วเิ คราะหน วนิยายเรื่อง
“คูก รรม” โดย ทมยนั
ประวตั ิผูแตง
ชื่อ : วมิ ล ศิริไพบลู ย์
เกิด : 10 กรกฎาคม 2480
ภูมิลาํ เนา : กรุงเทพมหานคร
บิดา : เป็นทหารเรือ
เช้ือสายมารดา : เคยเป็นชาววงั และสืบ
เช้ือสายมาจากเจา้ นายในราชวงศเ์ วยี งจนั ทน์
ถกู กวาดตอ้ นมาสยามเม่ือคร้ังรัชกาลท่ี ๓
ประวัติผแู ตง
การศึกษา
• ศึกษาชน้ั ประถมปท ี่ 1 ถงึ มัธยมปที่ 8 ที่
โรงเรยี นเขมะสิรอิ นสุ สรณ
• เขา ศกึ ษาตอคณะนิติศาสตร มหาวทิ ยาลยั
ธรรมศาสตร
• ภายหลงั เปลีย่ นมาเรยี นคณะพาณชิ
ยศาสตรและการบญั ชีจนจบอนุปริญญา
ประวัติผูแตง
งานเขยี น
• เรมิ่ เขยี นเร่ืองสั้นเปนครง้ั แรกเม่ืออายุ ๑๔ ป
• ขณะเรียนอยูช้นั ม. ๔ ไดตีพมิ พล งใน
นติ ยสาร ศรีสปั ดาห
• เขียนเร่อื งสัน้ ตอเน่อื งอยูถ ึง ๑๑ ป
• เขียนเรอ่ื งยาวเรื่องแรกคือเร่ือง ในฝน อายุ
๑๙ ป
ประวัติผูแตง
นามปากก
• โรสลาเรน เปนนาามปากกาแรก เทียบคาํ ในภาษา
ฝรั่งเศส แปลวา
"กหุ ลาบราชินี" ใชเ ขียนเรอื่ งรกั พาฝน หรอื จินต
นิยาย
• ลักษณวดี ใชสําหรบั เขยี นนวนยิ ายรกั คําวา
"ลักษณวดี" มีความหมายวา "นางผมู ีลกั ษณะดี, นาง
ผงู ามเลศิ "
• กนกเรขา ใชส าํ หรับแตงเร่ืองตลกเบาสมอง คาํ วา
โครงเร่ือง
คกู รรมเปน นวนยิ ายแนว
โศกนาฏกรรมและวีรคตหิ รอื โรมาน
ซซึง่ บอกเลาเหตุการณใ นชว ง
สงครามโลกครง้ั ท่ี ๒ เมอ่ื ราวป พ.ศ.
๒๕๐๘ เรือ่ งคกู รรมจะเลาเรอื่ งราวความ
รกั ระหวา งทหารชาวญป่ี นุ และสาวไทย
โดยมฉี ากหลงั เกิดขน้ึ ในประเทศไทย
การเปด
เร่อื งในนวนยิ ายคูกรรม ทมยันตีใชวิธีการเปดเรอื่ งดวย
การกลาวถึงบรรยากาศในยามเชา หลัง ซง่ึ เปน ชวงที่
องั ศุมาลินไดค ลอดบุตรแลว ดงั ปรากฏในตัวบทวา
“อากาศในยามเชาตรตู น ฤดหู นาวนน้ั คอ นขาง
เยียบเย็น จนบงั เกิดเปนหมอกควนั ปกคลุมทวั่ ไป นาํ้
ในแมนา้ํ เจาพระยาเจ่งิ ลน เพราะเปน ฤดูนาํ้ หลาก เรอื
แพทก่ี ําลังแลนขน้ึ ลอ งเห็นภาพเพียงเงาสลัว ๆ อยใู น
หมอกแลว กล็ ับหายไป บา นเรอื นท้ังสองฟากถกู
ปกคลมุ ดว ยหมอกควันจางๆจนเปนเงาตะคมุ ๆ”
(คูกรรม,๐๑)
การดําเนนิ
เรื่อง
