The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by natthakorn.xxo, 2021-06-03 09:34:08

สรุปโครงการภาษาจีน

ปีการศึกษา 2563

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓


คำนำ
โครงการพฒั นาทกั ษะการเรียนรู้ภาษาจีน มงุ่ ใหผ้ ูเ้ รียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพในการเรียนรู้ ให้
รอบด้านเพือ่ ความเป็นมนุษย์ท่สี มบรู ณ์ ทงั้ รา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ และสงั คม โครงการพฒั นาทักษะการ
เรยี นรู้ภาษาจนี ประกอบไปด้วย 6 กิจกรรม คอื กจิ กรรมคำศัพท์ภาษาจีนในชวี ิตประจำวนั กจิ กรรมพัฒนาครู
สอนภาษาจีน กิจกรรมการส่ือสารภาษาจนี ในชีวิตประจำวัน กจิ กรรมภาษาจีน กจิ กรรมวันตรุษจนี กจิ กรรม
เปิดบ้านวิชาการ กิจกรรม งบดำเนินการ โดยจัดใหส้ อดคลอ้ งกับความต้องการของผู้เรียนและความถนันของผู้
ทม่ี คี วามสามารถในการสือ่ สารภาษาจีนในชวี ิตประจำวัน
โรงเรียนอนบุ าลตาก ตระหนักถึงการพฒั นาทกั ษะการเรียนรูภ้ าจีน จงึ ไดม้ อบให้ขา้ พเจ้าจัดทำ
โครงการพฒั นาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี และเปน็ กจิ กรรมทม่ี ปี ระโยชนแ์ ละมคี วามสำคัญตอ่ นักเรยี นใน
ปจั จบุ ัน โรงเรียนอนุบาลตาก ประจำปีการศกึ ษา 2563 ตามแผนปฏิบัติการของโรงเรียนเพ่ือใหส้ อดคล้องกบั
หลกั สตู รสถานศกึ ษาต่อไป

นายจักรกฤษ์ สืบสาตร์
หวั หนา้ โครงการพัฒนาทกั ษะการเรียนรู้ภาษาจนี

โรงเรยี นอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓



สารบญั

หนา้

บทท่ี 1 บทนำ 1
บทท่ี 2 เอกสารทเี่ กยี่ วข้อง 5
บทท่ี 3 วิธดี ำเนินโครงการ 19
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงการ 21
บทท่ี 5 สรุป อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ 22
ภาคผนวก

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 1

บทที่ ๑
บทนำ

๑. ความเป็นมาและความสำคญั ของโครงการ
การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้

ความสามารถพัฒนาทักษะชวี ติ ให้พร้อมท่ีจะทำประโยชน์แก่สังคม ดังนัน้ การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ภาษาจีน
จำเป็นต้องสนับสนุนให้ครูสอนได้พัฒนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยี การจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม การทำ
วิจัยในชั้น รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนได้แสดงศักยภาพ ความสามารถด้านภาษาจีนอย่าง
หลากหลายพร้อมทั้งได้รับการนิเทศ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานต่างๆ ของครูผู้สอนอย่างต่อเนื่องและ
ตลอดปกี ารศึกษา อนั จะกอ่ ให้เกดิ คุณภาพประสิทธภิ าพ และประโยชนต์ อ่ นกั เรยี นและโรงเรียนอยา่ งสงู สุด

จากการวิเคราะห์นักเรียนที่เรียนภาษาจีนและการแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน นักเรียนอ่าน
ภาษาจีนไม่ออก และไม่สามารถจำพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ภาษาจีนได้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนา
นักเรียนให้มีทักษะการจำ การอ่าน จึงต้องมีการพัฒนาการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียน และ
การเข้าแข่งขันศิลปหัตถกรรมนกั เรยี นตอ่ ไป

2. วตั ถุประสงค์
1. เพอื่ พัฒนาความรคู้ วามสามารถด้านการเรียนการสอนภาษาจนี
2. เพอื่ จัดหาวัสดุ อปุ กรณท์ จี่ ำเป็นสำหรบั นักเรยี นทีเ่ รียนภาษาจนี ในระดับปฐมวยั และประถมศกึ ษา
3. เพ่อื สง่ เสริมให้นกั เรียนมคี วามรู้ ความสามารถในการแข่งขันศิลปหตั ถกรรมนักเรยี นในระดบั ชาติ

3. เป้าหมาย
1. เชิงประมาณ
1. นกั เรยี นในโครงการ รอ้ ยละ 80 มีความรคู้ วามสามารถด้านการเรียนการสอนภาษาจีน
2. จัดหาวสั ดุ อุปกรณท์ จ่ี ำเป็นสำหรับนกั เรยี นและส่งเสรมิ ให้นักเรียนเข้าแข่งขันใน

ระดบั ชาติ
2. เชิงคณุ ภาพ
1. นักเรียนโรงเรยี นอนบุ าลตาก ทีเ่ รียนภาษาจีน ใช้ภาษาจีนในการสื่อสารได้
2. นกั เรยี นโรงเรยี นอนุบาลตาก ทีเ่ รยี นภาษาจีนมีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อ

การส่อื สารและเขา้ สู่เวทีการแขง่ ขนั ในระดบั ต่าง ๆ ได้

4. วธิ ดี ำเนนิ การ/ขัน้ ตอนดำเนนิ งาน

วิธีดำเนินการ/ขัน้ ตอนดำเนนิ งาน ระยะเวลา งบประมาณ ผรู้ ับผิดชอบ

1. ข้ันเตรียมการ (PLAN) 18 พค.63 นายจักรกฤษ์
1.1 ประชมุ วางแผนการดำเนนิ การ 1 ก.ค.63 - และคณะ
1.2 แตง่ ต้ังคณะกรรมการดำเนินงาน 27 ม.ิ ย.63
1.3 จัดทำหลกั สูตร

2. ข้นั ดำเนินงาน ( DO)

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

2

กิจกรรมที่ 1 คำศัพท์ภาษาจีนในชีวิตประจำวัน 1 ก.ค. 63- 10,000 นายจกั รกฤษ์
1.1 ได้ให้นกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4-6 เม.ย. 64 10,000 และคณะ
ไดน้ ำเสนอคำศัพท์ภาษาจนี ในชวี ติ ประจำวนั หนา้ เสาธง ทกุ เดือน 100,000
กิจกรรมท่ี 2 พัฒนาครสู อนภาษาจีน นางเสาวรสและ
2.1 จัดทำแผนการเรยี นรู้ ตลอดปี 80,000 คณะ
2.2 จดั ทำนวตั กรรมนำเสนอBest ภาคเรียนละคร้งั
2.3 จัดกิจกรรม PLC ประชุมการดำเนินงาน ภาคเรยี นละครง้ั 100,000 น.ส.จนั ทรจ์ ริ า
กจิ กรรมท่ี 3 การสื่อสารภาษาจนี ใน 230,000 และคณะ
ชีวิตประจำวนั ปลี ะครง้ั
3.1 ใช้ภาษาจีนการส่ือสารในห้องเรยี นและการ ปลี ะคร้ัง 530,000 น.ส.กนกวรรณ
เรียน โดยใช้เกมสห์ รอื เพลงในการเรียน และคณะ
3.2 จดั กิจกรรมแขง่ ขนั ในระดับชัน้ ระดบั โรงเรยี น ภาคเรยี นละครงั้
ประจำสปั ดาห์/ประจำเดอื น นายจักรกฤษ์
กจิ กรรมที่ 4 ภาษาจีน/วันตรุษจีน ตลอดปี และคณะ
4.1 นำนักเรยี นระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5
เข้าร่วมกิจกรรมภาษาจนี ทุกๆ 6 เดอื น นายจักรกฤษ์
4.2 นำนักเรียนระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 และคณะ
เขา้ รว่ มกจิ กรรมวนั ตรษุ จีน ม.ี ค. 64
4.3 ศกึ ษานอกสถานที่ ปีละครัง้ นางสาวจตรุ พร
กจิ กรรมที่ 5 เปดิ บา้ นวชิ าการ และ
5.1 การแสดงผลงานนักเรียนและครูภาคเรียนละ นางเสาวรส
คร้ัง นายจักรกฤษ์
กจิ กรรมที่ 6 งบดำเนนิ การ และคณะ
6.1 จัดซอ้ื แบบเรยี น วสั ดุ อปุ กรณ์ ในการจดั การ
เรยี นการสอน
3. ขัน้ ตรวจสอบและประเมินผล ( check )
- กำกบั ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินการ

4. ข้นั สรุป รายงานผล และปรับปรงุ (ACTION)
- นำผลการประเมนิ ท่ีไดม้ าสรุปและรายงานผล
รวมเงนิ

5. ระยะเวลาดำเนนิ การ
ตลอดปกี ารศึกษา 2563

6. งบประมาณที่ใช้
งบประมาณตามโครงการพฒั นาทกั ษะการเรียนรู้ภาษาจีน จำนวน เงนิ 530,000.- บาท ถัวจา่ ยทกุ

รายการ

โรงเรยี นอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

3

งบประมาณ งบประมาณท่ใี ช้จำแนก

กจิ กรรมและขน้ั ตอนการดำเนินงาน ตามหมวดรายจา่ ย

ตอบแทน คา่ ใช้ คา่ วสั ดุ คงเหลอื
วทิ ยากร สอย

กิจกรรมที่ 1 คำศัพทภ์ าษาจีนใน 10,000 - - 10,000 0.-

ชวี ิตประจำวนั

เรม่ิ 1 ก.ค. 63-เม.ย. 64

กจิ กรรมที่ 2 พฒั นาครสู อนภาษาจนี 10,000 - - - 10,000

ตลอดปี

กจิ กรรมท่ี 3 การสื่อสารภาษาจีนใน 100,000 - - 50,149 49,851

ชีวิตประจำวนั

ภาคเรยี นละครง้ั

กิจกรรมที่ 4 ภาษาจนี /วันตรุษจีน 80,000 - 7,575 9,284 63,141

ปลี ะคร้ัง

กจิ กรรมที่ 5 เปิดบ้านวิชาการ 100,000 - - - 100,000

ภาคเรียนละครงั้

กจิ กรรมที่ 6 งบดำเนินการ 230,000 - - 230,000 0

ตลอดปี

รวมงบประมาณ 530,000 - 7,575 289,433 222,992

7. หน่วยงาน/ผ้เู ก่ียวข้อง
ตนั สงั กัด องคก์ รภาครัฐ เอกชน วดั ชมุ ชน และผปู้ กครอง

8. ระดบั ความสำเร็จ

ตวั บง่ ชค้ี วามสำเรจ็ วธิ กี ารประเมนิ เครอื่ งมอื หลกั ฐาน

1. เพื่อพฒั นาความรคู้ วามสามารถด้านการเรียนการ - แบบสงั เกต - แบบสังเกต - แบบสังเกต
สอนภาษาจนี - การตรวจสอบผล - แฟ้มสะสม - แบบบันทกึ
- แบบประเมนิ ผล งาน ผล
- ผลการเรียน การเรียน

2. เพ่อื จดั หาวัสดุ อปุ กรณท์ จี่ ำเป็นสำหรบั นกั เรียนที่ - ประเมนิ ความพงึ - แบบ - แบบประเมิน
เรยี นภาษาจนี ในระดับปฐมวยั และประถมศึกษา พอใจ ประเมิน
- เกียรตบิ ัตร
3. เพ่อื ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนมีความรู้ ความสามารถใน - การทดสอบ - - รูปภาพ
การแขง่ ขันศิลปหัตถกรรมนักเรียนในระดบั ชาติ - การเข้ารว่ มการ แบบทดสอบ - ผลการแข่ง
แข่งขนั กจิ กรรมทาง ขนั
ภาษาจนี

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 4

9. ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั
1. โรงเรียนอนบุ าลตาก มีความรู้ ความสามารถ ในการใช้ภาษาจนี ในการส่ือสารไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
2. โรงเรียนอนุบาลตาก ท่ีเรยี นภาษาจีนมศี ักยภาพทางด้านการใช้ภาษาจีนในการส่ือสาร ไดเ้ ปน็

ตวั แทนไปแข่งขันในระดบั ต่าง ๆ ได้

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 5

บทท่ี ๒
เอกสารทเ่ี กี่ยวข้อง
โครงการพัฒนาทกั ษะการเรียนรภู้ าษาจีน โดยกลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ โรงเรียนอนบุ าล
ตาก ในปกี ารศึกษา 2563 ซึง่ การจัดกจิ กรรมในครั้งนท้ี างกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ไดย้ ึด
นกั เรยี นเปน็ ศนู ย์กลางโดยให้นกั เรยี นเข้าร่วมในการจดั กิจกรรมมากท่ีสดุ คณะผู้ดำเนนิ งานไดร้ วบรวมเอกสาร
ข้อมูล และเนื้อหาทเ่ี กยี่ วข้องในการดำเนนิ งานตามโครงการดงั นี้
๑. โครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรู้ภาษาจนี
๒. เนือ้ หา และข้อมูลเบ้ืองต้นเพอื่ ใช้ประกอบในการจัดกิจกรรม
โครงการพฒั นาทกั ษะการเรียนรู้ภาษาจีน
๑. หลกั การและเหตุผล
การศกึ ษาเป็นเคร่อื งมอื สำคัญอยา่ งหน่งึ ในการพัฒนาประเทศ เพ่ือใหเ้ ด็กและเยาวชนมคี วามรู้
ความสามารถพฒั นาทักษะชวี ิตใหพ้ ร้อมทจี่ ะทำประโยชน์แก่สังคม ดงั น้ันการพัฒนาทกั ษะการเรียนรู้ภาษาจนี
จำเป็นตอ้ งสนบั สนนุ ให้ครสู อนไดพ้ ัฒนาสื่อนวตั กรรม เทคโนโลยี การจดั บรรยากาศ สภาพแวดลอ้ ม การทำ
วิจัยในช้นั รวมถงึ การสง่ เสริมสนบั สนุนให้ผูเ้ รียนได้แสดงศักยภาพ ความสามารถดา้ นภาษาจนี อย่าง
หลากหลายพรอ้ มท้งั ไดร้ บั การนิเทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการดำเนินงานตา่ งๆ ของครูผู้สอนอยา่ งต่อเน่ืองและ
ตลอดปกี ารศึกษา อนั จะก่อใหเ้ กิดคณุ ภาพประสิทธิภาพ และประโยชนต์ ่อนักเรยี นและโรงเรียนอยา่ งสงู สุด
จากการวเิ คราะหน์ กั เรยี นท่ีเรียนภาษาจนี และการแขง่ ขนั ศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น นักเรยี นอา่ น
ภาษาจีนไม่ออก และไมส่ ามารถจำพยญั ชนะ สระ และวรรณยุกตภ์ าษาจีนได้ เพื่อเปน็ การสง่ เสรมิ และพฒั นา
นักเรียนใหม้ ที ักษะการจำ การอา่ น จึงต้องมกี ารพฒั นาการเรียนการสอนให้สอดคล้องกบั เน้ือหาท่ีเรยี น และ
การเขา้ แข่งขนั ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี นตอ่ ไป
ดังนน้ั กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ (ภาษาจนี ) โรงเรยี นอนุบาลตาก จึงไดจ้ ัดใหม้ ีโครงการพัฒนา
ทกั ษะการเรียนรภู้ าษาจีน ข้ึน
๒.วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่ือพฒั นาความรคู้ วามสามารถด้านการเรียนการสอนภาษาจนี
2. เพอื่ จดั หาวสั ดุ อุปกรณ์ทจี่ ำเป็นสำหรบั นักเรยี นที่เรยี นภาษาจีนในระดับปฐมวัยและประถมศึกษา
3. เพ่อื ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ ความสามารถในการแข่งขนั ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี นในระดับชาติ

