คู่มือการประเมิน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ปีการศึกษา 2564
โรงเรียนบ้านโนนหัวบึง
สังกัด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ปราจีนบุรี เขต 2
ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
ค ำน ำ
ึ
ด้วยกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีคาสั่งให้โรงเรียนบ้านน้ายาวใช้หลักสูตรแกนกลางการศกษาขั้นพื้นฐาน
ิ
พุทธศักราช 2551 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ใช้แนวคิดหลักสูตรองมาตรฐาน กล่าวคือเป็นหลักสูตรที่ก าหนดมาตรฐาน
การเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยในมาตรฐานการเรียนรู้ได้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้และปฏิบัติ
ได้เมื่อส าเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา ได้ยึดเป็นแนวทางในการดา
เนินการพัฒนาและส่งเสริมให้ผู้เรียนได้บรรลุคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ดังกล่าว ด้วยการดาเนินการบริหาร
จัดการอิงมาตรฐาน การจัดการเรียนรู้ที่มีมาตรฐานเป็นเป้าหมาย การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่สะท้อนมาตรฐาน
เพื่อให้กระบวนการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นโรงเรียนบ้านโนนหัวบึงจึงได้ดาเนินการจัดทาคู่มอการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องกับ
ื
หลักสูตรแกนกลางการศกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตามที่สถานศึกษาได้พัฒนาขึ้น เพื่อทราบถึงคุณภาพ
ึ
และมาตรฐานของผู้เรียน
ู่
โรงเรียนบ้านโนนหัวบึงขอขอบคุณคณะครูโรงเรียนบ้านน้ายาวและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทาคมือ
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าเร็จลุล่วงไปได้
ึ
ด้วย
งานวัดและประเมินผล
กลุ่มบริหารงานวิชาการโรงเรียนบ้านโนนหัวบึง
สำรบัญ
หน้ำ
ค านา ก
ความสาคัญ 1
ความหมาย 2
เป้าหมาย 2
หลักการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 3
แนวการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 4
บทบาทของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง 5
ขั้นตอนการดาเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 9
การก าหนดเวลา 10
รายละเอียดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 11
กิจกรรมแนะแนว 11
กิจกรรมลูกเสือ 14
กิจกรรมชุมนุม 19
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 20
1
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
1. ความส าคัญ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ก าหนดแนวการจัดการศึกษา โดยยึดหลักว่า
ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความส าคัญที่สุด กระบวนการ
ั
จัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพฒนาตามธรรมชาติ และเต็มตามศักยภาพ โดยจัดเนื้อหาสาระ
ั
และกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน ค านึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึก
ทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกัน
แก้ปัญหาและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กอปรกับมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและเทคโนโลยี
ก่อให้เกิดทั้งผลดีและผลเสียต่อการดาเนินชีวิตในปัจจุบันของบุคคล ทาให้เกิดความยุ่งยากซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
จาเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดาเนินชีวิตให้สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี และมี
ื้
ั
ความสุขหลักสูตรการศึกษาขั้นพนฐาน ก าหนดให้มีสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพฒนา ผู้เรียน ซึ่ง
กิจกรรมพฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมที่จัดให้ผู้เรียนได้พฒนาความสามารถของตนเองตามศักยภาพ มุ่งเน้น
ั
ั
ิ่
เพมเติมจากกิจกรรมที่ได้จัดให้เรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม การเข้า ร่วมและปฏิบัติกิจกรรมที่
ื่
เหมาะสมร่วมกับผู้อนอย่างมีความสุขกับกิจกรรมที่เลือกด้วยตนเองตามความถนัด และความสนใจอย่าง
แท้จริง การพฒนาที่ส าคัญ ได้แก่ การพฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุกด้าน ทั้งร่างกาย
ั
ั
สติปัญญา อารมณ์ และสังคม โดยอาจจัดเป็นแนวทางหนึ่งที่จะสนองนโยบายในการสร้างเยาวชนของชาติให้
ั
เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย และมีคุณภาพเพอพฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
ื่
ปลูกฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพอสังคม ซึ่งสถานศึกษาจะต้องดาเนินการอย่างมีเป้าหมาย มี
ื่
รูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
ั
1. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพฒนาความสามารถของผู้เรียนให้เหมาะสมตาม
ั
ความแตกต่างระหว่างบุคคล สามารถค้นพบและพฒนาศักยภาพของตน เสริมสร้างทักษะชีวิต วุฒิภาวะทาง
อารมณ์ การเรียนรู้ในเชิงพหุปัญญา และการสร้างสัมพนธภาพที่ดี ซึ่งผู้สอนทุกคนต้องทาหน้าที่แนะแนวให้คา
ั
ปรึกษาด้านชีวิต การศึกษาต่อและการพัฒนาตนเองสู่โลกอาชีพและการมี งานทา
2. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่เกิดจากความสมัครใจของผู้เรียนมุ่งพฒนาคุณลักษณะที่พง
ึ
ั
ิ่
ประสงค์เพมเติมจากกิจกรรมในกลุ่มสาระ เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนช่วยกันคิด ช่วยกันทา ช่วยกัน แก้ปัญหา
ส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียนอย่างเต็มที่ รวมถึงกิจกรรมที่มุ่งปลูกฝังความมีระเบียบวินัย รับผิดชอบ รู้สิทธิและ
หน้าที่ของตนเองในการอยู่ร่วมกันตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แบ่ง ตาม
ความแตกต่างระหว่างกิจกรรมได้เป็น 2 ลักษณะ
ั
2.1 กิจกรรมพฒนาความถนัด ความสนใจ ตามความต้องการของผู้เรียน เป็นกิจกรรม ที่มุ่งเน้นการ
เติมเต็มความรู้ ความช านาญและประสบการณ์ของผู้เรียนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพอการค้นพบความถนัดความ
ื่
2
ั
สนใจของตนเอง และพัฒนาตนเองให้เต็มศักยภาพ ตลอดจนการพฒนาทักษะของสังคม และปลูกฝังจิตสานึก
ของการทาประโยชน์เพื่อสังคม
2.2 กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และผู้บาเพ็ญประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่มุ่งปลูกฝัง
