Unit 2_อ่านในชีวิตประจำวันสร้างสรรค์ปัญญา

คำนำ

แผนการจัดการเรียนรรู้ ายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท22101 ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ น้ไี ด้จดั ทำขนึ้
เพ่อื ใชเ้ ปน็ แนวทางในการจัดการเรียนรู้โดยเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ใหน้ ักเรยี นมีส่วนรว่ มในกิจกรรมและ
กระบวนการเรียนรู้ สามารถสร้างองค์ความร้ไู ด้ด้วยตนเอง ทั้งเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม สรา้ งสถานการณ์
การเรยี นรทู้ งั้ ในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ทำให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรูใ้ นกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่นื
ๆ ได้ในเชิงบรู ณาการดว้ ยวิธกี ารท่ีหลากหลาย เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และสรุปความรดู้ ้วย
ตนเอง ทำให้นักเรียนได้รบั การพฒั นาทั้งดา้ นความรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ และด้านคุณธรรม จริยธรรม
และคา่ นิยมทีด่ ี นำไปสกู่ ารอยู่ร่วมกันในสังคมอยา่ งสันติสุข

การจัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ าท22101 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 เล่มน้ี
ได้จัดทำตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ซ่ึงครอบคลุมตัวชีว้ ัดและมาตรฐาน
การเรยี นรู้ โดยไดน้ ำเสนอแผนการจดั การเรยี นรู้เปน็ รายชว่ั โมงตามหน่วยการเรยี นรู้ และในแต่ละหนว่ ยการ
เรยี นรมู้ กี ารวดั และประเมินผลการเรียนรทู้ ั้ง 3 ดา้ น ได้แก่ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัยหรือความรู้ Cognitive Domain (K),
ดา้ นจติ พิสยั หรือทกั ษะ Psychomotor Domain (P) และดา้ นทกั ษะพสิ ัยหรอื เจตคติ Affective Domain (A)

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชาท22101 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 เล่มนไี้ ด้ออกแบบ
การเรียนรู้ดว้ ยเทคนิคและวิธีการสอนอย่างหลากหลาย เพ่ือการจัดการเรียนรูส้ ำหรบั นักเรียนใหบ้ รรลุ
เป้าหมายของหลกั สตู รต่อไป

นางสาวอารียวฒั น์ พงษน์ ริ ันดร
ผู้จัดทำ

สารบัญ

คำนำ.............................................................................................................................................. ก
สารบัญ.......................................................................................................................................... ข
บนั ทกึ ขอ้ ความขออนุญาตใช้แผนการจัดการเรียนรู้........................................................................ ค
คำอธบิ ายรายวิชา.......................................................................................................................... 1
โครงสร้างการแบง่ เวลารายชวั่ โมงในการจดั การเรยี นรู้................................................................... 2
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 อา่ นในชีวติ ประจำวันสร้างสรรค์ปัญญา..........................................................7

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ความรู้พื้นฐานในการอ่านจบั ใจความสำคัญ.........................................7
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 การอา่ นจับใจความสำคัญจากสอื่ .......................................................11
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 การอภิปราย.......................................................................................15
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 การอภปิ รายเรื่องจากบทความ...........................................................19
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 การอภิปรายเรื่องจากโฆษณา.............................................................23
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นผังความคดิ ...........................................................................27
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 การเขียนแผนผงั ความคิดเพ่อื แสดงความเข้าใจ..................................30
ภาคผนวก......................................................................................................................................34

บันทึกขอ้ ความ

สว่ นราชการ โรงเรียนหนองกี่พทิ ยาคม อำเภอหนองก่ี จงั หวัดบุรรี มั ย์ โทร ๐๔๔-๖๔๑๓๒๔

ที่ /๒๕๖๕ วันท่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เรอื่ ง ขออนุมัตใิ ช้แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ๓ (ท๒๒๑๐๑) ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

---------------------------------------------------------------------------------------

เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองก่ีพิทยาคม

ตามทข่ี า้ พเจา้ นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ริ ันดร ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

โรงเรยี นหนองก่ีพิทยาคม ได้รับมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหน้าทส่ี อน รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท๒๒๑๐๑

ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ในภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕

ขา้ พเจ้าจึงได้วิเคราะห์ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชวี้ ดั คำอธบิ ายรายวชิ า โครงสรา้ งรายวิชา

เพอ่ื จดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้วชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท๒๒๑๐๑ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ กล่มุ สาระการ

เรียนร้ภู าษาไทย ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ซึ่งสอดคล้องกับหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นหนองก่ี

พทิ ยาคมกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย (ฉบบั ปรับปรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา

ข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ

บัดนี้ ข้าพเจ้าไดด้ ำเนนิ การจัดทำแผนการจัดการเรยี นรเู้ รยี บร้อยแลว้ จึงขออนุมัตใิ ช้แผนการจัดการ

เรียนรูด้ งั กลา่ ว เพ่ือใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนให้เกิดประสิทธภิ าพสูงสดุ และเพอื่ พฒั นาคุณภาพ

ผู้เรียนใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายของหลักสตู รฯ ตอ่ ไป

จงึ เรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ

ลงชื่อ
(นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ิรนั ดร)
ตำแหน่ง ครู

ความเห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

 อนมุ ัติ  ไม่อนุมตั ิ  อนื่ ๆ..........................................................................................

ลงช่ือ
(นางปนัดดา ยอดแกว้ )

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
………/……………./………

ความคิดเห็นของผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ

 อนุมัติ  ไมอ่ นุมัติ  อ่ืน ๆ..........................................................................................

ลงชื่อ
(นายสุเนตร บอกประโคน)

ผ้ชู ่วยผูอ้ ำนวยการฝา่ ยบริหารงานวิชาการ
………/……………/………..

ความคิดเห็นของรองผูอ้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ

 อนุมตั ิ  ไมอ่ นุมตั ิ  อน่ื ๆ..........................................................................................

ลงช่อื
(นายเฉลิมพล คนชมุ )

รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ
………/……………/………..

ความคดิ เหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี นหนองกพ่ี ทิ ยาคม

 อนมุ ตั ิ  ไมอ่ นุมัติ  อืน่ ๆ..........................................................................................

ลงช่ือ
(นายชาตรี อัครสขุ บตุ ร)

ผ้อู ำนวยการโรงเรียนหนองกพ่ี ทิ ยาคม
………/……………/………

1

คำอธิบายรายวชิ าภาษาไทย 3

รหสั วิชา ท 22101 เวลา 60 ช่วั โมง 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาหลักภาษาเก่ียวกบั ชนิดของประโยคสามญั ประโยคความรวม ประโยคความซ้อน
การแต่งคำประพนั ธ์ ใช้คำราชาศพั ท์ได้ถกู ต้องเหมาะสมตามฐานะของบุคคล หลักการอ่านออกเสยี ง
รอ้ ยแกว้ ร้อยกรอง หลักการจับใจความ หลกั การพูด หลกั การเขียน เพื่อให้สามารถจับใจความสำคัญ
แยกข้อเทจ็ จรงิ จากข้อคดิ เหน็ แสดงความคดิ เหน็ วเิ คราะห์และประเมินคา่ สง่ิ ทไ่ี ด้อ่าน ฟัง พูด
และเขียนไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน

ฝึกการฟัง ดู พดู อ่าน เขียน โดยอ่านออกเสียงรอ้ ยแก้ว ร้อยกรอง อ่านจับใจความอา่ น
สรปุ ความ อา่ นวรรณคดี และวรรณกรรมท้องถ่นิ ท่องจำบทอาขยาน หรอื บทร้อยกรองทม่ี คี ณุ คา่
ตามความสนใจ คัดลายมือบรรจงครึ่งบรรทดั เขยี นเลขไทย เขียนบรรยาย พรรณนาย่อความ เรยี งความ
รายงานการศึกษาคน้ คว้า วเิ คราะห์ วิจารณ์ แสดงความคดิ เห็น ข้อโตแ้ ย้งวิเคราะห์จำแนกขอ้ เทจ็ จรงิ
ขอ้ คิดเห็น และประเมินค่า พูดสรุปความ พดู อวยพรในโอกาสต่าง ๆ

มีมารยาทและมนี ิสยั รักการอ่าน การฟงั การดู การพูด และการเขยี น ทอ่ งจำและอธบิ ายคุณคา่
บทอาขยาน ซาบซงึ้ ในบทอาขยาน นำไปใช้อ้างอิง สามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้

รหสั ตัวช้ีวดั
ท1.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/8
ท2.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/8 ม.2/4 ม.2/5
ท3.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/6 ม.2/3 ม.2/2
ท4.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
ท5.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/5

