The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมไฟล์ยุวทูตความดี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by [email protected], 2021-05-29 12:18:54

รวมไฟล์ยุวทูตความดี

รวมไฟล์ยุวทูตความดี

196

Yes/No Question

Yes / No question คอื การถามคาถามเพียงเพอ่ื ตอ้ งการคาตอบแค่ “ใช่” หรอื “ไม่ใช่”
มโี ครงสร้างประโยคคาถามดังน้ี
1. ถามนาข้ึนตน้ ดว้ ย Verb to be (Are , Is ,Was , Were) ดังเช่นรปู ประโยคตอ่ ไปนี้

Is he a teacher?
การตอบ Yes, he is. / No, he isn’t.
Are you Japanese?
การตอบ Yes, I am . / No, I am not.
2.ถามขน้ึ ต้นด้วย Verb to do (Do , Does , Did )โดยใช้รปู เอกพจนห์ รอื พหพู จนต์ ามประธาน ดังเชน่ รูป
ประโยคตอ่ ไปน้ี
Do you know her name?
การตอบ Yes, I do. / No, I don’t.
Did you walk to school yesterday?
การตอบ Yes, I did. / No, I didn’t.
3.ถามข้ึนต้นดว้ ยกรยิ าช่วย เชน่ Can, Could, Will, Would, Shall, Should ใหเ้ อาคากริยาเหลา่ น้ขี ึ้นตน้ แลว้
ตามดว้ ยประโยคคาถาม เชน่
Can you speak Chinese?
การตอบ Yes, I can. / No, I can’t.
Will you go with us?
การตอบ Yes, I will. / No, I won’t.

197

Intonation

Intonation คอื การออกเสยี งสูงตา่ ในประโยค เนน้ เสยี งทีค่ าหลงั สุด ถ้าระดับโทนเสียงที่
ต่างกันกจ็ ะทาใหค้ วามหมายตา่ งกัน ซงึ่ มคี วามสาคัญในการสนทนาภาษาองั กฤษ โดยทั่วไปมี 2 แบบ
คือ
1. การลงเสียงต่า (falling intonation) โดยจะลงเสยี งตา่ ตรงคาสุดท้ายของประโยคสามารถใช้กบั
ประโยคดงั ต่อไปน้ี

1.1 ใช้สาหรับคาลงท้ายของประโยคคาถามแบบ Wh-question เช่น
How old are you ?
What’s your name ?

1.2 ใชก้ บั ประโยคคาส่งั ท่ีเน้น เช่น Sit down.
2. การขนึ้ เสยี งสงู (rising intonation) โดยจะข้นึ เสียงสูงตรงคาสุดท้ายของประโยคสามารถใชก้ บั
ประโยคดังต่อไปนี้

2.1 ใชล้ งท้ายประโยคคาถามท่ีเป็นแบบ yes / no question
Is she a teacher?
Can you run ?

2.2 ใช้กับประโยคบอกเล่าธรรมดาท่ีเราต้องการให้มนั เปน็ คาถาม เชน่ You like it?

198

Punctuations

.1. Full Stop = เครื่องหมายมหัพภาค ใชเ้ มื่อจบประโยคบอกเล่าหรือคาสง่ั เชน่ I like football.

ใช้เขยี นไว้หลงั อักษรย่อหรือคายอ่ เชน่ Dr. = Doctor

,2. Comma = เคร่อื งหมายจลุ ภาค หรอื เครื่องหมายลูกนา้ ใชแ้ ยกวลหี รือประโยค เช่น As you sow, so

you reap. ใชค้ นั่ รายการ รายชอ่ื ตา่ งๆ ในประโยค เชน่ I bought milk, cheese, egg and bread.

:3. Colon = เครอื่ งหมายมหัพภาคคู่ หรือเคร่ืองหมายทวิภาค ใชก้ ่อนประโยคอธบิ าย เชน่ We have two

choices : work hard or fail.

