาพ
๕.ดาเนนิ การในการกาหนดตาแหน่งและการขอเล่อื นตาแหนง่ บคุ ลากรทางการศึกษาและวทิ ย

ฐานะขา้ ราชการครู
๖.ดาเนนิ การจา้ งลกู จ้างประจาและลูกจา้ งชวั่ คราวด้วยเงนิ งบประมาณใหด้ าเนินการตามเกณฑ์

ของกระทรวงการคลังหรือตามหลกั เกณฑว์ ธิ ีการของสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานกาหนด
๗.ใชเ้ งินรายได้ของสถานศึกษาดาเนนิ การจ้างลูกจ้างประจาหรอื ลูกจ้างชวั่ คราวให้อยู่ใน

หลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารท่ีสถานศกึ ษากาหนด
๘.ปฏิบตั ิหน้าทอ่ี ื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
9.การสอบแข่งขัน สอบคดั เลือกและการคัดเลือก พนักงานราชการ ลกู จ้างประจา อัตราจา้ ง

พ่ีเลย้ี ง
9.๑ สารวจอตั ราว่างข้าราชการครแู ละบุคลากรในสถานศึกษาและหน่วยงานทางการศกึ ษา
9.๒ วางแผนจดั ทาโครงการและงบประมาณค่าใช้จา่ ยในการสอบแข่งขนั สอบคัดเลือก
การคัดเลือก
9.๓ ดาเนินการสอบแขง่ ขนั สอบคัดเลือก การคัดเลือก
9.๔ ขออนุมัตปิ ระกาศผลการสอบแข่งขนั สอบคัดเลอื ก การคดั เลือก และการเรียกตวั บรรจุ
แตง่ ตัง้ หรอื เลื่อน และ แต่งต้งั

คู่มือการปฏบิ ัติงานกลุ่มบริหารบุคคล ๑๓
๐

10. การบรรจุเข้ารบั ราชการใหม่
10.๑ กลมุ่ บริหารงานบุคคลรบั รายงานตัว ปฐมนเิ ทศและรายงานสานักบรหิ ารงาน
การศึกษาพิเศษทราบ
10.๒ ผูอ้ านวยการโรงเรยี นรายงานและส่งคาสัง่ ให้สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ
10.๓ ผ้อู านวยการโรงเรยี นดาเนนิ การเตรยี มความพร้อมและพัฒนา หรือดาเนนิ การทดลอง
ปฏบิ ัติราชการตามหลกั เกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนดและรายงานผลการดาเนนิ การต่อ
สานักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ
10.๔ งานแต่งตัง้ ย้าย โอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
10.๕ สารวจความตอ้ งการและความจาเปน็ ในการแต่งตง้ั ตามทห่ี น่วยงานทางการศกึ ษา
เห็นสมควรรวมท้ัง
ตรวจสอบตาแหนง่ ว่างและอัตราเงินเดือนทีใ่ ชร้ บั ยา้ ย และรวบรวมข้อมูลตรวจสอบ

คณุ สมบัติของผปู้ ระสงค์ทจี่ ะใหม้ กี ารแตง่ ตัง้ นาเสนอต่อผู้อานวยการโรงเรยี น

๓. งานพฒั นามาตรฐานวิชาชพี และจรรยาบรรณ
มหี น้าท่ีดแู ลรับผิดชอบ ดังนี้
๑. ร่วมประชุมกับฝ่ายบริหารในการวางแผนพัฒนาบุคลากรของโรงเรียนอย่างเป็นระบบภายใต้

การประสาน และ การร่วมมือกับทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยอาศัยเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาและความ
ต้องการของโรงเรยี นเป็นบรรทัดฐานในการพัฒนา