๓. เป้าหมาย
1. เชิงประมาณ
1. นกั เรียนในโครงการ ร้อยละ 80 มคี วามรูค้ วามสามารถด้านการเรียนการสอนภาษาจีน
2. จัดหาวสั ดุ อปุ กรณ์ที่จำเป็นสำหรับนักเรยี นและส่งเสริมให้นกั เรยี นเขา้ แขง่ ขันใน

ระดบั ชาติ
2. เชิงคุณภาพ
1. นกั เรยี นโรงเรยี นอนบุ าลตาก ท่ีเรยี นภาษาจนี ใช้ภาษาจีนในการสอ่ื สารได้
2. นักเรยี นโรงเรียนอนบุ าลตาก ที่เรยี นภาษาจีนมีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อ

การสอื่ สารและเข้าสู่เวทกี ารแข่งขนั ในระดบั ต่าง ๆ ได้
๔. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ

1. โรงเรียนอนุบาลตาก มีความรู้ ความสามารถ ในการใชภ้ าษาจีนในการส่ือสารไดเ้ ป็นอย่างดี

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 6

2. โรงเรยี นอนบุ าลตาก ทเ่ี รียนภาษาจีนมีศกั ยภาพทางด้านการใช้ภาษาจีนในการส่ือสาร
ไดเ้ ปน็ ตัวแทนไปแขง่ ขนั ในระดับต่าง ๆ ได้

คำศพั ท์
คำศัพท์คือ กลมุ่ เสียง กลุ่มคำ เสียงพูดทม่ี ีความหมายทั้งในการพูดและการเขียน ซ่งึ คำศัพทเ์ ปน็
องค์ประกอบหนึง่ ที่สำคัญของภาษาทกุ ภาษา เพราะเปน็ สิง่ ทม่ี นุษย์ใช้เพือ่ สื่อความหมายถึงความรู้สกึ นึกคิด
ความต้องการ หรอื ความร้ตู า่ งๆ ในการใชภ้ าษาเพ่อื การส่อื สาร การมีความรู้และความสามารถในการใช้
คำศัพทข์ องบุคคลๆ หนึง่ ถือเป็นปัจจยั หลกั ท่ีจะบ่งบอกว่าบุคคลผ้นู ้ันสามารถส่ือสารได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
เพียงใด คำศัพท์จึงเป็นส่งิ สำคัญท่ีทุกคนตอ้ งเรียนรู้และเพิ่มพูนอยู่เสมอ เพ่ือใหป้ ระสบความสำเร็จในการ
สอ่ื สารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ (Burns & Lowe. 1966 : 48) จึงกล่าวไดว้ า่ คำศัพทม์ ีความสำคญั ในการ
เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ ถา้ ผู้เรยี นมคี วามรูเ้ กี่ยวกบั คำศัพท์ในภาษาใหม่ไม่เพียงพอ ผเู้ รียนจะ
ประสบปัญหาในการส่อื ความหมายและความตอ้ งการของตนเองในการใช้ภาษาต่างประเทศ และไม่สามารถ
เข้าใจสิ่งที่ได้ฟัง ได้อ่านเป็นภาษาตา่ งประเทศได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ทำให้ไมป่ ระสบผลสำเร็จในการสือ่ สาร
(Huang. 1993) ดงั นั้น คำศัพทจ์ ึงเป็นส่ิงสำคญั ในกระบวนการเรยี นการสอนภาษาอังกฤษเปน็
ภาษาตา่ งประเทศ
2 ประเภทของคำศัพท์
ในการสอนคำศัพท์ ผูส้ อนควรคำนึงถึงระดับการเรียนร้ขู องผู้เรียนวา่ อยู่ในระดับใด จะต้องใชค้ ำศัพท์
ประเภทไหน และมากนอ้ ยเพียงใด (นิธดิ า อดิภัทรนันท์, 2541) ดังนัน้ การแบง่ ประเภทคำศัพท์ตามระดับของ
ผเู้ รยี นสามารถแบง่ ได้ 2 ประเภทคอื
1. คำศพั ท์ทผ่ี เู้ รียนในระดับน้นั ๆ ไดพ้ บเหน็ บ่อย ๆ ทั้งในการฟงั พดู อ่าน และเขียน (Active
Vocabulary) นอกจากครจู ะสอนใหร้ ้จู กั ความหมายแลว้ จะตอ้ งสอนใหน้ ักเรียนสามารถใชค้ ำ ประโยค ได้ทัง้
ในการพูดและการเขยี น ซงึ่ ถือว่าเป็นทกั ษะขั้นการนำไปใช้
2. คำศัพทท์ ีผ่ ู้เรยี นในระดับชน้ั น้นั ๆ ไม่ค่อยพบเหน็ หรือนาน ๆ จะปรากฏคร้ังหน่งึ ในการฟังและการ
อา่ น การสอนคำศัพท์ท่ผี ู้เรียนไมค่ ่อยพบเห็นบ่อย ครูเพยี งสอนแต่ใหร้ ู้ความหมายท่ีใชใ้ นประโยคก็เพยี งพอ
เนน้ ใหน้ กั เรียนทั้งฟงั และอ่านได้เขา้ ใจ โดยไมเ่ นน้ ใหน้ ักเรยี นเอาคำศพั ท์นน้ั มาใช้ในการพูดและเขยี น
นอกจากน้ี ยงั ได้มีการแบง่ ประเภทของคำศัพท์ตามโอกาสทใี่ ชห้ รือพบในแตล่ ะทกั ษะทางภาษา โดย
แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท (นนั ทยิ า แสงสนิ , 2527) ดังน้ี
1. คำศพั ทเ์ พ่ือการฟัง เป็นคำศัพทท์ ี่ใชม้ ากในเดก็ เล็ก เพราะไม่เคยเรยี นรูภ้ าษามาก่อน เป็น
คำศัพท์ที่ค่อนขา้ งง่าย และการเรยี นรเู้ กิดจากการฟงั ก่อน
2. คำศัพท์เพื่อการพูด เป็นคำศัพท์ท่ใี ช้ในภาษาพูด ซึ่งต้องสมั พันธ์กับการฟัง คำศัพท์ท่ีใช้ในการพดู
น้นั ต้องสามารถใชส้ อ่ื ความหมายได้ โดยคำศัพทเ์ พ่ือการพูดจำแนกออกได้เป็น 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ คำศพั ทท์ ่ีใช้
ภายในบ้านหรอื ระหว่างเพ่ือนฝูง คำศพั ท์ทีใ่ ชใ้ นการเรียนหรือการทำงาน และคำศัพท์ที่ใชใ้ นการตดิ ตอ่ ราชการ
หรือใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
3. คำศพั ท์เพ่ือการอ่าน เป็นคำศัพท์ทีใ่ ชใ้ นการอา่ นและเปน็ ปญั หามากสำหรับเด็กท่เี รียนภาษา คอื
ต้องรคู้ วามหมายเพื่อทีจ่ ะนำไปตคี วามเน้อื หา และข้อความที่อ่านได้
4. คำศพั ทเ์ พื่อการเขียน เปน็ คำศัพท์ที่ใชใ้ นการเขยี น ซึ่งถอื ว่าเปน็ ทักษะที่สูงและยาก เป็นคำศพั ท์
ท่ผี เู้ รยี นจะต้องได้รับการสอนทถี่ กู ต้องและเปน็ ทางการ
การแบง่ คำศัพท์ออกเปน็ ประเภทตามลกั ษณะการใช้และตามโอกาสดังท่กี ล่าวมาน้ี มผี ลสำคัญตอ่ ก่ี
จดั การเรียนการสอนเปน็ อยา่ งยิ่ง กลา่ วคือ สำหรบั บทบาทของผูส้ อนแลว้ ผสู้ อนจะต้องชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นได้เรียนรู้

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 7

คำศัพท์ที่จำเปน็ สำหรับการใช้ในโอกาสและสถานการณต์ า่ ง ๆ ไดอ้ ย่างถูกต้องและเหมะสม โดยการช่วยให้
ผูเ้ รยี นไดเ้ รียนรคู้ ำศัพท์น้ันๆ โดยมพี ฤติกรรมด้านการออกเสียงและสะกดคำได้ ดา้ นการบอกความหมายของ
คำศัพท์ได้ และดา้ นการนำคำศพั ท์ไปใช้ในการฟัง การพูด การอา่ น และการเขียนได้อย่างถูกต้อง (อสิ รา สาระ
งาม, 2529)

3. องคป์ ระกอบของคำศัพท์
คำศพั ทม์ ีองคป์ ระกอบท่ีสำคัญ 3 องคป์ ระกอบคือ

3.1 รูปคำ (Form) หรอื การสะกดคำนน้ั ๆ ถา้ จะกล่าวตามหลกั ของภาษาศาสตร์อย่างเครง่ ครดั แล้ว
คำ ๆ เดียวกนั ความหมายเดียวกัน อาจมรี ูปรา่ งต่างกนั กไ็ ด้ เชน่ is กับ ’s หรอื will not กับ won’t
เช่นเดยี วกบั คำอน่ื ๆ ทีเ่ ปลย่ี นรูปร่างก็เปลยี่ นความหมาย เชน่ man – men , walk – walked ก็มีความหมาย
แตกตา่ งกัน เพราะรูปร่างแตกต่างกัน เป็นตน้

3.2 ความหมาย (Meaning) คำแน่ละคำอาจมีความหมายทแ่ี ฝงอยู่ถึง 4 นยั ด้วยกัน คือ
3.2.1 ความหมายตามพจนานกุ รม (Lexical Meaning) ได้แก่ ความหมายของคำตามพจนานุกรม
สำหรับภาษาองั กฤษแลว้ คำหนึ่ง ๆ มีความหมายหลายอย่าง บางคำอาจใช้ในความหมายแตกตา่ งกนั เป็นร้อย
ทำใหบ้ างคนเข้าใจวา่ ความหมายท่ีแตกตา่ งออกไปหรือความหมายท่ีคนไม่ค่อยรจู้ ักนั้นเปน็ “สำนวน” ของ
ภาษาแตกตา่ งกันเปน็ ร้อย ทำใหบ้ างคนเข้าใจว่า ความหมายแตกต่างออกไป หรอื ความหมายทค่ี นไม่ค่อยรจู้ ัก
น้นั เป็น “สำนวน” ของภาษา
3.2.2 ความหมายทางไวยากรณ์ (Morphological Meaning) คำศพั ท์ประเภทน้ี เม่ืออยู่ตามลำพงั
โดด ๆ อาจหาความหมายได้ง่าย เช่น s เม่ือตอ่ ทา้ ยคำนามบางจำพวก เช่น hats , pens จะแสดงความหมาย
เป็นพหูพจน์ของนามนั้น ๆ คือ ช่วยบอกวา่ มีจำนวน “มากกว่าหนึ่ง”
3.2.3 ความหมายจากการเรียงคำ (Syntactic Meaning) ไดแ้ ก่ ความหมายที่เกิดข้นึ หรือ
เปล่ียนแปลงไป แลว้ แต่การเรียงลำดบั เช่น boathouse แตกตา่ งจาก houseboat หรอื Is she going
home ? แตกตา่ งจาก She is going home.
3.2.4 ความหมายจากเสยี งข้ึน – ลง (Intonation Meaning) ได้แก่ ความหมายของคำท่ี
เปลี่ยนแปลงไปตามเสียงข้ึนลงของผู้พดู เปล่งออกมาไม่วา่ จะเปน็ เสยี งท่มี ีพยางค์เดยี วหรือมากกวา่
3.3 ขอบเขตของการใช้คำ (Distribution) ซึง่ มีขอ้ จำกัดแตกตา่ งกนั ไปแลว้ แต่ไวยากรณ์ของภาษา
นนั้ ๆ สำหรบั ภาษาองั กฤษจำแนกออกได้เปน็
3.3.1 ขอบเขตด้านไวยากรณ์ เช่น ในภาษาองั กฤษการเรียงลำดบั คำเปน็ ส่ิงสำคัญที่สุด ฉะนนั้
ตำแหน่งของคำในประโยคทตี่ ่างกันไป ทำให้คำนนั้ มคี วามหมายแตกต่างกนั ออกไป
3.3.2 ของเขตทางภาษาพูดและทางภาษาเขียน คำบางคำใช้ในภาษาพดู เท่านั้น ไม่ใช้ในภาษาเขยี น
เชน่ เดยี วกนั กบั คำบางคำใช้ในภาษาเขียนโดยเฉพาะ ไมน่ ยิ มใชใ้ นภาษาพดู
3.3.3 ขอบเขตของภาษาในแต่ละท้องถน่ิ การใช้คาํ ศัพท์บางคํามีความหมายแตกต่างกันไปในแต่ละ
ทอ้ งถ่ิน และแม้แตใ่ นประเทศเดยี วกันก็มภี าษาท้องถน่ิ ท่ีแตกต่างกนั ไป
สรุปไดว้ า่ องค์ประกอบของคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษมี 3 ประการคือ รูปคาํ ความหมาย และขอบเขตของ
การใช้คํา ในดา้ นของความหมาย นอกจากจะมีความหมายตามพจนานุกรมแลว้ ยงั มีความหมายทาง
ไวยากรณ์ ความหมายการเรียงคาํ และความหมายจากการออกเสียงขน้ึ -ลงของคาํ พูด ส่วนในด้านของ
ขอบเขตของการใช้คำ แบง่ ออกเป็นขอบเขตของการเรียงลําดับคาํ ขอบเขตของภาษาพูดและภาษาเขยี น
และขอบเขตของภาษาในแตล่ ะท้องถิน่ (สรลั ชนก เฟ่ืองฟู, 2553)
4 กลวิธีในการสอนคำศัพท์

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

8

ในการสอนคำศัพท์ มีการใช้กลวิธีในการสอนคำศัพท์อย่างหลากหลาย ดงั น้ี
4.1 การใชข้ องจรงิ (Real objects) เหมาะสำหรับการสอนคำศัพทท์ เ่ี ปน็ รูปธรรม (Concrete noun)
และไมล่ ำบากสำหรบั ผู้สอนในการนำมาประกอบการสอน เช่น ของใช้ในห้องเรียน ผลไม้ สว่ นประกอบของ
ของแซนด์วชิ เป็นต้น
4.2 การใช้หุ่นจำลอง (Models) เหมาะสำหรบั กรณีทผี่ ้สู อนไม่สะดวกในการนำของจริงมาใช้สอน
คำศัพท์ เนือ่ งจากราคาแพง มีขนาดใหญ่ หรอื ไม่เหมาะสมในการนำมาใชใ้ นห้องเรยี น เช่น การสอนผลไม้นอก
ฤดู การสอนเร่ืองสัตว์ หรือการสอนเร่ืองยานพาหนะ เป็นต้น
4.3 การใช้รูปภาพ (Pictures) ปัจจุบนั รูปภาพเปน็ อปุ กรณ์การสอนทีห่ างา่ ย ราคาถกู และน่าสนใจ
สามารถสร้างความเข้าใจให้กับผูเ้ รียนได้ง่ายทงั้ คำศัพท์ทีเ่ ป็นนามธรรมและรปู ธรรม ซึ่งสามารถนำเสนอเปน็
ภาพกระดาษ หรือภาพอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ขนึ้ อยกู่ ับกจิ กรรมและความเหมาะสมของห้องเรียน
4.4 การใช้กิริยาทา่ ทาง (Actions) ในการสอนคำศพั ทท์ ่ีเปน็ การแสดงกริ ยิ าท่าทาง หรือสามารถ
แสดงด้วยการแสดงทา่ ทาง เช่น คำกิริยา คำวิเศษณ์ คำบุพบท การใช้กิริยาท่าทางประกอบจะทำใหผ้ ู้เรยี นเหน็
ความหมายเด่นชัดขน้ึ
4.5 การใชค้ ำนยิ าม (Definition) ในการสอนคำทส่ี ามารถใชป้ ระโยคงา่ ยๆ ในการให้นิยาม
ความหมายของคำ การให้คำนยิ ามก็สามารถทำใหน้ ักเรียนเขา้ ใจคำนั้นๆ ไดง้ ่าย
4.6 การใชบ้ รบิ ท (Context) การใช้บริบทในการสอนคำศัพท์ในกรณีที่คำน้นั ๆ ไม่สามารถใช้
ประโยคเพียงประโยคเดยี วในการนยิ ามความหมายไดเ้ ขา้ ใจแต่ต้องอาศัยประโยคข้างเคียงหลายๆ ประโยคช่วย
บอกความหมาย
4.7 การใชค้ ำพ้องความหมาย (Synonym) คือการเอาคำศพั ท์ทม่ี ีผู้เรียนรูจ้ ักและมีความหมาย
เดียวกันกับคำใหมม่ าเปรียบเทยี บกัน
4.8 การใชค้ ำทมี่ ีความหมายตรงขา้ ม (Antonym) คือการเอาคำศพั ท์ที่มีผู้เรียนร้จู ักและมี
ความหมายตรงขา้ มกบั คำใหม่มาเปรยี บเทยี บกัน

