The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นิเวศป่าชายเลน - นิเวศทางทะเลและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wassana.b59, 2021-03-14 09:22:44

นิเวศป่าชายเลน - นิเวศทางทะเลและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

นิเวศป่าชายเลน - นิเวศทางทะเลและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ระบบนิเวศป่าชายเลน
Mangrove ecosystem
นางสาวนธิ กิ าตน์ พรมมารกั ษ์ 62410048

คำนำ

หนั งสื อเล่นเป็นส่ วนหน่ึ งของรำยวิชำนิ เวศทำงทะเลและกำร
ท่องเทีย่ วเชงิ นิ เวศ รหัส 43 โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อให้รูค้ วำมหมำยของ
ป่ำชำยเลนเรำสำมำรถนำควำมรูน้ ี้ มำเผยแพรใ่ ห้กับรุน่ ตอ่ ๆไป

ผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อน้ี ในกำรทำรำยงำนเน่ื องมำจำกเป็นเรอื่ ง
ที่น่ ำสนใจ และทำให้ตระหนั กรูถ้ งึ คุณประโยชน์ ของป่ำไมช้ ำยเลน

ผจู้ ัดทำจึงขอขอบคุณ ทำงคณะผู้จัดทำ
หวังว่ำหนั งสื อฉบับนี้ จะทำให้ได้ควำมรู้เรื่อง
ป่ำชำยเลนและเป็นประโยชน์ แก่ผู้อ่ำนทุกๆ
ท่ำน

ห ำ ก ร ำ ย ง ำ น ฉ บั บ นี้ มี ข้ อ ผิ ด พ ล ำ ด
ประกำรใด เรำตอ้ งขออภัยไวน้ ะที่นี้ ด้วย

สำรบญั

o ร ะ บ บ นิ เ ว ศ ป่ า ช า ย เ ล น
o ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ป่ า ช า ย เ ล น
o ค ว า ม สา คั ญ ข อ ง ป่ า ช า ย เ ล น แ ล ะ ป ร ะ โ ย ช น์ ข อ ง ป่ า ช า ย

เลน
o พั น ธุ์ ไ ม้ ป่ า ช า ย เ ล น ท่ี น่ า ส น ใ จ บ า ง ช นิ ด
o สั ต ว์ ใ น ป่ า ช า ย เ ล น ท่ี น่ า ส น ใ จ บ า ง ช นิ ด
o ผ ล ก ร ะ ท บ ก ร ะ บ บ นิ เ ว ศ ป่ า ช า ย เ ล น
o ปั ญ ห า ก า ร ทา ล า ย ป่ า ช า ย เ ล น
o ก า ร อ นุ รั ก ษ์ แ ล ะ ก า ร จั ด ก า ร ป่ า ช า ย เ ล น
o ก า ร ก ร ะ จ า ย ข อ ง พื้ น ท่ี ป่ า ช า ย เ ล น ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย

ระบบนิเวศป่าชายเลน

“...ป่าไม้ชายเลนนี้ สาคัญท่ีสุด เพราะว่าเป็นทที่ ี่เพาะเลี้ยงสัตว์
นา้ เพราะพวกเราเองก็รับประทานปลา แล้วทานปู ทานกุ้ง
กันเยอะแยะ เพราะฉะนั้ นป่าชายเลนน้ี สาคัญในการที่จะ
รักษาเอาไว้เพื่อรักษาพันธุป์ ลา พันธุก์ ุ้ง ปู ให้มีมากเหมือน
แต่เกา่ ก่อน ขณะนี้ ป่าชายเลนถูกทาลายมากมายก่ายกอง เรา
น่ าจะสอนลูกหลานเราให้รู้ถึงคุณค่าของป่าชายเลนที่มี
ประโยชน์ ต่อคนไทยในแผน่ ดินนี้ ด้วยทีช่ ว่ ยเก็บรกั ษาอาหาร
เชน่ พืช พันธุป์ ลาต่างๆ ท่ีข้าพเจ้าคิดเอาเองว่า เอ๊ะพวกเรานี้
รู้สึ กยังรักแผ่นดินน้ี น้ อยไป ไม่สมกับที่เราได้ประโยชน์
มากมายจากแผ่นดินนี้ พวกเรายังรู้จักคุณค่าของแผ่นดินน้ี
น้ อยไป ไม่รู้จักถนอม ไม่รู้จักดูแลให้แผ่นดินที่เป็นแผ่นดิน
ทอง ตลอดมีทรพั ยากรท่มี ีอาหารสาหรบั เลี้ยงคนไทยตลอด
โดยไมก่ ลายเป็นบ้านเมอื งทอี่ ดอยาก แห้งตาย...”
กระแสพระราชดารัสสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชนิ ี นาถ
13 สิงหาคม พ.ศ. 2544

