The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบงานแบบฝึกหัดการงานอาชีพ-ม.1-ทักษะกระบวนการทำงานของฉัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by luman.6005, 2021-09-15 03:21:19

ใบงานแบบฝึกหัดการงานอาชีพ-ม.1-ทักษะกระบวนการทำงานของฉัน

ใบงานแบบฝึกหัดการงานอาชีพ-ม.1-ทักษะกระบวนการทำงานของฉัน

ใบความรูท้ ี่ ๑ เรอ่ื ง ความสำคญั ของวิชาการงานอาชีพ
หน่วยท่ี ๑ ทักษะกระบวนการทำงานของฉนั

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ความสำคัญของวิชาการงานอาชีพ
รายวิชา การงานอาชีพ รหสั วชิ า ง๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑

กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี เปน็ กล่มุ สาระทชี่ ว่ ยพฒั นาใหผ้ เู้ รยี นมีความรคู้ วามเข้าใจ มที ักษะ
พ้นื ฐานท่ีจำเปน็ ต่อการดำรงชีวิต และร้เู ท่าทนั การเปล่ยี นแปลง สามารถนำความรู้เก่ียวกับการดำรงชีวิต
และการอาชีพ มาใชป้ ระโยชน์ในการท างานอย่างมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ และแขง่ ขันในสงั คมไทยและสากล
เหน็ แนวทางในการประกอบอาชีพ รกั การทำงาน และมีเจตคตทิ ดี่ ตี ่อการทำงาน สามารถดำรงชีวติ อยู่ในสงั คม
ได้อยา่ งพอเพียงและมคี วามสุข ม่งุ พัฒนาผเู้ รยี นแบบองคร์ วม เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความสามารถ มที ักษะในการ
ทำงาน เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพและการศึกษาตอ่ ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ โดยมีสาระสำคญั ดังนี้

๑.การดำรงชีวิตและครอบครัว เป็นสาระเกีย่ วกบั การท างานในชวี ติ ประจำวัน ชว่ ยเหลอื ตนเอง
ครอบครวั และสังคมไดใ้ นสภาพเศรษฐกิจที่พอเพียง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เน้นการปฏบิ ัตจิ รงิ จนเกิดความ
มั่นใจและภูมใิ จในผลสำเร็จของงาน เพ่อื ให้ค้นพบความสามารถ ความถนัด และความสนใจของตนเอง
๒ การอาชีพ เป็นสาระทเ่ี ก่ยี วข้องกับทักษะที่จำเป็นต่ออาชีพ เหน็ ความสำคัญของคุณธรรม
จรยิ ธรรม และเจตคติท่ดี ีตอ่ อาชีพ ใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสม เหน็ คุณค่าของอาชีพสจุ ริต และเหน็ แนวทางใน
การประกอบอาชีพ
คณุ ภาพผู้เรียน
เม่อื จบชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓

๑. เขา้ ใจกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทำงาน มีทกั ษะการแสวงหาความรู้
ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาและทกั ษะการจดั การ มีลกั ษณะนิสยั การทำงาน ทีเ่ สยี สละ มคี ุณธรรมตัดสนิ ใจ
อย่างมีเหตุผลและถูกตอ้ ง และมีจติ สำนึกในการใช้พลังงาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อมอย่างประหยัดและค้มุ คา่
๒. เขา้ ใจแนวทางการเลอื กอาชพี การมีเจตคติที่ดตี ่ออาชีพและเห็นความสำคญั ของการประกอบอาชพี วธิ ีการ
หางานทำ คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการมงี านทำ วเิ คราะห์แนวทางเข้าสู่อาชพี มีทกั ษะพื้นฐานทจี่ ำเป็นสำหรบั
การประกอบอาชีพ และประสบการณ์ต่ออาชีพทส่ี นใจ และประเมนิ ทางเลือกในการประกอบอาชีพทสี่ อดคลอ้ ง
กบั ความรู้ ความถนดั และความสนใจ

ใบงานที่ เรื่อง ความสำคญั ของวิชาการงานอาชีพ
รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั วิชา ง21101 ภาคเรียนที่ 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1
1

คำชแี้ จง ให้นักเรยี นตอบคำถาม ความสำคญั ของวิชาการงานอาชพี โดยสรุปตามประเด็นคำถาม ดงั ต่อไปน้ี

1. ความสำคัญของวิชาการงานอาชีพ ด้านการดำรงชีวิตประจำวัน
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

2. ความสำคญั ของวชิ าการงานอาชพี ด้านการประกอบอาชพี
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................................................... .......

ช่อื .............................................................สกลุ ..............................................เลขท.่ี ...................ชนั้
............./.............

ใบความรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ความสำคัญของวิชาการงานอาชีพ
หน่วยท่ี 1 ทกั ษะกระบวนการทำงานของฉัน

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง การทำงานในชีวิตประจำวันภายในบ้าน
รายวชิ า การงานอาชีพ รหัสวชิ า ง21101 ภาคเรียนที่ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1

วัตถปุ ระสงค์ 1. นกั เรยี นบอกการทำงานในชวี ติ ประจำวนั ได้
2. นกั เรียนสามารถวเิ คราะหแ์ ละสรุปทักษะการทำงานในชวี ิตประจำวนั ได้

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เพื่อให้ทำความเขา้ ใจการทำงานในชีวติ ประจำวันและสามารถวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานตาม

กระบวนการทำงานประเภทต่าง ๆ เชน่ งานทำความสะอาดและตกแต่งบา้ น งานประกอบอาหาร และงาน
ประดิษฐ์ส่งิ ของตกแตง่ บ้าน ได้
1.งานในชีวิตประจำวันคืออะไร และมีความสำคัญอยา่ งไร?

งานในชวี ิตประจำวัน คือ การกระทำหรอื กิจกรรมที่เกิดจากการลงแรง ไมว่ า่ จะโดยทางกายหรือทาง
ความคดิ เพอื่ ให้ได้มาซึ่งปัจจัยทัง้ หลายที่จำเปน็ ต่อการดำเนนิ ชวี ติ ท้ังน้ี งานยังถอื เป็นหน้าที่และกจิ วัตรที่พงึ
ปฏบิ ตั ิจนกลายเปน็ ส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

งานบา้ น หมายถงึ งานต่าง ๆ ที่เก่ียวกบั การดแู ลรักษาบา้ น และการบริการบคุ คลในบ้าน ซ่ึงตอ้ ง
ปฏบิ ัติอยา่ งสมำ่ เสมอ โดยสมาชกิ ทุกคนจะต้องมีการแบง่ หน้าท่กี นั ตามความถนดั ของแต่ละคนและร่วมมอื กนั
ท าเพื่อให้ทุกคนร่วมดำเนนิ ชีวิตอย่างมีความสุข แบ่งงานบ้านออกได้ 4 ประเภท คือ งานอาหาร งานเส้อื ผ้า
งานทำความสะอาดบา้ นและบรเิ วณบา้ น และงานเลย้ี งดูและบรกิ ารบุคคลในครอบครัว

ความสำคญั ของงานบา้ น เกดิ ความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย ทำใหบ้ ้านสะอาดและนา่ อยู่อาศยั และยัง
ทำใหเ้ กิดความสะดวกสบาย หยบิ จบั ใช้สอยส่งิ ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดอุบตั เิ หตุ และเป็นกจิ กรรมท่ี
สามารถสง่ เสริมความสัมพันธ์ภายในครอบครัวไดเ้ ป็นอย่างดี
อา้ งอิง ที่มา https://sites.google.com/site/ronnapat20644/kar-dulae-raksa-ban
2. การวางแผนทำงานบ้าน

