The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดบ่อ (นันทวิทยา) นครปากเกร็ด ๑
ฉบับปรับปรุง ปีพุืธศักราช 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pam’s Chanel Thailand, 2022-04-24 15:29:09

หลักสูตร วิชาภาษาอังกฤษ ป.5 อ15101

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดบ่อ (นันทวิทยา) นครปากเกร็ด ๑
ฉบับปรับปรุง ปีพุืธศักราช 2564

Keywords: หลักสูตร

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา
โรงเรียนวดั บ่อ (นันทวทิ ยา) นครปากเกร็ด ๑

(ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๔)

รายวิชาพน้ื ฐาน
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ

รหัส อ ๑๕๑๐๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

กองการศกึ ษา เทศบาลนครปากเกรด็ จังหวดั นนทบุรี
กรมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถ่นิ
กระทรวงมหาดไทย

สารบญั หนา้

คำนำ ๑
วสิ ัยทศั น์ ความสำคัญ 2
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 2
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 3
ทักษะและกระบวนการทางภาษา 3
คณุ ภาพผู้เรียน 5
ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง 5
8
สาระที่ ๑ ภาษาเพ่ือการสอื่ สาร 9
สาระที่ ๒ ภาษาและวฒั นธรรม 9
สาระท่ี ๓ ภาษากับความสมั พันธก์ บั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อ่นื 10
สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก 11
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา 12
โครงสรา้ งหลกั สตู รช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 13
คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน
โครงสรา้ งรายวิชา
ภาคผนวก
- การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

เอกสารอ้างอิง

คำนำ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ได้จัดทำหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษา
ต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ )ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ฉบับนี้ ซ่ึงเป็นเอกสารประกอบหลักสูตร
สถานศึกษา โรงเรียนวดั บอ่ )นันทวิทยา) นครปากเกรด็ ๑ (ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๔)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อเป็นเป้าหมายในการพัฒนา
คณุ ภาพผูเ้ รียน และกระบวนการจัดการเรียนรู้ เพ่อื เป็นกรอบและทิศทางในการจดั การ เรียนการสอน
ให้ตรงตามมาตรฐานตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โดย
พิจารณาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2564)
หลักสูตร สถานศึกษา โรงเรียนวัดบ่อ )นันทวิทยา) นครปากเกร็ด ๑ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช
2564) ซงึ่ มอี งค์ประกอบดังนี้

- วสิ ัยทัศน์ ความสำคญั
- สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
- คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
- ทกั ษะและกระบวนการทางภาษา
- คุณภาพผเู้ รียน
- ตัวชีว้ ัดและสาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
- โครงสรา้ งรายวชิ าพน้ื ฐาน
- การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
คณะผ้จู ัดทำขอขอบคุณผู้ทีม่ ีส่วนรว่ มในการพฒั นาและจดั ทำหลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้
ภาษาต่างประเทศ ฉบบั น้ีจนสำเรจ็ ลุล่วงเป็นอยา่ งดี และหวังเปน็ อย่างย่ิงว่าจะเกดิ ประโยชน์ตอ่ การจดั การ
เรยี นรู้ให้กบั ผู้เรยี นตอ่ ไป

กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
นางกนกพร นิยมจนั ทร์
ผจู้ ัดทำ

1 4
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

วิสัยทัศนโ์ รงเรียนวัดบ่อ (นันทวทิ ยา) นครปากเกรด็ ๑
ปลกู ฝังคุณธรรม กา้ วลำ้ เรยี นรู้ มงุ่ สพู่ อเพียง เทยี บเคยี งอาเซียน

วิสัยทศั น์หลักสตู รสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

มีความร้ดู ้านหลกั การใช้ ส่ือสารได้ในชวี ิตประจำวนั

เข้าใจความแตกต่างของวัฒนธรรม นำความรสู้ ู่ความสขุ ในการเรียน

ปฏิบัตติ ามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง รูเ้ ท่าทนั เทคโนโลยีดจิ ิทัล

ดำรงตนให้เปน็ ประโยชน์ของสงั คมและพลโลกทด่ี ี

ความสำคญั

ใน สังคมโลกปัจจุบัน ก ารเรียน รู้ภาษาต่างประเทศมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่ง
ในชีวิตประจำวัน เน่ืองจากเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสาร การศึกษา การแสวงหาความรู้
การประกอบอาชีพ การสร้างความเข้าใจเก่ียวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของชุมชนโลก และตระหนักถึง
ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก นำมาซ่ึงมิตรไมตรีและความร่วมมือกับประเทศ
ตา่ งๆ ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความเขา้ ใจตนเองและผู้อ่ืนดีข้ึน เรียนรูแ้ ละเข้าใจความแตกต่างของภาษาและ
วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิด สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง มีเจตคติที่ดีต่อ
การใช้ภาษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้ รวมทั้งเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ได้
ง่ายและกวา้ งขน้ึ และมวี สิ ยั ทัศนใ์ นการดำเนินชีวติ

ภาษาต่างประเทศที่เป็นสาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน ซึ่งกำหนดให้เรียนตลอดหลักสูตรการศึกษา
ขน้ั พ้ืนฐาน คือ ภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาต่างประเทศอ่ืน เช่น ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน จีน ญปี่ ุ่น อาหรบั บาลี
และภาษากลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือภาษาอื่นๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะจัดทำรายวิชาและ
จดั การเรียนรู้ตามความเหมาะสม

25

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนวดั บอ่ )นนั ทวทิ ยา) นครปากเกรด็ ๑ มุง่ ใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ สมรรถนะสำคัญ
5 ประการ ดงั น้ี
1. ความสามารถในการส่อื สาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเองเพ่อื แลกเปลีย่ นข้อมลู ข่าวสารและ
ประสบการณอ์ ันจะเป็นประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเองและสังคม รวมทง้ั การเจรจาต่อรองเพอื่ ขจดั และลด
ปัญหาความขัดแยง้ ต่าง ๆ การเลือกรบั หรอื ไมร่ ับขอ้ มูลข่าวสารด้วยหลักเหตผุ ลและความถูกตอ้ ง ตลอดจน
การเลอื กใช้วิธีการส่ือสาร ท่ีมีประสิทธภิ าพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสังคม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์
การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและการคดิ เป็นระบบเพ่อื นำไปสกู่ ารสรา้ งองค์ความรหู้ รือ
สารสนเทศเพือ่ การตัดสินใจเกี่ยวกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการแก้ปญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการป้องกนั และแก้ไข
ปัญหา และมกี ารตดั สินใจทีม่ ีประสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ีเกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและส่ิงแวดล้อม
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการ
ดำเนินชวี ิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง การทำงาน และการอยู่รว่ มกันในสงั คม
ดว้ ยการสรา้ งเสริมความสมั พนั ธ์อันดีระหวา่ งบคุ คล การจัดการปญั หาและความขัดแย้งตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรจู้ ักหลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึง
ประสงคท์ สี่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่ืนโดยยดึ หลกั ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร
การทำงาน การแก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นวัดบอ่ )นนั ทวิทยา) นครปากเกร็ด ๑ มุ่งพฒั นาผูเ้ รยี นให้มีคุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์ เพ่อื ให้สามารถอยรู่ ่วมกับผู้อืน่ ในสงั คมได้อย่างมคี วามสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและ
พลโลก ดังนี้
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
2. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต
3. มีวนิ ัย
4. ใฝเ่ รียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
7. รกั ความเปน็ ไทย
8. มจี ิตสาธารณะ

36

นอกจากน้ี สถานศึกษาสามารถกำหนดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคเ์ พมิ่ เตมิ ใหส้ อดคล้องตามบรบิ ท
และจุดเน้นของตนเอง

ทกั ษะและกระบวนการทางภาษา
ทกั ษะและกระบวนการทางภาษาเป็นความสามารถทจ่ี ะนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ในการเรยี นรสู้ ่ิง
ต่างๆ เพ่อื ให้ได้มาซ่งึ ความรู้และประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพทกั ษะและกระบวนการ
ทางภาษาในทน่ี ้หี มายถงึ เนน้ ทที่ ักษะการพูด การฟัง การอา่ น และการเขยี นทจ่ี ำเป็นและต้องการพัฒนาให้
เกดิ ขนึ้ กบั ผเู้ รยี น ได้แก่ความสามารถตอ่ ไปนี้
1. การแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการทำความเข้าใจปัญหา คิดวเิ คราะห์วางแผนแก้ปัญหาและ
เลอื กใช้วธิ ีการท่ีเหมาะสม โดยคำนงึ ถงึ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ พรอ้ มท้งั ตรวจสอบความถกู ต้อง
2. การสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางภาษา เป็นความสามารถในการใชร้ ูปภาษาและสัญลักษณะ
ทางในการส่อื สาร สอื่ ความหมาย สรปุ ผล และนำเสนอได้อยา่ งถูกต้อง ชัดเจน
3. การเชอื่ มโยง เป็นความสามารถในการใชค้ วามรู้ทางภาษาเป็นเครือ่ งมอื ในการเรียนรู้สอื่ สารใน
เนอ้ื หาตา่ ง ๆ หรอื ศาสตร์อ่นื ๆ และนำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ
4. การใหเ้ หตุผล เป็นความสามารถในการให้เหตุผล รับฟังและให้เหตุผลสนับสนนุ หรือโตแ้ ยง้ เพ่อื
นำไปสูก่ ารสรปุ โดยมขี ้อเทจ็ จรงิ รองรับ
5. การคดิ สรา้ งสรรค์เป็นความสามารถในการขยายแนวคดิ ที่มีอยู่เดมิ หรอื สรา้ งแนวคดิ ใหมเ่ พ่ือ
ปรับปรุง พัฒนาองค์ความรู้

คุณภาพผเู้ รยี น

จบช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3

• ปฏิบัติตามคำส่ัง คำขอร้องที่ฟัง อ่านออกเสียงตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยคง่ายๆ และบทพูด
เข้าจงั หวะง่ายๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน บอกความหมายของคำและกลุ่มคำท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบ
คำถามจากการฟังหรอื อา่ นประโยค บทสนทนาหรอื นทิ านงา่ ยๆ

• พูดโต้ตอบด้วยคำสั้นๆ ง่ายๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบท่ีฟัง ใช้คำสั่งและ
คำขอร้องง่ายๆ บอกความต้องการง่ายๆ ของตนเอง พูดขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองและเพื่อน
บอกความรสู้ ึกของตนเองเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ใกล้ตัวหรอื กจิ กรรมต่างๆ ตามแบบท่ฟี งั

• พูดให้ขอ้ มูลเก่ยี วกับตนเองและเรอื่ งใกลต้ ัว จัดหมวดหม่คู ำตามประเภทของบุคคล สัตว์ และ
ส่งิ ของตามทฟ่ี ังหรืออ่าน

• พูดและทำท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกช่ือและคำศัพท์
ง่ายๆ เกี่ยวกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทาง
ภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะกบั วัย

• บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำ กลุ่มคำ และประโยคงา่ ยๆ ของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย

47

• บอกคำศพั ท์ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรียนรอู้ ่นื
• ฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ทเี่ กิดขน้ึ ในห้องเรยี น
• ใชภ้ าษาต่างประเทศ เพื่อรวบรวมคำศพั ทท์ เี่ ก่ียวข้องใกล้ตัว
• มที กั ษะการใช้ภาษาต่างประเทศ )เนน้ การฟงั -พูด) สื่อสารตามหัวเร่ืองเกย่ี วกบั ตนเอง ครอบครัว
โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครื่องดื่ม และเวลาว่างและนันทนาการ ภายในวง คำศัพท์
ประมาณ 300-450 คำ )คำศพั ท์ทเ่ี ปน็ รปู ธรรม)
• ใช้ประโยคคำเดียว )One Word Sentence) ประโยคเดย่ี ว (Simple Sentence) ในการสนทนา
โตต้ อบตามสถานการณใ์ นชวี ติ ประจำวัน

จบช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6

• ปฏิบัตติ ามคำส่ัง คำขอรอ้ ง และคำแนะนำทีฟ่ ังและอ่าน อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ นิทาน
และบทกลอนส้ันๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุประโยคและข้อความตรงตามความหมายของ
สัญลักษณ์หรือเครอ่ื งหมายทีอ่ ่าน บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และอา่ น บทสนทนา นิทาน
งา่ ยๆ และเร่อื งเล่า

