ทฤษฎีทางชีวภาพ (Biologic Theories)
ทฤษฎีการเสื่อมสลาย (Wear and Tear Theory)
CASE : ปวดข้อเข่าเวลาเดิน
เกิดจากการใช้งานข้อเข่ามาเป็นเวลานาน/ ใช้อย่างหักโหมสะสมมาเรื่อยๆ
เพราะในอดีตผู้สูงอายุเตะฟุตบอลเป็ นประจำและออกกำลังกายโดยการวิ่ง
=> ส่งผลให้ข้อเข่าเกิดการบาดเจ็บและเกิดการกระแทกซ้ำๆเป็นเวลานาน
เมื่ออายุมากขึ้นจึงเกิดการตายของเซลล์เนื้อเยื่อของเข่าจึงทำให้ข้อเข่าเสื่อมลง
ทฤษฎีทางชีวภาพ (Biologic Theories)
ทฤษฎีอนุมูลอิสระ (Free Radical Theory)
CASE : ผิวจางลงเฉพาะที่ มีตกกระ(Lentigo senilis) บริเวณผิวหนัง
เกิดจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ (Free radical) โดยอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิด
ผลเสียต่อร่างกาย เช่น ทำลายโครงสร้างของผนังเซลล์ รบกวนการเผาผลาญของเซลล์จนทำให้
เซลล์กลายพันธ์และทำให้เกิดของเสียจากการเผาผลาญ เช่น lipofuscins ถ้ามีมากเกินไปจะให้
ผิวหนังคล้ำลงที่เรียกว่า “Aging spots”
ทฤษฎีทางชีวภาพ (Biologic Theories)
ทฤษฎีการเชื่อมตามขวาง (Cross-Linking Theory)
CASE : ผิวหนังเหี่ยวและมีรอยย่น
เนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสตินมีการเชื่อมตามขวางมากขึ้น >>> สูญเสียความยืดหยุ่น
มีลักษณะแข็งแตกและฉีกขาดง่ายขึ้น >>> เกิดผลต่อการซึมผ่านของสารที่เยื่อหุ้ม >>>
การแพร่&การดูดซึมของก๊าซ สารอาหาร แอนติ้บอดี้ท๊อกซินตลอดจนเมตาโบลัยท์ต่างๆ
ผ่านผนังหลอดเลือดลดลง ผิวหนังแห้งเหี่ยว
ทฤษฎีทางชีวภาพ (Biologic Theories)
ทฤษฎีการเชื่อมตามขวาง (Cross-Linking Theory)
CASE : ความดันโลหิตสูง
คอลลาเจนในร่างกายเกิดการเชื่อมตามขวางมากขึ้น >>> ขัดขวางกระบวนการเผาผลาญ
>>> เกิดการสูญเสียความยืดหยุ่นของเซลล์ ผนังหลอดเลือดแดงมีแรงตึงตัวลดลงทำให้
ความสามารถในการหดตัวและคลายตัวลดลง และสูญเสียความสามารถในการหดตัวกลับ
ส่งผลให้หลอดเลือดส่วนปลายมีความต้านทานมากขึ้น ระดับของความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น
ทฤษฎีทางชีวภาพ (Biologic Theories)
ทฤษฎีการเชื่อมตามขวาง (Cross-Linking Theory)
CASE : มีต้อกระจกที่ตาทั้ง 2 ข้าง
เนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสตินมีการเชื่อมตามขวางมากขึ้น >>> สูญเสียความยืดหยุ่น
มีลักษณะแข็งแตกและฉีกขาดง่ายขึ้น >>> เลนซ์ ในลูกตาเสื่อม >>> มีความทึบแสงมากขึ้น
ต้อกระจก
CASE : โรคหัวใจ
แคลเซียมเกาะในหลอดเลือดและลิ้นหัวใจ ส่งผลให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว กล้ามเนื้อหัวใจและ
ผนังหัวใจห้องล่างซ้ายหนา ประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจลดลง โรคหัวใจ
ทฤษฎีทางชีวภาพ (Biologic Theories)
ทฤษฎีการสะสม (Accumulation Theory)
CASE : ไขมันในเลือดสูง , Aging Spot
เกิดจากการที่ชอบรับประทานของทอด เป็นประจำ ทำให้เกิดการสะสมของ Lipofuscin คือ