2.1 ข้นั ตอนและประโยชน์ของการวางแผนทำงานบ้าน
การวางแผนทำงานบ้าน คอื การกำหนดแนวปฏิบัติงานไวล้ ่วงหน้า ว่าจะทำอย่างไรทำเม่อื ไร ท า

โดยวธิ ใี ด ใครเป็นผทู้ ำและกำหนดงานเสร็จเม่ือไร
2.2 ขนั้ ตอนการวางแผนทำงานบ้าน
ก่อนทำงานบ้านควรวางแผนเปน็ ลำดบั ขั้นจะชว่ ยให้ทำงานได้สะดวก รวดเรว็ เรียบร้อยและมี

คณุ ภาพ ซงึ่ มีขั้นตอนในการวางแผนทำงานบา้ น ดังนี้

1) รวบรวมงาน แจกแจงรายละเอียดและกำหนดระยะเวลาการทำงาน

ประเภทของงานบ้าน งานประจำวัน งานประจำสปั ดาห์ งานประจำเดือน
งานทำอาหาร – เตรยี มและประกอบอาหาร – ทำความสะอาดตู้กบั ขา้ ว
– จัดโตะ๊ อาหาร – ทำความสะอาดตเู้ ย็น – ซักผ้าปทู น่ี อน
งานซกั รดี – ลา้ งภาชนะเคร่ืองใช้ในการ – ซกั ปลอกหมอน
ซ่อมแซม รบั ประทานอาหาร – รดี ผา้ – ซักผ้าห่ม
ดัดแปลงเสอื้ ผา้ – ซกั ผา้ – จัดตู้เสื้อผ้า - ทำความสะอาด
งานทำความ – เกบ็ พบั เสื้อผ้า มุง้ ลวด
สะอาดเครอ่ื งเรอื น – ทำความสะอาดพดั ลม
เคร่ืองใชใ้ นบ้าน – ทำความสะอาดโตะ๊ อาหาร – ทำความสะอาดเคร่ืองใช้ – ปดั กวาดหยากไย่
– ทำความสะอาดเตาแกส๊ อืน่ ๆ เชน่ เคร่ืองกรองน้ำตู้ – ตดั ตกแต่งก่ิงไม้
จดั ตกแตง่ บ้าน หนังสือ – ตดั หญา้
และดูแลบรเิ วณบ้าน – เก็บทีน่ อน – ทำความสะอาดห้องน้ำ –พาไปพักผ่อนนอก
– ปัดกวาด เช็ดถพู ้ืนห้องทุกห้อง -ทำความสะอาดห้อง สถานท่ี
งานเลยี้ งดเู ดก็ – รดน้ำต้นไม้ ตา่ งๆ ภายในบ้าน
และคนชรา – จดั ใหร้ บั ประทานอาหาร – สระผม – ตรวจโรค
– ดูแลความสะอาดรา่ งกาย – ตัดเล็บ
งานดแู ลสัตว์เลีย้ ง – ดแู ลต้เู สือ้ ผ้า เครอ่ื งแต่งกาย
–พดู คยุ ให้เกิดความบันเทงิ – ทำความสะอาดร่างกาย
– ใหอ้ าหาร

2) เขียนแผนการทำงาน เปน็ การน าข้อมลู ท่รี วบรวมมาเขียนเปน็ แผนการปฏบิ ตั ิงานซึ่งสามารถแบ่งออกได้
เป็น 3 แบบ คอื แผนการปฏิบัติงานระจำวัน แผนการปฏบิ ตั ิงานประจำ
สัปดาห์ และแผนการปฏิบตั งิ านประจำเดือนการเขียนแผนการปฏิบัติงานต้องกำหนดหัวข้อที่สำคญั ดังนี้

(1) งานท่ีปฏิบตั ิ ระบุงานและขอบขา่ ยงานท่ที ำใหช้ ดั เจน
(2) จดุ ประสงค์ในการท างานเพ่ืออะไร เช่น เพอื่ ความสะดวก เพื่อความสวยงาม เปน็ ตน้
(3) วสั ดุอุปกรณ์ทใี่ ช้ จดั เตรียมสำหรบั ปฏิบัติงานในแตล่ ะคร้งั ให้พร้อม
(4) กำหนดเวลาตอ้ งกำหนดระยะเวลาในการปฏิบตั งิ านให้ชดั เจน เช่น เม่อื ใด เวลาใด ระยะเวลาเท่าไร
(5) กำหนดขน้ั ตอนในการทำงาน ใหร้ ะบุการท างานให้ชดั เจนว่างานใดทำก่อนทำ
(6) กำหนดผู้รับผิดชอบ ให้ระบุผู้รบั ผดิ ชอบให้เหมาะสมกับงานแต่ละงานให้ชัดเจน
(7) กำหนดคา่ ใช้จ่าย กำหนดรายการวสั ดอุ ุปกรณ์ท่ีต้องซื้อและประมาณคา่ ใชจ้ ่าย

อ้างองิ นางสารภี พลศักดิ์ http://www.kr.ac.th/web/ebook/sarapee/b๑.htm

2ใบงานที่ เร่ือง การทำงานในชวี ิตประจำวนั ภายในบ้าน
รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั วิชา ง21101 ภาคเรียนที่ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1

คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนวางแผนการปฏิบตั งิ านประจำวัน พร้อมขัน้ ตอนการปฏิบตั ิ

1. งานที่ปฏิบัติ............................................................................................................................. .............................
2. จดุ ประสงค์ในการทำงานเพ่อื ...............................................................................................................................
3. วัสดอุ ุปกรณ์ทใ่ี ช้............................................................................................................................. .....................

.................................................................................................................................................................... ..........
........................................................................................................................ ......................................................
4. กำหนดระยะเวลาในการปฏิบตั งิ าน ……………………………………………………………………………………………………..
5. กำหนดข้ันตอนการทำงานใหร้ ะบุการทำงานให้ชดั เจนว่างานใดทำก่อน ทำหลังให้เป็นขน้ั ตอน
................................................................................................................................................................................ .....
............................................................................................................................. ........................................................
............................................................................................................................. ........................................................
6. กำหนดผูร้ ับผดิ ชอบ
............................................................................................................................. ........................................................
.....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........................................................
............................................................................................................................. ........................................................
........................................................................................................................................................................ .............
..................................................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. ........................................................
7. กำหนดค่าใช้จา่ ย กำหนดรายการวัสดุอปุ กรณ์ท่ตี ้องซอื้ และประมาณค่าใช้จา่ ย
............................................................................................................................. ........................................................
............................................................................................................................................ .........................................
.......................................................................................... ...........................................................................................
............................................................................................................................. ........................................................
............................................................................................................................. ........................................................
.....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........................................................
............................................................................................................................. ........................................................
..................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... ..................................................................................
............................................................................................................................. ........................................................

ช่อื .............................................................สกลุ ..............................................เลขท.่ี ...................ชนั้

............./.............

