จัด จั ทำ โดย รายงาน เรื่อรื่ง กีฬกี าฟุตซอล นางสาวปานชีว ชี า สำ เริญ ริ รัมรัย์ ชั้นชั้ม.4/1 เลขที่ 10 รหัสหั ประจำ ตัวตั 03880 เสนอต่อ ต่ ว่าว่ที่ร้ที่อ ร้ ยตรีก รี านต์ แสงศิริ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของ วิชวิ าสุขศึกษา พ31102 ภาคเรีย รี นที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ณ โรงเรีย รี นชำ นิพิท พิ ยาคม อ.ชำ นิ จ.บุรี บุ รั รี มรัย์ สำ นักงานเขตพื้นพื้ที่กที่ารศึกษามัธมัยมศึกษาบุรี บุ รั รี มรัย์
รายงานเล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาสุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ใน เรื่อง "กีฬาฟุตซอล" และได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์กับการเรียน ผู้จัดทำ หวังว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ กับผู้อ่านหรือนักเรียนที่กำ าลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้อแนะนำ หรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำ ขอน้อมรับไว้และขออภัย ณ ที่นี้ด้วย คำ นำ ผู้จัดทำ นางสาวปานชีวา สำ เริญรัมย์
สารบัญ ประวัติกีฬาฟุตซอลในต่างประเทศ การแข่งขันฟุตบอล 5 คน ในระดับนานาชาติ กติกาฟุตซอล การฟาวล์ 5 ทักษะการเล่นฟุตซอล กฎกติกาเบื้องต้นและสิ่งที่ควรรู้ก่อนเล่นฟุตซอล วิธีการเล่นฟุตซอล วิธีการเล่นฟุตซอลที่ผิดกติกา ประโยชน์ของการเล่นฟุตซอล 1-2 3 4-7 หน้า 8 9-10 11 12 13 14
ประวัติกีฬาฟุตซอลในต่างประเทศ ต้นกำ เนิดของฟุตซอล มาจากการเล่นฟุตบอลแบบข้างละ 5 คน สามารถมองย้อนไปในปี 1930 ที่มอนเตวิโอ ประเทศอุรุกวัย เมื่อฮวน คาร์ลอส เซอเรียนีได้นำ ฟุตบอลข้างละ 5 คนนี้ไปใช้ในในการแข่งขันที่ สมาคม YMCA ได้เล่นโดยใช้พื้นที่ของสนามบาสเกตบอลในการเล่น ทั้งภายในและภายนอกโรงยิมจึงทำ ให้เกิดการเล่นแบบอินดอร์ซอ คเกอร์ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากเพราะไม่มีปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ อินดอร์ซอคเกอร์ได้รับความนิยมและมีคนให้ความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆส่วนในประเทศบราซิลมีการกล่าวถึงการพัฒนาฟุตซอลมาจาก ฟุตบอลข้างถนน กระทั่งปี ค.ศ. 1932 โรเจอร์ เกรน ได้บัญญัติกฎที่เป็นมาตรฐานในการควบคุมการแข่งขันขึ้นและได้ใช้กฎและข้อ บังคับนี้ใช้จนมาถึงปัจจุบัน คำ ว่าฟุตซอล (Futsal) คือ คำ ที่นานาประเทศใช้เรียกกีฬาประเภทนี้โดยมีรากศัพท์มาจากประเทศสเปนหรือโปตุเกส ที่เรียก soccer ว่า “FUTbol” หรือ “FUTebol” และที่ภาษาฝรั่งเศสหรือสเปนเรียก Indoor ว่า“SALa” ที่แปลว่า อินดอร์ หรือในร่ม ซึ่งรวมเป็นค าว่า “fUtSAl” แต่เป็นคำ ที่มีฐานจากประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ “fUtSAl” (USA) คำ ที่เป็นชื่อของประเทศสหรัฐอเมริกา จึงมี การใช้คำ ว่า FUTSAL แทน ซึ่งหมายถึงการเตะบอลในสนามขนาดย่อมในร่ม กลายเป็นคำ ที่เรียกขานกันแทนคำ ว่า “Five-A-Side” หรือบอล5 คนนอกจากนั้นการเล่นฟุตซอลกลางแจ้งเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวประเทศในบางทวีปของโลกที่ประสบกับปัญหาหิมะตกและ สภาพอากาศที่หนาวมากไม่สามารถจัดการแข่งขันกีฬากลางแจ้ง ได้ จึงถือเป็นช่วงสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขันแต่เนื่องจากฤดูหนาวมีระยะ เวลาที่ยาวนานและสภาพอากาศกลางแจ้งไม่เอื้ออำ นวยต่อการเล่นกีฬาฟุตบอล จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำ ให้คนหันมาเล่นกีฬาในร่มแทน และนี่คือที่มาของกีฬาฟุตบอลในร่ม 5 คน หรือที่เรียกว่า “ฟุตซอล”(FUTSAL) การแข่งขันฟุตซอลมีการจัดการแข่งขันอยู่เป็นประจำ ในประเทศแถบอเมริกาใต้ ฟุตซอลจึงเป็นเกมการแข่งขันที่ชาวอเมริกาใต้นิยม