7
7
กระบวนการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล
เกรเกอร์ เมนเดล (Gregory Mendel) บาทหลวงชาวออสเตรีย เกิดเม่ือ พ.ศ.
2365 เป็นบุตรชาวสวน จึงมีโอกาสไดเ้ รียนรู้วธิ ีการผสมพนั ธุ์และปรับปรุงพนั ธุ์พชื มา
ต้งั แต่เดก็ เมื่อเป็นบาทหลวงไดท้ ดลองปรับปรุงพนั ธุ์พชื โดยเฉพาะถว่ั ลนั เตา ซ่ึงทาไป
พร้อม ๆ กบั งานสอนศาสนา และเมนเดลพบวา่ “ลกั ษณะทป่ี รากฏในลูกเป็ นผลมาจาก
การถ่ายทอดหน่วยทค่ี วบคุมลกั ษณะต่าง ๆ ซึ่งได้จากพ่อแม่โดยผ่านทางเซลสืบพนั ธ์ุ”
เม่ือปี พ.ศ. 2408 เมนเดลไดเ้ สนอผลการศึกษาคน้ ควา้ ต่อสมาคมธรรมชาติ
ที่เมืองบรูนน์ (Brunn) ในประเทศออสเตรเลีย ต่อมาไดร้ ับการยกยอ่ งเป็น “บิดาแห่ง
พนั ธุศาสตร์”
เมนเดลเลือกใชต้ น้ ถว่ั ลนั เตา (Pisum
sativum) เพอื่ ศกึ ษาการถ่ายทอดลกั ษณะ
ทางพนั ธุกรรม โดยมีเหตุผลหลายประการ ดงั น้ี
1. ปลูกง่าย อายสุ ้นั เจริญเติบโตเร็ว
ใหผ้ ลดก
2. มีหลายพนั ธุ์ มีลกั ษณะแตกต่างกนั ชดั เจน
สามารถคดั เลือกลกั ษณะที่ตอ้ งการไดง้ ่าย
3. ดอกถวั่ ลนั เตาเป็นดอกสมบรู ณ์เพศ
มีการผสมในดอกเดียวกนั และสามารถควบคุม ภาพ 2-1 เกรเกอร์ เมนเดล
การทดลองใหผ้ สมขา้ มตน้ ไดง้ ่าย ท่ีมา : http://www.thaigoodview.com/library/contes
t2551/science03/53/2/heredity/pictures/mendel.jpg
(10 เมษายน 2555)
8
8
เมนเดลไดท้ าการทดลองผสมพนั ธุ์ถว่ั ลนั เตา ท่ีมีประวตั ิวา่ มีตน้ สูงทุกรุ่นกบั
ตน้ เต้ีย ผลปรากฏวา่ รุ่นลูกหรือรุ่น F1 (first filial generation) เป็นตน้ สูงท้งั หมด และ
เม่ือเมนเดลนาเอาเมลด็ ที่เกิดจากการผสมพนั ธุภ์ ายในดอกเดียวกนั ของรุ่น F1 ไปเพาะเมลด็
ซ่ึงเป็นรุ่นหลานหรือรุ่น F2 (second filial generation) ปรากฏวา่ มีตน้ สูงมากกว่าตน้ เต้ีย
ในอตั ราส่วน 3:1
รุ่นพ่อแม่ ตน้ สูง
ตน้ เต้ีย
รุ่นลกู : F1 ตน้ สูงท้งั หมด
ผสมรุ่นลกู : F1 F1
รุ่นหลาน : F2
ตน้ สูง : ตน้ เต้ีย = 3 : 1
ภาพ 2-2 แผนภาพแสดงการผสมพนั ธุ์ถวั่ ลนั เตา
ท่ีมา : http://www.skoolbuz.com/library/content/2922 (10 เมษายน 2555)
9
9
เมนเดลอธิบายผลการทดลองวา่ ลกั ษณะตน้ สูงที่ปรากฏในทุกรุ่น เรียกวา่
ลกั ษณะเด่น (dominant) ส่วนลกั ษณะตน้ เต้ียท่ีมีโอกาสปรากฏในบางรุ่น เรียกวา่
ลกั ษณะด้อย (recessive) เมนเดลไดท้ าการทดลองแบบเดียวกนั น้ีกบั ลกั ษณะอื่น ๆ
ของถว่ั ลนั เตาอีก 6 ลกั ษณะ ปรากฏวา่ ไดผ้ ลออกมาในทานองเดียวกนั
ลกั ษณะต่าง ๆ ของถวั่ ลนั เตาท่ีเมนเดลใชใ้ นการศึกษาการถ่ายทอดลกั ษณะ
ทางพนั ธุกรรม
1. รูปร่างของเมลด็ – เมลด็ กลม และ เมลด็ ขรุขระ (round & wrinkled)
2. สีของเมลด็ – สีเหลือง และ สีเขียว (yellow & green)
3. สีของดอก – สีม่วง และ สีขาว (violet & white)
4. รูปร่างของฝัก – ฝักอวบ และ ฝักแฟบ (full & constricted)
5. สีของฝัก – สีเขียว และ สีเหลือง (green &yellow)
6. ตาแหน่งของดอก - ลาตน้ และปลายยอด (axial & terminal)
7. ความสูงของลาตน้ – สูง และ เต้ีย (long & short)
ภาพ 2-3 ลกั ษณะต่าง ๆ ของถว่ั ลนั เตาท่ีเมนเดลใชใ้ นการศึกษา
ท่ีมา : http://upic.me/i/9e/592px-mendel_seven_characters_svg.png (10 เมษายน 2555)
เมนเดลสรุปผลการทดลองวา่ ลกั ษณะต่าง ๆ ของถว่ั ลนั เตาตอ้ งมีหน่วยพนั ธุกรรม
ควบคุมลกั ษณะแต่ละลกั ษณะ ต่อมาหน่วยพนั ธุกรรมน้ี เรียกวา่ ยนี (gene)
10
แบบฝึ กหดั 10ท่ี 1
เรื่อง การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล
ช่ือ...................................................นามสกลุ ............................ช้นั ............ เลขที่.........
คาชี้แจง
ใหน้ กั เรียนเติมคาตอบในช่องวา่ งต่อไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ ง
และไดใ้ จความสมบูรณ์ (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
1. บิดาแห่งพนั ธุศาสตร์ คือ ....................................................................................
2. เมนเดลใชถ้ ว่ั ลนั เตาในการศึกษาการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม เพราะ
มีลกั ษณะท่ีเหมาะสม ไดแ้ ก่ (ตอบ 3 ลกั ษณะ).....................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
3. ลกั ษณะของถว่ั ลนั เตาท่ีเมนเดลใชศ้ ึกษาเป็นพนั ธุแ์ ทห้ รือพนั ธุท์ าง.......................
4. ลกั ษณะท่ีปรากฏในรุ่นลูกหรือรุ่น F1 มี..............ลกั ษณะ เรียกลกั ษณะที่ปรากฏ
ในรุ่น F1 วา่ ..........................................................................................................
5. ลกั ษณะที่ปรากฏในรุ่นหลานหรือ F2 มี.............ลกั ษณะ ไดแ้ ก่.............................
........................................................................มีอตั ราส่วน....................................