ใบความรทู้ ่ี ๓ เรอ่ื ง ความสำคญั ของวิชาการงานอาชีพ
หน่วยที่ 1 ทกั ษะกระบวนการทำงานของฉัน

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เรือ่ ง บทบาทสมาชกิ ภายในกลมุ่
รายวิชา การงานอาชีพ รหัสวิชา ง21101 ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1

กระบวนการกลุ่ม ในการทำงานเป็นวิธีการทำงานรว่ มกบั สมาชิกในกลุ่มตามข้ันตอน เพ่ือให้งาน
เสร็จเร็ว ประหยัดแรงงาน ประหยดั คา่ ใชจ้ ่าย และไดผ้ ลงานทีม่ ีคุณภาพ โดยมีข้ันตอน ดังน้ี

๑. การเลือกหัวหน้ากลมุ่ เป็นขน้ั ตอนการลงคะแนนเสยี งของสมาชิกกลุ่มในการเลือกหัวหนา้ กลุ่ม
โดยถือเอามตสิ ่วนใหญเ่ ปน็ เอกฉนั ท์ และต้องมีการผลดั เปลี่ยนหมุนเวียนกนั เปน็ หวั หน้ากลุ่มเพอ่ื ฝึกใหส้ มาชิก
ทกุ คนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสมาชกิ ในกลมุ่

๒. การกำหนดเปา้ หมาย เป็นข้ันตอนการตกลงร่วมกันระหว่างสมาชกิ ในกลุ่มว่ามีเป้าหมายหรือ
วัตถปุ ระสงคใ์ นการสรา้ งช้นิ งานแตล่ ะชนิดอย่างไร เพ่ือเป็นแนวทางในการวางแผนการทำงาน

๓. การวางแผนการทำงาน เป็นข้นั ตอนการกำหนดรูปแบบของชนิ้ งาน ชอ่ื ชนิ้ งาน วสั ดอุ ุปกรณท์ ีจ่ ะ
ใชใ้ นการสรา้ งชิ้นงาน งบประมาณในการสร้างชิ้นงาน สถานทท่ี ำงาน เวลาทำงาน และวิธกี ารทำงานร่วมกนั
ของสมาชิกในกลุ่ม

๔. การแบง่ งานกันตามความสามารถ เป็นข้นั ตอนการแบง่ หนา้ ท่ใี หส้ มาชกิ ในกลุม่ โดยพิจารณาจาก
ความสามารถและความถนัดของแต่ละบคุ คล

๕. การลงมอื ปฏบิ ตั งิ าน เป็นขั้นตอนการปฏิบัตงิ านของสมาชกิ ในกลุม่ ตามหนา้ ท่ีที่ได้รบั มอบหมาย
และตามแผนงานท่วี างไวใ้ หส้ ำเรจ็ ตามเปา้ หมาย

๖. การประเมนิ ผลและปรบั ปรุงการทำงาน เป็นขน้ั ตอนการพจิ ารณาการทำงานร่วมกนั ของสมาชกิ
ในกลมุ่ ท้งั ในขณะวางแผนการท างานและในขณะปฏบิ ตั ิงานว่าพบปญั หาในการทำงานหรือไม่ เมือ่ พบปญั หา
แก้ไขปัญหาน้นั อย่างไร รวมถึงการประเมนิ ผลงานร่วมกนั ว่ามีข้อบกพรอ่ งหรือไม่ ถ้ามีข้อบกพร่องควรปรับปรงุ
ผลงานให้ดขี ้นึ อยา่ งไร
อา้ งองิ https://sites.google.com/site/kruwarann/m-๔/ngan-pradisth/krabwnkar-klum
ครูวรญั ญา กิ่งสวสั ดิ์ กล่มุ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี
โรงเรียนพระปฐมวิทยาลยั ๒ หลวงพ่อเงนิ อนุสรณ์ สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต๙

ลกั ษณะสมาชกิ ในกลุ่ม
ลักษณะของสมาชกิ ในกลมุ่ มีอิทธิพลและมีความสำคัญมากต่อการท างานของกลุ่ม การแบ่งกล่มุ
โดยทั่วไปจะมลี ักษณะของคนหลากหลาย แตกต่างกันไปเข้ามารวมกันเป็นกลุม่ แตม่ บี างกรณีท่ีการแบง่ กลมุ่
หากมคี นหลากหลายมารวมกัน อาจทำให้การเรยี นการสอนไม่ประสบความสำเร็จเทา่ ท่ีควร เพราะฉะนั้นใน
การแบง่ กล่มุ บางครง้ั อาจไม่จำเป็นตอ้ งใช้คนหลากหลายมาคละกันไป การตัดสนิ ว่ากลมุ่ แตล่ ะกลุ่มควร
ประกอบดว้ ยใครบา้ ง อาจแบ่งกลุ่มโดยคำนึงถึงวัตถุประสงคเ์ ป็นสำคัญ เชน่
๑. การแบง่ กลุม่ ตามเพศ ใชใ้ นกรณีที่ ผสู้ อนมวี ัตถปุ ระสงค์ท่ชี ้เี ฉพาะลงไป เชน่ ตอ้ งการสำรวจความ
แตกต่างระหวา่ งเพศหญิงและเพศชายในด้านตา่ ง ๆ เชน่ ทัศนคตคิ ่านยิ ม เป็นตน้ ผู้สอนอาจแบ่งกลมุ่ แยกเพศ
หญิงและเพศชายออกจากกันได้

๒. แบง่ กลมุ่ ตามความสามารถจะใช้ ในกรณที ผี่ ้สู อนมภี าระงานมอบหมาย ใหแ้ ต่ละกลุ่มแตกต่างกัน
ไปตามความสามารถ หรอื ต้องการศึกษาความแตกต่างในการทำงานระหว่างกลุ่มที่มีความสามารถสูงและต่ำ

๓. แบง่ กลุ่มตามความถนัด โดยการแบ่งกลมุ่ ที่มคี วามถนัดเรื่องเดียวกันไว้ด้วยกนั
๔. แบ่งกลุ่มตามความสมคั รใจ โดยให้สมาชิกเลือกเขา้ กลุ่มกบั คนทตี่ นเองพอใจ ซึง่ ผสู้ อนทำไดแ้ ต่
ไมค่ วรบ่อยนักเพราะจะทำให้ผู้เรยี นขาดประสบการณใ์ นการท างานกับบุคคลทีห่ ลากหลาย
๕. แบง่ กลมุ่ แบบเจาะจง ผู้สอนเจาะจงให้เด็กบางคนอยู่ ในกลุ่มเดยี วกัน เชน่ ใหเ้ ดก็ เรยี นเกง่ อยู่กับ
เดก็ ที่เรยี นออ่ น เพ่ือใหเ้ ดก็ ทเ่ี รียนเกง่ ช่วยเดก็ ท่เี รียนออ่ น หรือใหเ้ ด็กปรบั ตวั เข้าหากนั
๖. แบง่ กลมุ่ โดยการสุ่ม เป็นการไมเ่ จาะจงวา่ ให้ ใครอยูก่ บั ใคร
๗. แบ่งกล่มุ ตามประสบการณ์ คือการรวมกลุ่มโดยพจิ ารณาจากเด็กท่ีมปี ระสบการณ์คลา้ ยคลึงกันมา
อยดู่ ว้ ยกันเพ่ือประโยชน์ ในการช่วยกนั วเิ คราะหห์ รอื แก้ปัญหาหนง่ึ โดยเฉพาะนอกจากนี้ ผู้สอนอาจพิจารณา
แบง่ กลมุ่ โดยใช้ปัจจัยอน่ื ๆ มาเป็นเกณฑ์ ในการแบง่ กลุ่มไดต้ ามความเหมาะสม เช่น แบง่ ตามอายุเช้อื ชาติ
ศาสนา เปน็ ต้น
เทคนิคในการแบ่งกลุ่ม
การแบง่ กลุ่มผเู้ รยี นให้เป็นกลุ่มยอ่ ย หากไม่มีความจำเปน็ ที่จะต้องคำนึงถงึ ขนาดของกลุ่มหรือลกั ษณะ
สมาชิกในกล่มุ ผ้สู อนอาจใช้วิธอี ื่น ๆ ในการแบ่งกลมุ่ ได้วธิ กี ารแบ่งกลมุ่ มีหลายวิธซี ่ึงนอกจากจะทำให้สามารถ
แบง่ กลุม่ ไดแ้ ล้ว ยงั เพิ่มความสนกุ สนาน มชี ีวติ ชีวาใหก้ ับผ้เู รียนมากยง่ิ ขน้ึ เทคนิคการแบ่งกลมุ่ มหี ลายวธิ เี ช่น
๑. การแบ่งกลุ่มตามการนับหมายเลข เช่น นบั ๑ , ๒ ถ้านบั ๑ ไปอยู่กลุ่ม ๑ นับ ๒ ไปอยกู่ ล่มุ ๒
ถ้าต้องการ ๕ กลุ่ม ก็ให้นับ ๑ ถงึ ๕ เป็นตน้ ซึ่งผ้สู อนอาจดัดแปลงการนบั หมายเลขเป็นการจัดกลมุ่ เขา้ พวก
เช่น มะโรงมะเสง็ มะเมยี มะแม หรอื โป้ง ชี้กลาง นาง ก้อย เป็นต้น
๒. แบ่งกลมุ่ โดยการจับฉลาก โดยการเขียนช่อื เลขกลุ่มลงในฉลาก ผู้เรียนจบั ไดเ้ ลขไหนใหไ้ ปอยู่กลมุ่
นัน้ หรืออาจใช้ฉลากเปน็ ชอ่ื สัตว์แลว้ ใหผ้ เู้ รียนทำท่าสตั ว์พร้อมกบั เลยี นเสยี งรอ้ งของสตั ว์น้นั ๆ เป็นต้น
อ้างอิงจาก หนังสือ ๑๙ วธิ ีจัดการเรยี นรู้เพื่อพัฒนาความรู้และทกั ษะเรอ่ื ง การจดั การเรียนรู้ โดย
กระบวนการกลุ่ม (Group Process) ดร.สวุ ิทย์ ดร.อรทัย มูลคา่ : พมิ พ์ครง้ั ที่ ๕ ห้างหุน่ ส่วนจำกดั ภาพพมิ พ์
กรุงเทพ กรงุ เทพ, ๑๔๓ : ๑๒๔-๑๓๒ https://www.scribd.com/document/๑๑๐๖๐๐๘๗ , ๑๔๓฿ :
๑๒๔-๑๓๒ https://www.scribd.com/document/๑๑๐๖๐๐๘๗๗/ ๗/