เล่นกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศบราซิล ซึ่งมีนักกีฬาที่มีทักษะความสามารถเฉพาะตัวในการเล่นฟุตบอลสูง ด้วยลีลาอัน เร้าใจ และสนุกสนานจากนักเตะชื่อก้องโลกอย่าง เปเล่ ซิโก้ โซคราเตสเบเบโต้ โรนัลดินโญ่และนักเตะชื่อดังจากบราซิลคนอื่นๆ จำ นวนมากต่างก็เคยเข้าแข่งขันฟุตซอลมาแล้วทั้งสิ้นใน ขณะที่บราซิลมีการเล่นอย่างต่อเนื่องและเป็นการเผยแพร่การเล่นฟุตซอลแก่ประเทศอื่นๆ ในโลก ภายใต้การดูแลของสหพันธ์ฟุตบอล นานาชาติ (FIFA) และทีมอื่นๆ ที่มีความสามารถอันยอดเยี่ยมจากทุกมุมโลก การแข่งขันครั้งแรกมีขึ้นในปี ค.ศ. 1965 จัดการแข่งขันครั้งแรกในอเมริกาใต้ ประเทศปารากวัย ได้แชมป์ทวีปอเมริกาใต้และในปี ค.ศ. 1979 ทีมชาติบราซิลมีชัยชนะเหนือทีมทั้งหมดที่เข้าร่วมการแข่งขันซึ่งทำ ให้บราซิลเริ่มโดดเด่น เหนือทีมจากกลุ่ม Pan American ในปี ค.ศ. 1980 และชนะติดต่ออีกครั้งในปี ค.ศ. 1984อย่างไรก็ตามสหพันธ์ฟุตซอลแห่ง สหรัฐอเมริกา (The U.S. Futsal Federation) ถูกก่อตั้งในปี ค.ศ. 1981นายออสวัลโด การ์เซีย (Osvaldo Garcia) เป็นประธานคน แรกของสหพันธ์ 1
การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกที่ถูกจัดอย่างไม่เป็นทางการที่กรุงเซาเปาโล ประเทศบราซิล ในปี 1982และเจ้าภาพบราซิลได้รับชัยชนะ จากนั้นบราซิลมาได้เป็นแชมป์อีกครั้งในปี ค.ศ. 1985 ที่ ประเทศสเปน แต่พลาดเป็นแชมป์ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งที่ 3 อย่างไรก็ตามบราซิลกลับมาก วาดแชมป์โลกอีก 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1989 ที่ประเทศฮอลแลนด์ ซึ่งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ได้เข้ามาดูแลการแข่งขัน ชิงแชมป์โลกอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งจัดการแข่งขัน ณ ประเทศฮอลแลนด์ และประเทศบราซิล ยังครองความเป็นแชมป์ รองแชมป์ได้แก่ประเทศสเปน อันดับสามประเทศรัสเซีย และในปี ค.ศ. 1992 ที่ฮ่องกงในขณะที่ทีมฟุตซอล จากประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตำ แหน่งที่ 3 ในปี ค.ศ. 1989 และ ที่ 2 ในปี ค.ศ. 1992 ในการแข่งขันชิงแชมป์ฟุตซอลโลกนั่นคือตำ แหน่งที่สูงที่สุดของทีมจากประเทศ สหรัฐอเมริกาในการแข่งขันที่จัดขึ้นโดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) แม้ว่าทีมจากทวีป อเมริกาใต้จะมีความยิ่งใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา แต่ในปี ค.ศ. 2000การแข่งขันชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 4 ณ ประเทศกัวเตมาลา ทีมจากประเทศสเปนสามารถล้มแชมป์เก่าสามสมัยอันดับหนึ่งของโลกได้อย่าง งดงาม และครองชัยชนะต่อไปอีกในปีค.ศ. 2004 ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งที่ 5 ณ ประเทศ ไต้หวัน แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 2008 ทีมชาติสเปนพ่ายการดวลจุดโทษ 4-3 ประตูภายหลังจากเสมอกัน 2 ประตูต่อ 2 ให้กับทีมชาติบราซิล อย่างไรก็ตามการจัดอับดับของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ทีมชาติสเปนยังคงครองอันดับหนึ่ง ตามด้วยทีมชาติบราซิล และอิตาลีอันดับสาม ในปัจจุบันฟุตซอล ( FUTSAL) เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมและสนใจจากทุกเพศทุกวัยเนื่องจากเป็น เกมกีฬาที่ตื่นเต้น สนุกสนานในทุก ๆ นาทีของการแข่งขัน และสามารถเล่นได้ตลอดปี ทุกสภาพ อากาศทำ ให้ ฟุตซอล (FUTSAL) กลายเป็นกีฬายอดนิยมสำ หรับศตวรรษที่ 21 นี้ 2