11 11
กระบวนการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
หลกั การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
1. หน่วยพนั ธุกรรมหรือยนี (gene) หมายถึง สิ่งท่ีควบคุมลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ของส่ิงมีชีวติ ซ่ึงจะถ่ายทอดจากพอ่ แม่ไปยงั รุ่นต่อไปได้ ยนี อยบู่ นโครโมโซม มีลกั ษณะ
เรียงกนั เหมือนสร้อยลูกปัด ยนี แต่ละตวั จะควบคุมลกั ษณะต่าง ๆเพยี งลกั ษณะเดียว
ยนี มีองคป์ ระกอบที่สาคญั คือ DNA ที่เกิดจากการต่อกนั เป็นเส้นของโมเลกุลยอ่ ยที่เรียกวา่
นิวคลีโอไทด์ (nucleotide)
ภาพ 2-4 แสดงโครงสร้างของยนี
ที่มา : http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/07/Gene.png/250px-Gene.png
(10 เมษายน 2555)
ยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะทางพนั ธุกรรม มี 2 ชนิด คือ
1) ยนี เด่น (dominant gene)
คือ ยนี ที่แสดงลกั ษณะน้นั ๆ ออกมาได้ แมม้ ียนี น้นั เพยี งยนี เดียว
2) ยนี ด้อย (recessive gene)
คือ ยนี ที่สามารถแสดงลกั ษณะใหป้ รากฏออกมาได้ กต็ ่อเมื่อ
มียนี ดอ้ ยท้งั สองยนี อยบู่ นคู่โครโมโซม
12 12
2. คู่ของยนี โครโมโซมของสิ่งมีชีวติ แต่ละชนิดมีลกั ษณะรูปร่างเหมือนกนั
เป็น คู่ ๆ ยนี ที่อยบู่ นโครโมโซมกจ็ ะอยเู่ ป็นคู่ดว้ ยเช่นกนั โดยยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะ
ทางพนั ธุกรรมลกั ษณะเดียวกนั จะอยบู่ นโครโมโซมที่ตาแหน่งเดียวกนั เซลลร์ ่างกาย
ของสิ่งมีชีวติ มีโครโมโซมที่ทาหนา้ ที่ถ่ายทอดขอ้ มูลทางพนั ธุกรรมอยู่ 2 ชุด เขา้ คู่กนั
เรียกวา่ โครโมโซมคู่เหมือนหรือฮอมอโลกสั โครโมโซม (homologous chromosomes)
ถา้ พจิ ารณาลกั ษณะทางพนั ธุกรรมลกั ษณะใดลกั ษณะหน่ึง เช่น ลกั ษณะสีตา จะพบวา่
มียนี ท่ีควบคุมลกั ษณะสีตาอยบู่ นโครโมโซมแท่งหน่ึง โครโมโซมคู่เหมือนกจ็ ะมียนี
ท่ีควบคุมลกั ษณะสีตาดว้ ยเช่นกนั
โครโมโซมคู่เหมือน คูข่ องโครโมโซม
ภาพ 2-5 แสดงโครโมโซมคูเ่ หมือนและคูข่ องโครโมโซม
ที่มา : http://www.bbc.co.uk/schools/gcsebitesize/science/add_aqa_pre_2011/celldivision/inheritance1.shtml
(10 เมษายน 2555)
2.1 แอลลนี (allele)
คือ ยนี ที่ควบคุมลกั ษณะเดียวกนั แต่ต่างรูปแบบกนั แมจ้ ะอยบู่ นโครโมโซม
คู่เหมือนตรงตาแหน่งเดียวกนั เช่น ลกั ษณะของต่ิงหูจะมียนี ควบคุม อยู่ 2 แบบ
คือ แอลลีนท่ีควบคุมการมีต่ิงหู (ใหส้ ญั ลกั ษณ์เป็น B ) และแอลลีนควบคุม
การไม่มีต่ิงหู (ใหส้ ัญลกั ษณ์เป็น b)
13
13
2.2 จโี นไทป์ (genotype)
คือ ลกั ษณะการจบั คู่กนั ของยนี มี 2 ลกั ษณะไดแ้ ก่
1) ลกั ษณะพนั ธุ์แท้ (homozygous) เป็นการจบั คู่ของยนี ที่มีแอลลีน
เหมือนกนั เช่น แอลลีนควบคุมการมีติ่งหู (BB) แอลลีนควบคุมการไม่มีต่ิงหู (bb)
2) ลกั ษณะพนั ธุ์ทาง (heterozygous) เป็นการจบั คู่ของยนี ท่ีมีแอลลีน
ต่างกนั เช่น แอลลีนควบคุมการมีติ่งหูจบั คู่กบั แอลลีนควบคุมการไม่มีต่ิงหู (Bb)
2.3 ฟี โนไทป์ (phenotype)
คือ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่แสดงออกมาใหเ้ ห็น เช่น ลกั ษณะสีผวิ
ความสูง จานวนช้นั ของหนงั ตา เป็นตน้
นอ้ งๆ รู้ไหมวา่ ...นกั พนั ธุศาสตร์ใชต้ วั อกั ษรหรือสัญลกั ษณ์
แทนยนี โดยใชอ้ กั ษรภาษาองั กฤษตวั พิมพใ์ หญ่แทนยนี ที่ควบคุม
ลกั ษณะเด่น และอกั ษรตวั พมิ พเ์ ลก็ แทนยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะดอ้ ย เช่น
ให้ R แทนยนี ควบคุมลกั ษณะเมลด็ กลม ซ่ึงเป็นลกั ษณะเด่น
r แทนยนี ควบคุมลกั ษณะเมลด็ ขรุขระ ซ่ึงเป็นลกั ษณะดอ้ ย
ดงั น้นั คู่ของยนี หรือ จีโนไทป์ (genotype) ท่ีควบคุม
ลกั ษณะของเมลด็ ถวั่ ลนั เตา มี 3 แบบ ไดแ้ ก่ RR, Rr และ rr
คู่ของยนี ที่มียนี เหมือนกนั เรียกวา่ พนั ธ์ุแท้ มี 2 แบบ คือ
RR และ rr
คู่ของยนี ที่มียนี ต่างกนั เรียกวา่ พนั ธ์ุทาง หรือลูกผสม
มี 1 แบบ คือ Rr
ลกั ษณะที่แสดงออกหรือฟี โนไทป์ (phenotype) ของ
เมลด็ ถวั่ ลนั เตา มี 2 แบบ คือ เมลด็ กลม (RR,Rr) และเมลด็
ขรุขระ (rr)
14 14
จากการใชส้ ัญลกั ษณ์แทนยนี จึงสามารถเขียนแผนภาพแทนยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะ
ทางพนั ธุกรรมและผลการถ่ายทอดลกั ษณะในการผสมพนั ธุล์ กั ษณะต่าง ๆ ได้ เช่น
ตวั อย่าง การผสมพนั ธุร์ ะหวา่ งถว่ั ลนั เตาดอกสีม่วงพนั ธุ์แทก้ บั ดอกสีขาวพนั ธุแ์ ท้
และผลการผสมรุ่นลกู (F1) ดว้ ยกนั
ให้ P แทนยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะดอกสีม่วง
p แทนยนี ที่ควบคุมลกั ษณะดอกสีขาว
1. การผสมพนั ธ์ุระหว่างถัว่ ลนั เตาดอกสีม่วงพนั ธ์ุแท้กบั ดอกสีขาวพนั ธ์ุแท้
ไดผ้ ลการทดลอง ดงั น้ี
รุ่นพ่อแม่(P)
PP pp
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ P P p p
รุ่นลกู (F1) Pp Pp Pp Pp
ญ
P
ดอกสีม่วงทุกดอก
ภาพ 2-6 แผนภาพแสดงการผสมพนั ธุ์ถวั่ ลนั เตารุ่นพอ่ แม่(P)
ถ้านารุ่นลกู ไปผสมกนั เอง
รนุ่ หลานจะเป็นอย่างไรนะ
15 15
2. การผสมพนั ธ์ุระหว่างรุ่นลกู (F1) ด้วยกนั ไดผ้ ลการทดลองดงั น้ี
รุ่นลกู (F1)
Pp Pp
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ P pP p
PP Pp Pp pp
รุ่นหลาน(F2)
ดอกสีม่วง ดอกสีขาว
ภาพ 2-7 แผนภาพแสดงการผสมพนั ธุ์ถวั่ ลนั เตารุ่นลูก(F1)
จากผลการทดลองพบวา่ ยนี ในเซลลส์ ืบพนั ธุใ์ นรุ่นลูก(F1)ที่อยคู่ ู่กนั จะแยกออกจาก
กนั ไปอยคู่ นละเซลล์ แลว้ กลบั มาเขา้ คู่กนั ในรุ่นหลาน(F2) ทาใหไ้ ดแ้ บบของยนี
3 แบบ คือ PP, Pp และ pp
ดงั น้นั ในรุ่น F2 จึงมีอตั ราส่วนระหวา่ งดอกสีม่วง : ดอกสีขาว = 3 : 1
หรือมีดอกสีม่วงร้อยละ 75
16 16
จากการศึกษาของเมนเดล ทาใหท้ ราบวา่ ส่ิงมีชีวติ มียนี ทาหนา้ ที่กาหนดลกั ษณะ
ต่าง ๆ เช่น ความสูง สีผวิ ริมฝี ปาก ลกั ยมิ้ เป็นตน้ แต่เมนเดลไม่ทราบวา่ ยนี อยทู่ ี่ใด
ในเซลลข์ องส่ิงมีชีวติ และมีกลไกการถ่ายทอดลกั ษณะอยา่ งไร
ความสัมพนั ธ์ระหว่างหน่วยพนั ธุกรรมกบั โครโมโซม
ในปี พ.ศ. 2445 หลงั จากการคน้ พบของเมนเดล 2 ปี วอลเตอร์ ซตั ตนั (Walter
Sutton) นกั ชีววทิ ยาชาวอเมริกนั และเทโอดอร์ โบเฟรี (Theodor Boveri) นกั ชีววทิ ยา
ชาวเยอรมนั ไดเ้ สนอว่า “หน่วยพนั ธุกรรมทเ่ี มนเดลค้นพบอย่บู นโครโมโซม”
เน่ืองจากโครโมโซมแท่งหน่ึง ๆ จะมียนี อยจู่ านวนมากมาย และจากการที่โครโมโซมอยู่
เป็นคู่ ดงั น้นั ยนี ท่ีอยบู่ นโครโมโซมจึงอยเู่ ป็นคู่ดว้ ยเช่นกนั
ยนี 1 คู่
โครโมโซม 1 คู่
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสิ่งมีชีวติ จะมีจานวนมากกวา่ จานวนโครโมโซมของ
ส่ิงมีชีวติ น้นั เสมอ ดงั น้นั แต่ละโครโมโซมจึงมียนี อยเู่ ป็นจานวนมาก
ยนี ควบคุมลกั ษณะหนงั ตา ยนี ควบคุมลกั ษณะผม
ยนี ควบคุมลกั ษณะการมีลกั ยมิ้ ยนี ควบคุมลกั ษณะสันจมูก
1. 2.
