โครงงานออกซิเจน เติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า

โครงงาน เรื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า จัดทำโดย 6213000275 นายกฤตพจน์ พวงไพวัลย์ 6323001973 นางสาวนฤมล ผาจันทร์ 6323001423 นายนนทกร อยู่เย็น 6413000655 นายอัษฎาวุฒิ รัตนมงคล 6323001432 นายชลชาติ บุญปัน 6413000664 นายจิณณพัด รัตนมงคล 6323001478 นายอนุชา พลซา 6413000673 นายกฤษณะ พิลาธรรม 6323001496 นายธวัชชัย บัวระภา 6413000703 นางละมัย สิงห์ทองลา นักศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ตำบลผาบิ้ง ครูที่ปรึกษา นางดารนีนุช รัตนมงคล ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล นางสาวปลายมาศ จันทวัน ตำแหน่ง ครู ศรช. นางสาววรัทยา ชาภักดี ตำแหน่ง ครู ศรช. รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักศึกษา กศน. ระดับอำเภอ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ด้านการใช้และการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวังสะพุง สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเลย

ชื่อโครงงาน ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า ชื่อผู้จัดทำโครงงาน 6213000275 นายกฤตพจน์ พวงไพวัลย์ 6323001973 นางสาวนฤมล ผาจันทร์ 6323001423 นายนนทกร อยู่เย็น 6413000655 นายอัษฎาวุฒิ รัตนมงคล 6323001432 นายชลชาติ บุญปัน 6413000664 นายจิณณพัด รัตนมงคล 6323001478 นายอนุชา พลซา 6413000673 นายกฤษณะ พิลาธรรม 6323001496 นายธวัชชัย บัวระภา 6413000703 นางละมัย สิงห์ทองลา สถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย สำนักงาน กศน.จังหวัดเลย ที่ปรึกษา นางดารนีนุช รัตนมงคล ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล นางสาวปลายมาศ จันทวัน ตำแหน่ง ครู ศรช. นางสาววรัทยา ชาภักดี ตำแหน่ง ครู ศรช. บทคัดย่อ โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความ คิดเห็นของผู้ใช้งานที่มีต่อออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า และศึกษาระยะเวลาการเติมออกซิเจน ให้กับตู้ปลา โดยใช้ขวดพลาสติกบรรจุน้ำปริมาณ 3 ลิตร ได้ดำเนินการโดยออกแบบอุปกรณ์เติมออกซิเจนให้กับตู้ ปลาโดยใช้ขวดน้ำพลาสติกขนาดบรรจุน้ำ 3 ลิตร จำนวน 2 ขวด และทำงานด้วยระบบกาลักน้ำ มีผลการศึกษา ดังนี้ การศึกษาความคิดเห็นของผู้ใช้งานที่มีต่อออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า พบว่า สามารถใช้ ในการเรียนรู้ได้อย่างดีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.27 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกและ สะดวกในการบำรุงรักษา ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.20 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และมีขั้นตอนการใช้งานไม่ยุ่งยาก ซับซ้อนและมีความปลอดภัยในขณะใช้งาน ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.87 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยด้านการใช้ งานมีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.08 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก สำหรับผลการผลการศึกษาระยะเวลาการเติมออกซิเจนให้กับตู้ปลา โดยใช้ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้ พลังงานไฟฟ้า บรรจุน้ำปริมาตร 3 ลิตร พบว่า ออกซิเจนสามารถเติมออกซิเจนให้กับตู้ปลาได้นานที่สุด 16.40 นาที เมื่อวางเครื่องออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า อยู่สูงกว่าตู้ปลา 30 เซนติเมตร จากการ ทดลอง 3 ครั้ง ได้ค่าเฉลี่ยรวม 16.38 นาที ต่อน้ำ 3 ลิตร คิดเป็น 183.15 มิลลิลิตร/นาที

คำนำ โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า จัดทำขึ้นตามกิจกรรมการเรียน การสอนรายวิชาเลือก การใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2 รหัสรายวิชา พว22002 การใช้พลังงานไฟฟ้าใน ชีวิตประจำวัน 3 รหัสรายวิชา พว32023 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวังสะพุง โดยมี วัตถุประสงค์ที่จะนำความรู้ในที่ได้รับจากการเรียน มาใช้โดยบูรณาการความรู้ที่ได้รับ จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ เพื่อเป็นการศึกษาค้นคว้า และเผยแพร่เรื่องที่กลุ่มสนใจในลักษณะของการนำสิ่งรอบตัวหรือ สิ่งของเหลือใช้ นำมาประดิษฐ์ให้เกิดประโยชน์ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า นี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการที่จะทำให้ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับตู้ปลาเติมออกซิเจนด้วยระบบกาลักน้ำ ซึ่งอาจนำไปต่อ ยอดได้หลากหลายและได้รับความรู้ตามสมควร หากมีข้อบกพร่องประการใด ผู้จัดทำขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย คณะผู้จัดทำ

