The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ลักษณะภูมิประเทศ ประเทศ เชื้อชาติ ศาสนา การปกครอง สถานที่ท่องเที่ยว ปัญหาสิ่งเเวดล้อมยุโรปตะวันออก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 6405721, 2022-08-17 10:49:57

ยุโรปตะวันออก(East Europe)

ลักษณะภูมิประเทศ ประเทศ เชื้อชาติ ศาสนา การปกครอง สถานที่ท่องเที่ยว ปัญหาสิ่งเเวดล้อมยุโรปตะวันออก

Fauget University

ยุโรปตะวันออก

Eastern Europe

ยุโรปตะวันออก" มักใช้เพื่ออ้างถึงทุกประเทศในยุโรป
ที่ก่อนหน้านี้ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์
เนื่องจากแนวคิดของ "ม่านเหล็ก" ที่แยกยุโรปตะวัน
ตกและยุโรปตะวันออกที่ควบคุมโดยสหภาพโซเวียต
ออกตลอดช่วงเวลา ของสงครามเย็น ก่อนการรวม
ชาติเยอรมัน เยอรมนีตะวันออกมักถูกอธิบายว่าเป็น
ประเทศในยุโรปตะวันออก

ตำเเหน่งที่ตั้ง ยุโรปตะวันออกมีพื้นที่
ติดต่อกับทวีปเอเชียอยู่
ระหว่างละติจูด 52องศา
เหนือ ลองจิจูด 37องศา
ตะวันออกเป็นพื้นที่ทาง
ตะวันออกของทวีปยุโรป

ลักษณะภูมิกาศ อบอุ่นภาคพื้นทวีป
กึ่งขั่วโลก

ทุนดา

ภูมิประเทศ

โดยทั่วไปแล้วยุโรปตะวันออกจะถือว่าล้อมรอบด้วยทะเลบอลติกและทะเลเรนต์ทางตอน
เหนือ ทะเลเอเดรียติก ทะเลดำ และทะเลแคสเปียน และเทือกเขาคอเคซัสทางตอนใต้ และ

เทือกเขาอูราลทางทิศตะวันออก

พื้นที่ทางตะวันตกของภูมิภาคส่วนใหญ่เป็นที่ราบน้ำแข็ง ภาคกลางทางตะวันตกมีภูเขาและที่ราบสูงที่
เกี่ยวข้องกับระบบอัลไพน์ โดยมีหุบเขาแม่น้ำและแอ่งที่มีโครงสร้างอยู่ระหว่างที่ราบสูง ที่ราบสูงทาง

ธรณีวิทยาขนาดใหญ่ค่อนข้างราบเรียบมั่นคงครอบคลุมภาคตะวันออก

พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของภูมิภาคนี้เต็มไปด้วยทะเลสาบและสันเขาน้ำแข็ง แม่น้ำสาย
สำคัญในยุโรปตะวันออก ได้แก่ แม่น้ำวิสวา แม่น้ำดานูบ แม่น้ำวอลกา แม่น้ำนีเปอร์ แม่น้ำดอน

แม่น้ำเอลเบอ

เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการผลิตทั่วยุโรปตะวันออกเป็น
ปัจจัยสำคัญในด้านเศรษฐศาสตร์ระดับภูมิภาค
สาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำใน
ฝั่ งตะวันตก ในขณะที่ยูเครน เทือกเขาอูราล และ
ดินแดนริมฝั่ งแม่น้ำโวลก้าเป็นเขตอุตสาหกรรม
หลักในเมืองและภาคตะวันออก อย่างไรก็ตาม
ประเทศที่เคยอยู่ภายใต้การควบคุมของสหภาพ
โซเวียตหลายแห่งกำลังเผชิญกับมลพิษที่มาก
เกินไปและปัญหาสิ่งRแeวsดolลu้อtioมnที่สำคัญอันเนื่องมา
จากการควบคุมอุตสาหกรรมที่หละหลวมในช่วง

ยุคโซเวียต

ทรัพยากร 4.ปรอท
5. บ็อกไซต์
1. ถ่านหิน 6. ทองแดง
2. ปิโตรเลียม 7.ยูเรเนียม

3. เหล็ก

ประเทศในยุโรปประกอบด้วย

ยุโรปตะวันออก ตามที่กำหนดโดยแผนกสถิติแห่งสหประชาชาติประกอบด้วย เบลารุส,
โปแลนด์, โรมาเนีย, บัลแกเรีย, มอลโดวา, ยูเครน, รัสเซีย, สโลวะเกีย, สาธารณรัฐเช็ก,