1

ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ป่ า ช า ย เ ล น

ป่าชายเลน เป็นระบบนิ เวศท่ีประกอบไป
ด้ว ย พื ชพั น ธุ์น า น า ชนิ ด แ ล ะ สั ต ว์ น า น า พั น ธุ์
ดารงชวี ติ รว่ มกันในสภาพแวดล้อมที่เป็น ดินเลน
นา้กร่อย และมีนา้ทะเลท่วมถึงสมา่เสมอ ดังน้ั น
จึงพบป่าชายเลนปรากฏอยู่ทั่วไปตามบริเวณที่
ราบชายฝ่ ังทะเล ปากนา้ ทะเลสาบ และรอบเกาะ
แก่งต่างๆ ป่าชายเลนมีชอื่ เรียกอีกอย่างว่า “ป่า
โกงกาง” โดยเรียกชอ่ื ตามชนิ ดไม้ที่มีมากและมี
บทบาทที่สาคัญที่สุดในระบบนิ เวศป่าชายเลน
“ไม้โกงกาง” ซ่งึ ไม้ชนิ ดนี้ มีลักษณะพิเศษ คือราก
ที่ติดลาต้นจะโก่งกางลงสู่พ้ืนดิน หรอื ที่เรยี กอีก
อย่างว่า “รากคา้จนุ ” นั่ นเอง

สรุปได้ว่า ป่าชายเลนหรอื ป่าโกงกาง
(Mangrove forest หรือ intertidal
forest) หมายถึง สั งคมพืชที่จัดอยู่ในป่า
ประเภทไม่ผลดั ใบ สามารถทนต่อความเค็ม
ของนาทะเลได้ดีประกอบด้วย พั นธุ์ไ ม้
หลายชนิ ด หลายตระกูลและเป็นพวกที่มี
ใบเขียวตลอดปี ซง่ึ มีลักษณะทางสรรี วิทยา
และความต้องการส่ิ งแวดล้อมท่ีคล้ายกัน
และยังหมายถึงกลุ่มของสั งคมพืชท่ีข้ึนอยู่
บรเิ วณปากแม่นา้ ชายฝ่ ังทะเลหรอื อ่าว ซ่ึง
เป็นบรเิ วณที่มีระดับนา้ทะเลท่วมถึงในชว่ ง
ท่ี มี น า้ ท ะ เ ล ข้ึ น สู ง สุ ด ซ่ึ ง ส่ ว น ใ ห ญ่
ประกอบด้วยพันธุ์ไม้สกุลโกงกางเป็นไม้
สาคัญและมีไม้ตระกลู อืน่ ปะปนอยดู่ ว้ ย

2

ความสาคญั ของปา่ ชายเลนและ
ประโยชนข์ องปา่ ชายเลน

คุณประโยชน์ ของป่าชายเลนว่าป่าชายเลนเป็นระบบนิ เวศท่ี
มีคุณค่ามหาศา ล และมีควา มสาคัญต่อมนุษ ย์หลายรู ปแบ บ
คุณประโยชน์ ที่เห็นได้ชดั เจนท่ีสุดคือ การใชป้ ระโยชน์ จากไม้ชาย
เลนเพื่อการเผาถ่าน ต้นไม้ในป่าชายเลนปลูกงา่ ย โตเรว็ จึงมีรอบ
ตัดฟื นน้ อยกว่าต้นไม้ในป่าชายเลนหลายเท่า ไม้ป่าชายเลน
นอกจากจะใช้เผาถ่าน ยังมีการใชป้ ระโยชน์ ในรู ปแบบอ่ืนๆ คือ
เป็นไม้ฟืน ไม้เสาเข็ม ไม้คา้ยัน ไม้ก่อสร้าง แพปลา อุปกรณ์ การ
ประมง และเฟอร์นิ เจอร์ ป่าชายเลนยังเป็นแหล่งยังชีพของ
ประชาชนยากไร้ที่อาศั ยอยู่ตามชายฝ่ ังทะเล โดยชว่ ยเอื้ออานวย
ปัจจัยในการดารงชีพหลายประการ เช่น หลักไม้สาหรับใช้
อุปกรณ์จบั สัตวน์ า้ เปลือกไมบ้ างชนิ ด