การแข่งขันฟุตบอล 5 คน ในระดับนานาชาติ ค.ศ.1965 จัดการแข่งขันครั้งแรกในอเมริกาใต้ ประเทศปารากวัยได้แชมป์ทวีปอเมริกาใต้ ค.ศ.1979 มีการแข่งขันชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้อีก 6 ครั้ง โดยนักเตะแซมบ้า ประเทศบราซิลได้แชมป์ทุกครั้ง ค.ศ.1980 และ ค.ศ.1984 การแข่งขัน แพนอเมริกาคัพ โดยนักเตะแซมบ้า ประเทศบราซิลได้แชมป์ทั้งสองครั้ง ค.ศ.1982 การแข่งขันชิงแชมป์โลก (อย่างไม่เป็นทางการ) ครั้งแรก ณ กรุงเซาเปาโล ประเทศบราซิล และแชมป์ในปีนี้ก็คือ เจ้าถิ่น ประเทศบราซิล นั่นเอง ค.ศ.1985 การแข่งขันชิงแชมป์โลก (อย่างไม่เป็นทางการ) ครั้งที่ 2 ณ ประเทศสเปน ประเทศบราซิลได้แชมป์ ค.ศ.1988 การแข่งขันชิงแชมป์โลก (อย่างไม่เป็นทางการ) ครั้งที่ 3 ณ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศบราซิลเสียแชมป์ให้แก่ประเทศ ปารากวัยเป็นครั้งแรก ค.ศ.1989 ต่อมาสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟุา) ได้เข้ามาดูแลการแข่งขันชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรก ซึ่งจัดการแข่งขัน ณ ประเทศ ฮอลแลนด์ และประเทศบราซิลยังครองเป็นแชมป์ รองแชมป์ประเทศสเปน อันดับสามประเทศรัสเซีย ค.ศ.1992 การแข่งขันชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 2 ณ ประเทศฮ่องกง ประเทศบราซิลยังครองความเป็นแชมป์รองแชมป์ประเทศ สหรัฐอเมริกา อันดับสามประเทศสเปน ค.ศ.1996 การแข่งขันชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 3 ประเทศสเปน ประเทศบราซิลยังครองความเป็นแชมป์ ของโลกอย่างเหนียวแน่น รองแชมป์ประเทศฮอลแลนด์ อันดับสามประเทศสหรัฐอเมริกา ค.ศ.2000 การแข่งขันชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 4 ณ ประเทศกัวเตมาลา ประเทศสเปนสามารถล้มแชมป์เก่าสามสมัยอันดับหนึ่งของโลก รองแชมป์ประเทศบราซิล อันดับสามโปรตุเกส ค.ศ.2004 การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งที่ 5 ณ ประเทศไต้หวัน ประเทศสเปน ยังครองความเป็นแชมป์รองชนะเลิศประเทศอิตาลี และอันดับสามประเทศบราซิล กีฬาฟุตบอลจัดได้ว่าเป็นเกมกีฬาที่ยิ่งใหญ่และมีผู้ชมคลั่งไคล้กีฬาชนิดนี้มากที่สุดในโลก เนื่องจากฟุตบอลเป็นเกมที่สนุก ดูง่าย มี สีสันในการเชียร์ โดยเฉพาะในเกมสนามใหญ่ที่เราเรียกว่า เกม 11 คน นั้นเป็นที่นิยมทั้งในระดับสโมสร ในลีกของแต่ละประเทศและ ระดับนานาชาติ นั่นคือ การแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งในปัจจุบันนี้กีฬาฟุตบอลไม่แข่งขันเพียงแค่ในสนามใหญ่เท่านั้นยังมีการจัดการ แข่งขันฟุตบอลในร่มที่เราเรียกว่า “ ฟุตบอล 5 คน”หรือ “ ฟุตซอล” (FUTSAL ) นั่นเอง 3
กฎกติกาฟุตซอล 1.สนาม (The pitch) กลาง สนามมีวงกลมแสดงเขตห้ามเข้าตอนเขี่ยลูกเริ่มเล่นขนาดรัศมี 3 เมตร แบ่ง เป็น 2 ฝั่งแต่ละฝั่งจะมีกรอบเขตโทษรัศมี 6 เมตรจากเส้นกรอบประตู จุดโทษ จะอยู่บนเส้น ระยะ 6 เมตรจากกรอบประตู จุดโทษที่ 2 ระยะ 10 เมตรจากกรอบประตู เขตเปลี่ยนตัวห่างจากเส้นกึ่งกลางสนาม 5 เมตร ยาว 5 เมตร (ผู้เล่นต้องเปลี่ยนตัวเข้าออกบริเวณนี้เท่านั้น) ประตูยาว 3 เมตร สูง 2 เมตร 2. ลูกบอล (The ball) 3. จำ นวนผู้เล่น (The number of players) สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ไม่จำ กัดจำ นวน ผู้เล่นที่ เปลี่ยนออกไปแล้ว เปลี่ยนกลับเข้ามาเล่นได้ การเปลี่ยนตัวสามารถทำ ได้ ตลอดเวลา (ไม่ว่าบอลจะตายหรือไม่ก็ตาม) โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ ตัดสิน (ผู้ติดสินอนุญาตก็เปลี่ยนเข้าได้) และต้องเปลี่ยนตัวเข้าออกตรง บริเวณเขตเปลี่ยนตัว 5 เมตรเท่านั้น (หากทำ ผิดโดนใบเหลืองเลยนะ) และ ต้องให้ผู้เล่นที่จะเปลี่ยนออกออกนอกสนามก่อน ผู้เล่นที่จะเปลี่ยนเข้าจึงจะเข้าไปได้ การเริ่มเล่นต้องมีผู้เล่นฝ่ายละ 5 คน ถ้าเล่นๆ ไปแล้วมีผู้เล่นโดยไล่ออกจนฝ่ายหนึ่งเหลือผู้เล่นแค่ 2 คน (ประตู 1 ผู้เล่น 1) ให้ยกเลิกการแข่งขัน 4. อุปกรณ์ผู้เล่น (The players' equipment) เสื้อยืด หรือเสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น (ยกเว้นผู้รักษาประตูใส่ขายาวได้) ถุงเท้ายาว สนับแข้ง รองเท้า ผู้รักษา ประตูต้องใส่ชุดที่มีสีต่างจากผู้เล่นคนอื่น และผู้ตัดสิน ถ้าผู้เล่น เปลี่ยนเป็นผู้รักษาประตู ให้เปลี่ยนใส่เสื้อผู้รักษาประตูที่ติดเบอร์ตนเอง 5. ผู้ตัดสิน (The referee) 6. ผู้ตัดสินที่สอง (The second referee) 7. ผู้รักษาเวลา และผู้ตัดสินที่สาม (The timekeeper and the third referee) 8. ระยะเวลาการแข่งขัน (The duration of the match) 4
แบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 20 นาที พักครึ่งเวลาไม่เกิน 15 นาทีสามารถขอเวลานอกได้ครึ่งละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 นาที การขอเวลานอกกระทำ ได้ตลอดเวลา แต่จะให้ได้เมื่อทีมตนได้ส่งลูกเข้าเล่น เมื่อได้เวลานอกผู้เล่นจะต้องอยู่ในสนาม ส่วนเจ้าหน้าที่ทีมก็ต้องไม่เข้ามาในสนาม (สอนกันตรงขอบสนาม) ผู้เล่นที่จะเปลี่ยนตัวต้องรอให้จบการขอเวลานอกก่อน จึงจะเปลี่ยนตัวได้ เวลานอกที่ไม่ใช้ในครึ่งแรก ไม่สามารถนำ ไปใช้ในครึ่งหลังได้ ถ้ามีต่อเวลาพิเศษจะไม่มีการขอเวลานอก 9. การเริ่มเล่น และการเริ่มเล่นใหม่ (The start and restart of play) ผู้เล่นทุกคนต้องอยู่ในแดนตนเอง ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามต้องอยู่ห่างจากลูกบอล ไม่น้อยกว่า 3 เมตร (อยู่นอกวงกลมกลางสนาม) ลูกบอลต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้า 10. บอลอยู่ในการเล่น และอยู่นอกการเล่น (บอลตาย) (The ball in and out of play) 11. การทำ ประตู (The method of scoring) ผู้รักษาประตูไม่สามารถทำ ประตูได้จากการขว้างลูกจากประตู 12. การกระทำ ผิดกฎกติกา และมารยาท (Fouls and misconduct) การทำ ฟาวล์มี 2 ลักษณะ คือการฟาวล์ที่โดนโทษโดยตรง (Direct Free KickCyber Monday FRYE Women's Harness 12R Boot) กับโดนโทษโดยอ้อม (Indirect Free Kick) โทษโดยตรง 5
13. การเตะโทษ (Free kicks) ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามต้องอยู่ห่างจากลูกบอลไม่น้อย กว่า 5 เมตร ถ้าฝ่ายที่ได้เตะโทษใช้เวลาเกินกว่า 4 วินาที ให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อม สัญญาณของผู้ตัดสิน โทษ โดยตรง ผู้ตัดสินจะยกแขนในแนวนอนชี้ไปในทิศทางของทีมที่กระทำ ผิด และนับเป็นการกระทำ ผิดรวม โทษโดยอ้อม ผู้ตัดสินจะยกแขนชูขึ้นเหนือศีรษะจนกว่าการเตะจะเกิดขึ้น 14. การฟาวล์รวม (Accumulated fouls) ฟุตซอลจะมีกฎการฟาวล์พิเศษคือการฟาวล์ รวม โดยจะอนุญาตให้ฟาวล์ได้ 5 ครั้ง (ที่เป็นลูกโทษโดยตรง) ใน 5 ครั้งแรก ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามสามารถตั้งกำ แพงได้ โดยจะ อยู่ห่างจากลูกบอล 5 เมตร และผู้เตะสามารถทำ ประตูได้โดยตรง ส่วนการทำ ฟาวล์รวมครั้งที่ 6 เป็นต้นไป ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามห้ามตั้ง กำ แพง ผู้เตะต้องแสดงตัว (ว่าจะเป็นผู้เตะ ไม่ให้หลอก) ผู้รักษาประตู ต้องอยู่ในเขตโทษ และอยู่ห่างจากลูกบอล 5 เมตร ผู้เล่นคนอื่นๆ อยู่หลังแนวลูกบอล และห่างจากลูกบอล 5 เมตร ผู้เตะต้องยิงประตูเท่านั้น ห้ามส่งให้เพื่อน โดยหากการทำ ฟาวล์รวมนี้เกิดขึ้นระหว่างเส้นประตูของ ฝ่ายที่ถูกทำ ฟาวล์ และแนวจุดโทษที่ 2 ของฝ่ายที่ทำ ฟาวล์ ให้ตั้งเตะที่จุดโทษที่ 2 (10 เมตรจากเส้นประตู) แต่หากทำ ฟาวล์ระหว่าง แนวจุดโทษที่ 2 ของฝ่ายที่ทำ ฟาวล์ และเส้นประตูของฝ่ายที่ทำ ฟาวล์ ให้เลือกได้ว่า จะตั้งเตะที่จุดเกิดเหตุ หรือที่จุดโทษที่ 2 6