?4. Question Mark = เครือ่ งหมายปรศั นี หรือ เครือ่ งหมายคาถาม ใชป้ ิดทา้ ยประโยคคาถาม เช่น

Where are you going ?

!5. Exclamation Mark = เคร่ืองหมายอศั เจรยี ์ หรอื เครอื่ งหมายตกใจ ใชไ้ ว้หลงั คาอุทานหรือประโยค

อทุ าน เชน่ It is cold !

’6. Apostrophe = เคร่ืองหมายวรรคตอน ใช้สาหรบั คาย่อ เช่น don’t (do not), can’t (can not)

ใชแ้ สดงความเปน็ เจ้าของคานามท้งั เอกพจน์และพหูพจน์ เช่น This is Jane’s car.

“ ”7. Quotation Marks = เครอื่ งหมายอญั ประกาศ หรอื เคร่ืองหมายคาพูด ใชเ้ ขียนคร่อม

ข้อความทเี่ ป็นคาพูด เช่น Trump said, “I don’t like losers.”

199

Part of speech

Part of speech คอื ประเภทของคาต่างๆ ในภาษาอังกฤษ ทีจ่ ะบอกเราว่าแตล่ ะคานน้ั มหี น้าที่ทา
อะไรในประโยคนน้ั ๆ ซึง่ ประกอบไปด้วย 8 ประเภท ดังน้ี

1.Noun (ค่านาม)

Noun (ค่านาม) คอื คาทใ่ี ชแ้ ทนคน สัตว์ สิง่ ของ สถานท่ี (รวมถึง ชือ่ ของคน สัตว์ สิง่ ของ สถานท่)ี
เช่น boy , dog , car , school , Yaya , Thailand เป็นตน้
หน้าทีของ Noun

1.เป็นประธานของประโยค เช่น Jack go to school.
2.เป็นกรรมของประโยค He opened the door.
1.Common noun (คา่ นามทัวไป)
เป็นคานามที่ใชเ้ รยี กคน สัตว์ สง่ิ ของ สถานทท่ี วั่ ๆไป โดยไม่เฉพาะเจาะจง
เชน่ boy , cat , hospital , school เปน็ ต้น
Countable Nouns (นามนับได้ ) เชน่ dog, man, coin
Uncountable Nouns (นามนับไม่ได้ ) เช่น rice, sugar
2.Proper noun (ค่านามเฉพาะ)
คานามทเี่ ปน็ ช่ือเฉพาะ ซ่ึงมกั จะเขยี นขึ้นตน้ ด้วยตวั พิมพ์ใหญ่ เช่น Somsak , Satun , Anubansatun
school

200

Verb (ค่ากรยิ า)

Verb (คากรยิ า) คอื คาทแี่ สดงถงึ การกระทาหรอื ถูกกระทา เช่น run walk , sleep เปน็ ต้น
สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คอื
1.Transitive Verb (สกรรมกริยา ) คอื กริยาทตี่ ้องมกี รรมมารองรบั เชน่ kick , eat เปน็ ตน้
2.Intransitive Verb (อกรรมกรยิ า) คือ กรยิ าทไี่ ม่ตอ้ งการกรรมมารองรับ เช่น sleep , swim , sit เปน็ ตน้
3.Auxiliary Verb (กริยานเุ คราะห์ ) คือ กรยิ าที่ไปทาหนา้ ทชี่ ่วยเช่น is, am, are, was, were, have,
has, had, do, dose, did ,will, would ,shall, should ,can, could, may, might, must, need , dear ,
ought to used to

Adjective (คา่ คุณศัพท์)

Adjective (คาคณุ ศัพท์) ทาหนา้ ทีข่ ยายคานาม คือ คน สัตว์ ส่งิ ของ สถานที่ เพื่อบอกใหร้ ู้วา่ มี
ลักษณะเป็นเช่นไร ซึ่งเป็นการอธิบายขยายความเพ่ิมเตมิ เพอ่ื ใหเ้ ห็นภาพที่ชัดเจนข้ึนน่ันเอง เช่น tall , short
long , beautiful , big , green เป็นตน้
ตวั อยา่ งประโยค

Yaya is beautiful girl.
The school is big.