3

ป่ ำ ช ำ ย เ ล น เ ป็ น อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ท่ี สำ คั ญ ย่ิ ง ข อ ง
ช ำ ย ฝ่ ั ง ท ะ เ ล แ ล ะ นั บ เ ป็ น ท รั พ ย ำ ก ร ท่ี มี คุ ณ ค่ ำ ม ห ำ ศ ำ ล
ทั้ ง ท ำ ง ด้ ำ น เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ

ป่าชายเลนเปน็ แหลง่ พลงั งาน และแหลง่ วตั ถดุ บิ ไมใ้ ช้ 4
สอยและกอ่ สรา้ งในครวั เรอื น

แหล่งพลังงานที่สาคัญในป่าชายเลนได้มาจากถ่าน ไม้ป่าชายเลนที่
นิ ยมนามาเผาถา่ นคือ ไม้ โกงกาง เพราะติดไฟทนทาน ไม่มีควัน ไม่ปะทุแตก
ไฟ ได้ก้อนถ่านสวยงาม ขายได้ราคาดี ปัจจุบัน ถ่านไม้โกงกางที่มีชอ่ื เสียง
คือถ่านไม้โกงกางบ้านยี่สาร จ.สมุทรสงคราม นอกจากนี้ ไม้ป่าชายเลนมี
ประโยชน์ ใชส้ อยและก่อสรา้ ง เชน่ ไม้เสาเข็ม ไม้คา้ยัน ไม้ ก่อสรา้ ง แพปลา
อปุ กรณ์การประมง เฟอรน์ ิ เจอร์ ไม้หลายชนิ ดนามาสกัดจะไดแ้ ทนนิ น ใชท้ า
นา้ หมึก ทาสี ทากาว ย้อมอวน ฟอกหนั ง เป็นต้น

ป่ า ช า ย เ ล น เ ป็ น แ ห ล่ ง พื ช ผั ก แ ล ะ
พื ช ส มุ น ไ พ ร

พืชในป่าชายเลนสามารถนามาใช้เป็นผักพ้ืนบ้านจานวน
หลายชนิ ด เชน่ ใบชะคราม ยอดเป้ง ยอดผักเบี้ยทะเล ต้นจากก็เป็น
พืชป่าชายเลนอีกชนิ ดหน่ึ งท่ีสามารถนาส่วนต่างๆ มาใช้ ประโยชน์
ได้ คือ ใบนามาทาเป็นตับมุงหลังคา ใบอ่อนสามารถนามามวนบุหร่ี
ได้ นา้จากยอดอ่อน นามาทานา้ตาลจากรสชาติดี ผลใชก้ ินเป็นของ
หวาน พืชในป่าชายเลนหลายชนิ ดนามาใชเ้ ป็นสมุนไพรได้ เช่น
เหงอื กปลาหมอ มะนาวผี ใช้ รกั ษาโรคผิวหนั ง ผลของตะบูนขาวใช้
รกั ษาโรคบิดและโรคท้องรว่ งได้ รากตาตุ่มทะเลใชแ้ ก้อักเสบ แก้ไข้
แก้คัน เป็นต้น

ป่าชายเลนเป็นแหล่งอาหารที่สาคัญของ
สัตวน์ า้

เศษซากพืชหรอื เศษไม้ใบไม้และส่วนต่างๆ ของไม้ป่าชายเลน
ที่ร่วงหล่นลงมา จะถูกย่อย สลายกลายอินทรียวัตถุ กระบวนการ
ย่อยสลายของอินทรยี ์วัตถุเหล่านี้ จะทาให้เกิดสารอินทรยี ์ที่ ละลาย
นา้ เชน่ กรดอะมิโน ซ่ึงสาหร่ายและจุลินทรีย์ต่างๆ จะสามารถใช้
เป็นอาหารได้ และ จลุ ินทรยี เ์ หล่านี้ เป็นแหล่งอาหารที่สาคัญสาหรบั
ส่ิงมชี วี ิตตา่ งๆ ท่ีอาศัยอยู่ในป่าชายเลนตอ่ ไป