4.9 การแปลคำศัพท์ กรณีที่คำศัพท์ท่สี อน ไมส่ ามารถใชก้ ลวธิ ดี ังกลา่ วข้างต้น หรอื ใช้แลว้ เสยี เวลา
มาก และไม่สามารถสรา้ งความเขา้ ใจให้กบั ผูเ้ รียนได้ชัดเจน การแปลความหมายของคำศัพท์เป็นภาษาแม่ก็
เป็นทางเลอื กทด่ี ีท่สี ดุ (อิสรา สาระงาม, 2529 และทิพวัลย์ มาแสง อา้ งใน สรัลชนก เฟ่อื งฟู, 2553)

แนวคิดและทฤษฏกี ารพัฒนาบคุ ลากร
๑. ความหมายของการพัฒนาทรัพยากรมนษุ ย์

ความหมายของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สามารถแบ่งออกได้เปน็ ๒ ระดับ คือ การพัฒนา
ทรพั ยากรมนุษย์ในระดับมหภาค เป็นการพฒั นาทรัพยากรมนุษยใ์ นภาพรวมของประเทศและการพฒั นา
ทรัพยากรมนุษย์ในระดบั จลุ ภาค เป็นการพฒั นาทรัพยากรในองค์กร

๒. ความสำคัญและความจำเปน็ ของการพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์
ทรพั ยากรมนษุ ย์ (Human Resource) หรือคน ถอื เปน็ ทรัพยากรทสี่ ำคัญท่สี ุดในองคก์ าร

โดยการใชแ้ รงสมอง ใช้ความคิดสรา้ งสรรค์ วางแผน ประสานงาน อำนวยความสะดวกต่อสง่ิ ตา่ ง ๆ เพอ่ื
จุดมงุ่ หมายขององค์การ เมื่อคนหรอื บุคลากรมคี วามตง้ั ใจปฏบิ ัติงานด้วยความรว่ มมือ และความสามารถ

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพฒั นาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 9

องค์กรนัน้ ยอ่ มจะประสบผลสำเรจ็ ตามจดุ มุ่งหมาย หรอื เป้าหมายขององค์การ (พิไลวรรณ อนิ ทรักษา,๒๕๕๐)
โดยแบง่ ออกเปน็ ๓ ด้านคือ

๑. ดา้ นองค์การ ช่วยปรับปรงุ ทศั นคติของบุคลากรเปน็ ไปในทางบวก ชว่ ยปรบั ปรุง
ความรู้และทักษะของบุคลากรทุกระดับขององคก์ าร ช่วยใหบ้ ุคลากรรถู้ ึงนโยบายขององค์การ ชว่ ยให้กจิ การ
ขององค์การดีข้นึ เปน็ เคร่อื งมือชว่ ยพฒั นาองค์การ ช่วยให้ข้อมูลตอ่ ความต้องการในอนาคตขององค์การ

๒. ดา้ นบคุ ลากร ช่วยใหบ้ คุ ลากรตดิ สินใจและแกป้ ัญหาได้ดีข้ึน ช่วยให้เกิดความ
ตระหนกั ในความสำเร็จ ความเจรญิ และความรบั ผดิ ชอบตลอดจนความกา้ วหน้า ชว่ ยให้เกิดความมั่นใจใน
ตนเอง ชว่ ยลดความเครียด ความไม่พอใจ ความขดั แยง้ ช่วยปรับปรุงความรู้ ทศั นคติ การติดตอ่ ส่อื สาร ชว่ ย
ใหเ้ กิดความพงึ พอใจในการทำงานและการยอมรบั

๓. ด้านมนุษยสัมพันธ์ ช่วยในการปรบั ปรงุ การติตอ่ สื่อสารระหว่างกลุม่ บุคคลเกิดความ
เท่าเทียมกันในโอกาสและการทำงาน สร้างความเปน็ ปึกแผ่นขึ้นในกล่มุ ผู้ทำงาน ช่วยให้เกดิ บรรยากาศท่ีดีใน
การเรยี นรู้ และความร่วมมือประสานงาน การพฒั นาขีดความสามารถทำให้องค์การเป็นสถานทน่ี ่าทำงานและ
นา่ อยู่

งานวจิ ยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง
พไิ ลวรรณ อนิ ทรักษา (๒๕๕๐,บทคัดยอ่ ) การศึกษาเร่ืองการประเมนิ ผลการการพัฒนาบุคลากร

องค์กรธุรกจิ อตุ สาหกรรม กรณีศกึ ษาบรษิ ัท เอม็ เอสเอม็ (ประเทศไทย) ผลการศกึ ษาพบวา่ พนกั งานมคี วาม
คดิ เหน็ เกีย่ วกบั การประเมนิ ผลการพัฒนาบุคลากร โดยภาพรวมปานกลาง และเรยี งลำดับตามคา่ เฉลี่ย ไดด้ งั น้ี

๑) ดา้ นผลผลติ ๒) ดา้ นกระบวนการ ๓) ด้านสภาวะแวดลอ้ ม ๔) ด้านปัจจยั นำเขา้ พนักงานมเี พศ อายุ
ระยะเวลาการปฏบิ ตั ิงาน และตำแหน่งงาน แตกต่างกนั มีความคดิ เกย่ี วกบั การประเมินพัฒนาบุคลากร
ไม่แตกต่างอย่างมนี ยั สำคญั ทางสถติ ิท่ีระดบั ๐.๕ และพนักงานที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็น
เกีย่ วกบั การประเมินผลการพัฒนาบคุ ลากรแตกต่างกนั

เทิดศกั ดิ์ จอมศรี (๒๕๔๒) ได้ทำการศึกษาเรื่อง การฝกึ อบรมและการพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์
บริษทั เทเลคอมเอเชยี คอรป์ อเรชัน่ จ ากัด(มหาชน) ผลการศึกษาพบว่า ๑) พนักงานสว่ นใหญเ่ หน็ ดว้ ยว่า
ผลการศกึ ษาอบรมและพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ นอกจากจะเปน็ การสร้างแรงจงู ใจในการปฏิบัตงิ านแลว้
ยงั สามารถเพมิ่ พนู ความรู้ ทักษะและทัศนคตทิ ่ดี ีในการปฏิบัติงานระดบั มาก ๒) ปัจจยั ส่วนบุคคลในระดับ
ดา้ นการศึกษา ความสัมพนั ธ์กับประสทิ ธภิ าพการฝกึ อบรมในทุกด้าน แตกตา่ งกันอยา่ งเหน็ ได้ชดั โดยมี
นยั สำคัญ .๐๑๓) ปจั จัยสว่ นบคุ คล ดา้ น เพศ อายุ สถานภาพ ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ความคิดเห็น
ตอ่ การศกึ อบรมอย่างต่อเนือ่ งสม่ำเสมอ มีความท่ัวถึง มคี วามเป็นระบบ ซึ่งผลของการพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์
มคี วามสมั พนั ธ์กับประสิทธภิ าพการฝึกอบรมในทุกด้านอยา่ งมีนยั สำคัญทางสถิติ .๐๕

ความรู้พื้นฐานเรื่องการสื่อสาร
การสือ่ สารเป็นปจั จัยสำคญั ในการดำรงชวี ิต มนษุ ยจ์ ำเปน็ ต้องติดต่อส่ือสารกนั อย่ตู ลอดเวลา การส่อื สารจงึ
เปน็ ปจั จยั สำคัญอยา่ งหน่งึ นอกเหนือจากปจั จัยพ้ืนฐานในการดำรงชวี ติ ของมนุษย์ การส่ือสารมบี ทบาทสำคญั
ต่อการดำเนนิ ชีวติ ของมนษุ ย์มาก การสอื่ สารมีความสำคัญอย่างยิง่ ในปจั จบุ นั ซึง่ ไดช้ ่อื วา่ เปน็ ยคุ โลกาภิวัตน์
เปน็ ยคุ ของข้อมลู ขา่ วสาร การส่อื สารมีประโยชนท์ ้งั ในแงบ่ ุคคลและสังคม การส่ือสารทำใหค้ นมีความรู้และ
โลกทัศน์ทก่ี วา้ งขวางขน้ึ การสื่อสารเปน็ กระบวนการท่ีทำใหส้ งั คม เจรญิ ก้าวหน้าอย่างไม่หยดุ ย้ัง ทำให้

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

10

มนุษย์สามารถสืบทอดพัฒนา เรยี นรู้ และรับรู้วัฒนธรรมของตนเองและสังคมได้ การส่ือสารเปน็ ปจั จยั สำคญั
ในการพฒั นาประเทศ สร้างสรรคค์ วามเจริญก้าวหนา้ แกช่ ุมชน และสงั คมในทกุ ดา้ น
ความหมายของการสื่อสาร

คำว่า การสือ่ สาร (communications) มที ม่ี าจากรากศพั ท์ภาษาลาตนิ ว่า communis หมายถึง
ความเหมอื นกนั หรือรว่ มกัน การสอ่ื สาร (communication) หมายถงึ กระบวนการถา่ ยทอดขา่ วสาร
ขอ้ มูล ความรู้ ประสบการณ์ ความรสู้ กึ ความคิดเห็น ความตอ้ งการจากผสู้ ง่ สารโดยผา่ นสื่อตา่ ง ๆ ท่ีอาจเปน็
การพูด การเขียน สญั ลกั ษณ์อื่นใด การแสดงหรอื การจัดกิจกรรมตา่ ง ๆ ไปยังผูร้ ับสาร ซึ่งอาจจะใช้
กระบวนการสื่อสารท่ีแตกตา่ งกนั ไปตามความเหมาะสม หรือความจำเปน็ ของตนเองและคูส่ ือ่ สาร โดยมี
วัตถปุ ระสงค์ใหเ้ กิดการรบั รรู้ ่วมกนั และมีปฏกิ ิรยิ าตอบสนองต่อกนั บรบิ ททางการส่ือสารท่เี หมาะสมเป็น
ปัจจัยสำคญั ทจี่ ะช่วยให้การส่ือสารสมั ฤทธ์ผิ ล
ความสำคัญของการสอื่ สาร
การสอื่ สารมีความสำคัญดังนี้
1. การสอื่ สารเปน็ ปจั จัยสำคญั ในการดำรงชีวติ ของมนุษย์ทกุ เพศ ทกุ วยั ไมม่ ใี ครท่ีจะดำรงชีวติ ได้ โดย
ปราศจากการส่อื สาร ทุกสาขาอาชีพกต็ ้องใช้การสือ่ สารในการปฏบิ ัติงาน การทำธรุ กิจตา่ ง ๆ โดยเฉพาะ
สงั คมมนุษย์ทม่ี ีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตลอดเวลา พัฒนาการทางสงั คม จึงดำเนินไปพรอ้ ม ๆ กบั
พัฒนาการทางการสื่อสาร
2. การสือ่ สารก่อใหเ้ กดิ การประสานสมั พนั ธ์กันระหวา่ งบุคคลและสงั คม ชว่ ยเสริมสร้างความเขา้ ใจอันดี
ระหว่างคนในสังคม ช่วยสืบทอดวฒั นธรรมประเพณี สะทอ้ นใหเ้ หน็ ภาพความเจรญิ รุง่ เรือง วิถีชวี ิตของ
ผูค้ น ช่วยธำรงสังคมใหอ้ ยรู่ ว่ มกนั เป็นปกตสิ ุขและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
3. การสอ่ื สารเป็นปัจจยั สำคญั ในการพฒั นาความเจรญิ กา้ วหน้าทงั้ ตัวบคุ คลและสงั คม การพัฒนาทางสงั คม
ในด้านคณุ ธรรม จริยธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฯลฯ รวมทง้ั ศาสตร์ในการสอ่ื สาร จำเปน็ ต้องพัฒนา
อยา่ งไมห่ ยดุ ยงั้ การส่อื สารเป็นเครื่องมือในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของมนุษย์และพฒั นาความเจรญิ ก้าวหนา้
ในด้านตา่ ง ๆ

วตั ถุประสงค์การสื่อสาร
1. เพ่ือแจ้งใหท้ ราบ (inform) ในการทำการสื่อสาร ผทู้ ำการสือ่ สารควรมีความ ต้องการท่ีจะบอกกลา่ วหรือ
ชแี้ จงขา่ วสาร เรอื่ งราว เหตกุ ารณ์ หรอื สิง่ อ่ืนใดให้ผรู้ ับสารได้รบั ทราบ
2. เพื่อสอนหรอื ให้การศึกษา (teach or education) ผทู้ ำการสื่อสารอาจมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือจะ ถ่ายทอด
วิชาความรู้ หรือเร่ืองราวเชิงวิชาการ เพอื่ ให้ผู้รบั สารได้มโี อกาสพฒั นาความรูใ้ ห้เพม่ิ พนู ย่ิงขน้ึ
3. เพื่อสร้างความพอใจหรือใหค้ วามบันเทงิ (please of entertain) ผทู้ ำการสื่อสารอาจ ใช้วตั ถปุ ระสงค์ใน
การสือ่ สารเพ่ือสรา้ งความพอใจ หรือใหค้ วามบนั เทิงแก่ผู้รับสาร โดยอาศยั สารท่ีตนเองสง่ ออกไป ไมว่ า่ จะอยู่
ในรูปของการพูด การเขียน หรือการแสดงกิริยาตา่ ง ๆ
4. เพ่อื เสนอหรือชกั จูงใจ (Propose or persuade) ผ้ทู ำการสื่อสารอาจใช้วัตถปุ ระสงคใ์ น การสอ่ื สารเพื่อให้
ขอ้ เสนอแนะ หรือชักจูงใจในสิ่งใดส่งิ หนึง่ ต่อผูร้ ับสาร และอาจชกั จูงใจใหผ้ ู้รบั สารมีความคิดคล้อยตาม หรือ
ยอมปฏบิ ัตติ ามการเสนอแนะของตน

