The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แปลหนังสือ หลักศรัทธาของชาวอะลิซซุนนะห์
อ่านฟรี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by satitsangpaijit, 2022-05-04 03:02:46

แปลหนังสือ หลักศรัทธาของชาวอะลิซซุนนะห์

แปลหนังสือ หลักศรัทธาของชาวอะลิซซุนนะห์
อ่านฟรี

หนังสือ หลกั ศรทั ธาของชาวอะลิซซนุ นะห์
(หลกั ศรทั ธาของบรรดาอิมามอะหล์ ุลฮะดีษ)

ประพนั ธโ์ ดย
ท่านอหี ม่าม อลั ฮาฟิซ อบบี กั ร อะหมดั บุตร อบิ รอฮมี บุตร อสิ มาอลี

อลั อสิ มาอลี ยี ์ อชั ชาฟีอยี ์ (ช่วงชวี ติ 277-371 ฮจิ เราะห)์

แปลโดย ยนู ุส แสงไพจติ ร์
ตรวจทานโดย อาจารย์ มุนีร มหู ะหมดั

คานา

มวลการสรรเสรญิ เป็นกรรมสทิ ธิข์ องพระองค์อลั ลอฮผู้ทรงอยู่
เบ้ืองบนเหนืออะรชั ของพระองค์และข้าพเจ้าขอซอลาวาตให้แก่ท่าน
ศาสนฑตู มฮู มั มดั ผเู้ ป็นบ่าวของพระองคท์ ด่ี ที ส่ี ดุ

ผู้แปลได้พบหนังสือเล่มน้ี ขณะท่ีข้าพเจ้าเดินทางไปจังหวดั
มนิ ูฟียะห์ ประเทศอยี ปิ ต์ และไดอ้ ่านหนังสอื เล่มน้ี ซ่งึ เป็นการยนื ยนั ว่า
บรรดานักวชิ าการดา้ นฮะดษี ในช่วงปลายยุคสลฟั ได้มีการเขยี นหนังสอื
หลกั การศรทั ธาตามแนวทางอะหล์ ซิ ซุนนะฮ์เอาไว้ ขา้ พเจา้ จงึ ไดท้ าการ
แปลตวั บทหนังสอื เล่มน้ีเท่านัน้ เพ่อื ยนื ยนั ความเช่อื มนั่ ศรทั ธาว่าน้ีคอื
ความเช่อื ตามแนวทางสลฟั ของนักวชิ าการฮะดีษ และตวั ข้าพเจ้าไม่มี
ส่วนเก่ียวข้องใดๆกับหลักความเช่ือหลงผิด ท่ีตีความและ ปฏิเสธ
คุณลกั ษณะของพระองคอ์ นั ไพจติ ร

ตัวบทหนังสือเล่มน้ี เป็ นความเช่ือหลักพ้ืนฐานของชาว
อะลซิ ซุนนะฮ์ ทไ่ี ม่ไดล้ งรายละเอยี ด และขา้ พเจา้ หวงั เป็นอย่างยง่ิ ว่าจะได้
แปลคาอธิบายหนังสอื เล่มน้ี เพ่อื เป็นวทิ ยาทานทางความรู้วชิ าการสบื
ตอ่ ไป ดว้ ยอนุมตั ขิ องพระองค์

ยูนุส แสงไพจิตร์

ประวตั ิผปู้ ระพนั ธโ์ ดยสงั เขป

ผูป้ ระพนั ธ์ตวั บทน้ีเป็นอหี ม่ามจากบรรดาปวงปราชญ์อะลิซซุน
นะห์วลั ญะมาอะห์ ซ่ึงมชี ่อื เสยี งทางวชิ าการ ท่านคอื ชยั คุ้ลอสิ ลาม อลั
ฮาฟิ ซ อัลฮุญญะห์ อบูบักร อะหมัด บุตร อิบรอฮีม บุตร อิสมาอีล
อลั ญรุ ญานีย์ อลั อสิ มาอลี ยี ์ อชั ชาฟีอยี ์ ทา่ นถอื กาเนดิ ในฮจิ เราะหท์ ่ี 277