ใบงานท่ี เรือ่ ง บทบาทสมาชิกภายในกลมุ่
รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั วิชา ง21101 ภาคเรียนที่ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
3

กลุ่มที.่ .......................ช่ือกลมุ่ ..........................................................................................................................
สมาชิกกลุ่ม
1.หวั หนา้ กลมุ่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. รองหัวหนา้ กลมุ่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. เลขากลมุ่ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. เหรญั ญิกกลุ่ม…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. สมาชิกในกลุ่ม…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
6. สมาชิกในกลุ่ม…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
7. สมาชิกในกลุม่ …………………………………………………………………………………………………………………………….……..……….
8. สมาชิกในกลมุ่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………….……
คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนศกึ ษาใบความรู้บทบาทหน้าที่ของกล่มุ แล้ววางแผนการทำงานตามกระบวนการกลุ่มทเี่ ลอื กใน
การปฏบิ ัติงานบา้ น กลุ่มละ 1 เร่ือง โดยศกึ ษาเกี่ยวกับข้ันตอนการวางแผนทำงานบ้านเพ่ิมเตมิ เพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่
ในกล่มุ ในการปฏิบตั ิงานกลุ่ม

ช่ืองานกลุ่มเลือก ..............................................................................................................................................................

1. ขั้นตอนในการทำงาน
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................ ................................................
............................................................................................................................................................................................

2. วัสดุอุปกรณ์ในการทำงาน
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
.................................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................................................................................

3. ระยะเวลาในการปฏิบัตงิ าน
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................

ช่อื .............................................................สกลุ ..............................................เลขท.่ี ...................ชนั้
............./.............

ใบความรูท้ ี่ ๓ เรื่อง ความสำคัญของวิชาการงานอาชีพ
หน่วยที่ 1 ทกั ษะกระบวนการทำงานของฉัน

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เรอื่ ง การเลอื กใชว้ สั ดุอุปกรณใ์ นการปฏบิ ตั งิ านแต่ละประเภทตามลักษณะงาน
รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั วชิ า ง21101 ภาคเรียนท่ี 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 1

วตั ถุประสงค์ เพื่อใหน้ ักเรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกับการเลอื กใช้วัสดุอปุ กรณใ์ นการปฏบิ ตั งิ าน

อปุ กรณ์ เคร่อื งมอื เครื่องใช้ในการทำความสะอาดบา้ น
การเลอื กใช้ อุปกรณ์ เคร่ืองมือเครื่องใชใ้ นการทำความสะอาดบ้าน
อุปกรณ์ เครอ่ื งมอื เครือ่ งใช้ในการทำความสะอาดบา้ น มีหลายชนดิ ซึง่ เราควรพิจารณาเลือกให้

เหมาะสมและใชง้ านให้ถกู ต้องตามชนิดของเครื่องมือ ดังน้ี
1. เครือ่ งดดู ฝ่นุ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าซ่ึงนยิ มใช้กันท่วั ไป มหี ลายรูปแบบใหพ้ ิจารณาเลือกใช้ตาม

ความเหมาะสม ดังน้ี
ประโยชน์
1.ใช้ทำความสะอาดได้หลายลักษณะ เช่น ดูดฝ่นุ ดูดนำ้ ขัดมงุ้ ลวด ขดั พื้น เปน็ ต้น
2. สะดวกและปลอดภยั ตอ่ การใช้งาน
3. มีการรบั รองคณุ ภาพของเคร่อื ง
4. มคี วามแข็งแรงทนทาน
5. มีขายทัว่ ไป สามารถซ่อมแซมได้เมื่อเกิดการชำรดุ และหาซ้อื อะไหลไ่ ดง้ า่ ย ราคาไม่แพง

วิธกี ารใช้
ใชต้ ามประสทิ ธิภาพท่รี ะบุไว้ เช่น ดูดฝุ่น ดดู เศษผงที่พ้นื ดดู หยากไย่ ทำความสะอาดมงุ้ ลวด ดูด

ฝนุ่ พรมปพู ้ืน และฝุ่นในรถยนต์ เป็นตน้
การเก็บรักษา ควรทำความสะอาด กอ่ นการจดั เก็บเช็ดฝุ่นและม้วนสายไฟ

2. ไมก้ วาด เปน็ เครื่องมือสำหรบั ทำความสะอาดพน้ื ต่าง ๆ ไม้กวาดมีหลายชนิดควรเลือกใช้ให้เหมาะสม
กบั ลักษณะของงานดงั น้ี

2.1 ไมก้ วาดดอกหญา้ ด้ามจบั ทำดว้ ยไมก้ ลม เชน่ ไมไ้ ผ่ ปลายทำดว้ ยดอกหญ้ามดั ติดกบั ดา้ ม
การเลอื ก ควรเลือกดา้ มจัดท่ีมีมีมอดกัดกินดา้ มไม่เล็กหรือไมใ่ หญ่เกินไป จบั ถนัดมอื ปลายอกหญ้าหน้าหนาพอสมควร
การใช้ ใช้กวาดพื้น แห้งและเรียบ เช่น พื้นไม้ พื้นซีเมนต์ขัดมัน พื้นหินอ่อน เป็นต้น การเก็บรักษา เอาเชือกร้อยท่ี
ปลายไม่กวาดใหป้ ลายดอกหญา้ สูงกว่าพืน้ เล็กน้อย การจัดเกบ็ โดยวิธีนีน้ จี้ ะทำใหป้ ลายไมก้ วาดไม่หักงอ ไม่เสยี รูปทรง
กวาดไดส้ ะดวก