2

โครงสร้างรายวิชา

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ เวลา นำ้ หนัก
หนว่ ยที่ /มาตรฐานการ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความคดิ รวบยอด (ชม.) คะแนน

เรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั 3 2

1 การอา่ นออกเสียง 1. อธบิ ายความรูเ้ ร่อื ง การอ่านออกเสียงบทร้อย 7 10

ตวั ชี้วดั ขอ้ ที่ 1,2 หลกั การอา่ นออกเสยี งบท แก้วและบทร้อยกรองเป็น

ร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอา่ นท่ีเปน็ เอกลักษณ์ของ

ได้ถูกตอ้ ง (K) ไทยที่ผู้อ่านจะต้องเข้าใจ

2. ปฏิบัติตามหลักการ ฉันทลักษณ์ในการอ่านและ

อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง

และบทร้อยกรองได้ รวมทั้งสามารถถ่ายทอด

ถูกต้อง (P) อารมณ์ของบทประพันธ์สู่

3. มมี ารยาทในการอา่ น ผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้งและเห็น

และนำข้อคดิ ประโยชน์ คุณคา่

จากเรอ่ื งทีอ่ ่านมา

ประยุกต์ใช้ในชีวติ

ประจำวันได้ (A)

2 การอา่ นใน 1. อธิบายหลักการอา่ น การอา่ นจับใจความสำคัญ

ชวี ิตประจำวนั จับใจความสำคัญ สรปุ เปน็ ทกั ษะการอา่ นที่ควร

สรา้ งสรรค์ปัญญา ความและอธิบาย ฝึกฝนจะช่วยให้ผู้อ่าน

ตวั ช้วี ัดขอ้ ท่ี 3,4,5 รายละเอยี ดจากเรอ่ื ง สามารถเขา้ ใจเรอ่ื งราวท่ีอ่าน

ท่ีอ่านได้ (K) ได้อยา่ งรวดเรว็ ทำให้เขา้ ใจ

2. อธบิ ายหลกั การ หลักการอา่ นจับใจความ

อภปิ รายแสดงความ สำคญั จากสือ่ ต่าง ๆ ทงั้ บท

คดิ เห็นและข้อโต้แยง้ ได้ รอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง

(K) ตลอดจนสามารถอภปิ ราย

3. อธิบายหลกั การอ่าน แสดงความคิดเห็น จากสอื่

เพอื่ จบั ใจความสำคัญ ทอี่ ่านและสรปุ ความ

วิเคราะห์ ประเมินคา่ (K) เปน็ แผนผังความคิดได้อยา่ ง

4. ปฏิบตั ิตามหลักการ ถูกต้อง

อ่านจับใจความสำคัญ

สรุปความและอธิบาย

รายละเอียดจากเร่อื ง

ท่อี ่านได้ (P)

3

ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ สาระสำคญั / เวลา นำ้ หนัก
หน่วยท่ี /มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ความคิดรวบยอด (ชม.) คะแนน

เรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั 2 2

5.อภปิ รายแสดงความ

คดิ เห็นและขอ้ โตแ้ ยง้

เกย่ี วกับเรอ่ื งทอ่ี ่าน (P)

6. เขียนผังความคิดเพ่ือ

แสดงความเข้าใจใน

บทเรียนทอี่ ่าน (P)

7. ตระหนักและเห็น

ความสำคัญของการอ่าน

(A)

8. มีนิสยั รักการอา่ น (A)

3 คัดลายมือ 1. อธบิ ายหลกั การ ลายมอื ท่ใี ชใ้ นการเขยี น

สือ่ ความเป็นไทย คัดลายมือตัวบรรจง สื่อสารคอื ลายมือตัวบรรจง

ตวั ชวี้ ดั ข้อท่ี 6 คร่งึ บรรทดั ตามรปู แบบ ครึ่งบรรทัดและคัดตาม

การเขียนตวั อักษรไทย รปู แบบการเขยี นตวั

(K) อกั ษรไทย ซง่ึ การคัดลายมือ

2. คดั ลายมือตัวบรรจง ตามรูปแบบการเขยี นตวั

คร่ึงบรรทัดตามรูปแบบ อกั ษรไทยเพื่อใชใ้ นการ

การเขียนตวั อักษรไทย ส่ือสารจะต้องศึกษารูปแบบ

(P) ตวั อักษรเพือ่ ให้สามารถคัด

3. มวี นิ ัยและรกั ความ ลายมือไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและ

เป็นไทย (A) สวยงาม

4 การเขยี น 1. อธิบายความรูพ้ ้นื ฐาน การเขยี นเพือ่ การส่ือสารมี 9 6

เพือ่ การสอื่ สาร เกย่ี วกับการเขียน/ ความจำเปน็ ในชีวติ ประจำวัน

ตวั ช้ีวัดขอ้ ท่ี หลักการเขียนบรรยาย ผูเ้ ขยี นควรศกึ ษาเรยี นรูท้ ำ

7,8,9,10 และพรรณนาได้(K) ความเขา้ ใจรปู แบบการเขียน

2. อธบิ ายหลักการเขยี น หลกั การเขียนบรรยายการ

ยอ่ ความได้ (K) เขยี นพรรณนา การเขียน

3. อธิบายหลกั การเขียน ย่อความ และการเขยี น

เรยี งความได้ (K) เรยี งความอยา่ งถูกตอ้ ง

4. ปฏิบัติตามหลักการ อีกท้งั จะต้องมีมารยาทใน

เขียนบรรยายและ การเขยี นและสามารถนำมา

พรรณนาได้ (P) ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน

4

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ เวลา นำ้ หนัก
หนว่ ยท่ี /มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ ความคิดรวบยอด (ชม.) คะแนน

เรยี นร้/ู ตัวชวี้ ดั 4 2
5 4
6. ปฏิบัตติ ามหลักการ
5 4
เขียนเรียงความได้ (P)

7. ปฏิบตั ติ ามหลกั การ

เขียนย่อความได้ (P)

8. มีมารยาทในการ

เขียน และนำข้อคดิ

ประโยชน์มาประยุกต์ใช้

ในชีวติ ประจำวันได้ (A)

5 การพดู สรุปความ 1. อธิบายความรู้พื้นฐาน การพูดสรปุ ใจความสำคัญ

จากเร่ืองท่ีฟังและดู เร่อื งการพูด (K) จากส่ือต่าง ๆ ที่ฟังและดู

ตวั ชว้ี ดั ขอ้ ที่ 11 2. พดู สรุปใจความสำคัญ ผูพ้ ูดจะต้องมีพ้ืนฐานใน

ของเร่ืองท่ีฟงั และดู (P) การพดู เพ่อื นำไปใช้ได้อย่าง

3. มีความซื่อสตั ย์ (A) ถูกต้อง

6 โคลงภาพพระราช 1. มีความรคู้ วามเขา้ ใจ การศึกษาเรื่อง โคลงภาพ

พงศาวดาร เกยี่ วกับหลกั การ พระราชพงศาวดาร จะตอ้ ง

ตัวช้วี ดั ขอ้ ท่ี 12 วเิ คราะห์และวจิ ารณ์ วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์

วรรณคดีวรรณกรรมท่ี วรรณคดีจากเรื่องท่ีอ่านได้

อ่าน (K) พร้อมทงั้ ยกเหตุผลประกอบ

2. วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์ เก่ียวกับเนอ้ื เร่ืองท่ีอา่ นได้

วรรณคดีเร่อื ง โคลงภาพ อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม

พระราชพงศาวดาร ตอน

พระสรุ โิ ยทยั ขาดคอชา้ ง

ได้ (P)

3. มีความซ่อื สตั ย์ (A)

7 บทเสภา 1. อธบิ ายหลักการพดู การศกึ ษาเรื่อง บทเสภา

สามคั คีเสวก วิเคราะห์ วิจารณจ์ ากส่ือ สามคั คเี สวก ตอน

ตัวชี้วดั ขอ้ ที่ 13,14 ทฟ่ี ังและดู (K) วิศวกรรมาและสามคั คีเสวก

2. มารยาทในการฟัง จะตอ้ งวเิ คราะห์วิจารณเ์ รื่อง

การดู และการพูด (K) ได้ รวมทง้ั มีมารยาทในการ

3. วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์ ฟังและดู

เรอ่ื งที่ฟงั และดู

อยา่ งมวี ิจารณญาณ (P)

