The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Waraporn Buttayotee, 2020-10-29 08:45:41

ผักกาดน้องแมงปอ

ผักกาดของแมงปอ

โครงงานการขยายพนั ธุพ์ ชื
เร่อื ง การปลูกผกั กาดกวางต้งุ

โดย
นางสาวพรรณวดี ชะนะสะแบง เลขที่42

ครทู ปี่ รึกษา
คณุ ครูวนดิ า บุญพิเชฐวงศ์
คุณครชู ำนาญการพเิ ศษ
โรงเรียนสตรีราชนิ ทู ิศ ปีการศกึ ษา 2563
สำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษา

มธั ยมศึกษาเขต ๒๐ อดุ รธานี

คำนำ
โครงงานเร่ืองการปลกู ผักกาดกวางตุง้ เปน็ โครงงานที่บูรณาการการเรียนรจู้ ากกลุ่ม
สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี โดยเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาจัดทำเป็นผลิตภณั ฑท์ ่ี
สามารถน้อมนำปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ได้เป็นอยา่ งดแี ละเหมาะสมกับสถานศึกษา และได้
นำความรใู้ นดา้ นทกั ษะการทำงานไปพฒั นาปรบั ปรุงดิน โดยได้เรียนรู้ดว้ ยวิธีปฏบตั ิจรงิ สามารถ
ฝึกความอดทนในการทำงาน การทำงานร่วมกับผู้อน่ื และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั
โครงงานเรือ่ งการปลกู ผกั กาดกวางตงุ้ ผู้จัดทำขอขอบพระคณุ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
คุณครู ผใู้ ห้ความรู้และใหค้ ำแนะนำในการจดั ทำข้อมลู การเขียนรายงานและการจดั ทำโครงงาน

จนสำเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี

ผู้จัดทำ
พรรณวดี ชะนะสะแบง

บทคดั ย่อ

โครงงานเร่อื ง การปลกู ผกั กาดกวางตุ้งมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อนำเนอ้ื หาความรทู้ างด้าน
วิชาการงานอาชพี และเทคโนโลยีมาประใชใ้ นการดำเนนิ ชวี ิตในปัจจบุ นั โดยการศึกษา
เก่ยี วกบั การปลกู ผักกวางตุง้ ทงั้ น้กี ็เพ่อื ใหไ้ ด้ผกั ทสี่ วยงามและน่ารับประทาน ทีเ่ กดิ จาก
วัฒนธรรมความเป็นอยู่ ทใ่ี หพ้ ลังงานแกร่ า่ งกาย และยังสามารถพัฒนาเปน็ อาชพี อีกด้วย
ทง้ั ยังสร้างทัศนคตทิ ด่ี ตี ่อวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยแี ละเห็นคุณคา่ ของวิชาการ
งานอาชีพและเทคโนโลยี

ความรู้ทใี่ ชใ้ นการปลกู ผักกาดกวางตงุ้ ในครงั้ นี้ คณะผจู้ ัดทำไดน้ ำความรูท้ างด้าน
วิชาการงานอาชพี และเทคโนโลยีในเร่ืองภาวะเศรษฐกิจมาใชแ้ ละจากการศึกษาค้นคว้า

ดว้ ยตนเองผลทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาและทำโครงงานในคร้ังนค้ี อื ได้ผักท่ีมีประโยชน์ต่อ
รา่ งกายทีไ่ ดจ้ ากผกั กาดกวางตุง้

บทที่1
บทนำ
ทม่ี าและความสำคัญของโครงงาน

เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยเรากำลงั ตกอยู่ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ข้าวยาก
หมากแพง ผกั ซ่ึงเปน็ อาหารของคนไทย เปน็ ผักทีส่ ำคญั ต่อการประกอบอาหาร ดังนั้นคณะผ้จู ัดทำ
จงึ มแี นวคดิ ทจ่ี ะแกไ้ ขปญั หานโ้ี ดยการใช้ความร้ทู ีเ่ รียนมาได้ทำการปลกู ผักสวนครวั ขึ้นและผู้จัดทำ
จงึ ศกึ ษาเกยี่ วกบั ผกั กวางตุ้ง ด้วยเหตจุ ึงเกดิ เปน็ โครงงานเรื่อง การปลกู ผกั กวางตุ้งในครั้งนข้ี ้ึน

