The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม
สิ่งประดิษฐ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นเมืองสุรินทร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 03 พาขวัญ จิตรสมบัติ, 2024-01-07 13:27:35

ภูมิปัญญาจักสานตะกร้าหวายบ้านบุทม

ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม
สิ่งประดิษฐ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นเมืองสุรินทร์

Keywords: -

ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม สิ่งประดิษฐ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น เมืองสุรินทร์ ภูมิปัญญาจักสานตะกร้าหวายบ้านบุทม จัดทำ โดย นางสาวพาขวัญ จิตรสมบัติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 เลขที่ 3


หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) นี้จัดทำ ขึ้นเพื่อให้ผู้ อ่านได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับจักสานหวาย เช่น ประวัติความเป็น มา ความหมายของหวาย ชนิดของหวาย วิธีการจักสาน การ ตกแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม การทำ เครื่องมือรีดหวาย และเครื่องมือดัดลูกกรง จุดเด่นของผลิตภัณฑ์หวายบ้านบุทม ดิฉันผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้จะเป็นประโยชน์สำ หรับคนที่สนใจในเรื่อง จักสานหวายและได้รับประโยชน์จากหนังสือ E-Book เล่มนี้ไม่ มากก็น้อย คำ นำ ผู้จัดทำ นางสาวพาขวัญ จิตรสมบัติ


ประวัติความเป็นมา บ้านบุทม (เบาะทม) เป็นภาษาเขมร “เบาะ“ แปลว่า ที่ดอนที่เต็มไปด้วยป่า แต่ถูกถากถางทำ ไร่ และ “ทม“ แปลว่าใหญ่ รวมความว่า ที่รกไปด้วยป่า ถากถางทำ ไร่ขนาดใหญ่เช่นกัน บ้านบุทม หมู่ที่ 4 ตำ บลเมืองที อำ เภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ จักสานหวายเกือบทุกครัวเรือน โดยทำ นาเป็นอาชีพหลักและทำ จักสานเป็นอาชีพเสริม ที่สามารถทำ ได้ ตลอดฤดูกาล ซึ่งสานมาแล้วกว่า 60 ปี โดยในปี 2473 นายลีง เลิศล้ำ และญาติพี่น้องอีก 2 คน ประกอบ ด้วยนายเหลี่ยม ภาสวัสดี และนายพัน กล้ายิ่ง ได้เรียนรู้การจักสานหวายมาจากเรือนจำ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อได้รับอิสรภาพจึงได้ประกอบอาชีพจักสานตะกร้าหวายเลี้ยงครอบครัวตลอดมา ปี 2527 สำ นักงานพัฒนาชุมชนอำ เภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ได้ริเริ่มฟื้นฟูหมู่บ้านพัฒนาอาชีพ ชาวบ้านบุ ทมจึงได้รับการส่งเสริมจักสานหวายเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน เพื่อเสริมรายได้ให้กับครอบครัว โดย การถ่ายทอดความรู้จาก 3 ครอบครัว ขยายสู่ครอบครัวในชุมชนทุกหลังคาเรือน ต่อมาจึงจัดตั้งกลุ่มโดยได้รับ การสนับสนุนจากสภาสตรีออสเตรีย เป็นเงินจำ นวน 48,889 บาท แต่ต้อง ล้มเลิกไป เนื่องจากชาวบ้านขาดความรู้ ทางด้านการบริหาร การจัดการเรื่องเงินทุนและการตลาด ปี 2533 อาจารย์สุเทพ ศรีลานุช อาจารย์โรงเรียนบ้านบุทม ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษากลุ่มหัตถกรรมหวาย บ้านบุทม ได้เข้าร่วมโครงการวิจัยเครือข่ายการเรียนรู้ของชุมชน สำ นักนายกรัฐมนตรี ทำ การเก็บข้อมูล ด้านอาชีพ การเรียนรู้ของชาวบ้านและได้สรุปผลการวิจัยปี 2535 และได้นัดหมายกลุ่มชาวบ้านมา ประชุมที่โรงเรียนบ้านบุทม เพื่อจัดตั้งกลุ่มในปี 2538 สมาชิกเห็นพ้องต้องกันให้จัดตั้งกลุ่มขึ้นมาใหม่ ร่วม กับหัตถกรรมอื่นอีก 3 กลุ่ม จัดตั้งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์จักสานหวาย ปัจจุบัน “กลุ่มหัตถกรรมหวายบ้านบุทม” มีสมาชิกเพิ่มขึ้นไม่เพียงเฉพาะบ้านบุทมเท่านั้น แต่ยังมีเครือ ข่ายอีก 3 ตำ บล ในจังหวัดสุรินทร์ รวม 338 คน โดยสมาชิกส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างจากการทำ นา ก็นั่งทำ หวายอยู่ที่บ้าน ช่วงพักผ่อนดูทีวี หลังจากทำ เสร็จแล้วก็จะนำ มาฝากขายที่กลุ่มฯกัน


