ลิลิตตะเลงพ่าย สมเด็จ ด็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
ผู้จัดทำ จัดทำ โดย นางสาววรินธร ช่วยนุสนธิ์ เลขที่ 17 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5/1 เสนอ คุณครูมาริสา วิเชียรโชติ
สารบัญ ลิลิตตะเลงพ่าย ความเป็นมา 1 ประวัติผู้แต่งลักษณะคำ ประพันธ์ 2 เรื่องย่อ 3 เนื้อหา 7 วิเคราะห์คุณค่า 11
ความเป็นมา ลิลิ ลิ ต ลิ ตะเลงพ่ายเป็น ป็ วรรณคดีที่ ดีที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปร มานุชิตชิโนรสทรงนิพนธ์ขึ้ ธ์ขึ้ น เพื่อเฉลิม ลิ พระเกีย กี รติสมเด็จพระนเรศวร มหาราชในคราวที่ทรงได้รับชัยชนะในการกระทำ ยุท ยุ ธหัตถี กับ กั พระ มหาอุปราชา เช่นเดีย ดี วกับ กัสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถที่ทรงทำ สงครามและมีชัมีชั ยเหนือพระเจ้า ติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา ดัง ดั ที่ ทรงตั้งชื่อวรรณคดีเ ดี รื่องนี้ว่า “ตะเลงพ่าย” (มอญแพ้) เพื่อเลีย ลี นชื่อ วรรณคดีโดี คลงดั้น ดั้ เรื่อง “ยวนพ่าย” (โยนกหรือล้านนาแพ้) โดยทรง ดำ เนินเรื่องตามพระราชพงศาวดาร กรุงศรีอยุธ ยุ ยา โดยเฉพาะพระราช พงศาวดารกรุงศรีอยุธ ยุ ยาฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ซึ่งมีเ มี นื้อความ และโวหารใกล้เคียงกับ กั ลิลิ ลิ ต ลิ ตะเลงพ่ายมาก อย่างไรก็ดีใดี นการนิพนธ์ วรรณคดีเ ดี รื่องนี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่น มื่ ภูบ ภู าลบริรักษ์ (พระ องค์เจ้ากปิต ปิ ถา) ซึ่งเป็น ป็ พระนัดดาเป็น ป็ ผู้ทรงช่วยนิพนธ์ด้ ธ์ด้ วย ทั้งนี้ สันนิษฐานว่า ลิลิ ลิ ต ลิ ตะเลงพ่ายน่าจะเริ่ม ริ่ แต่งขึ้นในรัชกาลพระบาท สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หั ยู่ หั ว 1
ประวัติผู้แต่ง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ประสูติเมื่อ มื่ วันที่ ๓๑ ธัน ธั วาคม พ.ศ. ๒๓๓๓ เป็น ป็ พระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ ในพระบาท สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬ จุ าโลกมหาราชและเจ้าจอมมารดาจุ้ย จุ้ ใน พ.ศ. ๒๓๕๓ ได้อุปสมบทตลอดพระชนม์ชีม์ชี พ ณ วัดพระเชตุพนฯ เป็น ป็ พระบรมวงศานุวงศ์พระองค์แรกที่ได้ดำ รงสมณศักดิ์เ ดิ์ป็น ป็ พระราชา คณะ นอกจากนี้ยังทรงเป็น ป็ พระอาจารย์ของเจ้านายหลายพระองค์ เช่น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หั ยู่ หั ว พระบาท สมเด็จพระปิ่น ปิ่ เกล้าเจ้าอยู่หั ยู่ หั ว สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรสสิ้นพระชนม์เ ม์ มื่อ มื่ วันที่ ๙ ธัน ธั วาคม พ.ศ. ๒๓๙๖ รวมพระชนมายุ ๖๓ พรรษา 2