17 17
แบบภาฝโึ กมโหซดั มที่ 2
เรื่อง หลกั การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ชื่อ...................................................นามสกลุ ............................ช้นั ............ เลขท่ี.........
คาชีแ้ จง
ตอนท่ี 1 ใหน้ กั เรียนเติมเคร่ืองหมายถกู ()
หนา้ ขอ้ ความที่เห็นวา่ ถกู และเติม เคร่ืองหมายผดิ ( )
หนา้ ขอ้ ความที่เห็นวา่ ผดิ ขอ้ ละ 1 คะแนน
1. หน่วยพนั ธุกรรมหรือยนี (gene) ทาหนา้ ท่ีควบคุมลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ของ
ส่ิงมีชีวติ ซ่ึงจะถ่ายทอดจากพอ่ แม่ไปยงั รุ่นต่อไปได้
2. ยนี มีองคป์ ระกอบท่ีสาคญั คือ RNA ที่เกิดจากการต่อกนั เป็นเส้นของโมเลกุลยอ่ ย
ที่เรียกวา่ นิวคลีโอไทด์ (nucleotide)
3. ยนี เด่น หมายถึงยนี ที่แสดงลกั ษณะน้นั ๆ ออกมาไดเ้ ม่ืออยคู่ ู่กบั ยนี เด่นเท่าน้นั
4. เซลลร์ ่างกาย ของส่ิงมีชีวิตมีโครโมโซมที่ทาหนา้ ท่ีถ่ายทอดขอ้ มลู
ทางพนั ธุกรรมอยู่ 2 ชุด เขา้ คู่กนั เรียกวา่ โครโมโซมคู่เหมือน
5. ยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะเดียวกนั แต่ต่างรูปแบบกนั แมจ้ ะอยบู่ นโครโมโซม
คู่เหมือนตรงตาแหน่งเดียวกนั เรียกวา่ แอลลีน (allele)
6. จีโนไทป์ (genotype) คือ ลกั ษณะการจบั คู่กนั ของยนี
7. ฟี โนไทป์ (phenotype) คือลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีแสดงออกมาใหเ้ ห็น
8. ลกั ษณะพนั ธุแ์ ท้ (homozygous) เป็นการจบั คู่ของยนี ท่ีมีแอลลีนต่างกนั
9. นกั ชีววทิ ยาท่ีเสนอวา่ “หน่วยพนั ธุกรรมท่ีเมนเดลคน้ พบอยบู่ นโครโมโซม”
คือ วอลเตอร์ ซตั ตนั และเทโอดอร์ โบเฟรี
10. ยนี อยเู่ ป็นคู่ ๆ บนโครโมโซม
18
18
คาชี้แจง
ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนเติมคาหรือตอบคาถามต่อไปน้ีให้
ถกู ตอ้ งและสมบรู ณ์ ขอ้ ละ 5 คะแนน
1. ในการผสมถว่ั ลนั เตาฝักสีเขียวพนั ธุท์ างกบั ถว่ั ลนั เตาฝักสีเหลืองพนั ธุ์แทจ้ ะไดล้ ูก
มีลกั ษณะอยา่ งไรบา้ ง และคิดเป็นอตั ราส่วนเท่าไร
กาหนดให้ G แทนยนี ควบคุมลกั ษณะฝักสีเขียว
g แทนยนี ควบคุมลกั ษณะฝักสีเหลือง
รุ่นพอ่ แม่(P) ฝักสีเขียว ฝักสีเหลืองพนั ธุ์แท้
gg.
พนั ธุท์ าง
Gg..
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ .… ..... ... ....
รุ่นลูก( F1) Gg . ... .
G .
….. ….. …..
.......
สีของฝักรุ่น F1 ................ .............. ............. .............
ดงั น้นั รุ่น F1จะมี............ลกั ษณะ คือ...................................................................
คิดเป็นอตั ราส่วน................................................................................................
19
19
2. ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพและตอบคาถามต่อไปน้ี
แมวเพศผขู้ นสีดาพนั ธุแ์ ทผ้ สมกบั แมวเพศเมียขนสีดาพนั ธุท์ าง ลูกรุ่น F1
จะมีลกั ษณะอยา่ งไร และคิดเป็นร้อยละเท่าไร
กาหนดให้ B แทนยนี ควบคุมลกั ษณะขนสีดา
b แทนยนี ควบคุมลกั ษณะขนสีขาว
ตรวจคาตอบ
จากเฉลยได้เลย
คะ่
20
20
การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมในคน
1. ลกั ษณะทถี่ ่ายทอดทางพนั ธุกรรม มนุษยจ์ ะถ่ายทอดลกั ษณะจากบรรพบุรุษ
สู่ลูกหลาน เช่น สีตา สีผม ความสูง สีผวิ ห่อลิน้ ได้ ห่อลิ้นไม่ได้ ผมหยกิ ผมเหยยี ด
มีต่ิงหู ไม่มีต่ิงหู เป็นตน้ โดยลูกจะไดร้ ับการถ่ายทอดลกั ษณะจากพอ่ และแม่ พ่อจะ
ไดร้ ับการถ่ายทอดลกั ษณะมาจากป่ ู ยา่ แม่จะไดร้ ับการถ่ายทอดลกั ษณะจากตา ยาย
การถ่ายทอดลกั ษณะเช่นน้ีเป็นการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ลกั ษณะบางลกั ษณะ
ของลูกอาจเหมือนหรือแตกต่างจากพอ่ แม่ ป่ ู ยา่ ตา ยาย ลกั ษณะท่ีแตกต่างออกไปน้ี
เป็นลกั ษณะที่แปรผนั และสามารถถ่ายทอดสู่รุ่นลูก รุ่นหลานต่อไป
ภาพ 2-9 แผนภาพแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ที่มา : http://krunitta148.files.wordpress.com/2011/08/image10.jpg (12 เมษายน 2555)
21
21
กจิ กรรมนักวทิ ยาศาสตร์น้อย
เรื่อง ลกั ษณะท่ีถ่ายทอดทางพนั ธุกรรม
วนั ที่........................เดือน.......................................พ.ศ......................
ชื่อ....................................นามสกลุ .............................ช้นั ........เลขท่ี........
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ทากิจกรรมเพือ่ ศึกษาการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมได้
2. สรุปลกั ษณะที่ถ่ายทอดทางพนั ธุกรรมจากรุ่นหน่ึงไปยงั รุ่นต่อ ๆไปได้
ปัญหา คือ ..................................................................................................................
สมมติฐาน คือ ...........................................................................................................
...................................................................................................................................
วธิ ที ากจิ กรรม
ใหน้ กั เรียนศกึ ษาลกั ษณะต่าง ๆ ดงั ภาพต่อไปน้ีที่ปรากฏในตวั นกั เรียนหรือบุคคล
ใกลช้ ิดในครอบครัว ไดแ้ ก่ พ่ี นอ้ ง พอ่ แม่ ป่ ู ยา่ ตา ยาย โดยการสงั เกต
แลว้ ทาเคร่ืองหมาย ลงในตารางบนั ทึกผลตามท่ีสังเกตได้ เช่น
ผมเหยยี ดตรง ผมหยกั ศก หนงั ตาช้นั เดียว หนงั ตาสองช้นั
มีติ่งหู ไม่มีต่ิงหู เชิงผมที่หนา้ ผากแหลม เชิงผมท่ีหนา้ ผากตรง
22
22
มีลกั ยมิ้ ไม่มีลกั ยมิ้ ห่อลิ้นได้ ห่อลิ้นไม่ได้
ตารางบนั ทกึ ผล
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม นักเรียน พ่ี น้อง พ่อ แม่ ป่ ู ย่า ตา ยาย
1.ลกั ษณะของผม - เหยยี ดตรง
- หยกั ศก
2. หนงั ตา - ช้นั เดียว
- สองช้นั
3. ติ่งหู - มี
- ไม่มี
4. เชิงผมท่ีหนา้ ผาก - แหลม
- ไม่แหลม
5. ลกั ยมิ้ - มี
- ไม่มี
6. การห่อลิน้ - ห่อได้
- ห่อไม่ได้
คาถามหลงั ทากจิ กรรม
1. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของนกั เรียนที่เหมือนพอ่ แม่ไดแ้ ก่ลกั ษณะใดบา้ ง
...................................................................................................................................
