The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ด้านการศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by benjamasjaja21, 2022-06-13 23:21:42

หน่วยที่ 2 รอบรู้เรื่องหลักสูตร

แผนการจัดการเรียนรู้ ด้านการศึกษา

แผนการจดั กิจกรรมแนะแนวที่ 2

หน่วยการจัดกจิ กรรม การศกึ ษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1-3

เร่ือง รอบรเู้ ร่ืองหลักสูตร จานวน 2 ช่ัวโมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระสาคญั

การรู้จักและเข้าใจหลักสูตร การวัดประเมินผล อีกท้ังการเห็นคุณค่าการเรียน คุณค่ารายวิชาตาม

หลักสูตรและการเรียนรู้ วิธีการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมทาให้นักเรียนมีแนวทางในการปรับตัวด้านการเรียน

เกิดแรงจูงใจในการเรียน สามารถนาไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาตนเองเพ่ือความสาเร็จด้านการเรียน และเป็น

ประโยชน์ตอ่ การดารงชีวติ

2. สมรรถนะการแนะแนว: ดา้ นการศึกษา
ขอ้ 1 รู้เข้าใจและมเี จตคติทดี่ ตี ่อการเรียนรู้ตามหลกั สตู ร

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อการเรยี นร้ดู ว้ ยตัวเอง
3.2 มีความตระหนักเห็นความสาคัญของการเรยี น
3.3 อธบิ ายปัญหาและวธิ กี ารแกป้ ัญหาการเรียนของตนเองได้

4.สาระการเรยี นรู้ 41
1. คณุ คา่ ของการเรยี น คุณค่ารายวชิ าที่จดั ให้เรยี นตามหลักสูตร
2. วธิ ีการปฏบิ ตั ิตนเพอื่ พฒั นาทกั ษะการเรียนท่ีมีประสทิ ธิภาพ

5. ชิ้นงาน / ภาระงาน
5.1 ใบงาน เร่อื งแสดงคุณค่าของวิชาเรยี นตอ่ กจิ กรรมทช่ี อบทา
5.2 ใบความรู้ เรอ่ื งรู้จกั หลกั สตู ร
5.3 ใบงาน เร่อื งรอบรู้เรอื่ งหลกั สูตร
5.4 ใบงาน เรื่องสารวจคณุ ลักษณะทางการเรยี น
5.5 ใบงาน กรณศี ึกษา เรื่อง บทเรยี นของส้มโอ
5.6 ใบงานสรุปปญั หาทางการเรียน และแนวทางการแก้ไขของกลมุ่

6. วธิ กี ารจดั กจิ กรรม
ชว่ั โมงที่1
6.1 ครูให้นักเรียนร่วมอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ จากข้อความ “รากฐานของตึกคืออฐิ รากฐาน

ของชวี ติ คือการศกึ ษา”
6.2 ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สรุปความคิดเหน็ “ความสาคัญของการศึกษา”
6.3 ครูอธิบายรายละเอียดของคาสาคัญของหลกั สูตรสว่ นท่ีเกี่ยวข้องกับนกั เรียน คือ สมรรถนะ

สาคญั ทห่ี ลกั สตู รกาหนด คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ที่หลักสูตรกาหนด รายวิชาพ้นื ฐาน รายวชิ าเพม่ิ เติม กิจกรรม
พัฒนาผู้เรียน และความหมายของรหัสวิชา โดยใช้สื่อPower Point และใบความรู้เร่ือง รู้จักหลักสูตร
ประกอบการอธิบาย

6.4 ตรวจสอบความเข้าใจโดยการให้นักเรียนทาใบงานเร่ือง รอบรู้เร่อื งหลักสูตร หลงั จากน้ันให้ 42
นักเรียนสลับกันตรวจ โดยครูเป็นผู้เฉลยคาตอบท่ีถูกต้อง และอธิบายเพ่ิมเติมข้อท่ีนักเรียนตอบผิด หรือพบว่า
นกั เรยี นยังสบั สนไมเ่ ขา้ ใจ

ชว่ั โมงที่ 2
6.5 ทบทวนส่งิ ทีน่ ักเรยี นได้เรียนร้เู กีย่ วกบั หลักสตู รจากชัว่ โมงท่ีผ่านมา และตรวจสอบ

ความเขา้ ใจเรอ่ื งรายวิชาเรียน
6.6 พูดคุย ถามความคิดเห็นถึงหลักในการเรยี นแตล่ ะกลุ่มสาระใหป้ ระสบความสาเรจ็

