The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิธีการเลี้ยงปลาสวยงาม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Worathum.ziza, 2021-07-05 11:31:52

วิธีการเลี้ยงปลาสวยงาม

วิธีการเลี้ยงปลาสวยงาม

วิธีการเลี้ยงปลาสวยงาม

ทาโดย
ด.ช.วรธรรม เดชมณี

ป.4/1 เลขที่ 16

สารบัญ

1. ภาชนะสาหรบั เลย้ี งปลา 2
2. สถานที่ 3
3. ความหนาแน่นของปลา 4

4. การรกั ษาความสะอาดในภาชนะเล้ียงปลาหรอื ต้ปู ลา 5
5. การถ่ายนา้ ในภาชนะเลีย้ งปลาหรอื ตู้ปลา 6
6. การใหอ้ าหารปลาสวยงาม 7
7. อุณหภมู ิของน้าในตู้ปลา 8
8. แสงสว่าง 9
9. การจับปลาหรอื การเคล่ือนย้ายปลา 10
10. น้าท่ีจะใช้เลี้ยงปลาสวยงาม 11
11. โรคพยาธิและการปอ้ งกันรกั ษา 12

1

วิธกี ารเลยี้ งปลาสวยงาม

วิธกี ารเล้ียงปลาสวยงาม
ปลาสวยงามแต่ละชนิดมีความต้องการปัจจัยในการเล้ียงต่างกัน

ดังน้นั หากต้องการใหป้ ลาท่ีเล้ียงมคี วามสวยงาม แขง็ แรง และเจริญเติบโตดีตามต้องการ
ควรพิจารณาปจั จัยต่อไปนี้
1.. ภาชนะสาหรบั เลี้ยงปลา
ปลาสวยงามแตล่ ะชนิดจะมีความสวยงามมากข้ึน
หากเลือกภาชนะในการเลี้ยงได้ถกู ต้องเหมาะสม เชน่ ปลาคารพ์ และปลาอะราไพมา่
เหมาะที่จะเล้ียงในบ่อซเี มนต์ภายนอกอาคาร ปลาแรด และปลามงั กร
เหมาะท่ีจะเลี้ยงในต้กู ระจกขนาดใหญ่และเลี้ยงเพยี งตัวเดียวโดดๆ ปลานีออน
ปลาก้างพระร่วง ปลาตะเพียนทอง ปลาเสอื สมุ าตรา ปลาม้าลาย ปลาซิวข้างขวาน
ปลาหางนกยูง และปลาสอด เหมาะท่ีจะเลี้ยงในต้กู ระจกขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
โดยเล้ียงเปน็ ฝงู จะย่งิ ทาใหด้ ูสวยงามยง่ิ ขึ้น ส่วนปลากัด
เหมาะสาหรับเลี้ยงในภาชนะขนาดเล็กเชน่ ขวดเหลี่ยม หรอื ขวดโหลรูปทรงตา่ งๆ

2

2. สถานท่ี
คือการเลือกที่สร้างบ่อหรือที่จัดวางต้ปู ลา
พร้อมอุปกรณ์ประกอบอ่ืนๆใหเ้ หมาะสมสอดคล้องกับอาคาร หรือลักษณะของห้อง
ไมว่ ่าจะเป็นบริเวณใด มุมใด หรือห้องใด
เพราะเม่อื สร้างบ่อหรือจัดวางต้เู รยี บรอ้ ยแล้ว
หากเกิดเปลี่ยนใจอยากเปล่ียนสถานท่ีใหม่ จะมีความยุง่ ยากในการเคล่ือนย้าย
เพราะต้องมีการถา่ ยน้าออกและเคล่ือนย้ายปลา
มักมีผลทาให้ปลาบอบช้าหรือตู้เลี้ยงปลาชารุดแตกร้าวได้ง่าย
โดยเฉพาะหากทาให้ตู้ปลาเกิดการรั่วซมึ ก็จะทาให้เกิดปัญหากับบริเวณข้างเคียง
หรือการซ่อมแซมตู้อาจทาใหค้ วามสวยงามลดลงได้

