The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นักศึกษาป.บัณฑิตวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ รุ่นที่ 23

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thanawat Hongthong, 2019-12-04 02:55:30

ครูนอกกรอบ แต่ไม่นอกคอก

นักศึกษาป.บัณฑิตวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ รุ่นที่ 23





คำนำ

ครู ผู้สั่งสอนศิษย์ หรอื ผู้ถา่ ยทอดความรู้ให้แกศ่ ิษย์ ซึ่งมีผ้กู ลา่ วว่ามาจากคาวา่ ครุ (คะ-ร)ุ ท่ี
แปลวา่ "หนัก" อันหมายถึง ความรับผิดชอบในการอบรมสั่งสอนของครนู ้ัน นับเป็นภาระหน้าที่ ท่ีหนักหนา
สาหัสไม่น้อย กว่าคน ๆ หนึ่งจะเติบโตเป็นผู้มีวิชาความรู้ และเป็นคนดีของสังคม ผู้เป็น "ครู" จะต้องทุ่มเท
แรงกายและแรงใจไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่ผู้ให้กาเนิดเลย ซ่ึงในชีวิตของคน ๆ หนึ่ง นอกเหนือไปจากพ่อแม่ซ่ึง
เปรียบเสมือน "ครูคนแรก" ของเราแล้ว การที่เด็ก ๆ จะดารงชีพต่อไปได้ในสังคม จาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องมี
"ครู" ที่จะประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ เพ่ือปูพื้นฐานไปสู่หนทางทามาหากนิ ในภายภาคหนา้ ด้วย ดังนั้น "ครู"
จงึ เปน็ บคุ คลสาคัญที่เราทกุ คนควรจะได้แสดงความกตญั ญูกตเวทติ าตอ่ ท่าน

“ครนู อกกรอบ……แต่ไม่นอกครอก” เล่มน้ี จึงเป็นบทความบรรยายมุมมองของครูแตล่ ะคน
ท่ีกว่าจะพากเพรยี นพยายามมาเป็นครู แต่ละคนมีจุดเริ่มตน้ ที่นอกกรอบ และพลิกผนั มาเป็นครูอย่างไรบ้าง
บางบทความถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง ซ่ึงหลายบทความที่อยู่ในเล่มนี้ล้วนเป็นความต้ังใจและเกิด
ความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพครู รุ่นที่ 4 ห้ อง 2 คณ ะครุศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา

ขอขอบคุณรองศาสตราจารย์มาลี พัฒนกุล และคณะทางานในการจัดทาหนังสือให้สาเร็จ
ลุล่วงไปได้ด้วยดีไว้ ณ โอกาสน้ดี ว้ ย

นกั ศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพครู รุ่นท่ี 4 ห้อง 2
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสุนันทา

สำรบญั ค
เรอื่ ง
หนำ้
คานา
สารบญั ก
ถนน (ขรุขระ) ของฉันท่ดี นั (ทรุ ัง) อยากเปน็ “ครู” ข
เด็กในกรอบ 1
ครู รากใหญใ่ หท้ างทกุ อาชพี 6
ความทรงจาในวยั เรียน ความพากเพยี รในวัยทางาน 9
ชีวิตกเ็ หมือนเรือกลางทะเล 12
เดก็ บ้านนอกเขา้ กรุง 16
ชวี ติ ผกผันมาเปน็ ครู 19
เส้นทางสสู่ ายอาชพี ครู 25
อันว่าครูคือผู้ให้ 28
เม่อื ครงั้ วัยเยาว์ 35
คาพอ่ ทักสงู่ านสร้างคน 38
การเดินทางของความฝัน 41
เดก็ หลังห้อง 44
มากกวา่ “ครู” 48
พระคุณครลู า้ ค่ากว่าสงิ่ ใด 50
เร่ือง สายรงุ้ หลากสี 54
แสงเทียนสอู่ นาคตท่ีสดใส 56
ไมไ่ ด้จบ...แตอ่ ยากเป็นครู 59
เรยี นและงานเสน้ ทางตามความฝันสู่ความเป็นครู 61
ถงึ วนั นีว้ นั ที่ได้เดนิ ตามสายอาชพี “ครู” 64
สรา้ งฝนั ...จากแรงบนั ดาลใจ 65
บทบาทที่วกวน 70
ความเปน็ ครูของข้าพเจา้ 76
เส้นทางฝนั ....สูค่ วามเป็นครู 79
นีแ่ หละอาชีพท่ฉี นั ชอบ 81
เสน้ ทาง 85
บนั ไดชีวติ Japanese teacher 89
กว่าจะมาเป็นครู 93
ฉนั กบั การคน้ หาตัวเอง 98
จากดินสแู่ ม่พมิ พ์ 100
สมาชิก รุ่น 23 ห้อง 2 104
109

1

ถนน (ขรขุ ระ) ของฉนั ทด่ี ัน (ทุรงั ) อยำกเป็น “คร”ู

วรนุช ศรีอรัญ

ต้นทำง ถนนหรือเส้นทางชีวิตของแต่ละคนน้ันแตกต่างกัน ถนนของคนเราเร่ิมต้นข้ึนเมื่อเราลืมตาดู
โลกวนั แรก วนั แรกที่เราได้ชื่อวา่ เป็นทารกมี พ่อ แม่ ญาติพน่ี อ้ งคอยชื่นชมในตัวเรา สาหรับถนนชวี ิตของฉนั ได้
เริม่ ต้นข้ึนเมอ่ื 25 ปีที่แล้ว ในวันเสาร์ท่ี 12 เดือนมนี าคม พทุ ธศกั ราช 2537 เด็กหญงิ วรนุช ศรอี รัญ ไดล้ ืมตาดู
โลกฉันเกิดในครอบครัวเลก็ ๆ ท่ีมีพ่อ แม่ และฉนั เป็นลกู สาวคนแรก เป็นหลานคนแรกท่ีได้ใช้นามสกลุ ของปู่

เมื่อวันเวลาผ่านไปฉันกลายเป็นพี่สาว
คนโตของน้อง ๆ อีก 2 คน รวมถึงเป็นพ่ีสาว
คนโตที่มีลกู พี่ลูกน้องในวยั ใกล้เคียงกันอีก 4 คน
ซึ่งทุกคนลว้ นแล้วแต่เป็นผู้ชาย การอยทู่ ่ามกลาง
เด็กผู้ชายมันหล่อหลอมให้ฉันมีนิสัยท่ีห้าวหาญ
มากกว่าเด็กผู้หญิ งในวัยเดียวกั น ฉันชอบ
ปนี ต้นไม้ ยิงปืน เล่นรถกระบะขนดิน ขนทราย มากกวา่ การเลน่ พ่อ แม่ ลกู นิสัยเหล่านั้นมันทาให้ฉันเป็นคน
เขม้ แขง็ กล้าทจี่ ะทาและตัดสนิ ใจ และทส่ี าคัญนิสัยน้นั ได้ส่งผลมาจนถงึ วนั ท่ฉี นั รวู้ ่าครอบครัวของฉนั เหลอื เพียง
แมท่ ี่เปน็ เสาหลกั ให้ฉนั กับน้อง ๆ แม่กลายเปน็ แมเ่ ลี้ยงเดี่ยว ฉันไม่รู้วา่ ระหว่างทางความสัมพันธข์ องพ่อกบั แม่
เป็นอยา่ งไรแตท่ ฉี่ นั รคู้ ือแมท่ าหนา้ ทที่ ้ังเปน็ ทง้ั พอ่ และแม่ ใหฉ้ ันกบั นอ้ งโดยไม่ขาดตกบกพรอ่ ง แม้ในบางครั้ง
ความไรเ้ ดยี งสาทาให้เราถามถงึ พ่อ “ว่าพ่ออยู่ไหน ทาไมพ่อไม่มาหาเราบ้าง” แต่นน่ั ก็มิไดห้ มายความวา่ แมใ่ ห้
ความรักกับเราไมม่ ากพอ และที่ฉันรู้อีกอย่างหน่ึงคือพ่อกบั แมร่ ักลูกและพยายามทาทุกอย่างเพื่อลูกเสมอมา
โดยเฉพาะแมท่ ีค่ อยพรา่ สอนเสมอวา่ ใหล้ ูกทกุ คนเปน็ คนดี ไมจ่ าเปน็ ต้องเปน็ เกง่ เมอ่ื โตข้นึ กข็ อใหเ้ ล้ยี งตวั เองได้
เทา่ น้ีคนเป็นแมก่ ็สขุ ใจแลว้ แต่สาหรับการเป็นลกู คนโตยอ่ มเปน็ ทคี่ าดหวังของคนเป็นพ่อเป็นแม่เสมอ แมอ่ ยาก
ให้ฉนั รับราชการเพ่ืออนาคตจะไดส้ บายไมต่ อ้ งลาบากเหมอื นแม่ ฉนั ซมึ ซบั คา ๆ น้ีมาตงั้ แต่เดก็ อาชีพอะไรก็ได้ที่
รับราชการจะทาใหแ้ ม่กับนอ้ งสบาย ณ ขณะน้ันมเี พียงอาชีพเดยี วที่ฉนั คดิ ได้ก็คือ “ขา้ ราชการครู” ฉนั ต้องเป็น
ครู แต่ฉันกย็ งั ดูไมอ่ อกวา่ ฉนั ชอบและอยากเป็นครจู ริง ๆ หรอื

ระหว่ำงทำง เส้นทางเดินชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป อาจจะเป็นหนามแหลมคม
ของกุหลาบกไ็ ด้ท่โี รยไว้ใหเ้ ราเดิน และเรากต็ อ้ งเดนิ ฝา่ มนั ไปให้ได้ ระหว่างทางของชวี ิตของฉนั จากเดก็ ก้าวเข้าสู่
วยั รุ่น วยั ทตี่ อ้ งเจอสงั คมใหม่ ๆ เพ่ือนใหม่ตา่ งโรงเรียนฉนั เลือกเรียนมธั ยมทโี่ รงเรยี นประจาจงั หวัด ซง่ึ ตอนน้ัน
มันเป็นความคิดท่ีกล้ามากสาหรับเด็กบ้านนอกคนหนึ่งท่ีจะก้าวไปเรียนโรงเรียนที่อยู่ในตัวเมือง และยังเป็น
โรงเรียนที่เด็กเกง่ ๆ เขาสอบเขา้ มาเรยี นกัน ฉนั ณ ตอนนัน้ กค็ ิดวา่ ตวั เองเกง่ ในระดับทีส่ ามารถแข่งกับคนอืน่ ได้
เพราะท่ีโรงเรยี นประถมฉันสอบได้ที่ 1 เกอื บทกุ ครั้งไปแต่พอได้สัมผัสกบั ความผดิ หวังครงั้ แรกก็ทาให้ฉันชะงัก
อยู่พักใหญ่ ฉันสอบไมต่ ิดและมีโอกาสเสย่ี งสงู ท่ีจะไม่ได้เรียนต่อชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ในโรงเรียนท่ีฉนั ต้องการ
แต่ฉนั มกี าลังใจทส่ี าคัญที่สดุ คอื แม่ แม่บอกให้ฉันสลู้ องเสีย่ งดอู ีกสกั ครัง้ และฉันกท็ าได้ฉันได้เขา้ เรยี นในโรงเรียน