5

ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ/ เวลา นำ้ หนัก
หนว่ ยที่ /มาตรฐานการ ความคิดรวบยอด (ชม.) คะแนน
3
เรยี นรู้/ตวั ชี้วดั 6 5
5
4. มมี ารยาทในการฟัง 4
4
การดู และการพดู นำ

ขอ้ คิดมาประยกุ ต์ใชใ้ นการ

ดำเนนิ ชีวติ (A)

5. มคี วามซอื่ สตั ย์ (A)

8 สรา้ งคำในภาษาไทย 1. อธิบายหลกั การ การศกึ ษาเร่ือง สรา้ งคำใน

ตวั ช้วี ัดขอ้ ที่ 15 สรา้ งคำในภาษาไทย (K) ภาษาไทย จะต้องมีความรู้

2. สามารถสรา้ งคำ พนื้ ฐานในการสร้างคำ ทงั้

ในภาษาไทยได้ (P) หลักเกณฑว์ ธิ ีการสรา้ งคำ

3. มีความกระตือรือร้นใน ในภาษาไทย เพื่อใหม้ ี

การทำงาน (A) ความเขา้ ใจและสามารถ

ใช้ไดอ้ ย่างถูกต้อง

9 ประโยคในภาษาไทย 1. อธิบายโครงสรา้ ง การศึกษาเรื่องประโยคใน

ตวั ชว้ี ดั ข้อท่ี 16 ประโยคสามัญ ประโยค ภาษาไทย ต้องวเิ คราะห์

รวม และประโยคซ้อนได้ โครงสร้างประโยคให้

(K) ถูกต้อง

2. วเิ คราะหโ์ ครงสร้าง

ประโยคสามัญประโยค

รวม และประโยคซ้อนได้

(P)

3. มีความกระตือรือรน้ ใน

การทำงาน (A)

10 รามเกยี รติ์ ตอน 1. หลกั การสรปุ เนื้อหา การศึกษาเร่ืองรามเกยี รติ์

นารายณ์ปราบน วรรณคดีและวรรณกรรมที่ ตอน นารายณป์ ราบนนทก

นทก อา่ นในระดบั ทย่ี ากข้นึ (K) จะต้องจับใจความสำคัญ

ตวั ชีว้ ัดข้อท่ี 17 2. สรปุ เนื้อหาวรรณคดี สรปุ ความ อธิบาย

และวรรณกรรมจาก รายละเอียดจากเรอื่ งท่ี

บทเรียนในวรรณคดี (P) อา่ น และยงั ต้องรู้ความ

3. ตระหนกั และเห็นคณุ คา่ เปน็ มาและประวตั ิผู้แตง่

ของวรรณคดีและนำมา

ประยกุ ต์ใชใ้ น

ชีวิตประจำวันได้ (A)

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ เวลา 6
หนว่ ยที่ /มาตรฐานการ ความคิดรวบยอด (ชม.) น้ำหนัก
4 คะแนน
เรียนรู้/ตวั ชี้วัด
2 4
11 ศิลาจารึกพอ่ ขุน 1. หลกั การวเิ คราะห์และ การศึกษาเร่ืองศิลาจารึก
2
รามคำแหงมหาราช วิจารณ์วรรณคดี พ่อขนุ รามคำแหง จะต้อง

ตัวช้ีวัดขอ้ ท่ี 18 วรรณกรรม และ สามารถวเิ คราะห์วจิ ารณ์

วรรณกรรมท้องถ่ิน (K) เร่อื งที่อา่ นพร้อมอธบิ าย

2. วเิ คราะห์และวิจารณ์ เน้อื หาและยกเหตุผล

วรรณคดีวรรณกรรมจาก ประกอบเรอื่ งได้อยา่ ง

เร่ือง บทเรยี นในวรรณคดี ถกู ต้อง

และวรรณกรรมทอ้ งถ่ิน

ทอ่ี ่าน พร้อมยกเหตผุ ล

ประกอบ (P)

3. รักชาตศิ าสน์ กษัตริย์

ซอ่ื สตั ย์และมีจิตสาธารณะ

(A)

12 ทอ่ งจำบทอาขยาน 1. หลกั การท่องบท บทอาขยานเปน็ บททมี่ ี

ตัวชว้ี ัดข้อท่ี 19 อาขยาน (K) คุณค่า ให้ข้อคิด จงึ ควรนำ

2. ท่องจำบทอาขยาน บทอาขยานตามทกี่ ำหนด

ตามท่ีกำหนดและบทร้อย มาทอ่ งจำ

กรองท่ีมีคุณคา่ ตามความ

สนใจ (P)

3. มีความซื่อสัตย์ (A)

7

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1

รหัสวชิ า ท22101 รายวชิ าภาษาไทย 3 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 อา่ นในชีวติ ประจำวนั สรา้ งสรรค์ปัญญา เวลา 7 ชัว่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง ความรู้พ้นื ฐานในการอ่านจับใจความสำคญั เวลา 1 ชวั่ โมง

สอนวนั ท…ี่ …………เดือน……………………………….พ.ศ………. ผูส้ อน นางสาวอารยี วัฒน์ พงษน์ ริ ันดร

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วดั
1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ เพื่อนำไปใช้ตดั สินใจแกป้ ัญหา

ในการดำเนนิ ชวี ิตและมนี สิ ยั รกั การอา่ น
1.2 ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ท 1.1 ม.2/2 จับใจความสำคญั จากเร่ืองที่อ่าน
ม.2/8 มมี ารยาทในการอ่าน

2. สาระสำคัญ
การอา่ นจบั ใจความสำคัญเป็นทักษะการอ่านที่ควรฝึกฝนจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจเร่ืองราวที่

อา่ นได้อยา่ งรวดเร็วและทำให้ผู้อา่ นมพี นื้ ฐานในการอ่านทด่ี ี รวมท้งั ทำใหผ้ ้อู า่ นรู้หลกั การอา่ นจับใจความ
สำคัญจากส่อื ตา่ ง ๆ ทั้งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง ตลอดจนสามารถรู้เร่ืองราวต่าง ๆ ของเร่ืองท่ีอา่ นได้
อย่างเหมาะสม

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 เขา้ ใจหลักการอา่ นจบั ใจความสำคญั สรุปความและอธบิ ายรายละเอยี ดจากเรอ่ื งที่อ่าน (K)
3.2 อา่ นจับใจความสำคญั สรุปความและอธบิ ายรายละเอียดจากเรอ่ื งท่ีอ่าน (P)
3.3 ตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการอ่าน และนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดำเนินชีวิตได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
ความร้พู น้ื ฐานในการอา่ นจบั ใจความสำคญั
4.1 ความหมายการอ่านจบั ใจความสำคัญ
4.2 หลกั การอา่ นจับใจความสำคญั
4.3 การสรปุ ความและอธิบายรายละเอยี ดจากเรือ่ งทีอ่ า่ น

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มจี ิตสาธารณะ

8

6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
6.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
6.2 ความสามารถในการคิด

7. การจัดกระบวนการเรยี นรู้
ขั้นการตัง้ คำถาม/สมมตฐิ าน (Learning to Question)
7.1 นกั เรียนสแกน QR CODE จากสไลดอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ ในชุดกิจกรรมท่ี 4 เรื่อง ความรู้

พ้นื ฐานในการอา่ นจับใจความสำคญั เพ่ือทำแบบทดสอบก่อนเรียนประจำหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เร่ือง
อ่านในชวี ิตประจำวันสรา้ งสรรคป์ ญั ญา จำนวน 10 ข้อ จากโปรแกรมประยกุ ต์การทำแบบทดสอบ
ออนไลน์ เพ่ือวัดความรู้พ้นื ฐานของนักเรียน (ใหเ้ วลา 10 นาท)ี

7.2 ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจเกยี่ วกับการอ่านจบั ใจความสำคญั วา่ การอา่ นจบั
ใจความสำคญั มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไรในชวี ติ ประจำวัน (นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ )

7.3 ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนฟงั และแจ้งจุดประสงค์การเรยี นให้นักเรยี นทราบ
ขน้ั การสืบคน้ ความรแู้ ละสารสนเทศ (Learning to Search)

7.4 ครแู จกใบความรู้ เรื่อง ความรู้พน้ื ฐานในการอ่านจับใจความสำคญั ให้นักเรียนแต่ละ
คนศึกษาโดยจดเนอ้ื หาทส่ี ำคัญลงในสมดุ จากน้นั ครูอธบิ ายถงึ ความรู้พนื้ ฐานในอ่านจบั ใจความสำคัญ
เบื้องตน้ ใหน้ ักเรยี นฟัง

