บทเห่ชมไม้
กาพย์เห่เรือ
เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์
จัดทำโดย
นางสาวจุฑาม
าศ กาลจักร
ม.๖/๒ เลขที่๑๙
วิชาภาษาไทย ท๓๓๑๐๑
ภาคเรียนที่ ๑/๒๕๖๕
โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา
โคลง มีพรรณ
กลิ่นเกลี้ยง
เรือชายชมมิ่งไม้
ชู ช่ อ
ริมท่าสาครคันธ์ กลิ่นเนื้ อนวลนาง
เพล็ดดอกออกแกมกัน
หอมหื่นรื่นรสเพี้ยง
กาพย์ ริมท่าไสวหลากหลายพรรณ
ส่ งกลิ่นเกลี้ยงเพียงกลิ่นสมร
เรือชายชมมิ่งไม้
เพล็ดดอกออกแกมกัน บานแสล้มแย้มเกสร
ชมดวงพวงนางแย้ม แย้มโอษฐ์ยิ้มพริ้มพรายงาม
คิดความยามบังอร คลี่กลีบเหลืองเรืองอร่าม
จำปาหนาแน่ นเนื่ อง
คิดคะนึ งถึงนงราม ผิวเหลืองกว่าจำปาทอง
ประยงค์ทรงพวงห้อย
เหมือนอุบะนวลละออง ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง
พุดจีบกลีบแสล้ม
หอมชวยรวยตามลม เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม
สาวหยุดพุทธชาด
นึ กน้ องกรองมาไลย พิกุลแกมแซมสุ กรม
พิกุลบุนนาคบาน เหมือนกลิ่นน้ องต้องติดใจ
แม้นนุ ชสุ ดสายสมร บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป
เต็งแต้วแก้วกาหลง วางให้พี่ข้างที่นอน
หอมอยู่ไม่รู้หาย กลิ่นหอมหวานซ่านขจร
มะลิวัลย์พันจิกจวง เห็นจะวอนอ้อนพี่ชาย
หอมมาน่ าเอ็นดู บานบุ ษบงส่ งกลิ่นอาย
ลำดวนหวนหอมตระหลบ คล้ายกลิ่นผ้าเจ้าตราตรู
นึ กถวิลกลิ่นบุหงา
รวยรินกลิ่นรำเพย ดอกเป็ นพวงร่วงเรณู
นั่ งแนบแอบเอวบาง ชูชื่นจิตต์คิดวนิ ดา
ชมดวงพวงมาลี กลิ่นอายอบสบนาสา
วนิ ดามาด้วยกัน
รำไปเจ้าเศร้าถึงนาง
คิดพี่เชยเคยกลิ่นปราง
ห่อนแหห่างว่างเว้นวัน
ศรีเสาวภาคย์หลากหลายพรรณ
จะอ้อนพี่ชี้ชมเชย
นางแย้ม
ชื่อสามัญ : Flory bower
ช่ื
จำปา
ชื่อสามัญ : Champaca
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Magnolia
champaca
วงศ์ : Magnoliaceae
จำปาเป
ประยงค์
ช่ื
พุดจีบ
ชื่อสามัญ : Crape Jasmine
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tabernaemontana
divaricata (L.) R.Br.ex Roem&Schult.
วงศ์ : Apocynaceae
ลำต้นเหนื อดินตั้งตรงได้เอง ผิวลำต้นหยาบขรุ ขระ
มีน้ำยางขุ่นสีขาว ใบเดี่ยว ใบอ่อนสีเขียว ใบแก่สีเขียวเข้ม
ปลายใบแหลม ใบเรียงตัวเป็ นคู่ตรงข้ามรู ปใบหอกกลับ
ดอกสีขาว กลีบเลี้ยงติดกัน ๕ กลีบ สีเขียวกลีบดอกแยกกัน
๕ กลีบ สีขาว ดอกมีกลิ่นหอม ผลเป็ นฝั กยาว ปลายแหลมโค้ง
สรรพคุณ
ในทางสมุนไพรไม้เป็ นยาเย็นลดไข้ น้ำจากต้น
ขับพยาธิ เปลือก ต้น ราก มีอัลคาบอยด์ coronarine
พุดจีบกลีบแสล้ม พิกุลแกมแซมสุกรม
หอมชวยรวยตามลม เหมือนกลิ่นน้ องต้องติดใจ
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช. (ม.ป.ป). พุดจีบ . [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
http://www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/kpb_01-11.htm.
สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๕
สุกรม
ชื่อสามัญ: Orang Jessamine,
China Box Tree, Andaman
Satinwood, Chinese Box-wood
ชื่อวิทยาศาสตร์: Murraya
paniculata (L.) Jack.
ชื่อวงศ์ : RUTACEAE
พะยอมเป็ นไม้ต้นสูง ๑๕-๓๐ เมตร เปลือกสีเทาเข้มแตกเป็ น
ร่อง ใบเดี่ยวออกสลับ รู ปขอบขนานกว้าง ๓.๕-๖.๕ เซนติเมตร
ยาว ๘-๑๕ เซนติเมตร ปลายมนหรือเป็ นติ่งสั้น ๆ โคนมน ขอบเป็ น
คลื่นผิวเกลี้ยงเป็ นมัน ดอกสีขาว กลิ่นหอมจัด ออกเป็ นช่อใหญ่ตามกิ่ง
และปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง ๕ กลีบ โคนเชื่อมติดกัน กลีบดอก ๕ กลีบ
เรียงเวียนกันแบบกังหันเมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑-๒ เซนติเมตร
เกสรตัวผู้ ๑๕ อัน ผลรู ปรีกว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร
ยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร กลีบเลี้ยงเจริญไปเป็ นปลีกยาว
๓ ปี กสั้น ๒ ปี กคล้ายผลยาง
สรรพคุณ
- เปลือกต้น รสฝาด ต้มดื่มแก้ท้องร่วง แก้ลำไส้อักเสบ ฝน
ทาสมานบาดแผล ชำระแผลทุบใส่น้ำตาลสดกันบูด
- ดอก รสหอมสุขุม ปรุ งเป็ นยาแก้ลม บำรุ งหัวใจ ลดไข้
พุดจีบกลีบแสล้ม พิกุลแกมแซมสุ กรม
หอมชวยรวยตามลม เหมือนกลิ่นน้ องต้องติดใจ
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (ม.ป.ป). พะยอม. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://th.m.wikipedia.org/wiki/พะยอม.
สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๕
สาวหยุด
ชื่อสามัญ : Desmos
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Desmos
chinensis Lour.
วงศ์ : Annonaceae
สาวหยุดจัดเป็ นไม้พุ่มรอเลื้อยหรือไม้เถาเลื้อย สูง ๑-๕ เมตร
เมื่ออายุมากกิ่งจะเลื้อยไปตามสิ่ งยึดเกาะและจะสามารถยาวได้ถึง ๒๐
เมตร มีลักษณะแข็งเถาเรียบสีน้ำตาลเข้มเกือบดำผิวแตกเป็ นร่อง
กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลหนาแน่ น มีรู ระบายอากาศ กิ่งแก่เกลี้ยง สีดำ
ใบเป็ นใบเดี่ยว แบบเรียงสลับกัน โดยจะออกบนส่วนปลายของกิ่ง
แขนง ใบเป็ นรู ปหอก โคนใบกว้าง ปลายใบแหลมหรือมีติ่งแหลม มี
ก้านใบสั้น แผ่
นใบเรียบบางแต่เหนี ยว ขอบใบโค้งเป็ นลูกคลื่น ใบ
อ่อนมีสีเขียวอ่อน เมื่ออายุมากมีสีเขียวเข้ม ด้านบนของใบเป็ นมันด้าน
ล่างมีนวล ขนาดใบกว้าง ๕-๗ เซนติเมตร ยาว ๑๐-๑๕ เซนติเมตร
แผ่นใบจะเห็นเส้นกลางใบชัดเจน และมีเส้นใบแขนงแยกสลับกันออก
ด้านข้าง ๕-๑๐ คู่ ขึ้นอยู่กับความยาวของใบ ดอกคล้ายๆกับจำปา จำปี
สรรพคุณ
ราก แก้ท้องร่วง แก้บิด แก้ไข้
ดอก ใช้แก้ไข้ บํารุ งหัวใจ แก้วิงเวียน น
พุทธชาด
ชื่อสามัญ :Jasmine vine
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Jasminum
auriculatum Vahl.