2

แห่งนี้โดยวิธีจับสลากซง่ึ เปน็ สทิ ธิพิเศษของบคุ คลทอ่ี ย่ภู ายในเขตพื้นที่บริการของโรงเรยี น ในความโชคร้ายครั้ง
น้ันยังมีความโชคดีเหลือให้ฉันอยู่บ้าง ฉันเรียนอยู่ท่ีโรงเรียนแห่งน้ีเป็นเวลา 6 ปีด้วยกันตั้งแต่ชั้น ม.1 – ม.6
ระหว่างทางของการเรียนในชว่ งช้ันแรกนนั้ มันผา่ นไปได้ดว้ ยดี ฉันได้เพือ่ นใหม่ มีความคิดใหม่ ๆ และท่สี าคัญมี
เกรดเฉลี่ยสะสมตลอดช่วงชั้น ม.1 - ม.3 ทท่ี าให้ฉันสามารถเรียนตอ่ ชั้น ม.4 ได้โดยไมต่ ้องสอบเข้าใหม่อีกรอบ
ฉันภูมิใจและดีใจมากเพราะจะไดไ้ ม่ต้องเรมิ่ ต้นอะไรใหม่ ๆ หลายรอบท่ีสาคัญนอกจากคาว่า “ข้าราชการครู”
ฉนั อยากเปน็ วศิ วกรโยธาเหมอื นเพือ่ นคนนั้น อยากเรียนพยาบาลเหมอื นเพื่อนอีกคน ดงั นั้นชว่ งชั้นที่ 2 ของการ
เรยี นมัธยมฉนั จงึ เลอื กเรียนสายวิทย์ – คณิต เพอื่ ที่จะเดนิ ตามความฝันของใคร? (เพื่อน) แต่โลกแหง่ ความเป็น
จริงใกล้เข้ามาทุกทีเมื่อนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ต้องสอบเพื่อศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัย เม่ือรู้แล้วว่า
ตวั เองอยากเป็นครฉู ันกส็ อบทุกอย่างที่สามารถต่อยอดในการเรียนคณะครุศาสตร์หรอื ศึกษาศาสตร์ให้ได้ แต่
แล้วโชคชะตาก็ไม่เขา้ ข้างเหมือนกบั ยตอนท่ีสอบบเข้าเรียนช้ัน ม.1 เพราะฉันไม่สามารถสอบรอบรับตรงของ
มหาวิทยาลัยที่ฉนั เลือกได้ ช่วงเวลาน้นั เป็นช่วงเวลาท่ีท้อแทท้ ่ีสุดสาหรับเด็กคนหนึ่งที่เห็นเพอ่ื น ๆ ได้เรียนใน
คณะและมหาวิทยาลยั ที่เพื่อนเลือกไวไ้ ด้ส่วนตัวเราต้องไปต่อสู้เพอ่ื หาท่ีเรียนอีกรอบ แอดมิดชันเป็นการสอบ
สนามสดุ ท้ายในการเลอื กเรียนมหาวิทยาลัยของเด็ก ม.6 หลายคนรวมถึงตัวฉันด้วย 4 คณะท่ีเลือกเรียนตอน
สอบแอดมิดชัน คอื 1.คณะศึกษาศาสตรเ์ อกภาษาไทย มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น 2. คณะศึกษาศาสตรเ์ อกสังคม
มหาวิทยาลัยขอนแก่น 3. คณะศึกษาศาสตร์เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ 4. คณะ
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผลปรากฏว่าฉันติดลาดับที่ 4 ของ
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผลที่ออกมาทาใหฉ้ ันเสยี ใจทไี่ มไ่ ด้เรียนครูใน 3 อนั ดับแรกทเี่ ลือกแตฉ่ ันก็ดใี จที่มีที่
เรียนเหมือนคนอ่นื ซ่ึงตอนน้นั ยงั ไมร่ ู้ด้วยซ้าวา่ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม อยทู่ ี่ไหนและจะเรียนอย่างไร

ทำงโค้งท่เี กือบ (แย่) หลังจากท่ีมีมหาวิทยาลัยเรยี นแลว้ ก็เข้าสู่โลกแหง่ ความจรงิ แล้วจริง ๆ ฉันต้อง
ออกเดินทางจากบ้านที่จังหวัดหนองคายเมืองพญานาคของฉันไปสู่ดินแดนตักศิลาเมืองแห่งการศึกษาอย่าง
จังหวัดมหาสารคามท่ีฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าอยู่ส่วนใดของประเทศไทย รู้เพียงแต่ว่าอยู่ในภาค
ตะวันออกเฉยี งเหนอื เทา่ นนั้ เพราะต้ังแตเ่ ด็กจนเข้าเรยี นที่มหาวิทยาลัยฉันไมเ่ คยอย่หู า่ งจากแม่ ไมเ่ คยแม้กระ
ทงั้ นั่งรถคนเดยี วไปต่างจังหวัดท่ีไม่มีแม่มันเป็นความรู้สึกที่เหงา หว้าเหว่ อ้างว้าง เดียวดาย ทั้ง ๆ ท่ีก็มีเพ่ือน
รนุ่ พ่ี อาจารย์และหลาย ๆ คนอย่รู อบกาย กว่าจะปรับตัวให้เข้ากบั สภาพแวดล้อมใหม่ได้ฉันต้องใช้เวลาอยู่พัก
ใหญ่เลยทีเดียว และท่ีสาคญั ฉันกไ็ ด้รู้ว่าการเรียนคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ก็สามารถต่อยอดไปเป็น
ครูได้ จากการท่ีอาจารยท์ ่านหนึ่งถามฉันตอนสอบสัมภาษณ์ อาจารย์ : ทาไมถึงเลือกเรียนคณะน้ี /ฉัน : หนู
อยากเป็นครคู ่ะ /อาจารย์ : เปน็ ใหไ้ ดน้ ะ ถงึ จะเรยี นคณะน้ี แตเ่ ธอสามารถต่อยอดไปเป็นครูได้ น่ันจงึ ทาให้ฉัน
ต้ังใจเรียนเพ่ือจะได้นาวชิ าความรไู้ ปต่อยอดอนาคตความฝนั ของตัวเอง

การเปน็ นสิ ิตช้ันปีที่ 1 ในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นสงิ่ ท่ีดีและแปลกใหม่ เพราะเราไดเ้ ป็นน้องเลก็ สดุ ในคณะ
ในมหาวทิ ยาลัยเราก็คือน้องใหมท่ ี่รุ่นพ่ีจะคอยให้คาแนะนาให้คาปรกึ ษาทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องเรียน รวมถึง

3

กจิ กรรมท่ีตอ้ งทาตลอดระยะเวลาท่เี รียนในมหาวทิ ยาลัย แตม่ ันก็ไมไ่ ดเ้ ป็นอย่างทีเ่ ราหวงั ไวเ้ สมอไป การเรยี น
ในร้ัวมหาวิท ยาลัยเราต้องสู้กับตัวเองและสภาพ แวดล้ อมที่จะนาพ าเราออกนอกลู่นอกทางได้ตลอดเวลา
ถา้ ใจเราไม่แข็งพอ ตลอดระยะเวลา 1 ปี ของการเปน็ นิสิตชั้นปีท่ี 1 คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตรเ์ อก
ภาษาไทย ฉันได้เรียนทุกอย่างท่ีเป็นภาษาไทย โดยเฉพาะวิชาเอกเกี่ยวข้องกับวรรณคดีไทย ต้องเรียนและ
ศึกษา ประวัติศาสตรต์ ้ังแต่สมัยสรา้ งกรุงสุโขทยั เป็นราชธานี จนถึงวรรณคดีวรรณกรรมสมัยปัจจบุ ัน การอ่าน

การเขียน การพูดเบื้องต้น และอีก
ม า ก ม า ย เป็ น ก า ร เร่ิ ม ต้ น ใ ห ม่ ห ม ด
สาหรับการเรียนภาษาไทยของฉัน ซึ่ง
ฉั น ได้ เรี ย น กั บ อ า จ า ร ย์ ที่ ม า ก
ความสามารถหลายท่านหนึ่งในนั้นที่
ฉั น รู้ สึ ก ดี ใจ แ ล ะ ภู มิ ใจ ที่ สุ ด คื อ
ศาสตราจารย์ ดร. ธัญญา สังขพันทานนท์ กวีซีไรซ์ “ก่อกองทราย” และภายหลังอาจารย์ได้รบั เกียรติให้เป็น
ศิลปนิ แห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ และฉันกไ็ ดร้ ู้วา่ อาจารย์ทา่ นนเ้ี ปน็ คนเขยี นหนงั สือเรียนภาษาไทย กล้า แก้ว ท่ี
ฉันเรยี นตอนอยู่ช้ัน ป.1 ฉนั ต่ืนเตน้ มากในตอนนน้ั แตก่ ารเรียนนัน้ นอกจากเร่อื งตืน่ เตน้ แล้วกม็ เี ร่อื งที่กล้มุ ใจอยู่
ไม่น้อย ฉนั ไดแ้ ต่อทุ านในใจว่า “เรามาทาอะไรอยู่ทีน่ ี่ เราจะเป็นครไู ด้จริง ๆ หรือ ทาไมเหนอื่ ยขนาดน้ี เราจะ
อยู่รอดจนถงึ ปี 4 ไหม” แต่ฉันก็สูดลมหายใจให้เต็มปอดแล้วลุกข้ึนมาสู้อีกครง้ั และฉนั กท็ าได้ 3.00 เปน็ เกรด
เฉลย่ี สะสมทฉ่ี นั ทาได้และภูมิใจมากทไี่ ด้เกรด 3 ในเทอมแรกเพราะเปน็ ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่เกรดเฉลีย่ ถงึ เลข
3 แต่หลังจากน้ันการเรียนของฉันกม็ าพรอ้ มกบั การทากจิ กรรม ฉันเป็นเด็กกิจกรรมตัวยงทาทกุ อย่างทีท่ ุกคนให้
ทาและฉันไดเ้ ปน็ นักกจิ กรรมดีเด่นของคณะ เป็นที่วางใจของอาจารยใ์ นภาควชิ ารวมถงึ เพอื่ น ๆ น้อง ๆ ในสาขา
เลอื กใหฉ้ นั ได้เปน็ ประธานสาขา ซ่งึ ระยะแรกมันทาใหผ้ ลการเรียนของฉนั แย่ลงเกรดเฉลีย่ ลดลงทุกเทอมเพราะ
การแบ่งเวลาในการเรียนกับการทากิจกรรมไม่ลงตวั ฉันทุ่มให้กับกิจกรรมมากเกินไปจนไม่ได้สนใจการเรียน
อยา่ งที่ควรจะเป็น คิดเพียงว่าวิชาเอกอยา่ งไรเราก็ผ่านได้อยแู่ ล้ว ก็ภาษาไทยนี่นาภาษาแม่เราแท้ ๆ จะไมผ่ า่ น
ได้อย่างไร มนั เปน็ ความชะล่าใจเพราะภาษาไทยน่ีแหละเกือบจะทาใหเ้ ราติด F สอบตกในวิชาเอกด้วยความท่ี
คดิ ว่าภาษาไทยใคร ๆ กเ็ รียนไดพ้ อสัมผัสจริง ๆ คุณจะได้รูว้ ่าภาษาไทยภาษาชาติของเรา นยี่ ากไมแ่ พช้ าตใิ ดใน
โลกเลยทีเดียว การเรียนเรม่ิ เข้มข้นขึ้นเม่ือเราขึ้นสู่ปีท่ีสูงข้ึนปี 2 ผ่านไป ขึ้นปี 3 เป็นปีท่ีถอื ได้ว่าหนักสาหรับ
การเรยี นเพราะทกุ คนต้องรู้แล้ววา่ พอขนึ้ ปี 4 จะได้ออกไปฝึกประสบการณใ์ นสถานทจ่ี ริง ในโลกแห่งความเป็น
จริงดังนัน้ นิสิตชนั้ ปีท่ี 3 ทกุ คนตอ้ งดนิ้ รนเพอ่ื เอาตวั เองใหร้ อดทงั้ การเรยี นการการเงนิ ทางบา้ น เมื่อแมบ่ อกวา่ ปี
น้ีเศรษฐกจิ ไม่ดแี ม่ไม่มีเงนิ ทจ่ี ะใหฉ้ นั มาจา่ ยค่าเทอม แต่ฉันบอกกบั แม่วา่ ถ้าแม่สลู้ ูกกจ็ ะสู้ แลว้ ฉนั กส็ ามารถผา่ น
ทุกอย่างในช่วงปีน้ันมาได้ ฉันต่อสู้กับตัวเองจนได้ผลการเรียนของฉันเร่ิมดีข้ึน ฉันรู้ว่าฉันจะไปฝึกงานท่ีไหน
เมอ่ื ขึ้นปี 4 ฉนั พร้อมท่ีจะรบั มือกับทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาฉันบอกตวั เองแบบน้ัน ฉันจบการศกึ ษาระดับปรญิ ญา
ตรีศลิ ปศาสตรบัณฑิตสาขาวภิ าษาไทย คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยที่

4

ฉันได้ฝึกงานที่สถาบันภาษาไทย สังกัดสานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ที่ ๆ ฉนั ตั้งใจจะมาให้ได้ตง้ั แต่แรกและฉันก็ทาสาเร็จ ฉันไดค้ ลุกคลี
อยใู่ นแวดวงของการศกึ ษาและนักวชิ าการท่มี ีความรคู้ วามสามารถมากมาย

สิ้นสุดทำงเลอื่ นที่ฉัน (เลือก) เม่ือกา้ วเข้าสู่โลกของการทางานอย่างสมบรู ณ์เมื่อจบการศึกษา ฉันได้
ทางานที่แรกคือที่ สานักบริหารงานการศึกษาภาคบังคับ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ฉัน
ฝกึ งานท่ี สพฐ.และฉันก็ไดท้ างานที่น่ีน้ันหมายความวา่ เส้นทางการเป็น “ข้าราชการ
ครู” ของฉันเริ่มถอยห่างออกไปท่ีละน้อยเพราะการทางานในที่น่ีเป็นการทางาน
เก่ียวกับด้าน วิชาการ การดูแลโครงการที่ จะน าไป ใช้ใน โรงเรียน ภายใต้
สงั กัด สพฐ. กระทรวงศึกษาธกิ าร ซง่ึ การทางานของฉนั เร่ิมต้นข้นึ เมอ่ื พ.ศ.2559 ฉัน

