The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมไฟล์ยุวทูตความดี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by [email protected], 2021-05-29 12:18:54

รวมไฟล์ยุวทูตความดี

รวมไฟล์ยุวทูตความดี

96

การเกดิ สุรยิ ุปราคาและจันทรุปราคา

สรุ ิยปุ ราคา เป็นปรากฏการณ์ ตามธรรมชาติ ทดี่ วงจันทร์ โลก และดวงอาทติ ย์ โคจรมาอยู่ในแนวเสน้ ตรง
ท่าให้ดวงจันทรบ์ ังดวงอาทติ ย์ และเงาของดวงจันทร์จึงตกมาบน บริเวณ ต่างๆ บนโลก

สุริยปุ ราคาหรือเรียกอีกอยา่ งว่า สุรยิ ะคราส หมายถงึ ปรากฏการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ขณะทด่ี วงจันทรห์ มนุ รอบโลก
แล้วโคจรมาบงั ดวงอาทิตย์ จงึ ท่าใหโ้ ลกไม่ไดร้ ับแสงสว่างจากดวงอาทติ ย์ ช่วงขณะหน่ึง โดยเงาของดวงจันทรจ์ ึงตกมา
บนโลก ทา่ ใหบ้ ริเวณพ้นื ผวิ โลกทีอ่ ยู่ใต้เงามืดของดวงจนั ทร์ เห็นดวงอาทิตย์มืดมดิ เราเรยี กวา่ “สุรยิ ปุ ราคาเตม็ ดวง”
และบรเิ วณพืน้ โลกท่อี ยู่ใตเ้ งามัวของดวงจันทร์กจ็ ะเหน็ ดวงอาทติ ย์มดื เป็นดวงกลมโดยมีขอบสว่างลอ้ มรอบคลา้ ยวง
แหวน เราเรยี กวา่ “วงแหวนสุริยปุ าคา” ส่วนบางบรเิ วณก็เหน็ ดวงอาทิตย์มดื บางสว่ นและสว่างบางส่วน เราเรยี กวา่
“สุรยิ ุปราคาบางส่วน” สุริยปุ ราคาจะเกิดข้นึ ไมบ่ ่อยนกั เพราะสว่ นใหญ่ดวงจนั ทร์มักจะโคจรในระดับที่สงู หรือตา่ กว่า
แนวระดบั เดียวกัน ( แนวเส้นตรงเดยี วกนั ) กับโลกและดวงอาทิตย์ ดังน้ันสุริยปุ ราคาจะเกิดข้ึนได้เม่ือดวงจันทร์โคจรมา
อยู่ในแนวเส้นตรงระหว่างโลกกบั ดวงอาทติ ย์ ( ตรงกับแรม 14 – 15 ค่า )

ผลกระทบ การเกิดสุรยิ ปุ ราคามผี ลกระทบก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ เนื่องจาก
การทีด่ วงอาทติ ย์คอ่ ยๆ ลดแสงลงเน่ืองจากดวงจันทรบ์ ังแสงดวงอาทติ ย์ ท่าให้สัตวต์ ่างๆพากนั กลบั รงั เพราะนึกวา่ ถึง
เวลากลางคนื เห็นได้ชัดก็คือ นกชนดิ ตา่ งๆ จะบินกลบั รงั ส่วนคนกพ็ ากนั ตน่ื เตน้ และเตรียมการเฝ้าดใู นปัจจบุ นั
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีท่าใหม้ นุษย์มโี อกาสเหน็ และได้ศึกษาการเกิดสรุ ยิ ปุ ราคา และเกิดบริเวณใดของโลก วิธดี ู
เมอื่ เกดิ สรุ ิยปุ ราคาไม่ควรดดู ว้ ยตาเปล่า เพราะอาจท่าใหต้ าบอดหรือเปน็ โรคตาได้ ควรใช้อปุ กรณ์เป็นแผน่ ฟลิ ์มถา่ ยรูป
ขาวดา่ ท่ีใชแ้ ลว้ น่ามาซ้อนกัน 2 –3 แผ่น แล้วดูผ่านฟลิ ์มถ่ายรปู หรือใช้การมองผา่ นกระจกทีร่ มควนั ให้แสงผ่านไดน้ ้อย
ทสี่ ุด

97

จันทรปุ ราคา

จนั ทรุปราคา หรือ จันทรคราส เกิดข้ึนจากดวงจันทรโ์ คจรผา่ นเข้าไปในเงาของโลก เราจึงมองเห็นดวง
จันทร์แหว่งหายไปในเงามืดแล้วโผลก่ ลับออกมาอีกครงั้ คนไทยสมยั โบราณเรยี กปรากฎการณน์ ้วี ่า "ราหอู ม
จนั ทร์" จนั ทรุปราคาจะเกิดข้นึ เฉพาะในคืนวันเพญ็ 15 ค่า หรือคนื วันพระจันทร์เต็มดวง อยา่ งไรกต็ าม
ปรากฏการณจ์ นั ทรปุ ราคาไมเ่ กดิ ขน้ึ ทุกเดือน เน่ืองจากระนาบท่โี ลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์และระนาบทด่ี วง
จนั ทร์โคจรรอบโลกไม่ใช่ระนาบเดยี วกนั หากตดั กันเปน็ มมุ 5 องศา ดงั นั้นจึงมโี อกาสท่จี ะเกดิ จันทรปุ ราคา
เพียงปลี ะ 1 - 2 คร้ัง

โลกเป็นดาวเคราะห์ไม่มแี สงสวา่ งในตวั เอง หากแต่ได้รับแสงจากดวงอาทติ ย์ ด้านท่หี ันหน้าเขา้ หาดวง
อาทติ ยเ์ ปน็ เวลากลางวนั สว่ นด้านตรงข้ามกบั ดวงอาทิตย์เป็นเวลากลางคนื โลกบงั แสงอาทิตยท์ า่ ให้เกดิ เงา
2 ชนดิ คือ เงามืด และเงามวั

 เงามืด (Umbra) เปน็ เงาที่มืดท่ีสุด เนอ่ื งจากโลกบงั ดวงอาทติ ย์จนหมดสิ้น หากเราเข้าไปอยใู่ นเขต
เงามดื จะไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ไดเ้ ลย

 เงามวั (Penumbra) เปน็ เงาทีไ่ ม่มดื สนทิ เนอ่ื งจากโลกบังดวงอาทิตย์เพียงด้านเดียว หากเราเข้า
ไปเขตเงามัว เราจะมองเห็นบางส่วนของดวงอาทติ ยโ์ ผลพ่ ้นส่วนโค้งของโลก เงาทเ่ี กดิ ข้นึ จึงไม่มืด
นกั

จนั ทรุปราคาเกิดขึ้นเฉพาะในคืนท่ดี วงจนั ทร์เตม็ ดวง โดยทดี่ วงอาทติ ย์ โลก และดวงจันทรเ์ รียงตวั
เปน็ เส้นตรง ผู้สังเกตการณใ์ นซกี โลกกลางคนื สามารถมองเหน็ ปรากฏการณ์ท้ังหมดไดน้ านประมาณ 3
ชวั่ โมง แตจ่ ะเหน็ ดวงจนั ทร์อยใู่ นเงามดื ไดน้ านท่ีสุดไมเ่ กิด 1 ชวั่ โมง 42 วินาที เนือ่ งจากเงามดื ของโลกมี
ขนาดเลก็ ดวงจนั ทร์เคลอ่ื นท่ีผ่านเงามืดดว้ ยความเร็ว 1 กิโลเมตรต่อวนิ าที

98

ประเภทของจันทรปุ ราคา

เนื่องจากระนาบวงโคจรของดวงจันทร์และระนาบวงโคจรของโลกไม่ซ้อนทบั กันพอดี จงึ ทา่ ให้เกดิ
จนั ทรุปราคาได้ 3 แบบ ดังน้ี

 จนั ทรุปราคาเตม็ ดวง (Total Eclipse) เกิดขนึ้ เมือ่ ดวงจันทร์ทงั้ ดวงเข้าไปอย่ใู นเงามืดของโลก
 จันทรปุ ราคาบางสว่ น (Partial Eclipse) เกิดขน้ึ เมอ่ื บางส่วนของดวงจันทร์เคล่ือนที่ผ่านเขา้ ไปใน

เงามดื
 จนั ทรุปราคาเงามวั (Penumbra Eclipse) เกดิ ข้ึนเมื่อดวงจันทรโ์ คจรผ่านเข้าไปในเงามัวเพยี ง

อยา่ งเดยี ว เราจึงมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมีสีคลา่้ เนอ่ื งจากความสว่างลดน้อยลง จันทรุปราคาเงา
มัวหาดูได้ยาก เพราะโดยทั่วไปดวงจนั ทรม์ ักจะผา่ นเข้าไปในเงามดื ด้วย



99

เทคโนโลยอี วกาศ

เทคโนโลยอี วกาศ การศึกษาดาราศาสตรแ์ ละหว้ งอวกาศที่อยนู่ อกเหนืออาณาเขตของโลก เพอ่ื การเรียนรแู้ ละ
การท่าความเขา้ ใจตอ่ จักรวาล ปรากฏการณ์ และดวงดาวต่าง ๆ ยังรวมไปถงึ การศึกษาค้นคว้าเพอ่ื พัฒนานวัตกรรมและ
เทคโนโลยีตา่ ง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่มนุษยชาติ

เทคโนโลยอี วกาศ (Space Technology) หมายถงึ การน่าองค์ความรู้ วิธีการ และเครื่องมือทางวทิ ยาศาสตร์มา
ประยุกตใ์ ชใ้ นการศึกษาดาราศาสตรแ์ ละหว้ งอวกาศทอ่ี ยู่นอกเหนืออาณาเขตของโลกอย่างเหมาะสม ท้ังเพอื่ การเรยี นรู้
และการทา่ ความเข้าใจต่อจักรวาล ปรากฏการณ์ และดวงดาวต่าง ๆ ยงั รวมไปถึงการศึกษาค้นคว้าเพื่อพฒั นานวัตกรรม
และเทคโนโลยีต่าง ๆ ทเี่ ป็นประโยชนแ์ กม่ นษุ ยชาติ ไมว่ ่าจะเปน็ การสา่ รวจทรัพยากรธรรมชาติ การสร้างเครือขา่ ย
ตดิ ต่อสื่อสาร หรือ การเตือนภัยพบิ ัติตา่ ง ๆ

100
เทคโนโลยีอวกาศทส่ี า้ คัญประกอบด้วย
 ดาวเทียม (Satellite) : อุปกรณ์ท่ีถูกส่งขึน้ ไปโคจรรอบโลกผ่านการตดิ ตั้งบนจรวดหรอื ยานขนส่งอวกาศ เพ่ือ
ปฏิบตั กิ ารทางวทิ ยาศาสตร์ในด้านต่าง ๆ ทั้งการถ่ายภาพจากดาวเทยี ม ตรวจวดั สภาพอากาศ และการสอ่ื สาร
โทรคมนาคม โดยมีดาวเทียมของสหภาพโซเวียต “สปตุ นิก 1” (Sputnik 1) เปน็ ดาวเทยี มดวงแรกของโลกที่
ถกู ส่งขึน้ สู่อวกาศในปี 1957 จนกลายเปน็ ยุคบกุ เบกิ ท่ีน่าไปสกู่ ารแข่งขนั ทางความรู้ เทคโนโลยี และนวตั กรรม
ทางอวกาศท่ีด่าเนินมาถึงปัจจุบัน

 จรวด (Rocket) : ยานพาหนะทเ่ี ปน็ สว่ นประกอบสา่ คัญในการสง่ ดาวเทยี มหรือยานส่ารวจออกสู่อวกาศ ท่า
ใหจ้ รวดจา่ เป็นต้องมเี คร่ืองยนตพ์ ลงั สงู ทส่ี ามารถเพมิ่ ความเร็วและมีแรงขับเคลอ่ื นที่เพียงพอต่อการเอาชนะ
แรงโนม้ ถ่วงของโลกหรือท่เี รียกว่า “ความเร็วหลุดพ้น” (Escape Velocity) ซึ่งมีความเร็วอย่ทู ี่ 11.2 กิโลเมตร
ต่อวินาที

101
 ยานขนสง่ อวกาศหรอื กระสวยอวกาศ (Space Shuttle) : ระบบยานพาหนะท่ถี ูกพัฒนาขึน้ มาเพื่อใช้ส่ง

ดาวเทยี มหรอื ยานอวกาศแทนการใช้จรวด เนื่องจากจรวดมคี ่าใชจ้ ่ายสงู และมักพงั เสียหายเม่อื ตกลงส่พู น้ื ท่า
ใหไ้ มส่ ามารถน่ากลับมาใชใ้ หม่ไดเ้ หมือนยานขนสง่ อวกาศ

 สถานีอวกาศ (Space Station) : สถานีหรือสิ่งก่อสรา้ งขนาดใหญ่ท่ีเคลื่อนทีโ่ คจรรอบโลก ด้วยความเร็วกวา่
27,000 กิโลเมตรตอ่ ช่วั โมง เชน่ สถานีอวกาศเมียร์ (Mir Space Station) ของรัสเซยี และสถานีอวกาศ
นานาชาติ (International Space Station) ท่ใี ช้เปน็ หอ้ งปฏิบัติการทางวิทยาศาสตรใ์ นด้านตา่ ง ๆ ขณะ
ลอยตวั อยู่เหนอื พื้นโลกกว่า 400 กิโลเมตร