201

ตา่ แหนง่ ของ adjective จะวางอยู่ 2 ต่าแหนง่ หลกั ๆดังนี้

1.หน้า noun
เช่น She likes the pink dress.
2.หลงั Verb to be (be, is, am, are, was, were, been)
เช่น I am smart.

การเรยี งล่าดับ Adjective
สตู รการเรยี งลา่ ดับ Adjective ง่ายๆ คอื OS ShA COMP

Pronoun (คา่ สรรพนาม)

Pronoun คอื “คาสรรพนาม” เป็นคาทใี่ ช้เรยี กแทนช่อื คน สัตว์ สงิ่ ของ และข้อความท่ีกล่าวถึง
มาแลว้ หรอื กาลงั จะกล่าวตอ่ ไป เพื่อจะได้ไมต่ ้องกลา่ วซ้า โดยแบ่งเป็นประเภท ได้ ดังน้ี
1. Personal Pronoun (บุรุษสรรพนาม)

คือ สรรพนามทีใ่ ช้แทนบคุ คล หรือส่ิงของทีเ่ ราพดู ถึง แบง่ ได้ 2 รูป คอื
1.1 รูปประธาน หมายถึง คาสรรพนามทใ่ี ช้เป็นประธาน ได้แก่ I, You, We, They, He, She, It
1.2. รูปกรรม หมายถึง คาสรรพนามที่ใชเ้ ป็นกรรมของประโยค เช่น me , you , us , them ,him , her , it
2. Possessive Pronoun (สรรพนามเจ้าของ)
คอื สรรพนามทีใ่ ชแ้ สดงความเป็นเจ้าของ ได้แก่ mine, yours, his, hers, its, theirs, our

202

หลักการการใช้

สิง่ ของ + V.to be + Possessive Pronoun
เช่น This car is mine. (รถคันน้เี ปน็ ของฉัน)

3. Reflexive Pronouns ( สรรพนามตนเอง )
คอื สรรพนามทใ่ี ช้บอกวา่ ดวั ยตัวของ…..เอง ได้แก่ myself, yourself, himself, herself, itself,

ourselves, yourselves, themselves
4.Definite Pronoun ( สรรพนามเจาะจง)

คือ สรรพนามท่บี ง่ ชีช้ ดั เจนวา่ แทนสิ่งใด ได้แก่ this, that, these, those
5.Indefinite Pronoun ( สรรพนามไมเ่ จาะจง)

คอื สรรพนามทไ่ี มไ่ ด้เน้นเฉพาะว่าเป็นใครหรือสิง่ ไหน ได้แก่ everyone, everybody, everything,
someone, somebody, something, anyone, anybody, anything, each, another เป็นต้น

Adverb (ค่าวเิ ศษณ์)

Adverbs หรอื คาวิเศษณ์ คือ คาหรือกลุ่มคาที่ไปทาหน้าท่ีขยาย verb และ adjective อีกท้ังยัง

สามารถขยาย adverb ด้วยกันเองก็ได้ เพ่ือใหเ้ นื้อความของประโยคน้นั มนั ชัดเจนยิ่งข้นึ โดยส่วนใหญ่มักจะลง
ทา้ ยด้วย -ly สามารถแบง่ เป็นประเภทได้ดังนี้

1.Adverb of Time บอกเวลา เชน่ before dark, after sunset, before sunrise, after school

203

2.Adverb of Manner บอกกิรยิ าอาการ เช่น slowly, happily, sadly, quickly, continuously
3.Adverb of Place บอกสถานที่ เชน่ there, and the Island. over the seas, in the city.
4.Adverb of Frequency บอกความถบ่ี ่อย เชน่ everyday, weekly, hourly
5.Adverb of Certainty บอกความแน่ใจ เช่น probably, certainly, obviously, undoubtedly
6.Adverb of Degree บอกความเข้มขน้ ของการกระทา เช่น extremely, quiet, just, almost