ดาํ เนนิ เรอ่ื ง แบบสลับไปมาโดยเลาเรอื่ ง
ในปจจุบนั แลว ยอนกลบั มาเลาเรื่องในอดีต
ดว ยการเร่มิ บรรยายตอนท่ีประเทศชิตกิ ลับ
มาสงบ องั ศมุ าลนิ คลอดลูกไดบตุ รสาว และ
โกโบริไดจากโลกนไ้ี ปแลว จากน้นั ผแู ตงก็
เลายอ นกลบั ไปยงั จุดเริ่มตนของเรื่อง เร่มิ
ตง้ั แตอ ังศมุ าลินเปน วัยรุน ยังไมพบโกโบริ
แกนเรือ่ ง
ความรกั ทเี่ กิดทา มกลางสงครามโลกครง้ั
ที๒ กวา จะเกดิ ความรกั กต็ อ งผานอุปสรรค
หลากหลาย ทั้งความอคติของตัวองั ศมุ าลนิ
ทม่ี ีตอโกโบริ ความเห็นแกต วั ของคนรอบ
ขาง คําสบประมาทตา งๆ ซง่ึ กวาจะลดทฐิ ิ
ของตวั เองลงได กส็ ญู เสียคนทีรกั ไปเสีย
แลว
การปด เร่ือง
ในสวนของนวนยิ ายคูกรรมมฉี ากจบแบบ
โศกนาฏกรรม ไมส มหวัง ทมยนั ตีไดปดเร่ืองดว ย
ฉากงานศพของโกโบริ ทรี่ า งกาํ ลงั จะถูกเผา
ดงั ปรากฏทว่ี า
“บดั น้ีสงครามไดทาํ ใหแ สงสวางอนั นน้ั พินาศลงแลว
เสียงระเบิดสะทา นสะเทอื น แตมไิ ดทาํ ใหผ ูท่ยี ืนนิ่ง
เฝาดซู ากของผเู ปน ทร่ี กั มอดไหมไปกบั ตา สงคราม
ความ
ขดั แยง
ความขดั แยงระหวา งมนุษยกับมนษุ ย และ
ระหวา งมนุษยกบั สงั คม
ความขดั แยง ระหวางมนุษยกับมนุษย คือ ฉากที่
อังศุมาลินดาทอโกโบริ จนเกิดเหตุทะเลาะววิ าท
กนั เหตุเพราะโกโบรลิ งโทษตาบวั และตาผลอ
ยางรุนแรง เนือ่ งจากตาบัวและตาผลไดล กั ลอบ
ขโมยของทีโ่ กดังทหาร โกโบรจิ งึ ตองลงโทษ
ตามกฎของทหารญีป่ นุ แตอังศุมาลนิ ไมเ ขา ใจ
ความขัดแยง
ดงั ปรากฏทว่ี า
“ดวงตาดําคมกริบ จอ งมองหญิงสาวอยาง
แนน งิ่ ทกุ คนในที่นน้ั เงยี บกริบ ชวั่ ครฝู าย
ทย่ี นื จังกาอยจู งึ ขยบั ตัวพดู เปน ภาษา
อังกฤษสนั้ ๆ “กรุณาพดู ชาๆหนอ ย แต…
ทางที่ดี…อยา พดู เลยดีกวา” ประโยค
สุดทายมีแววรอ นรน แตดุเหมือนวาหญิง
สาวจะไมส นใจ “กองทัพญี่ปุน ไมม ีสิทธท่ี
ความ
ขดั แยง
ความขดั แยง ระหวา งมนษุ ยก ับมนุษยค อื ฉากที่
พวกทหารญีป่ นุ เขาไปตัดตน กลวยและตน
มะพราวในบานของอังศุมาลินจึงทําใหอ ังศมุ าลิ
นไมพอใจมากจงึ เกดิ มปี ากเสียงกนั
vs
ความ
ดังปรากฏทีว่ า ขดั แยง
“ผมตอ งขอโทษดวยในเหตุการณนี้..”