7.5 นกั เรียนทำใบงานเรื่อง การการจบั ใจความสำคัญ โดยใหเ้ วลา 15 นาที
ขน้ั การสรา้ งความรู้ (Learning to Construct)

7.6 นักเรียนบันทกึ ความร้ลู งสมุดวชิ าภาษาไทย
7.7 ครูอธิบายเน้ือหาใหน้ ักเรียนฟัง โดยอธิบายใหน้ ักเรยี นเหน็ ความสำคัญของการอ่าน
และรู้จกั วิธีการอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วท่ีถูกต้อง
ขั้นการสอื่ สารและนำเสนออย่างมีประสทิ ธิภาพ (Learning to Communication)
7.8 ครสู ุ่มใหน้ ักเรยี นตอบคำถาม 3-4 คน
7.9 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายเนือ้ หาที่เรยี น
ขั้นการบริการสังคมและจติ สาธารณะ (Learning to Serve)
7.10 ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปบทเรียน และหาแนวทางเพ่ือนำความรู้จากบทเรียน
ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวัน โดยมคี รูคอยให้คำช้แี นะและอธบิ ายเพิม่ เติมในส่วนท่ีบกพร่อง

9

8. การวดั ผลประเมินผล

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธกี ารวัดผล เครือ่ งมอื เกณฑ์

8.1 เข้าใจหลักการอ่านจบั แบบสังเกต 1. ตอบคำถาม เรอ่ื ง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ
การอ่านจบั ใจความสำคัญ 60
ใจความสำคัญ สรุปความและ

อธบิ ายรายละเอยี ดจากเรื่อง

ที่อา่ น

8.2 อ่านจบั ใจความสำคญั ตรวจผลงาน 2. ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ

สรปุ ความและอธิบาย การอา่ นจบั ใจความสำคัญ 60

รายละเอียดจากเรอ่ื งที่อา่ น

8.3 ตระหนกั และเหน็ แบบสงั เกต 3. แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 3
คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ความสำคญั ของการอ่าน และ อนั พงึ ประสงค์

นำไปประยุกตใ์ ช้ในการดำเนิน

ชวี ิตได้

9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
9.1 ชุดกิจกรรมท่ี 4 เรื่อง ความรพู้ ื้นฐานในการอา่ นจบั ใจความสำคัญ
9.2 ใบงาน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ
9.3 โปรแกรมประยกุ ตก์ ารทำแบบทดสอบออนไลน์
9.4 หนังสือเรียนหลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย ม.2
9.5 เวบ็ เบราวเ์ ซอร/์ อินเทอร์เนต็

10

10. บันทกึ หลังสอน
10.1 ผลการจัดการเรยี นรู้
 สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ มจี ุดประสงค์  K  P  A
 มีการบรู ณาการ คณุ ธรรม/การตา้ นการทุจรติ /หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
 มีกระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบค้นขอ้ มลู /การใชเ้ ทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อ่ืน ๆ ...................................................................................................................... ..............
10.2 ผลการเรยี นรู้ตามจุดประสงค์
 จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นการประเมิน ................... คน คดิ เป็นร้อยละ .................................
 จำนวนนกั เรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ .................. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............................
สาเหต.ุ .................................................................................................................................
แนวทางแก้ปญั หา................................................................................................................
 อนื่ ๆ ...................................................................................................................... .............

10.3 ปัญหาและอปุ สรรค
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 นกั เรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
 นกั เรียนท่ีไมส่ นใจเรียน
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เรอ่ื ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรยี นที่ไม่ผ่านการประเมนิ /ไม่สนใจเรียน ................................................
 ................................................................................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อืน่ ๆ ...................................................................................................................................

ลงชอื่ .................................................. ผบู้ นั ทกึ
(นางสาวอารียวัฒน์ พงษน์ ริ ันดร)
ครผู สู้ อน

11

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2

รหัสวชิ า ท22101 รายวชิ าภาษาไทย 3 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 อา่ นในชีวติ ประจำวนั สรา้ งสรรคป์ ญั ญา เวลา 7 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง การอ่านจับใจความสำคัญจากสื่อ เวลา 1 ชว่ั โมง

สอนวันท่ี……………เดือน……………………………….พ.ศ………. ผ้สู อน นางสาวอารียวฒั น์ พงษ์นิรันดร

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนำไปใชต้ ดั สินใจแกป้ ญั หา

ในการดำเนินชวี ติ และมนี ิสัยรกั การอา่ น
1.2 ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ท 1.1 ม.2/2 จบั ใจความสำคัญจากเร่ืองที่อา่ น
ม.2/8 มีมารยาทในการอ่าน

2. สาระสำคัญ
การอ่านจับใจความสำคัญเปน็ ทักษะการอ่านท่ีควรฝึกฝนจะชว่ ยใหผ้ ู้อา่ นสามารถเขา้ ใจเรื่องราวที่

อ่านได้อย่างรวดเร็วและทำให้ผู้อา่ นมีพนื้ ฐานในการอ่านที่ดี รวมทง้ั ทำใหผ้ ู้อ่านร้หู ลักการอา่ นจับใจความ
สำคญั จากสอ่ื ต่าง ๆ ทั้งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง ตลอดจนสามารถรู้เร่อื งราวต่าง ๆ ของเร่ืองที่อา่ นได้
อยา่ งเหมาะสม

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 เข้าใจหลกั การอ่านจบั ใจความสำคัญ สรุปความและอธิบายรายละเอยี ดจากเรอ่ื งท่อี ่าน (K)
3.2 อา่ นจบั ใจความสำคญั สรุปความและอธิบายรายละเอียดจากเรือ่ งท่ีอ่าน (P)
3.3 ตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของการอา่ น และนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดำเนินชีวติ ได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 การอ่านจับใจความสำคัญ
4.2 การสรปุ ความและอธบิ ายรายละเอยี ดจากเรือ่ งท่ีอ่าน

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

12

6. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
6.1 ความสามารถในการส่ือสาร
6.2 ความสามารถในการคดิ
6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. การจัดกระบวนการเรยี นรู้
ขัน้ การตัง้ คำถาม/สมมตฐิ าน (Learning to Question)
7.1 ครแู ละนักเรียนรว่ มทบทวนความรู้จากช่ัวโมงทผี่ า่ นมา นกั เรยี นคิดว่าการอา่ นจับ

ใจความสำคัญมปี ระโยชนห์ รือไม่ อยา่ งไร (นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ )
7.2 ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรียนฟังและแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนใหน้ ักเรียนทราบ

ขั้นการสืบค้นความรูแ้ ละสารสนเทศ (Learning to Search)
7.3 ครูให้นกั เรยี นสบื คน้ บทความจากหนงั สอื พิมพ์/อนิ เทอรเ์ น็ต โดยกำหนดให้นักเรยี น

1 คนตอ่ 1 บทความ จากน้ันนกั เรียนจบั ใจความสำคญั จากบทความของตวั เอง
ข้ันการสรา้ งความรู้ (Learning to Construct)
7.4 ครใู หน้ กั เรียนศึกษาความรูจ้ ากหนงั สอื เรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.2

พรอ้ มท้ังครูแจกใบความรู้เรอ่ื ง ใหน้ กั เรียนศึกษาจากน้นั ครูแจกใบงานที่ 2 เร่อื ง การอา่ นจับใจความ
สำคัญจากสอ่ื โดยใหเ้ วลานักเรียนทำใบงาน 20 นาที

ขน้ั การส่อื สารและนำเสนออยา่ งมีประสิทธิภาพ (Learning to Communication)

7.5 ครูสุ่มให้นักเรียนตอบคำถาม 3-4 คน มาอธบิ ายความร้ใู ห้เพอ่ื น ๆ ในห้องฟัง

และเฉลยคำตอบ จากน้นั รว่ มกนั อภิปรายเน้ือหาทีเ่ รยี น

ข้ันการบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Learning to Serve)

7.7 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปบทเรยี น และหาแนวทางเพ่ือนำความรู้จากบทเรียน
ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวัน โดยมีครคู อยให้คำชแี้ นะและอธบิ ายเพ่ิมเติมในส่วนที่บกพร่อง

8. การวดั ผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัดผล เคร่อื งมือ เกณฑ์

8.1 เข้าใจหลกั การอา่ นจบั แบบสังเกต 1. อา่ นจับใจความสำคัญ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ใจความสำคญั สรปุ ความและ การอา่ น จากสื่อ 60