หลกั การและเหตุผล
พืชผักสวนครวั มีความสำคญั ต่อประชาชนชาวไทยเป็นอยา่ งมาก เพราะเปน็ ประโยชน์ในด้าน
อาหาร การค้า การแพทยอ์ าหารจาก พชื ผักสวนครัวอุดมดว้ ยวิตามนิ แร่ธาตทุ ่มี ีประโยชนม์ ากมาย
และ ราคาถูก ปลอดสารพิษ ผจู้ ดั ทำโครงงานจงึ เลือกทจี่ ะทำโครงงานเกยี่ วกบั เร่อื งพชื ผักสวนครวั
ซงึ่ ก็คือ ผกั กาดกวางต้งุ
วัตถปุ ระสงค์
1) ศกึ ษากรรมวธิ ีปลูกพืชด้วยตนเอง
2) ศกึ ษาการเจรญิ เตบิ โตของพชื ผักสวนครวั

3) ศึกษาประโยชน์จากการขยายพันธ์ุพชื
เปา้ หมาย
เป้าหมายเชิงปรมิ าณ ผกั กาดกวางต้งุ ขยายพันธป์ุ ริมาณมากขน้ึ
เป้าหมายเชิงคุณภาพ ผักกาดกวางตุ้งปลอดเช้ือ แข็งแรง คณุ ภาพดี
ผลคาดว่าจะไดร้ บั

1) ได้รบั ความรู้เกย่ี วกับวิธีการปลูกผักกวางตุ้งไวใ้ ช้ประโยชน์
2) ได้เรียนรู้ประโยชนข์ องผักกวางตุ้ง

บทที่2

เอกสารทเี่ กย่ี วข้อง

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Brassica chinensis Jusl var parachinensis (Bailey) Tsen & Lee

วงศ์ Cruciferae

ชือ่ สามญั Chinese Cabbage-PAI TSAI

ลกั ษณะ :

เป็นผกั ทนี่ ิยมบรโิ ภคกันมาก ปลูกงา่ ย เจริญเติบโตเรว็ อายุการเกบ็ เก่ยี วสนั้ เพยี ง 35-45 วนั ก็
สามารถเก็บเกย่ี วได้ เป็นผกั ท่ีมคี ุณค่าทางอาหารสูง นำมาประกอบอาหารประเภทผดั แกงจืด ผกั
จิ้ม เป็นต้นสามารถปลูกไดท้ ุกฤดแู ละนิยมปลกู กนั ทั่วประเทศทัง้ ในรูปของสวนผักการค้า
ราก เปน็ ระบบรากแก้ว อยใู่ นระดบั ตนื้ ส่วนท่ีใหญ่สดุ ของรากแก้ว ประมาณ 1.20 เซนติเมตร มี
รากแขนงแตกออกจากรากแก้วมาก โดยรากแขนงแผ่อยตู่ ามบรเิ วณผิวดิน รากแก้วอาจมีขนาด
ใหญข่ ึ้น ถา้ ดินมีสภาพช้นื และเย็น

ลำต้น ต้ังตรง มีสีเขียว ขนาดโตเต็มทีใ่ ชร้ ับประทานไดม้ ขี นาดเส้นผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ 1.4-1.8
เซนติเมตร สงู ประมาณ 43-54 เซนติเมตร ก่อนออกดอกลำตน้ จะสนั้ มีขอ้ ถี่มากจนดูเปน็ กระจุกท่ี
โคนตน้ เมื่อออกดอกแลว้ ในระยะตดิ ฝกั ต้นจะสงู ข้นึ มาก โดยเฉลยี่ สูงประมาณ 85-144 เซนติเมตร