• พดู /เขียนโต้ตอบในการส่อื สารระหว่างบคุ คล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และให้คำแนะนำ พูด/เขยี น
แสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์งา่ ยๆ พูด
และเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว พูด/เขียนแสดงความรู้สึก
เกีย่ วกบั เรื่องตา่ งๆ ใกล้ตวั กจิ กรรมต่างๆ พร้อมท้ังใหเ้ หตผุ ลสั้นๆ ประกอบ

• พดู /เขียนใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพ่ือน และสง่ิ แวดล้อมใกล้ตัว เขยี นภาพ แผนผงั แผนภมู ิ และ
ตารางแสดงข้อมูลตา่ งๆ ที่ฟังและอ่าน พดู /เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับเร่ืองต่างๆ ใกลต้ ัว

• ใช้ถอ้ ยคำ นำ้ เสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล/วันสำคัญ /งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา
เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

• บอกความหมือน/ ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมาย
วรรคตอน และการลำดบั คำ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบความ
เหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาล งานฉลองและประเพณขี องเจา้ ของภาษากับของไทย

• ค้นควา้ รวบรวมคำศพั ท์ที่เกยี่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ืน่ จากแหลง่ การเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ย
การพดู /การเขยี น

• ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกดิ ขนึ้ ในห้องเรยี นและสถานศกึ ษา
• ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ งๆ
• มีทกั ษะการใชภ้ าษาต่างประเทศ (เน้นการฟงั -พูด-อ่าน-เขยี น) ส่ือสารตามหัวเร่ืองเกี่ยวกับตนเอง
ครอบครวั โรงเรียน สง่ิ แวดล้อม อาหาร เครือ่ งด่มื เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สุขภาพและสวสั ดกิ าร การซื้อ-ขาย
และลมฟา้ อากาศ ภายในวงคำศพั ทป์ ระมาณ 1,050-1,200 คำ (คำศัพทท์ ่ีเป็นรปู ธรรมและนามธรรม)
• ใช้ประโยคเดย่ี วและประโยคผสม (Compound Sentences) สื่อความหมายตามบริบทตา่ งๆ

58

ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การสือ่ สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งที่ฟังและอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่าง
มเี หตุผล

ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ป.๕ ๑. ปฏิบตั ิตามคำส่ัง คำขอร้อง และ คำสั่งและคำขอรอ้ งทใ่ี ช้ในหอ้ งเรียน ภาษาทา่ ทาง และคำแนะนำ

คำแนะนำง่ายๆ ที่ฟังและอา่ น ในการเล่นเกม การวาดภาพ หรอื การทำอาหารและเคร่อื งดื่ม

- คำส่งั เช่น Look at the…/here/over there./ Say it

again./ Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/

Don’t go over there. etc.

- คำขอรอ้ ง เช่น Please take a queue./ Take a queue,

please./ Can/Could you help me, please? etc.

- คำแนะนำ เช่น You should read everyday./ Think before

you speak./ คำศัพทท์ ี่ใชใ้ นการเลน่ เกม Start./ My turn./

Your turn./ Roll the dice./ Count the number./ Finish./

คำบอกลำดบั ขั้นตอน First,… Second,… Next,… Then,…

Finally,… etc.

๒. อา่ นออกเสยี งประโยค ขอ้ ความ ประโยค ข้อความ และบทกลอน
และบทกลอนสัน้ ๆ ถูกต้องตาม การใชพ้ จนานกุ รม
หลกั การอ่าน หลักการอ่านออกเสยี ง เช่น
- การออกเสียงพยญั ชนะตน้ คำและพยญั ชนะท้ายคำ
๓. ระบ/ุ วาดภาพ สญั ลักษณ์ หรอื - การออกเสียงเน้นหนกั -เบา ในคำและกลมุ่ คำ
เครอื่ งหมายตรงตามความหมายของ - การออกเสยี งตามระดบั เสยี งสงู -ต่ำ ในประโยค
ประโยคและขอ้ ความส้ันๆ ท่ฟี งั หรือ - การออกเสยี งเชื่อมโยง (linking sound) ในขอ้ ความ
อ่าน - การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ
กลุ่มคำ ประโยคผสม ข้อความ สญั ลักษณ์ เครือ่ งหมาย และ
ความหมายเกย่ี วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร
เครอื่ งดม่ื เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวสั ดกิ าร การซ้อื -
ขาย และลมฟ้าอากาศ และเปน็ วงคำศพั ท์สะสมประมาณ ๗๕๐-
๙๕๐ คำ )คำศพั ทท์ เี่ ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม)

69

ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๕ ๔. บอกใจความสำคัญ และตอบ
ประโยค บทสนทนา นทิ าน หรอื เรอ่ื งสน้ั ๆ
คำถามจากการฟังและอ่านบท
คำถามเก่ียวกบั ใจความสำคญั ของเรื่อง เชน่ ใคร
สนทนา และนทิ านง่ายๆ หรือ
ทำอะไร ทไ่ี หน เมอ่ื ไร
เรอ่ื งสน้ั ๆ
- Yes/No Question เช่น

Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./

No,…isn’t/aren’t/can’t.

Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc.
- Wh-Question เชน่

Who is/are…? He/She is…/They are…

What…?/Where…? It is …/They are…

What...doing? …is/am/are… etc.

- Or-Question เช่น
Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an… etc.

สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.๕ ๑. พดู /เขยี นโต้ตอบในการสื่อสาร บทสนทนาที่ใช้ในการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ

ระหวา่ งบคุ คล ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอยา่ งสุภาพ ประโยค/ข้อความที่ใช้

แนะนำตนเอง เพ่อื น และบุคคลใกล้ตวั และสำนวนการตอบรับ

เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good

evening/ I am sorry./ How are you?/ I’m fine. Thank

you. And you?/ Hello. I am…/ Hello,…I am… This is my

sister. Her name is… /Hello,…/ Nice to see you. Nice to

see you too./ Goodbye./ Bye./ See you soon/later./

Good/Very good./ Thanks./ Thank you./ Thank you very

much./ You’re welcome./ It’s O.K. etc.

๒. ใช้คำสง่ั คำขอร้อง คำขออนุญาต คำสง่ั คำขอร้อง คำแนะนำทม่ี ี ๑-๒ ข้นั ตอน

และให้คำแนะนำงา่ ยๆ

๓. พดู /เขยี นแสดงความต้องการ คำศพั ท์ สำนวน และประโยคท่ีใช้บอกความต้องการ ขอความ

ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธ ช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลือ เช่น

การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ Please…/ May…?/ I need…/ Help me!/ Can/

ง่ายๆ Could…?/ Yes,... /No,… etc.

7 10

ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ป.๕ ๔. พดู /เขยี นเพือ่ ขอและให้ขอ้ มลู คำศพั ท์ สำนวน และประโยคทใ่ี ช้ขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกับตนเอง

เก่ียวกับตนเอง เพอื่ น ครอบครวั และ เพอ่ื น ครอบครัว และเร่อื งใกลต้ วั เชน่

เรือ่ งใกล้ตัว What do you do? I’m a/an…

What is she/he? …is a/an (อาชพี )

How old/tall…? I am…

Is/Are/Can…or…? …is/are/can…

Is/Are…going to…or…? …is/are going to… etc.

๕. พูด/เขียนแสดงความรสู้ ึกของ คำและประโยคที่ใช้แสดงความร้สู ึก เชน่ ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ

ตนเองเกยี่ วกับเรื่องต่างๆ ใกลต้ วั และ เสียใจ มคี วามสุข เศร้า หิว รสชาติ เช่น

กิจกรรมตา่ งๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้ันๆ I’m…/He/She/It is…/You/We/They are…

ประกอบ I/You/We/They like…/He/She likes…because…

I/You/We/They love…/He/She loves…because…

I/You/We/They don’t like/love/feel…because…

He/She doesn’t like/love/feel…because…

I/You/We/They feel…because… etc.

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพดู
และการเขยี น

ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ป.๕ ๑. พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง ประโยคและขอ้ ความที่ใชใ้ นการให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั บุคคล สัตว์

และเรือ่ งใกลต้ ัว สถานที่ และกิจกรรมตา่ งๆ เช่น ขอ้ มูลส่วนบุคคล เรื่องต่างๆ ใกล้

ตัว จำนวน ๑-๕๐๐ ลำดบั ที่ วัน เดือน ปี ฤดูกาล เวลา สภาพ

ดินฟา้ อากาศ อารมณ์ ความรูส้ ึก สี ขนาด รปู ทรง ทีอ่ ย่ขู องส่งิ

ตา่ งๆ เครื่องหมายวรรคตอน

๒. เขยี นภาพ แผนผงั และแผนภมู ิ คำ กลุม่ คำ ประโยคทีแ่ สดงข้อมลู และความหมายของเรื่องตา่ งๆ
แสดงขอ้ มลู ต่างๆ ตามท่ฟี งั หรืออา่ น ภาพ แผนผงั แผนภูมิ ตาราง

๓. พูดแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับ ประโยคทีใ่ ชใ้ นการพูดแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรมหรือเรื่อง
เร่อื งตา่ งๆ ใกลต้ ัว ตา่ งๆ ใกล้ตวั

8 11

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้อยา่ ง
เหมาะสมกับกาลเทศะ

ป.5 ๑. ใช้ถ้อยคำ นำ้ เสียง และกริ ยิ า การใช้ถ้อยคำ น้ำเสยี ง และกิรยิ าท่าทาง ตามมารยาทสงั คมและ

ทา่ ทางอย่างสภุ าพ ตามมารยาทสงั คม วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เชน่

และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา การขอบคุณ ขอโทษ การใชส้ ีหน้าทา่ ทางประกอบการพดู ขณะ

แนะนำตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมือ การแสดงความรู้สกึ ชอบ/

ไมช่ อบ การกลา่ วอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรอื ปฏเิ สธ

๒. ตอบคำถาม/บอกความสำคัญของ ข้อมลู และความสำคัญของเทศกาล/วนั สำคญั /งานฉลองและชวี ติ

เทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลองและชีวติ ความเปน็ อยู่ของเจ้าของภาษา เชน่

ความเปน็ อยู่งา่ ยๆ ของเจ้าของภาษา วันครสิ ต์มาส วันข้นึ ปีใหม่ วันวาเลนไทน์

เคร่ืองแตง่ กาย ฤดูกาล อาหาร เครื่องดมื่

๓. เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม

วัฒนธรรมตามความสนใจ การร้องเพลง การเล่านิทาน บทบาทสมมตุ ิ

วันขอบคณุ พระเจา้ วันคริสตม์ าส วันขน้ึ ปีใหม่

วนั วาเลนไทน์

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม

ชนั้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ป.5 ๑. บอกความเหมอื น/ความแตกต่าง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ

ระหวา่ งการออกเสยี งประโยค ของเจ้าของภาษากบั ของไทย

ชนิดตา่ งๆ การใชเ้ ครอื่ งหมาย การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอนและการลำดับคำตามโครงสร้าง

วรรคตอน และการลำดับคำ (order) ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

ตามโครงสร้างประโยค ของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

๒. บอกความเหมอื น/ความแตกต่าง ความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและ

ระหว่างเทศกาลและงานฉลอง งานฉลองของเจ้าของภาษากับของไทย

ของเจา้ ของภาษากับของไทย

9 12

สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนร้อู ืน่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น และเป็นพ้ืนฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน

ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ป.5 ๑. ค้นคว้า รวบรวมคำศัพท์ทเ่ี ก่ยี วข้อง การค้นควา้ การรวบรวม และการนำเสนอคำศพั ท์ท่เี กีย่ วขอ้ งกบั

กบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ นื่ และ กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น

นำเสนอด้วยการพูด / การเขยี น

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชมุ ชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

ชัน้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.5 ๑. ฟัง พดู และอา่ น/เขียนใน การใช้ภาษาในการฟงั พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ตา่ งๆ ที่
สถานการณต์ ่างๆ ท่เี กิดขน้ึ ใน เกิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี น
ห้องเรยี นและสถานศึกษา

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชมุ ชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเปน็ เครื่องมือพ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการ
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้กบั สงั คมโลก

ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.5 ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้ การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้นและการรวบรวมคำศพั ท์ท่ี

และรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ เกีย่ วขอ้ งใกลต้ ัว จากส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ

10 13

โครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศึกษา

โครงสร้างเวลาเรยี น

โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1-6

โรงเรยี นวัดบ่อ )นันทวิทยา) นครปากเกรด็ ๑ ได้กำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรยี น ระดับชัน้ ประถมศึกษา

ดังนี้

เวลาเรียน

กลมุ่ สาระการเรียนรู้กิจกรรม/ ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6

รายวชิ าพ้ืนฐาน

1. ภาษาไทย 200 200 200 160 160 160

2.คณิตศาสตร์ 200 200 200 160 160 160

3.วทิ ยาศาสตร์ 80 80 80 80 80 80

4.สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 80 80 80 80 80 80

5.ประวตั ศิ าสตร์ 40 40 40 40 40 40

6.สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 40 40 40 80 80 80

7.ศิลปะ 80 80 80 80 80 80

8.การงานอาชพี 40 40 40 80 80 80

9.ภาษาตา่ งประเทศ 80 80 80 80 80 80

รวมเวลาเรียน (พ้ืนฐาน) 840 840 840 840 840 840

รายวชิ าเพิม่ เติม

1.หนา้ ที่พลเมือง 40 40 40 40 40 40

2.ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร 120 120 120 - - -
รวมเวลาเรยี น (เพมิ่ เติม) 160 160 160 40 40 40

กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น 40 40 40 40 40 40
1 .กิจกรรมแนะแนว 30 30 30 30 30 30
2.กจิ กรรมลกู เสือ/เนตรนารี 40 40 40 40 40 40
3 .กิจกรรมชุมนมุ 10 10 10 10 10 10
4. กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะ
ประโยชน์ 120 120 120 120 120 120
1,120 1,120 1,120 1,000 1,000 1,000
รวมเวลาเรียน (กิจกรรม)
รวมเวลาเรียนทั้งหมด

โครงสรา้ งหลกั สูตรชน้ั ปี เป็นโครงสร้างท่แี สดงรายละเอยี ดเวลาเรียนของรายวิชาพน้ื ฐาน รายวชิ า/กิจกรรม
เพม่ิ เติม และกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี นในแต่ละช้ันปี

11 14

โครงสรา้ งหลักสตู ร ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5

รายวิชา /กิจกรรม รหัสวิชา ชม./ ัสปดาห์
รายวชิ าพื้นฐาน ีชม./ปี
1. ภาษาไทย
2. คณติ ศาสตร์ ท 15101 4 160
3. วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ค 15101 4 160
4. สังคมศกึ ษา ว 15101 2 80
5. ประวตั ิศาสตร์ ส 15101 2 80
6. สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ส 15101 1 40
7. ศลิ ปะ พ 15101 2 80
8. การงานอาชพี ศ 15101 2 80
9. ภาษาตา่ งประเทศ )ภาษาอังกฤษ) ง 15101 2 80
รายวชิ าเพิ่มเตมิ อ 15101 2 80
1. หนา้ ทพี่ ลเมอื ง
กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ส 15235 1 40
1. แนะแนว
1 40
2. ลกู เสอื /เนตรนารี 1 30
1 40
3. กิจกรรมชมุ นุม 1 10
4. กิจกรรมเพ่ือสังคมและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ 26 1,000

รวมเวลาเรยี นทัง้ สน้ิ

12 15

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ (วิชาภาษาอังกฤษ) ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 5

รหสั วิชา อ 15101 เวลา 80 ช่ัวโมง/ปี

ปฏบิ ัติตามคำสัง่ คำขอรอ้ ง และคำแนะนำงา่ ย ๆ ท่ีฟงั และอ่าน อา่ นออกเสียงประโยค ข้อความ

และบท กลอนสั้นๆถูกต้องตามหลกั การอ่าน วาดภาพ บอกสัญลักษณห์ รือเครือ่ งหมายตรงตามความหมาย

ของประโยคและ ขอ้ ความสนั้ ๆ ท่ฟี ังหรืออา่ น บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบท

สนทนา และนิทานงา่ ย ๆ หรอื เร่อื งสั้น ๆพดู เขยี นเพื่อขอและ/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล พูด /

ใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรื่องใกล้ตวั แสดงความรู้สึกของตนเองเกย่ี วกับเรื่องต่าง ๆ ใกล้

ตัวและกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมท้ังให้ เหตผุ ลสัน้ ๆ ประกอบ แสดงความต้องการขอความช่วยเหลือ ตอบรบั

และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ ง่าย ๆ ใช้คำส่ัง คำขอรอ้ ง คำขออนุญาต และให้คำแนะนำ

งา่ ย ๆ พูดเขียนให้ขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเองและเรือ่ ง/เขยี นพดู / ใกลต้ ัว พดู แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรอ่ื งต่าง ๆ

ใกลต้ ัวเขยี นภาพ แผนผงั และแผนภมู ิ แสดงขอ้ มูลต่าง ๆ ตามท่ีฟัง หรืออ่าน พูดถอ้ ยคำ นำ้ เสยี ง และกริยา

ท่าทางอย่างสภุ าพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ตอบ คำถามบอกความสำคญั ของ/

งานฉลองและชวี ิตความเปน็ อยูง่ ่าย ๆ ของเจา้ ของภ/วันสำคญั /เทศกาลาษา เข้ารว่ ม กจิ กรรมทางภาษาและ

วฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความเหมอื นความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองของ/ เจา้ ของภาษา

กับของไทย บอกความเหมอื นความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ ใช้เครื่องหมาย/ วรรค

ตอน และลำดบั คำ )order) ตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ และภาษาไทย คน้ ควา้ รวบรวม

คำศัพท์ท่ีเกีย่ วข้องกับกล่มุ สาระการเรยี นร้อู น่ื นำเสนอดว้ ยการพูดเขียน ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื ค้น/

และ รวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ ฟัง พูด อ่านและเขียนในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทีเ่ กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา

โดยใชก้ ระบวนการทกั ษะทางภาษา การฟงั พูด อ่าน เขยี น ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และการใช้ภาษาท่าทางรปู แบบ

พฤตกิ รรมการสอื่ สารของเจา้ ภาษา กระบวนการกลุ่มในการฝกึ ออกเสียง ฟงั พูด ถามตอบ และสนทนา/

โตต้ อบ เพือ่ ให้นักเรียนเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถสือ่ สารส่งิ ที่เรยี นรู้ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษา

และวัฒนธรรม รวมถึงการรวบรวมความรู้และแสวงหาความเพลิดเพลินจากภาษาองั กฤษ เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นมี

ความสขุ และเข้าใจในวฒั นธรรมและปฏิบัติตนไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ทัง้ น้ีเพื่อใหเ้ กดิ ภาวะการเปน็ ผู้นำและผตู้ ามท่ี

ดี มจี นิ ตนาการ ความคดิ สร้างสรรค์ มปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั ผู้อนื่ มีวาทศิลปแ์ ละมารยาทในการพดู กล้า แสดงออก

มที ศั นคติท่ดี ตี ่อการเรียนเพ่อื เปน็ พื้นฐานในการเรียนภาษาองั กฤษในระดับสูง

รหัสตวั ช้ีวัด

ต 1.1 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, ป 5/4

ต 1.2 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, ป 5/4, ป 5/5

ต 1.3 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3

ต 2.1 ป 5/1, ป 5/2

ต 2.2 ป 5/1, ป 5/2

ต 3.1 ป 5/1

ต 4.1 ป 5/1, ป 5/3

ต 4.2 ป 5/1

รวมทั้งหมด 20 ตัวชี้วดั

13 16

โครงสรา้ งรายวชิ า

กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ

รหัสวชิ า อ 15101 รายวชิ าภาษาองั กฤษ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5

เวลา 80 ช่วั โมง สัดสว่ นระหวา่ งเรยี น: ปลายปี = 80 :

20

หน่วยการ มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระสำคญั เวลา คะแนน ภาระงาน/ ชน้ิ งาน
ท่ี เรยี นรู้ (ชั่วโมง)

1 At the ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2 , 1. นกั เรียนสามารถกลา่ วคำ 10 10 การทอ่ ง การอา่ น
Weekend .ป5/3.ป ,5/4 วาดภาพ
ต 1.2 ป.5/1, ป.5/2, ทักทาย ตอบโตก้ บั คู่สนทนาได้ กล่าวรายงาน
2 Describing งานประดิษฐ์
People ป.5/4, ป.5/5 อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม การเขียนตอบ
ต 1..ป 35/1, ป.5/2 เก่ียวกับสงิ่ ทีต่ นเอง
ต 2.1 ป.5/1 2. นักเรียนสามารถใหข้ ้อมลู ได้ทำไปแล้วในรปู
ต 3.1 ป.5/1 past simple
ต 4.1 ป.5/1 เกี่ยวกบั ตนเอง และสิ่งต่าง ๆ
ต 4.2 ป.5/1 10 การทอ่ ง การอา่ น
รอบตวั ได้อย่างถกู ตอ้ งและ วาดภาพ
ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2 , กลา่ วรายงาน
.ป5/3.ป ,5/4 เหมาะสม การเขยี นบรรยาย
ต 1.2 ป.5/1, ป.5/2, งานประดิษฐ์
ป.5/4, ป.5/5 3. นักเรียนสามารถออกเสยี ง การเขียนตอบ
ต 1..ป 35/1, ป.5/2 เก่ียวกับการบรรยาย
ต 2.1 ป.5/1 คำศัพท์และประโยคได้อย่างถกู ต้อง ลกั ษณะบคุ คล โดย
ต 3.1 ป.5/1 ใช้ คุณศัพท์
ต 4.1 ป.5/1 1. นกั เรียนสามารถกลา่ วคำ 10
ต 4.2 ป.5/1
ทักทาย ตอบโต้กบั คสู่ นทนาได้

อย่างถูกต้องและเหมาะสม

2. นักเรียนสามารถให้ขอ้ มูล

เกี่ยวกับตนเอง และสิง่ ตา่ ง ๆ

รอบตวั ได้อย่างถูกต้องและ

เหมาะสม

3. นักเรียนสามารถออกเสยี ง

คำศพั ท์และประโยคไดอ้ ย่างถกู ต้อง

3 Comparing ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2 , 1. นกั เรยี นสามารถกลา่ วคำ 10 10 การท่อง

Animals .ป5/3.ป ,5/4 ทกั ทาย ตอบโตก้ ับคู่สนทนาได้ การอ่าน
วาดภาพ
ต 1.2 ป.5/1, ป.5/2, อย่างถูกต้องและเหมาะสม การเขียนบรรยาย

ป.5/4, ป.5/5 2. นักเรยี นสามารถให้ข้อมลู งานประดษิ ฐ์
การเขยี นตอบ
ต 1..ป 35/1, ป.5/2 เก่ยี วกับตนเอง และส่งิ ตา่ ง ๆ
โดยใชโ้ ครงสรา้ ง
ต 2.1 ป.5/1 รอบตัวได้อย่างถูกตอ้ งและ Comparative และ
Superlative
ต 3.1 ป.5/1 เหมาะสม

4ต 4.1 ป.5/1 3. นกั เรยี นสามารถออกเสียง

ต 4.2 ป.5/1 คำศพั ทแ์ ละประโยคไดอ้ ย่างถูกต้อง

14 17

ท่ี หน่วยการ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด สาระสำคัญ เวลา คะแนน ภาระงาน/ ชิ้นงาน
เรียนรู้
ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2 , (ชวั่ โมง)
.ป5/3.ป ,5/4
4 Rules ต 1.2 ป.5/1, ป.5/2, 1. นกั เรียนสามารถกลา่ วคำ 10 10 การทอ่ ง การอา่ น
ป.5/4, ป.5/5
ต 1..ป 35/1, ป.5/2 ทักทาย ตอบโตก้ ับคสู่ นทนาได้ วาดภาพ
ต 2.1 ป.5/1
ต 3.1 ป.5/1 อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม การเขียนบรรยาย
ต 4.1 ป.5/1
ต 4.2 ป.5/1 2. นกั เรยี นสามารถใหข้ ้อมูล งานประดิษฐ์

ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2 , เกี่ยวกบั ตนเอง และสิง่ ตา่ ง ๆ กลา่ วรายงาน
.ป5/3.ป ,5/4
ต 1.2 ป.5/1, ป.5/5 รอบตัวไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและ การเขียนตอบ
ต 1..ป 35/1
ต 2.1 ป.5/1 เหมาะสม โดยใชโ้ ครงสร้าง
ต 4.1 ป.5/1
3. นักเรียนสามารถออกเสียง have to + V.1

