The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

idplanผึ้งปีการศึกษา2560

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phuing, 2019-07-09 01:05:53

idplanผึ้งปีการศึกษา2560

idplanผึ้งปีการศึกษา2560

แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล
(Individual Development Plan: ID PLAN)

นางวัลยล์ กิ า สรุ ินทราบูรณ์
ครูโรงเรียนทงุ่ มนวทิ ยาคาร

โรงเรยี นทุ่งมนวิทยาคาร อาเภอปราสาท จงั หวดั สรุ ินทร์
สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต 33

สานักงานการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คานา

กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการ
ประเมนิ สมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทาใหผ้ ้ปู ฏิบัตงิ านสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของ
ความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็น
ของของหน่วยงาน และของตนเองอยา่ งแท้จริง

ทั้งน้ี ครูจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ (Individual
Development Planning : IDP) เพื่อเปน็ การพัฒนาทส่ี นองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความ
สนใจในรูปแบบวิธีการพฒั นา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าท่ีท่ีมีประสิทธิภาพต่อไป และ เป็น
การพัฒนาท่ีต่อเน่ืองจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในการ
ปฏิบัติงาน อันนาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพท่ีมีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง
สามารถตรวจสอบได้ และพัฒนาสคู่ วามเป็นวชิ าชีพต่อไป

วัลย์ลกิ า สุรนิ ทราบรู ณ์

สารบัญ

เรือ่ ง หนา้

บทท่ี 1 บทนา
Individual Development Plan (ID Plan) คอื อะไร ....................................... 1

บทที่ 2 แผนการพัฒนาตนเอง (Individual Development Planning : IDP)

แผนการพฒั นาตนเอง ...................................... 3

บทท่ี 3 การดาเนนิ งานตามแผนการพัฒนาตนเอง

ดา้ นสมรรถนะหลัก ......................................................................................... 6

ดา้ นสมรรถนะประจาสายงาน ........................................................................ 16

รายงานการพฒั นาตนเอง ........................................................................ 19

บรรณานุกรม ............................................................................................................... 21

บทที่ 1
บทนา

Individual Development Plan (ID Plan) คอื อะไร
สถาบันพฒั นาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา ไดใ้ ห้ความหมายของ Individual

Development Plan (IDPlan) หมายถึงการพฒั นาบุคลากรโดยยึดหลกั การประเมนิ สมรรถนะ
(Competency Based Approach) จะทาใหผ้ ู้ปฏิบตั ิงานสามารถรู้จดุ เด่น จุดด้อยของความสามารถใน
การปฏบิ ตั ิงานของตน และสามารถพฒั นาตนเองให้สอดคล้องกบั ความต้องการจาเป็นของหน่วยงาน และ
ของตนเองอย่างแทจ้ รงิ อีกทั้งจะทาให้การพัฒนาครูดาเนินไปอย่างประหยัด และสอดคล้องกบั นโยบายของ
รัฐบาล

การพัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษามงุ่ เนน้ ให้มสี มรรถนะตามมาตรฐานตาแหน่ง และ
มาตรฐานวชิ าชพี ท้ังสมรรถนะหลัก (Core Competency) สมรรถนะการปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ที่ หรือ
สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) และสมรรถนะเฉพาะตามกลุ่มสาระ
(Specificational Competency) ตามท่ี ก.ค.ศ.กาหนด โดยยึดหลกั การประเมนิ สมรรถนะ
(Competency Based Approach) เพราะจะทาใหผ้ ู้ปฏบิ ัติงานสามารถรูจ้ ดุ เดน่ จดุ ดอ้ ยของ
ความสามารถในการปฏิบตั ิงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเปน็ ของ
ตนเอง และหน่วยงาน

ระบบการพฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบนั ได้มุ่งเนน้ ให้
ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองตามแนวทางดงั กล่าว โดยเริ่มต้นจากการประเมิน
สมรรถนะ การจัดทาแผนพัฒนาตนเอง และดาเนินการพัฒนาตามแผนพฒั นาตนเองจนมีสมรรถนะตาม
ความตอ้ งการของหนว่ ยงาน เพ่ือให้ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาสามารถดาเนินการพัฒนาตนเองตาม
ระบบการพฒั นาครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาได้อย่างถูกต้องตามกระบวนการ สามารถพัฒนาสมรรถนะ
ของตนเองเพ่มิ ขน้ึ และสง่ ผลตอ่ ผู้เรยี นทร่ี บั ผิดชอบ (สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการ
ศกึ ษา. 2551)ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของงานขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนหรือบุคคล ในการปฏิบัตงิ าน ถ้า
บคุ คลใดเป็นบุคคลท่ีมีคณุ ภาพหรือทางการ(วิชาการ)จะเรียกว่า มสี มรรถนะ (Competency)
(ความสามารถของบคุ คลในทุก ๆ ดา้ นทงั้ ด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ทักษะและคุณลกั ษณะ
คุณธรรมท่ีจาเปน็ ต่อการปฏิบัตงิ านให้บรรลไุ ด้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ) ทีส่ งู ยอ่ มส่งผลต่อคุณภาพของงานใน
หนา้ ท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย ปัจจบุ ันในวงราชการก็ได้นาสมรรถนะเป็นตวั ชว้ี ดั ความสามารถของบุคคล ซง่ึ
สมรรถนะโดยท่วั ไปจะแบง่ เป็น 2 สมรรถนะ คือ

สมรรถนะหลัก (Core Competency) หมายถึง สมรรถนะที่ทุกคนต้องมีหรือปฏิบัติได้ เป็น
คุณลักษณะร่วมกันของบุคคลทุกตาแหน่ง ตัวอย่าง สมรรถนะหลักของครูและบุคลากรทางการศึกษา
ประกอบดว้ ย การมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ การบรกิ ารทด่ี ี การพัฒนาตนเอง การทางานเปน็ ทมี

และสมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) เปน็ สมรรถนะที่กาหนดเฉพาะสาหรับ
แต่ละตาแหน่ง เพื่อให้บุคคลที่ดารงตาแหน่งน้ัน แสดงพฤติกรรมท่ีเหมาะสมกับหน้าที่และสามารถปฏิบัติ
หน้าท่ีได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่าง สมรรถนะประจาสายงานของครู ประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้ การพัฒนา
ผู้เรียน การบริหารจัดการชั้นเรียน การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวิจัย การสร้างความร่วมมือกับชุมชน
ตวั อย่าง สมรรถนะหลกั ของบุคลากรทางการศกึ ษา ประกอบด้วย การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวิจัย การ
ส่ือสารและการจงู ใจ การพฒั นาศกั ยภาพบคุ คล การมวี ิสยั ทศั น์

สาหรับการพัฒนาบุคคลในอดีตท่ีผ่านมา เป็นการพัฒนาแบบเหมารวมหรือยกเข่ง หมายความว่า
เมื่อเร่ืองใดท่ีหน่วยงานต้องการพัฒนา ก็จะพัฒนาแบบปูพรมคือพัฒนาทุกคนไม่รู้ว่ามีความรู้หรือไม่มี
ต้องการหรือไม่ต้องการ เป็นปัญหาหรือไม่เป็นปัญหา แต่จะพัฒนาหมด สิ่งท่ีเป็นปัญหาของการพัฒนา
รปู แบบน้ีก็คือความไม่คุ้มค่า คือผู้เข้าร่วมพัฒนาจะสนใจเฉพาะบุคคลท่ีต้องการ อยากรู้ อยากทราบเท่าน้ัน
สาหรับกลุ่มคนทเ่ี หลอื เปน็ กลุ่มบุคคลที่ไม่ต้องการ ก็จะไม่ให้ความสาคัญ ไม่สนใจ ทาให้เป็นอุปสรรคในการ
พฒั นา