2.2 ไมก้ วาดทางมะพรา้ ว ทำดว้ ยทางมะพร้าวมี 2 ชนดิ คอื ชนิดที่มปี ลอกสวมและชนิดมดี า้ มจับซ่ึงทำ
ด้วยไม้ไผ่กลม การเลือก ชนิดมีด้ามควรเลือกด้ามตรง จับเหมาะมือ ด้ามไม่มีมอดกัดทางมะพร้าวไม่บางเกินไป ส่วน
ชนิดทมี่ ปี ลอกสวมควรเลือกมีปลอกสวมแน่นหนา การใช้ ใช้กวาดพนื้ ทม่ี นี ำ้ ขงั เช่น พ้ืนปูนซีเมนต์ พ้นื ดนิ เปน็ ตน้
การเก็บรักษา เก็บในที่ร่มและแห้ง ไม่ควรตากแดด หรือตากฝน โดยการแขวนหรือวางราบกับพื้น หรือวางตั้งกับพ้ืน
หรือวางพิงดา้ มลงก็ได้

2.3 ไม้กวาดเสี้ยนตาล ปลายสำหรับกวาดทำด้วยเสี้ยนตาล ด้ามทำด้วย ไม้ไผ่กลมเล็ก ด้ามยาว
ประมาณ 3 เมตร การเลือก ควรเลือกที่มีด้ามตรง เสี้ยนตาลมัดติดกับด้ามแน่นหนา การใช้ ใช้ทำความสะอาด
ที่สูง เช่น กวาดเพดาน ปัดหยากไย่ เป็นต้น การเก็บรักษา เก็บในที่ร่มและที่แห่ง ไม่ตากแดด ตากฝน วางต้ัง
กับพนื้ หรอื พงิ ไวเ้ อาดา้ มลง

2.4 ไม้กวาดไม้ไผ่ ทำจากไม้ไผ่ทั้งด้ามจับและปลายไม้กวาด ปลายไม้กวาดมีลักษณะเป็นซี่หลายซ่ี
มัดด้วยเชือกหรือหวายแผ่เป็นแผง การเลือก ควรเลือกที่มีด้ามตรง ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ไม่มีมอดกัด รอย
มัดแน่นหนา การใช้ ใช้กวาดใบไม้ในสนามหญ้า กวาดเศษกระดาษบนพื้น การเก็บรักษา เก็บในที่ร่มและที่
แห้ง ไม่ควรตากแดด หรือตากฝน จัดเก็บโดยการเขวนหรือวางราบกับพื้น ห รือวางพิงเอาด้ามลงก็ได้

2.5 ไม้กวาดขนไก่ เปน็ พู่ทำดว้ ยขนไก่ ยาวประมาณ 25 – 50 เซนตเิ มตร ด้ามจับมที ้งั ทเ่ี ปน็
2.6 ไม้กวาดไนลอน เป็นไม้กวาดสมัยใหม่ ด้ามทำด้วยพลาสติก ส่วนปลายที่ใช้กวาด ทำด้วยเส้นใย ไนลอน มีหลาย
ชนิด มีทั้งที่ใช้กวาดพื้นเรียบเช่นเกี่ยวกันกับไม้กวาดดอกหญ้า ชนิดกวาดพื้นหยาบ เช่นเกี่ยวกันกับไม้กวาด
กา้ นมะพรา้ วและบางชนิดจะมพี ูใ่ ชป้ ดั ฝุ่นเชน่ เดยี วกนั กับไม้ปัดขนไก่ การเลือก ควรเลือกที่ดา้ มจับเหมาะมอื การใช้
ใช้ส่วนปลายสำหรับกวาดยึดติดกับด้ามแน่นหนา การเก็บรักษา จัดเก็บโดยวิธีแขวน เพราะจะทำให้ปลายไม้กวาดไม่
เสียรปู ทรง

2.6 ไมก้ วาดไนลอน เปน็ ไมก้ วาดสมยั ใหม่ ดา้ มทำด้วยพลาสติก ส่วนปลายทใี่ ช้กวาด ทำดว้ ยเสน้ ใย
ไนลอน มหี ลายชนดิ มที ้ังทใี่ ช้กวาดพ้ืนเรยี บเชน่ เกย่ี วกันกับไม้กวาดดอกหญ้า ชนดิ กวาดพน้ื หยาบ เช่นเก่ียวกัน
กับไม้กวาดก้านมะพร้าวและบางชนดิ จะมีพ่ใู ช้ปัดฝ่นุ เช่นเดียวกนั กับไมป้ ดั ขนไก่ การเลือก ควรเลอื กทด่ี ้ามจับ
เหมาะมือ การใช้ ใช้สว่ นปลายสำหรับกวาดยดึ ติดกบั ด้ามแนน่ หนา

3. แปรงขัด เป็นเครอื่ งมือทำความสะอาดใชส้ ำหรับขดั ส่งิ สาปรก เพื่อทำความสะอาดบา้ นและส่งิ ของ
เครอื่ งใชต้ ่างๆควรพจิ ารณาเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม ดังนี้

3.1 แปรงลวด ลักษณะขนแปรงส้นั ประมาณ 2 เซนติเมตร ทำดว้ ยเสน้ ลวด ผนกึ ตดิ แนน่ บนแผงไม้
ลักษณะรี การเลือก ควรเลอื กทม่ี ลี กั ษณะรี ด้านบนมสี ายพาดขวาง เพ่ือสอดมือไดก้ ระชับ เมอ่ื ต้องการขดั การใช้ ใช้ขัด
พื้นไม้ พน้ื ซเี มนต์ พ้ืนหนิ ขัดท่ีสกปรกมาก โดยใช้น้ำราดพน้ื ใหเ้ ปียกชน้ื ก่อนทำการขัดการเก็บรกั ษา กอ่ นการจดั เกบ็
เพื่อป้องกนั สนิม จะต้องตากให้ขนแปรงแหง้ และเก็บเขา้ ท่ี

3.2 แปรงพลาสตกิ ทำด้วยพลาสตกิ มีทงั้ ชนดิ ที่มีดา้ มจบั และไม่มดี ้ามจับทั้ง 2 ชนิด ใช้ประโยชน์
ตา่ งกนั การเลือก ควรเลือกที่มขี นแปรงเรยี บและแนน่ หนา จับกระชับมือ การใช้ ชนิดที่มีดา้ มใชข้ ดั โถส้วมหรอื ขัดอน่ื ๆ
ท่ีมีตอ้ งมากใหร้ อยเปื้อนสมั ผัสมือส่วนชนิดไม่มีด้ามใชท้ ำความสะอาดเส้ือผ้า หรอื อืน่ ๆ ที่บริเวณไม่กว้างมาก การเก็บ
รกั ษา ก่อนการจัดเกบ็ ควรผึ่งใหแ้ หง้ และเก็บเขา้ ท่ี

3.3 แปรงขนสตั ว์หรอื แปรงไนลอน ลกั ษณะขนแปรงสั้นประมาณ 1.5 เซนตเิ มตร ทำด้วย
ขนสัตว์ หรอื เสน้ ใยไนลอน ขนาดและลกั ษณะใกลเ้ คียงกับขนสตั ว์ ผนึกติดแนน่ บนแผงไม้ การเลอื ก ควรเลือก
ท่ขี นแปรงแน่นหนา จับกระชับมอื การใช้ ใชป้ ัดฝ่นุ ละอองบนกระเปา๋ รองเท้า เส้ือผา้ หรอื ใชข้ ัดกระเป๋า
รองเทา้ และอนื่ ๆ การเกบ็ รักษา จัดเกบ็ ในที่แห้ง