“ขอโทษ…ทัง้ ๆที่ฝา ยเราเปนฝา ยเสยี หายอยาง
น้ันหรอื นน่ั …กลว ยของเรา มะพราว…”
“เปน ความผดิ ของผมเอง ทท่ี หารใน
บังคับบัญชาของพอ ผม กอความยุงยากข้นึ …”
“จะเปน ไรไป แผน ดนิ ไทย คนไทยของของไทย
มนั เหมอื นของชาวญ่ปี นุ อยแู ลว ” (คูกรรม,๑๑๕-
๑๑๖)
ความ
ขดั แยง
ความขดั แยง ระหวา งมนษุ ยกบั สงั คมคือ
เปดฉากขึ้นในชวงสงครามโลกครัง้ ทสี่ อง ซึง่
สงครามไดเ ร่มิ ข้นึ ในทวปี ยโุ รป โดยกองทัพนา
ซีเยอรมันเปด ศกึ กบั ฝร่งั เศสและองั กฤษ ขณะ
ท่ีทางภาคพ้นื เอเชยี กองทพั ญี่ปนุ ไดเขารุกราน
จนี อยางเต็มรปู แบบ สว นทางรฐั บาลไทยในยุค
นั้น ผนู ําของประเทศไทย ผเู ปน นายกรัฐมนตรี
ไดประกาศตวั เปนกลางไมเขากับฝา ยใดโดย
หวงั วา จะชว งปอ งกันไมใ หกระแสของสงคราม
ความ
ขดั แยง
ความขัดแยงระหวา งมนษุ ยกับจติ ใจของมนษุ ย
องั ศุมาลนิ ปรารถนาท่ีจะละท้งิ ความออ นเพลีย
ทนทกุ ขทรมานท้ังหมด ใหม ลายหายไป ปรารถนา
ทจี่ ะใหว งแขนอนั อบอุนของใครสกั คนหนงึ่ มาปก
ปอ งใหพ น จากภาวะทีก่ ําลงั ไดร ับอยู ณ บัดนี้ แต…
ส่งิ ทีเ่ ปรยี บเสมือนมานบาง ๆ แตแ ขง็ แรงมาแทรก
กลางขวางไว สายใยแหง ทฐิ ิ ความถือตวั เหนยี่ วรัง้
ใหเธอตอ งรบั ผิดชอบตอ ความจริง ความจริงท่ีเธอ
ตอ งยอมรับวา วงแขนนนั้ แมจ ะอบอุน แขง็ แรงเพยี ง
จุดสุด
ยอด
•ตาบวั กบั ตาผลจะดกั ทํารายโกโบริ
•องั ศมุ าลนิ เริ่มเปน หว งโกโบริ
•อังศมุ าลินตามไปชวยโกโบริ
•อังศุมาลนิ คอยดแู ลโกโบริ
จุดสดุ ยอด
ดงั ปรากฏทวี่ า
(ตอ)ทางคดเคย้ี ว คอนขางมืด กอกลวยซึ่งขึ้นอยสู องขางทาง
เห็นเปน เงาตะคุมๆ จนผทู ี่วิ่งลัดเลาะมาน้นั บางครัง้ ถึงกับเซ
ถลาเพราะสะดดุ รากไม แตเสยี งเอะอะทแี่ ววมาย่งิ ทาํ ใหเ ธอ
รอนใจยิ่งขน้ึ แมคร้ังสุดทายหญิงสาวจะลมลงจนทรุด เขา
กระแทกพนื้ แตก็ไมมแี มแตเวลาจะดูแผลทต่ี ัวเอง เน่ืองจาก
มเี สยี งรอ งอยา งเจ็บปวดดังข้ึน องั ศมุ าลนิ ถลาวง่ิ ไปขา งหนา
พลางตะโกนสุดเสียง
“ใครเปนอะไรบา ง?”
