งานวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การส่งเสริมพัฒนาทักษะการวาดภาพและความคิดสร้างสรรค์ ผู้วิจัย นายธีระพงษ์ แก้วบางพระ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน(ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้) การส่งเสริมพัฒนาทักษะการวาดภาพและความคิดสร้างสรรค์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาพิเศษ กระทรวงศึกษาธิการ
ประกาศคุณูปการ การวิจัยการส่งเสริมและพัฒนาการวาดภาพและความคิดสร้างสรรค์ครั้งนี้ได้ผลตามขั้นตอนการทำการวิจัย เพราะได้เห็นทักษะของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ควรได้การส่งเสริมและพัฒนาทักษะการวาด ภาพและความคิดสร้างสรรค์ผู้จัดทำการวิจัยขอบคุณมาณโอกาสนี้ นายธีระพงษ์ แก้วบางพระ ผู้วิจัย
ชื่องานวิจัย การส่งเสริมพัฒนาทักษะการวาดภาพและความคิดสร้างสรรค์ ชื่อผู้วิจัย นายธีระพงษ์ แก้วบางพระ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้) บทคัดย่อ การจัดการเรียนการสอนเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาการวาดภาพและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนในระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทางผู้วิจัยได้จัดทำแบบทดสอบและตัวอย่างการร่างภาพระบายสีและแบบฝึกความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาการวาดภาพและฝึกความคิดสร้างสรรค์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นดั้งนั้นผู้จัดทำงานวิจัยจึงหาค่าเปรียบเทียบ ก่อนและหลังการฝึกฝนการร่างภาพระบายสีของนักเรียนเพื่อเป็นข้อสรุปของงานวิจัยในครั้งนี้
คำนำ งานวิจัยในชั้นเรียนเรื่องการส่งเสริมและพัฒนาการวาดภาพและความคิดสร้างสรรค์ได้จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ตามแนวพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542 ขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนครูบุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจตระหนักและ เห็นความสำคัญของการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้มีทัศนคติที่ดีต่องานวิจัยเห็นว่าการวิจัยเป็นงานเป็นเรื่องที่ง่ายอยากทำ และพัฒนาความสามารถด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องต่อไป
งานวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การส่งเสริมพัฒนาทักษะการวาดภาพและความคิดสร้างสรรค์ ความสำคัญ การจัดการเรียนการสอนมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาให้นักเรียนเกิดทักษะการวาดภาพขั้นพื้นฐานและการส่งเสริม ความคิดสร้างสรรค์เป็นทักษะที่มีความสำคัญเพื่อใช้ในการถ่ายทอดผลงานทางศิลปะในระดับสูงต่อไปแต่จากการทดสอบ ของนักเรียนชั้นป.3 โรงเรียนภูเก้ตปัญญานุกูลนักเรียนมีพื้นฐานการวาดภาพและความคิดสร้างสรรค์ยังไม่ดีเท่าที่ควรจึง ควรหาทางพัฒนาให้นักเรียนสามารถวาดภาพได้ชัดเจนและถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ดีขึ้น ข้าพเจ้าในฐานะครูผู้สอนจึงสนใจที่จะสร้างแบบฝึกการร่างภาพการระบายสีและแบบการต่อเติมความคิดสร้าง สรรค์ของนักเรียนเพื่อนำไปใช้พัฒนาความสามารถในการวาดภาพของนักเรียน วัตถุประสงค์ 1.เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการวาดภาพก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกการร่างภาพการระบายสี 2.เพื่อให้นักเรียนวาดภาพระบายสีและมีความความคิดสร้างสรรค์ ตัวแปรที่ศึกษา ในการวิจัยครั้งนี้ตัวแปรที่ศึกษาประกอบด้วย ตัวแปรอิสระได้แก่ให้เด็กนักเรียนฝึกการร่างภาพระบายสีและฝึกความคิดสร้างสรรค์ ตัวแปรตามได้แก่ความสามารถร่างภาพระบายสีได้ชัดเจนและมีความคิดสร้างสรรค์ กรอบแนวคิดในการวิจัย แบบฝึกการร่างภาพระบายสีคือแบบฝึกการร่างภาพระบายสีที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวอย่าง ความสามารถในการวาดภาพระบายสีและมีความคิดสร้างสรรค์คือคะแนนที่ได้จากการฝึกฝนการร่าง ภาพระบายสีและฝึกความคิดสร้างสรรค์ด้วยตนเองก่อนและหลังเรียนที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้น ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.นักเรียนมีความสามารถในการร่างภาพระบายสี 2.นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ 3.นักเรียนมีแนวทางเพื่อพัฒนาทักษะการวาดภาพระบายสีมีสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ ขอบเขตของการวิจัย 1.นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2.แบบตัวอย่างและผลงานนักเรียน
วิธีดำเนินการวิจัย 1.ขั้นตอนการสร้างแบบการร่างภาพระบายสีการต่อเติมความคิดผู้วิจัยดำเนินการดังนี้ 1.1 ศึกษาวิเคราะห์ปัญหาการร่างภาพระบายสีและความคิดของนักเรียน 1.2 วิเคราะห์ปัญหาและรวบรวมปัญหาของนักเรียน 1.3 ให้เพื่อนครูที่สอนในทักะเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดเล็กศิลปะตรวจสอบคุณภาพของแบบฝึก 1.4 ปรับปรุงแบบฝึกและจัดทำแบบฝึก 2.การใช้ตัวอย่างการร่างภาพระบายสีและแบบฝึกความคิดสร้างสรรค์ 2.1 ประชากรในการวิจัยได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 มีนักเรียนบางคน มีปัญหาการร่างภาพระบายสีภาพไม่ได้ ไม่ชัดเจน 2.2 เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ผลงานนักเรียนและแบบทดสอบ 2.3 การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยให้นักเรียนฝึกฝนการร่างภาพการฝึกความคิดสร้างสรรค์เพื่อการเปรียบ เทียบการพัฒนางาน 2.4 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการเปรียบเทียบผลงานจากการฝึกฝนครั้งแรกจนถึงครั้งสุดท้าย