-- 1 --
คำนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน ได้ให้ควำมสำคัญกับกำรพัฒนำกำรเรียนกำรสอนภำษำไทย
มำอย่ำงต่อเน่ือง ด้วยภำษำไทยเป็นเอกลักษณ์ของชำติ เป็นสมบัติทำงวัฒนธรรม เป็นเคร่ืองมือในกำรติดต่อส่ือสำร
เพ่ือสรำ้ งควำมเข้ำใจและควำมสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รวมท้ังเป็นเคร่ืองมือในกำรแสวงหำควำมรู้ ประสบกำรณ์ รวมท้ังเป็นส่ือ
แสดงภูมิปัญญำของบรรพบุรุษไทย ซ่ึงควรค่ำแก่กำรเรียนรู้ อนุรักษ์ และสืบสำนให้คงอยู่ต่อไป ตลอดระยะเวลำหลำยปี
ที่ผ่ำนมำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ในฐำนะท่ีเป็นหน่วยงำนหลักในกำรจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน
ได้ดำเนินกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำกำรเรียนกำรสอนภำษำไทยอย่ำงจรงิ จังและต่อเน่อื ง เพ่ือมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีควำมรู้ควำมสำมำรถ
ในเร่อื งของกำรอ่ำนเพอื่ กำรสอ่ื สำรทง้ั ในระดบั ของกำรอ่ำนออกไปจนถึงกำรอำ่ นเชิงวเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ลและสรำ้ งสรรค์
โดยเฉพำะ กำรอ่ำนและกำรวิเครำะห์งำนเขียนประเภทต่ำง ๆ จำกทั้งส่ือส่ิงพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนับเป็นปัจจัย
ท่ีมีควำมสำคัญยิ่งต่อควำมสำเร็จในกำรเรียน กำรศึกษำต่อ และกำรประกอบอำชีพ และยังเป็นปัจจัยสำคัญท่ีจะช่วยให้ทุกคน
สำมำรถดำรงชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบันและอนำคตได้อย่ำงรู้เท่ำทัน และสำมำรถพัฒนำตนเองได้เต็มศักยภำพ สำมำรถมีส่วนร่วม
และเป็นสมำชิกในสังคมแห่งกำรเรียนรู้ได้อย่ำงสมบูรณ์และนำไปสู่กำรขับเคลื่อนและพัฒนำเศรษฐกิจของตนเอง ของชุมชน
ของประเทศ และของโลกโดยรวมได้อย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ
สำหรับในปีกำรศึกษำ 2564 - 2565 น้ี สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน ได้ดำเนินกำร “โครงกำร
พัฒนำสมรรถนะกำรอ่ำนข้ันสงู สำหรับนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษำตอนต้น” ข้ึน โดยจดั ใหม้ กี ำรพัฒนำบุคลำกรแกนนำดำ้ นกำรพัฒนำ
สมรรถนะกำรอ่ำนข้ันสูงระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำ ประกอบด้วย ศึกษำนิเทศก์ที่รับผิดชอบงำนภำษำไทยและครูผู้สอนภำษำไทย
ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 เพ่ือเป็นวิทยำกรแกนนำในกำรทำหน้ำที่พฒั นำครูผู้สอนของสถำนศึกษำในสังกดั ใหม้ ีควำมรู้ควำมเข้ำใจ
เกย่ี วกบั กำรพัฒนำสมรรถนะกำรอ่ำนข้ันสูง และสำมำรถนำไปใชใ้ นกำรออกแบบกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน กำรนิเทศ ติดตำม
และประเมินผลเพ่ือพัฒนำคุณภำพด้ำนสมรรถนะกำรอ่ำนข้ันสูงของผู้เรียน ท้ังน้ีเอกสำร “กำรฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนำสมรรถนะ
กำรอ่ำนข้ันสูงสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำตอนต้น” นี้ ได้จัดทำเป็น 3 เล่ม คือ 1) คู่มือฝึกอบรมพัฒนำสมรรถนะกำรอ่ำนข้ันสูง
สำหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษำตอนตน้ 2) แบบฝกึ ชวนคิดสำหรับพัฒนำสมรรถนะกำรอ่ำนขั้นสูงสำหรับนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษำตอนต้น
(ฉบับครูผู้สอน) และ 3) แบบฝึกชวนคิดสำหรับพัฒนำสมรรถนะกำรอ่ำนข้ันสูงสำหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษำตอนต้น (ฉบับนกั เรียน)
หวังว่ำเอกสำรดังกล่ำวนี้จะเป็นเคร่ืองมือสำคัญในกำรสนับสนุนกำรดำเนินงำนของสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำในกำรพัฒนำสมรรถนะ
กำรอ่ำนขนั้ สูงใหก้ บั นกั เรียนไดอ้ ยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพต่อไป
ในโอกำสน้ี ขอขอบคุณสถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สถำบันทดสอบทำงกำรศึกษำแห่งชำติ
(องคก์ ำรมหำชน) ทีก่ รุณำมอบข้อสอบสำหรับนำมำใช้ประกอบกำรพัฒนำสมรรถนะกำรอ่ำนขั้นสูง และคณะผจู้ ัดทำทุกท่ำน
ที่มีส่วนช่วยให้เอกสำรชุดน้ีสำเร็จได้ตำมวัตถุประสงค์ และขอเป็นกำลังใจให้ศึกษำนิเทศก์และครูผู้สอนทุกท่ำน
ในกำรดำเนินงำนพัฒนำสมรรถนะกำรอำ่ นของนกั เรยี นให้ประสบผลสำเร็จตอ่ ไป
(นำยอัมพร พนิ ะสำ)
เลขำธกิ ำรคณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั พนื้ ฐำน
-- 2 --
สำรบัญ
บทนำ .............................................................................................................................................................................................. หน้ำ
บทอ่ำน .................................................................................................................................................................. 1
2
ลำดบั ท่ี 1 ทะเลสำบชำด ......................................................................................................................... 2
ลำดบั ท่ี 2 ไขห้ วัด .................................................................................................................................... 4
ลำดับท่ี 3 รอยพ่นสีบนกำแพง ................................................................................................................ 6
ลำดบั ท่ี 4 แรงงำน ................................................................................................................................... 8
ลำดับที่ 5 อำวุธวทิ ยำศำสตรข์ องตำรวจ ................................................................................................. 11
ลำดับท่ี 6 สบำย ๆ กบั รองเท้ำสำหรบั ว่งิ ................................................................................................ 14
ลำดับที่ 7 มำซอนโด ................................................................................................................................ 16
ลำดบั ที่ 8 ปำ้ ยประกำศในซปุ เปอรม์ ำร์เกต็ ............................................................................................. 17
ลำดับที่ 9 มอเตอรไ์ ซค์ ............................................................................................................................ 19
ลำดับที่ 10 กำรแปรงฟนั ของคุณ ........................................................................................................... 20
ลำดบั ท่ี 11 บอลลูน ................................................................................................................................ 21
ลำดับท่ี 12 ตกึ สูง ................................................................................................................................... 23
ลำดับท่ี 13 ประกำศเร่อื งกำรบรจิ ำคโลหติ ............................................................................................. 25
ลำดบั ท่ี 14 คนข้เี หนยี วกบั ทองคำ .......................................................................................................... 26
ลำดับท่ี 15 ประชำธปิ ไตยในเอเธนส์ ....................................................................................................... 27
ลำดับที่ 16 ปลำยทำงทบี่ ัวโนส ไอเรส .................................................................................................... 29
ลำดับที่ 17 เส้นทำงเดนิ สำรวจในแอฟรกิ ำ ............................................................................................. 31
ลำดับที่ 18 ควำมปลอดภยั ของโทรศัพท์มือถือ ....................................................................................... 33
ลำดบั ที่ 19 จุดหนง่ึ นัน้ ของละครเวที ...................................................................................................... 37
ลำดับท่ี 20 กำรทำงำนทำงไกล ............................................................................................................... 40
ลำดับที่ 21 เทคโนโลยีทำใหจ้ ำเป็นตอ้ งมกี ฎใหม่ .................................................................................... 41
ลำดับที่ 22 แผนผังหอ้ งสมุด ................................................................................................................... 43
ลำดบั ที่ 23 รถไฟใตด้ ิน ........................................................................................................................... 44
ลำดบั ท่ี 24 กระดำนสนทนำเรื่องไก่ ....................................................................................................... 45
ลำดับท่ี 25 รำปำนยุ .............................................................................................................................. 48
ลำดบั ท่ี 26 นมววั .................................................................................................................................. 51
บรรณำนกุ รม ........................................................................................................................................................ 54
คณะผู้จดั ทำ ........................................................................................................................................................... 55
-- 3 --
บทนำ
แบบฝึกชวนคิดสำหรับกำรพัฒนำสมรรถนะกำรอ่ำนข้ันสูงสำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำตอนต้น
(ฉบับนักเรียน) น้ี เป็นข้อสอบกำรอ่ำน โดยได้นำข้อสอบจำกระบบออนไลน์ข้อสอบ PISA ที่ได้รับอนุญำต
ให้เผยแพร่ (https://pisaitems.ipst.ac.th/quiz_reading) จำนวน 26 บทอ่ำน 120 ข้อ ซ่ึงนักเรียน
สำมำรถใช้วธิ ีกำร “บันได 6 ข้นั สู่ควำมสำเร็จในกำรอ่ำนจับใจควำมสำคัญ” ซึง่ ประกอบด้วย 1) อ่ำนเรื่องให้จบ
แล้วตั้งคำถำม 2) หำคำสำคัญ 3) ตัดส่วนขยำยใจควำมสำคัญ 4) เติมคำเช่ือมหำส่วนขยำยใจควำมสำคัญ
5) สังเกตคำเช่ือมแสดงควำมขัดแย้ง และ 6) หำใจควำมสำคัญไดท้ ุกบทอ่ำนท่ีได้เรียนรู้มำแล้ว เพื่อนำไปสู่
คำตอบของข้อสอบแตล่ ะข้อ
-- 1 --
บทอำ่ น
ลำดบั ท่ี 1 ทะเลสำบชำด
รปู ท่ี 1 แสดงกำรเปลี่ยนแปลงระดบั น้ำของทะเลสำบชำด ในซำฮำรำ อัฟริกำเหนอื ทะเลสำบชำด
สูญหำยไร้ร่องรอย ประมำณ 20,000 ปีก่อนคริสตศักรำช (20,000 BC) ช่วงปลำยยุคน้ำแข็ง
และประมำณ 11,000 ปีก่อน คริสตศักรำช (11,000 BC) ทะเลสำบนี้ปรำกฏขึ้นมำอีกครั้ง ปัจจุบัน
ระดบั นำ้ ของทะเลสำบมรี ะดบั เดยี วกบั เม่ือปี ค.ศ.1000 (AD 1,000)
-2-
คำถำมท่ี 1 ปจั จุบันทะเลสำบชำด ลกึ เทำ่ ไร
1. ประมำณ 2 เมตร
2. ประมำณ 15 เมตร
3. ประมำณ 50 เมตร
4. สำบสญู ไปแล้ว
5. ขอ้ มูลไม่ได้ระบุ
คำถำมที่ 2 ประมำณปใี ด ท่ีกรำฟในรูปท่ี 1 เร่ิมต้น
คำถำมท่ี 3 ทำไมผู้เขียนจงึ เลอื กทจ่ี ะเร่ิมต้นกรำฟ ณ จุดนี้?
คำถำมที่ 4 รปู ที่ 2 ตั้งอยู่บนพ้ืนฐำนท่ีถือว่ำ
1. สัตวต์ ำ่ ง ๆ ในศิลปะบนหิน คือ สตั ว์ทม่ี อี ยูใ่ นพ้นื ท่ีนนั้ ในเวลำท่ีมกี ำรวำดภำพนนั้ ๆ
2. ศิลปินที่วำดสัตว์มีทักษะสูงมำก
3. ศลิ ปินทีว่ ำดรูปสตั วเ์ ป็นผเู้ ดินทำงท่องเที่ยวไปได้ในโลกกวำ้ งอย่ำงทว่ั ถึง
4. ไมไ่ ด้มีควำมพยำยำมทจ่ี ะนำสตั ว์ทว่ี ำดในภำพเหล่ำน้นั มำเปน็ สตั วเ์ ลี้ยง
คำถำมท่ี 5 กำรสำบสญู ของแรด ฮิปโปโปเตมัสและวัวป่ำ ในภำพศลิ ปะบนหนิ แห่งซำฮำรำ เกดิ ขึ้นเม่อื ใด
1. ตอนเริ่มตน้ ของยุคน้ำแข็งซ่ึงใกลก้ ับยุคปจั จุบนั ท่ีสดุ
2. ช่วงกลำงของยคุ เม่ือทะเลสำบชำดมีระดบั สงู สุด
3. หลังจำกระดับของทะเลสำบชำดต่ำลงนำนกวำ่ พนั ปี
4. เมอ่ื ตอนต้นของช่วงเวลำท่ีทะเลสำบแหง้ ไป
-3-
ลำดับท่ี 2 ไขห้ วดั
โครงกำรให้พนักงำนสมัครใจสรำ้ งภูมิคุ้มกนั ไขห้ วัด ของบรษิ ัททองไท
เรำทรำบกันดวี ำ่ ไข้หวัดตดิ ต่อไดง้ ่ำย และรุนแรงในฤดูหนำว ทำให้ผปู้ ว่ ยหำยยำก
วิธีท่ีดีที่สุดในกำรต้ำนไวรัสไข้หวัด คือ ทำให้ร่ำงกำยแข็งแรงและมีสุขภำพดี กำรออกกำลังกำย ทุกวัน
และกำรกินอำหำรที่มีประโยชน์ที่มีผักและผลไม้มำก ๆ จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่ำงกำยสำมำรถต่ อสู้
และป้องกนั กำรคกุ คำมของไวรสั ชนิดนไี้ ด้
ทองไทตัดสินใจเปิดโอกำสให้พนักงำนทุกคนได้รับภูมิคุ้มกัน เพ่ือเป็นอีกวิธีหน่ึงท่ีใช้ป้องกันกำรแพร่กระจำย
ของเชื้อไวรัสระหว่ำงบุคคล ทองไทจัดพยำบำลมำฉีดวัคซีนให้ท่ีบริษัทในช่วงคร่ึงวันของเวลำทำกำร
ของสัปดำหท์ ี่เร่มิ จำกวนั ท่ี 17 พฤษภำคม โครงกำรนเี้ ปน็ บริกำรฟรแี กพ่ นกั งำนทกุ คน
โครงกำรนี้เป็นโครงกำรตำมควำมสมัครใจ พนักงำนท่ีเข้ำร่วมโครงกำรต้องลงช่ือแสดงควำมยินยอม เพ่ือแสดงว่ำ
ไม่เป็นภูมิแพ้ และแจง้ ใหท้ รำบว่ำกำรฉีดวัคซีนคร้งั น้อี ำจเกดิ ผลข้ำงเคียงบ้ำงเล็กน้อย
คำแนะนำทำงกำรแพทย์ระบุว่ำ กำรให้ภูมิคุ้มกันน้ีไม่ทำให้เป็นไข้หวัดใหญ่ อย่ำงไรก็ตำม อำจเกิดผลข้ำงเคียงบ้ำง
เช่น เม่อื ยลำ้ มไี ข้เล็กน้อย และแขนไม่มกี ำลัง
ใครควรไดร้ บั ภมู ิคมุ้ กนั ?
