ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
2. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องเก่ียวกบั เร่ืองราชาธิราช
1. แตง่ เป็นนิทานคากลอน
2. นาไปแสดงเป็นละครใน
3. มีที่มาจากพงศาวดารเขมร
4. เจ้าพระยาพระคลงั (หน) ไมไ่ ด้แปลและเรียบเรียงเร่ืองราชาธิราชเพียง
คนเดียว
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
3. เหตใุ ดพระเจ้ากรุงจีนจงึ ยกทพั มากรุงองั วะ
1. เพื่อขยายอาณาเขต
2. ต้องการแก้แค้นสมงิ พระราม
3. ต้องการแก้แค้นพระเจ้าฝรั่งมงั ฆ้อง
4. อยากทอดพระเนตรเหน็ ทหารที่มีฝี มือราทวนตอ่ ส้ตู วั ตอ่ ตวั กบั กามะนี
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
4. กามะนีทหารเอกของพระเจ้ากรุงจีนได้รับยกยอ่ งวา่
“ไมใ่ ชม่ นษุ ย์ดจุ เทวดาก็ว่าได้” เพราะอะไร
1. อทิ ธิฤทธ์ิ
2. คณุ ธรรมในสนามรบ
3. ความสงบน่ิงเยือกเยน็
4. ความสามารถในการตอ่ สู้
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
5. “ครัน้ จะรับอาสาบดั นีเ้ลา่ ก็เหมือนหาบสองบา่ อาสาสองเจ้าหาควรไม่”
แสดงวา่ สมงิ พระรามมีนิสยั อย่างไร
1. ขีข้ ลาด ไมก่ ล้าอาสาออกรบ
2. มีความจงรักภกั ดี มีนายได้แคค่ นเดียว
3. รู้จกั ประมาณตน ไมท่ างานที่เสย่ี งเกินกาลงั
4. ไมป่ ระมาท ไมเ่ อาตวั ไปเสยี่ งอนั ตราย
ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
6. คาวา่ “สองเจ้า” ใช้ในข้อความข้อ 5 หมายถึงใคร
1. กามะนีกบั พระเจ้ากรุงจีน
2. พระเจ้าราชาธิราชกบั พระเจ้ากรุงจีน
3. พระเจ้ากรุงจีนกบั พระเจ้าฝรั่งมงั ฆ้อง
4. พระเจ้าราชาธิราชกบั พระเจ้าฝรั่งมงั ฆ้อง
ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
7. เหตใุ ดในท้ายท่ีสดุ สมงิ พระรามจงึ ยอมรับอาสาส้กู บั กามะนี
1. เพราะเหน็ แกบ่ ญุ คณุ ของพระเจ้าฝรั่งมงั ฆ้อง
2. เพราะอยากแสดงฝี มือให้พระเจ้าฝรั่งมงั ฆ้องเกรงกลวั
3. เพราะพระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้องสญั ญาวา่ ถารบชนะจะปลอ่ ยตวั สมงิ พระราม
4. เพราะเกรงวา่ ถ้าฝ่ ายพระเจ้ากรุงจีนได้รับชยั ชนะแล้วจะเคล่ือนพลต่อไป
ยงั กรุงหงสาวดี
ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
8. ตอนท่ีสมงิ พระรามทดลองฝึกม้าให้เช่ืองด้วยการควบม้าออกไปนอกเมือง
แล้วย้อนกลบั มาท่ีกรุงองั วะ แสดงวา่ สมิงพระรามมีลกั ษณะนิสยั อย่างไร
1. ขีข้ ลาด กลวั ถกู ประหารชีวิต
2. ซื่อสตั ย์ ไมค่ ดิ ฉวยโอกาสหนี
3. โง่เขลา มองไมเ่ หน็ โอกาสหนีเอาตวั รอด
4. ฉลาด แสร้งทดลองใจพระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้อง
ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
9. “ม้าเชลยศกั ดิ์” หมายถงึ ข้อใด
1. ม้าท่ีมีลกั ษณะไมด่ ี ไมค่ วรใช้ออกรบ
2. ม้าของชาวบ้าน หรือม้าที่ไมใ่ ช่ม้าหลวง
3. ม้าท่ีเป็นบรรณาการจากเมืองประเทศราช
4. ม้าของผ้เู ป็นเชลย หรือในเรื่องหมายถงึ ม้าของสมงิ พระราม
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
10. ข้อใดกลา่ วไมถ่ กู ต้องเก่ียวกบั การตอ่ ส้รู ะหวา่ งสมิงพระรามกบั กามะนี
1. สมิงพระรามสามารถราตามกามะนีได้ทกุ เพลง
2. สมงิ พระรามให้กามะนีราเพลงทวนให้สนิ ้ ฝี มือก่อน