อธิบายรายละเอียดจากเรื่อง
ท่อี ่าน

8.2 อา่ นจบั ใจความสำคัญ ตรวจผลงาน 2. ใบงานที่ 2 เร่ือง ผ่านเกณฑร์ ้อยละ
สรุปความและอธิบาย
รายละเอยี ดจากเร่ืองที่อ่าน การอา่ นจบั ใจความสำคัญ 60

จากสอื่

8.3 ตระหนกั และเหน็ แบบสงั เกต 3. แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 3

ความสำคญั ของการอ่าน และ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นการดำเนิน
ชวี ติ ได้

13

9. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
9.1 ชุดกิจกรรมที่ 5 เร่ือง การอ่านจับใจความสำคญั จากสอ่ื
9.2 ใบงาน เรือ่ ง การอา่ นจบั ใจความสำคัญจากส่ือ
9.3 หนงั สอื เรียนหลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.2
9.4 หนังสอื พิมพ์
9.5 เวบ็ เบราวเ์ ซอร/์ อนิ เทอรเ์ น็ต

14

10. บันทกึ หลังสอน
10.1 ผลการจัดการเรียนรู้
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ มีจุดประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คณุ ธรรม/การต้านการทุจริต/หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบคน้ ข้อมูล/การใชเ้ ทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... ..............
10.2 ผลการเรียนรู้ตามจดุ ประสงค์
 จำนวนนักเรียนที่ผา่ นการประเมนิ ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ ่านการประเมิน .................. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............................
สาเหตุ..................................................................................................................................
แนวทางแก้ปญั หา................................................................................................................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................................

10.3 ปัญหาและอปุ สรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 นักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 นกั เรียนท่ีไม่สนใจเรียน
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เร่อื ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไมผ่ า่ นการประเมนิ /ไม่สนใจเรยี น ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 อืน่ ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงช่อื ........................................... ผู้บนั ทึก
(นางสาวอารียวฒั น์ พงษน์ ริ นั ดร)
ครูผ้สู อน

15

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3

รหสั วิชา ท22101 รายวชิ าภาษาไทย 3 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย

ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 อา่ นในชีวติ ประจำวนั สรา้ งสรรค์ปัญญา เวลา 7 ชัว่ โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง การอภปิ ราย เวลา 1 ชวั่ โมง

สอนวันท่ี……....………เดอื น……………………………….พ.ศ………...... ผู้สอน นางสาวอารียวฒั น์ พงษ์นริ นั ดร

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใชต้ ดั สินใจแก้ปัญหา

ในการดำเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รักการอา่ น
1.2 ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ท 1.1 ม.2/4 อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นและข้อโตแ้ ย้งเกยี่ วกับเรื่องทอี่ ่าน
ม.2/8 มีมารยาทในการอา่ น

2. สาระสำคญั
การอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื ตา่ ง ๆ จะตอ้ งสามรถเขียนอภิปรายแสดงความคิดเหน็ และข้อ

โต้แยง้ เรือ่ งท่ีอ่านไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสม

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 อธิบายหลักการอภิปรายแสดงความคดิ เห็นและข้อโตแ้ ยง้ (K)
3.2 อภิปรายแสดงความคดิ เห็นและข้อโต้แยง้ เกี่ยวกบั เรื่องท่ีอ่าน (P)
3.3 ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการอา่ น และนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นการดำเนนิ ชีวิตได้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้

4.1 ความหมายและหลักการอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ และขอ้ โตแ้ ย้ง
4.2 อา่ นจับใจความจากสอื่ ต่าง ๆ

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุง่ มั่นในการทำงาน
5.3 มีจติ สาธารณะ

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

6.1 ความสามารถในการส่ือสาร
6.2 ความสามารถในการคดิ
6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

16

7. การจดั กระบวนการเรียนรู้

ข้นั การต้ังคำถาม/สมมติฐาน (Learning to Question)
7.1 นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ (นักเรยี นจะนำความรู้เร่ืองการอา่ นจับใจความ
สำคัญ

มาตอ่ ยอดเปน็ การวิเคราะห์ได้อยา่ งไร)
7.2 ครูอธบิ ายให้นกั เรียนฟงั และแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นให้นกั เรียนทราบ

ขนั้ การสบื คน้ ความรูแ้ ละสารสนเทศ (Learning to Search)
7.3 นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ (กลุ่มเดิมจากแผนการจดั การเรยี นรูท้ ีผ่ า่ นมา) ร่วมกันศึกษา
ความรเู้ รอื่ ง

การอ่านเพื่อการวเิ คราะห์ จากหนังสือเรยี นหลกั ภาษาและการใช้ภาษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2
ขน้ั การสรา้ งความรู้ (Learning to Construct)
7.4 นักเรยี นอภิปรายสรุปหลกั การอ่านเพื่อการวิเคราะห์ เพ่ือให้นักเรยี นไดเ้ ลือกใช้ใน
การ

วิเคราะหส์ ื่อต่าง ๆ
ข้ันการสื่อสารและนำเสนออยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ (Learning to Communication)

7.5 ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอหลักการเขยี นอภิปรายเร่ืองตามความเข้าใจ

7.6 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภิปรายเน้ือหาทเี่ รียน

ขน้ั การบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ (Learning to Serve)

7.7 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปบทเรียน แนะแนวทางเพื่อนำความรจู้ ากบทเรยี นไป
ประยุกต์
ใช้ในชวี ติ ประจำวัน โดยครอู ธิบายเนือ้ หาเพ่มิ เติมในส่วนทีข่ าด

8. การวดั ผลประเมินผล

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีการวัดผล เครื่องมอื เกณฑ์
แบบสังเกต/ ระดับคุณภาพ 3
8.1 อธิบายหลกั การอภิปราย บันทกึ พฤติกรรม 1. ตอบคำถาม เรอ่ื ง ผา่ นเกณฑ์
แสดงความคิดเหน็ หลกั การอภิปรายแสดง
และข้อโตแ้ ยง้ แบบสงั เกต/ ความคิดเห็นและข้อโต้แย้ง ระดับคุณภาพ 3
8.2 อภปิ รายแสดงความ บันทกึ พฤตกิ รรม 2. การอภิปรายเน้อื หา ผา่ นเกณฑ์
คดิ เหน็ และขอ้ โต้แย้งเก่ียวกับ ทเ่ี รียน (หลกั การเขียน
เรื่องท่ีอ่าน แบบสงั เกต อภปิ รายเรอ่ื ง) ระดับคุณภาพ 3
8.3 ตระหนกั และเหน็ พฤติกรรม 3. แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์
ความสำคัญของการอ่าน และ คุณลักษณะ
นำไปประยุกต์ใชใ้ นการดำเนิน อนั พึงประสงค์
ชีวิตได้

17

9. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
9.1 ชุดกิจกรรมท่ี 6 เร่ือง หลกั การอภปิ รายแสดงความคดิ เห็นและข้อโต้แยง้
9.2 หนังสอื เรยี นหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม.2
9.3 เว็บเบราว์เซอร์/อนิ เทอร์เน็ต

18

10. บนั ทกึ หลงั สอน
10.1 ผลการจดั การเรียนรู้
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ มีจดุ ประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คณุ ธรรม/การตา้ นการทุจรติ /หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
 มีกระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบค้นขอ้ มลู /การใชเ้ ทคโนโลยี
 สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่ืองจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... ..............
10.2 ผลการเรียนรูต้ ามจุดประสงค์
 จำนวนนักเรียนทผี่ า่ นการประเมิน ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนกั เรยี นทีไ่ ม่ผา่ นการประเมนิ .................. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............................
สาเหตุ..................................................................................................................................
แนวทางแก้ปญั หา................................................................................................................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.3 ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 นักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 นักเรยี นทไ่ี ม่สนใจเรยี น
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ............................................................................................................................. ...................
 แนวทางแก้ไขนกั เรยี นที่ไมผ่ ่านการประเมิน/ไมส่ นใจเรยี น ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงชอื่ ................................................... ผู้บันทกึ
(นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ิรนั ดร)
ครูผู้สอน

19

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4

รหสั วชิ า ท22101 รายวชิ าภาษาไทย 3 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 อา่ นในชีวติ ประจำวนั สรา้ งสรรคป์ ญั ญา เวลา 7 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง การอภปิ รายเรอ่ื งจากบทความ เวลา 1 ชว่ั โมง

สอนวันที่……………....เดอื น……………………………….พ.ศ…….....…. ผูส้ อน นางสาวอารียวัฒน์ พงษ์นิรันดร

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวดั
1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปญั หา