ยานสา้ รวจอวกาศ (Spacecraft) : ยานพาหนะท่นี า่ มนุษย์และอุปกรณ์อตั โนมัติออกสา่ รวจอวกาศหรือเดินทางไป
ส่ารวจยงั ดวงดาวอ่นื ๆ โดยยานส่ารวจอวกาศสามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ

 ยานอวกาศที่มีมนุษยค์ วบคุม (Manned Spacecraft) เปน็ ยานขนาดใหญ่ทสี่ ามารถรองรับการใช้งานของ
มนษุ ย์ ขณะดา่ รงชีวติ อยู่ในอวกาศ อย่างเชน่ ยานอะพอลโล 11 (Apollo 11) ท่ีน่ามนุษยไ์ ปยังดวงจนั ทรเ์ ป็น
ครั้งแรกในปี 1969

102

 ยานอวกาศท่ไี ม่มีมนุษยค์ วบคุม (Unmanned Spacecraft) เป็นยานขนาดเล็กทีม่ ีระบบสมองกลทา่ หนา้ ที่
ควบคุมการท่างาน โดยยานอวกาศประเภทนี้ มักทา่ หน้าที่สา่ รวจดาวเคราะห์และห้วงอวกาศอันห่างไกล เปน็
การปฏบิ ัตภิ ารกจิ แทนมนุษย์ เนอื่ งจากเวลาท่ีตอ้ งใช้ในการเดินทางอนั ยาวนานและปจั จัยในการด่ารงชวี ิตใน
อวกาศที่ยากลา่ บาก เชน่ ยานแคสสนิ ี (Cassini) ทเ่ี ดินทางไปส่ารวจดาวเสาร์ ยานกาลเิ ลโอ (Galileo) ที่
เดนิ ทางไปส่ารวจดาวพฤหสั บดี และยานแมกเจลแลน (Magellan) ท่ีไปสา่ รวจดาวศุกร์

103

ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศ

 การสอ่ื สารและโทรคมนาคม : ดาวเทียมสอ่ื สารทา่ หน้าทเี่ ป็นสถานรี บั สง่ คลน่ื วิทยุและเชื่อมโยงเครือขา่ ยการ
สอ่ื สารของโลก ไมว่ า่ จะเปน็ การสอ่ื สารภายในหรอื ภายนอกประเทศ ทั้งโทรศัพท์ โทรเลข โทรสาร รวมถงึ การ
ถา่ ยทอดสัญญาณโทรทศั น์ สัญญาณวิทยุ และการสง่ ข้อมูลดจิ ติ อลตา่ ง ๆ

 การตรวจวดั และพยากรณ์อากาศ : ดาวเทยี มอุตนุ ยิ มวิทยาท่าหนา้ ที่สง่ สญั ญาณภาพถา่ ยทางอากาศพร้อมทั้ง
เกบ็ ข้อมูลทางอตุ นุ ิยมวิทยา เช่น การส่ารวจจา่ นวนและชนิดของเมฆ ติดตามลักษณะอากาศท่ีแปรปรวน การ
ตรวจวัดความเร็วลม ความชืน้ และอุณหภมู ิ เพ่ือการพยากรณแ์ ละเตือนภยั พิบตั ติ ่าง ๆ โดยเฉพาะการเกิดพายุ
ทรี่ ุนแรง

 การสงั เกตการณ์ดาราศาสตร์ : ดาวเทยี มสงั เกตการณ์ทางดาราศาสตร์และยานส่ารวจอวกาศส่วนใหญม่ ีการ
ตดิ ตงั้ กล้องโทรทรรศนแ์ ละอุปกรณ์ สา่ หรบั การศึกษาวัตถุท้องฟา้ มที ้ังดาวเทียมท่ีโคจรอยูร่ อบโลกและโคจร
ผา่ นไปใกล้ดาวเคราะหด์ วงอื่น รวมไปถงึ การลงสา่ รวจดาวเคราะห์ที่ตอ้ งการโดยตรง

 การส้ารวจทรพั ยากรธรรมชาติ : ดาวเทียมส่ารวจทรพั ยากรธรรมชาติเปน็ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี
การถา่ ยภาพและโทรคมนาคม มกั ถูกใชเ้ ป็นสถานเี คลื่อนท่ีในการส่ารวจแหลง่ ทรัพยากรทางธรรมชาติทสี่ า่ คัญ
รวมถงึ การตรวจตราและเฝ้าสังเกตการเปลยี่ นแปลงบนพนื้ ผิวโลก อกี ทั้ง ยังช่วยในการเก็บข้อมลู ทาง
ธรณีวิทยาและนเิ วศวทิ ยาท่ีเป็นประโยชน์ เช่น การสา่ รวจพ้นื ทปี่ า่ ไม้ การส่ารวจพนื้ ท่ีการเกษตรและการใช้
ที่ดนิ รวมไปถงึ เพ่ือการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ประเทศไทยมดี าวเทียมธีออส (Thailand Earth
Observation System: THEOS) เปน็ ดาวเทยี มส่ารวจทรพั ยากรธรรมชาตดิ วงแรก

การพัฒนาเทคโนโลยอี วกาศ

เมอ่ื มนุษย์สามารถเดนิ ทางไปยังอวกาศที่อยูแ่ สนไกลได้ ท่าให้เกิดการคน้ พบมากมายในอวกาศ มนษุ ย์
จงึ นา่ ความรทู้ ี่ได้คน้ พบมาพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกย่ี วกับอวกาศ การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ท่าใหเ้ กิดการพัฒนา
ในดา้ นอน่ื ๆ อกี เช่น การสา่ รวจทรพั ยากรธรรมชาติ การส่ือสาร การส่ารวจสภาพอากาศ ด้านการแพทย์ และด้านอื่นๆ
อีกมากมาย การศึกษาด้านอวกาศจงึ เจรญิ รุดหน้าต่อไป เพ่ือยงั ประโยชนแ์ ก่มนษุ ยชาติอยา่ งไม่มีทีส่ ิ้นสดุ ซึ่งเราสามารถ
ล่าดับความก้าวหน้าในการสา่ รวจอวกาศได้ดงั น้ี
พ.ศ.1775 ชาวจีนไดพ้ ฒั นาจรวดดินปนื
พ.ศ.2152 กาลเิ ลโอ นักดาราศาสตร์ชาวอิตาเลยี นใชก้ ลอ้ งโทรทรรศน์ทีป่ ระดษิ ฐ์ข้ึน ศึกษาดาวเคราะห์และดาวตา่ งๆ
บนท้องฟ้า
พ.ศ.2383 นกั ดาราศาสตร์ชาวอเมรกิ นั ถ่ายภาพดวงจนั ทร์ได้เปน็ ครัง้ แรก
พ.ศ.2446 พนี่ อ้ งตระกูลไรท์ นกั ประดิษฐช์ าวอเมรกิ นั ประดิษฐเ์ ครือ่ งบนิ เปน็ คร้งั แรก
พ.ศ.2480 นกั ดาราศาสตร์ชาวอเมริกันใชก้ ล้องโทรทรรศน์วทิ ยุเพอ่ื การวจิ ยั เป็นคร้งั แรก
พ.ศ.2487 กองทพั เยอรมันใช้จรวดในระหว่างสงครามโลกครง้ั ที่ 2
พ.ศ.2500 สหภาพโซเวยี ตส่งยานสปตุ นิก 1 ซึ่งเปน็ ดาวเทียมดวงแรกขึน้ ไปโคจรในอวกาศ

104

พ.ศ.2504 มนุษย์อวกาศโซเวียตชอ่ื ยูริ กาการนิ ข้ึนไปในอวกาศเป็นคนแรก
พ.ศ.2512 ยานอวกาศอพอลโล 11 พร้อมมนษุ ย์อวกาศไปลงบนดวงจันทร์
พ.ศ.2520 ยานอวกาศของสหรัฐอเมริกาไปส่ารวจดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยเู รนัส และดาวเนปจูน
พ.ศ.2524 สหรัฐอเมริกาส่งยานขนสง่ อวกาศลา่ แรกช่ือโคลัมเบยี ออกจากแหลมคาราเวอรัล รัฐฟลอรดิ า
พ.ศ.2533 สหรฐั อเมริกาและองค์การอวกาศยโุ รปสง่ กล้องโทรทรรศนอ์ วกาศฮบั เบิลขน้ึ ไปโคจรรอบโลก
พ.ศ.2533 องค์การนาซาสง่ ยานอวกาศโซโหขององค์การฯ ยโุ รปข้นึ ไปส่ารวจดวงอาทิตย์
พ.ศ.2539 มารส์ โกลบอล เซอร์เวเยอร์ และมาร์ส พาทไฟนเ์ ดอร์ โครงการยานอวกาศส่ารวจดาวอังคาร
พ.ศ.2544 เกิดธรุ กิจท่องเท่ยี วในอวกาศโดยรสั เซียจ่าหนา่ ยตว๋ั ทอ่ งเทีย่ วอวกาศซ่งึ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันวัย 60 ปี ชอ่ื
เอนสิ ติโต ขึ้นไป

105

แบบทดสอบ
1.

ชมรมดาราศาสตร์ไดแ้ สดงแผนภาพการเกิดสุริยปุ ราคาเตม็ ดวงคร้ังหน่ึงในประเทศไทย ดงั น้ี

ออ้ ย อร โอ และอานาจ ร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั ปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึน ดงั น้ี
ออ้ ย : คนท่ีอยจู่ งั หวดั เชียงรายมองเห็นสุริยปุ ราคาเตม็ ดวง
อร : คนที่อยจู่ งั หวดั หนองคายมองเห็นสุริยปุ ราคาเตม็ ดวง
โอ : คนท่ีอยกู่ รุงเทพมหานครมองเห็นสุริยปุ ราคาบางส่วน
อานาจ : คนที่อยจู่ งั หวดั ยะลาไม่เห็นสุริยปุ ราคา

จากข้อมูล ใครกล่าวถกู ต้อง

ก. อ้อยและอร ข. อรและโอ ค. โอและอา่ นาจ ง. อ้อยและอ่านาจ

2. การเกิดจนั ทรปุ ราคาขึ้นอยู่กับสิง่ ใด

ก. ความแรงของลมสรุ ิยะ

ข. ความแปรปรวนของกล่มุ ก๊าซในอวกาศ

ค. ต่าแหนง่ ของดาวเคราะห์ในระบบสรุ ิยะ

ง. ตา่ แหน่งของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์

3. ขณะเกดิ สุรยิ ุปราคา ถ้าคนบนโลกอยูใ่ นต่าแหนง่ ของ เงามืด จะมองเห็นสรุ ยิ ุปราคาแบบใด

ก. สรุ ิยุปราคาบางส่วน ข. สรุ ิยปุ ราคาวงแหวน

ค. สุริยปุ ราคาเต็มดวง ง. สามารถเห็นไดท้ ุกรูปแบบ

4. มนษุ ย์ไดส้ ง่ ดาวเทียมหรือยานอวกาศไปโคจรรอบโลกไดโ้ ดยอาศยั พาหนะใด

ก. จรวด ข. กระสวยอวกาศ

ค. ยานขนสง่ อวกาศ ง. ยานขนสง่ ดาวเทยี ม

106

5. ดาวเทยี มชนดิ ใดท่มี ีอุปกรณส์ า่ รวจแหล่งทรพั ยากรท่สี า่ คญั และเฝ้าสงั เกตสภาวะแวดลอ้ มท่เี กดิ บนโลก

ก. ดาวเทยี มสอื่ สาร ข. ดาวเทียมอตุ ุนิยมวทิ ยา

ค. ดาวเทียมส่ารวจทรพั ยากรโลก ง. ดาวเทียมสังเกตการณ์ดาราศาสตร์

6. กลอ้ งโทรทรรศนท์ ีโ่ คจรรอบโลก ท่างานได้ดกี ว่ากลอ้ งโทรทรรศนท์ ี่อยบู่ นพน้ื โลกเพราะ

ก. มดื อยู่ตลอดเวลา ข. อยู่ใกลด้ วงดาวมากกว่า

ค. ไมต่ อ้ งมองผา่ นช้ันอากาศ ง. ไมม่ กี ารคลาดเคลื่อนของแสงจากเลนส์

7. จุดมุ่งหมายของการสง่ ยานอวกาศไปส่ารวจดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ คอื ขอ้ ใด

ก. ต้องการหาอายุของโลก ข. ต้องการหาแหลง่ ทอี่ ยู่ใหป้ ระชากร

ค. ตอ้ งการทราบแหลง่ กา่ เนิดโลก ง. ตอ้ งการหาทรัพยากรธรรมชาตเิ พมิ่ เติม

8. สภาวะไร้นา้่ หนกั มผี ลต่อมนษุ ย์ในเร่อื งใด

ก. ระบบย่อยอาหารท่างานผดิ ปกติ ข. ระบบทางเดนิ หายใจขดั ข้องได้ง่าย

ค. กลา้ มเนอื้ ยดึ ทา่ ใหเ้ คล่ือนไหวไม่สะดวก ง. ความดันภายในโลหิตมาก เส้นเลอื ดแตกง่าย