3. กามะนีรู้ทนั เพลงทวนของสมิงพระรามจงึ ไมร่ าตาม
4. ทว่ งทา่ เพลงทวนของทงั้ สองงดงามดงั่ เทพยดากบั ทิพยาธร
ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
11. ข้อใดคือลกั ษณะของสมิงพระรามที่แสดงให้เหน็ เดน่ ชดั ในตอนตอ่ ส้กู บั กามะนี
1. ความในออ่ น
2. ความเจ้าเลห่ ์
3. ความฉลาดหลกั แหลม
4. ความเกรงกลวั อนั ตราย
ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
12. “เพลงโคมเวียน เพลงผา่ หมาก” หมายถงึ ข้อใด
1. ช่ือทา่ ราของจีน
2. ช่ือศิลปะการตอ่ ส้ขู องจีน
3. ชื่อศิลปะการตอ่ ส้ขู องพมา่
4. ช่ือกระบวนทา่ ราทวนในการตอ่ สู้
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
13. “อปุ มาดงั ฝนตกหา่ ใหญ่ตกลงนา้ นองทว่ มป่ าใหลเช่ียวมาเม่ือวสนั ตฤดนู นั้
หาสงิ่ ใดจะต้านทานมิได้” เป็นความเปรียบเทียบหมายถงึ ส่ิงใด
1. ทพั ใหญ่ของพระเจ้ากรุงจีนท่ียกมากรุงองั วะ
2. ความรู้สกึ ของกามะนีตอนต่อส้กู บั สมงิ พระราม
3. บรรยากาศการตอ่ ส้รู ะหวา่ งสมิงพระรามกบั กามะนี
4. ความดีใจของพระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้องเม่ือสมงิ พระรามชนะ
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
14. ข้อใดเป็นข้อตกลงท่ีสมงิ พระรามขอจากพระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้องกอ่ นท่จี ะยอมอยู่
รับราชการท่ีเมืองพมา่
1. ห้ามผ้ใู ดเรียกตนวา่ เชลย
2. ขอไมอ่ อกรบไมว่ า่ ศกึ ใดกต็ าม
3. ขอไมร่ ับตาแหน่งและยศถาบรรดาศกั ด์ิ
4. ห้ามพระเจ้าฝรั่งมงั ฆ้องทาศกึ กบั หงสาวดีอีก
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
15. จากคาตอบข้อ 14 แสดงวา่ สมงิ พระรามมีอปุ นิสยั อยา่ งไร
1. ได้คืบจะเอาศอก
2. รู้จกั วิธีเอาตวั รอด
3. รักเกียรตแิ ละศกั ดิ์ศรี
4. เหน็ แกป่ ระโยชน์ของชาตบิ ้านเมือง
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
16. ใครเป็นต้นเหตใุ ห้สมิงพระรามหนีกลบั กรุงหงสาวดี
1. พระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้อง
2. พระเจ้าราชาธิราช
3. พระธิดาของพระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้อง
4. พระมเหสขี องพระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้อง
ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
17. “อปุ มาดงั นกเค้าถงึ มีกาลงั อยกู่ ็จริงแตต่ กเข้าอยใู่ นทา่ มกลางฝงู กาเมื่อกลางวนั ...”
ข้อความข้างต้นเป็นคาพดู ของใคร และ “นกเค้า” เป็นความเปรียบหมายถงึ ใคร
1. เสนาบดี, นกเค้า หมายถงึ พระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้อง
2. สมิงพระราม, นกเค้า หมายถึง ตวั สมิงพระรามเอง
3. พระเจ้าฝรั่งมงั ฆ้อง, นกเค้า หมายถงึ พระธิดาของพระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้อง
4. พระธิดาของพระเจ้าฝรั่งมงั ฆ้อง, นกเค้า หมายถึง สมงิ พระราม
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
18. “…ได้ให้คามนั่ สญั ญาไว้แกเ่ ขาแล้ว จะกลบั คาไปดงั นนั้ ควรหาไม่…”
ข้อความข้างต้นเป็นคาพดู ของใคร และพดู ในตอนใด
1. สมิงพระราม - ตอนได้ยินคนเรียกวา่ เชลย