รงควัตถุไขมัน ซึ่งเป็นผลผลิตที่ได้มาจากการแตกตัวของโปรตีนและไขมันแล้วเกิดการสะสม
ภายในร่างกายทำให้มีระดับของไขมันในเลือดสูง และสะสมในผิวหนัง เรียกว่า "Aging Spot"
ทฤษฎีทางจิตสังคม (Psychosocial Theories)
ทฤษฎีการถดถอย (Disengagement Theory)
CASE : ทำอาชีพเป็นวิทยากร จนถึงอายุ 65 ปี หลังมีความเจ็บป่ วยเป็นโรคไต 8 ปีก่อน
ต้องฟอกไต 3 ครั้ง/สัปดาห์ จึงต้องหยุดทำงานและไม่ได้พบปะเข้าสังคมเกิดการถดถอย
ออกจากสังคม
วิเคราะห์
ลักษณะทางเวชกรรม
(R-A-M-P-S)
ลักษณะทางเวชกรรม
Reduced ผู้รับบริการมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาเนื่ องจากความชราตามวัย
body reserve มีความคล่องแคล่วลดลง และทำกิจกรรมต่างๆได้ลดลง
Atypical Geriatric giant (Big I’s) ได้แก่ : I : Instability : มีประวัติวูบประมาณ 3 ครั้งใน 6
presentation เดือน ประเมิน Fall score ได้ 5 คะแนน มีความเสี่ยงต่อการเกิดการพลัดตกหกล้ม
I : Inanition : ผู้รับบริการทานอาหารได้ลดลง ไม่อยากอาหาร ประเมิน MNA ได้
23 คะแนน มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะทุพโภชนาการ
Multiple มีประวัติเป็น HT, ESRD on HD, DLP, Heart disease และมีต้อกระจก
Pathology ที่ตาทั้ง 2 ข้าง
ลักษณะทางเวชกรรม
Polypharmacy 19 รายการ
ASA (81) 1x1 oral pc ,Warfarin (2) 1x1 oral hs, ISDN (5) sublingual 1 tab prn for chest pain,
Clopidogrel (75) 1x1oral pc , Amiodarone (200) 1x2 oral pc, Trimetazidine (35) 1x2 oral pc
Isosorbide-5-mononitrate (20) 1x2 oral ac, Trimetazidine (35) 1x2 oral pc,
Carvedilol (6.25) 1x2 oral pc
Sodium Bicarbonate (300) 3x3 oral, Renvela (800) 1x3 oral pc,Regpara (25) 1x1 oral pc
Allopurinol (100) 1x1 oral pc, Colchicine (0.6) 1 tab q 72 hr
Atorvastatin (40) 1x1 oral pc เย็น , Hydralazine (25) 1x3 oral pc, Senokot 2x1 oral hs,
Omeprazole 1x2 oral ac , Vit D2 20,000 units 1x1 oralweekly (วันพฤหัส) , Folic (5)1x1 oral
ลักษณะทางเวชกรรม
Social ผู้สูงอายุเดิมทำงานเป็นวิทยากรพบปะผู้คนเป็นส่วนมาก ปัจจุบันหลังพบว่าเป็นโรคไต
adversity ต้องฟอกไต ได้ออกจากงาน ไม่ได้พบปะผู้คนและออกห่างจากสังคม
ประเภทผู้สูงอายุ
Frailty Aging
มีโรคประจำตัวหลายโรค
เข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง
ต้องรับประทานยาหลายชนิด
เข้ารับการรักษาเป็นประจำ
ต้องออกจากงานที่เคยทำอยู่
มีความเบื่อหน่ายในชีวิต
จากบุคคลเข้าสังคม แยกออกจากสังคม
พยาธิสภาพ
กรองกาญจน์ ชูทิพย์. (2562)
ข้อวินิจฉัย
ทางการพยาบาล
Dx.1 เสี่ยงต่อภาวะ Cardiac Output ลดลง
เนื่องจากประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจลดลง
S : ผู้รับบริการให้ประวัติเจ็บแน่นหน้าอก
S : ผู้รับบริการบอกว่าวันที่ล้างไตแล้วเจ็บหน้าอก มีอาการนอนไม่หลับกังวลว่าจะเจ็บหน้าอกอีก