.................................................................................................................................
2. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของนกั เรียนที่ไม่เหมือนพอ่ แม่ไดแ้ ก่ลกั ษณะใดบา้ ง
.................................................................................................................................
23
23
3. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของนกั เรียนท่ีไม่เหมือนพ่อแม่ แต่เหมือนกบั ป่ ู ยา่ ตา ยาย
บุคคลใดบุคคลหน่ึงไดแ้ ก่ลกั ษณะใดบา้ ง.................................................................
4. ลกั ษณะท่ีมีในพ่อ แม่ ป่ ู ยา่ ตา ยาย ปรากฏในตวั นกั เรียนไดเ้ พราะเหตุใด
.................................................................................................................................
5. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่นกั เรียนไดร้ ับถ่ายทอดมา สามารถถ่ายทอดไปยงั ลูกหลาน
ไดเ้ ท่ากนั หรือไม่ เพราะเหตุใด................................................................................
................................................................................................................................
สรุปผลจากการทากจิ กรรม
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
จากกิจกรรมเพ่อื น ๆ คงจะเห็นแล้วว่าคนทเ่ี ปน็
ญาติสายเลือดเดียวกนั มักมคี วามคล้ายคลึงกนั
หลายประการ แต่ก็ยงั มบี างลักษณะทแี่ ตกตา่ ง
กนั ไปบา้ ง เน่อื งจากไดร้ ับการถา่ ยทอดลักษณะ
ทางพันธกุ รรมท่ีตา่ งกันน่นั เอง
24
24
2. การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมโดยยนี บนออโตโซมและยนี บนโครโมโซมเพศ
2.1 ยนี บนออโตโซม โครโมโซมแต่ละแท่งมียนี จานวนมากและยนี ส่วนใหญ่จะ
อยบู่ นออโตโซม ดงั น้นั ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมจะถูกถ่ายทอดโดยยนี ที่อยบู่ นออโตโซม
การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมโดยยนี ท่ีอยบู่ นออโตโซมแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ
1) การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่ควบคุมโดยยนี ดอ้ ยบนออโตโซม
เม่ือดูจากภายนอกท้งั พอ่ และแม่มีลกั ษณะปกติ แต่ท้งั คู่มียนี ท่ีควบคุมลกั ษณะผดิ ปกติแฝง
อยู่ เรียกวา่ เป็นพาหะ (carrier)ของลกั ษณะที่ผดิ ปกติน้นั เช่น ลกั ษณะผวิ เผอื ก โรคธาลสั
ซีเมีย โรคซิกเคิลเซลลห์ รือเซลลเ์ มด็ เลือดแดงเป็นรูปเคียว
ภาพ 2-10 ครอบครัวที่มีลกั ษณะผวิ เผอื ก
ท่ีมา : http://www.suriyothai.ac.th/files/u437/article-1210632-063CFA18000005DC- 217_634x710.jpg
(12 เมษายน 2555)
25
25
ภาพ 2-11 ลกั ษณะของคนที่เป็นโรคธาลสั ซีเมีย
ที่มา : http://www.thalassemia.or.th/picture/betathal-e.jpg และ
http://www.thalassemia.or.th/picture/argan.jpg (12 เมษายน 2555)
ภาพ 2-12 ลกั ษณะเซลลเ์ มด็ เลือดแดงของคนท่ีเป็นโรคซิกเคิลเซลล์
ท่ีมา : http://www.vcharkarn.com/vbiology/pictures/A297p2x2.jpg (12 เมษายน 2555)
26
26
ตวั อย่าง การถ่ายทอดลกั ษณะผวิ เผอื ก โดยท้งั พ่อและแม่เป็นพาหะของลกั ษณะ
ผวิ เผอื ก
กาหนดให้ A แทนยนี ควบคุมลกั ษณะผวิ ปกติ
a แทนยนี ควบคุมลกั ษณะผวิ เผอื ก
พอ่ เป็นพาหะ แม่เป็ นพาหะ
รุ่นพอ่ แม่(P) Aa Aa
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ A a Aa
รุ่น F1 AA Aa Aa aa
ผวิ เผอื ก
ลกั ษณะลูกรุ่น F1 ผวิ ปกติ ผวิ ปกติ ผวิ ปกติ
จากแผนภาพแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะผวิ เผอื กสรุปไดว้ า่
1. โอกาสถ่ายทอดลกั ษณะผวิ เผอื กไปสู่รุ่นลูกเท่ากบั 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25
2. โอกาสที่รุ่นลูกจะเป็นพาหะของลกั ษณะผวิ เผอื กเท่ากบั 2 ใน 4 หรือร้อยละ 50
27
27
2) การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีควบคุมโดยยนี เด่นบนออโตโซม
จะเป็นการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมจากพอ่ หรือแม่ที่มีลกั ษณะพนั ธุแ์ ทท้ ่ีมียนี เด่น
ท้งั คู่ หรือพนั ธุ์ทางท่ีมียนี เด่นคู่กบั ยนี ดอ้ ย ไดแ้ ก่ การมีลกั ยมิ้ ลกั ษณะนิ้วเกิน คนแคระ
โรคทา้ วแสนปม และกลุ่มอาการมาร์แฟน
ภาพ 2-13 คนแคระ
ที่มา : http://i.kapook.com/faiiya/9-3-54/shot3.jpg (12 เมษายน 2555)
ภาพ 2-14 ลกั ษณะนิ้วเกิน
ที่มา : http://www.thairath.co.th/media/content/2010/03/23/72482/hr1667/630.jpg (12 เมษายน 2555)
28
28
ภาพ 2-15 คนท่ีเป็ นโรคทา้ วแสนปม
ท่ีมา : http://www.thaigoodview.com/files/u8741/s7.jpg (12 เมษายน 2555)
ภาพ 2-16 ลกั ษณะของกลุ่มอาการมาร์แฟน
ท่ีมา : http://www.homeescapade.com/wp-content/uploads/2012/03/marfan-syndrome-
physical-effects.jpg (12 เมษายน 2555)
29
29
ตัวอย่าง การถ่ายทอดลกั ษณะการมีลกั ยมิ้ ของครอบครัว ก และ ข
กาหนดให้ S แทนยนี ควบคุมลกั ษณะการมีลกั ยมิ้
s แทนยนี ควบคุมลกั ษณะไม่มีลกั ยมิ้
ครอบครัว ก พอ่ มีลกั ยมิ้ พนั ธุท์ าง แม่ไม่มีลกั ยมิ้
รุ่นพอ่ แม่(P) พ่อมีลกั ยมิ้ แม่ไม่มีลกั ยมิ้
ss
พนั ธุท์ าง
Ss
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ S s ss
รุ่น F1 Ss Ss ss ss
ไม่มีลกั ยมิ้
ลกั ษณะลูกรุ่น F1 มีลกั ยมิ้ มีลกั ยมิ้ ไม่มีลกั ยมิ้
ภาพ 2-17 แผนภาพแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะการมีลกั ยมิ้ ของครอบครัว ก
จากแผนภาพแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะการมีลกั ยมิ้ ของครอบครัว ก สรุปไดว้ า่
โอกาสท่ีลูกแต่ละคนจะมีลกั ยมิ้ กบั ไม่มีลกั ยมิ้ เท่ากนั คือ อตั ราส่วน 1 : 1
หรือ 1 ใน 2 หรือร้อยละ 50
30
30
ครอบครัว ข พ่อมีลกั ยมิ้ พนั ธุแ์ ท้ แม่ไม่มีลกั ยมิ้
พ่อมีลกั ยมิ้ พนั ธุแ์ ท้ แม่ไม่มีลกั ยมิ้