๒.จดั ทาโครงการพฒั นาขา้ ราชการครูและบคุ ลกรทางการศึกษา
๓.ทาบัญชีรายชื่อ/ทะเบียนบุคลากรที่เข้ารับการอบรมท้ังที่จัดภายในโรงเรียน จัดโดยหน่วยงาน
ต้นสังกัดและจัดโดยหน่วยงานอ่ืน ๆ ภายนอกโรงเรียน เพื่อจัดทาสารสนเทศด้านสถิติจานวนช่ัวโมง ที่
บุคลากรในโรงเรียนไดร้ ับการพฒั นาในแต่ละปี
๔ การส่งเสรมิ และยกยอ่ งเชดิ ชูเกยี รติ

๔.๑ จัดทาเกียรติบตั ร และทะเบียนคุมเกียรติบัตร ยกย่องชมเชยในโอกาสตา่ งๆ
๕. ดาเนินการขอรับใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพ

๕.๑ จัดทาคาขอรบั ใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพ
๕.๒ การต่อใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี
๖. ประเมนิ ผลการพฒั นาบุคลากรตามวัตถุประสงค์ เป้าหมายที่กาหนดไวใ้ นแผนงาน/โครงการ
๗. ปฏบิ ัตหิ น้าท่อี น่ื ๆ ตามที่ผูบ้ งั คับบัญชามอบหมาย

คมู่ ือการปฏิบัติงานกลุ่มบริหารบุคคล ๑๔
๐

๓.๑ งานวนิ ยั และการรกั ษาวินัย
มีหนา้ ทีด่ แู ลรับผิดชอบ ดงั นี้

๑. การดาเนนิ งานทางวนิ ัย และการลงโทษ
๑.๑ จัดทาคาส่ังแต่งต้ังคณะกรรมการสืบสวนทางวินัยข้าราชการครู และบุคลากรทางการ
ศึกษาจดั ทาคาสง่ั ลงโทษทางวินัย ขา้ ราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา
๑.๒ จัดทารายงานการลงโทษทางวนิ ัยไปยังผูอ้ านวยโรงเรยี น

๒. การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์
๒.๑ รับเรื่องอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ และดาเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายว่าด้วย

วินยั และการลงโทษ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
๓. การส่งเสรมิ มาตรฐานวิชาชพี และจรรยาบรรณวชิ าชพี

๓.๑ จัดทาเอกสารเผยแพรค่ วามรู้ ดา้ นกฎระเบยี บ หรอื หลักเกณฑ์เกย่ี วกบั มาตรฐานวชิ าชีพ
๔. สง่ เสริม วินัย คุณธรรม และจรยิ ธรรม สาหรบั ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา

๔.๑ จัดทาเอกสารเผยแพร่ความรู้ ส่งเสรมิ วินยั คุณธรรมและจรยิ ธรรม
๕. การประเมนิ ผลงานตามหัวข้อ

๕.๑ จัดทาแบบประเมนิ งานด้านวินยั
๖. การสรปุ รายงานผลและการนาผลไปวางแผนการพฒั นา

๖.๑ รายงานผลงานประจาปที างด้านการดาเนนิ งานทางด้านวนิ ยั และจรรยาบรรณ

๓.๒. งานบาเหนจ็ ความดคี วามชอบ
มหี น้าทด่ี ูแลรับผดิ ชอบ ดังน้ี

๑. เป็นกรรมการจัดทาเอกสารประกอบการพจิ ารณาความดีความชอบ
๑.๑ จัดทาขอ้ มลู การเล่ือนขั้นเงนิ เดือนของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเสนอ
คณะกรรมการเพ่ือพิจารณาและจดั ทาข้อมูลสรปุ การพจิ ารณา
๑.๒ จดั ทาทะเบียนและสถติ ขิ า้ ราชการครู และบุคลากรทางการศกึ ษาทเ่ี ลอื่ นขั้นเงินเดือน
ตาม จ. ๑๘ ระเบยี บวิธีการที่ทางราชการกาหนด