107

1. ตอบข้อ ค เฉลยค้าตอบ
เหตผุ ล
เพราะ กรงุ เทพมหานครอยใู่ นบรเิ วณเงามัวจงึ มองเห็นสุรยิ ุปราคาบางส่วนจงั หวัดยะลา
2. ตอบข้อ ง ไมไ่ ดอ้ ยูใ่ นเงามืดหรือเงามวั จงึ มองไม่เห็นสุริยปุ ราคา
เหตผุ ล
เพราะ จนั ทรปุ ราคาเป็นปรากฏการณ์ท่ีเกิดจากดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โคจรมา
3. ตอบขอ้ ค เรยี งตวั อยูใ่ นแนวระนาบเดียวกนั
เหตผุ ล
เพราะ สุริยปุ ราคาเตม็ ดวง เกิดขน้ึ เมื่อผูส้ ังเกตการณ์อยู่ในเงามดื บนพน้ื ผิวโลก จะมองเห็น
ดวงจนั ทรบ์ งั ดวงอาทติ ย์ไดม้ ดิ ดวง;

4. ตอบข้อ ก.
เหตผุ ล เพราะ มนุษย์ได้สง่ ดาวเทียมหรือยานอวกาศไปโคจรรอบโลกได้โดยอาศัยจรวด

5. ตอบขอ้
เหตุผล เพราะ ดาวเทียมทมี่ ีอุปกรณส์ า่ รวจแหล่งทรพั ยากรที่สา่ คัญ และเฝ้าสังเกตสภาวะ

แวดล้อมทเ่ี กดิ บนโลกคือดาวเทียมสา่ รวจทรัพยากรโลก
6. ตอบข้อ ค.
เหตุผล เพราะ การท่ีกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลลอยอยู่นอกช้ันบรรยากาศของโลกทา่ ใหม้ นั มี
ข้อได้เปรยี บเหนือกว่ากล้องโทรทรรศนท์ ่ีอยู่บนพืน้ โลก นน่ั คือภาพไม่ถูกรบกวนจากช้นั
บรรยากาศ ไม่มีแสงพ้นื หลังท้องฟา้
7. ตอบข้อ ค.
เหตุผล เพราะ จุดมุ่งหมายของการส่งยานอวกาศไปส่ารวจดาวเคราะห์ดวงอืน่ ๆคืออะไร เพื่อไขความ
ลกึ ลับของเอกภพ ต้องการแหลง่ ท่อี ยูใ่ หม่ใหป้ ระชากรโลก ตอ้ งการเผยแพร่ความรูแ้ ละ
วิทยาศาสตร์ไปสโู่ ลกอ่ืน
8. ตอบข้อ ง.
เหตุผล เพราะ ปจั จุบันนักวิทยาศาสตรค์ ้นพบว่าการอยใู่ นสภาวะไร้น้่าหนกั เป็นเวลาอย่างน้อย 6
เดือน สามารถสง่ ผลกระทบเชงิ ลบตอ่ ร่างกายของคนเราได้ อาทิ กระดูกสันหลังยืด กลา้ มเนื้อ
หดตัว เวลานอนคลาดเคลือ่ นจากปกติ และตกอยใู่ นภาวะความเครียด

108
หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า

บทท่ี 1 แรงไฟฟ้า
เรื่องที่ 1 การเกิดและผลของแรงไฟฟา้
แรงไฟฟ้า คือ เปน็ แรงระหวา่ งประจุไฟฟ้า เกดิ จากการถวู ัตถบุ างชนดิ โดยแรงไฟฟา้ เป็นแรงไม่สมั ผัสมี
ท้งั แรงดึงดูดและแรงผลัก

ผลของแรงไฟฟ้าทเี่ กดิ ข้นึ
เมอื่ น่าวัตถบุ างชนดิ สองช้นิ ท่มี สี ภาพเปน็ กลางทางไฟฟ้าจะเกดิ การถา่ ยโอนประจุไฟฟา้ ลบจากวัตถุหนง่ึ ไป
ยงั อกี วัตถหุ นึ่ง ท่าใหว้ ัตถุทั้งสองมปี ระจไุ ฟฟา้ ชนดิ ตรงกนั ขา้ ม ถา้ นา่ วัตถุที่มีประจไุ ฟฟ้าเขา้ ใกล้กัน จะเกิดแรง
ระหว่างประจุไฟฟ้าซ่ึงอาจเป็นทง้ั แรงดงึ ดูดและแรงผลักก็ได้ ขน้ึ อยูก่ บั ชนดิ ของประจุไฟฟ้าของวัตถทุ ั้งสองน้นั โดยถ้า
น่าวตั ถุชนิดเดียวกนั เข้าใกลก้ ันจะเกดิ แรงผลักกัน เพราะประจไุ ฟฟา้ รวมในวตั ถทุ ั้งสองช้ินจะเปน็ ประจุไฟฟา้ ชนิด
เดยี วกนั แตถ่ ้าน่าวัตถตุ ่างชนิดกันเข้าใกล้กันอาจจะเกิดแรงดึงดดู หอื ผลกั กันก็ได้ เพราะประจุไฟฟา้ รวมในวตั ถุทงั้ สอง
ชน้ิ อาจเปน็ ประจุไฟฟ้าตา่ งชนิดกนั หรือชนดิ เดยี วกันก็ได้
เม่ือน่าวตั ถุ 2 ชนดิ มาขดั ถูกัน จะทา่ ให้ประจุไฟฟา้ เกดิ การแลกเปล่ยี นกัน วัตถุจงึ ไมเ่ ปน็ กลางทาง
ไฟฟ้า หากนา่ วตั ถุที่ไม่เป็นกลางทางไฟฟ้ามาเขา้ ใกลว้ ัตถุท่ีมีน่า้ หนกั เบา จะเกิดการเหนี่ยวน่าไฟฟ้า จึงสามารถดึงดูด
วัตถทุ ม่ี นี ้่าหนกั เบาได้ เช่น ใช้ผา้ แหง้ ถกู บั ไมบ้ รรทัด

109
หากนา่ วตั ถุชนดิ เดยี วกันมาถูด้วยส่ิงเดยี วกันจะทา่ ใหเ้ กดิ ประจไุ ฟฟา้ ชนิดเดยี วกนั ซง่ึ จะมีแรงระหวา่ ง
ประจุไฟฟ้า เม่ือวัตถุมาเข้าใกลก้ นั จะเกดิ แรงผลกั กัน

การขัดถวู ตั ถชุ นดิ เดียวกันดว้ ยสิง่ ที่ตา่ งกนั จะท่าใหเ้ กดิ ประจไุ ฟฟา้ ต่างชนดิ กัน ซงึ่ จะมีแรงระหวา่ ง
ประจุไฟฟา้ เมื่อนา่ วตั ถุมาเข้าใกล้กันจะเกิดแรงดงึ ดูด

110
บทที่ 2 วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย
เรือ่ งท่ี 1 วงจรไฟฟ้าใกล้ตวั
วงจรไฟฟ้า หมายถึง ทางเดินของกระแสไฟฟา้ ซึ่งไหลมาจากแหลง่ กา่ เนิดไฟฟ้าผา่ นตัวนา่ ไฟฟา้ และ
เครอื่ งใช้ไฟฟ้า แล้วไหลกลับไปยงั แหลง่ ก่าเนดิ ไฟฟา้ เดิม
วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย ประกอบดว้ ยส่วนต่าง ๆ ดงั น้ี
1. แหล่งกา่ เนดิ ไฟฟ้า ท่าหน้าท่ใี หก้ ระแสไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้
2. สายไฟฟา้ เป็นตัวนา่ ไฟฟ้า ท่าหน้าทเ่ี ปน็ ทางเชื่อมให้กระแสไฟฟ้าผา่ นจากแหล่งก่าเนิดไฟฟา้ ไปยงั
เครือ่ งใช้ไฟฟ้า
3. เครอื่ งใช้ไฟฟ้า ท่าหนา้ ทเี่ ปลี่ยนพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลังงานอ่นื เช่น พลงั งานแสง พลังงานเสียง
พลงั งานความร้อน

วงจรไฟฟ้า
-วงจรปิด เมื่อต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายโดยอปุ กรณ์ไฟฟ้าเชื่อมต่อกนั ครบวงจรจะมีกระแสไฟฟา้ ผา่ นไป
ในวงจรไฟฟา้ ท่าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทา่ งานได้

111
-วงจรเปิด ถา้ มสี ่วนใดสว่ นหนงึ่ ของวงจรไฟฟา้ ไมเ่ ชอ่ื มต่อกันทา้ ใหไ้ ม่ครบวงจร วงจรไฟฟา้ จะไม่
มกี ระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ จงึ ท้าให้อปุ กรไฟฟ้าไม่ทา้ งาน

การต่อเซลล์ไฟฟ้า
การต่อถา่ นไฟฉายแบบอนกุ รม (Serial Configuration)
เปน็ การน่าเซลลไ์ ฟฟ้ามาต่อในวงจรไฟฟ้าโดยใหข้ วั้ บวกของกอ้ นแรกต่อเขา้ กับขวั้ ลบของก้อนที่ 2 เรยี งกนั ไป
เรือ่ ยๆ การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รมทา่ ให้กระแสไฟฟา้ เดินทางทิศเดียว ทา่ ให้หลอดไฟสวา่ งกว่าแบบขนาน เพราะ
ความตา่ งศักยใ์ นวงจรเพ่ิมขึ้น แต่อายุการใช้งานน้อยกว่าถ่านหมดเร็ว

การต่อถ่านไฟฉายแบบขนาน (Parallel Configuration)
เปน็ การนา่ เซลล์ไฟฟ้ามาวางขนานกัน โดยขัว้ บวกแตล่ ะกอ้ นต่อเขา้ ด้วยกัน และขัว้ ลบแตล่ ะกอ้ นตอ่ เขา้ ด้วยกัน
แลว้ จงึ ต่อเขา้ กับวงจรไฟฟ้า การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบขนานท่าคา่ ความตา่ งศกั ย์เทา่ เดิม จึงท่าให้หลอดไฟสว่างน้อยกว่า
การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม แต่อายุการใช้งานยาวนานกวา่

เรือ่ งท่ี 3 การตอ่ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบา้ น
วงจรไฟฟ้าภายในบา้ น ส่วนใหญ่จะเปน็ การต่อแบบขนาน ซงึ่ เปน็ การต่อวงจรท่าให้อุปกรณแ์ ละเครื่องใช้ไฟฟา้
แตล่ ะชนดิ อยู่คนละวงจร ซ่ึงถ้าเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ชนิดหนง่ึ เกดิ ขัดข้องเนื่องจากสาเหตุใดก็ตาม เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าชนิดอ่ืนก็
ยังคงใชง้ านได้ตามปกตเิ พราะไม่ไดอ้ ยใู่ นวงจรเดยี วกันไฟฟ้าท่ใี ชใ้ นบ้านเรือนท่ัวไปเปน็ ไฟฟ้ากระแสสลับมีความต่างศักย์
220 โวลต์
ในบา้ นเรอื นทว่ั ไปมีเคร่ืองใช้ไฟฟ้าหลายชนดิ เชน่ หลอดไฟฟ้า พดั ลม เตารีด ตู้เยน็ โทรทศั น์
เครือ่ งใช้ไฟฟ้าทุกชนดิ จะทา่ งานไดต้ ้องมีส่วนเชื่อมต่อกับวงจรไฟฟา้ ในบ้านเพื่อใหก้ ระแสไฟฟ้าผา่ นไปยังเคร่ืองใช้ไฟฟา้
นัน้ ๆ เตา้ รบั และเตา้ เสยี บเป็นอุปกรณ์ไฟฟา้ ท่ีทา่ หนา้ ทเ่ี ชอื่ มต่อเครื่องใช้ไฟฟ้ากับวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน เต้าเสียบเป็น
ตวั รบั กระแสไฟฟ้า มีลกั ษณะเปน็ หวั เสยี บท่ีมขี ั้วโลหะทตี่ ิดอยู่ที่ปลายสายไฟฟา้ ท่ตี ่อมาจากเคร่ืองใช้ไฟฟ้า เม่อื จะใช้

112

เครือ่ งใช้ไฟฟา้ นัน้ ๆ ต้องน่าเต้าเสียบมาเสยี บกับเต้ารับซงึ่ เป็นตวั ที่เชือ่ มกบั วงจรไฟฟ้าในบา้ นเพื่อใหม้ กี ระแสไฟฟา้ ผา่ น
เต้าเสียบเข้าสเู่ ครื่องใช้ไฟฟ้า เพอื่ ใหเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ น้นั ทา่ งานได้

113

แบบทดสอบ

คา่ ช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกค่าตอบที่ถูกทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดียว โดยทา่ เคร่ืองหมายกากบาท ( X) ลงในกระดาษ
กระดาษค่าตอบ
1. พจิ ารณาข้อมลู ต่อไปนี้แล้วตอบคา่ ถาม

ภูผา สร้างแบบจาลองแผนผงั วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายโดยใชพ้ ลงั งานจากถ่านไฟฉาย ดงั ภาพ