2. กามะนี - ตอนก่อนถกู สมงิ พระรามฆา่ ตาย
3. พระเจ้ากรุงจีน - ตอนหลงั จากสมงิ พระรามชนะกามะนี
4. พระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้อง ¬- ตอนรู้วา่ สมิงพระรามหนีกลบั หงสาวดี
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
19. “อยา่ วา่ แตส่ มบตั มิ นษุ ย์นีเ้ลย ถงึ ทา่ นจะเอาทิพสมบตั ิของสมเดจ็ อมรินทร์มายกให้เรา
เราก็มิได้ปรารถนา” คาพดู นีห้ มายความวา่ อยา่ งไร
1. ไมม่ ีทรัพย์สนิ มีคา่ ใดท่ีจะทาให้พระเจ้ากรุงจีนยอมเสียคาพดู
2. แม้พระเจ้าฝร่ังมงั ฆ้องจะเอาสมบตั ิมาให้ พระเจ้ากรุงจีนก็จะไมย่ กทพั กลบั
3. สมบตั มิ ากมายแคไ่ หนกไ็ มส่ ามารถรัง้ ให้สมิงพระรามอยรู่ ับราชการที่กรุงองั วะได้
4. สมงิ พระรามปฏเิ สธไมร่ ับความดีความชอบใดๆทงั้ สนิ ้ จากการได้ชยั ชนะเหนือ
กามะนี
ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
20. “อปุ มาดงั หงส์ตกลงในฝงู กา ราชสีห์ปนเข้ากบั หมเู่ สือ”
เป็นความเปรียบส่ือความถงึ เร่ืองใด
1. การตกอยใู่ นวงล้อมของศตั รู
2. การอาศยั อยตู่ า่ งบ้านตา่ งเมือง
3. การแต่งงานกบั ผ้ทู ี่มีฐานนั ดรต่ากวา่
4. การอยใู่ นบ้านเมืองทม่ี ีคนอปุ ถมั ภ์
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
21. ข้อใดไมใ่ ชข่ ้อคิดที่ได้จากเรื่องราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
1. การเป็นผ้ปู กครองต้องรักษาคาพดู
2. ความจงรักภกั ดีแก่ชาติบ้านเมือง
3. การใช้กลอบุ ายเพื่อแยง่ ชิงดนิ แดน
4. ถือศกั ด์ิศรียิ่งกวา่ ยศถาบรรดาศกั ด์ิ
การฟังและการดสู ่ือ
ส่ือ หมายถงึ ส่งิ ใดๆ ก็ตามท่ีเป็นตัวกลางระหวา่ ง
แหลง่ กาเนิดของสารกบั ผู้รับสาร
เป็นสิ่งท่ีนาพาสารจากแหลง่ กาเนิดไปยงั ผ้รู ับสาร
เพ่ือให้เกิดผลใดๆ ตามวตั ถปุ ระสงค์ของการสื่อสาร
ส่ือ
แบง่ ประเภทของสอ่ื ออกเป็นส่ือทรี่ ับรู้โดยการฟังหรือส่ือโสต
การเหน็ หรือส่ือทศั น์
และทงั้ การฟังและการมองเหน็ หรือส่ือโสตทศั น์ ดงั นี้
- ส่ือโสต (Audio Media) ได้แก่ วทิ ยกุ ระจายเสยี ง เทป
- ส่ือทศั น์ (Visual Media) ได้แก่ หนงั สือพิมพ์ นิตยสาร หนงั สอื ภาพถา่ ย
"รู้เท่าทนั ส่ือ" คือ ทกั ษะ หรือ ความสามารถในการ "ใช้สอื่ อยา่ งรู้ตวั " และ
"ใช้ส่ืออยา่ งตื่นตวั "
คาวา่ "การใช้ส่ืออย่างรู้ตวั " สามารถอธิบายหรือขยายความได้วา่
- สามารถตีความ วิเคราะห์ แยกแยะเนือ้ หาสาระของส่ือ
- สามารถโต้ตอบกบั มนั ได้อยา่ งมีสติและรู้ตวั
- สามารถตงั้ คาถามวา่ สื่อถกู สร้างขนึ ้ ได้อยา่ งไร เชน่ ใครเป็นเจ้าของสือ่ ใครผลติ
และ ผลติ ภายใต้ข้อจากดั ใด ควรเชื่อหรือไม่ หรือมีคา่ นิยมความเชื่ออะไรท่ีแฝงมากบั
ส่อื นนั้ พวกที่ผลติ สอ่ื หวงั ผลอะไรจากเรา
คาวา่ "การใช้ส่ืออย่างต่นื ตวั " สามารถอธิบายหรือขยายความได้วา่
- แทนที่เราจะเป็นฝ่ ายตงั้ รับอยา่ งเดียว เราก็จะต้องเปลี่ยนมาเป็นฝ่ ายรุกบ้าง
โดยการแสวงหาข้อมลู เพิม่ เตมิ เข้าถงึ ข้อมลู ขา่ วสาร เข้าถงึ ส่ือที่หลากหลายและมีคณุ ภาพ
- สามารถใช้สื่อให้เกิดประโยชน์
- มีสว่ นร่วมท่ีพฒั นาสอ่ื ตา่ งๆ ให้ดีขนึ ้ เช่น ท้วงติงหรือร้องเรียนเม่ือพบสื่อท่ีไม่
เหมาะสม เรียกร้องสทิ ธิในฐานะเป็นผ้บู ริโภคสื่อ ฯลฯ