๒. การประเมนิ ผลการดาเนนิ งาน
๒.๑ จดั ทาแบบประเมินผลงานข้าราชการครู/พนักงานราชการ/ครอู ัตราจา้ ง
๒.๒ การสรุป รายงานผล และการนาข้อมลู ไปใช้การวางแผนการพฒั นาในปตี ่อไป
๒.๓ จัดทาสรปุ รายงานประจาปี

๓.๓. งานทะเบียนประวัติ
มหี นา้ ทด่ี ูแลรับผดิ ชอบ ดังนี้
๑. วางแผนพฒั นาการจดั ทาแฟ้มประวตั ขิ องครู ลกู จ้างประจา พนักงานราชการ อยา่ งเป็น

ระบบ ทนั สมยั สะดวกต่องานการสบื ค้น มีคุณภาพได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน

คู่มอื การปฏบิ ตั ิงานกลุ่มบริหารบุคคล ๑๕
๐

๑.๑ ดาเนินการจัดทาแฟ้มประวัติของครู ลูกจ้างประจา รวมท้ังดูแลเรื่องข้อมูลเก่ียวกับเพิ่ม
วุฒิ การศึกษาที่ได้รับการลา การได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญจักรพรรดิมาลา การเล่ือน
ตาแหนง่ การปรบั วิทยฐานะอนั ดบั เงนิ เดอื น และการเลอ่ื นข้ันเงินเดอื น ให้สมบูรณแ์ ละครบถ้วน

๑.๒. จัดทารายงานประวัติขอ้ มลู ครูและบุคลากรในสถานศึกษา เช่น เลขบตั รประชาชน
ตาแหนง่ เลขท่ี ตาแหน่ง วิทยฐานะ อนั ดบั เงินเดอื น วัน/เดือน/ปเี กดิ วนั /เดือน/ปี ทีเ่ ข้ารบั ราชการให้
สมบูรณแ์ ละครบถว้ น เขา้ รปู เลม่ รายงานประวัตขิ ้อมลู ครูโรงเรียนนาเสนอผู้อานวยการรับทราบ สรปุ เร่อื ง
การยา้ ยของบุคลากรปีละ ๒ คร้ัง

๑.๓ ปฏิบัตหิ นา้ ที่อื่น ๆ ตามทผี่ ู้บงั คบั บัญชามอบหมาย

๔. สถิติบคุ ลากร
มีหนา้ ท่ีดูแลรับผิดชอบ ดังน้ี
๑. จัดทาสมุดลงเวลาเพ่อื บันทึกการลงเวลามาปฏิบัตริ าชการเปน็ ประจาของทกุ เดอื น
๑.๑ ตรวจสอบการลงเวลา
๑.๒ แจง้ รายชื่อผู้ที่ไมม่ าปฏิบตั งิ านในแตล่ ะวัน ไปยงั ฝา่ ยบรหิ ารงานวชิ าการ
๑.๓ บันทกึ ขอ้ มูล สารวจ ใบลา นาเสนอ ผู้อานวยการโรงเรียนลงนาม ของแต่ละวนั
๑.๔ สรุปสถิติวันลากิจ ลาป่วย ของบุคคลและลงบันทึกให้เป็นปัจจุบันแล้วรายงานให้
ผู้อานวยการโรงเรียนทราบ
๑.๕ สรปุ วันลาของข้าราชการครู พนกั งานราชการ อตั ราจา้ ง ลูกจา้ งประจา พี่เล้ียง เม่ือส้ิน
ปีการศกึ ษาของทกุ ปี

๕. งานเคร่ืองราชอิสริยาภรณแ์ ละเหรียญจกั รพรรดมิ าลา
มหี น้าทดี่ แู ลรบั ผิดชอบ ดงั นี้
๑ ศึกษาข้อมลู รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์ และเหรยี ญจกั รพรรดิมาลาของ