ผู้ท่สี นใจป้องกันตนเองจำกเช้อื ไวรัส
โดยเฉพำะผ้สุ งู อำยุที่มีอำยุมำกกว่ำ 65 ปีขึ้นไป แนะนำให้สรำ้ งภูมิคุ้มกัน
ยกเว้นผู้ใดก็ตำมท่ีเป็นโรคเร้ือรังที่ทำให้สุขภำพอ่อนแอ โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงคนท่ีเป็นโรคหัวใจ หลอดลมอักเสบ
หรือเบำหวำน
ไมว่ ่ำ อำยเุ ทำ่ ใด ในสภำพแวดล้อมท่ีทำงำน ทุกคนเสยี่ งต่อกำรตดิ เช้ือหวดั
ใครไมค่ วรได้รบั ภมู ิคมุ้ กัน?
ผู้ที่แพ้อำหำรประเภทไข่ คนที่เป็นไข้ตัวร้อนเฉียบพลัน และสตรีมีครรภ์ โปรดปรึกษำแพทย์ หำกท่ำน
กำลงั อยู่ในระหว่ำงกำรบำบดั ด้วยยำใด ๆ หรอื เคยมีปฏิกริ ิยำตอ่ กำรฉดี ยำแก้หวัดมำก่อน
ถ้ำท่ำนต้องกำรได้รับภูมิคุ้มกัน ในสัปดำห์ท่ีเร่ิมจำกวันท่ี 17 พฤษภำคม โปรดแจ้งฝ่ำยบุคคล ท่ีคุณวีนัส
รื่นรมย์ ภำยในวันศุกร์ท่ี 7 พฤษภำคม กำรนัดวันเวลำจะทำตำมช่วงท่ีพยำบำลว่ำง จำนวนคนท่ีต้องกำร
รับภมู ิคุ้มกัน และเวลำที่พนักงำนส่วนใหญ่สะดวก อยำ่ งไรก็ตำมถ้ำท่ำนต้องกำรไดร้ ับภูมคิ ุ้มกนั สำหรับฤดหู นำวนี้
แตไ่ มส่ ะดวกในวันที่กำหนด โปรดแจง้ คณุ วนี ัส เพอ่ื จะไดจ้ ดั วนั และเวลำอน่ื แทน ถำ้ มีผเู้ ข้ำรว่ มจำนวนมำกพอ
ถ้ำท่ำนตอ้ งกำรทรำบรำยละเอียดเพิม่ เติม โปรดติดต่อคุณวีนัส ตอ่ 5577
วนี ัส ร่นื รมย์ เจ้ำหนำ้ ทีฝ่ ่ำยบคุ คลของบรษิ ทั ทองไท เตรยี มใบปลิวข้อมลู 2 หนำ้ ดังกล่ำว สำหรับพนักงำนบริษัท
-4-
คำถำมท่ี 1 ข้อใดต่อไปนี้ กล่ำวถงึ วธิ ีกำรของโครงกำรสร้ำงภูมคิ มุ้ กนั ไข้หวดั ของบริษัททองไท
1. จะมีกำรจดั กำรออกกำลังกำยอย่ำงสม่ำเสมอในช่วงฤดูฝนนี้
2. จะมกี ำรฉดี วัคซนี ให้ในช่วงเวลำทำงำน
3. ผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรจะไดร้ ับรำงวัลเปน็ กำรตอบแทน
4. แพทย์จะดำเนินกำรฉดี วคั ซีน
คำถำมที่ 2 เรำสำมำรถดูเนอื้ หำของบทควำม (กลำ่ วถงึ อะไร)
เรำสำมำรถดูรปู แบบ (วธิ ที น่ี ำเสนอ)
คุณวนี ัสตอ้ งกำรใหร้ ูปแบบ ของเอกสำรดูเปน็ กนั เอง ในขณะเดียวกนั ต้องกำรเชญิ ชวนพนักงำนดว้ ย
ท่ำนคดิ ว่ำ เธอประสบควำมสำเร็จหรอื ไม่
จงอธิบำย โดยอำ้ งถงึ รำยละเอยี ดของกำรจัดวำงขอ้ ควำม แบบวธิ ีกำรเขยี น กำรวำงภำพ หรอื ลำยเสน้ ตำ่ ง ๆ
คำถำมท่ี 3 ใบปลิวน้ี ชใ้ี หเ้ ห็นว่ำ ถ้ำทำ่ นตอ้ งกำรป้องกันตัวเองจำกไวรัสไข้หวัด กำรฉีดภูมิคุ้มกัน
ไข้หวัดน้ันเปน็ จริงในขอ้ ใด
1. ได้ผลดกี วำ่ กำรออกกำลงั กำยและกำรกนิ อำหำรทม่ี ีประโยชน์ แต่มคี วำมเสี่ยงสูงกวำ่
2. เปน็ ควำมคดิ ทดี่ ี แต่ไมใ่ ช่กำรแทนกำรออกกำลังกำยและกำรกนิ อำหำรทมี่ ีประโยชน์
3. ได้ผลเชน่ เดยี วกับกำรออกกำลงั กำย และกำรกนิ อำหำรท่ีมีประโยชน์ และมีควำมยุง่ ยำกน้อยกว่ำ
4. ไม่ค้มุ ค่ำ ถำ้ ท่ำนออกกำลงั กำยเปน็ ประจำอยู่แล้วและกินอำหำรท่มี ีประโยชน์
คำถำมที่ 4 นักเรียนเหน็ ด้วยกบั คำแนะนำท่วี ำ่ ข้อควำมนี้ทำให้เข้ำใจผิด และควรตดั ออกหรือไม่
เพรำะเหตุใด จงให้เหตุผลอธบิ ำยคำตอบของท่ำน
คำถำมที่ 5 จำกใบปลิว พนักงำนใดตอ่ ไปนีค้ วรตดิ ต่อคุณวนี ัส
1. เกียรติศักด์ิ จำกแผนกคลังสินค้ำ ไม่ต้องกำรฉีดวัคซีนเพรำะเขำต้องกำรสร้ำงภูมิคุ้มกันตำม
ธรรมชำติ
2. ปวณี ำ จำกฝ่ำยขำย อยำกทรำบว่ำโครงกำรภมู คิ มุ้ กนั เป็นโครงกำรที่บังคับทุกคนต้องเข้ำร่วมหรือไม่
3. ดำรำรตั น์ จำกฝ่ำยรบั สง่ เอกสำร ต้องกำรสรำ้ งภมู คิ ุ้มกันในฤดูหนำวน้ี แต่จะคลอดลกู ภำยในอีก 2 เดอื นนี้
4. น้ำฝน จำกแผนกบญั ชี ต้องกำรรับภมู คิ ุ้มกนั แตไ่ ดล้ ำงำนไว้ตลอดสปั ดำห์ท่ีเร่ิมด้วยวนั ที่ 17 พฤษภำคม
-5-
ลำดับที่ 3 รอยพน่ สีบนกำแพง
ฉันเดือดดาลไปดว้ ยความโกรธท่ีเห็นกาแพง ไม่ต้องพูดกนั เร่ืองรสนิยม ทุกวนั น้สี ังคมเต็มไปด้วย
โรงเรียนต้องถูกทาความสะอาดและทาสีใหม่ การส่อื สารและการโฆษณา ตามถนนมีแตต่ รา
ถงึ สี่ครั้งเพ่อื ลบรอยพน่ สบี นกาแพง การสร้างสรรค์ ของบริษัท ช่ือห้างรา้ น โปสเตอรข์ นาดมหมึ า
เป็นสงิ่ ท่ีน่าชมเชยก็จรงิ อยู่แต่มนุษย์ควรจะหา สง่ิ เหลา่ นีเ้ ป็นสงิ่ ท่ยี อมรับได้ใช่ไหม ใช่ ส่วนใหญ่
วธิ ีการแสดงออกที่ไม่ต้องทาใหส้ ังคมเดอื ดรอ้ น ยอมรับกันได้ แล้วรอยพ่นสบี นกาแพงละ่
และสูญเสียค่าใชจ้ า่ ยเพ่มิ โดยไม่จาเปน็ ยอมรบั กนั ได้ไหม บางคนก็บอกว่าได้ บางคนก็
ทาไมคุณชอบทาลายชื่อเสยี งของคนวัยรุ่นหนุ่มสาว บอกว่าไมไ่ ด้
ดว้ ยการไปพน่ สบี นกาแพงซ่ึงเปน็ ข้อหา้ ม ใครเปน็ คนจ่ายค่าพน่ สบี นกาแพง ในทสี่ ดุ
ศลิ ปนิ มอื อาชพี น่ะเขาไม่แขวนงานของเขา ใครเปน็ คนจ่ายคา่ โฆษณา ใชผ่ บู้ ริโภคไงล่ะ
ตามข้างถนนหรอกจรงิ ไหม แต่เขาจะหาเงนิ คนที่เอาแผน่ ป้ายโฆษณามาเที่ยวแปะล่ะ เคยขอ
และชื่อเสยี งโดยการแสดงนิทรรศการผลงาน อนุญาตไหม ก็ไม่เคย พวกพน่ สบี นกาแพง
อยา่ งถูกต้องตามกฎหมาย ทาเชน่ น้นั บ้างได้ไหม มันไม่ใช่แต่เรอื่ งของการบอก
ในความเหน็ ของฉัน ไมว่ ่าจะเป็นตัวตึก ร้ัว ม้าน่งั ชอื่ ของตวั เอง–ชื่อแก๊ง และผลงานศลิ ปะชิ้นใหญ่ ๆ
ในสวนสาธารณะ ต่างก็ถูกออกแบบมาอย่างมี ตามขา้ งถนน
ศลิ ปะในตวั เองแลว้ ทั้งน้ัน มันนา่ เสยี ดายที่จะไป ลองนึกถึง ผ้าลายทาง และลายตาหมากรุก
ทาลายงานสถาปตั ยกรรมน้ีเสีย ดว้ ยรอยพน่ สี ท่ีมขี ายตามร้านเม่ือสองสามปีก่อน และลายเสื้อผ้า
และย่งิ กวา่ นนั้ วิธีนี้ยงั ทาลายชัน้ โอโซนใน ของนักเล่นสกี ทัง้ ลายและสีของผา้ เหล่าน้ี
บรรยากาศอกี ดว้ ย จริง ๆ นะ ฉันไม่เข้าใจเลยว่า กถ็ กู ขโมยมาจากลายท่ีตกแต่งไวอ้ ย่างสวยงาม
ทาไมศลิ ปนิ อาชญากรรมเหล่านจ้ี ะร้สู กึ เดือดรอ้ น บนกาแพงคอนกรตี ตามข้างถนนน่ันเอง ตลกดี
เม่ือเห็นว่า “งานศลิ ปะ" ของพวกเขาถูกล้าง ที่ลวดลายเหลา่ นี้เปน็ ทย่ี อมรับ และช่ืนชม
ออกคร้ังแลว้ คร้ังเลา่ แต่รอยพ่นสีบนกาแพงซึ่งเป็นแบบเดยี วกนั
กลบั ถูกมองเหน็ ว่าทุเรศ
เกวลิน
โลกนี้มนั ชา่ งยากนกั สาหรับศิลปนิ
โสภิตา
จดหมำยสองฉบับนี้เก่ียวข้องกับเร่ืองรอยพ่นสีบนกำแพง ท่ีได้มำจำกอินเทอร์เน็ต รอยพ่นสีบนกำแพง
เป็นกำรวำดภำพ และขีดเขียนบนกำแพงท่ีผิดกฎหมำย ให้นักเรียนอ้ำงถึงจดหมำยทั้งสองฉบับในกำรตอบ
คำถำมตอ่ ไปน้ี
-6-
คำถำมท่ี 1 จดุ ประสงค์ของจดหมำยทง้ั สองฉบับ เพ่ือ
1. อธิบำยวำ่ รอยพ่นสีบนกำแพงคืออะไร
2. แสดงควำมคิดเห็นต่อรอยพน่ สีบนกำแพง
3. แสดงใหเ้ ห็นควำมนิยมของรอยพน่ สีบนกำแพง
4. บอกผู้คนให้รูว้ ำ่ ตอ้ งใช้เงินมำกเทำ่ ไรในกำรกำจัดรอยพ่นสีบนกำแพง
คำถำมท่ี 2 ทำไมโสภิตำจงึ อ้ำงถึงกำรโฆษณำ
คำถำมท่ี 3 นักเรยี นเห็นด้วยกับจดหมำยฉบบั ใด จงอธบิ ำยโดยใชค้ ำพูดของนกั เรยี นเอง
-7-
ลำดับที่ 4 แรงงำน
แผนภูมิในหน้ำ 2 แสดงโครงสร้ำงแรงงำนของประเทศ หรือประชำกรวัยแรงงำน ประชำกรทั้งหมดของประเทศ
ในปี พ.ศ. 2538 ประมำณ 3.4 ลำ้ นคน
โครงสรำ้ งแรงงำน ณ วันที่ 31 มนี ำคม 2538 (หนว่ ยเปน็ พันคน1)
-8-
คำถำมที่ 1 กำรแบ่งกลุ่มประชำกรวัยแรงงำนหลัก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตำมข้อใด
1. มีกำรจ้ำงงำนและตกงำน
2. วัยทำงำนและไม่ใชว่ ัยทำงำน
3. ทำงำนเต็มเวลำและไมเ่ ตม็ เวลำ
4. ในภำคแรงงำนและไม่อยู่ในภำคแรงงำน
คำถำมที่ 2 ประชำกรในวัยแรงงำนที่ไม่อยู่ในภำคแรงงำนมีเท่ำไร (ให้เขียนจำนวนประชำกร