ขอ้ ความใดอธบิ ายวงจรไฟฟ้าในภาพได้ถูกต้อง (เลือกตอบ 2 ข้อ)
ก. ถ้ากดสวิตซ์ S1 หลอด 1, 2, 3, 7 สว่าง
ข. ถา้ กดสวิตซ์ S1 และ S2 หลอด 1, 2, 3, 4, 7 สวา่ ง
ค. ถา้ กดสวติ ซ์ S3 หลอด 5, 6, 7 สวา่ ง
ง. ถา้ กดสวติ ซ์ S2 และ S3 หลอด 4, 5, 6, 7 สวา่ ง

2. พิจารณาภาพต่อไปนีแ้ ล้วตอบคา่ ถาม

114

จากแผนภาพ ข้อใดอธิบายได้ถกู ต้อง
ก. ไฟท้งั 4 หลอดตดิ
ข. เตารดี เคร่ืองซักผ้าและโทรทศั น์ใช้ได้ตามปกติ
ค. อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนดิ ในบ้านใช้ไดต้ ามปกติ
ง. ไฟหลอดที่ 3 กบั 4 และพัดลมใชไ้ ดต้ ามปกติ

3. สถานการณ์
เด็กหญิงกระติบ๊ ไปซ้ือถา่ นไฟฉายมาให้ คุณพ่อ และซ้อื ถา่ นไฟฉายมา 2 ก้อน เด็กหญงิ กระตบ๊ิ สังเกตเห็นพ่อ

นา่ ถ่านไฟฉายใสใ่ นกระบอกต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม

ข้อค่าถาม
เพราะเหตุใดไฟฉายจึงมกี ารต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม

ก. ปลอดภัย
ข. ไฟฟา้ ในวงจรเดนิ ไม่สะดวก
ค. ต้องใช้อปุ กรณ์ในการต่อน้อย
ง. ชว่ ยท่าใหว้ งจรมีกระแสไฟฟา้ มากข้ึน

4. ต่อวงจรไฟฟา้ 2 วงจร ดงั แผนภาพโดยเมื่อต่อให้เป็นวงจรไฟฟา้ ปิดแลว้ หลอดไฟฟ้าสวา่ งทงั้ 4 หลอด

ถา้ หลอดไฟฟ้าในแตล่ ะวงจรช่ารุด 1 หลอด วงจรใดทย่ี งั คงมีหลอดไฟฟ้าสว่างอยู่และการต่อวงจรดงั กลา่ วเปน็

แบบใด

ก. วงจร A ซ่งึ เป็นการต่อแบบขนาน ข. วงจร A ซง่ึ เป็นการต่อแบบอนกุ รม

ค. วงจร B ซง่ึ เปน็ การต่อแบบขนาน ง. วงจร B ซึ่งเปน็ การต่อแบบอนุกรม

115

5. ปอ้ ม ทดลองตอ่ วงจรไฟฟ้า โดยใช้สารต่าง ๆ คอื น่า้ ฝน นา้่ บริสทุ ธ์ิ น่า้ สม้ สายชู น่้าประปา นา้่ โซดา และน้่าเช่ือม
แทนที่ A และ B ดงั แผนภาพ

จากข้อมูล การต่อ วงจรไฟฟ้าที่ตา่ แหน่ง A และ B

ตามล่าดบั ควรใช้ สารตามข้อใดจึงจะทา่ ให้

หลอดไฟ ก และ ข สว่างได้ท้ังหมด

ก. น้่าฝน น่้าบรสิ ุทธ์ิ ข. นา่้ บริสุทธ์ิ นา่้ ส้มสายชู

ค. น้า่ ฝน น้า่ ประปา ง. นา่้ โซดา น้่าเชอื่ ม

6. นกั เรียน 4 คน ตอ่ วงจรเพ่ือสรา้ งรถแขง่ โดยใชพ้ ลังงานจากเซลล์ไฟฟา้ ดงั แผนภาพ

จากข้อมูล ถา้ นกั เรยี นน่ารถมาวิ่งแขง่ กนั รถทต่ี ่อวงจรไฟฟ้าตามแผนภาพใดมีโอกาสเข้าเส้นชัย

เปน็ อันดบั แรก

ก. A และ B ข. B และ C ค. C และ D ง. D และ A

116

7. นักเรียนกลมุ่ หนง่ึ ช่วยกนั ออกแบบวงจรไฟฟา้ ไดด้ ังน้ี

จากข้อมูล หาก
ง. วงจร D
นักเรยี นตอ้ งการกดสวิตช์ 1 คร้งั แลว้ ทา่ ใหไ้ ฟสวา่ งเพียง 2 ดวง ควรเลอื กใช้

วงจรใด

ก. วงจร A ข. วงจร B ค. วงจร C

117

เฉลยค้าตอบ

1. ตอบข้อ ข.
เหตุผล เพราะ กดสวติ ซ์กระแสไฟฟ้าครบวงจรท่าให้หลอดไฟสวา่ ง

2. ตอบข้อ ง.
เหตผุ ล เพราะ หลอดที่ 3 กับ 4 เป็นวงจรปดิ

3. ตอบข้อ ง.
เหตุผล เพราะ การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรมจะชว่ ยทา่ ให้วงจรมีกระแสไฟฟ้ามากข้ึน

4. ตอบขอ้ ค.
เหตผุ ล เพราะ ถา้ เกิดในวงจรมเี คร่ืองใช้ไฟฟ้าตวั หนึ่งขาดหรอื เปิดวงจร เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าทเี่ หลือก็ยงั
สามารถท่างานได้ ในบ้านเรือนที่อยู่อาศยั ปจั จุบันจะเป็นการต่อวงจรแบบน้ีทง้ั สิน้

5. ตอบข้อ ค.
เหตผุ ล เพราะ นา้่ ฝน และน่้าประปา เป็นตัวน่าไฟฟ้า เมื่อต่อในวงจรไฟฟา้ ท่าใหห้ ลอดไฟสว่าง

6. ตอบข้อ ง.
เหตุผล เพราะ รถคัน D และ A มกี ารต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม จึงท่าให้ มอเตอร์ไดร้ บั
กระแสไฟฟา้ มากกว่าการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบขนาน จึงท่าให้มโี อกาสเข้าเส้นชัยเปน็ คันแรก

7. ตอบขอ้ ค.
เหตุผล เพราะ วงจร C ต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน เมื่อกดสวติ ช์ S2 จะทา่ ให้กระแสไฟฟ้า
ผา่ นหลอดไฟฟา้ 2 หลอด จนครบ

ป.6

สื่อสาระการเรียนรู้

สงั คมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม

โรงเรยี นอนบุ าลสตูล
สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาสตูล

119

ศาสนาพทุ ธ

พุทธประวตั ิ ตวั ชีว้ ดั ส 1.1 ป.6/2

ศาสดา หมายถงึ ผูก้ ่อตงั้ ศาสนา

พระพุทธศาสนาเกดิ ขน้ึ ที่ประเทศอินเดีย ตอ่ มา พระพุทธศาสนาไดเ้ ผยแผ่ไปยัง

ดินแดนต่างๆ รวมทั้งดินแดนในชมพทู วีป ซ่ึงเปน็ ท่ีตั้งของประเทศไทยในปัจจุบัน

พระพุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาท่คี นไทยสว่ นใหญ่นับถือ

ตอบคาถาม

1. ศาสดา หมายถึง................................................................

2. พระพุทธศาสนาเกิดขน้ึ ทีป่ ระเทศอะไร................................

ตรสั รู้และทรงปลงพระชนมมายุสงั ขาร

ศาสดาของศาสนาพุทธ คอื พระพุทธเจ้า ซึง่ มีพระนามเดมิ ว่า เจ้าชายสิทธตั ถะ
พระองค์ทรงเสด็จออกผนวชเมื่อพระชนมายุ 28 พรรษา ในคืนที่พระโอรสประสูติ
หลังจากเสด็จออกผนวช พระองค์ทรงบาเพ็ญเพียรด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การบาเพ็ญ
ทุกรกิริยา เป็นตน้ รวมเป็นเวลา 6 ปี

จึงต รัสรู้เป็ น พ ระสัม ม าสัม พุ ท ธเจ้าใน วัน เพ็ ญ ขึ้ น 15 ค า เดื อ น 6
เม่อื พระชนมายุได้ 35 พรรษา โดยหลักธรรมท่พี ระพุทธเจา้ ทรงตรสั รู้ คือ อริยสจั 4

เม่ือตรัสรู้แล้ว พระพุทธเจ้าทรงเผยแผ่หลักธรรมท่ีพระองค์ได้ตรัสรู้ โดยเสด็จ
ไปโปรดปัญจวัคคีย์ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน จนกระท่ังเกิดดวงตาเห็นธรรมและทูลขอ
อุปสมบทเป็นพระสงฆ์สาวกของพระพุทธศาสนา จากนั้นพระองค์ได้เผยแผ่ศาสนาไปยัง
ทต่ี า่ งๆ จนมีผู้เล่อื มใสและหนั มานบั ถือพระพุทธศาสนาจานวนมาก

พระพุทธเจ้าทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นเวลา 45 พรรษา ระหว่างท่ี
ทรงจาพรรษาสุดท้ายที่เมืองเวสาลี พระพุทธเจ้าทรงตัดสินพระทัยปลงอายุสังขาร
ในวันขนึ้ 15 ค่า เดือน 6 หรอื ท่เี รยี กว่า วันวสิ าขบูชา

ตอบคาถาม

3. ศาสดาของศาสนาพุทธ คอื ............................................
4. หลักธรรมทีพ่ ระพทุ ธเจ้าทรงตรสั รู้คือหลกั ธรรมใด............................

120

ศาสนาพุทธ

ปัจฉิมสาวก

หลังจากทรงปลงอายุสังขารแล้วพระองค์ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป ขณะเดินทาง
มาถงึ สาลวโนทยานของพระเจ้ามัลลกษัตริย์ แหง่ เมอื งกุสนิ ารา พระองคจ์ ึงตรัสให้พระอานนทจ์ ัดที่
ประทับระหว่างต้นสาละท้ัง 2 ต้น เพ่ือบรรทม ขณะนั้นสุภัททะปริพาชก ได้ทราบข่าวว่า
พระพุทธเจ้าเสด็จมาจึงรีบไปเข้าเฝ้าจึงทูลถามข้อสงสัย แต่พระอานนท์ได้คัดค้านไม่ให้เข้าเฝ้า
สุภัททะต้องการเข้าเฝ้าให้ได้ พระพุทธเจ้าได้ยินจึงตรัสอนุญาต เม่ือสุภัททะได้โอกาสเข้าเฝ้า
จึงทูลถามปัญหาที่ข้องใจมานาน พระพุทธเจ้าจึงตอบปัญหาน้ันและแสดงธรรมให้ฟัง เมื่อสุภัททะ
ฟังแล้วจึงเกิดความเลื่อมใสทูลขออุปสมบท พระสุภัททะจึงเป็นปัจฉิมสาวกที่พระพุทธเจ้า
อปุ สมบทใหเ้ ปน็ องค์สดุ ท้าย

ตอบคาถาม

5.ขณะเดนิ ทางมาถงึ สาลวโนทยาน เมอื งกุสนิ ารา พระพุทธเจา้ ประทบั ใตต้ ้นอะไร..........................................

6. พระสงฆ์ทพี่ ระพุทธเจ้าอุปสมบทให้เป็นองค์สุดท้ายมีช่อื ว่า..........................................................................

ปรนิ พิ พาน

พระพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่า เดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 1 ปี
ขณะพระชนมายุได้ 80 พรรษา

ตอบคาถาม

7. พระพุทธเจ้าเสด็จดบั ขนั ธ์ปรนิ ิพพานตรงกบั วันใด..................................

ภาพท่ี 1 : ภาพจาลองเหตุการณก์ ารเสดจ็ ดับขนั ธ์ ปรนิ ิพพานของพระพทุ ธเจา้
ท่ีมา : https://sites.google.com/site/karkaneidphraphuththsasna

121

วันสาคัญทางพระพุทธศาสนา

วันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา
วันสาคัญ ทางพระพุทธศาสนา หมายถึง วันท่ีมีเหตุการณ์ สาคัญ บางอย่างเกิดข้ึน

ในพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่จะเป็นวันที่เก่ียวข้องกับพระพุทธเจ้าซ่ึงจะกาหนดเอาวันที่มีเหตุการณ์
พเิ ศษเกดิ ขน้ึ ในชีวติ ของพระองคเ์ ป็นหลกั

1. วนั มาฆบูชา
มาฆบูชา แปลว่า การบชู าในวันขึน้ 15 ค่า เดือน ๓ วันน้ถี ือเปน็ วนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา

เนอ่ื งจาก เกิดเหตกุ ารณส์ าคัญ 4 อย่างท่เี รยี กวา่ “จาตุรงคสนั นบิ าต” เกดิ ขนึ้ ทแี่ ควน้ เวฬุวนั ใกล้
กรงุ ราชคฤห์ แคว้นมคธ

เหตกุ ารณ์ 4 อยา่ งประกอบด้วย คือ
1) พระสงฆ์สาวกลว้ นเป็นพระอรหันต์
2) พระสงฆส์ าวกล้วนเปน็ เอหิภิกขุ คอื พระพุทธเจา้ บวชใหเ้ อง
4) พระสงฆส์ าวกจานวน 1,250 องค์ มาประชมุ พร้อมกนั โดยมิไดน้ ดั หมาย
5) พระพทุ ธเจ้าเหน็ เป็นอัศจรรย์ จงึ ไดท้ รงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์

ภาพที่ 2 : ภาพจาลองเหตกุ ารณ์วนั มาฆบูชา
ท่มี า : http://www.dhammathai.org/day/maka.php

ตอบคาถาม 8. จาตุรงคสนั นบิ าตหมายถึงอะไร.........................................................................................
........................................................................................................................ ........................
............................................................................................................................. ...................
....................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. ...................
................................................................................................................................................