คลุกคลีอยู่กับนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา
มากมายการทางานในรูปแบบน้ีทาให้ฉันได้รับความรู้และ
โอกาสได้พบกบั ผู้ใหญใ่ นวงการศกึ ษาอยู่เสมอ ฉันมีชือ่ เป็น
คณะทางานในการจัดทาหนงั สื่อเรยี นเฉลิมพระเกียรติ 60
พรรษา สมเด็จพระราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น
การทางานทฉี่ นั รสู้ กึ ภาคภูมิใจการได้ทางานตามพระราชดารกิ ็เปรียบเสมอื นการทางานถวายพระองคท์ ่าน การ
ทางานครั้งน้ียงั ช่วยใหโ้ รงเรยี นขนาดเลก็ มีสือ่ การเรียนการสอนทม่ี ีคุณภาพ ช่วยใหน้ ักเรยี นมีพฒั นาการในด้าน
การเรียนมีคุณภาพทางการศึกษาเพิ่มข้ึน นอกจากจะได้ทางานกับนักวิชาการแล้ว ฉันมีโอกาสได้ติดต่อ
ประสานงานและไดท้ างานร่วมกับครูและศกึ ษานิเทศก์ท่ัวประเทศจากการจัดอบรมความรใู้ นโครงการต่าง ๆ
ที่ สพฐ. หรือหนว่ ยงานภายในเป็นฝา่ ยจัดอบรม ฉนั ยืนในจดุ ท่ีอย่เู หนือคาวา่ “ครู” เพราะงานทีฉ่ นั ทาคอื การสง่
มอบกิจกรรม โครงการไปใหค้ รแู ละนักเรยี นในโรงเรยี นได้นาปฏิบตั ิ เพอ่ื เป็นการพฒั นาการศกึ ษาของประเทศ
ตอ่ ไป ตลอดระยะเวลาต้ังแต่ปี 2559 ถงึ ปี 2561 ฉนั ถามตัวเองทุกวันวา่ “เมอ่ื ไหร่เราจะไดเ้ ปน็ คร”ู อย่างทเ่ี รา
ตง้ั ใจไว้ตงั้ แตต่ อนแรก เมือ่ ไหรจ่ ะได้ไปสอนนกั เรียนในโรงเรียน เพราะทุกครั้งทีไ่ ด้ทางานร่วมกับครูฉนั ไดล้ งไป
สังเกตการสอนในฐานะเจา้ หนา้ ท่ผี รู้ บั ชอบโครงการที่ฉันทา ฉันไม่มีโอกาสท่จี ะได้ไปสอนในโรงเรยี นเลย และได้
มองย้อนกลับไปดูเพื่อน เขามีโอกาสไดไ้ ปศึกษาต่อในระดับต่าง ๆ จนสามารถสอบบรรจุเป็นข้าราชการครไู ด้
หลายคนแล้ว แล้วเม่ือไหร่เราจะได้เป็นแบบนั้นบ้างได้แต่ถามตัวเองแบบน้ีเสมอมา จากการทางานทาใหฉ้ ันมี
ประสบการณ์ในเรื่องวิชาการ เรื่องการติดตอ่ ส่ือสารกบั บคุ คลทั้งภายในหนว่ ยงาน และภายนอกหน่วยงาน ซึ่ง
บุคคลากรทางการศึกษาทไ่ี ด้ติดต่อประสานงานกันบ่อยที่สุด คอื ศึกษานเิ ทศกแ์ ละครูยงิ่ ทาให้ฉนั ตระหนกั วา่ ฉัน
ตอ้ งกล้าทจ่ี ะก้าวไปสู่การเปลย่ี นแปลงเพื่ออนคตของตัวเองได้แลว้ ก้าวท่ีจะเผชิญกับทกุ อยา่ งทจ่ี ะกผา่ นเขา้ มา
ในชีวติ ไดส้ ักที อีกหนง่ึ เหตุผลท่ฉี นั ยงั ไมไ่ ด้เป็นครจู นถงึ ทุกวนั น้ีอาจเปน็ เพราะความกลัวของฉันเอง ฉนั กลัวการ
เปลยี่ นแปลง กลวั ทจ่ี ะเร่ิมใหม่ แต่มาถึงปี 2562 คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสุนันทา เปดิ หลักสูตร
ประกาศนียบัตรวชิ าชีพครทู ี่บคุ คลท่ัวไปท่ียังไม่ได้ทาการสอนในโรงเรยี นสามารถเรียนได้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดมี าก

5

ของคนท่ีอยากเป็นครูอย่างเรา มันเป็นทางเดียว ณ ตอนนี้ที่เราจะได้เป็นครูอย่างถูกกฎหมาย และได้เรียนรู้
เกี่ยวกับวิชาชีพครูท้ังด้านปรัชญาการศึกษา การพัฒนาหลักสูตร การวัดและประเมินผลรวมถึงการฝึก
ประสบการณว์ ิชาชีพครทู ี่นกั ศกึ ษาหลกั สตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี ครูตอ้ งได้ฝกึ สอนในโรงเรยี น สาหรบั ฉันแลว้
นน้ั เป็นส่งิ ที่ทา้ ยทาย ท้ังความสามารถและความกล้าทจ่ี ะกา้ วออกจากกรอบกา้ วข้ามกาแพงท่ีตัวเองได้กอ่ ข้ึน
และฉันกจ็ ะทาความฝนั ใหส้ าเร็จ

ถนนชวี ิตของฉนั เร่มิ จากต้นทางเดินทางมาเรอ่ื ย ๆ ในระหวา่ งทางอาจจะมีเรือ่ งราวมากมายเจอทาง
โค้งที่เกอื บจะแยแ่ ตส่ ดุ ท้ายระยะทางกจ็ ะมาจบท่สี นิ้ สดุ ทางเล่อื น ระยะทางอาจจะสน้ิ สุดแต่การเดินทางของฉนั
ยงั ไม่หยุด ฉันต้องเดินต่อไปจนกว่าฉันจะได้เป็นครู “ข้ำรำชกำรครู” เป็นยากแต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะ
เปน็ ไม่ได้

6

เด็กในกรอบ

นายธนวัฒน์ หงษท์ อง

แรกเริ่มตัวข้าพเจา้ เกดิ ทโ่ี รงพยาบาลพหลฯ จงั หวัดกาญจนบรุ ี แต่เดมิ คณุ พ่อเปน็ คนกรุงเทพ
คุณแม่เป็นคนจังหวดั อดุ รธานี ได้แต่งงานที่บ้านเกิดคณุ แม่ และคณุ พ่อได้ย้าย
ลงมาทางานทค่ี า่ ยสรุ สหี ์จงั หวัดกาญจนบรุ ี ขา้ พเจา้ เลยกลายเปน็ เด็กกาญจนบุรี
“พ่อกับแม่”เร่ิมสร้างตัวท่ีแห่งน้ีจากศูนย์ เร่ิมจากหาบ้านเช่า หาซ้ืออุปกรณ์
ประกอบอาชีพเพ่ือหาเล้ียงตัวเอง ระยะเวลาที่ย้ายมาอยู่ก็มีเพื่อนบ้านท่ีใจดี
คอยดูแลช่วยเหลือทุกเรื่อง จนวันเวลาผ่านไปได้ด้วยดี ก็ได้กาเนิดข้าพเจ้า
เด็กชายปรัชวัน หงษ์ทอง ชื่อเล่นว่า “หน่ึง” เป็นบุตรคนเดียวของบ้าน
และถูกเลี้ยงมาด้วยระบบของทหาร เพราะคุณพ่อเป็นผู้ฝึกทหาร จะเคร่งเรื่องกฎระเบียบวินัย ทาให้ตัว
ข้าพเจ้านั้นถูกเล้ียงมาด้วยกรอบท่ีผู้ปกครองตั้งไว้ ความฝันหรืออนาคตท่ีอยากให้เป็น แต่ครอบครัวของ
ข้าพเจา้ นั้นก็ไม่เคยมีปัญหาทั้งภายใน และภายนอก จึงเป็นโล่ชั้นดีให้แกต่ ัวข้าพเจา้ ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง
เชื่อฟังพอ่ แม่ และเป็นทร่ี ักของทุกคน ชีวิตในวัยเด็กคุณพ่อ คุณแม่เริ่มสรา้ งตัวโดยการซ้ือบ้าน และซอื้ รถเป็น
ของตัวเอง เพอ่ื ความสะดวกสบายของครอบครวั

เริ่มเข้าม.ต้น ช่วงหัวเล้ียวหัวต่อ เริ่มไปโรงเรียนเอง
เริ่มมีเพ่ือนมาก เริ่มด้ือกับพ่อแม่ แต่ไม่เคยสร้างปัญหา เร่ิมที่จะมี
ความคิดเป็นของตัวเอง แต่กฎบ้านท่ีคุณพ่อต้ังไว้ก็ยังคงรักษาอยู่ เร่ิม
เป็นผู้ใหญ่อะไรท่ี ไมเ่ คยทาก็จะลองทา (ในส่ิงทถ่ี ูก) มโี ดดเรียนม่ัง หนี
เท่ียวมั่ง ในวัยนี้จะสอนให้เราเรียนรู้เร่ืองการใช้ชีวติ ให้รอด การเอาตัว
รอดในสังคมหรอื เพอื่ นฝงู อะไรดีก็ตามอะไรผิดกห็ ลกี หนี

ชว่ งต้น ม.ปลาย เปน็ ชว่ งวยั ท่ี อยากรอู้ ยากเหน็ เพราะสังคมเพอื่ น สิง่ แวดลอ้ ม ความพรอ้ ม
มีมากกว่าต้นม.ต้น และเปน็ จดุ หนึง่ ของชีวิต ในการเลอื กการเดินทางของชวี ติ เปน็ ตัวกาหนดวา่ เราพรอ้ มทจี่ ะ
เดนิ ไปทางไหน เพอ่ื นไดม้ บี ทบาทมากในชวี ิต แตอ่ ีกหนงึ่ เส้นทาง
ของครอบครัว คือการได้รับใช้ชาติ หรือการรับราชการทหาร
คุณพ่อได้ส่งให้ไปติวไปเรียนเพ่ิมเติม ส่งเข้ากรุงเทพเพ่ือไปสอบ
ทางครั้งการท่ีเรารู้ว่ามันไม่ใช้สาหรับเรา แต่ก็ไม่สามารถบอก
ครอบครัวได้ เราก็ทาได้แค่ทาให้ดีท่ีสุด โดยการต้ังใจเรียนตั้งใจ
สอบ แต่มันก็ยากสาหรับเราเกินไป จนจบการศึกษาชั้น
มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

7

ช่วงชีวิตในมหาลัย เป็นช่วงชีวิตท่ีข้าพเจ้ากาหนดเอง เลือกการเดินทางเอง แต่เหตุผล
จริงๆๆก็คือการหนีออกจากกฎบ้านที่คุณพ่อตั้งเอาไว้ คุณพ่อเป็นคนหัวแข็งดื้อ ไม่ค่อยฟังใครจึงทาให้ตัว
ข้าพเจ้าไม่อยากจะอยู่ท่ีบ้าน แค่อยากเข้ามาในกรงุ เทพ เพราะในช่วงม.ปลายตวั ข้าพเจ้าเองได้เข้า กรุงเทพ
โดยลาพังมาหลายหน จึงทาให้ตวั ขา้ พเจ้าน้ันไม่เคยกลัวการเดินทาง แต่ถามว่าหลงไหม หลงประจาใช้อาศัย
ถามทางไป พอเร่มิ เข้ามาใช้ชีวติ ในรวั่ มหาลัยหอการคา้ ไทย เร่ิมมีความอสิ ระมากขน้ึ หลงแสงสีเสยี ง ทาให้
ขา้ พเจา้ ใช้ชวี ติ ในรั่วมหาลยั 5 ปี แตไ่ ม่จบเลยขอครุ แมก่ ลับมาบ้าน เพอื่ เริ่มตน้ ใหมใ่ นวยั เรียน

ตอนนนั้ ข้าพเจ้า อายุ 25 ปี เรม่ิ เรยี นปวส. วิทยาลยั อาชีวศึกษากาญจนบุรี เปน็ การเรยี นต้น
ใหม่ ข้าพเจ้าแค่คดิ ว่าเรียนเพือ่ จบ เพ่ือหางานทา ไม่ได้คิดอะไรมากว่าจะต้องเรียนทไี่ หนยังไงแล้ว ขอแค่ให้
จบพอข้าพเจ้าจบการ วิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี ข้าพเจ้าก็ได้ทางานและศึกษาต่อหลักสูตร กศ.บป
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี (เรียนภาคค่า และลงเพมิ่ ในวันเสาร์-อาทิตย)์ เพ่ือให้จบได้เร็ว ระหว่างเรยี น
ข้าพเจ้าก็ได้มาสมคั รงานท่ี วิทยาลัยอาชวี ศึกษากาญจนบุรี ในตาแหน่งเจ้าหน้าทีว่ ิชาการแลว้ ก็ได้เรมิ่ ทางาน
ต้งั แต่ พ.ศ.2552 จนปี พ.ศ. 2553 ขา้ พเจ้ากไ็ ด้มีโอกาสสอบเปน็ ครพู เิ ศษสอนในแผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
จนทาให้ขา้ พเจา้ ได้มาเป็นครูพิเศษสอนจนปัจจบุ ัน