ความหมายของหวาย หวาย (ปะเดา) หวายเป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่งที่เป็นเถาเลื้อยไปตามต้นไม้ใหญ่ และหวายมี หนาม คุณสมบัติใช้ประโยชน์ในการทำ เฟอร์นิเจอร์ หวายส่วนใหญ่ที่นำ มาใช้ประโยชน์ ได้มาจากหวายธรรมชาติ ส่วนที่นำ มาใช้ประโยชน์ของหวาย เป็นส่วนของลำ ต้นที่ลอก เอากาบใบออกแล้ว นำ มาจักสานเป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำ วัน หวายทุกชนิดสามารถนำ มาใช้ประโยชน์ในลักษณะแตกต่างกันไป ประโยชน์เบื้องต้น ของหวาย ได้แก่ การนำ มาใช้ผูกมัดสิ่งของต่าง ๆ ผลนำ มาใช้กิน ลักษณะของต้นหวาย จะเป็นลำ ต้นกลมมีข้อ ยอดและหน่อของหวายสามารถนำ มารับประทานได้ และแปรรูป อาหารได้มากมาย ทั้งเป็นยาสมุนไพร เช่น “หวายนั่ง” รากเป็นยารักษาโรคมะเร็ง


หวายสามารถปลูกได้ในที่ที่มีความชื้น หรือมีแหล่งน้ำ ชายเขา ป่าดิบ ใน ประเทศไทยมีการปลูกหวายในเขตอำ เภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร เขตท้อง ที่จังหวัดอุดรธานี การปลูกเพื่อกินหน่อ และค้าขาย ในส่วนเขตภาคใต้ของ ไทย แถบป่าฮาลาบาลา จังหวัดนราธิวาส เป็นหวายป่าดิบสามารถนำ มาใช้ ประโยชน์ในงานจักสาน หรือเฟอร์นิเจอร์ หวายที่พบในจังหวัดสุรินทร์ และแนวชายแดนประเทศกัมพูชา ชาวบ้าน เรียกชื่อต่างกันว่า เช่น “หวายหางหนู” ซึ่งเป็นหวายที่มีความเหนียว เส้น เล็กมีผิวมันในตัว “หวายน้ำ ” ลำ ต้นใหญ่เท่านิ้วก้อย ชอบขึ้นริมน้ำ ชาวบ้าน นำ มาจักสานเช่นกัน โดยเฉพาะชาวบ้านบุทม จังหวัดสุรินทร์ นำ หวาย หางหนูและหวายน้ำ มาทำ จักสานตะกร้าชนิดต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์โดด เด่น