ว่ามอี ะไรบ้าง บนั ทกึ คาตอบลงบนกระดาน (เชน่ ตง้ั ใจเรียน ส่งการบา้ น จดสิง่ ทค่ี รูสอน ฯลฯ)
6.7 ครูเสนอแนะหลักคิดในการเรียนเพ่ิมเติมท่ีเป็นพ้ืนฐานสาคัญในการเรียนทุกรายวชิ า คือการ

เห็นคณุ คา่ ของวิชาที่เรียน โดยการใหน้ ักเรยี นบอกกจิ กรรมท่ีตนชอบทาท่ีสดุ 1 กิจกรรม ซ่งึ ทาแลว้ มีความสุข สนกุ
ทไ่ี ดท้ า (เช่น รอ้ งเพลง เลน่ เกม อ่านนิยาย ฯลฯ)

6.8 แบ่งกลมุ่ นกั เรียนและจดั การเรยี นรูเ้ ป็นฐาน จานวน 3 ฐาน ฐานละ 15 นาที
ฐานท่ี 1 วเิ คราะหค์ ุณคา่ ความสาคัญของการเรยี นรายวชิ ากบั ชวี ิต
โดยให้นกั เรยี นทา mind map แสดงใหเ้ หน็ วา่ การเรียนวชิ าจากกลุ่มสาระท้งั 8 กลมุ่ สาระ

มีประโยชน์อย่างไรต่อการทากิจกรรมท่ีนักเรียนชอบทาท่ีสุด 1 กิจกรรม นาผลงานของกลุ่มมาติดโชว์ ทาใบงาน
คณุ ค่ารายวิชา

ฐานที่ 2 สารวจคณุ ลักษณะทางการเรียนของตน
โดยให้นักเรยี นวเิ คราะหผ์ ลการเรียนของตนเอง จากนนั้ สารวจคุณลักษณะทางการเรียนของ
ตนเองลงในใบงานว่าเป็นอยา่ งไร
ฐานที่ 3 ศึกษา กรณีศึกษา เรื่องของส้มโอ ร่วมกันแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ และตอบ
คาถามภายในกลุ่ม ให้นักเรียนร่วมกันบอกปัญหาทางการเรียนของตนเอง และแนวทางแก้ไข พร้อมทั้งรับ
ขอ้ เสนอแนะของเพ่อื นภายในกลุ่ม สรุปลงในใบงานสรุปปญั หาทางการเรียน และแนวทางการแกไ้ ขของกลุ่ม
6.9 จดั กิจกรรมแลกเปลย่ี นเรียนรโู้ ดยใหแ้ ต่ละกลุม่ มตี ัวแทนในการนาเสนอ นักเรยี นตวั แทนกลุ่ม
นาเสนอผลงานของกลุ่ม ส่วนนักเรียนท่ีเหลือ ให้ร่วมกันฟังการนาเสนอผลงานของกลุ่มอ่ืน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
พร้อมทงั้ รว่ มประเมนิ ผลงานของแต่ละกลุ่ม
6.10 ครใู ห้ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ในการรว่ มกิจกรรมของกลุ่ม พรอ้ มแจ้งการประเมินผล
7. สอ่ื /อุปกรณ์
7.1 สื่อ Power Point เรอื่ ง ร้จู ักหลักสตู ร
7.2 ใบความรู้ เร่อื งรู้จักหลกั สูตร
7.3 ใบงาน เรอื่ งรอบร้เู รือ่ งหลกั สตู ร
7.4 ใบงาน เรื่องแสดงคุณคา่ ของวิชาเรยี นต่อกิจกรรมท่ีชอบทา
7.5 ใบความรู้ เรือ่ ง 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้
7.6 ใบงาน เร่อื งคุณค่ารายวิชา
7.7 เอกสารสาหรบั ครศู ึกษาเพ่ิมเติม เร่อื ง หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
7.8 ผลการเรยี นของนักเรยี น (แจง้ ใหน้ กั เรียนเตรยี มมา)
7.9 ใบงานสารวจคุณลักษณะทางการเรยี น
7.10 ใบงาน กรณีศึกษา เรอ่ื งของสม้ โอ
7.11 ใบงานสรปุ ปญั หาทางการเรยี น และแนวทางการแก้ไขของกลุ่ม

8. การประเมินผล 43
8.1 วธิ ีการประเมนิ
8.1.1 สงั เกตการปฏิบตั กิ ิจกรรม
8.1.2 ตรวจใบงาน
8.2 เครือ่ งมือการประเมิน
8.2.1 แบบบันทึกการสงั เกตการณป์ ฏบิ ัตกิ จิ กรรม
8.2.1 แบบประเมินผลใบงาน
8.3. เกณฑก์ ารประเมนิ
8.3.1 สงั เกตจากการเข้าร่วมกิจกรรม

