The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การถ่ายทอดความรู้ทางศิลปะจากรุ่นสู่รุ่นนั้นมีมาอย่าง
ยาวนานแต่การกำหนดขอบเขตและรูปแบบการสอนศิลปะอย่างเป็น
ทางการนั้นคนส่วนน้อยจึงจะรู้ที่มา หนังสือเล่มเล็กนี้จะพาให้ผู้อ่าน
ได้รู้จักตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของศิลปะสถาบัน การก่อตั้งสถาบัน
ลักษณะของการเรียนการสอน รวมไปถึงภาพผลงานของศิลปินใน
ศิลปะสถาบัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Karnthida Thiti, 2021-11-17 12:31:24

Academic art - ศิลปะสถาบัน

การถ่ายทอดความรู้ทางศิลปะจากรุ่นสู่รุ่นนั้นมีมาอย่าง
ยาวนานแต่การกำหนดขอบเขตและรูปแบบการสอนศิลปะอย่างเป็น
ทางการนั้นคนส่วนน้อยจึงจะรู้ที่มา หนังสือเล่มเล็กนี้จะพาให้ผู้อ่าน
ได้รู้จักตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของศิลปะสถาบัน การก่อตั้งสถาบัน
ลักษณะของการเรียนการสอน รวมไปถึงภาพผลงานของศิลปินใน
ศิลปะสถาบัน

Academicism

คำ� นำ�

การถ่ายทอดความรู้ทางศิลปะจากรุ่นสู่รุ่นน้ันมีมาอย่าง
ยาวนานแต่การก�ำหนดขอบเขตและรูปแบบการสอนศิลปะอย่างเป็น
ทางการนน้ั คนสว่ นนอ้ ยจงึ จะรู้ทมี่ า หนังสอื เล่มเลก็ นจ้ี ะพาใหผ้ อู้ า่ น
ไดร้ ู้จกั ตงั้ แตป่ ระวัตคิ วามเป็นมาของศิลปะสถาบัน การก่อตงั้ สถาบนั
ลักษณะของการเรยี นการสอน รวมไปถงึ ภาพผลงานของศลิ ปินใน
ศลิ ปะสถาบัน โดยหวังวา่ ผอู้ ่านจะไดเ้ รยี นรไู้ ปพร้อมกบั ผเู้ ขยี นใน
หนงั สอื เลม่ นี้
หนังสอื เล่มนี้เป็นสว่ นหนงึ่ ของรายวิชา มนุษย์กบั ศลิ ปะ
ตวั ผเู้ ขียนนัน้ ยงั มีเรอ่ื งราวใหต้ อ้ งเรยี นรู้อีกมาก หากหนงั สือเล่มนผี้ ดิ
พลาดหรือบกพรอ่ งประการใด จึงขออภยั มา ณ ที่น้ี


กาญจน์ฐดิ า
(กาน-ถิ-ดา)
ผูเ้ ขยี น

สารบัญ

บทน�ำ 1
ท�ำความรจู้ กั ศิลปะสถาบนั 3
ต้นก�ำเนดิ 6
สถาบันศิลปะแหง่ แรก 7
ถกเถยี ง 12
สถาบันควบคมุ การศกึ ษาศลิ ปะอยา่ งไร 13
Paris Salon 17
ศลิ ปะสถาบันในโลกของการเปลี่ยนแปลง 19
ผลงานของศลิ ปนิ ในศลิ ปะสถาบัน 20
บรรณานกุ รม 41

บทนำ�

The Birth of Venus (1863)
Alexandre Cabanel

ศลิ ปะอยู่คู่กบั มนยุ ษ์มาอย่างยาวนานทง้ั ใช้ แซนไทน์ที่มาจากความเชื่อในพระคัมภีร์ไบเบิลซึ่ง
ในการบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์หรือ ห้ามการบูชารูปเคารพท�ำให้ศิลปินในยุคนั้นต้อง
ความเช่อื ทางศาสนา การจดบันทกึ ชีวติ ประจำ� วัน หลบซอ่ นผลงานไม่ให้ถูกท�ำลาย ความเชอื่ นีท้ ำ� ให้
หรือแม้แต่ใช้ถ่ายทอดจินตนาการและความรู้สึก การวาดภาพเปน็ ส่ิงตอ้ งหา้ ม หรือการแบง่ แยกรูป
นกึ คิดของศิลปนิ ให้ผอู้ ื่นได้รับรู้ แต่ดว้ ยอทิ ธพิ ล แบบของศิลปะอย่างแอ็บสแตรคอาร์ตว่าเป็น
ของสภาพแวดล้อมอีกทั้งทัศนคติของศิลปินท�ำให้ ศิลปะของคนชนช้ันสูงเพราะต้องมีการศึกษาท่ีดี
เทคนิคและรูปแบบการวาดภาพมีความหลาก มีความรู้และความเข้าใจในศิลปะจึงจะสามารถ
หลายและแตกตา่ งกัน ในประวตั ิศาสตร์ของโลก ตคี วามงานศลิ ปะได้ ในขณะท่คี นทั่ว ๆ ไปไม่
ศิลปะจะเห็นได้ว่ามีลัทธิและยุคสมัยของศิลปะ เข้าใจผลงานเนื่องจากไม่มีความรู้เกี่ยวกับงาน
อยู่มากมาย เช่น ลทั ธิท�ำลายรปู เคารพในสมยั ไบ ศิลปะจึงเกิดป๊อปอาร์ตขึ้นจากกลุ่มคนท่ีไม่