ใบ ใบเล้ยี งมี 2 ใบ มีสเี ขยี ว ปลายใบตรงกลางจะเว้าเข้า ส่วนใบจรงิ จะแตกเป็นกระจุกทบ่ี รเิ วณ
โคนตน้ เปน็ ใบเดยี่ ว ใบเรียบไมห่ อ่ หวั สีเขยี ว ใบอ่อนมสี เี ขียวออ่ น ขอบใบเปน็ รอยฟนั เลอ่ื ยเล็ก
มาก ใบแกผ่ ิวใบเรียบหรือเปน็ คล่ืนเลก็ นอ้ ย ไมม่ ีขน ของใบเรยี บหรืออาจมรี อยเว้าตน้ื ๆ ขนาดเลก็
โคนใบหยักเป็นคล่นื เล็กนอ้ ย ปลายใบมน กา้ นใบท่ีตดิ กับลำต้นมสี ีเขียวอ่อนเป็นร่องและเรยี วกลม
ขึ้นไปหาแผน่ ใบ กา้ นใบหนาและมีสขี าวอมเขียว สำหรับใบทีช่ ่อดอกจะมกี ้านใบยาว 2-3
เซนติเมตร รปู ใบเรียวแหลมไปทางฐานใบและปลายใบ ขอบใบเรยี บ

ชอ่ ดอกและดอก ผกั กาดเขยี วกวางตุ้งจะออกดอกเมอ่ื อายุประมาณ 55-75 วนั ชอ่ ดอกยาว 50-
90 เซนตเิ มตร ดอกตูมรวมกลมุ่ อยบู่ นยอดดอกชอ่ ดอก ดอกบานจากด้านลา่ งไปหาดา้ นบน ดอกที่
บานแลว้ มีกา้ นดอกยาวกว่าดอกทตี่ มู ดอกเปน็ แบบสมบูรณเ์ พศ ขนาดดอก 1-1.5 เซนตเิ มตร

กลบี ช้ันนอกสเี ขยี วออ่ น 4 อัน ขนาดเล็กกลีบกว้าง 0.1-0.2 เซนติเมตร ยาว 0.7-0.8 เซนตเิ มตร
กลีบชนั้ ในสีเหลอื งสด 4 อนั แยกเป็นกลบี ๆ ขนาดกลบี กว้าง 0.5-0.6 เซนติเมตรยาว 1.1-1.2
เซนตเิ มตร มเี กสรตวั ผู้ 6 อัน อบั เกสรสีเหลืองแก่ กา้ นชเู กสรสเี หลือง รงั ไขย่ าว 0.5-0.6
เซนติเมตร ซ่ึงอยู่เหนอื กลีบดอกและเกสรตัวผกู้ ้านเกสรตวั เมยี สเี ขยี ว ยาว 0.2-0.25 เซนติเมตร
ยอดเกสรตัวเมยี เป็นตมุ่ สเี หลืองอ่อน ดอกบานในตอนเช้าประมาณเวลา 08.00 น.

ผล ผลมีลักษณะเปน็ ฝัก รปู ร่างเรยี วยาว แบง่ เปน็ 2 ส่วน คือ ส่วนปลายไมม่ ีเมลด็ ยาวประมาณ
0.9-1.5 เซนตเิ มตร และส่วนท่มี ีเมลด็ ยาวประมาณ 3-4.1 เซนติเมตร กวา้ ง 0.3-0.5 เซนตเิ มตร
กา้ นผลยาว 1.3-2.5 เซนติเมตร ผลต้ังขนึ้ เม่ือผลแก่จะแตกตามยาวจากโคนไปหาปลายผลเม่อื
อ่อนมสี ีเขยี ว ผลแกม่ สี นี ้ำตาล