เกณฑ์ ตวั บง่ ช้ี
ผา่ น มคี วามตงั้ ใจร่วมกิจกรรม ให้ความร่วมมือกบั กลุ่มในการอภิปรายแสดงความ

คิดเห็น และสง่ งานตามกาหนด
ไมผ่ ่าน ไมใ่ ห้ความรว่ มมือกับกลมุ่ หรือ ขาดส่งิ ใดสง่ิ หนึ่ง

8.3.2 ตรวจใบงาน

เกณฑ์ ตัวบ่งช้ี
ผา่ น ทาใบงานครบและถกู ต้อง
ไมผ่ า่ น ขาดส่ิงใดสง่ิ หนึ่ง

ใบงาน
แสดงคณุ ค่าของวิชาเรียนต่อกิจกรรมทชี่ อบทา

2. คณิตศาสตร์ 3. วิทยาศาสตร์

1.ภาษาไทย

8. ภาษาต่างประเทศ กจิ กรรมทช่ี อบทำ 4. สังคมศกึ ษา ศาสนา
คอื …………………
7. การงาน และวัฒนธรรม

อาชีพและ 44
เทคโนโลยี 6. ศลิ ปะ
5. สุขศกึ ษาและ

พลศกึ ษา

ส่งิ ท่นี ักเรียนได้เรียนรู้
..................................................................................................................

.................................................................................................................

ใบความรู้
เรอื่ ง รู้จกั หลักสูตร
1. เป้าหมายของหลักสูตร

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 มีเปา้ หมายสาคัญในการพัฒนาผเู้ รยี นด้านสมรรถนะ

สาคัญและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ต่อไปน้ี

สมรรถนะสาคญั 5 ด้าน

1. มคี วามสามารถในการสอื่ สาร 4. มีความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
2. มีความสามารถในการคิด 5. มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
3. มีความสามารถในการแก้ปญั หา

45

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ประการ

1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 5. อยู่อย่างพอเพียง

2. ซ่ือสตั ย์สุจรติ 6. มุ่งมัน่ ในการทางาน

3. มีวนิ ยั 7. รักความเป็นไทย

4. ใฝเ่ รยี นรู้ 8. มีจิตสาธารณะ

ใบงานเร่อื ง
รอบรเู้ ร่อื งหลักสูตร

A สมรรถนะสาคัญ B คุณลักษณะอันพึงประสงค์

คาชี้แจง
1. จัดกลุ่ม ใหพ้ ิจารณาวา่ ข้อความต่อไปน้ี จัดอยู่ในกลุม่ ใด A หรือ B

1. มีความสามารถในการสอ่ื สาร 46
2. มีจติ สาธารณะ
3. ใฝ่เรียนรู้
4. มคึ วามสามารถในการคดิ
5. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
6. มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา
7. ซอื่ สตั ย์สจุ รติ
8. มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
9. มุ่งมั่นในการทางาน
10. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง
11. มคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยี
12. รักความเป็นไทย
13. มวี ินัย

2 จาแนกแยกแยะ ใหพ้ จิ ารณาแตล่ ะรายการวา่ จดั อยู่ในส่วนใดของโครงสรา้ งหลกั สูตร

A สาระพนื้ ฐาน B สาระเพ่ิมเติม C กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
รายการคาถาม คาตอบ รายการคาถาม คาตอบ
1. ท21101 9. ว21201
2. ส22103 10. ศ21103
3. ชมุ นมุ 11. บาเพญ็ ประโยชน์
4. อ21101 12. ค21201
5. กจิ กรรมจิตอาสา 13. อ21201
6. ง21102 14. แนะแนว
7.ลูกเสอื เนตรนารี 15. พ22202
8. ค22102 16. ยุวกาชาด

เฉลยใบงานเรื่อง
รอบรู้เร่อื งหลักสตู ร

คาชีแ้ จง

1. จัดกลมุ่ ให้พิจารณาว่าข้อความต่อไปน้ี จดั อยู่ในกลุ่มใด A หรือ B

A สมรรถนะสาคัญ B คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. มีความสามารถในการสื่อสาร A 47
2. มจี ติ สาธารณะ B
3. ใฝเ่ รยี นรู้ B
4. มึความสามารถในการคิด A
5. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ B
6. มีความสามารถในการแก้ปัญหา A
7. ซ่ือสัตย์สจุ ริต B
8. มคี วามสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต A
9. มงุ่ ม่ันในการทางาน B
10. อย่อู ยา่ งพอเพียง B
11. มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี A
12. รักความเป็นไทย B
13. มวี นิ ยั B