คำศพั ท์และประโยคไดอ้ ย่างถกู ต้อง V.be + allowed to

+ V.1

5 Feelings 1. นกั เรียนสามารถอ่านออกเสียง 10 10 การท่อง การอา่ น

คำ ประโยค ทำนอง ออกเสยี งหนกั วาดภาพ

เบา ตามจังหวะเพลงได้ถูกต้อง การเขยี นบรรยาย

2. นกั เรยี นสามารถโตต้ อบบท งานประดิษฐ์

สนทนาและคำถามสั้น ๆ เพือ่ แสดง กล่าวรายงาน

ความรู้สกึ ตนเองได้ถกู ตอ้ ง การเขียนตอบ

เหมาะสม โดยใช้โครงสรา้ ง

3. นักเรยี นสามารถเติมคำลงใน Past simple tense

ช่องว่างได้และเข้าใจความหมาย (ubject + V2 +

ของประโยค Object)

6 Countries ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2 , 1.นกั เรียนสามารถพูดโตต้ อบบท 10 10 การท่อง การอ่าน
and Food .ป5/3.ป ,5/4 สนทนารว่ มกบั ผ้อู น่ื ได้ถกู ตอ้ งและ ชือ่ ประเทศ
ต 1.2 ป.5/1, ป.5/5 เหมาะสม วาดภาพ ธงชาติ
การเขยี นชื่ออาหาร
ต 1..ป 35/1 2.นกั เรียนสามารถอ่านออกเสียง และชอื่ ประเทศ
ต 2.1 ป.5/1 คำ ประโยค ทำนอง ออกเสยี งหนกั งานประดษิ ฐ์
กลา่ วรายงาน
ต 4.1 ป.5/1 เบา ตามจังหวะเพลงไดถ้ ูกต้อง การเขยี นตอบ
3.นกั เรยี นสามารถวาดภาพอาหาร โดยใชโ้ ครงสร้าง
Past perfect
และเขียนอธิบายสถานทเี่ ป็น tense
ภาษาอังกฤษได้
4.นกั เรียนสามารถพูดโต้ตอบ (Have + S + ever +

ประโยคภาษาองั กฤษเก่ียวกับ v.3 + _________?)
ตนเองและประเทศตา่ ง ๆ ได้

ถูกต้อง

15 18

ท่ี หนว่ ยการ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระสำคญั เวลา คะแนน ภาระงาน/ ช้ินงาน
เรียนรู้
ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2 , (ชว่ั โมง)
.ป5/3.ป ,5/4
7 Being ต 1.2 ป.5/1, ป.5/2, 1. นกั เรยี นสามารถพดู โตต้ อบบท 10 10 การทอ่ ง การอา่ น
ป.5/4, ป.5/5
Healthy ต 1..ป 35/1, ป.5/2 สนทนาร่วมกับผูอ้ ่ืนไดถ้ กู ต้องและ ชอ่ื กจิ กรรมตา่ งๆใน
ต 2.1 ป.5/1
ต 4.1 ป.5/1 เหมาสม ชีวิตประจำวนั

ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2 , 2. นกั เรียนสามารถอา่ นออกเสยี ง วาดภาพจากประโยค
.ป5/3.ป ,5/4
ต 1.2 ป.5/1, ป.5/2, คำ ประโยค บทสนทนาได้ถูกตอ้ ง ท่ีได้ยนิ
ป.5/4, ป.5/5
ต 1..ป 35/1, ป.5/2 3. นกั เรียนสามารถแต่งประโยค การเขียนสือ่ ความ
ต 2.1 ป.5/1
ต 4.1 ป.5/1 Present Continuous ได้ถูกต้อง กล่าวรายงาน

การเขียนถาม-ตอบ

โดยใช้ should /

shouldn’t

8 My Future 1. นกั เรียนสามารถพดู โตต้ อบบท 10 10 การท่อง การอ่าน

สนทนารว่ มกับผู้อื่นไดถ้ ูกต้องและ อาชพี ความใฝฝ่ นั

เหมาสม วาดภาพจากประโยค

2.นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง ที่ไดย้ นิ

คำ ประโยค บทสนทนาได้อย่าง การเขยี นบรรยาย

ถกู ต้อง การเขยี นสอ่ื ความ

3.นกั เรยี นสามารถสื่อสาร แสดงบทบาทสมมุติ

ความหมาย คำ ประโยค ทำนอง กลา่ วรายงาน

ไดถ้ กู ต้องเหมาะสม การเขยี น/พูด

4.นกั เรียนสามารถอ่านออกเสียง ถาม-ตอบ

คำ ประโยค ทำนอง ออกเสยี งหนัก โดยใช้ Do/does

เบา ตามจงั หวะเพลงไดถ้ กู ต้อง

คะแนนรวม รวม 80 80
การทดสอบปลายปี 20
ภาระงาน/การปฏิบัติ -
100
รวมทั้งรายวิชา

16 19

ภาคผนวก

แบ่งออกเป็น 2 ตอน ดงั น้ี
ตอนท่ี1
1. การประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์และการเขยี น
2. การประเมินผลสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
3. การประเมนิ ผลคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ตอนท่ี2
1. แบบประเมนิ และเกณฑ์การประเมินทกั ษะต่าง ๆ ทางด้านภาษา
2. เกณฑก์ ารประเมินแบบ Rubrics ตามเป้าหมายการเรียนรู้

17 20

ตอนท่ี1

1. การประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละการเขียน
เกณฑก์ ารประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์และการเขยี น คะแนนเตม็ 20 คะแนน

ระดบั คุณภาพ ความหมาย ช่วงคะแนน
ดเี ยี่ยม 16-20
ดี มีผลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการ 13-15
ผา่ น อา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ทม่ี ีคุณภาพดี 10-12
เลิศอยเู่ สมอ
ไม่ผ่าน 0-9
มีผลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการ
อา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี น ทมี่ ีคณุ ภาพ
เป็นทย่ี อมรบั ได้

มผี ลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการ
อ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ที่มีคุณภาพ
เปน็ ทยี่ อมรบั ได้ แตย่ ังมขี อ้ บกพร่อง บาง
ประการ

ไม่มผี ลงานท่ีแสดงถงึ ความสามารถในการ
อา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น หรือถา้ มี
ผลงาน ผลงานน้ันยังมขี ้อบกพรอ่ งท่ี
ต้องการได้รบั การปรบั ปรุงแก้ไขหลาย
ประการ

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 คะแนน
พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัติสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ ่อยครัง้ ให้
1 คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิบางครงั้ ให้ 0 คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิน้อยครั้ง ให้

18 21

2. การประเมินผลสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น

แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
ชอ่ื -สกุล เดก็ ชาย/เด็กหญงิ ................................................................................................. เลขที่...................

คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น แลว้ ทำเคร่อื งหมาย ✓ ลงในช่องทตี่ รงกับระดบั คณุ ภาพ

ระดับคณุ ภาพ

สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ สรปุ ผลการ

(3) (2) (1) (0) ประเมนิ

1.ความสามารถ 1.1 มคี วามสามารถในการรับ-ส่งสาร

ในการส่ือสาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ  ดมี าก

ของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม  ดี

1.3 ใชว้ ิธกี ารสื่อสารท่ีเหมาะสม มปี ระสทิ ธภิ าพ  พอใช้

1.4 เจรจาต่อรอง เพ่อื ขจัดและลดปญั หาความขัดแยง้ ตา่ ง ๆ ได้  ปรับปรงุ

1.5 เลือกรบั และไม่รบั ข้อมลู ข่าวสารดว้ ยเหตุผลและถูกตอ้ ง

2.ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์  ดมี าก
ในการคิด 2.2 มที ักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์  ดี
2.3 สามารถคิดอย่างมวี ิจารณญาณ  พอใช้
2.4 มีความสามารถในการสร้างองคค์ วามรู้  ปรบั ปรุง
2.5 ตัดสินใจแกป้ ัญหาเกยี่ วกบั ตนเองได้อยา่ งเหมาะสม

3.ความสามารถ 3.1 สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทีเ่ ผชิญได้  ดีมาก

ในการแกป้ ัญหา 3.2 ใช้เหตุผลในการแกป้ ัญหา  ดี

3.3 เขา้ ใจความสัมพันธ์และการเปลยี่ นแปลงในสังคม  พอใช้
 ปรับปรุง
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วมรู้มาใช้ในการป้องกนั และแกไ้ ข

ปญั หา

3.5 สามารถตัดสินใจได้เหมาะสมตามวยั

4.ความสามารถ 4.1 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวยั  ดีมาก

ในการใช้ทักษะ 4.2 สามารถทำงานกลุ่มรว่ มกับผอู้ ื่นได้  ดี

ชีวิต 4.3 นำความร้ทู ีไ่ ด้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั  พอใช้
 ปรับปรุง
4.4 จัดการปญั หาและความขัดแยง้ ไดเ้ หมาะสม

4.5 หลีกเลีย่ งพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ท่สี ง่ ผลกระทบต่อตนเอง

5.ความสามารถ 5.1 เลือกและใช้เทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตามวยั  ดีมาก
ในการใช้ 5.2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี  ดี
เทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยไี ปใชพ้ ัฒนาตนเอง  พอใช้
5.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์  ปรบั ปรุง
5.5 มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี

สรปุ ผลการประเมินสมรรถนะท้ัง 5 ด้าน อยู่ในระดับคุณภาพ

 ดมี าก  ดี  พอใช้  ปรบั ปรุง

ข้อเสนอแนะ..................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................................ผู้ประเมนิ

19 22

การประเมินผลสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
เกณฑก์ ารประเมินผลสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน ประเมนิ โดยใช้แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
โดยกำหนดเกณฑใ์ นการประเมนิ ดังนี้

ระดบั คณุ ภาพ ความหมาย

(3) ผู้เรียนปฏบิ ัตติ นตามสมรรถนะจนเปน็ นิสัย และนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันเพอื่ ประโยชน์
ดเี ย่ียม สุขของตนเองและสังคม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมินระดับดเี ยี่ยม จำนวน 3-5

สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดบั ดี

ผู้เรียนมสี มรรถนะในการปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์เพ่ือใหเ้ ป็นการยอมรับของสงั คม โดย

พิจารณาจาก

1. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยย่ี ม จำนวน 1-2 สมรรถนะ และไม่มี สมรรถนะใดไดผ้ ล

(2) การประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดบั ดีหรือ

ดี 2. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดเี ย่ยี ม จำนวน 2 สมรรถนะ และไมม่ สี มรรถนะ ใดได้ผลการ

ประเมนิ ต่ำกว่าระดับผา่ น หรือ

3. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีจำนวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใด ไดผ้ ลการ

ประเมนิ ต่ำกว่าระดับผา่ น

ผเู้ รยี นรับรแู้ ละปฏิบตั ิตามกฎเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขทีส่ ถานศึกษากำหนด โดย พิจารณาจาก

(1) 1. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ผ่าน จำนวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะ ใดได้ผล
ผา่ น การประเมินตำ่ กว่าระดับผ่าน หรอื
2. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดจี ำนวน 2 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด ได้ผลการ

ประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดบั ผ่าน

(0) ผเู้ รยี นรบั รแู้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ไม่ครบตามเกณฑแ์ ละเงื่อนไขทีก่ ำหนด โดยพิจารณา จากผล

ไมผ่ า่ น การประเมนิ ระดบั ต้องปรับปรงุ ตั้งแต่1 สมรรถนะ

เกณฑ์การให้คะแนน

พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน

พฤติกรรมท่ีปฏิบัติบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน

พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั บิ างครั้ง ให้ 1 คะแนน

พฤติกรรมท่ีปฏิบตั นิ ้อยครัง้ ให้ 0 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สนิ ระดบั คุณภาพตามสมรรถนะรายขอ้ ระดบั คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ดเี ยี่ยม )3)
13-15
9-12 ดี )2)
5-8 ผา่ น )1)
ตำ่ กวา่ 5 ไม่ผ่าน )0)

20 23
3. การประเมินผลคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

ชือ่ ช้ัน..............เลขท.่ี ...................................................นามสกลุ .......................................................
................... คำชีแ้ จงให้ : ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น และขีด  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับคะแนน

ระดบั คณุ ภาพ

คณุ ลักษณะ/ดา้ น รายการประเมิน ดเี ยย่ี ม ดี ผ่าน ไม่ผา่ น

(3) (2) (1) (0)