5

พั น ธ์ุ ไ ม้ ป่ า ชาย เ ลนท่ี น่ า สนใจ บา งชนิ ด

พันธุไ์ ม้ป่าชายเลนในประเทศไทยมีหลายชนิ ด ทั้งไม้ยืนต้นพวก
กาฝาก เถาวัลย์และสาหรา่ ย ซง่ึ เกือบทงั้ หมดเป็นไม้ไม่ผลัดใบ มี
ลักษณะทางกายวิภาคและสรรี ะคล้ายคลึงกันและมีพันธุไ์ ม้อยู่ถึง
35 วงศ์ 53 สกุลและ 74 ชนิ ด พันธุท์ ่เี ด่นและสาคญั ส่วนใหญ่อยู่
ในวงศ์ Rhizophoraceae

• สกุลไมโ้ กงกำง (Rhizophora) เป็นพระเอกของป่ำชำย
เลนเลยกว็ ำ่ ได้ เขียวชอมุ่ ตลอดปี มี 2 ชนิ ด ไดแ้ ก่

โกงกางใบใหญ่ (Rhizophora mucronata)
เป็นพืชที่มีลาต้นต้ังตรงแตกก่ิงก้านเป็นพุ่ม
บริเวณเรือนยอด ใบมีขนาดใหญ่ ช่อดอก
ขนาดใหญ่

โกงกางใบเล็ก (Rhizophora apiculata)
ลักษณะคล้ายคลึงกับโกงกางใบใหญ่มากแต่
แตกต่างกันที่ชนิ ดนี้ มีใบขนาดเล็ก ช่อดอก
เล็กกว่าเพราะมีเพียง 2 ดอกและที่สาคัญกลีบ
ดอกไม่มีขน

• สกลุ ไมโ้ ปรง (Ceriops) มชี นิดเดน่ 2 ชนิ ด ไดแ้ ก่

โปรงแดง (Ceriops tagal) เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงปานกลางไม่
ใหญ่นั ก ชอบดินท่ีมีสภาพเป็นกรดและค่อนข้างเป็นท่ีดอน มีลาต้นสี
เหลืองถึงสี ปูนแห้ง เมื่อมองบนต้นอาจจะเห็นต้นอ่อนท่ียาวประมาณ
15-25 ซม. แขวนห้อยบนก่ิงในทิศทางท้ิงตวั ลงมา

โปรงขาว (Ceriops decanda) ลกั ษณะส่วนใหญ่คล้ายโปรงแดงมาก
เพียงแตม่ ตี น้ อ่อนขนาดส้ันกวา่ เพียง 9-15 ซม. ติดอยู่บนก่งิ และท้ิง
ตวั อย่างสะเปะสะปะไม่มที ศิ ทางท่ี

6

• สกลุ ไม้แสม (Avicennia)
ที่เดน่ ๆมี 4 ชนิด ไดแ้ ก่

แสมทะเล (Avicennia marina)
เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่
พบมากในดินเลนทราย มใี บสีเหลอื งออ่ น
ห่อกลับเข้ามาเหมอื นหลอดกลมๆโชว์ให้
เห็นท้องใบสี ขาวนวล

แสมขาว (Avicennia alba) มักข้ึน
ปะปนกับแสมทะเลท่ีพ้ืนดนิ เลนปนทราย
ลักษณะเดน่ ทีส่ ะดดุ ตาแตไ่ กลคือใบท่ี
ละเอียดเล็กเป็นสีขาว-บรอนซ์ ดอกสี
เหลือง ผลรูปไข่ยาวคล้ายผลพรกิ ชฟี้ ้า

แสมดา (Avicennia offcinalis)
ผลรูปไข่ ปลายเป็นจะงอย ใบเป็นรูปไข่
กลมป้อม ปลายใบมนหลงั ใบเป็นมนั ทอ้ ง
ใบสีนา้ตาลออ่ นหรอื นาต้ าลแก่