15. ลูกจุดโทษ (The penalty kick) ผู้รักษาประตูต้องอยู่บนเส้น ประตู ผู้เล่นคนอื่นต้องอยู่นอกเขตโทษ และห่างจากลูกบอล 5 เมตร 16. เตะเข้าเล่น (The kick-in) ลูกบอลต้องวางนิ่งบนเส้นข้าง ผู้ เล่นฝ่ายตรงข้ามต้องอยู่ห่างจากลูกบอล 5 เมตร ผู้เตะเข้าเล่นต้องเล่นภาย ใน 4 วินาที 17. การขว้างลูกจากประตู (The goal clearance) ผู้รักษาประตูต้องขว้างลูก (ด้วยมือ) จากเขตโทษของตน (ตรงจุดใดก็ได้) ออกไปนอกเขตโทษโดยตรง (จะไหลโดยให้บอล ตกในเขตโทษก่อนไม่ได้) ภายใน 4 วินาที ผู้รักษาประตูไม่สามารถเล่นลูกได้เป็นครั้งที่ 2 นอกจากผู้เล่นคนอื่นจะสัมผัสบอลแล้ว (ห้ามโยนลงพื้นแล้วเตะ) ผู้เล่นฝ่าย ตรงข้ามต้องอยู่นอกเขตโทษ 18. ลูกเตะมุม (The corner kick) ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามต้องอยู่ห่างจากลูกบอล 5 เมตร ผู้เตะต้องเตะลูกภายใน 4 วินาที เพิ่มเติม การเตะจุดโทษหาผู้ชนะ เตะฝ่ายละ 5 คน (เลือกผู้เตะได้จากผู้เล่นทั้งหมด 12 คน ยกเว้นผู้ที่โดนไล่ออก) หากการ แข่งจบลงแต่จำ นวนผู้เล่นของทั้ง 2 ทีมไม่เท่ากัน ให้ทีมที่มีผู้เล่นมากกว่า เลือกผู้เล่นออกไปให้เหลือจำ นวนผู้เล่น เท่ากัน สัญญาณผู้ตัดสิน 7
การฟาวล์ การฟาวล์ที่โดนโทษโดยตรงจะนับรวมใน ฟาวล์รวมด้วย ห้ามเตะ (Kick) ขัดขา (Trips) กระโดดเข้าใส่ (Jump) ชน (Charges) (รวมถึงชนด้วยไหล่ด้วย หลายๆ คนเข้าใจผิด ว่าการชนด้วยไหล่คือการเบียด) ทำ ร้าย (Strikes) หรือผลัก (Pushes) คู่ต่อสู้ หากการกระทำ ดังกล่าวผู้ตัดสินพิจารณาว่า กระทำ โดยขาดความระมัดระวัง ไม่ไตร่ตรองยั้งคิด หรือใช้กำ ลังเกินกว่าเหตุ จะโดนโทษโดยตรง ห้าม ดึง (Holds) ถ่มน้ำ ลาย (Spits) หรือสไลด์ (Slides) ใส่คู่ต่อสู้ หรือเล่นลูกด้วยมือโดยเจตนา การกระทำ ดังกล่าว จะโดนลูกโทษโดยตรงทันที (ยกเว้นผู้รักษาประตูสามารถสไลด์ และใช้มือในเขตโทษของตนเองได้) โทษโดย อ้อม ผู้รักษาประตูไม่สามารถรับลูกที่ผู้เล่นฝ่ายเดียวกันเจตนาเตะส่งมา ให้ได้ ผู้รักษาประตูครองบอล (ไม่ว่าด้วยมือหรือเท้า) ในเขตโทษตนเองเกินกว่า 4 วินาที หลังจากขว้างลูกจากประตูแล้ว ผู้รักษาประตูไม่สามารถรับลูก (ด้วยมือ) ที่ส่งคืนจากผู้เล่น (ด้วยหัว อก ต้นขา ฯลฯ) หากลูกยังไม่ผ่านเส้นแบ่งครึ่งสนาม หรือถูกสัมผัสโดยผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม เล่นในลักษณะที่เป็นอันตราย เจตนา กีดขวางการเล่นของฝ่ายตรงข้าม (Obstruction) ป้องกันผู้รักษาประตูไม่ให้ ขว้างลูก ใบเหลือง ใบแดง คล้ายฟุตบอล ผู้เล่นที่โดนใบแดงจะ ไม่สามารถกลับลงมาเล่นได้อีก และไม่อนุญาตให้อยู่บนม้านั่งสำ รอง หรือบริเวณสนาม (ต้องออก นอกสถานที่แข่งไปเลย) โดยอนุญาตให้ผู้เล่นลงมาแทนได้ เมื่อครบเวลา 2 นาทีหลังให้ออก ยกเว้นเมื่อมีการทำ ประตูก่อนถึง เวลา 2 นาที โดยจะปฏิบัติดังนี้ หากเล่น โดยทั้ง 2 ทีมมีจำ นวนผู้เล่นไม่เท่ากัน (5-4, 5-3, 4-3) และทีมที่มีผู้เล่นมากกว่าทำ ประตูได้ ทีมที่มีผู้เล่นน้อย กว่าจะได้รับอนุญาตให้ผู้เล่น 1 คนกลับลงไปเล่น (แทนผู้ที่ถูกไล่ออก) ได้ แต่หากทีมที่มีผู้เล่นน้อยกว่าทำ ประตูได้ ให้คงจำ นวนผู้เล่นไว้เท่าเดิม การเล่นโดยทั้ง 2 ทีมมีจำ นวนผู้เล่นเท่ากัน (4-4, 3-3) และมีการทำ ประตูได้ก็ให้คงจำ นวนผู้เล่นไว้เท่าเดิมเช่นกัน 8
5 ทักษะการเล่นฟุตซอล ฟุตซอลเป็นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายแทบจะทุกส่วน แถมยังต้องมีไหวพริบที่ดีในระหว่างการแข่งอีกด้วย การ เริ่มต้นฝึกทักษะการเล่นฟุตซอล นอกจากจะช่วยให้เล่นฟุตซอลเก่งขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความคล่องแคล่วในการเล่น เมื่อมีทักษะการเล่นฟุตซอลที่แม่นยำ จะช่วยให้เข้าใจการเล่นมากขึ้น และสามารถพัฒนาศักยภาพการเล่นในด้าน อื่นๆ ให้ดีขึ้นตามไปด้วยได้ ซึ่งในการเล่นฟุตซอลมี 5 ทักษะหลักๆ ดังนี้ 1.