1. รักชาติ ศาสน์ - ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้

กษตั รยิ ์ - เข้าร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามัคคปี รองดอง และเป็น ประโยชนต์ ่อ

โรงเรยี น

- เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏิบัตติ ามหลัก ศาสนา

- เข้ารว่ มกิจกรรมทเี่ ก่ยี วกับสถาบันพระมหากษตั รยิ ต์ ามที่ โรงเรียนจัดขนึ้

2.ซือ่ สตั ย์สุจรติ ใหข้ ้อมูลทีถ่ ูกต้อง และเป็นจรงิ - - ปฏิบัติในส่ิงท่ถี ูกตอ้ ง

3.มวี นิ ัย ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑร์ ะเบียบ ขอ้ บังคบั ของ ครอบครวั มีความ

รบั ผดิ ชอบ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวนั

4. ใฝ่เรยี นรู้ - รจู้ ักใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์และนำไปปฏิบัตไิ ด้

- รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม

- เช่ือฟังคำสัง่ สอนของบิดา - มารดา โดยไม่โต้แย้ง

- ต้ังใจเรยี น

5. อยู่อย่าง - ใช้ทรพั ย์สนิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั

พอเพยี ง - ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรู้คุณคา่

- ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน

6. มุ่งมนั่ ในการ - มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย

ทำงาน - มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออปุ สรรคเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็

7. รกั ความ - มจี ติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย

เปน็ ไทย - เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย

8. มจี ติ สาธารณะ - รู้จกั ช่วยพอ่ แมผ่ ู้ปกครอง และครูทำงาน

- รจู้ กั การดูแลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั ิและสงิ่ แวดล้อมของห้องเรียนและ

โรงเรียน

ระดบั คุณภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ในหลักสูตรรายชั้น

ขอ้ เสนอแนะ..................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................................ผูป้ ระเมิน

21 24

การประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมินผลคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ประเมินโดยใช้แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดย

กำหนดเกณฑ์ในการประเมนิ ดังนี้

ระดบั คุณภาพ ความหมาย

ผเู้ รยี นปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป็นนสิ ยั และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อ

(3) ประโยชน์สขุ ของตนเองและสังคม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมินทง้ั 8

ดีเยย่ี ม คณุ ลกั ษณะ คอื ไดร้ ะดบั 3 จำนวน 5-8 คุณลักษณะ และไม่มคี ณุ ลกั ษณะใด

ได้ผล การประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับ 2

ผู้เรียนมีคณุ ลักษณะในการปฏิบตั ิตามเกณฑ์ เพอื่ ใหเ้ ป็นท่ยี อมรบั ของสังคม โดย

พจิ ารณาจาก

1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ 3 จำนวน 1-4 คุณลักษณะ และไมม่ คี ุณลกั ษณะใด

(2) ไดผ้ ลการประเมนิ ต่ำกวา่ ระดบั 2 หรอื

ดี 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั 3 จำนวน 4 คุณลักษณะ และไม่มีคณุ ลักษณะใด

ไดผ้ ลการประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดบั 1 หรอื

3. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ 2 จำนวน 5-8 คุณลักษณะ และไมม่ คี ุณลกั ษณะใด

ไดผ้ ลการประเมินต่ำกวา่ ระดบั 1 (1) ผา่ น

ผู้เรียนรับร้แู ละปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ และเงื่อนไขทสี่ ถานศกึ ษากำหนด โดย

พจิ ารณาจาก

(1) 1. ได้ผลการประเมินระดบั 1 จำนวน 5-8 คุณลักษณะ และไม่มีคณุ ลักษณะใด

ผา่ น ได้ผลการประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดบั 1 หรือ

2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ 2 จำนวน 4 คุณลักษณะ และไมม่ ีคุณลกั ษณะใด

ไดผ้ ลการประเมินต่ำกว่าระดับ 1

(0) ผ้เู รยี นรบั ร้แู ละปฏิบัตไิ ดไ้ ม่ครบตามกฎเกณฑ์และเง่อื นไขทส่ี ถานศึกษากำหนด

ไม่ผ่าน โดย พิจารณาจากผลการประเมินระดับ 0 ตัง้ แต่ 1 คุณลกั ษณะขึน้ ไป

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน

พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน

พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน

พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ินอ้ ยคร้งั ให้ 0 คะแนน

เกณฑก์ ารตัดสินระดับคุณภาพตามคุณลกั ษณะรายข้อ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน ดเี ยยี่ ม )3)
13-15
9-12 ดี )2)
5-8 ผา่ น )1)
ต่ำกว่า 5 ไม่ผา่ น )0)

22 25
ตอนท่ี 2 : ตัวอย่างเกณฑก์ ารประเมนิ ทักษะตา่ ง ๆ

คำชีแ้ จง แบบสังเกตการตอบคำถาม
ทำเคร่อื งหมาย  ลงในชอ่ งระดบั คะแนนพฤติกรรมทน่ี กั เรยี นปฏบิ ตั ดิ ังน้ี
ระดบั 3 หมายถึง แสดงพฤติกรรมใหเ้ ห็นมาก
ระดับ 2 หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมใหเ้ ห็นปานกลาง

ระดับ 1 หมายถงึ แสดงพฤติกรรมใหเ้ หน็ น้อย

พฤตกิ รรม/ การ

ระดบั คะแนน สนใจและต้งั ใจ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามอย่าง ประ
ลำดับ ฟังคำถาม ตรงประเด็น สม่ำเสมอ รวม เมนิ
คะ ผล หมายเหตุ
ที่ 321
แนน
ไม่
ชอ่ื สกลุ - 321 3 2 1 ผ่าน ผา่ น

เกณฑก์ ารประเมนิ 4-9 = ผ่าน
คะแนนต้งั แต่
8-9 = ดี
คะแนน 6-7 = ปานกลาง
4-5 = พอใช้
ตำ่ กว่า 4 = ไม่ผ่าน

23 26

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

ชน้ั คน ................... จำนวน ....................
สังเกตพฤตกิ รรมวันท่ี ...................... .ศ.พ ........................... เดอื น ..............

พฤติกรรมการทำงานกลมุ่

ช่วยเหลือ ้ดานกำลังความ ิคด
การแนะนำ แนวทางโดยการพูด
ใน ่สิง ่ีทเป็นประโยชน์
การพูดใน ่ิสง ี่ทเป็นประโยชน์พยายาม
ช่วยเห ืลอสมาชิกในก ุ่ลม
ไม่นิ่ง ูดดาย
เอาใจใ ่ส ักบงาน ร่วม ักนแ ้กไขปัญหา
พยายามทำงานใ ้หสำเร็จ
เลขที่ ช่ือสกุล- รวม

5 5 5 5 20

เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสังเกตพฤติกรรม มีดังน้ี

คะแนน 18 – 20 ดีมาก

คะแนน 14 – 17 ดี

คะแนน 10 – 13 พอใช้

คะแนน 0 – 9 ควรปรบั ปรุง

มเี กณฑใ์ หค้ ะแนนจากการสังเกตพฤติกรรม คือ

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 5 คะแนน เมอ่ื นักเรยี นแสดงพฤตกิ รรมตามทีต่ ้องการเป็นประจำสม่ำเสมอ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 คะแนน เมอื่ นกั เรียนแสดงพฤตกิ รรมตามทีต่ อ้ งการเป็นประจำ

เกณฑก์ ารให้คะแนน 3 คะแนน เมอ่ื นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมตามที่ต้องการค่อนข้างจะสม่ำเสมอ
เกณฑ์การให้คะแนน 2 คะแนน เม่อื นักเรียนแสดงพฤตกิ รรมตามท่ีต้องการค่อนข้างน้อย
เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 คะแนน เมอ่ื นักเรยี นแสดงพฤติกรรมตามทต่ี ้องการน้อย

24 27

แบบประเมินผลงานนักเรยี น

ชั้น คน ................... จำนวน ....................

สงั เกตพฤตกิ รรมวันท่ี ...................... .ศ.พ ........................... เดือน ..............

รายการประเมนิ สรุปผล

ผลงาน ความ ทำงาน ความคดิ คะแนน ระดบั ผา่ น ไมผ่ ่าน
สรา้ งสรรค์ รวม คุณภาพ
เลขที่ ช่ือนามสกุล- ถกู ต้องตาม สะอาด ตาม
)3( )12(
สาระ สวยงาม ขัน้ ตอน

)3( )3( )3(

เกณฑ์การให้คะแนนการประเมินผลงาน

รายการประเมิน 3 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1

2

1ผลงานถกู ตอ้ งตามสาระ . ผลงานถูกตอ้ งตามหลกั วชิ า ผลงานถกู ต้องตามหลกั วชิ าเปน็ สว่ น ผลงานถูกต้องตามหลักวชิ าเป็น
ใหญ่ สว่ นนอ้ ย

2ความสะอาดสวยงาม . มีความสะอาด สวยงาม มีความสะอาด สวยงาม เรยี บร้อยเป็น มคี วามสะอาด สวยงาม เรียบรอ้ ย
เรยี บรอ้ ย
สว่ นใหญ่ เป็นส่วนนอ้ ย

3ทำงานตามข้ันตอน . การทำงานมีครบทุกขั้นตอน การทำงานไม่ครบทกุ ขนั้ ตอนและผดิ พลาด การทำงานไมม่ ีขัน้ ตอน
บ้าง มคี วามผดิ พลาดตอ้ งแกไ้ ข

4ความคิดสรา้ งสรรค์ . ผลงานแสดงออกถึงความคิด ผลงานแสดงออกถงึ ความคดิ ริเร่มิ ผลงานไมแ่ สดงออกถึงความคดิ
รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์แปลกใหม่ สร้างสรรคเ์ กิดจากการเลียนแบบ ริเริม่ สรา้ งสรรค์

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

0 – 5 คะแนน หมายถึง 0 )ปรบั ปรุง)

6 – 8 คะแนน หมายถึง 1 )พอใช้)

9 – 10 คะแนน หมายถึง 2 )ด)ี

11 – 12 คะแนน หมายถึง 3 )ดีมาก)

หมายเหตุ ระดบั คณุ ภาพ0 ถอื ว่า ไมผ่ ่าน

25 28

แบบบันทกึ การประเมินการนำเสนอ

ชัน้ คน ................... จำนวน ....................

สงั เกตพฤตกิ รรมวนั ที่ ...................... .ศ.พ ........................... เดอื น ..............

เลขท่ี ชอ่ื สกุล - ประเด็นคะแนน/ การใช้ภาษา เนื้อหา รวมคะแนน

8 12 20

เกณฑ์การให้คะแนนการนำเสนอมีดงั น้ี ดมี าก
ดี
คะแนน 18 – 20 พอใช้
คะแนน14 – 17
คะแนน13 – 10 ควรปรบั ปรงุ
คะแนน0 – 9

ระดับคะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน น้ำหนัก/ คะแนน
ประเด็น
การประเมนิ 4 3 2 1 ความสำคัญ รวม
1. การใชภ้ าษา
ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสยี งคำ/
2. เนื้อหา
คำศัพทแ์ ละ คำศพั ท์และ คำศพั ท์และ ประโยคผดิ

ประโยคไดถ้ ูกต้อง ประโยคได้ถูกตอ้ ง ประโยคได้ หลักการ

ตามหลกั ตามหลัก การ ถกู ตอ้ งเป็น ออกเสยี งทำ

การออกเสียง ออกเสยี ง สว่ นใหญ่ ให้ 2 8

ออกเสยี งเนน้ มเี สียงเน้นหนักใน ขาดการออก สื่อสารไมไ่ ด้ 3 12
5 20
หนักในคำ/ คำประโยค/ เสยี ง

ประโยคอย่าง เปน็ สว่ นใหญ่ เน้นหนกั

สมบูรณ์

มี ร า ย ล ะ เอี ย ด รายละเอยี ดของ มี มีรายละเอียด

เน้ื อ ห า ต ร ง กั บ เน้อื หามากแต่ยัง รายละเอียด ของเนอ้ื หา

ลกั ษณะ ไม่ครอบคลมุ ของเนื้อหา น้อยมาก

ทีก่ ำหนดมากทสี่ ุด ท้งั หมด น้อย

รวม

26 29
แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล หมายเหตุ

พฤตกิ รรม ความสนใจ การแสดง การตอบ การยอมรับ ทำงาน
ท่ี ความคดิ เหน็ คำถาม ฟงั คนอน่ื
ตามท่ไี ด้รบั
มอบหมาย