2 จาแนกแยกแยะ ใหพ้ จิ ารณาแตล่ ะรายการว่าจดั อยู่ในส่วนใดของโครงสรา้ งหลักสูตร

A สาระพื้นฐาน B สาระเพิม่ เติม C กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน คาตอบ
รายการคาถาม คาตอบ รายการคาถาม
1. ท21101 A 9. ว21201 B
2. ส22103 A 10. ศ21103 A
3. ชุมนมุ C 11. บาเพ็ญประโยชน์ C
4. อ21101 A 12. ค21201 B
5. กิจกรรมจติ อาสา C 13. อ21201 B
6. ง21102 A 14. แนะแนว C
7.ลกู เสอื เนตรนารี C 15. พ22202 B
8. ค22102 A 16. ยวุ กาชาด C

1.ภาษาไทย ใบความรเู้ รื่อง 8 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ 3. วทิ ยาศาสตร์

ความรู้ ทกั ษะ และ 2. คณิตศาสตร์ การนาความรู้ และ
วฒั นธรรมการใช้ภาษาเพ่ือ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
การสอ่ื สาร ความชื่นชม การนาความรู้ ทกั ษะ และ ไปใช้ในการศกึ ษา ค้นคว้าหา
การเห็นคณุ คา่ ภมู ปิ ัญญา กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ความรู้ และแก้ปัญหาอยา่ ง
ไทย และภมู ิใจในภาษา ไปใช้ในการแก้ปัญหา การ เป็นระบบ การคดิ อยา่ งเป็น
ประจาชาติ ดาเนินชีวติ และศกึ ษาตอ่ การ เหตเุ ป็นผล คิดวิเคราะห์ คดิ
มเี หตมุ ีผล มีเจตคติทด่ี ี สร้างสรรค์และจิตวทิ ยาศาสตร์
ตอ่ คณิตศาสตร์ พฒั นาการ
คิดอยา่ งเป็นระบบและ
สร้ างสรรค์

8. ภาษาต่างประเทศ 8 กลมุ่ สำระ 4. สังคมศึกษา ศาสนา 48
กำรเรยี นรู ้
ความรู้ ทกั ษะ เจตคตแิ ละวฒั นธรรม และวัฒนธรรม
การใช้ภาษาตา่ งประเทศ ในการสอื่ สาร 6. ศิลปะ
การแสวงหาความรู้ และการประกอบ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและ
อาชีพ ความรู้และทกั ษะในการคดิ สงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ขุ การเป็น
ริเริ่ม จินตนาการ สร้างสรรค์ พลเมอื งดี ศรัทธาในหลกั ธรรม
7. การงาน งานศิลปะ สนุ ทรียภาพ และ ของศาสนา การเหน็ คณุ คา่ ของ
การเห็นคณุ คา่ ทางศลิ ปะ ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม
อาชีพและ ความรักชาติ และภมู ใิ จในความ
เทคโนโลยี เป็นไทย

ความรู้ ทกั ษะ และ 5. สุขศึกษาและพล
เจตคติ ในการ
ทางาน การจดั การ ศกึ ษา
การดารงชวี ิต การ
ประกอบอาชีพ และ ความรู้ทกั ษะ และเจตคติ ใน
การใช้ เทคโนโลยี การสร้างเสริมสขุ ภาพ
พลานามยั ของตนเองและผ้อู ่ืน
การปอ้ งกนั และปฏบิ ตั ิตอ่ สง่ิ
ตา่ ง ๆ ท่มี ผี ลตอ่ สขุ ภาพอยา่ ง
ถกู วธิ ี และทกั ษะในการดาเนนิ
ชีวติ

ใบงานเร่ือง คุณคา่ รายวิชา
คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนนาคาต่อไปน้ีเติมลงในชอ่ งวา่ งของบทกลอนให้ถูกต้อง

