สื่อเรียนรู้ออนไลน์ระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย
วชิ าสมนุ ไพรพนื� บา้ นกบั การดแู ลสุขภาพ รหัสวชิ า ทช33045
ตอนที่ 1 ความหมาย ความสคัญของพืชสมุนไพร
สมุนไพร หมายถึง พืชที่มีที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค หรืออาการเจ็บ
ป่วยต่างๆการใช้สมุนไพรสำ หรับ รักษาโรค หรืออาการเจ็บป่วยต่างๆนี้จะ
ต้องนําเอาสมุนไพรตั้งแต่สองชนิดขึ้นขึ้ ไป มาผสมรวมกันซึ่งซึ่จะเรียก
ว่า“ยา” ในตํารับยา นอกจากพืชสมุนไพรแล้วยังอาจประกอบด้วยสัตว์และแร่
ธาตุอีกด้วย
“พืชสมุนไพร” หรือวัตถุธาตุนี้หรือตัวยาสมุนไพรนี้แบ่งออกเป็น 5 ประการ
1. รูป ได้แก่ ใบไม้ดอกไม้เปลือกไม้แก่นไม้กระพี้ไม้รากไม้เมล็ด
2. สีมองแล้วเห็นว่าเป็นสีเขียวใบไม้สีเหลือง สีแดง สีส้ม สีม่วง สีน้ําตาล สีดํา
3. กลิ่นลิ่ ให้รู้ว่ามีกลิ่นสี หอม เหม็น หรือกลิ่นอย่างไร
4. รส ให้รู้ว่ามารสอย่างไร รสจืด รสฝาด รสขม รสเค็ม รสเปรี้ยว รสเย็น
5. ชื่อ ต้องรู้ว่ามีชื่ออะไรในพืชสมุนไพรนั้นๆ ให้รู้ว่าของเป็นอย่างไร ข่าเป็นอย่างไร
ใบขี้เหล็กเป็นอย่างไร
เรื่องที่ 1.2 ความสําคัญของพืชสมุนไพร
สมุนไพร เป็นยาพื้นบ้านแผนโบราณของไทยมาแต่อดีต ความ
นิยมในการใช้สมุนไพรได้ลดถอยลงไปบ้างเมื่อเทคโนโลยี
ทางการแพทย์เข้ามา
สมุนไพร เป็นพืชอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีการปลูก
ใช้ประโยชน์มานานแล้ว เพราะบางชนิดสา
มารถนํามารับประทานเป็นอาหาร ให้คุณค่า
ทางอาหารและยังให้รสชาติที่ทำที่ให้เจริญ
อาหารสมุนไพรหลายชนิดยังมีสรรพคุณ
เป็นยารักษาโรคช่วยย่อยอาหารแก้อาการ
ท้องอืดท้องเฟ้อในอดีตการปลูกสมุนไพรมัก
กระทํากันในลักษณะการปลูกผักสวนครัวริม
รั้วหลังบ้านตามที่ว่างเปล่าจะใช้ประโยชน์
เมื่อใดก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ทันที
ตอนที่ 2.1 ประเภทและส่วนต่างๆของพืชสมุนไพรพืชสมุนไพรที่หมอยา
เลือกนํามาใช้ทํายา จําแนกตามส่วนต่างๆของพืชเป็นหลักได้ 5 ส่วน
ส่วนของ “พืชสมุนไพร” เหล่านี้มีลักษณะลําต้น ยอด ใบ ดอก ที่แตกตางกัน
ไปตามสายพันธุ์แต่ส่วนต่างๆก็ทําหน้าที่ที่เช่นเดียวกัน เช่น รากก็ทําหน้าที่ดูด
อาหารเลี้ยงลําต้นกิ่งก้านต่างๆและใบกับส่วนต่างๆนั่นเองใบก็ทําหน้าที่ ปรุง
อาหาร ดูดออกซิเจน คายาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ดอก ผล เมล็ด ก็ทําหน้าที่
สืบพันธุ์กันต่อไป เพื่อทําให้พืชพันธุ์นี้แพร่กระจายออกไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด
1.ราก ( ROOT ) เป็นส่วนที่ต่อจากลําต้นหรือเหง้า ทําหน้าที่ดูด หรือ
ลําเลียงอาหารมาเลี้ยงลําต้นและช่วยค้ําจุนต้นไม้ให้ทรงตัวอยู่ได้พืชบางชนิด
รากจะพองออก เป็นที่เก็บอาหารเรียกว่า หัว รากมีหลายชนิด เช่นรากใต้ดิน
ได้แก่ รากมะนาว รากบนดิน ได้แก่ รากมะพร้าวรากอากาศ ได้แก่ รากบอระ
เพ็ด เป็นต้น
แบ่งออกเปน็ 2 ชนิด คือ
1.1 รากแก้ว
1.2 รากฝอยรากฝอยเป็น
2.ลําต้นหรือต้น แบ่ง
ออกได้เป็น 3 ส่วนด้วยกัน
คือ ตา ข้อ ปล้อง บริเวณ
เหล่านี้จะมี กิ่ง ก้าน ใบ
ดอกเกิดขึ้น อีกด้วย
3.ใบ ใบมีส่วนประกอบรวม 3 ส่วนด้วยกันคือ
3.1 ตัวใบ
3.2 ก้านใบ
3.3 หูใบ
ชนิดของใบ แบ่งออกเป็น ป็ 2 ชนิด คือ
1) ชนิดใบเลี้ยงเดี่ยว
2) ชนิดใบประกอบ หมายถึง ตั้ง แต่ 2 ใบ
ขึ้นไปที่เกิดขึ้น
4. ดอก ส่วนของดอก
เป็น ส่วนที่สําคัญมี
ด้วยกัน 5 ส่วน คือ
4.1 ก้านดอก
4.2 กลีบรอง
4.3 กลีบดอก
4.4 เกสรตัวผู้
4.5 เกสรตัวเมีย
5. ผลหรือฝัก แบ่งตามลักษณะ ของการเกิดได้รวบ 3 แบบ
5.1 ผลเดียว หมายถึง ผลที่เกิดจากรังไข่อันเดียวกัน
5.2 ผลกลุ่ม หมายถึง ผลที่เกิดจากปลายช่อของรังไข่ในดอก
เดียวกัน เช่น น้อยหน่า กระดังงาสตรอเบอรี่ เป็นต้น
5.3 ผลรวม หมายถึง ผลที่เกิดจากดอกหลายดอกเช่น สับปะรด
ขนุน
ตอนที่ 3.2 สรรพคุณของพืชสมนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน
พืชสมุนไพรเพื่อรักษากลุ่มโรค / อาการเจ็บป่วยต่างๆ