8

กำรพฒั นำตนเองใหอ้ ยใู่ นกรอบ
ข้าพเจ้านายธนวฒั น์ หงษ์ทอง ครูพิเศษสอน ตาแหน่งเจ้าหน้าท่ีวิชาการ ปฏิบัติการสอน
ต้ังแต่ พฤษภาคม พ.ศ.2553 จนถึง ปัจจุบัน 9 ปี 7 เดือน ได้ขอใบอนุญาตปฏิบัติการสอนแล้ว 3 คร้ัง
ระหวา่ งการขอกไ็ ดพ้ ฒั นาตนเองมาตลอดเวลา ทงั้ เทยี บความรู้ 9 มาตรฐานความรู้ และอบรมเพ่ิมเพอ่ื ให้ครบ
ตามท่ีคุรสุ ภากาหนด จนปจั จุบนั ได้มาศกึ ษาอยู่ที่ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสุนนั ทา เพอ่ื ทาใหไ้ ด้ใบประกอบ
วิชาชพี อย่างถกู ต้อง เคยถอยและทอ้ หลายรอบ เคยคิดลาออกเพื่อไปทาตามฝนั ของตวั เอง แตส่ ุดท้ายก็เลือก

ที่จะมาสายอาชีพครู เพราะอยากให้ความรู้หรือเป็นผู้ชี้แนะการสอนให้
นกั เรียนไดร้ บั เทคนิคหรอื วิธีการทางานการเอาตวั รอดในสงั คม หรอื การหา
ประสบการณ์เพิ่มในชีวติ การเลือกเส้นทางเดิน ความเมตตาการเอาใส่ใจ
การเป็นนักเรียนในท่ีปรึกษา หรือนักเรียนที่สอนไปประสมความสาเร็จ
ก้าวหน้า และความภาคภูมิใจในตัวข้าพเจ้าที่ได้ปฏิบัติการสอนนอนก็คือ
การถวายงาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา
ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ท่โี รงเรยี น ตชด. สหธนาคารกรงุ เทพ โรงเรยี นในการดแู ล

การท่ีข้าพเจ้าได้มาศึกษาต่อ ทาให้ข้าพเจ้าได้เพ่ิมทักษะและเทคนิควิธีการสอนของเพื่อนๆ
และรูปแบบการสอนของอาจารย์ นามาใช้กบั นักเรียนให้เกิดผลมากทส่ี ุด วิธีการวิเคราะห์นกั เรียน หรือการ
วางแผนการเรยี นการสอนให้เกดิ ประโยชนก์ ับนักเรยี นให้มากทีส่ ดุ สดุ ทา้ ยน้ขี อขอบคณุ คณะอาจารยท์ ี่เสียสละ
เวลา ใหค้ วามรู้กบั นกั ศกึ ษา รุ่นท่ี 23 เพื่อพฒั นาตนเองให้มคี ณุ ภาพตอ่ ไป

9

ครู รำกใหญ่ใหท้ ำงทกุ อำชพี

วา่ ทีร่ ้อยตรหี ญงิ จริ ภา พรหมช่วย
นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา รุ่นท่ี
23 หมู่เรียน 2 รหัสนักศึกษา 62551701012 วา่ ท่ีรอ้ ยตรหี ญิงจิรภา พรหมช่วย นี่คอื เส้นทางท่ีฉันมุ่งมัน่ ทุ่มเท
และตั้งใจจะทาใหส้ าเรจ็ ในขณะน้ี เส้นทางแห่งสายอาชีพที่เปน็ ผ้สู รา้ ง
คน “ครู” อำจไม่ใช่อำชีพ ที่ดีที่สุด แต่ทุกอำชีพได้ดีเพรำะครู
ย้อนกลับไปในอดีต ฉันเริ่มต้นช่วงชีวิตวัยการศึกษาต้ังแต่ระดับ
ปฐมวัยถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนวัดใกล้บ้าน ณ
จังหวัด “เมืองสวยในหุบเขา” พังงา จานวนครูมีไม่มาก ยังคงเป็น
โรงเรียนที่มีครูไม่ครบวิชา ฉันเติบโตและมีพัฒนาการแต่ละช่วงวัยท่ี
สถานศกึ ษาแห่งน้ไี ปพร้อมกับเพอ่ื น รุน่ เดียวกัน จนตา่ งคนเริม่ มีความ
ฝันในเส้นทางการศึกษาศึกษาต่อของตัวเอง แต่ความฝันถูกสานต่อ
เพยี งเศษเส้ียวของจานวนนกั เรยี นเทา่ น้ัน เน่ืองจากสภาวะเศรษฐกิจ
สถานะทางการเงิน และปัจจัยต่าง ๆ ทาให้นกั เรียนเกนิ ครง่ึ บ้างเลอื ก
ทีจ่ ะประกอบอาชพี บ้างเลือกไปสรา้ งครอบครวั ของตัวเอง ที่เหลือก็
เลือกเรียนต่อสายอาชีพกันหมดทุกคน มีเพียงฉันท่ีครูไม่ยอมเพราะ
เห็นว่าฉันมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี จึงแนะนาให้ฉันเข้าศึกษาต่อในการศึกษาสายสามัญ ฉันจึงรัก
สถานศึกษาแห่งนี้มากเพราะฉันเติบโตมาที่นี่ความประทับใจอันดีท่ีเกิดขึ้นจากการศึกษาและครูผู้ประสิทธิ์
ประสาทวิชา ถูกถักทออยู่ในใจ ฉันจวบจนทุกวันน้ี จากการได้มีโอกาสช่วยงานครูอยู่เป็นนิจ เป็นเจ้าหน้าท่ี
ประจา ห้องพยาบาล โดยมีครูคอยกากับและแนะนาอย่างใกล้ชิด ช่วยครูขายของในโรงอาหารของโรงเรียน
เปน็ เจ้าหน้าท่ตี รวจและ ให้คะแนนประเมินการทาความสะอาดห้องเรยี นและบริเวณต่าง ๆ ในโรงเรยี น เป็น
ตัวแทนนานักเรียน ทากิจกรรมหน้าเสาธง กิจกรรมเสียงตามสาย ช่วยครูออกแบบตกแต่งสื่อการเรียนรู้ใน
ห้องเรียน การจัดป้ายนิเทศแสดงผลงานนักเรียน จัดมุมสื่อการเรียนรู้ หนังสืออ่านเสริม และกิจกรรมท่ีฉัน
ประทบั ใจมากท่ีสดุ คือการเปน็ ตวั แทนนกั เรยี นในการแขง่ ขนั ทักษะด้านวชิ าการตา่ งๆ เชน่ การแข่งขนั ขับเสภา
ระดับเหรียญทอง หรอื การเป็นตัวแทนโรงเรยี นในการเขา้ รว่ มการอบรมทักษะประสบการณภ์ าวะผู้นา ได้เจอ
เพื่อนใหม่จากต่างโรงเรียน ได้ไปใช้ชีวิตในค่ายทหาร ภายใต้กฎเกณฑ์และข้อบังคับมากมาย จนทาให้
ฉันเกิดแรงบันดาลใจเป็นท่ีมาของการตัดสินใจสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารในระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลายในเวลาต่อมา ซึ่งระหว่างกาลังศึกษาหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารดังกล่าว ดิฉัน
ก็ยังคงได้รับความเมตตาจากครูผู้ฝึกสอนวิชาทหาร มีโอกาสช่วยงานหลากหลายกจิ กรรมอย่าง การฝึก วิชา
ทหารไปพร้อมกับการเรยี นการสอนในสายสามญั เป็นส่ิงท่ียากลาบาก ใชค้ วามอดทน ขยนั หมั่นเพียรกว่าเพือ่ น
คนอ่นื เปน็ สองเท่า หลายครั้งแม่บอกใหฉ้ ันเลิกเรยี นวชิ าทหาร แต่นน่ั ยงิ่ ทาใหฉ้ นั อยากทาให้ มันสาเรจ็ มากข้ึน
จนในวันท่ีฉันมีดาวประดับบ่า 1 ดวง มีคนขานชื่อฉัน ว่าที่ร้อยตรีหญิงจิรภา พรหมช่วย คนท่ีภูมิใจในตัวฉัน
ท่ีสุดก็คือคนท่ีบอกให้ฉันเลิกเรียน แต่แม้ว่าฉันจะต้องศึกษาวิชาทหารแต่ฉันก็ไม่เคยท้ิงการเรียน ฉันยังคง
มีความต้ังใจและรักการศึกษาในหอ้ งเรยี นเช่นเดียวกัน ยังคงรัก จะเรียนในวชิ าภาษาไทย มโี อกาสเป็นตวั แทน

10

โรงเรียนเข้าแขง่ ขัน หนงั สอื เล่มเล็กในงานศิลปหัตถกรรมของจังหวดั การแข่งขนั เปดิ พจนานุกรม แข่งขันตอบ
สารานุกรมไทย ดว้ ยนิสยั รักการอา่ นการเขียน สนใจในวชิ าภาษาไทยเป็นพิเศษ จงึ นาไปสูก่ ารสานต่อการศึกษา
ในระดบั อุดมศึกษา สาขาวิชาภาษาไทย แตด่ ้วยความไม่มน่ั ใจในตัวเองว่าอยากประกอบอาชีพครภู าษาไทยหรือ
ฉนั แค่อยากเรียนสาขาภาษาไทย ทาให้ฉันเลือกเข้าศึกษาต่อหลักสูตรศลิ ปศาสตรบัณฑิต ในมหาวิทยาลัยราช
ภัฏอันดับ 1 ของประเทศ “มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา” คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ สาขาวิชา
ภาษาไทย หลกั สูตร 4 ปี มีรายวิชาทั้งที่ฉันถนดั และไม่ถนัด เช่น วิชาการฟังและการพูด อักษรไทย เสยี งและ
ระบบเสียง ในภาษาไทย ภาษาเฉพาะกิจ ภาษาศาสตร์ภาษาไทย ภาษากับวัฒนธรรม บาลีสันสกฤตใน
ภาษาไทย วรรณกรรมวจิ ารณ์ คติชนวทิ ยา บางเรือ่ งบางวชิ าเป็นเรื่องที่ยากแตฉ่ ันโชคดที ี่มเี พ่ือนดี มีทป่ี รึกษาท่ี
คอยสอบถามแนะนาแนวทางอยเู่ สมอ อาจารยท์ กุ ทา่ นต่างรักและหวังดีกับนักศึกษาไมต่ ่างจากท่ีฉันได้รับ และ
สัมผสั มาตั้งแตส่ มยั ประถมศึกษา ไม่ใช่แคส่ อนหนงั สือแตท่ กุ ท่านสอนการประพฤติปฏิบตั ิตนและการใชช้ ีวิต