ื่
ระเบียบวินัย กฎเกณฑ์ เพอการอยู่ร่วมกันในสภาพชีวิตต่าง ๆ นาไปสู่พนฐานการทาประโยชน์ให้แก่สังคม
ื้
และวิถีชีวิตในระบอบประชาธิปไตยอนมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งกระบวนการจัดให้เป็นไปตาม
ั
็
ข้อก าหนดของคณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติ สมาคม ผู้บาเพญประโยชน์และกรมรักษาดินแดนทั้งนี้ ในทาง
ปฏิบัติสถานศึกษาจัดกิจกรรมในลักษณะของการบูรณาการองค์ความรู้ ต่าง ๆ ที่เกื้อกูลส่งเสริมการเรียนรู้ตาม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ให้มีความกว้างขวางลึกซึ้งยิ่งขึ้น อกทั้งให้ ผู้เรียนได้ค้นพบและใช้ศักยภาพที่มีในตนอย่าง
ี
เต็มที่ เลือก ตัดสินใจ ได้อย่างมีเหตุผลเหมาะสมกับ ตนเอง สามารถวางแผนชีวิตและอาชีพได้อย่างมีคุณภาพ
ื่
ั
เน้นการ เสริมสร้างทักษะชีวิต วุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรม และจริยธรรม รู้จักสร้างสัมพนธภาพที่ดีเพอ
ปรับตัวเข้ากับบุคคลและสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างดีและมีความสุข เช่น กิจกรรมการสร้างเสริมความรู้สึกรัก
ั
ั
และเห็นคุณค่าในตนเอง กิจกรรมพฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรม และจริยธรรม กิจกรรมพฒนาทักษะ
ชีวิต กิจกรรมสร้างเสริมประสิทธิภาพการเรียน เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้สามารถหลอมเข้าไปในการจัด
็
กิจกรรมลูกเสือเนตรนารี ผู้บาเพญประโยชน์ในลักษณะของการ เข้าค่ายต่าง ๆ หรืออาจแยกจัดเป็นกิจกรรม
็
เฉพาะทางได้ เช่น จัดกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ผู้บาเพญประโยชน์ โดยมุ่งเป็นการฝึกระเบียบวินัย การอยู่
ร่วมกันอย่างมีความสุข กิจกรรมชมรมวิชาการ มุ่งเน้น ประสบการณ์ความชานาญเฉพาะเรื่องที่ถนัดและสนใจ
ื่
จากการเรียนรู้กลุ่มสาระต่างๆ ชุมนุมต่างๆ เพอการร่วมกับคิดค้นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ก่อให้เกิดความสนุก
ั
ความสุข และพฒนาทักษะทางสังคม ทั้งนี้แม้จะแยกจัดกิจกรรมเฉพาะทางก็สามารถบูรณาการกิจกรรมแนะ
แนวเข้าไว้ด้วย เพื่อให้ค้นพบศักยภาพของตนเองด้วย
3. กิจกรรมเพอสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบาเพญตนให้เป็น
ื่
็
ื่
ประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพอแสดงถึงความรับผิดชอบ
ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพฒนาต่างๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม
ั
การให้นักเรียนทากิจกรรมเพอสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นความมุ่งหวังที่จะสร้าง “จิตสาธารณะ” และ
ื่
คุณลักษณะแฝงอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านกิจกรรมน
ความหมาย
กิจกรรมพฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่จัดอย่างเป็นกระบวนการด้วยรูปแบบ วิธีการที่หลากหลาย ใน
ั
การพฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ และสังคม มุ่งเสริมเจตคติ คุณค่าชีวิต ปลูกฝัง
ั
คุณธรรมและค่านิยมที่พงประสงค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สร้างจิตสานึกในธรรมชาติ และ
ึ
สิ่งแวดล้อม ปรับตัวและปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ และดารงชีวิตได้อย่างมีความสุข
3
เป้าหมาย
ั
ื่
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมุ่งพฒนาให้บุคคลรู้จักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อน มีวุฒิภาวะทาง
อารมณ์ มีกระบวนการคิด มีทักษะในการดาเนินชีวิตอย่างเหมาะสม และมีความสุข มีจิตสานึกในการ
รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ โดยก าหนดเป้าหมายในการจัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียน
ั
ดังนี้
1. ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย เกิดความรู้ ความช านาญ ทั้งวิชาการและ วิชาชีพอย่าง
กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ั
ิ
2. ผู้เรียนค้นพบความสนใจ ความถนัด และพฒนาความสามารถพเศษเฉพาะตัว มองเห็นช่องทางใน
การสร้างงาน อาชีพในอนาคตได้เหมาะสมกับตนเอง
3. ผู้เรียนเห็นคุณค่าขององค์ความรู้ต่าง ๆ สามารถนาความรู้และประสบการณ์ไปใช้ในการพฒนา
ั
ตนเองและประกอบสัมมาชีพ
4. ผู้เรียนพัฒนาบุคลิกภาพ เจตคติ ค่านิยมในการดาเนินชีวิต และเสริมสร้างศีลธรรม จริยธรรม
5. ผู้เรียนมีจิตสานึกและทาประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ
หลักการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมีหลักการจัดดังนี้
1. มีการก าหนดวัตถุประสงค์และแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม
2. จัดให้เหมาะสมกับวัย วุฒิภาวะ ความสนใจ ความถนัด และความสามารถของผู้เรียน
3. บูรณาการวิชาการกับชีวิตจริงให้ผู้เรียน ได้ตระหนักถึงความส าคัญของการเรียนรู้ตลอด
ชีวิต
4. ใช้กระบวนการกลุ่มในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ฝึกให้คิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ จินตนาการ
ที่เป็นประโยชน์และสัมพันธ์กับชีวิตในแต่ละช่วงวัยอย่างต่อเนื่อง
5. จานวนสมาชิกมีความเหมาะสมกับลักษณะของกิจกรรม
6. มีการก าหนดเวลาในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายของ
สถานศึกษา
7. ผู้เรียนเป็นผู้ดาเนินการ มีครูเป็นที่ปรึกษาถือเป็นหน้าที่และงานประจาโดยค านึงถึงความ
ปลอดภัย
8. ยึดหลักการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กร ทั้งภาครัฐ
และเอกชน มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม
9. มีการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยวิธีการที่หลากหลายและสอดคล้องกับกิจกรรม
อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยให้ถือว่าเป็นเกณฑ์ประเมินผลการผ่านช่วงชั้นเรียน
4
แนวการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนเข้าร่วมกิจกรรม โดยค านึงถึงแนวการจัดดังต่อไปนี้ 1. การจัด
กิจกรรมต่างๆ เพื่อเกื้อกูลส่งเสริมการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ เช่น การ
บูรณการโครงการ องค์ความรู้จากกลุ่มสาระการเรียนรู้ เป็นต้น
2. จัดกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดตามธรรมชาติ และความสามารถ ความต้องการ ของผู้เรียน
และชุมชน เช่น ชมรมทางวิชาการต่าง ๆ เป็นต้น
3. จัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสานึกในการทาประโยชน์ต่อสังคม เช่น กิจกรรม ลูกเสือ เนตร