ไมม ีเสยี งตอบนอกจากเสียงฝเ ทา วิ่งหายไป ทิ้งไวแ ตร าง
ตะคุมๆของสองคนท่ีฟุบอยูกบั พน้ื
“ใคร…ใครน่ัน?”
การปด เรอ่ื ง
ปดเรือ่ งดว ยฉากงานศพของโกโบริ ท่รี า งกําลังจะถกู
เผา ดังปรากฏทว่ี า
“บดั น้สี งครามไดทาํ ใหแ สงสวา งอนั นนั้ พนิ าศลงแลว
เสยี งระเบดิ สะทา นสะเทอื น แตม ไิ ดทาํ ใหผทู ่ยี ืนนง่ิ
เฝา ดซู ากของผเู ปนทรี่ ักมอดไหมไปกบั ตา สงคราม
สําหรับเธอไดสนิ้ สุดลงแลว ” (คูกรรม,๘๒๗-๘๒๘)
จุดคลคี่ ลาย
องั ศมุ าลินวงิ่ ตามหาโกโบรทิ ีสถานรี ถไฟ
บางกอกนอ ย เนื่องจากมเี หตุระเบิดเกิดขนึ้ แตเ ม่ือเจอ
ก็พบรางโกโบรทิ ่ีถูกพิษระเบดิ เลนงาน จนจวนจะหมด
ลมหายใจจงึ สารภาพความในใจและขอโทษ ดงั
ปรากฏในตัวบทที่วา
“ถาฉันรูอนาคต ถาฉนั ไมร ั้น ไมเ จา ทฐิ ิ...ฉนั จะรักคณุ
เสยี ตงั้ แตว ันนั้น เพ่อื จะกอบโกยเวลาท่ีเราจะไดอยู
ดวยกนั ไวใ หไ ดมากทีส่ ุด ทีจ่ ะมากได จาํ ไดม ัย้ คะคุณ
พยายามจะสอนใหฉ ันพดู ประโยคๆหนึ่ง”
“จาํ ได แตความพยายามของผมไมเ คยสาํ เรจ็ สกั ที”
ฉาก
เปนสภาพของสังคมชวงสมยั สงครามโลกครั้งท่ี ๒
ทีม่ คี วามวนุ วายไมส งบสุข ผูแ ตงใชวิธีการบรรยาย
ใหผ ูอานไดเกดิ มโนภาพเกย่ี วกับสภาพสงั คมและ
ความเปนอยู เศรษฐกจิ ความวนุ วายและสภาพ
บา นเรอื นของคนสมยั กอ นท่เี กดิ ขึ้น
ตลาด
ดงั ปรากฏท่วี า
ขา วคราวของสงครามทางยุโรป ทแ่ี พรเขาสู
ประเทศไทยนน้ั ไมไดทําใหใ ครเดือดรอนเทา ใดนัก
นอกจากคณุ อรซ่งึ มักจะบนในเวลาซื้อของวา
ฉาก
ดังปรากฏที่วา บางกอกน
อย
“เรอื ลําเล็กพุงตดั กระแสนาํ้ ไปอยา งรวดเรว็ แตก ระนั้น ดูจะ
ไมท ันใจคนที่จว งพายอยา งหนักครัง้ แลว ครั้งเลา ที่หมาย
ขา งหนาคือบรเิ วณอันมลี ักษณะคลา ยกับกองไฟกองใหญ
เปลวเพลงิ ลุกฮือด่งั คะคกึ เสียงตะโกนเอะอะโหวกเหวกและ
ผคู นท่วี ่ิงขวกั ไขวไ ปมา มองดแู ดงฉานราวกับภาพท่เี กิดใน
เมืองนรก รถไฟหลายคันถกู ระเบดิ ระเนระนาด บางขบวน
ขน้ึ ไปเกยซอ นกัน นานๆเสยี งระเบิดของถังนาํ้ มันจะกึกกอ ง
ตัวละคร
องั ศมุ าลนิ