S : ผู้รับบริการบอกว่า มีอาการวูบบ่อยครั้ง ตอนอยู่ที่บ้าน
O : Pt. underlying HT with TVD, Hx. Biventricular heart failure,
Hx. AF with RVR Last Echo 18/4/65: LVEF 33% S/P PCI 19/4/65
O : EKG 1st degree AV Block
O : BP 108-143/55-67 mmHg
O : CXR (22/4/65): Cardiomegaly
O : Lab (22/4/65) Trop I :3,762 (0 hr) และ 3,461 (1 hr)และ 2785 (4 hr)
O : Pitting edema 1+ ขาขวา
O : ไม่มีวูบขณะอยู่รพ.
Dx.1เสี่ยงต่อภาวะ Cardiac Output ลดลง
เนื่องจากประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจลดลง (ต่อ)
Goal : ไม่มีภาวะหัวใจบีบเลือดออกจากหัวใจได้น้อยลงภายใน 1 สัปดาห์
เกณฑ์ การประเมินผล
: ผู้รับบริการไม่มีเจ็บแน่นหน้าอก ไม่มีวูบหมดสติ
: EKG : NSR
: PR 60-100 bpm Regular
: ไม่มี Pulse pressure แคบ
: BP 100-130/60-90 mmHg
: O2sat > 95%
: ไม่มีบวมตามตัว นอนราบได้
Dx.1เสี่ยงต่อภาวะ Cardiac Output ลดลง
เนื่องจากประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจลดลง (ต่อ)
กิจกรรมการพยาบาล
- ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา ได้แก่
1. Clopidogrel (75) 1x1 oral pc เพื่อต้านเกล็ดเลือดไม่ให้จับตัวกันเป็นลิ่มเลือด
2. ASA (81) 1x1 oral pc เพื่อป้ องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
3.Warfarin 2 mg 1x1 oral hs เพื่อป้ องกันลิ่มเลือดอุดตันและ
4.Cordarone (200) 1x2 oral pc รักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ
5.Isosorbide-5-mononitrate 20 mg 1x2 oral ac เพื่อขยายหลอดเลือดและ
Observe side effect จากยา เช่น Bleeding จากยา ASA, warfarin เป็นต้น
Dx.1เสี่ยงต่อภาวะ Cardiac Output ลดลง
เนื่องจากประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจลดลง (ต่อ)
กิจกรรมการพยาบาล (ต่อ)
-ติดตามและประเมินสัญญาณชีพ
ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (SpO2) ทุก 4 ชั่วโมง
-record I/O q 8 hr as ml เพื่อประเมินความสมดุลของน้ำเข้าและออก
-ดูแลจำกัดน้ำ 600 ml/day
-ดูแลให้ได้รับการพักผ่อนบนเตียง ช่วยเหลือกิจกรรมตามความเหมาะสม
ให้ Ativan (0.5) 1 tab oral hs เพื่อส่งเสริมการนอนหลับ
ลดความต้องการออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ
Dx.1เสี่ยงต่อภาวะ Cardiac Output ลดลง
เนื่องจากประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจลดลง (ต่อ)
กิจกรรมการพยาบาล (ต่อ)
-แนะนำให้ผู้รับบริการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง
และดูให้ได้รับยาระบาย senokot 2 tab oral hs
เพื่อหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่าย
ป้ องกันการเพิ่มแรงดันในช่องท้องและลดความต้องการออกซิเจนของหัวใจ
(แจ่มจันทร์ ประทีปมโนวงศ์ , 2564)
-ดูแลให้รับประทานอาหารเฉพาะโรค ได้แก่ อาหารประเภทธรรมดา
โปรตีน 85 gm/day, Low Na, Low K, Low PO4-,