Preposition (คา่ บุพบท)

Preposition หรอื คาบุพบทคอื คาท่ีใชเ้ ช่ือมคานามกบั คานาม หรือเช่อื มคานามกบั วลี/ประโยค

เปน็ คาทีใ่ ช้แสดงสถานท่ี ตาแหนง่ การเคลอื่ นไหว ทศิ ทาง เวลา ลกั ษณะ และความสัมพันธ์ แบง่ ออกเป็น 3
ประเภท ดงั ต่อไปนี้

1. Preposition of Time (คาบุพบทบอกเวลา) เช่น In, On, At, Since (ต้ังแต)่ , For (เป็นเวลา),
Until (จนกระท่ัง...), During (ระหวา่ ง) เป็นตน้

2. Preposition of Place (คาบพุ บทบอกสถานท)ี่ เชน่ In, On, At, Above (เหนอื ), Under (ข้างใต)้
และ Over (ขา้ ม) เปน็ ตน้

3. Preposition of Movement (คาบุพบทบอกการเคลื่อนไหว) เช่น To, Onto, Into และ Toward
เป็นต้น

Conjunction (ค่าสันธาน)

Conjunction หรอื คาสนั ธาน ทาหนา้ ทีเ่ ปน็ ตวั เชอ่ื มวลหี รือประโยค สามารถแบ่งออกเป็นกลมุ่ ๆ

ได้ 3 กลมุ่ ดังน้ี
1. Coordinating Conjunction

คอื คาสันธานท่ีใช้เชอ่ื มคาหรือประโยคสองอันเข้าด้วยกัน โดยสองข้อความท่ีถกู เชื่อมนน้ั จะตอ้ งมีน้าหนักหรือ
ความสาคัญเท่ากนั ครับ เชน่ and, yet, but, for, so, nor, neither, or

2. Subordinating Conjunction

204

คอื คาสนั ธานทีใ่ ช้เชอื่ มประโยคใจความรองเข้ากับประโยคใจความหลัก เช่น after, because, if, although,
before, since, that, unless, until, when, as soon as

3. Correlative Conjunction
คอื คาสันธานทตี่ ้องใชค้ ูก่ นั เสมอ(มาคู่กันเหมือนแฝด) โดยจะทาหน้าทคี่ ลา้ ยๆกับ Coordinating Conjunction
คือเช่ือมประโยคท่ีมคี วามสาคัญเท่ากันครบั เช่น not only…..but also, either…..or, as…..as, so as to,
both…..and

Interjections (คา่ อุทาน)

Interjections หรอื คาอุทาน คือคาทีแ่ สดงอารมณ์ หรอื ความรสู้ ึก มกั ใช้ในภาษาพูดโดยไม่

เกย่ี วข้องกับคาอ่ืนๆ ในประโยคเลย เช่น Oh! God! , WOW!, Hurrah!

205

แบบทดสอบภาษาอังกฤษ ป.6

1.คาใดต่อไปนเ้ี ป็น Noun

a. school b. she c. eat d. tall

2.คาใดต่อไปนเ้ี ป็น Pronoun

a. John b. wow! c. him d. slowly

3.คาใดต่อไปนเ้ี ป็น verb

a. walk b. here c. I d. sometime

4.คาใดต่อไปนเ้ี ปน็ adverb

a. bad b. beautiful c. animal d. quickly

5.คาใดต่อไปนเี้ ปน็ adjective

a. sleep b. pencil c. always d. short

6.คาใดต่อไปนเ้ี ปน็ objective Pronoun

a. him b. his c. mine d. they

7.คาใดต่อไปนเี้ ป็น preposition

a. notebook b. under c. write d. her

8.คาใดต่อไปนเ้ี ปน็ Conjunction

a. but b. not c. all d. from

9.คาใดต่อไปนเ้ี ปน็ interjection

a. Great! b. Wonderful! c. Bravo! d. ถกู ทุกข้อ

10.เครื่องหมายใดต่อไปนี้เปน็ เครอื่ งหมายทม่ี ักใช้ร่วมกบั Interjection

a. ( . ) b. ( : ) c. ( ! ) d. ( ? )

11. Which question has a falling intonation?

a. Are you okey? b. Do you like pizza ?

c. Can I help you ? d. When is your birthday ?