ไมใ่ ช่รอ้ ยละของประชำกร)
คำถำมที่ 3 จำกแผนภูมิโครงสรำ้ งแรงงำน ประชำกรในตำรำงข้ำงลำ่ งนี้ จดั อยูใ่ นส่วนใดของแผนภมู ิ
แสดงคำตอบโดยทำเครือ่ งทำเครอื่ งหมำย X ลงในชอ่ งสี่เหลีย่ มในชอ่ งที่ถูกต้อง ข้อแรกคอื ตัวอยำ่ ง
คำถำมที่ 4 รำยกำรแสดงข้ำงล่ำงเป็นลักษณะ 4 อย่ำง ของแผนภูมิต้นไม้ ท่ำนคำดว่ำลักษณะของ
สว่ นประกอบในแผนภูมิจะเปลี่ยนไปหรือไม่ในแต่ละปี จงคลิก "เปล่ียน" หรือ "ไม่เปลี่ยน" ในแต่ละข้อ
(ขอ้ แรกคอื ตัวอยำ่ ง)
-9-
คำถำมท่ี 5 กำรทเ่ี ลอื กนำเสนอด้วยแผนภมู ติ ้นไม้ อำจเป็นเพรำะมปี ระโยชนใ์ นกำรแสดงถึงอะไร
1. กำรเปล่ยี นแปลงเมือ่ เวลำเปลย่ี นไป
2. ขนำดของประชำกรรวมของประเทศ
3. ประเภททม่ี ีอยู่แต่ละกลุ่ม
4. ขนำดของแตล่ ะกลุ่ม
-10-
ลำดบั ที่ 5 อำวุธวิทยำศำสตรข์ องตำรวจ
มีฆำตกรรมเกิดขึ้น แต่ผู้ตอ้ งสงสัยปฏิเสธหมดทุกขอ้ หำ เขำอำ้ งว่ำไม่รูจ้ ักเหยื่อผู้เครำะหร์ ้ำย เขำบอกว่ำ
ไม่เคยรู้จักผู้ตำยมำก่อน ไม่เคยเข้ำใกล้ ไม่เคยแตะต้อง… ตำรวจและผู้พิพำกษำเช่ือว่ำเขำไม่ได้พูด
ควำมจริงแต่จะพิสจู นไ์ ด้อยำ่ งไร
ณ สถำนที่เกิดเหตุ นักสืบได้รวบรวม หลักฐำนทุกช้ินเท่ำที่จะเก็บได้ เช่น เส้นใยผ้ำ เส้นผม รอยน้ิวมือ
ก้นบุหรี่… เส้นผมสีแดงสองสำมเส้นบนเสื้อนอกของเหยื่อผู้เครำะห์ร้ำย มองดูคล้ำยเส้นผมของผู้ต้องสงสัย
ถ้ำเรำสำมำรถพิสูจนไ์ ด้วำ่ เสน้ ผมพวกน้ีเป็นของผู้ตอ้ งสงสัยแล้ว คงจะใช้เป็นหลักฐำนแสดงไดว้ ่ำเขำเคยพบ
กับผ้ตู ำยมำกอ่ นหน้ำน้ี
แตล่ ะคนมเี อกลกั ษณ์เฉพำะตัว
ผูเ้ ชีย่ วชำญเริม่ งำนโดยกำรตรวจสอบเซลล์รำกผมที่พบบนศพ และเซลลเ์ มด็ เลอื ดของผู้ตอ้ งสงสยั ซึง่ ภำยใน
นิวเคลียสของเซลล์แต่ละเซลล์ในร่ำงกำยคนเรำจะมี DNA มันคืออะไร? DNA มีรูปร่ำงคล้ำยสร้อยคอท่ีทำ
จำกสรอ้ ยมุกสองเสน้ ท่ีบดิ ไขวก้ นั เป็นเกลียว ลองนึกภำพว่ำ มุกเหลำ่ น้ีมสี ่ีสีตำ่ งกัน และแต่ละสีมีจำนวนเป็น
หลำยพันเม็ดน้ี (ซ่ึงรวมกันเป็นหน่วยถ่ำยทอดพันธุกรรมหรือยีน) ถูกร้อยเรียงเข้ำด้วยกันเป็นลำดับเฉพำะตัว
ลักษณะกำรเรียงตัวกันของ DNA ในร่ำงกำยของคนหนึ่งจะมีลักษณะเหมือนกันทุกเซลล์ ไม่ว่ำจะเป็น
เซลล์รำกผม เซลล์จำกนิ้วมือ ในตับ ในท้องหรือในเม็ดเลือด แต่รูปแบบกำรเรียงตัวในแต่ละคนจะต่ำงกัน
เน่ืองจำกมุกที่มำร้อยเรียงมีจำนวนมำก จึงมีโอกำสน้อยมำกที่คนสองคนจะมี DNA เหมือนกัน ยกเว้น
ฝำแฝดท่ีเกิดจำกไข่ใบเดียวกันเอกลักษณ์ของแตล่ ะคนน้ีเองทำให้ DNA เป็นเหมอื นบัตรประจำตัวทำงพันธุกรรม
ด้วยเหตุน้ีนักพันธุกรรมศำสตร์ จึงสำมำรถเปรียบเทียบบัตรประจำตัวทำงพันธุกรรมของผู้ต้องสงสัย
(ซึ่งตรวจจำกเลือดของเขำ) กับของเส้นผมสีแดงที่พบ ถ้ำบัตรประจำตัวทำงพันธุกรรมเหมือนกันก็จะรู้ว่ำท่ีจริง
ผู้ต้องสงสัยเคยเข้ำใกลเ้ หย่ือทเี่ ขำอำ้ งวำ่ ไม่เคยพบกันมำก่อน
-11-
เพยี งหลกั ฐำนช้ินเดยี ว
กรณีกำรทำรุณกรรมทำงเพศ กำรฆำตกรรม กำรโจรกรรม หรืออำชญำกรรม อ่ืน ๆ ตำรวจจะใช้วิธีหำ
พยำนหลักฐำนจำกกำรวิเครำะห์ทำงพันธุกรรมมำกข้ึนทุกที เพ่ือพยำยำมหำหลักฐำนกำรสัมผัสระหว่ำง
คนสองคน ระหว่ำงวัตถุสองส่ิง หรือระหว่ำงบุคคลกับวัตถุ กำรพิสูจน์ได้ว่ำมีกำรสัมผัสกันเช่นนี้
เป็นประโยชน์มำกต่อกำรสืบสวนหำหลักฐำน แต่มันก็เป็นเพียงหลักฐำนอย่ำงหน่ึงในจำนวนหลำย ๆ
อยำ่ งเทำ่ นนั้ ไมใ่ ช่ว่ำจะสำมำรถพิสจู นถ์ งึ กำรฆำตกรรมไดเ้ สมอไป
แอน เวอร์เซลเลส
คนเรำประกอบด้วยเซลล์นับ ลำ้ นล้ำนเซลล์
ส่ิงมีชีวิตทุกชนิดประกอบด้วยเซลล์เป็นจำนวนมำกมำยมหำศำล แต่ละเซลล์มีขนำดเล็กมำก ต้องส่องดู
ดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ท่ีมกี ำลงั ขยำยสงู แต่ละเซลล์มเี ยื่อห้มุ เซลลแ์ ละมนี ิวเคลียสซงึ่ เป็นสว่ นที่พบ DNA
อะไรคอื พนั ธุกรรม?
DNA ประกอบด้วยยีนจำนวนมำก เปรียบเสมือนไข่มุกที่ร้อยเรียงนับพันเม็ด กลุ่มของยีนท่ีมำรวมกัน
จะแสดงลกั ษณะสำยพนั ธุกรรมประจำตัวของแตล่ ะบคุ คล
บัตรพันธุกรรม ทำไดอ้ ย่ำงไร
นักพันธุกรรมศำสตร์นำเซลล์เพียงสองสำมเซลล์จำกเส้นผมท่ีพบบนร่ำงของเหย่ือผู้เครำะห์ร้ำย หรือจำก
น้ำลำยที่ติดอยู่ที่ก้นบุหรี่ แล้วใส่ลงในสำรอย่ำงหน่ึงที่จะสลำยส่ิงอ่ืนๆ รอบ DNA ให้เหลือแต่ DNA
ของเซลล์ และทำอย่ำงเดียวกันน้ีกับเซลล์ เม็ดเลือดของผู้ต้องสงสัย แล้วก็นำ DNA ไปเตรยี มเพื่อวิเครำะห์
หลังจำกนั้นจะใส่ DNA ลงในวุ้นชนิดพิเศษแล้วผ่ำนกระแสไฟลงในวุ้น ปล่อยท้ิงไว้ 2-3 ช่ัวโมง จะเกิด
แถบคล้ำยรหัสแท่ง (bar code เป็นรหัสท่ีติดอยู่กับสิ่งของที่เรำซ้ือ) ซ่ึงจะมองเห็นได้ด้วยแสงจำกหลอดไฟพิเศษ
แลว้ นำรหสั แท่งบน DNA ของผูต้ อ้ งสงสยั เปรยี บเทียบกับของเสน้ ผมทพี่ บบนรำ่ งของผูต้ ำย
คำถำมท่ี 1 เพื่ออธิบำยโครงสร้ำงของ DNA ผู้เขียนได้นำไปเปรียบเทียบกับสร้อยไข่มุก สร้อยไข่มุก
ของคนหน่ึงกบั ของอีกคนหนึ่งแตกต่ำงกันอย่ำงไร
1. ควำมยำวต่ำงกัน
2. กำรเรียงลำดบั ต่ำงกัน
3. จำนวนสร้อยต่ำงกนั
4. สีของมุกต่ำงกัน
คำถำมที่ 2 จำกหวั เรื่อง “บัตรพนั ธุกรรม ทำได้อยำ่ งไร” มจี ดุ มุ่งหมำยเพื่ออะไร
1. เพื่ออธบิ ำยว่ำ DNA คืออะไร
2. เพอื่ อธิบำยว่ำ รหสั แท่งคืออะไร
3. เพ่อื อธิบำยวำ่ กำรวิเครำะหเ์ ซลลเ์ พ่อื ดูรูปแบบของ DNA ทำได้อย่ำงไร
4. เพ่ืออธบิ ำยวำ่ กำรพสิ ูจนถ์ ึงกำรฆำตกรรมทำได้อยำ่ งไร
-12-
คำถำมที่ 3 จดุ มุ่งหมำยสำคัญของผู้เขียนคอื อะไร
1. เพอื่ เตอื นภยั
2. เพื่อควำมบนั เทิง
3. เพอ่ื ใหข้ ้อมูล
4. เพอ่ื ทำใหเ้ หน็ คลอ้ ยตำม
คำถำมที่ 4 ท้ำยสุดของบทนำ (บรรทัดท่ี 2 ในหน้ำ 1) มีข้อควำมว่ำ: “แต่จะพิสูจน์ได้อย่ำงไร?”
ตำมเนือ้ หำในเรอื่ งนี้ ผู้ทำหนำ้ ที่พสิ ูจนพ์ ยำยำมหำคำตอบของปญั หำนีโ้ ดยกำรทำอย่ำงไร
1. สอบพยำนรเู้ หน็
2. ทำกำรวิเครำะห์พนั ธกุ รรม
3. สอบสวนผู้ต้องสงสัยอย่ำงถถ่ี ว้ น
4. ทบทวนผลกำรสอบสวนใหม่ทงั้ หมดอีกคร้ัง
-13-
ลำดับที่ 6 สบำย ๆ กับรองเทำ้ สำหรับวิ่ง
เป็นเวลำ 14 ปีมำแล้วที่ศูนย์กำรแพทย์กีฬำแห่งเมืองลีออง (ฝรั่งเศส) ได้ศึกษำเรื่องกำรบำดเจ็บ
ของนักกฬี ำรุ่นเยำว์ และนักกีฬำอำชีพ พบว่ำสิง่ ทด่ี ีทส่ี ุด คอื กำรปอ้ งกัน… และใส่รองเท้ำที่ดี
กระแทก ลม้ รองเท้ำไม่พอดี
นักกีฬำรุ่นเยำว์อำยุระหว่ำง 8-12 ปี 18% เคยได้รับบำดเจ็บข้อเท้ำเคล็ดจนถึงข้อเท้ำแพลง และ 25%
ของนักกีฬำอำชีพค้นพบด้วยตนเองว่ำกระดูกอ่อนของข้อเข่ำอำจถูกกระทบกระเทือนหรือได้รับบำดเจ็บ
จนถึงขนั้ รักษำไม่หำย และถ้ำไม่ได้รับกำรดูแลให้ดีตั้งแตว่ ัยเด็ก (10-12 ปี) อำจทำให้เป็นโรคกระดูกเสื่อม
ก่อนวัย สะโพกก็อำจได้รับบำดเจ็บอีกด้วย โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงขณะเหน่ือยย่ิงเสี่ยงต่อกระดูกร้ำวหรือหัก
จำกกำรลม้ หรอื ถกู กระแทก
ตำมรำยงำนของกำรศึกษำนักฟุตบอลท่ีเล่นมำนำนกว่ำ 10 ปี จะมีกระดูกใหญ่ผิดปกติบริเวณหน้ำแข้ง
หรือบริเวณส้นเท้ำที่เรียกกันวำ่ “เท้ำนักฟุตบอล” ซ่ึงเปน็ ลักษณะของเท้ำที่เปล่ยี นรปู ไป เนื่องจำก รองเท้ำ
ที่มีพน้ื รับฝ่ำเท้ำและข้อเท้ำหลวมหรอื ยดื หยุ่นมำกเกินไป
ปกปอ้ ง รองรบั ช่วยกำรทรงตัวและรบั แรงกระแทก