ฮังการี

วัฒนธรรม

ภูมิภาคที่อยู่ในยุโรปโดยมีลักษณะสำคัญประกอบด้วยสลาฟตะวันออกกรีกไบ
แซนไทน์ออร์โธดอกซ์ตะวันออกและอิทธิพลทางวัฒนธรรมออตโตมัน บางส่วน
คำจำกัดความอื่ นถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามเย็นและใช้คำว่ากลุ่มตะวันออกไม่

มาก ก็น้อย คำจำกัดความที่คล้ายคลึงกันให้ชื่อรัฐในยุโรปที่เคยเป็น
คอมมิวนิสต์นอกสหภาพโซเวียตว่ายุโรปตะวันออก

ประเทศโรมมาเนีย

เมืองหลวง กรุงบูดาเปสต์

ประชากร 19.5 ล้านคน(ค.ศ.2018) โดยประกอบด้วยเชื้อชาติโรมาเนีย 88.9%
ฮังกาเรียน 6.5%โรม่า 3.29% และ ยูเครเนียน 0.27 %

ศาสนา นิกายออร์โธดอกซ์ (ร้อยละ 86.8) โปรเตสแตนท์ (ร้อยละ7.5) นิกาย
โรมันคาทอลิก (ร้อยละ 4.7) และอื่นๆ (ร้อยละ1)

สถานที่ตั้ง อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป จึงมีสภาพภูมิอากาศ
ค่อนข้างเย็นสบาย ไปจนถึงร้อนและหนาวจัด

ระบบการเมือง
ฝ่ายบริหารประกอบด้วยคณะรัฐบาลและประธานาธบดี มีนายกรัฐมนตรีเป็นประมุขของ

ประเทศ

ภาษาทางการของโรมาเนียคือภาษาโรมาเนีย ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ตัวอักษรละติน จัดอยู่ใน
กลุ่มภาษาโรมานซ์ บางส่วนของประเทศมีการใช้ภาษาโรมาเนียควบคู่ไปกับภาษาฮังการี ใน

ขณะที่บางแห่งของประเทศยังมีการพูดภาษาเยอรมันเล็กน้อย

เศรษฐกิจของโรมาเนียเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ
โรมาเนีย ประกาศว่า เศรษฐกิจของโรมาเนียเติบโตขึ้นร้อยละ 7 ซึ่งสูงกว่าจีนที่มี
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 6.9 โดยเป็นผลมาจาก การส่งออก
และการนำเข้าสินค้าและบริการที่เพิ่มสูงขึ้น อุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดย
เฉพาะการบริโภคในภาคเอกชน

ประเทศบัลแกเรีย

เมืองหลวง โซเฟีย

ประชากร6.927ล้านคน(ค.ศ.2020) โดยประกอบด้วยชาวบัลแกเรีย ร้อย
ละ 83.9 ชาวเติร์ก ร้อยละ 9.4 และอื่น ๆ

ศาสนา บัลแกเรียน ออร์โธดอกซ์ ร้อยละ 82.6 มุสลิม ร้อยละ 12.2 คาทอลิก ร้อยละ
1.2 อื่น ๆ ร้อยละ 4

สภาพภูมิอากาศ ในตอนบนของประเทศเป็นแบบภาคพื้นสมุทร ในตอนล่างของ
ประเทศเป็นแบบเมดิเตอร์เรเนียน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั้งปี 10.5 องศาเซลเซียส

การเมืองการปกครอง ภายหลังการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในสหภาพ
โซเวียต บัลแกเรียได้เปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดย

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2534 รัฐสภาบัลแกเรียได้รับรองรัฐธรรมนูญของประเทศ

ภาษาบัลแกเรีย เป็นภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียน โดยเป็นสมาชิกของแขนงใต้ของภาษากลุ่ม
สลาวิก

เศรษฐกิจของบัลแกเรียเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย Eurostat ซึ่งเป็นหน่วยงานด้าน
สถิติของคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม
ภายในประเทศ ของบัลแกเรียไว้ที่ร้อยละ 3.9 ซึ่งเท่ากับปี 2559 โดยมีปัจจัยสนับสนุน
การเติบโตของเศรษฐกิจ ได้แก่ อุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น การบริโภคภายใน
ประเทศที่สูงขึ้นจากค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น การฟื้ นตัวของภาคการลงทุนภายในประเทศ
และ การที่บัลแกเรียยังเป็นประเทศที่มีค่าแรงไม่สูง กอปรกับ การเป็นประเทศสมาชิก
สหภาพยุโรปทำให้สามารถเข้าถึงกองทุนเพื่อการพัฒนาของสหภาพยุโรปได้โดยได้รับ

เงินสนับสนุนกว่า 9 พันล้านยูโร จนถึงปี 2563

โปแลนด์

เมืองหลวงกรุงวอร์ซอ

ประชากร 38.5 ล้านคน 37.95 ล้าน (พ.ศ. 2563)

ศาสนา ร้อยละ 96 นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นอกนั้นเป็นโปลิซออร์ธอด๊อกซ์
โปรเตสแตนท์ ลัทธิยูดา และมีมุสลิมเพียงเล็กน้อย

นติั้นงกอรยู่าใดจก) ลทิาศงตทะววีัปนยอุโอรกปเมฉีีพยงรเมหแนืดอนแตลิดะทิ7ศตประ
วะัเนทอศอไกด้จแรกด่ ลทิิทศัวเหเนนีืยอจเบรลดารัรสุสเซแียละ(ยแูเคควร้นนคทาิลศี

ใต้จรดสโลวาเกียและสาธารณรัฐเช็ก ทิศตะวันตกจรดเยอรมนี และทิศเหนือจรดทะเล
บอลติก และภูมิประเทศ เป็นพื้นที่ราบเกือบทั้งประเทศ

ระบบการเมืองของสาธารณรัฐโปแลนด์ถูกกำหนดโดยรัฐธรรมนูญวันที่ 2 เมษายน
ค.ศ. 1997 โดยรัฐธรรมนูญระบุว่าสาธารณรัฐโปแลนด์เป็นรัฐประชาธิปไตยที่ปกครอง
โดยกฎหมายดำเนินการตามกฎแห่งความยุติธรรมทางสังคมปกป้องเอกราชและ
บูรณภาพแห่งดินแดนของตนรับรองเสรีภาพ

ภาษาโปแลนด์ คือภาษาทางการของประเทศโปแลนด์ ภาษาโปแลนด์เป็นภาษาหลัก
ของแขนงเลกิติกของภาษากลุ่มสลาวิกตะวันตก มีต้นกำเนิดมาจากพื้นที่ของ
โปแลนด์

โปแลนด์ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในยุโรปกลางโดยเกือบ 40
เปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 500 แห่งในภูมิภาคนี้ รวมถึงอัตราโลกาภิวัตน์ที่สูง บริษัทที่

ใหญ่ที่สุดของประเทศประกอบดัชนี WIG30 ซึ่งมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วอร์ซอ

ประเทศเบลารุส

เมืองหลวง กรุงมินสค์

ประชากร 9.5 ล้านคน(พ.ศ. 2561)
มีอาณาเขตติดต่อกับ รัสเซีย ยูเครน โปแลนด์ ลิทัวเนีย และ ลัตเวีย

ศาสนา มีประชากร 58.9% ที่นับถือ ศาสนา ใดศาสนาหนึ่ง โดยมากนับถือ
ศาสนาคริสต์ นิกายต่าง ๆ ซึ่งในทั่วทั้งประเทศ มีมีประชากร 82% ที่นับถือ คริสต์

ศาสนาคริสตจักรออร์ทอดอกซ์

การเมืองเบลารุสนั้นคล้ายคลึงกับ ประเทศรัสเซีย เพราะเคยเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
และได้รับอิทธิพลจากรัสเซียมาก่อน

ทรัพยากรที่สำคัญ
ป่าไม้ ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หินปูน แกรนิต ดินเหนียวผสมหินปูน หินชอล์ก ทราย