12. Which question has a rising intonation?

a. Why are you sad ? b. How many are they?

c. Do you like orange juice ? d. How do you go to school ?

13. Which question has not rising intonation?

a. Who is your teacher ? b. Are you okey?

c. Can you run ? d. May I help you ?

14. Which question has not falling intonation?

a. where is your hometown? b. Can you swim ?

c. When is your birthday? d. Who is your sister ?

206

15.Which question has a different intonation from the other?

a. Is it okey? b. What is it ?

c. Can you go? d. Are you all right?

16.Which of the following punctuation mark is not correct ?

a. Wow ! b. How old are you ?

c. I like football ? d. Do you like sushi ?

17. Which of the following punctuation mark is not correct ?

a. How are you ? b. How do you do ?

c. How did you get here ? d. How beautiful you are ?

18. เครอื่ งหมายในข้อใด เรียกวา่ Question mark ?

a. ( . ) b. ( : ) c. ( ! ) d. ( ? )

19. เครือ่ งหมายในข้อใด เรียกว่า Full stop ?

a. ( . ) b. ( : ) c. ( ! ) d. ( ? )

20. A : …………..is the party ?

B : On Friday at 2’o clock.

a. What b. Where c. When d. Why
d. Why
21. A : …………..are you late ? d. How often
d. Whose
B : Because I missed my bus.

a. What b. Where c. When

22. A : ……………do you go to the movie ?

B : Once a week.

a. How b. How much c. How many

23. A: ___________ does she do?

B : She is a nurse.

a. Who b. Where c. What

24. A : Do you like apples?

B: ____________________

a. Yes, I do. b. Yes, I am.

c. No, you don’t. d. No, I am not.

25. A: Can he swim?

B: ____________________

a. Yes, he can. b. Yes, he is.

c. No, he doesn’t. d. No, he is not.

26. A: Who is absent today? 207

B:____________________ d. Me.
d. Who
a. Somsak. b. A student. c. A teacher. d. bear
d. horse
27. A : __________do you live ? c. Where d. school
c. football
B : I live in Thailand. c. ball
c. animal
a. When b. What