4. ฝอยขัด ลักษณะแผ่นขัดล้าง เปน็ แผ่นส่เี หลีย่ ม ทำดว้ ยไฟเบอร์หรือฟองนำ้ ขนาดจับ
เหมาะมือส่วนฝอยขดั มีลักษณะเป็นเสน้ ฝอยจับกนั เปน็ กอ้ น การเลอื ก ควรเลือกชนิดที่มีความทนทาน ราคา
ไมแ่ พงเกินไป การใช้ จดั ภาชนะและส่ิงสกปรกเฉพาะที่ เช่น กน้ กระทะ กน้ หมอ้ ทม่ี ีคราบด า หรือล้างภาชนะ
เป็นตน้ การรกั ษา ผึ่งให้แห้ง

5. ไมถ้ พู ้นื ลกั ษณะมีดา้ มยาว สว่ นปลายเป็นเส้นดา้ ย แผน่ ฟองน้ำ หรอื เปน็ ถึงผ้ามหี ลายรปู แบบให้
เลอื กใช้ การเลอื ก ควรเลือกทม่ี ีความทนทานเลือกใช้ตามความเหมาะสม การใช้ ใชถ้ ูพ้ืนตา่ งๆการรักษา ผ่ึงใหแ้ หง้

6. ถังและกะละมัง มหี ลายขนาดให้เลอื กใช้ มที ั้งเป็นโลหะ และพลาสตกิ การเลือก ควรเลือกท่ีมี
ความหนา ถา้ เป็นประเภทมีหู เลือกทม่ี ีหูแน่นหนา ไม่แตกหักง่าย การใช้ ใช้ใส่นำ้ เพื่อซักลา้ งและทำความ
สะอาดสิง่ ของต่างๆ การรกั ษา ล้างให้สะอาด ผึ่งให้แหง้ และจัดเกบ็ โดยวิธีคว่ำหรือแขวน

7. สารทำความสะอาด ทีมีขายอยทู่ ั่วไปมีหลายชนิด หลายย่หี อ้ แตล่ ะชนดิ มลี ักษณะและ
คุณสมบตั ใิ นการใชง้ านต่างกัน ดังน้ัน กอ่ นการเลือกใช้ ควรศึกษารายละเอียดของฉลากใหเ้ ข้าใจและเลอื กใชใ้ ห้
เหมาะสม ดังน้ี

7.1 ผงซกั ฟอก มีทั้งชนิดเปน็ ผงและชนิดของเหลว การเลอื ก ศึกษาฉลากก่อนการเลือกซ้ือ
เลอื กตามความเหมาะสม การใช้ ใชง้ านตามท่ีระบใุ นฉลาก เชน่ ใชท้ ำความสะอาดเสื้อผา้ ซักลา้ งท่ัวไป
เปน็ ต้น การเกบ็ รกั ษา จัดเก็บในท่ีแห้ง ปิดฝาให้มดิ ชิด และเก็บให้พน้ มือเด็ก

7.2 น้ำยาล้างจาน มที ้ังชนดิ ท่เี ปน็ ของเหลวและเป็นครีม การเลอื ก ศกึ ษาฉลากก่อนการ
เลือกซื้อ ประสทิ ธิภาพเหมาะสมกบั ราคา การใช้ ใชล้ ้างจานหรอื ภาชนะอน่ื ๆ การเก็บรักษา ปดิ ฝาให้สนทิ
หยิบใชส้ ะดวกและเก็บให้พ้นมอื เด็ก

7.3 นำ้ ยาขดั และผงขัด ทั้งชนดิ ทีเ่ ปน็ ของเหลวและเปน็ ผง การเลอื ก ศกึ ษาฉลากก่อน
การเลือกซ้ือ ประสิทธิภาพเหมาะสมกบั ราคา การใช้ ใชท้ ำความสะอาดพืน้ ขัดภาชนะตามที่ระบุไวใ้ นฉลาก
การเกบ็ รกั ษา ปิดฝาให้สนิท หยิบใช้สะดวกและเก็บให้พน้ มอื เด็ก

ใบงานที่ เร่ือง การเลือกใช้วสั ดอุ ุปกรณใ์ นการปฏบิ ตั ิงานแต่ละประเภทตามลกั ษณะงาน
รายวชิ า การงานอาชีพ รหัสวชิ า ง21101 ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1
4

กลมุ่ ท่.ี .......................ช่ือกลมุ่ ..........................................................................................................................
สมาชิกกลมุ่ 1.……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.…………………………………………………………………………..……………………………………………………………….
3.…………………………….……………………………………………………………………………………………………………..
4.…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5.…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
6.…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ 4-5 คน ศึกษาใบความรู้การเลอื กใชว้ ัสดุอปุ กรณ์ในการปฏบิ ตั งิ านแต่ละประเภทตาม
ลักษณะงาน แล้วเลอื กวัสดอุ ุปกรณ์ มาวางแผนปฏิบตั งิ านตามท่เี ลอื ก

งานท่ีเลอื ก ..............................................................................................................................................................

1. วัสดอุ ปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการปฏิบัติงาน
.......................................................................................................... ..................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
.................................................................................................................................................................................. ..........
......................................................................................................................... ...................................................................

2. ข้นั ตอนในการทำงาน
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................................................

3. ระยะเวลาในการปฏบิ ตั ิงาน
............................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
........................................................... ............................................................................................................................. ....
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................

ชอ่ื .............................................................สกุล..............................................เลขท.่ี ...................ชนั้
............./.............

ใบความร้ทู ี่ 5 เรื่อง กระบวนการทำงานท่ีมปี ระสิทธภิ าพ
หนว่ ยที่ 1 ทกั ษะกระบวนการทำงานของฉนั

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 5 เรือ่ ง กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
รายวิชา การงานอาชีพ รหัสวิชา ง21101 ภาคเรยี นที่ 2 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1

วัตถุประสงค์ เพ่ือให้นักเรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจการเขยี นกระบวนการทำงานที่มปี ระสิทธภิ าพ เปน็ Mind Map
สรปุ องค์ความรกู้ ารปฏบิ ตั ิงานบ้านที่เลอื กได้ถูกต้องตามขั้นตอน

การเขียนแผนภาพความคิด หรอื แผนท่คี วามคดิ (Mind Map)
การเขยี นแผนภาพความคิด คือ การถา่ ยทอดความคดิ หรือข้อมูลต่าง ๆ ท่มี ีอยู่ในสมองลงกระดาษ โดยการใช้