Low Cholesterol งดข้าวต้ม, น้ำแกง, ก๋วยเตี๋ยว, อาหารประเภทน้ำ
เพื่อป้ องกัน volume overload
-สังเกตอาการเจ็บหน้าอก วูบหมดสติ ไอ เหนื่อยง่าย
pain score ปวดหลัง เพื่อประเมินอาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
Dx.1เสี่ยงต่อภาวะ Cardiac Output ลดลง
เนื่องจากประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจลดลง (ต่อ)
ประเมินผล
-ผู้รับบริการไม่มีเจ็บแน่นหน้าอก ไม่มีเวียนศีรษะ ไม่มีวูบหมดสติ
-มีขาขวาบวมกดบุ๋ม 1ไ+ม่มีอาการเหนื่อย
หอบ ไม่มีปวดหลัง
-สามารถนอนราบได้
-BP 133-140/65-68 mmHg
-O2sat 97-98%
-แพทย์ visit case ทำ HD ได้ ไม่มี chest pain ผู้รับบริการ
ขอยังไม่ทำ CABG ใน admission นี้ แพทย์ให้ discharge ได้
นัด follow up 2/6/65
Dx.2 มีภาวะของเสียคั่งค้างในร่างกายเนื่องจากไตเสียหน้าที่
ข้อมูลสนับสนุน
S : ผู้รับบริการบอกว่าเบื่ออาหาร ทานอาหารได้น้อย
ไม่อยากทานอาหาร มีคลื่นไส้แต่ไม่อาเจียน
O : BP 143/67 mmHg
O : Pt. Underlying ESRD on HD 3 ครั้ง/สัปดาห์ มา 8 years
O : Pt. No urine 6 years
O : Lab (3/5/65) : BUN 49 mg/dl
Cr 9.33 mg/dl eGFR 11.80 ml/min/1.73m2
O : UF (3/5/65) 3,500 ml
O : ไม่มีเบื่ออาหาร ไม่มีคันตามตัว ไม่ซึมลง ไม่มีหายใจหอบลึก
มีภาวะของเสียคั่งค้างในร่างกายเนื่องจากไตเสียหน้าที่(ต่อ)
Goal : ไม่เกิดการคั่งค้างของของเสียในร่างกาย
เกณฑ์ การประเมินผล
: BUN อยู่ในช่วง 6-20 mg/dl
: Cr อยู่ในช่วง 0.5-1.2 mg/dl
: eGFR > 60 ml/min/1.73m2
: ไม่มีเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน สับสน ซึมลง
บวม คันตามตัว หายใจหอบลึก
: BP100-130/60-90 mmHg
มีภาวะของเสียคั่งค้างในร่างกายเนื่องจากไตเสียหน้าที่(ต่อ)
กิจกรรมการพยาบาล
-ดูแลให้ได้รับการทำ HD ตามแผนการรักษาและ
Observe UF หลังทำ HD และ Observe Chest pain
หรืออาการ hemodynamic deterioration
-สังเกตอาการของของเสียคั่งในร่างกาย เช่น ปัสสาวะออกน้อย
เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย บวม คันตามตัว
หายใจหอบ ความดันโลหิตสูง เพื่อช่วยใน การประเมินความ
รุนแรงของของเสียคั่งในร่างกาย
มีภาวะของเสียคั่งค้างในร่างกายเนื่องจากไตเสียหน้าที่(ต่อ)
กิจกรรมการพยาบาล(ต่อ)
-ดูแลให้รับประทานอาหารเฉพาะโรค ได้แก่
อาหารประเภทธรรมดา โปรตีน 85 gm/day,
Low Na, Low K, Low PO4-,
Low Cholesterol งดข้าวต้ม,
น้ำแกง, ก๋วยเตี๋ยว, อาหารประเภทน้ำทุกชนิด
-ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการเช่น BUN, Cr, eGFR
มีภาวะของเสียคั่งค้างในร่างกายเนื่องจากไตเสียหน้าที่(ต่อ)
ประเมินผล
-ผู้รับบริการสามารถทำ HD ได้ วันที่ 5/5/65 ดึง UF 3,300 ml
-ไม่มีอาการสับสน ซึมลง ไม่มีคลื่นไส้มากขึ้น ไม่มีอาเจียน
-มีขาขวาบวมกดบุ๋ม 1+
-BP 133-140/65-68 mmHg
-ผู้รับบริการไม่มี urine