3

3. ความหนาแนน่ ของปลา
คือจานวนปลาท่ีจะเล้ียงในแตล่ ะต้ไู ม่ควรใหม้ ีจานวนมากเกินไป
สาหรับปลาบางชนิดอาจต้องเล้ียงเพยี งตัวเดียว เชน่ ปลามังกร ปลาแรด ปลาเค้า ปลากราย
ปลาตองลาย ปลาบู่ ปลาชะโด และปลากัด ไม่เช่นน้ันปลาจะไล่กัดทาอันตรายกันเอง
ปลาบางชนิดอาจเลี้ยงเปน็ คู่หรอื จานวนไม่มากมายนกั เชน่ ปลาออสการ์ ปลาปอมปาดัวร์
ปลาเทวดาและปลาหมอชนดิ ต่างๆหรือปลาบางชนิดควรเล้ียงหลายตัวให้เปน็ ฝงู หรือเล้ียงร่
วมกับปลาชนิดอ่ืนๆแต่ก็ไม่ควรให้มจี านวนมากมายจนเกินไปเพราะหากมีจานวนมากเกิน
ไปปลาจะไม่ค่อยเจรญิ เติบโตแตก่ ลับอ่อนแอปว่ ยเปน็ โรคได้ง่าย
สาหรบั จานวนปลาท่ีเหมาะสมน้นั จะขนึ้ กับชนิดและขนาดของปลาด้วย
ซ่ึงผู้เล้ียงควรจะได้ศึกษาใหล้ ะเอียดรอบคอบ

4

4. การรกั ษาความสะอาดในภาชนะเล้ียงปลาหรอื ตู้ปลา
ผเู้ ล้ียงควรจะทาความเขา้ ใจวิธกี ารทาความสะอาดเพ่ือกาจัดสง่ิ หมักหมม
และตะกอนที่ตกค้างอยู่ในระบบกรองนา้ อย่างสม่าเสมอ
ซง่ึ เท่ากับเปน็ การกาจัดเศษอาหารและมลู ที่ปลาขบั ถ่ายออกมาออกจากต้ปู ลา
โดยทาความสะอาดอย่างน้อยสปั ดาหล์ ะ 1 คร้ัง
จะทาใหป้ ลาท่ีเล้ียงมีการเจรญิ เติบโตรวดเรว็
และยงั เปน็ การช่วยปอ้ งกันการเกิดโรคระบาดปลา ท่ีอาจเกิดจากเศษอาหารที่บูดเน่าได้

5

5. การถา่ ยน้าในภาชนะเลยี้ งปลาหรอื ตู้ปลา
ถึงแม้ผเู้ ล้ียงจะได้หม่ันทาความสะอาดล้างสิง่ หมักหมมในระบบกรองน้า
โดยเฉพาะระบบกรองน้านอกตู้ปลาจะไมม่ ีการเปลี่ยนถา่ ยนา้ ในต้ปู ลาเลย
หรอื ถึงแม้จะเป็นระบบกรองนา้ ในต้ปู ลาก็อาจจะไมม่ ีการเปลี่ยนถา่ ยน้าหรือมีบ้างเพียงเล็ก
น้อย หรือนานๆจะกระทาคร้ังหน่ึง ปลาอาจเติบโตได้ดีในระยะแรกๆ
แตเ่ ม่อื เลี้ยงไปนานๆปลาจะหยุดการเจริญเติบโตสาเหตเุ พราะมสี ่งิ หมกั หมมที่ละลายอยู่ใน
นา้ ซง่ึ ไมไ่ ด้ถูกกาจัดออกไปพร้อมกับการทาความสะอาด สงิ่ หมักหมมดังกลา่ ว
เกิดจากการขับถา่ ยของปลาในรูปของสารละลายหรอื ก๊าซต่างๆรวมท้ังสารอาหารบาง
ประเภทที่ละลายจากอาหารท่ีใช้เลี้ยงปลา สารละลายท้ังหลาย
นบั วันจะมคี วามเขม้ ขน้ มากขึน้ เร่อื ยๆ และค่อนขา้ งรวดเร็วกว่าการเลี้ยงปลาในบ่อดิน
เพราะในบอ่ ดินจะมีขบวนการต่างๆที่ช่วยลดสารอาหารที่ละลายอยู่ในน้า
โดยเฉพาะขบวนการสงั เคราะหแ์ สงของพรรณไมน้ ้าและแพลงตอนพชื ท้ังหลาย
แต่ในระบบการเลี้ยงปลาสวยงามเป็นการเลี้ยงปลาในสภาพพ้นื ที่แคบๆและนา้ ใส
ปราศจากแพลงตอนพืชและมกั ไมค่ ่อยมพี รรณไม้นา้
จึงทาให้ไมม่ ีตัวช่วยลดส่ิงหมักหมมท่ีละลายอยูใ่ นน้า
ถึงแม้จะมองดเู หมือนน้ามีการไหลเวียน แต่ก็เป็นน้าเกา่ ท่ีไหลวนเวียนอยู่ภายในต้ปู ลา
โดยเกิดจากระบบกรองนา้ และการให้อากาศ
ฉนน้ั น้าจึงมีการสะสมส่ิงหมักหมมละลายเข้มข้นมากขึน้ เร่อื ยๆจนมีผลทาให้ปลาชะงักการเ
จรญิ เติบโต