ลักษณะคำ ประพันธ์ ลิลิ ลิ ต ลิ ตะเลงพ่ายเป็น ป็ ลิลิ ลิ ต ลิสุภาพ ประกอบด้วยร่ายสุภาพและโคลงสุภาพ ได้แก่พโคลงสองสุภาพ โคลงสามสุภาพ และโครงสี่สุภาพ แต่งสลับ ลั กัน กั ร่ายสุภาพ ร่ายสุภาพบทหนึ่งจะมีกี่ มีกี่ ว กี่ รรคก็ได้ วรรคหนึ่งมี ๕ คำ คำ สุดท้ายของวรรค หน้าต้องสัมผัสกับ กั คำ ที่ ๑,๒ หรือ ๓ ของวรรคต่อๆไป 3
ลักษณะคำ ประพันธ์ โคลงสองสุภาพ โคลงสองสุภาพมีสมี ามวรรค วรรคหนึ่งและวรรคสองมีว มี รรคละห้าคำ วรรคที่สามมีสี่มีสี่ คำ และคำ สร้อยสองคำ บังคับเอกโทในวรรค โคลงสามสุภาพ โคลงสามสุภาพ มีจำ มีจำ นวนวรรคเพิ่ม พิ่ จากโครงสองสุภาพอีกหนึ่งวรรค โดยคำ สุดท้ายของวรรคแรก ส่งสัมผัสไปยังคำ ที่สามของวรรคสอง เทอมสุดท้าย ของวรรคที่สอง สัมผัสกับ กั คำ สุดท้ายของวรรคที่สาม บังคับ เอก โท 4
ลักษณะคำ ประพันธ์ โคลงสี่สุภาพ โคลงสี่สุภาพมีสี่มีสี่ บท บาทละสองวรรค วรรคหน้าห้าคำ เฉพาะวรรคหลัง ลั บาทที่สี่มีสี่มีสี่ คำ คำ สร้อยมีไมี ด้ท้ายบาทที่หนึ่งและสาม มีบั มีบั งคับ เอก 7 แห่ง โท 4 แห่ง คำ เอก โท ในวรรคที่หนึ่งบาทที่หนึ่ง นั้นเปลี่ย ลี่ นที่กัน กัได้ 5
ลักษณะคำ ประพันธ์ โคลงสี่สุภาพ โคลงสี่สุภาพมีสี่มีสี่ บท บาทละสองวรรค วรรคหน้าห้าคำ เฉพาะวรรคหลัง ลั บาทที่สี่มีสี่มีสี่ คำ คำ สร้อยมีไมี ด้ท้ายบาทที่หนึ่งและสาม มีบั มีบั งคับ เอก 7 แห่ง โท 4 แห่ง คำ เอก โท ในวรรคที่หนึ่งบาทที่หนึ่ง นั้นเปลี่ย ลี่ นที่กัน กัได้ 6
เรื่องย่อ ตะเลง หมายถึง ถึ มอญ พ่าย แปลว่า แพ้ แต่พม่า ม่ เป็น ป็ ผู้ที่ปกครองมอญอยู่ คำ ว่า ตะเลงในที่นี้ จึงหมายถึง ถึ พม่า ม่ และมอญเป็น ป็ ผู้ยอมแพ้สงคราม เนื้อหาในลิลิ ลิ ต ลิ ตะเลง พ่ายมี ๑๒ ตอน โดยเริ่ม ริ่ ต้นเรื่องด้วยร่ายสุภาพ และโคลงสี่สุภาพ ยอพระเกีย กี รติ สมเด็จพระนเรศวร มหาราช ซึ่งกล่า ล่ วถึง ถึ การสิ้นพระชนม์ข ม์ องสมเด็จพระมหาธรรม ราชาธิร ธิ าช สมเด็จพระนเรศวรทรงขึ้นครองราชย์ พระเจ้าหงสาวดีท ดี ราบข่าวไทย ผลัด ลั เปลี่ย ลี่ น แผ่นดิน ดิ ก็ปรารภว่าจะมาตีไทยเพื่อหยั่งเชิง จึงมีพ มี ระราชบัญชาให้พระ มหาอุปราชายกทัพมาตีไทย ฝ่า ฝ่ ยสมเด็จพระนเรศวรปรารภจะไปตีเมือ มื งเขมร เมื่อ มื่ รู้ ข่าวก็ทรงเตรียมการสู้ศึกพม่า ม่ ทรงตระเตรียมกองทัพ ด้านพระมหาอุปราชาทรง ปรึกษาการศึกแล้วยกทัพมาปะทะทัพหน้าของไทย เมื่อ มื่ ทัพหลวงของสมเด็จพระ นเรศวรเคลื่อ ลื่ นพลช้างทรงของพระองค์และช้างทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถ กำ ลัง ลั ตกมัน มั ก็เตลิด ลิ เข้าไปในวงล้อมของข้าศึก ณ ตำ บลตระพังตรุ สมเด็จพระ นเรศวรทรงกระทำ ยุท ยุ ธหัตถีกั ถี บ กั พระมหาอุปราชา สมเด็จพระเอกาทศรถทรงทำ ยุท ยุ ธหัตถีกั ถี บ กั มางจาชโรและได้รับชัยชนะทั้งสองพระองค์ เมื่อ มื่ พระมหาอุปราชาถูก ถู ฟันขาดคอ ช้าง กองทัพหงสาวดีก็ ดีก็ แตกพ่ายกลับ ลัไป สมเด็จพระนเรศวรทรงปูน บำ เหน็จทหารและปรึกษาโทษนายทัพนายกองที่ตามช้างทรงเข้าไปในกองทัพพม่า ม่ ไม่ทั ม่ ทั น สมเด็จพระวันรัต ทูลขอพระราชทานอภัย ภัโทษแทนแม่ทั ม่ ทั พนายกองทั้งหมด สมเด็จพระ นเรศวรก็โปรดพระราชทานอภัย ภัโทษให้ โดยให้ยกทัพไปตีทวายและ ตะนาวศรีเป็น ป็ การแก้ตัว 7
เนื้อหาทั้งหมดที่นำ มาเป็น ป็ เพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ยกมา เนื้อหา แปลได้ว่า พอพระสนมได้ฟังรับสั่งต่างพากัน กั ร่ำ ไห้และขอตามเสด็จไปด้วย เป็น ป็ เหตุให้พระมหาอุปราชาเร่าร้อนพระทัยยิ่ง ยิ่ ขึ้น และคิดที่จะขัดพระบรม ราชโองการของพระราชบิดา แต่ด้วยความกลัว ลั พระอาญาจึงฝืน ฝื ความโศกเศร้า ซึ่งกว่าจะปลอบพระสนมเสร็จก็เป็น ป็ เวลาใกล้รุ่งพอดี 8
เนื้อหาทั้งหมดที่นำ มาเป็น ป็ เพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ยกมา เนื้อหา แปลได้ว่า ต้นสลัด ลัไดเหมือ มื นมีสิ่มีสิ่ งใดมาพรากน้องไปจนต้องมานอนคนเดีย ดี ว กลางป่า ป่ ต้นสละเหมือ มื นสละนางสนมมา ส่วนต้นระกำ เหมือ มื นความระกำ ใน อกของพระองค์ 9
เนื้อหาทั้งหมดที่นำ มาเป็น ป็ เพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ยกมา เนื้อหา โหรแสร้งทำ นายว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถ้าเกิด กิในช่วงเช้าจะไม่ดี ม่ ดี แต่ถ้าเกิด กิใน ช่วงเย็นจะเป็น ป็ศุภนิมิต มิได้ชัยชนะแก่ข้ ก่ ข้ าศึก พระมหาอุปราชาไม่เ ม่ ชื่อคำ ทำ นายของโหร ทรงหวั่นพระทัยว่าจะต้องแพ้ ข้าศึก และระลึก ลึ ถึง ถึ พระบิดา ถ้าหากสิ้นพระชนม์ พระบิดาจะต้องโศก แน่นอน เพราะไม่มี ม่ ใมี ครช่วยทำ สงคราม แผ่นดิน ดิ มอญจะต้องพินาศลง 10