ต้องการให้ศลิ ปะอยใู่ นกรอบเดิม ๆ โดยทกุ คน 2
สามารถเข้าถึงงานศิลปะได้เน่ืองจากไม่มีความซบั
ซ้อนและเล่นกบั สิ่งต่าง ๆ ท่ีเปน็ ท่ีนิยมในสมยั นัน้ The Birth of Venus
เชน่ ข้าวของในชวี ิตประจำ� วนั หรอื ดารานักร้องท่ี เป็นผลงานท่ีมีชื่อเสียงของ
โดง่ ดงั เป็นต้น ประเด็นนจี้ ึงมกี ารถกเถียงกนั วา่ Alexandre Cabanel ถกู วาด
ป๊อปอาร์ตเป็นศิลปะของชนช้ันล่างหรือไม่ควร ในปี ค.ศ. 1863 และเป็นภาพ
เป็นศิลปะเลยด้วยซ้ำ� ท่ี โ ด ด เ ด ่ น ที่ สุ ด ข อ ง ศิ ล ป ะ
ที่กล่าวมานี้เป็นความคิดเห็นของกลุ่ม สถาบัน ในศตวรรษที่ 19 ภาพ
คนท่มี ีตอ่ ศลิ ปะที่แตกตา่ งกนั จงึ เกิดความขัดแยง้ วาดน้ีถูกซื้อโดยจักรพรรดินโป
ขึ้นอยูบ่ ่อยครง้ั ในวงการศลิ ปะ ใน ศิลปะสถาบัน เลยี นทส่ี าม นอกจากน้ยี งั มี
กม็ ีการถกเถียงถึงความส�ำคัญในงานศิลปะ รวม ภาพแบบจ�ำลองขนาดเล็ก
ถงึ การตง้ั กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในการสรา้ งผลงาน วาดในปี ค.ศ. 1875 ส�ำหรับ
แน่นอนว่าต้องมีท้ังผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย นายธนาคาร John Wolf ตอ่
เมื่อมีกลุ่มคนที่ต้องการสร้างกฎแบบแผนท่ี มาไดถ้ กู มอบให้ พพิ ิธภัณฑ์
ชดั เจนวา่ แบบไหนถึงจะเปน็ ศิลปะท่ีถกู ตอ้ ง เปน็ ศิลปะเมโทรโพลแิ ทน (Met-
ทย่ี อมรบั และควรปฎิบัตติ าม ropolitan Museum of Art)
ประวัติศาสตร์ศิลปะจึงมีความน่าสนใจ ทนี่ วิ ยอร์กซิตี้ ในปี ค.ศ. 1893
เพราะสามารถแสดงถึงค่านิยม สังคมและทัศนคติ
ของคนในยุคสมยั น้นั ได้อีกดว้ ย

Alexandre Cabanel

ท�ำความรจู้ ักศลิ ปะสถาบัน

WiElddwBlaorsdsoPmoysn(t1e8r80) Neo-Classical Art เปน็ ศิลปะทีม่ ีจุดก�ำเนดิ
ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี และมีอทิ ธพิ ล
Academic art แปลวา่ ศิลปะสถาบัน หรือ อย่างมากในฝร่ังเศสช่วงกลางศตวรรษที่ 18
ศิลปะตามหลักวชิ า คอื ลักษณะของจติ รกรรมและ จนถึงกลางครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 19 จิตรกรรม
ประติมากรรม รวมถึงสถาปัตยกรรมท่สี รา้ งข้นึ ภายใต้ สว่ นใหญใ่ นยุคศลิ ปะแบบนีโอคลาสสิก มัก
อิทธิพลของสถาบันหรือมหาวิทยาลัยศิลปะในยุโรป แสดงเร่ืองราวเก่ียวกับประวัติศาสตร์สมัย
โดยเฉพาะศิลปินท่ีได้รับอิทธิพลจากสถาบันวิจิตรศิลป์ กรกี และโรมัน ภาพร่างกายเขียนไดถ้ ูกต้อง
แห่งฝร่ังเศส (Académie des beaux-arts) ซึง่ จะใช้ ตามหลกั กายวิภาค มกี ารใชส้ ถี กู ตอ้ งตาม
แนวทฤษฎศี ิลปะแบบนโี อ-คลาสสกิ (Neo-Classical แสงเงา ไลเ่ ฉดสเี พื่อใหเ้ กดิ ความกลมกลืน
Art) และศลิ ปะแบบโรแมนตกิ (Romanticism) เปน็ แสดงให้เห็นความสมจริงตามแบบตามอง
หลกั โดยศิลปะแบบนโี อ-คลาสสกิ หรือ เห็นและการกำ� หนดมิติน้�ำหนกั แสงเงา
สว่ นศลิ ปะแบบโรแมนตกิ (Ro-
manticism) หรือแบบจนิ ตนาการนิยม เกดิ
ข้ึ น ใ น ยุ โ ร ป ต ะ วั น ต ก ต อ น ป ล า ย ค ริ ส ต ์
ศตวรรษท่ี 18 ต่อจากศลิ ปะแบบนีโอคลาส
สกิ เป็นศลิ ปะท่เี น้นอารมณ์ความร้สู ึก
สะเทือนใจเร้าใจแก่ผู้พบเห็นและธรรมชาติ
โดยมีความเช่ือว่าคุณค่าของศิลปะเกิดจาก
อารมณ์ของผู้ชมและผ้สู ร้างสรรค์
ศิลปะสถาบันยังสามารถเรียกว่า
“L’art pompier” หรือ eclecticism ซ่ึง
บางคร้ังก็จะมีการดึงลักษณะเดน่ ๆ มาจาก
ศิลปกรรมในประวัติศาสตร์มาประยุกต์ใช้
เขา้ ด้วยกัน นอกจากนัน้ ศลิ ปะทีไ่ ด้รบั
อิทธิพลจากสถาบันหรือมหาวิทยาลัยศิลปะ
กเ็ รยี กกนั ว่า “ศิลปะสถาบนั ” เชน่ กัน หรือ
ศิลปะใหม่ ๆ ทส่ี ถาบันยอมรับกอ็ าจจะใช้
ค�ำวา่ “ศิลปะสถาบนั ” เรียกได้

ประวัติความเป็นมาของสถาบันการศึกษาฝร่ังเศสที่ได้รับการอนุมัติให้ก่อต้ัง
อย่างเป็นทางการถูกใช้เพื่อเป็นวิธีการส่งเสริมอ�ำนาจทางการเมืองของกษัตริย์แสดงให้