ถำ้ รองเท้ำคบั เกินไปจะจำกัดกำรเคลือ่ นไหว แต่ถ้ำยืดหยุ่นเกินไป จะทำให้เส่ยี งต่อกำรบำดเจบ็ หรือข้อเท้ำ
แพลงได้รองเท้ำกีฬำท่ดี คี วรมีคุณสมบตั ิครบท้ัง 4 ประกำรคือ
ประกำรแรกจะต้องป้องกันอันตรำยจำกภำยนอก : ป้องกันกำรกระแทกจำกลูกบอล หรือผู้เล่นอ่ืนจำกพื้นสนำม
ที่ไมเ่ รยี บและช่วยใหเ้ ท้ำอนุ่ และแห้ง ถึงแมอ้ ำกำศจะหนำวหรอื ฝนตก ก็ตำม
ต้องรองรับกับเท้ำได้เป็นอย่ำงดี โดยเฉพำะบริเวณข้อเท้ำ เพื่อป้องกัน ข้อเท้ำแพลง บวม หรือปัญหำอื่น ๆ
ทอี่ ำจทำให้บำดเจบ็ ถึงหัวเข่ำได้
ตอ้ งช่วยให้นักกีฬำทรงตวั ได้ดี ไม่ลื่นไถลบนพนื้ ท่ีเปียกหรือไม่สะดุดพ้ืนแห้ง
ประกำรสุดท้ำยจะต้องรับแรงกระแทกได้ดี โดยเฉพำะนักกีฬำวอลเล่ย์บอลและบำสเกตบอลที่ต้องกระโดด
อย่ตู ลอดเวลำ
เพอื่ เท้ำแห้ง
เพื่อหลีกเลี่ยงกำรบำดเจ็บแม้จะเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น รองเท้ำกัด หรือโรคน้ำกัดเท้ำ (เท้ำเป่ือยจำกเชื้อรำ)
รองเท้ำจะต้องระบำยเหงื่อได้ดีและกันควำมช้ืนจำกภำยนอกได้ วัสดุท่ีดีท่ีสุดคือ หนัง ซึ่งกันน้ำและไม่เปียกโชก
ทนั ทที ถี่ ูกฝน
-14-
คำถำมท่ี 1 ผเู้ ขียนต้องกำรบอกให้ทรำบอะไร
1. คณุ ภำพของรองเทำ้ กีฬำต่ำง ๆ มกี ำรพัฒนำไปอยำ่ งมำก
2. ทำงท่ดี ไี ม่ควรเลน่ ฟุตบอล ถำ้ อำยตุ ่ำกว่ำ 12 ปี
3. เยำวชนไดร้ บั บำดเจ็บมำกข้นึ เน่อื งจำกสภำวะทำงกำยภำพไม่ดี
4. เป็นควำมจำเปน็ อย่ำงย่ิงท่ีนักกฬี ำรุ่นเยำว์ ตอ้ งสวมรองเท้ำท่ีดี
คำถำมท่ี 2 ตำมบทควำมขำ้ งต้น ทำไมรองเท้ำกฬี ำจงึ ไม่ควรคับจนเกนิ ไป
คำถำมที่ 3 เนื้อควำมตอนหน่งึ กล่ำวว่ำ "รองเท้ำกฬี ำทีด่ ีควรมคี ุณสมบตั คิ รบท้งั 4 ประกำร" คณุ สมบตั ิ
เหลำ่ นี้ คอื อะไรบ้ำง
คำถำมท่ี 4 ส่วนแรก และส่วนทสี่ อง สัมพนั ธ์กันอยำ่ งไร
1. ส่วนที่สองขัดแย้งกับส่วนแรก
2. ส่วนที่สองซำ้ กับสว่ นแรก
3. ส่วนท่สี องขยำยปัญหำทบ่ี รรยำยไว้ในส่วนแรก ให้ชัดเจนข้ึน
4. ส่วนที่สองเสนอกำรแก้ปญั หำที่บรรยำยไวใ้ นสว่ นแรก
-15-
ลำดับที่ 7 มำซอนโด
ดว้ ยควำมละลำนตำของส่ิงประดิษฐ์ทนี่ ำ่ พศิ วง ชำวเมอื งมำซอนโดไม่รู้ด้วยซ้ำว่ำควำมมหัศจรรย์นั้น
เริ่มต้นจำกตรงไหน พวกเขำยอมอดหลับอดนอนท้ังคืนเพ่ือจ้องดูหลอดไฟสีนวล ท่ีมีกระแสไฟป้อนมำจำก
เคร่ืองปั่นไฟ ท่ีออร์เรเลียโน ทริสเต บรรทุกมำกับรถไฟเที่ยวท่ีสอง และพยำยำมทน เพ่ือให้คุ้นกับเสียง
ตมู ตูม ของเครือ่ งประหลำดน่ัน ต่อมำพวกเขำก็เริ่มไม่พอใจกับกำรชมภำพยนตร์ท่ีเคล่ือนไหวเหมือนมีชีวิต
ที่ ดอน บรูโน เครสปี พ่อค้ำ ผู้ร่ำรวยนำมำฉำยในโรงฉำยท่ีมีช่องขำยตั๋วทำเป็นหัวสิงโต เพรำะว่ำตัวละคร
ที่ตำยและถูกฝังแล้วในเร่ืองหนึ่ง ซ่ึงพวกเขำได้เศร้ำโศกและเสียน้ำตำไปอย่ำงมำก กลับมีชีวิตขึ้นมำ
และกลำยเป็นชำวอำหรับในเร่ืองใหม่ ผู้ชมต้องจ่ำยเงิน สองเซ็นตำโวเป็นค่ำต๋ัวเข้ำชมเพ่ือร่วมเสียใจกับ
ควำมทุกขย์ ำกของตัวละคร พวกเขำไมย่ อมถูกหลอกให้ดูของไมจ่ ริงอกี ต่อไป จึงแสดงควำมโกรธดว้ ยกำรทุบ
ทำลำยเก้ำอ้ี ดอน บรูโน เครสปี ได้ขอร้องให้นำยกเทศมนตรีช่วย ประกำศว่ำภำพยนตร์เป็นเพียงภำพลวงตำ
ไม่ควรนำมำเปน็ อำรมณ์ และไมม่ ีค่ำควรแก่กำรท่ีผู้ชมจะระเบิดควำมโกรธแค้น จำกคำช้ีแจงทเ่ี ตือนสตินเี้ อง
ทำให้หลำยคนรู้สึกว่ำตนตกเป็นเหย่ือของธุรกิจหนังเร่จึงตัดสินใจไม่ดูภำพยนตร์อีก เพรำะคิดว่ำตัวเองก็มี
ควำมทกุ ขย์ ำกมำกเกนิ กวำ่ ท่ีจะไปร้องไห้กับสิง่ ท่ีเปน็ เพยี งภำพลวงตำเหลำ่ นนั้
คำถำมที่ 1 ลกั ษณะอยำ่ งใดของภำพยนตร์ ท่ีทำใหค้ นในเมืองมำซอนโดโกรธแค้น
คำถำมที่ 2 ทำไมชำวมำซอนโดจงึ ตดั สนิ ใจไมก่ ลบั ไปดภู ำพยนตร์นน้ั อกี
1. พวกเขำต้องกำรควำมบันเทงิ และหย่อนใจ แต่พบว่ำภำพยนตร์เปน็ เรื่องจริงจงั และทำใหใ้ จหอ่ เหย่ี ว
2. พวกเขำไม่มเี งินคำ่ ต๋วั
3. พวกเขำตอ้ งกำรเกบ็ อำรมณข์ องตนไวส้ ำหรับสภำพกำรณ์ในชีวิตจรงิ ของตัวเอง
4. พวกเขำอยำกจะมีอำรมณ์รว่ ม แตพ่ บว่ำภำพยนตร์น่ำเบ่ือ ไม่น่ำเช่ือและมีคุณภำพตำ่
คำถำมที่ 3 อะไร คอื “ส่งิ ท่เี ปน็ เพยี งภำพลวงตำ” ท่ีกลำ่ วถงึ ในบรรทดั สุดทำ้ ย
1. ผี
2. สงิ่ ท่ีประดษิ ฐข์ ้ึนในงำนออกรำ้ น
3. ตัวละครในภำพยนตร์
4. นักแสดง
คำถำมที่ 4 นักเรยี นเหน็ ดว้ ยหรอื ไม่กับกำรตัดสินใจของชำวเมืองมำซอนโดเกี่ยวกับคณุ คำ่ ของภำพยนตร์
จงอธบิ ำยคำตอบโดยเปรียบเทยี บควำมร้สู กึ ของนักเรียนกับของชำวเมืองมำซอนโดทีม่ ีต่อภำพยนตร์
-16-
ลำดบั ท่ี 8 ปำ้ ยประกำศในซปุ เปอร์มำร์เกต็
-17-
คำถำมท่ี 1 จดุ ประสงค์ของป้ำยประกำศนีค้ อื อะไร
1. เพอ่ื โฆษณำขนมปังกรอบไสค้ รมี มะนำว
2. เพื่อบอกประชำชนว่ำขนมปงั กรอบผลิตเม่ือใด
3. เพื่อเตอื นประชำชนเกีย่ วกับขนมปงั กรอบ
4. เพื่ออธบิ ำยวำ่ จะซอ้ื ขนมปังกรอบไสค้ รีมมะนำวได้ที่ไหน
คำถำมที่ 2 บรษิ ัททท่ี ำขนมปังกรอบชื่อบรษิ ัทอะไร
คำถำมท่ี 3 จดุ ประสงคข์ องสว่ นท่ีเป็นรำยละเอยี ดในป้ำยประกำศคืออะไร
1. เพอ่ื โฆษณำขนมปังกรอบชนดิ ต่ำง ๆ
2. เพอื่ แจ้งเร่ืองของแถมพิเศษทมี่ ำกับขนมปังกรอบ
3. เพอ่ื บอกส่วนผสมของขนมปงั กรอบ
4. เพอ่ื อธบิ ำยว่ำมีอะไรผดิ ปกตใิ นขนมปงั กรอบ
คำถำมท่ี 4 นกั เรยี นจะทำอย่ำงไร ถ้ำนักเรียนซ้อื ขนมปังกรอบเหลำ่ นมี้ ำแล้ว
คำถำมที่ 5 ทำไมในป้ำยประกำศจึงมวี นั ที่ “ควรบรโิ ภคก่อน” อยดู่ ้วย
-18-
ลำดับที่ 9 มอเตอร์ไซค์
คุณเคยตนื่ ขน้ึ มำแล้วรู้สกึ วำ่ มบี ำงอยำ่ งผิดปกติไหม?
มันคือวนั แบบนัน้ สำหรบั ฉนั
ฉันลุกขึ้นนงั่ บนเตยี ง
ครตู่ อ่ มำฉนั เปิดม่ำน
อำกำศเลวร้ำย - ฝนกำลงั เทลงมำ
จำกนัน้ ฉนั มองลงไปท่สี นำมหญ้ำ
ใชแ่ ล้ว! เจ้ำนัน่ ไง - มอเตอร์ไซค์
มนั กย็ งั คงพงั เหมือนเม่ือคืนก่อน
และขำของฉนั ก็เร่ิมปวด
คำถำมที่ 1 มเี หตกุ ำรณ์บำงอยำ่ งเกิดข้นึ กับคนในเรื่องเมื่อคนื ก่อน เหตุกำรณ์นน้ั คอื อะไร
1. อำกำศไมด่ ที ำให้มอเตอร์ไซคช์ ำรดุ
2. อำกำศไมด่ ที ำให้คนในเร่ืองออกไปข้ำงนอกไม่ได้
3. คนในเรอื่ งซ้ือมอเตอร์ไซค์คนั ใหม่
4. คนในเรื่องประสบอุบัติเหตุจำกมอเตอร์ไซค์
คำถำมที่ 2 บรรทดั ที่ 7 ท่กี ล่ำววำ่ : “ใช่แล้ว!” ทำไมคนในเร่ืองจงึ กลำ่ วคำนี้
1. คนในเรือ่ งทำบำงอยำ่ งทย่ี ำกไดส้ ำเร็จ
2. ขณะนค้ี นในเรื่องเขำ้ ใจแล้ววำ่ วนั นั้นจะไมเ่ ลวรำ้ ยนกั
3. คนในเรอ่ื งจำได้แล้ววำ่ ทำไมบำงอย่ำงจึงดผู ิดปกตไิ ป
4. คนในเรื่องมคี วำมสขุ ท่ีได้เหน็ มอเตอร์ไซค์
คำถำมที่ 3 วันน้นั คอื วนั แบบใด
1. วนั ทด่ี ี
2. วนั ที่ไมด่ ี
3. วนั ทนี่ ำ่ ตื่นเต้น
4. วนั ที่นำ่ เบื่อ
-19-
ลำดบั ที่ 10 กำรแปรงฟันของคณุ
ฟันของเรำสะอำดมำกขึ้นและมำกขึ้นเมื่อเรำยิ่งแปรงนำนขึ้นและแรงข้ึนใช่หรือไม่ ?
นักวิจัยชำวอังกฤษบอกว่ำไม่ใช่ เขำได้ทดลองหลำยๆ ทำงเลือก และท้ำยที่สุดก็พบวิธีที่สมบูรณ์
แบบในกำรแปรงฟัน กำรแปรงฟัน 2 นำทีโดยไม่แปรงฟันแรงจนเกินไปให้ผลท่ีดีท่ีสุด ถ้ำคุณแปรงฟันแรง
คุณกำลังทำรำ้ ยเคลอื บฟันและเหงือกโดยไม่ไดข้ จดั เศษอำหำรหรือครำบหินปูน
เบนท์ ฮันเซน ผู้เชี่ยวชำญเรื่องกำรแปรงฟัน กล่ำวว่ำวิธีจับแปรงสีฟันที่ดีก็คือจับให้เหมือนจับ
ปำกกำ “เริ่มจำกมุมหน่ึง และแปรงไปตำมฟันจนหมดแถว” เธอบอกว่ำ “อย่ำลืมลิ้นของคุณด้วย!