ทางแก้ท่ีคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ คือ การพัฒนาบุคคลตามแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล(Individual
Development Plan: ID PLAN)โดยจะต้องผ่านกระบวนการประเมินสมรรถนะ ที่ประกอบด้วย การ
ประเมินตนเอง ร่วมกับเพ่ือนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาร่วมประเมิน นาผลสรุปผล ว่าสมรรถนะใดที่
จาเป็นต้องพัฒนาและสมรรถนะใดท่ีไม่จาเป็นต้องพัฒนา ต่อจากนั้นนามาจัดอันดับสมรรถนะที่จาเป็นต้อง
พัฒนา พร้อมให้เหตุผลประกอบ ว่าการพัฒนาสมรรถนะดังกล่าวจะส่งผลต่ออะไร ต่อใคร เช่น จะส่งผลต่อ
คุณภาพของนักเรียน หน่วยงาน ชุมชน วงการวิชาชีพ หรือตนเอง เป็นต้น หลักการจัดอันดับความสาคัญ
สมรรถนะทจี่ าเปน็ เร่งดว่ นในการพฒั นาของครู คือ ส่งผลตอ่ คุณภาพของนักเรียนเป็นหลัก สาหรับต่อตนเอง
ควรเป็นอนั ดบั สุดทา้ ย

จากนน้ั นาไปสู่การเขียนแผนพฒั นาตนเองรายบุคคล โดยให้นาเสนอรูปแบบ วิธีการพัฒนาในแต่ละ
สมรรถนะ หลาย ๆ รูปแบบเพ่ือเป็นทางเลือกในการพัฒนา พร้อมกับกาหนด ช่วงระยะเวลาท่ีจะพัฒนา
(เร่มิ ต้นและสน้ิ สุด) และหน่วยงานหรอื องค์กรทีจ่ ะขอรบั การสนบั สนนุ ในการพฒั นา

ซ่ึงจะเห็นว่าการพัฒนา โดยใช้ ID-PLAN จะเป็นการพัฒนาท่ีสนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล
สนองความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ท่ีมีประสิทธิภาพต่อไป
และจะเป็นการพัฒนาท่ีต่อเน่ืองจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
และเปน็ ข้าราชการทด่ี ตี ่อไป (ยืนยง ราชวงษ์, 2551)

บทท่ี 2
แผนการพฒั นาตนเอง ( ID Plan )
ส่วนท่ี 1 ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ นางวลั ยล์ ิกา สุรนิ ทราบูรณ์ ตาแหน่ง ครู คศ.1
อายุการทางาน 7 ปี
วฒุ กิ ารศกึ ษา ปริญญาตรี ครุศาสตร์บณั ฑิต วิชาเอก ภาษาอังกฤษ
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุรนิ ทร์
ปรญิ ญาโท ศึกษาศาสตรม์ หาบัณฑิต สาขาวชิ า การบรหิ ารการศึกษา
มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง
อตั ราเงนิ เดือนปัจจบุ นั 24,290 บาท
ทีอ่ ยู่ทสี่ ามารถติดต่อได้ 301 หมู่ 5 ตาบลสวาย อาเภอเมือง จังหวัดสรุ ินทร์ รหสั ไปรษณยี ์
32000 เบอร์โทรศพั ท์ทบ่ี า้ น 044546562 มอื ถือ 0871249044

งานในหนา้ ที่ทร่ี ับผิดชอบ

ภาคเรียนท่ี 1/2560

1.สายงานการสอน ปฏิบัติหนา้ ท่ี ครูผู้สอน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ

วชิ า ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดบั ช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

วชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 5

วิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้น มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

วิชา ภาษาอังกฤษอ่าน เขยี น ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4

2) ปฏิบัติการสอนกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน

-กจิ กรรมผบู้ าเพญ็ ประโยชน์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 จานวน 1 ชม./สปั ดาห์

-กจิ กรรมชุมนมุ ห้องสมุด ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-6 จานวน 1 ชม./สัปดาห์

-กจิ กรรมปฏิบตั ิธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/3 จานวน 1 ชม./สัปดาห์

-กจิ กรรมโฮมรูม ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3/3 จานวน 1 ชม./สปั ดาห์

-กิจกรรมลดเวลาเรยี นเพิ่มเวลารู้

3) จานวนชั่วโมงทส่ี อน 20 ชว่ั โมง/สัปดาห์

4) ปฏบิ ัติหนา้ ทค่ี รูที่ปรึกษาช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3/3

ภาคเรียนที่ 2/2560

1.สายงานการสอน ปฏิบัติหน้าที่ ครผู ูส้ อน กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ

วชิ า ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดบั ช้ัน มธั ยมศึกษาปที ่ี 1

วชิ า ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน ระดบั ช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ 5

วชิ า ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 6

วิชา ภาษาอังกฤษอ่าน เขียน ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4

2) ปฏบิ ัตกิ ารสอนกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน

-กจิ กรรมผบู้ าเพ็ญประโยชน์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 จานวน 1 ชม./สปั ดาห์

-กจิ กรรมชุมนมุ ห้องสมุด ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1-6 จานวน 1 ชม./สัปดาห์

-กิจกรรมปฏบิ ตั ธิ รรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/3 จานวน 1 ชม./สัปดาห์
จานวน 1 ชม./สัปดาห์
-กิจกรรมโฮมรูม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3/3

-กิจกรรมลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้

3) จานวนช่วั โมงทสี่ อน 20 ชว่ั โมง/สัปดาห์

4) ปฏิบตั หิ น้าทค่ี รูที่ปรกึ ษาช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3/3

งานทไี่ ด้รับมอบหมายเป็นงานพิเศษ
1. หัวหน้างานห้องสมดุ โรงเรยี น
2. หัวหน้างานจัดเก็บขอ้ มูลนักเรยี นรายบคุ คล DMC
3. รองหวั หนา้ งานแนะแนว
4. รองหวั หน้างานสานักงานด้านการบรหิ ารท่วั ไป
5. รองหวั หน้างานพัฒนาระบบและเครือขา่ ยขอ้ มูลสารสนเทศ
6. รองหวั หนา้ งานวางแผนบริหารการศึกษาแผนพฒั นาการศกึ ษาแผนปฏิบัติการประจาปี
7. รองหวั หน้างานวจิ ัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาพฒั นานโยบายและแผน
8. รองหัวหนา้ งานเทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษา
9. ผ้ชู ่วยงานสวสั ดภิ าพนกั เรยี น
10. ผชู้ ว่ ยงานระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี น
11. ผชู้ ว่ ยงานโรงเรยี นคุณธรรม
12. ปฏบิ ัติหนา้ ทอ่ี ื่นตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
13. งานครูท่ีปรึกษาชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3/3

บทท่ี 3
การดาเนนิ งานตามแผนการพฒั นาตนเอง
การวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ (Individual Development Planning :
IDP) รายวิชา ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน ชั้น ม.1, ม.4 , ม.5 , ม.6 โรงเรียนทงุ่ มนวิทยาคาร อาเภอปราสาท
จังหวัดสุรินทร์ มีผลที่คาดว่าจะได้รับจากการวางแผนการพัฒนาตนเอง 2 ด้าน คือ ด้านสมรรถนะ
หลกั และสมรรถนะประจาสายงาน ซึ่งมีรายละเอียดดงั นีค้ ือ
ดา้ นสมรรถนะหลกั มีการพัฒนาตนเองใน 4 ด้าน คือ
1. การมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ ไดแ้ ก่
1.1 ความสามารถในการวางแผนการปฏิบตั งิ าน
1.2 ความสามารถในการปฏบิ ัติงาน
1.3 ผลการปฏบิ ตั งิ าน
2. การบรกิ ารท่ีดี ไดแ้ ก่
2.1 ความสามารถในการสรา้ งระบบการใหบ้ รกิ าร
2.2 ความสามารถในการให้บริการ
3. การพัฒนาตนเอง ไดแ้ ก่
3.1 ความสามารถในการพัฒนาตนเอง
3.2 ความสามารถในการใช้ภาษาไทยเพ่ือการส่ือสาร
3.3 ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษเพอ่ื การแสวงหาความรู้
3.4 ความสามารถในการติดตามความเคลอ่ื นไหวทางวชิ าการและวชิ าชพี
3.5 ความสามารถในการประมวลความรแู้ ละนาความรไู้ ปใช้
4. การทางานเป็นทมี ได้แก่
4.1 ความสามารถในการวางแผนเพือ่ การปฏิบัตงิ านเปน็ ทีม
4.2 ความสามารถในการปฏิบัติงานรว่ มกนั
ด้านสมรรถนะประจาสายงาน มีการพฒั นาตนเองใน 5 ดา้ น คือ
1. การจดั การเรยี นรู้
1.1 ความสามารถในการสร้างและพัฒนาหลักสูตร
1.2 ความสามารถในเนื้อหาสาระท่สี อน
1.3 ความสามารถในการจดั กระบวนการเรยี นรู้ที่เน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ
1.4 ความสามารถในการใช้และพัฒนานวตั กรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพื่อการจัดการ
เรยี นรู้
1.5 ความสามารถในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้
2. การพัฒนาผ้เู รียน
2.1 ความสามารถในการปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม
2.2 ความสามารถในการพัฒนาทักษะชวี ิต สุขภาพกายและสุขภาพจิต
2.3 ความสามารถในการปลกู ฝังความเปน็ ประชาธิปไตย
2.4 ความสามารถในการปลุกฝงั ความเป็นไทย
2.5 ความสามารถในการจดั ระบบดูแลและช่วยเหลือผู้เรียน