สารบัญ หน้า บทคัดย่อ กิตติกรรมประกาศ คำนำ สารบัญตาราง สารบัญรูปภาพ บทที่ 1 บทนำ 1. ความเป็นมาของโครงงาน 1 2. วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1 3. สมมุติฐาน 1 4. นิยามศัพท์เฉพาะ 1 5. ขอบเขตของโครงงาน 2 6. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 บทที่ 2 เอกสาร / ทฤษฎี / หลักการที่เกี่ยวข้อง 1. ปั้มเติมออกซิเจนแบบต่างๆ 3 2. ระบบกาลักน้ำ 3 3. ความสำคัญของสภาพน้ำต่อการเลี้ยงปลา 4 4. เกณฑ์สำหรับประเมินความพึงพอใจ 6 5. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 6 บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน 1. วัสดุอุปกรณ์ 8 2. ขั้นตอนการประกอบตัวเครื่อง 8 บทที่ 4 ผลการศึกษา 1. การศึกษาความคิดเห็นของผู้ใช้งานที่มีต่อออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า 12 2. การศึกษาระยะเวลาการเติมออกซิเจนให้กับตู้ปลา โดยใช้เครื่องออกซิเจนไร้พลังงานไฟฟ้า บรรจุน้ำปริมาณ 3 ลิตร ที่ระดับความสูง 30 เซนติเมตร และ 60 เซนติเมตร 12 บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 1. สรุปผลการศึกษา 14 2. อภิปรายผล 14 3. ข้อเสนอแนะ 14 บรรณานุกรม 15 ภาคผนวก 16

บทที่ 1 บทนำ 1. ความเป็นมาของโครงงาน ในกลุ่มของผู้ที่นิยมเลี้ยงปลาสวยงามและปลาตู้ มักมีอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใช้ตกแต่งและอำนวยความสะดวก รวมทั้งอุปกรณ์ที่ช่วยปรับปรุงสภาพของตู้ปลาให้ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมจริงในการดำรงชีวิตของปลา เพื่อให้ปลา อยู่รอดจึงใช้เครื่องปั๊มลมออกซิเจนไฟฟ้า เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับปลา เครื่องปั๊มออกซิเจนที่มีอยู่ในตู้ปลานั้นทำให้น้ำ ในตู้เลี้ยงปลาเกิดการหมุนเวียน ซึ่งการติดตั้งเครื่องปั๊มออกซิเจนนั้นต้องใช้ไฟฟ้าโดยตรง ทำให้เสียค่าไฟเพิ่มมากขึ้น และเมื่อไฟฟ้าดับเป็นเวลานานก็จะทำให้เครื่องปั๊มออกซิเจนหยุดทำงาน ปลาที่เลี้ยงไว้ในตู้อาจตายได้ คณะผู้จัดทำจึง ได้ประดิษฐ์เครื่องปั๊มลมออกซิเจนโดยที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปั๊มลมออกซิเจนนั้น จะยังคงสามารถใช้งานได้อยู่แม้จะไม่มี ไฟฟ้า การนำเอาวัสดุอุปกรณ์ที่เหลือใช้มาผลิตเป็นปั๊มลมออกซิเจน เช่น ขวดพลาสติก เป็นการลดต้นทุนในการเลี้ยง ปลา ซึ่งคนทั่วไปสามารถประดิษฐ์มาใช้เองได้ โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งซึ่งนับว่าเป็นการลดใช้พลังงานไฟฟ้าในครัวเรือน ที่สามารถนำมาใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ง่าย จึงได้แนวคิดจากการอ่านหนังสือเรียนรายวิชาเลือก การใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2 รหัสรายวิชา พว22002 หน่วยความรู้ที่ 4 การใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า หน้า 47 และการใช้พลังงานไฟฟ้า ในชีวิตประจำวัน 3 รหัสรายวิชา พว32023 หน่วยความรู้ที่ 4 การใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า หน้า 97 ซึ่ง ผู้จัดทำได้คิดวิธีการประหยัดพลังงานไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าและประหยัดค่าไฟฟ้าภายในครัวเรือน ทำให้เกิดความ สนใจเรื่องนี้ขึ้นมา จึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาครูตำบลและก็ได้ข้อคิดแนวทางการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า ขึ้นมา 2. วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้ใช้งานที่มีต่อออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า 2) เพื่อศึกษาระยะเวลาออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า ให้กับตู้ปลา 3. สมมุติฐาน ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้าสามารถเติมออกซิเจนให้กับตู้ปลาได้อย่างน้อย 10 นาที

4. นิยามศัพท์เฉพาะ 1) ออกซิเจนไร้พลังงานไฟฟ้า หมายถึง การนำระบบกาลักน้ำมาใช้ในการเติมเต็มออกซิเจน เพื่อให้เกิดความ ดันอากาศภายในขวด และอากาศจะถูกระบายออกตามสายยางไปยังตุ้มทราย เกิดเป็นออกซิเจนเติมตู้ปลา 2) ระบบกาลักน้ำ หมายถึง การถ่ายเทของเหลวจากที่สูงลงไปสู่ที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านตัวกลางคือ ท่อ หลอด หรือสายยาง โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าช่วยแต่อย่างใด 3) ความดันอากาศ หมายถึง แรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุในทิศทางตั้งฉากต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ กล่าวคือ พื้นที่ ที่ใดที่หนึ่ง มีหน่วยเป็นนิวตันต่อตารางเมตร 4) ออกซิเจน หมายถึง แก๊สที่ปะปนอยู่ในอากาศประมาณร้อยละ 20 โดยปริมาตร ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ไม่ติดไฟ แต่ช่วยให้ไฟติด มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการหายใจและการเผาไหม้ นอกจากนี้ออกซิเจนยังปะปน อยู่ในน้ำอีกด้วย 5. ขอบเขตของโครงงาน 1) ออกแบบและสร้างออกซิเจนที่ไร้พลังงานไฟฟ้า ให้สามารถเติมออกซิเจนในตู้เลี้ยงปลา เมื่อไฟฟ้าดับยังคง สามารถใช้งานได้ดี 2) ออกซิเจนไร้พลังงานไฟฟ้าทำจากขวดโหลพลาสติกบรรจุน้ำได้ 3 ลิตร 6. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1) ทำให้ทราบถึงแรงดันน้ำและแรงดันอากาศจากระบบกาลักน้ำ นำมาใช้ประโยชน์และประยุกต์ใช้ทำ ออกซิเจนเติมตู้เลี้ยงปลา 2) เพื่อเป็นการฝึกและนำทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ มาใช้ในการทดลองและแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน

บทที่ 2 เอกสาร / ทฤษฎี / หลักการที่เกี่ยวข้อง ในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า กลุ่มผู้ศึกษาได้ รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการต่างๆ จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 1. ปั้มเติมออกซิเจนแบบต่างๆ 2. ระบบกาลักน้ำ 3. ความสำคัญของสภาพน้ำต่อการให้ออกซิเจน 4. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1. ปั้มเติมออกซิเจนแบบต่างๆ เครื่องให้อากาศ หรือหมู่นักเลี้ยงปลา เรียกทับศัพท์ว่า "แอร์ปั้ม" ( Air Pump ) สามารถแบ่งได้เป็น 4 พวกใหญ่ๆ คือ 1.1 Thermal-Type เป็นเครื่องปล่อยอากาศออกมา 2-3 ครั้งต่อวินาที โดยมีระบบการทำงานเหมือนกับ ลักษณะของปืน 1.2 Vibrator-Type เป็นเครื่องใช้การสั่นสะเทือนจากพลังงานโดยกระแสไฟฟ้า เครื่องเพิ่มอากาศชนิดนี้เป็นที่ นิยมใช้ ราคาถูกมีประสิทธิภาพพอสมควร 1.3 Piston Pump เป็นเครื่องที่ใช้จักรทำการหมุนให้เกิดแรงดันอากาศขึ้น เครื่องเพิ่มอากาศชนิดนี้นับว่ามี กำลังทำงานดี เหมาะสำหรับใช้กับโรงเพาะขยายพันธุ์ 1.4 Water Pump เป็นเครื่องที่ใช้การปั้มน้ำมา ทำให้เกิดแรงดันอากาศ เครื่องเพิ่มอากาศชนิดนี้ นับว่าเหมาะ สำหรับการเลี้ยงปลาในบ่อน้ำ หรือในโรงเพาะขยายพันธุ์ 2. ระบบกาลักน้ำ ระบบกาลักน้ำ เป็นวิธีการถ่ายเทของเหลวจากที่สูงลงไปสู่ที่ต่ำอย่างต่อเนื่องโดยผ่านตัวกลางคือท่อ หลอด หรือสาย โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าช่วยแต่อย่างใด วิธีการทำโดยใช้หลอดหรือท่อน้ำมาเติมน้ำให้เต็มปิดปลาย หลอดทั้งสองข้างเอาไว้ให้แน่นและนำปลายหลอดข้างใดข้างหนึ่งใส่ลงไปในภาชนะที่ต้องการที่จะถ่ายเทน้ำออก และ ปลายหลอดอีกข้างหนึ่งก็ใส่ไว้ในภาชนะที่รองรับและจะต้องต่ำกว่าภาชนะที่จะถ่ายน้ำออกเสมอ แรงดึงดูดระหว่าง โมเลกุลของน้ำและน้ำหนักของน้ำในหลอดจะดูดเอาน้ำจากปลายหลอดด้านที่สูงกว่าลงมาสู่ด้านที่ต่ำกว่าทำให้เราถ่าย น้ำออกจากภาชนะได้อย่างง่ายดาย ซึ้งภายในท่อหรือหลอดน้ำจะกระทำกันคล้ายสายโซ่ ที่เรียงร้อยไปด้วยน้ำ ซึ่งจะดึง โมเลกุลน้ำด้วยกันตามกันมาโดยอาศัยพันธะไฮโดรเจน นั้นเอง ทั้งนี้ได้มีการทดลองในระบบสุญญากาศโดยสูบอากาศ