สามะงา (Clerodendrum inerme)
เป็นไมพ้ ุ่มเต้ียที่ขอบใบเรยี บไม่มหี นาม
กลบี ดอกติดกันเป็นหลอดยาว ส่วนบน
แยกออกเป็นกลบี ส้ัน

7

ลาพูทะเล (Sonneratia alba) เป็นไม้เบกิ นาของป่า
ชายเลนเชน่ เดยี วกับแสม ใบเป็นสีเขียวออ่ น ปลายมนคล้าย
รูปหัวใจกลับด้าน กา้ นใบด้านหลังและสีด้านในกลบี เล้ียง
เป็นสี ชมพู

• สกลุ ไมล้ ำพู ลำแพน (Sonneratia)

ลาแพน (Sonneratia ovata) เป็นไมเ้ บิกนา
ของป่าชายเลนเชน่ เดยี วกบั แสม ใบเป็นสีเขียวอ่อน

8

สัตว์ในปา่ ชายเลนที่นา่ สนใจบางชนดิ

9

สัตว์ในปา่ ชายเลนทน่ี า่ สนใจบางชนดิ

ป่ำชำยเลนเป็นแหล่งทอี่ ดุ มสมบรู ณ์ดว้ ยสัตว์หลำยชนิ ดท้งั ทเี่ ป็นสัตว์
นำ้ เชน่ กุ้ง หอย ปู ปลำ ที่มีควำมสำคัญทำงเศรษฐกิจและสัตว์ชนิ ด
อื่นๆเชน่ นก สัตวเ์ ลี้ยงลกุ ด้วยนมและสัตว์เลอ้ื ยคลำน

ชอื่ ไทย : ปูเป้ ียวก้ามขาว
ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Uca perplexa
บริเวณชายหาดโคลนปนทราย รมิ ป่าชายเลน จะเป็นท่ีอยู่อาศั ยของปูเป้ ียวหรอื ปู
ก้ามดาบ ซ่ึงมีก้ามข้างหน่ึ งขนาดใหญ่ใชโ้ บกพัดแสดงความเป็นเจ้าของอาณาเขต
ของตน ตามปกติปูก้ามดาบจะขุดรู และออกมาจากรูหาอาหารชว่ งเวลานา้ลง และ
ฝังตัวอยใู่ นรูเม่ือนา้ทะเลข้ึน

ชอื่ ไทย :ปูเป้ ียวปากคีบ
ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Uca forcipata
ปูก้ามดาบอีกชนิ ดหน่ึ ง มีกระดองสี ดา ก้ามสีนา้ตาลอมม่วง ชอบอาศั ยอยู่ตามพ้ืนท่ี
เป็นดินโคลน แยกจากกล่มุ ของปูเป้ ียวก้ามขาว ท้ังน้ี เป็นการลดการแก่งแย่งแข่งขัน
ระหว่างปูประเภทเดยี วกัน

ชอ่ื ไทย : ปเู ป้ ียวขาแดง

ชอื่ วิทยาศาสตร์ : Uca tetragonon

ปูก้ามดาบชนิ ดท่ีมีกระดองสีฟ้าแต้มด้วยจุดดา ตรงมุมกระดองมีสีเหลือง ขาเดินมี
สีส้มแดง ตัวเมียมีก้ามขนาดเล็กทั้งสองข้างเชน่ เดียวกับปูก้ามดาบทั่วไป พบอาศัย
อย่ตู ามหาดโคลนใกล้แนวป่าชายเลนทางฝ่ ังทะเลอนั ดามั

กุง้ แชบ๊วย (Penaeus merguiensis)

กุ้งทะเลขนาดค่อนข้างใหญ่ใกล้เคียงกังกุ้งกุลาดา เปลือกหุ้มตัวมีสี เหลืองนวลบน
กรมี ีฟัน 5-8 ซ่ี ด้านล่างมี 2-5 ซ่อี าศัยอยู่ตามพื้นทะเลท่ีเป็นดินโคลนรมิ ชายฝ่ ังและ
ลาคลองในป่าชายเลน