3. การบรหิ ารจดั การชั้นเรยี น
3.1 ความสามารถในการจัดบรรยากาศการเรียนรู้
3.2 ความสามารถในการจัดทาข้อมลู สารสนเทศและเอกสารฯ
3.3 ความสามารถในการกากับดูแลช้นั เรียน

4. การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการวิจัย
4.1 ความสามารถในการวเิ คราะห์
4.2 ความสามารถในการสงั เคราะห์
4.3 ความสามารถในการเขยี นเอกสารทางวิชาการ
4.4 ความสามารถในการวิจัย

5. การสรา้ งความร่วมมือกบั ชมุ ชน
5.1 ความสามารถในการนาชมุ ชนมีส่วนรว่ มในกิจกรรมสถานศึกษา
5.2 ความสามารถในการเขา้ ร่วมกิจกรรมของชมุ ชน

นอกจากน้ี จะต้องมีการพัฒนาด้านคุณลกั ษณะท่จี าเปน็ ในการพฒั นาวชิ าชพี คอื ดา้ นวินัย
คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพ ไดแ้ ก่

1. การมวี ินยั
2. การประพฤติ ปฏิบตั ติ นเป็นแบบอย่างทีด่ ี
3. การดารงชีวิตอย่างเหมาะสม
4. ความรกั และศรทั ธาในวิชาชีพครู
5. ความรับผิดชอบในวิชาชพี

ผลงานดา้ นการจัดการเรยี นการสอนท่ีเกดิ จากการปฏิบัติหนา้ ทีใ่ นตาแหนง่ ปจั จบุ ัน
1. ผลทเี่ กิดจากการจัดการเรียนรู้
ไดด้ าเนนิ การจดั กิจกรรมการเรียนรใู้ หก้ บั นักเรยี น โดยร่วมกับคณะครูจดั ทาหลักสตู รสถานศึกษา
ระดบั มธั ยมศึกษา วเิ คราะหห์ ลกั สตู ร จดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้และนาแผนการจดั การเรยี นรู้ไป
ใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กบั นกั เรียน มีการวัดผลประเมนิ ผลตามสภาพจริง โดยใช้ ชน้ิ งาน
แบบฝกึ แบบทดสอบ โดยการวดั ผลประเมินผลดงั กล่าวครอบคลุมทุกๆดา้ น ไดแ้ ก่ ด้านความรู้
การปฏิบัติ กระบวนการและคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ทัง้ น้ีเพ่อื สง่ เสริมพฒั นาการของนักเรียนท้งั
4 ด้าน ไดแ้ ก่ ด้านรา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม และสติปัญญา และมีคณุ ธรรม จริยธรรม ท้งั น้ี
เพื่อใหน้ กั เรยี นมีพัฒนาการท่ีดี มีคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ตลอดจนมีการบนั ทกึ หลังการจดั
กิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสมา่ เสมอ ท้ังน้เี พื่อจะไดช้ ่วยแก้ไขข้อบกพร่องใหก้ บั นกั เรยี นทม่ี ี
ปญั หา
2. ผลทเ่ี กดิ จากการพัฒนาวิชาการ
ผลทเี่ กดิ จากการพฒั นาทางด้านวชิ าการ มีการพัฒนาผเู้ รยี นดา้ นคุณธรรม จริยธรรมความมีวินัยใน
ตนเอง พัฒนาการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าภาษาอังกฤษให้ทันเหตกุ ารณ์ พร้อมรับตอ่ การเปลยี่ นแปลง
และก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

3. ผลทเ่ี กิดกบั ผ้เู รียน
การจัดกจิ กรรมการการเรียนการสอนโดยเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ มกี ารให้นกั เรยี นไดฝ้ กึ การ
ปฏิบัตจิ รงิ เพอ่ื ให้นักเรียนได้มีทกั ษะต่างๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมทด่ี งี าม
ความมีวินัยในตนเอง ส่งผลให้ผูเ้ รียนมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม มวี ินยั ในตนเอง มีสัมมาคารวะมี
มารยาทตามวัฒนธรรมไทย มคี วามสามารถในการใชภ้ าษาในการส่อื สาร และการมี
จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเปน็ ส่งิ ที่ผู้เรียนสามารถนาความรู้ความเข้าใจและ
ทักษะไปบูรณาการและประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั เป็นการเพิ่มพูนสมรรถนะตนเองให้
มากขึน้ และส่งผลใหก้ ารใชช้ วี ติ ภายหน้า บนพน้ื ฐานคุณธรรม นาความรู้ และเศรษฐกิจ
พอเพียง ตลอดจนการอยู่รว่ มกันในสังคมได้อย่างมีความสขุ

4. ผลที่เกดิ กบั สถานศกึ ษา
จากการท่ีสถานศึกษามีแผนกลยุทธใ์ นการพฒั นา มเี ป้าหมาย มีทศิ ทางในการดาเนินงานเพ่อื
พัฒนาสถานศึกษา นักเรยี น โดยมีการจัดกิจกรรม โครงการตา่ งๆอย่างเปน็ รปู ธรรม ซ่ึงนกั เรยี น
และครมู ีสว่ นรว่ มในการปฏิบตั กิ ิจกรรม ทาใหผ้ ลการดาเนินงานเปน็ ที่ยอมรับของผปู้ กครอง
ชมุ ชน ทอ้ งถ่ิน ดงั มีผลงานเปน็ ทป่ี รากฏ ดงั น้ี
1. สถานศกึ ษาได้ผา่ นการประเมินของสานักงานรับรองมาตรฐานการศึกษาจากองคก์ รมหาชน
( สมศ. ) รอบท่ี 3 ในระดบั ดีและดีมาก
2. สถานศกึ ษาได้รับคดั เลือกให้เปน็ โรงเรยี นดีประจาตาบล
นอกจากนนั้ สถานศึกษายังได้รับการยอมรบั จากผู้ปกครองและชุมชนในด้านการดแู ลเอาใจใส่
ของครูท่ีมตี ่อนักเรียนในดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน การดแู ลด้านพฤติกรรม
คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงคด์ า้ นกริ ยิ า มารยาท ความมวี ินยั ในตนเอง ความรับผิดชอบ

5. ผลทเ่ี กิดกบั ชุมชน
สถานศึกษามีสว่ นร่วมกับชมุ ชน ในกจิ กรรมต่างๆตลอดปีการศกึ ษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่