เปนคนหวั รั้น มีทฐิ ิ เชอ่ื ม่ันในตัวเอง ไมท ันคน จติ ใจ
โอบออมอารี
ปรากฏในตวั บทดังน้ี
“เปน คนไทย แผนดินน้เี ปนของไทยถึงสองคนนนั้
จะเปนคนรับราชการสงั กัดของญีป่ ุน แตก็มไิ ด
หมายความวา เคา จะตอ งตกอยใู นบังคบั ของญ่ีปนุ
ไปดวย ถงึ หากเขาทาํ ผิดกต็ องใหคนไทยลงโทษกัน
กองทพั ญีป่ ุน จะทาํ ตามใจชอบไมได” (คกู รรม,
๐๑๗)
ตวั ละคร
โกโบริ
ทหารญีป่ ุนท่มี ีจติ ใจกลา หาญ รักชาติ เปนคนซอื่ สัต
ยุตธิ รรม
ตวั ละคร
โกโบริ
ดังตวั บทตอไปนี้ “ชายสองคนนี้” เขาช้ีนว้ิ ไปยัง
รา งทท่ี ถี่ ูกมัดขึงพืด นอนตัวส่นั อยกู ับพนื้ ดนิ ได
เขามารับราชการอยูในกองทพั ของ พระ
จกั รพรรดิ จงึ ถือเสมอื นวาเปน คนอยูในบังคับชา
ของกองทัพญป่ี นุ ดวย คนทงั้ สองได
กระทําความผิดอยา งรา ยแรง โดยลกั ลอกขโมย
นาํ้ มนั ซึ่งถอื วาเปน ยทุ ธปจจยั สาํ คัญไปหลาย
ครงั้ จงึ ตองลงโทษใหห ลาบจํา แตถ าตอ ไปยัง
กระทาํ ความผิดเชน นอ้ี ีก จะตองไดร บั โทษมาก
ตวั ละคร
วนสั (บุตรชายของ
เปน คนทร่ี กักาํษนาคนั ํานพดูมุ )มีความเปนลูกผูช าย เสียสละ
ดงั ตกัวาบรศทกึ ทษ่วี า ส“ูงอกี ๕ปนะอัง เขาจะมายืนตรงนี้
ถามคาํ ถามเกาทเี่ ขาเคยถามตัวมาแลว สําหรบั
เขาแมจ ะรีบเรยี นแตเลาก็คงชาเหมอื นเดิม
เพราะเขากต็ องรอตัว เขาไมท ้ิงใหต วั รอเขาฝาย
เดียวแน” (คูกรรม,๐๕๗)
ตวั ละคร
นาเมีย้ น
มนี สิ ยั ชอบนินทาผอู ่นื โดยไมคํานงึ ถึงผลทจี่ ะ
ตามมา
ดังตวั บททวี่ า “เรื่องของยายอังมันยงุ ตรงที่วา คน
มนั เกบ็ มาพดู กันทางที่ได รกู นั ทว่ั บางหมดแลว
จะทาํ ยงั ไงกนั ดี ถาทง้ิ ไวเ ฉยๆมนั ก็ได แตคนของ
เราก็เสียช่ือ” (คูก รรม,๓๘๗)
ตวั ละคร
ตาบัวกับตาผล
เปนคนชอบลกั เล็กขโมยนอยและมนี สิ ยั เจา
คิดเจาแคน แตผลสดุ ทา ยกก็ ลบั ใจ ดังตัวบท
ทีว่ า “ระวงั เถอะ ตาผลจะหยบิ ฉวยอะไรเขา
เขา แกมือไวจะตายไป เขา สว นไหนอยางไม
ไดอ ะไรเลยก็สมสกั ลูก ทเุ รียนสกั ใบกย็ งั ดี
ขืนไปมือไวพวกนน้ั เอาตาย เขาย่ิงเกลียด
คนพวกขขี้ โมยอยู” (คกู รรม,๑๐๑)