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 11

5. เพื่อเรยี นรู้ (learn) วัตถปุ ระสงค์นมี้ ีความเกยี่ วข้องโดยตรงกับผู้รบั สาร การแสวงหาความรู้ ของผู้รบั สาร
โดยอาศัยลักษณะของสาร ในกรณีนี้มักจะเปน็ สารท่ีมเี น้ือหาสาระเก่ียวกบั วชิ าความรู้ เปน็ การหาความรู้
เพ่ิมเติมและเป็นการทำความเขา้ ใจกับเน้ือหาของสารที่ผู้ทำการสอื่ สารถ่ายทอดมาถึงตน
6. เพ่อื กระทำหรอื ตัดสินใจ (dispose or decide) ในการดำเนินชีวติ ของคนเรามี สง่ิ หน่ึงทต่ี อ้ งกระทำ อยู่
เสมอก็คือ การตดั สนิ ใจกระทำการอย่างใดอยา่ งหนง่ึ ซ่ึงการตดั สินใจ นัน้ อาจไดร้ บั การเสนอแนะ หรอื ชักจูง
ใจให้กระทำอย่างนัน้ อย่างนี้จากบุคคลอน่ื อยู่เสมอ ทางเลือกในการ ตดั สนิ ใจของเราจึงขึ้นอยูก่ ับข้อเสนอแนะ
น้นั
องค์ประกอบการสื่อสาร
1. ผ้สู ่งสาร (sender) หรือ แหล่งสาร (source) หมายถงึ บคุ คล กลุม่ บุคคล หรอื หนว่ ยงานทีท่ ำหนา้ ท่ีใน
การส่งสาร หรือเป็นแหล่งกำเนดิ สาร ทเ่ี ป็นผู้เร่ิมต้นส่งสารด้วยการแปลสารนั้นให้อย่ใู นรูปของสญั ลักษณ์ท่ี
มนุษย์สร้างขึ้นแทนความคดิ ไดแ้ ก่ ภาษาและอากปั กิรยิ าตา่ ง ๆ เพื่อสื่อสารความคิด ความรสู้ กึ ขา่ วสาร
ความต้องการและวตั ถุประสงค์ของตนไปยังผู้รบั สารดว้ ยวธิ กี ารใด ๆ หรือสง่ ผ่านชอ่ งทางใดกต็ าม จะโดย
ตง้ั ใจหรือไมต่ ง้ั ใจกต็ าม เชน่ ผพู้ ดู ผ้เู ขยี น กวี ศิลปิน นักจดั รายการวิทยุ โฆษกรฐั บาล องคก์ าร
สถาบัน สถานีวิทยุกระจายเสียง สถานวี ิทยโุ ทรทัศน์ กองบรรณาธกิ ารหนงั สือพิมพ์ หนว่ ยงานของรฐั
บริษัท สถาบนั สอ่ื มวลชน เปน็ ต้น

คณุ สมบตั ิของผูส้ ่งสาร
1. เป็นผู้ทมี่ เี จตนาแน่ชัดทีจ่ ะใหผ้ อู้ ่นื รบั รจู้ ดุ ประสงคข์ องตนในการส่งสาร แสดงความคิดเหน็ หรือ

วิจารณ์ ฯลฯ
2. เป็นผทู้ ี่มีความรู้ ความเข้าใจในเน้ือหาของสารที่ตอ้ งการจะสือ่ ออกไปเปน็ อย่างดี
3. เป็นผูท้ มี่ บี ุคลิกลักษณะทดี่ ี มีความนา่ เชอื่ ถือ แคล่วคล่องเปดิ เผยจรงิ ใจ และมีความรับผดิ ชอบ ใน

ฐานะเปน็ ผสู้ ง่ สาร
4. เปน็ ผู้ทสี่ ามารถเข้าใจความพร้อมและความสามารถในการรับสารของผู้รบั สาร

5. เปน็ ผูร้ จู้ ักเลือกใช้กลวธิ ที เ่ี หมาะสมในการส่งสารหรือนำเสนอสาร
2. สาร (message) หมายถงึ เร่อื งราวท่ีมีความหมาย หรือสง่ิ ตา่ ง ๆ ท่ีอาจอยู่ในรปู ของขอ้ มูล ความรู้
ความคดิ ความตอ้ งการ อารมณ์ ฯลฯ ซ่งึ ถ่ายทอดจากผสู้ ง่ สารไปยงั ผู้รบั สารให้ไดร้ ับรู้ และแสดงออกมาโดย
อาศยั ภาษาหรือสญั ลักษณใ์ ด ๆ ท่ีสามารถทำใหเ้ กิดการรบั รู้รว่ มกันได้ เช่น ข้อความท่ีพดู ขอ้ ความท่เี ขียน
บทเพลงทีร่ ้อง รูปท่วี าด เรอ่ื งราวท่อี ่าน ทา่ ทางท่สี ่ือความหมาย เป็นต้น
2.1 รหัสสาร (message code)ได้แก่ ภาษา สญั ลักษณ์ หรอื สัญญาณทีม่ นุษย์ใชเ้ พื่อแสดงออกแทนความรู้
ความคดิ อารมณ์ หรือความรู้สึกตา่ ง ๆ
2.2 เนือ้ หาของสาร (message content) หมายถงึ บรรดาความรู้ ความคิดและประสบการณท์ ี่ผู้สง่ สาร
ตอ้ งการจะถ่ายทอดเพ่ือการรับรูร้ ว่ มกัน แลกเปลีย่ นเพื่อความเขา้ ใจรว่ มกันหรือโตต้ อบกัน
2.3 การจดั สาร (message treatment) หมายถึง การรวบรวมเน้ือหาของสาร แล้วนำมาเรียบเรียงให้เปน็ ไป
อยา่ งมรี ะบบ เพื่อใหไ้ ด้ใจความตามเน้ือหา ทีต่ ้องการด้วยการเลอื ก ใช้รหัสสารทเ่ี หมาะสม
3. สื่อ หรือชอ่ งทาง (media or channel) เป็นองค์ประกอบท่ีสำคัญอีกประการหน่งึ ในการส่ือสาร หมายถึง
ส่ิงที่เปน็ พาหนะของสาร ทำหน้าที่นำสารจากผู้สง่ สารไปยังผรู้ ับสาร ผ้สู ่งสารตอ้ งอาศัยส่อื หรือชอ่ งทางทำ
หน้าที่นำสารไปสูผ่ รู้ ับสาร
4. ผู้รบั สาร (receiver) หมายถงึ บุคคล กลุ่มบุคคล หรอื มวลชนทร่ี บั เร่อื งราวข่าวสาร

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

12
จากผสู้ ่งสาร และแสดงปฏกิ ิริยาตอบกลบั (Feedback) ต่อผ้สู ่งสาร หรือส่งสารตอ่ ไปถึงผู้รับสารคนอืน่ ๆ
ตามจดุ มงุ่ หมายของผ้สู ่งสาร เชน่ ผเู้ ข้าร่วมประชมุ ผู้ฟังรายการวทิ ยุ กล่มุ ผู้ฟงั การอภิปราย ผู้อา่ น
บทความจากหนังสือพิมพ์ เปน็ ต้น
ภาษาจนี กลาง เปน็ คำทีค่ นไทยใช้เรยี กภาษาหลักของจีน ในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้เรยี กภาษานี้ว่า ฮวา-ยวี่
(อกั ษรจีน: 华语/華語) แปลวา่ ภาษาฮวา ซงึ่ คำว่า ฮวา หรือ ฮวาเยริน (อักษรจีน: 华人/華人) เป็น
คำทีช่ าวจีนใชเ้ รยี กตัวเองในปัจจุบนั สำหรับประเทศจนี จะเรยี กภาษานี้วา่ ฮั่นยวี่ (อักษรจีน: 汉语/漢語)
แปลว่า ภาษาฮน่ั อนั ป็นภาษาของชาวฮ่นั

ภาษาอังกฤษเรยี กภาษานว้ี ่า Mandarin (แมนดารนิ ) ซึง่ มีรากจากคำในภาษาโปรตเุ กสว่า Mandarim (มันดา
รมิ ), จากคำในภาษามลายูวา่ Menteri (เมนิ เตอร)ี , และจากคำในภาษาสันสกฤตว่า Mantrin (มนั ตรนิ ) หรือ
เทียบตรงกับคำไทยว่า มนตรี และคำว่า กวา่ นฮว่า (อักษรจีน: 官话/官話) กวา่ น (อกั ษรจีน: 官)
แปลวา่ ราชสำนักและ ฮว่า (อักษรจีน: 话/話) แปลวา่ พูด เป็นชอ่ื โบราณที่ใช้เรยี กภาษาน้ี ปจั จุบันใชใ้ นเชิง
วิชาการเพ่อื แยกว่าไม่ใช่ภาษาจีนกลมุ่ อืน่ เช่น ภาษาแตจ้ ๋ิว, ภาษาฮกเก้ียน, ภาษากวางตุ้ง เปน็ ตน้

ในวงแคบคำวา่ ภาษาจีนกลาง ในทางภาษาจนี กลางเองเรียก ผูท่ งฮวา่ (普通话) หมายถงึ ภาษาจีนกลาง

มาตรฐานทใ่ี ชใ้ นประเทศจนี และ กวอ๋ อวี่ (國語) หมายถงึ ภาษาจีนกลางมาตรฐานท่ีใชใ้ นประเทศไตห้ วนั
และใชเ้ ป็นภาษากลางในกลุ่มจีนโพ้นทะเลในประเทศมาเลเซีย, สิงคโ์ ปร์ เป็นตน้ ในวงกวา้ งคำว่า เป่ยฟางฮว่า
(北方話; "ภาษาพูดทางเหนือ") คอื คำประเภทท่ีประกอบด้วยภาษายอ่ ยตา่ ง ๆ ของภาษาจนี ที่ใช้ในทาง
ตอนเหนือและตะวันตกเฉียงใตข้ องจนี ซ่ึงความหมายนี้มกั จะพบในบริบททางวชิ าการ และจะใช้ความหมายน้ี
ในบทความน้ี โดยที่ผูท่ งฮวา่ และกัว๋ อวี่ จะใชช้ อ่ื จีนเรยี ก รวมถงึ ใช้ "ภาษาจีนกลางมาตรฐาน" และ "ภาษาจนี
มาตรฐาน" เรียกภาษาประเภทเป่ยฟางฮว่ามีคนพูดมากกวา่ ภาษาอืน่ ๆ และเป่ยฟางฮวา่ ก็เป็นพน้ื ฐานของ
ผทู่ งฮว่าและกัว่ อวดี่ ว้ ย อย่างไรก็ดี เปน็ ทน่ี ่าสงั เกตวา่ เปย่ ฟางฮว่าครอบคลมุ ภาษาย่อยจำนวนมากท่ไี ม่
สามารถเข้าใจกันได้ นอกจากนี้ แนวคดิ เป่ยฟางฮวา่ ส่วนใหญ่ ไมใ่ ช้นอกวงการวชิ าการเป็นคำที่ใชอ้ ธบิ ายตัวเอง
เมอ่ื ให้อธิบายชนดิ ของภาษาพูดทใ่ี ช้ คนจีนท่ีพดู ชนดิ ของเปย่ ฟางฮวา่ จะอธิบายตามชนิดของภาษาที่ใช้ เชน่
ภาษาเสฉวนหรือภาษาจนี ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ชาวจนี มกั จะถือชนดิ ของภาษาจีนกลางทีพ่ ดู เป็นสว่ นหน่งึ ของ
การระบมุ ณฑลท่ีอาศยั อยู่ อย่างไรกด็ ี แทบจะไม่มีอะไรทีส่ ามารถระบุไดโ้ ดยทั่วไป เกยี่ วกับแนวคดิ ของภาษา
พดู ทางเหนือ

春节的神话
春节是中国最重要的节日,又叫“过年”。“年”是什

么?听老人说:古时候,有一种怪兽叫做“年”。

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

13

“年”比大象还要大。一年有三百六十五天,每天它要吃一种
动物。到弟三百六十五天的时候,“年”吃人。晚上,“年”会
来到人住的地方。

所以这一天人们会做很多吃的东西,在家里吃晚饭。吃完
晚饭,大家一起聊天,不到外面去。天亮的时候,“年”还没有
找到人,就走了。后来,大家知道“年”最害怕红色的东西和响
声,所以,“年”来的这一天,人们都穿着红色的衣服,在外面
放鞭炮,特别热闹。“年”看见红色的衣服,听见鞭炮的响声,
很害怕,再也不敢来吃人了。

Chūnjié de shénhuà
Chūnjié shì zhōngguó zuì zhòngyào de jiérì, yòu

jiào “guònián”.“Nián” shì shénme? Tīng lǎorén shuō:
Gǔ shíhòu, yǒuyī zhǒng guàishòu jiàozuò “nián”.

“Nián” bǐ dà xiàng hái yào dà. Yī nián yǒu sānbǎi
liùshíwǔ tiān, měitiān tā yào chī yī zhǒng dòngwù. Dào
dì sānbǎi liùshíwǔ tiān de shíhòu,“nián” chī rén.
Wǎnshàng,“nián” huì lái dào rén zhù dì dìfāng.

Suǒyǐ zhè yītiān rénmen huì zuò hěnduō chī de dōng
xī, zài jiālǐ chī wǎnfàn. Chī wán wǎnfàn, dàjiā yì qǐ
liáotiān, bù dào wàimiàn qù. Tiānliàng de
shíhòu,“nián” hái méiyǒu zhǎodào rén, jiù zǒule.
Hòulái, dàjiā zhīdào “nián” zuì hàipà hóngsè de dōngxī
hé xiǎngshēng, suǒyǐ,“nián” lái de zhè yītiān, rénmen
dōu chuānzhuó hóngsè de yīfú, zài wàimiàn fàng biānpào,
tèbié rènào.“Nián” kànjiàn hóngsè de yīfú, tīngjiàn
biānpào de xiǎngshēng, hěn hàipà, zài yě bù gǎn lái chī
rénle.

ตำนานวันตรุษจนี
“ตรุษจนี ” เป็นเทศกาลทีส่ ำคัญท่สี ดุ ของชาวจีน เปน็ วันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทนิ จีนเช่นเดยี วกบั สงกรานต์

วนั ปีใหม่ของไทย ทกุ คนตา่ งให้ความสำคญั อยา่ งยง่ิ

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 14

“ตรุษจนี ” เปน็ เทศกาลท่ีสำคัญทีส่ ุดของชาวจีน ทมี่ มี าแต่โบราณ ที่เรยี กวา่ กว้อซนุ เจีย๋ ในสมัย
โบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ปา่ ทีด่ ุร้ายและนา่ กลัวมากตัวหน่ึงเรียกวา่ “เหนยี น” มนั ออกมาอาละวาดกนิ
คนเปน็ ประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน อนุญาตให้มันลงมาจากเขาไดเ้ พยี งหนง่ึ ครัง้ ใน 365 วัน ดงั นั้น เมือ่ ฤดู
หนาวใกลจ้ ะผา่ นไป ฤดใู บไม้ผลเิ วียนมาใกล้ “เหนยี น” กจ็ ะออกมาทำร้ายผู้คน เพ่ือป้องกันการมาของเหนียน
ในทุกๆ ครัวเรือนตา่ งสะสมเสบียงอาหาร และกบั ข้าวจำนวนหน่ึงไวใ้ นบา้ น เมื่อถงึ ตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน
12 กจ็ ะปดิ ประตูและหน้าต่างเอาไว้ ไม่หลบั ไมน่ อนตลอดคนื เพอ่ื ต่อสกู้ ับเหนียน จนกระท่งั รุ่งเช้าก็จะเปน็ วนั
แรม 1 ค่ำ เดอื น 1 เมื่อเหนยี นกลบั ไปแล้ว ทกุ ๆ ครวั เรอื น กจ็ ะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ทโี่ ชค
ดีไมถ่ ูกเหนยี นทำรา้ ย ต่อมาพบวา่ เหนียนมจี ดุ อ่อน มีอยู่ครงั้ หนง่ึ เม่ือเหนียนมาถึงหมู่บ้านแหง่ หนึง่ มเี ดก็ กลุ่ม
หนงึ่ กำลงั หวดแส้เลน่ กัน เม่ือเหนียนได้ยนิ กเ็ ลยตกใจเผน่ หนีไป เม่อื เหนียนไปถึงหมู่บ้านอีกแหง่ หนึง่ เหน็ มชี ดุ
เสื้อผ้าสีแดงตากอยหู่ น้าบา้ นของครอบครวั หน่ึงสีแดงฉูดฉาดนั้น ทำให้เหนยี นตกใจเผ่นหนีไปอีก เม่อื เหนียน
มาถึงหมูบ่ ้านแหง่ ท่สี าม ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลงิ กองหนงึ่ บนถนน แสงเพลงิ ท่เี จิดจา้ ทำให้เหนียนต้องเผน่
หนีไปอีก ตงั้ แตน่ น้ั มาผูค้ นตา่ งรวู้ ่า แมว้ า่ เหนยี นจะดุรา้ ยแต่มันก็กลัวสแี ดง เสียงดงั และไฟ ทำใหผ้ ้คู นสามารถ
คดิ หาวิธีกำจัดเหนยี นได้โดยไม่ยากนกั