ดังน้นั หากต้องการใหป้ ลามีสุขภาพดี แข็งแรง สสี ดใส และมีการเจริญเติบโตสมา่ เสมอ
ก็ควรมีการเปล่ียนถา่ ยน้าเปน็ ประจา โดยไม่จาเป็นต้องเปล่ียนหมดท้ังตู้ แตถ่ า่ ยออกเพียง 1
ใน 4 ของน้าที่มีอยู่ด้วยวิธีกาลักน้า โดยคะเนจากระดับความลึกของนา้ เป็นหลัก เชน่
ต้เู ลี้ยงปลาท่ีใสน่ ้าสงู ประมาณ 40 เซน็ ติเมตร จะถา่ ยน้าออกให้ระดับน้าลดลง 10
เซ็นติเมตรก็พอ แล้วเติมน้าใหม่ให้ได้ระดับเดิม กระทาเชน่ น้สี ปั ดาห์ละ 2 - 3 คร้ัง
จะทาใหน้ ้ามคี ุณสมบัติเหมาะสมต่อการดารงชีพของปลาอยู่เสมอ
นอกจากนัน้ หากต้องการเร่งให้ปลามีการเจริญเติบโตเรว็ ข้นึ เป็นพิเศษ
อาจทาการเปล่ียนถ่ายน้าทุกวัน เชน่ การเลี้ยงปลาทอง
หากปลอ่ ยปลาคอ่ นข้างนอ้ ยแล้วเปล่ียนถ่ายน้าและทาความสะอาดทุกวัน
จะทาใหป้ ลาทองเจรญิ เติบโตอยา่ งรวดเรว็ มีขนาดตัวโตอย่างเดน่ ชัด

6

6. การใหอ้ าหารปลาสวยงาม การเลี้ยงปลาสวยงามก็เหมือนกับการเลี้ยงสัตว์บกโดยท่ัวไป
คือต้องให้อาหารทุกวัน เพราะปลาสวยงามที่เลี้ยงในต้ไู ม่สามารถหาอาหารธรรมชาติกินได้
และยงั มีความเคยชินกับการได้รับอาหารทุกวัน
ดังน้ันหากปลาถกู ปลอ่ ยใหอ้ ดอาหารเป็นเวลา 2 - 3 วัน
ก็จะทาใหป้ ลามีสุขภาพเส่อื มโทรมและมกั ทาอันตรายกันเอง
นอกจากนน้ั การใหอ้ าหารปลาสวยงามยังมขี ้อปลีกย่อยท่ีควรพจิ ารณาดังน้ี