ท่านศึกษาหาความรู้และสายรายงานหะดีษจากปวงปราญช์ใน
เมอื งของท่านตงั้ แตย่ งั เยาวว์ ยั มาก โดยทอ่ี ายขุ องทา่ นนนั้ ยงั ไม่ถงึ 6 ขวบ
ต่อจากนนั้ ท่านไดเ้ รมิ่ ออกเดนิ ทางเพอ่ื แสวงหาฮะดษี และสายรายงานตาม
หัวเมืองต่างๆ ท่านได้รับความรู้จากอาจารย์ของท่าน ส่วนหน่ึงมี
ดงั ต่อไปน้ี ท่านอบูยะอล์ า อลั เมาซูลยี ์ ท่าน อบิ นุคุซยั มะห์ ท่านบะฆอวยี ์
ท่านซริ อจ และอาจารยข์ องทา่ น ทา่ นอน่ื ๆ ทอ่ี ย่รู ะดบั เดยี วกบั พวกเขา ณ
เมอื งครุ อซาน เมอื งหญิ าซ และอริ กั

หลงั จากทท่ี ่านไดส้ าเรจ็ การศกึ ษา ทา่ นไดเ้ อาความรเู้ หล่าน้ีมาส่ง
ทอดตอ่ จนมลี ูกศษิ ยบ์ างท่านไดก้ ลายเป็นระดบั นกั วชิ าการผนู้ าศาสนาชนั้
แนวหน้า ได้แก่ ท่านอบูอบั ด้ิลละห์ อลั ฮากมิ ท่าน อบูบกั ร อลั บรั กอนีย์
ทา่ นอบูซะอดี อลั นุ๊กก๊อซ

ส่วนตวั ของท่านเองไดป้ ระพนั ธ์หนังสอื มากมายหลายหลากทาง
วชิ าการอนั ทรงคุณค่า ไมว่ ่าจะเป็นเรอ่ื งหลกั ศรทั ธาความเช่อื เชน่ หนงั สอื

เล่มน้ีท่ีได้แปลจากตัวบทซ่ึงนักวิชาการได้อ้างอิง ส่วนหน่ึงจาก
นกั วชิ าการทอ่ี า้ งองิ หนงั สอื ของท่านคอื ทา่ นชยั คุลอสิ ลาม อบิ นุ ตยั มยี ะฮ์

ท่านมตี าราทางด้านสายรายงานฮะดษี ไม่ว่าจะเป็น มุสตคั รอจ
ของซอเฮ้ยี ะห์บุคอรี และตารามะซาน้ีดอกี มากมาย ไดแ้ ก่ มุสนัดอุมรั มุ
สนดั อะลี มสุ นดั ยะหย์ า อลั อนั ซอรยี ์

ทางดา้ นฟิกฮ์ ทม่ี กี ารประพนั ธ์ทางดา้ นนิตศิ าสตรข์ องสายมซั ฮบั
อหี ม่ามชาฟีอยี ์

การตพี มิ พต์ าราของท่านเหล่าน้มี นี ้อยมาก เม่อื เทยี บกบั ทท่ี ่านได้
ประพนั ธเ์ อาไว้

ท่านเสยี ชวี ติ ฮจิ เราะหท์ ่ี 371 โดยมอี ายุ 94 ปีขอพระองคอ์ ลั ลอฮ์
ทรงเมตตาทา่ น และขอใหท้ ่านพานกั อย่ใู นสวนสวรรคอ์ นั ผาสุก.



ด้วยพระนามของพระองคอ์ ลั ลอฮผ์ ้ทู รงเมตตาผทู้ รงปรานีเสมอ

ท่านอิบนุกุดามะฮ์ ได้กล่าวว่า ท่านชะรฟี อบุ้ลอบั บาซ มซั อูด
บุตร อบั ดล้ิ วาเฮด บุตรมะฏรั อลั ฮาชมิ ย่ี ์ ไดเ้ ล่าว่า ท่านฮาฟิซ อบูอลั อะ
ลาอ์ ซออดิ บตุ ร ซยั ยาร อลั ฮะรอวย่ี ์ ไดเ้ ล่าวา่ ท่านอบฮู ะซนั อาลี บุตร มู
ฮมั หมดั อลั ญุรญาน่ีย์ ได้เล่าว่า ท่านอบูกอซิม ฮมั ซะฮ์ บุตร ยูซุฟ อซั
ซะห์ม่ยี ์ ได้เล่าว่า ท่านอบูบักร อะหมดั บุตร อิบรอฮีม อัลอิสมาอีล่ยี ์
เก่ยี วกบั หนังสอื หลกั ศรทั ธาแห่งแนวทางซุนนะห์ ของท่านนัน้ ได้กล่าว
วา่

ท่านทงั้ หลายพงึ ทราบเถดิ ว่า –พระองค์ทรงเมตตาเราและพวก
ท่าน- แท้จรงิ แนวทางอะลุ้ลฮะดีษ(นักฮะดษี ) นัน้ คอื แนวทางอะลิซซุน
นะหว์ ลั ญะมาอะห์ ดงั ต่อไปน้ี

1. การน้อมรบั ศรทั ธาต่อพระองค์อลั ลอฮ์ ต่อบรรดามลาอิกะห์
ของพระองค์ ต่อบรรดาคัมภีร์ของพระองค์ และบรรดาศาสนทูตของ
พระองค์

2. การยอมรบั ในสงิ่ ทค่ี มั ภรี ์ของพระองค์ (อลั กรุอาน) ได้ระบุไว้
และยอมรบั ต่อเร่ืองท่ีได้มีรายงานมาอย่างถูกต้องจากศาสนฑูตของ
พระองค์ โดยไม่มกี ารปรบั เปลย่ี นในสง่ิ ทไ่ี ดม้ มี า และไม่มีทางทจ่ี ะปฏเิ สธ
มนั ได้ ฉะนนั้ พวกเขาถูกสงั่ ใชใ้ หย้ ดึ ตามอลั กรุ อาน และซุนนะฮ์ของท่านน
บี เน่ืองจากทางนาแห่งแสงสว่างนัน้ รวมอย่ใู น 2 สงิ่ นนั้ ถอื เป็นประจกั ษ์
พยานแก่พวกเขาว่า ท่านนบี (ศ็อลฯ) ของพวกเขา ได้นาทางสู่แนวทาง
อนั เทย่ี งตรง และผทู้ ต่ี กั เตอื นต่อพวกเขาในเร่อื งทค่ี า้ นกบั สงิ่ ทท่ี ่านนบไี ด้
นามาถอื เป็นฟิตนะห์ (ความวุ่นวาย) และเป็นการลงโทษอนั เจบ็ แสบ

3.และพวกเขา (บรรดานกั ฮะดษี ) ยดึ มนั่ ในความเช่อื ทว่ี า่ แทจ้ รงิ
อลั ลอฮ์-ตะอาลา-ไดร้ บั การขอดุอาอ (ขอววิ รณ์) ได้ด้วยกบั พระนามอนั
ไพจติ รของพระองค์ ด้วยคุณลกั ษณะของพระองค์ ตามท่พี ระองค์ทรง
เรยี กนามนนั้ และใหค้ ุณลกั ษณะนนั้ ไว้ ดว้ ยตวั ของพระองคเ์ อง และตามท่ี
ท่านนบ(ี ศ็อลฯ)ได้ใหค้ ุณลกั ษณะของพระองคไ์ วใ้ นเร่อื งคุณลกั ษณะของ
พระองค์

4. พระองคท์ รงสรา้ งอาดาดว้ ยกบั พระหตั ถข์ องพระองคเ์ อง

5. และพระหตั ถ์ทงั้ สองของพระองค์ ทรงแผ่กว้างยงั พวกท่าน
ตามทพ่ี ระองคท์ รงประสงค์ โดยทม่ี ไิ ดเ้ ชอ่ื มนั่ ในรปู แบบวธิ กี าร

6.และพระองค์ (ซุบห์ฯ) ทรงอยู่เหนืออะรชั (บลั ลงั ค)์ โดยไม่ได้
พูดถงึ รูปแบบวธิ กี าร ดงั นัน้ แทจ้ รงิ แลว้ พระองค์อลั ลอฮ์ ผูท้ รงสูงส่งทรง
ตรสั ว่า พระองคท์ รงอยู่เหนืออะรชั (บลั ลงั ค)์ และไม่ได้กล่าวถงึ รูปแบบ
วธิ กี ารการอย่บู นอะรชั ของพระองค์

7.และแทจ้ รงิ พระองคค์ อื ผู้มกี รรมสทิ ธใิ์ นสง่ิ ท่พี ระองค์ทรงสร้าง
และพระองคท์ รงเนรมติ พวกเขา ไม่ไดม้ พี ง่ึ พงิ ใดๆยงั สง่ิ ทถ่ี ูกสรา้ ง และไม่
มนี ัยใดในเชงิ ความหมายทจ่ี ะเรยี กรอ้ งพระองคไ์ ปส่กู ารสรา้ งพวกเขา แต่
ทว่าพระองค์ทรงเป็นผู้กระทาตามท่พี ระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์
ทรงตัดสินต ามท่ีพระอ งค์ทรงต้อ งการพระอ งค์จะไม่ถู กถ าม จา ก สิ่ง ท่ี
พระองคท์ รงกระทา และบรรดาสงิ่ ถูกสรา้ งต่างหากจะถกู ถามถงึ สงิ่ ทพ่ี วก
เขาไดก้ ระทา