ชอ่ื -สกลุ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1

เกณฑ์การวัดผล ใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพของแต่ละพฤตกิ รรมดังน้ี
ดีมาก = 4 สนใจฟัง ไมห่ ลบั ไม่พูดคุยในชน้ั มคี ำถามที่ดี ตอบคำถามถกู ตอ้ ง ทำงานสง่ ครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เขา้ ชน้ั เรียน แตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก

27 30
เกณฑ์การประเมินแบบ Rubrics ตามเป้าหมายการเรียนรู้

ระดบั คะแนน 4 3 2 1

ประเดน็ ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรับปรุง

การประเมิน

1.ปฏบิ ัตติ ามคำส่ัง เมอ่ื ได้ฟงั และอ่านคำสัง่ เมื่อไดฟ้ ังและอา่ นคำสั่ง เมือ่ ได้ฟังและอ่านคำส่งั เมอื่ ไดฟ้ งั และอา่ นคำส่งั คำ

คำขอร้อง และ คำขอร้อง และคำแนะนำ คำขอร้อง และคำแนะนำ คำขอรอ้ ง และคำแนะนำ ขอรอ้ ง และคำแนะนำงา่ ย

คำแนะนำงา่ ยๆ ทฟี่ ัง ง่าย ๆ สามารถปฏบิ ตั ิ ง่าย ๆ สามารถปฏิบัติ ง่าย ๆ สามารถปฏบิ ัติ ๆ สามารถปฏิบัตติ ามได้

และอา่ น ตามไดถ้ กู ต้องทั้งหมด ตามได้ถกู ต้องเปน็ สว่ น ตามได้ถูกต้องเป็น ถกู ตอ้ งได้เปน็ สว่ นนอ้ ย

อย่างคล่องแคลว่ ใหญ่ดว้ ยความ บางครง้ั แต่ค่อนข้างชา้ ต้องชว่ ยแนะนำเพิม่ เตมิ

คลอ่ งแคลว่ พอควร

2. อ่านออกเสียง อ่านออกเสียงประโยค อ่านออกเสยี งประโยค อา่ นออกเสยี งประโยค อา่ นออกเสยี งประโยค

ประโยค ขอ้ ความ ขอ้ ความ และบทกลอน ข้อความ และบทกลอน ข้อความ และบทกลอน ขอ้ ความ และบทกลอน

และบทกลอนสัน้ ๆ สัน้ ๆ ได้ถกู ต้องตาม สั้นๆ ได้ถกู ตอ้ งตาม สน้ั ๆ ไดถ้ กู ต้องตาม ส้นั ๆ ได้ถกู ต้องตาม

ถูกต้องตามหลักการ หลักการอา่ น ออกเสยี ง หลกั การอา่ นเปน็ สว่ น หลกั การอา่ นเป็น หลกั การอ่านเป็นส่วนน้อย

อา่ น พยญั ชนะต้นคำและ ใหญ่ ออกเสียง บางส่วน ออกเสียง ออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำ

พยัญชนะท้ายคำได้ พยัญชนะตน้ คำและ พยญั ชนะต้นคำและ และพยัญชนะทา้ ยคำได้

ถูกตอ้ ง มีการเนน้ หนกั - พยัญชนะท้ายคำได้ พยัญชนะทา้ ยคำได้ ถกู ตอ้ ง มีการเน้นหนัก-เบา

เบาในคำและกลุ่มคำ ถกู ตอ้ ง มกี ารเนน้ หนัก- ถกู ต้อง มีการเนน้ หนัก- ในคำและกลุ่มคำ ออกเสียง

ออกเสียงสงู -ต่ำใน เบาในคำและกลุ่มคำ เบาในคำและกลมุ่ คำ สงู -ต่ำในประโยค ออกเสยี ง

ประโยค ออกเสียง ออกเสียงสูง-ตำ่ ใน ออกเสียงสูง-ตำ่ ใน เชอ่ื มโยงในขอ้ ความ และ

เชื่อมโยงในขอ้ ความ ประโยค ออกเสยี ง ประโยค ออกเสียง ออกเสียงบทกลอนตาม

และออกเสยี งบทกลอน เช่อื มโยงในข้อความ เชอ่ื มโยงในขอ้ ความ จงั หวะไดถ้ ูกตอ้ งเป็นส่วน

ตามจงั หวะได้ถูกต้อง และออกเสยี งบทกลอน และออกเสียงบทกลอน นอ้ ย

ทง้ั หมด ตามจงั หวะไดถ้ กู ต้องเป็น ตามจังหวะไดถ้ ูกต้องเป็น

สว่ นใหญ่ บางส่วน

3. ระบุวาดภาพ / เมือ่ ไดฟ้ ังหรืออา่ น เมื่อไดฟ้ งั หรอื อา่ น เมื่อได้ฟงั หรืออ่าน เมือ่ ได้ฟงั หรอื อ่านประโยค

สัญลักษณ์ หรือ ประโยคและขอ้ ความสนั้ ประโยคและข้อความส้ัน ประโยคและข้อความสน้ั และขอ้ ความสน้ั ๆ

เครื่องหมายตรงตาม ๆ สามารถระบุวาดภาพ / ๆ สามารถระบุวาดภาพ / ๆ สามารถระบุวาดภาพ / สามารถระบวุ าดภาพ /

ความหมายของ สัญลักษณ์ หรอื สัญลักษณ์ หรือ สญั ลกั ษณ์ หรอื สัญลักษณ์ หรือ

ประโยคและขอ้ ความ เครอื่ งหมาย ไดถ้ ูกต้อง เคร่อื งหมาย ไดถ้ กู ต้อง เครอ่ื งหมาย ได้ถูกต้อง เครอ่ื งหมาย ได้ถูกต้องตรง

ส้ันๆ ท่ีฟังหรอื อา่ น ตรงตามความหมายทกุ ตรงตามความ2ห8มายเปน็ ตรงตามความหมายบ้าง ตามความหมายเป็นส่วน
ครงั้ ส่วนใหญ่ เป็นบางส่วน น้อย

4. บอกใจความ เมือ่ ไดฟ้ งั และอา่ นบท เมือ่ ได้ฟังและอ่านบท เมือ่ ไดฟ้ งั และอา่ นบท เมอ่ื ได้ฟังและอา่ นบท

สำคัญและตอบ สนทนา และนทิ านง่ายๆ สนทนา และนิทานงา่ ยๆ สนทนา และนิทานงา่ ยๆ สนทนา และนทิ านงา่ ยๆ

คำถามจากการฟัง หรอื เรื่องส้นั ๆ สามารถ หรอื เรอื่ งสนั้ ๆ สามารถ หรอื เร่อื งสั้นๆ สามารถ หรอื เรือ่ งส้ันๆ สามารถ

28 31

และอา่ นบทสนทนา บอกใจความสำคญั ได้ บอกใจความสำคญั ได้ บอกใจความสำคัญได้ บอกใจความสำคัญได้

และนิทานงา่ ยๆ หรอื ถูกต้องทกุ ครงั้ เข้าใจ ถูกต้องเป็นสว่ นใหญ่ ถกู ตอ้ งเปน็ บางครง้ั เข้าใจคำถามและสามารถ

เรอื่ งสน้ั ๆ คำถามและสามารถใช้ เข้าใจคำถามและ เข้าใจคำถามและ ใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษาและ

โครงสรา้ งทางภาษาและ สามารถใชโ้ ครงสร้างทาง สามารถใช้โครงสร้างทาง คำศัพท์ตอบคำถามได้

คำศัพท์ตอบคำถามได้ ภาษาและคำศัพท์ตอบ ภาษาและคำศัพทต์ อบ ถูกตอ้ งเป็นส่วนนอ้ ย

ถกู ตอ้ งทง้ั หมด คำถามได้ถูกต้องเป็น คำถามไดถ้ กู ต้องเปน็

สว่ นใหญ่ บางสว่ น

5. พูดเขียนโตต้ อบ/ เขา้ ใจคำพดู เขียนของคู่/ เข้าใจคำพดู เขียนของคู่/ ความเข้าใจในคำพดู / ความเข้าใจในคำพดู เขยี น/

ในการสอ่ื สารระหว่าง สนทนาทั้งหมด ใช้ สนทนาเป็นส่วนใหญ่ ใช้ เขียนของค่สู นทนา การ ของค่สู นทนา การใช้

บุคคล โครงสรา้ งทางภาษาและ โครงสรา้ งทางภาษาและ ใช้โครงสร้างทางภาษา โครงสรา้ งทางภาษาและ

เขียนโต้ตอบ/คำศัพทพ์ ดู เขยี นโต้ตอบ/คำศพั ทพ์ ูด เขยี น/และคำศพั ทพ์ ดู เขยี นโต้ตอบ/คำศพั ทพ์ ูด

ได้สอดคลอ้ งกบั ประเด็น ได้สอดคลอ้ งกบั ประเด็น โต้ตอบอยา่ งสอดคล้อง อยา่ งสอดคล้องกบั ประเด็น

การสนทนาคลอ่ งแคล่ว การสนทนา คลอ่ งแคล่ว กบั ประเดน็ การสนทนา การสนทนาทำได้เป็นส่วน

มีการออกเสียงและ พอควร มกี ารออกเสยี ง ทำได้เปน็ บางส่วน แตไ่ ม่ น้อย และเช่ืองช้า การออก

เน้นหนกั ในคำและ และเน้นหนกั ในคำและ คลอ่ งแคล่ว การออก เสยี งและเนน้ หนักในคำ

ประโยคอยา่ งถูกต้อง ใช้ ประโยคอยา่ งถูกตอ้ ง ใช้ เสียงและเนน้ หนักในคำ และประโยค การใช้ภาษา

ภาษาท่าทางไดเ้ หมาะสม ภาษาทา่ ทางได้เหมาะสม และประโยค การใช้ ท่าทางยงั ไม่เหมาะสมกับ

กับกาลเทศะตลอดเวลา กับกาลเทศะเปน็ ส่วน ภาษาทา่ ทางมคี วาม กาลเทศะ

ใหญ่ เหมาะสมกับกาลเทศะ

เปน็ บางครัง้

6. ใช้คำสั่ง คำขอรอ้ ง ใช้โครงสร้างทางภาษา ใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษา ใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษา ใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษา

คำขออนญุ าต และให้ คำศัพท์ การออกเสียง คำศัพท์ การออกเสยี ง คำศพั ท์ การออกเสยี ง คำศัพท์ การออกเสียง การ

คำแนะนำงา่ ย ๆ การเนน้ หนักในคำและ การเนน้ หนักในคำและ การเนน้ หนักในคำและ เน้นหนักในคำและประโยค

ประโยคในคำสั่ง คำ ประโยคในคำสง่ั คำ ประโยคในคำสง่ั คำ ในคำสง่ั คำขอร้อง คำขอ

ขอร้อง คำขออนุญาต ขอรอ้ ง คำขออนุญาต ขอร้องคำขออนุญาต อนุญาต และใหค้ ำแนะนำ

และให้คำแนะนำง่าย ๆ และใหค้ ำแนะนำงา่ ย ๆ และใหค้ ำแนะนำงา่ ย ๆ ง่าย ๆ ได้ถูกตอ้ ง เหมาะสม

ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ได้อย่างถกู ต้อง ไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสมเปน็ เป็นส่วนน้อย

เหมาะสมทง้ั หมด เหมาะสมเป็นสว่ นใหญ่ บางสว่ น

7. พดู เขยี นแสดง/ ใชโ้ ครงสร้างทางภาษา ใช้โครงสรา้ งทางภาษา ใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษา ใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษาและ

ความตอ้ งการ ขอ และคำศัพทใ์ นการพดู / และคำศพั ท์ในการพดู / และคำศพั ท์ในการพดู / คำศพั ท์ในการพูดเขียน/

ความชว่ ยเหลอื ตอบ เขียนแสดงความตอ้ งการ เขียนแสดงความตอ้ งการ เขียนแสดงความตอ้ งการ แสดงความตอ้ งการของ

รบั และปฏิเสธการให้ ขอความชว่ ยเหลอื ตอบ ขอความช่วยเหลอื ตอบ ของตนเอง ขอความ ตนเอง ขอความช่วยเหลือ