10

ผลกระทบจำกระบบ
นิ เวศป่ำชำยเลนโดยตรง

ผลกระทบด้านกายภาพและเคมภี าพ ผลกระทบกบั นิเวศวทิ ยำ
(physicochemical properties)
ทาลายแหลง่ ป้องกนั การพังทลาย
อณุ หภูมขิ องนา้ ปรมิ าณออกซเิ จนละลายใน ของดนิ
นา้ ปรมิ าณธาตุอาหาร ความเค็ม สภาพทาง ชายเลนชว่ ยลดความเรว็ ของกระแสนา้ที่กัด
อุทกวิทยา (การข้ึนลงของนา้ทะเล ปริมาณ เซาะรมิ ฝ่ งั ให้พังทลาย
นา้จืด การเกิดพายุ) การตกตะกอนและนา้
ขุ่นข้น ปริมาณสารมลพิษในนา้ และการ ทาลายทรพั ยากรชายฝ่ ัง
พังทลายของดนิ เป็นตน้
ท า ใ ห้ ป่ า ไ ม้ แ ล ะ ป ร ะ ม ง ล ด น้ อ ย ล ง มี
ผลกระทบทางดา้ นชีวภาพ ผลกระทบต่อประชาชนท่ีอาศั ยอยู่บริเวณ
(biological properties) ช า ย ฝ่ ั ง ที่ อ า ศั ย ป่ า ช า ย เ ล น ท า ม า ห า กิ น
รวมทงั้ ประชาชนทงั้ ประเทศ
การเปลี่ยนแปลงชนิ ดปริมาณและลักษณะ
โ ค ร ง ส ร้ า ง ก า ร ล ด ก า ร สื บ พั น ธุ์ ต า ม ทาให้เกิดมลพิษ
ธรรมชาติ เป็นตน้
ป่าชายเลนชว่ ยกรองมลพิษท่ีมากับแม่นา้ลา
ผลกระทบตอ่ ความสมดลุ ต่อระบบ คลองได้ดี ทาให้ตกตะกอนและแพร่ไปใน
นิเวศ (ecological balance) อาณาบริเวณที่กว้างขวางจนเกินไป 2.4
ท า ล า ย แ ห ล่ ง เ กิ ด แ ผ่ น ดิ น ง อ ก ใ ห ม่ ที่ อุ ด ม
ก า ร สื บ พั น ธุ์ ก า ร เ จ ริ ญ เ ติ บ แ ล ะ ก า ร สมบรู ณ์ ทาให้สญู เสียพ้ืนท่ขี ยายพันธุไ์ ม้และ
เปล่ียนแปลงทาลายที่อยู่ การเปลี่ยนแปลง การทาประมงชายฝ่ ังท่สี าคญั
ห่วงโซอ่ าหาร (food chain) ในระบบนิ เวศ
ป่าชายเลน รวมทงั้ ระบบนิ เวศบรเิ วณชายฝ่ ัง 11
และใกล้เคียง

ปัญหำกำรทำลำย
ป่ำชำยเลน

การประมง (การเพาะเล้ียงสัตว์ การทาเหมืองแรใ่ นพ้ืนทป่ี ่า
นา้) เป็นการเปล่ียนแปลงพ้ืนท่ี ชายเลน โดยเฉพาะการทา

ป่าชายเลนเพ่ือการเพาะเล้ียง เหมอื งแรด่ ีบกุ
สัตว์นา้ ส่วนใหญ่จะทานากุ้ง
โดยมกี ารทาลายป่าชายเลน

อยา่ งกว้างขวาง

การทาเกษตรกรรมส่ วนใหญ่ที่ การขยายตวั ของแหลง่ ชุมชน
ทาในพ้ืนทป่ี ่าชายเลน ไดแ้ ก่ ส่ วนใหญ่จะพัฒนาในรู ปของ
การปลกู ข้าวและการปลูก นิ คมสหกรณ์การประมงและ
มะพรา้ ว การเพาะเล้ียงชายฝ่ ัง การสรา้ ง