8.และแท้จรงิ แล้วพระองค์จะได้รบั การขอดุอาอ (ววิ รณ์ขอพร)
ด้วยพระนามอันไพจิตรของพระองค์ และถูกให้คุณลักษณะ ด้วย
คุณลกั ษณะของพระองค์ ดงั ท่พี ระองคไ์ ดเ้ รยี กนามของพระองคแ์ ละทรง
ตรสั ถงึ คุณลกั ษณะดว้ ยตวั ของพระองคเ์ อง และดงั ทท่ี า่ นนบี (ศอ็ ลฯ) ของ
พระองคไ์ ดท้ รงเรยี กนามของพระองคแ์ ละคุณลกั ษณะของพระองคเ์ อาไว้
แลว้

9.ไม่มีส่ิงใดท่ีจะให้พระองค์ไร้สมรรถภาพได้ ทงั้ บนพ้ืนหน้า
แผน่ ดนิ และทอ้ งฟ้า

10.และพระองค์จะไม่ถูกใหค้ ุณลกั ษณะดว้ ยคุณลกั ษณะบกพรอ่ ง
หรอื น่าตาหนิหรอื คุณลกั ษณะเส่อื มเสยี ดงั นนั้ แทจ้ รงิ พระองคท์ รงสูงส่ง
จากสง่ิ ทไ่ี ดก้ ลา่ วมา

11.และพระองคท์ รงสรา้ งอาดาดว้ ยพระหตั ถข์ องพระองคเ์ อง

12.และพระหตั ถ์ทงั้ สองของพระองค์ ทรงแผ่กว้างยงั พวกท่าน
ตามท่ีพระองค์ทรงประสงค์ โดยมไิ ด้เช่ือมนั่ ในรูปแบบวธิ กี ารของพระ

หตั ถข์ องพระองค์ ฉะนนั้ คมั ภรี ข์ องพระองค์ (อลั กุรอาน) มไิ ดร้ ะบเุ อาไวใ้ น
เร่อื งน้ี ถงึ วธิ กี ารรปู แบบดงั กล่าว

13.และพระองคจ์ ะไม่ถูกเช่อื มนั่ ในตวั พระองค์เร่อื งการมอี วยั วะ
ภายนอกและอวยั วะภายใน ไม่เช่อื ในเร่ืองความยาว ความกวา้ ง ความ
หนาแน่น ความบางละเอยี ด เช่นเดยี วกบั สง่ิ ถกู สรา้ ง และแทจ้ รงิ แลว้ ไมม่ ี
สงิ่ ใด เสมอเหมอื นกบั พระองค์ –พระพกั ตรแ์ หง่ พระผอู้ ภบิ าลผทู้ รงจาเรญิ
เป็นผทู้ รงสงู สง่ และทรงมเี กยี รต-ิ

14.และพวกเขา (บรรดานกั ฮะดษี ) จะไมก่ ลา่ ววา่ แทจ้ รงิ แลว้ พระ
นามของพระองคอ์ ลั ลอฮ์นนั้ ไม่ใช่พระนามของพระองค์ ดงั ทพ่ี วกมุอตะซิ
ละฮ์ คอวารจิ ญ์ และพวกอารมณ์นิยมต่าทรามไดก้ ล่าวเอาไว้

15.และพวกเขา (บรรดานักฮะดีษ) จะยืนยันให้แก่พระองค์
อลั ลอฮ์ ว่า พระองค์ทรงมพี ระพกั ตร์ ทรงได้ยนิ ทรงมองเหน็ ทรงรอบรู้
ทรงสามารถ ทรงมพี ลงั ทรงมอี านาจ และทรงมพี ระดารสั ไม่ใช่ดงั ทพ่ี วก
เบ่ยี งเบนอนั ต่าทรามจากพวกมุอตะซิละฮ์และกลุ่มอ่นื ๆ ไดก้ ล่าวเอาไว้
แต่ทว่า พระองคอ์ ลั ลอฮ์ตรสั วา่