เวลาล่วงเลยมาจนถึงปี 4 ฉันเข้าฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ณ สถาบันภาษาไทย สานักวิชาการ และ
มาตรฐานการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ฉนั ได้ฝึก การทางาน
เกี่ยวกบั ภาษาไทยทักษะทางภาษาไทยในทุกดา้ น ได้จัดเตรียมงานประชมุ การอบรม โครงการการใชภ้ าษาไทย
ให้กับครู โรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้จัดทา ตรวจทาน การจัดทาสื่อการเรียนการสอนภาษาไทย ที่จะ
จัดพิมพ์เพื่อส่งให้โรงเรียน ซ่ึงจากการได้มีโอกาสทางานคลุกคลีกับงานทางด้านการศึกษา บุคลากรทางการ
ศึกษา ผเู้ ช่ียวชาญด้านการศึกษา หรือนกั วชิ าการทมี่ ีชือ่ เสียงในวงการการศึกษามากมาย ซง่ึ การจัดการอบรม
ในบางครั้งจะต้องมีการลงพื้นท่ีไปในโรงเรียน ในช้ันเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนในพ้ืนท่ีทุรกันดาร ความ
ยากลาบาก ที่เดก็ ดิ้นรนมาศึกษาเลา่ เรยี น บางคนเดินข้ามเขาหลายลูกกวา่ จะเดินทางมาถงึ โรงเรียน จากการ
ใกล้ชดิ กับเส้นทางสายงานเก่ียวกบั การจัดการศึกษาน้ี จึงเป็นจุดประกายทักษะภาษาไทยที่อยู่ในตัวฉัน และ
อยากต่อยอดความรักในวิชาภาษาไทยของตนไปสู่การเป็นผู้ถ่ายทอด องค์ความรู้ที่มีไปให้ผู้อ่ืน ยิ่งได้ฟัง
ประสบการณ์ของครมู ากฉันยง่ิ เกิดความรู้สึกทราบซึ้งในอาชีพนี้มากข้ึนในทุกนาที ฉันจงึ ศึกษาหาแนวทางใน
การนาไปส่กู ารประกอบอาชีพครู แต่ไมง่ ่ายอยา่ งที่คิด เพราะอาชพี ครูน้ันเปน็ อำชีพรำกฐำนทสี่ ร้ำงสรรค์คนใน
ทุกสำขำอำชพี การจะเข้าไปปฏิบัติการสอน เข้าไปมบี ทบาทในการถ่ายทอดองค์ความรู้ในโรงเรียน โดยผทู้ ไี่ ม่
จบการศกึ ษาในหลกั สตู รครุศาสตร์บณั ฑติ จึงเป็นสิ่งทยี่ ากทจ่ี ะเกิดข้ึน อกี ทงั้ ยังถือเปน็ การกระทาทผ่ี ดิ กฎหมาย
อีกด้วย ฉันทาการศึกษาหาข้อมูลเก่ียวกบั แนวทางที่จะนาไปสู่การมีไว้ซ่ึงใบประกอบวิชาชีพอย่างถกู ตอ้ ง น่ันก็
คือหลักสตู รประกาศนียบัตรบณั ฑิตวชิ าชีพครู หลักสูตรพัฒนาครูที่ไมจ่ บสายครูให้สามารถประกอบวชิ าชีพครู
ดว้ ยทักษะท่ีหลากหลาย ทันกบั การเปล่ียนแปลง มีความรอู้ ย่างลกึ ซ้ึง กระจา่ งชัดในเน้ือหา วิชาความเป็นครู
ตามมาตรฐานวิชาชีพครู มีทักษะและจิตที่มุ่งม่ันในการสอนเพ่ือใหผ้ ู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ ตาม
ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล สรา้ งบรรยากาศและสิง่ แวดล้อมการเรียนรทู้ กี่ ระตนุ้ ความสนใจใฝร่ แู้ ละมคี วามสขุ
ในการเรยี น โดยอาศยั สื่อ นวัตกรรม และแหลง่ การเรียนรทู้ ี่หลากหลาย ทนั สมยั กระตือรอื ร้นท่ีอยากเรียนรู้
และ เปน็ บุคคลแห่งการเรยี นรู้ทเ่ี นน้ การใช้เวลาอยา่ งสรา้ งสรรค์ตลอดชีวติ

11

ไม่ปลอ่ ยให้เวลำล่วงเลย ปัจจุบันฉันกาลังศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ได้มีโอกาสเข้าไปสังเกตการสอนในโรงเรียนราชวินิตประถม การศึกษาสังเกตงานในหน้าท่ีครูผู้สอน ศึกษา
สงั เกตงานในหน้าที่ครูประจาชั้น ศึกษาสังเกตพฤติกรรมการสอน ศึกษาสังเกตการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
และการศึกษาสงั เกตกจิ กรรมแนะแนว ภาระ หนา้ ทร่ี ับผดิ ชอบ ทงั้ ดา้ นการจัดการเรยี นการสอนและภาระอ่ืน ๆ
ที่ได้รับมอบหมาย รวมท้ังวิธีการรับมือ การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของคนเป็นครู และเม่ือถึงเวลาท่ี
จะต้องไปฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีครูผู้สอนและผู้ช่วยครูประจาชัน้ ในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี
2 โรงเรียนราชวนิ ติ เมอ่ื ตอ้ งมาเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ได้มาเรียนรู้ การปฏิบัตหิ น้าทีค่ รอู ย่างเต็มตัว จึง
ทาให้ย่ิงเข้าใจในภาระงานที่ครูจะต้องตระหนักและรบั ผิดชอบ ไม่ใช่แค่งานสอนหนังสือท่ีฉันต้องทา ฉันต้อง
เรียนรู้ เข้าใจ และเข้าถึง เด็ก ๆ ทุกคน และไม่ใช่แค่สอนให้เขาเก่ง ส่ิงสาคัญที่ต้องควบคู่ไปด้วยน้ัน คือ การ
เป็นคนดี ซ่ึงเป็นสิ่งท่ีฉันทราบซึ้งใจทุกครั้งขณะท่ีมาสังเกตการสอน ในความมีระเบียบวนิ ัย รอบคอบ ความ
เออ้ื เฟื้อ และพฤติกรรมอนั ดมี ากมายทค่ี รบู ม่ เพาะจนเปน็ นสิ ยั อันดใี ห้เกดิ ในตวั ของนักเรยี น

และแมว้ ่าการเลือกเข้ามาศึกษาหลกั สูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวชิ าชีพครู ในชว่ งแรกฉันมคี วามกงั วล
เปน็ อยา่ งมากว่าจะเข้ากบั เพื่อนในห้องไม่ได้ เพราะคดิ ว่าช่วงวัยแตล่ ะคนคงแตกต่างจากฉนั มาก แตเ่ มือ่ ไดม้ า
เรียน ได้พบปะพดู คุยกัน ยงิ่ ได้ทางานร่วมกนั แม้จะเจอกันแคใ่ นวนั เสาร์อาทิตย์ฉันกลับสัมผัสได้ถึงความหวงั ดี
และพร้อมท่จี ะเอ้ือเฟื้อชว่ ยเหลือซงึ่ กันและกัน ต้ังแตช่ ่วงแรกที่เปดิ เรียน “ไม่มีอะไรท่ีฉันต้องกงั วล” น้ันเป็นส่ิง
สาคัญทีท่ าให้ฉันรู้สึกวา่ ตัวเองโชคดที ่ีอยู่ในหมู่เรียนน้ี ฉันไมร่ ู้หรอกว่าหอ้ งอื่นช่วยเหลอื กันไหมหรอื แข่งขันกัน
อยา่ งไร ฉนั รู้แคฉ่ ันแน่ใจวา่ ห้อง 2 ห้องทีฉ่ ันเรยี นอยตู่ อนน้เี ป็นห้องทจี่ ะช่วยชดุ ลาก ประคอง จนกวา่ จะทกุ คน
จะมีใบประกอบวิชาชีพที่มีชื่อของตัวเอง และแม้ไม่ใช่เรือ่ งง่าย ท่ีจะทาสิ่งที่ต้ังใจนี้ให้สาเรจ็ เพราะเพียงภาค
เรียนแรกความรู้สึกท้อแท้ เหน่ือยล้า เกิดข้ึนกับฉันคร้ังแล้วคร้ังเล่า แต่ถึงจะเป็นเช่นน้ันฉันจะไม่หยุดทามัน
แน่นอน

“ควำมสำเรจ็ ไม่เคยปฏิเสธ คนท่พี ยำยำม”

12

ควำมทรงจำในวัยเรียน ควำมพำกเพยี รในวัยทำงำน

EP.1 ควำมทรงจำในวัยเรียน

ปิยะพล พรรณย้มิ

มนุษย์ทุกคนเกิดมามีการดาเนินชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นต้นกาเนิด การใช้ชีวิต การ
ทางาน การอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งแต่ละคนก็จะมีการใช้ชีวิตต่างกนั ออกไป บางคนมีการใช้ชีวติ อย่างมีความสุข
มีรอยย้ิม เสียงหัวเราะ แต่บางคนก็มีความทุกข์จากการใช้ชีวติ ในสังคม ทั้งนข้ี ึ้นอยู่กบั ตัวเองว่าจะปฏิบัติตน
อย่างไรให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีการใช้ชีวิตแบบน้ัน มีทั้งความสุขและความทุกข์
ปะปนกันไปตามช่วงเวลา ผมจึงขอเลา่ ประวัติส่วนตัวและชีวิตในวัยเรียน เพ่ือย้าความทรงจาทีแ่ สนประทับใจอีก
ครั้ง

ผมชอ่ื นายปิยะพล พรรณยิม้ ช่ือเล่น บอน เกดิ เมื่อวนั อาทิตย์ท่ี 23 เดือนตุลาคม ปีมะโรง ราศี
ตลุ ย์ ปีพุทธศักราช 2531 คุณพอ่ ช่ือ นายสพุ จน์ พรรณยิ้ม คุณแมช่ ่ือ นางราตรี กลัดวงษ์ พอ่ กบั แม่ผมได้
แยกทางกันต้ังแตผ่ มอายไุ ดข้ วบกว่าๆ จงึ ไดอ้ าศัยอยู่กบั คณุ แมท่ ี่บา้ นเลขที่ 183 ซอย 3 ถนนเตาปูน ตาบลบ้านเหนือ
อาเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี รหัสไปรษณีย์ 71000 โดยคณุ แมไ่ ดค้ อยเล้ยี งดูอบรมสั่งสอนและให้ความอบอุ่น
เปน็ อย่างดีเรอื่ ยมา

ย้อนไปในช่วงท่ีเรียนอนุบาล ผมเริ่มเข้าเรยี นอนบุ าล 1 ท่โี รงเรยี นวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ตาบลบ้าน
ใต้ อาเภอเมือง จงั หวัดกาญจนบุรี ในตอนเชา้ ของทุกวนั คณุ แมจ่ ะพาเดินไปส่งทโ่ี รงเรยี น โดยมีคุณครูคอยมา
รบั ที่หน้าประตูโรงเรียนทุกวัน เท่าท่จี าความได้ตอนน้ันผมชอบวาดภาพไดโนเสาร์บนสมุดการบ้าน ซึง่ ก็ไม่รู้ว่า
ทาไมถึงไดช้ อบการวาดภาพมากขนาดนนั้

เมอื่ เข้าเรียนระดับชน้ั ประถมศึกษา ผมได้เรมิ่ เรียนวิชาการต่างๆ เพิ่มข้ึนเร่ือยๆ จนได้รู้ว่าตวั เองไม่ชอบเรยี น
วิชา คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาองั กฤษ สว่ นวชิ าท่ีชอบเรียนคือ วิชาพละศึกษา คอมพิวเตอร์ และคงหนี
ไม่พ้นวชิ าศิลปะศึกษา เพราะเป็นวิชาท่ชี อบมาก คงเป็นเพราะเวลาวาดภาพ หรือได้ทางานศิลปะมันไม่ต้องไป
จดจาตัวเลขหรอื สตู รอะไรมากมายใหป้ วดหวั เน้นเร่อื งการใชค้ วามคดิ เกี่ยวกบั การออกแบบสรา้ งสรรค์งาน และ
กไ็ ด้ลงมอื ปฏบิ ตั งิ านจรงิ

วันเวลาผา่ นไปผมได้เข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในตอนนั้นเป็นเด็กท่ีเรียนอยู่ในระดับปาน
กลาง เป็นคนที่กลัวท่ีจะอยใู่ กล้คุณครู เพราะไม่ชอบที่จะต้องคอยตอบคาถาม กลวั ตอบผิด และกลวั ที่จะตอ้ ง
ออกไปแสดงวธิ ีทา และหาคาตอบบนกระดาน จึงทาให้เป็นคนท่ีชอบนงั่ เรียนอยูด่ ้านหลังห้อง เวลาวา่ งๆ ผม
จะชอบหยบิ กระดาษออกมาวาดภาพ ตน้ ไม้ ดอกไม้ สง่ิ ของ สตั ว์ และคนเป็นแบบน้ันไปเร่อื ยๆ จนใกล้จะเรยี น
จบระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เพอ่ื นๆ ต่างหาสถานศกึ ษาทตี่ นสนใจเพ่อื สมัครเรียนตอ่ กัน ซึ่งส่วนใหญจ่ ะเรยี น
สายสามัญกัน ส่วนที่เหลือเลือกเรียนสายอาชีพ แต่ผมเองโดยส่วนตัวชอบการวาดภาพ ชอบงานศิลปะเป็น
ทุนเดมิ อยแู่ ล้ว จึงได้สมัครและเลือกเรยี นที่แผนกวิชาศิลปกรรม สาขาวิชาการออกแบบ วิทยาลัยอาชวี ศึกษา
กาญจนบรุ ี