วงศ์ : Oleaceae
พุทธชาดเป็ นไม้เถากึ่งต้นกึ่งเลื้อย ต้นแตกกิ่งก้านสาขา
เป็ นออกไป สูง ๑-๒ เมตร ใบออกเป็ นคู่ ๆ ตามกิ่ง ใบยาว
ประมาณ ๖ ซม. สีเขียวสด ดอกช่อ ออกเป็ นช่อตรงส่วนยอด
ของกิ่ง สีขาวและดกมาก ช่อหนึ่ งมีหลายดอกและทยอยผลิบาน
ทุกวัน ดอกติดกันเป็ นหลอด ปลายแยกเป็ น ๕-๘ แฉก
ดอกบานเต็มที่ประมาณ ๑ ซม. กลิ่นหอมแรง ออกดอกตลอดปี
การขยายพันธุ์ ปั กชำ ตอนกิ่ง ทับกิ่ง เพาะเมล็ด ประโยชน์
ดอกนำมาสกัดเอาน้ำมันหอมระเหย ถิ่นกำเนิ ดในจีนและ
อินเดีย ปลูกในดินร่วนปนทรายที่มีอินทรีย์วัตถุมาก ๆ น้ำพอ
สมควร ความชื้นสูง ปลูกในที่กลางแจ้งแสงแดดจัด
สรรพคุณ
นำดอกมาสกัดทำเป็ นน้ำมันหอมระเหย น้ำมันจาก
เมล็ดรักษาโรคเรื้อน โรคผิวหนั ง
สาวหยุดพุทธชาด บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป
นึ กน้ องกรองมาลัย วางให้พี่ข้างที่นอน
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (ม.ป.ป). พุทธชาด. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://th.m.wikipedia.org/wiki/พุทธชาด.
สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๕
บุนนาค
ชื่อสามัญ : Iron wood
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mesua ferrea L.
วงศ์ : Clusiaceae
เป็ นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ พบได้ในป่ าดิบชื้น
ตามริมห้วย ลำธาร ที่ระดับความสูงไม่เกิน ๖-๗๐๐ เมตร
ต้นสูงประมาณ ๒๕-๓๐ เมตร เป็ นไม้เนื้ อแข็ง ลำต้นสีน้ำตาล
ใบเดี่ยวเรียงสลับ รู ปขอบขนานแคบ กว้าง ๒-๓ ซม. ยาว ๗-๑๒
ซม. ใบอ่อนจะมีสีแดง ดอกสีขาวหอมเย็น ออก
เป็ นกระจุก ๒-๑ ดอก กลีบดอกรู ปไข่กลับ
ปลายกลีบย่นเล็กน้ อย มีเกสรเพศผู้ยาวประมาณ ๑.๕ ซม.
สรรพคุณ
กลีบเลี้ยงกลมโค้งขนาด ๑.๕ ซม.