Dx.3 เสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการเนื่องจากรับประทานอาหารได้น้อย
ข้อมูลสนับสนุน
S : ผู้รับบริการบอกว่า "รับประทานอาหารได้น้อยลง รับประทานอาหารได้
ไม่ถึงวันละ 2 มื้อไม่อยากทานอาหารมีอาการคลื่นไส้ ไม่อาเจียน
O : ประเมิน MNA = 23 คะแนน แปลผล มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร
O : ผู้รับบริการมีมวลกล้ามเนื้อน้อย
O : น้ำหนักลดจาก 74 kg เหลือ 69 kg ใน 1 สัปดาห์
O : คำนวณ BW (%) เท่ากับ 6.76% (ปานกลาง)
: คำนวณ BEE = 66.5+(13.8x69)+(5x168.5)-(6.8x74) = 1,358 kal/day
TEE = 1,358x1.3x1.0 = 1,765.4 kcal/day (total energy expenditure)
O : Lab (22/4/65) Albumin 3.4 g/dL, Globulin 4.1 g/dL
วัตถุประสงค์
ผู้รับบริการไม่เกิดภาวะทุพโภชนาการ ภายใน 6 เดือน
เกณฑ์ การประเมินผล
1.น้ำหนักเพิ่มขึ้น 0.5 – 1.0 kg ใน 1 สัปดาห์
2. มีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น
3.สีหน้าสดชื่น ไม่มีอาการอ่อนเพลีย
4. รับประทานอาหารได้มากขึ้นและถูกหลักโภชนาการ
5. รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงได้เพิ่มมากขึ้น
6. ผู้รับบริการได้รับสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย คือ ได้รับ
พลังงานมากกว่า 1,765.4 kcal/day
7. Lab Albumin 3.5-5.0 g/dL , Globulin 2.3-3.4 g/dL
กิจกรรมการพยาบาล
1.ใหัคำแนะนำให้รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อและรับประทานให้ครบ 5 หมู่
2.แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโปรตีน แคลเซียม วิตามินดีเค และแมกนีเซียมเลือกรับประทาน
โปรตีนที่ดีเช่น ปลา ไข่ เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ย่อยง่าย ถั่วและธัญพืชต่างๆ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
3.แนะนำให้รับประทานอาหารให้ได้พลังงานวันละ ประมาณ 1400-1800 kcal โดยรับประทานข้าว
ประมาณ 5-9 ทัพพีต่อวัน, ผัก 6 ทัพพี, ผลไม้ 1-2 ส่วน, เนื้อสัตว์ 6-8 ช้อน, นม 2 แก้วและ
น้ำ 6-8 แก้วต่อวัน และรับประทานน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน (กรมอนามัย, 2563)
4. แนะนำให้รับประทานอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ตุ๋น แทนอาหารประเภททอด
5. แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด เค็มจัด รสจัด
6. ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ Albumin,Globulin
ประเมินผล
ผู้รับบริการมีสีหน้าอ่อนเพลีย
ผู้รับบริการทานอาหารได้มากขึ้น : ทานข้าวได้ ½ ถ้วย
รับประทานแอปเปิ ลได้ 4-5 ชิ้น/วัน
น้ำหนักลดลง เหลือ 67 kg (post HD)
ไม่มีคลื่นไส้ อาเจียน
Dx.4 มีภาวะinsomnia เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงตามวัยและพฤติกรรมการนอนไม่เหมาะสม
S: ผู้รับบริการบอกว่านอนไม่หลับเลย ลืมตาถึงเช้าทุกคืน
ปกติอยู่บ้านจะเข้านอน ตอน น. แต่อยู่รพ.นอนตอน น.