มนั สำมำรถสะสมแบคทเี รียได้มำกทีเดียว ซึง่ เปน็ สำเหตุของกล่ินปำก”
“กำรแปรงฟันของคุณ” เปน็ บทควำมจำกนิตยสำรของนอร์เวย์
คำถำมที่ 1 บทควำมนเี้ ก่ียวกับอะไร
1. วธิ ที ี่ดีทส่ี ดุ ในกำรแปรงฟนั
2. แปรงสีฟันชนดิ ทีใ่ ช้ดีทีส่ ุด
3. ควำมสำคัญของกำรมีฟนั ดี
4. วิธีกำรแปรงฟันท่แี ตกต่ำงกันของแตล่ ะคน
คำถำมที่ 2 นักวิจยั ชำวอังกฤษแนะนำวำ่ อย่ำงไร
1. แนะนำว่ำคณุ แปรงฟนั ไดบ้ ่อยเทำ่ ที่จะแปรงได้
2. แนะนำว่ำคณุ ไมค่ วรพยำยำมแปรงลิน้
3. แนะนำว่ำคุณไมค่ วรแปรงฟันแรงเกนิ ไป
4. แนะนำว่ำคณุ ควรแปรงลิน้ ให้บ่อยกว่ำฟัน
คำถำมที่ 3 ทำไมเรำจึงควรแปรงลน้ิ ตำมคำกล่ำวของ เบนท์ ฮันเซน
คำถำมท่ี 4 ทำไมในเรื่องจึงกล่ำวถงึ ปำกกำ
1. เพอื่ ช่วยให้เรำเขำ้ ใจวำ่ ควรจบั แปรงสีฟันอยำ่ งไร
2. เพรำะเรำเรมิ่ จำกมมุ หน่ึงเหมือนกันท้ังปำกกำและแปรงสฟี นั
3. เพอื่ แสดงวำ่ เรำสำมำรถแปรงฟันได้หลำยๆวิธี
4. เพรำะเรำควรแปรงฟนั อย่ำงจริงจังเชน่ เดยี วกับกำรเขียน
-20-
ลำดับท่ี 11 บอลลนู
-21-
คำถำมท่ี 1 ใจควำมสำคัญของเรือ่ งนค้ี อื อะไร
1. สงิ หำเนียตกอยู่ในอนั ตรำยระหว่ำงกำรเดินทำงโดยบอลลนู
2. สิงหำเนียสร้ำงสถติ โิ ลกขนึ้ ใหม่
3. สงิ หำเนียเดินทำงเหนอื ทะเลและพืน้ ดิน
4. บอลลูนของสิงหำเนยี ใหญ่โตมโหฬำร
คำถำมที่ 2 วิเจย์พัต สงิ หำเนยี ไดใ้ ช้เทคโนโลยีทม่ี ีในยำนพำหนะอ่นื สองชนิด ยำนพำหนะน้นั ได้แก่
อะไรบ้ำง
คำถำมที่ 3 กำรนำภำพเคร่ืองบินจมั โบเ้ จท็ มำใสไ่ วใ้ นเนอื้ เรือ่ งมีจุดประสงค์อะไร
คำถำมท่ี 4 ทำไมภำพวำดนจี้ งึ แสดงบอลลูนถึงสองลกู
1. เพอื่ เปรยี บเทยี บขนำดบอลลูนของสิงหำเนยี ก่อนและหลังพองตวั
2. เพือ่ เปรยี บเทียบขนำดบอลลนู ของสิงหำเนยี กับบอลลูนอำกำศรอ้ นทั่วไป
3. เพอื่ แสดงว่ำบอลลนู ของสิงหำเนียดูเลก็ เมื่อมองจำกพืน้ ดนิ
4. เพื่อแสดงวำ่ บอลลูนของสิงหำเนียเกือบชนกับบอลลูนอ่ืน
-22-
ลำดับท่ี 12 ตึกสูง
“ตกึ สูง” เปน็ บทควำมจำกนิตยสำรของนอร์เวย์ ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2006
คำถำมที่ 1 ขณะที่บทควำมน้ตี ีพิมพใ์ นนติ ยสำร ตกึ ใดในรปู ที่ 2 สรำ้ งเสร็จแล้วและสูงทีส่ ุด
คำถำมท่ี 2 รูปท่ี 1 ใหข้ อ้ มูลอะไร
1. กำรเปรยี บเทียบควำมสูงของตกึ ต่ำง ๆ
2. จำนวนตึกทง้ั หมดในเมืองต่ำง ๆ
3. จำนวนตึกทีม่ คี วำมสงู มำกกวำ่ ควำมสงู ระดับหนง่ึ ของเมืองตำ่ ง ๆ
4. ขอ้ มูลเกยี่ วกบั รปู แบบของตกึ ในเมืองต่ำง ๆ
คำถำมท่ี 3 เรดิสนั SAS พลำซำ่ ในเมืองออสโล ประเทศนอรเ์ วย์ สูงเพยี ง 117 เมตร ทำไมจงึ นำตกึ นี้
มำใส่ในรปู ที่ 2
-23-
คำถำมท่ี 4 สมมติว่ำข้อมูลเกี่ยวกับตึกสูงถูกนำเสนออีกคร้ังในบทควำมเช่นเดียวกันน้ีในอีก 20 ปี
ข้ำงหน้ำ ข้อควำม 3 ข้อควำมที่อยู่ข้ำงล่ำงคือ ลักษณะของบทควำมเดิม ให้แสดงว่ำลักษณะเหล่ำนี้
มีแนวโนม้ จะเปลย่ี นแปลงไปในอีก 20 ปขี ำ้ งหนำ้ หรือไม่ จงคลกิ "ใช่" หรือ "ไม่ใช"่ ในแตล่ ะข้อ
ลกั ษณะของบทควำม มแี นวโน้มจะเปล่ียนแปลงลงไปในอีก 20 ปีขำ้ งหนำ้
ใชห่ รือไม่
เมอื งท่ีแสดงในรูปท่ี 1 ใช่ / ไมใ่ ช่
หวั เรื่องของรปู ท่ี 2 ใช่ / ไม่ใช่
จำนวนของตึกที่แสดงในรูปท่ี 1 ใช่ / ไมใ่ ช่
คำถำมท่ี 5 ใช้เรอื่ ง "ตกึ สงู " เพ่ือตัดสนิ วำ่ ข้อมูลในแตล่ ะส่วนของตำรำงข้ำงล่ำงน้ี อยู่ในรปู ท่ี 1 รปู ท่ี 2
หรอื ไม่อยู่ทั้งสองรปู
ลกั ษณะของบทควำม รปู ที่ 1 / รูปที่ 2 / ไม่อยู่ท้งั สองรูป
ชื่อของตกึ หนึ่งในฮ่องกง รปู ที่ 1 / รูปที่ 2 / ไมอ่ ยทู่ ง้ั สองรปู
ชว่ งเวลำท่ีตึกเอมไพร์สเตตสรำ้ งเสรจ็ รูปที่ 1 / รปู ที่ 2 / ไม่อย่ทู งั้ สองรปู
จำนวนตกึ ที่สรำ้ งในโตรอนโต รูปท่ี 1 / รปู ท่ี 2 / ไมอ่ ยทู่ ง้ั สองรปู
ต้งั แต่ปี 1976
-24-
ลำดับท่ี 13 ประกำศเรือ่ งกำรบรจิ ำคโลหิต
"ประกำศเร่ืองกำรบริจำคโลหิต" มำจำกเว็บไซต์ของฝรั่งเศส
คำถำมที่ 1 จดุ ประสงค์หลักของ “ประกำศเรอื่ งกำรบรจิ ำคโลหิต” คืออะไร
1. เพือ่ กระตนุ้ ให้คนบริจำคโลหติ
2. เพ่ือบรรยำยควำมเสี่ยงของกำรบรจิ ำคโลหิต
3. เพื่ออธิบำยว่ำคุณสำมำรถบรจิ ำคโลหติ ได้ทไี่ หนบ้ำง
4. เพ่อื พสิ ูจน์วำ่ คนจำนวนมำกบรจิ ำคโลหติ เป็นประจำ
คำถำมที่ 2 ผู้หญิงอำยุ 18 ปี ที่บริจำคโลหิตไปแล้ว 2 คร้ังใน 12 เดือนท่ีผ่ำนมำ และต้องกำรบริจำคโลหิตอกี ครั้ง
ตำม “ประกำศเร่อื งกำรบรจิ ำคโลหิต” มีเงอ่ื นไขอะไรท่ีจะยอมให้เธอบริจำคโลหิตไดอ้ ีกครั้ง
คำถำมที่ 3 เน้ือเรื่องกล่ำวว่ำ: “อุปกรณ์ที่ใช้เจำะเลือดผ่ำนกำรฆ่ำเชื้อและใช้ครั้งเดียว…”
ทำไมเนอ้ื เรือ่ งจึงใส่ข้อมลู นี้เข้ำไปดว้ ย
1. เพือ่ ยำ้ ใหค้ ุณแน่ใจวำ่ กำรบริจำคโลหติ ปลอดภัย
2. เพื่อเน้นวำ่ กำรบริจำคโลหิตเป็นสงิ่ จำเป็น
3. เพ่อื อธบิ ำยกำรนำโลหิตของคณุ ไปใช้
4. เพื่อใหร้ ำยละเอียดของกำรทดสอบและตรวจสอบ
-25-
ลำดับท่ี 14 คนข้ีเหนียวกับทองคำ
คนขีเ้ หนยี วกบั ทองคำ
นทิ ำนโดย อสี ป
คนขี้เหนียวคนหน่ึงได้ขำยทุกส่ิงที่เขำมีและซื้อทองคำมำก้อนหนึ่ง ซึ่งเขำนำมันไปฝงั ลงในหลุมท่ีอยู่
ข้ำงกำแพงเก่ำ เขำเดินไปดูทุกวัน คนงำนของเขำคนหนึ่งสังเกตเห็นว่ำคนข้ีเหนียวไปท่ีจุดนั้นอยู่เสมอ
จึงตัดสินใจจับตำดูควำมเคล่ือนไหวของเขำ ไม่นำนคนงำนก็พบควำมลับเรื่องสมบัติท่ีซ่อนไว้ และเมื่อขุด
ลงไปก็พบก้อนทองคำและขโมยมันไป เม่ือคนขี้เหนียวมำดูอีกครั้ง ก็พบแต่หลุมว่ำงเปล่ำ เขำจึงเริ่มดึงผม
ของตัวเองและคร่ำครวญเสียงดังด้วยควำมเศร้ำโศกเสียใจ เพื่อนบ้ำนเห็นเขำจมอยู่กับควำมเศร้ำโศก
และไดร้ ับรู้ถงึ สำเหตุ จึงกล่ำวว่ำ “สวดมนต์เถดิ อยำ่ เสยี ใจไปเลย ท่ำนกเ็ อำก้อนหินใส่ไวใ้ นหลุมสิ แล้วคิดว่ำ
ทองคำยังวำงอยู่ตรงนั้น มันก็ให้ผลเหมือนกับตอนที่ยังมีทองคำอยู่ อย่ำงไรเสียท่ำนก็เหมือนกับไม่มีมันอยู่แล้ว
เพรำะทำ่ นไม่ได้นำมัน มำใชเ้ ลยสกั นดิ ”
คำถำมที่ 1 อ่ำนข้อควำมด้ำนลำ่ งและใส่ตวั เลขตำมลำดบั เหตุกำรณท์ เ่ี กิดขนึ้ ในเรื่อง
1. คนขเี้ หนยี วตดั สินใจเปลย่ี นเงนิ ทม่ี อี ยูท่ งั้ หมดเป็นก้อนทองคำ
2. ชำยคนหนงึ่ ขโมยทองคำของคนข้ีเหนยี ว
3. คนขเี้ หนยี วขดุ หลุมแลว้ ซอ่ นสมบัตขิ องเขำไว้ในนัน้
4. เพอ่ื นบ้ำนของคนขเี้ หนียวบอกเขำใหห้ ำหินมำวำงแทนทองคำ
คำถำมท่ี 2 คนขเี้ หนียวไดก้ ้อนทองคำมำอยำ่ งไร
คำถำมที่ 3 นค่ี ือบทสนทนำระหว่ำงคนสองคนที่ไดอ้ ่ำนเรื่อง “คนขีเ้ หนียวกับทองคำ”
ผูพ้ ดู คนท่ี 1: เพื่อนบ้ำนช่ำงน่ำรังเกียจ เขำน่ำจะแนะนำใหห้ ำอย่ำงอน่ื ทด่ี ีกวำ่ หินมำแทนทองคำ
ผู้พดู คนที่ 2: ไม่ เขำทำอย่ำงน้ันไมไ่ ด้ กอ้ นหินเปน็ สิ่งสำคัญในเร่อื ง
ผูพ้ ูดคนท่ี 2 จะให้เหตุผลสนับสนนุ มุมมองของเขำเองว่ำอย่ำงไร
คำถำมที่ 4 ใจควำมสำคญั ของเร่ืองน้ีคืออะไร
1. อยำ่ เกบ็ สะสมของมคี ำ่ ที่สำมำรถถูกขโมยได้
2. กำรไว้ใจคนอืน่ ถอื เปน็ ขอ้ ผิดพลำด
3. กำรไมไ่ ด้ใช้ของทม่ี ีก็เหมือนกับวำ่ ไม่มขี องสิ่งนน้ั
4. อยำ่ เสียใจกับสิ่งท่ีเปล่ียนแปลงไมไ่ ด้
-26-
ลำดับท่ี 15 ประชำธิปไตยในเอเธนส์
ตอนท่ี 1
ธูซิดิดีส เป็นนักประวัติศำสตร์และทหำรที่มีชีวิตอยู่เม่ือศตวรรษท่ี 5 ก่อนคริสตกำลในยุคกรีกโบรำณ
เขำเกิดในกรุงเอเธนส์ ในช่วงสงครำมเพโลพอนเนสเชียน (431 – 404 ปีก่อนคริสตกำล) ระหวำ่ งเอเธนส์
กับสปำร์ต้ำ เขำมตี ำแหน่งควบคุมกองเรือที่มีภำรกจิ คอื ป้องกันเมืองแอมฟิโพลิสในนครเทรซ เขำไปถึงเมือง
ช้ำไปและเมืองตกอยู่ในมือของบรำซิดัสนำยพลชำวสปำร์ต้ำ ซึ่งเนรเทศธูซิดิดีสออกไปเป็นเวลำ 20 ปี
ส่ิงน้ีช่วยให้เขำมีโอกำสเก็บรวบรวมข้อมูลจำกท้ังสองฝ่ำยที่ทำสงครำมกัน และเปิดโอกำสให้เขำมีผลงำน
คน้ ควำ้ เรื่อง ประวตั ศิ ำสตรข์ องสงครำมเพโลพอนเนสเชยี น
ธูซิดิดีสนับว่ำเป็นหนึ่งในยอดนักประวัติศำสตร์ยุคโบรำณ เขำมุ่งควำมสนใจในเรื่องสำเหตุจำก
ธรรมชำติและพฤติกรรมของแต่ละคนมำกกว่ำเรื่องโชคชะตำหรือกำรกระทำของพระเจ้ำ เพ่ืออธิบำย
วิวัฒนำกำรของประวัตศิ ำสตร์ ในงำนของเขำจะไมเ่ พยี งบรรยำยข้อเท็จจรงิ เท่ำน้ันแต่จะพยำยำมหำเหตุผล
ท่ีชักจูงให้ตัวละครหลักเกิดกำรกระทำในลักษณะนั้น ธูซิดิดีส เน้นในเร่ืองพฤติกรรมของแต่ละบุคคล
ทำให้บำงครงั้ เขำเร่ิมแต่งสุนทรพจน์ขึ้นมำ ส่งิ เหล่ำน้ชี ่วยใหเ้ ขำอธิบำยแรงจงู ใจของตัวละครในประวัติศำสตร์
ตอนที่ 2
ธูซิดิดีสเขียนในฐำนะของเพริคลิส (ศตวรรษท่ี 5 ก่อนคริสตกำล) ผู้ปกครองชำวเอเธนส์ สุนทร
พจน์ตอ่ ไปนเ้ี ปน็ เกียรตแิ ก่ทหำรทพี่ ลชี ีพในปแี รกของสงครำมเพโลพอนเนสเชยี น
ระบบกำรปกครองของพวกเรำไม่ได้ลอกเลียนมำจำกรัฐข้ำงเคียง เรำเป็นแบบอย่ำงให้ผู้อื่น
มำกกว่ำท่ีเรำจะเป็นผู้ลอกเลียนแบบ ระบบของเรำเรียกว่ำประชำธิปไตย เน่ืองจำกเป็นกำรบริหำรที่ขึ้นอยู่กับ
คนส่วนใหญ่มำกกว่ำคนเพียงไม่ก่ีคน กฎหมำยของเรำพยำยำมให้สิทธิเท่ำเทียมกันในเร่ืองของแต่ละบุคคล
แตท่ วำ่ ชอื่ เสยี งเกยี รติยศต่อสำธำรณะขน้ึ อยกู่ ับคุณควำมดีมำกกวำ่ ระดบั ชนชนั้ ในสงั คม
ระดับชนชั้นในสังคมไม่ได้กีดกันบุคคลจำกกำรรับตำแหน่งทำงสังคมเช่นกัน (...) และในเวลำ
เดียวกันเรำจะไม่เข้ำไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว เรำจะไม่ฝ่ำฝืนกฎหมำยในเร่ืองสำธำรณะ เรำจะทำตำม
ผู้ท่ีอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนำจส่ังกำร และเรำจะทำตำมกฎหมำยโดยเฉพำะส่วนที่ป้องกันกำรกดข่ี
และกฎหมำยที่ไม่ได้เขยี นเปน็ ลำยลกั ษณอ์ ักษรซง่ึ ถือเป็นควำมนำ่ ละอำยทจ่ี ะละเมดิ
ย่ิงไปกว่ำน้ัน เรำยังมีสิ่งท่ีน่ำเพลิดเพลินใจอีกมำกมำย เกมกำรแข่งขันและกำรบวงสรวงที่เรำ