ออกทำให้พบว่า กาลักน้ำยังคงสามารถทำงานได้ดังเดิม แสดงว่า กาลักน้ำไม่ได้อาศัยแรงดันอากาศ แต่อาศัยแรงดึงดูด ระหว่างโมเลกุลและน้ำหนักของของเหลวนั้นๆ 3. ความสำคัญของสภาพน้ำต่อการเลี้ยงปลา 3.1 น้ำประปา เป็นน้ำที่ผู้เลี้ยงปลาสวยงามส่วนใหญ่ใช้เลี้ยงปลากันมากที่สุด โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้เลี้ยงที่อยู่ ตามอาคารบ้านเรือน ทำให้สามารถจัดหาได้ง่าย และประการที่สำคัญคือ น้ำประปาจัดว่าเป็นน้ำที่มีความเหมาะสม สำหรับเลี้ยงปลาสวยงามได้เป็นอย่างดี เพราะจากขบวนการของการผลิตน้ำประปา ได้เน้นที่มีความใสสะอาดเพื่อการ อุปโภคและบริโภคของมนุษย์จึงต้องนำเอาน้ำที่มีคุณภาพดีมาผลิต รวมทั้งต้องมีการฆ่าเชื้อโรค จึงทำให้น้ำประปามี ความปลอดภัยจากเรื่องโรคพยาธิที่จะมากับน้ำได้ นอกจากนั้นน้ำประปาส่วนใหญ่ยังมีการใช้ปูนขาวช่วยปรับสภาพ ความเป็นกรดด่างของน้ำ ทำให้น้ำมีความกระด้างและมีความเป็นกรดด่างที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปลา สรุปได้ว่าข้อดีของน้ำประปาในการเลี้ยงปลาสวยงามคือ ใส ปราศจากโรคพยาธิและมีคุณสมบัติเหมาะสม 3.2 น้ำธรรมชาติ เป็นน้ำจากแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือจากระบบชลประทาน ผู้เลี้ยงปลา สวยงามที่เน้นดำเนินกิจการเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาสวยงามเป็นหลักจำเป็นต้องใช ้เพราะส่วนใหญ่ในแต่ละวันต้องใช้ น้ำในปริมาณที่มาก เนื่องจากมีพื้นที่มาก คือ อาจมีทั้งบ่อซีเมนต์ และบ่อดิน โดยทั่วไปน้ำประเภทนี้จะไม่ใส แต่เป็นน้ำ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการดำรงชีพของปลา ซึ่งปัญหาที่พบในการใช้น้ำธรรมชาติคือ 3.2.1 อาจมีโรคหรือพยาธิติดมากับน้ำ โดยเฉพาะพวกพยาธิภายนอก เช่น เห็บปลา หนอนสมอ ปลิงใส และเห็บระฆัง ซึ่งมักจะทำลายเนื้อเยื่อปลา แล้วมีผลทำให้ปลาเกิดโรคระบาดติดตามมา วิธีการแก้ไขทำได้โดยการใช้ ระบบบ่อกรองน้ำ โดยน้ำธรรมชาติที่จะนำเข้ามาใช้ควรนำไปผ่านบ่อกรองน้ำลักษณะซึมบ่อทราย หรือระบบบ่อกรอง น้ำ ก็จะสามารถป้องกันพยาธิภายนอกไว้ได้ นอกจากนั้นในช่วงฤดูหนาวซึ่งมักเกิดโรคระบาดปลา หรือในบริเวณนั้นมี ฟาร์มสัตว์น้ำค่อนข้างมาก ก็อาจมีการระบาดของโรคต่างๆมากับน้ำได้ ต้องทำการแก้ไขโดยใช้บ่อพักน้ำ คือน้ำจากบ่อ กรองจะยังไม่นำไปใช้โดยทันทีแต่ควรนำไปเก็บไว้ในบ่อพักน้ำประมาณ 5-7 วัน จะทำให้ตัวอ่อนของโรคต่างๆที่ติดมา ตายไป ก็จะนำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย 3.2.2 น้ำขุ่น ในช่วงต้นฤดูฝนจะมีการชะล้างหน้าดินจากน้ำฝนลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติน้ำจะมีตะกอนขุ่น ข้นจนไม่สามารถนำไปเลี้ยงปลาได้ วิธีการแก้ไขก็โดยการใช้บ่อกรองน้ำเช่นกัน แต่จะต้องหมั่นทำความสะอาดวัสดุ กรองบ่อยๆ เพราะปริมาณตะกอนจะค่อนข้างมาก 3.2.3 ปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ฟาร์มปลาสวยงามที่อยู่ในเขตชลประทาน หรือใช้แหล่งน้ำขนาดเล็ก มัก ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูแล้งซึ่งเป็นช่วงเหมาะสำหรับการเพาะและอนุบาล ลูกปลา ควรที่จะต้องมีบ่อพักน้ำเพื่อสำรองน้ำเก็บไว้