122

วันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนา

2. วนั วิสาขบชู า
วิสาขบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญ เดือน 6 ซ่ึงเป็นวันสาคัญเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าโดยตรง

ซ่ึ งท้ั ง 3 เห ตุ ก ารณ์ เกิ ด ข้ึ น ใน วัน เพ็ ญ เดื อ น 6 แ ต่ เกิ ด ต่ างปี กั น ใน ช่ ว งเวล า 80 ปี ได้ แ ก่
1) วันประสูติ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่า เดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ณ ป่าสาละ สวนลุมพินีวัน
2) วันตรัสรู้ เกดิ ข้ึนใน 35 ปีตอ่ มา ภายหลังที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชา ณ โคนต้นโพธ์ิ

ใกล้แมน่ ้าเนรญั ชรา ตาบลอรุ เุ วลาเสนานิคม แควน้ มคธ
3) วันปรินิพพาน เกิดข้ึนในปีท่ี 80 แห่งพระชนมายุของพระพุทธเจ้า ณ แท่นบรรทมระหว่าง

ต้นสาละ เมืองกสุ นิ ารา

3. วันอฏั ฐมีบชู า
เมื่ อ พ ร ะ พุ ท ธ เ จ้ า เส ด็ จ ป ริ นิ พ พ า น จึ ง มี ก า ร ตั้ ง พ ร ะ บ ร ม ศ พ ข อ ง พ ร ะ พุ ท ธ อ ง ค์ พ ร้ อ ม จั ด

เครอ่ื งสักการบูชา เปน็ เวลา 7 วนั ณ มกุฏพนั ธนเจดีย์ เมอื งกุสินาราและในวันท่ี 8 ซ่ึงตรงกับวนั แรม 8 ค่า
เดือน 6 เหล่ามัลลกษัตริย์และพระเถระช้ันผู้ใหญ่ได้ประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
ของพระพทุ ธเจา้ ซึ่งเราชาวพทุ ธเรียกวนั นว้ี ่า “วันอัฏฐมบี ชู า”

4. วนั อาสาฬหบูชา
อาสาฬหบชู า แปลวา่ การบชู าในวนั เพ็ญเดือน 8 มเี หตุการณเ์ กดิ ขนึ้ ดังน้ี

1) เป็นวันขน้ึ 15 คา่ เดอื น 8
2) เปน็ วนั ทพ่ี ระพุทธเจ้าประกาศพระศาสนาเปน็ ครงั้ แรก โดยการแสดงปฐมเทศนา เรยี กวา่
ธมั มจกั กัปปวัตนสูตร มีใจความสาคัญ คือ อริยสจั 4 เพื่อโปรดปญั จวัคคีย์ ทปี่ า่ อิสิปตนมฤคทายวนั
เมืองพาราณสี
3) เปน็ วนั ท่ีพระสงฆ์สาวกเกดิ ขน้ึ ครงั้ แรก คอื โกณฑัญญะ
4) เปน็ วนั ทพี่ ระรัตนตรัยเกิดข้นึ ในโลกบริบรู ณ์

ภาพท่ี 3 : ภาพจาลองเหตุการณก์ ารแสดงธรรมแกป่ ัจวคั คยี ข์ อง พระพุทธเจ้า
ที่มา : https://www.google.com

ตอบคาถาม 9. วนั สาคญั ทางศาสนาพุทธใดท่แี สดงถงึ การมีพระรัตนตรัยครบองค์สาม
.......................................................................................................................

123

วนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา

5. วนั ธรรมสวนะ
วันธรรมสวนะ ซ่ึงเรียกอีกอยา่ งหน่ึงว่า “วันพระ” ซ่ึงแปลว่า เป็นวันประชมุ ถือศีลฟังธรรม

ในพระพทุ ธศาสนา
วนั พระ 1 เดอื นจะมี 4 วัน คือ วันข้ึน 8 ค่า วันข้ึน 15 คา่ วันแรม 8 คา่ และวันแรม 15 ค่า หรอื

แรม 14 คา่ ในเดอื นขาด

วธิ ปี ฏิบตั ติ นและเขา้ รว่ มกจิ กรรมในวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา

วันสาคัญทางพระพุทธศาสนาทัง้ หมดน้ี มคี วามเกีย่ วข้องกบั พระพุทธเจา้ โดยตรง ในปจั จุบนั นิยมปฏิบตั ิ
คล้ายคลึงกนั คือ

1) การทาบุญตักบาตรท่บี า้ นหรือทว่ี ดั ในตอนเช้า
2) การไปนมสั การ ไหวพ้ ระ สวดมนต์ และทาบุญตามวัดต่าง ๆ
3) การฟังพระธรรมเทศนา และปฏิบตั ิสมาธิภาวนา
4) การสนทนาธรรมกบั พระภกิ ษหุ รอื ผู้ทรงคณุ วฒุ ทิ างศาสนา
5) การรักษาศีล 5
6) การไปเวียนเทยี นที่วดั (นยิ มเวยี นเทยี นในวนั มาฆบชู า วันวสิ าขบูชา วันอฏั ฐมบี ชู าและวันอาสาฬหบูชา)

ตอบคาถาม

10. วนั ใดทพี ุทธศาสนิกชนนยิ มนาเทยี นพรรษาไปถวายวัด

ก. วนั วิสาขบชู า ข. วนั ธรรมสวนะ
ค. วนั เข้าพรรษา ง. วันออกพรรษา

ตอบคาถามกันเสรจ็ แลว้ เพือนๆ ลองดูเฉลยด้านหลงั สิจ๊ะ

124

เฉลยแบบฝกึ หดั

1. ศาสดา หมายถงึ ....................
ตอบ ผู้ก่อต้ังศาสนา หรือผู้คิดค้น ริเริมในการนาคาสอนไปเผยแผ่ เช่น พระพุทธศาสนา
มพี ระพทุ ธเจ้า เปน็ ศาสดา ศาสนาอสิ ลามมีท่านนบีเปน็ ศาสดา เปน็ ตน้
2. ศาสนาพุทธเกิดข้ึนทป่ี ระเทศอะไร................................
ตอบ ประเทศอนิ เดีย ซง่ึ เปน็ ประเทศท่ตี ง้ั อยู่ในทวปี เอเชียใต้
3. ใครเป็นศาสดาของศาสนาพุทธ คือ................................
ตอบ พระพุทธเจ้า ซึ่งมีพระนามเดิมว่า เจ้าชายสิทธัตถะ เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะและ
พระนางสิริมหามายา ผคู้ รองกรงุ กบิลพัสดแ์ุ หง่ แควน้ สักกะ
4. หลกั ธรรมท่พี ระพุทธเจา้ ทรงตรสั ร้คู ือหลักธรรมใด............................
ตอบ อริยสัจ 4 หมายถึง ความจริงแห่งพระอริยะ สาหรบั การดับทุกข์ เพ่ือให้หลุดพ้นจากกิเลสท้ังปวง
อันประกอบด้วยธรรม 4 ประการ คือ 1. ทุกข์ คือ ความทุกข์ เป็นสิ่งท่ีไม่พึงปรารถนา 2. สมุทัย คือ
มลู เหตหุ รอื ตน้ เหตุแหง่ ทกุ ข์นน้ั 3. นิโรธ คอื ส่ิงทใี่ ช้ดบั ทุกข์ 4. มรรค คือ แนวทางแห่งการดับทกุ ข์

5.ขณะเดินทางมาถึงสาลวโนทยาน เมอื งกสุ นิ ารา พระพทุ ธเจา้ ประทับใตต้ น้ อะไร...........................
ตอบ ตน้ สาละ ซง่ึ เปน็ ไม้ท่ีมีความสาคญั เก่ียวข้องกบั พระพุทธเจา้ โดยตรง ทงั้ ตอนประสูติ ตรสั รู้
และปรนิ ิพพาน
6. พระสงฆ์ทีพ่ ระพุทธเจา้ อปุ สมบทให้เปน็ องคส์ ุดท้ายมีช่อื วา่ ..........................................
ตอบ สุภทั ทะ
7. พระพุทธเจา้ เสด็จดับขันธ์ปรนิ พิ พานตรงกบั วนั ใด...........................
ตอบ วนั ขน้ึ 15 คา เดอื น 6 หรือเรยี กวา่ “วนั วสิ าขบชู า”เปน็ วนั คล้ายวนั ทีเ่ กิดเหตุการณส์ าคัญที่สดุ
ในศาสนาพุทธ 3 เหตกุ ารณ์ด้วยกัน คอื การประสตู ิ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพทุ ธเจา้ จงึ ยกย่อง
ใหว้ นั วสิ าขบูชาเปน็ "วันสาคญั สากล"
8. จาตุรงคสันนบิ าตหมายถึงอะไร.........................................................................................

ตอบ วนั ทีมีเหตุการณ์สาคญั 4 อยา่ ง

9. วนั สาคญั ทางศาสนาพทุ ธใดทแ่ี สดงถึงการมีพระรตั นตรัยครบองค์สาม.........................................

ตอบ วันอาสาฬหบูชา เป็นวนั ทม่ี พี ระรัตนตรัยครบองค์สามบริบรู ณ์เป็นคร้ังแรกในโลก คือ มที ั้ง
พระพทุ ธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์

10. วันใดทพ่ี ทุ ธศาสนกิ ชนนยิ มนาเทยี นพรรษาไปถวายวัด……………………………………………………….

ตอบ วนั เขา้ พรรษา

125

เรื่อง พลเมืองดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย

ตวั ชีว้ ัด ส 2.2 ป.6/2

“พลเมือง” หมายถงึ ชาวเมอื ง ชาวประเทศ ประชาชน
“พลเมืองด”ี หมายถงึ ผู้ทป่ี ฏิบัตหิ นา้ ที่พลเมอื งได้ครบถว้ น ทงั้ กจิ ท่ตี อ้ งทาและกิจท่คี วรทา
“วถิ ”ี หมายถงึ สาย แนว ทาง ถนน
“ประชาธิปไตย” เป็นคาที่ประกอบด้วย ประชา กับ อธิปไตย เม่ือ “อธิปไตย” แปลว่า เป็นใหญ่
“ประชาธิปไตย” หมายถึง การที่ประชาชนผู้เป็นใหญ่ มีอานาจการตัดสินใจในสังคมชุมชน
ทตี่ นอาศยั ผูกพันอยู่
“พลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย” หมายถึง พลเมืองทด่ี าเนนิ ชีวิตในสงั คม โดยยดึ หลกั ประชาธิปไตย
ในชีวิตประจาวัน การอยู่ร่วมกัน ปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพท้ัง กาย วาจา และใจ ไม่ก้าวก่ าย
ในสิทธิของผู้อื่น เคารพในกฎเกณฑ์ของสังคม โดยอาศัยหลักธรรม 3 ประการได้แก่ คารวธรรม
สามัคคีธรรม และปัญญาธรรม นอกจากนี้พลเมืองดีตามวิธีประชาธิปไตยต้องปฏิบัติตามหลักการ
ปฏิบัติตนตามวิถีประชาธิปไตย เช่น การคิดและปฏิบัติตนตามวิถีประชาธิปไตย การพัฒนาตนเอง
การมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม การเคารพในศักด์ิศรีและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ และยึดม่ัน
ในจารีตประเพณีวฒั นธรรมทดี่ งี ามของสงั คมทปี่ ฏิบัติสืบตอ่ กันมาชา้ นาน

ตอบคาถาม

1. ประชาธิปไตย หมายถึงอะไร...................................
2. พลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธปิ ไตยตอ้ งยดึ หลกั ธรรม 3 ประการไดแ้ ก่อะไรบ้าง
............................................................................................................. ...........................................................
.....

126

วิถชี วี ติ ประชาธปิ ไตย

ตวั ช้ีวัด ส 2.2 ป.6/3

วิถีชีวิตประชาธิปไตย หมายถึง การดาเนินชีวิตของประชาชนตามวิถีทางประชาธปิ ไตย ประกอบด้วย
1. การคิดและปฏิบัติตนตามวิถีประชาธิปไตย หมายถึง การคิดอย่างมีเหตุผล การใช้ปัญญา
ในการแก้ปัญหา การรู้จักการให้อภัยซึ่งกันและกัน การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น การปฏิบัติตน
ตามกฎหมายและวฒั นธรรมประเพณี การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ ่ืน เปน็ ต้น
2. การพัฒนาตนเอง และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม หมายถึง การใฝ่เรียนรู้ การฝึกฝนตนเอง
การศึกษาหาความรู้ และประสบการณ์ การใช้ความคิดวเิ คราะห์เพื่อแกป้ ญั หาได้
3. การเคารพในศักดิ์ศรีและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ หมายถึง การยอมรับความแตกต่าง
ของบุคคลทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรม และศาสนา การรักความยุติธรรมในสังคม ให้ทุกคนในสังคมไดรับการปฏิบัติ
เท่าเทียมกัน
4. ยดึ มัน่ ในจารีตประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของสังคมที่ปฏิบัตสิ บื ต่อกันมาชา้ นาน หมายถึง
ความโอบออมอารี การช่วยเหลือผูท่ีตกทุกขไดยาก ความกตัญ ูกตเวทีตอผูอื่น การเคารพเชื่อฟงผูใหญหรือ
ผูอาวโุ ส ความออนนอมถอมตน ความยดึ ม่นั ในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ตอบคาถาม

3. นิภาต่อว่าเพื่อนทย่ี มื ดนิ สอแลว้ ทาหาย แสดงว่านภิ าไมป่ ฏิบตั ิตนตามวถิ ีชีวิตประชาธปิ ไตยตาม
ความหมายใด.....................................................................................................................................
4. ถา้ ทุกคนปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธิปไตย จะเกิดผลอย่างไร
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......