ทักษะการเลี้ยงบอล -ทักษะในการเลี้ยงบอลเป็นทักษะการเล่นฟุตซอลที่แสดงให้เห็นว่า ผู้เล่นมีความชำ นาญในการเล่นมากน้อยเพียงใด ซึ่งทักษะในการเลี้ยงบอลมีเป้าหมาย เพื่อหลบหลีกหรือหลอกล่อฝั่งตรงข้าม โดยต้องครอบครองบอลไว้ให้ได้นาน ที่สุด เพื่อที่จะหาโอกาสทำ ประตู ซึ่งทักษะการเลี้ยงบอลที่ควรฝึกฝนอย่างสม่ำ เสมอ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้ การเลี้ยงบอลด้วยฝ่าเท้า เป็นการเลี้ยงบอลเพื่อเปลี่ยนทิศทาง สามารถเลี้ยงบอลไปได้ทุกทิศ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง โดยใช้ฝ่าเท้าข้างที่ถนัดแตะลูกบอลด้านบน แล้วดึงลูกบอลไปข้างหน้าพร้อมบิดตัวบังในระหว่าง เคลื่อนที่ เพื่อเลี้ยงลูกบอลต่อหรือจะยิงก็ได้ การเลี้ยงบอลด้วยเท้าด้านใน เป็นการเลี้ยงบอลเพื่อหลอกล่อ หรือหาโอกาสในการส่งบอลต่อให้เพื่อน โดยใช้เท้า ด้านในข้างที่สะดวกเลี้ยงบอลและควบคุมลูก การเลี้ยงบอลด้วยเท้าด้านนอก เป็นการเลี้ยงบอลโดยใช้เท้าด้านนอก ให้ปลายเท้าขนานกับลูกบอล ทั้งนี้ ทักษะการเลี้ยงบอลนั้นจำ เป็นต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นอย่างมาก เพื่อให้เกิดความชำ นาญ โดยการเลี้ยงบอลที่ดี ต้องไม่เกร็งลำ ตัวส่วนบน และใช้การย่อเข่า เพื่อสร้างความสมดุล 2.ทักษะการรับ - ส่งบอล -ทักษะในการรับ - ส่งลูกเป็นทักษะการเล่นฟุตซอลที่สำ คัญ โดยการส่งบอลสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ ดังนี้ การส่งลูกเรียด เป็นการส่งลูกในระยะใกล้ ซึ่งผู้เล่นต้องวางเท้าหลักให้อยู่ห่างจากลูกฟุตซอล โดยมีระยะประมาณ 1 ฝ่ามือ เพื่อให้ลูกบอลเรียดไปกับพื้น การส่งลูกโด่ง มีลักษณะการวางเท้าไม่ต่างจากแบบเรียด แต่ใช้เท้าข้างที่ถนัดช้อนไปใต้ลูกแล้วเตะให้ลูกโด่งขึ้นจาก พื้น สำ หรับการรับบอลต้องคอยดูจังหวะของเพื่อนในทีมให้ดีแล้วใช้เท้าหรือส่วนอื่นๆ ของร่างกายในการรับบอล แต่ต้อง ระวังไม่ให้ลูกโดนมือและแขน เพราะจะทำ ให้ผิดกติกาได้ 3.ทักษะการเดาะบอล -การเดาะบอลสามารถใช้ร่างกายได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น การใช้หลังเท้าเดาะลูกบอล ที่ต้องย่อเข่าเล็กน้อยเพื่อ ทรงตัวและควบคุมลูก หรือการใช้หน้าขาที่ต้องยกขาให้ตั้งฉาก 90 องศา จัดลำ ตัวให้ตรง และควบคุมลูกบอลให้ดี หรือการใช้ศีรษะในการเดาะบอล โดยใช้หน้าผากเป็นจุดสัมผัสลูกบอล เป็นต้น 9
4.ทักษะการโหม่ง -การโหม่งเป็นหนึ่งในทักษะการเล่นฟุตซอล ที่ใช้หน้าผากสัมผัสกับลูกบอล เพื่อเป็นจุดรับแรงปะทะกับลูกบอล โดยมีจุด ประสงค์ในการโหม่ง 3 แบบ คือ โหม่งให้ลูกโด่ง โหม่งระดับอก และโหม่งลงพื้น โดยขณะที่โหม่งต้องลืมตามองลูกอยู่ ตลอด เกร็งคอ และใช้การบิดลำ ตัวเพื่อเปลี่ยนทิศทาง นอกจากนี้ สามารถใช้เข่าและการโยกตัวเพื่อเพิ่มแรงในการโหม่ง ลูกได้อีกด้วย 5.ทักษะการยิง -การยิงลูกนั้นสามารถทำ ได้หลากลายรูปแบบ ทั้งการใช้หลังเท้า ข้างเท้าด้านใน หรือด้านนอก แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ หลังเท้าเพราะทำ ให้ลูกพุ่งแรง 10
กฎกติกาเบื้องต้นและสิ่งที่ควรรู้ก่อนเล่นฟุตซอล ระยะเวลาในการแข่งฟุตซอล ระยะเวลาในการแข่งขันฟุตซอลจะแบ่งออกเป็นครึ่งแรกและครึ่งหลัง ครึ่งละ 20 นาที รวมเป็น 40 นาที โดยมีเวลาให้หยุดพัก ระหว่างครึ่งนานครั้งละ 10 นาที นอกจากนี้ แต่ละทีมยังสามารถขอเวลานอกได้ครึ่งละไม่เกิน 1 นาที โดยขอได้เพียงครึ่งละ 1 ครั้ง เท่านั้น หากไม่ได้ใช้เวลานอกในครึ่งแรกไม่สามารถทบมาใช้ในครึ่งหลังได้ จำ นวนผู้เล่นฟุตซอล จำ นวนผู้เล่นฟุตซอลในแต่ละทีมมีได้ไม่เกินทีมละ 12 คน โดยแบ่งเป็นผู้ลงเล่น 5 คน หนึ่งในนั้นจะต้องมีผู้รักษาประตู 1 คน และ อนุญาตให้มีผู้เล่นสำ รองได้ไม่เกิน 7 คน ทั้งนี้ สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นเมื่อใดก็ได้ไม่จำ กัดจำ นวนครั้ง และผู้เล่นที่เปลี่ยนออกไปแล้ว ก็สามารถกลับเข้าไปเล่นใหม่ได้เช่นกัน การนับประตู การนับประตูจะนับเมื่อบอลทั้งลูกผ่านเส้นประตูที่อยู่ระหว่างเสาทั้งสองข้าง ซึ่งอยู่ใต้คานประตู โดยมีเงื่อนไขว่าผู้เล่นจะต้องไม่ทำ ผิดกติกาการแข่งขัน โดยผู้เล่นและผู้รักษาประตูฝ่ายรุกไม่สามารถทำ ประตูได้ด้วยมือและแขน สำ หรับทีมใดที่ทำ คะแนนได้มากกว่า ก่อนจบการแข่งขันก็จะถือว่าเป็นผู้ชนะไป แต่หากทั้งสองทีมทำ ประตูได้เท่ากันหรือทำ ประตูไม่ได้เลยสักทีมก็จะถือว่า เสมอกัน ซึ่ง จะต้องยิงลูกโทษเพื่อตัดสินหาผู้ชนะ 11