3.3 น้ำบาดาล เป็นน้ำใต้ดินที่ถูกนำขึ้นมาใช้เหมาะสำหรับฟาร์มปลาสวยงามที่มีกิจการไม่มากนัก หรือรังปลา (ร้านขายส่งปลา) ซึ่งมักตั้งอยู่แถวชานกรุงเทพฯ จะมีการใช้น้ำในปริมาณค่อนข้างมากในแต่ละวันเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะ มีน้ำประปาส่งไปถึง แต่การแก้ไขปัญหาในน้ำประปาที่จำเป็นต้องใช้เป็นปริมาณมากในแต่ละวันนั้นทำได้ยาก จึง จำเป็นต้องนำน้ำบาดาลเข้ามาใช้คุณสมบัติของน้ำบาดาลนั้นจะใสและสะอาดเช่นเดียวกับน้ำประปา อีกทั้งยังไม่มี คลอรีนตกค้างอยู่ในน้ำ แต่น้ำบาดาลก็มีปัญหาที่ต้องพิจารณาดังนี้ 3.3.1 ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์น้ำบาดาลจะมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ค่อนข้างมาก และจะไม่มี ออกซิเจนละลายอยู่เลย หากนำไปใช้เลี้ยงปลาสวยงามทันทีจะทำให้ปลาตายได้ วิธีการแก้ไขคือใช้บ่อหรือถังพักน้ำ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก เมื่อสูบน้ำบาดาลขึ้นมาจะปล่อยลงถังพัก โดยปล่อยน้ำให้มีการกระจายตัวมากที่สุด ซึ่งวิธีที่นิยม ใช้คือใช้ฝักบัว และให้ฝักบัวอยู่สูงจากปากถังพักน้ำพอควร ในระหว่างที่น้ำกระจายตัวออกจากฝักบัวก่อนตกลงที่ผิวน้ำ ในถังพัก ก็จะรับออกซิเจนจากอากาศละลายเข้าไปในน้ำ ในขณะเดียวกันจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่ระเหย ออกสู่อากาศ น้ำบาดาลในถังพักจะสามารถปล่อยไปเลี้ยงปลาสวยงามได้ทันที จึงไม่ต้องเสียเวลารอพักน้ำบาดาล 3.3.2 คุณสมบัติของน้ำบาดาล ถึงแม้น้ำบาดาลโดยทั่วไปจะมีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของ ปลา แต่น้ำบาดาลในบางพื้นที่อาจมีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ทำให้ปลาเจริญเติบโตช้าหรือไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ คุณสมบัติที่สำคัญของน้ำบาดาลที่พบว่าอาจก่อปัญหาให้แก่ปลา ได้แก่ ความเป็นกรดด่าง(pH) และความเค็ม ดังนั้น ก่อนดำเนินการเจาะและติดตั้งเครื่องเพื่อการใช้น้ำบาดาล ควรมีการเจาะน้ำเพื่อตรวจสอบความเป็นกรดด่าง และ ความเค็มของน้ำก่อน เมื่อพบว่าไม่มีผลต่อปลาจึงค่อยดำเนินการถาวร สำหรับการใช้น้ำบาดาลในปัจจุบันมักก่อให้เกิดปัญหาแผ่นดินทรุด จึงมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้น้ำบาดาล ผู้ที่ จะดำเนินการเจาะบ่อน้ำบาดาลจะต้องขออนุญาตจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลก่อน มิฉะนั้นจะมีความผิดทาง กฎหมาย 3.4 น้ำฝน ในสมัยก่อนนิยมใช้น้ำฝนในการเลี้ยงปลาสวยงาม เนื่องจากถือว่าเป็นน้ำที่มีคุณภาพดีมาก มีความใส สะอาดจนสามารถบริโภคได้แต่ในปัจจุบันมีปัญหามลพิษทางอากาศเนื่องจากความเจริญของบ้านเมือง ก่อปัญหาการ ปนเปื้อนของสารพิษต่างๆในอากาศค่อนข้างมาก ทำให้น้ำฝนจะมีการซึมซับสารพิษต่างๆไว้ในขณะที่ตกลงมา มีผลทำ ให้น้ำฝนมีคุณสมบัติเป็นกรดค่อนข้างรุนแรง การใช้น้ำฝนเลี้ยงปลาสวยงามในปัจจุบันจึงมักทำให้ปลาตาย หรือมี สีสันซีดลง ยกเว้นถ้ารองน้ำฝนในวันที่มีฝนตกหนัก และรองภายหลังจากที่ฝนตกไปแล้วระยะหนึ่ง จึงอาจนำน้ำฝนนั้น มาเลี้ยงปลาได้ แต่ถ้าหากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรเสี่ยงที่จะนำน้ำฝนมาใช้เลี้ยงปลา คุณสมบัติของออกซิเจนต่อการเลี้ยงปลานั้นมีดังนี้ 1. เป็นก๊าซที่ใช้ในการหายใจของปลาโดยตรง 2. มีคุณสมบัติเป็นสารออกซิไดซ์ สามารถ ออกซิไดซ์สารพิษบางตัวในน้ำได้ 3. ช่วยในการย่อยสลายของเสียในน้ำ ในการย่อยสลายของเสียของแบคทีเรียที่ใช้ออกซิเจน

4. เป็นบัพเฟอร์ในน้ำสามารถควบคุม pH ได้บ้างบางส่วน 5. ลดการละลายของก๊าซอื่นๆ ในน้ำ เนื่องจากออกซิเจนมีความสามารถในการละลายสูงมากในธรรมชาติ ปลาจะได้รับออกซิเจนจากวิธีทางธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการ เพราะปลาจะอาศัยอยู่ใน แหล่งน้ำ หรือบริเวณที่มีออกซิเจนเพียงพอ ต่อความต้องการของมัน ในแต่ละชนิด แต่การที่เรานำปลาเข้ามาเลี้ยงในตู้ ปลา หรือในบ่อปลา เรามีความจำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มออกซิเจนลงไปในน้ำ เนื่องจาก ในที่กักขังนั้นน้ำจะสามารถ แลกเปลี่ยนออกซิเจนกับอากาศได้น้อยมาก เนื่องจากมีผิวสัมผัสที่น้อย และบริเวณจำกัด อีกทั้งยังมีการย่อยสลายของ ของเสียที่ขับออกมาจากตัวปลา ซึ่งมีขบวนการที่ต้องใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายอีกด้วย ทำให้ออกซิเจนในที่กักขัง มักจะไม่เพียงพอต่อความต้องการในการดำรงชีวิตของ ปลา ทำให้เรามีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่ม ออกซิเจนลงในที่ เลี้ยงปลาของเรา นอกจากนั้น เรายังสามารถเลี้ยงปลาได้ในปริมาณที่มากขึ้นอีกด้วย เมื่อเทียบปริมาตรต่อหน่วย กับ ในธรรมชาติ วิธีการในการให้ออกซิเจนกับปลาในที่เลี้ยง ในการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามนั้น มีหลายวิธีในการเพิ่มออกซิเจน ให้กับน้ำที่ใช้เลี้ยง การที่จะเลือกใช้วิธีใดนั้น แล้วแต่ความเหมาะสม และวัตถุประสงค์ เช่น รูปแบบ ขนาดของที่ที่ใช้ เลี้ยง ก็ควรชนิด อายุ และขนาดของปลา ความหนาแน่นในการเลี้ยง เช่น ปลาบางชนิดไม่จำเป็นต้องมีการให้อากาศ ในน้ำเพิ่มเติม เช่นในปลากลุ่มก่อหวอด เช่นปลากัด ปลากระดี่ แม้ว่าจะเลี้ยงรวมกันเป็นจำนวนหลายตัวก็ตาม ใน กลุ่มปลาหมอสีครอสบรีด ต้องการระดับออกซิเจนปานกลาง กลุ่มปลาน้ำไหล เช่นปลาซิว ปลาติดหิน ต้องการ ออกซิเจนในปริมาณที่สูง ส่วนปลาบางประเภทจะมีความไวต่อระดับออกซิเจนในน้ำสูงมาก เช่น ปลาปอมปาดัวร์ ปลา เสือตอ ปลาเทวดา เป็นต้น 4. เกณฑ์สำหรับประเมินความพึงพอใจ ตารางที่ 1 เกณฑ์การให้คะแนนและเกณฑ์การประเมินความพึงพอใจ ระดับ คะแนน ค่าเฉลี่ย มากที่สุด 5 4.21 - 5.00 มาก 4 3.41 - 4.20 ปานกลาง 3 2.61 - 3.40 น้อย 2 1.81 - 2.60 น้อยที่สุด 1 1.00 - 1.80 5. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พุทธ ส่องแสงจินดา และ ดุสิต ตันวิไลย สถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง (บทคัดย่อ) ทำการวิจัยเรื่อง การแพร่กระจายและการเปลี่ยนแปลงปริมาณออกซิเจน การศึกษาการแพร่กระจายและการเปลี่ยนแปลงปริมาณ ออกซิเจนที่ละลายน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำขนาด 5 ไร่ ที่ปล่อยกุ้งขนาด PL18 ลงเลี้ยงในอัตราความหนาแน่น 35 ตัว/