นารี เป็นต้น
4. จัดกิจกรรมประเภทบริการด้านต่าง ๆ ฝึกการทางานที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม
กิจกรรมต่อไปนี้เป็นกิจกรรมที่สถานศึกษาอาจเสนอแนะต่อผู้เรียน
1. กิจกรรมสร้างเสริมความรู้สึกรักและเห็นคุณค่าในตนเองเป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริมความรู้สึกรัก
ื่
และเห็นคุณค่าในตนเอง เพอช่วยให้ผู้เรียนส ารวจ วิเคราะห์ประเมินตนเองตามความเป็นจริง จนกระทั่งรู้จัก
ื่
เข้าใจ ยอมรับ ควบคุมและพฒนาตนเอง มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อน รู้ว่าตนมีความสามารถ มีคุณค่า
ั
สามารถสร้างสิ่งดีงาม ให้แก่ตนเอง ครอบครัว สังคม และดารงชีวิตได้อย่างมีความสุข
2. กิจกรรมพฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรม และจริยธรรม เป็นกิจกรรม ที่มุ่งพฒนาวุฒิภาวะ
ั
ั
ื่
ทางอารมณ์ เชาวน์ปัญญาในการแก้ปัญหา เชาวน์ปัญญาทางด้านศีลธรรม และจริยธรรม เพอช่วยให้ผู้เรียนมี
ื่
ความสมดุลทั้งด้านจิตใจ ร่างกาย อารมณ์ และสังคม ทาให้ดาเนินชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อนอย่างสร้างสรรค์ และมี
ความสุข ประสบความส าเร็จในชีวิตเป็นคนดี มีปัญญา และมีความสุข
3. กิจกรรมสร้างเสริมประสิทธิภาพในการเรียนเป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริมประสิทธิภาพในการเรียน
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาการเรียนรู้ของตนได้เต็มตามศักยภาพ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียน มี
นิสัยในการเรียนที่ดี เห็นคุณค่าของ การแสวงหาความรู้ มีเทคนิคและวิธีการเรียนที่ดี รู้ว่าปัจจัย
ส่งเสริมการเรียนที่ดี และวางแผนการศึกษา และอนาคตของตนได้
ื่
4. กิจกรรมสร้างเสริมนิสัยรักการทางานเป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริมนิสัยรักการทางาน เพอช่วยให้
ึ
ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง ปลูกฝังค่านิยมนิสัยรักการทางาน แสดงถึงความพงพอใจ มุ่งมั่นที่จะทางานให้
บรรลุผลส าเร็จ และมีความภาคภูมิใจในผลงานของตน
5. กิจกรรมสร้างเสริมนิสัยการทาประโยชน์เพื่อสังคมเป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริมนิสัยการทา
ื้
ประโยชน์เพอสังคม เพอช่วยให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง ปลูกฝังคุณลักษณะนิสัยที่เออต่อการทา
ื่
ื่
ประโยชน์เพื่อสังคม เห็นแนวทางที่จะทาประโยชน์ให้กับสังคม และสามารถนาไปปฏิบัติในชีวิตประจาวันได้
ื่
ั
6. กิจกรรมพฒนาทักษะชีวิตเป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริมความสามารถในการปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อน
ื่
ในสังคมได้อย่างมีความสุข เพอช่วยให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ สามารถจัด
5
ุ
การกับความต้องการความขัดแย้ง อปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลง
สิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นได้
7. กิจกรรมฉลาดกินฉลาดใช้เป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริม พฒนาการคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจเลือก
ั
ื่
บริโภค โดย ยึดหลักประโยชน์ ประหยัด และปลอดภัยเพอช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้มาใช้ให้เป็น
ประโยชน์ต่อการบริโภคในชีวิตประจาวันได้
8. กิจกรรมศิลปินนักอ่านเป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริมพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงร้อยแก้วหรือร้อย
กรองตามความสนใจของผู้เรียน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเสียงได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ั
9. กิจกรรมเพื่อนที่แสนดีเป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริม พฒนาให้มีความสามารถปรับปรุงตนเองในการ
ปฏิบัติต่อผู้อื่นได้อย่างเหมาะสมช่วยให้ผู้เรียนได้ ปฏิบัติตนช่วยเหลือผู้อื่นที่เดือดร้อนได้
10. กิจกรรมบริการแนะแนวและให้คาปรึกษาเป็นกิจกรรมมุ่งส่งเสริมให้รักการทางานก็เป็น
ประโยชน์ต่อตนเอง ส่วนรวม และมีความสามารถในการให้บริการ มีทักษะในการ ให้คาปรึกษา เพอช่วยให้
ื่
ผู้เรียนเป็นผู้ให้การแนะแนวและให้คาปรึกษาเบื้องต้นได้ และเป็นการทาประโยชน์ให้แก่สังคม
็
11. กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี ผู้บาเพญประโยชน์ และรักษาดินแดนเป็นกิจกรรมที่มุ่งจัดฝึกอบรม
ุ
บ่มนิสัย ให้เป็นพลเมืองดีตามจารีตประเพณีของชาติ บ้านเมืองและตามอดมคติ อดมการณ์ของลูกเสือ-เนตร
ุ
็
นารี ผู้บาเพญประโยชน์ และ รักษาดินแดน โดยดาเนินการจัดกิจกรรมให้เป็นไปตามข้อก าหนดของ
คณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติ สมาคมผู้บาเพ็ญประโยชน์
ั
12. กิจกรรมพิทักษ์ป่าเป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริมกระบวนการอนุรักษ์และพฒนาป่าโดยการเข้าค่าย
ในป่ามีการออกระเบียบกฎเกณฑ์ของการอยู่ร่วมกันในค่าย การเดินทางไกลพฒนาทักษะการสังเกต คิด
ั
ตัดสินใจ แก้ปัญหาและคิดสร้างสรรค์ในการอนุรักษ์และพัฒนาป่า
13. กิจกรรมผู้บาเพ็ญประโยชน์ เรียนรู้ร่วมกันเป็นกิจกรรมที่สร้างเสริม สนับสนุนให้เด็กหญิง เยาว
สตรีได้เรียนรู้กิจกรรมผู้บาเพญประโยชน์ ฝึกทักษะในการเป็นผู้ช่วยเหลือ แสดงความเมตตา กรุณา ทุกคน
็
ร่วมกันปฏิญาณตนเพื่อปฏิบัติตามกฎผู้บาเพ็ญประโยชน์ ได้เรียนรู้กระบวนการกลุ่มในการอยู่ร่วมกัน สามารถ
ค้นพบความสามารถ สนใจ และเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ
นอกจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่เสนอแนะไว้แล้วข้างต้น ผู้เรียนอาจเสนอกิจกรรมอนๆ ได้ตามความ
ื่
ต้องการ และความสนใจ เช่น กิจกรรมทาหนังสือรุ่น กิจกรรมทาหนังสือพิมพ์โรงเรียนเป็นต้น
บทบาทของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
ในการดาเนินการจัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียนให้มีประสิทธิผล จาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องก าหนดบทบาท
ั
หน้าที่ของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง สถานศึกษาจะสามารถนาไปปรับปรุงและเลือกปฏิบัติได้ตามความเหมาะสม
และความพร้อมของแต่ละสถานศึกษา คือบทบาทของคณะกรรมการสถานศึกษา ตามพระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวด 4 มาตรา 29 และหมวด 5 มาตรา 40 ที่มุ่งเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมใน
6
ื่
การจัดการศึกษาและให้มีคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพนฐาน เพอทาหน้าที่ กากับ และส่งเสริมสนับสนุนใน
ื้
ั
การบริหารจัดการในสถานศึกษานั้น คณะกรรมการสถานศึกษาควรมีบทบาทในการจัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียน
ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบ มีส่วนร่วมในการก าหนดนโยบาย เป้าหมายและดาเนินการ
1.1 มีส่วนร่วมในการวางแผน วิเคราะห์การจัดกิจกรรมของสถานศึกษา
1.2 ให้ความเห็นชอบแผนการจัดกิจกรรมของสถานศึกษา
1.3 มีส่วนร่วมในการดาเนินการจัดกิจกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
1.4 มีส่วนร่วมในการประเมินผล เพื่อปรับปรุงและพัฒนาในโอกาสต่อไป
2. ส่งเสริม สนับสนุน การดาเนินการจัดกิจกรรมของสถานศึกษาในด้านต่าง ๆ
2.1 ด้านงบประมาณ กรรมการสถานศึกษาต้องมีส่วนในการจัดหางบประมาณ สนับสนุน
การจัดกิจกรรม วัสดุภัณฑ เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในการปฏิบัติกิจกรรม
์
2.2 เป็นวิทยากรและแนะนาวิทยากร คณะกรรมการสถานศึกษาส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย
ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่าง ๆ ผู้แทนองค์กรปกครองท้องถิ่น ผู้แทนชุมชน ผู้แทน ผู้ปกครอง และศิษย์เก่า ซึ่ง
ล้วนแต่มีศักยภาพในตัวเอง ฉะนั้นจึงสามารถเป็นวิทยากรหรือจัดหาวิทยากรภายนอกในกรณที่ขาดผู้เชี่ยวชาญ
ี
เฉพาะสาขาที่ก าหนดในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2.3 ให้คาปรึกษาและส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการจัดกิจกรรมพฒนา ผู้เรียน ควร
ั
ก าหนดให้สอดคล้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่น และตระหนัก
ในหน้าที่ในการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น
2.4 เป็นแหล่งศึกษาและแหล่งข้อมูล กรรมการสถานศึกษาจะต้องมีการประสานสัมพันธ์กับ
แหล่งการเรียนรู้ในท้องถิ่น ที่เป็นโรงงาน สถานประกอบการ แหล่งวิทยาการ ต่างๆ เพอให้ความร่วมมือในการ
ื่
ใช้เป็นแหล่งฝึกปฏิบัติกิจกรรม และเป็นแหล่งศึกษาดูงานตามความต้องการของผู้เรียนในแต่ละกิจกรรม
บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา
บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา มีดังนี้
1. ก าหนดโยบายและแนวทางปฏิบัติผู้บริหารสถานศึกษาร่วมกับคณะกรรมการกิจกรรมพฒนา
ั
ผู้เรียนหรือหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ก าหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติดังนี้
1.1 ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และคู่มือการจัด
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามคาสั่งของกระทรวงศึกษาธิการ
1.2 ก าหนดระเบียบและหลักเกณฑ์การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา 1.3
ศึกษาข้อมูล แหล่งวิทยาการการเรียนรู้ในชุมชนและท้องถิ่น
1.4 ก าหนดและมอบหมายบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนใน
7
สถานศึกษา
2. นิเทศและติดตาม
2.1 นิเทศและติดตามการจัดทาแผนงาน โครงการ ปฏิทินงานของหัวหน้าหมวดกิจกรรม
พัฒนาผู้เรียนและอนุมัติให้ความเห็นชอบ
2.2 นิเทศ ติดตามการดาเนินงานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามระเบียบ
ข้อบังคับของสถานศึกษาและเป้าหมายของการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
3. ส่งเสริมสนับสนุน
3.1 ให้มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน
3.2 ส่งเสริมการจัดกิจกรรมที่เน้นวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น
3.3 สนับสนุนทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
3.4 ให้คาปรึกษาแก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
4. ประเมินและรายงาน
4.1 รับทราบผลการประเมินพร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพอ
ื่
เป็นประโยชน์ในการจัดกิจกรรมในภาคเรียนต่อไป
ั
4.2 รายงานการจัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียนให้คณะกรรมการสถานศึกษาทราบ เพอเป็น
ื่
ประโยชน์ในการจัดกิจกรรมในภาคเรียนต่อไป
บทบาทของหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
บทบาทของหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของ สถานศึกษามีดังนี้
1. ส ารวจข้อมูลความพร้อม ความต้องการและสภาพปัญหาดาเนินการส ารวจข้อมูลความพร้อม
ื่
ความต้องการ และสภาพปัญหาของ สถานศึกษา ชุมชน ท้องถิ่น และผู้เรียน เพอเตรียมความพร้อม ในการจัด
กิจกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการและปัญหาของผู้เรียน
ื่
ั
ั
2. จัดประชุมครูที่ปรึกษากิจกรรมพฒนาผู้เรียนประชุมครูที่ปรึกษากิจกรรมพฒนาผู้เรียนเพอร่วมกัน
ก าหนดแนวทางในการจัด กิจกรรมให้มีความเหมาะสมกับสภาพความต้องการและปัญหาของสถานศึกษา
ชุมชน ท้องถิ่น และผู้เรียน
ั
3. จัดทาแผนงาน โครงการ และปฏิทินงานกิจกรรมพฒนาผู้เรียนจัดทาและรวบรวม แผนงาน
โครงการ ปฏิทินงานกิจกรรมพฒนาผู้เรียน โดยก าหนดเป็นรายภาคเรียน หรือรายปีการศึกษาหรือตาม
ั
ระยะเวลาที่ก าหนดและเสนอขออนุมัติต่อผู้บริหารสถานศึกษา
4. ให้คาปรึกษาแก่ครูที่ปรึกษากิจกรรมพฒนาผู้เรียน และผู้เรียน มีหน้าที่ให้คาปรึกษา เพอช่วยให้
ั
ื่
การดาเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
8
ั
5. นิเทศ ติดตาม และประสานงานการดาเนินการจัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียน ประสานงานและอานวย
ั
ความสะดวกให้การจัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียนดาเนินไปด้วยความเรียบร้อย และนิเทศ ติดตามให้เป็นไปตาม
ระเบียบและหลักเกณฑ์การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา
6. รวบรวมผลการประเมินการจัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียน รวบรวมผลการประเมินการจัดกิจกรรม
ั
ุ
ั
พฒนาผู้เรียนจากครูที่ปรึกษากิจกรรมตลอดจนปัญหาและอปสรรค ในการจัดกิจกรรม และนาเสนอแนวทาง
ในการพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียนต่อผู้บริหารสถานศึกษา
บทบาทของครูที่ปรึกษากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ั
ครูทุกคนต้องเป็นครูที่ปรึกษากิจกรรมพฒนาผู้เรียนตามคาขอของผู้เรียนหรือตามที่สถานศึกษา
มอบหมาย ซึ่งจะต้องมีบทบาทดังต่อไปนี้