เมื่อวนั สง่ ทา้ ยตรุษจีนเวยี นมาอกี ครั้ง ทกุ ๆ ครัวเรอื นต่างนำกระดาษสีแดงตดิ ไวบ้ นประตูหน้าบ้าน
แขวนโคมไฟสแี ดง พรอ้ มกับจุดประทัดและตีฆ้อง รวั กลอง อยา่ งต่อเนือ่ ง เม่อื เหนยี นมาถึงในตอนเย็น เหน็
ทกุ ๆ ครวั เรอื นมีแสงไฟสวา่ งไสว มเี สียงประทดั ดงั สน่นั จึงตกใจเผ่นหนีกลบั เข้าป่าไป และไม่กล้าออกมา
อาละวาดอกี ทุกๆ คน จงึ ผ่านพ้น คืนแหง่ อนั ตรายไปอยา่ งปลอดภยั เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจงึ ออกจากบ้าน
กลา่ วคำอวยพรซึ่งกันและกัน พรอ้ มกับนำอาหารออกมารบั ประทานรว่ มกนั อย่างสนุกสนาน ตอ่ มาวนั ดังกล่าว
จึงกลายมาเปน็ วันเฉลิมฉลองท่ีมแี ตค่ วามสขุ

ประวตั ิวันตรุษจนี หรือปีใหม่จีน

วันตรษุ จนี นน้ั คล้ายคลงึ กับวันปีใหมใ่ นประเทศทางตะวนั ตกรอ่ งรอยของประเพณีพิธกี รรมความ
เปน็ มาของการฉลองเทศกาลตรุษจนี น้ันมีมานานกว่าศตวรรษ (100 ปี) วนั ตรุษจนี นั้นเปน็ ทรี่ จู้ ักและจำได้
ทวั่ ไปวา่ เป็นการฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิและการฉลองเป็นเวลานานถงึ 15 วัน

การเตรียมงานฉลองสว่ นใหญ่จะเริม่ หน่ึงเดือนก่อน วนั ตรุษจนี (คลา้ ยกับวนั ครสิ ต์มาสของประเทศ
ตะวันตก) เม่อื ผูค้ นเร่ิมซื้อของขวญั , ส่ิงตา่ งๆ เพือ่ ประดับบ้านเรือน, อาหารและเสอ้ื ผา้ การทำความสะอาดครง้ั
ใหญก่ ็เร่ิมข้นึ ในวนั ก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถกู ทำความสะอาดต้ังแต่บนลงลา่ ง หน้าบ้านยันทา้ ยบา้ น ซง่ึ
หมายถึงการกวาดเอาโชครา้ ย ออกไป ประตหู น้าต่างมกี ารขดั สฉี ววี รรณทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเปน็ สีนิยม ประตู
หน้าต่างจะถูกประดบั ประดาด้วยกระดาษทีม่ ีคำอวยพรอย่างเช่น อยูด่ มี ีสขุ รำ่ รวย และอายุยนื เป็นตน้

ทม่ี าของ วนั ตรุษจีน
ทม่ี าของ วันตรุษจนี เกดิ จากการจัดข้นึ เพ่ือต้งั ใจทจี่ ะฉลองฤดใู บไมผ้ ลิ เนอ่ื งจากชว่ งกอ่ น เทศกาล

ตรุษจนี นน้ั ประเทศจนี ปกคลมุ ไปดว้ ยหิมะ จึงไมส่ ามารถทำการเกษตรได้ เม่ือเข้าถึงฤดใู บไมผ้ ลิ จึงจะสามารถ
เพาะปลูกพนื ผักไดต้ ามปกติ ชาวจีนจงึ กำหนดใหว้ นั แรกของฤดูใบไม้ผลิตในแต่ละปีเป็นวันสำคญั ทเี่ รียกว่า "วนั
ตรุษจนี "

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

15
อาหารวันตรุษจนี

ประเพณีและพิธกี รรมต่างๆ น้ันผกู ไวก้ ับทุกส่งิ ทุกอยา่ ง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผา้ อาหารค่ำนนั้
ประกอบดว้ ยอาหารทะเล และอาหารน่ึงเชน่ ขนมจบี ซ่ึงแต่ละอย่างจะมีความหมายตา่ งๆกนั อาหารอนั โอชะ
อยา่ งเช่นกุง้ จะหมายถึงชวี ติ ที่รุง่ เรืองและความสุข เป๋าฮ้ือแหง้ หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างท่ีดี สลัดปลาสดจะนำมา
ซึง่ โชคดี จไ้ี ช่ (ผมเทวดา) สาร่ายดคู ลา้ ยผมแต่กนิ ไดจ้ ะนำความความรำ่ รวยมาให้ และขนมตม้ (Jiaozi)
หมายถงึ บรรพชนอวยพร
เสื้อผา้ วนั ตรษุ จนี

การใสเ่ สอ้ื ผา้ สีแดงถือเป็นสที เี่ ป็นมงคล เปน็ การไล่ปศี าจร้ายให้ออกไป และการใสส่ ีดำหรือขาวเป็นส่งิ
ตอ้ งห้าม ซึ่งสีเหลา่ นี้ถือวา่ เป็นสีแหง่ การไวท้ ุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครวั นั่งกันจนเชา้ เพื่อรอวัน
ใหมโ่ ดยการเล่นเกม เลน่ ไพ่ หรอื ดรู ายการทวี ีท่ีเกีย่ วกับวันตรษุ จนี และในวนั นจี้ ะต้องไมโ่ กรธ ริษยา หรอื ไม่
พอใจ เพ่อื เปน็ สริ ิมงคลท่ีดสี ำหรับปที ี่กำลงั จะมาถึง

อาหารไหวเ้ จ้า ตรุษจีน
ในวนั ฉลองตรุษจนี อาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวนั อ่นื ๆในปี อาหารชนดิ ต่างๆท่ีปฏิบตั ิกันจนเปน็

ประเพณี จะถูกจดั เตรียมเพ่ือญาติพน่ี ้องและเพื่อนฝงู รวมไปถึงคนรจู้ ักทไ่ี ดเ้ สียไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาว
จนี จะทานผกั ที่เรียกว่า ไช่ ถงึ แมผ้ ักชนดิ ตา่ งๆทน่ี ำมาปรุง จะเปน็ เพยี งรากหรือผกั ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลาย
คนก็เช่ือวา่ ผกั ต่างๆมีความหมายท่ีเปน็ มงคลในตวั ของมัน

• เม็ดบวั - มคี วามหมายถึง การมลี ูกหลานทเ่ี ปน็ ชาย
• เกาลดั - มคี วามหมายถึง เงนิ
• สาหรา่ ยดำ - คำของมนั ออกเสยี งคล้าย ความร่ำรวย
• เต้าหหู้ มกั ที่ทำจากถวั่ แห้ง - คำของมันออกเสยี งคลา้ ย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

16
• หนอ่ ไม้ - คำของมันออกเสยี งคลา้ ย คำอวยพรใหท้ ุกอย่างเตม็ ไปดว้ ยความสุข เต้าห้ทู ีท่ ำจากถ่ัวสดนัน้

จะไม่นำมารวมกับอาหารในวนั น้ีเนือ่ งจากสีขาวซ่ึงเป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรบั ปีใหม่และหมายถงึ การไว้
ทกุ ข์
• ปลาทงั้ ตัว - เป็นตวั แทนแห่งการอย่รู ่วมกันและความอุดม-สมบรณู ์
• ไก่ - สำหรบั ความเจริญกา้ วหน้า ซึ่งไกน่ ั้นจะต้องยังมีหวั หางและเท้าอยู่ เพอ่ื เปน็ การแสดงใหเ้ หน็ ถงึ
ความสมบูรณ์
• เสน้ หม่ี - ไม่ควรตดั เนื่องจากหมายถึงชวี ิตทยี่ ืนยาว
* ในทางตอนใตข้ องจนี อาหารทน่ี ิยมทีส่ ดุ และทานมากท่ีสุดได้แก่ ขา้ วเหนียวหวานนง่ึ บะ๊ จา่ งหวาน ซึ่งถือ
เปน็ อาหารอันโอชะ ส่วนทางเหนือได้แก่ หมัน่ โถและต่มิ ซำ เป็นอาหารที่นิยม
* อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรยี มในเทศกาลนมี้ คี วามหมายถงึ ความอุดมสมบรู ณแ์ ละความรำ่ รวยของบา้ น

อัง่ เปา
สญั ลักษณ์ที่ทุกคนทราบดีในวันตรษุ จนี คือ องั่ เปาสแี ดง โดยมธี รรมเนยี มคือ ผใู้ หญท่ ผี่ า่ นการแต่งงาน

มาและทำงานมรี ายไดแ้ ลว้ จะมอบซองสแี ดง(ท่มี เี งนิ จำนวนหน่งึ ขา้ งใน) ให้กับเด็กๆท่ีมีอายตุ ำ่ กวา่ หรือยงั
ไมไ่ ด้ทำงาน พรอ้ มกลา่ วสวสั ดปี ใี หม่ ซึ่งสแี ดงของอัง่ เปานั้นมีความหมายถึงโชคดี และเงินท่ใี ส่ในซองอ่ังเปานน้ั
มกั จะมจี ำนวนเป็นเลขนำโชคของจนี นน่ั คอื เลข 8

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

17

15 วนั แหง่ การฉลองตรุษจีน
วันแรกของปีใหม่ เปน็ การต้อนรบั เทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเน้ือ ในวันนี้ดว้ ยความ

เชอ่ื ท่วี ่าจะเปน็ การต่ออายุและนำมาซึ่งความสขุ ในชวี ิตใหก้ ับตน
วันทีส่ อง ชาวจนี จะไหวบ้ รรพชนและเทวดาทัง้ หลาย และจะดีเป็นพิเศษกบั สุนัข เลยี้ งดูให้ขา้ วอาบ

น้ำใหแ้ กม่ ัน ดว้ ยเชอื่ ว่า วันที่สองนเ้ี ปน็ วันทส่ี ุนัขเกดิ
วนั ทีส่ ามและส่ี เป็นวนั ของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแมย่ ายของตน
วันท่ีหา้ เรยี กว่า พูวู ซึง่ วันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพ่ือต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความรำ่ รวย

ในวนั นีจ้ ะไม่มใี ครไปเยยี่ มใครเพราะจะถือว่าเปน็ การนำโชคร้าย มาแกท่ ้ังสองฝ่าย
วนั ที่หก ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยย่ี มเยียนญาติพ่ีน้องเพ่ือนฝูงของ ครอบครวั และไปวัดไปวาสวด

มนตเ์ พื่อความร่ำรวยและความสขุ

วันทเ่ี จด็ ของตรุ ษุ จนี เปน็ วันทช่ี าวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่าน้ีจะทำนำ้ ที่ทำมาจาก
ผักเจ็ดชนิดเพอ่ื ฉลองวันนี้ วนั ทเ่ี จ็ดถอื เป็นวันเกิด ของมนุษย์ในวนั นี้อาหารจะเป็น หมี่ซวั่ กินเพ่ือชีวิตทีย่ าวนาน
และปลาดบิ เพ่ือความสำเรจ็

วันทแ่ี ปด ชาวฟูเจยี น จะมีการทานอาหารรว่ มกนั กับครอบครอบอีกครั้ง และเม่ือถึงเวลาเท่ยี งคนื ทุก
คนจะสวดมนตข์ องพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์

วนั ท่ีเก้า จะสวดมนต์ไหวแ้ ละถวายอาหารแก่ เง็กเซยี นฮ่องเต้

โรงเรยี นอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 18

วันทส่ี ิบถึงวันท่ีสบิ สอง เปน็ วันของเพอื่ นและญาตๆิ ซ่ึงควรเช้อื เชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่
ทานอาหารท่อี ุดมไปดว้ ยความมัน วันทสี่ บิ สามถือเปน็ วันท่ีเราควรทานข้าวธรรมดากับผกั ดองกมิ กิ ถือเปน็ การ
ชำระล้างร่างกาย

วนั ทส่ี บิ สาม ถือเปน็ วันทเี่ ราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเปน็ การชำระล้างร่างกาย
วันทีส่ ิบส่ี ควรเปน็ วันทีเ่ ตรยี มงานฉลองโคมไฟซ่งึ จะมีขึ้น ในคืนของวนั ทีส่ ิบหา้ แหง่ การฉลองตรุษจีน

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

19

บทที่ ๓
วิธีดำเนนิ โครงการ

การดำเนนิ โครงการ

โรงเรยี นอนุบาลตาก ได้จัดทำแผนการปฏบิ ตั งิ านโรงเรยี น โดยเปน็ โครงการหนง่ึ ทีบ่ รรจุใน
แผนปฏิบตั ิงานประจำปี ซ่งึ ในการศึกษา ๒๕๖3 มรี ายละเอียดการดำเนินกจิ กรรม ดังน้ี

วธิ ีดำเนินการ/ขั้นตอนดำเนนิ งาน
การดำเนินงาน/ขั้นตอนการดำเนินงาน (PDCA)

วิธีดำเนนิ การ/ข้ันตอนดำเนนิ งาน ระยะเวลา งบประมาณ ผู้รับผดิ ชอบ
18 พค.63 นายจกั รกฤษ์
1. ขนั้ เตรียมการ (PLAN) 1 ก.ค.63
1.1 ประชมุ วางแผนการดำเนินการ 27 ม.ิ ย.63 - และคณะ
1.2 แต่งต้ังคณะกรรมการดำเนนิ งาน 1 ก.ค. 63-
1.3 จดั ทำหลกั สตู ร เม.ย. 64 10,000 นายจกั รกฤษ์
ทกุ เดือน และคณะ
2. ขั้นดำเนนิ งาน ( DO)
กิจกรรมที่ 1 คำศัพทภ์ าษาจีนในชีวติ ประจำวนั ตลอดปี 10,000 นางเสาวรสและ
1.2 ไดใ้ หน้ กั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4-6 ภาคเรยี นละคร้งั คณะ
ภาคเรียนละครงั้
ไดน้ ำเสนอคำศัพทภ์ าษาจีนในชวี ิตประจำวันหน้าเสาธง 100,000 น.ส.จันทรจ์ ิรา
กจิ กรรมท่ี 2 พัฒนาครสู อนภาษาจนี ปีละคร้งั และคณะ
2.1 จัดทำแผนการเรียนรู้ ปีละครั้ง
2.2 จดั ทำนวตั กรรมนำเสนอBest 80,000 น.ส.กนกวรรณ
2.3 จัดกิจกรรม PLC ประชมุ การดำเนินงาน ภาคเรยี นละครง้ั และคณะ
กิจกรรมที่ 3 การส่ือสารภาษาจนี ใน
100,000 นายจักรกฤษ์
ชวี ิตประจำวนั และคณะ
3.1 ใช้ภาษาจนี การสื่อสารในหอ้ งเรยี นและการ

เรยี น โดยใช้เกมสห์ รอื เพลงในการเรยี น
3.2 จัดกจิ กรรมแขง่ ขันในระดบั ชนั้ ระดบั โรงเรยี น