6.1 การใหอ้ าหารเป็นเวลา เพ่ือใหป้ ลาเกิดความเคยชนิ อย่าใหแ้ บบพร่าเพร่ือ คือ
อยากใหเ้ ม่ือไหรก่ ็ให้ หรือเขา้ ไปดูปลาครงั้ ใดเห็นปลาวา่ ยเข้ามาเหมอื นต้องการอาหาร
ก็ใหอ้ าหารปลาทกุ คร้ัง
การให้อาหารปลาแบบพร่าเพร่ือจะทาให้มเี ศษอาหารเหลือตกค้างในระบบกรองน้าค่อนข้า
งมาก แล้วเกิดการบูดเน่าเปน็ ตัวการทาใหป้ ลาเกิดโรคระบาดได้ง่าย
การให้อาหารปลาสวยงามในแต่ละวันควรใหเ้ พียง 2 คร้ัง
ในตอนเช้าและเย็นก็เป็นการเพียงพอสาหรับปลา

6.2 พิจารณาถึงชนิดของปลา แล้วเลือกชนดิ ของอาหารให้เหมาะสม
โดยเฉพาะขนาดของเม็ดอาหารควรให้เหมาะสมที่ปลาจะฮุบกินได้ง่าย

6.3 พจิ ารณาถึงวัยของปลา ถ้าเปน็ ปลาวัยอ่อนก็จะต้องให้บ่อยครั้งมากขึน้
อาจเปน็ วันละ 3 - 4 ครั้ง

7

7. อุณหภูมิของน้าในตู้ปลา
ผู้เลี้ยงปลาสวยงามจะต้องราลึกอยูเ่ สมอวา่ ปลาเปน็ สตั ว์เลือดเยน็
กิจกรรมต่างๆของร่างกายจะปรับไปตามอุณหภมู นิ า้
ดังนน้ั ในฤดหู นาวการเผาผลาญอาหารภายในร่างกายก็จะลดลงตามอุณหภมู ินา้
นัน่ หมายถึงปลามคี วามต้องการอาหารลดลง ดังนัน้ ผเู้ ลี้ยงจะต้องลดปริมาณอาหารท่ีใหล้ ง
และควรให้อาหารเพียงวันละครงั้ ในตอนบ่ายหรือเยน็
แต่ถ้าหากต้องการใหป้ ลากินอาหารตามปกติ
ก็อาจกระทาโดยใช้เคร่ืองให้ความร้อนที่ควบคุมอุณหภมู ิได้
ก็จะทาให้ปลาที่เล้ียงมคี วามสดช่นื แข็งแรง และกินอาหารได้ตามปกติ

8

8. แสงสว่าง การเล้ียงปลาสวยงามในตู้กระจกมักต้ังต้ปู ลาอยู่ภายในห้องหรือในอาคาร
และมักต้ังในบริเวณท่ีไม่ได้รับแสงแดด
เพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดตะไครน่ ้าหรือเกิดนา้ เขยี วในต้เู ลี้ยงปลา
ดังนัน้ การเพ่ิมแสงสว่างในตู้เล้ียงปลาจึงมคี วามจาเป็น
เพ่อื เพิ่มความสวยงามและเปน็ การช่วยให้ปลาแขง็ แรง
อีกท้ังยังช่วยใหพ้ รรณไมน้ ้ามกี ารสังเคราะหแ์ สงเจรญิ เติบโตได้
ซ่งึ ปจั จุบันมกี ารผลิตหลอดนอี อนที่เป็นแสงแดดเทียม
สาหรบั ใช้กับการเล้ียงปลาสวยงามติดที่ฝาตู้ ผู้เล้ียงควรเลือกใชห้ ลอดชนดิ ดังกล่าว
โดยเปิดให้ปลาในเวลากลางวันและตอนหัวค่า
เม่ือเลิกใชห้ ้องหรือก่อนเข้านอนก็ควรจะปิดไฟ เพ่อื ให้ปลาได้มกี ารพักผ่อน
เพราะเม่อื ไม่มแี สงสว่างปลาส่วนใหญ่จะลดกิจกรรมลง เชน่ ว่ายน้าชา้ ลง