4เหน็ ถึงปญั หาในการจัดต้งั ระบบการควบคุมทางวัฒนธรรมแบบเสาหิน (monolithic

cultural system) คือสังคมทที่ ุกคนมคี วามเชื่อเดยี วกันและไม่เปิดรับวฒั นธรรมใหม่ ๆ
ในปี ค.ศ. 1648 สถาบนั การศึกษาของฝรั่งเศสพยายามที่จะกำ� หนดอ�ำนาจหน้าท่ีใน
การสอน การผลิต และการจัดนิทรรศการผลงานศิลปะ แต่ต่อมาได้รบั การพสิ ูจน์แล้วว่า ไมส่ ามารถ
ปรับปรุงให้เขา้ กบั รสนยิ มและเทคนิคทีท่ ันสมัยได้ ผลท่ีตามมาก็คือศตวรรษที่ 19 เกดิ การเพิกเฉยและ
ถูกกดี กันมากขึ้น ในขณะทศ่ี ิลปินสมัยใหม่เช่น Gustave Courbet, Claude Monet, Vincent Van
Gogh และ Pablo Picasso ก�ำลังทำ� การปฏิวตั ิทฤษฎแี ละการปฏิบัติงานศลิ ปะ

The Girl in the Meadow (1857) Ludwig Knaus

the Corner of the Villa (1889)
Edward Poynter

ก�ำตเนน้ ิด-

ตัง้ แตศ่ ตวรรษท่ี 16 เป็นต้นมา มีโรงเรยี น
สอนศิลปะเฉพาะทางหลายแห่งเริ่มก่อตัวขึ้นทั่วยุโรป
เร่ิมต้นจากท่อี ิตาลี โรงเรยี นเหลา่ นีเ้ ป็นทีร่ จู้ กั ในนาม
‘academies’ เดมิ ได้รับการสนบั สนนุ จากผอู้ ปุ ถมั ภ์
ศิลปะ (โดยท่วั ไปคอื สมเด็จพระสันตะปาปา กษตั ริย์
หรอื เจา้ ชาย) และมหี น้าทใ่ี ห้ความรู้แกศ่ ิลปนิ รุน่ ใหม่
ตามทฤษฎีคลาสสิกของศิลปะยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
การพัฒนาสถาบันศิลปะเหล่าน้ีนับเป็นการพยายาม
ทส่ี �ำคัญ เร่มิ โดย Leonardo Da Vinci และ Michel-
angelo เพอ่ื ยกระดบั สถานะของการฝึกฝนศลิ ปนิ
เพ่ือแยกพวกเขาออกจากช่างฝีมือทั่วไปในสมาคม
อาชพี

6

สถาบนั ศลิ ปะ

แห่งแรก

สถาบันศิลปะแห่งแรก สถาบันยังมีหน้าที่ก�ำกับดูแลการผลิตงานศิลปะ
ก ่ อ ต้ั ง ข้ึ น ใ น เ มื อ ง ฟ ล อ เร น ซ ์ ท้งั หมดของรัฐแมดิชนี (Medicean) นกั เรียนแมดชิ นี
ประเทศอิตาลีโดย Cosimo I de ในสถาบนั นี้ไดเ้ รยี นรเู้ กยี่ วกับ “arti del disegno”
‘Medici เมื่อวันที่ 13 มกราคม และฟังการบรรยายเร่ืองกายวิภาคศาสตร์และรูปทรง
ค.ศ. 1563 ภายใตอ้ ทิ ธพิ ลของ เรขาคณติ
สถาปนิก Giorgio Vasari ผเู้ รยี ก
มนั ว่า Accademia e Com- 7
pagnia delle Arti del Diseg-
no (Academy and Company
for the Arts of Drawing) แปลวา่
สถาบันการศึกษาและบริษัทเพื่อ
ศิลปะการวาดภาพ เนอ่ื งจากมัน
ถูกแบ่งออกเป็นสองสาขาต่างกัน
ในขณะที่บริษัทเป็นเป็นสมาคม
ส�ำหรับศิลปินที่ท�ำงานและดูแล
การผลิตงานศิลปะในแคว้นทัสกา
นี
โดยสถาบันนี้มีแต่ศิลปิน
ท่ีมีชื่อเสียงด้านศิลปะท่ีโดดเด่น
ของ Cosimo I de ‘Medici และ

วัตถุประสงค์ที่ประกาศไว้คือการ
ส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปะรวมถึงป้องกัน
และอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมท่ัวโลกมี
การจดั ประชมุ คอนเสริ ต์ น�ำเสนอหนงั สือ จัด
นิทรรศการและเลือกศิลปินจากท่ัวทุกมุม
โลกให้เปน็ สมาชกิ กิตตมิ ศักดิ์
ตง้ั แตป่ ี ค.ศ. 1978 Accademia
delle Arti del Disegno ไดแ้ บง่ ออกเปน็ หา้
ประเถทคอื จติ รกรรม ประตมิ ากรรม
สถาปัตยกรรม ประวัตศิ าสตร์ศิลปะและ
มนุษยศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์
สมาชิกที่มีชื่อเสียงของสถาบัน
ได้แก่ Sandro Chia , Hans Erni และ
Anselm Kiefer ในงานจิตรกรรม
Arnaldo Pomodoro , Giuliano Vangi และ Dani Karavan ในประติมากรรม
Massimo Carmassi และ Paolo Portoghesi ในงานสถาปัตยกรรม
David Whitehouse ในประวตั ศิ าสตร์ศลิ ปะ
Salvatore Accardo และ Carlo Ginzburg ในสาขามนุษยศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตร์