ประจำสัปดาห์/ประจำเดือน
กิจกรรมท่ี 4 ภาษาจนี /วนั ตรุษจีน
4.1 นำนกั เรียนระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5

เข้ารว่ มกิจกรรมภาษาจนี
4.2 นำนักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6

เข้าร่วมกจิ กรรมวันตรษุ จีน
4.3 ศกึ ษานอกสถานที่ ปลี ะครัง้
กิจกรรมที่ 5 เปิดบา้ นวชิ าการ
5.1 การแสดงผลงานนักเรยี นและครภู าคเรียนละ

คร้ัง

โรงเรยี นอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

20

กิจกรรมที่ 6 งบดำเนนิ การ ตลอดปี 230,000 นายจักรกฤษ์
6.1 จัดซ้อื แบบเรียน วัสดุ อุปกรณ์ ในการจดั การ และคณะ
เรยี นการสอน
3. ขนั้ ตรวจสอบและประเมินผล ( check ) ทกุ ๆ 6 เดอื น นางสาวจตรุ พร
- กำกับ ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินการ ม.ี ค. 64 และ
นางเสาวรส
4. ขัน้ สรุป รายงานผล และปรบั ปรงุ (ACTION)
- นำผลการประเมนิ ที่ไดม้ าสรุปและรายงานผล นายจกั รกฤษ์
รวมเงิน และคณะ

530,000

๕. ระยะเวลาดำเนินการ ตลอดปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

๖. งบประมาณทีใ่ ช้
- ค่าบำรงุ การศึกษา
เปน็ เงินท้ังสิน้ ๕30,๐๐๐.- บาท

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

21

บทท่ี ๔
ผลการดำเนินโครงการ

รายละเอยี ดแผนงาน/โครงการ ประจำปกี ารศกึ ษา 2563 ฝา่ ยบรหิ ารงานวิชาการ โรงเรยี นอนบุ าลตาก

งบประมาณ งบประมาณท่ใี ช้จำแนก

กิจกรรมและข้ันตอนการดำเนนิ งาน ตามหมวดรายจ่าย

ตอบแทน ค่าใช้ คา่ วัสดุ คงเหลอื
วิทยากร สอย

กิจกรรมท่ี 1 คำศพั ทภ์ าษาจีนใน 10,000 - - 10,000 0.-

ชีวิตประจำวัน
เร่มิ 1 ก.ค. 63-เม.ย. 64

กจิ กรรมท่ี 2 พัฒนาครูสอนภาษาจนี 10,000 - - - 10,000
ตลอดปี

กิจกรรมท่ี 3 การส่ือสารภาษาจนี ใน 100,000 - - 50,149 49,851
ชีวิตประจำวนั
ภาคเรียนละครงั้

กจิ กรรมท่ี 4 ภาษาจีน/วนั ตรุษจนี 80,000 - 7,575 9,284 63,141

ปลี ะคร้ัง

กิจกรรมที่ 5 เปิดบา้ นวิชาการ 100,000 - - - 100,000

ภาคเรยี นละครง้ั

กจิ กรรมท่ี 6 งบดำเนินการ 230,000 - - 230,000 0

ตลอดปี

รวมงบประมาณ 530,000 - 7,575 289,433 222,992

จากการดำเนนิ โครงการพัฒนาทกั ษะการเรียนร้ภู าษาจนี ประจำปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ตามระดบั
ความสำเร็จ ไดผ้ ลดงั น้ี

ตัวบ่งชค้ี วามสำเรจ็ วธิ ีการประเมิน เครอื่ งมือ ผลการ
ประเมนิ
1. เพือ่ พัฒนาความรู้ความสามารถดา้ นการเรยี นการ - แบบสังเกต - แบบสงั เกต
สอนภาษาจีน ผา่ น
- การตรวจสอบผล - แฟ้มสะสม
2. เพอ่ื จดั หาวัสดุ อปุ กรณท์ จ่ี ำเป็นสำหรบั นกั เรียนท่ี ผา่ น
เรยี นภาษาจนี ในระดบั ปฐมวัยและประถมศึกษา - แบบประเมนิ ผล งาน
3. เพอื่ สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นมคี วามรู้ ความสามารถใน ผา่ น
การแขง่ ขนั ศิลปหัตถกรรมนักเรยี นในระดับชาติ - ผลการเรียน

- ประเมนิ ความพึง - แบบประเมิน

พอใจ

- การทดสอบ - แบบทดสอบ

- การเข้าร่วมการ

แขง่ ขนั กิจกรรมทาง

ภาษาจนี

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ 22

บทที่ ๕
สรปุ อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ

สรปุ ผล
๑. เพอื่ พัฒนาความรู้ความสามารถด้านการเรียนการสอนภาษาจีน ผู้เรยี นได้เรียนรู้ พัฒนา ตอบสนอง

ความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียนและเห็นคุณค่าของความรู้ที่ได้รับ ตลอดจนเป็นแนวทาง
ในการศกึ ษาตอ่ ในอนาคตและประกอบอาชพี ได้อย่างเหมาะสมและเปน็ ระบบท่ีทันสมัย

๒. เพื่อจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับนักเรียนที่เรยี นภาษาจีนในระดับปฐมวัยและประถมศึกษา
ผเู้ รยี นมีองคค์ วามรทู้ ำใหผ้ ูเ้ รยี นมีประสทิ ธภิ าพ ค่คู ณุ ธรรม จริยธรรม ตามความถนนั และความสนใจของผเู้ รียน

3. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ ความสามารถในการแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียนในระดับชาติ
ผู้เรียนได้รับการสง่ เสริมและปลูกฝงั จิตสำนึกการทำประโยชน์ตอ่ สงั คม ชมุ ชน และทอ้ งถนิ่ ในลักษณะต่างๆให้มี
ค่านยิ มที่ดีงาม อยู่รว่ มกบั สงั คมได้อย่างมคี วามสุข

อภปิ รายผล
จากการจดั พฒั นาทักษะการเรียนรู้ภาษาจนี ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๖3 ไดด้ ำเนินการพฒั นาทกั ษะ

การเรียนรภู้ าษาจนี เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ความสามารถในการสือ่ สารที่ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน ท่มี ี
ประสิทธิภาพ ทำให้โรงเรียนมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยใช้วธิ ีการประเมินความพงึ พอใจ ผลการ
ประเมนิ ผ่าน ร้อยละ 80 ความพึงพอใจของผเู้ รยี นและผู้ท่เี ก่ียวข้อง โดยใช้วธิ ีการประเมนิ ความพงึ พอใจ
ผลการประเมนิ ผา่ น ร้อยละ 80 ของผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน โดยใชว้ ิธีการประเมินความพงึ พอใจ ผลการ
ประเมิน ผ่าน

โรงเรยี นอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

ภาคผนวก

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

คำศัพท์ภาษาจีนในชีวติ ประจำวนั

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

พฒั นาครผู ้สู อนภาษาจนี

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

กจิ กรรมการเรยี น

โรงเรยี นอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

กจิ กรรมวันตรษุ จีน

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

กจิ กรรมวันตรษุ จีน

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

โครงการ

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

แผนงาน บริหารงานวชิ าการ

ชอื่ โครงการ พัฒนาทักษะการเรียนรูภ้ าษาจนี

สนองกลยุทธ์ ข้อที่ 1 การจัดการศึกษาเพ่ือเพิม่ ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ

สนองมาตรฐานสถานศึกษา มฐ.ท่ี 1 คุณภาพของผูเ้ รยี น

ลักษณะโครงการ โครงการตอ่ เนื่อง

ผรู้ บั ผิดชอบ นายจกั รกฤษ์ สืบสาตร์

ระยะเวลาดำเนนิ การ กรกฏาคม 2563 -เมษายน 2564

............................................................................................................................. .................................................

หลักการและเหตุผล

การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้

ความสามารถพัฒนาทักษะชวี ติ ให้พร้อมท่ีจะทำประโยชน์แกส่ งั คม ดงั น้ันการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ภาษาจีน

จำเป็นต้องสนับสนุนให้ครูสอนได้พัฒนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยี การจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม การทำ

วิจัยในชั้น รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนได้แสดงศักยภาพ ความสามารถด้านภาษาจีนอย่าง

หลากหลายพร้อมทั้งได้รับการนิเทศ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานต่างๆ ของครูผู้สอนอย่างต่อเนื่องและ

ตลอดปกี ารศกึ ษา อันจะกอ่ ใหเ้ กดิ คณุ ภาพประสิทธิภาพ และประโยชน์ต่อนักเรยี นและโรงเรยี นอย่างสูงสุด

จากการวิเคราะห์นักเรียนที่เรียนภาษาจีนและการแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน นักเรียนอ่าน

ภาษาจีนไม่ออก และไม่สามารถจำพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ภาษาจีนได้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนา

นักเรียนให้มีทักษะการจำ การอ่าน จึงต้องมีการพัฒนาการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียน และ

การเข้าแขง่ ขนั ศิลปหตั ถกรรมนกั เรียนตอ่ ไป

วัตถปุ ระสงค์
1. เพือ่ พฒั นาความรคู้ วามสามารถดา้ นการเรียนการสอนภาษาจีน
2. เพอ่ื จดั หาวสั ดุ อุปกรณท์ ีจ่ ำเปน็ สำหรับนกั เรียนท่ีเรยี นภาษาจีนในระดับปฐมวัยและประถมศกึ ษา
3. เพอ่ื สง่ เสริมให้นักเรียนมคี วามรู้ ความสามารถในการแข่งขนั ศิลปหัตถกรรมนักเรียนในระดับชาติ

เป้าหมาย
1. เชงิ ประมาณ
1. นกั เรยี นในโครงการ รอ้ ยละ 80 มคี วามรู้ความสามารถด้านการเรยี นการสอนภาษาจีน
2. จดั หาวัสดุ อปุ กรณท์ จ่ี ำเป็นสำหรบั นกั เรียนและส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี นเข้าแข่งขันใน

ระดบั ชาติ
2. เชงิ คณุ ภาพ
1. นักเรยี นโรงเรียนอนุบาลตาก ทเี่ รยี นภาษาจนี ใช้ภาษาจีนในการสือ่ สารได้
2. นักเรียนโรงเรียนอนบุ าลตาก ท่ีเรยี นภาษาจีนมีความรู้ความสามารถในการใชภ้ าษาเพ่ือ

การสอื่ สารและเขา้ สู่เวทกี ารแข่งขนั ในระดับตา่ ง ๆ ได้

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

วธิ ีดำเนินการ/ข้ันตอนดำเนนิ งาน ระยะเวลา งบประมาณ ผ้รู บั ผิดชอบ

วธิ ดี ำเนนิ การ/ข้ันตอนดำเนนิ งาน 18 พค.63 - นายจักรกฤษ์
1. ขน้ั เตรียมการ (PLAN) 1 ก.ค.63 และคณะ

1.1 ประชุมวางแผนการดำเนินการ 27 มิ.ย.63
1.2 แตง่ ตงั้ คณะกรรมการดำเนินงาน
1.3 จัดทำหลกั สตู ร 1 ก.ค. 63 10,000 นายจกั รกฤษ์
2. ข้นั ดำเนนิ งาน ( DO)
กจิ กรรมท่ี 1 คำศพั ท์ภาษาจีนในชวี ิตประจำวนั ทกุ เดือน และคณะ
1.3 ได้ให้นักเรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4-6
ได้นำเสนอคำศัพท์ภาษาจีนในชวี ิตประจำวันหน้าเสาธง ตลอดปี 10,000 นางเสาวรสและ
กิจกรรมที่ 2 พัฒนาครสู อนภาษาจีน คณะ
2.1 จดั ทำแผนการเรยี นรู้
2.2 จดั ทำนวตั กรรมนำเสนอBest ภาคเรียน 100,000 น.ส.จันทร์จิรา
2.3 จดั กจิ กรรม PLC ประชุมการดำเนินงาน ละครั้ง และคณะ
กิจกรรมที่ 3 การสื่อสารภาษาจีนในชวี ิตประจำวัน
3.1 ใช้ภาษาจนี การสอ่ื สารในหอ้ งเรยี นและการเรียน ภาคเรียน 80,000 น.ส.กนกวรรณ
โดยใช้เกมส์หรือเพลงในการเรียน ละครั้ง และคณะ
3.2 จัดกจิ กรรมแขง่ ขนั ในระดับช้นั ระดบั โรงเรียน
ประจำสปั ดาห์/ประจำเดือน ปลี ะครั้ง
กจิ กรรมที่ 4 ภาษาจนี /วันตรุษจีน
4.1 นำนกั เรยี นระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 ปลี ะครั้ง
เขา้ ร่วมกิจกรรมภาษาจีน
4.2 นำนกั เรียนระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ภาคเรยี น 100,000 นายจักรกฤษ์
เข้ารว่ มกจิ กรรมวนั ตรุษจีน ละคร้งั 230,000 และคณะ
4.3 ศึกษานอกสถานที่ ปีละครั้ง นายจักรกฤษ์
กิจกรรมท่ี 5 เปดิ บา้ นวิชาการ ตลอดปี และคณะ
5.1 การแสดงผลงานนักเรียนและครภู าคเรยี นละครงั้
กิจกรรมท่ี 6 งบดำเนนิ การ ทุกๆ 6 นางสาวจตุรพร
6.1 จัดซอื้ แบบเรียน วัสดุ อปุ กรณ์ ในการจดั การเรยี น เดอื น และ
การสอน นางเสาวรส
3. ข้ันตรวจสอบและประเมินผล ( check ) ม.ี ค. 64
- กำกบั ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินการ นายจักรกฤษ์
และคณะ
4. ขนั้ สรุป รายงานผล และปรับปรงุ (ACTION)
- นำผลการประเมินที่ไดม้ าสรุปและรายงานผล

รวมเงิน 530,000

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

ระยะเวลาดำเนินการ
ตลอดปีการศึกษา 2563

งบประมาณทใี่ ช้
งบประมาณตามโครงการพัฒนาทักษะการเรยี นรูภ้ าษาจีน จำนวน เงนิ 530,000.- บาท ถัวจ่ายทุกรายการ
หน่วยงาน/ผเู้ กยี่ วข้อง

ตันสังกัด องค์กรภาครัฐ เอกชน วดั ชุมชน และผปู้ กครอง
ระดับความสำเรจ็

ตัวบง่ ชีค้ วามสำเร็จ วิธีการประเมนิ เครอื่ งมือ หลักฐาน
1. เพ่ือพัฒนาความรคู้ วามสามารถดา้ นการเรียนการสอน - แบบสังเกต - แบบสงั เกต
ภาษาจีน - การตรวจสอบ - แบบ - แบบบนั ทึก
ผล สังเกต ผล
2. เพอื่ จัดหาวัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรบั นักเรยี นทเ่ี รยี น - แบบ - แฟ้มสะสม การเรียน
ภาษาจนี ในระดบั ปฐมวยั และประถมศกึ ษา ประเมินผล งาน
3. เพ่ือส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี นมีความรู้ ความสามารถในการ - ผลการ - แบบประเมนิ
แข่งขนั ศิลปหตั ถกรรมนกั เรียนในระดับชาติ - ประเมินความ เรียน
พึงพอใจ - เกียรตบิ ตั ร
- การทดสอบ - แบบ - รปู ภาพ
- การเขา้ ร่วม ประเมนิ - ผลการแข่ง
การแข่งขัน ขนั
กิจกรรมทาง -
ภาษาจีน แบบทดสอบ