เก่ง ดี มคี วามสุข , ความรู้ค่คู ุณธรรม , คณิตฯ , ศลิ ป , กจิ กรรม ,

ภาษา , พลศกึ ษา , การงาน , วทิ ย์ , สังคมฯ , เทศ – ไทย

อนาคตของทกุ คน ลว้ นมผี ลจากวิชา 49
จงคดิ พจิ ารณา เห็นคุณคา่ วิชาการ
………….. คดิ คานวณ แคลว่ คลอ่ งควรชวนชน่ื บาน
บวกลบจนเจนชาญ คูณและหารประโยชนด์ ี
เรยี น ………. คดิ เหตุผล แสวงคน้ ถกู วิธี
สมมตฐิ านประมาณมี สรปุ กฎหลงั ทดลอง
…………..อุดมเร่อื ง กจิ บ้านเมืองประมวลมอง
ปรบั ตนตามครรลอง ด้วยขา่ วสารการสังคม
พูดจา……….ชว่ ย เอื้ออานวยสมประสงค์
……………..ใหน้ ยิ ม ฟงั พดู เขยี น อา่ นเพยี รทา
…………..นัน้ มีคณุ ชว่ ยเน่ืองหนุน……………….
ประสบการณ์ก่อนา มาปรบั ใชไ้ ดท้ ุกทาง
……………..อนามยั ช่วยว่องไวไมข่ ดั ขวาง
สุขจติ ไม่จดื จาง ถา้ หากกายน้ันแข็งแรง
……………..ทุกสาขา เพรศิ พร้งิ พาพเิ ศษแสดง
บารุงและปรงุ แปลง ปรบั ใชต้ ามความเปน็ จริง
การวชิ าไมป่ ระวิง
เดก็ ไทยพัฒนา ฝกึ ปรอื ศิษย์จิตเทย่ี งตรง
เพราะครไู ม่เฉยนง่ิ ยอ่ มพลิ าสดงั ประสงค์
อนาคตของชาติ เอกลกั ษณ์อยู่เชิดชไู ทย
วฒั นธรรมดารง ทกุ วชิ าปรับใช้ได้
ชแ้ี นะให้เหน็ คา่ สุดแต่ใจเขาจะเป็น
อนาคตเปน็ อยา่ งไร ใหท้ ุกคนไดร้ เู้ ห็น
…………………….. เป็นเพราะตนฝกึ ฝนมา
ยาก-ง่าย-สบาย-ลาเค็ญ นาชีวติ ใหห้ รรษา
…………………….. เพราะวชิ าค่าอนนั ต์
เป็นคนดศี รสี งา่

เฉลยใบงานเรอื่ ง คุณคา่ รายวิชา
คาช้แี จง ให้นกั เรียนนาคาต่อไปน้ีเติมลงในชอ่ งวา่ งของบทกลอนให้ถกู ต้อง

เก่ง ดี มคี วามสุข , ความรู้ค่คู ณุ ธรรม , คณิตฯ , ศลิ ป , กจิ กรรม ,

ภาษา , พลศกึ ษา , การงาน , วิทย์ , สังคมฯ , เทศ – ไทย

อนาคตของทกุ คน ลว้ นมีผลจากวิชา 50
จงคดิ พิจารณา เหน็ คณุ คา่ วิชาการ
…คณติ ฯ... คิดคานวณ แคล่วคลอ่ งควรชวนชนื่ บาน
บวกลบจนเจนชาญ คณู และหารประโยชน์ดี
เรยี น …วิทย์. คดิ เหตผุ ล แสวงค้นถกู วิธี
สมมติฐานประมาณมี สรุปกฎหลังทดลอง
……สังคมฯ…..อุดมเรอื่ ง กจิ บ้านเมอื งประมวลมอง
ปรบั ตนตามครรลอง ด้วยขา่ วสารการสังคม
พูดจา…ภาษา…….ชว่ ย เออื้ อานวยสมประสงค์
…เทศ – ไทย …..ใหน้ ยิ ม ฟงั พดู เขียน อ่านเพียรทา
…การงาน ……..น้ันมคี ุณ ชว่ ยเน่ืองหนุน…กิจกรรม…
ประสบการณ์ก่อนา มาปรบั ใช้ได้ทุกทาง
…พลศึกษา ……..อนามัย ช่วยวอ่ งไวไม่ขัดขวาง
สุขจิตไม่จดื จาง ถ้าหากกายน้ันแข็งแรง
……ศิลป……..ทุกสาขา เพรศิ พร้งิ พาพิเศษแสดง
บารุงและปรงุ แปลง ปรบั ใช้ตามความเปน็ จริง
การวิชาไมป่ ระวิง
เดก็ ไทยพฒั นา ฝกึ ปรอื ศิษยจ์ ิตเทย่ี งตรง
เพราะครไู มเ่ ฉยนิ่ง ยอ่ มพลิ าสดังประสงค์
อนาคตของชาติ เอกลักษณ์อยู่เชดิ ชูไทย
วฒั นธรรมดารง ทกุ วิชาปรับใชไ้ ด้
ชี้แนะใหเ้ หน็ คา่ สดุ แตใ่ จเขาจะเป็น
อนาคตเปน็ อย่างไร ให้ทุกคนไดร้ ู้เห็น
เปน็ เพราะตนฝกึ ฝนมา
เก่ง ดี มคี วามสขุ ….. นาชวี ติ ให้หรรษา
ยาก-ง่าย-สบาย-ลาเค็ญ เพราะวิชาค่าอนนั ต์
ความรู้คูค่ ณุ ธรรม ………..
เป็นคนดีศรสี งา่