9

9. การจบั ปลาหรอื การเคล่ือนย้ายปลา
หากไมม่ ีความจาเปน็ ไม่ควรมีการจับปลาหรือเคล่ือนย้ายปลาออกจากตู้ปลาอยา่ งเด็ดขาด
เพราะการจับหรือการเคล่ือนย้ายปลาไม่ถกู วิธหี รือไมช่ านาญ มักทาให้ปลาบอบช้า
เกล็ดหลุด เกิดบาดแผล พิการ หรือตายได้ หากจาเปน็ ต้องจับปลาหรือเคล่ือนยา้ ยปลา เชน่
ในกรณีล้างต้ปู ลาหรอื เปลี่ยนต้ปู ลา ก็ต้องทาอยา่ งระมัดระวัง
โดยไมค่ วรชอ้ นปลาพน้ จากน้า โดยเฉพาะการใช้กระชอนช้อนปลาพ้นน้าข้ึนมา
เพราะเม่อื ปลาพ้นน้าข้ึนมาปลาจะกระโดดพลิกไปมาในกระชอน
อาจเกิดการทับครีบของตัวปลาเอง หรือหากชอ้ นปลาหลายตัวพร้อมกัน
ปลาจะกระโดดทับกระแทกกันไปมา ผลก็คือการจับปลามกั ทาใหป้ ลาเกล็ดหลดุ
เกิดบาดแผล หรือครบี หกั พับกลายเปน็ ปลาพิการไปได้ วิธกี ารที่เหมาะสม คือ
ควรใช้ภาชนะท่ีใหญก่ ว่าตัวปลา เช่น ขนั หรือถังพลาสติก
ใสล่ งในต้ปู ลาแล้วคอ่ ยๆไลป่ ลาโดยอาจใชก้ ระชอนช่วย ค่อยๆไล่ปลาเข้าภาชนะ
แล้วยกขน้ึ ท้ังปลาและน้า
อาจใชก้ ระชอนชว่ ยปิดปากภาชนะกันปลากระโดดสาหรับปลาบางชนิดด้วย
แล้วย้ายปลาไปลงในภาชนะที่เตรยี มไว้ จะลดความบอบช้าของปลาได้
นอกจากนนั้ หากภายในต้ปู ลามหี ินประดับหรือเคร่อื งประดับตา่ งๆ
ก็ควรนาออกจากตู้ปลาก่อน และไลป่ ลาช้าๆอย่าให้ปลาต่ืนตกใจมากนัก
เพราะปลาอาจวิ่งชนขอบต้หู รอื ซุกไปตามปะการัง ทาให้เกิดบาดแผลได้

10

10. นา้ ทจ่ี ะใชเ้ ล้ียงปลาสวยงาม
จะต้องเปน็ น้าที่มีคุณสมบตั ิเหมาะสมต่อการดารงชีพของปลา
และสง่ิ ที่สาคัญที่สุดคือจะต้องใส
เพราะสิ่งสาคัญสาหรบั การเลี้ยงปลาสวยงามคือต้องการมองเหน็ ปลาสวยงามอย่างชดั เจน
มองดนู ้าใสสะอาด
สาหรบั ประเภทของน้าและคณุ สมบตั ิที่เหมาะสมต่อการเล้ียงปลาสวยงาม

11

11. โรคพยาธิและการปอ้ งกันรกั ษา การเลี้ยงปลาสวยงามเปน็ การเล้ียงในพ้นื ท่ีแคบๆ
ที่ขาดความสมดุลยข์ องระบบนิเวศน์ จึงมักทาใหป้ ลาเกิดอาการผิดปกติได้ง่าย
โดยเฉพาะการเกิดโรคระบาดตา่ งๆ
ผเู้ ล้ียงจาเปน็ จะต้องหม่ันสังเกตความเปลี่ยนแปลงของปลาท่ีเล้ียงอยู่เสมอ เช่น
ลักษณะอาการว่ายน้า การกินอาหารน้อยลง หรือการเกิดผิดปกติของร่างกาย ได้แก่ สีซดี ลง
เมือกมากขนึ้ หรอื ตกเลือด จะต้องรบี ดาเนนิ การแก้ไข

12


Click to View FlipBook Version