‫َويَبْ َ ىٰقٰ َو ْجهٰٰ َربِّ َٰك‬

“และพระพกั ตรข์ องพระเจา้ ของเจา้ เท่านนั้ ทย่ี งั คงอยู่”
[ซูเราะฮอ์ รั เราะหม์ าน 55:27]

และพระองคอ์ ลั ลอฮตรสั ว่า

ٰ‫أَن َز َلٰٰ ِب ِعلْ ِم ِه‬

“พระองคไ์ ดท้ รงประทานสงิ่ นนั้ ลงมาดว้ ยความรขู้ องพระองค์”

[ซูเราะฮอ์ นั -นซิ าอ์ 4:166]

และพระองคอ์ ลั ลอฮต์ รสั ว่า

‫َشا ََء‬ ‫بِ َمَا‬ َّ َِ‫ِعلْ ِمه‬ ‫ِم َْن‬ ‫ب ِ َش ْي َء‬ ‫ُيحِي ُطو ََن‬ ‫َول َا‬
‫إِلا‬

“และพวกเขาจะไม่สามารถลอ้ ม (ตระหนกั ถงึ ) สงิ่ ใดไดจ้ ากความรู้
ของพระองคไ์ ด้ นอกจากสงิ่ ทพ่ี ระองคท์ รงประสงคเ์ ท่านนั้ ”

[ซเู ราะฮ์ อลั -บะเกาะเราะฮฺ 2:255]

และพระองคอ์ ลั ลอฮต์ รสั วา่

‫هَّلِلَف الْ ِع َّزَُة َجمِي ًعَا‬

“ดงั นนั้ อานาจทงั้ มวลเป็นของพระองคอ์ ลั ลอฮ์”
[ซูเราะฮ์ ฟาฏริ 35:10]

และพระองคอ์ ลั ลอฮต์ รสั ว่า

‫َوال َّس َما َءَبَ َنيْ َنا َهاَبِ َأيْ َد‬

“และชนั้ ฟ้า เราไดส้ รา้ งมนั ดว้ ยพระหตั ถ์”
(ซเู ราะฮ์ อซั ซารยิ าต 51:47)

และพระองคอ์ ลั ลอฮต์ รสั วา่

‫أَ َولَ َْم يَ َر ْوَا أَ ََّن اّ َّل ََل الَّ ِذ َي َخ َل َق ُه َْم ُه َوَ أَ َش َد ِمنْ ُه َْم ُق َّوًَة‬

“พวกเขาไมเ่ หน็ ดอกหรอื วา่ แทจ้ รงิ อลั ลอฮ์ผทู้ รงสรา้ งพวกเขานนั้
ทรงพลงั กวา่ พวกเขา” [ซูเราะฮ์ ฟุศศลิ ตั 41:15]







“เช่นเดยี วกบั ทพ่ี ระองคไ์ ดท้ รงบงั เกดิ พวกเจา้ แตแ่ รกนนั้ พวกเจา้
ก็จะกลบั ไป พวกหน่ึง พระองค์ทรงนาทางให้ และพวกหน่ึงสมควรแก่
พวกเขาแลว้ ซง่ึ การหลงผดิ ” [ซูเราะฮ์ อลั -อะอร์ อฟ 7:29-30]

และพระองคอ์ ลั ลอฮต์ รสั วา่

‫َوال ْ ِإن ِ َس‬ ْ ‫ِم ََن‬ ‫َكثِي ًرَا‬ َ‫ِلجَ َه َّن َم‬ ‫َذ َر ْأنََا‬ ‫َولَ َق َْد‬
َ‫ال ِج ِن‬

“และแน่นอนเราได้บงั เกดิ สาหรบั ญะฮนั นัม (นรก) ซง่ึ มมี ากมาย
จากญนิ และมนุษย”์ [ซูเราะฮ์ อลั -อะอร์ อฟ 7:179]

และพระองคอ์ ลั ลอฮต์ รสั ว่า

َ ‫َقبْ َِل‬ ‫ِمن‬ َ‫كِ َتاب‬ ‫ف ِي‬ َّ َ‫أَن ُف ِس ُك ْم‬ ‫ف ِي‬ ‫َول َا‬ َ‫ال ْ َأ ْر ِض‬ ‫ف ِي‬ َ‫م ِصي َبة‬ ‫ِمن‬ َ‫أَ َصا َب‬ ‫َمَا‬
‫أن‬ ‫إِلا‬