วิธีการเล่นฟุตซอล นอกจากทักษะการเล่นฟุตซอลที่ต้องเรียนรู้ ทั้งการการรับ - ส่งบอล และการเลี้ยงลูกบอลแล้ว วิธีการเล่นฟุตซอล ยังเป็นเทคนิคที่ผู้เล่นควรที่จะต้องศึกษาเพื่อช่วยให้การเล่นสนุกขึ้น และช่วยเพิ่มความแม่นยำ ในการยิงหรือ ควบคุมลูก ซึ่งวิธีการเล่นฟุตซอลมีดังนี้ สร้างความคุ้นเคยกับลูกฟุตซอล -ไม่ว่าจะเล่นกีฬาอะไรก็ตาม จำ เป็นต้องสร้างความคุ้นเคยกับอุปกรณ์นั้นๆ ให้มากที่สุด เพราะเมื่อใช้งานจริงจะ ได้ใช้ได้อย่างถนัดและคล่องแคล่ว สำ หรับกีฬาฟุตซอล การสร้างความคุ้นเคยกับบอลช่วยให้ผู้เล่นครอบครองบอล ได้ง่ายขึ้น รวมถึง สามารถควบคุมบอลไปในทิศทางต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ขึ้นอีกด้วย การหยุดหรือบังคับลูกฟุตซอล -การหยุดบอลเป็นทักษะการเล่นฟุตซอลอย่างหนึ่ง ที่ต้องหยุดลูกบอลที่เพื่อนในทีมส่งมาให้ หรือลูกบอลที่แย่งมา จากฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นลูกเรียด ลูกโด่ง หรือลูกที่ลอยอยู่กลางอากาศ โดยใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายในการ หยุดบอล เช่น การใช้ฝ่าเท้า การใช้เท้าด้านใน การใช้ข้างเท้าด้านนอก การใช้เข่าหรือหน้าขา การใช้หลังเท้า และ การใช้หน้าอก เป็นต้น การทรงตัว -การทรงตัวหรือการสร้างบาลานซ์ เป็นการควบคุมร่างกายให้ตั้งตรงได้ตามแรงโน้มถ่วงของโลก โดยไม่ล้มหรือ โซเซได้ง่าย เป็นหนึ่งในทักษะที่ไม่ว่ากีฬาไหนก็จำ เป็นต้องใช้ เพราะมีส่วนช่วยให้เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่าง คล่องแคล่ว รวมถึง ช่วยกำ หนดทิศทางในการเคลื่อนไหวได้ง่ายและรวดเร็ว การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ถอยหลัง ทางซ้าย และทางขวา การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ถอยหลัง ไปทางซ้าย หรือไปทางขวาถือเป็นทักษะที่มีความจำ เป็น เพราะการเล่นฟุต ซอลจำ เป็นต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการฝึกเคลื่อนไหวไม่ว่าจะในทิศทางใดก็ตามให้คล่องตัวอยู่เสมอ มี ส่วนช่วยให้เล่นได้ดีขึ้น โดยมีวิธีการฝึกดังนี้ ตามองลูกบอลอยู่เสมอ วางเท้าข้างที่ถนัดไปยังทิศทางที่จะเคลื่อนไหวก่อน แล้วค่อยเคลื่อนเท้าอีกข้างตามไปโดย เร็ว ถ่ายเทน้ำ หนักไปยังทิศทางที่จะเคลื่อนตัวไป เทคนิคสำ คัญที่ช่วยให้เคลื่อนตัวเร็วขึ้น คือการใช้ปลายเท้าสัมผัสกับ พื้นอยู่เสมอ 12
วิธีการเล่นฟุตซอลที่ผิดกติกา ไม่ว่าเกมกีฬาใดๆ ก็ย่อมต้องมีกฎและกติกาเสมอ เพื่อความสนุกและความเสมอภาคในการแข่งขัน แต่สำ หรับวิธีการเล่นฟุต ซอลอาจมีบางจังหวะที่เสียการควบคุม ทำ ให้เกิดการผิดกติกาด้วยความไม่ระมัดระวัง ซึ่งอาจทำ ให้ทีมนั้นๆ เสียลูกโทษได้ ดังนี้ การเตะโทษโดยตรง การเตะโทษโดยตรงเกิดจากผู้เล่นทำ ผิดกติกา เมื่อกรรมการตัดสินแล้วว่าทำ ไปโดยขาดความระมัดระวัง หรือมีการใช้กำ ลัง เกินกว่าเหตุ ทำ ให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรง ซึ่งความผิดที่อาจเกิดขึ้นนั้นมี 6 ข้อดังนี้ -เตะ -ขัดขา -กระโดดเข้าใส่ฝั่งตรงข้าม -ชน ไม่ว่าจะเป็นการชนไหล่หรือชนทั้งตัว -ทำ ร้ายคู่ต่อสู่ -ผลัก นอกจากนี้ หากผู้เล่นมีการดึงคู่ต่อสู้ ถ่มน้ำ ลายใส่ การพุ่งตัวไปแย่งบอล หรือเล่นลูกบอลด้วยมือ โดยมีเจตนา ก็สามารถเตะ โทษโดยตรงได้เช่นกัน การเตะโทษโดยอ้อม การเตะโทษโดยอ้อมเกิดจากผู้รักษาประตูทำ ผิดในเขตโทษของตนเอง จึงทำ ให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะลูกโทษ ดังนี้ 1.