ss
รุ่นพ่อแม่(P) SS
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ S S s s
รุ่น F1 Ss Ss Ss Ss
ลกั ษณะลกู รุ่น F1 มีลกั ยมิ้ มีลกั ยมิ้ มีลกั ยมิ้ มีลกั ยมิ้
ภาพ 2-18 แผนภาพแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะการมีลกั ยมิ้ ของครอบครัว ข
จากแผนภาพแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะการมีลกั ยมิ้ ของครอบครัว ข สรุปไดว้ า่
โอกาสท่ีลูกแต่ละคนจะมีลกั ยมิ้ ซ่ึงควบคุมโดยยนี เด่นร้อยละ 100
การแสดงออกของยนี ควบคมุ ลักษณะศรี ษะลา้ นซึ่งอยบู่ นโครโมโซม
รา่ งกายจะอยูภ่ ายใตอ้ ทิ ธพิ ลของฮอร์โมนเพศชาย ดังนน้ั เราจึงพบ
เพศชายศรี ษะลา้ นมากกว่าเพศหญิง
31
31
2.2 ยนี บนโครโมโซมเพศ
1) ชนิดของยนี บนโครโมโซมเพศ เพศหญิงมีโครโมโซมเพศแบบ XX
เพศชายมีโครโมโซมเพศแบบ XY
โครโมโซม X มีขนาดใหญ่จึงมียนี อยจู่ านวนมาก มีท้งั ยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะ
เพศหญิงและยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะอ่ืน ๆ เช่น ตาบอดสี โรคฮีโมฟี เลีย(เลือดแขง็ ตวั ชา้ )
โรคกลา้ มเน้ือแขนขาลีบ และภาวะพร่องเอนไซมก์ ลโู คส -6-ฟอสเฟสดีไฮโดรจีเนส หรือ
G-6-PD ซ่ึงยนี เหล่าน้ีจะเป็นยนี ดอ้ ย
โครโมโซม Y มีขนาดเลก็ มียนี อยจู่ านวนนอ้ ย มีท้งั ยนี ที่ควบคุมลกั ษณะเพศชาย
และยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะอื่น ๆ ไดแ้ ก่ ยนี ที่ควบคุมลกั ษณะมีขนบนใบหู ซ่ึงถ่ายทอดจาก
พอ่ ไปยงั ลูกชายและจากลูกชายไปยงั หลานชาย
ภาพ 2-19 ลกั ษณะมีขนบนใบหูที่พบในเพศชาย
ท่ีมา : http://image.ohozaa.com/i1/dhcv5.jpg (12 เมษายน 2555)
ยีนทอ่ี ยบู่ นโครโมโซม X หรอื Y
เรียกว่า ยนี ท่ีเกย่ี วเนือ่ งกบั เพศ
(sex linked gene)นะคะ
32
32
2) การถ่ายทอดลกั ษณะท่ีควบคุมโดยยนี บนโครโมโซมเพศ เน่ืองจากยนี
ที่เก่ียวเน่ืองกบั เพศอยบู่ นโครโมโซม X หรือ Y การเขียนสญั ลกั ษณ์ เช่น ยนี ท่ีควบคุม
ลกั ษณะตาบอดสี ซ่ึงอยบู่ นโครโมโซม X เขียนไดด้ งั น้ี
กาหนดให้ C แทนยนี ที่ควบคุมลกั ษณะตาปกติ
c แทนยนี ที่ควบคุมลกั ษณะตาบอดสี
ตาราง แสดงจีโนไทป์ ของลกั ษณะตาบอดสีในเพศหญงิ และเพศชาย
เพศ จีโนไทป์
ตาปกติ พาหะ ตาบอดสี
หญิง XCXC XCXc XcXc
ชาย XCY ไม่มี XcY
ตวั อย่าง การถ่ายทอดลกั ษณะตาบอดสี ชายตาปกติแต่งงานกบั หญิงที่เป็นพาหะของตาบอดสี
พ่อตาปกติ แม่เป็ นพาหะ
รุ่นพ่อแม่(P) XCY XCXc
s
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ XC Y XC Xc
รุ่น F1 XCXC XCXc XCY XcY
ลกั ษณะลูกรุ่น F1 หญิงตาปกติ หญิงตาปกติ ชายตาปกติ ชายตาบอดสี
ภาพ 2-20 แผนภาพแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะตาบอดสี
33
33
จากแผนภาพแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะตาบอดสี สรุปไดว้ า่
1. ลูกที่เกิดมาแต่ละคนมีโอกาสดงั น้ี
ลกู สาวตาปกติ : ลกู ชายตาปกติ : ลูกชายตาบอดสี เท่ากบั 2 : 1 : 1
2. ลูกสาวมีโอกาสเป็นพาหะของลกั ษณะตาบอดสี 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25
3. ลูกชายมีโอกาสตาบอดสี 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25
ลักษณะทางพนั ธกุ รรมบางลกั ษณะควบคมุ โดยยีนมากกวา่ 1 คู่ จงึ ทาให้มลี ักษณะ
ท่แี ตกต่างกนั หลายระดบั เชน่
ความสงู (สงู มาก สงู คอ่ นข้างสูง ปานกลาง คอ่ นขา้ งเตย้ี และเตยี้ )
สติปญั ญา (ฉลาด คอ่ นข้างฉลาด ปานกลาง คอ่ นข้างไม่ฉลาด ปญั ญาอ่อน)
ความดันเลือด และสผี วิ
การแสดงออกของยนี นอกจากจะขึน้ อยู่กับพันธุกรรมแลว้ ยงั ขึน้ อยู่กับสง่ิ แวดลอ้ ม
ด้วย เชน่ ความสงู เก่ียวข้องกับกระบวนการเจรญิ เตบิ โต การสรา้ งฮอรโ์ มนในร่างกาย
และส่ิงแวดล้อมภายนอก เชน่ อาหาร การออกกาลงั กาย
34
34
3) เพดดกี รี(pedigree) หรือพงศาวลี เป็นแผนผงั ที่นกั พนั ธุศาสตร์นิยมใช้
ในการไล่เรียงลาดบั การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของคนโดยการใชส้ ัญลกั ษณ์แสดง
บุคคลต่าง ๆในครอบครัว ท้งั ท่ีปรากฏลกั ษณะใหเ้ ห็นและไม่ปรากฏใหเ้ ห็นในขณะที่กาลงั
ศกึ ษาเท่าท่ีจะสามารถสืบคน้ ได้
รุ่นพ่อแม่(P)
1 2
รุ่น F1
1 234 56
รุ่น F2 3
1-3 4 5 6 7
, แสดงผชู้ าย แฝดร่วมไข่
, แสดงผหู้ ญิง แฝดไข่คนละใบ
แสดงหญิงชาย 2 คนแต่งงานกนั คนท่ีไม่ทราบเพศ
แสดงการแตง่ งานระหวา่ งญาติ หญิงหรือชาย
ท่ีมีความผดิ ปกติ
แสดงครอบครัวท่ีแต่งงานและมีลูก 3 คน หญิงท่ีเป็ นพาหะ
คนแรกเป็ นผหู้ ญิง (ซา้ ยสุด) 3 ลูกชาย 3 คน
คนท่ี 2 เป็นชาย คนท่ี 3 เป็นผหู้ ญิง
ภาพ 2-21 แผนผงั แสดงตวั อยา่ งเพดดีกรีและสญั ลกั ษณ์ท่ีใช้
35
35
ตวั อย่าง การถ่ายทอดลกั ษณะของหนงั ตา ซ่ึงมีการถ่ายทอด 2 แบบ คือ หนงั ตาช้นั เดียว
เป็นลกั ษณะดอ้ ยและหนงั ตาสองช้นั ของครอบครัวหน่ึงแลว้ นามาเขียนเพดดีกรี
ครอบครัวหน่ึงมีป่ หู นงั ตาช้นั เดียว ยา่ หนงั ตาสองช้นั มีลกู 2 คน คือ ลุงมีหนงั ตาช้นั
เดียวกบั พอ่ มีหนงั ตาสองช้นั ส่วนตากบั ยายมีหนงั ตาช้นั เดียวท้งั คู่ มีลูก 3 คน คือ แม่ นา้
ชาย นา้ สาว ทุกคนหนงั ตาช้นั เดียว พอ่ แต่งงานกบั แม่มีลกู ดว้ ยกนั 3 คน คนที่ 1 และ
คนท่ี 3 เป็นลูกสาวหนงั ตาช้นั เดียว คนที่ 2 เป็นลูกชายหนงั ตาสองช้นั
ภาพ 2-22 ลกั ษณะหนงั ตาช้นั เดียว และหนงั ตาสองช้นั
ที่มา : http://www.zabzaa.com/pic/i/f9fd268eb73fadfedd80f8f3cb6f7692.jpg (12 เมษายน 2555)
เพดดีกรีแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะของหนังตา
ป่ ู ยา่ ตา ยาย
ลุง พอ่ แม่ นา้ ชาย นา้ สาว ชายหนงั ตาช้นั เดียว
ลูกคนที่ 1 ลูกคนที่ 2 ลูกคนที่ 3 หญิงหนงั ตาช้นั เดียว
ชายหนงั ตาสองช้นั
หญิงหนงั ตาสองช้นั
ภาพ 2-23 เพดดีกรีแสดงการถ่ายทอดลกั ษณะของหนงั ตา
36
36
แบบฝึ กหัดที่ 3
เร่ือง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ช่ือ...................................................นามสกลุ ............................ช้นั ............ เลขที่.........