เกีย่ วกบั วฒั นธรรม ประเพณี และพธิ ีกรรมทางศาสนา เช่น ประเพณีแหเ่ ทยี นเขา้ พรรษา ประเพณี
ลอยกระทง ประเพณสี งกรานต์ การทอดผา้ ป่า ทอดกฐนิ เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์
กจิ กรรมวันสาคัญ ไดแ้ ก่ กิจกรรมวันแม่ กจิ กรรมส่งเสรมิ ภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่น จนทาให้เกดิ ความร่วมมือ
ความเขา้ ใจทดี่ ตี ่อกัน เกดิ ความรกั และความภาคภมู ิใจในโรงเรียนและท้องถ่ิน นอกจากนีโ้ รงเรียนยังได้
จัดกจิ กรรมการประชมุ ผปู้ กครอง ประชมุ คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐานในแตล่ ะภาคเรยี นเพ่ือ
ช้ีแจงนโยบายของโรงเรียนและเพื่อหาแนวทางในการรว่ มพัฒนาโรงเรียนทัง้ พัฒนาอาคารสถานท่ีและ
พฒั นาทางวชิ าการใหเ้ ป็นไปในทางทศิ ทางเดยี วกัน

ส่วนที่ 2 รายละเอียดการพัฒนาตนเอง

อันดับ วธิ ีการ/รูปแบบการพฒั
ความ สรรถนะทีจ่ ะพฒั นา
สาคัญ - ศึกษาต่อหลกั สูตรระยะสนั้ จา
สถาบันการศึกษาตา่ งๆ ที่เปิดก
1 ดา้ นสมรรถนะหลกั ฝึกอบรม
1. การมงุ่ ผลสมั ฤทธิ์ - พัฒนาตนเองโดยการศกึ ษาจ
1.1 คณุ ภาพงานดา้ นความถูกต้อง - ศึกษาจากผเู้ ชย่ี วชาญ
ครบถว้ น สมบูรณ์ - จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ทเี่ น้นผ
1.2 ความคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์ การนา สาคัญ
นวัตกรรม/ทางเลือกใหม่ๆ มาใชเ้ พ่อื เพม่ิ - จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นใ
ประสทิ ธิภาพของงาน ปฏบิ ัติจรงิ
1.3 ความมุ่งมนั่ ในการพัฒนาตนเอง - จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ดยใช้ส
อย่างต่อเนอื่ ง นวตั กรรมทีน่ า่ สนใจท้ังทางเทค
แหล่งเรยี นรู้
2 2. การบรกิ ารที่ดี - พฒั นาตนเองจากผลสะท้อนจ
2.1 การบรบั ปรงุ ระบบบริการ ผู้รบั บรกิ าร(ผู้บรหิ าร/ครู/นักเร
2.2 ความพงึ พอใจของผู้รบั บริการ ผปู้ กครอง/ชมุ ชน)
- ไดใ้ หบ้ รกิ ารทางดา้ นโสตทัศน
ครูและบคุ ลากรทางการศึกษาท
โรงเรียนและนอกโรงเรียน

ระยะเวลาในการ การขอรับการ
ฒนา พัฒนา สนบั สนุนจาก ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ ับ

เรมิ่ ต้น ส้นิ สดุ หนว่ ยงาน

าก 16 พ.ค. 31 มี.ค. โรงเรยี น - ครมู คี วามรูค้ วามสามารถ
การ 2560 2561 ทงุ่ มนวทิ ยาคาร ในการสอนมากยง่ิ ขึ้น

จากส่อื ตา่ งๆ -โรงเรียนมีครูทม่ี คี ุณภาพ
ทางด้านการสอน
ผูเ้ รยี นเปน็ - ผเู้ รยี นใหส้ นใจ ตงั้ ใจ มี
ความกระตอื รือรน้ ที่จะ
ให้ผู้เรียนได้ เรยี นรู้ มผี ลสมั ฤทธท์ิ างการ
เรยี นท่ดี ขี ้นึ มที ักษะในการ
ส่ือ ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามศักยภาพ
คโนโลยแี ละ ของแต่ละบุคคล

จาก 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. - มเี จตคติท่ดี ีต่อการ
รยี น/ 2560 2561 โรงเรยี น ให้บรกิ าร
ทุง่ มนวทิ ยาคาร - เกดิ ผลดตี อ่ เพื่อนรว่ มงาน
นปู กรณ์แก่
ท้ังใน ในโรงเรยี นและตา่ งโรงเรียน

อันดับ

ความ สรรถนะท่จี ะพัฒนา วธิ กี าร/รูปแบบการพัฒ

สาคัญ

3 3. การพัฒนาตนเอง - เข้ารบั การอบรม สมั มนาทห่ี น

3.1 การศึกษาคน้ คว้า หาความรู้ ดว้ ย สงั กดั หน่วยงานอน่ื ๆจดั ขึ้น

การเข้าประชมุ ทางวชิ าการ อบรม สัมมนา - ศึกษาดูงานโรงเรยี นตน้ แบบ

หรือวิธีการอืน่ ๆ ตน้ แบบเพื่อนามาพฒั นาตนเอง

3.2 การรวบรวมและประมวลความรูใ้ น - แลกเปลีย่ นเรยี นร้กู บั บคุ ลาก

การพัฒนาองค์กรและวิชาชีพ โรงเรียน

3.3 การแลกเปลยี่ นความคิดเห็นดา้ น - ศกึ ษาเอกสาร ผลงานทางวิชา

วชิ าการในหมเู่ พ่ือนร่วมงาน ตารา วารสาร

- สบื คน้ ความรทู้ างอนิ เตอรเ์ น็ต

4 4. การทางานเปน็ ทีม - พัฒนาตนเองจากการทางานเ

4.1 การให้ความรว่ มมือ ชว่ ยเหลือ ความรว่ มมือ ชว่ ยเหลอื สนบั ส

สนบั สนนุ เพื่อนร่วมงาน รว่ มงาน

4.3 การแสดงบทบาทผูน้ าหรือผ้ตู ามได้ - พัฒนาตนเองจากการศกึ ษาก

อยา่ งเหมาะสม ของผู้อน่ื ในด้านบาทบาทผู้นาแ

4.3 การปรับตวั เข้ากับสถานการณ์และ - ร่วมกิจกรรมท่ีเนน้ การทางาน

กลุม่ คนทหี่ ลากหลาย - ยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของเพ

ร่วมงาน โดยร้จู กั การเปน็ ผ้ใู ห้แ

- มคี วามสามคั คใี นหมู่คณะ

ฒนา ระยะเวลาในการ การขอรับการ
พัฒนา สนับสนุนจาก ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ
น่วยงานต้น หน่วยงาน
เรมิ่ ต้น สน้ิ สุด
บคุ ลากร โรงเรียน - ตนเองเป็นผู้มีคุณภาพ
ง 16 พ.ค. 31 มี.ค. ทุ่งมนวิทยาคาร ได้รบั การพัฒนาไปใน
กรใน 2560 2561
ทศิ ทางทดี่ ขี น้ึ ส่งผลและเกดิ
ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียน
โรงเรยี นและชมุ ชน

าการจาก

ต 16 พ.ค. 31 มี.ค. - มสี ามคั คภี ายในองค์กร
เป็นทีม ให้ 2560 2561 โรงเรียน - สามารถทางานร่วมกบั
สนุนเพ่ือน ท่งุ มนวิทยาคาร ผ้อู ืน่ ได้อย่างราบรืน่ บรรลุ

การทางาน เปา้ หมาย
และผตู้ าม - เกิดความสามคั คีในหมู่
นเป็นทมี คณะ ส่งผลใหก้ าร
พ่ือน ดาเนินงานตา่ งๆบรรลุผล
และผู้รบั ทด่ี ี สาเร็จตลอดจนการมี
ความสุขในการปฏิบัติงาน

อนั ดบั

ความ สรรถนะทจี่ ะพัฒนา วิธีการ/รปู แบบการพฒั

สาคญั

5 5. วินัย คณุ ธรรม จริยธรรมและ - เข้ารับการอบรมพัฒนาดา้ นค

จรรยาบรรณวชิ าชพี จรยิ ธรรมอยา่ งนอ้ ยปลี ะ 1 คร

9.1 การมวี ินยั - ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนในการดาร

9.2 การประพฤติปฏบิ ัติตนเปน็ แบบอย่าง ยึดหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพ

ทด่ี ี - ประพฤตปิ ฏิบัติตนในวชิ าชพี

9.3 การดารงชวี ติ อย่างเหมาะสม ศรทั ธาในวชิ าชพี ของตนเอง โด

9.4 ความรกั และศรัทธาในวิชาชีพ ตนเอง

ความรบั ผดิ ชอบในวิชาชีพ

ฒนา ระยะเวลาในการ การขอรับการ
พฒั นา สนบั สนนุ จาก ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รบั
คณุ ธรรม หนว่ ยงาน
ร้ัง เริม่ ต้น สน้ิ สดุ
รงชวี ิตโดย - ตนเองเป็นผู้ท่ีมีคณุ ธรรม
พยี ง 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรียน จรยิ ธรรม มวี นิ ัย มคี วาม
พโดยรักและ 2560 2561 ทงุ่ มนวิทยาคาร รับผดิ ชอบ มีความก้าวหนา้
ดยมีวินัยใน
ในวชิ าชพี ที่สงู ยงิ่ ๆข้ึน

อันดับ

ความ สรรถนะทจี่ ะพัฒนา วิธีการ/รูปแบบการพฒั

สาคญั

ดา้ นสมรรถนะประจาสายงาน - เขา้ รบั การอบรม สัมมนา ศึก

1 1. การออกแบบการเรียนรู้ ศกึ ษาเอกสารเกีย่ วกับหลักสตู ร

1.1 ความรูค้ วามเข้าใจเร่อื งการ ออกแบบการเรยี นรู้ การเขียน

ออกแบบการเรยี นรู้ จัดประสบการณ์ การวดั ผลประ

1.2 ความสามารถในการออกแบบการ เพ่อื พฒั นาตนเอง

เรียนรู้ - เขา้ รบั การอบรมเก่ียวกับการ

1.3 การนาผลการออกแบบการเรยี นรู้ การใชส้ ือ่ ประเภท ICT ทีห่ นว่ ย

ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ ทุกๆครั้ง

2 2. การพัฒนาผู้เรยี น - จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ ปลกู ฝงั ค

2.1 การปลกู ฝงั คณุ ธรรมจรยิ ธรรม จรยิ ธรรมที่ดงี ามให้กับผเู้ รียนอ

ใหแ้ ก่ผเู้ รียน การอบรมหน้าเสาธง กิจกรรม

2.2 การพัฒนาทักษะชีวิต สุขภาพ - จัดโครงการอบรมคณุ ธรรมจร

กาย และสุขภาพจิตของผ้เู รยี น (ค่ายพุทธบุตร) นกั เรยี นทกุ ระด

2.3 การปลูกฝงั ความเป็น ครูทกุ คน

ประชาธปิ ไตย - สง่ เสริมผ้เู รยี นตามความถนัด

2.4 การปลูกฝังความเป็นไทย ความสามารถแตล่ ะบุคคล

2.5 การจดั ระบบดูแลและชว่ ยเหลือ

ผเู้ รียน

ฒนา ระยะเวลาในการ การขอรับการ ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ
พฒั นา สนบั สนุนจาก
กษาดงู าน หน่วยงาน - ตนเองมคี วามสามารถใน
ร การ เรม่ิ ตน้ สิน้ สุด การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
นแผนการ 16 พ.ค. 31 มี.ค. โรงเรยี น โดยมีความรู้เร่ืองการเขียน
ะเมินผล 2560 2561 ทุ่งมนวิทยาคาร แผนการจัดประสบการณ์
การวัดผลประเมนิ ผล
รผลิตสื่อ 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรยี น ตลอดจนการผลิตสอื่ การใช้
ยงานจัดขนึ้ 2560 2561 ทงุ่ มนวิทยาคาร สื่อ ประเภท ICT สง่ ผลต่อ
การจัดกจิ กรรมให้กับผูเ้ รยี น
คณุ ธรรม อยา่ งสงู สดุ
อยู่เสมอโดย - ผู้เรียนมีคณุ ธรรม
มโฮมรูม จรยิ ธรรมและคุณลักษณะที่
รยิ ธรรม พึงประสงค์ มที ักษะชีวิต
ดบั ชัน้ และ เปน็ ท่ยี อมรับของสงั คม



อันดบั วธิ ีการ/รปู แบบการพฒั
ความ สรรถนะท่ีจะพัฒนา
สาคัญ

3 3. การบริหารจัดการชน้ั เรียน - จดั บรรยากาศในชั้นเรียนให้เอ

3.1 การจัดบรรยากาศการเรยี นการ เรยี นรู้

สอน - จดั มมุ ประสบการณ์ตา่ งๆเพ่ือ

3.2 การจดั ทาขอ้ มลู สารสนเทศและ แหลง่ เรยี นรู้

อกสารประจาชัน้ เรียน/ประจาวชิ า - จดั ปา้ ยนิเทศเพ่ือเป็นข้อมลู ข

3.3 การกากับดูแลชัน้ เรยี น/ประจา สาหรบั การเรยี นรู้

วชิ า - จัดทาเอกสารงานธรุ การในชนั้

เป็นปจั จบุ ัน

- จัดระบบการดแู ลชว่ ยเหลือผ

ข้อมูลไปใช้ในการพฒั นาผเู้ รยี น

4 4. การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และการ - เข้ารบั การอบรม พฒั นาการจ

วจิ ัย การเรยี นรู้ จัดทาสือ่ การเรียนร

4.1 การวเิ คราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา พัฒนาคณุ ภาพของครูและผ้เู รีย

จดุ แข็ง จดุ อ่อนของสถานศึกษา และการ - ศึกษาเอกสาร ตาราในการจัด

วิเคราะห์แผนการจัดการเรยี นรู้ ทางวิชาการ

4.2 การสังเคราะห์จดั ทาแผนงาน/ - ศกึ ษาผลงานตัวอย่างในการท

โครงการเพ่ือการจัดการเรียนรู้ การบรู ณา ทางวชิ าการ

การให้สอดคลอ้ งกับวถิ ชี วี ติ ประจาวัน - ดาเนนิ การวิจัยในชั้นเรียนเพื่อ

4.3 การเขียนเอกสารทางวิชาการ ตลอดจนพฒั นาผเู้ รยี น

4.4 ความสามารถในการทาวจิ ัย

ฒนา ระยะเวลาในการ การขอรบั การ ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั
พัฒนา สนบั สนุนจาก
อ้อื ต่อการ หน่วยงาน - ห้องเรยี นมีบรรยากาศที่
อใหเ้ ป็น เริ่มต้น สน้ิ สดุ เอือ้ ต่อการเรียนรู้ ผู้เรยี นมี
ข่าวสาร โรงเรียน ความสุขในการเรยี นรู้ ครูมี
นเรยี นให้ 16 พ.ค. 31 มี.ค. ทงุ่ มนวทิ ยาคาร ขอ้ มูลต่างๆอย่างเป็น
2560 2561 ปัจจุบันท่ีสามารถเปน็
แบบอย่างได้

ผเู้ รียนและ 16 พ.ค. 31 มี.ค. - ครมู คี วามรคู้ วามสามารถ
น 2560 2561 โรงเรยี น ในการเขียนผลงานทาง
จดั กจิ กรรม ทุ่งมนวทิ ยาคาร วิชาการและวจิ ัยในช้ันเรียน
รู้ เพื่อ
ยน แบบงา่ ยได้
ดทาเอกสาร - ผู้เรยี นไดร้ ับการแก้ปัญหา
ทีถ่ กู วธิ โี ดยครูทาการวจิ ยั ใน
ทาผลงาน ชน้ั เรยี น
- ครูมกี ารทาวิจัยในชั้นเรียน
อแก้ปัญหา อย่างต่อเนือ่ ง