ชนิดของหวาย หวาย มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถดัดได้ มีความเหนียวเป็น ลักษณะเฉพาะ มีลำ ต้นขนาดเท่ากันตามชนิด มีความมันในระดับผิว จึง เหมาะต่อการจักสาน ทำ เฟอร์นิเจอร์ ขนาดของลำ ต้นจะมีตั้งแต่ 3 – 60 มม. ความยาวตามสิ่งแวดล้อม เช่น อาศัยไม้ที่ปีนป่ายมีความยาวตั้งแต่ 10-20 เมตร อายุการใช้งาน 7-10 ปี หวายมีหลายชนิด ทุกประเภททำ จักสาน เฟอร์นิเจอร์ และเป็นอาหาร รวม 23 ชนิด หวายที่ทำ จักสานในบ้าน บุทมใช้หวาย 3 ชนิด 1. หวายหางหนู หรือ หวายตะค้า ทอง เปลือกผิวสีเหลือง มีความ เหนียว เส้นเท่า ๆ กัน เป็นหวายเส้น เล็กมีขนาดยาว 10 -15 เมตร เลื้อย ตามต้นไม้ ขึ้นในป่าทึบ มีความชื้น ใช้ลำ ต้นแก่จัด อายุ 6 -7 ปี นำ มา ดัดทำ ลายลูกกรง และผ่าเป็นเส้น เล็ก ๆ รีดเป็นเส้นเล็ก ๆบาง ๆ เพื่อ ทำ จักสานต่าง ๆ หรือใช้ร้อยรัด เครื่องใช้ในชีวิตประจำ วันของชาว บ้าน


2. หวายน้ำ เป็นหวายเส้นใหญ่กว่าหวายหางหนู ลำ ต้นกลม ใหญ่ ประมาณนิ้วก้อยผู้ใหญ่ มีความยาว 8 -10 เมตร ชอบขึ้นตามริมน้ำ เช่น แม่น้ำ ชี แม่น้ำ มูล ใช้ทำ โครงสร้างของงานจักสานหรือนำ มาจักตอกเป็น เส้นก็ได้ 3. หวายนิ่ม เปลือกสีผิวมันวาวคล้ายหวายตะค้าทอง ลำ ต้นยาวเสมอ ขนาดเท่ากับหวายน้ำ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 -15 มม. แต่มีลำ ต้น ยาวถึง 10-50 เมตร ขึ้นในป่าดิบ ใช้ทำ โครงสร้างงานจักสาน อ่อนนิ่ม ดัดง่าย แก่เนื้อเหนียว


วิธีการจักสาน 1. เตรียมเครื่องมือต่าง ๆ (มีดตอก เหล็กแหลม แป้นรีดหวาย ค้อน ไม้ดัดลูกกรง) 2. เตรียมหวายต่าง ๆ และไม้ก้างปลา 2.1 คัดหวาย เส้นเล็กเอาไว้ทำ ลูกกรง 2.2 หวายน้ำ เอาไว้ทำ โครงสร้างตะกร้าดัดเป็นรูปทรง 2.3 ไม้ก้างปลา เอาไว้ทำ โครงสร้างรูปทรงต่างๆ 2.4 นำ วัตถุดิบแต่ละอย่างแช่น้ำ พอประมาณ (20-30 นาที) ต้องน้ำ บ่อ หรือน้ำ ฝน จึงจะดี


3. ขั้นตอนการผลิต 3.1 การผ่าหวาย เลือกหวายผ่าประมาณ 10 ต้น ควรเลือกลำ ต้นใหญ่กว่าลูกกรง หวาย 1 ต้น ควรผ่าให้ได้อย่างน้อย 4 ส่วน จนสุดลำ ต้น เทคนิคการผ่ามีดต้องคม ผ่าจากปลายไปหาโคน โดยใช้กำ ลังมือตั้งมีดตอก และใช้มืออีกข้างดันหวายตาม ความถนัด บังคับอย่าให้บิดเบี้ยว หวายจะขาดกลางลำ 3.2 รีดหวาย ใช้มีดตอกรีดเอาไส้หวายออกให้เหลือส่วนที่เป็นเปลือกเท่านั้นจากนั้น สอดเข้าไปในรูแป้น รีดหวายทีละเส้น ค่อยๆ ดึงจนสุดเส้นหวาย และควรรีดให้ได้ ขนาดเท่ากันเส้นหวายจะได้เป็นระเบียบสวยงาม


3.3 ตีลายลูกกรง ให้นำ หวายหางหนูที่แช่น้ำ 10 ต้น มาดัดลูกกรงครั้งละ2 – 4 ต้น จนครบ 10 ต้น และสุดลำ ต้น โดยใช้หวายวางทาบบนไม้ดัดลูกกรง และใช้ค้อนทุบ เบา ๆ พอให้หวายหักมุมเท่านั้น 3.4 ดัดรูปทรงตะกร้า (กลม,เหลี่ยม,รี และอื่น ๆ)