คาชีแ้ จง
ตอนท่ี 1 ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง
และไดใ้ จความสมบูรณ์ ขอ้ ละ 1 คะแนน
1. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่ถ่ายทอดโดยยนี บนออโตโซมไดแ้ ก่ลกั ษณะใดบา้ ง
ตอบ.(อยา่ งนอ้ ย 3 ลกั ษณะ).................................................................................
.............................................................................................................................
2. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีถ่ายทอดโดยยนี ดอ้ ยบนออโตโซมไดแ้ ก่ลกั ษณะใดบา้ ง
ตอบ......................................................................................................................
.............................................................................................................................
3. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่ถ่ายทอดโดยยนี เด่นบนออโตโซมไดแ้ ก่ลกั ษณะใดบา้ ง
ตอบ......................................................................................................................
4. ยนี ที่อยบู่ นโครโมโซม X และโครโมโซม Y เรียกวา่ อะไร
ตอบ.......................................................................................................................
5. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีถ่ายทอดโดยยนี บนโครโมโซม X ไดแ้ ก่
ลกั ษณะใดบา้ ง
ตอบ.......................................................................................................................
6. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทีถ่ายทอดโดยยนี บนโครโมโซม Y เช่น การมีขนบน
ใบหู จะถ่ายทอดไปยงั ลูกเพศใด เพราะเหตุใด
ตอบ.......................................................................................................................
37
37
7. จงเขียนจีโนไทป์ ของชายและหญิงต่อไปน้ีลงในตาราง
กาหนดให้ XH ไม่เป็นโรคฮีโมฟี เลีย Xh เป็นโรคฮีโมฟี เลีย
ฟี โนไทป์ จีโนไทป์
ปกติ เพศชาย เพศหญิง
ปกติแต่เป็ นพาหะ
เป็นโรคฮีโมฟี เลีย
8. แผนผงั แสดงบุคคลต่าง ๆในครอบครัว ท้งั ที่ปรากฏลกั ษณะใหเ้ ห็นและ
ไม่ปรากฏลกั ษณะใหเ้ ห็นในขณะที่กาลงั ศกึ ษาเท่าที่จะสืบคน้ ได้ เรียกวา่ อะไร
ตอบ...............................................................................................................
9. พอ่ และแม่มีลกั ษณะปกติ แต่ท้งั คู่มียนี ดอ้ ยซ่ึงควบคุมลกั ษณะผดิ ปกติแฝงอยู่
เรียกวา่ อะไร
ตอบ.................................................................................................................
10. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่มียนี ควบคุมมากกวา่ 1 คู่ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง(บอกมา 2
ลกั ษณะ)
ตอบ.......................................................................................................................
ทาตอนท่ี 2
ตอ่ ไปเลยคะ่
38
38
คาชีแ้ จง
ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพแสดงการถ่ายทอด
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมต่อไปน้ี พร้อมท้งั ตอบคาถาม
ใหถ้ กู ตอ้ ง ขอ้ ละ 5 คะแนน
1. โรคกลา้ มเน้ือแขนขาลีบควบคุมโดยยนี ดอ้ ยบนโครโมโซม X ชายคนหน่ึง
ปกติแต่งงานกบั หญิงปกติแต่เป็นพาหะของโรคกลา้ มเน้ือแขนขาลีบ
กาหนดให้ XM ไม่เป็นโรค Xm เป็นโรคกลา้ มเน้ือแขนขาลีบ
รุ่นพ่อแม่(P) พ่อปกติ แม่ปกติแต่เป็ นพาหะ
XMY XMXm
s
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ XM Y XM Xm
รุ่น F1 …….. …….. ……. …….
. .
...............
ลกั ษณะลูกรุ่น F1 ............... ................. .....................
39 39
1.1 โอกาสของลูกจะมีลกั ษณะต่าง ๆ ดงั น้ี.............................................................
.........................................................................................................................
........................................................................................................................
1.2 ลกู ท่ีเป็นโรคกลา้ มเน้ือแขนขาลีบคือเพศ....................มีโอกาสร้อยละ............
1.3 ลูกสาวมีโอกาสเป็นพาหะของโรคกลา้ มเน้ือแขนขาลีบร้อยละ.......................
2. ใหน้ กั เรียนศึกษาลกั ษณะของการมีต่ิงหูและไม่มีติ่งหู จากครอบครัวของนกั เรียน
ต้งั แต่ ป่ ู ยา่ ตา ยาย ลุง ป้ า นา้ อา พ่อ แม่ พี่ นอ้ ง และตวั นกั เรียน แลว้ นาขอ้ มูลมา
เขียนเป็ นเพดดีกรี
ถา้ บุคคลใดเสียชวี ติ แล้วให้ ขอให้โชคดนี ะครบั เอ๊ะ! แลว้ ผม
สังเกตจากภาพถ่าย หรือ เหมือนใครกันนะ ตอ้ งรีบไป
สอบถามผทู้ ี่เก่ยี วข้องนะคะ สอบถามข้อมลู จากคณุ พ่อคณุ แม่
40 40
สรุปใจความสาคญั
เกรเกอร์ เมนเดล ไดท้ ดลองผสมพนั ธุถ์ วั่ ลนั เตาพบวา่
ลกั ษณะต่าง ๆ ของส่ิงมีชีวติ สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลูกหลานไดโ้ ดยผา่ นทาง
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ ต่อมาเขาไดร้ ับการยกยอ่ งเป็น “บิดาแห่งพนั ธุศาสตร์”
หน่วยพนั ธุกรรมหรือยนี (gene) คือ ส่ิงที่ควบคุมลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของ
สิ่งมีชีวติ ซ่ึงลกั ษณะทางพนั ธุกรรมเป็นลกั ษณะท่ีสามารถถ่ายทอดจากพอ่ แม่ หรือ
ป่ ู ยา่ ตา ยายไปยงั ลูกหลานได้ โดยผา่ นทางเซลลส์ ืบพนั ธุ์ ยนี อยเู่ ป็นคู่ ๆ บน
โครโมโซม โดยองคป์ ระกอบท่ีสาคญั ของยนี คือ DNA และโปรตีน ยนี ท่ีควบคุม
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมมี 2 ชนิด คือ ยนี เด่นและยนี ดอ้ ย
การศึกษาวา่ ลกั ษณะใดเป็นลกั ษณะท่ีถ่ายทอดทางพนั ธุกรรมหรือไม่ศึกษาได้
จากเพดดีกรีหรือพงศาวลี
การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมจากยนี บนออกโตโซม แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1) การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่ควบคุมโดยยนี เด่นบนออโตโซม ไดแ้ ก่
คนแคระ ลกั ษณะนิ้วเกิน โรคทา้ วแสนปม และกลุ่มอาการมาร์แฟน 2) การถ่ายทอด
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีควบคุมโดยยนี ดอ้ ยบนออโตโซม ไดแ้ ก่ โรคธาลสั ซีเมีย
ลกั ษณะผวิ เผอื ก เซลลเ์ มด็ เลือดแดงเป็นรูปเคียวหรือโรคซิกเคิลเซลล์
ทาแบบทดสอบหลังเรียน
ได้เลยนะครับ
41
41
แบบทดสอบหลงั เรียน
เรื่อง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ใหน้ กั เรียนกากบาท () ในช่อง ก. ข. ค. ง. ในกระดาษคาตอบ