28. เสียงพยัญชนะต้นคาข้อที่ข้นึ ต้นดว้ ย เสียง /เบอะ/

a. king b. notebook

29. เสียงพยญั ชนะต้นข้อใดท่ีข้นึ ตน้ ด้วย เสยี ง /คว/

a. guitar b. queen

30. เสียงพยญั ชนะต้นขอ้ ใดที่ขึ้นตน้ ด้วย เสยี ง /เคอะ/

a. king b. book

208

เฉลยแบบทดสอบภาษาอังกฤษ

ป.6

1.ตอบ a. เพราะ School แปลวา่ โรงเรยี น เป็นคานามใช้เรยี กสถานท่ี
2.ตอบ c. เพราะ him เป็น คาสรรพนามใช้แทน เขาท่เี ป็นผู้ชาย
3.ตอบ a. เพราะ walk แปลวา่ เดนิ เปน็ คากริยา
4.ตอบ d. เพราะ quickly แปลวา่ อย่างเรว็ เป็นคากริยาวิเศษ
5.ตอบ d. เพราะ short แปลว่า ส้นั , เต้ยี เปน็ คาคุณศพั ท์
6.ตอบ d. เพราะ they เปน็ คาสรรพทีใ่ ชแ่ ทนประธาน
7.ตอบ b. เพราะ under แปลว่า ใต้ เปน็ คาบุพบทแสดงตาแหน่งที่ต้งั
8.ตอบ a. เพราะ but แปลว่า แต่ เป็นคาเชอ่ื ม
9.ตอบ d. เพราะ เพราะทุกข้อเปน็ คาอุทาน สังเกตจากมีเครอ่ื งหมาย !
10.ตอบ c. เพราะ ! เคร่ืองหมายตกใจ ใชห้ ลงั คาอทุ าน
11.ตอบ d. เพราะ When เป็น Wh-question จะต้องลงเสียงตา่ ในการออกเสียงประโยค
12.ตอบ c. เพราะ Do เปน็ Yes/No Question จะต้องข้ึนเสียงสงู เวลาออกเสียงประโยค
13.ตอบ a. เพราะ Who เป็น Wh-question จะต้องลงเสียงตา่ ในการออกเสยี งประโยค
14.ตอบ b. เพราะ Can เป็น Yes/No Question จะต้องข้ึนเสยี งสูงเวลาออกเสียงประโยค
15.ตอบ c. เพราะ What เปน็ Wh-question จะต้องลงเสียงต่าในการออกเสยี งประโยค
16.ตอบ c. เพราะ I like football เปน็ ประโยคบอกเลา่ ตอ้ งไมม่ เี คร่ือง ? ต่อทา้ ย
17.ตอบ c. เพราะ How beautiful you are เป็นประโยคบอกเล่า ต้องไม่มีเครื่อง ? ตอ่ ทา้ ย
18.ตอบ d. เพราะ ? คือ เคร่ืองหมาย Question mark
19.ตอบ a. เพราะ . คอื เครื่องหมาย Full stop
20.ตอบ c. เพราะ On Friday at 2’o clock. เป็นการบอกเร่ืองเวลา ต้องใช้คาถาม When
21.ตอบ d. เพราะ Because I missed my bus. เป็นการให้เหตุผล ต้องใชค้ าถาม Why
22.ตอบ d. เพราะ Once a week เปน็ การถามความบ่อย ตอ้ งใช้คาถาม How often
23.ตอบ c. เพราะ ใช้คาถาม what เพอื่ ถามว่าเคา้ ทาอาชพี อะไร
24.ตอบ a. เพราะ ถาม you จะตอ้ งตอบ I
25.ตอบ a. เพราะ ถาม can จะต้องตอบ can
26.ตอบ a. เพราะ คาถาม who ตอ้ งตอบช่ือคน
27.ตอบ c. เพราะ I live in Thailand เปน็ การบอกถึงประเทศ ต้องใชค้ าถาม Where
28.ตอบ d. เพราะ เสียง /เบอะ/ = b
29.ตอบ b. เพราะ เสยี ง /คว/ = qu
30.ตอบ a. เพราะ เสยี ง /เคอะ/ = k

209

210

211

212
มาตรฐาน ต ๑.๒ ป.๖/๔ พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ขอ้ มูล เก่ยี วกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเร่อื งใกล้
ตวั

มาตรฐาน ต ๑.๓ ป.๖/๑ พูด/เขยี นให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองเพื่อน และส่งิ แวดล้อมใกล้ตวั

มาตรฐาน ต ๑.๓ ป.๖/๓ พดู /เขียนแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตวั

213
มาตรฐาน ต ๒.๑ ป.๖/๑ ใช้ถ้อยคา นา้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทางอย่างสุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต ๒.๒ ป.๖/๑ บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ การใช้
เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดบั คา ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