ภาพ สี เส้น และการโยงใย แทนการจดย่อแบบเดิมทีเ่ ป็นบรรทดั ๆ เรียงจากบนลงลา่ ง ซ่ึงในขณะเดยี วกันมนั กช็ ว่ ย
เป็นสอื่ นำข้อมูลจากภายนอก เชน่ หนังสือ คำบรรยาย การประชมุ สง่ เข้าสมองใหเ้ กบ็ รกั ษาไวไ้ ด้ดกี ว่าเดิม ซ้ำยังช่วย
ใหเ้ กดิ ความคิดสร้างสรรค์ไดง้ ่ายเขา้ เนอื่ งจะเหน็ เป็นภาพรวม และเปดิ โอกาสให้สมองให้เชื่อมโยงตอ่ ข้อมลู หรือ
ความคดิ ต่าง ๆ เขา้ หากนั ไดง้ ่ายกว่า“ใชแ้ สดงการเชอื่ มโยงข้อมลู เกยี่ วกับเรอ่ื งใดเร่ืองหนึ่งระหวา่ งความคิดหลกั
ความคดิ รอง และความคิดย่อยทีเ่ ก่ียวขอ้ งสัมพนั ธ์กนั ” ซง่ึ ลกั ษณะการเขียนผังความคดิ เทคนิคการคดิ คอื นำประเดน็
ใหญ่ ๆ มาเปน็ หลัก แลว้ ต่อด้วยประเดน็ รองในชน้ั ถดั ไป
ขั้นตอนการสรา้ ง แผนภาพความคิด
๑. เขียน/วาดมโนทัศนห์ ลักตรงก่ึงกลางหนา้ กระดาษ
๒. เขยี น/วาดมโนทศั นร์ องทีส่ ัมพนั ธก์ ับมโนทัศนห์ ลกั ไปรอบ ๆ
๓. เขยี น/วาดมโนทศั นย์ ่อยท่ีสัมพนั ธก์ บั มโนทัศน์รองแตกออกไปเรอื่ ย ๆ
๔. ใชภ้ าพหรือสญั ลักษณส์ ่ือความหมายเปน็ ตวั แทนความคิดใหม้ ากที่สดุ
๕. เขยี นคำสำคญั (Key word) บนเส้นและเส้นต้องเช่อื มโยงกนั
๖. กรณีใช้สี ท้ังมโนทศั นร์ องและยอ่ ยควรเปน็ สเี ดียวกนั
๗. คิดอย่างอสิ ระมากทส่ี ุดขณะทำ
เขยี นคำหลัก หรือข้อความสำคญั ของเรือ่ งไวก้ ลาง โยงไปยังประเดน็ รองรอบ ๆ ตามแต่ว่าจะมีกปี่ ระเด็น
กฏการสร้าง แผนภาพความคดิ
๑. เริม่ ด้วยภาพสีตรงกึง่ กลางหนา้ กระดาษ
๒. ใช้ภาพใหม้ ากทส่ี ดุ ใน Mind Map ของคณุ ตรงไหนที่ใชภ้ าพได้ให้ใชก้ อ่ นคำ หรือรหสั เป็นการช่วยการท างานของ
สมอง ดงึ ดดู สายตา และชว่ ยความจำ
๓. ควรเขียนคำบรรจงตัวใหญ่ๆ ถา้ เปน็ ภาษาอังกฤษให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ จะชว่ ยให้เราสามารถ ประหยดั เวลาได้ เมื่อ
ย้อนกลบั ไปอา่ นอกี ครงั้
๔. เขียนคำเหนอื เสน้ ใต้ แต่ละเสน้ ตอ้ งเชื่อมต่อกบั เสน้ อ่ืนๆ เพอ่ื ให้ Mind Map มโี ครงสรา้ งพ้นื ฐานรองรับ
๕. คำควรมลี ักษณะเป็น "หนว่ ย" เปิดทางให้ Mind Map คล่องตัวและยืดหยุ่นได้มากขึ้น
๖. ใช้สีท่วั Mind Map เพราะสีชว่ ยยกระดบั ความคิด เพลนิ ตา กระตุ้นสมองซีกขวา
๗. เพ่อื ให้เกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ใหม่ ควรปลอ่ ยใหส้ มองคิดมอี ิสระมากทสี่ ดุ เทา่ ที่จะเป็นไปได้

วธิ ีการเขียน
๑. เตรียมกระดาษเปลา่ ทไ่ี ม่มีเส้นบรรทดั และวางกระดาษภาพแนวนอน
๒. วาดภาพสีหรอื เขยี นคำหรือข้อความที่ส่ือหรือแสดงถงึ เร่ืองจะทำ Mind Map กลาง หนา้ กระดาษ โดยใช้สี
อย่างน้อย 3 สี และต้องไม่ตกี รอบดว้ ยรูปทรงเรขาคณิต
๓. คดิ ถงึ หัวเรอ่ื งสำคัญท่เี ป็นส่วนประกอบของเรื่องทท่ี ำ Mind Map โดยใหเ้ ขียนเปน็ คำท่มี ลี กั ษณะเป็นหนว่ ย

หรอื เป็นคำสำคัญ (Key Word) สั้น ๆ ทมี่ ีความหมาย บนเสน้ ซงึ่ เสน้ แตล่ ะเสน้ จะต้องแตกออกมาจากศูนยก์ ลางไมค่ วร
เกิน 8 กง่ิ
๔. แตกความคิดของหัวเรื่องสำคญั แต่ละเรือ่ งในข้อ 3 ออกเปน็ กง่ิ ๆ หลายกิ่ง โดยเขยี นคำหรอื วลบี นเส้นที่
แตกออกไป ลกั ษณะของกิ่งควรเอนไมเ่ กนิ 60 องศา
๕. แตกความคดิ รองลงไปท่เี ป็นส่วนประกอบของแตล่ ะก่ิง ในขอ้ 4 โดยเขียนคำหรือวลเี สน้ ท่ีแตกออกไป ซึ่งสามารถ
แตกความคิดออกไปเรื่อย ๆ
๖. การเขยี นคำควรเขียนด้วยคำท่เี ป็นคำสำคญั (Key Word) หรือคำหลกั หรือเปน็ วลีที่มี ความหมายชดั เจน
๗. คำวลี สัญลักษณ์ หรอื รปู ภาพใดท่ีต้องการเน้น อาจใชว้ ธิ กี ารทำให้เดน่ เชน่ การล้อมกรอบ หรือใส่กล่อง เปน็ ตน้
๘. ตกแตง่ Mind Map ท่เี ขยี นด้วยความสนกุ สนานทงั้ ภาพและแนวคิดท่ีเช่อื มโยงตอ่ กนั
การนำไปใช้
๑. ใช้ระดมพลังสมอง
๒. ใชน้ ำเสนอข้อมลู
๓. ใชจ้ ดั ระบบความคดิ และช่วยความจำ
๔. ใชว้ เิ คราะหเ์ นอื้ หาหรืองานตา่ ง ๆ
๕. ใช้สรุปหรอื สรา้ งองค์ความรู้

ตวั อยา่ งการเขยี น

ใบงานที่ เรอ่ื ง กระบวนการทำงานทม่ี ปี ระสิทธภิ าพ
รายวิชา การงานอาชีพ รหัสวิชา ง21101 ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1
5

กลุ่มท.่ี .......................ชอื่ กลมุ่ ..........................................................................................................................
สมาชิกกล่มุ 1.……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.…………………………………………………………………………..……………………………………………………………….
3.…………………………….……………………………………………………………………………………………………………..
4.…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5.…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
6.…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ 4-5 คน ศึกษาใบความรู้การเขียนกระบวนการทำงานที่มีประสิทธภิ าพ เป็น Mind Map
ลักษณะงาน แลว้ เลือกหัวขอ้ การเขียน Mind Map กลุ่มละ 1 เร่ือง

Mind Map เรอ่ื ง .................................................................................................................

ช่อื .............................................................สกุล..............................................เลขท.่ี ...................ชนั้
............./.............

ใบความรทู้ ่ี ๕ เรอ่ื ง กระบวนการทำงานท่ีมปี ระสิทธภิ าพ
หนว่ ยท่ี ๑ ทักษะกระบวนการทำงานของฉนั

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรอ่ื ง กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
รายวชิ า การงานอาชีพ รหัสวชิ า ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑

วัตถุประสงค์ เพ่ือใหน้ กั เรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจการเขียนกระบวนการทำงานท่ีมปี ระสิทธิภาพ เปน็ Mind Map
สรปุ องค์ความร้กู ารปฏบิ ตั งิ านบ้านทเ่ี ลือกได้ถกู ต้องตามขั้นตอน

การเขยี นแผนภาพความคดิ หรอื แผนทคี่ วามคิด (Mind Map)
การเขยี นแผนภาพความคิด คือ การถา่ ยทอดความคิด หรือข้อมูลตา่ ง ๆ ทีม่ ีอยใู่ นสมองลงกระดาษ โดยการใช้