อันดบั

ความ สรรถนะที่จะพัฒนา วธิ กี าร/รูปแบบการพัฒ

สาคัญ

5 5. ภาวะผู้นาครู - กระตุ้นจงู ใจ ปรับเปลี่ยนควา

5.1 วุฒิภาวะความเป็นผใู้ หญ่ทเ่ี หมาะสม กระทาของผอู้ น่ื ให้มคี วามผกู พ

กบั ความเป็นครู ต่อเปา้ หมายในการทางานรว่ ม

5.2 การสนทนาอย่างสร้างสรรค์ -ใชท้ กั ษะการฟัง การพดู และก

5.3 การเป็นบุคคลแห่งการเปลยี่ นแปลง คาถาม เปดิ ใจกว้าง ยดื หยุน่ ย

5.4 การปฏิบตั ิงานอย่างไตรต่ รอง ทัศนะท่หี ลากหลายของผู้อน่ื เพ

5.5 การมงุ่ พฒั นาผลสัมฤทธ์ผิ ู้เรยี น แนวทางใหมๆ่ ในการปฏิบตั งิ า

- สบื เสาะข้อมูล ความรูท้ างวิช

-ใหค้ วามสนใจต่อสถานการณ

เปน็ ปัจจุบัน

- สนับสนุนความคดิ ริเรมิ่

6 6. การสรา้ งความร่วมมอื กับชมุ ชน - ดาเนนิ การประชมุ ผู้ปกครอง

6.1 การนาชุมชนมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม สถานศกึ ษาเพื่อชแี้ จงนโยบาย

สถานศกึ ษา ทางการจัดกิจกรรมของสถานศ

6.2 การเขา้ รว่ มกจิ กรรมของชมุ ชน - ขอความร่วมมือจากชุมชนบา

เขา้ ร่วมกิจกรรมของชุมชนทุกๆ

ประเพณีและกจิ กรรมท่ีเปน็ ปร

ระยะเวลาในการ การขอรับการ
ฒนา พฒั นา สนับสนุนจาก ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั
หน่วยงาน
เริ่มตน้ สิน้ สุด
โรงเรยี น - นักเรยี นให้ความเคารพ
ามคิดและการ ทุ่งมนวทิ ยาคาร และมีความมงุ่ มน่ั ในการ
พนั และมงุ่ มั่น 16 พ.ค. 31 มี.ค.
มกนั 2560 2561 ทางานรว่ มกนั
การตั้ง - มกี ารสนทนาที่สร้างสรรค์
ยอมรบั และยืดหยุน่ ระหว่างครูและ
พอ่ื เปน็ นกั เรยี น
าน - ทนั ตอ่ เหตกุ ารณ์ต่างๆที่
ชาชพี ใหม่ๆ เกิดขน้ึ และมีความร้คู วาม
ณ์ต่างๆ ที่ เขา้ ใจในการรบั สารจากสอื่
ตา่ งๆ
/กรรมการ 16 พ.ค. 31 มี.ค. - มคี วามคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์
แนว 2560 2561
ศึกษา โรงเรียน - ชุมชนให้ความรว่ มมอื ใน
างโอกาส ทุ่งมนวทิ ยาคาร กจิ กรรมตา่ งๆทส่ี ถานศกึ ษา
ๆครงั้ ท้ังงาน
ระโยชน์ จดั ข้นึ อยา่ งเต็มใจ
- ชมุ ชนมคี วามพึงพอใจใน
กิจกรรมทีผ่ ้เู รียน และ
สถานศกึ ษาจดั ขนึ้
-ไดร้ ับความร่วมมือเป็นอยา่ ง
ดีจากชมุ ชน

ส่วนที่ 3 ตารางสรุปแผนพัฒนาตนเอง
ตามทขี่ ้าพเจ้าไดจ้ ัดทาแผนพัฒนาตนเอง รายละเอียดตามขอ้ มลู ส่วนท่ี 1 และส่วนท่ี 2

อันดบั สมรรถนะ รปู แบบการพัฒนา
ความ

สาคัญ

1 การออกแบบการเรยี นรู้ - เขา้ รับการอบรม สมั มนา ศึกษาดงู าน

ศึกษาเอกสารเกี่ยวกับหลักสูตร การ

ออกแบบการเรยี นรู้ การเขยี นแผนการจดั

ประสบการณ์ การวัดผลประเมินผลเพื่อ

พฒั นาตนเอง

- เขา้ รบั การอบรมเกย่ี วกับการผลิตสอื่ การใช

สื่อประเภท ICT ที่หน่วยงานจดั ขึน้ ทกุ ๆครัง้

2 การพัฒนาผูเ้ รยี น - จัดกิจกรรมสง่ เสรมิ ปลูกฝงั คุณธรรม

จรยิ ธรรมทีด่ ีงามให้กบั ผเู้ รียนอย่เู สมอโดยกา

อบรมหน้าเสาธง กิจกรรมโฮมรูม

- จัดโครงการอบรมคณุ ธรรมจริยธรรม(ค่าย

พุทธบุตร) นกั เรียนทุกระดับช้ันและครูทุกคน

- สง่ เสริมผเู้ รียนตามความถนัด ความสามารถ

แต่ละบคุ คล

2 นน้ั ขา้ พเจา้ ขอรายงานสรุปผลการพัฒนาตนเองในส่วนทด่ี าเนินการไปแลว้ ดังน้ี

ประโยชน์ที่ได้รบั หลักฐาน ร่องรอย เอกสารอ้างอิง

- ตนเองมีความสามารถในการจัด - แผนการสอน

กิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีความรู้เร่อื ง - รายงานการอบรม /ศึกษาดูงาน

การเขียนแผนการจัดประสบการณ์

การวัดผลประเมนิ ผล ตลอดจนการ

ผลิตสอื่ การใช้สื่อ ประเภท ICT

ช้ ส่งผลตอ่ การจดั กจิ กรรมให้กับผู้เรียน

อย่างสูงสุด

- ผู้เรียนมคี ุณธรรม จริยธรรมและ - สรปุ โครงการอบรมคุณธรรม

าร คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ มีทักษะ จรยิ ธรรม

ชีวิต เป็นท่ียอมรบั ของสงั คม - โฮมรมู (บนั ทึกการเข้าชน้ั เรียน)

-รายงานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน





อันดบั สมรรถนะ รปู แบบการพัฒนา
ความ
- จดั บรรยากาศในชั้นเรียนให้เอือ้ ต่อการ
สาคัญ เรียนรู้
- จดั มมุ ประสบการณต์ ่างๆเพื่อใหเ้ ปน็ แหล่ง
3 การบรหิ ารจดั การชั้น เรียนรู้
- จดั ปา้ ยนเิ ทศเพื่อเป็นข้อมลู ข่าวสารสาหรับ
เรียน การเรียนรู้
- จัดทาเอกสารงานธุรการในช้นั เรียนให้เป็น
4 การมุ่งผลสัมฤทธ์ิ ปัจจุบัน
- จดั ระบบการดแู ลช่วยเหลือผู้เรียนและนา
ข้อมูลไปใช้ในการพฒั นาผู้เรียน
- ศึกษาต่อหลกั สูตรระยะสน้ั จาก
สถาบนั การศึกษาต่างๆ ท่เี ปิดการฝกึ อบรม
- พัฒนาตนเองโดยการศกึ ษาจากสอื่ ตา่ งๆ
- ศึกษาจากผูเ้ ชีย่ วชาญ
- จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ที่เน้นผ้เู รยี นเปน็
สาคัญ
- จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นใหผ้ เู้ รียนได้
ปฏบิ ตั ิจริง
- จัดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้สอื่ นวตั กรรม
ทนี่ า่ สนใจทั้งทางเทคโนโลยแี ละแหลง่ เรียนรู้

ประโยชนท์ ่ีได้รบั หลกั ฐาน ร่องรอย เอกสารอ้างอิง

- หอ้ งเรียนมีบรรยากาศทเ่ี อือ้ ตอ่ การ - การปรับปรุงห้องเรียนโดยเปลย่ี น
เรียนรู้ ผูเ้ รยี นมีความสขุ ในการ บรรยากาศการนง่ั เรยี นเดี่ยว เปน็ คู่
เรยี นรู้ ครูมขี อ้ มูลต่างๆอยา่ งเปน็ หรอื กล่มุ
ปจั จบุ นั ทส่ี ามารถเป็นแบบอย่างได้ - การจดั ปา้ ยนเิ ทศตามเทศกาลและ
บ ประเพณี