ใบงาน เรือ่ ง สารวจคุณลักษณะทางการเรียน

คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนสารวจและวิเคราะห์ผลการเรยี นของตนเอง แล้วบนั ทึกลงในใบงาน

กลุ่มสาระ คะแนนเฉลีย่ แปลผล จากสรุปผลการเรียนทผี่ า่ นมา ให้
การเรยี นรู้ รวมทุกเทอม อย่ใู นระดบั นักเรียนประเมนิ ตนเอง โดยเลอื ก
ภาษาไทย เพียง 1 ขอ้
( ) สอบผา่ นทุกรายวิชา 51
คณิตศาสตร์ ( ) สอบไมผ่ า่ นบางรายวชิ าแต่

วิทยาศาสตร์ แก้ไขเรียบร้อยแลว้
( ) สอบไมผ่ า่ นและยังไม่ไดแ้ ก้ไข
สังคมศึกษาฯ
จานวน....... วชิ า ดงั นี้
ภาษาองั กฤษ ........................................................
........................................................
ศลิ ปศกึ ษา ........................................................
.........................................................
สุขศกึ ษาและ .........................................................
พลศกึ ษา
การงานอาชีพ

เกรดเฉล่ียสะสม

1. รายวชิ าในกลุ่มสาระใดที่นักเรยี น พอใจ มากท่ีสุด เพราะเหตุใด
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2. รายวชิ าในกลุ่มสาระใดที่นักเรยี น ไมพ่ อใจ มากทีส่ ุด เพราะเหตุใด
.................................................................................................................................... ................................................
....................................................................................................................................................................................
3. โดยภาพรวม นกั เรียน พอใจ ผลการเรียนทไี่ ดร้ ับหรือไม่ อยา่ งไร
............................................................................................................................. .......................................................
......................................................................................................................................... ...........................................
4. ในภาคเรยี นตอ่ ไป นักเรียน จะปรบั ปรุงแกไ้ ข ผลการเรียนทไ่ี ด้รบั หรือไม่ อย่างไร
.................................................................................................................................. ..................................................
....................................................................................................................................................................................

ใบงาน กรณีศึกษาเร่ือง บทเรียนของส้มโอ
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นข้อความแล้วแสดงความคดิ เห็นตามความคิดและความรู้สกึ ของตนเอง

ส้มโอ : “วันนก้ี ารบา้ นเยอะจงั เฮอ้ ! เบื่อ ไมอ่ ยากทาเลย ยากก็ยาก เลขก็ทาไม่ได้ ไปลอกเพอ่ื น
พรงุ่ นดี้ ีกวา่ ส่วนภาษาไทยกินข้าวเย็นแลว้ ค่อยทา ตอนน้ีดทู ีวีก่อนกาลงั สนุกพอดี”

แม่ : “ส้มโอทาการบา้ นหรือยงั รบี ๆทานะลูก เด๋ียวแมจ่ ะต้องเอาของไปสง่ ท่ีบ้านคุณป้า
จะกลับค่า ดแู ลตัวเองนะลกู ”

ส้มโอ : “ค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงคะ่ เดยี๋ วหนูดลู ะครเร่ืองนีจ้ บจะรีบทาค่ะ”
เมือ่ แม่ไปธุระส้มโอก็ดูทีวีต่อ หลังจากกนิ ขา้ วอาบนา้ แล้ว ส้มโอหยิบสมุดการบา้ นมาวางหน้าทีวี ทา
ไปดูไปทา้ ยสุดก็ดูทวี อี ยา่ งเดยี ว ไมไ่ ดท้ าการบา้ น ดทู ีวีจนดกึ
สม้ โอ : “เฮ้อ ! งว่ ง ไปนอนดีกว่า พร่งุ นีค้ ่อยจดั ตารางเรียน ”
แลว้ ส้มโอกเ็ ขา้ นอนโดยไม่ได้ทาการบ้านและไม่ไดจ้ ัดตารางเรียน