ก้อนกรวดที่อาจมีส่วนผสมของ แร่ทองคำ และดิน

ภาษาเบลารุส เป็นภาษากลุ่มสลาฟตะวันออกที่พูดโดยชาวเบลารุส และเป็น
หนึ่งในภาษาทางการสองภาษาของประเทศเบลารุสคู่กับภาษารัสเซียตาม

รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

เศรษฐกิจของเบลารุสเป็นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 72 ของโลกโดยจีดีพีอยู่บน
พื้นฐานของความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ (PPP) ซึ่งใน 2019 อยู่ที่ 195 พัน
ล้าน $ หรือ $ 20,900 ต่อหัว ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต ,
เบลารุสมีฐานอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างดีพัฒนา มันยังคงรักษาฐานอุตสาหกรรมนี้

ไว้หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

ประเทศมอลโดวา

เมืองหลวง กรุงคิชิเนฟ

ประชากรประชากร 4.3ล้าน (ประมาณการ ก.ค. 2553) แบ่งเป็น ชาวมอลโดวาร้อยละ
78.2 ชาวยูเครนร้อยละ 8.4 ชาวรัสเซียร้อยละ 5.8
ภาษาราชการ ภาษามอลโดวา
ที่ตั้ง อยู่ระหว่างโรมาเนียกับยูเครน ทิศเหนือ ใต้ และตะวันออก ติดยูเครนส่วน
ทิศตะวันตก ติดโรมาเนีย

ศาสนา คริสต์ นิกาย Eastern Orthodox ร้อยละ 98 ยิว ร้อยละ 1.5

ระบอบการปกครอง สาธารณรัฐประชาธิปไตยโดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข
ภาษามอลโดวา (Moldovan language : ภาษาเดียวกับภาษาโรมาเนีย ในตระกูล
โรมานซ์ Italic) ภาษารัสเซีย และ gagauz (ภาษาถิ่นตุรกี)

ทรัพยากรธรรมชาติ ลิกไนต์ ฟอสฟอไรต์ ยิปซัม ที่ดินสำหรับการเพาะปลูก หินปูน

ผลิตภัณฑ์ทางเกษตรกรรม ผัก ผลไม้ ไวน์ ธัญพืช หัวบุก เมล็ดทานตะวัน ยาสูบ เนื้อวัว นม

มอลโดวาเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในยุโรป มีหนี้ต่างประเทศจำนวนมากและ
อัตราการว่างงานสูง ประชาชนส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรมและมีฐานะยากจน โดย

เศรษฐกิจพึ่งพาภาคเกษตรกรรมเป็นหลัก และต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ
เกือบทั้งหมด

ประเทศยูเครน

เมืองหลวง เคียฟ

ประชากร 44.13ล้าน(พ.ศ.2563) แบ่ออกเป็น77.8% ยูเครน17.3% รัสเซีย
4.9% อื่น ๆ
ภาษาราชการ ภาษายูเครน



ศาสนาศาสนาคริสต์นิกาย Ukrainian Orthodox เป็นศาสนาประจำชาติ นับถือ

กว่า ร้อยละ 85
การปกครองรัฐเดี่ยว สาธารณรัฐระบบกึ่งประธานาธิบดี
ที่ตั้ง อยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวัน
ออก ติดกับทะเลดำ และอยู่ระหว่างโปแลนด์ กับรัสเซีย
ทิศเหนือจรดพรมแดนรัสเซียและเบลารุส ทิศตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อรัสเซีย ทิศ

ตะวันตกจรดพรมแดนโปแลนด์ สโลวาเกีย และฮังการี ทิศใต้ติดทะเลดำและทะเล
Azov ทิศตะวันตกเฉียงใต้จรดพรมแดนโรมาเนีย และมอลโดวา

ภาษายูเครน ซึ่งในอดีตยังมีอีกชื่อว่า ภาษารูทีเนีย (อังกฤษ: Ruthenian language)
เป็นภาษาหนึ่งในกลุ่มภาษาสลาฟตะวันออกของตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน เป็นภาษาแม่
ของชาวยูเครนและภาษาราชการของประเทศยูเครน และใช้รูปแบบหนึ่งของอักษรซีริลลิกเป็
ภาษาเขียน