127

หลักการมีสว่ นร่วมทางการเมอื ง

ตวั ช้ีวัด ส 2.2 ป.6/2

การปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้น ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศทั้งทางตรง
และทางอ้อม ทางตรง เชน่ การออกเสียงประชามติ การเสนอถอดถอน ฯลฯ ทางอ้อม เช่น การเลือก
ตวั แทนเขา้ ไปทาหนา้ ทบี่ รหิ ารประเทศแทนตน

 ทางตรง คือ การใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เช่น การแสดงความคิดเห็น การออกเสียง
ประชามติ การขอรบั รู้ขอ้ มลู ข่าวสารราชการ การชมุ นมุ การร้องทกุ ขส์ ว่ นราชการ

 ทางอ้อม คือ การเลือกต้ังตวั แทน เช่น ส.ส. , ส.ว. ไปทาหน้าท่ีในการออกกฎหมายและ
บรหิ ารประเทศ

รูปแบบการจัดแสดง การ์ตูนเคล่ือนไหว Animation แสดงหลักการมีส่วนร่วมทางการเมือง
ผ่านการคัดเลือกหัวหน้าห้องคนใหม่ หากเลือกคนไม่ดีเข้าไปเป็นตัวแทนจะทาให้เดือดร้อน
ดังนน้ั ควรเลือกตวั แทนทีด่ เี ขา้ ไปทาหนา้ ทีแ่ ทนตน

ตอบคาถาม

5. นักเรียนเคยเลือกต้ังหรือไม่ อยา่ งไร และการเลือกต้ังสง่ ผลต่อส่วนรวมอยา่ งไร
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................. ...............................

128

บทบาทหนา้ ที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ

ตัวชว้ี ัด ส 2.2 ป.6/1

องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หมายถึง ราชการส่วนท้องถ่ินที่ได้รับการเลือกต้ังจาก
ประชาชนในท้องถิ่นนั้น มีอานาจหน้าที่ในการบริหารจัดการบริการสาธารณะต่าง ๆ เพื่อ
ประโยชน์สุขของชุมชนในท้องถ่ินนั้น ปัจจุบัน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินของไทยมี 5 ประเภท
ได้แก่

1. อบจ. มีหน้าที่รับผิดชอบงานจัดบริการสาธารณะในระดับจังหวัด รับผิดชอบงาน
จัดบริการสาธารณะขนาดใหญ่ หรือมีค่าใช้จ่ายสูงเกินกว่าความสามารถของเทศบาลหรือ อบต.
ประสานงานจดั บรกิ ารสาธารณะร่วมกนั ระหว่างองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ต่างๆ ภายในจังหวัด

2. เทศบาล มีหน้าที่รับผิดชอบการจัดบริการสาธารณะ ในเขตพ้ืนท่ีชุมชนเมืองที่มี
ความเจริญหรอื มีความหนาแน่นของประชากรสูง

4. อบต. เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็กท่ีสุด ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
การจดั บรกิ ารสาธารณะในระดับตาบลท่ีเป็นพืน้ ท่ีชนบทหรือมีความเจริญไม่มากนัก

5. กรุงเทพมหานคร มีบทบาทเหมือนกับ อบจ. และเทศบาล เน่ืองจากเป็นองค์กร
ปกครองสว่ นท้องถ่ินในระดับจังหวัด อกี ท้งั มีหนา้ ทใ่ี นการจัดบริการสาธารณะโดยตรง

เมืองพัทยา เมืองพัทยาเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ไม่ใช่ท้ังเทศบาล อบจ. หรือ
อบต. แต่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ การดาเนินงานของเมืองพัทยาคล้ายกับ
ระบบเทศบาลแต่ทว่ามี ระบบเทศบาลแบบผู้จัดการเมือง และต่อมาได้เปล่ียนเป็น นายกเมือง
พัทยา มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนในปัจจุบันตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540

ตอบคาถาม

6.ให้นักเรยี นบอกหนา้ ท่ีขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นมาพอสงั เขป
............................................................................................................................................................
...................................................................................................................... .....................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................

ตวั ชวี้ ัด ส 2.1 ป.6/1 129

กฎหมายในชวี ิตประจาวัน

ความหมายและความสาคญั ของกฎหมาย
กฎหมาย คือ ข้อบังคับทรี่ ฐั จัดทาข้ึนเพ่อื ใชใ้ นการบริหาร และบังคบั บุคคลใหป้ ฏบิ ตั ติ าม
กฎหมายจะใช้บงั คับกับบุคคลทกุ คนอยูภ่ ายในประเทศ และใชไ้ ด้ทุกเวลา ทุกสถานท่ี โดยไดก้ าหนด
วธิ ีการลงโทษท่ีชัดเจน
ความสาคัญของกฎหมาย
(1.) เพ่ือรกั ษาความสงบ เรยี บรอ้ ยในสงั คม ถา้ ไม่มีกฎหมายมาชว่ ยเหลอื จะทาให้เกิดความไร้
ระเบียบในสงั คมได้
(2.) เพื่อควบคมุ การกระทาของบุคคลในสงั คมใหอ้ ย่รู ะเบียบแบบแผนทดี่ ี
(3.) เพอ่ื รกั ษาความสะอาดของบา้ นเมือง
(4.) เพอื่ รักษาชีวิตและทรัพย์สินของ
(5.) เพอื่ รกั ษาสงิ่ เเวดลอ้ ม
สทิ ธทิ ี่ได้ตามวัยต้ังแตแ่ รกเกิดจนถึงอายุ 20 ปี
0 ปี ไดร้ บั สทิ ธิหลักประกนั สุขภาพ 30 บาท หรือ สิทธิบตั รทอง (ยกเว้นเด็กทไ่ี ด้สทิ ธิ
สวสั ดกิ ารรักษาพยาบาลข้าราชการ)
7 ปี ทาบัตรประชาชน
15 ปี สามารถทาพนิ ยั กรรมได,้ สามารถทาใบขบั ข่ีรถจกั รยานยนตส์ ่วนบุคคลชว่ั คราวได้
ต่ากว่า 18 ปี ได้รับสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ทาผิดไม่ต้องเข้าคุกแต่ต้องไปอยู่
ทีส่ ถานพินิจและค้มุ ครองเด็กและเยาวชน
18 ปี มีสิทธิเลือกตั้ง, ทาใบขับข่ีรถจักรยานยนต์และรถยนต์ได้, ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
และบุหรี่ได้, ทางานพิเศษได้หลากหลายขึ้นและสามารถแปลงเพศได้ แต่ต้องได้รับการยินยอม
จากผปู้ กครอง
17 – 19 ปี สามารถแต่งงานได้ แตต่ อ้ งได้รบั การยินยอมจากผ้ปู กครอง เมือ่ แต่งงานแลว้
จะเปน็ ผ้บู รรลุนติ ภิ าวะ
20 ปี เปน็ ผบู้ รรลนุ ิตภิ าวะ แตง่ งานและจดทะเบยี นได้ด้วยตัวเอง ทานติ ิกรรมต่างๆ ได้ดว้ ย
ตัวเอง เช่น สญั ญาซ้ือขายบ้าน ก้ยู ืมเงนิ เปน็ ต้น

ตอบคาถาม

7. สทิ ธิที่จะได้รับตามวยั ตงั้ แตแ่ รกเกิดจนถงึ 20 ปี มอี ะไรบ้าง จงยกตัวอยา่ ง
..............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................. ...............................

130

วัฒนธรรมไทย

ตวั ชี้วดั ส 2.1 ป.6/4

· วัฒนธรรม หมายถึง แบบอย่างหรือวิถีการดาเนินชีวิตของชุมชนแต่ละกลุ่ม เป็นตัวกาหนด

พฤติกรรมการอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในสังคม วัฒนธรรมแต่ละสังคมจะแตกต่างกัน ข้ึนอยู่กับปัจจัย
ทางภูมศิ าสตร์และทรัพยากรต่างๆ เช่น ภาษา กฎหมาย ศิลปะ เป็นต้น

ความสาคญั ของวัฒนธรรม
1. 1. วัฒนธรรมช่วยสร้างระเบียบให้กับสังคม โดยเป็นตัวกาหนดแบบแผนพฤติกรรมของสมาชิก

ในสังคม รวมถึงการสร้างแบบแผนของความคิด ความเชื่อ และค่านิยมของสมาชิกให้อยู่ในรูปแบบ
เดยี วกัน
2. 2. วัฒนธรรมช่วยให้เกิดความสามัคคี สังคมท่ีมีวัฒนธรรมเดียวกันย่อมจะมีความรู้สึกผูกพัน
เกดิ ความเป็นปึกแผน่ อุทศิ ตนให้กับสงั คมทาให้สงั คมอยู่รอด
3. 3. วัฒนธรรมเป็นตัวกาหนดรูปแบบของสถาบัน ได้แก่ รูปแบบของสถาบันครอบครัว ซึ่งจะเห็น
ไดว้ ่าลักษณะของครอบครัวแต่ละสงั คมต่างกนั ไป
4. 4. วัฒนธรรมเป็นเครื่องแสดงเอกลักษณ์ของชาติ ชาติที่มีวัฒนธรรมสูง ย่อมได้รับการยกย่องและ
เปน็ หลกั ประกันความม่ันคงของชาติ
5. 5. วัฒนธรรมช่วยให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า หากสังคมใดมีวัฒนธรรมท่ีดีงามเหมาะสม เช่น
ความมรี ะเบียบวินยั ขยัน อดทน เห็นประโยชน์สว่ นรวมมากกวา่ ประโยชน์สว่ นตน เปน็ ตน้
6. 6. วัฒนธรรมเป็นเคร่ืองมือในการแก้ไขปัญหา มนุษย์ไม่สามารถดารงชีวิตภายใต้สิ่งแวดล้อม
ได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นมนุษย์ต้องแสวงหาความรู้จากประสบการณ์ท่ีตนได้รับ ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิต
และถา่ ยทอดจากสมาชกิ รนุ่ หน่งึ ไปส่สู มาชิกรนุ่ ต่อไปได้

ประเภทของวฒั นธรรม
1. คติธรรม เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับหลักในการดาเนินชีวิต ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของจิตใจซึ่งได้เรียนรู้

จากศาสนา เช่น ความเมตตากรณุ า ความกตญั ญูกตเวที เปน็ ต้น
2. วัตถุธรรม เป็นวัฒนธรรมทางวัตถุ ที่สามารถจับต้องสัมผัสได้ เช่น บ้านเรือน อาหาร เคร่ืองแต่งกาย

เปน็ ต้น
3. เนติธรรม เป็นวัฒนธรรมทางกฎหมาย รวมท้ังระเบียบประเพณีที่ยอมรับนับถือ เช่น กฎหมาย

กฎกติกา ศีลธรรม จารตี ประเพณี เปน็ ตน้
4. สหธรรม เป็นวฒั นธรรมทางสงั คมทเี่ กีย่ วกับหลักการปฏิบตั ิทางสังคม รวมทงั้ มารยาทต่างๆ ในสงั คม

เชน่ มารยาทในการเขา้ สงั คม มารยาทบนโตะ๊ อาหาร เปน็ ต้น

131

ตอบคาถาม

8. วฒั นธรรมมีก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง และมีวฒั นธรรมใดบ้างท่เี กดิ การเปลีย่ นแปลงไปจากเดมิ ?
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................