1. นักเรยี นคิดวา่ สม้ โอ มีความรบั ผิดชอบหรือไม่ 52
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

2. ส้มโอ ได้ทาหน้าทีข่ องตัวเองหรอื ยัง
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

3. นักเรยี นคดิ ว่าสม้ โอเป็นคนอย่างไร และผลท่จี ะได้รบั จากการกระทาของตนเอง คืออะไรบา้ ง
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

4. ถ้านักเรียนเป็นส้มโอ นกั เรียนจะทาเหมือนสม้ โอหรอื ไม่
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ใบงาน เรอื่ ง สรปุ ปัญหาทางการเรยี น และแนวทางการแกไ้ ขของกล่มุ
คาชแ้ี จง ให้นักเรียนรว่ มกันบอกปญั หาทางการเรยี นของตนเอง และแนวทางแก้ไข พร้อมทั้งรบั ข้อเสนอแนะของ
เพอื่ นภายในกลุ่ม แลว้ สรปุ ลงในใบงาน

ปัญหาทางการเรยี น แนวทางแกไ้ ข

53

ข้อเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

เอกสารเพม่ิ เติมสาหรับครู 54
เรือ่ ง หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
วสิ ัยทศั น์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซ่ึงเป็นกาลังของชาติให้เป็นมนุษย์ท่ีมี
ความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลกยึดม่ันในการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพ้ืนฐาน รวมท้ัง เจตคติ
ท่ีจาเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญบนพ้ืนฐานความ
เช่อื วา่ ทกุ คนสามารถเรียนรูแ้ ละพัฒนาตนเองไดเ้ ต็มตามศักยภาพ

หลักการ
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน มีหลักการที่สาคญั ดงั น้ี
1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้เป็น

เป้าหมายสาหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐานของความเป็นไทย
ควบคกู่ ับความเปน็ สากล

2. เป็นหลกั สตู รการศกึ ษาเพ่ือปวงชน ทีป่ ระชาชนทกุ คนมโี อกาสไดร้ ับการศึกษาอย่างเสมอภาคและมี
คณุ ภาพ

3. เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีสนองการกระจายอานาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้
สอดคล้องกับสภาพและความตอ้ งการของท้องถนิ่

4. เปน็ หลักสตู รการศึกษาท่ีมีโครงสรา้ งยดื หยุ่นทัง้ ดา้ นสาระการเรยี นรู้ เวลา และการจัดการเรยี นรู้
5. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาที่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั
6. เป็นหลักสูตรการศึกษา สาหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก
กลุ่มเปา้ หมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นรู้ และประสบการณ์

จดุ หมาย
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน มงุ่ พฒั นาผู้เรยี นให้เป็นคนดี มีปญั ญา มีความสขุ มีศกั ยภาพ

ในการศกึ ษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกาหนดเป็นจุดหมายเพ่ือให้เกดิ กับผเู้ รียน เมอ่ื จบการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน ดงั นี้
1. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ีพึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม

หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทีต่ นนบั ถอื ยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี และมีทักษะชีวติ
3. มีสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ท่ดี ี มีสขุ นิสยั และรักการออกกาลงั กาย
4. มีความรักชาติ มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถีชีวิตและการปกครอง

ตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข
5. มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อมมีจิต

สาธารณะทีม่ ่งุ ทาประโยชนแ์ ละสร้างสง่ิ ท่ดี งี ามในสงั คม และอย่รู ่วมกนั ในสงั คมอย่างมีความสขุ

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 55
ในการพัฒนาผเู้ รียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน มุ่งพฒั นาผ้เู รียนให้มีสมรรถนะสาคัญ

5 ประการ ดงั นี้
1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มวี ฒั นธรรม

ในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ียนข้อมูล
ขา่ วสารและประสบการณอ์ ันจะเป็นประโยชนต์ อ่ การพัฒนาตนเองและสังคม รวมทงั้ การเจรจาตอ่ รองเพือ่ ขจัด
และลดปญั หาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไมร่ บั ขอ้ มูลขา่ วสารดว้ ยหลักเหตุผลและความถกู ต้อง
ตลอดจนการเลอื กใชว้ ธิ ีการสอื่ สาร ทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบทม่ี ีต่อตนเองและสังคม

2. ความสามารถในการคิด เปน็ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดสงั เคราะห์
การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศเพื่อการตดั สนิ ใจเกีย่ วกับตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอปุ สรรค ตา่ ง ๆ
ทเ่ี ผชิญไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตผุ ล คุณธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสมั พนั ธ์และการเปลยี่ นแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความร้มู าใช้
ในการป้องกนั และแก้ไขปญั หา และมกี ารตัดสนิ ใจทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบ ท่เี กดิ ขึน้ ต่อ
ตนเอง สงั คมและสง่ิ แวดล้อม