ผลิตภัณฑ์ทางเกษตรกรรม ธัญพืช หัวบุก เมล็ดทานตะวัน ผัก เนื้อวัว นม

เศรษฐกิจของยูเครนได้มีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นโดยลำดับ โดยมีศักยภาพทาง
เศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 2 ในประเทศในเครือรัฐเอกราช รองจากรัสเซีย ยูเครนยังมี
ปัจจัยเสี่ยงสำหรับการลงทุนทำธุรกิจ ได้แก่ ปัญหาด้านการฉ้อราษฎร์บังหลวงของ

รัฐบาล ระบบมาเฟีย และระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร

ประเทศสโลวะเกีย

เมืองหลวงกรุงบราติสลาวา

ประชากร 5.42 ล้านคน

ที่ตั้ง ตั้งอยู่ตอนกลางของทวีปยุโรป ไม่มีพื้นที่ติดต่อกับทะเล ทิศเหนือติดกับ
โปแลนด์ ทิศใต้ติดกับฮังการี ทิศตะวันออกติดกับยูเครน และทิศตะวันตกติ
ดกับเช็ก และออสเตรีย
ภูมิอากาศ อากาศเย็นในหน้าร้อน และช่วงหน้าหนาวค่อนข้างหนาวมีหมอกและอากาศ
ชื้น
ภาษาราชการ สโลวัก
ศาสนา คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ร้อยละ 68.9 คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ร้อยละ
10.8 และคริสต์นิกายกรีกออร์โธดอกซ์ ร้อยละ 4.1 อื่น ๆ และไม่ระบุร้อยละ 3.2 และ

ไม่นับถือศาสนา ร้อยละ 13

ระบอบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยเป็นระบบสภาเดียว เเละมี
ประธานาธิบดี ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงเป็นประมุข

ภาษาสโลวัก เป็นภาษากลุ่มสลาฟตะวันตกในกลุ่มเช็ก–สโลวัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
ตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน เขียนด้วยอักษรละติน มีผู้พูดภาษาสโลวักเป็นภาษาแม่
ประมาณ 5 ล้านคน ส่วนใหญ่มีเชื้อสายสโลวัก

สินค้านำเข้าสำคัญ เครื่องจักรและอุปกรณ์การขนส่ง ผลิตภัณฑ์สินแร่ ยานยนต์
โลหะ สารเคมี พลาสติก
สินค้าส่งออกสำคัญ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า ยานยนต์ โลหะ สารเคมีและ
สินแร่ พลาสติก

สาธารณรัฐเช็ก

เมืองหลวง กรุงปราก

ประชากร 10.5 ล้านคน (ปี 2554)
ภูมิอากาศ ฤดูหนาวอุณหภูมิ -5 ถึงต่ำสุด -15 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนอุณหภูมิ
20 ถึง 25 องศาเซลเซียส
ภาษาราชการ เช็ก
ศาสนา ไม่นับถือศาสนา ร้อยละ 59 คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ร้อยละ 26.8
นิกายโปรเตสแตนต์ ร้อยละ 2.1 อื่น ๆ ร้อยละ 12.1
ภาษาเช็ก ซึ่งในอดีตยังมีชื่อเรียกว่า ภาษาโบฮีเมีย เป็นภาษาสลาฟตะวันตกภาษา
หนึ่งในกลุ่มภาษาเช็ก–สโลวักที่มีผู้พูดมากกว่า 13 ล้านค

ระบอบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขมาจาก
การเลือกตั้งของสภาสูง ร่วมกับสภาล่าง

สินค้านำเข้าสำคัญ เครื่องจักร อุปกรณ์ขนส่ง วัตถุดิบ เชื้อเพลิง เคมีภัณฑ์
สินค้าส่งออกสำคัญ เครื่องจักร อุปกรณ์ขนส่ง วัตถุดิบ เชื้อเพลิง เคมีภัณฑ์

ประเทศฮังการี

เมืองหลวงกรุงบูดาเปสต์

ประชากร9.98 ล้านคน (ปี 2554) ประกอบด้วย
ชาวฮังกาเรียน (92.3%) โรมา (1.9%) และอื่นๆ (5.8%)