‫َّنبْ َرأَ َهَا‬

“ไม่มเี คราะหก์ รรมอนั ใดเกดิ ขน้ึ ในแผ่นดนิ น้ี และไม่มแี มแ้ ต่ในตวั
ของพวกเจา้ เอง เวน้ แตไ่ ดม้ ใี นบนั ทกึ กอ่ นทเ่ี ราจะสรา้ งมนั ขน้ึ มา”

(ซเู ราะฮ์ อลั ฮะดดี 57:22)

และความหมายของ ‫ َّنبْ َرأَ َهَا‬คอื เราไดส้ รา้ งมนั โดยไมม่ กี ารขดั แยง้
ทางภาษา

และพระองค์อลั ลอฮ์ทรงได้เล่าเก่ยี วกบั ชาวสวรรค์โดยพวกเขา

กลา่ วว่า

‫اّ َّل َُل‬ ‫َه َدانََا‬ ‫أَ َْن‬ ‫لَ ْول َ َا‬ َ‫ل ِ َن ْه َت ِد َي‬ ‫ُك َّنَا‬ ‫َو َمَا‬ ‫لِ َهٰ َذَا‬ ‫َه َدانََا‬ َّ ِ‫ِّ َّلَل‬ ‫الْحَ ْم َُد‬
‫ال ِذي‬























41.และพวกเขา (บรรดานักฮะดีษ) จะยืนยนั เร่อื งการเป็นคอ
ลฟี ะฮ์ของท่านอบูบกั ร (รฏฯิ ) ต่อจากท่านศาสนทูตแห่งอลั ลอฮฺ (ศอ็ ลฯ)
ด้วยการคดั เลอื กของบรรดาซอฮาบะห์ ต่อมาคอื การเป็นคอลีฟะฮ์ของ
ท่านอุมรั หลงั จากท่านอบบู กั ร (รฏฯิ ) ดว้ ยการกบั คดั เลอื กตามการแนะนา
ของท่านอบูบกั ร ต่อมาคอื การเป็นคอลฟี ะฮ์ของท่านอุสมาน (รฏฯิ ) ด้วย
กบั การประชุมของสภาชูรอและบรรดามสุ ลมิ เน่อื งจากคาสงั่ ของท่านอุมรั
ต่อมา คอื การเป็นคอลฟี ะฮ์ของท่านอาลี บุตร อบีฏอลบิ (รฎฯิ ) ด้วยกบั
การใหส้ ตั ยาบนั ของผู้ทใ่ี หส้ ตั ยาบนั จากสมรภูมบิ ะดรั ไดแ้ ก่ท่าน อมั ม๊าร
บุตร ยาซีร ท่าน ซะฮ์ลุ บุตร หุนัยฟ์ และบรรดาผู้ท่ตี ามเขาทงั้ 2 จาก
บรรดาซอฮาบะห์ ทงั้ ผทู้ ม่ี าก่อนและผทู้ ม่ี คี วามประเสรฐิ

42.และพวกเขา (บรรดานกั ฮะดษี ) จะกล่าวกนั ถงึ ความประเสรฐิ
ของบรรดาซอฮาบะฮ์ซ่ึงท่ีพระองค์อัลลอฮ์ทรงพอใจในตัวพวกเขา
เน่อื งจากพระองคต์ รสั วา่

ِ‫قَ َْد َر ِض ََي اّ َّل ُلَ َع ِنَ الْ ُم ْؤ ِمنِي ََن إِ َذْ ُي َبايِ ُعونَ َكَ َتحْ ََت ال َّش َج َرَة‬

“โดยแน่นอน พระองค์ทรงพอใจต่อบรรดาผู้ศรทั ธา ขณะทพ่ี วก
เขานนั้ ไดใ้ หส้ ตั ยาบนั แกเ่ จา้ ใตต้ น้ ไม้ (ทฮ่ี ุดยั บยิ ะฮฺ)”

[ซเู ราะฮ์ อลั ฟัตฮ์ 48:18]

และคาพดู ของพระองคท์ ว่ี ่า

َ‫َوال َّسابِ ُقو َنَ ال ْ َأ َّولُو َنَ ِم ََن الْ ُم َهَا ِج ِري َنَ َوال ْ َأن َصارَِ َوالَّ ِذي َنَ ا َّت َب ُعو ُهم بِإِ ْح َسانَ َّر ِض َي‬
َ‫اّ َّل ُلَ َعنْ ُه ْم‬






















Click to View FlipBook Version