วิเคราะห์คุณค่า ด้า ด้ นเนื้อหา แม้พระราโชวาทของพระเจ้าหงสาวดีที่ ดีที่ พระราชทานแก่พ ก่ ระมหาอุปราชาจะเป็น ป็ คำ สอนที่เกี่ย กี่ วข้องกับ กั การทำ ศึกสงคราม แต่คำ สอนหลายประการที่เป็น ป็ หลัก ลัปฏิบั ฏิบั ติ ที่ใช้ได้กับ กัสถานการณ์ทั่วไป ผู้อ่านจึงสามารถนำ มาปรับใช้ในการดำ เนินชีวิต ประจำ วันได้ ไม่ว่ ม่ ว่ าจะเป็น ป็ การไม่ปม่ ระมาท “อย่ายินยลแต่ตื้น” การไม่ค ม่ ะนอง “อย่า ลองคะนองตนตามชอบทำ ” การไม่ค ม่ บคนขลาดคนโง่ “อย่าระคน ปนใกล้เกลือ ลื ก กลั้ว ลั้ ขลาดเขลา” หรือการมีค มี วามอุตสาหะ “อย่าหย่อนวิริยะผลอย่างเกีย กี จ นอกจากนี้ในเนื้อหายังปรากฏคำ สอนเรื่องอื่นซึ่งเป็น ป็ประโยชน์ในการนำ ไป ประยุก ยุ ต์ใช้ เช่นเดีย ดี วกัน กั เช่น การใช้สติปัญ ปั ญาและไหวพริบในการพิจารณาสิ่ง ต่าง ๆ ดัง ดั จะเห็นได้ว่าเมื่อ มื่ ข้างทรง ของสมเด็จพระนเรศวรวิ่ง วิ่ เตลิด ลิฝ่า ฝ่ เข้าไปใน กองทัพของข้าศึก สมเด็จพระนเรศวรทรงตั้งพระสติได้และ มีพ มี ระราชประสงค์จะ กระทำ ยุท ยุ ธหัตถีกั ถี บ กั พระมหาอุปราชา จึงทรงมองหาพระมหาอุปราชาท่ามกลาง เหล่า ล่ ข้าศึก ซึ่งพระองค์ก็ทรงพบด้วยทรงใช้ปัญ ปั ญาพิจารณาถึง ถึสิ่งที่สามารถบ่ง บอกถึง ถึ ความเป็น ป็ กษัตริย์ หรือจอมทัพ เช่น แวดล้อมด้วยเหล่า ล่ ทหารและเครื่อง ประกอบพระอิสริยยศจำ นวนมาก การให้ข้อคิดหรือคติธรรม 11
วิเคราะห์คุณค่า ด้า ด้ นเนื้อหา แม้พระราโชวาทของพระเจ้าหงสาวดีที่ ดีที่ พระราชทานแก่พ ก่ ระมหาอุปราชาจะเป็น ป็ คำ สอนที่เกี่ย กี่ วข้องกับ กั การทำ ศึกสงคราม แต่คำ สอนหลายประการที่เป็น ป็ หลัก ลัปฏิบั ฏิบั ติ ที่ใช้ได้กับ กัสถานการณ์ทั่วไป ผู้อ่านจึงสามารถนำ มาปรับใช้ในการดำ เนินชีวิต ประจำ วันได้ ไม่ว่ ม่ ว่ าจะเป็น ป็ การไม่ปม่ ระมาท “อย่ายินยลแต่ตื้น” การไม่ค ม่ ะนอง “อย่า ลองคะนองตนตามชอบทำ ” การไม่ค ม่ บคนขลาดคนโง่ “อย่าระคน ปนใกล้เกลือ ลื ก กลั้ว ลั้ ขลาดเขลา” หรือการมีค มี วามอุตสาหะ “อย่าหย่อนวิริยะผลอย่างเกีย กี จ นอกจากนี้ในเนื้อหายังปรากฏคำ สอนเรื่องอื่นซึ่งเป็น ป็ประโยชน์ในการนำ ไป ประยุก ยุ ต์ใช้ เช่นเดีย ดี วกัน กั เช่น การใช้สติปัญ ปั ญาและไหวพริบในการพิจารณาสิ่ง ต่าง ๆ ดัง ดั จะเห็นได้ว่าเมื่อ มื่ ข้างทรง ของสมเด็จพระนเรศวรวิ่ง วิ่ เตลิด ลิฝ่า ฝ่ เข้าไปใน กองทัพของข้าศึก สมเด็จพระนเรศวรทรงตั้งพระสติได้และ มีพ มี ระราชประสงค์จะ กระทำ ยุท ยุ ธหัตถีกั ถี บ กั พระมหาอุปราชา จึงทรงมองหาพระมหาอุปราชาท่ามกลาง เหล่า ล่ ข้าศึก ซึ่งพระองค์ก็ทรงพบด้วยทรงใช้ปัญ ปั ญาพิจารณาถึง ถึสิ่งที่สามารถบ่ง บอกถึง ถึ ความเป็น ป็ กษัตริย์ หรือจอมทัพ เช่น แวดล้อมด้วยเหล่า ล่ ทหารและเครื่อง ประกอบพระอิสริยยศจำ นวนมาก การให้ข้อคิดหรือคติธรรม 12