ตวั ละคร
แมอร (แมข ององั ศมุ า
เปนคนจติ ใจดี โอบลอนิ อ ม)อารี รักลูกสาว มอี ุดมคติท่ี
ดี
ดงั ตวั บททวี่ า
อังศุมาริน : “ไมแนหรอกคะแม คนอยางตาผลเลอ
ไดเมือ่ ไหร”
แม : “ฮ้อื แมว า คงไมถึงยังงน้ั หรอก พวกแถวบาน
เราแกอาจจะถอื วาอาจรจู ักมกั คุนกันมา ของใน
สวนนดิ ๆหนอยๆเขาไมถอื สาหาความกัน แกก็เลย
เกบ็ ตดิ มือไป แตนั้นมันของตา งชาติ ตา งภาษาเขา
ตัวละคร
หมอโยชิ
มนี สิ ัยชอบชวยเหลอื ผูอ น่ื มเี มตตา รกั ชาติ เปน
ผเู ช่ียวชาญดานการแพทย
ดังตัวบททวี่ า “แมบอกใหไ ปหาหมอโยชปิ าก
คลอง หนูกไ็ มไปสกั ที แกทําฟนเกง ออก วนั กอน
แกพบแมยงั ถามถงึ หนูเลยวา ทําไมหมนู ไี้ มไ ป
เรยี นภาษาญป่ี ุนกบั แกอีก” (คกู รรม,๐๖๙)
ตัวละคร
หลวงชลาสินธรุ าช (พอของอังศุมาลนิ )
เปนคนมเี ลห เ หลย่ี ม มอี ดุ มการณ หว งหนาตา
และเกยี รติยศของตนเอง เปนทหารเรอื เกา และ
เปนสมาชกิ แกนนําเสรไี ทย
ดังตวั บททีว่ า “ฉันกอ็ ยากจะรเู หมอื นกันวาเขา
เกิดไปรกั ใครชอบคอกบั ไปเจาหมอนนั่ ไดยังไง
ฉนั เองก็มีเรื่อง…”
ผพู ดู ชะงกั ไปเล็กนอย กอ นท่ีจะพดู ตอ ไปวา
“มันงามแลวหรอื คดิ ดูใหด ี.. (คูกรรม,๔๒๔)
กลวิธีการใช
โวหาร
บรรยายโวหาร โวหารที่ใชเ ลาเรอ่ื ง หรืออธิบาย
เรือ่ งราวตา ง ๆ ตามลาํ ดับเหตกุ ารณ การเขียน
บรรยายโวหารจะมุง ความชัดเจน เขยี น ตรงไปตรงมา
รวบรัด กลา วถึงแตส าระสาํ คัญไมจ ําเปน ตอ งมี
พลความ หรือความปลีกยอยเสริม ในการเขียนทว่ั ๆ
ดังปรากฏทีว่ า
ริมฝาหอ งเปน เตยี งไมเตยี้ ๆ พนกั ดานหัวเตยี งและ
ปลายเทา สลักลวดลายเครอื เถาดวยฝมอื ละเอียดยบิ ดาํ
เปน มนั เพราะไดร บั การเช็ดถู ทําความสะอาดอยเู สมอ
กลวธิ ีการใช
โวหารพรรณนาโวหาร มีจดุ มงุ หมายในการเขยี นตางจาก
บรรยายโวหาร คอื มุงในเรื่องของความแจม แจง
ละเอยี ดลออ เพื่อใหผ อู านเกดิ อารมณซาบซ้งึ เพลดิ เพลิน
ไปกับขอความน้ันและเหน็ ภาพไดช ดั เจน ดงั ปรากฏทวี่ า
วงแขนลํา่ สนั ดึงรา งเลก็ ทีค่ ุกเขาอยูใกลๆ โดยแรงจน