1. ปฐมนิเทศปฐมนิเทศให้ผู้เรียนเข้าใจเป้าหมายและวิธีการดาเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2. เลือกตั้งคณะกรรมการจัดให้ผู้เรียนเลือกตั้งคณะกรรมการดาเนินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
3. ส่งเสริมการจัดทาแผนงาน/โครงการส่งเสริมให้ผู้เรียนที่เป็นสมาชิกของกิจกรรมร่วมแสดงความ
คิดเห็นในการจัดทาแผนงาน/โครงการและปฏิทินการปฏิบัติงานอย่างอิสระ
4. ประสานงานประสานงานและอานวยความสะดวกในด้านทรัพยากรตามความเหมาะสม
5. ให้คาปรึกษา ให้คาปรึกษา ดูแล ติดตามการจัดกิจกรรมของผู้เรียนให้เป็นไปตามแผนงานด้วย
ความเรียบร้อยและปลอดภัย
6. ประเมินผลประเมินผลการเข้าร่วมและการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียน
7. สรุปและรายงานผลสรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรมต่อหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
บทบาทของผู้เรียน
ผู้เรียนทุกคนมีบทบาทในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ดังนี้
1. เข้าร่วมกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความสามารถผู้เรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรม
ตามความถนัดและความสนใจทุกภาคเรียน โดยรวมกลุ่มเสนอกิจกรรมตามความต้องการหรืออาจเข้าร่วม
กิจกรรมตามข้อเสนอแนะของสถานศึกษา
ั
2. รับการปฐมนิเทศจากครูที่ปรึกษากิจกรรมพฒนาผู้เรียนผู้เรียนจะต้องพบครูที่ปรึกษากิจกรรม เข้า
รับการปฐมนิเทศ รับฟังข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อเข้าร่วมและดาเนินการจัดกิจกรรมได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
3. ประชุมเลือกตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ประชุมเลือกตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ประกอบด้วย
ประธาน เลขานุการ เหรัญญิก นายทะเบียน และอื่นๆ ตามความเหมาะสม
9
4. ประชุมวางแผน จัดทา แผนงาน โครงการ และปฏิทินงานการดาเนินกิจกรรมให้บรรลุตาม
วัตถุประสงค์ จาเป็นต้องมีการวางแผนในการดาเนินงาน ที่ประชุมควรเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการ
วางแผน และจัดทาโครงการปฏิทินงานที่ก าหนดวัน เวลา ไว้อย่างชัดเจน แล้วนาเสนอต่อครูที่ปรึกษากิจกรรม
5. ปฏิบัติกิจกรรมตามแผนงาน โครงการ และปฏิทินงานที่ได้ก าหนดไว้เมื่อแผนงาน โครงการ และ
ปฏิทินงานได้รับอนุมัติจากผู้บริหารสถานศึกษาแล้ว ผู้เรียนจึงจะสามารถปฏิบัติกิจกรรมตามแผนงาน
โครงการและปฏิทินงานที่ได้ก าหนดไว้ในรูปแบบของคณะกรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งโดยใช้กระบวนการกลุ่ม
ั
และให้ผู้เรียนทุกคนได้พัฒนาตนเองให้เต็มศกยภาพ ตามความสนใจ ความถนัด และความสามารถ
6. ประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม การประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรมสามารถประเมินผลได้ดังนี้
6.1 ประเมินผลเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
6.2 ประเมินตนเองและประเมินเพื่อนร่วมกิจกรรมจากพฤติกรรมและคณภาพของงาน
ุ
7. สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรมพฒนาผู้เรียนเมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จสิ้นตามโครงการแล้ว
ั
คณะกรรมการดาเนินกิจกรรมจะต้องประชุมเพื่อสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรมและนาเสนอครูที่ปรึกษากิจกรรม
ุ
บทบาทของผู้ปกครองและชมชน
ผู้ปกครองมีบทบาทในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนดังนี้
1. ร่วมมือประสานงานร่วมมือกับสถานศึกษาในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2. ส่งเสริมสนับสนุน
2.1 ให้โอกาสผู้เรียน ได้ใช้สถานประกอบการเป็นแหล่งเรียนรู้
์
2.2 เป็นวิทยากรให้ความรู้ และประสบการณ
2.3 ให้การสนับสนุน วัสดุ อุปกรณ์ งบประมาณ ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2.4 ดูแลเอาใจใส่ผู้เรียนและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกัน แก้ไข และพัฒนาผู้เรียน
3. ติดตาม ประเมินผล
3.1 ร่วมมือกับสถานศึกษาเพื่อติดตามพัฒนาการของผู้เรียน
3.2 บันทึกสรุปพัฒนาการ และการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียน
ขั้นตอนการด าเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
1. ประชุมชี้แจงคณะครู ผู้เรียน ผู้ปกครอง เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2. ส ารวจข้อมูล
2.1 ความพร้อมของสถานศึกษา ชุมชน และท้องถิ่น
2.2 สภาพปัญหา และความต้องการของผู้เรียน
10
3. ร่วมกันวางแผนระหว่างคณะครู ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้อง จัดทาแผนงาน โครงการปฏิทินปฏิบัติงาน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ทุกภาคเรียน และเสนอขออนุมัติ
4. ปฏิบัติกิจกรรมตามแผนงาน โครงการ ปฏิทินปฏิบัติงาน กิจกรรมพฒนาผู้เรียน ที่กาหนไว้ 5.
ั
นิเทศ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน
6. สรุป รายงานผลการปฏิบัติงาน
7. การประเมินผล
การประเมินผลการจัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียน เป็นเงื่อนไขส าคัญประการหนึ่ง สาหรับการผ่านช่วงชั้น
ั
หรือจบหลักสูตร ผู้เรียนต้องเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมพฒนาผู้เรียน ตลอดจน ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่
ั
สถานศึกษาก าหนดตามแนวประเมินดังนี้
ั
1. ประเมินการร่วมกิจกรรมพฒนาผู้เรียนตามวัตถุประสงค์ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ตามสภาพจริง
ให้ได้ผลการประเมินที่ถูกต้อง ครบถ้วน
2. ครูที่ปรึกษากิจกรรม ผู้เรียนและผู้ปกครอง จะมีบทบาทในการประเมินดังนี้
2.1 ครูที่ปรึกษากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
(1) ต้องดูแลและพัฒนาผู้เรียนให้เกิดคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม
(2) ต้องรายงานเวลา และพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
(3) ต้องศึกษาติดตาม และพัฒนาผู้เรียนในกรณีผู้เรียนไม่เข้าร่วมกิจกรรม
2.2 ผู้เรียน
(1) ปฏิบัติกิจกรรมให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์
(2) มีหลักฐานแสดงการเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 80% หรือตามเกณฑ์ที่
สถานศึกษาก าหนด พร้อมทั้งแสดงผลการปฏิบัติกิจกรรม และพัฒนาการด้านต่าง ๆ
(3) ถ้าไม่เกิดคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์ ต้องปฏิบัติกิจกรรมเพมเติมตามที่ครูที่