ท่ีอยูอ่ าศัย การสรา้ ง
สถานศึ กษา

การสร้างทา่ เทยี บเรอื ป่าชาย การสรา้ งถนน และสายส่ง
เลนมีโครงการขยายมากข้ึนใน ไฟฟ้า การสรา้ งถนนในพื้นท่ี
อนาคตในท้องท่จี งั หวัด บรเิ วณ
ป่าชายเลน ส่วนใหญ่จะตัด
ชายฝ่ ังทะเล ถนนไปส่ทู ่าเทยี บเรอื หรอื
โรงงานอุตสาหกรรมในบรเิ วณ

ชายฝ่ ังติดกับทะเล

การอตุ สาหกรรมและโรงงาน การขุดลอกรอ่ งนา้ เรอื ขุดจะ
ไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม พ่นดินเลนหรอื ทรายท่ีขุดลอก

ส่ วนใหญ่จะเป็นโรงงานปลาป่น จากบรเิ วณทอ้ งนา้ลงไปใน
โรงงานทาก้งุ แห้ง พื้นท่ีป่าชายเลนทาให้เกิดการ

ทบั ถมของดินตะกอน

การทานาเกลอื ไดด้ าเนิ นการ การตดั ไม้เกินกาลงั ผลติ ของป่า
อยา่ งกว้างขวางโดยเฉพาะ เพื่อการอุตสาหกรรม ไดแ้ ก่
จังหวัดสมุทรสาคร การตัดไมเ้ พื่อทาถ่านและ ฟืน
สมุทรสงคราม และ
สมทุ รปราการ 12

ทท

กำรอนรุ กั ษ์และ
กำรจดั กำรป่ำชำยเลน

ก า ร จั ด ก า ร ท รั พ ยา ก ร ป่ า ช าย เ ล นมี น โ ย บ า ยห ลัก ใ น ก าร จั ด ก า ร อ ยู่
2 ประการ ได้แก่

1. การอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรป่าชายเลนให้เกิดประโยชน์ สงู สุดต่อประชาชน โดย
การสงวนรักษาไว้ และใชป้ ระโยชนจากผลผลิตป่าชายเลนในระยะยาว รวมทั้งการ
ฟ้ ืนฟสู ภาพป่าชายเลนข้ึนใหม่

2. ควบคุมและลดจานวนกิจกรรมท่ีใช้ประโยชน์ ป่าชายเลน โดยไม่ถูก
หลักการอนรุ กั ษ์และนาไปสู่การทาลายทรพั ยากรป่าชายเลน

แนวทางดาเนินงานในอนั ทจี่ ะคุ้มครองและอนรุ กั ษ์ทรัพยากรป่าชาย
เลนไว้ตามนโยบายหลกั 2 ประการดังกลา่ ว สรุปได้ดังน้ี

เผยแพรข่ ่าวสารความรูค้ วาม จัดให้มสี ่วนหน่ วยพิทกั ษ์ป่าชาย สนั บสนนุ ให้ประชาชนใน
เข้าใจทถี่ กู ตอ้ งเกยี่ วกับป่าชาย เลนพรอ้ มกาลงั คน และอุปกรณ์ ทอ้ งถ่ินมีส่วนรว่ มในการ
ให้เพียงพอครอบคลมุ พ้ืนทีป่ า่ อนรุ กั ษ์ และพัฒนาทรพั ยากร
เลนสู่ประชาชนทกุ กลุ่ม ชายเลนท่วั ประเทศ และจับกมุ ป่าชายเลนของตนเองใน

ลงโทษผบู้ ุกรุกอย่างเขม้ งวด ลกั ษณะป่าชมุ ชน

ปรบั ปรุงกฎหมายและระเบยี บ การใชป้ ระโยชน์ พื้นทปี่ ่าชายเลน ปลูกฟ้ ืนฟูป่าชายเลนท่ี
ข้อบงั คับตา่ งๆ ให้มีความ บรเิ วณหน่ึ งบรเิ วณใด ควรเป็น เส่ือมสภาพข้ึนในบรเิ วณที่
สภาพแวดล้อมเอือ้ อานวย ทง้ั ใน
เหมาะสมสอดคลอ้ งกับมลู คา่ ลกั ษณะอเนกประสงค์
แท้จรงิ ของป่าชายเลนและ ภาครฐั และเอกชน