วิเคราะห์คุณค่า ด้า ด้ นสังคมและวัฒ วั นธรรม ลิลิ ลิ ต ลิ ตะเลงพ่ายเป็น ป็ วรรณคดีเ ดีชิงประวัติศาสตร์ของไทยที่สะท้อนภาพสังคมและ วัฒนธรรมไทยในอดีต ดีให้เห็นในหลากหลายแง่มุม มุ ไม่ว่ ม่ ว่ าจะเป็น ป็ ด้าน ขนบธรรมเนียม ประเพณี ความเชื่อ ค่านิยม ฯลฯ โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อพบได้ อย่างเด่น ด่ ในเนื้อหา เช่น ความเชื่อเรื่องลางบอกเหตุ ตารางและที่เกิด กิ ขึ้นกับ กั พระ มหากุป กุ ราชาขณะทรงนำ ทัพไปตีกรุงศรีอยุธ ยุ ยา นอกจากนี้ยังปรากฏร่างดีที่ ดีที่ เกิด กิ ขึ้นกับ กัสมเด็จพระนเรศวรในลัก ลั ษณะของพระสุบิน กล่า ล่ วคือ พระนเรศวรทรงฝัน ฝั ว่าได้สู้กับ กั จระเข้ใหญ่ใญ่ นน้ำ และทรงฆ่าจระเข้ได้ 13
วิเคราะห์คุณค่า ด้า ด้ นวรรณศิลป์ ลิลิ ลิ ต ลิ ตะเลงพ่ายเป็น ป็ วรรณคดีย ดี อพระเกีย กี รติที่มีเ มี นื้อหามุ่งมุ่ สรรเสริญพระเกีย กี รติ สมเด็จพระนเรศวร โดยหยิบยกเหตุการณ์ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงได้รับชัยชนะ ในการกระทำ ยุท ยุ ธหัตถีกั ถี บ กั พระมหาอุปราชามาเป็น ป็ แกนหลัก ลั ของเรื่อง มโนภาพ หรือภาพที่ผู้รับสารจะได้รับจากการเสพวรรณคดี เรื่องนี้ จึงเป็น ป็ ภาพของสมเด็จ พระนเรศวรในแง่ที่ควรแก่ก ก่ ารสรรเสริญ เช่น ภาพวีรกษัตริย์ หรือกษัตริย์ ผู้มี ความกล้าหาญ ซึ่งกวีสามารถใช้วรรณศิลป์ใป์ นการถ่า ถ่ ยทอดภาพดัง ดั กล่า ล่ วได้เป็น ป็ อย่างดี โดยใช้ทั้ง กลวิธีก ธี ารเล่า ล่ เรื่องและกลวิธีท ธี างภาษากลวิธีก ธี ารเล่า ล่ เรื่องที่เห็น ได้อย่างเด่น ด่ ชัด คือการเล่า ล่ เรื่องที่ทำ ให้ภาพ “กษัตริย์ผู้มีค มี วามขลาดกลัว ลั” และ ภาพ “กษัตริย์ผู้มีค มี วามกล้าหาญ” ปรากฏขึ้นคู่ขนานกัน กั อันเป็น ป็ ภาพ ที่มีลั มี ก ลั ษณะ ตรงข้ามกัน กั อย่างชัดเจน กล่า ล่ วคือ กวีเล่า ล่ ถึง ถึ พระมหาอุปราชาในแง่ของกษัตริย์ผู้ มี ความขลาดกลัว ลั ดัง ดัปรากฏตั้งแต่เริ่ม ริ่ เรื่องว่าพระมหาอุปราชาไม่ท ม่ รงปรารถนา จะยกทัพไปตีกรุงศรีอยุธ ยุ ยา เพราะ “โหรควรคงทำ นาย ทายพระเคราะห์ถึง ถึ ฆาต” ทำ ให้พระเจ้าหงสาวดีผู้ ดีผู้ เป็น ป็ พระราชบิดาต้อง “ผะชดบัญชา” ถึง ถึ ขั้นให้ “เอาพัส ตราสตรี สวมอินทรีย์สร้างเคราะห์” พระมหาอุปราชจึงทรงทำ ตาม พระราช บัญชาด้วยความจำ ใจ 14
ลิลิตตะเลงพ่าย ขอบคุณ