S: ผู้รับบริการบอกว่ามักจะนอนหลับในช่วงเวลากลางวัน
S:ผู้รับบริการบอกว่ากังวลว่าจะเจ็บหน้าอกตอนล้างไต
ทำให้นอนไม่หลับ
O: มีสีหน้าอ่อนเพลีย
มีภาวะinsomnia เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงตามวัยและพฤติกรรมการนอนไม่เหมาะสม(ต่อ)
Goal: ผู้รับบริการสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น ใน 1 เดือน
เกณฑ์ การประเมินผล
: ไม่มีอ่อนเพลีย
: เข้านอนและตื่นตรงเวลา ไม่ตื่นกลางดึกหรือ
สามารถหลับต่อได้เมื่อตื่นมากลางดึก
: ไม่นอนหลับในช่วงเวลากลางวัน
หรือนอนน้อยกว่า 30 นาที
มีภาวะinsomnia เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงตามวัยและพฤติกรรมการนอนไม่เหมาะสม(ต่อ)
กิจกรรมการพยาบาล
1.ให้คำแนะนำในการส่งเสริมการนอนหลับ ลดจำนวนครั้งของการให้การพยาบาลเพื่อป้ องกัน
การรบกวนผู้รับบริการ ส่งเสริมให้ได้นอนหลับในเวลาที่หลับได้ และจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะ
สม เช่น กั้นม่าน ลดเสียง ปิ ดไฟ ในเวลาที่ผู้รับบริการสามารถนอนหลับได้
2.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบำบัดด้วยการผ่อนคลายและจินตนาการภาพ
(Relaxation therapy and imagery)(ลดาวัลย์ พันธุ์พาณิชย์,2563) ได้แก่
- ใช้ดนตรีบำบัด(music therapy) ส่งเสริมการนอนหลับในเพลงที่ผู้รับบริการชอบ
ขณะใช้ดนตรีบำบัดจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย (muscle relaxation)
โดยเลือกประเภทของเพลงที่ชื่ นชอบหรือเป็ นเพลงที่มีจังหวะช้านุ่มนวล
มีภาวะinsomnia เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงตามวัยและพฤติกรรมการนอนไม่เหมาะสม(ต่อ)
กิจกรรมการพยาบาล
3.ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อส่งเสริมการนอนหลับ (Sleep hygiene education)
เพื่อลดปัจจัยด้านตัวบุคคลและสิ่งแวดล้อม เมื่อกลับบ้าน ได้แก่
- ควรเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาโดยจัดตารางการเข้านอน
- จัดสิ่งแวดล้อมของห้องนอนให้เหมาะสม เลือกเตียงที่นอนให้เกิดความสุขสบายไม่หนาไม่บาง
หรือนุ่มเกินไป ปรับอุณหภูมิของห้องนอนให้เหมาะสม (สุรีรัตน์ ณ วิเชียร, 2564)
- ให้งดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่ให้รับประทานอาหารมื้อหนักก่อนเข้านอน
- แนะนำให้อาบน้ำอุ่น ก่อนเข้านอน
4. ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการควบคุมปัจจัยสิ่งกระตุ้น (Stimulus Control Therapy)
ได้แก่ งดการใช้เตียงเพื่ออ่านหนังสือ งดดูทีวี หรือการใช้โทรศัพท์บนเตียงนอน
มีภาวะinsomnia เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงตามวัยและพฤติกรรมการนอนไม่เหมาะสม(ต่อ)