เฉลิมฉลองกันตลอดปี จำกควำมสง่ำงำมของสถำนท่ีพักอำศัยส่วนตัวของพวกเรำ ซึ่งสร้ำงควำมพึงพอใจ
ในแต่ละวันและช่วยกำจัดควำมวิตกกังวลต่ำง ๆ ออกไป ในขณะท่ีผู้อำศัยในเมืองจำนวนมำกสำมำรถ
ดึงผลผลิตจำกท่ัวโลกมำสู่เอเธนส์ ดังน้ันชำวเอเธนส์จึงคุ้นเคยกับผลไม้ของประเทศอ่ืน เช่นเดีย วกับ
คนในประเทศนน้ั ๆ
ธูซิดิดสี ประวตั ิศำสตรข์ องสงครำมเพโลพอนเนสเชยี น (ฉบับปรบั ปรุง)
-27-
คำถำมท่ี 1 ทำไมธซู ดิ ิดสิ จึงถกู เนรเทศ
1. เขำไม่สำมำรถคว้ำชยั ชนะเพื่อชำวเอเธนสท์ ี่แอมฟิโพลิส
2. เขำเข้ำยดึ กองเรือในแอมฟิโพลิส
3. เขำเกบ็ ข้อมลู จำกสองฝำ่ ยที่ทำสงครำมกนั
4. เขำละทงิ้ ชำวเอเธนส์เพื่อสู้กบั ชำวสปำรต์ ้ำ
คำถำมท่ี 2 สมมติวำ่ สุนทรพจนข์ องเพริคลีสเป็นเหตกุ ำรณค์ รั้งประวตั ิศำสตร์ ปีที่กล่ำวสนุ ทรพจน์
นำ่ จะเปน็ ปีใดมำกทส่ี ุด
1. 404 ปีก่อนคริสตกำล
2. 430 ปีก่อนคริสตกำล
3. 500 ปีก่อนครสิ ตกำล
4. 5 ปีกอ่ นคริสตกำล
คำถำมที่ 3 จุดประสงค์หน่ึงของสุนทรพจน์ในตอนท่ี 2 คือ เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหำรที่พลีชีพในปีแรก
ของสงครำมเพโลพอนเนสเชยี น จดุ ประสงค์อกี หน่ึงประกำรของสนุ ทรพจนน์ ้คี ืออะไร
คำถำมท่ี 4 ผู้เขียนสนุ ทรพจนใ์ นตอนที่ 2 คอื ใคร ให้อำ้ งถงึ เน้ือเร่ืองเพื่อสนับสนนุ คำตอบของนกั เรียน
คำถำมท่ี 5 จำกเรื่อง อะไรที่ธูซดิ ดิ ิสทำแตกตำ่ งจำกนกั ประวตั ศิ ำสตรค์ นอื่น ๆ ในยคุ ของเขำ
1. เขำเขียนเกีย่ วกับคนธรรมดำทีไ่ ม่ใชว่ ีรบุรุษ
2. เขำใชเ้ รือ่ งรำวมำกกว่ำใชเ้ พียงข้อเท็จจรงิ
3. เขำอธบิ ำยเหตกุ ำรณ์ทำงประวตั ิศำสตรโ์ ดยอำ้ งถึงสำเหตุเหนือธรรรมชำติ
4. เขำเนน้ ถึงสิง่ ทีท่ ำให้คนเกิดกำรกระทำในลักษณะนั้น
คำถำมท่ี 6 ดูทเ่ี นือ้ เรอ่ื งสว่ นน้ี ใกล้ตอนจบของตอนที่ 2:
“ยง่ิ ไปกว่ำน้ัน เรำยังมีสง่ิ ทนี่ ่ำเพลิดเพลนิ ใจอีกมำกมำย เกมกำรแขง่ ขันและกำรบวงสรวงท่ีเรำ
เฉลิมฉลองกันตลอดปี จำกควำมสง่ำงำมของสถำนที่พักอำศัยส่วนตัวของพวกเรำ ซึ่งสร้ำงควำมพึงพอใจ
ในแต่ละวันและช่วยกำจดั ควำมวิตกกงั วลตำ่ ง ๆ ออกไป”
ขอ้ ควำมใดตอ่ ไปนสี้ รุปเน้อื หำของส่วนนีไ้ ด้ดที ีส่ ุด
1. ระบบกำรปกครองในเอเธนสอ์ นุญำตให้ทุกคนสร้ำงกฎหมำยได้
2. ควำมบนั เทิงและควำมงำมเป็นส่วนหน่ึงของชีวิตท่ีดีท่ีคณุ จะมีได้ในเอเธนส์
3. ชำวเอเธนสใ์ ชช้ วี ติ หรูหรำเกนิ ไปและไมส่ ำมำรถใชช้ ีวติ อย่ำงจริงจังได้
4. ชวี ิตสว่ นทีเ่ ปน็ สำธำรณะและส่วนตวั ถูกมองว่ำเปน็ สิ่งเดียวกนั
-28-
ลำดับที่ 16 ปลำยทำงทีบ่ วั โนส ไอเรส
ปลำยทำงท่ีบัวโนส ไอเรส
และแล้วเครื่องบินขนส่งไปรษณียภัณฑ์สำมลำจำกปำตำโกเนีย1 ชิลี และปำรำกวัย ได้เดินทำง
กลับมำจำกทำงใต้ ตะวันตก และเหนือสู่บัวโนส ไอเรส ซ่ึงที่นั่นกำลังรอคอยสินค้ำจำกเครื่องบินเหล่ำน้ัน
เพื่อเครื่องบนิ ทีจ่ ะเดนิ ทำงไปยโุ รปสำมำรถออกเดินทำงประมำณเทยี่ งคนื ได้
นั ก บิ น ส ำ ม ค น ที่ อยู่ เบ้ื อ งห ลั งแ ผ งค ว บ คุ ม ที่ ให ญ่ ร ำ ว กับ เรื อ บ ร ร ทุ ก สิ น ค้ ำ ต ก อ ยู่ ใน ค ว ำ ม มื ด
และจดจ่ออยู่กับเท่ียวบินของเขำที่กำลังเคล่ือนตัวเข้ำสู่เมืองใหญ่ ซึ่งจะต้องลดควำมสูงลงอย่ำงช้ำ ๆ
เพอ่ื ออกจำกทอ้ งฟ้ำท่มี ีพำยหุ รอื เงียบสงบ รำวกับคนประหลำดกำลังลงมำจำกภเู ขำ
รีวิแอร์ ผู้รับผิดชอบกำรปฏิบัติกำรท้ังหมด เดินไปมำในที่ลงจอดของบัวโนส ไอเรส เขำยังคงเงียบ
จนกว่ำเครื่องบินท้ังสำมลำจะมำถึง ตลอดทั้งวันเขำรู้สึกเหมือนมีลำงร้ำย เวลำผ่ำนไปนำทีแล้วนำทีเล่ำ
จนกระท่ังมีโทรเลขมำถึง รีวิแอร์รู้สึกว่ำเขำได้ช่วงชิงบำงส่ิงจำกโชคชะตำซึ่งค่อย ๆ ลดสิ่งที่เขำไม่รู้
ลงทีละน้อย และดงึ ลูกเรือของเขำใหพ้ ้นจำกควำมมืดมำสฝู่ ง่ั
ลกู เรือคนหนง่ึ ตดิ ต่อกบั รวี แิ อรด์ ้วยข้อควำมทำงวิทย:ุ
ไปรษณียภณั ฑจ์ ำกชิลีรำยงำนว่ำเขำสำมำรถมองเหน็ แสงสว่ำงจำกบวั โนส ไอเรสแลว้
เยยี่ มมำก
ไม่นำนนัก รีวิแอร์ก็ได้ยินเสียงเครื่องบิน ควำมมืดได้ยอมปล่อยหนึ่งในนั้นออกมำแล้ว ดั่งทะเล
ท่ีมีคล่ืนข้ึนๆ ลงๆ และสิ่งล้ีลับต้องยอมคืนสมบัติที่มันโยนเล่นไปมำเป็นเวลำนำนให้กับชำยหำด ในไม่ช้ำ
มันคงจะคืนอีกสองคนทเี่ หลอื กลบั มำ
ในวันน้ีกำรทำงำนก็จบส้นิ ลง เจ้ำหน้ำท่ีภำคพื้นดินที่เหน่ือยล้ำคงจะกลับไปนอนและมีเจ้ำหน้ำท่ชี ุดใหม่
ท่ีสดชื่นมำทำหน้ำที่แทน มีเพียงแต่รีวิแอร์เท่ำนั้นท่ีไม่ได้พัก: จำกนั้นก็มำถึงครำวของไปรษณียภัณฑ์
จำกยโุ รปท่ีจะเขำ้ มำเพ่มิ ควำมวิตกใหเ้ ขำอีก และมนั จะเปน็ อยำ่ งนี้ไปตลอด และตลอดไป
Antoine de Saint-Exupéry. Vol de Nuit. © Éditions Gallimard
1 พ้ืนที่ทางตอนใตข้ องชิลแี ละอารเ์ จนตินา
“ปลำยทำงทบี่ วั โนส ไอเรส” เปน็ สว่ นท่ตี ัดมำจำกนวนิยำยทเ่ี ขียนในปี 1931
นวนยิ ำยนใ้ี ช้ประสบกำรณ์กำรเปน็ นกั บนิ ขนส่งสินคำ้ ในทวีปอเมรกิ ำใต้ของผู้แต่งเปน็ พ้ืนฐำน
-29-
คำถำมที่ 1 เรอื่ งนี้เกิดข้นึ ในช่วงเวลำใดของวัน ให้ใชเ้ นอื้ เรื่องเพื่อสนับสนุนคำตอบของนกั เรยี น
คำถำมที่ 2 รีวิแอรร์ สู้ ึกอย่ำงไรกับงำนของเขำ ให้ใชข้ ้อมูลจำกเน้อื เร่อื งเพอื่ ให้เหตุผลสนับสนนุ คำตอบ
ของนักเรียน
คำถำมที่ 3 “ปลำยทำงที่บัวโนส ไอเรส” ถูกเขียนขึ้นในปี ค.ศ.1931 นักเรียนคิดว่ำปัจจุบันน้ี
ควำมกงั วลของรีวแิ อร์ ยังเปน็ เหมอื นเดิมใชห่ รือไม่ ใหเ้ หตผุ ลอธบิ ำยคำตอบของนกั เรยี น
คำถำมท่ี 4 เกดิ อะไรขนึ้ กับตัวละครหลักในเร่ืองน้ี
1. เขำมเี ร่ืองประหลำดใจท่ีไม่นำ่ ยนิ ดี
2. เขำตัดสินใจท่ีจะเปลี่ยนงำน
3. เขำรอบำงอย่ำงทีจ่ ะเกิดข้ึน
4. เขำเรยี นรทู้ จ่ี ะฟังผ้อู นื่
คำถำมที่ 5 จำกย่อหนำ้ ท่สี องจำกท้ำย (“ไม่นำนนกั ...”) ควำมมดื และทะเลเหมือนกันในลักษณะใด
1. ท้งั สองซ่อนส่งิ ทีม่ ีอยภู่ ำยในตวั มัน
2. ท้ังสองเสยี งดัง
3. ทง้ั สองถูกสยบดว้ ยมนุษย์
4. ทั้งสองเปน็ อันตรำยต่อมนุษย์
5. ทั้งสองเงยี บสงบ
คำถำมท่ี 6 คำคู่ใดต่อไปน้อี ธิบำยถงึ ภำวะจิตใจของรีวิแอร์ในเรือ่ งไดด้ ที ่สี ดุ
1. ต่นื ตระหนกและกระวนกระวำย
2. ต่นื เตน้ และกระสบั กระสำ่ ย
3. โกรธและหงดุ หงิด
4. กงั วลและหนกั ใจ
5. ผอ่ นคลำยและมนั่ ใจ
-30-
ลำดับที่ 17 เสน้ ทำงเดนิ สำรวจในแอฟริกำ
เส้นทำงเดินสำรวจดรำเคนสเ์ บิรก์ ตอนเหนือ: แอฟรกิ ำใต้ / เลโซโท
เอกสำรขอ้ เท็จจริง
ภำพรวม
• เส้นทำงเดินสำรวจดรำเคนส์เบิร์กตอนเหนือ เป็นกำรเดินข้ำมสันเขำดรำเคนส์เบิร์กตอนเหนือ
ซ่ึงอยู่ในระดับสูง เส้นทำงยำวประมำณ40 ไมล์ (65 กม.) คร่อมอยู่บนชำยแดนระหว่ำงแอฟริกำใต้และเลโซโท
ในกำรข้ำมผ่ำนต้องใช้เวลำเดินทำงด้วยควำมอุตสำหะเป็นเวลำ 5 วัน บนเส้นทำงเดินสำรวจจะพบสถำนทีเ่ ดน่ ๆ
ได้แก่ ทิวทัศน์ท่ีน่ำตื่นตำตื่นใจไปตลอด ต้ังแต่จุดชมวิวรูปอัฒจันทร์จนถึงจุดชมวิวเข้ียวปีศำจซ่ึงอยู่ใน
ระหว่ำงทำงท่ีคุณเดินไปสู่จุดบันไดโซ่เหล็ก และชมพระอำทิตย์ข้ึนท่ีมอนจ์วำเน่ซ่ึงควรคำ่ แก่กำรตงั้ นำฬิกำปลุก
• จุดเริ่มต้น: ลำนจอดรถผ้พู ิทกั ษ์ อทุ ยำนแห่งชำติรอยลั นำทำล
• จดุ สน้ิ สุด: โรงแรมยอดวิหำร
• ควำมยำกและควำมสูง: น่ีเป็นกำรเดินทำงบนภูเขำสูงซึ่งเป็นหน่ึงในพ้ืนที่ห่ำงไกลหลำย ๆ แห่ง
ของเทือกเขำดรำเคนส์เบิรก์ กำรเดินทำงค่อนขำ้ งยำกลำบำกและใช้เวลำตลอดท้ังวัน ซง่ึ จำเป็นตอ้ งมีทกั ษะ
กำรนำทำงทด่ี ีจงึ จะเดนิ ทำงข้ำมผ่ำนอยำ่ งปลอดภยั
ชว่ งเวลำและฤดกู ำล
• เดอื นทด่ี ที ีส่ ุดในกำรเดินทำง: เมษำยน พฤษภำคม มิถุนำยน หรอื กนั ยำยน ตุลำคม พฤศจิกำยน
• สภำพอำกำศ: ฤดูร้อนในดรำเคนส์เบิร์กอำจร้อนมำกและควำมช้ืนสูง ฤดูหนำวจะแห้งกว่ำมำก
แต่ก็มีโอกำสเกิดฝนอยู่เป็นประจำซ่ึงบนพ้ืนท่ีสูงบำงครั้งอำจอยู่ในรูปของหิมะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้
รว่ งอุณหภูมิเวลำกลำงวันพอเหมำะ (ระหวำ่ ง 60°F/15°C และ 70°F/20°C) แตใ่ นตอนกลำงคืนอณุ หภูมิ
จะลดตำ่ กวำ่ จุดเยือกแข็งอยูเ่ สมอ
-31-
“เส้นทำงเดนิ สำรวจในแอฟริกำ” ขำ้ งบนและในหนำ้ ทผี่ ำ่ นมำ เป็นสว่ นทคี่ ดั ลอกมำจำกหนงั สือ Classic
Treks
-32-
คำถำมท่ี 1 ในภำพรวม เส้นทำงเดินสำรวจนใ้ี ห้ควำมร้สู ึกอย่ำงไร
1. ยำกปำนกลำง ฤดรู ้อนเดินสำรวจไดด้ ที ีส่ ดุ
2. ยำกปำนกลำง ผสมกนั ระหว่ำงภูเขำและพื้นทร่ี ำบ
3. ยำก จำเป็นตอ้ งมีกำรเตรยี มควำมพร้อมทด่ี ี
4. ยำกที่สุด จำเป็นต้องมีควำมสำมำรถในกำรปนี เขำทด่ี ี
คำถำมท่ี 2 ลำนจอดรถผู้พิทักษ์อยู่ท่รี ะดับควำมสูงใด ให้นกั เรยี นตอบเป็นฟตุ และเมตร
คำถำมท่ี 3 ลองจนิ ตนำกำรว่ำถ้ำนักเรียนต้องไปเดินในเส้นทำงเดินสำรวจทีอ่ ธบิ ำยในเนอ้ื เร่ือง นกั เรยี น
จะเลือกไปเดินตำมเส้นทำงเดินสำรวจในเดือนใดต่อไปนี้ “เมษำยน” “มิถุนำยน” หรือ “กันยำยน”
และใช้ข้อมลู ในตำรำงเพ่อื ให้เหตุผลอธิบำยคำตอบของนกั เรยี น
คำถำมท่ี 4 จำกขอ้ มูลทใ่ี ห้มำ หลงั จำกเดนิ ผำ่ นไปสองวันนกั เรียนจะอยทู่ ไ่ี หน
1. ทล่ี ำนจอดรถผพู้ ิทักษ์
2. ทถ่ี ำ้ ไอฟดิ ิ
3. ท่ถี ้ำรวันคำ
4. ที่ถ้ำมอนจ์วำเน่
5. ท่ีถำ้ ทวนิ ส์
6. ทโ่ี รงแรมยอดวหิ ำร
คำถำมที่ 5 นักเรียนคิดว่ำเส้นทำงเดินสำรวจในวันใดยำกลำบำกที่สุด ให้ใช้ข้อมูลจำกเน้ือเรื่อง
เพ่ือใหเ้ หตผุ ลสนับสนนุ คำตอบของนกั เรียน
คำถำมที่ 6 ตำมที่กลำ่ วในภำพรวม บนเส้นทำงเดนิ สำรวจนักเรียนจะไดช้ มพระอำทิตย์ขึ้นตอนเชำ้ ของวนั ใด
1. วันท่ี 1
2. วนั ท่ี 2
3. วันที่ 3
4. วันที่ 4
5. วันท่ี 5
-33-
ลำดับที่ 18 ควำมปลอดภยั ของโทรศัพท์มือถือ
โทรศพั ทม์ อื ถือเปน็ อนั ตรำยใช่หรอื ไม่
-34-
ถ้ำคุณใชโ้ ทรศัพท์มือถือ...