- ครมู คี วามรคู้ วามสามารถในการ - รายงานการอบรม/ศึกษาดงู าน
สอนมากยิ่งขึ้น - รายงานกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน
-โรงเรียนมคี รูท่ีมคี ุณภาพทางดา้ น - รายงานโครงการตา่ งๆ
การสอน
- ผเู้ รียนใหส้ นใจ ต้ังใจ มีความ
กระตือรือร้นทีจ่ ะเรยี นรู้ มี
ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นที่ดีข้ึน มี
ทักษะในการปฏิบตั ิกจิ กรรมตาม
ม ศกั ยภาพของแต่ละบุคคล

อนั ดับ สมรรถนะ รปู แบบการพฒั นา
ความ

สาคญั

5 การพฒั นาตนเอง - เขา้ รับการอบรม สัมมนาท่หี น่วยงานตน้

สังกัด หนว่ ยงานอน่ื ๆจัดขึ้น

- ศกึ ษาดงู านโรงเรยี นต้นแบบ บคุ ลากร

ตน้ แบบเพื่อนามาพฒั นาตนเอง

- แลกเปลยี่ นเรียนรกู้ ับบคุ ลากรในโรงเรียน

- ศึกษาเอกสาร ผลงานทางวิชาการจากตารา

วารสาร

- สืบคน้ ความรูท้ างอินเตอร์เน็ต

6 การวิเคราะห์ สังเคราะห์ - เขา้ รบั การอบรม พัฒนาการจัดกจิ กรรมการ

และการวจิ ัย เรียนรู้ จดั ทาสื่อการเรียนรู้ เพ่ือพฒั นา

คณุ ภาพของครแู ละผู้เรียน

- ศึกษาเอกสาร ตาราในการจัดทาเอกสาร

ทางวิชาการ

- ศึกษาผลงานตัวอย่างในการทาผลงานทาง

วชิ าการ

- ดาเนนิ การวจิ ัยในช้นั เรียนเพอื่ แก้ปญั หา

ตลอดจนพฒั นาผู้เรียน

ประโยชน์ท่ไี ด้รบั หลกั ฐาน รอ่ งรอย เอกสารอ้างองิ

- ตนเองเปน็ ผู้มีคุณภาพ ได้รับการ - รายงานการอบรม/ศึกษาดงู าน
พฒั นาไปในทศิ ทางที่ดีขน้ึ ส่งผลและ
เกิดประโยชนต์ ่อผเู้ รียน โรงเรยี น
และชุมชน



ร - ครมู คี วามรูค้ วามสามารถในการ - วิจัยในช้นั เรยี นอย่างนอ้ ย 1 เล่ม
เขยี นผลงานทางวิชาการและวจิ ยั ใน
ชน้ั เรียนแบบงา่ ยได้
- ผู้เรยี นไดร้ ับการแก้ปัญหาที่ถกู วธิ ี
โดยครทู าการวิจยั ในชั้นเรยี น
- ครูมกี ารทาวจิ ัยในชั้นเรียนอย่าง
ตอ่ เนื่อง

อันดบั สมรรถนะ รูปแบบการพัฒนา
ความ
- พฒั นาตนเองจากการทางานเป็นทีม ให้
สาคญั ความรว่ มมอื ชว่ ยเหลอื สนับสนุนเพอ่ื น
รว่ มงาน
7 การทางานเป็นทีม - พัฒนาตนเองจากการศกึ ษาการทางานของ
ผู้อ่นื ในด้านบาทบาทผูน้ าและผูต้ าม
8 วินัย คุณธรรม - รว่ มกิจกรรมทีเ่ นน้ การทางานเป็นทีม
จริยธรรมและ - ยอมรับฟงั ความคิดเห็นของเพ่อื นรว่ มงาน
จรรยาบรรณวิชาชีพ โดยรู้จกั การเป็นผ้ใู หแ้ ละผรู้ บั ทีด่ ี
- มคี วามสามคั คใี นหมู่คณะ
- เขา้ รบั การอบรมพัฒนาดา้ นคุณธรรม
จริยธรรมอยา่ งน้อยปลี ะ 1 ครง้ั
- ประพฤติปฏิบัตติ นในการดารงชีวติ โดยยึด
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
- ประพฤติปฏิบตั ติ นในวิชาชพี โดยรักและ
ศรทั ธาในวิชาชีพของตนเอง โดยมวี นิ ยั ใน
ตนเอง

ประโยชน์ทีไ่ ด้รับ หลักฐาน รอ่ งรอย เอกสารอ้างองิ

- มีสามัคคีภายในองค์กร - รูปภาพการเข้ารว่ มกิจกรรม

- สามารถทางานร่วมกบั ผู้อืน่ ได้อย่าง - รายงานโครงการตา่ งๆ

ราบรื่น บรรลุเปา้ หมาย

ง - เกดิ ความสามัคคีในหมู่คณะ ส่งผล

ให้การดาเนนิ งานตา่ งๆบรรลุผล

สาเรจ็ ตลอดจนการมีความสุขในการ

ปฏบิ ัติงาน

- ตนเองเป็นผูท้ ี่มีคณุ ธรรม จริยธรรม - รายงานการเขา้ อบรมพัฒนาดา้ น

มวี ินยั มีความรับผดิ ชอบ มี คณุ ธรรม จริยธรรม

ความก้าวหนา้ ในวชิ าชีพทสี่ งู ย่ิงๆขน้ึ

อันดบั สมรรถนะ รูปแบบการพฒั นา
ความ
- กระตุ้นจูงใจ ปรับเปลีย่ นความคดิ และการ
สาคัญ กระทาของผูอ้ นื่ ให้มีความผกู พันและม่งุ มั่นต่อ
เปา้ หมายในการทางานร่วมกัน
9 ภาวะผนู้ าครู -ใช้ทักษะการฟัง การพูด และการตงั้ คาถาม
เปดิ ใจกวา้ ง ยืดหยุน่ ยอมรับทัศนะท่ี
10 การสรา้ งความรว่ มมือ หลากหลายของผู้อนื่ เพ่ือเปน็ แนวทางใหม่ๆ
กบั ชมุ ชน ในการปฏิบัตงิ าน
- สืบเสาะข้อมลู ความรทู้ างวิชาชพี ใหมๆ่
-ให้ความสนใจต่อสถานการณต์ ่างๆ ท่ีเปน็
ปัจจบุ นั
- สนบั สนุนความคิดริเริม่
- ดาเนนิ การประชมุ ผูป้ กครอง /กรรมการ
สถานศึกษาฯเพ่ือชีแ้ จงนโยบาย แนวทางการ
จัดกจิ กรรมของสถานศึกษา
- ขอความร่วมมือจากชมุ ชนบางโอกาส
เข้ารว่ มกจิ กรรมของชุมชนทุกๆครงั้ ทง้ั งาน
ประเพณแี ละกิจกรรมท่เี ป็นประโยชน์

ประโยชน์ท่ีได้รับ หลักฐาน ร่องรอย เอกสารอ้างองิ

- นักเรียนใหค้ วามเคารพและมคี วาม - แบบสอบถามความพงึ พอใจในการ

อ มุ่งม่นั ในการทางานรว่ มกัน เรยี นวชิ าการงานอาชพี และ

- มกี ารสนทนาท่ีสรา้ งสรรค์และ เทคโนโลยี

ยืดหยุ่นระหวา่ งครแู ละนักเรยี น - ผลงานของนักเรยี นทีเ่ กดิ จาก

- ทนั ตอ่ เหตุการณ์ตา่ งๆทเี่ กดิ ข้นึ และ ความคดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรคใ์ นวิชาการ

มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการรบั สาร งานอาชพี และเทคโนโลยี