ท่ีเห็นวา่ ถูกท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
1. ในการศกึ ษาการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของเมนเดล มีการคดั เลือก
พ่อพนั ธุ์และแม่พนั ธุ์ ที่มคี ุณสมบตั ิอยา่ งไร
ก พนั ธุแ์ ทท้ ้งั คู่
ข พนั ธุท์ างท้งั คู่
ค พ่อพนั ธุ์แท้ แม่พนั ธุท์ าง
ง พอ่ พนั ธุท์ าง แม่พนั ธุ์แท้
2. ผสมถว่ั ลนั เตารุ่นพอ่ แม่(P) ท่ีมีเมลด็ สีเหลือง เมลด็ สีเขียว
ลกั ษณะของรุ่นลูกหรือ F1 = A
อตั ราส่วนระหวา่ งลกั ษณะเด่น : ลกั ษณะดอ้ ยในรุ่นหลานหรือ F2 = B
A มีลกั ษณะอยา่ งไร และ B มีอตั ราส่วนเป็นเท่าไร
ก A = เมลด็ สีเขียว , B = 3 : 1
ข A = เมลด็ สีเหลือง , B = 3 : 1
ค A = เมลด็ สีเหลืองและเมลด็ สีเขียว, B = 3 : 1
ง
42 42
3. จากผลการทดลAอ=งขเมองลเด็มสนีเเหดลลือลงกัแษลณะเะมทล่ีได็ มส่ปีเขรียาวก,ฏBใน=รุ่1นล: 1ูก (F1) แต่มาปรากฏ
ในรุ่นหลาน (F2) เช่น ตน้ เต้ีย เมนเดล เรียกลกั ษณะเช่นน้ีวา่ อยา่ งไร
ก ลกั ษณะดอ้ ย
ข ลกั ษณะเด่น
ค ลกั ษณะพนั ธุท์ าง
ง ลกั ษณะพนั ธุ์แท้
4. ขอ้ ใดเป็นผลงานของเกรเกอร์ เมนเดล
ก หน่วยพนั ธุกรรมอยบู่ นโครโมโซม
ข โครโมโซมอยภู่ ายในนิวเคลียสของเซลล์
ค ยนี อยบู่ นออโตโซมและโครโมโซมเพศ
ง ลกั ษณะท่ีปรากฏในลูกถ่ายทอดทางเซลลส์ ืบพนั ธุจ์ ากพอ่ แม่
5. ยนี (gene) คืออะไร
ก หน่วยท่ีควบคุมอาการของมนุษย์
ข หน่วยที่ช่วยยบั ย้งั เช้ือโรคในร่างกาย
ค หน่วยที่ควบคุมลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ง หน่วยท่ีควบคุมระบบต่างๆ ของร่างกาย
43
43
6. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ถกู ตอ้ ง
ก ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีแสดงออก เรียกวา่ ฟี โนไทป์ (phenotype)
ข การเขา้ คู่กนั ของยนี หรือแบบของคู่ยนี เรียกวา่ จีโนไทป์ (genotype)
ค ยนี ดอ้ ยคือยนี ท่ีแสดงลกั ษณะน้นั ๆ ออกมาไดเ้ มื่ออยคู่ ู่กบั ยนี เด่น
ง ยนี เด่นคือยนี ที่แสดงลกั ษณะน้นั ๆ ออกมาไดเ้ ม่ืออยกู่ บั ยนี ดอ้ ยหรือยนี เด่น
7. การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมในขอ้ ใดท่ีควบคุมโดยยนี ดอ้ ยบนออโตโซม
ก คนแคระ
ข โรคธาลสั ซีเมีย
ค โรคทา้ วแสนปม
ง กลุ่มอาการมาร์แฟน
8. ส่ิงแวดลอ้ มมีอิทธิพลต่อการแสดงออกของลกั ษณะทางพนั ธุกรรมในขอ้ ใด
ก หมู่เลือด
ข การมีลกั ยมิ้
ค หนงั ตาช้นั เดียว
44
44
ง ปริมาณการใหน้ ้านมของววั
9. พ่อมีลกั ษณะห่อลิ้นได้ ซ่ึงเป็นลกั ษณะเด่นที่พ่อมียนี เด่นเพียง 1 ยนี ส่วนแม่
มีลกั ษณะห่อลิน้ ไม่ไดซ้ ่ึงเป็นลกั ษณะดอ้ ย สามีภรรยาคู่น้ีมีโอกาสถ่ายทอด
ลกั ษณะห่อลิน้ ไดไ้ ปสู่ลูกร้อยละเท่าไร
ก ร้อยละ 25
ข ร้อยละ 50
ค ร้อยละ 75
ง ร้อยละ 100
10. สามีภรรยาคู่หน่ึงผวิ ปกติ แต่มียนี ลกั ษณะผวิ เผอื กแฝงอยทู่ ้งั สองคน
สามีภรรยาคู่น้ีจะมีโอกาสมีลกู ผวิ ปกติและผวิ เผอื กเป็นอตั ราส่วนเท่าไร
ก ผวิ ปกติ : ผวิ เผอื ก 1 : 1
ข ผวิ ปกติ : ผวิ เผอื ก 1 : 0
ค ผวิ ปกติ : ผวิ เผอื ก 2 : 1
ง ผวิ ปกติ : ผวิ เผอื ก 3 : 1
ทาแบบทดสอบเสร็จแลว้
ตรวจคาตอบได้เลยนะคะ
45 45
บรรณานุกรม
บญั ชา แสนทวี และคณะ. (2548). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์
เล่ม 5. กรุงเทพฯ : บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั .
ประดบั นาคแกว้ และคณะ. (2547). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์
ช่วงช้ันที่ 3ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพแ์ มค็ .
ประสงค์ หลาสะอาด และจิตเกษม หลาสะอาด. (2542). ชีววิทยา ว048. กรุงเทพฯ :
สานกั พิมพพ์ ฒั นศกึ ษา.
ประเสริฐ ศรีไพโรจน.์ (2545). สารานกุ รมวิทยาศาสตร์ ม.ต้น. กรุงเทพฯ : รุ่งเรืองสาส์น
การพิมพ.์
ปรีชา สุวรรณพินิจ และนงลกั ษณ์ สุวรรณพนิ ิจ. (2540). ชีววิทยา 2. กรุงเทพฯ :
สานกั พมิ พจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
พมิ พพ์ นั ธ์ เดชะคุปต์ และคณะ. (2550). ชุดกิจกรรมพัฒนาการคิดวิเคราะห์ วิทยาศาสตร์
ม.3. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพบ์ ริษทั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ(พว.) จากดั .
วเิ ชียร ประยรู ชาติ.(ม.ป.ป.). เอกสารประกอบการอบรมเร่ือง การพฒั นาผลงาน
ทางวิชาการ. เอกสารอดั สาเนา.
ศรีลกั ษณ์ ผลวฒั นะ และคณะ. (2547). วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นท่ี 3 พันธุกรรมและความ
หลากหลายของส่ิงมีชีวิต. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พน์ ิยมวทิ ยา.
. (2555). วิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พน์ ิยมวทิ ยา.
ศึกษาธิการ,กระทรวง. (2551). ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กล่มุ สาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551.
กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั .
46
. (2548). คู่มือครูสาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน ชีวิตกบั สิ่งแวดล้อม ส่ิงมีชีวิตกบั 46
กระบวนการดารงชีวิต กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3.
กรุงเทพฯ : โรงพมิ พค์ ุรุสภาลาดพร้าว.
ศกึ ษาธิการ,กระทรวง. (2548). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน ชีวิตกบั สิ่งแวดล้อม
ส่ิงมีชีวิตกบั กระบวนการดารงชีวิต กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3.กรุงเทพฯ : โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว.
. (2553). หนังสือเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน ชีววิทยา. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค.
ลาดพร้าว.
สุนนั ทา สุนทรประเสริฐ.(2547). การสร้างสื่อการสอนและนวตั กรรมการเรียนรู้
สู่การพฒั นาผ้เู รียน. ราชบุรี : บริษทั ธรรมรักษก์ ารพมิ พ์ จากดั .
ณฐั ฎา แสงคา. (2552). การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมตามกฎของเมนเดล. คน้ เม่ือ 12
เมษายน 2555, จาก http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file
=readknowledge&id=434
ปริยะ คาพิมเลิศ และคณะ.(2551). พันธุกรรม. คน้ เมื่อ 10 เมษายน 2555, จาก
http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/science03/53/2/heredity/
topic00.html
มณีรัตน์ รูปประดิษฐ.์ (2550). การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล. คน้ เม่ือ 12 เมษายน
2555, จาก http://www.gotoknow.org/blogs/posts/139233
47
ภาคผนวก
48
48
กระดาษคาตอบ
เร่ือง กระบวนการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ชื่อ..............................................นามสกลุ ....................................ช้นั ............เลขท่ี........