ความชว่ ยเหลือใน รับและปฏิเสธ ใน รบั และปฏิเสธ ใน ชว่ ยเหลือ ตอบรบั และ ตอบรบั และปฏิเสธ ใน

สถานการณ์งา่ ย ๆ สถานการณ์งา่ ย ๆ ได้ สถานการณ์งา่ ย ๆ ได้ ปฏเิ สธ ในสถานการณ์ สถานการณ์ง่าย ๆ ได้เป็น

ถกู ต้อง ชัดเจน ถูกตอ้ งชดั เจน ง่าย ๆ ได้บ้าง แต่ยงั ไม่ ส่วนน้อย ไม่ชัดเจน ไม่

คลอ่ งแคล่ว และ คล่องแคล่ว และ ชดั เจน คล่องแคลว่ หรอื คลอ่ งแคลว่ และมักไม่

29 32

เหมาะสมกับกาลเทศะ เหมาะสมกบั กาลเทศะ บางคร้ังไม่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์

ทุกครั้ง เปน็ สว่ นใหญ่ สอดคล้องกับ

สถานการณ์

8. พดู เขียนเพ่ือขอ/ ใชโ้ ครงสร้างทางภาษา ใชโ้ ครงสร้างทางภาษา ใชโ้ ครงสร้างทางภาษา ไมส่ ามารถใชโ้ ครงสร้างทาง

และให้ข้อมลู เกี่ยวกับ และคำศพั ทใ์ นการพูด/ และคำศัพท์ในการพูด/ และคำศัพท์ในการพูด/ ภาษาและคำศัพท์ในการ

ตนเอง เพือ่ น เขยี นเพือ่ ขอและให้ เขียนเพอื่ ขอและให้ เขียนเพอื่ ขอและให้ พูดเขียนเพ่อื ขอและให้/

ครอบครัว และเรื่อง ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเอง ข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง

ใกลต้ ัว เพ่ือน ครอบครัว และ เพ่ือน ครอบครวั และ เพอ่ื น ครอบครวั และ เพอื่ น ครอบครวั และเร่ือง

เร่อื งใกล้ตัวไดถ้ กู ตอ้ ง เรื่องใกล้ตวั ได้ถูกต้อง เรอื่ งใกล้ตัวได้ถกู ต้อง ใกลต้ ัวไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม

เหมาะสม และ เหมาะสม และ ชัดเจน เป็นบางสว่ น แต่ ชัดเจน เป็นสว่ นน้อย ใช้

คล่องแคล่วทง้ั หมด คล่องแคล่วเปน็ ส่วนใหญ่ ไมค่ ลอ่ งแคลว่ เวลาคิดนาน ต้องแนะนำ

เพ่มิ เตมิ

9. พดู เขียนแสดง/ ใช้โครงสร้างทางภาษา ใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษา ใชโ้ ครงสร้างทางภาษา ใช้โครงสร้างทางภาษาและ

ความรสู้ ึกของตนเอง และคำศพั ท์แสดง และคำศพั ทแ์ สดง และคำศพั ท์แสดง คำศพั ท์แสดงความรู้สกึ ของ

เกี่ยวกบั เรอ่ื งต่างๆ ความรูส้ กึ ของตนเอง ความรสู้ ึกของตนเอง ความรู้สึกของตนเอง ตนเองเกีย่ วกับเรือ่ งตา่ ง ๆ

ใกล้ตวั และกจิ กรรม เกยี่ วกบั เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ เกีย่ วกบั เรอื่ งตา่ ง ๆ ใกล้ เกย่ี วกับเร่ืองต่าง ๆ ใกล้ ใกล้ตวั และกิจกรรมตา่ ง ๆ

ตา่ งๆ พร้อมทั้งให้ ตัว และกิจกรรมต่าง ๆ ตัว และกจิ กรรมต่าง ๆ ตวั และกิจกรรมตา่ ง ๆ ไดน้ อ้ ย ไมค่ ล่องแคล่ว การ

เหตุผลส้ันๆ ประกอบ ไดถ้ ูกตอ้ ง คล่องแคลว่ ไดถ้ กู ตอ้ ง คล่องแคลว่ ได้ถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว ใหเ้ หตุผลยงั ไม่ชัดเจน การ

ท้งั หมด ใหเ้ หตุผลได้ เป็นส่วนใหญ่ ใหเ้ หตุ เปน็ บางครงั้ ให้เหตุผลได้ ออกเสียง การสบตาผฟู้ ัง

ชดั เจน ออกเสียงได้ ผลไดช้ ดั เจนพอควร บ้าง ออกเสยี งได้ถูกต้อง และใช้ภาษาทา่ ทางมีความ

ถูกต้องตามหลกั การออก ออกเสียงไดถ้ กู ตอ้ งตาม ตามหลกั การออกเสียง มี ถกู ตอ้ ง เหมาะสมเป็นส่วน

เสยี ง มีการสบตาผฟู้ ัง หลกั การออกเสยี ง มีการ การสบตาผฟู้ ังและใช้ นอ้ ย

และใชภ้ าษาท่าทางได้ สบตาผ้ฟู ังและใชภ้ าษา ภาษาทา่ ทางได้อย่าง

อย่างเหมาะสมทุกครั้ง ทา่ ทางได้อย่างเหมาะสม เหมาะสมเปน็ บางคร้งั

เป็นส่วนใหญ่

10. พูดเขยี นให/้ ใช้โครงสร้างทางภาษา ใช้โครงสรา้ งทางภาษา ใช้โครงสรา้ งทางภาษา ใช้โครงสร้างทางภาษาและ

ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง และคำศพั ท์ในการพดู / และคำศัพท์ในการพูด/ และคำศัพท์ในการพูด/ คำศพั ท์ในการพดู เขยี นให้/

และเรือ่ งใกลต้ ัว เขียนใหข้ ้อมูลเก่ยี วกับ เขียนใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั เขยี นใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั ข้อมลู เกย่ี วกับตนเองและ

ตนเองและเรอ่ื งตา่ ง ๆ ตนเองและเรือ่ งตา่ ง ๆ ตนเองและเรอื่ งต่าง ๆ เร่อื งต่าง ๆ ใกล้ตัวได้

ใกลต้ วั ได้ถูกต้อง ใกล้ตัว ได้ถกู ตอ้ ง ใกลต้ วั ได้ถูกต้อง ถูกตอ้ ง ชัดเจน เป็นสว่ น

ชดั เจน ทง้ั หมด อยา่ ง ชัดเจนเป็นสว่ นใหญ่ ชดั เจน เปน็ บางสว่ น แต่ น้อย และไมค่ ล่องแคลว่ ใช้

คลอ่ งแคลว่ ใช้ คลอ่ งแคลว่ พอควร ใช้ ยงั ไม่คล่องแคลว่ ใช้ เครอ่ื งหมายวรรคตอน

เครื่องหมายวรรคตอน เคร่ืองหมายวรรคตอน เครื่องหมายวรรคตอน ถูกตอ้ งเป็นสว่ นน้อย

ถกู ตอ้ งท้งั หมด ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ถกู ตอ้ งเปน็ บางส่วน

11. เขยี นภาพ เข้าใจความหมายของคำ เขา้ ใจความหมายของคำ เข้าใจความหมายของคำ เขา้ ใจความหมายของคำ

แผนผัง และแผนภมู ิ กลุ่มคำ และประโยคที่ กลุม่ คำ และประโยคท่ี กลุม่ คำ และประโยคที่ กลุ่มคำ และประโยคที่

30 33

แสดงข้อมลู ต่างๆ แสดงขอ้ มูลในเร่ืองตา่ ง แสดงข้อมลู ในเรื่องต่าง แสดงขอ้ มลู ในเร่ืองต่าง แสดงขอ้ มูลในเรื่องต่าง ๆ
ตามท่ฟี งั หรืออ่าน ๆ ที่ไดฟ้ งั หรืออ่าน ๆ ที่ไดฟ้ ังหรอื อา่ นเปน็ ๆ ทไี่ ดฟ้ งั หรืออา่ นเป็น ทีไ่ ด้ฟงั หรืออา่ นเป็นส่วน
ทัง้ หมด เขยี นภาพ สว่ นใหญ่ เขยี นภาพ บางส่วน เขียนภาพ น้อย เขยี นภาพ แผนผงั
12. พดู แสดงความ แผนผงั แผนภมู ิ หรือ แผนผัง แผนภมู ิ หรอื แผนผัง แผนภูมิ หรือ แผนภมู ิ หรือตาราง แสดง
คิดเหน็ เกี่ยวกบั เรอื่ ง ตาราง แสดงความหมาย ตาราง แสดงความหมาย ตาราง แสดงความหมาย ความหมายของข้อมูลได้
ต่าง ๆ ใกล้ตัว ของข้อมูลไดถ้ กู ต้อง ของข้อมลู ไดถ้ กู ตอ้ ง ของขอ้ มูลไดถ้ ูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง ชดั เจนเป็นสว่ น
ชัดเจนท้งั หมด ชัดเจนเป็นส่วนใหญ่ ชัดเจนเป็นบางสว่ น น้อย
13. ใชถ้ อ้ ยคำ ใช้โครงสรา้ งทางภาษาและ
นำ้ เสยี ง และกริ ยิ า ใช้โครงสรา้ งทางภาษา ใช้โครงสร้างทางภาษา ใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษา คำศพั ท์ในการพดู แสดง
ท่าทางอย่างสภุ าพ และคำศพั ทใ์ นการพูด และคำศพั ทใ์ นการพูด และคำศพั ทใ์ นการพูด ความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เรือ่ ง
ตามมารยาทสังคม แสดงความคิดเห็น แสดงความคิดเหน็ แสดงความคิดเห็น ตา่ ง ๆ ใกล้ตัว ไดถ้ ูกต้อง
และวัฒนธรรมของ เกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกล้ เก่ียวกับเรอื่ งตา่ ง ๆ ใกล้ เกย่ี วกับเรือ่ งต่าง ๆ ใกล้ เหมาะสม ชัดเจน เปน็ สว่ น
เจา้ ของภาษา ตวั ได้ถกู ต้อง เหมาะสม ตัว ได้ถูกตอ้ ง เหมาะสม ตัว ไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม นอ้ ย การออกเสยี งให้
14. ตอบคำถาม/ ชัดเจน ท้ังหมด ออก ชดั เจน เป็นส่วนใหญ่ ชดั เจน เป็นบางสว่ น ถูกต้องตามหลักการออก
บอกความสำคัญของ เสยี งไดถ้ กู ตอ้ งตาม ออกเสยี งได้ถกู ต้องตาม ออกเสยี งได้ถูกตอ้ งตาม เสยี ง การสบตาผูฟ้ งั และ
/วันสำคญั /เทศกาล หลักการออกเสียง มีการ หลกั การออกเสยี ง มกี าร หลกั การออกเสยี ง มกี าร การใชภ้ าษาท่าทางยงั ไม่
งานฉลอง และชีวิต สบตาผู้ฟงั และใชภ้ าษา สบตาผ้ฟู ังและใชภ้ าษา สบตาผ้ฟู งั และใชภ้ าษา เหมาะสม
ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ ทา่ ทางไดอ้ ย่างเหมาะสม ทา่ ทางได้อย่างเหมาะสม ทา่ ทางได้อยา่ งเหมาะสม
ของเจา้ ของภาษา ทุกครั้ง เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางสว่ น ใชถ้ อ้ ยคำ น้ำเสยี ง และ
กริ ิยาท่าทางอยา่ งสภุ าพ
ใช้ถอ้ ยคำ นำ้ เสียง และ ใชถ้ ้อยคำ นำ้ เสยี ง และ ใชถ้ อ้ ยคำ นำ้ เสียง และ ตามมารยาทสงั คมและ
กิริยาท่าทางอยา่ งสภุ าพ กริ ิยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ กริ ยิ าทา่ ทางอย่างสุภาพ วฒั นธรรมของเจา้ ของ
ตามมารยาทสังคมและ ตามมารยาทสงั คมและ ตามมารยาทสังคมและ ภาษาประกอบการสนทนา
วฒั นธรรมของเจา้ ของ วฒั นธรรมของเจา้ ของ วัฒนธรรมของเจ้าของ ไดเ้ ปน็ สว่ นน้อย
ภาษาประกอบการ ภาษาประกอบการ ภาษาประกอบการ เขา้ ใจคำถามสว่ นใหญ่ และ
สนทนาตลอดเวลา สนทนาไดเ้ ปน็ สว่ นใหญ่ สนทนาได้เป็นบางครั้ง ตอบคำถามบอก/
/ความสำคญั ของเทศกาล
เข้าใจคำถามทั้งหมด เข้าใจคำถามส่วนใหญ่ เขา้ ใจคำถามเป็น งานฉลอง และ/วนั สำคญั
และตอบคำถามบอก/ และตอบคำถามบอก/ บางส่วน และตอบ ชีวติ ความเปน็ อย่งู ่ายๆ
ความสำคญั ของ ความสำคัญของ คำถามบอกความสำคัญ/ ของเจา้ ของภาษา โดยให้
งาน/วนั สำคัญ/เทศกาล งาน/วนั สำคญั /เทศกาล /วันสำคัญ/ของเทศกาล ข้อมลู และใชโ้ ครงสรา้ งทาง
ฉลอง และชวี ิตความ ฉลอง และชวี ิตความ งานฉลอง และชวี ิตความ ภาษาไดถ้ กู ต้องเป็นส่วน
เป็นอย่งู ่ายๆ ของ เป็นอยู่งา่ ยๆ ของ เป็นอยู่งา่ ยๆ ของ น้อย การออกเสยี งตาม
เจา้ ของภาษา โดยให้ เจา้ ของภาษา โดยให้ เจา้ ของภาษา โดยให้ หลักการออกเสียง การ
ขอ้ มูลทถี่ กู ตอ้ ง ใช้ ข้อมลู และใชโ้ ครงสร้าง ข้อมูลและใชโ้ ครงสรา้ ง เนน้ หนักในคำ การใชภ้ าษา
โครงสร้างทางภาษาได้ ทางภาษาได้ถูกต้องเป็น ทางภาษาไดถ้ ูกต้องเป็น ท่าทางถกู ตอ้ ง เหมาะสม
ถูกต้อง คล่องแคลว่ ทกุ สว่ นใหญ่ การออกเสยี ง บางสว่ น การออกเสียง
ครง้ั ออกเสยี งถกู ตอ้ ง ตามหลักการออกเสยี ง ตามหลกั การออกเสียง
ตามหลักการออกเสยี ง มี การเน้นหนกั ในคำ การ การเน้นหนกั ในคำ การ