13

วนั แรกท่ีเริ่มเรียนในสายอาชีพ มันเป็นความสุขที่ได้เรียนในด้านท่ีตัวเองถนัดและสนใจ เริ่มจากการเรียน
เกี่ยวกับการวาดภาพพื้นฐานและการออกแบบต่างๆ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแ บบ
ภายใน การออกแบบภายนอก ฯลฯ ในช่วงเวลาว่างหรือหลังเลิกเรียนในระหว่างรอเพ่ือนกลับบ้าน ผมจะ
ชอบไปนัง่ เรียนวาดภาพและงานปนั้ กบั เพอื่ นท่เี รียนสาขาวิชาวิจิตรศิลป์ เปน็ การเพิ่มความรดู้ ้านการวาดภาพ
และงานศิลปะด้านต่างๆ ในเวลาน้ันได้ดีอกี ด้วย มีคร้ังหนึ่งวิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี ได้รับมอบหมาย
จากจงั หวัดกาญจนบุรี ให้มกี ารจัดนิทรรศการในงานสะพานข้ามแม่น้าแคว ซงึ่ ช่วงนั้นวิทยาลัยฯ ได้รบั ผิดชอบ
จัดแสดงเมืองจาลองโบราณโดยแผนกวิชาศิลปกรรมเป็นผู้ออกแบบและจัดทางานทั้งหมด ซง่ึ ผมเองก็เป็นส่วน
หน่ึงในการจัดทาเมอื งจาลองคร้ังนั้น นบั เป็นความประทบั ใจและความสขุ มากๆ ในครั้งนนั้

ช่วงเวลาผ่านไปกเ็ ข้าสู่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีท่ี 3 ทุกคนเริ่มคิดหาท่เี รยี นต่อหรือหางาน
ทาในด้านที่ตวั เองถนัด ผมเองก็เป็นส่วนหน่ึงในนั้น ซึ่งในตอนนนั้ สถาบันการศึกษาในจงั หวัดกาญจนบุรี ไม่มี
สาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะเป็นตัวเลือกเท่าใดนัก ผมจึงเลือกที่จะไปสมัครสอบ และผ่านการ
คัดเลือกเข้าเรียนในคณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ สาขาวิชาศลิ ปกรรม (ดิจิทลั อาร์ต) มหาวทิ ยาลัยราช
ภฏั นครปฐม ซงึ่ เปน็ สาขาท่ผี มสนใจมากในขณะน้ัน

ในช่วงเวลาท่ีเรียนมหาวทิ ยาลัยฯ ผมไดเ้ รียนท้ังศลิ ปะการวาดภาพ การถ่ายภาพนิ่ง การถ่ายภาพเคล่อื นไหว
กราฟิกบนคอมพิวเตอร์ และงานแอนนิเมช่นั ในตอนนน้ั ผมเร่ิมชอบการถา่ ยภาพ เพราะงานถา่ ยภาพก็เป็นงานศิลปะอยา่ ง
หนง่ึ ท่ีผูถ้ า่ ยตอ้ งคิดและสรา้ งสรรค์ผลงานก่อนกดถา่ ยภาพ จากการเรียนและหัดถา่ ยภาพไปเรือ่ ยๆ หลังจากท่ี
ได้เรียน เวลาว่างก็ได้เดินสายเข้าร่วมการประกวดเกีย่ วกับงานที่เรียนมา ท้ังงานเด่ียวและงานกลุ่ม ซ่ึงก็มีทั้ง
ไดร้ างวลั บา้ งไมไ่ ด้รางวลั บ้าง แตก่ ็ถอื วา่ เปน็ ประสบการณ์ทเ่ี ราสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ไดใ้ นอนาคต

เม่ือเวลาผ่านไปจนเรียนมาถึงปี 4 ผมได้ออกฝึกงานท่ีบริษัทลักษณ์ 666 จากัด เป็นการฝึกงานท่ี
เก่ียวกับรายการโทรทัศน์ เป็นรายการสาระแนโชวแ์ ละรายการอื่นๆ ของบรษิ ทั ซงึ่ ตอนนัน้ ได้รบั มอบหมายให้
ฝึกงานทางดา้ นอุปกรณป์ ระกอบฉากและผู้ช่วยช่างภาพวีดีโอ จากการฝึกงานในครั้งนจี้ ึงเป็นจดุ เรม่ิ ต้นที่ทาให้
เมือ่ สาเร็จการศึกษา ตอ้ งการท่ีจะไปทางานเก่ียวกบั การถ่ายภาพและงานวดี ีโอ เพราะเป็นงานท่ีผมชอบและมี
ความถนดั เนื่องจากมนั ตรงกบั สายท่ผี มเรยี นมา

โปรดตดิ ตาม EP.2

14

EP.2 ควำมพำกเพียรในวัยทำงำน

ปิยะพล พรรณยิม้

ชวี ติ หลังวัยเรยี น นับว่ามีความสาคญั เป็นอย่างย่ิง เพราะเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตคนเรา ท่ีต้องก้าวจากความเป็น
เดก็ สกู่ ารเปน็ วัยผู้ใหญ่ บณั ฑติ หลายคนหลังจากท่ีเขา้ รับพระราชทานปริญญาบัตรก็ได้แยกย้ายตามหาความฝัน
ของตัวเอง บางคนโชคดีมากๆ มีโอกาสได้เข้าทางานตรงกับสายท่ีตนเองเรียนจบมา ก็จะมีความถนัด และมี
ความสุขกับการทางาน ส่วนคนท่ีโชคร้ายหน่อย ได้ทางานท่ีไม่ตรงกับสายท่ีตนเองเรียนจบมา ก็ต้องจาใจ ทน
ทางานในดา้ นทีต่ นเองไม่ถนัด เพ่ือรอวนั ท่ีจะได้ทางานในด้านทเี่ รยี นจบมาตามความฝันของตัวเอง ซ้ารา้ ยไปกว่าน้ันก็
ยังมีบณั ฑิตอีกหลายคนท่ียงั ตกงาน ยังคงคอยว่ิงหาสมคั รงานอย่างเหนด็ เหนอ่ื ย ผมเองนบั ว่าเป็นคนทีโ่ ชคดที ไ่ี ด้รับ
โอกาสเข้าไปทางานตามท่ีตัวเองถนัด และตรงกับสายท่ีเรียนมา มันคือจุดเร่ิมต้นของความประทับใจในวัย
ทางาน

กา้ วแรกเม่ือเข้าสู่วัยทางาน ผมได้มีโอกาสเข้าไปทางานในบรษิ ัททวี ีบูรพา ในตาแหน่งเจา้ หน้าที่ผู้ดูแลอุปกรณ์
พิเศษและตาแหน่งช่างภาพ ซึ่งบริษัทนี้ ทางานเกี่ยวกับการผลติ รายการโทรทัศน์ ในขณะนั้น บรษิ ัทฯ เป็น
ผรู้ บั ผิดชอบถ่ายทารายการกบนอกกะลา คนค้นฅน กระบี่มือหน่ึง และรายการต่างๆ อกี มากมาย ตวั ผมเองก็
ไดร้ ับมอบหมายใหท้ าหนา้ ท่เี ก่ียวกับ การดูแลจัดเก็บอปุ กรณพ์ ิเศษของกล้อง และเลนส์กล้อง จัดเซต็ ฉาก จัด
ไฟสตูดิโอ เซ็ตกล้อง เพื่อให้พร้อมสาหรับการถ่ายทา แล้วก็มีหน้าท่ีถ่ายงานวดี ีโอ ซ่ึงส่วนใหญ่แล้วงานท่ีทา
หลักๆ จะเป็นชา่ งภาพวดี โี อในสตูดโิ อของบริษัท แล้วกม็ ีงานทีต่ อ้ งถ่ายทานอกสถานท่ีบ้างตามโอกาส นับวา่ เปน็
ประสบการณ์ในด้านการทางานเก่ียวกับสายที่เรียนมาเป็นอย่างมาก และยังเป็นการพัฒนาทักษะทั้งในด้าน
ความรู้ความชานาญเพ่มิ มากข้นึ อีกด้วย

ตลอดระยะเวลาที่ทางานอยู่ในบรษิ ัททวี ีบูรพาน้ัน ผมร้สู กึ รกั และมคี วามผูกพนั ธก์ ับบรษิ ัทน้ีเป็นอย่าง
มาก ก็เป็นเพราะเราอยู่ด้วยกันแบบครอบครัว พี่ๆ ในที่ทางานจะคอยสอนงานให้กับน้องๆ เป็นแบบน้ี
รุ่นสู่รุ่นไป ซ่งึ เป็นการส่งตอ่ ส่ิงดีๆ ต่อกัน ผมในฐานะน้องใหม่ในทที่ างานก็มคี วามตัง้ ใจที่จะรบั ฟังคาแนะนาดๆี จาก
พี่ๆ ในทที่ างาน ท้ังข้นั ตอนและวธิ กี ารทางาน ตลอดจนแนวทางการดาเนนิ ชวี ิต จนอยมู่ าวันหนงึ่ มีน้องๆ ฝึกงาน ได้
เข้ามาฝึกงานที่บริษัท พี่ๆ ในบริษัทได้มอบหมายให้ผมเป็นผู้ดูแล และคอยให้คาแนะนาน้องๆ เกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการ
ทางาน และการใช้อปุ กรณ์ต่างๆ ที่เก่ยี วข้องกับการทางาน ตลอดระยะเวลาท่ีผมไดม้ ีโอกาสสอนน้องๆ สาหรับผมน้ันมันคือ
ความสุขอย่างทผ่ี มไม่เคยพบเจอมากอ่ น จนผมเคยคิดติดตลกวา่ เราชอบการสอนการแนะนาขนาดนี้ ทาไมไม่เลือก
ทจ่ี ะเดินสายทางดา้ นการสอนบ้าง

วนั เวลาผา่ นไป ผมมโี อกาสไดก้ ลับบ้านทจ่ี งั หวดั กาญจนบรุ ี จึงไดถ้ ือโอกาสเดินทางไปเยี่ยมและกราบคณุ ครูที่เคย
สอน ในแผนกวิชาศิลปกรรม วิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี ซ่ึงเป็นครอบครัวท่ีแสนจะอบอุ่น ก็เพราะผมเคยเรียนจบ
จากที่นั้นมา คุณครูทุกท่านถามไถ่ชีวิตความเป็นอยู่ และการทางานของผมด้วยความห่วงใย ซ่ึงผมเองก็ยังคงจดจาได้ดี
ตราบเท่าทุกวันน้ี ก่อนที่ผมจะลากลับ คุณครูท่านหน่ึงได้ชักชวนให้ผมเข้ามาสอนท่ีนี่ด้วย ท่านบอกว่าครูประจาแผนกวิชา
ศิลปกรรมกาลังขาดแคลน อยากให้ผมใช้วิชาความรู้ทีไ่ ด้เรียนมาและประสบการณ์จากทท่ี างาน นากลับมาสอน
น้องๆ อีกทงั้ ยังเป็นการกลับมาพัฒนาบ้านเกดิ ตัวเองดว้ ย ในตอนนน้ั ผมรู้สึกอ้ึงอยา่ งบอกไม่ถูก เพราะตอนนั้น

15

ยงั คงสนุกกับการทางานที่บริษทั อยู่ แต่ผมมองว่ามันคือความก้าวหน้าเพราะเป็นงานท่ีค่อนข้างมั่นคง ผมจึง
ตัดสินใจลาออกจากบริษัททีวีบูรพา ด้วยอายกุ ารทางานเพียงแค่ 2 ปี แลว้ จึงได้เขา้ มาสมัครเป็นครทู ี่วทิ ยาลัย
อาชีวศึกษากาญจนบุรีตามคาชักชวน นับต้ังแต่วันน้ันเป็นต้นมาจึงกลายเป็นจุดเร่ิมต้นของผมในการเข้าสู่
วิชาชีพครู

วันแรกของการทางาน ผมต่ืนแต่เช้าเพ่อื เดินทางไปยัง วิทยาลัยอาชีวศกึ ษากาญจนบรุ ี เพ่ือทาหน้าที่
สอนในตาแหน่งครพู ิเศษสอนรายชั่วโมง ประจาแผนกวิชาศลิ ปกรรม ในตอนนั้น คุณครูทุกท่านในแผนกวิชา กจ็ ะคอย
ดูแล และให้คาแนะนาในเร่ืองต่างๆ กับผมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเก่ียวกับเทคนิคและวิธีการสอน ซึ่งผมก็ต้ังใจรับฟัง
เป็นอย่างดี เพราะมนั เปน็ เรอื่ งที่ใหม่สาหรบั ผม นัน้ คือจุดเรม่ิ ต้นของผมในการเข้าสู่บทบาทความเปน็ ครู

วนั แรกท่ีได้เริ่มสอนผมยังจาได้ดีว่าเกร็งมากๆ อาจเป็นเพราะผมไม่เคยท่ีจะต้องมายืนสอนใครหน้า
กระดาน มีเด็กนักเรียนหลายๆ คนคอยมองทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหว จึงทาให้ผมค่อนข้างเครียดและ
กดดันเอามากๆ ในตอนนั้นทุกๆ วนั หลังจากหมดชว่ั โมงสอน ผมก็จะคอยเข้าไปปรกึ ษาคุณครูแตล่ ะท่านในแผนก
วิชา เกยี่ วกับเทคนิคและวธิ กี ารสอนต่างๆ เพ่อื นามาใชใ้ นการปรบั ปรงุ วิธกี ารสอนของวนั รุ่งขนึ้ ตอ่ ไป ทาแบบน้ี
ไปเรอื่ ยๆ จนในท่ีสุดความเขินอายที่ผมจะตอ้ งไปยืนสอนเด็กนักเรียนที่หน้ากระดานก็ค่อยๆ หายไป กลายเป็น
ความสขุ ทไ่ี ดส้ อนนักเรียนเข้ามาทดแทน มันเปน็ ความสุข ความประทับใจอย่างบอกไม่ถูกกบั การเขา้ สูว่ ิชาชพี ครู
อย่างเต็มรปู แบบของผม