เมลด็ ค่อนข้างกลม มีทั้งสีนำ้ ตาลและสนี ้ำตาลเขม้ เกอื บดำ ผิวเมล็ดมลี ายแบบร่างแห เห็นไม่ค่อย
ชัด น้ำหนัก 1,000 เมล็ดประมาณ 2.5 กรมั

ผกั กาดเขียวกวางตงุ้ ที่ปลูกมอี ยูห่ ลายชนิดด้วยกนั แตท่ นี่ ิยมปลกู และบริโภคกันมากคือ ผักกาด
เขยี วกวางตุ้งใบ สำหรบั พันธุ์ผักกาดเขียวกวางตุ้งใบทท่ี างกรมวชิ าการเกษตรสง่ เสรมิ แนะนำคือ
พนั ธุน์ า่ น 1 ซึ่งเปน็ พันธท์ุ ี่ไดร้ ับการคัดเลือกพนั ธ์ุโดยกรมวิชาการเกษตร ลักษณะประจำพนั ธ์ุ เป็น
ผกั กาดชนดิ ไมห่ ่อปลี ส่วนกลางของกา้ นใบคอ่ นขา้ งหนา ใบมสี ีเขียวอ่อน ความยาวเฉล่ีย 19.5
เซนตเิ มตร (อายุ 40 วัน) ความหนาของก้านใบเฉล่ีย 0.9 เซนติเมตร ความกว้างเฉลยี่ 1.3
เซนตเิ มตร ใบสเี ขียว ลักษณะยาวรี ความยาวของใบเฉลย่ี 30 เซนติเมตร กวา้ ง 19 เซนติเมตร
ความสูงเมื่ออายุ 40 วนั เฉลีย่ 57.26 เซนตเิ มตร น้ำหนักต้นเฉล่ยี 550 กรัม ออกดอกเมือ่ อายุ 50
วนั

ลกั ษณะเดน่ ของพันธ์นุ ่าน 1 คือ เปน็ พนั ธุท์ ีเ่ จริญเติบโตเร็ว อายสุ ั้น เก็บเก่ยี วไดเ้ ม่ืออายุระหว่าง
30-40 วัน น้ำหนักเฉลีย่ ตอ่ ต้นสงู ตน้ ไม่แตกแขนงทำให้เสียหายน้อยในการบรรจุเพ่ือการขนสง่ ไม่
ออกดอกก่อนอายุ 40 วัน จึงสามารถทยอยเก็บเกี่ยวส่งตลาดได้ตั้งแต่อายุ 30-40 วนั แต่ขอ้ เสยี
ของพันธน์ุ ่าน 1 ก็คือ ไม่ตา้ นทานตอ่ โรคราน้ำค้าง

ผักกาดเขยี วกวางต้งุ สามารถขนึ้ ไดใ้ นดินแทบทกุ ชนดิ แตจ่ ะเจรญิ ได้ดที สี่ ุดในสภาพดินร่วนปน
ทรายทีม่ ีความอุดมสมบรู ณด์ ี มอี นิ ทรยี ว์ ัตถสุ งู ความเปน็ กรดเปน็ ดา่ งของดิน (pH) ควรอย่รู ะหวา่ ง
สภาพเป็นกรดเล็กน้อยจนถึงปานกลาง คอื pH อยูร่ ะหว่าง 6-6.8 ชอบดนิ ท่มี คี วามชนื้ สูงเพียงพอ
สม่ำเสมอ ได้รับแสงแดดเตม็ ทีต่ ลอดวนั อณุ หภูมิท่ีเหมาะสมอยูร่ ะหว่าง 20-25 องศาเซลเซยี ส แต่
อย่างไรก็ตามในประเทศไทยสามารถปลูกผกั กาดเขยี วกวางตุง้ ไดต้ ลอดปี