ม2 พบว่าในช่วงเช้าตรู่ของสัปดาห์ที่ 2 ปริมาณออกซิเจนละลายน้ำเฉลี่ยที่ผิวน้ำและที่ก้นบ่อเท่ากับ 5.7 และ 5.4 มก./ล. ในช่วงบ่ายเท่ากับ 7.6 และ 11.7 มก./ล. ตามลำดับ ส่วนในช่วงเช้าตรู่ของสัปดาห์ที่ 14 ปริมาณออกซิเจน ละลายน้ำเฉลี่ยที่ผิวน้ำและที่ก้นบ่อเท่ากับ 2.9 และ 3.1 มก./ล. ในช่วงบ่ายเท่ากับ 11.5 และ 5.7 มก./ล. ตามลำดับ การเปรียบเทียบผลจากการใช้เครื่องเพิ่มออกซิเจนต่อปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำเฉลี่ยในช่วงเช้าตรู่ พบว่า พื้นที่ใน แนวเครื่องเพิ่มออกซิเจนซึ่งห่างจากขอบบ่อ 0-22 ม. มีปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำมากกว่าพื้นที่ซึ่งห่างจากขอบบ่อ 22-44 และ 44-50 ม. ตามลำดับ การเปลี่ยนแปลงปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำในรอบวันเมื่อสัปดาห์ที่ 6, 8 และ 10 พบว่าปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำในช่วงเช้าตรู่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนถึงระดับสูงสุดคือ 8.3-10.0 มก./ล. ในเวลา ประมาณ 15.00-18.00 น. หลังจากเวลา 18.00 น. แล้ว ปริมาณออกซิเจนละลายน้ำเริ่มลดลงในอัตราเฉลี่ยตลอดทั้ง คืนประมาณ 0.31-0.53 มก./ล./ชม. จนไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดคือประมาณ 2.8-3.8 มก./ล.ในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง เครื่องทำออกซิเจน สรุปได้ว่า ออกซิเจนเป็นแก๊ส ที่มีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตของพืชและสัตว์ในการดำรงชีพ ร่างกายของมนุษย์จำเป็นต้องใช้ออกซิเจน เรา ต้องหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปเพื่อใช้ในขบวนการเผาผลาญสารอาหารต่างๆ ให้เป็นพลังงาน และเพื่อให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายใช้หายใจ ดังนั้นถ้าเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้รับออกซิเจนลดลงหรือขาดออกซิเจน จะทำให้ อวัยวะนั้นๆ ตายได้ออกซิเจนจึงมีความสำคัญกับสิ่งมีชีวิตอย่างมาก ดังนั้นผู้จัดทำจึงได้นำเอาหลักการต่างๆจากเอกสารนี้มาเป็นแนวทางในการสร้างและพัฒนาพัดลมรอบทิศทาง ตามวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีดำเนินโครงงาน 1. วัสดุอุปกรณ์ ตารางที่ 2 รายการวัสดุ-อุปกรณ์สำหรับทำออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า ลำดับ รายการวัสดุ-อุปกรณ์ จำนวน ราคา หมายเหตุ 1 ขวดโหลพลาสติกฝาบน 2 ขวด 40 บาท 2 สายยางสำหรับตู้ปลา 1 เมตร 5 บาท 3 ข้อต่อสามทาง 1 อัน 5 บาท 4 ข้อต่อสองทาง 2 อัน 6 บาท 5 วาล์วเปิด-ปิด 4 อัน 20 บาท 6 ตุ้มทราย 1 หัว 5 บาท 7 กรรไกร 1 เล่ม - ใช้ที่มีอยู่ 8 หัวแร้งบัดกรี 1 อัน - ใช้ที่มีอยู่ 9 ปืนกาว 1 อัน - ใช้ที่มีอยู่ 10 กาวแท่ง 2 แท่ง 10 บาท รวมทั้งสิ้น 91 บาท 2. ขั้นตอนการประกอบตัวเครื่อง 1) นำฝาขวดโหลพลาสติกทั้ง 2 ฝา มาประกบกันใช้ปืนกาวเชื่อมฝาทั้ง 2 ให้ติดกันสนิท ดังรูปภาพที่ 1