หลังจากท่ีทาหน้าที่สอนได้ไม่นาน งานบุคลากรได้มาตดิ ตามเกี่ยวกบั เรอื่ งใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพ
ครู ซ่ึงตัวผมเองก็ยังไมม่ ีใบอนญุ าตฯ ในขณะน้นั เพราะขาดคุณสมบัติหลายอย่างจึงทาให้ไมส่ ามารถสมคั รเข้า
เรียนต่อหรือเข้ารับการอบรม เพ่ือให้ได้มาหรือมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู อีกทั้งในตอนนั้น
สถาบนั การศกึ ษาต่างๆ ปิดรบั สมัครนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบตั รบัณฑิตวิชาชพี ครูไป เนื่องจากไม่ผ่านการ
รบั รองมาตรฐานจากครุ ุสภา จงึ ทาให้ผมหาช่องทางของการพัฒนาตวั เองด้านวิชาชีพครูได้ยากมากในเวลาน้นั

จนมาถึงเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ผมได้เห็นประกาศของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนัน
ทา เร่ืองประกาศรับสมคั รนักศกึ ษาหลักสูตรประกาศนียบตั รบัณฑิตวิชาชีพครู ปีการศึกษา 2562 นับว่าเป็นโอกาสอันดี
ของผมทจ่ี ะได้พฒั นาตนเองให้เขา้ สวู่ ชิ าชีพครู และความเปน็ ครอู ยา่ งแทจ้ ริง ผมจึงได้เดินทางเขา้ ไปสมคั รและสอบ
คัดเลือก จนได้รับการคัดเลือกให้เข้าศึกษาต่อในที่สุด มันเป็นจุดเร่ิมต้นเล็กๆ ของผมในการพัฒนาความรู้
ความสามารถด้านวิชาชีพครู เพื่อที่จะได้นาไปใช้ในการพัฒนานักเรียน นักศึกษา สถานศึกษา อันเป็น
ทรัพยากรที่สาคัญของประเทศชาติต่อไป เพราะสาหรับผมนั้น “การเป็นครทู ี่ดีย่อมต้องมีการพฒั นาตนเอง
อย่างไมม่ ีวันสนิ้ สดุ ”

ความทรงจายังคงอยู่ “ความเปน็ คร”ู ยงั ตอ้ งก้าวต่อไป

16

ชีวิตกเ็ หมือนเรือกลำงทะเล
เจยี ระไน พลน้ยุ

จาได้ว่าตอนเด็ก ๆ โตมาในเกาะท่ีค่อนข้างห่างไกลความเจริญ หน้าบ้านเป็นหาดทรายที่
ทอดตัวลงไปในทะเลที่ไกลสุดสายตา แสงแดดตอนเช้าสะท้อนพ้ืนน้าระยิบระยับ แต่ร้อนระอุเม่ือคล้อยบ่าย
มองเห็นพ่อตกปลาหน้าโขดหิน แม่สวมหมวกนั่งหลบแดดใต้ต้นมะพร้าวต้นเล็ก ปล่อยให้เราที่ยังตัวจ้อยใช้
จินตนาการกับการสรา้ งกองทรายตรงหน้า แม้ตอนนน้ั จะเป็นลูกคนเดียว แตก่ ลับไมร่ ู้สึกเหงาอะไร อาจเป็น
เพราะบรรดาลูกศษิ ยพ์ ่อกับแม่ท่ผี ลดั เปล่ยี นหมนุ เวยี นกนั มาเปน็ เพอื่ นเล่นสนกุ ให้ไอ้หวั แดงลูกครอู ย่างเรา

พอ่ แม่รบั ราชการครมู าตั้งแต่ยงั หนุ่มสาว ไดบ้ รรจุครั้งแรกในโรงเรยี นห่างไกลความเจรญิ บน
เกาะกลางทะเล โรงเรยี นท่ีพอ่ กับแมอ่ ยู่เปน็ โรงเรียนขนาดเลก็ มีครูประจาการแค่ ๖ คน นักเรยี นไม่เกิน ๑๒๐
คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กในหมู่บ้าน ช่วงนั้นเราจงึ เหมอื นโตมากับเพื่อนรุ่นพ่ี ทั้งพี่ป.๑ พี่ป.๒ จนไปถึงพ่ปี .๖ อาจ
เพราะเราอาศยั อยู่ในสงั คมเล็ก ๆ ทุกคนใช้ชมุ ชนจึงร้จู ักกันแทบทุกคน รปู ถ่ายมากมายที่แม่เก็บไว้ จะเห็นเรา
โดนกระเตงเข้าสขี ้างโดยคนท่ีเราในตอนน้ีไม่รจู้ ักอยบู่ ่อยครงั้ ซึ่งแมเ่ ล่าให้ฟังว่าใครมาขออุ้ม เราก็ไป ไม่รอ้ งไห้
งอแง เลี้ยงง่ายอยู่ทีเดียว อีกอย่างที่จาได้ชัดตอนยังเป็นเด็กคือ ที่บ้านมีหนังสืออยู่เยอะ ท้ังหนังสือเรียน
หนงั สือการ์ตูน หนังสอื อ่านเลน่ นวนิยาย หรอื พวกวารสาร วางกองในตหู้ นังสอื จนลน้ ออกมานอกตจู้ นบางเล่ม
โดนฝุ่นเกาะไปบ้างก็มี พอ่ กบั แม่เปน็ หนอน(ทช่ี อบซอ้ื )หนังสือ พนนั ได้ว่าบางเล่มกว่าจะมีคนเปดิ อา่ น กระดาษ
ก็คงเกา่ ไปมากแล้ว ซึ่งท้ังคกู่ ็ยังยืนกรานวา่ จะตามอ่านจนหมด เราเองกต็ ิดนสิ ัยน้ีมาจากพอ่ แม่ เข้าร้านหนังสือ
ทไี ร ก็มกั จะมีตดิ ไม้ตดิ มือมาทุกครั้ง ดังน้ันบ้านเราจึงเป็นบ้านท่ีมีหนงั สือคอ่ นข้างเยอะและหลากหลาย พอ่ แม่
ไม่เคยห้าม ถา้ เราจะซอ้ื หนงั สอื ซักเลม่ ถงึ เลม่ นน้ั จะเป็นหนงั สอื การ์ตนู กต็ าม

วันหนึ่งพ่อซื้อหนังสือ ฟาโรห์ตุตันคาเมน มาให้เราเล่มนึง เป็นเร่ืองราวของกษัตรยิ ์อียิปต์ท่ี
ส้ินพระชนม์ตงั้ แตเ่ ยาวว์ ัย ถกู ฝังเป็นมัมมี่พรอ้ มกบั คาสาปร้ายแรง แต่จะเกิดต่อผู้ที่ขุดค้นหาหลุมพระศพของ
พระองคเ์ ท่านั้น เพราะความสนุกของหนงั สือเล่มนท้ี าใหเ้ ราตงั้ ใจเป็นนกั โบราณคดี เรมิ่ ศึกษาว่าการจะเปน็ นัก
โบราณคดตี ้องรู้เรอ่ื งใดบ้าง ต้องเกง่ วชิ าใดบ้าง ตัง้ แต่นั้นเราจึงต้งั ใจเป็นอย่างมากในวิชาคณติ ศาสตร์ ชวี วิทยา
เคมี และภาษาอังกฤษ ยกเว้นวิชาฟิสิกส์ที่เราสู้ไม่ไหว ปีน้ันเป็นปีที่การสอบวิชากลุ่มวิทยาศาสตร์ถูกรวมไว้
ด้วยกันในคะแนน ๑๐๐ คะแนน ผลท่ีตามมาแทบไม่ต้องเดา คะแนนที่ได้ไม่ถึงเกณฑ์ท่ีคณะโบราณคดีต้ังไว้
คะแนนไมก่ ี่คะแนนท่หี ายไป ทาให้โอกาสเท่ากับศูนย์ แต่โลกกต็ ลกเหลอื รา้ ย คนทไ่ี ม่รักฟิสิกส์อยา่ งเราสอบติด
คณะวิศกรรมศาสตร์ คณะท่ตี อ้ งเจอฟิสิกส์อยตู่ ลอด คาถามคือ แลว้ เรียนทาไม

‘ทาไม่ได้ หรอื ไม่ได้ทา’ ประโยคเด็ดที่พ่อยกมาพูดเสมอเวลาเราบน่ วา่ ‘ทาไมไ่ ดห้ รอก’ ในเม่ือ
วันน้กี ็สอบตดิ เขา้ มาแลว้ เราจึงอยากพิสูจนค์ าพดู ประโยคนขี้ องพอ่ ว่าเราเรียนฟิสกิ สไ์ มไ่ ดจ้ รงิ ๆ หรือเพราะแค่
ใจไมส่ ู้ ถา้ เรียนไมไ่ ด้จรงิ ๆ เอาไวค้ อ่ ยสอบใหม่กค็ งได้ สาขาที่เราเลอื กเรยี นคือ สาขาวศิ วกรรมไฟฟ้าส่ือสาร แม้
ผลการเรียนจะไม่ไดแ้ ยน่ ัก แต่กว่าจะผ่านไปได้ กท็ าใหห้ ืดขึ้นคอได้ แต่สดุ ท้าย ๔ ปีในคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็
ไม่ได้แย่อย่างท่ีคดิ ระหว่างที่เรยี นปี ๓ ทางภาควิชาเปิดสาขาใหม่คือ ไฟฟ้าชวี การแพทย์ เป็นสาขาที่ประยกุ ต์
ความรทู้ างวิศวกรรม เข้ากับความร้ทู างการแพทย์ เพ่ือนาไปใช้ช่วยเหลอื ผปู้ ่วย สาขาวชิ านนี้ ่าสนใจสาหรับเรา
เปน็ อย่างมาก เพราะจะไดใ้ ชว้ ชิ าชวี วิทยา เคมี ที่เราชอบ และแน่นอนว่าเรายงั หนวี ชิ าฟิสิกส์ไมพ่ ้น

17

หลังจากเรียนจบปี ๔ จงึ ขอทบ่ี ้านเรียนตอ่ ปรญิ ญาโท วศิ วกรรมไฟฟา้ สาขาวิชาชีวการแพทย์ กบั เรื่องการเรยี น
ท่บี ้านไมเ่ คยห้ามเราอยู่แล้ว การได้เรยี นอะไรท่ีชอบ ทาให้เราทาคะแนนไดด้ ี อย่กู บั เน้อื หาไดน้ าน สนใจความรู้
ทุกอย่างที่เก่ยี วขอ้ งกับสาขาที่เรยี น แตใ่ ช่ว่าทกุ เรอ่ื งจะง่ายดายเสมอไป ช่วงท่ตี ้องทาธสี สิ จบ โปรแกรมท่ีตอ้ งใช้
งานเป็นของต่างประเทศ และราคาค่อนข้างสงู เราเองไม่สามารถซ้ือด้วยตัวเองได้ โชคดไี ดร้ ับความกรุณาจาก
อาจารณ์ที่ปรึกษา ท่านลงทุนซอ้ื โปรแกรมดงั กล่าวด้วยเงินของท่านเอง แล้วให้เรานาโปรแกรมที่ว่ามาใช้ ถ้า
ไม่ได้อาจารย์ทา่ นนนั้ วนั นเี้ ราอาจจะยงั ไม่มีปรญิ ญาโทติดมือกลบั บา้ นก็ได้ อาจารยท์ ีป่ รึกษาจึงเป็นเหมือนแรง
บันดาลใจใหเ้ ราอยากทาอะไรเพื่อคนอืน่ บา้ ง อยากเป็นสว่ นหนึง่ ในการสรา้ งอนาคตทีม่ น่ั คงให้กบั เดก็ ๆ หรอื ได้
มีโอกาสช่วยเหลือทางการศกึ ษา ผนวกกบั การท่ีเราไดย้ นิ พอ่ แม่พูดถงึ ความลาบากของนกั เรยี นในโรงเรียน ทั้ง
เรอื่ งความไม่พรอ้ มด้านเครื่องแตง่ กาย หนงั สอื เรยี น หรืออปุ กรณ์การเรยี น เราจึงตดั สนิ ใจว่า เมอ่ื ทางานจะแบง่
เงนิ เดือนรอ้ ยละ ๑๐ มาเป็นทนุ ให้โรงเรยี น ซ่ึงก็ไมใ่ ช่เงนิ จานวนมากมายอะไร