Artemisia Gentileschi เป็น
จิตรกรชาวอิตาลีซ่ึงปัจจุบันถือว่าเป็นหน่ึงใน
ศิลปินที่ประสบความส�ำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง
ในศตวรรษท่ี 17 ซึ่งในยคุ ท่ผี ูห้ ญิงมโี อกาส
น้อยในการฝึกฝนศิลปะหรือท�ำงานในฐานะ
ศิลปนิ มอื อาชีพ Artemisia เป็นผ้หู ญิงคนแรก
ที่ได้รบั การยอมรับจากสถาบนั Accademia
di Arte del Disegno ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก

ACCADEMIA DI SAN LUCA
สถาบันการศกึ ษาอกี แห่งหนง่ึ คอื Ac- เพื่อแสดงให้เห็นถึงความดึงดูดความคิดผู้คนใน
cademia di San Luca (ตงั้ ชอ่ื ตามนกั บุญ เวลานั้น Accademia di San Luca ตอ่ มาได้
อุปถมั ภ์ของจติ รกรเซนต์ลุค) ก่อตั้งขนึ้ ประมาณ เปน็ ต้นแบบส�ำหรับ Académie royale de
หนง่ึ ทศวรรษตอ่ มาในกรงุ โรม Accademia di peinture et de sculpture ที่กอ่ ตั้งข้นึ ใน
San Luca ทำ� หน้าทท่ี างการศึกษาและมีความ ประเทศฝรงั่ เศสในปี ค.ศ. 1648 และต่อมาได้
กังวลกับทฤษฎีศิลปะมากกว่าสถาบันศิลปะใน กลายเป็น Académie des beaux-arts ที่
เมอื งฟลอเรนซ์ ในปี ค.ศ. 1582 Annibale Car- Académie royale de peinture et de ก่อตง้ั
racci เปดิ Academy of Desiderosi ท่ีทรง ขน้ึ ในความพยายามที่จะแยกแยะศิลปนิ จากชา่ ง
อิทธิพลในโบโลญญาโดยไม่ได้รับการสนับสนุน ฝีมือผมู้ ีส่วนรว่ มในการใช้แรงงาน การเน้นไปท่ี
อย่างเป็นทางการ ในบางทกี ็เป็นเหมือนการ องค์ประกอบทางปัญญาของการผลิตผลงาน
ประชุมเชงิ ปฏบิ ตั ขิ องศิลปินด้งั เดิม แต่เขารู้สึกว่า ศิลปะมีผลกระทบอย่างมากต่อวิชาและรูปแบบ
จ�ำเป็นต้องตดิ ปา้ ยว่าเปน็ “สถาบันการศึกษา” ศิลปะเชงิ วิชาการ

หลังจาก Académie royale de peinture et de sculpture ถูกจัดใหม่ในปี ค.ศ. 1661
โดย Louis XIV ซง่ึ มจี ุดประสงคเ์ พือ่ ควบคมุ กจิ กรรมศลิ ปะทั้งหมดในประเทศฝรงั่ เศสมีการโตเ้ ถียงเกดิ
ข้ึนในหมู่สมาชิกท่ีมที ัศนคติทางศิลปะในชว่ งทเ่ี หลอื ของศตวรรษ “การต่อสู้ของรปู แบบ” นเ้ี ป็นขอ้ ขดั
แย้งว่า Peter Paul Rubens หรอื Nicolas Poussin เป็นรุ่นท่ีเหมาะสมที่จะทำ� ตาม สาวกของ
Poussin เรยี กวา่ “poussinistes” เปน็ ทีถ่ กเถยี งกนั อยูว่ ่าเสน้ (disegno) ควรมีอิทธพิ ลตอ่ ศิลปะ
เพราะมันดงึ ดูดความสนใจตอ่ สติปัญญาในขณะท่ีสาวกของ Rubens เรียกวา่ “rubenistes” แยง้ วา่ สี
ควรดงึ ดดู อารมณ์
การถกเถยี งกเ็ กดิ ข้นึ อกี ครั้งในช่วงต้นศตวรรษท่ี 19 ภายใตย้ คุ Neoclassicism โดยผลงาน
ศิลปะของ Jean Auguste Dominique Ingres ถกู ยกเป็นตัวอย่าง และยคุ Romanticism ได้
ยกยอ่ งงานศิลปะของ Eugène Delacroix การถกเถยี งก็เกดิ ขึ้นวา่ การเรียนรูศ้ ิลปะโดยการดทู ี่
ธรรมชาตหิ รอื เรียนร้โู ดยการดทู ี่ผู้เชีย่ วชาญด้านศลิ ปะในอดีตดีกวา่ กนั

ARTISTS 10

Peter Nicolas
Paul Poussin
Rubens Eugene
Jean Delacroix
Auguste
Dominique
Ingres

11

สถาบนั ที่นำ� อย่างประเทศฝรง่ั เศสเป็นตน้ แบบ เกดิ ขนึ้ ท่วั ยุโรปรวมถงึ เลยี นแบบ
เทคนิคการสอนบของสถาบันฝรง่ั เศส ในประเทศเดนมาร์ก สถาบันวิจติ รศิลปห์ ลวงแห่ง
เดนมารก์ (Royal Danish Academy of Fine Arts) ก่อตงั้ ขนึ้ ในปี ค.ศ. 1754 อาจเป็น
ตัวอย่างทีป่ ระสบความสำ� เรจ็ ในประเทศเลก็ ๆ ซึ่งบรรลเุ ปา้ หมายในการสร้างโรงเรยี น
แหง่ ชาตแิ ละลดการพง่ึ พาศิลปินนำ� เขา้ จติ รกรแหง่ ยคุ ทองของเดนมาร์กราว ๆ ปี ค.ศ.
1800-1850 เกือบทกุ คนไดร้ บั การฝึกฝนและหลายคนนำ� ความรูก้ ลบั ไปถ่ายทอดตอ่ และ
ประวัติศาสตร์ศิลปะของเดนมาร์กมีความตึงเครียดระหว่างศิลปะเชิงวิชาการและรูปแบบ
อน่ื ๆ น้อยกว่ากวา่ ในประเทศอื่น
หนึ่งในผลกระทบของการย้ายไปเรียนท่ีจะท�ำให้การฝึกอบรมยากข้ึนส�ำหรับ
ศิลปินหญิงที่ได้รับการยกเว้นจากสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่จนถึงช่วงคร่ึงหลังของ
ศตวรรษที่ 19 (ปี ค.ศ.1861 สำ� หรบั Royal Academy ในประเทศองั กฤษ) สว่ นหนึง่ เปน็
เพราะความกังวลเกย่ี วกับความไมเ่ หมาะสมท่ีนำ� เสนอภาพเปลอื ย มกี ารเตรยี มการสอน
พเิ ศษสำ� หรับนักเรียนหญิงจนกระทั่งศตวรรษท่ี 20