ภาพ สี เส้น และการโยงใย แทนการจดย่อแบบเดิมท่เี ปน็ บรรทัด ๆ เรียงจากบนลงล่าง ซึ่งในขณะเดยี วกนั มนั กช็ ่วย
เป็นสือ่ นำข้อมูลจากภายนอก เชน่ หนังสอื คำบรรยาย การประชุม ส่งเข้าสมองใหเ้ กบ็ รกั ษาไวไ้ ด้ดีกว่าเดมิ ซ้ำยังช่วย
ใหเ้ กิดความคดิ สร้างสรรค์ไดง้ ่ายเข้า เน่ืองจะเห็นเปน็ ภาพรวม และเปิดโอกาสให้สมองให้เชื่อมโยงต่อข้อมลู หรือ
ความคิดตา่ ง ๆ เขา้ หากนั ไดง้ ่ายกว่า“ใช้แสดงการเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับเร่อื งใดเรื่องหน่ึงระหวา่ งความคิดหลกั
ความคิด รอง และความคดิ ย่อยท่ีเกยี่ วขอ้ งสัมพนั ธ์กนั ” ซง่ึ ลักษณะการเขยี นผงั ความคิด เทคนิคการคดิ คือ นำประเด็น
ใหญ่ ๆ มาเป็นหลกั แลว้ ตอ่ ด้วยประเด็นรองในชนั้ ถัดไป
ขนั้ ตอนการสร้าง แผนภาพความคิด
๑. เขยี น/วาดมโนทัศน์หลักตรงกง่ึ กลางหน้ากระดาษ
๒. เขียน/วาดมโนทศั น์รองทีส่ ัมพันธก์ ับมโนทัศนห์ ลกั ไปรอบ ๆ
๓. เขียน/วาดมโนทศั น์ย่อยท่ีสมั พนั ธ์กบั มโนทัศนร์ องแตกออกไปเรอ่ื ย ๆ
๔. ใชภ้ าพหรอื สัญลักษณ์ส่ือความหมายเปน็ ตัวแทนความคิดใหม้ ากทีส่ ดุ
๕. เขียนคำสำคัญ (Key word) บนเสน้ และเสน้ ต้องเชื่อมโยงกนั
๖. กรณใี ชส้ ี ทง้ั มโนทศั น์รองและยอ่ ยควรเป็นสเี ดียวกนั
๗. คดิ อย่างอิสระมากท่สี ุดขณะทำ
เขยี นคำหลกั หรือข้อความสำคัญของเรือ่ งไวก้ ลาง โยงไปยังประเดน็ รองรอบ ๆ ตามแต่วา่ จะมกี ี่ประเด็น
กฏการสรา้ ง แผนภาพความคิด
๑. เรมิ่ ดว้ ยภาพสตี รงกงึ่ กลางหนา้ กระดาษ
๒. ใช้ภาพให้มากทีส่ ุดใน Mind Map ของคุณ ตรงไหนท่ีใชภ้ าพได้ให้ใชก้ ่อนคำ หรอื รหัส เปน็ การช่วยการท างานของ
สมอง ดึงดดู สายตา และชว่ ยความจำ
๓. ควรเขยี นคำบรรจงตัวใหญ่ๆ ถ้าเปน็ ภาษาอังกฤษให้ใชต้ ัวพิมพ์ใหญ่ จะชว่ ยให้เราสามารถ ประหยดั เวลาได้ เม่ือ
ย้อนกลับไปอ่านอกี ครั้ง
๔. เขียนคำเหนอื เสน้ ใต้ แตล่ ะเสน้ ตอ้ งเชื่อมต่อกบั เสน้ อน่ื ๆ เพือ่ ให้ Mind Map มโี ครงสรา้ งพ้นื ฐานรองรับ
๕. คำควรมลี ักษณะเป็น "หนว่ ย" เปิดทางให้ Mind Map คลอ่ งตวั และยืดหยุ่นได้มากข้ึน
๖. ใช้สที ั่ว Mind Map เพราะสีชว่ ยยกระดับความคดิ เพลนิ ตา กระต้นุ สมองซีกขวา
๗. เพื่อใหเ้ กดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ใหม่ ควรปล่อยให้สมองคิดมอี สิ ระมากท่ีสุดเท่าท่จี ะเป็นไปได้

วธิ ีการเขียน
๑. เตรียมกระดาษเปล่าทไ่ี ม่มีเส้นบรรทัดและวางกระดาษภาพแนวนอน
๒. วาดภาพสหี รือเขียนคำหรือข้อความทีส่ ่ือหรือแสดงถงึ เร่ืองจะทำ Mind Map กลาง หนา้ กระดาษ โดยใช้สี
อย่างน้อย ๓ สี และตอ้ งไม่ตีกรอบดว้ ยรูปทรงเรขาคณิต
๓. คิดถงึ หวั เรอื่ งสำคญั ท่เี ป็นส่วนประกอบของเรื่องทท่ี ำ Mind Map โดยให้เขยี นเป็นคำท่มี ลี ักษณะเปน็ หนว่ ย
หรือเปน็ คำสำคัญ (Key Word) สนั้ ๆ ที่มีความหมาย บนเสน้ ซ่งึ เส้นแต่ละเส้นจะต้องแตกออกมาจากศูนย์กลางไมค่ วร
เกิน ๘ กงิ่
๔. แตกความคดิ ของหวั เรื่องสำคัญแตล่ ะเรือ่ งในข้อ ๓ ออกเปน็ ก่ิง ๆ หลายก่ิง โดยเขียนคำหรือ วลบี นเสน้ ท่ี
แตกออกไป ลกั ษณะของก่ิงควรเอนไมเ่ กนิ ๖๐ องศา
๕. แตกความคดิ รองลงไปท่เี ป็นส่วนประกอบของแต่ละกงิ่ ในขอ้ 4 โดยเขียนคำหรอื วลีเส้นทแี่ ตกออกไป ซ่ึงสามารถ
แตกความคดิ ออกไปเร่ือย ๆ
๖. การเขียนคำควรเขียนด้วยคำทีเ่ ปน็ คำสำคญั (Key Word) หรอื คำหลัก หรือเป็นวลีท่ีมี ความหมายชัดเจน
๗. คำวลี สญั ลักษณ์ หรอื รปู ภาพใดที่ตอ้ งการเนน้ อาจใชว้ ธิ กี ารทำใหเ้ ดน่ เชน่ การล้อมกรอบ หรอื ใส่กล่อง เป็นตน้
๘. ตกแต่ง Mind Map ท่ีเขยี นดว้ ยความสนุกสนานทง้ั ภาพและแนวคิดที่เช่อื มโยงต่อกนั
การนำไปใช้
๑. ใช้ระดมพลงั สมอง
๒. ใช้นำเสนอข้อมูล
๓. ใชจ้ ัดระบบความคิดและช่วยความจำ
๔. ใชว้ ิเคราะห์เนือ้ หาหรอื งานตา่ ง ๆ
๕. ใช้สรุปหรอื สรา้ งองคค์ วามรู้

ตัวอย่างการเขียน

ใบงานที่ เรอ่ื ง กระบวนการทำงานทม่ี ปี ระสิทธภิ าพ
รายวิชา การงานอาชีพ รหัสวิชา ง21101 ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1
5

กลุ่มท.่ี .......................ชอื่ กลมุ่ ..........................................................................................................................
สมาชิกกล่มุ 1.……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.…………………………………………………………………………..……………………………………………………………….
3.…………………………….……………………………………………………………………………………………………………..
4.…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5.…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
6.…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ 4-5 คน ศึกษาใบความรู้การเขียนกระบวนการทำงานที่มีประสิทธภิ าพ เป็น Mind Map
ลักษณะงาน แลว้ เลือกหัวขอ้ การเขียน Mind Map กลุ่มละ 1 เร่ือง

Mind Map เรอ่ื ง .................................................................................................................

ช่อื .............................................................สกุล..............................................เลขท.่ี ...................ชนั้
............./.............


Click to View FlipBook Version