1SAR (อัตรำกำรดูดซบั จำเพำะ) เป็นกำรวดั ว่ำรงั สีแม่เหล็กไฟฟ้ำถกู ดดู ซับโดยเน้ือเยื่อของรำ่ งกำยในขณะที่
ใช้โทรศัพท์มือถือไดเ้ ทำ่ ใด
คำถำมท่ี 1 จดุ ประสงคข์ องจดุ สำคัญคอื อะไร
1. เพื่อบอกถึงอนั ตรำยของกำรใชโ้ ทรศัพท์มือถอื
2. เพอ่ื เสนอวำ่ กำรโตแ้ ย้งเร่อื งควำมปลอดภยั ของโทรศพั ท์มือถือยังดำเนนิ ตอ่ ไป
3. เพอื่ บอกถึงขอ้ ควรระวงั ท่ผี ู้ใช้โทรศัพท์มือถือควรปฏบิ ัติ
4. เพื่อเสนอว่ำไม่พบปัญหำทำงสุขภำพที่เกดิ จำกโทรศพั ท์มอื ถือ
คำถำมที่ 2 “มันยำกที่จะพิสูจน์ว่ำส่ิงหน่ึงเป็นสำเหตุของอีกสิ่งหน่ึงอย่ำงแน่นอน” ข้อมูลส่วนนี้มี
ควำมสัมพันธ์อย่ำงไรกับข้อควำมในข้อ 4 ช่อง ใช่ และ ไม่ใช่ ของตำรำง โทรศัพท์มือถือเป็นอันตรำย
ใชห่ รือไม่
1. มนั สนบั สนุนข้อโตแ้ ยง้ ในช่อง ใช่ แต่ไม่ได้พสิ จู น์
2. มนั พิสจู นข์ อ้ โต้แย้งในช่อง ใช่
3. มันสนับสนุนขอ้ โต้แย้งในชอ่ ง ไม่ใช่ แตไ่ ม่ได้พิสูจน์
4. มันแสดงวำ่ ขอ้ โตแ้ ย้งในช่อง ไมใ่ ช่ นัน้ ผดิ
คำถำมท่ี 3 ดูข้อท่ี 3 ในช่อง ไม่ใช่ ของตำรำง ในส่วนน้ี อะไรท่ีอำจเป็น “ปัจจัยอ่ืน ๆ” อย่ำงหน่ึง
จงให้เหตผุ ลประกอบคำตอบของนกั เรียน
-35-
คำถำมท่ี 4 ดตู ำรำงในหัวข้อ ถำ้ คุณใช้โทรศพั ท์มือถอื ... ตำรำงน้ตี งั้ อยู่บนพื้นฐำนของแนวคดิ ใด
1. ไมม่ อี นั ตรำยทเี่ กย่ี วข้องกับกำรใชโ้ ทรศัพท์มือถือ
2. มีควำมเสยี่ งท่ไี ด้พิสจู น์แล้วว่ำเกย่ี วขอ้ งกับกำรใช้โทรศัพทม์ อื ถอื
3. อำจมีหรือไม่มีอันตรำยที่เกย่ี วข้องกับกำรใชโ้ ทรศพั ท์มือถือ แต่ก็ควรจะระวังไว้ก่อน
4. อำจมีหรือไม่มีอนั ตรำยท่ีเกี่ยวข้องกับกำรใช้โทรศัพทม์ ือถือ แต่ไมค่ วรใชจ้ นกวำ่ จะรู้แนน่ อน
5. คำแนะนำในส่วนของ จงทำ สำหรับผู้ท่ีคดิ วำ่ เปน็ ภัยคุกคำมอย่ำงจริงจัง และคำแนะนำ
ในสว่ นของอย่ำทำ สำหรับผู้ท่ีคดิ อยำ่ งอ่ืน
-36-
ลำดบั ท่ี 19 จดุ หนึ่งน้นั ของละครเวที
-37-
"จุดหนึ่งน้ันของละครเวท"ี เป็นการเรม่ิ เรอ่ื งของบทละครที่เขียนโดยนกั เขยี นบทละครชาวฮังการีชื่อ เฟอเรนส์ มอลนาร์
คำถำมท่ี 1 ในเวลำไมน่ ำนก่อนจะเปดิ มำ่ น ตัวละครในเรื่องไดท้ ำอะไรกนั
คำถำมท่ี 2 "มนั นำนเหมือนชวั่ นริ ันดร์ บำงครั้งนำนถึง 15 นำท.ี .." (บรรทัดท่ี 2-3 ในเน้อื เรอ่ื งหน้ำท่ี 2)
ตำมที่ทไู รกลำ่ ว ทำไมเวลำ 15 นำที จงึ “เหมือนชัว่ นิรันดร์”
1. มนั เปน็ เวลำนำนมำกทจ่ี ะคำดหวงั ให้ผชู้ มนงั่ น่ิงๆ ในโรงละครทเี่ ต็มไปดว้ ยผชู้ ม
2. มนั ดเู หมอื นใชเ้ วลำไม่มที ่สี ิ้นสดุ ในกำรทำให้เรื่องรำวตอนเรม่ิ ของละครเปน็ ท่รี ู้เรือ่ งเข้ำใจกนั
3. มนั ดเู หมอื นว่ำทุกคร้งั ใช้เวลำยำวนำนท่นี กั เขยี นบทละครจะเขยี นตอนเร่มิ ของบทละคร
4. มนั ดเู หมอื นเวลำเดนิ ไปอย่ำงชำ้ ๆ เมือ่ เกิดเหตกุ ำรณส์ ำคัญข้นึ ในละคร
คำถำมท่ี 3 ผู้อ่ำนคนหน่ึงกล่ำวว่ำ “อดัมคงจะเป็นตัวละครที่ต่ืนเต้นมำกที่สุดในบรรดำตัวละครทง้ั สำมทีม่ ำใน
ปรำสำท”
ผู้อ่ำนสำมำรถกล่ำวสนบั สนุนควำมคดิ เหน็ นี้ไดอ้ ยำ่ งไร จงใชเ้ นอ้ื เรอื่ งเพ่ือให้เหตผุ ลประกอบคำตอบของนักเรยี น
-38-
คำถำมท่ี 4 ท้ังหมดน้ี มอลนำร์ นกั เขยี นบทละคร กำลังทำอะไรในบทละครที่ตัดตอนมำนี้
1. เขำกำลงั แสดงวธิ ีทีต่ ัวละครแต่ละตัวจะแก้ปญั หำของตัวเอง
2. เขำกำลังทำให้ตวั ละครของเขำแสดงให้เห็นวำ่ เหมือนชัว่ นิรันดร์ในละครเป็นเช่นไร
3. เขำกำลงั ยกตัวอย่ำงกำรเปิดกำรแสดงโดยทัว่ ไปและประเพณีปฏิบัติ
4. เขำกำลังใชต้ วั ละครเพ่ือแสดงถงึ ปญั หำหนงึ่ ในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนของตัวเขำเอง
-39-
ลำดบั ท่ี 20 กำรทำงำนทำงไกล
วิถที ำงแห่งอนำคต
ลองจินตนำกำรว่ำมันจะวิเศษอย่ำงไรถ้ำสำมำรถ “ทำงำนทำงไกล”1 บนสำยด่วนอิเล็กทรอนิกส์
ท่ีงำนทุกอย่ำงของคุณทำผ่ำนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์! ไม่ต้องขึ้นไปเบียดในรถเมล์หรือรถไฟที่คนแน่น
อีกต่อไป หรือไม่ต้องเสียเวลำเป็นชั่วโมง ๆ เดินทำงไป-กลับท่ีทำงำน คุณสำมำรถทำงำนท่ีไหนก็ได้ที่ต้องกำร
ลองคดิ ถงึ โอกำสท้ังหมดในกำรทำงำนที่อำจจะเกิดขน้ึ !