Royal Danish Academy of Fine Arts

นับตงั้ แตเ่ รมิ่ การถกเถียงของ Pouss- เถถยี กง-
iniste-Rubeniste ศลิ ปินหลายคนท�ำงาน
ระหว่างสองสไตล์ ในศตวรรษท่ี 19 ในรูปแบบ 12
ของความสนใจและจุดมุ่งหมายของโลกศิลปะก็
เริ่มที่จะวิเคราะห์แนวเส้นจากนีโอคลาสสิกและ
สสี ันจากศลิ ปะโรแมนตกิ ศิลปนิ คนหนงึ่ หลัง
อ ้ า ง ว ่ า ไ ด ้ รั บ ก า ร วิ จ า ร ณ ์ โ ด ย นั ก วิ จ า ร ณ ์
Théodore Chassériau, Ary Scheffer,
Francesco Hayez, Alexandre-Gabriel De-
camps, and Thomas Couture.
William-Adolphe Bouguereau, ใหค้ วาม
เห็นว่าเคล็ดลับในการเป็นจิตรกรที่ดีคือการ
เห็น “สแี ละเส้นเหมือนส่ิงเดียวกัน” Thomas
Couture ไดส้ ง่ เสริมแนวคดิ เดียวกันนใี้ น
หนังสือท่ีเขาประพันธ์เก่ียวกับวิธีการทางศิลปะ
โดยอ้างว่าเม่ือใดก็ตามท่ีมีคนบอกว่าภาพวาดมี
สีดีกว่าหรือเส้นดีกว่าเป็นเร่ืองไร้สาระเพราะ
เป็นวธิ พี ูดคุยเกย่ี วกับ “คุณคา่ ” ของรปู แบบ
เทา่ น้นั

สถาบันควบคมุ

อย่างไรการศกึ ษาศลิ ปะ
สถาบันการศึกษาของฝรั่งเศสมีการ การให้ฝึกฝนการวาดภาพผลงานของศิลปินยุค
ผกู ขาดในการสอนการผลติ และ การจัด กอ่ น ๆ การวาดตามตน้ แบบของงานดังกล่าว
นทิ รรศการทัศนศลิ ป์ในประเทศฝรงั่ เศส แต่ ถือเป็นวิธีเดียวในการเรียนรู้หลักการท่ีถูกต้อง
สถาบันการศึกษาอื่นไม่สามารถแสดงผลงาน ของรปู ร่างแสงและเงา ซง่ึ รูปแบบการสอนของ
ของเขาส่สู าธารณะ และไม่สามารถเข้าถึง ครูผู้สอนวิชาการเป็นท่ีรู้จักในฐานะนักวิชาการ
ต�ำแหน่งอุปถัมภ์หรือต�ำแหน่งการสอนอย่าง ศลิ ปะ
เป็นทางการ ในเวลานนั้ สถาบันการศกึ ษาถอื วา่ นกั เรียนจะเร่ิมต้นการวาดภาพ จาก
เป็นกุญแจสู่ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตของ ภาพพิมพ์หรือภาพวาดของยุคกรีกคลาสสิก
ศิลปิน ประติมากรรมหรือจิตรกรรมของศิลปินยุคก่อน
เชน่ ไมเคลิ แองเจโล (Michelangelo) และ รา
วิธีการเรียนการสอนศลิ ปะ ฟาเอล (Raphael) ในยุคเรอเนซอ็ งส์ (Renais-
sance) หลังจากเสร็จส้นิ ข้ันตอนน้ี นกั เรยี นจะ
สถาบันสอนศิลปะมีแบบแผนและกฎ ต้องนำ� เสนอภาพวาดเพ่อื การประเมนิ ผล หาก
เกณฑ์ท่ีเข้มงวดและมีเพียงการสอนศิลปะรูป ประสบความสำ� เร็จ พวกเขาก็จะวาดภาพจาก
ลักษณ์เท่าน้นั โดยศิลปะรปู ลกั ษณ์ เปน็ รูป ปูนฉาบหรือตน้ ฉบบั ของรูปป้นั โบราณ และพวก
แบบของงานศิลปะท่ีแสดงรูปลักษณ์ของวัตถุ เขาต้องน�ำเสนอภาพวาดเพื่อการประเมินผลอีก
ต่าง ๆ ทพ่ี บเหน็ ในธรรมชาติ โดยยึดหลักการน�ำ ครง้ั หากผา่ นการประเมินพวกเขาจงึ จะไดร้ ับ
เสนอเรื่องราวในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังตา อนญุ าตให้คดั ลอกจากภาพผชู้ ายเปลอื ย (เรยี ก
ท่เี ห็น และไม่มกี ารเปลย่ี นแปลงหรือบิดเบือน ว่า ‘การวาดภาพจากชวี ิต’)
ใด ๆ ไปจากความเปน็ จรงิ หรอื รูปธรรมท่เี หน็ หลังจากเรียนจบ การฝึกวาดภาพเป็น
แต่สามารถประสานความรูส้ กึ นึกคิด และ เวลาหลายปี รวมถงึ กายวิภาคศาสตร์และ
อารมณ์ลงไปในผลงานได้ และบางครั้งมกั ใชใ้ น เรขาคณติ นักเรยี นจะได้รบั อนุญาตให้ระบายสี
ความหมายเดียวกันกับคําว่าศิลปะแสดงลักษณ์ เพือ่ เรยี นรู้การใช้สี ความจริงแล้วการวาดภาพ
เพราะฉะนน้ั ศลิ ปะแบบนามธรรม (abstract ไมไ่ ดอ้ ยูใ่ นหลักสูตรของ Ecole des Beaux-
art) จงึ ไมไ่ ด้รับอนุญาตให้สอน จนกระทั่งปี Arts (สถาบันในประเทศฝรง่ั เศส) จนถงึ ปี ค.ศ.
ค.ศ. 1863 หอ้ งเรียนในสถาบนั การศึกษาไดม้ ี 1863 โดยนกั เรียนจะตอ้ งเข้ารว่ มสตดู โิ อของนัก
วชิ าการเพ่อื เรียนรู้วิธกี ารลงสี