อังศมุ าลนิ ถลาํ ลมแนบไปบนอกกวาง ลมหายใจอนุ ๆ
ปะทะอยขู า งหู พรอ มกับคาํ ถามท่คี อ นขางดุเดอื ด (คู
กรรม,๕๖๗)
รมิ ฝป ากรอนจัด ทาบลงบนซอกแกมอยา งรอ นแรง
องั ศมาลนิ แวงกดั เนื้อตรงสว นหวั ไหลอ ันเปลาเปลือยนั้น
ทันควัน เสยี งชายหนุม อทุ านเบา ๆ อยางเจบ็ ปวด และ
ดูเหมอื นความรสู ึกความรูสึกอันนัน้ เอง จะยัว่ ยุ ความ
กลวิธกี ารใช
โวหาร
กลวิธีการใช
โวหาร
เทศนาโวหาร โวหารทมี่ ีจดุ หมายแสดงความ
แจมแจงเพอื่ ใหผ อู านคลอยตามหรืออาจกลาวได
วาเปนการชักจงู ใหผ ูอานคิดเหน็ หรือคลอ ยตาม
ความคิดเหน็ ของผูเขยี น ดังปรากฏทว่ี า
“เปน เดก็ นะเปน งาย แตเปนผูใหญนะเปนยากนะจะ
เราก็ตองพดู บา ยเบี่ยงใหงาม จะมาเอะอะตัดขาด
เลยนะไมไ ด หมอกับแมถงึ กบั หนูก็เถอะ เคยรจู กั
คนุ เคยกนั มา พอ ดอกมะลกิ ม็ บี ุญคณุ กบั ครอบครวั
เรา เขามาตามประเพณที ุกอยางแลว เราจะทาํ
กลวิธีการใช
โวหาร
อปุ ลกั ษณ คลา ยกบั อปุ มาโวหารคือเปน การ
เปรยี บเทียบเหมอื นกัน แตเปนการเปรยี บเทียบ
สง่ิ หนึง่ เปน อีกส่ิงหนงึ่
ปรากฏในตวั บททว่ี า
“หาแถง แงฟ าหางา ย เบอื่ หนา ย บงนัก
พักตรผ ิน
หาเดือน เพอื่ นเถนิ เดินดนิ คือนิล นยั นา
หาดาย
กลวธิ กี ารใช
(นาทีท่๗ี .๒๔) โวหาร
กลวธิ กี ารใช
อธพิ จน โวหารที่กลโา ววหเกินาครวามจริง เพือ่ เนน
ความรูส ึก ทําใหผูฟ ง เกิดความรูสกึ ท่ลี ึกซึง้
ปรากฏในตวั บททว่ี า
…เสียดายเอย เสียดายหงสท อง
จะตองคลาคลาด
ใจเอย จะขาด
ไปเสียแลว หนา อกเอย
จะจากไปก็ไมว าย
คลายโศกเอย…
ภาพสะทอน
สังคม
เสนอภาพอตั ลักษณข องสตรอี ยางไมเทา เทยี ม
บรุ ุษ และบดิ เบือนสถานภาพบทบาทสตรใี หเ ปน ไป
ตามแนวทางสตรนี ิยม จนสามารถสถาปนาวาทกรรม
สตรีนยิ มใหกลายเปนความจริงขึ้นมาไดในสังคมอาจ
กลา วไดวา คุณหญิงวมิ ลไมไดป ระกอบสรา งวาทกร
รมหลกั คือ วาทกรรมสตรีนยิ มอยา งท่ีเขาใจแตได
สะทอ นขอ จํากัดและขอขัดแยง ในความเปนสตรีผา น
ความลกั ลน่ั ของตัวบท นวนิยาย และผลิตซ้าํ
อุดมการณสตรีในบริบทสงั คมทีผ่ ูชายมอี ํานาจอยู
นัน่ เอง