31 34

การเน้นหนักในคำอยา่ ง ใช้ภาษาท่าทางถกู ต้อง ใช้ภาษาท่าทางถูกตอ้ ง เปน็ ส่วนนอ้ ย

ถูกตอ้ ง ใช้ภาษาท่าทาง เหมาะสมเป็นสว่ นใหญ่ เหมาะสมเป็นบางครง้ั

ถูกตอ้ ง เหมาะสมทุกครง้ั

15. เข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรมทาง เขา้ ร่วมกิจกรรมทาง เขา้ ร่วมกจิ กรรมทาง เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา

ทางภาษาและ ภาษาและวัฒนธรรมดว้ ย ภาษาและวฒั นธรรมดว้ ย ภาษาและวฒั นธรรมด้วย และวฒั นธรรมตามคำสงั่

วฒั นธรรมตามความ ความกระตือรือรน้ สนใจ ความสนใจ ปฏบิ ัติ ความสนใจพอควร ไม่มีความสนใจมากนัก

สนใจ เปน็ อยา่ งมาก ปฏบิ ัติ กิจกรรมได้ถูกต้อง ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมไดถ้ กู ต้อง การปฏบิ ตั ิกิจกรรมยังไม่

กจิ กรรมไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสมเปน็ สว่ นใหญ่ เหมาะสมเปน็ บางคร้งั ถกู ตอ้ ง เหมาะสมเทา่ ท่ีควร

เหมาะสมทกุ คร้ัง

16. บอกความ บอกความเหมอื นความ/ บอกความเหมอื นความ/ บอกความเหมอื นความ/ บอกความเหมอื นความ/

เหมือนความ/ แตกตา่ งระหวา่ งการออก แตกต่างระหว่างการออก แตกต่างระหวา่ งการออก แตกต่างระหวา่ งการออก

แตกต่างระหวา่ งการ เสียงประโยคชนิดต่างๆ เสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ เสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ เสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ

ออกเสยี งประโยค การใช้เครือ่ งหมายวรรค การใช้เครือ่ งหมายวรรค การใช้เครอื่ งหมายวรรค การใชเ้ ครื่องหมายวรรค

ชนดิ ต่างๆ การใช้ ตอน และการลำดับคำ ตอน และการลำดับคำ ตอน และการลำดับคำ ตอน และการลำดับคำตาม

เครื่องหมายวรรค ตามโครงสรา้ งประโยค ตามโครงสรา้ งประโยค ตามโครงสรา้ งประโยค โครงสร้างประโยคของ

ตอน และการลำดับ ของภาษาต่างประเทศ ของภาษาตา่ งประเทศ ของภาษาต่างประเทศ ภาษาตา่ งประเทศและ

คำ(order) ตาม และภาษาไทยได้ถูกต้อง และภาษาไทยไดถ้ ูกตอ้ ง และภาษาไทยไดถ้ ูกต้อง ภาษาไทยได้ถูกต้องเป็น

โครงสรา้ งประโยค ทัง้ หมด เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นบางสว่ น ส่วนนอ้ ย

ของ

ภาษาตา่ งประเทศ

และภาษาไทย

17. บอกความ บอกความเหมอื นความ/ บอกความเหมือนความ/ บอกความเหมือนความ/ บอกความเหมือนความ/

เหมอื นความ/ แตกต่างระหว่างเทศกาล แตกต่างระหว่างเทศกาล แตกต่างระหวา่ งเทศกาล แตกต่างระหวา่ งเทศกาล

แตกตา่ งระหวา่ ง และงานฉลองของ และงานฉลองของ และงานฉลองของ และงานฉลองของเจา้ ของ

เทศกาลและงาน เจ้าของภาษากบั ของไทย เจ้าของภาษากับของไทย เจา้ ของภาษากบั ของไทย ภาษากับของไทยได้ถูกตอ้ ง

ฉลองของเจา้ ของ ได้ถูกต้องทงั้ หมด ไดถ้ กู ตอ้ งเปน็ สว่ นใหญ่ ได้ถูกต้องเปน็ บางส่วน เป็นส่วนน้อย

ภาษากบั ของไทย

18. คน้ คว้า รวบรวม สนใจและตงั้ ใจคน้ คว้า สนใจและพยายาม คน้ ควา้ รวบรวมคำศพั ท์ คน้ ควา้ รวบรวมคำศัพทท์ ่ี

คำศัพท์ท่ีเกีย่ วข้อง รวบรวมคำศพั ท์ท่ี คน้ ควา้ รวบรวมคำศพั ท์ ท่ีเก่ยี วข้องกับกลุ่มสาระ เก่ยี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการ

กับกลมุ่ สาระการ เกีย่ วขอ้ งกบั กลุ่มสาระ ที่เกยี่ วขอ้ งกับกลุ่มสาระ การเรียนรอู้ ่นื บ้างตาม เรยี นร้อู ่ืนบา้ งเล็กน้อย

เรียนรอู้ น่ื และ การเรียนรอู้ ่ืนจากแหล่ง การเรียนรอู้ ่ืนจากแหล่ง โอกาสนำเสนอดว้ ยการ นำเสนอดว้ ยการพูดการ/

นำเสนอดว้ ยการพดู / ความรทู้ ห่ี ลากหลายอยู่ ความร้ตู ่างๆ บอ่ ยครัง้ พูด การเขียนได้ถกู ต้อง/ เขยี นถูกต้องเปน็ สว่ นนอ้ ย

การเขียน เป็นประจำ นำเสนอดว้ ย นำเสนอด้วยการพูดการ/ ชัดเจนเป็นบางคร้งั

การพูดการเขยี นได/้ เขียนไดถ้ กู ต้อง ชดั เจน

ถกู ต้อง ชดั เจนทงั้ หมด เปน็ สว่ นใหญ่

32 35

19. ฟัง พูดและ ใช้ภาษาในการฟัง พดู ใชภ้ าษาในการฟัง พดู ใช้ภาษาในการฟัง พูด ใช้ภาษาในการฟงั พูดและ
อ่านเขยี นใน/ และอ่านเขยี นใน/ อ่านเขยี นในสถานการณ์/
สถานการณ์ต่างๆ ท่ี สถานการณ์ต่างๆ ที่ และอา่ นเขยี นใน/ และอ่านเขยี นใน/ ตา่ งๆ ท่ีเกิดขนึ้ ในหอ้ งเรยี น
เกิดข้ึนในหอ้ งเรยี น เกิดข้นึ ในห้องเรยี นและ และสถานศึกษาได้ถกู ต้อง
และสถานศึกษา สถานศึกษาได้ถูกต้อง สถานการณต์ ่างๆ ท่ี สถานการณ์ต่างๆ ท่ี ตามหลกั การทางภาษาเป็น
ตามหลักการทางภาษา ส่วนนอ้ ย
20. ใช้ ทกุ ครง้ั เกิดขน้ึ ในหอ้ งเรียนและ เกดิ ขนึ้ ในห้องเรยี นและ
ภาษาต่างประเทศใน ใชภ้ าษาต่างประเทศในการ
การสบื ค้นและ ใชภ้ าษาต่างประเทศใน สถานศึกษาได้ถกู ต้อง สถานศึกษาไดถ้ ูกตอ้ ง สืบค้นและรวบรวมขอ้ มูล
รวบรวมข้อมลู ตา่ ง ๆ การสืบค้นและรวบรวม ตา่ ง ๆ จากสอ่ื และแหลง่
ขอ้ มูลตา่ ง ๆ จากส่อื และ ตามหลกั การทางภาษา ตามหลักการทางภาษา การเรยี นรู้ไดบ้ ้างเลก็ นอ้ ย
แหล่งการเรียนรู้ที่ ปฏบิ ตั ิเมอ่ื ถูกสัง่ ใหท้ ำ
หลากหลายไดไ้ ด้อยา่ ง เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางส่วน
คล่องแคลว่ ปฏบิ ตั ิดว้ ย
ความสนใจของตนเองอยู่ ใชภ้ าษาต่างประเทศใน ใช้ภาษาตา่ งประเทศใน
เปน็ ประจำ
การสืบค้นและรวบรวม การสบื คน้ และรวบรวม

ขอ้ มลู ต่าง ๆ จากส่อื และ ข้อมลู ตา่ ง ๆ จากส่ือและ

แหลง่ การเรยี นรู้ต่าง ๆ แหล่งการเรียนรู้ใน

ได้อยา่ งคล่องแคลว่ โรงเรียน ได้ดพี อใช้

พอควร ปฏิบัติด้วยความ ปฏิบัติด้วยความสนใจ

สนใจของตนเองบอ่ ยครง้ั ของตนเองเปน็ บางครั้ง

ตัวอยา่ งแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ า้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้
แบบประเมนิ การพดู / เขยี นโต้ตอบในการสอื่ สารระหว่างบคุ คล )ต 1.2 ป.5/1)

เลขท่ี ช่ือ-สกลุ 4321
1 เด็กหญงิ ก.
2 เดก็ หญิง ข.
3 เดก็ หญงิ ค.
4 เด็กหญงิ ง.
5 เดก็ หญิง จ.

หมายเหตุ
ประเมนิ ผลตามเป้าหมายการเรยี นรู้ของแตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้ ตามสภาพจริงจากการรว่ มกิจกรรม

ในหอ้ งเรยี น และการทำแบบฝึกหัด โดยพิจารณาเกณฑ์การประเมนิ ตามเปา้ หมายการเรียนรูป้ ระกอบ

33 36

เอกสารอ้างอิง
1. ตัวชว้ี ัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
)ภาษาองั กฤษ) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 , กลุ่มพัฒนา
หลักสตู รและมาตรฐานการเรยี นรู้ สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการ
การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 15 สิงหาคม 2559 (
http://www.esbuy.net/site/download-file.php?doc_id=5213 )
2. เอกสารหกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ )ภาษาองั กฤษ) กลุ่มพฒั นากระบวนการ
เรียนรู้ สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา, สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน
)http://www.bwc.ac.th/vichakarn/doc/vi8/english.doc)
3. แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาอังกฤษ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 SMART ENGLISH 5
สถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ )พว.), สำนกั พิมพ์ บริษทั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ )พว.) จำกดั 2563

34 37

ภาคผนวก

38

39

40

41

42

43

44

45

1

2


Click to View FlipBook Version