1. พืชสมุนไพรเพื่อรักษากลุ่มโรค / อาการเจ็บป่วยในระบบทางเดินอาหาร
1.1 พืชสมุนไพรเพื่อรักษาโรคกระเพาะอาการ (สมุนไพรในงานสาธารณสุข)
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุข) : ขมิ้นชัน
1.2 กลุ่มสมุนไพรแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด (สมุนไพร
ในงานสาธารณสุข)1) ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุข) : ขิง
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน) : กระเทียม
1.3 กลุ่มสมุนไพรแก้อาหารท้องผูก (สมุนไพรในงานสาธารณสุข)
1) ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสขมุ ลู ฐาน) : ชุมเห็ดเทศ
1.4 กลุ่มสมุนไพรแก้อาการท้องเสยี (สมุนไพรในงานสาธารณสุข)
1) ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมลฐาน ู ) : ฝรั่ง
2) ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน ) : ฟ้าทะลายโจร
1.5 กลุ่มสมุนไพรแก้อาการคลืนไส้อาเจียน (สมุนไพรในงานสาธารณสุข
มลฐาน ู )1) ชื่อสมุนไพร (สมุนไรในงานสาธารณสขุ ) : ขิง
1.6 กลุ่มสมุนไพรรักษาโรคพยาธิลิาไสํ ้ (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน)
1) ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน ู ) : มะเกลือ
1.7 กลุ่มสมุนไพรรักษาอาการปวดฟัน
ฟั (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน)
1) ขื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน ) : แก้ว
1.8 กลุ่มสมุนไพรรักษาอาการปวดฟัน (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน)
1) ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสขมูลฐาน) : บอระเพช็ร
3. พืชสมุนไพรเพือรักษากลุ่มโรค / อาการเจ็บป่วยในระบบทางเดินปัสสาวะ
3.1 กลุ่มสมุนไพรแก้อาการขัดเบา (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน)
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุข) : กระเจี๊ยบแดง
4.3 กลุ่มสมุนไพรเพื่อรักษาแผลไฟไหม้ น้ําร้อนลวก (สมุนไพรงาน
สาธารณสุขมูลฐาน
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน) : บัวบก
4.4 กลุ่มสมุนไพรเพื่อรักษาอาการแพ้อักเสบจากแมลงสัตว์กัดต่อย
(สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน)
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุข) : ขมิ้น
4.5 กลุ่มสมุนไพรเพื่อรักษาอาหารลมพิษ (สมุนไพรในงาน
สาธารณสุขมูลฐาน)
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน) : พลู
4.6 สมุนไพรเพื่อรักษางูสวัด (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน)
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน) : พญายอ
5. พืชสมุนไพรเพื่อรักษากลุ่มโรค / อาการ
เจ็บป่วยอื่นๆ
5.1 กลุ่มสมุนไพรเพื่อรักษาอาการเจบป่วย
เคล็ด ขัด ยอก (สมุนไพรในงาน
สาธารณสุขมูลฐาน)ชื่อสมุนไพร (สมุนไพร
ในงานสาธารณสุขมูลฐาน) : ไพล
5.2 กลุ่มสมุนไพรเพื่อรักษาอาการนอนไม่
หลับ (สมนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน)
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุข
มูลฐาน ) : ขี้เหล็ก
5.3 กลุ่มสมุนไพรเพื่อรักษาอาการไข้ (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน)
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน) : ฟ้าทะลายโจร
5.4 กลุ่มสมุนไพรเพื่อรักษาโรคหิดเหา (สมุนไพรในงานสาธารณสขมูลฐาน)
ชื่อสมุนไพร (สมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน) : น้อยหน่า
ตอนที่ 4.1 สมุนไพรที่นำที่มาทําเป็นเครื่องดื่มการชง การต้มเช่น ดื่ม เพื่อบํารุง
สุขภาพอย่าง กระเจี๊ยบ มะตูม เก๊กฮวย ใบเตย ใบบัวบก หรือเพื่อรักษาโรค เช่น
รางจืด หญ้าปักกิ่งหญ้าหนวดแมว น้ําตะไคร้ เป็นต้น
ตอนที่ 5.1 การใช้สมุนไพรในการป้องกัน บําบัด และรักษาอาการต่าง ๆด้วย
สมุนไพรเรื่องที่ 1 การใช้สมุนไพรในการป้องกัน บําบัด และฟืนฟูสุขภาพด้วยวิธีการนวด
ขอบคุณครับ