Life class at the Royal Danish Academy of Fine Arts in 1826 by Wilhelm Bendz

ลกั ษณะของงานศลิ ปะวชิ าการ 14

หลกั การทสี่ �ำคัญท่ีสุดของศลิ ปะวชิ าการตามทีก่ ำ� หนดโดยสถาบนั การศกึ ษาของฝร่ังเศส
สามารถแสดงไดด้ งั นี้

1. ความมีเหตผุ ล

สถาบันได้พยายามอยา่ งหนกั ในการสง่ เสริมศลิ ปะทางปญั ญา (intellectual) เชน่ การแสดง
เกยี่ วกับความร้สู ึก (sensuous) ของศลิ ปะโรโกโก การตระหนักถงึ สงั คม (socially-aware) ของศิลปะ
แบบเรยี ลสิ ม์ในฝรงั่ เศส สไตล์ visual ของอมิ เพรสช่ันนสิ ม์ หรอื แม้แต่สไตล์ emotional ของ
เอก็ ซ์เพรสชันนิสม์ ทง้ั หมดถือว่าศลิ ปะเปน็ วินยั ทางปัญญาซึ่งเกีย่ วขอ้ งกบั ความมีเหตผุ ล
เหตผุ ลของการวาดภาพจึงมคี วามส�ำคญั ความมเี หตผุ ลดังกลา่ วได้รบั การยกตวั อย่างจาก
เรื่องของการใช้สัญลักษณ์เปรยี บเทียบ หรอื อา้ งอิงถงึ วชิ าคลาสสิกไม่วา่ จะเปน็ เชิงประวัตศิ าสตรห์ รอื
เชงิ เปรียบเทียบ รวมไปถงึ การวางแผนอย่างรอบคอบในการทำ� งานศลิ ปะ ซึง่ ตอ้ งผา่ นการรา่ งเบ้ืองต้น
หรอื การใชห้ ่นุ จ�ำลองกเ็ ชน่ กัน

2. ขอ้ ความ Students painting “from life”
at the École.
ความส�ำคัญอย่างย่ิงขึ้นอยู่กับ Photographed late 1800s.

ข้อความหรือการสือ่ สารของภาพวาด ซึ่งจะ
ท�ำให้ยกระดับภาพวาดเน่ืองจากมีเนื้อหา
ทางศลี ธรรมสงู หลักการนี้เป็นพน้ื ฐาน แ น ว คิ ด ก็ คื อ ภ า พ เ ขี ย น
สำ� หรับการจัดล�ำดบั คุณคา่ ของศลิ ปะ (Hier- ประวัติศาสตร์เป็นรูปแบบที่ดีกว่าในการ
archy of the Genres) ซงึ่ เปน็ ระบบการจดั สอ่ื สารข้อความที่มคี วามซับซอ้ น อยา่ งศิลปะ
อันดบั ทปี่ ระกาศใช้คร้งั แรกในปี ค.ศ. 1669 คริสเตียน (Biblical art) ที่นำ� เสนอเรอ่ื งราว
โดยเลขาธิการสถาบันการศึกษาฝร่ังเศส ของศาสนาคริสต์จะถ่ายทอดข้อความท่ี
ประเภททไี่ ด้ลำ� ดับความสำ� คัญไวม้ ดี ังน้ี ต้องการจะส่ือสารได้ชัดเจนว่าเก่ียวกับ
คุณธรรมและศีลธรรมรวมถึงความกล้าหาญ
(1) จติ รกรรมประวตั ศิ าสตร์ และจิตวิญญาณ ในขณะที่การวาดภาพหุ่น
(2) ศลิ ปะภาพเหมือน น่ิงจะเป็นการวาดภาพดอกไม้ในแจกันเป็น
(3) ภาพชวี ติ ประจำ� วัน สว่ นใหญ่ ในความเป็นจริงศลิ ปนิ จะประสบ
(4) ภาพวาดภูมทิ ศั น์ ความส�ำเร็จในการแทรกเน้ือหาทางศีลธรรม
(5) การวาดภาพหนุ่ นิง่ ในรปู ภาพทกุ ประเภทรวมไปถึงภาพนง่ิ