ใบ-ใช้รักษาบาดแผล แก้แผลสด แก้พิษงู
เปลือกต้น -แก้พิษงู แก้ฟกช้ำ
แก่น -แก้เลือดออกตามไรฟั น บำรุ งโลหิต
ดอกแห้ง - เป็ นยาฝาดสมาน ขับลมแก้ลมในไส้
บำรุ งธาตุ บำรุ งโลหิต บำรุ งหัวใจ
เมล็ด - มีน้ำมันที่กลั่นใช้ผสมเครื่องสำอาง และอื่น
ๆ
ดอกสด - มีน้ำมันหอมระเหย ปั จจุบันนำมาปลูก
เป็ นไม้ประดับกันอย่างแพร่หลาย
ราก - ขับลมในลำไส้ บำรุ งโลหิต แก้กลิ่นเหม็น
สาบในร่างกาย กลิ่นหอมหวานซ่านขจร
พิกุลบุนนาคบาน
เห็นจะวอนอ้อนพ่ี
พิกุล
ชื่อสามัญ : Bullet wood
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mimusops elengi L.
วงศ์ : Sapotaceae
พิกุลเป็ นไม้ยืนต้น ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รู ปรี
รู ปไข่กว้าง ๒-๖ เซนติเมตร ยาว ๗-๑๕ เซนติเมตร ปลายใบ
แหลมเป็ นติ่งขอบใบเป็ นคลื่น ดอกเดี่ยว อยู่รวมกันเป็ นกระจุก
ที่ปลายกิ่งหรือที่ซอกใบ กลีบเลี้ยง ๘ กลีบ เรียงซ้อนกัน ๒
ชั้น กลีบดอกประมาณ ๒๔ กลีบ เรียงซ้อนกันโคนกลีบดอก
เชื่อมติดกันเล็กน้ อย ดอกสีขาว เมื่อใกล้โรยสีเหลืองอมน้ำตาล
ดอกบานวันเดียวแล้วร่วง มีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี ผลสี
เหลือง รสหวานอมฝาด
สรรพ
คุณ
ดอกสดทํายาหอม ทําเคร่ื
เต็ง
ชื่อสามัญ : Burma Sal
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Shorea
obtusa Wall
วงศ์ : Dipterocarpaceae
ไม้ต้น สูง ๑๐-๒๐ ม. ใบ เป็ นใบเดี่ยว รู ปขอบขนาน
กว้าง ๒.๕-๗ ซม. ยาว ๔-๑๖ ซม. โคนและปลายมน
ขอบใบบิดเป็ นคลื่นเล็กน้ อย ก้านใบยาว ๑-๑.๕ ซม.
ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมออกเป็ นช่อ กลีบรองดอก ๕ กลีบ
กลีบดอก ๕ กลีบ รู ปใบหอก กว้าง ๓-๕ มม. ยาว ๑-๑.๕ซม.
ปากกลีบบิด เกสรเพศผู้ขนาดเล็ก จำนวนมาก
ผล รู ปไข่ ขนาด ๖-๘ มม. มีปี กสั้น ๒ ปี ก ยาว ๓-๔.๕ ซม.
ปี กยาว ๓ ปี ก รู ปหอกกลับ กว้าง ๐.๗-๑ ซม. ยาว ๔-๖ ซม.
สรรพคุณ
เปลือกของต้นสามารถใช้เป็ นยาสมานแผล
รักษาแผลเรื้อรัง แผลพุพองหรือห้ามเลือดได้
เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิน
แต้ว
ชื่อสามัญ : Pruniflorum Gogel
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cratoxylum
maingayi Dyer
วงศ์ : Clusiaceae
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ผลัดใบ และผลิ
ใบใหม่พร้อมกับออกดอก ลำต้นมีหนามรอบๆ แผ่กิ่ง
ก้านออกเป็ นทรงพุ่ม เนื้ อไม้ค่อนข้างเหนี ยว กระพี้ขาว
แก่นสีน้ำตาลปนเหลือง มีน้ำยางเหนี ยวซึม ออกมา
ความสูงต้น ๘-๑๕ เมตร
สรรพคุณ
ใช้นํ้ ายางทารอยแตกของส้นเท้า
เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิน่
แก้ว
ชื่อสามัญ : Orang Jessamine
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Murraya
paniculata L. Jack
วงศ์ : Rutaceae
แก้วเป็ นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ใบออก
เป็ นช่อเป็ นแผงออกใบเรียงสลับกันช่อหนึ่ งประกอบ
ด้วยใบย่อยประมาณ ๔-๘ ใบ ดอกสีขาว กลิ่นหอม
สรรพคุณ
- ราก รสเผ็ด ขม สุขุม ใช้แก้ปวดเอว แก้ผื่นคันที่เกิดจาก
ชื้นและที่เกิดจากแมลงกัดต่อย
- ใบ ขับพยาธิตัดตืด แก้บิด แก้ท้องเสีย
- ราก,ใบ เป็ นยาขับประจำเดือน
- ดอก,ใบ ช่วยย่อย แก้ไขข้ออักเสบ แก้ไอ เวียนศรีษะ
เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิ
กาหลง
ชื่อสามัญ : Snowy Orchid Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bauhinia
acuminata Linn.