เนื่องจากผกั กาดเขียวกวางตุ้งเปน็ ผกั ท่มี รี ะบบรากต้ืน ดงั น้ันในการเตรยี มดินควรขดุ ไถดินให้ลึก
ประมาณ 15-20 เซนตเิ มตร แลว้ ทำการตากดินทิง้ ไวป้ ระมาณ 5-7 วัน ใสป่ ยุ๋ คอกหรอื ปุ๋ยหมักที่
ยอ่ ยสลายตวั แล้วใหม้ าก คลกุ เคล้าให้เข้ากนั ดี แล้วทำการไถพรวนให้ดินละเอียด ในกรณที ด่ี ินมี
สภาพเป็นกรดกค็ วรใส่ปนู ขาวเพ่อื ปรบั ระดับ pH ของดนิ ใหเ้ หมาะสม ขนาดของแปลงปลูกกว้าง 1
เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร หรือ ตามความเหมาะสมในการปลกู ผกั กาดเขียวกวางตุ้งนิยมทำกัน
2 วิธีดว้ ยกัน คอื

1. การปลูกแบบหว่านเมล็ดโดยตรง วธิ ีนี้นิยมใช้ในการปลูกแปลงทย่ี กร่อง มีรอ่ งน้ำกวา้ ง และ
พื้นทคี่ วรมีการเตรยี มอยา่ งดี และเป็นดนิ ท่ีมคี วามอดุ มสมบรู ณ์ เน่ืองจากเมลด็ พันธุผ์ กั กาดเขียว
กวางต้งุ มขี นาดเล็กมาก ดงั นัน้ กอ่ นหว่านควรผสมกับทรายเสียก่อน โดยใชเ้ มล็ดพันธ์ุ 1 สว่ นผสม
กับทรายสะอาด 3 ส่วน แล้วหว่านใหก้ ระจายท่ัวแปลงสมำ่ เสมอแล้วหวา่ นกลบด้วยปยุ๋ คอกหรอื
ปยุ๋ หมักหนาประมาณ 1/2-1 เซนตเิ มตร หลังจากนัน้ คลุมดว้ ยฟางข้าวบางๆ เพอื่ ชว่ ยเกบ็ รักษา
ความชมุ่ ช้ืนในดนิ เสรจ็ แล้วรดน้ำให้ชมุ่ หลงั จากงอกไดป้ ระมาณ 20 วนั ควรทำการถอนและจดั ให้
มรี ะยะระหว่างต้น 20-25 เซนตเิ มตร

2. การปลกู แบบโรยเมล็ดเปน็ แถว การปลกู วธิ นี หี้ ลงั จากเตรยี มดนิ แล้วจึงทำร่องลึกประมาณ 1.5-
2 เซนตเิ มตร ใหเ้ ปน็ แถวโดยใหร้ ะยะระหวา่ งแถวหา่ งกัน 20-25 เซนตเิ มตร นำเมลด็ พันธ์ุผสมกบั
ทราย แลว้ ทำการโรยหรอื หยอดเมลด็ เป็นแถวตามร่อง แล้วกลบด้วยปุ๋ยคอกหรอื ปุ๋ยหมกั บางๆ
คลุมด้วยฟางข้าวบางๆ รดน้ำใหช้ ่มุ ด้วยสม่ำเสมอ หลังจากปลูกได้ประมาณ 20 วนั หรือต้นกล้ามี
ใบ 4-5 ใบ จึง่ทำการถอนแยกในแถว โดยพยายามจดั ระยะระหว่างตน้ ให้หา่ งกันประมาณ 20-25
เซนตเิ มตร ให้เหลอื หลุมละ 1 ตน้

การให้นำ้ เนอ่ื งจากผักกาดเขียวกวางตงุ้ เป็นผกั ท่ีต้องการนำ้ มาก และมีการเจริญเตบิ โตอยา่ ง
รวดเร็ว ดังน้นั เกษตรกรจะตอ้ งใหน้ ำ้ อยา่ งพึงพอและสม่ำเสมอ อยา่ งน้อยวนั ละ 1 คร้ัง โดยใช้