132

ขอ้ มลู ข่าวสารในชีวิตประจาวัน

ตวั ชว้ี ัด ส 2.1 ป.6/5

·
ขอ้ มูลขา่ วสารในชีวิตประจาวัน
ข้อมูลข่าวสาร หมายถึง ส่ิงท่ีส่ือสารความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริงท่ีเกิดข้ึนมา ซ่ึงอาจจะ
เปน็ เรือ่ งของคน สัตว์ ส่งิ ของ สถานท่ี โดยได้จัดทาไว้ในรปู แบบเอกสาร หนงั สอื แผนผงั แผนท่ี ภาพวาด
ภาพถา่ ย ฟลิ ์ม การบันทกึ ภาพหรือเสียง หรอื การบนั ทกึ โดยเครื่องคอมพิวเตอร์
ข้อมูลข่าวสารมีความสาคัญต่อการดาเนินชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน เพราะทาให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับ
เรื่องราวต่างๆที่เกดิ ขน้ึ ทาให้คนทนั ตอ่ เหตุการณแ์ ละปรับตัวเขา้ กับสถานการณ์ต่างๆไดท้ ัน
ขอ้ มูลขา่ วสารจากแหล่งต่างๆ
แหล่งข้อมูลข่าวสาร หมายถึง สถานที่ท่ีสามารถให้ข้อมูลที่เราต้องการเพื่อนามาใช้ประโยชน์
ในการเรียน การทางาน และกิจกรรมอ่ืนๆ แหล่งท่ีมาของข้อมูลมีมากมาย เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์
ส่อื โซเชยี ลมเี ดยี เป็นตน้

ตอบคาถาม

9. ข้อมูลข่าวสาร หมายถึงอะไร
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
10. ในชวี ิตประจาวันนักเรียนรับข้อมูลข่าวสารจากทางใดบ้างและไดร้ ับประโยชน์อย่างไรบ้าง
จงยกตัวอย่าง
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

133

เฉลยแบบฝกึ หดั

1. ประชาธิปไตย หมายถึงอะไร...................................
ตอบ การที่ประชาชนผเู้ ป็นใหญ่ มีอานาจการตัดสินใจในสังคมชมุ ชนทตี่ นอาศยั ผูกพนั อยู่
2. พลเมืองดตี ามวิถีประชาธิปไตยตอ้ งยึดหลักธรรม 3 ประการได้แกอ่ ะไรบ้าง.............
ตอบ คารวธรรม สามัคคธี รรม และปญั ญาธรรม
3. นิภาต่อว่าเพอ่ื นที่ยมื ดนิ สอแล้วทาหาย แสดงวา่ นิภาไมป่ ฏิบัติตนตามวถิ ชี ีวติ ประชาธปิ ไตย
ตามความหมายใด...................
ตอบ ความโอบออมอารี
5. ถา้ ทุกคนปฏบิ ตั ิตนเปน็ พลเมอื งดตี ามวิถปี ระชาธิปไตย จะเกิดผลอยา่ งไร……………………………..
ตอบ 1. ทาให้สังคมและประเทศชาติมีการพัฒนาไปได้อย่างม่ันคง 2. ทาให้สังคมมีความเป็นระเบียบ
เรียบร้อย 3. ทาให้เกิดความรักและความสามัคคีในหมู่คณะ 4. สมาชิกในสังคมอยู่ร่วมกัน
อยา่ งมคี วามสขุ
5. นกั เรยี นเคยเลือกต้ังหรือไม่ อย่างไร และการเลอื กตั้งส่งผลต่อส่วนรวมอยา่ งไร
ตอบ เคย/ไม่เคย เชน่ การเลือกต้ัง ชมุ นุม แสดงความคดิ เหน็ เปน็ ต้น ซงึ่ ส่งผลทาให้สงั คมทตี่ นเอง
อาศัยอยเู่ กิดการพฒั นา, ทุกคนเห็นความสาคัญของการมสี ่วนร่วม
6. ใหน้ กั เรยี นบอกหนา้ ท่ีขององค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ มาพอสังเขป
ตอบ จัดทาระบบบาบัดนา้ เสีย การกาจัดขยะมูลฝอย ดูแลบารุงรกั ษาทรัพยากรธรรมชาติและ
สิง่ แวดลอ้ ม รักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ส่งเสริมการทอ่ งเที่ยว และการลงทนุ ใน
ท้องถน่ิ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในจังหวดั
7. สทิ ธิที่จะได้รับตามวัยต้งั แตแ่ รกเกดิ จนถงึ 20 ปมี อี ะไรบา้ ง จงยกตวั อย่าง…………………………..
ตอบ การทาบัตรประชาชน สิทธบิ ัตรทอง 30 บาท การทาใบขับข่รี ถจักรยานยนต์ เปน็ ต้น
8. วฒั นธรรมมีกี่ประเภท อะไรบา้ ง และมวี ัฒนธรรมใดบ้างทเ่ี กิดการเปลีย่ นแปลงไปจากเดมิ ?…
ตอบ 4 ประเภท คือ 1. คตธิ รรม 2. วตั ถธุ รรม 3. เนตธิ รรม 4. สหธรรม วัฒนธรรมทม่ี กี าร
เปล่ียนแปลงไปจากเดมิ เช่น การรับประทานอาหาร , การแตง่ กาย เป็นต้น
9. ขอ้ มูลขา่ วสาร หมายถึงอะไร.........................................
ตอบ ส่งิ ท่ีสื่อสารความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเทจ็ จริงทีเ่ กิดขึ้นมา ซ่งึ อาจจะเป็นเร่ืองของคน สตั ว์ สิง่ ของ
สถานที่ โดยไดจ้ ดั ทาไวใ้ นรูปแบบเอกสาร หนงั สือ เปน็ ตน้
10. ในชีวติ ประจาวันนักเรียนรบั ข้อมูลขา่ วสารจากทางใดบ้างและไดร้ บั ประโยชนอ์ ย่างไรบา้ งจง
ยกตัวอย่าง…………………………………
ตอบ โทรทัศน์ หนงั สือพิมพ์ สื่อโซเชยี ลมเี ดยี ซง่ึ ทาให้เรารับรู้เหตุการณต์ า่ งๆท่ีเกิดขึน้ ทั้งในประเทศ
และตา่ งประเทศซึ่งเป็นข้อมูลทม่ี ีประโยชน์ตอ่ การดาเนินชวี ิตประจาวนั ช่วยเปิดโลกทศั นข์ องตนเอง
กวา้ งขึน้ รว่ มถงึ ชว่ ยเพ่ิมพูนความรูร้ อบตวั ตนเอง

134

วิชาเศรษฐศาสตร์

บทบาทของผผู้ ลติ ตวั ช้วี ัด : ส.3.1 ป.6/1 อธิบายบทบาทของผู้ผลติ ทมี่ ีความรับผิดชอบ

ผผู้ ลิต หมายถงึ ผทู้ น่ี าทรัพยากรและปจั จัยการผลติ

ไดแก ทดี่ นิ แรงงาน ทุน มาผสมผสานกนั เพอ่ื ให้เกิดเปน็ สินคา
และบรกิ ารเพื่อสนองความต้องการและความพงึ พอใจ
ของผบู้ รโิ ภคโดยจะมีผลกาไรเป็นส่งิ ตอบแทนในการผลิต

(ท่มี า:https://drive.google.com/file/d/1Cl8lTUzYIV5-ckXFws0IX0hr_RZOnPhe/view) 1.ผผู้ ลติ คือ.......................................

.......................................................

1. บทบาทและหนาทขี่ องผผู้ ลิตในระบบเศรษฐกจิ .......................................................
........
 1.1 เป็นผู้นาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละปัจจัยการผลิต

มาแปรรปู หรอื เพ่มิ มูลคา่ ทาใหเ้ กิดสินค้าและบริการขนึ้ มา
 1.2 เป็นผู้ตดั สนิ ใจวา่ จะผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารชนิดใด ผลิตอย่างไร และจะนาไปจาหนา่ ยให้กับใคร
 1.3 เป็นผู้ดาเนนิ การให้เกิดสินคา้ และบริการ
 1.4 เป็นผู้กระจายสินคาจากแหล่งผลติ ไปสูผู้บริโภคเพอ่ื ให้ไดรบั ความสะดวกสบายในการซ้อื ขาย

สนิ คา้ และบริการ (ทีม่ า:https://drive.google.com/file/d/1Cl8lTUzYIV5-ckXFws0IX0hr_RZOnPhe/view)

2.บทบาทหนา้ ทขี่ องผู้ผลติ ในระบบเศรษฐกจิ มีอะไรบ้าง? ยกตัวอยา่ งมา 2 ข้อ

..................................................................................................................
...................................................................................................................
.........

135

2. ความสาคญั ของผผู้ ลติ ทม่ี คี ุณภาพ

ปญั หาที่เกิดขนึ้ กับผู้ผลิตปัจจบุ ัน คือ การขาดแคลนทรัพยากรที่เป็นปัจจัยในการผลิต ทาให้
ผลิตสินค้าไดน้อยลง นอกจากน้ี สภาพสังคมในปัจจุบันเป็นแบบผู้บริโภคเป็นผู้กาหนด คือ ผู้บริโภค
สินค้าจะเป็นผู้กาหนดว่าสินค้าใดควรซ้ือและไม่ควรซ้ือ จึงส่งผลต่อผู้ผลิตว่าจะผลิตสินค้านั้นหรือไม่
ปัจจยั สาคญั ทที่ าใหผ้ บู้ รโิ ภคเลือกซ้ือสนิ คา้ ใดน้ัน คือ คุณภาพของสนิ ค้าและบริการ

ดังนั้น การท่ีผู้ผลิตจะสามารถจะขายสินค้าและบริการไดเป็นระยะเวลายาวนานเป็นที่น่าเชื่อถือ
ข อ งผู้ บ ริโภ ค นั้ น ผู้ ผ ลิ ต จึ งจ าเป็ น ต้ อ งผ ลิ ต สิ น ค้ าที่ มี คุ ณ ภ าพ แ ล ะ มี ค วาม ซ่ื อ สั ต ย์ ต่ อ
ผบู้ ริโภค (ทีม่ า:https://drive.google.com/file/d/1Cl8lTUzYIV5-ckXFws0IX0hr_RZOnPhe/view)

3.ปัจจยั ทสี่ าคัญทผ่ี ู้บรโิ ภคเลอื กซื้อสนิ ค้าน้ันคือ.....................................................
......................................................................................................... ....................
.............................................................................................................. ................................................................

136

3. บทบาทของผู้ผลิตทคี่ ณุ ภาพ

บทบาทของผู้ผลิตที่มีคุณภาพ คือ ผู้ผลิตจะต้องมีคุณธรรมในการดาเนินการผลิตสินค้าและ
บริการโดยต้อง มีความรับผิดชอบหรือคานึงถึงผลประโยชนของผู้บริโภคพึงจะไดรับความปลอดภัย
ของผู้บริโภค และคานึงถึง ส่ิงแวดล้อมด้วยการไม่ทาลายส่ิงแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ดังนน้ั ผผู้ ลติ ท่ีมคี ณุ ภาพจึงต้องมคี ณุ ธรรม ดังน้ี

3.1 คานงึ ถึงสิ่งแวดลอ้ ม เช่น ผู้ผลติ สนิ คา้ ท่ีทาจากไม่ควรปลกู ปา่ ทดแทนไม่ท่ีนาไปใช้
3.2 มคี วามซ้อื สตั ยต์ ่อผู้บริโภค เช่น ในการชงั่ การตวง การวดั หรอื การกาหนดราคาสินคา้ และ
การบริการตอ้ งมีความซ่อื สัตยไ์ ม่คดิ เอาเปรยี บลูกคา้ เพราะจะทาให้ผบู้ รโิ ภคเกดิ ความไววางใจใน
สนิ ค้าและทรพั ยากร
3.3 มีจิตสานกึ ทดี่ ีในการผลติ สินคา้ และบริการ เช่น ผผู้ ลิตอาหารไม่ใชส้ ารสังเคราะห สารเน้ือแดง
สารกันบูด กนั รา สารฟอกสี หรือการใช้สีผสมอาหาร ซ่ึงจะทาให้เกิดอนั ตรายต่อผบู้ รโิ ภค
3.4 มจี รรยาบรรณและรับผิดชอบต่อสงั คมสว่ นรวม เช่น ไม่โฆษณาสนิ ค้าและบรกิ ารเกนิ
ความเปน็ จรงิ ไม่ปลอมปนสินคา ไม่จาหน่ายสนิ คทห่ี มดอายุ
3.5 มีการวางแผนก่อนเรม่ิ ลงมือทากจิ กรรมทางเศรษฐกิจ ก่อนผลิตสินคา้ และบริการ ผผู้ ลติ ทมี่ ี
คณุ ภาพจะตอ้ งศกึ ษา สารวจ วจิ ัย ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคก่อนเสมอ เพ่ือให้สอดคลองกบั ความ
ต้องการของผบู้ รโิ ภคทเ่ี ป็นเปา้ หมาย ทาให้ลดความเสยี่ งของการขายสินค้าไม่ได

(ทีม่ า:https://drive.google.com/file/d/1Cl8lTUzYIV5-ckXFws0IX0hr_RZOnPhe/view)

137

5. ผู้ผลิตทม่ี ีคณุ ภาพควรมีลกั ษณะอยา่ งไร

1) ผลติ สินค้าเพยี งพอกบั จานวนผ้บู ริโภค 2) ลดราคาสนิ ค้าท่ีใกลห้ มดอายใุ ห้แกผ่ บู้ ริโภค
3) เพม่ิ ราคาของสนิ ค้าเมื่อสินคา้ มีจานวนน้อยลง 4) ใชว้ ตั ถุดบิ ที่มคี ุณภาพผลิตสนิ ค้าและต้ังราคาทเ่ี หมาะสม

138

4. ประโยชนของการผลิตสินคาและบรกิ ารทม่ี ีคณุ ภาพ

การผลิตสินคา้ และบรกิ ารที่มคี ณุ ภาพ
จะทาใหเ้ กิดประโยชนตอ่ ผผู้ ลิตและผบู้ รโิ ภค ดังน้ี

4.1 ทาใหผ้ บู้ ริโภคไดรับสนิ คา้ และบรกิ ารทด่ี ี มปี ระโยชนและเหมาะสมกับเงินท่ีจ่ายไป
4.2 ทาใหผ้ บู้ รโิ ภคมคี วามปลอดภยั ในชีวติ และร่างกาย
4.3 ทาใหผ้ บู้ รโิ ภคเกิดความเชื่อถอื ขายสนิ คา้ ไดน้ านโดยไม่มีความเสี่ยง
4.4 ทาใหม้ ที รพั ยากรในการผลติ ต่อไปอย่างยง้ั ยนื
4.5 ช่วยพัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานของสนิ ค้าและบรกิ ารใหด้ ียิ่งขน้ึ

(ที่มา:https://drive.google.com/file/d/1Cl8lTUzYIV5-ckXFws0IX0hr_RZOnPhe/view)

นกั เรียนคิดว่าการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมปี ระโยชนห์ รอื ไม?่

อย่างไร?................................................................................................................
...........................................................................................................................
....................................................................................................................