ในการดำเนินชีวิตและมีนิสยั รกั การอา่ น
1.2 ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ท 1.1 ม.2/4 อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และข้อโตแ้ ยง้ เก่ยี วกับเรือ่ งที่อ่าน
ม.2/8 มมี ารยาทในการอ่าน

2. สาระสำคัญ
การอา่ นจบั ใจความจากส่อื ต่าง ๆ จะตอ้ งสามรถเขียนอภปิ รายแสดงความคิดเห็นและข้อ

โตแ้ ย้งเรื่องท่ีอา่ นไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสม

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 อธิบายหลกั การอภิปรายแสดงความคิดเห็นและขอ้ โต้แยง้ (K)
3.2 สามารถเขยี นและอภปิ รายแสดงความคดิ เห็นและข้อโต้แยง้ เกี่ยวกบั เร่ืองที่อา่ น (P)
3.3 ตระหนกั และเห็นความสำคัญของการอ่าน และนำไปประยุกตใ์ ช้ในการดำเนินชีวติ ได้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 หลกั การอภปิ รายแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แย้ง
4.2 เขยี นและอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และข้อโต้แยง้ เกี่ยวกับเร่ืองทีอ่ า่ น
4.3 อา่ นจับใจความจากสอ่ื ตา่ ง ๆ

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
5.3 มีจติ สาธารณะ

6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
6.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
6.2 ความสามารถในการคดิ
6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

20

7. การจดั กระบวนการเรียนรู้

ขั้นการตั้งคำถาม/สมมตฐิ าน (Learning to Question)
7.1 นกั เรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ (นักเรียนคดิ วา่ การอภปิ รายเรื่อง

มลี ักษณะอยา่ งไร)
7.2 ครูอธบิ ายให้นักเรยี นฟงั และแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นให้นักเรียนทราบ

ขั้นการสบื คน้ ความรู้และสารสนเทศ (Learning to Search)
7.3 นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ (กลุ่มเดมิ จากแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ผี า่ นมา) ร่วมกนั เลือก

บทความจากอินเทอร์เน็ตหรือบทความจากหนังสือในห้องสมดุ มากลุ่มละ 1 บทความ ให้เวลา 20 นาที
ข้ันการสร้างความรู้ (Learning to Construct)

7.4 นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับเหตผุ ลท่เี ลือกบทความเร่ือง

ดงั กลา่ วมาวิเคราะห์และอภปิ ราย

ข้นั การสื่อสารและนำเสนออย่างมีประสิทธภิ าพ (Learning to Communication)

7.5 สมาชกิ ในกลมุ่ ร่วมกนั เขียนอภปิ รายเร่อื ง ตามหลักการอภปิ รายท่ีศึกษามาจาก

ชว่ั โมงที่ผา่ นมา

7.6 ตวั แทนแต่ละกลมุ่ นำเสนอบทความและแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั บทความที่ได้

อภิปรายในการพจิ ารณาขอ้ เท็จจรงิ ขอ้ คดิ เห็น และความสมเหตสุ มผลของความทนี่ ำมาอภิปราย

ข้นั การบริการสงั คมและจติ สาธารณะ (Learning to Serve)

7.7 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปบทเรยี น แนะแนวทางเพื่อนำความรจู้ ากบทเรยี นไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยครอู ธิบายเน้ือหาเพ่ิมเตมิ ในส่วนทีข่ าด

8. การวัดผลประเมนิ ผล

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธกี ารวดั ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบสังเกต/ ระดบั คุณภาพ 3
8.1 อธบิ ายหลกั การอภิปราย บนั ทกึ พฤติกรรม 1. ตอบคำถาม เรือ่ ง ผ่านเกณฑ์
แสดงความคดิ เหน็ หลกั การอภปิ รายแสดง
และข้อโต้แย้ง แบบสงั เกต/ ความคดิ เห็นและข้อโต้แยง้ ระดบั คุณภาพ 3
8.2 เขียนและอภปิ รายแสดง บันทึกพฤติกรรม 2. การอภิปรายเน้อื หา ผ่านเกณฑ์
ความคดิ เหน็ และข้อโต้แย้ง จากบทความ
เกีย่ วกับเรื่องทีอ่ ่าน แบบสังเกต ระดบั คุณภาพ 3
8.3 ตระหนักและเหน็ พฤติกรรม 3. แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
ความสำคัญของการอ่าน และ คุณลกั ษณะ
นำไปประยุกตใ์ ช้ในการดำเนิน อนั พงึ ประสงค์
ชีวิตได้

21

9. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
9.1 ชุดกจิ กรรมท่ี 7 เรื่อง การอภิปรายเรื่องจากบทความ
9.2 หนังสือเรียนหลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย ม.2
9.3 เวบ็ เบราวเ์ ซอร์/อนิ เทอร์เนต็
9.4 บทความ
9.5 หอ้ งสมดุ

22

10. บนั ทกึ หลงั สอน
10.1 ผลการจดั การเรยี นรู้
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจดุ ประสงค์  K  P  A
 มีการบรู ณาการ คุณธรรม/การต้านการทุจริต/หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
 มีกระบวนการทำงานกลุ่ม/การสบื ค้นขอ้ มลู /การใช้เทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก....................................................................
 .............................................................................................................................................. ..
 อ่นื ๆ ....................................................................................................................................
10.2 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์
 จำนวนนกั เรียนที่ผา่ นการประเมนิ ................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .................................
 จำนวนนักเรยี นทีไ่ ม่ผ่านการประเมิน .................. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............................
สาเหต.ุ ...................................................................................................................... ...........
แนวทางแก้ปญั หา................................................................................................................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.3 ปัญหาและอปุ สรรค
 กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
 นักเรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
 นักเรยี นทีไ่ ม่สนใจเรยี น
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอื่ ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรยี นท่ีไม่ผ่านการประเมนิ /ไม่สนใจเรียน ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงช่อื ................................................... ผู้บันทกึ
(นางสาวอารยี วัฒน์ พงษ์นิรนั ดร)
ครผู ้สู อน

23

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5

รหสั วชิ า ท22101 รายวิชาภาษาไทย 3 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 อา่ นในชีวติ ประจำวันสรา้ งสรรคป์ ัญญา เวลา 7 ชวั่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เร่ือง การอภปิ รายเรอ่ื งจากโฆษณา เวลา 1 ชวั่ โมง

สอนวันที่………....……เดือน……………………………….พ.ศ…….....…. ผสู้ อน นางสาวอารียวฒั น์ พงษ์นริ ันดร

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใชต้ ดั สินใจแก้ปัญหา

ในการดำเนินชีวิตและมีนิสยั รกั การอา่ น
1.2 ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ท 1.1 ม.2/4 อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นและข้อโตแ้ ย้งเกีย่ วกับเรอื่ งทีอ่ า่ น
ม.2/8 มมี ารยาทในการอ่าน

2. สาระสำคญั
การอ่านจบั ใจความจากสื่อตา่ ง ๆ จะต้องสามรถเขยี นอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และขอ้

โตแ้ ยง้ เรื่องที่อา่ นได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 อธิบายหลกั การอภปิ รายแสดงความคิดเห็นและข้อโตแ้ ย้ง (K)
3.2 สามารถเขียนและอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ และขอ้ โต้แย้งเกย่ี วกบั เร่ืองที่อา่ น (P)
3.3 มีมารยาทในการอา่ น และนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 หลกั การอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ และข้อโตแ้ ย้ง
4.2 เขียนและอภิปรายแสดงความคิดเหน็ และขอ้ โต้แยง้ เกยี่ วกบั เร่ืองท่อี า่ น
4.3 อา่ นจับใจความจากส่ือต่าง ๆ

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทำงาน

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
6.1 ความสามารถในการส่ือสาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

24

7. การจดั กระบวนการเรียนรู้
ขั้นการตงั้ คำถาม/สมมติฐาน (Learning to Question)
7.1 นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ (นักเรียนคดิ ว่าการอภิปรายเรอ่ื งจากบทความ

และบทโฆษณาแตกต่างกนั หรือไม่ อย่างไร)
7.2 ครอู ธิบายใหน้ กั เรียนฟังและแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นให้นกั เรยี นทราบ

ขน้ั การสืบค้นความรแู้ ละสารสนเทศ (Learning to Search)
7.3 นักเรยี นแต่ละกลมุ่ (กลุ่มเดมิ จากแผนการจัดการเรยี นรู้ทีผ่ ่านมา) ร่วมกนั เลือกบท