ผลทคี่ าดวา่ จะได้รบั
1. โรงเรียนอนบุ าลตาก มีความรู้ ความสามารถ ในการใช้ภาษาจนี ในการสื่อสารไดเ้ ป็นอยา่ งดี
2. โรงเรียนอนบุ าลตาก ทีเ่ รียนภาษาจนี มีศกั ยภาพทางด้านการใชภ้ าษาจนี ในการส่ือสาร ได้เปน็

ตวั แทนไปแขง่ ขันในระดบั ต่าง ๆ ได้

ลงชอื่ ผเู้ สนอโครงการ
(นายจักรกฤษ์ สบื สาตร์)
ครูโรงเรียนอนบุ าลตาก

ลงชอ่ื ผ้เู ห็นชอบโครงการ
(นางเสาวรส จ๋ิวกาวี)

รองผอู้ ำนวยฝา่ ยวชิ าการโรงเรยี นอนบุ าลตาก

ลงชื่อ ผ้อู นุมัติโครงการ
(ดร.เสวก บญุ ประสพ)

ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลตาก

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

กลา่ วคำอวยพรวันตรษุ จีน
老师,同学们,大家好,春节即将到来,春节是中国传统
节日,希望节日期间,注意防防疫情,保护好自身安全,
祝愿老师及同学们,节日快乐,在新的一年工作顺利,学
习进步。
Lǎoshī, tóngxuémen, dàjiā hǎo, chūnjié jíjiāng
dàolái, chūnjié shì zhōngguó chuántǒng jiérì, xī
wàng jiérì qíjiān, zhùyì fáng fángyì qíng, bǎohù h
ǎo zìshēn ānquán, zhùyuàn lǎoshī jí tóngxuémen,
jiérì kuàilè, zài xīn de yī nián gōngzuò shùnlì,
xuéxí jìnbù.
เหลา่ ซือ ถงเฉว๋ียเมิน ต้าเจียห่าว ชุนเจีย๋ จี้เจยี งเต้าหลาย ชุนเจ๋ียชือ่ จงก๋ัว ฉวนถ่งเจยี๋ ร่ือ ซี
ว่างเจี๋ยรื่อชเี จียน จู้อี้ฝางฝางอฉี้ ิง เป่าหหู้ า่ วจ้ือ เชินอันเฉวียน จู้เยวี่ยนเหล่าซือ จถี๋ ง
เฉว๋ียเมนิ เจี๋ยรอ่ื ไควเ่ ล้อ จ้ายซนิ เตอะอีเหนียน กงจ้ัวซนุ่ ล่ี เฉวี่ยสีจ้ินปู้
สวสั ดคี ณะครแู ละนักเรยี นทกุ คน วันนเ้ี ปน็ วันสำคญั อีก1วนั น่ันกค็ อื วันตรษุ จีน ซึ่งถือวา่ เปน็ วนั ขน้ึ
ปีใหม่ของคนจีน ในโอกาสน้ี ผอ. ก็ขออวยพรให้ครูและนกั เรียนทกุ คนมีแตค่ วามสุขตลอดปี พบ
เจอแตค่ วามโชคดี เจรญิ ในหน้าทก่ี ารงาน ขอบคุณครับ

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

春节的神话
春节是中国最重要的节日,又叫“过年”。“年”是什么?听老
人说:古时候,有一种怪兽叫做“年”。

“年”比大象还要大。一年有三百六十五天,每天它要吃一种动物
。到弟三百六十五天的时候,“年”吃人。晚上,“年”会来到人住
的地方。

所以这一天人们会做很多吃的东西,在家里吃晚饭。吃完
晚饭,大家一起聊天,不到外面去。天亮的时候,“年”还没有找
到人,就走了。后来,大家知道“年”最害怕红色的东西和响声,
所以,“年”来的这一天,人们都穿着红色的衣服,在外面放鞭炮
,特别热闹。“年”看见红色的衣服,听见鞭炮的响声,很害怕,
再也不敢来吃人了。

Chūnjié de shénhuà
Chūnjié shì zhōngguó zuì zhòngyào de jiérì, yòu
jiào “guònián”.“Nián” shì shénme? Tīng lǎorén shuō: Gǔ shíhòu,
yǒuyī zhǒng guàishòu jiàozuò “nián”.
“Nián” bǐ dà xiàng hái yào dà. Yī nián yǒu sānbǎi liùshíwǔ
tiān, měitiān tā yào chī yī zhǒng dòngwù. Dào
dì sānbǎi liùshíwǔ tiān de shíhòu,“nián” chī rén.
Wǎnshàng,“nián” huì lái dào rén zhù dì dìfāng.
Suǒyǐ zhè yītiān rénmen huì zuò hěnduō chī de dōng
xī, zài jiālǐ chī wǎnfàn. Chī wán wǎnfàn, dàjiā yì qǐ liáotiān, bù dào
wàimiàn qù. Tiānliàng de shíhòu,“nián” hái méiyǒu zhǎodào rén,
jiù zǒule. Hòulái, dàjiā zhīdào “nián” zuì hàipà hóngsè de dōngxī
hé xiǎngshēng, suǒyǐ,“nián” lái de zhè yītiān, rénmen dōu
chuānzhuó hóngsè de yīfú, zài wàimiàn fàng biānpào, tèbié

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

rènào.“Nián” kànjiàn hóngsè de yīfú, tīngjiàn biānpào de
xiǎngshēng, hěn hàipà, zài yě bù gǎn lái chī rénle.

ชนุ เจ๋ียเตอะเสน๋ิ ฮ้วั

ชุนเจ๋ยี ซ่ือ จงก๋ัว จุ้ย จง้ เย้า เตอะ เจย๋ี ยรื้อ, โยว้ เจย้ี ว “กั้วเหนียน”. “เหนียน” ซอ่ื เสนิ๋
เมอะ? ทิงเหล่าเหริ๋นชัวร์ : ก่สู ือโฮว้ , โยว่ อจี ่งไกวโ้ ช้วเจ้ียวจ้ัว “เหนียน”.

“เหนียน” ปีต่ ้าเซ้ยี งหายเย้าต้า. อีเหนยี นโยว่ ซานไป่ล้ิวสอื อู่เทยี น, เหมย่ เทยี นทาเยา้ ชรือ
อจี ้งตง้ อ.ู้ เตา้ ตีซ้ านไปล่ วิ้ สืออู่เทียนเตอะสอื โฮว้ , “เหนียน” ชรือเหร๋นิ . หว่านซา่ ง, “เหนียน” ฮยุ้
หลายเต้าเหริ๋นจู้ตี้ ตี้ฟาง.

ซวั๋ อี่ เจ้ออเี ทียน เหรน๋ิ เมนิ ฮยุ้ จัว้ เหิน่ ตัวชรือเตอะ ตงซี, ไจเ้ จยี หล่ี ชรอื หว่านฟ้าน. ชรือ
หวาน หว่านฟา้ น, ต้าเจียอีฉี่ เหลยี วเทยี น, ปู้เต้าไหว้เม้ียนฉวี้. เทยี นเล่ียง เตอะ สือโฮว้ , “เหนียน”
หายเหม่ยโย่ว จ้าวเต้าเหริ๋น, จ้วิ โจว่ เลอะ. โฮ้วหลาย, ตา้ เจียจรือเตา้ “เหนียน” จุ้ย ฮ้ายผา้ หงเซ้อ
เตอะตงซี เหอ๋ เส่ียงเซิง, ซ๋ัวอ่ี, “เหนยี น” หลายเตอะ เจอ้ อีเทยี น, เหร๋นิ เมนิ โตว ชวนจัว๋ หงเซอ้
เตอะ อี ฟ,ุ ไจ้ ไหว้เม้ยี น ฟา้ งเปยี นเผา้ , เท้อเป๋ียเรอ้ เนา้ . “เหนียน” ค้านเจ้ยี น หงเซ้อ เตอะ อฟี ุ,
ทงิ เจ้ียน เปียนเผ้า เตอะ เสี่ยงเซงิ , เหิ่นฮา้ ยผ้า, ไจเ้ ย่ ปู้ กา่ นหลาย ชรอื เหรน๋ิ เลอะ.

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

ตำนานวันตรุษจีน

“ตรุษจีน” เปน็ เทศกาลที่สำคัญทีส่ ดุ ของชาวจนี เป็นวนั ขนึ้ ปใี หม่ตามปฏิทนิ จีนเชน่ เดียวกบั สงกรานต์
วันปีใหม่ของไทย ทกุ คนตา่ งใหค้ วามสำคัญอยา่ งย่ิง

“ตรษุ จีน” เป็นเทศกาลท่ีสำคัญทีส่ ุดของชาวจีน ทม่ี มี าแต่โบราณ ท่เี รียกว่า กว้อซุนเจีย๋ ในสมยั
โบราณ ในปา่ ทบึ แห่งหน่ึง มสี ัตวป์ ่าทด่ี ุรา้ ยและน่ากลัวมากตวั หนง่ึ เรียกว่า “เหนียน” มนั ออกมาอาละวาดกนิ
คนเปน็ ประจำ พระเจ้าจงึ ลงโทษมนั อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพยี งหน่งึ คร้ัง ใน 365 วัน ดังน้นั เม่อื ฤดู
หนาวใกล้จะผา่ นไป ฤดูใบไม้ผลเิ วียนมาใกล้ “เหนยี น” กจ็ ะออกมาทำรา้ ยผู้คน เพ่ือป้องกันการมาของเหนยี น
ในทกุ ๆ ครวั เรือนตา่ งสะสมเสบียงอาหาร และกบั ข้าวจำนวนหน่งึ ไว้ในบ้าน เมื่อถึงตอนค่ำของวนั ท่ี 30 เดอื น
12 กจ็ ะปิดประตูและหนา้ ต่างเอาไว้ ไม่หลับ ไม่นอนตลอดคืน เพ่อื ต่อสู้กับเหนยี น จนกระทงั่ ร่งุ เชา้ กจ็ ะเปน็ วัน
แรม 1 คำ่ เดือน 1 เมอ่ื เหนียนกลบั ไปแล้ว ทกุ ๆ ครวั เรอื น กจ็ ะเปดิ ประตูออกมาแสดงความยนิ ดตี อ่ กนั ทีโ่ ชค
ดไี ม่ถูกเหนยี นทำรา้ ย ต่อมาพบวา่ เหนียนมีจดุ อ่อน มีอยู่ครั้งหนง่ึ เม่ือเหนยี นมาถงึ หม่บู ้านแห่งหนงึ่ มีเดก็ กลุ่ม
หนงึ่ กำลังหวดแส้เล่นกัน เม่ือเหนียนไดย้ นิ กเ็ ลยตกใจเผ่นหนีไป เม่ือเหนียนไปถึงหมบู่ า้ นอีกแหง่ หน่งึ เหน็ มีชุด
เส้อื ผ้าสีแดงตากอย่หู น้าบา้ นของครอบครวั หน่งึ สีแดงฉูดฉาดนนั้ ทำให้เหนยี นตกใจเผ่นหนีไปอีก เมื่อเหนียน
มาถึงหมบู่ ้านแหง่ ท่ีสาม ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลงิ กองหน่งึ บนถนน แสงเพลิงทีเ่ จดิ จา้ ทำให้เหนยี นตอ้ งเผน่
หนไี ปอีก ตง้ั แต่น้นั มาผคู้ นต่างรวู้ ่า แม้วา่ เหนยี นจะดุรา้ ยแต่มันกก็ ลัวสีแดง เสียงดัง และไฟ ทำใหผ้ คู้ นสามารถ
คิดหาวธิ ีกำจดั เหนยี นได้โดยไมย่ ากนัก

เม่อื วันส่งทา้ ยตรุษจีนเวยี นมาอีกคร้ัง ทกุ ๆ ครัวเรอื นตา่ งนำกระดาษสแี ดงตดิ ไวบ้ นประตูหน้าบ้าน
แขวนโคมไฟสแี ดง พร้อมกับจุดประทัดและตฆี ้อง รัวกลอง อยา่ งต่อเนอื่ ง เม่อื เหนยี นมาถึงในตอนเย็น เห็น
ทุกๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสวา่ งไสว มีเสยี งประทัดดงั สนั่น จึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าปา่ ไป และไม่กลา้ ออกมา
อาละวาดอกี ทุกๆ คน จงึ ผา่ นพน้ คืนแห่งอนั ตรายไปอยา่ งปลอดภยั เม่ือฟา้ สางแลว้ ผคู้ นจงึ ออกจากบ้าน
กลา่ วคำอวยพรซง่ึ กนั และกนั พรอ้ มกบั นำอาหารออกมารบั ประทานร่วมกนั อยา่ งสนุกสนาน ตอ่ มาวันดงั กลา่ ว
จงึ กลายมาเปน็ วนั เฉลมิ ฉลองทมี่ แี ต่ความสุข

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

รายชือ่ นกั เรียนรับเกียรติบตั ร
การแขง่ ขนั วาดภาพระบายสี วนั ตรุษจีน

อนบุ าล 1
อ.1/1
ท่ี 1. เดก็ ชายกววี ัธน์ ทองศาลา(1)
ที่ 2. เด็กชายปวริศ ทองมีมา(2)
ท่ี 3. เดก็ ชายอฌฬิ ะ ถาวรงามยิง่ สกุล(3)
อ.1/2
ท่ี 1. เดก็ หญิงณัฏฐกานต์ ปะนามะตัง(4)
ที่ 2. เดก็ หญงิ พัณณ์พิชญา บุญพนิ (5)
ท่ี 3. เดก็ หญิงอมลวรรณ โทนปั่น(6)
อ.1/3
ท่ี 1. เด็กหญิงธรรม์ศิริ มุมทอง(7)
ท่ี 2. เด็กหญงิ วรศิ รา สรอ้ ยสน(8)
ที่ 3. เดก็ หญงิ กานตธ์ ิดา เกิดแยม้ (9)
อ.1/4
ท่ี 1. เด็กหญิงณฏั ฐธิดา ราษี(10)
ที่ 2. เด็กหญิงพชั รากร วงศ์กระจา่ ง(11)
ท่ี 3. เดก็ หญงิ รดา สุขบท(12)
อนุบาล 2
อ.2/1
ที่ 1. เด็กหญิงพิชญา ชื่นอุรา(13)
ที่ 2. เด็กหญิงลกั ษณ์นารา บทู่ อง(14)
ที่ 3. เด็กชายธนธศั มามวลทรัพย์(15)
อ.2/2
ที่ 1. เดก็ หญงิ สชุ านรี ใจแพร่(16)
ท่ี 2. เด็กหญิงลนิ ณาฌา สมิทธสิ ุนทร(17)
ท่ี 3. เด็กชายนนท์ ดาวงษ(์ 18)
อ.2/3.
ที่ 1. เด็กหญิงวภิ าวี อนิ หมี(19)
ที่ 2. เด็กหญิงชลดิ า จติ ต์คำมี(20)

โรงเรยี นอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

ท่ี 3. เด็กชายกวีวัธน์ รองเมือง(21)
อ.2/4
ท่ี 1. เดก็ ชายชยากร กรีธาพล(22)
ท่ี 2. เดก็ ชายอนนั ต์ยศ สวุ รรณทตั (23)
ท่ี 3. เด็กหญงิ ญฐั วรา นรพลั ลภ(24)
อ.2/5
ที่ 1. เด็กชายพชรพล พรมคำ(25)
ท่ี 2. เดก็ หญิงธมลวรรณ เครือยา(26)
ที่ 3. เดก็ หญิงกานตร์ ดา เจรญิ ศรี(27)
อนุบาล 3
อ.3/1
ที่ 1. เด็กหญงิ ฐรินดา ศรสี ุข(28)
ท่ี 2. เด็กชายชนม์สวัสดิ์ คำแกว้ (29)
ท่ี 3. เดก็ ชายณัฐดนยั ตาคำ(30)
อ.3/2
1. เด็กชายปวรรจุ เก๊าคำ(31)
2. เด็กชายจริ ณัฐ คชรตั น์(32)
3. เด็กชายณดล คำกลอน(33)
อ.3/3
ท่ี 1. เด็กชายธาวิน จรพรม(34)
ท่ี 2. เด็กหญงิ พริ าอร พลู ทอง(35)
ที่ 3. เดก็ ชายจิรเมธ รวมธรรม(36)
อ.3/4
ที่ 1. เด็กชายพรรครพล อุดมชัย(37)
ที่ 2. เด็กหญงิ สวุ ิชาดา จนั ทาทิพย์(38)
ที่ 3. เด็กหญิงบวรลักษณ์ มาเนตร(39)
อ.3/5
ที่ 1. เดก็ หญงิ วฤณพร พรมหาญ(40)
ท่ี 2. เดก็ ชายสรัล ฤทธิล์ ำเจียก(41)
ที่ 3. เดก็ ชายธนพฒั น์ บญุ เฉลิม(42)