บุคลากร พร้อมท้ังศึกษาประวัตขิ อ้ มูล เกีย่ วกับการไดร้ บั เครอื่ งราชอสิ ริยาภรณแ์ ละเหรียญจกั รพรรดิมาลา
ของบุคลากรที่ไดร้ ับในปีต่างๆ

๒ จัดทาและรวบรวมแบบรายงานการเสนอขอพระราชทานเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ์และเหรียญ
จักรพรรดมิ าลา

๓ รวบรวมและจดั ทาข้อมลู เกีย่ วกบั การได้รบั เครื่องราชอิสรยิ าภรณ์ และเหรียญจกั รพรรดมิ าลา
( ช้ันตราลา่ สุด )ของบุคลากรในโรงเรยี น เช่น ชัน้ ตราทีไ่ ด้รบั ปีทไี่ ด้รบั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เล่มท่ี
ตอนที่ วันท่ี/เดือน/ปี หนา้ ลาดบั ที่ เล่มที่ และปัจจบุ ันชนั้ ตราทีก่ าลงั ขอและปีใด

คู่มอื การปฏิบัตงิ านกลุ่มบริหารบคุ คล ๑๖
๐

๖. การขอมีบัตรประจาตวั เจ้าหน้าทีข่ องรัฐ
มีหน้าที่ดแู ลรับผิดชอบ ดังนี้
1. ผขู้ อมบี ตั รกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ โดยมีเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวขอ้ ง
๒. ตรวจสอบเอกสารความถกู ต้อง
๓ นาเสนอผู้มีอานาจลงนามในบัตรประจาตัวโดยผ่านผู้บังคับบัญชาตามลาดับ โดยคุมทะเบียน
ประวัตไิ ว้
๔ ส่งคนื บตั รประจาตัวถึงผูข้ อมบี ัตร

๗. งานออกจากราชการ
มหี น้าทีด่ แู ลรับผดิ ชอบ ดังน้ี
๑. การเกษยี ณอายรุ าชการ
๑.๑ ประสานการดาเนินการตรวจสอบรายช่อื ผู้จะเกษียณอายรุ าชการในแตล่ ะปี
๑.๒ ส่งรายช่ือให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานเป็นผู้ประกาศในเดือน
มนี าคมของทกุ ปี
๑.๓ แจง้ ประกาศรายช่อื ผูเ้ กษยี ณอายรุ าชการให้หนว่ ยงานท่เี กี่ยวข้องและเจา้ ตวั ทราบ
๒. การลาออกจากราชการ
๒.๑ รับเร่ืองการลาออกจากราชการของครูและบุคลากรทางการศึกษา แนบเอกสารที่
เกย่ี วขอ้ ง
๒.๒ เสนอผู้มีอานาจสั่งบรรจุแต่งต้ังพิจารณาอนุญาตการลาออกจากราชการของ

ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการท่ีกฎหมายกาหนด
๓. การให้ออกจากราชการ
๓.๑ ตรวจสอบขอ้ มูลของผ้อู อกจากราชการ
๓.๒ เสนอผูม้ อี านาจพจิ ารณาออกคาสง่ั
๓.๓ แจง้ สถานศึกษาและผ้อู อกให้ลงนามรับทราบคาสัง่ และแจง้ ฝา่ ยบริหารงบประมาณ

๘. งานธรุ การกลุม่ บรหิ ารงานบุคคล
มหี น้าทดี่ ูแลรบั ผิดชอบ ดงั น้ี
๑. การจดั ทาทะเบียนรบั หนงั สอื ราชการกลุม่ บริหารงานบุคคล
๑.๑ ลงรับและลงทะเบียนบนั ทกึ ข้อความภายใน
๑.๒ นาเสนอรองผอู้ านวยการกล่มุ บริหารงานบคุ คล
๒. ออกเลขคาส่ังและพิมพ์คาสั่งของข้าราชการครูและบุคลากรในโรงเรียน ไปราชการใน