โฆษณาจากอินเทอรเ์ น็ตหรือบทโฆษณาจากหนงั สือในหอ้ งสมดุ มากลมุ่ ละ 1 โฆษณา ใหเ้ วลา 20 นาที
ขนั้ การสร้างความรู้ (Learning to Construct)
7.4 นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั เหตผุ ลท่ีเลือกบทโฆษณา

เรอื่ งดงั กล่าวมาวิเคราะห์และอภิปราย
ขน้ั การส่ือสารและนำเสนออยา่ งมีประสิทธิภาพ (Learning to Communication)
7.5 สมาชิกในกลุ่มร่วมกนั เขยี นอภิปรายเรือ่ งตามหลกั การอภปิ รายทีเ่ รยี นมาจากชวั่ โมง

ท่ีผ่านมา
7.6 ตัวแทนแต่ละกลุ่มนำเสนอโฆษณาและแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับบทโฆษณาท่ีได้

อภปิ รายในการพิจารณาขอ้ เท็จจรงิ ขอ้ คดิ เห็น และความสมเหตุสมผลของความท่ีนำมาอภปิ ราย
ขั้นการบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ (Learning to Serve)
7.7 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปบทเรียน และหาแนวทางเพื่อนำความรจู้ ากบทเรยี น

ไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน โดยมคี รูคอยให้คำชแี้ นะและอธบิ ายเพิม่ เติมในสว่ นทีบ่ กพรอ่ ง

8. การวัดผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมอื เกณฑ์
แบบสงั เกต/ ระดับคุณภาพ 3
8.1 อธบิ ายหลกั การอภปิ ราย บนั ทกึ พฤตกิ รรม 1. ตอบคำถาม เรอ่ื ง ผ่านเกณฑ์
แสดงความคิดเหน็ หลักการอภปิ รายแสดง
และข้อโตแ้ ยง้ แบบสังเกต/ ความคิดเหน็ และข้อโตแ้ ยง้ ระดบั คุณภาพ 3
8.2 เขยี นและอภิปรายแสดง บนั ทกึ พฤตกิ รรม 2. การอภปิ รายเน้อื หา ผ่านเกณฑ์
ความคิดเหน็ และข้อโต้แยง้ จากบทโฆษณา
เกยี่ วกับเรอ่ื งท่อี ่าน
8.3 มีมารยาทในการอา่ น แบบสังเกต 3. แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 3
และนำไปประยุกตใ์ ช้ใน พฤติกรรม คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ชวี ติ ประจำวันได้ อันพึงประสงค์

25

9. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
9.1 ชุดกิจกรรมที่ 8 เรื่อง การอภปิ รายเร่ืองจากบทความ
9.2 หนงั สอื เรยี นหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.2
9.3 เว็บเบราวเ์ ซอร์/อินเทอรเ์ น็ต
9.4 บทความโฆษณา
9.5 หอ้ งสมุด

26

10. บนั ทกึ หลงั สอน
10.1 ผลการจัดการเรียนรู้
 สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจุดประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คณุ ธรรม/การต้านการทุจรติ /หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสบื ค้นขอ้ มูล/การใช้เทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่อื งจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อ่นื ๆ ....................................................................................................................................
10.2 ผลการเรียนรู้ตามจดุ ประสงค์
 จำนวนนกั เรยี นทผี่ ่านการประเมนิ ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนักเรียนทีไ่ ม่ผ่านการประเมิน .................. คน คิดเป็นร้อยละ ...............................
สาเหตุ....................................................................................................... ...........................
แนวทางแกป้ ัญหา................................................................................................................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................................

10.3 ปัญหาและอปุ สรรค
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
 นกั เรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 นักเรยี นท่ไี มส่ นใจเรียน
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรือ่ ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ............................................................................................................................................. ...
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นการประเมนิ /ไมส่ นใจเรยี น ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงชือ่ ................................................... ผ้บู ันทึก
(นางสาวอารียวัฒน์ พงษน์ ิรันดร)
ครผู สู้ อน

27

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6

รหัสวชิ า ท22101 รายวิชาภาษาไทย 3 กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย

ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 อา่ นในชีวิตประจำวนั สร้างสรรค์ปัญญา เวลา 7 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 เรอื่ ง การเขียนแผนผังความคิด เวลา 1 ชว่ั โมง

สอนวนั ท่ี…….....………เดือน……………………………….พ.ศ…….....…. ผสู้ อน นางสาวอารยี วัฒน์ พงษน์ ริ นั ดร

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวัด
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปญั หา

ในการดำเนนิ ชีวติ และมนี ิสัยรกั การอ่าน
1.2 ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ท 1.1 ม.2/3 เขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรยี นตา่ งๆ ที่อา่ น
ม.2/8 มมี ารยาทในการอ่าน

2. สาระสำคัญ
การอ่านจบั ใจความจากสอื่ ตา่ ง ๆ จะต้องสามรถเขยี นอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และข้อ

โต้แย้งเรอ่ื งท่ีอ่านได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 อธบิ ายความหมายและหลักการเขยี นผงั ความคิดได้ถูกต้อง (K)
3.2 สามารถเขียนผงั ความคิดแสดงความเข้าใจในบทเรยี นต่าง ๆ ทอี่ า่ น (P)
3.3 มีมารยาทในการอ่าน และนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความหมายและหลักการเขยี นผังความคิด
4.2 การเขียนผังความคิดเก่ยี วกบั เร่อื งที่อ่าน
4.3 อา่ นจับใจความจากสอ่ื ตา่ ง ๆ

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุ่งมัน่ ในการทำงาน

6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
6.1 ความสามารถในการสื่อสาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

28

7. การจดั กระบวนการเรียนรู้
ข้ันการต้งั คำถาม/สมมตฐิ าน (Learning to Question)
7.1 ครนู ำตวั อย่างผงั ความคดิ ทถ่ี กู ต้องและสวยงามมาใหน้ กั เรยี นดู
7.2 นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ (นักเรียนคิดวา่ แผนผังความคดิ ทด่ี ี

ควรมีลักษณะอย่างไรบ้าง)
7.3 ครูอธบิ ายใหน้ ักเรียนฟงั และแจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นให้นักเรยี นทราบ

ขั้นการสืบคน้ ความรู้และสารสนเทศ (Learning to Search)
7.4 นักเรยี นแต่ละคนสบื ค้นข้อมูลการเขยี นผังความคดิ จากหนงั สอื เรยี น

และจากอินเทอรเ์ น็ต
ขั้นการสรา้ งความรู้ (Learning to Construct)
7.5 นกั เรยี นบันทกึ ความรู้ลงสมุด
ขนั้ การส่ือสารและนำเสนออยา่ งมีประสิทธิภาพ (Learning to Communication)
7.6 ครูสมุ่ ให้นักเรยี นตอบคำถาม 3-4 คน มาอธบิ ายการเขียนผงั ความคดิ ท่ีดีให้เพ่ือน ๆ

ในห้องฟงั จากนน้ั ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภปิ รายเน้อื หาท่ีเรยี น
ขน้ั การบรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ (Learning to Serve)
7.7 ครูอธิบายเนือ้ หาเพ่ิมเติมและสรุปการเรยี นในครงั้ น้ี
7.8 ครูมอบหมายงานใหน้ ักเรียนเลอื กหวั ข้อการเขยี นผังความคิดในชวั่ โมงต่อไป

8. การวดั ผลประเมินผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวดั ผล เครือ่ งมอื เกณฑ์
แบบสังเกต/ ระดับคุณภาพ 3
8.1 อธิบายความหมายและ บันทกึ พฤตกิ รรม 1. ตอบคำถาม เร่ือง ผา่ นเกณฑ์
หลกั การเขียนผังความคิดได้ ความหมายและหลกั การ
ถูกต้อง แบบสังเกต/ เขียนผังความคิด ระดบั คุณภาพ 3
8.2 เขยี นผังความคิดแสดง บันทกึ พฤติกรรม 2. การอภิปรายเน้อื หา ผา่ นเกณฑ์
ความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ ที่เรียน (หลักการเขยี นผงั
ท่อี ่าน แบบสงั เกต ความคิด) ระดับคุณภาพ 3
8.3 มีมารยาทในการอ่าน พฤติกรรม 3. แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
และนำไปประยุกตใ์ ชใ้ น คุณลักษณะ
ชีวติ ประจำวนั ได้ อนั พงึ ประสงค์

9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
9.1 ชุดกจิ กรรมที่ 9 เร่ือง การเขยี นแผนผงั ความคิด
9.2 หนังสอื เรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.2
9.3 เว็บเบราว์เซอร์/อินเทอร์เน็ต

29

10. บนั ทกึ หลงั สอน
10.1 ผลการจดั การเรียนรู้
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ มจี ดุ ประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คณุ ธรรม/การตา้ นการทุจริต/หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 มีกระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบค้นขอ้ มูล/การใช้เทคโนโลยี
 สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอื่ งจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อ่นื ๆ ....................................................................................................................................
10.2 ผลการเรียนรูต้ ามจุดประสงค์
 จำนวนนักเรียนทผี่ า่ นการประเมิน ................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 จำนวนนกั เรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมนิ .................. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...............................
สาเหตุ....................................................................................................... ...........................
แนวทางแก้ปญั หา................................................................................................................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................................