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

รายช่อื นกั เรียนรับเกียรติบตั ร
การแขง่ ขันวาดภาพระบายสี วนั ตรษุ จนี

สายช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1
ที่ 1 เดก็ หญิงชญาดา โมกขะเวส หอ้ ง mep ป.1/1 (43)
ท่ี 2 เด็กหญิงกฤตชญา นาคนำ้ ห้อง mep ป .1/1 (44)
ท่ี 3 เด็กหญงิ ภัคภิญญา รัตนพร ป.1/2 (45)
ชมเชย 1 เด็กหญงิ พรนัชชา มณีนวล ป.1/2 (46)
ชมเชย 2 เด็กหญงิ ธัญญรตั น์ บุญรัตน์ ป.1/7(47)

สายชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2
ท่ี 1 เดก็ หญิงณิชาภัทร ชยั เดช ป.2/2 (48)
ท่ี 2 เด็กชาย เมธิชยั ยอดสุวรรณ ป.2/2 (49)
ที่ 3 เดก็ หญวิ พิมชญา ปันทะรส ป.2/2 (50)
ชมเชย 1เดก็ หญงิ มนต์นภา สญู แกว้ ป.2/2 (51)
ชมเชย 2 เดก็ หญงิ ศุภกานต์ เรือศรจี ันทร์ ป.2/2 (52)

สายชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ที่ 1 เด็กชาย รัชชานนท์ ทำอนิ แกว้ ป.3/1 (53)
ท่ี 2 เด็กหญิงณฐพร อ่อนพรม ป.3/6 (54)
ท่ี 3 เด็กชาย ธนพล ตาวงษ์ ป.3/6 (55)
ชมเชย 1เด็กหญิง สภุ าวติ า เพชรยง่ิ เจรญิ พร ป.3/1 (56)
ชมเชย 2 เด็กหญิง ธนชั ญา เหีย่ วยา ป.3/1 (57)

สายชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4
ที่ 1 เดก็ หญงิ กัญญาณฐั พรมอ้าย ป.4/2 (58)
ที่ 2 เด็กหญิงปณดิ า ด้วงนา ป.4/3 (59)
ท่ี 3 เดก็ ชาย ณัฐพฒั น์ ทะนานนท์ ป.4/1 (60)
ชมเชย 1เด็กชายเอกรินทร์ โกธรรม ป.4/5 (61)
ชมเชย 2 เด็กหญิงกัญญาภัค เพชรวงษ์ ป.4/3 (62)

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

สายชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5
ท่ี 1 เดก็ หญงิ ศิรพัชร์ เรืองสวุ รรณ ป.5/3 (63)
ที่ 2 เดก็ หญิงประพิมพ์ภทั ร อินจนั ทร์ ป.5/2 (64)
ที่ 3 เดก็ หญิงรมิดา แรมนลิ ป.5/4 (65)
ชมเชย 1เด็กหญงิ ณภัทร ตันยา ป.5/4 (66)
ชมเชย 2 เด็กหญิงภูษณิศา เพียรช่าง ป.5/1 (67)
สายช้ันประถมศึกษาปีที่ 6
ที่ 1 เด็กหญิง อนญั ญา เน่ืองชงั ป.6/3 (68)
ที่ 2 เดก็ หญิงปลายฝัน ไทยทอง ป.6/1 (69)
ท่ี 3 เดก็ ชาย ปรยิ วิศว์ ตาวงษ์ ป.6/3 (70)
ชมเชย 1เดก็ หญิงสิรนิ ทรา แหมา ป.6/5 (71)
ชมเชย 2 เดก็ หญงิ อารยา กัลยาณมติ ร ป.6/5 (72)

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

คำส่ัง

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

คำสงั่ โรงเรยี นอนบุ าลตาก
ท่ี 26 / ๒๕๖4

เรอื่ ง แตง่ ตง้ั คณะกรรมการดำเนินงานจดั กจิ กรรมวนั ตรษุ จีน ประจำปกี ารศึกษา ๒๕๖3
................................................................................................

ด้วยรายวิชาภาษาจีน กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นอนบุ าลตากกำหนดจัด
กิจกรรมวันตรุษจีน ประจำปีการศึกษา 2563 ในวันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 07.50–
08.40น. ณ อาคารโดมหน้าเสาธง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กำหนดไว้เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ภาษาจีนในสถานการณ์
ตา่ งๆ โดยเฉพาะเรยี นรู้ภาษาในวัฒนธรรมเจา้ ของภาษาและสามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้

เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุตามวั ตถุประสงค์
อย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบการบริหาร
ราชการกระทรวงศึกษาธิการพ.ศ.2546 และตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติระเบยี บข้าราชการ
ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2547 จึงแต่งตัง้ คณะกรรมการรบั ผิดชอบการดำเนนิ งาน ประกอบดว้ ย

๑. คณะกรรมการอำนวยการ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลตาก ประธาน
๑.๑ นายเสวก บุญประสพ
๑.๒ นางสาวจตรุ พร มหาภาส รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนอนบุ าลตาก กรรมการ
๑.๓ นางเสาวรส จว๋ิ กาวี
1.4 นางสาวลักขณา จิ๋วปญั ญา รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลตาก กรรมการ
๑.5 นางวาสนา บวั งาม
1.6 นายจักรกฤษ์ สบื สาตร์ รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลตาก กรรมการ

ผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการฝ่ายวชิ าการ กรรมการ

ครูโรงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการและเลขานกุ าร

มีหนา้ ที่ ให้ความสะดวกให้คำปรึกษาและสนบั สนนุ การปฏิบัติหน้าทข่ี องคณะกรรมการฝา่ ย
ตา่ งๆประกอบดว้ ยให้เป็นไปด้วยความเรียบรอ้ ย

๒. คณะกรรมการฝา่ ยดำเนนิ งาน ครโู รงเรียนอนบุ าลตาก ประธาน
๒.๑ นายจกั รกฤษ์ สืบสาตร์
๒.2 นางสาวกนกวรรณ นามลู ครูโรงเรียนอนบุ าลตาก กรรมการ
๒.3 นางสาวจนั ทรจ์ ริ า วสธุ าศรี ี
ครูโรงเรยี นอนบุ าลตากกรรมการและเลขานกุ าร

มหี นา้ ท่ี วางแผนกำหนดการจดั กิจกรรม จดั เตรียมเอกสารและเกียรตบิ ัตร ฯลฯ

๓. คณะกรรมการจัดปา้ ยนเิ ทศ ครูโรงเรียนอนบุ าลตาก ประธาน
3.1 นายจกั รกฤษ์ สบื สาตร์ ครโู รงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการ
3.2 นางสาวกนกวรรณ นามลู ครโู รงเรียนอนบุ าลตาก กรรมการ
3.3 นางสาวมณฑติ า สบื เจ๊ก ครูโรงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการ
3.4 นางเสาวนยี ์ ธนสมปตั ติ

โรงเรยี นอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

3.5 นางสาวธรรญชนก ทองอำ่ ครูโรงเรยี นอนบุ าลตาก กรรมการ
3.6 นางสาวศริ ิญา วันต๊ะ
3.7 นางสาวฐิติมา สตุ ิ ครูโรงเรยี นอนบุ าลตาก กรรมการ
3.8 นางสาวมสั ลนิ เขยี วลำยอง
3.9 นางสาวสุธิดา เจริญชยั นนั ท์ ครูโรงเรียนอนุบาลตาก กรรมการ
3.10 นางสาวอมรรัตน์ อรุณเจรญิ
3.11 นางสาวอจั ฉรา แกว้ ชู ครโู รงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการ
3.12 นางสาวนฤมล นำ้ เงิน
3.13 นางสาวภทรวรรณ คมุ้ จน่ั ครูโรงเรียนอนุบาลตาก กรรมการ
3.14 นางสาวจนิ ตหรา จันทรบตุ ร
3.15 นางสาวกนิษฐา มหาวงศ์ ครูโรงเรียนอนุบาลตาก กรรมการ
3.16 นางสาวจันทรจ์ ริ า วสุธาศีรี
ครโู รงเรยี นอนบุ าลตาก กรรมการ

ครูโรงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการ

ครโู รงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการ

ครูโรงเรยี นอนบุ าลตาก กรรมการ

ครูโรงเรียนอนุบาลตาก กรรมการ

ครูโรงเรียนอนบุ าลตากกรรมการและเลขานุการ

มีหน้าท่ี จดั บอรด์ ให้ความรแู้ ละจัดสถานทีใ่ ห้เหมาะสมกับการเรยี นรู้ ฯลฯ

4. คณะกรรมการตัดสนิ การแข่งขนั ประกวดผลงานวิชาการ (วาดภาพระบายสี)

4.1 นางสาวณฐั กรณ์ ขตั วิ งษ์ ครโู รงเรยี นอนุบาลตาก ประธาน

4.2 นายกมล หอมหวล ครโู รงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการ

4.3 นางสาวภทรวรรณ คมุ้ จน่ั ครโู รงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการ

4.4 นายเทพ ทองสุระวิโรจน์ ครูโรงเรียนอนบุ าลตาก กรรมการ

4.5 นางสาวฐติ ิมา สุติ ครโู รงเรยี นอนบุ าลตาก กรรมการ

4.6 นางเสาวนยี ์ ธนสมปตั ติ ครูโรงเรยี นอนบุ าลตาก กรรมการ

4.7 นางสาวจันทร์จริ า วสธุ าศีรี ครโู รงเรยี นอนุบาลตากกรรมการและเลขานกุ าร

มหี น้าท่ี ตดั สนิ การแข่งขันวาดภาพระบายสนี ักเรยี น ชว่ งชัน้ ท่ี 1 และ ชว่ งชัน้ ที่ 2

5. คณะกรรมการจัดสถานที่

5.๑ นายเทพ ทองสุระวโิ รจน์ ครโู รงเรยี นอนุบาลตาก ประธาน
กรรมการ
5.๒ นายพีระพงษ์ วรรณสทุ ธ์ิ ครูโรงเรียนอนบุ าลตาก กรรมการ
กรรมการ
5.๓ นายสกนธ์ บัวทอง ครูโรงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการ
กรรมการ
5.๔ นายเนรมติ ใจโปร่ง ครูโรงเรียนอนุบาลตาก กรรมการ
กรรมการ
5.๕ นายธีระวทิ ย์ คงพนั ธ์ ครูโรงเรียนอนุบาลตาก กรรมการ
กรรมการ
5.๖ นางสาววิไลวรรณ ทำสีนาค ครูโรงเรยี นอนบุ าลตาก กรรมการ
กรรมการ
5.๗ นางสาวณัฐกรณ์ ขตั ิวงษ์ ครโู รงเรยี นอนบุ าลตาก กรรมการ

5.8 นางสาวอนงค์ นกั สัตย์ ครโู รงเรียนอนบุ าลตาก

5.9 นางสาวจันทร์ฉาย มสี วนทอง ครโู รงเรียนอนบุ าลตาก

5.10 นางสาวเมธนิ ี แซเ่ ตียว ครโู รงเรยี นอนุบาลตาก

5.11 นางสาวสร้อยไพรินทร์ วริ ยิ ะรตั นพร ครูโรงเรียนอนุบาลตาก

5.12 นางกรี ตกิ ร เดชะวงษ์ ครโู รงเรียนอนุบาลตาก

5.13 นางสาวจุฑามาศ พทุ ธโศภษิ ฐ์ ครูโรงเรยี นอนุบาลตาก

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะการเรียนรภู้ าษาจนี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

5.14 นางสาวนนั ทยา บุญอินทร์ ครูโรงเรยี นอนุบาลตาก กรรมการ
5.๑5 นายจักรกฤษ์ สบื สาตร์
ครูโรงเรียนอนบุ าลตากกรรมการและเลขานกุ าร

มีหนา้ ที่ จดั สถานท่ี เวที วัสดุ อปุ กรณ์ เครื่องเสียง ฯลฯ

6. คณะกรรมการฝา่ ยประชาสัมพันธ์

6.1 นายธนพนั ธ์ จนั สายทอง ครโู รงเรยี นอนุบาลตาก ประธาน

6.2 นางสาวสุพัชรีภรณ์ อาวรณ์ เจ้าหนา้ ท่ีสารสนเทศ กรรมการและเลขานุการ

มีหน้าที่ ประสานงานการจัดกจิ กรรม ประชาสมั พันธ์กิจกรรมวนั ตรุษจีน

7. คณะกรรมการฝา่ ยพิธีกร ครโู รงเรยี นอนบุ าลตาก ประธาน
7.1 นางสาวนฤมล นำ้ เงิน
7.2 นางสาววรกานต์ เขม้ ขัน ครูโรงเรียนอนบุ าลตากกรรมการและเลขานุการ

มหี น้าท่ี เป็นพธิ กี รในกิจกรรม และประชาสัมพนั ธก์ จิ กรรมวันตรษุ จีน

8. คณะกรรมการสรุปและรายงานผลการดำเนนิ งาน

8.๑ นายจักรกฤษ์ สบื สาตร์ ครโู รงเรียนอนบุ าลตาก ประธาน

8.2 นางสาวกนกวรรณ นามลู ครูโรงเรียนอนบุ าลตาก กรรมการ

8.3 นางสาวจันทรจ์ ริ า วสธุ าศรี ี ครโู รงเรียนอนบุ าลตากกรรมการและเลขานกุ าร

มีหนา้ ที่ สรุปผล ประเมินผล รายงานผลการดำเนนิ งาน
ใหผ้ ้มู รี ายนามตามคำสั่งนปี้ ฏิบตั หิ น้าท่ที ไ่ี ด้รับมอบหมาย ให้เปน็ ไปดว้ ยความเรยี บร้อย เกดิ ประโยชน์
สงู สุดตอ่ โรงเรียนและนักเรียนเปน็ สำคัญ

สง่ั ณ วนั ท่ี 9 เดอื น กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖4

(ลงชือ่ )
(นายเสวก บุญประสพ)

ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนอนบุ าลตาก

โรงเรียนอนบุ าลตาก สพป. ตาก เขต ๑

รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะการเรยี นรภู้ าษาจนี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

กำหนดการ
กิจกรรมวันตรุษจนี
วันท่ี 11 กุมภาพนั ธ์ 2564

เวลา 07.50 – 08.00 น.นักเรียนอ่านประวตั ิวันตรุษจีน
เวลา 08.00 – 08.10 น. เปิดงานและกล่าวอวยพรโดยท่านผู้อำนวยการดร.เสวก บุญประสพ
เวลา 08.10 – 08.30 น. พธิ มี อบเกยี รติบตั ร
เวลา 08.30 – 08.40 น. พิธีปิด
หมายเหตุ
การแต่งของครู ชุดก่ีเพ้าหรอื โทนสีแดง
การแตง่ ของนักเรียน โทนสีแดง

โรงเรียนอนุบาลตาก สพป. ตาก เขต ๑


Click to View FlipBook Version