3. อนสุ ัญญาด้านศิลปะอืน่ ๆ • พืน้ ผิวของสีควรเรียบเนยี นโดยไม่มีรอ่ งรอยของ
แปรงเทคนคิ อมิ เปสโต้ (Impasto) จงึ ไม่เป็นทนี่ ิยม
เมื่อเวลาผ่านไปหน่วยงานวิชาการ เพราะสถาบันต้องการงานทป่ี ระณีต
จะค่อย ๆ สร้างกฎและระเบยี บแบบแผนขน้ึ
มาอย่างต่อเนอ่ื ง ตัวอยา่ งเชน่ La Grande Odalisque (1814)
• ศลิ ปินควรท�ำตามอุดมคติ (ide- Jean Auguste Dominique Ingres
alized) แทนทจ่ี ะท�ำให้เหมอื นจรงิ มากเกนิ
ไป (overly realistic) ในความสมจริงใน The Death of General Wolfe (1770)
ใบหน้าร่างกายหรือรายละเอียดของฉากอาจ Benjamin West
ไม่เป็นทีน่ ่าพอใจ เชน่ งานของศิลปินทีถ่ กู
วิพากษ์วิจารณ์ถึงความยาวผิดปกติของแผ่น 16
หลังใน La Grand Odalisque (1814, พิพิธ
ภัณฑ์ลฟู ร)์
• ภาพวาดประวตั ศิ าสตร์ ควร
แสดงให้เห็นคนที่แต่งกายในชุดยุคสมัยเดียว
กบั ประวตั ศิ าสตร์ ตัวอย่างเช่นภาพ The
Death of General Wolfe (1770, Nation-
al Gallery of Art, Ottawa) ซึ่งเป็นภาพ
ประวตั ศิ าสตรค์ รัง้ แรก แตม่ ีการแต่งกาย
แบบร่วมสมัย
• กฎท่มี าควบคมุ การใช้มมุ มอง
ทศั นยี ภาพเชิงเสน้ และการย่อสว่ นเพอื่ ให้
สอดคล้องกับทฤษฎีในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
เช่นเดียวกบั ทเี่ ร่ืองของค่าต่างแสง (Chiar-
oscuro)
• สคี วรมาจากสีตามความเป็นจรงิ
เชน่ หญา้ ควรเป็นสีเขยี ว ศิลปะอิมเพรสชน่ั
นสิ ตแ์ ละนโี ออิมเพรสช่นั นสิ ต์ จึงไมร่ ับการ
อนมุ ัตจิ ากทางวิชาการ

Paris Salon

ในชว่ งปลายศตวรรษท่ี 19 การศกึ ษา คนในแวดวงสงั คมศิลปะ ในวนั อาทติ ยว์ นั เดียว
ศลิ ปะทำ� ให้สังคมยโุ รปอิม่ ตวั มีการจัด อาจมผี ู้มามาเย่ียมชมมากถึง 50,000 คนและมาก
นิทรรศการบ่อยคร้ังและนิทรรศการที่ได้รับ ถงึ 500,000 คนที่มาชมนิทรรศการในช่วงระยะ
ความนยิ มมากทส่ี ดุ คือ Paris Salon หนงึ่ ในนน้ั เวลาสองเดอื น รูปภาพนบั พันถูกจดั แสดงขึน้
คือ Salon d’Automne ไดเ้ ร่ิมจัดขึ้นในปี ค.ศ. แขวนจากระดับต�่ำกว่าเพดานจนถึงระดับสายตา
1903 ซ่ึงถือวา่ เปน็ กจิ กรรมทน่ี ่าตื่นเต้นและยงั ลักษณะนี้เป็นที่ร้จู กั กนั ในช่ือ “ซาลอนสไตล”์
สามารถดึงดูดผู้เข้าชมท้ังในและต่างประเทศ การประสบความส�ำเร็จในการจัดแสดงท�ำให้ได้
โดยถือว่าเป็นหน่ึงในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ กลายเป็นตราประทับของการอนุมัติส�ำหรับ
17 ศลิ ปนิ วา่ งานของเขาเป็นท่นี ยิ มอกี ด้วย

การแข่งขันศิลปะที่มีช่ือเสียงที่สุด การแขง่ ขนั
ส�ำหรับนักเรยี นคือ Prix de Rome ผูช้ นะของ
Prix de Rome จะไดเ้ ข้าเรยี นท่โี รงเรียนของ อย่างเป็นท่ีรู้กันว่าการจัดแสดงที่
Académie française ที่ Villa Medici ในกรุง ประสบความส�ำเร็จท่ีซาลอนน้ันเป็นตราประทับ
โรมนานถงึ หา้ ปี ในการแขง่ ขันศลิ ปนิ ตอ้ งมี ของการอนมุ ัติสำ� หรับศลิ ปิน ศิลปินท่ีชนะจะ
สญั ชาตฝิ รั่งเศส เพศชาย อายตุ �ำ่ กวา่ 30 ปแี ละ สามารถยื่นค�ำร้องต่อคณะกรรมการเพื่อเลือก
โสด เขาตอ้ งท�ำตามข้อก�ำหนดของทาง École ต�ำแหน่งท่ีต้องการได้โดนส่วนมากจะอยู่ใน
และได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์สอนศิลปะ ระดบั สายตา เนือ่ งจากหลังจากการเปดิ
ท่มี ชี ่ือเสยี ง นิทรรศการศิลปินหลายคนได้บ่นว่างานของ
การแข่งขันครั้งน้ีเข้มงวดในหลายข้ัน พวกเขาลอยฟ้าเพราะต�ำแหน่งท่ีแขวนอยู่สูงเกิน
ตอนก่อนที่จะถึงการแข่งขันรอบสุดท้ายในรอบ ไป และความสำ� เรจ็ ขัน้ สงู สุดส�ำหรับศิลปินมือ
10 คนสดุ ท้ายจะผเู้ ข้าแขง่ ขันจะถกู แยกในสตูดิ อาชีพในตอนนั้นคือการเลือกเป็นสมาชิกใน
โอเป็นเวลา 72 วันในการวาดภาพประวตั ศิ าสตร์ Académie françaiseและสทิ ธใิ นการเปน็ ทรี่ ู้จั
ของพวกเขา ผู้ชนะก็จะม่นั ใจได้วา่ อาชพี การงาน กในฐานะนกั วชิ าการ
ของเขาจะประสบความส�ำเร็จ