ราชอาณาจักร
๒.๑ รับใบบันทึกขออนุญาตไปราชการของข้าราชการครูและบุคลากรในโรงเรียน ซ่ึง
ผ้อู านวยการโรงเรียนอนุญาตแลว้

คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านกลุ่มบริหารบุคคล ๑๗
๐

๒.๒ ออกเลขคาส่งั ไปราชการในราชอาณาจักร
๒.๓ พมิ พ์คาสั่งไปราชการ ในราชอาณาจักรของขา้ ราชการครูและบุคคลากรในโรงเรียน

ตามบนั ทกึ ขออนุญาต
๒.๔ เสนอคาสั่งไปราชการในราชอาณาจักรของข้าราชการครู ให้ผู้อานวยการโรงเรียน

รับทราบและลงนาม
๒.๕ นาคาสั่งท่ีผู้อานวยการลงนามอนุญาตแล้วมอบให้ข้าราชการครูเซ็นรับทราบเพ่ือ

เกบ็ ไวเ้ ปน็ หลักฐาน
๒.๖ สรุปรายงานไปราชการในราชอาณาจักร เป็นรายภาคเรียนเสนอต่อรอง

ผอู้ านวยการกลุม่ บริหารงานบคุ คลเพ่อื เสนอต่อผู้อานวยการให้รับทราบต่อไป
๓. ปฏบิ ัติหน้าทอ่ี ่ืน ๆ ตามทไี่ ดร้ ับมอบหมาย

๙.งานธรุ การ ( สารบรรณกลาง )
มีหนา้ ท่ีดแู ลรับผดิ ชอบ ดังน้ี

๑. รา่ ง โต้ตอบ รับ – สง่ หนงั สือราชการ
๒. ดาเนนิ งานที่ได้รับมอบหมายพเิ ศษเป็นครัง้ คราว
๓. เปน็ ทป่ี รกึ ษาของผ้ชู ่วยผ้อู านวยการฝ่ายบรหิ ารทั่วไปในเรื่องงานสารบรรณ
๔. ควบคมุ การรับ – ส่ง หนงั สือของโรงเรยี น (E – Office)
๕. ลงทะเบยี นหนงั สือราชการ
๖. ลงเลขทีห่ นงั สอื ออก

คูม่ ือการปฏิบัติงานกลุ่มบริหารบคุ คล

ส่วนที่ ๔

แนวทางการพัฒนางานกลุ่มบรหิ ารบุคคล

คูม่ ือการปฏิบตั ิงานกลุ่มบริหารบคุ คล ๑๘
๐

สว่ นท่ี ๔

แนวทางการพัฒนางานกลุม่ บรหิ ารบุคคล

แนวทางการพัฒนางานกลุม่ บรหิ ารบุคคล

การบรหิ ารจดั การ
๑. จดั ระบบการปฏบิ ัติงานให้มีความคลอ่ งตัว ลดขั้นตอนท่ีซ้าซ้อน
๒. จดั หาวสั ดุ-อุปกรณใ์ ห้เพียงพอกบั ภารงานทรี่ ับผิดชอบ
๓. มอบหมายหน้าท่ีความรับผิดชอบให้มีความชัดเจน
๔. จัดเก็บข้อมูล/เอกสารให้สามารถค้นหาได้อยา่ งรวดเร็ว
๕. กาหนดขั้นตอนในการปฏบิ ตั งิ านของแตล่ ะงานใหช้ ัดเจน โดยให้มกี ารวางแผนการปฏบิ ัตงิ านท้ังระยะสนั้ และ
ระยะยาว
๖. เมอื่ ส้นิ ภาคเรียนให้ทุกฝา่ ยงานสรุปผลการดาเนินงานเพ่ือเป็นขอ้ มลู สารสนเทศ
๗. เจ้าหนา้ ทที่ ุกคนทป่ี ฏิบตั งิ านต้องมีคู่มือการปฏิบตั ิงานของตนเอง
๘. บุคลากรทุกคนต้องปฏิบัตงิ านใหเ้ ปน็ ปจั จุบัน
๙. สร้างความเป็นกันเองในฝ่ายบรหิ ารงาน
๑๐.ส่งเสริมและสนบั สนนุ ให้บคุ ลากรมีการพัฒนาตนเองในหน้าทที่ ีป่ ฏิบตั ิ
๑๑.ส่งเสริมและสนบั สนุนบุคลากรใหม้ ีความก้าวหนา้ ในทางวิชาการ
๑๒.สรา้ งขวัญและกาลงั ใจในการปฏิบัติงาน