3.5 การทำ ฐาน (ก้นตะกร้า) 3.5.1 นำ ไม้เจลยมาดัดเป็นวงกลมวงที่ 1 เส้นผ่าศูนย์กลาง 28 ซ.ม. หรือตามต้องการใช้ตะปู เข็มตอกยึดเอาไว้ จากนั้นใช้เส้นหวายที่รีดแล้วพันรอบวงกลม โดยพันเว้นช่องแต่พองาม 3.5.2 นำ หวายน้ำ ที่มีขนาดเท่ากับวงกลมวงที่ 1 ตีทับวงที่ 1 ใช้ตะปูเข็มตอก แล้วใช้เส้นหวาย ที่รีดมาพันรอบวงกลมทั้ง 2 วงให้ติดกันจนครบรอบวงกลม 3.5.3 ใช้หวายน้ำ 2เส้น ที่มีขนาดเท่ากับวงกลมวงที่ 1 ใช้ตะปูเข็มตอกยึดรอบวง เพื่อเป็นฐานรองรับก้นตะกร้าให้แข็งแรง 3.5.4 นำ ไม้เจลยจำ นวน 8 ท่อน มีขนาดยาวเท่ากับเส้นผ่าศูนย์กลางของวงกลม ตะกร้าตีกากะบาท 8 มุมตอกตะปูยึดกับวงกลม 3.5.5 ใช้เส้นหวายที่รีดแล้ว สานเส้นผ่าศูนย์กลางของวงกลมคล้ายใยแมงมุม ความกว้างพอประมาณ (5 ซ.ม.)


3.5.6 ใช้หวายหางหนูทั้งต้นที่เลือกไว้มีขนาดเท่ากัน นำ มาขดให้เต็มวงกลมคล้าย ขดยากันยุงใช้เส้นหวายสานยึดแต่ละเส้นจนครบ สิ้นสุดการทำ ก้นตะกร้าโดย สมบูรณ์ 3.6 การขึ้นลูกกรง 3.6.1 การขึ้นลูกกรง นำ เหล็กแหลมเจาะที่ขอบฐานตะกร้าให้เป็นรู 5-7 ที่ตาม จำ นวนลูกกรง จากนั้นนำ หวายลูกกรงที่เตรียมไว้เหลาปลายต้นทั้ง 5-7ให้แหลม ใช้ปลายแหลมของลูกกรงสอดลงไปในรูที่เจาะไว้ ต่อจากนั้นใช้มือดัดลูกกรงขึ้นเป็น ลวดลาย ใช้เส้นหวายสานยึดติดกับขอบฐานจนครบ 3.6.2 การใส่ขอบขั้น 1 (ภาษาพื้นเมืองสุรินทร์เรียกว่า ใส่กะนับ หรือ เอวตะกร้า) โดยนำ ต้นเจลยที่ดัดเป็นวงกลม มาวางทับกับลูกกรงชั้นที่ 1 ใช้เส้นหวายที่รีดแล้ว สานยึดวงกลมกับลูกกรงไว้จนครบรอบวงกลม 3.6.3 นำ หวายน้ำ ที่มีขนาดเท่ากับวงกลมวงที่ 1 ตีทับบนขอบวงกลมที่ 1 ตอกตะปู ยึดทั้งสองวงกลมจนครบรอบ เสร็จตัวกระจาด 1 ชั้น ต่อไปก็เป็นการ ทำ หูจับ


3.7 การทำ หูจับ (มือจับ, หูหิ้ว) 3.7.1 ใช้หวายน้ำ ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร มาดัดเป็นรูปโค้ง ใช้ตะปูตอก ยึดทั้ง 2 ข้างติดกับฐานตะกร้าและขอบปากตะกร้าโค้งขนาดพอที่จะ สอดนิ้ว 4 นิ้ว ได้เป็นหูจับ 3.7.2 นำ หวายมาทาบบนขอบตะกร้า และหูจับให้โค้งตาม ใช้ตะปูเข็ม ตอกยึดติดกันไว้โดยรอบ 3.7.3 ใช้เส้นหวายรีดพันรอบขอบปากตะกร้าและหูจับ เว้นช่องแต่ละ ช่องให้ พองามต่อไปก็สานจูงนางเพื่อให้เป็นลวดลายสวยงาม