ิ่
ปรึกษากิจกรรมมอบหมาย หรือให้ความเห็นชอบตามที่ผู้เรียนเสนอ
(4) ประเมินตนเองและเพื่อนร่วมกิจกรรม
2.3 ผู้ปกครอง
ั
(1) ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการติดตามพฒนาการของผู้เรียนกับสถานศึกษา
เป็นระยะ ๆ
(2) ผู้ปกครองบันทึกความเห็น สรุปพัฒนาการและการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียน
3. เกณฑ์การผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
3.1 ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างน้อย 80% หรือตามที่สถานศึกษาก าหนด
3.2 ผู้เรียนผ่านจุดประสงค์ที่ส าคัญของแต่ละกิจกรรม
11
การก าหนดเวลา
ั
จัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียน (มีการก าหนดจานวนชั่วโมงชัดเจน/การจัดระดับชั้นกลับมาเรียกชื่อ
ั
เหมือนเดิม ไม่มีช่วงชั้นอก/กิจกรรมเพอสังคมฯ มีเกณฑ์เวลาปฏิบัติชัดเจน)กิจกรรมพฒนาผู้เรียนที่ก าหนดไว้
ื่
ี
ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีละ 60 ชั่วโมง เป็นเวลาสาหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
ื่
ในส่วนกิจกรรมเพอสังคมและสาธารณประโยชน์ให้สถานศึกษาจัดสรรเวลาให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติ
กิจกรรม ดังนี้
ระดับประถมศึกษา (ป.1-6) รวม 6 ปี จานวน 60 ชั่วโมง
ั
ั
การจัดกิจกรรมพฒนาผู้เรียนของโรงเรียนบ้านน้ายาว มุ่งพฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะส าคัญ 5
ประการ ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา
ึ
ั
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และมีคุณลักษณะอนพงประสงค์ 8
ประการ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพยง มุ่งมั่นในการทางาน
ี
รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขึ้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
12
รายละเอียดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมแนะแนว
ี่
ชั้นประถมศึกษาปีท 1
ตัวชี้วัด
1. นักเรียนสามารถรู้จุดเด่น และจุดด้อยของตนเอง
2. รู้และเข้าใจความสนใจและความนัดของตนเอง
3. สามารถรับรู้ความต้องการของตนเองและผู้อื่น
4. สามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้
5. สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ ของตนเองได้
6. ส ารวจแหล่งเรียนรู้ในชุมชนได้
7. ค้นคว้าแหล่งข้อมูลต่างๆ ใกล้ตัวได้
8. แสดงบทบาทสมมติได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 รู้จักเข้าใจและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
หน่วยที่ 2 การปรับตัวและการดารงชีวิต
หน่วยที่ 3 การตัดสินใจและการแก้ปัญหา
หน่วยที่ 4 การแสวงหาและการใช้ข้อมูลสารสนเทศ
ชั้นประถมศึกษาปีท 2
ี่
ตัวชี้วัด
1. นักเรียนสามารถรู้จุดเด่น และจุดด้อยของตนเอง
2. รู้และเข้าใจความสนใจและความนัดของตนเอง
3. สามารถรับรู้ความต้องการของตนเองและผู้อื่น
4. สามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้
5. สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ ของตนเองได้
6. ส ารวจแหล่งเรียนรู้ในชุมชนได้
7. ค้นคว้าแหล่งข้อมูลต่างๆ ใกล้ตัวได้
8. แสดงบทบาทสมมติได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 รู้จักเข้าใจและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
13
หน่วยที่ 2 การปรับตัวและการดารงชีวิต
หน่วยที่ 3 การตัดสินใจและการแก้ปัญหา
หน่วยที่ 4 การแสวงหาและการใช้ข้อมูลสารสนเทศ
ี่
ชั้นประถมศึกษาปีท 3
ตัวชี้วัด
1. นักเรียนสามารถรู้จุดเด่น และจุดด้อยของตนเอง
2. รู้และเข้าใจความสนใจและความนัดของตนเอง
3. สามารถรับรู้ความต้องการของตนเองและผู้อื่น
4. สามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้
5. สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ ของตนเองได้
6. ส ารวจแหล่งเรียนรู้ในชุมชนได้
7. ค้นคว้าแหล่งข้อมูลต่างๆ ใกล้ตัวได้
8. แสดงบทบาทสมมติได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 รู้จักเข้าใจและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
หน่วยที่ 2 การปรับตัวและการดารงชีวิต
หน่วยที่ 3 การตัดสินใจและการแก้ปัญหา
หน่วยที่ 4 การแสวงหาและการใช้ข้อมูลสารสนเทศ
ี่
ชั้นประถมศึกษาปีท 4
ตัวชี้วัด
1. สามารถรับรู้ และเข้าใจความต้องการ และความรู้สึกของตนเอง
2. ทราบความถนัด ความสามารถ ความสนใจ จุดเด่นและจุดด้อยของตนเอง
3. มีความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการศึกษา และการประกอบอาชีพ
4. มีความรักและเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่น
5. รู้จักเลือกตัดสินใจ และแก้ปัญหา
6. สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างเหมาะสม
7. มีความเข้าใจและยอมรับความต้องการและความรู้สึกของผู้อื่น
8. สามารถสื่อสารความคิด ความรู้สึกให้ผู้อื่นเข้าใจได้ตามสถานการณ์
9. สามารถควบคุมอารมณ์ และแสดงออกได้เหมาะสมกับวัยและสถานการณ์
14
10. สามารถปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียนและชุมชน
11. สามารถทางานตามบทบาท หน้าที่ และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
12. สามารถค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ด้วยวิธีการหลากหลาย
13. สามารถเลือกและใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจาวัน
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 รู้จักเข้าใจและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
หน่วยที่ 2 การปรับตัวและการดารงชีวิต
หน่วยที่ 3 การตัดสินใจและการแก้ปัญหา
หน่วยที่ 4 การแสวงหาและการใช้ข้อมูลสารสนเทศ
ี่
ชั้นประถมศึกษาปีท 5
ตัวชี้วัด
1. รู้และเข้าใจความต้องการและความรู้สึกของตนเอง
2. พัฒนาจุดเด่นและปรับปรุงจุดด้อยของตนเองได้
3. รู้และเข้าใจความสนใจ ความถนัดด้านการเรียนและอาชีพ
4. ภูมิใจในตนเองและชื่นชมผู้อื่น
5. รับรู้และเข้าใจปัญหาที่ซับซ้อนได้
6. เข้าใจและยอมรับความต้องการและความรู้สึกของผู้อื่นได้
7. สื่อสารความคิดความรู้สึกให้ผู้อื่นเข้าใจได้ตามสถานการณ์
8. ปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียนและชุมชน
9. ทางานตามบทบาท หน้าที่ และอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้อย่างมีความสุข
10. สามารถตัดสินใจและแก้ไขปัญหาของตนเอง และร่วมตัดสินใจแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว
และโรงเรียนได้
11. สามารถค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
12. สามารถเลือกและใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจาวันได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 รู้จักเข้าใจและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
หน่วยที่ 2 การปรับตัวและการดารงชีวิต
หน่วยที่ 3 การตัดสินใจและการแก้ปัญหา
หน่วยที่ 4 การแสวงหาและการใช้ข้อมูลสารสนเทศ
15
ชั้นประถมศึกษาปีท 6
ี่
ตัวชี้วัด
1. รู้และเห็นคุณค่าในตนเอง
2. มีวินัย
3. ประหยัด
4. ซื่อสัตย์สุจริต
5. พึ่งตนเอง อุตสาหะ รักการทางาน
6. ขยัน อดกลั้น
7. กตัญญ กตเวที
ู
8. กระตือรือร้น ใฝ่รู้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
9. เสียสละ เห็นประโยชน์ส่วนรวม
10. มีความเป็นประชาธิปไตย
11. รัก สามัคค รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ี
12. มีพลานามัยสมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 ความภูมิใจและความสามารถของตนเอง
หน่วยที่ 2 ความมีวินัย การประหยัด ความซื่อสัตย์
หน่วยที่ 3 การพึ่งตนเอง อุตสาหะ ความขยัน
หน่วยที่ 4 ความกระตือรือล้น ความกตัญญูกตเวที
หน่วยที่ 5 ความเสียสละ และความเป็นประชาธิปไตย
ี
หน่วยที่ 6 ความรักสามัคค
หน่วยที่ 7 สุขภาพอนามัย
กิจกรรมลูกเสือ
ชั้นประถมศึกษาปีท 1
ี่
ตัวชี้วัด
1. บอกการรักษาความสะอาดฟัน มือ เท้าและเล็บได้
2. บอกการหายใจอย่างถูกวิธีได้
3. ปฐมพยาบาลแผลขนาดเล็กได้
4. ขว้างและรับลูกบอลได้
5. ม้วนหน้าได้
16
6. กระโดดกบได้
7. ปีนต้นไม้ได้
8. ไต่เชือกได้
9. ส ารวจและเยือนสถานที่ใกล้เคียงได้
10. ขอความช่วยเหลือได้
11. เรียนรู้ธรรมชาติของชีวิตสัตว์ได้
12. บอกสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุได้
13. บอกอันตรายที่เกิดจากไฟและวิธีป้องกันได้
14. บอกความปลอดภัยในการเดินถนนและข้ามถนนได้
15. บอกการเก็บรักษาเสื้อผ้า รองเท้าได้
16. บอกการจัดและเก็บที่นอนได้
17. บอกการต้มน้าร้อนได้
18. บอกวิธีการทาความสะอาดเครื่องใช้ได้
19. บอกพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้
20. บอกการประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุได้
21. ผูกเงื่อนพิรอด เงื่อนขัดสมาธิและประโยชน์ได้
22. เก็บเชือกได้
23.ปฏิบัติตนตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสารองได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 อนามัย หน่วยที่ 2 ความสามารถในเชิง
หน่วยที่ 3 การส ารวจ หน่วยที่ 4 การค้นหาธรรมชาติ
หน่วยที่ 5 ความปลอดภัย หน่วยที่ 6 การบริการ
หน่วยที่ 7 ธงและประเทศต่างๆ หน่วยที่ 8 การฝีมือ
ี่
ชั้นประถมศึกษาปีท 2
ตัวชี้วัด
1. บอกความส าคัญของการนอนหลับได้
2. บอกการปฐมพยาบาลเมื่อมีเลือดกาเดาไหล
3. ว่ายน้าได้
4. กระโดดเชือกได้
5. เลี้ยงลูกบอลได้
17
6. ส ารวจและเยือนสถานที่ได้
7. เพาะเมล็ดพันธุ์พืชได้
8. รู้พืชที่เป็นอาหารสัตว์ได้
9. บอกสาเหตุที่ทาให้เกิดอุบัติเหตุได้
10. สามารถทาว่าวได้
11. สามารถพับกระดาษได้
12. สามารถเล่านิทานได้
13. สามารถทาสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุได้
14. ผูกเงื่อนบ่วงสายธนูและเงื่อนกระหวัดไม้ได้
15. สามารถเก็บเชือกได้
16. สามารถปฏิบัติตนตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสารองได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 อนามัย
หน่วยที่ 2 ความสามารถในเชิงทักษะ
หน่วยที่ 3 การส ารวจ
หน่วยที่ 4 การค้นหาธรรมชาติ
หน่วยที่ 5 ความปลอดภัย
หน่วยที่ 6 การบริการ
หน่วยที่ 7 การฝีมือ
หน่วยที่ 8 การบันเทิง
หน่วยที่ 9 การผูกเงื่อน
หน่วยที่ 10 คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสารอง
ี่
ชั้นประถมศึกษาปีท 3
ตัวชี้วัด
1. ปฐมพยาบาลเมื่อถูกแมลงกัดต่อย เมื่อถูกไฟไหม้หรือน้าร้อนลวกได้
2. กระโดดไกลได้
3. วางแผนในการเดินทางได้
4. ปฏิบัติตามกฎจราจรได้
5. วางแผนและดาเนินการให้บริการแก่ผู้อื่นได้
6. บอกธงคณะลูกเสือแห่งชาติได้
18
7. ประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุได้
8. ร้องเพลงหรือฟ้อนราได้
9. หาทิศและใช้เข็มทศเป็น
ิ
10. ปฏิบัติกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างสนุกสนาน
11. ผูกเงื่อนได้
12. บอกความหมายและการปฏิบัติตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสารองได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 อนามัย
หน่วยที่ 2 ความสามารถในเชิงทักษะ
หน่วยที่ 3 การส ารวจ
หน่วยที่ 4 การค้นหาธรรมชาติ
หน่วยที่ 5 ความปลอดภัย
หน่วยที่ 6 การบริการ
หน่วยที่ 7 การฝีมือ
หน่วยที่ 8 การบันเทิง
หน่วยที่ 9 การผูกเงื่อน
หน่วยที่ 10 คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสารอง
ี่
ชั้นประถมศึกษาปีท 4
ตัวชี้วัด
1. บอกประวัติของลอร์ดเบเดน โพเอลล์ได้
2. บอกพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้
3. บอกพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 6 ได้
4. บอกการพระราชทานกาเนิดลูกเสือไทยได้
5. บอกวิวัฒนาการลูกเสือไทยและลูกเสือโลกได้
6. สามารถทาความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย และคติพจน์ของลูกเสือได้
7. ปฏิบัติตนตามระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ท่าถือไม้พลองได้
8. ปฏิบัติตามสัญญาณมือ และสัญญาณนกหวีดได้
9. ตั้งแถวและเรียกแถวได้
10. ปฏิบัติตามคาปฏิญาณของลูกเสือสามัญได้
11. ปฏิบัติตามกฎของลูกเสือสามัญได้
19
12. บริการคนอื่นแสะสาธารณะได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับขบวนการลูกเสือ
หน่วยที่ 2 ระเบียบแถว
หน่วยที่ 3 คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ
หน่วยที่ 4 กิจกรรมกลางแจ้ง
ี่
ชั้นประถมศึกษาปีท 5
ตัวชี้วัด
1. บรรจุสิ่งของลงในเครื่องหลังสาหรับการอยู่ค่ายพักแรมได้
2. เตรียมเครื่องปัจจุบัน พยาบาล สาหรับการเดินทางไกลได้
3. ก่อไฟได้
4. ปรุงอาหาร และเครื่องดื่มได้
5. กางเต็นท์ได้
6. ปฐมพยาบาลบาดแผลเล็กน้อยได้
7. บอกชื่อ การชี้แนะ การนาทาง สถานที่ส าคัญในท้องถิ่นได้
8. บอกทิศได้ถูกต้อง
9. ใช้แผนที่ และเข็มทิศได้
10. ใช้ รักษามีดและขวานได้อย่างปลอดภัย
11. ผูกเงื่อนได้
12. บอกฤดูกาล ลม และลักษณะอากาศได้
13. เลือกทางานอดิเรกที่สนใจได้
14. บอกและปฏิบัติตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญได้
15. ปฏิบัติตามระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ท่าถือไม้พลอง ได้
16. บอกสัญญาณมือและสัญญาณนกหวีดได้
17. ตั้งแถวและเรียกแถวได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 การรู้จักตนเอง
หน่วยที่ 2 การช่วยเหลือผู้อื่น
หน่วยที่ 3 การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ
หน่วยที่ 4 ทักษะในทางวิชาลูกเสือ
20
หน่วยที่ 5 งานอดิเรกและเรื่องที่น่าสนใจ
หน่วยที่ 6 คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ
หน่วยที่ 7 ระเบียบแถว
ี่
ชั้นประถมศึกษาปีท 6
ตัวชี้วัด
1. เลือกที่ตั้งค่ายพักแรมได้
2. สร้างที่พักแรมได้
3. ปรุงอาหารในการอยู่ค่ายพักแรมได้
4. ใช้และรักษาอุปกรณ์ในการอยู่ค่ายพักแรมได้อย่างปลอดภัย
5. ปฐมพยาบาลผู้ประสบอุบัติเหตุได้
6. ขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้
7. เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้สาหรับการอยู่ค่ายพักแรมและการเดินทางไกลได้
8. เตรียมตัวในการอยู่ค่ายพักแรมและการเดินทางไกลได้
9. หาทิศและใช้เข็มทิศเป็น
10. ปฏิบัติกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างสนุกสนาน
11. เยือนสถานที่ที่น่าสนใจได้
12. ทาโครงการบุกเบิกได้
13. ผูกเงื่อนได้
14. สร้างค่ายพักแรมได้
15. ปรุงอาหารแบบชาวป่าได้
16. ใช้และรักษาขวานและเลื่อยได้อย่างปลอดภัย
17. เลือกทางานอดิเรกที่น่าสนใจได้
18. อภิปรายส่วนที่เกี่ยวกับคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญได้
19. เดินสวนสนามได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 การพึ่งตนเอง
หน่วยที่ 2 การบริการ
หน่วยที่ 3 การผจญภัย
หน่วยที่ 4 วิชาการของลูกเสือ
หน่วยที่ 5 ระเบียบแถว
21
กิจกรรมชุมนุม
ชุมนุมเถ้าแก่น้อย
ตัวชี้วัด
1. น าความรู้ความเข้าใจการประกอบอาชีพไปประกอบอาชีพ อันก่อให้เกิดรายได้ต่อไป
2. สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กค้นหาการประกอบอาชีพที่สนใจ ถนัดเหมาะสมกับวัย
3. เด็กมีความรู้ความเข้าใจกระบวนการประกอบอาชีพ และการเขียนแผนธุรกิจ
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 ไม้กวาดสานรัก
หน่วยที่ 2 ทาร์ตไข่หรรษา
หน่วยที่ 3 อาลัยดอกไม้จันทน์
หน่วยที่ 4 เดินตามรอยเท้าพ่อ ( ปลูกผัก )
ชุมนุมสนุกคิด สนุกเล่น
ตัวชี้วัด
1. นักเรียนสนุกกับการทดลอง ได้ลงมือปฏิบัติจริง
2. นักเรียนสามารถหาความถนัดของตนเองได้
3. นักเรียนมีความรักในวิทยาศาสตร์
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 สนุกกับเกมวิทยาศาสตร์
หน่วยที่ 2 สนุกกับการทดลองวิทยาศาสตร์
หน่วยที่ 3 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
หน่วยที่ 4 วิทยาศาสตร์น่ารู้
ชุมนุมซุปเปอร์สปอร์ต
ตัวชี้วัด
1. นักเรียนมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่แข็งแรงสมบูรณ์
2. นักเรียนมีน้ าใจนักกีฬา รู้จักการให้อภัย และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
3. นักเรียนเกิดทักษะในการเล่นกีฬาชนิดต่าง ๆ
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 แชร์บอล
หน่วยที่ 2 วอลเลย์บอล
หน่วยที่ 3 ฟุตบอล
22
ชุมนุมภาษาไทย
ตัวชี้วัด
1. นักเรียนสามารถคัดตัวเหลี่ยมได้ถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถคัดตัวกลมได้ถูกต้อง
3. นักเรียนอ่านคาง่ายๆ ได้
4. นักเรียนอ่านคาและประโยคสั้นๆ ได้ถูกต้องตามอักขรวิธี
5. นักเรียนสามรถพูดแนะนาตนเองได้
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 การเขียนถูกต้อง
หน่วยที่ 2 การอ่านถูกวิธี
หน่วยที่ 3 การพูดแนะนาตนเอง
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
ตัวชี้วัด
1. นักเรียนมีความสามารถในการดูแลรักษาบ้าน และรับผิดชอบงานบ้าน ถือเป็นงานสาธารณะที่ใกล้
ตัวที่สุด โดยมีพฤติกรรมที่เป็นรูปธรรม เช่น ตื่นนอนแต่เช้า กวาดบ้าน-ถูบ้าน จัดระเบียบ/กวาดบริเวณบ้าน
2. นักเรียนร่วมรับผิดชอบในการดูแลรักษาซอย/หมู่บ้านที่อยู่อาศัย โดยมีพฤติกรรมที่เป็นรูปธรรม
เช่น ปลูกต้นไม้ (ไม้ดอก ไม้ประดับ) หน้าบ้านพร้อมดูแลรักษา กวาด/ทาความสะอาดถนนหรือที่สาธารณะ
รอบบ้านในรัศมี 5 เมตร เป็น กรรมการฝ่ายเยาวชนเพอการดูแลรักษาซอย/หมู่บ้านที่อยู่อาศัย เป็นต้น (หาก
ื่
สถานศึกษาก าหนดคุณสมบัติของเยาวชนที่เป็นรูปธรรม ดังตัวอย่างข้างต้น พร้อมผลักดัน หรือส่งเสริมให้เกิด
คุณลักษณะต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างจริงจัง ทาให้ “ชุมชนเป็นแหล่งที่น่าอยู่ในชั่วพริบตา” อกทั้งเยาวชนจะเกิด
ี
คุณลักษณะอื่น ๆ ตามมา เช่น ความเสียสละเพื่อส่วนรวม ทักษะการจัดการ ฯลฯ)
3. นักเรียนจัดกิจกรรมเพื่อชี้นาทิศทางการพัฒนาหรือแก้ปัญหาให้แก่ชุมชน อาทิ ครูวิทยาศาสตร์/ครู
้
สังคมศึกษาให้นักเรียนร่วมปฏิบัติการรณรงค์การลดการใช้พลังงานไฟฟาในบ้าน ครูสุขศึกษาร่วมกับชุมนุม
ื่
สุขภาพในโรงเรียนจัดทาจดหมายเตือนหรือปฏิบัติกิจกรรมรณรงค์ทาลายแหล่งยุงลายเพอป้องกันโรค
ไข้เลือดออก โรคหวัดสายพันธุ์ใหม่ หรือโรคอื่น ๆ เป็นต้น
ั
4. นักเรียนพฒนาชุมชนในรัศมีที่เป็นที่ตั้งของสถานศึกษา เช่น รับผิดชอบดูแลในรัศมี 1 กิโลเมตร
รอบสถานศึกษา โดยร่วมกับชุมชนอย่างจริงจังในการพฒนาบรรยากาศ/สิ่งแวดล้อมของชุมชน ทั้งนี้ อาจ
ั
ั
ปฏิบัติการผ่านกิจกรรมชุมนุมที่มีอยู่ในโรงเรียน และเน้นให้นักเรียนมีบทบาทหลักในการร่วมวางแผนพฒนา
การปฏิบัติการเช่นนี้ เสมือน “การใช้ชุมชนที่เป็นที่ตั้งของสถานศึกษา เป็นห้องปฏิบัติการทดลองประสบการณ์
ชีวิตต่าง ๆ แก่ผู้เรียน” ทั้งนี้เชื่อว่า หากนักเรียนมองเห็นแนวทางการพฒนาชุมชนที่เป็นรูปธรรม 1 ชุมชน
ั
23
ี
นักเรียนเหล่านั้นจะสามารถนาประสบการณ์ไปประยุกต์ใช้ในชุมชนที่อยู่อาศัยของตนเองได้ในอนาคต อกทั้ง
โรงเรียนเองก็จะเป็นที่รักใคร่/เป็นที่พอใจของชุมชนที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียน เป็นโรงเรียนของชุมชนอย่าง
แท้จริง (อนึ่งชุมชนอาจให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อการทากิจกรรมสาธารณประโยชน์ในส่วนนี้)
หน่วยการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 การพัฒนาบ้าน
หน่วยที่ 2 การพัฒนาชุมชน
หน่วยที่ 3 การพัฒนาแหล่งเรียนรู้
โรงเรียนบ้านโนนหัวบึง
สังกัด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ปราจีนบุรี เขต 2
ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