รูปภาพที่ 1 แสดงการเชื่อมฝาขวดให้ต่อกัน 2) เจาะรูทั้ง 2 ฝา โดยใช้หัวแร้งเจาะให้มีขนาดเท่ากับสายยางโดยเจาะให้ทะลุกัน จากนั้นนำสายยางมาเสียบ รูที่ฝาขวดโหลพลาสติกใช้ปืนกาวทาอุดตามรอยเจาะให้สนิท ดังรูปภาพที่ 2 รูปภาพที่ 2 แสดงการนำสายยางเสียบผ่านรูที่ฝาขวดเมื่อเจาะด้วยหัวแร้ง 3) ใช้หัวแร้งเจาะรูที่ก้นขวดโหลพลาสติกและคอขวดพลาสติกทั้ง 2 ขวด ให้มีขนาดเท่ากับข้อต่อ และนำวาล์ว ปิด-เปิดเสียบที่ก้นขวดโหลพลาสติกทั้ง 2 ขวด ใช้ปืนกาวทาอุดตามรอยเจาะให้สนิท ดังรูปภาพที่ 3 รูปภาพที่ 3 แสดงการประกอบวาล์วและข้อต่อ 4) นำข้อต่อเสียบที่คอขวดโหลพลาสติกทั้ง 2 ขวด ใช้ปืนกาวทาอุดตามรอยเจาะให้สนิท และนำสายยางความ ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ต่อเข้ากับข้อต่อ ทั้ง 2 ขวด จากนั้นนำวาล์วปิด-เปิด ต่อเข้ากับสายยาง ดังรูปภาพที่ 4

รูปภาพที่ 4 แสดงการประกอบวาล์วและข้อต่อที่คอขวดโหล 5) นำน้ำเติมลงในขวดโหลปริมาตร 3 ลิตร ปิดฝาทั้ง 2 ขวดให้แน่น ดังรูปภาพที่ 5 รูปภาพที่ 5 แสดงการเติมน้ำและปิดฝาขวด 6) นำสายยางความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ต่อเข้ากับวาวปิด-เปิด ในข้อ 4 จากนั้นนำข้อต่อสามทาง ต่อ เข้ากับสายยางที่ต่อไว้ทั้ง 2 ขวด และนำสายยางความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร ต่อเข้ากับข้อต่อสามทางที่เหลือ ดังรูปภาพที่ 6 รูปภาพที่ 6 แสดงการต่อสายยาง 7) นำตุ้มทรายเสียบเข้ากับปลายสายยางในข้อ 6 ดังรูปภาพที่ 7 รูปภาพที่ 7 แสดงการต่อตุ้มทราย

8) เปิดวาล์วปิด-เปิดของขวดโหลพลาสติกขวดบน (ปิดวาล์วปิด-เปิดของขวดโหลพลาสติกขวดล่าง) และเปิด วาล์วปิด-เปิดของสายยางขวดโหลพลาสติกขวดล่าง (ปิดวาล์วปิด-เปิดของสายยางขวดโหลพลาสติกขวดบน) ดัง รูปภาพที่ 8 รูปภาพที่ 8 แสดงการเปิดวาล์ว 9) น้ำจากขวดพลาสติกขวดบนจะไหลลงสู่ขวดพลาสติกขวดล่าง และอากาศภายในขวดพลาสติกขวดล่างจาก ดันออกไปตามสายยางสู่ตุ้มทรายที่อยู่ในตู้เลี้ยงปลา ทำให้เกิดฟองอากาศภายในตู้เลี้ยงปลา ดังรูปภาพที่ 9 รูปภาพที่ 9 แสดงการทำงานของออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า

บทที่ 4 ผลการศึกษา ในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า มีผลการศึกษาดังนี้ 1. การศึกษาความคิดเห็นของผู้ใช้งานที่มีต่อออกซิเจนไร้พลังงานไฟฟ้า ให้ผู้เกี่ยวข้องจำนวน 15 คน ทำการทดสอบและแสดงความคิดเห็นที่มีต่อเครื่องที่สร้างขึ้น ซึ่งผลการแสดงความ คิดเห็นได้ดังนี้ ตารางที่ 3 ผลความคิดเห็นด้านการใช้งานของผู้เกี่ยวข้องจำนวน 15 คน หัวข้อ ระดับความคิดเห็น เฉลี่ย แปลผล 5 4 3 2 1 1. ขั้นตอนการใช้งานไม่ยุ่งยากซับซ้อน 5 5 4 - 1 3.87 มาก 2. สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก 6 6 3 - - 4.20 มาก 3. มีความปลอดภัยในขณะใช้งาน 4 5 6 - - 3.87 มาก 4. สามารถใช้ในการเรียนรู้ได้อย่างดี 6 7 2 - - 4.27 มากที่สุด 5. สะดวกในการบำรุงรักษา 5 8 2 - - 4.20 มาก เฉลี่ยรวม 4.08 มาก หมายเหตุ : แปลผลเทียบค่าเฉลี่ยตามตารางที่ 1 หน้าที่ 6 จากตารางที่ 2 ผลการประเมินของผู้เกี่ยวข้องกับการใช้งาน พบว่าสามารถใช้ในการเรียนรู้ได้อย่างดี ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.27 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกและสะดวกในการ บำรุงรักษา ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.20 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และมีขั้นตอนการใช้งานไม่ยุ่งยากซับซ้อนและมี ความปลอดภัยในขณะใช้งาน ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.87 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยด้านการใช้งานมีค่าเฉลี่ย รวมอยู่ที่ 4.08 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