วงศ์ : Fabaceae
เป็ นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิ ดในป่ าเมืองร้อนของหลาย
ประเทศตั้งแต่ไทย ลาว พม่า กัมพูชา มาเลเซีย อินเดีย
อินโดนี เซีย ฟิ ลิปปิ นส์ ฯลฯ โดยจัดเป็ นไม้พุ่มขนาดเล็ก
มีความสูงของต้นประมาณ ๑-๓ เมตร เปลือกลำต้นเรียบเป็ นสี
น้ำตาล กิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีขาวขึ้นปกคลุม ส่วนกิ่งแก่ผิว
ค่อนข้างเกลี้ยงและไม่ค่อยมีขน ต้นกาหลงเป็ นพันธุ์ไม้ที่มีอัตรา
การเจริญเติบโตปานกลาง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนที่ระบาย
น้ำได้ดี ชอบความชื้นปานกลางและชอบแสงแดดแบบเต็มวัน
ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนและการเพาะเมล็ด หากปลูกจากเมล็ด
จะใช้ระยะเวลาประมาณ ๒-๔ ปี จึงจะออกดอกและติดฝั ก
สรรพคุณ
- ดอกมีรสสุขุม ช่วยลดความดันโลหิต
- ใบใช้รักษาแผลในจมูก
- รากใช้ต้มเป็ นยาดื่มช่วยแก้อาการไอ
- ต้นกาหลงเป็ นยาแก้โรคสตรี
เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิ
มะลิวัลย์
ชื่อสามัญ : Scented star jasmine
ชื่ อวิทยาศาสตร์:Jasminum
adenophyllum Wall. ex C.B.
Clarke
วงศ์ : OLEACEAE
เป็ นไม้เลื้อย ในสกุลมะลิ พบครั้งแรกที่ประเทศ
อินเดีย กระจายพันธุ์จนถึงไทย พม่า มาเลเซีย และ
เวียดนาม ในไทยพบได้ทุกภาค เถามีขนาดเล็ก ใบเดี่ยว
ดอกช่อ ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อน แฉกกลีบเลี้ยงยาวกว่า
มะลิชนิ ดอื่น ใช้เป็ นประดับ ทางภาคเหนื อนำยอดอ่อนไปใส่
แกง
สรรพคุณ
- ดอก รสหอมเย็น บำรุ งหัวใจ บำรุ งครรภ์รักษา
แก้ไข้ตัวร้อน
- ราก รสจืดเย็น ถอนพิษยาเมาเบื่อ ถอนพิษไข้
ถอนพิษอักเสบต่างๆ
มะลิวัลย์พันจิกจวง ดอกเปน
จิก
ชื่อสามัญ : Indian oak
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Barringtonia
acutangula (L.) Garetn.