214

เฉลยเรือง present simple tense

1. The sun........................in the east.
ตอบขอ้ d. rises เพราะพระอาทิตยข์ นึ้ เป็นความจรงิ ตามธรรมชาติ
2. Every morning my mother ................................at 6 o’clock.
ตอบขอ้ c. เพราะ my mother เปน็ ประธานเอกพจน์กริยาต้องเติม s
3. Mr.Jones ..............................e-mail in the evening.
ตอบขอ้ C Mr.Jones เป็นประธานเอกพจน์กริยาต้องเตมิ s
4.The girls always…......homework at school.
ตอบข้อ c The girls เป็นประธานพหูพจน์กริยาไมต่ อ้ งเตมิ s
5. Niko and Leo........… film every weekend.
ตอบข้อ D Niko and Leo เปน็ ประธานพหพู จนก์ ริยาไม่ต้องเติม s
6. My friend..........to school by bicycle.
ตอบข้อ a My friend เป็นประธานเอกพจนก์ ริยาต้องเติม es
7.Do you........milk in your coffee?
ตอบขอ้ a ประโยคคาถามตอ้ งใช้ Verb to do ช่วนในการต้ังคาถาม แต่หลงั
8............I a teacher?
ตอบขอ้ c ประโยคคาถามตอ้ งใช้ verb to be มาช่วยในการตงั้ คาถาม ประธานเปน็ I ตอ้ งใช้ am
9. It…....... beautiful day today.
ตอบขอ้ d ประธานเอกพจน์ใช้กริยาเอกพจน์
10. Peter….....do his homework.
ตอบขอ้ a ประธานเอกพจน์ใช้กรยิ าเอกพจนเ์ ตมิ es

215

216

217

218

แบบทดสอบ present continuous tense

มาตรฐาน ต ๑.๑ ป.๖/๒ อา่ นออกเสยี งข้อความ นิทานและบทกลอนส้ันๆถูกต้องตาม หลักการอา่ น
มาตรฐาน ต ๑.๑ ป.๖/๓ เลอื ก/ระบุประโยค หรือข้อความสน้ั ๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายท่ี
อา่ น

มาตรฐาน ต ๑.๓ ป.๖/๑ พดู /เขยี นใหข้ ้อมลู เก่ยี วกับตนเองเพ่ือน และสิง่ แวดลอ้ มใกล้ตวั

219
มาตรฐาน ต ๑.๓ ป.๖/๓ พดู /เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เรื่องต่างๆ ใกลต้ ัว

220
มาตรฐาน ต ๔.๑ ป.๖/๑ ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณต์ ่างๆ ที่เกดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

221

เฉลยแบบทดสอบ present continuous tense

1. Doctor.......................... in the hospital.
ตอบข้อ c หมอทางานในโรงพยาบาลเป็นความจรงิ ในปัจจบุ นั

2. Malee ............................ write a letter now.
ตอบข้อ c Malee กาลงั เขียนจดหมายเปน็ เหตกุ ารณ์ท่กี าลังเกิดขน้ึ เพราะมี
Now เป็นคาบอกเหตกุ ารณท์ ีก่ าลังเกิดข้นึ ในขณะน้นั

3. Please be quiet the baby ..................
ตอบข้อ d เด็กทารกกาลงั นอนหลบั เปน็ เหตุการณ์ทีก่ าลังเกดิ ขึ้น

4. I ........the violin every day.
ตอบข้อ a คาบอกเวลา every day บอกถึงเหตุการณท์ เี่ กิดขนึ้ เปน็ ปกติ ประธาน
เปน็ I ไมต่ ้องเตมิ s,es

5. Jane....................at 6 o’clock every day.
ตอบขอ้ a คาบอกเวลา every day บอกถงึ เหตุการณ์ทีเ่ กิดขึ้นเปน็ ปกติ ประธาน
เปน็ เอกพจน์กริยาตอ้ งเติม s,es

6. I..............................breakfast at seven every day.
ตอบขอ้ c คาบอกเวลา every day บอกถงึ เหตกุ ารณ์ที่เกิดขน้ึ เปน็ ปกติ
ประธานเป็น I ไม่ตอ้ งเตมิ s,es

7. My boss....................................a white shirt today.
ตอบข้อ a คาบอกเวลา today เป็นเหตกุ ารณท์ ีก่ าลังเกิดขนึ้

8. The moon.....................round the sun.
ตอบข้อ d ดวงจนั ทร์หมุนรอบดวงอาทติ ย์เปน็ เหตกุ ารณ์ตามธรรมชาติ

9. My mother often............................... dinner at 5 p.m.
ตอบขอ้ b often เป็นคาบอกความถ่ีของเหตุการณท์ ่ีเกิดขน้ึ เป็นปกติ