Académie française

ศิลปะสถาบันในโลกของ

การเปล่ยี นแปลง

ศิลปะสถาบันในศตวรรษท่ี 20 ศิลปะสถาบันในศตวรรษที่ 21
ช่ือเสียงของศิลปะสถาบันได้ลดลงไป อย่างไรก็ตามในขณะที่ยังคงมีช่อง
อกี ในช่วงสามทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 20 วา่ งระหวา่ งรูปแบบของศิลปะหลงั สมยั ใหม่และ
เนื่องจากเกิดศิลปะแบบเอ็กซเพรสชันนิสม์ รปู แบบของภาพวาดทางวิชาการ ส่งิ ตา่ ง ๆ อาจ
(Expressionist) และ ศลิ ปะแบบคิวบสิ ม์ มกี ารเปลยี่ นแปลง แม้จะเป็นความจรงิ ทว่ี า่ งาน
(Cubism) ซึ่งทัง้ สองถอื ว่าเปน็ มีการตอ่ ตา้ น ศิลปะเริม่ ไม่ใช่เชงิ วชิ าการ
ศิลปะแบบดัง้ เดมิ จากน้นั ในชว่ งปี ค.ศ. 1916- แต่สิ่งหนึ่งท่ีสถาบันศิลปะสอนทุกวัน
1925 ศลิ ปะดาดา้ (Dada) ก็ได้โจมตีแนวคิด น้ี แตกตา่ งจากเมื่อหลาย ๆ ปกี ่อน ดงั นน้ั การ
ศิลปะแบบดัง้ เดมิ สอนวชิ าศิลปะจึงมคี วามทันสมยั มากข้นึ ทัง้ ใน
ต่อมาในปี ค.ศ. 1960 โลกศลิ ปะซึ่ง เน้ือหาและวิธกี ารสอน แตเ่ หตุผลหลักว่าทำ� ไม
ตอนนม้ี ีศนู ยก์ ลางอยูท่ ี่นวิ ยอร์ก ก็มกี ารคิดคน้ มันถึงมีความสำ� คญั มากขน้ึ ในทกุ วันน้ี เพราะว่า
ศลิ ปะรูปแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ เช่น Concep- ในขณะน้ันผคู้ นมองหาสง่ิ ใหม่ ๆ ให้กบั งาน
tual art และ Installation art การถา่ ยภาพ ศิลปะด้วยท้ังเทคโนโลยีท่ีมีความก้าวหน้ามาก
ศิลปะรูปแบบใหม่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับศิลปะ ข้ึนอีกท้ังวิถีของคนในสังคมปัจจุบันได้เปล่ียน
ดิจทิ ลั และคอมพวิ เตอรป์ ระเภทตา่ ง ๆ ในชว่ ง ไป รปู แบบของงานศิลปะจึงมีการเปลย่ี นแปลง
ปลายทศวรรษ 1980 ถงึ ต้น 1990 การแขง่ ขนั ไปตามยคุ สมยั แต่หากไม่มีการอนุรักษ์ละรักษา
ศิลปะรว่ มสมัยเช่น Turner Prize ก็ไม่ค่อยมี รปู แบบของงานศิลปะเกา่ ๆ อาจจะท�ำใหเ้ รา
ศิลปินดั้งเดิมหรือนักวิชาการท่ีผ่านการฝึก หลงลมื คณุ ค่าของศลิ ปะในประวัตศิ าสตรไ์ ด้
อบรมมาก่อนทจ่ี ะไดร้ ับรางวัล กล่าวคอื หลงั ศิลปะไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหนต่าง
จากในปี ค.ศ. 2000 สถาบนั การศกึ ษาด้าน ก็มีความนา่ สนใจแตกตา่ งกันไป หากเราเปิดใจ
ศิลปะก็แทบจะไม่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนด้าน รบั
ศลิ ปะแล้ว
19

ผลงานของศิลปนิ
ในศิลปะสถาบัน

21 Slumbering Maid
Ludwig Knaus
1866

22

Little Girl with Dachshund Puppy
Ludwig Knaus
1865

23

Promenade in the Tuileries Gardens
Ludwig Knaus

The Birthday Party 24
Ludwig Knaus
1868

25 The Music Lesson
Frederic Leighton

1877

26

Biondina
Frederic Leighton

1879

27

Flaming June
Frederic Leighton

1895

Winding the Skein 28
Frederic Leighton
1878

29 In a Roman Osteria
Carl Bloch
1866

30

Sympathy
Briton Riviere

1877

31

Asterié
Edward Poynter

1904

Chloe 32
Edward Poynter
1893

33

Isola San Giulio, Lake Orta
Edward Poynter
1880

Pea Blossoms 34
Edward Poynter
1890

35 Corner of the Marketplace
Edward Poynter
1887

36

Les bulles de savon
Thomas Couture
1859

37

Mary Magdalene at the Tomb
Alexandre Cabanel
1875

Consolation 38
Auguste Toulmouche
1867

39

La Toilette
Auguste Toulmouche

1890

An Elegant Beauty 40
Auguste Toulmouche
1883

บรรณานุกรม

Academic art (ออนไลน)์ เขา้ ไดถ้ ึง : https://en.wikipedia.org/wiki/Academic_art
(วันที่สืบคน้ ข้อมูล : 11 มีนาคม 2563)
Academic Art (ออนไลน)์ เข้าได้ถึง : https://www.wikiart.org/en/artists-by-art-
movement/academic-art#!#resultType:masonry
(วันท่ีสืบค้นข้อมูล : 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2563)
Academic Art (ออนไลน์) เขา้ ไดถ้ ึง : http://www.visual-arts-cork.com/histo-
ry-of-art/academic-art.htm
(วนั ทสี่ ืบค้นข้อมลู : 10 มนี าคม 2563)
Accademia delle Arti del Disegno (ออนไลน์) เขา้ ไดถ้ ึง : https://en.m.wikipedia.
org/wiki/Accademia_delle_Arti_del_Disegno
(วันทสี่ บื ค้นข้อมลู : 14 มีนาคม 2563)
Alexandre Cabanel (ออนไลน)์ เข้าได้ถึง : https://en.m.wikipedia.org/wiki/Alexan-
dre_Cabanel
(วนั ที่สบื คน้ ข้อมลู : 14 มนี าคม 2563)
What does academic art mean? (ออนไลน)์ เข้าได้ถงึ : https://www.definitions.
net/definition/academic+art
(วันที่สืบค้นขอ้ มูล : 9 กุมภาพันธ์ 2563)




Click to View FlipBook Version