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ
ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทางาน และการอยู่
รว่ มกนั ในสังคมด้วยการสรา้ งเสรมิ ความสัมพันธ์อันดรี ะหว่างบคุ คล การจดั การปัญหาและความขดั แย้งต่าง ๆ
อยา่ งเหมาะสม การปรบั ตวั ให้ทันกบั การเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จกั
หลกี เล่ียงพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงคท์ ่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อนื่

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใชเ้ ทคโนโลยี
ด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การ
สอื่ สาร การทางาน การแกป้ ญั หา อย่างสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ งเหมาะสม และมคี ุณธรรม

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

ในการพัฒนาผเู้ รียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน ม่งุ พัฒนาผเู้ รียนให้มี

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เพือ่ ใหส้ ามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่นื ในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ทัง้ ในฐานะ

พลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง

2. ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต 6. มุ่งมัน่ ในการทางาน

3. มีวินยั 7. รักความเปน็ ไทย

4. ใฝ่เรยี นรู้ 8. มีจติ สาธารณะ

นอกจากน้ี สถานศกึ ษาสามารถกาหนดคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคเ์ พม่ิ เติมให้สอดคลอ้ งตาม

บริบทและจดุ เน้นของตนเอง

กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน มุ่งให้ผเู้ รยี นไดพ้ ฒั นาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพือ่

ความเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม
มรี ะเบยี บวินัย ปลกู ฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพ่ือสังคม สามารถจดั การตนเองได้ และอยูร่ ่วมกับ
ผ้อู ่ืนอยา่ งมคี วามสุข

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน แบง่ เปน็ 3 ลักษณะ ดงั น้ี 56
1. กิจกรรมแนะแนว

เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนใหร้ ู้จกั ตนเอง รู้รักษ์ส่ิงแวดล้อม สามารถคิด ตัดสินใจ คิด
แก้ปัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตท้ังด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนย้ี ังช่วยใหค้ รรู จู้ ักและเขา้ ใจนักเรียน ทง้ั ยังเปน็ กิจกรรมท่ีช่วยเหลือและให้คาปรึกษาแกผ่ ปู้ กครองในการ
มีสว่ นรว่ มพัฒนาผ้เู รียน

2. กิจกรรมนักเรียน
เปน็ กิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นาผตู้ ามท่ีดี ความรับผิดชอบการทางาน

ร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกันเอ้ืออาทร และ
สมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียนให้ได้ปฏิบัติด้วยตนเอง
ในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทางาน เน้นการ
ทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน บริบทของสถานศึกษาและ
ท้องถิน่ กิจกรรมนักเรียนประกอบดว้ ย

2.1 กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี ยวุ กาชาด ผู้บาเพญ็ ประโยชน์ และนกั ศกึ ษาวชิ าทหาร
2.2 กจิ กรรมชุมนมุ ชมรม
3. กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถ่ินตาม
ความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพ่ือแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคมมีจิต
สาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพัฒนาตา่ ง ๆ กจิ กรรมสร้างสรรค์สังคม

การจดั เวลาสาหรับกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนทกี่ าหนดไว้ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 ถึงมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ปลี ะ120 ชั่วโมง

และช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 จานวน 360 ช่ัวโมงน้ัน เป็นเวลาสาหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน

และกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ในส่วนกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ให้สถานศึกษา

จดั สรรเวลาให้ผเู้ รยี นได้ปฏิบตั กิ ิจกรรม ดงั นี้

ระดับประถมศึกษา (ป.1- 6) รวม 6 ปี จานวน 60 ชั่วโมง

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ม.1- 3) รวม 3 ปี จานวน 45 ช่ัวโมง

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 – 6) รวม 3 ปี จานวน 60 ชวั่ โมง

ตารางแสดงโครงสร้างเวลาการจัดกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนในแต่ละระดบั ชัน้
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

กิจกรม ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ มัธยมศกึ ษา
กิจกรรมแนะแนว
ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ม.3 ตอนปลาย

กจิ กรรมนักเรยี น

กจิ กรรมเพือ่ สงั คม 60 ชม. 45 ชม. 60 ชม.
และสาธารณประโยชน์ 360

รวม 120 120 120 120 120 120 120 120 120

57


Click to View FlipBook Version