กิจกรรมการพยาบาล(ต่อ)
5.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบำบัดด้วยการผ่อนคลายและจินตนาการภาพ
(Relaxation therapy and imagery)(ลดาวัลย์ พันธุ์พาณิชย์,2563) ได้แก่
- การออกกำลังกายสามารถส่งเสริมการนอนหลับได้ในกิจกรรมที่ผู้รับบริการสนใจ
เช่น ปั่ นจักรยาน หรือรำไทเก๊ก โดยไม่ควรออกกำลังกาย ก่อนเข้านอนอย่างน้อย2ชั่วโมง
มีภาวะinsomnia เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงตามวัยและพฤติกรรมการนอนไม่เหมาะสม(ต่อ)
ประเมินผล
-ผู้สูงอายุนอนหลับเวลากลางวันเป็นส่วนใหญ่ 3-4 ชม.
-กลางคืนยังนอนหลับได้น้อยอยู่ เนื่องจากมีเสียงรบกวน
-มีอ่อนเพลียอยู่เล็กน้อย
Dx.5 พร่องความรู้เกี่ยวกับ
การปฏิบัติตนเมื่อกลับบ้าน
ข้อมูลสนับสนุน
S : ผู้รับบริการบอกว่าไม่ได้ออกกำลังกาย
S : ผู้รับบริการบอกว่าไม่ได้ควบคุมอาหารมาก ไม่ได้ประกอบ
อาหารเอง ซื้ออาหารรับประทาน
S : ผู้รับบริการบอกว่า ทานข้าวเหนียว หมูทอดในตอนเช้า
เพราะมีรสชาติอร่อย
O : แพทย์พิจารณาหากทำ HD ได้ พิจารณา discharge ไม่มี
indication ในการ redo CABG นัดมาตรวจตามนัดเดิม
Goal : ผู้รับบริการมีความรู้ใน
การปฏิบัติตนเมื่อกลับบ้าน
เกณฑ์การประเมินผล :
: ผู้รับบริการสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับโรคได้ถูกต้อง
: ผู้รับบริการสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการดูแลตนเองเมื่อกลับบ้านได้ถูกต้อง
: ผู้รับบริการสามารถสาธิตย้อนกลับเกี่ยวกับท่าทางในการออกกำลังกายได้ถูกต้อง
: ผู้รับบริการสามารถอธิบายถึงอาหารที่ควรรับประทานและควรหลีกเลี่ยงได้
: ผู้รับบริการสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการใช้ยาได้ถูกต้อง
: ผู้รับบริการสามารถตอบการมาตรวจตามนัดได้ถูกต้อง
ดูแลให้ได้รับคำแนะนำตามหลัก D-METHOD-P
D : Diagnosis (NSTEMI)
M : Medication
อาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิดเอสที แนะนำเกี่ยวกับการรับประทานยาที่ผู้รับบริการได้
ไม่ยก หมายถึง กลุ่ม โรคที่มีการตีบแคบภายในหลอด รับตามแผนการรักษา เพื่อป้ องกันการอุดตันของ
เลือดแดงโคโรนารีที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ทำ ให้การ เส้นเลือด และ แนะนำข้อควรระวังในการใช้ยา
ไหลเวียนเลือด ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลง ส่งผลให้เกิด
ได้แก่ เฝ้าระวังเลือดออกในกระเพาะ ถ่ายดำ
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาเจียนเป็ นเลือด
E : environment & Economic T : Treatment
ให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดบ้านให้เป็ นระเบียบ -การออกกำลังกาย
สะอาด แนะนำให้หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
-ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม
หรือ ออกกำลังกายหนัก -หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ
-สวมใส่เสื้อผ้าหลวม ใส่สบาย
การออกกำลังกาย ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม
ควรเริ่มจากการเดินบนพื้นราบ เดิน (Social Learning Theory)
บนสายพาน การปั่ นจักรยานแบบตั้ง
อยู่กับที่ โดยการออกกำลังกายที่แขน เรียนรู้จากบุคคลเกิดได้จากการ
ควรเริ่มภายหลัง 4-6 สัปดาห์หลังทำ สังเกต (Observation) การเลียน
แบบ (imitation) และการมี
PCI ซึ่งการออกกำลังกายแต่ละครั้งไม่ ตัวอย่างที่ดี(modeling) โดยใช้
ควรเกิน 60 นาที ประสบการณ์ ของตัวเอง
T : Treatment
เสื้อผ้า เลี่ยงกาแฟ
สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ และออกกำลัง เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
กายในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ แอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่
สะดวกและสวมรองเท้าผ้าใบ
สำหรับออกกำลังกายโดยเลือกให้
(กัมปนาท วีรกุล, ชัยยศ คุณานุสนธิ์, และเลิศลักษณ์ เชาวน์ทวี,2564))
พอดีกับเท้าและสวมใส่สบาย
ดูแลให้ได้รับคำแนะนำตามหลัก D-METHOD-P
H : Health O : Outpatient Referral
แนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเมื่อเจ็บหน้าอก -แนะนำให้มาตรวจตามนัด วันที่ 2/6/65 เวลา
ควรพกยาขยายหลอดเลือดชนิดอมใต้ลิ้นไว้ 08.45-09.45 น.คลินิกศัลยกรรมทรวงอกและหัวใจ
ใกล้ติดตัวเสมอ ไม่เกิน 3 เม็ด และพก -แนะนำเกี่ยวกับการเกิดเหตุการณ์ ฉุกเฉินให้โทร
โทรศัพท์ไว้ติดตัวเผื่อกรณีฉุกเฉิน 1669
D : Diet P : Psychological Support
-เฉพาะโรค โซเดียมต่ำ ไขมันต่ำ -สอบถามเกี่ยวกับความวิตกกังวลในการดูแล
ตนเองเมื่อกลับบ้าน
-จำกัดอาหารชนิดผัด และทอด อาหารไขมันสูง
-แนะนำให้งดอาหารประเภทยอดผักหรือสัตว์ ปี ก -เปิ ดโอกาสให้ผู้รับบริการสอบถามข้อสงสัย
-พูดคุย Support จิตใจ
-รับประทานอาหารโปรตีนเพิ่มมากขึ้น
- จำกัดน้ำดื่ม < 600 ml/วัน
ประเมินผล
-ตอบคำถามเกี่ยวกับโรคได้ถูกต้อง
-บอกวิธีการดูแลตนเองเมื่อกลับบ้านได้ถูกต้อง
-สาธิตวิธีการออกกำลังกาย และบอกวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
-ตอบคำถามเกี่ยวกับอาหารที่ควรรับประทานได้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะสามารถ
หารับประทานได้หรือไม่
-ตอบคำถามเกี่ยวกับการใช้ยาได้ถูกต้อง บอกว่าจะรับประทานยาสม่ำเสมอ
-บอกวันที่ต้องมาตรวจตามนัดได้ถูกต้อง
-ผู้รับบริการบอกว่ายังไม่อยากผ่าตัด อยากใช้ PCI ของเดิมไปก่อน ถ้ามี
อาการผิดปกติจะรีบมาพบแพทย์
THANK YOU