ลกั ษณะเฉพาะท่แี ตกตา่ งจากปา่
บก

ควรสนั บสนนุ งานวิจยั ทกุ สาขา โครงการพัฒนาทุกชนิ ดและทกุ ส่งเสรมิ การสรา้ งสื่อที่เป็น
เกีย่ วกบั ระบบนิ เวศป่าชายเลน ขนาดท่จี าเป็นต้องใชป้ ระโยชน์ ใน เครอ่ื งมอื ในการเผยแพร่
โดยให้ความสาคญั เปน็ พิเศษแก่ ประชาสัมพันธเ์ กยี่ วกบั ป่าชาย
งานวิจัยที่เป็นประโยชน์ ในการ พื้นท่ปี า่ ชายเลนอย่างไมอ่ าจ เลนทัง้ ภาครฐั และเอกชน
วางแผนการจัดการ และการ หลกี เล่ียงไดจ้ ะต้องศึกษา
วิเคราะห์ผลกระทบส่ิ งแวดล้อม 13
ฟ้ ืนฟูป่าชายเลน เพื่อกาหนดการปอ้ งกนั และแก้ไข
ผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มทีค่ าดวา่ จะ
เกดิ จากโครงการอยา่ งเหมาะสม

กำรกระจำยของพน้ื ทป่ี ำ่ ชำยเลน
ในประเทศไทย

ป่าชายเลนของประเทศไทยข้ึนอยู่กระจัด
กระจายตามชายฝ่ ังทะเลภาคตะวันออก ภาค
กลาง และภาคใต้ โดยจะพบทั้งทางด้านฝ่ ัง
อ่าวไทย และฝ่ งั ด้านทะเลอนั ดามัน

ภาคกลาง: จังหวัดท่ีพบได้แก่ บรเิ วณท่ีติดกับ
ช า ย ฝ่ ั ง ท ะ เ ล ข อ ง จั ง ห วั ด ส มุ ท ร ป ร า ก า ร
กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี
และประจวบคีรขี ันธ์

ภาคตะวันออก: แพร่กระจายอยู่ตามชายฝ่ ัง
ทะเลของจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
และฉะเชงิ เทรา

ภาคใต้: ส่วนมากจะเกิดเป็นแนวยาวติดต่อกัน
ทางชายฝ่ ังทะเลด้านตะวันตกหรอื ด้านทะเลอัน
ดามัน ในเขตจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบ่ี
ตรงั และสตูล

ส่วนชายฝ่ ังด้านตะวันออกหรอื ดา้ นอา่ วไทย จะพบตามปากนา้และลานา้ใหญ่ๆ
ในจังหวัดชุมพร สุราษฎรธ์ านี นครศรธี รรมราช สงขลา และปัตตานี

จังหวดั ท่ีมีพ้ืนท่ีป่าชายเลนมากท่ีสดุ ของประเทศไทย ได้แก่
จงั หวดั พังงา สตูล กระบ่ี และ ตรงั

14

แ ห ล่ ง อ้ า ง อิ ง

ระบบฐานขอ้ มลู กลางและมาตรฐานขอ้ มูลทรพั ยากรทางทะเลและ
ชายฝ่ ัง. ข้อมูลทวั่ ไปของป่าชายเลน(ออนไลน์ ). สืบค้นจาก :
https://km.dmcr.go.th/th/c_11/d_661 (6 มนี าคม 2564)

ครูบา้ นนอก.คอท. ระบบนิ เวศป่าชายเลน (ออนไลน์ ). สืบค้นจาก :
https://www.kroobannok.com/3732 (7 มนี าคม 2564)

สถานี วิจยั เพื่อการพัฒนาชายฝ่ ังอันดามนั . ระบบนิ เวศป่าชายเลน
(Mangrove Ecosystem)(ออนไลน์ ). สืบค้นจาก :
http://andaman.fish.ku.ac.th/?p=816 (7 มนี าคม 2564)

ฐานขอ้ มูลความรูท้ างทะเล (Marine Knowledge Hub). ป่าชายเลน
ในประเทศไทย (ออนไลน์ ). สืบค้นจาก :
http://www.mkh.in.th/index.php?option=com_content&

view=article&id=62&Itemid=168&lang=th (10 มนี าคม 2564)

นางสาวนิธกิ าตน์ พรมมารกั ษ์ 62410048


Click to View FlipBook Version