ภาษาฮังการี เป็นภาษาตระกูลยูรัลซึ่งมีผู้พูดในประเทศฮังการี
ภูมิอากาศ มีฤดูหนาวที่ชื้น ฤดูร้อนที่อบอุ่น
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในฤดูหนาว 0 ถึง -15 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน 27-35 องศา
เซลเซียส
ภาษาราชการ ฮังกาเรียน 98% อื่นๆ 2%
ศาสนา โรมันคาทอลิก 67% คาลวินิสต์ 20% ลูเธอแรนส์ 5% และกรีกคาทอลิก
2.6% (ปี 2554)
ศาสนา โรมันคาทอลิก 67% คาลวินิสต์ 20
% ลูเธอแรนส์ 5% และกรีกคาทอลิก

2.6% (ปี 2
554)

ระบอบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งเป็นระบบสภาเดียว โดยมี
ประธานาธิบดีซึ่งมาจากการเลือกตั้ง

สินค้านำเข้าสำคัญ เครื่องจักรและอุปกรณ์ น้ำมันเชื้อเพลิง ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อาหาร
และวัตถุดิบ
สินค้าส่งออกสำคัญ เครื่องจักรและอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์อาหาร วัตถุดิบ น้ำมันเชื้อ
เพลิง ไฟฟ้า

สถานที่ท่องเที่ยว

1. BUCHAREST, ROMANIA
มาเริ่มกันที่เมืองแรกเลยค่ะกับเมืองบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย บูคาเรสต์เคยได้
ฉายาว่า “Little Paris” ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ด้วยความทันสมัยของอาคารบ้านเรือนและ
รสนิยมของชาวเมืองที่คล้าย ๆ กับเมืองปารีสของฝรั่งเศส ณ ขณะนั้น

เมืองบูคาเรสต์ มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ท่องเที่ยวชมมากมาย แต่ที่โดดเด่น และถือเป็นไฮไลต์พลาด
ไม่ได้เลย ก็คือ พระราชวังรัฐสภา ซึ่งมีความหรูหราและอลังการ เทียบเท่าได้กับเพนตากอนของ
สหรัฐ นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมอีกหลายแห่งที่มีความโดดเด่น อาทิ คอนเสิร์ตฮอลล์
Romanian Athenaeum, มหาวิทยาลัยบูคาเรสต์ และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เป็นต้น

2. SIBIU, ROMANIA

จากเมืองหลวงบูคาเรสต์ ขึ้นเหนืออีกนิดไปที่เมืองซีบีอู แคว้นทรานซิลวาเนีย ซีบีอูเป็นเมือง
หลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปเมื่อปี ค.ศ. 2007 และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีความเก่าแก่ทาง
สถาปัตยกรรม ด้วยบริเวณเมืองเก่าเป็นชุมชนของชาวเยอรมันเป็นส่วนใหญ่ จึงเต็มไปด้วยบ้าน
เรือนศิลปะแบบบาโรคและโกธิค สำหรับสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์พระราชวัง
Brukenthal, จตุรัส Piaata Mare และร้านอาหาร Crama Sibiu Vechi และเมื่อมายัง
แคว้นทรานซิลวาเนียแล้ว ใครที่ชื่นชอบการปีนเขา ที่นี่ก็มี Transylvania Mountain
Trail ด้วย โดยเส้นทางปีนเขาทรานซิลวาเนีย เป็นจุดหมายปลายทางของนักปีนเขาจำนวนมาก
ด้วยความสวยงามของภูเขา Carpathian บวกกับภาพวิวทิวทัศน์ปราสาท Bran ปราสาทที่
สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 และตั้งตระหง่าอยู่กลางภูเขาล้อมรอบด้วยป่าไม้

4. SKOPJE, MACEDONIA

สโกเปีย เมืองหลวงของประเทศมาซิโดเนียที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ใน
อดีต สโกเปียเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของหลายอาณาจักร เช่น โรมัน ไบแซนไทน์ บัลกาเรียน
เซอร์เบีย และออโตมันซึ่งปกครองเมืองยาวนานกว่า 500 ปี ด้วยเหตุนี้ สโกเปียจึงเป็นเมืองที่มี
วัฒนธรรมทั้งคริสเตียนและอิสลาม ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว
สำหรับสถานที่เที่ยวน่าสนใจ อาทิ จตุรัสมาซิโดเนีย, ประตูชัยมาซิโดเนีย, โบสถ์แม่ชีเทเรซ่า, โรงละคร
แห่งชาติมาซิโดเนีย เป็นต้น