2. การศึกษาระยะเวลาการเติมออกซิเจนให้กับตู้ปลา บรรจุน้ำปริมาณ 3 ลิตร ที่ระดับความสูง 30 เซนติเมตร และ 60 เซนติเมตร ตารางที่ 4 ผลการศึกษาระยะเวลาการเติมออกซิเจนให้กับตู้ปลา บรรจุน้ำปริมาตร 3 ลิตร ระดับความสูง ระยะเวลา (นาที) เฉลี่ย ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 30 เซนติเมตร 16.38 16.37 16.40 16.38 60 เซนติเมตร 11.21 11.23 11.25 11.23 จากตารางที่ 4 ผลการศึกษาระยะเวลาการเติมออกซิเจนให้กับตู้ปลา บรรจุน้ำปริมาตร 3 ลิตร พบว่า สามารถเติมออกซิเจนให้กับตู้ปลาได้นานที่สุด 16.40 นาที เมื่อวางเครื่องออกซิเจนไร้พลังงานไฟฟ้าอยู่สูงกว่าตู้ปลา 30 เซนติเมตร จากการทดลอง 3 ครั้ง ได้ค่าเฉลี่ยรวม 16.38 นาที ต่อน้ำ 3 ลิตร คิดเป็น 183.15 มิลลิลิตร/ นาที

บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 1. สรุปผลการศึกษา 1) ผลการประเมินของผู้เกี่ยวข้องกับการใช้งาน พบว่าสามารถใช้ในการเรียนรู้ได้อย่างดีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.27 ซึ่งมี ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกและสะดวกในการบำรุงรักษา ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.20 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และมีขั้นตอนการใช้งานไม่ยุ่งยากซับซ้อนและมีความปลอดภัยในขณะใช้งาน ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.87 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยด้านการใช้งานมีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.08 ซึ่งมีความพึง พอใจอยู่ในระดับมาก 2) ผลการศึกษาระยะเวลาการเติมออกซิเจนให้กับตู้ปลา บรรจุน้ำปริมาตร 3 ลิตร พบว่า สามารถเติม ออกซิเจนให้กับตู้ปลาได้นานที่สุด 16.40 นาที เมื่อวางเครื่องออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า อยู่สูง กว่าตู้ปลา 30 เซนติเมตร จากการทดลอง 3 ครั้ง ได้ค่าเฉลี่ยรวม 16.38 นาที ต่อน้ำ 3 ลิตร คิดเป็น 183.15 มิลลิลิตร/นาที 2. อภิปรายผล จากการที่ผู้เกี่ยวข้องประสบปัญหาปลาตาย เนื่องจากขาดออกซิเจนขณะไฟฟ้าดับ ผู้จัดทำจึงได้คิดประดิษฐ์ ตัวเครื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้แทนเครื่องปั้มออกซิเจนขณะไฟฟ้าดับ ซึ่งเครื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า สามารถใช้งานแทนเครื่องปั้มออกซิเจนได้เป็นเวลา 16.38 นาที ต่อน้ำ 3 ลิตร คิดเป็น 183.15 มิลลิลิตร/นาที 3. ข้อเสนอแนะ การทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์เรื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า เครื่องนี้ ไม่สามารถใช้ได้ตลอดเวลาเมื่อน้ำที่อยู่ในขวดบนหมด จำเป็นต้องสลับขวดบนไว้ด้านล่างเสมอ ดังนั้น ผู้ที่สนใจหรือต้องการพัฒนาสามารถนำความรู้เกี่ยวกับการทำน้ำพุด้วยแรงดันอากาศ เข้ามาประยุกต์ใช้ กับการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์เรื่อง ออกซิเจนเติมเต็มพลังงานชีวิต ไร้พลังงานไฟฟ้า เครื่องนี้ เพื่อให้น้ำที่อยู่ในขวดล่างไหลย้อนกลับไปยังขวดบนได้โดยไม่ต้องสลับขวดบนไว้ด้านล่าง

ภาคผนวก

รูปภาพที่ 10 แสดง QR Code แบบประเมินความพึงพอใจด้านการใช้งาน

บรรณานุกรม พุทธ ส่องแสงจินดา. (2535)การสำรวจพื้นที่เลี้ยงกุ้งทะเล ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสงขลา โดยการแปลภาพจากดาวเทียม. สงขลา: กรมประมง สถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง. รศ.ประภาส โฉลกพันธ์รัตน์. น้ำสำหรับปลาสวยงาม https://home.kku.ac.th/pracha/Water.htm สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือเรียนรายวิชาเลือกการใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2 พว 22002 สาระความรู้พื้นฐาน รายวิชาวิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือเรียนรายวิชาเลือกการใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 3 พว 32023 สาระความรู้พื้นฐาน รายวิชาวิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2546)หนังสือเรียนสาระทักษะการเรียนรู้รายวิชาเลือก โครงงานเพื่อพัฒนา ทักษะการเรียนรู้.