จากสอื่ ตา่ งๆ

- มคี วามคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์

- ชมุ ชนใหค้ วามรว่ มมอื ในกจิ กรรม - รายงานโครงการการประชุม

ร ต่างๆทส่ี ถานศึกษาจัดขนึ้ อยา่ งเตม็ ใจ ผู้ปกครอง

- ชุมชนมคี วามพึงพอใจในกจิ กรรมท่ี - รปู ภาพการประชมุ ผ้ปู กครอง/

ผ้เู รียน และสถานศึกษาจดั ขน้ึ กรรมการสถานศกึ ษาฯ

-ได้รับความรว่ มมือเป็นอยา่ งดจี าก - รปู ภาพการเข้ารว่ มกิจกรรมตา่ งๆ

ชมุ ชน ท่ีชมุ ชนจดั ขึน้

- วารสารเผยแพรก่ ิจกรรมต่างๆ

เกี่ยวกับงานประเพณแี ละกิจกรรมท่ี

เป็นประโยชน์

อนั ดบั สมรรถนะ รปู แบบการพฒั นา
ความ
- พฒั นาตนเองจากผลสะท้อนจากผู้รับบริกา
สาคัญ (ผบู้ ริหาร/คร/ู นักเรียน/ผ้ปู กครอง/ชุมชน)
- ได้ให้บรกิ ารทางดา้ นโสตทัศนปู กรณ์แกค่ รู
11 การบรกิ ารทดี่ ี และบุคลากรทางการศึกษาทั้งในโรงเรียนและ
นอกโรงเรียน

สว่ นท่ี 4 ตารางรายงานผลการพัฒนาตนเอง

ประวัตกิ ารเขา้ รับการพัฒนา (ในรอบ 3 ปีทีผ่ ่านมา)

วนั ท่ี เรอื่ ง

28 กรกฎาคม การจัดประชุมวางแผนดาเนินงานก
2558 สารสนเทศ การจัดทาแผนพฒั นาค
และดาเนนิ งานตามกจิ กรรมต่าง

ดาเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวก

สานักบรหิ ารการมัธยมศกึ ษาตอนป

3-4 ตลุ าคม 2558 การเข้ารว่ มประชุมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร ก
เครอื ข่ายระบบหอ้ งสมดุ อัตโนมัติ O

ประโยชน์ทไ่ี ด้รับ หลกั ฐาน รอ่ งรอย เอกสารอ้างอิง

าร - มเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อการให้บรกิ าร - สรุปความพงึ พอใจจากโครงการ
- เกิดผลดีตอ่ เพื่อนร่วมงานใน ต่างๆ
โรงเรยี นและต่างโรงเรียน



การจดั ทาข้อมูล หน่วยงาน
คุณภาพการศกึ ษา ศูนย์กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ๆ เพอ่ื ให้การ ภาษาต่างประเทศ
กันตามนโยบาย โรงเรียนจอมพระประชาสรรค์
ปลาย โรงเรียนจอมพระประชาสรรค์
อาเภอจอมพระ จังหวดั สุรนิ ทร์
การพัฒนา สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา

OBEC library มธั ยมศึกษาเขต ๓๓

29 มถิ ุนายน Automation System ปี ๒๕๕๘ เพ
สนบั สนุนการดาเนินงานของโรงเร
ภาคีเครือขา่ ยความร่วมมือกนั ระหว
ภาครฐั และเอกชน
การพฒั นาวิชาชพี ครู โดยเครอื ข่าย

2558 เรยี นรู้ (Professional Learning C

8-9 สงิ หาคม และ 4-6 PLC ) สาหรับครผู ู้สอนภาษาอังกฤ
กันยายน 2558
4 มถิ ุนายน พ.ศ.2560 การอบรมและพฒั นาครูตามระดบั ความสามารถภาษา
ระยะท่ี 1
อบรม คาราวานนเิ ทศ ขับเคล่ือนนโยบายสูก่ ารปฏบิ ตั

16 มิถุนายน พ.ศ.2560 A workshop for English Teacher on Lesson Pl
Teaching

24 มถิ ุนายน พ.ศ.2560 อบรมสัมมนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร เทคนคิ การประยุกตใ์ ชเ้ ท
บรหิ ารและการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21

15-16 กรกฎาคม พ.ศ.2560 อบรมยกระดับคุณภาพการศึกษาและผลสัมฤทธิท์ างก
วทิ ยาคาร “กิจกรรมพัฒนากระบวนการสร้างเครื่องม

พือ่ เปน็ การสง่ เสริม
รียนและการสรา้ ง
ว่างองค์กรทงั้

ยชุมชนแห่งการ โรงเรียนประสาทวิทยาคาร
Community : อาเภอปราสาท จังหวัดสรุ นิ ทร์

ฤษ สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาเขต 33
าอังกฤษ ตามกรอบ CEFR สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน

ติ สหวทิ ยาเขต 7 ปราสาทเชิงพนม

lanning and Micro สหวิทยาเขต 7 ปราสาทเชิงพนม

ทคโนโลยีดิจทิ ลั เพ่อื การ สหวทิ ยาเขต 7 ปราสาทเชงิ พนม

การเรียนโรงเรียนทงุ่ มน โรงเรยี น
มือวัดผลและประเมนิ ผล” ทงุ่ มนวิทยาคาร

24 กรกฎาคม พ.ศ.2560 การประชมุ ขบั เคล่ือนโรงเรยี นประชารัฐ โครงการโรงเ
29 กรกฎาคม พ.ศ.2560 คณะกรรมการกองทนุ สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามัธ

อบรมปฏบิ ัติการยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยใช้รปู
การเรียนรู้ทางวชิ าชพี (Professional Learning Com

14 สงิ หาคม พ.ศ.2560 อบรมปฏิบตั กิ ารพัฒนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ
การจัดการเรยี นการสอน ( รุ่นเจ้าหนา้ ท่ีข้อมลู สารสน

17 สงิ หาคม พ.ศ.2560 ประชมุ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

2-3, 9-10 อบรมโครงการพัฒนาครูรปู แบบครบวงจร “หลกั สตู ร
กันยายน พ.ศ.2560 รหัส60000010 ศนู ย์มาตรฐานวิชาชีพครู
20-21 กนั ยายนพ.ศ. 2560
อบรมเชิงปฏิบัติการการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
8-9 กุมภาพนั ธ์ 2561 Boot Camp
อบรมโครงการ “ประชารัฐรวมใจตามรอยสามหลวงป

ลงชอื่ ...............
( นางวัลย์ล

เรียนประชารฐั และ โรงเรยี น
ธยมศึกษา เขต 33 ทงุ่ มนวิทยาคาร
สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 33
ปแบบกระบวนการชุมชน
mmunity) แบบเตม็ รูป

พ่ือการบรหิ ารจดั การและ สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33
นเทศ )
สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 33
ศ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสรุ ินทร์

ร PLC 4in1”

นภาษาองั กฤษ สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต33
ปู่”
โรงเรยี นทงุ่ มนวทิ ยาคาร ร่วมกับ บริษทั ไทยเบพ
เวอร์เรจ จากดั และ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าช
มงคลอสี าน วิทยาเขตสรุ นิ ทร์

...................................
ลกิ า สุรินทราบูรณ์ )

ผู้จัดทาแผ

ความคดิ เห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น...........................................................................
.................................................................................................................................... ...

ลงชอ่ื ..............
( นายกิตต
ผ้อู านวยการ

รกั ษาการในตาแหนง่ ผู้อา

ผนพฒั นาตนเอง

.................. ..............................................................................................................
........................................................................................................................... ......

.....................................
ตชิ ัย แผ่นจนั ทร์ )
รโรงเรียนจารพัตวิทยา
านวยการโรงเรยี นท่งุ มนวิทยาคาร

บรรณานุกรม

จดั การความรู้, ศูนย,์ สพป.ชพ1. . http://area.obec.go.th/chumpron1/kmc/modules.php?name=News&file
=article&sid=450. 29 ก.ย. 2551.

ธีรศกั ด์ิ โกรธกลา้ . http://gotoknow.org/blog/kruteerasark/208594. 29 ก.ย. 2551

พฒั นาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา, สถาบนั . http://www.nidtep.go.th/competency/ book.htm
29 ก.ย. 2551

ยนื ยง ราชวงษ.์ http://gotoknow.org/blog/yuenyong/180318. 29 ก.ย. 2551


Click to View FlipBook Version