ลูกฟุตซอลอยู่ในมือนานเกิน 6 วินาทีก่อนปล่อย 2.จับลูกฟุตซอลอีกครั้ง หลังจากที่ปล่อยลูกแล้ว และลูกยังไม่ได้สัมผัสกับผู้เล่นคนอื่น 3.สัมผัสลูกฟุตซอลด้วยมือ หลังจากผู้เล่นฝ่ายเดียวกันเจตนาส่งมาให้ 4.สัมผัสลูกฟุตซอลด้วยมือ หลังจากผู้เล่นฝ่ายเดียวกันตั้งใจทุ่มบอลให้ นอกจากนี้ ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามก็สามารถได้เตะโทษโดยอ้อมเช่นกัน เมื่อกรรมการเห็นว่าผู้เล่นทำ ผิดดังนี้ 1.เล่นในลักษณะที่เป็นอันตราย 2.ตั้งใจขวางการไปข้างหน้าของผู้เล่นทีมตรงข้าม 3.ป้องกัน ขัดขวางผู้รักษาประตูไม่ให้ปล่อยบอลออกจากมือ ทั้งนี้ การเตะโทษโดยอ้อมนั้น จะเตะในจุดที่เกิดการกระทำ ผิด 13
ประโยชน์ของการเล่นฟุตซอล หลายๆ คนอาจทราบดีอยู่แล้วว่าการเล่นกีฬานั้นมีประโยชน์ต่อทั้งร่างกายและจิตใจ สำ หรับกีฬาฟุตซอลมีประโยชน์ ดังต่อไปนี้ มีไหวพริบที่ดี -กีฬาฟุตซอลเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม แม้ว่าจะมีการวางแผนวิธีการเล่นฟุตซอลมาก่อนแล้ว แต่เมื่อเจอทีมฝั่งตรง ข้าม แผนการเล่นที่วางไว้อาจไม่สามารถทำ ประตูให้กับทีมได้ ดังนั้น การเล่นฟุตซอลจึงช่วยให้มีไหวพริบตลอดเวลา รู้ว่าควรแก้เกมอย่างไร และสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว กล่าวคือ กีฬาฟุตซอลมีส่วนช่วยฝึกให้ผู้เล่น มีไหวพริบที่ดี แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ระบบต่างๆ ภายในร่างกายดีขึ้น -การเล่นฟุตซอลช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวหลายส่วน จึงมีส่วนช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายและเสริมให้มี ความแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ การเล่นฟุตซอลยังช่วยให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น ระบบกล้ามเนื้อ ระบบ หายใจ ระบบไหลเวียนเลือด และระบบขับถ่าย เป็นต้น ทำ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ได้รับโอกาสต่างๆ -นอกจากช่วยให้มีไหวพริบที่ดีและระบบต่างๆ ภายในร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว การเล่นฟุตซอลยังช่วยเพิ่มโอกาสใน การเป็นตัวแทนของจังหวัด หรืออาจเป็นตัวแทนระดับประเทศ จนสามารถเล่นเป็นอาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองได้ เลยทีเดียว ฟุตซอล เป็นกีฬาที่กำ ลังได้รับความนิยม สามารถเล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยจะต้องทำ ความเข้าใจกับวิธีการเล่น และ อาศัยการฝึกซ้อมบ่อยๆ ซึ่งทักษะการเล่นฟุตซอลนั้นจะช่วยเสริมให้การเล่นหรือการแข่งขันสามารถทำ ได้ง่ายขึ้น และถ้าหากคุณกำ ลังมองหาพื้นที่สำ หรับเล่น หรือฝึกซ้อมกีฬาฟุตซอล สามารถมาได้ที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Activity Center แหล่งพบปะของคนรักสุขภาพ ด้วยศูนย์ออกกำ ลังกายหลายรูปแบบ รวมถึง The Street Arena ลานกีฬาทันสมัยใจกลางเมือง ที่พร้อมให้ทุกคนได้มาสนุกอย่างเต็มที่ 14
R i b b o n อ้างอิง https://chutikarn22222.blogspot.com/2015/10/blog-post.html? m=1&fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1yFWocipvgh9vwyLgKLHrgpfnUf7nnpgu3yX1MARQ zRWhr5LD6YK9Xilo_aem_UI3wCIyF8fNC0u0hIh1W5Q https://www.thestreetratchada.com/Blogs/55/5-basic-skills-for-playing-futsal? fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR0TDmT8a_qcTUCQPOqFBI1yiNtYvn3V5CS7gMbOjFgdSxu52YsWVEk_10_aem_Nf795L-I8r5DAj-6ACYj3Q