5. DUBROVNIK, CROATIA

ดูโบรฟนิก ไข่มุกแห่งทะเลอเดรียติค เมืองเก่าแก่ติดชายทะเลทางตอนใต้ของโครเอเชียที่กำลังได้รับ
ความนิยมเป็นอย่างสูงจากนักท่องเที่ยว ด้วยการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Game of
Thrones ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันจำนวนมาก
ดูโบรฟนิกเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปยุคกลาง ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่
สวยงามที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรปตะวันออก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโกใน
ปี ค.ศ. 1979 ดูโบรฟนิกมีศิลปและวัฒนธรรมสไตล์ยุโรปยุคกลางมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์
พิพิธภัณฑ์ หรือประติมากรรม และสถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือ การเดินตามกำแพงเมืองเพื่อ
ชื่นชมวิวทิวทัศน์เมืองและทะเลอเดรียติค

6. SPLIT, CROATIA
จากดูโบรฟนิก ขึ้นเหนือเลียบชายฝั่ งมายังเมืองสปลิต เมืองชายฝั่ งทางตะวันออกของทะเลอเดรียติค
และเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของประเทศโครเอเชียด้วย เมื่อมาเที่ยวยังเมืองสปลิตแล้ว ก็พลาดไมได้

เลยที่จะไป เยือนพระราชวังไดโอคลีเชียน พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิไดโอคลีเชียนเมื่อ
ศตวรรษที่ 4 และปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยค่ะ โดยตัวพระราชวัง เปรียบเสมือน

ศูนย์กลางของเมือง ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และถนนคนเดิน

สำหรับใครที่ชื่นชอบการเล่นน้ำทะเล ที่เมืองสปลิตก็มีชายหาดสีขาวสวยงามหลากหลายหาดให้เล่นน้ำ
ทะเลกันด้วย

7. BELGRADE, SERBIA
จากโครเอเชีย ย้ายมาเที่ยวที่เซอร์เบียกับเมืองเบลเกรด เมืองหลวงของประเทศเซอร์เบีย ซึ่งเบลเกรด
เป็นศูนย์กลางทางการค้า วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ เป็นดินแดนที่ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม
ยุคก่อนประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของยุโรป สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หลาย ๆ แห่งใน
เมืองเบลเกรดตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ทหารเบลเกรด ซึ่งมีวัตถุโบราณกว่า

3,000 ชิ้น หรือจะแวะพักผ่อนที่สวนสาธารณะเคลเมกเดน สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่รอบป้อมปราการ
และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเซอร์เบียที่จะพาเราดื่มด่ำไปกับงานศิลปะกว่า 400,000

ชิ้นจากหลากหลายยุคสมัย

เบลเกรดเป็นเมืองที่แม่น้ำสองสายดานูบและซาวาไหลมาบรรจบกัน เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของ
เบลเกรดคือเป็นเมืองราบลุ่มที่มีเนินต่ำสลับ โดยมีทิวเขาสองแห่งตั้งเป็นกำแพงอยู่ทางใต้ ในฤดูหนาว

จะมีอุณหภูมิหนาวจัด เหมาะแก่การท่องเที่ยว

8. LIUBLJANA, SLOVENIA

ลูบลิยานา เมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรประหว่างเทือกเขาแอลป์ ทะเล
เมดิเตอร์เรเนียน และที่ราบแพนโนเนียน ลูบลิยานา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารและ
โรงแรม โดยใจกลางเมืองจะเป็นจตุรัสขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยแม่น้ำลูบลิยานาที่ไหลผ่าน ซึ่งทาง
รัฐบาลได้จัดให้พื้นที่จตุรัสกลางเมืองเป็นพื้นที่ห้ามรถวิ่ง ทำให้มีร้านอาหาร และคาเฟ่ตลอดสองข้าง
ทางเลียบแม่น้ำ เหมาะแก่การปั่ นจักรยานเล่นกลางเมือง และถ้าใครอยากชมสถาปัตยกรรมแบบสโลวี
เนีย ก็อย่าลืมแวะไปที่ปราสาทลูบลิยานา และห้องสมุดแห่งชาติ ทั้งสองสถานที่ล้วนมีความสวยงาม

ตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมสโลวีเนีย

9. WARSAW, POLAND
วอร์ซอเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปแลนด์ เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรม
หลัก เช่น เหล็กกล้า รถยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม และยังเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาอีกด้วย โดย
สถานที่เที่ยววอร์ซอแบ่งได้เป็นสามโซนหลัก ๆ ด้วยกันคือ โซน Old Town โซน Royal Route

และโซนเมืองใหม่

โซนเมืองเก่าเป็นโซนที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ภายหลังจากการเสียหายจากภัยสงครามโลก
สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ในโซนเมืองเก่า ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยคงรูปแบบเดิมเอาไว้ และสำหรับ
ใครที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์เมืองเก่าแห่งนี้ ก็มีพิพิธภัณฑ์ Warsaw Rising Museum ที่เก็บ

รวบรวมประวัติศาสตร์เมืองให้ศึกษาอีกด้วย

10. KRAKOW, POLAND

จากวอร์ซอ มาต่อกันที่เมืองคราโคว เมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศโปแลนด์ และเป็นเมืองที่ได้
รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยไฮไลต์ของเมือง อยู่ที่ย่าน Old Town ซึ่งจะมีอาคารบ้านเรือน

พระราชวัง และโบสถ์เก่าแก่จำนวนมาก ที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ปราสาทพระราชวังวาเวล และ
โบสถ์ St. Adabert โบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุเกือบพันปี และปิดท้ายทริปด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์
Schindler พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในสมัยที่กองทัพนาซีของ

เยอรมันเข้ายึดครองเมือง ซึ่ง พิพิธภัณฑ์ Schindler ตั้งอยู่บนโรงงานเดิมของ Oscar
Schindler นักอุตสาหกรรมชาวเยอรมันที่ได้ช่วยชีวิตชาวยิวในเมืองคราโควกว่า 1,200 คน เรื่อง

ราวเหล่านี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย

1. สภาพอากาศแปรปรวนผิดปกติ



เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พศ 2555 พายุฤดูหนาวส่งผลให้หลายประเทศในแถบคาบสมุทรบอล
ข่าน เช่น บอสเนีย คอซอ วอ เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร นี่อากาศโดยทั่วไปหนาวจัด หิมะ
ตกหนักและลมกระโชกแรง เช่นบริเวณภูเขาบีชชาดี ของประเทศโปแลนด์มีอุณหภูมิ-32
องศาเซลเซียส ส่วนประเทศคอซอวอมีหิมะตกสูง ถึง 10 เมตร ถล่มทัพประชาชนเสียชีวิต
และบ้านเรือนเสียหายเป็นจำนวนมาก เป็นต้น

2. มลพิษทางอากาศ

การที่ทวีปยุโรปมีโรงงานอุตสาหกรรม โรงงานไฟฟ้า ที่ใช้พลังงานถ่านหิน และยาน
พาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล อยู่มาก จึงได้ปล่อยแก๊สเสียแล้วเขม่าควันออกสู่ชั้น
บรรยากาศของโลก ซึ่งประกอบด้วยสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอนร้อยละ 35 แก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 30 และแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ร้อยละ 25 ของปริมาณที่
ทั่วโลกปล่อยออกมา สารพิษ และแก๊สพิษทำให้ชาวยุโรปป่วยเป็นโรคภูมิแพ้และโรค
ระบบทางเดินหายใจเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งยัง ทำให้เกิดฝนกรดกัดกร่อนทำลายต้นไม้และ
อาคารสถานที่ด้วย

3. ขยะและสิ่งปฏิกูล
เนื่องจากยังไม่มีวิธีการใดที่จะกำจัดได้ทันกับปริมาณที่เพิ่มขึ้น จึงกลายเป็นปัญหาที่

เมืองใหญ่ๆ กำลังเผชิญอยู่ นอกจากนี้ ยุโรปกำลังเผชิญปัญหา ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง
เกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่หมดอายุการใช้งานเพิ่มปริมาณมากขึ้นทุก
วัน ขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้มีสารพิษบางอย่างผสมอยู่ เช่น ตะกั่ว แคดเมียม ปรอท
เป็นต้น และสหภาพยุโรปมีกฎหมายบังคับ ให้กำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่ง

แวดล้อ


Click to View FlipBook Version