การตกแต่งเพื่อให้ เกิดความสวยงาม 1. การทำ ความสะอาดเมื่อตะกร้าสกปรก มีเชื้อรา ฝุ่นจับ โดยมากชาวบ้านใช้วิธี ธรรมชาติ เช่น นำ ผลมะเฟืองสุกรสเปรี้ยว ถูที่ตัวตะกร้าหรือจะเป็นมะนาวก็ได้ ต่อจากนั้นจึงล้างตากให้แห้งจะได้ตะกร้าที่สะอาด สวยงามตามธรรมชาติ 2. การทาน้ำ มัน เพื่อให้ตะกร้ามีเงา ผิวมันสวยเป็นสีไม้ธรรมชาติ และป้องกัน เชื้อราได้ด้วย ควรใช้น้ำ มันวานิชสีใสเคลือบเงาหรือแลคเกอร์เบอร์ 6 ทาตามวิธี ที่กำ หนดในกระป๋อง การดูแลรักษาหวาย 1. ผึ่งแดดให้แห้งสนิท 2. ไม่ควรเก็บหวายไว้ในที่ชื้น พื้นซีเมนต์ควรมีอากาศถ่ายเทได้ 3. ใส่สิ่งของให้เหมาะกับขนาดตะกร้า


1. วิธีทำ แป้นรีดหวาย โดยนำ วัสดุที่เหลือใช้ในท้องถิ่น เช่น จาน สังกะสีเคลือบ กระป๋องนมผง ปิ่นโตเคลือบ กะละมังเคลือบ นำ วัสดุเหล่านี้ไปเจาะรูตามขนาดที่ ต้องการหลาย ๆ รู แล้วนำ แป้นรีดหวายไปลับกับหินลับมีด เพื่อรักษาความคมและ เพื่อมิให้หวายแตกเป็นเสี้ยนขณะรีด 2. วิธีทำ ไม้ดัดลูกกรง โดยนำ ไม้เนื้อแข็งขนาดเหมาะ ความยาว 8 นิ้ว กว้าง 2 นิ้ว หนา 1.5 นิ้ว ใช้เหล็กฉากเจาะรูตีตะปูตอกยึดกับไม้เอาไว้ เพื่อไม่ให้เหล็กขยับ การทำ ไม้ดัด ลูกกรงสามารถทำ ได้ตามขนาดลวดลายของตะกร้าที่เราต้องการ 1″,2″ การทำ เครื่องมือรีดหวาย และเครื่องมือดัดลูกกรง


งานทุกชิ้นทำ ด้วยมือทั้งสิ้น ใช้ลวดลายดั้งเดิม คือ ลายลูกกรง เป็นเอกลักษณ์ที่ ทำ ให้ผลิตภัณฑ์สวยงาม แข็งแรง เพราะใช้หวายทั้งต้น เหมาะกับการใช้งาน รูปแบบ ดั้งเดิม พัฒนามาสู่ตลาดสากล ใช้หวายเส้นเล็ก (หวายหางหนู) ที่มีความเหนียวและผิว มัน ปัจจุบันหวายบ้านบุทม ได้รับรองมาตรฐานชุมชนจากกระทรวงอุตสาหกรรม เรียบร้อยแล้วค่ะ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ หวายบ้านบุทม


ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หมู่บ้านหัตถกรรมบุทม โทร (044) 549 044 สำ นักงานจังหวัดสุรินทร์ (044) 512 039 ตำ รวจท่องเที่ยว 1155 ตำ รวจทางหลวง (045) 515 388 ททท สนง. สุรินทร์ (044) 514 447-8, (044) 518


(แหล่งที่มาของข้อมูล: “บันทึกรอยภูมิปัญญาท้องถิ่น งานจักสาน หวาย กลุ่มหัตถกรรมหวายบ้านบุทม 8/3 ม.4 ต.เมืองที อ.เมือง จ.สุรินทร์ “เจียลปะเดา” ” เรียบเรียงโดย โกสินทร์ ศรีลานุช)


Click to View FlipBook Version