ระบบพน่ ฝอยหรอื ใชส้ ายยางตดิ หวั ฝักบวั อย่าให้ผักกาดเขยี วกวางตงุ้ ขาดนำ้ ในระยะการ
เจริญเติบโต เพราะจะทำให้ผักกาดเขยี วกวางต้งุ ชะงักการเจริญเตบิ โตได้

การใสป่ ุ๋ย เน่ืองจากผกั กาดเขยี วกวางตุ้งเป็นผกั กนิ ใบและก้านใบ ดงั นน้ั การใสป่ ุย๋ ควรใช้
ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) หรอื แอมโมเนยี มซลั เฟต อัตรา 30 กโิ ลกรมั ต่อไร่ เป็นการเรง่ การ
เจรญิ เตบิ โตทางใบและก้านใบใหเ้ ร็วขน้ึ หรือใชป้ ๋ยุ สูตร 20-11-11 หรอื สตู รใกลเ้ คยี ง ใน
อตั รา 30-50 กโิ ลกรัมตอ่ ไร่ หลังจากใส่ปุย๋ ทุกคร้ังควรมีการราดนำ้ ตามทันที อยา่ ให้ป๋ยุ
ตกคา้ ง

สำหรับการพรวนดินและกำจัดวัชพืช ควรทำให้ระยะแรกพรอ้ มกับการถอนแยก

อายกุ ารเกบ็ เกย่ี วของผกั กาดเขยี วกวางตุง้ ค่อนข้างเร็ว คอื ประมาณ 35-45 วนั การเกบ็
เก่ียวโดยเลือกต้นทม่ี ีขนาดใหญ่ตามต้องการ แลว้ ใช้มดี คมๆ ตดั ทโ่ี คนตน้ แลว้ ทำการตัด
แตง่ ใบนอกทีแ่ กห่ รือใบทถ่ี กู โรคหรอื แมลงทำลายออก หลงั จากตดั แตง่ แล้วจงึ บรรจุ
ภาชนะเพอื่ สง่ จำหน่ายตลาดตอ่ ไป

สำหรบั การเกบ็ รักษา เนอื่ งจากผกั กาดเขียวกวางตุง้ เป็นผกั อวบน้ำ ดังน้ันการเกบ็ รักษา
จงึ ควรเก็บไวใ้ นทอี่ ณุ หภมู ติ ำ่ ประมาณศูนยอ์ งศาเซลเซยี สทคี่ วามชืน้ สัมพทั ธ์ 95
เปอร์เซ็นต์ จะสามารถเกบ็ รกั ษาไว้ไดน้ านถงึ 3 สปั ดาห์

คุณคา่ ทางอาหาร :ผักกวางต้งุ 100 กรมั ใหพ้ ลังงาน 16 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย
โปรตีน 1.2 กรมั คาร์โบไฮเดรต 3.2 กรมั น้ำตาล 1.4 กรมั ไขมนั 0.2 กรัม เสน้ ใย 1.2
กรมั โซเดียม 9 มลิ ลิกรมั

สรรพคุณทางยา :กวางตุ้งชว่ ยลด การเส่ียงจากการเปน็ โรคมะเร็งโรค กล้ามเน้อื เสือ่ ม
และโรคเลือดหัวใจตีบ



บทท่ี3

วัสดอุ ปุ กรณแ์ ละข้นั ตอนการดำเนนิ งาน

1) เลอื ก เมล็ดพชื ที่ตอ้ งการปลูก

2) ขุดแปลงผกั

-การเตรยี มดนิ

การเตรยี มดนิ สำหรบั การปลูกผักปลอดสารเคมใี ห้ขดุ แปลงพลิกหนา้ ดิน ตากแดดไว้ 7 วนั
ทำแปลงกวา้ ง 1 เมตร ยาว 4 เมตร หรอื 5 เมตร ขดุ ดินให้ลึก 30 เซนติเมตร หรอื 1 หน้าจอบ
ใสป่ ุ๋ยหมกั หรอื ปุย๋ คอก 2 กิโลกรมั ตอ่ 1 ตารางเมตร และอาจใช้เมลด็ สะเดาบดคลกุ ลงไปด้วย
เพื่อชว่ ยป้องกนั โรคและแมลง คลกุ เคลา้ ให้เขา้ กนั รดน้ำให้ชมุ่ แล้วทง้ิ ไว้ 3 - 5 วนั จึงพร้อมที่จะ
ปลูกผกั