ทดสอบก่อนเรียน ทดสอบหลงั เรียน
ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
สรุปผลการเรียน
ลาดบั รายการประเมินผล คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ หมายเหตุ
1 แบบฝึกหดั ที่ 1 5
2 แบบฝึกหดั ท่ี 2 20
3 แบบฝึกหดั ที่ 3 20
49
4 ทดสอบก่อนเรียน 10
5 ทดสอบหลงั เรียน 10
ความกา้ วหนา้ ทางการเรียน
49
50
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
เร่ือง กระบวนการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย
1ข 6ง
2ก 7ค
3ค 8ข
4ก 9ง
5ง 10 ข
ไดค้ ะแนนเทา่ ไร บอลเธอรู้ไหมโครโมโซมคอื อะไร
บนั ทกึ ไวด้ ว้ ยนะครับ เรารบี ไปหาคาตอบกันเถอะ
50
51
เฉลยแบบฝึ กหัดที่ 1
เรื่อง การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล
1. เกรเกอร์ เมนเดล
2. ถวั่ ลนั เตาปลูกง่าย อายสุ ้ัน เจริญเติบโตเร็ว ใหผ้ ลดก มีหลายพนั ธุ์ มี
ลกั ษณะแตกต่างกนั อยา่ งชดั เจน เป็นดอกสมบูรณ์เพศ สามารถควบคุม
การทดลองใหผ้ สมขา้ มตน้ ไดง้ ่าย (ตอบอยา่ งนอ้ ย 3 ลกั ษณะ)
3. พนั ธุ์แท้
4. 1 ลกั ษณะ ,ลกั ษณะเด่น
5. 2 ลกั ษณะ ,ลกั ษณะเด่นและลกั ษณะดอ้ ย , 3 : 1
ไชโย ! ตอบถกู
ทกุ ข้อเลย
51
52
เฉลยแบบฝึ กหดั ท่ี 2
เรื่อง หลกั การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
1. หน่วยพนั ธุกรรมหรือยนี (gene) ทาหนา้ ที่ควบคุมลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ของสิ่งมีชีวติ ซ่ึงจะถ่ายทอดจากพอ่ แม่ไปยงั รุ่นต่อไปได้
2. ยนี มีองคป์ ระกอบท่ีสาคญั คือ RNA ท่ีเกิดจากการต่อกนั เป็นเส้นของโมเลกุลยอ่ ย
ท่ีเรียกวา่ นิวคลีโอไทด์ (nucleotide)
3. ยนี เด่น หมายถึงยนี ท่ีแสดงลกั ษณะน้นั ๆ ออกมาไดเ้ ม่ืออยคู่ ู่กบั ยนี เด่นเท่าน้นั
4. เซลลร์ ่างกาย ของส่ิงมีชีวติ มีโครโมโซมท่ีทาหนา้ ที่ถ่ายทอดขอ้ มูล
ทางพนั ธุกรรมอยู่ 2 ชุด เขา้ คู่กนั เรียกวา่ โครโมโซมคู่เหมือน
5. ยนี ท่ีควบคุมลกั ษณะเดียวกนั แต่ต่างรูปแบบกนั แมจ้ ะอยบู่ นโครโมโซม
คู่เหมือนตรงตาแหน่งเดียวกนั เรียกวา่ แอลลีน (allele)
6. จีโนไทป์ (genotype) คือ ลกั ษณะการจบั คู่กนั ของยนี
7. ฟี โนไทป์ (phenotype) คือลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่แสดงออกมาใหเ้ ห็น
8. ลกั ษณะพนั ธุ์แท้ (homozygous) เป็นการจบั คู่ของยนี ท่ีมีแอลลีนต่างกนั
9. นกั ชีววทิ ยาที่เสนอวา่ “หน่วยพนั ธุกรรมท่ีเมนเดลคน้ พบอยบู่ นโครโมโซม”
คือ วอลเตอร์ ซตั ตนั และเทโอดอร์ โบเฟรี
10. ยนี อยเู่ ป็นคู่ ๆ บนโครโมโซม
52
53
ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรียนเติมคาหรือตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ งและสมบูรณ์
ขอ้ ละ 5 คะแนน
1. ในการผสมถวั่ ลนั เตาฝักสีเขียวพนั ธุท์ างกบั ถว่ั ลนั เตาฝักสีเหลืองพนั ธุ์แทจ้ ะไดล้ กู มี
ลกั ษณะอยา่ งไรบา้ ง และคิดเป็นอตั ราส่วนเท่าไร
กาหนดให้ G แทนยนี ควบคุมลกั ษณะฝีกสีเขียว
g แทนยนี ควบคุมลกั ษณะฝักสีเหลือง
รุ่นพ่อแม่(P) ฝักสีเขียว ฝักสีเหลืองพนั ธุ์แท้
gg
พนั ธุท์ าง
Gg
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ G g g g
รุ่นลูก( F1) Gg Gg gg gg
สีเหลือง
สีของฝักรุ่น F1 สีเขียว สีเขียว สีเหลือง
ดงั น้นั รุ่น F1จะมี.....2.....ลกั ษณะ คือ....ฝักสีเขียวและฝักสีเหลือง....................
คิดเป็นอตั ราส่วน....1 : 1 ..............................................................................
53
54
2. ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพและตอบคาถามต่อไปน้ี
แมวเพศผขู้ นสีดาพนั ธุแ์ ทผ้ สมกบั แมวเพศเมียขนสีดาพนั ธุท์ าง ลกู รุ่น F1
จะมีลกั ษณะอยา่ งไร และคิดเป็นร้อยละเท่าไร
กาหนดให้ B แทนยนี ควบคุมลกั ษณะขนสีดา
b แทนยนี ควบคุมลกั ษณะขนสีขาว
รุ่นพอ่ แม่(P) ขนสีดาพนั ธุแ์ ท้ ขนสีดาพนั ธุท์ าง
BB Bb
เซลลส์ ืบพนั ธุ์ B B B b
รุ่นลูก( F1) BB Bb BB Bb
ขนสีดา
สีของขนรุ่น F1 ขนสีดา ขนสีดา ขนสีดา
ดงั น้นั รุ่น F1จะมี.....1.....ลกั ษณะ คือ...ขนสีดา...... คิดเป็นร้อยละ 100.....
เก่งมากค่ะ
54
55
เฉลยกจิ กรรมนักวทิ ยาศาสตร์น้อย
เร่ือง ลกั ษณะที่ถ่ายทอดทางพนั ธุกรรม
ปัญหา คือ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมสามารถถ่ายทอดไปยงั ลกู หลานไดห้ รือไม่
สมมติฐาน คือ ถา้ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมสามารถถ่ายทอดไปยงั ลูกหลานได้ ดงั น้นั ลกั ษณะ
ทางพนั ธุกรรมกจ็ ะปรากฏในรุ่นลกู หลานดว้ ย
ตารางบันทกึ ผล
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม นักเรียน พี่ น้อง พ่อ แม่ ป่ ู ย่า ตา ยาย
บนั ทกึ ตามข้อมูลจริงของนักเรียนแต่ละคน
2.ลกั ษณะของผม - เหยยี ดตรง
- หยกั ศก
2. หนงั ตา - ช้นั เดียว
- สองช้นั
3. ติ่งหู - มี
- ไม่มี
4. เชิงผมที่หนา้ ผาก - แหลม
- ไม่แหลม
5. ลกั ยมิ้ - มี
- ไม่มี
6. การห่อลิ้น - ห่อได้
- ห่อไม่ได้
เฉลยคาถาม
ขอ้ 1 – 3 ข้ึนอยกู่ บั ขอ้ มูลของนกั เรียนแต่ละคน
ขอ้ 4 ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมสามารถถ่ายทอดจากพอ่ แม่ ป่ ู ยา่ ตา ยาย ไปยงั ลูกหลานได้
55
56
ขอ้ 5 ไม่เท่ากนั เพราะบางลกั ษณะควบคุมโดยยนี เด่น บางลกั ษณะควบคุมโดยยนี ดอ้ ย
สรุปผลจากการทากจิ กรรม
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมเป็นลกั ษณะที่ถ่ายทอดจากพอ่ แม่ ป่ ู ยา่ ตา ยาย
ไปยงั ลูกหลานได้
เฉลยแบบฝึ กหัดที่ 3
เรื่อง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ตอนที่ 1
1. ลกั ษณะเส้นผม หนงั ตา ลกั ยมิ้ ต่ิงหู ห่อลิ้น เชิงผมท่ีหนา้ ผาก เป็นตน้
(ตอบอยา่ งนอ้ ย 3 ลกั ษณะ)
2. ลกั ษณะผวิ เผอื ก โรคธาลสั ซีเมีย โรคซิกเคิลเซลล์
3. คนแคระ ลกั ษณะนิ้วเกิน กลุ่มอาการมาร์แฟน และโรคทา้ วแสนปม
4. ยนี ท่ีเกี่ยวเนื่องกบั เพศ
5. ลกั ษณะตาบอดสี โรคกลา้ มเน้ือแขนขาลีบ และโรคฮีโมฟี เลีย
6. เพศชายเท่าน้นั เพราะเพศชายมีโครโมโซม XY
7.
ฟี โนไทป์ จีโนไทป์
เพศชาย เพศหญิง
ปกติ XHY XHXH
ปกติแต่เป็ นพาหะ ไม่มี XHXh
เป็นโรคฮีโมฟี เลีย XhY XhXh
8. เพดดีกรีหรือพงศาวลี