มำลี
ควำมหำยนะจำกกำรปฏิบตั ิ
กำรลดชั่วโมงกำรเดินทำงและลดกำรใช้พลังงำนที่เก่ียวข้อง เห็นได้ชัดว่ำเป็นควำมคิดท่ีดี
แต่เปำ้ หมำยนัน้ ควรทำให้สำเร็จโดยกำรพัฒนำกำรขนส่งมวลชน หรอื กำรรบั ประกนั ว่ำทที่ ำงำนจะตง้ั อยู่ใกล้
กับที่อยู่อำศัยของผู้คน ควำมคิดท่ีทะเยอทะยำนว่ำกำรทำงำนทำงไกลควรเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตมีแต่
จะนำพำผู้คนให้หมกมุ่นอยู่กับตัวเองมำกขึ้นเท่ำนั้น เรำต้องกำรจริง ๆ หรือท่ีจะให้ควำมรู้สึกเป็นส่วนหน่ึง
ของชุมชนหดหำยไป
สุชำติ
1 “กำรทำงำนทำงไกล” (Telecommuting) เป็นคำท่ีบัญญัติข้ึนโดย แจ๊ค นิลส์ ในช่วงต้นของทศวรรษท่ี 1970 เพ่ือบอกถึง
สถำนกำรณ์ท่ีผู้ทำงำนด้วยคอมพิวเตอร์ห่ำงจำกสำนักงำนกลำง (เช่น ท่ีบ้ำน) และส่งข้อมูลและเอกสำรไปยังสำนักงำน
กลำงทำงสำยโทรศพั ท์
คำถำมท่ี 1 ควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ ง “วิถีทำงแห่งอนำคต” กบั “ควำมหำยนะจำกกำรปฏบิ ัติ” คอื อะไร
1. เขำใชข้ อ้ โต้แย้งท่ีตำ่ งกนั เพื่อลงข้อสรปุ รวมเดียวกนั
2. เขำเขียนในรปู แบบที่เหมอื นกันแตเ่ ป็นหัวข้อทแ่ี ตกตำ่ งกันโดยสิน้ เชงิ
3. เขำแสดงมุมมองทวั่ ไปท่ีเหมือนกัน แต่ไปถึงช่วงสรุปทต่ี ่ำงกนั
4. เขำแสดงมมุ มองที่ขัดแยง้ กันในหัวขอ้ เดยี วกัน
คำถำมท่ี 2 งำนหนงึ่ อยำ่ งท่ีอำจจะมีปัญหำถ้ำทำงำนทำงไกล คอื งำนอะไร จงใหเ้ หตผุ ลประกอบคำตอบของนักเรียน
คำถำมที่ 3 ขอ้ ควำมใดที่ทัง้ มำลีและสชุ ำตนิ ่ำจะมีควำมเห็นตรงกนั
1. ผู้คนควรไดร้ ับอนุญำตให้ทำงำนก่ีช่วั โมงกไ็ ดต้ ำมท่พี วกเขำตอ้ งกำร
2. ไม่ใชค่ วำมคิดที่ดที ค่ี นใชเ้ วลำมำกเกนิ ไปในกำรเดินทำงไปทำงำน
3. กำรทำงำนทำงไกลอำจไมเ่ หมำะกับทุกคน
4. กำรสรำ้ งควำมสัมพันธท์ ำงสงั คมเปน็ ส่วนสำคัญท่สี ดุ ของกำรทำงำน
-40-
ลำดบั ที่ 21 เทคโนโลยีทำให้จำเปน็ ตอ้ งมกี ฎใหม่
บทบรรณำธิกำร
เทคโนโลยที ำให้จำเปน็ ต้องมีกฎใหม่
วิทยำศำสตร์ได้ก้ำวล้ำหน้ำกฎหมำยและ จริยธรรม มันเกิดมำต้ังแต่ ปี ค.ศ. 1945 เม่ือมีกำร
ทำลำยล้ำงชีวิตมนุษย์ด้วยระเบิดปรมำณู และทุกวันนี้มีวิทยำกำรใหม่ท่ีเกิดข้ึนคือ กำรสร้ำงชีวิตด้วยวิธี
นอกเหนอื ธรรมชำตสิ ำหรบั บุคคลทีเ่ ป็นหมัน
เรำส่วนใหญ่คงจำได้ถึงควำมยินดีกับครอบครัว บรำวน์ ชำวอังกฤษที่เด็กหลอดแก้วคนแรกถือ
กำเนดิ ขึ้น และเมื่อเร็วๆ นี้ มีเดก็ ทีเ่ กดิ จำกตัวอ่อนแช่แข็งรอกำรฝังในครรภ์ของหญงิ ที่จะมำเป็นแม่
เร่ืองท่ีปลุกกระแสกำรคัดคำ้ นเชิงกฎหมำยและจริยธรรมเกิดข้ึนเน่อื งจำกกรณตี ัวอ่อนแช่แข็ง 2 ตัว
ในประเทศออสเตรเลีย ตัวอ่อนนี้เตรียมไว้สำหรับฝำกในครรภ์ของเวลซำ ริโอส์ ภรรยำของมำริโอ ริโอส์
ตัวอ่อนแรกได้รับกำรฝัง เพื่อให้เติบโตในครรภ์ของ เวลซำ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ สำมีภรรยำคู่นี้ต้องกำร
แกต้ ัวใหม่ แต่กอ่ นท่ที ุกอย่ำงจะดำเนนิ ไปตำมแผน ทงั้ คู่ประสบอบุ ตั เิ หตุเครือ่ งบินตกเสียกอ่ น
โรงพยำบำลของออสเตรเลียจะทำอย่ำงไรกับตัวอ่อนท่ีเหลือ ควรจะฝำกในครรภ์หญิงอ่ืนหรือไม่
ซ่งึ มีหญิงจำนวนมำกอำสำเป็นแม่ให้ แต่ตัวอ่อนน้ีจะมีสทิ ธิในทรัพย์สินของริโอส์หรือไม่ หรือตัวอ่อนควรถูก
ทำลำยไปเทำ่ ที่ทรำบกัน สำมภี รรยำคนู่ ม้ี ไิ ด้แจง้ ควำมจำนงใด ๆ ถึงอนำคตของตัวออ่ นนี้
ชำวออสเตรเลีย ได้ตั้งคณะกรรมกำรเพื่อศึกษำเฉพำะกรณีนี้ เมื่อสัปดำห์ที่แล้ว กรรมกำรรำยงำน
ว่ำตัวอ่อนควรถูกสลำยไป เพรำะมีข้อกฎหมำยระบุว่ำผู้รับบริจำคตัวอ่อนจำกผู้อ่ืนต้องได้รับคำยินยอม
จำกเจ้ำของก่อน สำหรับในกรณีน้ีไม่มีคำยินยอมใดจำกเจ้ำของเดิม คณะกรรมกำรยังพิจำรณำอีกว่ำสภำพ
ของตัวออ่ นขณะนไี้ ม่มีชวี ติ และไมม่ สี ิทธใิ์ ด ๆ จึงควรทำลำยเสยี
อย่ำงไรก็ตำมคณะกรรมกำรชุดน้ีคำนึงถึงข้อกฎหมำยและพ้ืนฐำนทำงจริยธรรม จึงให้เวลำอีก
3 เดือน เพ่ือรับฟังควำมคิดเห็นของสำธำรณชน ถ้ำมีเสียงคัดค้ำนกำรทำลำยตัวอ่อนมำก คณะกรรมกำร
จะนำขอ้ พจิ ำรณำมำทบทวนอีกครั้ง
ปัจจุบันหำกมีคู่สำมีภรรยำใดสมัครใจใช้วิธีแช่แข็งตัวอ่อนท่ีโรงพยำบำลควีนวิคตอเรียในซิดนีย์
จะต้องแจ้งให้ชดั เจนวำ่ จะทำอย่ำงไรกบั ตัวอ่อนหำกมีอะไรไม่คำดคิดเกิดกับคู่สำมภี รรยำน้นั
ทั้งน้ีเพื่อให้ม่ันใจว่ำจะไม่เกิดกรณีซ้ำรอยแบบคู่ของริโอส์อีก แต่ยังมีปัญหำท่ียุ่งยำกอ่ืน ๆ อะไรอีก
เม่ือเร็ว ๆ นี้ ท่ีฝรั่งเศสมีหญิงสำวข้ึนศำลเพื่อขออนุญำตให้เธอกำเนิดลูกจำกเสปิร์มแช่แข็งของสำมี
ท่ีเสียชีวิตไปแล้ว ควรทำอย่ำงไรกับคำขอน้ี หรือจะทำอย่ำงไรหำกแม่ท่ีรับฝำกทำรกในครรภ์เกิดเปลี่ยนใจ
ไม่ยอมคนื ทำรกตำมสญั ญำรบั ฝำกทำรกในครรภท์ ่ีทำไว้
สังคมของเรำทุกวันน้ีล้มเหลวในกำรใช้ กฎระเบียบ เพื่อควบคุมกำรเพิ่มศักยภำพกำรพัฒนำ
ของพลังนิวเคลียร์ที่ใช้ทำลำยล้ำงกัน เรำจะต้องเผชิญกับฝันร้ำยอย่ำงหนักหน่วงกับควำมล้มเหลวน้ัน
โอกำสที่จะนำควำมสำมำรถของนักวิทยำศำสตร์ไปใช้ในทำงท่ีผิดจะมีข้ึนมำกมำยอย่ำงชัดเจน จึงต้องมี
กำรจำกัดขอบเขตทำงด้ำนกฎหมำยและจริยธรรมก่อนที่เรำจะไปกนั ไกลเกนิ ไป
-41-
คำถำมที่ 1 จงเลือกประโยคท่ีอธิบำยสิ่งท่ีชำวออสเตรเลียได้ดำเนินกำร เพ่ือช่วยตัดสินใจว่ำจะทำอย่ำงไร
กบั ตัวออ่ นแช่แข็งของคสู่ ำมีภรรยำ ท่ปี ระสบอบุ ัติเหตุเครือ่ งบนิ ตก
คำถำมท่ี 2 จงยกตวั อยำ่ ง 2 ตวั อยำ่ ง จำกบทบรรณำธิกำรที่แสดงวำ่ เทคโนโลยปี ัจจุบนั เชน่ กำรฝำก
ตวั อ่อนแช่แข็งในครรภ์ สร้ำงควำมจำเปน็ ทจี่ ะต้องมีกฎใหม่
-42-
ลำดับท่ี 22 แผนผงั ห้องสมุด
คำถำมที่ 1 จำกแผนผงั ของหอ้ งสมุด จงคลกิ ทสี่ ถำนที่ทีท่ ำ่ นคิดวำ่ สำมำรถหำนวนยิ ำยภำษำฝร่ังเศสไดพ้ บ
คำถำมที่ 2 ระยะทำงทีใ่ กล้ท่สี ุดจำกทำงเขำ้ ไปถึงทเ่ี ก็บหนงั สอื พิมพ์ต้องผำ่ นอะไร
1. แผนกวำรสำร
2. ทย่ี ืมหนงั สือออก
3. แผนกหนังสืออ้ำงองิ
4. มมุ หนงั สือเด็ก
คำถำมที่ 3 หนังสือใหมว่ ำงอยู่ทไ่ี หน
1. ในสว่ นนวนยิ ำย
2. ในส่วนวชิ ำกำร
3. ใกลท้ ำงเขำ้
4. ใกล้โตะ๊ ประชำสมั พันธ์
จงอธิบำยวำ่ ทำไมส่วนนีจ้ ึงถูกเลือกเปน็ ทว่ี ำงหนังสือใหม่
-43-
ลำดบั ท่ี 23 รถไฟใต้ดิน
คำถำมที่ 1 จำกสถำนีรถไฟใต้ดินสถำนีใด ที่นักเรียนสำมำรถข้ึนทั้งรถเมล์ระหว่ำงเมืองและรถไฟ
ระหว่ำงเมอื งได้
คำถำมท่ี 2 ถ้ำนักเรียนอยู่ท่ีสถำนีสวนสัตวแ์ ละต้องกำรไปที่สถำนีสะพำนหนิ นกั เรียนต้องเปล่ยี นขบวน
ทีส่ ถำนีใด
1. ศำลำกลำง
2. รมิ นำ้
3. รมิ อ่ำว
4. ทำ่ เรือเกำ่
คำถำมที่ 3 บำงสถำนี เช่น สถำนีสุดตะวันตก สถำนีสวนสัตว์ และสถำนีอิสรภำพ มีกำรแรเงำสีเทำ
ลอ้ มรอบสถำนี กำรแรเงำแสดงวำ่ สถำนีเหล่ำนี้คอื อะไร
คำถำมที่ 4 นักเรียนต้องกำรหำเสน้ ทำงส้นั ท่สี ุดเพ่ือเดินทำงด้วยรถไฟใตด้ นิ จำกสถำนีซำโตไ้ ปยงั สถำนปี ำ่ ไม้
คำถำมที่ 5 นกั เรียนจะหำข้อมูลเกี่ยวกับระบบรถไฟใตด้ ินเพมิ่ เติมจำกท่ีแสดงไว้ในหน้ำรถไฟใต้ดนิ ได้อยำ่ งไร
-44-
ลำดบั ที่ 24 กระดำนสนทนำเรอ่ื งไก่
นักเรียนเดินทำงไปเยี่ยมญำติท่ีเพิ่งย้ำยไปทำฟำร์มเลี้ยงไก่ นักเรียนถำมคุณป้ำว่ำ “ป้ำรู้วิธีเล้ียงไก่
ไดอ้ ยำ่ งไร”
คุณป้ำตอบว่ำ “เรำได้พูดคุยกับผู้ท่ีเลี้ยงไก่หลำยๆ คน และยังมีแหล่งเรียนรู้มำกมำยใน
อนิ เทอร์เน็ต เช่น มีกระดำนสนทนำเร่ืองสขุ ภำพของไก่ทปี่ ้ำชอบเข้ำไปดู ซึ่งมันช่วยไดอ้ ย่ำงมำกตอนที่แมไ่ ก่
ตวั หนง่ึ มีอำกำรเจ็บขำเมื่อไม่นำนมำน้ี ป้ำจะใหด้ บู ทสนทนำท่ีป้ำเกบ็ ไว้”
-45-
คำถำมท่ี 1 อุษำ_88 ตอ้ งกำรรใู้ นเรอื่ งใด
1. เธอสำมำรถให้แอสไพรนิ กับแม่ไกท่ ีบ่ ำดเจบ็ ได้หรือไม่
2. เธอสำมำรถใหแ้ อสไพรินกับแมไ่ ก่ทบ่ี ำดเจ็บไดบ้ ่อยเพยี งใด
3. เธอจะตดิ ต่อสัตวแพทย์เกี่ยวกบั เรอื่ งแม่ไก่ที่บำดเจ็บได้อย่ำงไร
4. เธอสำมำรถวนิ จิ ฉัยระดับควำมเจ็บปวดของแม่ไก่ทบี่ ำดเจ็บได้หรือไม่
คำถำมท่ี 2 เพรำะเหตใุ ด อุษำ_88 จงึ ตัดสินใจโพสต์คำถำมของเธอลงบนกระดำนสนทนำในอนิ เทอรเ์ นต็
1. เพรำะเธอไม่รู้ว่ำจะค้นหำสัตวแพทย์ไดอ้ ยำ่ งไร
2. เพรำะเธอคดิ ว่ำปัญหำของแมไ่ ก่ไม่ได้รุนแรง
3. เพรำะเธอต้องกำรช่วยแมไ่ กใ่ หเ้ รว็ ที่สดุ เท่ำที่จะทำได้
4. เพรำะเธอมีเงินไม่มำกพอทจี่ ะไปหำสัตวแพทย์
-46-
คำถำมท่ี 3 บนกระดำนสนทนำมีบำงโพสต์ที่เก่ียวข้องกับหัวข้อเรื่อง แต่บำงโพสต์ก็ไม่เก่ียวข้องกับ
หัวข้อเร่ือง จงเลือก ใช่ หรือ ไมใ่ ช่ เพ่ือระบุว่ำโพสต์ท่อี ยู่ในตำรำงข้ำงลำ่ งเก่ียวกับปัญหำของอุษำ_88
หรือไม่
โพสตน์ ีเ้ กยี่ วกับปัญหำของอุษำ_88 ใช่หรือไม่ ใช่ ไม่ใช่
โพสต์ของนิวB79
โพสตข์ องมล
โพสตข์ องสินคำ้ _สัตว์ปีก
โพสต์ของบอย
โพสตข์ องภำณุ
คำถำมท่ี 4 ผู้ท่ีเคยมีประสบกำรณ์ด้ำนบวกในกำรใชแ้ อสไพรินกบั แมไ่ ก่ท่ีบำดเจ็บคอื ใคร
1. อุษำ_88
2. นวิ B79
3. มล
4. บอย
คำถำมท่ี 5 เพรำะเหตุใด สินคำ้ _สัตว์ปกี จึงตอบโพสต์ของอุษำ_88
1. เพ่ือเป็นกำรโฆษณำธรุ กจิ
2. เพือ่ ตอบคำถำมของอษุ ำ_88
3. เพื่อเสริมคำแนะนำของมล
4. เพอ่ื แสดงถึงควำมเชย่ี วชำญในเรือ่ งนก
คำถำมที่ 6 ใครคือผูท้ โี่ พสต์ตอบคำถำมของ อุษำ_88 ได้น่ำเช่อื ถือทส่ี ุด
1. นิวB79
2. มล
3. สินค้ำ_สัตวป์ กี
4. ภำณุ
จงใหเ้ หตุผลอธิบำยคำตอบของนกั เรียน
คำถำมท่ี 7 เพรำะเหตใุ ดภำณจุ งึ ไม่สำมำรถบอกปรมิ ำณทีแ่ น่นอนของแอสไพรินสำหรบั แมไ่ กข่ องอุษำ_88 ได้
-47-