วงศ์ : Barringtoniaceae
ไม้ต้นขนาดเล็ก ลำต้น เป็ นปุ่ มปมและเป็ นพู
ผลัดใบ ชอบขึ้นริมน้ำ ใบ เดี่ยว ใบอ่อนสีน้ำตาลแดง
ผิวใบมัน ใบออกสลับถี่ตามปลายยอด รู ปใบยาวเหมือน
รู ปใบหอก หรือรู ปไข่กลับ ใบยาว ๓๐ เซนติเมตร ขอบ
ใบจักถี่ ก้นใบสีแดง สั้นมาก ดอก ช่อ สีแดงห้อยลง
บานจากโคนลงไปทางปลาย ช่อดอกยาว ๓๐-๔๐
เซนติเมตร กลีบเลี้ยง ๔ กลีบ และจะคงติดอยู่จนเป็ นผล
เกสรตัวผู้มีจำนวนมาก มีสีชมพูถึงสีแดง ผล ยาวรีเป็ น
เหลี่ยม มีสันตามยาวของผล ๔ สัน ผลมีกลีบเลี้ยงติดอยู่
สรรพคุณ
- ราก ยาระบายอ่อน ๆ และใช้แทนควินิ นได้
- น้ำจากใบ แก้ท้องเสีย
- เปลือก ทาแก้แมลงกัดต่อย พอกแผล
- ผล แก้ไอ ขับเสมหะ แก้หวัด หืด
มะลิวัลย์พันจิกจวง ดอกเป
จวง
ชื่อสามัญ : Citronella laurel
หรือ True laurel
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cinnamomum
porrectum Kosterm.
วงศ์ : LAURACEAE
เป็ นไม้ยืนต้นสูง ๑๐-๓๐ เมตร เรือนยอดเป็ นพุ่ม
ทึบ ใบเป็ นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน แผ่นใบรู ปรี
แกมรู ปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ก้านใบเรียวเล็ก
ดอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน ออกเป็ นช่อเป็ นกระจุกตาม
ปลายกิ่ง ผลทรงกลม มีขนาดเล็ก
สรรพคุณ
ใช้ปรุ งเป็ นยาหอมแก้ลม จุกเสียดแน่ น แน่ นเฟ้ อ
แก้อาการปวดท้อง ขับผายลมได้ดี ขับลมในลำไส้
และกระเพาะอาหาร
มะลิวัลย์พันจิกจวง ดอกเป
ลำดวน
ชื่อสามัญ : White cheesewood
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Melodorum
fruticosum Lour.
วงศ์ : ANNONACEAE
ลำดวนเป็ นไม้ต้นขนาดกลาง สูง ๕-๒๐ เมตร
ไม่ผลัดใบ เรือนยอดรู ปกรวย หนาทึบ ลำต้นเปลาตรง
มีเปลือกสีน้ำตาล แตกขรุ ขระเป็ นสะเก็ด ใบเดี่ยว เรียงสลับ
แผ่นใบรู ปขอบขนานหรือรู ปใบหอก กว้าง ๒.๕-๔ เซนติเมตร
ยาว ๕-๑๑.๕ เซนติเมตร ปลายใบแหลมโคนใบสอบหรือมน
ดอกมีสีนวลกลิ่นหอม ออกเดี่ยวตามซอกใบที่ปลายกิ่ง กลีบดอก
หนาและแข็ง กลีบดอก ชั้นนอก ๓ กลีบแผ่ออก ชั้นใน ๓ กลีบ
หุบเข้าหากัน เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ เซนติเมตร
ลักษณะผลเป็ นผลกลุ่ม ทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ
๐.๖ เซนติเมตร สีเขียว เมื่อสุกสีดำ รสหวานอมเปรี้ยว
สรรพคุณ
แก้อ่อนเพลีย ช่วยบำรุ งหัวใจ ช่วยทำให้หัวใจชุ่มชื่น
ช่วยบำรุ งโลหิต แก้ลมวิงเวียน แก้ไอ แก้ไข้
แก้กระหายน้ำ แก้ลม ช่วยชูกำลัง แก้พิษโลหิต
ลําดวนหวนหอมตรลบ กลิน
รำเพย
ชื