10.3 ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 นักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 นักเรยี นทไ่ี ม่สนใจเรยี น
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรยี นท่ีไมผ่ ่านการประเมิน/ไมส่ นใจเรยี น ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงชอื่ ................................................... ผ้บู นั ทกึ
(นางสาวอารยี วัฒน์ พงษน์ ิรนั ดร)
ครูผูส้ อน

30

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 30

รหสั วิชา ท22101 รายวิชาภาษาไทย 3 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 อ่านในชีวติ ประจำวนั สรา้ งสรรค์ปญั ญา เวลา 7 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 10 เรอื่ ง การเขียนแผนผังความคิดเพื่อแสดงความเขา้ ใจ เวลา 1 ชวั่ โมง

สอนวันที่………....……เดือน……………………………….พ.ศ…….....…. ผู้สอน นางสาวอารยี วัฒน์ พงษน์ ิรันดร

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั
1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนำไปใช้ตดั สินใจแก้ปัญหา

ในการดำเนนิ ชวี ิตและมนี ิสยั รักการอา่ น
1.2 ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ท 1.1 ม.2/3 เขียนผังความคิดเพ่อื แสดงความเข้าใจในบทเรยี นตา่ งๆ ท่ีอ่าน
ม.2/8 มีมารยาทในการอ่าน

2. สาระสำคญั
การอา่ นจบั ใจความจากส่ือตา่ ง ๆ จะตอ้ งสามรถเขยี นอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และข้อ

โตแ้ ย้งเร่ืองท่ีอ่านได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 อธิบายความหมายและหลักการเขียนผงั ความคิดได้ถูกต้อง (K)
3.2 สามารถเขียนผังความคิดแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ ท่อี า่ น (P)
3.3 มีมารยาทในการอ่าน และนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความหมายและหลักการเขยี นผังความคิด
4.2 การเขียนผังความคิดเกีย่ วกบั เรอ่ื งท่อี ่าน
4.3 อา่ นจบั ใจความจากส่ือตา่ ง ๆ

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มุง่ มน่ั ในการทำงาน

6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
6.1 ความสามารถในการสื่อสาร
6.2 ความสามารถในการคดิ
6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

31

7. การจัดกระบวนการเรยี นรู้
ขน้ั การตั้งคำถาม/สมมติฐาน (Learning to Question)
7.1 นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ (นักเรียนคดิ ว่าการนักเรยี นคิดวา่ แผนผงั

ความคิดมีประโยชน์อย่างไร)
7.2 ครอู ธิบายใหน้ กั เรยี นฟงั และแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนให้นกั เรียนทราบ

ขัน้ การสบื คน้ ความรู้และสารสนเทศ (Learning to Search)
7.3 นักเรียนแตล่ ะคนสบื คน้ ข้อมูลการเขยี นผงั ความคิดและแอปพลเิ คชันเพื่อใช้เขยี น

แผนผงั ความคดิ จากอนิ เทอร์เนต็ โดยให้เวลา 10 นาที
ขน้ั การสรา้ งความรู้ (Learning to Construct)
7.4 นักเรียนแตล่ ะคนเขยี นผงั ความคิดในหัวข้อ “สรปุ ความรู้เร่ือง การอา่ นใน

ชวี ิตประจำวัน”ผ่านแอปพลเิ คชนั SimpleMind, Inspiration Maps หรอื แอปพลเิ คชันอน่ื ๆ
ตามถนัดโดยให้เวลา 20 นาที

ขนั้ การส่ือสารและนำเสนออยา่ งมีประสิทธิภาพ (Learning to Communication)
7.5 ครูสุ่มให้นักเรยี น 3-5 คน เพือ่ นำเสนอผลงานในการเขียนผังความคิดที่ดีใหเ้ พื่อน ๆ

ในหอ้ งดู
7.6 ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปบทเรยี น แนะแนวทางเพื่อนำความรจู้ ากบทเรยี น

ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวัน โดยครอู ธบิ ายเนือ้ หาเพิม่ เติมในส่วนท่ขี าด
ขนั้ การบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ (Learning to Serve)
7.7 ใหน้ กั เรียนสแกน QR CODE จากสไลด์อิเล็กทรอนกิ ส์ ในชุดกิจกรรมที่ 10 เพ่ือทำ

แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรอ่ื ง อ่านในชีวิตประจำวนั สรา้ งสรรคป์ ัญญา

7.8 ให้นกั เรยี นสแกน QR CODE จากสไลดอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ ในชุดกิจกรรมที่ 10 เพื่อ
บนั ทกึ การเรยี นรู้ เร่ือง การอ่านในชวี ติ ประจำวนั สร้างสรรคป์ ัญญา โดยใชก้ จิ กรรม learning logs โดย
การบนั ทกึ ผ่านโปรแกรมประยุกตบ์ นั ทึกการเรยี นรู้ออนไลน์

32

โดยใหน้ ักเรียนบันทึกการเรียนรู้ 2 ขอ้ ดังน้ี
1) การแสดงความคดิ เห็นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันดังน.้ี ..........
2) ฉันจะนำความรู้จากบทเรยี นไปประยุกต์ใชใ้ นเร่อื ง…….....

8. การวดั ผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบทดสอบ ระดบั คุณภาพ 3
8.1 อธิบายความหมายและ 1. แบบทดสอบหลังเรียน ผา่ นเกณฑ์
หลักการเขียนผังความคิดได้ ตรวจผลงาน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2
ถูกต้อง เรอื่ ง อา่ นในชีวิตประจำวัน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60
สรา้ งสรรคป์ ญั ญา
8.2 เขียนผังความคิดแสดง 2. ใบงานเรอื่ ง การเขียนผัง
ความเขา้ ใจในบทเรียนต่าง ๆ ความคิด
ที่อา่ น
8.3 มีมารยาทในการอา่ น แบบสังเกต 3. แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 3
และนำไปประยุกต์ใช้
ในชีวติ ประจำวนั ได้ พฤติกรรม อันพงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
9.1 ชุดกิจกรรมท่ี 10 เร่ือง การเขียนผังความคิดเพ่อื แสดงความเขา้ ใจ
9.2 ใบงานเรื่อง การเขยี นผงั ความคิด
9.3 หนังสือเรยี นหลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.2
9.4 เว็บเบราวเ์ ซอร์/อนิ เทอรเ์ น็ต
9.5 โปรแกรมประยุกตบ์ นั ทึกการเรียนรู้ออนไลน์
9.6 โปรแกรมประยุกตก์ ารทำแบบทดสอบออนไลน์

33

10. บันทึกหลังสอน
10.1 ผลการจดั การเรยี นรู้
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้ มีจดุ ประสงค์  K  P  A
 มกี ารบรู ณาการ คุณธรรม/การต้านการทุจริต/หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสบื คน้ ขอ้ มูล/การใช้เทคโนโลยี
 สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนือ่ งจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อนื่ ๆ ....................................................................................................................................
10.2 ผลการเรียนรู้ตามจุดประสงค์
 จำนวนนักเรียนท่ีผา่ นการประเมนิ ................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 จำนวนนักเรยี นทไี่ มผ่ า่ นการประเมนิ .................. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............................
สาเหตุ....................................................................................................................... ...........
แนวทางแกป้ ญั หา................................................................................................................
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.3 ปัญหาและอปุ สรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 นกั เรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 นักเรียนที่ไม่สนใจเรยี น
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรับปรุง เรอื่ ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ............................................................................................................................. ...................
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนท่ีไมผ่ า่ นการประเมิน/ไมส่ นใจเรยี น ................................................
 ................................................................................................................................. ...............
 ................................................................................................................................................
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงชอื่ ................................................... ผู้บนั ทึก
(นางสาวอารยี วัฒน์ พงษน์ ริ นั ดร)
ครผู ู้สอน

34

ภาคผนวก

35