การเตรียมดินสำหรับการปลูกผกั ในกระถางหรือภาชนะปลกู อ่ืน กใ็ ห้ผสมดิน 1 สว่ น กับ
ปุ๋ยหมักหรอื ป๋ยุ คอก 1 ส่วน และอาจจะผสมเมล็ดสะเดาบดลงไปด้วยก็ได้ ดินที่ใช้ปลกู ถา้ ซอื้ มา
จากร้านขายต้นไม้ ก็ควรเลือกซอ้ื ดนิ ท่มี สี ว่ นผสมของใบกา้ มปู จะช่วยเพม่ิ อนิ ทรยี ์วตั ถุใหแ้ กด่ นิ
หากดนิ ที่นำมาใชเ้ ป็นดนิ เหนยี ว กอ็ าจจะผสมทรายหรือข้เี ถา้ แกลบลงไปด้วย เพ่ือช่วยใหด้ ิน
ระบายน้ำได้ดีขึ้น

3) รดน้ำดินใหช้ มุ่

4) หวา่ นเมลด็ ไปท่วั ๆแปลง

5) รดน้ำทุกพักกลางวันและเย็น

6) สงั เกตละบนั ทกึ ผลการเปล่ียนแปลงของตน้ กวางตุ้ง

วสั ดอุ ปุ กรณ์

1)เมล็ด

2)กระถาง

3)บวั รดนำ้

บทที่4
ผลของการศกึ ษาคน้ คว้า

จากการศกึ ษาพบวา่ ผกั กวางตุ้งท่ไี ดม้ ีลำตน้ อวบเขียวน่ารับประทาน แตผ่ ักกวางตุ้งบางตน้
จะมีแมลงเจาะอาจจะมรี อยกดั ไม่น่ารับประทานก็ไมใ่ ชป่ ญั หาเพราะเราจะเอาไปแปรรูปเป็น
อาหารท่นี า่ รับประทานยิง่ ข้นึ เชน่ การผดั ใส่เนอ้ื หมู การตม้ จ้ิมนำ้ พรกิ ก็อรอ่ ยไปอกี แบบ
บนั ทึกผลการเจรญิ เตบิ โต
วนั ที่1(3กนั ยายน2563)

วนั ที่3มตี ้นอ่อนโผลข่ ้นึ มาจากหน้าดนิ (6กันยายน2563)

วนั ท่ี6ตน้ อ่อนสงู ขึน้ เปน็ หยอ่ มๆ(11กนั ยายน)
วันท่ี12ผักกาดกวางตงุ้ ใบเล้ียงยาวขึ้นมากและโตเร่อื ยๆ(17กนั ยายน)
วันที่15ผกั กาดเรมิ่ ปกคุลมกระถาง(20กันยายน)

บทที่5
สรุปผล

จากการทำโครงงานนที้ ำใหไ้ ด้รรู้ ะยะเวลาการเจรญิ เติบโตและวธิ กี ารปลูกผกั กวางตุ้งมากข้ึนโดย
สังเกตไดจ้ ากลำต้นมีการขยายขึน้ และมใี บเขียวเต็มเนอื่ งจากไดร้ บั นำ้ และปยุ๋ อยา่ งเพยี งพอ และ

สามารถนำผักกวางตุ้งทโ่ี ตเต็มวัยแล้วนำไปขายใหก้ ับแมค่ ้าหรอื นำไปรบั ประทานกไ็ ด้


Click to View FlipBook Version