222

10.The children ...........................to school now
ตอบข้อ d คาว่า now เปน็ คาบอกเหตุการณท์ ีก่ าลังเกิดขึ้น

223

224

225

แบบทดสอบ Future simple tense

226

227

เฉลยแบบทดสอบ future simple tense

1. The train ............................ at 5 o’clock.
ตอบข้อ c รถไฟจะมาถึงสถานเี วลา 5 นาฬิกาเป็นเหตุการณ์ทีก่ าลงั จะเกดิ ขึ้นในอนาคต
2. Mr. Green and his family ........................to have dinner at a restaurant next
Saturday.
ตอบขอ้ d ครอบครัวของ Mr. Green วางแผนจะไปทานอาหารคา่ กันทีภ่ ตั ตาคารในวันเสาร์หนา้
3. They.....................to Paris on Saturday next week.
ตอบข้อ b พวกเขาวางแผนจะไปปารสี ในวันเสาร์สัปดาห์หน้า
4. It..........................on the mountain tomorrow.
ตอบขอ้ b หิมะกาลงั จะตกในวนั พร่งุ นี้
5. At 8 o’clock next Saturday morning I am ................................... my friend.
ตอบข้อ b เพราะเปน็ การวางแผนเหตุการณท์ ก่ี าลังจะเกดิ ในอนาคต
6.The English class........................... at 8:30.
ตอบขอ้ c เพราะเป็นเหตุการณ์ทก่ี าลงั จะเกดิ ขนึ้ จริง
7. I ............................................. my mother in May next year.
ตอบข้อ d เพราะเป็นการวางแผนเหตกุ ารณท์ ่ีจะเกิดขึ้นในอนาคต
8. It .................................. rain in a few minutes.
ตอบข้อ d เป็นการคาดเดาเหตกุ ารณ์ทีก่ าลังจะเกิดขึ้น
9. I ........................ the door when you come here.
ตอบขอ้ a เป็นเหตกุ ารณท์ ่ีกาลังจะกระทาในอนาคต
10. He................................his vacation in Japan next summer.
ตอบข้อ a เพราะเปน็ การวางแผนเหตกุ ารณ์ทีก่ าลังจะเกดิ ขึ้นในอนาคต

รายนามคณะผูจ้ ัดทา

ในการจัดทาชุดความรู้ โรงเรียนอนุบาลสตูลได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิยุวทูตความดี
โดยมคี ณะกรรมการในดาเนนิ งาน ดังน้ี

1. นายยงยทุ ธ ยืนยง ประธานกรรมการ
2. นางซาเราะห์ วฒั นะ รองประธานกรรมการ
3. นางสาวจนิ ตนาพร แจ้งขาว รองประธานกรรมการ
4. นายสเุ ชษฐ์ เนตรจรสั แสง รองประธานกรรมการ
5. นางนัฐญา ไหมฉิม กรรมการ
6. นางวนดิ า ศริ ิวฒั น์ กรรมการ
7. นางขนิษฐา อาษาชานาญ กรรมการ
8. นางจริ าภรณ์ พรหมสุทธ์ิ กรรมการ
9. นายชยั ยงค์ ชนู วล กรรมการ
10. นางคณศิ ร แต่สกลุ กรรมการ
12. นางสาวสนุ ทรี โกวทิ พิทยาการ กรรมการ
13. นางวารณุ ี เรืองรกั ษ์ กรรมการ
14. นายอบั ดุลรอซะ เละหนิ กรรมการ
15. นางสาวกมลทิพย์ ชมุ จันทร์ กรรมการ
16. นางอไุ ร ฉว้ นกลน่ิ กรรมการ
17. นางจันทริ าพร เดชท่งุ คา กรรมการและเลขานุการ
18. นางสาวอัสมา ล่าน้ยุ กรรมการและผชู้ ่วยเลขานกุ าร
19. นางสาวพรชนก มากชชู ิด กรรมการและผู้ช่วยเลขานกุ าร
20. นายบซั ซูดิน มอลอ กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร


Click to View FlipBook Version