139

7. การเลือกซอื้ สนิ คา้ ในขอ้ ใดเหมาะสมทสี่ ดุ

1) สนิ ค้าทใี่ ช้วสั ดคุ ุณภาพตา่ ในการผลติ 2) สินคา้ ทมี่ ีราคาแพง มีผู้ต้องการน้อย
3) สินคา้ ทม่ี ีคุณภาพเหมาะสมกบั ราคา 4) สนิ ค้าทมี่ ผี ู้ต้องการจานวนมาก

8. ขอ้ ใดคอื การปฏบิ ัติตนเปน็ ผบู้ ริโภคที่ดี

1) ไม่ซ้ือสินคา้ ทมี่ ีราคาแพง 2) อา่ นฉลากสนิ คา้ ก่อนซือ้ ทุกครั้ง
3) ซอ้ื สินค้าครงั้ ละจานวนมาก ๆ 4) เลอื กซ้ือเฉพาะสินค้าทม่ี ีสสี นั สวยงาม

9. การผลิตที่มคี ุณภาพมีประโยชน์อยา่ งไร

1) ราคาสนิ คา้ และบริการลดลง 2) ผู้ผลิตจาหนา่ ยสนิ คา้ ได้นอ้ ยลง
3) ผู้บรโิ ภคมีรายไดเ้ พิม่ มากข้ึน 4) ผู้บริโภคมคี วามตอ้ งการสนิ ค้าเพ่มิ มากข้ึน

1๐. ผบู้ รโิ ภคท่ีดีควรเลือกซอ้ื สินค้าในข้อใด

1) ซอ้ื ตามสมยั นิยม 2) ซอ้ื ตามทผ่ี ู้อืน่ บอก

3) ซอื้ ตามคาโฆษณาจากส่ือ 4) ซอ้ื ตามความจาเป็นในการใชง้ าน

ตอบคำถำมกันเสร็จแล้วนักเรยี น ลองดูเฉลยหน้ำถัดไปครบั

140

1.ผ้ผู ลิต คอื .... ตอบ หมายถึง ผู้ที่นาทรัพยากรและปัจจัยการผลิต ไดแก ทด่ี ิน แรงงาน ทนุ มาผสมผสานกนั
เพ่อื ให้เกิดเป็นสินคา และบริการเพ่ือสนองความต้องการและความพงึ พอใจของผู้บริโภคโดยจะมผี ลกาไรเป็นสง่ิ
ตอบแทนในการผลติ
2.บทบาทหน้าทข่ี องผู้ผลิตในระบบเศรษฐกิจมีอะไรบา้ ง? ยกตวั อยา่ งมา 2 ข้อ
ตอบ 1.1 เป็นผู้ทรัพยากรธรรมชาติและปัจจัยการผลิตมาแปรรปู หรือเพ่ิมมลู ค่าทาให้เกิดสนิ คา้ และบริการข้ึนมา
1.2 เป็นผู้ตดั สนิ ใจวา่ จะผลติ สินค้าและบริการชนิดใด ผลติ อย่างไร และจะนาไปจาหน่ายให้กับใคร
1.3 เป็นผู้ดาเนินการให้เกิดสนิ คา้ และบริการ
1.4 เป็นผู้กระจายสินคาจากแหล่งผลิตไปสูผู้บรโิ ภคเพอื่ ให้ไดรบั ความสะดวกสบายในการซอื้ ขาย
สนิ คา้ และบริการ
3.ปจั จัยทสี่ าคัญทผ่ี ู้บรโิ ภคเลอื กซ้ือสนิ ค้านัน้ คอื ..ตอบ คณุ ภาพของสนิ คาและบริการ
4.การผลติ ทม่ี คี ุณภาพมีประโยชน์อย่างไร ตอบ 4) ผู้บรโิ ภคมีความต้องการสนิ ค้าเพ่ิมมากข้นึ
5.ผู้ผลิตทมี่ ีคณุ ภาพควรมลี กั ษณะอยา่ งไร ตอบ 4) ใชว้ ัตถุดิบทม่ี คี ุณภาพผลติ สินคา้ และตั้งราคาทเี่ หมาะสม
6.นักเรยี นคดิ วา่ การผลิตสินค้าทมี่ คี ุณภาพมปี ระโยชนห์ รือไม?่ อยา่ งไร? ตอบ 4.1 ทาให้ผู้บริโภคไดรบั สนิ คา้
และบรกิ ารทดี่ ี มีประโยชนและเหมาะสมกบั เงนิ ท่ีจ่ายไป4.2 ทาให้ผู้บรโิ ภคมีความปลอดภัยในชวี ิตและรา่ งกาย
4.3 ทาให้ผู้บริโภคเกดิ ความเชอ่ื ถอื ขายสินค้าไดน้ านโดยไม่มีความเสย่ี ง เป็นตน้
7. การเลอื กซ้ือสินค้าในข้อใดเหมาะสมทสี่ ดุ ตอบ 3) สนิ คา้ ทมี่ ีคณุ ภาพเหมาะสมกับราคา
8. ข้อใดคือการปฏิบตั ติ นเป็นผู้บรโิ ภคที่ดี ตอบ 2) อ่านฉลากสินคา้ ก่อนซื้อทุกรั้ง
9. การผลติ ทม่ี ีคณุ ภาพมีประโยชน์อยา่ งไร ตอบ4) ผู้บรโิ ภคมคี วามต้องการสินคา้ เพิ่มมากขน้ึ
10. ผู้บรโิ ภคทีด่ ีควรเลือกซื้อสินคา้ ในข้อใด ตอบ 4) ซอื้ ตามความจาเป็นในการใชง้ าน

141

เรื่อง สทิ ธิพน้ื ฐานและบทบาทของผูบ้ รโิ ภค

ตวั ชว้ี ัด: ส.3.1 ป.6/2 อธิบายบทบาทของผู้บริโภคท่รี ูเ้ ท่าทัน

การคมุ้ ครองผู้บริโภค

ในการผลิตสินค้าและบริการ เป้าหมายของผู้ผลิตหรือผู้ขายไมสอดคลองกับเป้าหมายของผู้บริโภค กล่าวคือ
เป้าหมายของผู้ผลิต คือ ตองการลดต้นทุนการผลิตและให้ได้กาไรสูงท่ีสุดจากการขายสินค้าและบริการน้ันๆ ส่วน
เป้าหมายของผู้บริโภค คือ ความพึงพอใจในประโยชน ประหยัด คุ้มค้าเงิน และความปลอดภัยจากการบริโภคสินค้า
และบริการท่ีตนเองซ้ือหามาใช้ให้มากที่สุด ดังนั้นเพื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจ
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคไดรับความเดือดร้อนจากการซื้อสินค้าและบริการท่ีไม่เป็นธรรม
จึงต้องมีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคและสถาบันคุ้มครองผู้บรโิ ภคโดยมีเป้าหมายในการคุ้มครองผู้บริโภคดังนี้
๑. เพ่อื ใหผ้ ู้บรโิ ภคไดรบั ความเป็นธรรม
๒. เพ่อื ใหผ้ ู้บรโิ ภคไดรบั ความปลอดภัย

๓. เพ่ือใหผ้ ู้บริโภคไดรบั ความประหยัด (ทมี่ า:https://drive.google.com/file/d/1Cl8lTUzYIV5-ckXFws0IX0hr_RZOnPhe/view)

1.เป้าหมายในการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค คือ........................................

..................................................................................................................
...................................................................................................................
....................................................................................................................

142

สิทธิพ้ืนฐานของผูบริโภค

พระราชบญั ญตั ิคคุ รองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ซง่ึ แกไขเพิ่มเตมิ โดย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๐ ไดบ้ ญั ญัติสทิ ธขิ องผู้
บริโภคที่จะได้รบั ความคุ้มครองตามกฎหมาย ๕ ประการ
๑. สิทธิท่ีจะได้รับข่าวสารรวมท้ังคาพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินคาหรือบริการสิทธิดังกลว หมายถึง
สิทธิที่จะได้รับการโฆษณาหรือการแสดงฉลากตามความเป็นจริงและปราศจากพิษภัยแก่ผู้บริโภค รวมถึงสิทธิท่ีจะได้
รับทราบข้อมูลเก่ียวกับสินค้าหรือบริการอย่างถูกต้องและ เพียงพอท่ีจะไม่หลงผิดในการซ้ือสินคาหรือรับบริการโดยไม่เป็น
ธรรม
๒. สิทธทิ ่จี ะมอี ิสระในการเลือกหาสินค้าหรอื บริการ สิทธดิ ังกล่าว หมายถึง สทิ ธทิ จ่ี ะเลอื กซื้อสินค้าหรอื รับบริการโดยความ
สมัครใจของผู้บริโภค และปราศจากการชกั จงู ใจอนั ไม่เป็นธรรม
๓. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจาก การใช้สินค้าหรือบริการ สิทธิดังกล่าว หมายถึง สิทธิท่ีจะไดรับ สินค้าหรือบริการท่ี
ปลอดภัย มสี ภาพและคณุ ภาพได้มาตรฐานเหมาะสมแก่การใชไ้ มก่ ่อให้เกิดอันตราย ตอ่ ชวี ิตร่างกายหรอื ทรัพย์สิน ในกรณี
ใช้ตามคาแนะนาหรือระมดั ระวงั ตามสภาพของสินคาหรือบริการนั้น
๔. สทิ ธทิ จ่ี ะได้รบั ความเป็นธรรมในการทาสัญญา สิทธดิ ังกล่าว หมายถงึ สทิ ธิท่จี ะได้รับขอสัญญาโดยไม่ถูกเอารดั เอาเปรยี บ
จากผู้ประกอบธุรกิจ
๕. สทิ ธิที่จะไดรับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย สทิ ธดิ ังกล่าว หมายถึง สทิ ธทิ ่จี ะได้รบั การคุ้มครองและชดใช้ค่า
เสยี หาย เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บรโิ ภค (ทม่ี า:https://drive.google.com/file/d/1Cl8lTUzYIV5-ckXFws0IX0hr_RZOnPhe/view)

143

144

การใชท้ รัพยากรอยา่ งย่งั ยืน

ตัวชีว้ ดั ส.3.1 ป.6/3 บอกวธิ แี ละประโยชนข์ องการใช้ทรพั ยากรอยา่ งย่ังยืน

หลกั การใชท้ รัพยากรของผผู้ ลติ
1. วางแผนการผลติ อย่างรอบคอบ
2. ลดการเกดิ ปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมใหไ้ ดม้ ากทสี่ ดุ
3. เลือกใช้ทรพั ยากรทมี่ อี ยูใ่ นทอ้ งถนิ่ ของตนในการผลิต
4. ใช้ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นในการผลติ สนิ ค้าและบรกิ าร
5. วางแผนการใช้ทรัพยากรโดยใช้เทคนิคและวิชาการ

(ท่มี า:https://drive.google.com/file/d/1Cl8lTUzYIV5-ckXFws0IX0hr_RZOnPhe/view)

1.หลกั การใชท้ รัพยากรของผู้ผลิต....................
..................................................................................................................
...................................................................................................................
....................................................................................................................
.....

145

หลกั การใช้ทรพั ยากรของผูบ้ ริโภค
1. ต้องใช้สินค้าและบริการอย่างฉลาด เพอื่ ชว่ ยลดการสญู เสียทรัพยากร เชน่ ควรใช้สินค้าตามความ
จาเปน็ มากกว่าใชส้ นิ ค้าตามความต้องการเลือกใชส้ นิ ค้าท่ีมีคณุ ภาพดแี ละมีมาตรฐานเพือ่ จะไดม้ อี ายุ
การใชง้ านได้นาน เปน็ ต้น
2. ตอ้ งใชส้ นิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งประหยัด สินค้าชน้ิ ใดที่ยงั อย่ใู นสภาพดี ก็ควรนากลบั มาใช้ประโยชน์
ใหมเ่ ช่น เสือ้ ผา้ ชดุ เกา่ อาจนามาทาเป็นผ้าเชด็ มอื หรือผา้ ขีร้ ว้ิ เป็นต้น

(ท่มี า:https://drive.google.com/file/d/1Cl8lTUzYIV5-ckXFws0IX0hr_RZOnPhe/view)

2.หลกั การใช้ทรพั ยากรของผบู้ รโิ ภค.......................................
..................................................................................................................
..................................................................................................................
....................................................................................................................
.....


Click to View FlipBook Version