บคุ ลากร
๑. ต้องช่วยเหลือกนั ในการปฏบิ ัติหน้าท่ี
๒. ตอ้ งปฏิบตั งิ านด้วยความซื่อสัตย์ สจุ ริต และเตม็ กาลงั ความสามารถ
๓. กาหนดข้ันตอนในการปฏิบตั ิงานของแตล่ ะงานใหช้ ัดเจน โดยใหม้ ีการวางแผนการปฏิบัตงิ านท้ังระยะส้ัน และ
ระยะยาว
๔. ต้องมีการประชมุ วางแผนในการจัดทาแผนงานในฝา่ ยงานที่รบั ผดิ ชอบในแต่ละปีงบประมาณเพ่ือลงใน
แผนปฏบิ ัตริ าชการของโรงเรยี น
๕. ตอ้ งปฏบิ ตั หิ น้าท่ีอยู่เวรเพื่อประสานงานราชการกบั ฝ่ายบริหารงานอืน่ ๆ ในชว่ งปิดภาคเรยี น

หอ้ งสานกั งาน
๑. ชว่ ยกันดแู ล รกั ษาความสะอาด และการเปิด - ปิดสานักงาน
๒. อุปกรณ์ไฟฟา้ ต้องปิดทกุ ครั้งเมื่อปฏิบตั ิงานเสร็จส้นิ ในแตล่ ะวนั
๓. ข้อมูล/เอกสารต้องจดั ให้เปน็ ระเบยี บหลังการใชง้ าน
๔. ควบคุม กากบั ดูแล การปฏบิ ัตงิ านของแมบ่ ้านในการรักษาความสะอาด

คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงานกลุ่มบริหารบุคคล ๑๙
๐
คณะทางาน

ท่ีทปี่ รกึ ษา ผู้อานวยการโรงเรียน
๑. นายประพันธ์ โพธ์หิ ย่า รองผู้อานวยการโรงเรยี น
๒. นางกวพี นั ธ์ุ ฟองคา รองผ้อู านวยการโรงเรียน
๓. นางสาวมัลลกิ า มโนชมภู รองผ้อู านวยการโรงเรยี น
๔. นายสราวธุ ปนั ทวงั รองผู้อานวยการโรงเรียน
๕. นางวรรณพร บารงุ ยศ ครปู ฏิบตั ิหน้าที่รองผ้อู านวยการโรงเรยี น
๖. ว่าท่ีรอ้ ยตรีไพรตั น์ สารพนั ธ์

ผู้จดั ทา บารุงยศ รองผูอ้ านวยการกลุม่ บริหารบุคคล
แซจ่ าง หวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารบคุ คล
๑. นางวรรณพร โพธิ์หย่า ครูชานาญการพเิ ศษ
๒. นางสาววิมล ซูซูกิ ครูชานาญการพิเศษ
๓. นางศรีบตุ ร อรรจนเมธี ครชู านาญการพเิ ศษ
๔. นางเกษร อนิ ต๊ะปงิ ค์ เจา้ หนา้ ท่ีธุรการ
๕. นางจรุ ยี ์ วงคแ์ วน่ ครผู ู้สอน
๖. นางสาววสิ ุดา
๗. นายธนาวุฒิ