เมอ่ื ชวี ติ การทางานเริ่มข้นึ บรษิ ัทแรกที่เราเขา้ ทางานเป็น บริษัทขายเคร่ืองมือแพทย์ โดยทา
หน้าที่เปน็ พนกั งานขาย การทางานต่างกับชีวติ การเรียนอย่างมาก ต้องใช้ความรู้ความสามารถ งัดไม้เด็ดเคล็ด
ลับต่าง ๆ ออกมารับมือกับคนท่ีเราเรียกว่า ลูกค้า ลูกค้าของเราคือ หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่ใช้งาน
เครื่องมือแพทย์ ตอนนั้นเราต้องรับผิดชอบพื้นท่ี๑๔ จังหวัดภาคใต้ด้วยตัวคนเดียว การแวะพักในจังหวัดที่ไม่
คนุ้ เคย ทาให้ที่บ้านเป็นหว่ งเรามาก แม่ขอใหล้ าออกจากงาน หลังจากทางานน้ีอยู่ได้แค่ ๑ ปี ว่างงานอยู่ได้ไม่
นาน รุ่นพ่ีท่ีรู้จักกันชักชวนให้มาทางานบริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่ง งานเทคโนโลยีเป็นอะไรที่พัฒนาอยู่
ตลอดเวลา เราที่ปกติเป็นคนอืดอาด เลยต้องปรับตัวให้เป็นคนต่ืนตัวมากข้ึน งานหลัก ๆ คือการอธิบาย
ความสาคัญของการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการพฒั นาบริษัทของลูกค้า ลดต้นทุนโดยการใชค้ วามสามารถของ
เทคโนโลยีที่ได้รับการพฒั นาอย่ตู ลอด ไดพ้ ูดคุยแลกเปล่ียนความคดิ เห็นกับลูกค้าอยตู่ ลอดเวลา ถือวา่ เปน็ งานท่ี
ค่อนข้างสนุก เราเลยอยูก่ ับงานน้ีถงึ ๔ ปี

ระหว่างนั้น หลายคร้ังที่เรามีโอกาสตามพ่อแม่ไปโรงเรียน ได้ช่วยพ่อสอนเด็ก ๆ ช้ัน
ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เราเคยคดิ ว่าการสอนประถม ไมน่ ่าจะเปน็ เรื่องยาก การสอนให้เด็กอ่านออก เขยี นได้ ดจู ะ
เป็นแคพ่ ืน้ ฐานของการเรียน แต่วันท่ีเราไปลองสอนจงึ ไดร้ ูว้ ่าการสอนเด็กนนั้ ไม่ใชเ่ รื่องง่ายอยา่ งที่คิด แม้เดก็ ๆ
จะน่ารกั ยม้ิ แย้มแจม่ ใสกจ็ ริง แต่ก็ซนบ้างตามชว่ งวัย การจะให้เดก็ อยู่ในระเบียบวินยั ค่อนขา้ งต้องใช้พลังจาก
ครูมากทเี ดียว ในตอนนัน้ เราจึงไดเ้ ขา้ ใจว่า งานที่พ่อแม่ทามากวา่ ๓๐ ปีน้นั ไมใ่ ชง่ านงา่ ยเลย ย่งิ มองให้ไกลไป
ถึงขนาคตเดก็ ยิ่งรบั รถู้ งึ ภาระอันหนกั อ้ึงที่คนเป็นครตู อ้ งแบกรบั เอาไว้ เราจึงภาคภูมิใจในตวั พอ่ และแม่มาก ๆ
ทั้งยังร้สู กึ ขอบคณุ คณุ ครูทุกทา่ นทเ่ี ลือกเขา้ มาทางานตรงน้ี อาชพี ครู ยากเอาการอย่ทู เี ดยี ว

18

เปลยี่ นทิศหำงเสอื
เจยี ระไน พลนุ้ย

หลังจากทางานอยู่หลายปี ส่ิงท่ีเรารู้สึกได้ คือ การแข่งขันในตลาดแรงงานค่อนข้างสูง การ
เตรียมพรอ้ มก่อนกา้ วเข้าสู่สังเวียนชีวิตจริงนัน้ เปน็ เรือ่ งที่สาคัญมาก ตอ้ งพรอ้ มทัง้ ด้านความรู้ ทักษะการเอาตัว
รอด ทักษะการใช้ชีวติ เราร้สู ึกวา่ เด็ก ๆ ในสังคมเมือง ไดร้ ับการสนับสนุนหลายอย่างจากหลากหลายทาง ท้ัง
พ่อแม่ผลักดนั สังคม ส่ิงแวดลอ้ มรอบตัวเกอ้ื หนุน ผิดกับเด็กต่างจังหวัด ท่ีสง่ิ อานวยความสะดวกยังเขา้ ถึงไม่
มาก อัตราการเข้าไปแข่งขนั แล้วชนะคงอยใู่ นระดับที่น้อยนกั เม่ือมองย้อนกลบั มายังชุมชนท่ีเราอาศัยตอนนี้
เรายิง่ พบว่าหลายบา้ นท่ีเด็กเรียนหนงั สือไมจ่ บชั้นมธั ยมศกึ ษา วยั รุน่ หลายคนออกไปทางานไกลบา้ น ทิ้งพ่อแม่
คนเฒา่ คนแกไ่ วข้ า้ งหลัง เท่าท่ไี ด้สอบถาม กไ็ ด้ร้วู ่าแมจ้ ะทางานหนัก แตค่ ่าตอบแทนไม่ไดม้ ากเทา่ แรงกายท่ที ุ่ม
ไปใหก้ ับงาน ตอนนั้นเราคดิ วา่ การศกึ ษาเทา่ นั้น ทจ่ี ะช่วยเปล่ียนชวี ิตเด็กในชมุ ชน เราจงึ ตัดสินใจเลอื กทางเดิน
เสน้ ใหม่ คือ การมาเป็นครู ใช่ว่าเราจะเกง่ กาจกวา่ คนอื่น หรอื มีความรูม้ ากมายกว่าครูในปัจจุบนั เราเพียงแต่
อยากเป็นอกี แรงท่ชี ว่ ยผลกั ดัน ให้เด็กไดเ้ ดินไปในทิศทางที่เขาเลือก ไดท้ าในสิ่งทเ่ี ขารกั เพื่อทว่ี ันหน่ึง เขาจะได้
กลบั มาอยูก่ ับครอบครวั และอยากกลับมาช่วยเหลือสงั คมทเี่ ขาอยใู่ หด้ ีขน้ึ กว่าปจั จุบันได้

เราเลือกมาเปน็ ครชู ้นั ประถมศึกษา เพราะเชื่อว่าประถมศึกษาเป็นฐานของการเรยี นรู้ ไมใ่ ช่แค่
การเรียนเพอ่ื ให้อ่านออก เขียนได้ แต่ช่วงประถมศึกษาเป็นช่วงแห่งการบ่มเพาะ สร้างรากฐานของการศึกษา
สรา้ งรากฐานของชวี ิต คุณครปู ระถมต้องดูแลทั้งพัฒนาการด้านรา่ งกาย สติปัญญา จิตใจ คณุ ธรรม จริยธรรม
รวมถงึ ทักษะการใช้ชีวิตของเด็กด้วย เรามองว่าหากฐานรากแข็งแรง การต่อยอดท้ังดา้ นความรู้และทักษะการ
ใช้ชวี ิต กจ็ ะทาไดอ้ ยา่ งม่ันคงมากขน้ึ ในอนาคต ปจั จุบนั เราฝกึ สอนในโรงเรียนทพี่ ่อแมเ่ คยทางาน โรงเรยี นทอ่ี ยู่
ในหมู่บ้านที่เราโตมา โรงเรียนบ้านเขาฝาก จังหวัดกระบ่ี การฝึกสอนเหมือนเป็นการเริ่มเดินทางของเราใน
อาชีพครู หากมองไปขา้ งหน้า ระยะทางกว่าจะถึงฝ่งั ยังอกี ไกลนกั เราอาจจะตอ้ งเจอกบั ลมพายุ หรือคลื่นอีก
มากมาย ซ่ึงอาจทาให้เรอื ลาน้ีไม่อาจเดนิ ทางไดอ้ ยา่ งราบร่ืน แตใ่ นเมื่อเราเลือกทางเดินน้ีแล้ว เราไม่คิดจะย่อ
ท้อต่ออุปสรรคท่จี ะเข้ามา เรอื ลานี้จะพานกั เรยี นไปสง่ ถงึ ฝัง่ ใหไ้ ด้ นีค่ ือคามั่นสญั ญาจากเรา...

19

เด็กบ้ำนนอกเข้ำกรุง
นางสาวนวพร รื่นจิตต์

คาว่า “ครู” เป็นชื่อเรยี กอาชีพหนึ่งที่มีหนา้ ทีม่ อบความรู้ให้กับนกั เรยี น แต่ถ้าเรามองให้ลึกลง
ไปถงึ ความหมายระหว่างบรรทัดที่ซ่อนอยู่ อาชพี “ครู” สาหรบั ใครอีกหลายคนน้ันมคี วามหมายที่ลึกซงึ้ และกนิ
ใจกว่านั้น ครหู ลายคนอาจจะเป็นเหมอื นพอ่ หรอื แม่คนท่ี 2 ทนี่ อกจากจะมอบความรู้ให้แลว้ ทา่ นยงั มอบความ
เมตตาดูแลประดุจลกู คนหน่ึง ในขณะที่ครสู าหรับใครอีกหลาย ๆ คนคอื ตน้ แบบของการดาเนินชีวติ ความคดิ ท่ี
ลกู ศิษย์ยึดเป็นแบบอย่าง ดังน้ันความหมายระหว่างบรรทัดของคาว่า “ครู” สาหรับลูกศิษย์แต่ละคนก็คงจะ
แตกตา่ งกนั ไปตามแต่ศิษย์จะนิยาม

รำงวัลครู
แม้ ไม่มรี างวัลการันตี
ครสู อนเดน่ ครสู อนดกี ไ็ มใ่ ช่
เปน็ เพียงครสู อนศิษยด์ ว้ ยหวั ใจ
มอี ะไรก็ถ่ายทอดมนั ออกมา
เพียงลกู ศิษยเ์ ป็นคนดีครมู สี ุข
เพียงลูกศษิ ยพ์ น้ ทุกขส์ มปรารถนา
เพียงลกู ศิษยไ์ ด้ดมี วี ิชา
เพียงแค่น้กี ็มีค่าการนั ตี

ศ ฤๅศรี

อา้ งอิง https://blog.jobthai.com/lifestyle

20

ข้าพเจ้า ช่ือ นางสาวนวพร ร่ืนจติ ชื่อเล่นแก้ม อายุ 31 ปี เกิดวนั ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2531
ภมู ิลาเนา เปน็ คนจังหวัดกาญจนบุรี ประวัตกิ ารศึกษา ในชนั้ อนุบาล ไดเ้ ขา้ ศึกษาที่โรงเรยี น ชยั จิตวิทยา เม่ือ
จบชน้ั อนบุ าลไดเ้ ขา้ ศึกษาตอ่ ที่ โรงเรยี นเทศบาล 3 บา้ นบ่อ จนจบชน้ั ประถมศึกษาที่ 6 จึงไปสอบเข้าโรงเรียน
ผหู้ ญิงลว้ นประจาจงั หวัดกาญจนบรุ ี โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จงั หวดั กาญจนบุรี ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ ปี
ที่ 3 และหลังจากนนั้ ได้ไปสอบเขา้ เรียนมธั ยมศกึ ษาตอนปลายที่ โรงเรียนวิสทุ ธรงั ษี จังหวดั กาญจนบรุ ี ในชว่ ง
ทเ่ี รยี นมธั ยมศึกษาตอนปลายก็มีแนวคิดสนใจท่ีอยากจะเรยี นด้านการโรงแรม เนอื่ งจาก จงั หวัดกาญจนบรุ ี เปน็
จงั หวดั ที่มสี ถานที่ทอ้ งเท่ียวเยอะ มีนกั ทอ่ งเที่ยวมากมาย และ อีก1 สาขาที่ต้องการเรียน คือสาขาการ ตลาด
เนื่องจากที่บ้านมีการทาธุรกจิ ภายในครอบครัวจึงอยากนาองค์ความรู้ทไี่ ดเ้ รยี นมาช่วยเหลือภายในครอบคร้ัง
พอใกลจ้ บมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จึงได้ไปสอบเข้าที่มหาวทิ ยาลัยราชฎชั สวนดุสิตในสาขาการโรงแรม และสอบ
ติด จึงได้ปรึกษาคุณพ่อและคุณแม่ ท่านบอกว่าถ้าลูกอยากจะเรียนได้ไม่เป็นไรแต่ ต้องยอมรับให้ได้ว่างาน
โรงแรมเป็นงานทห่ี นัก ต้องบริการดูแลลูกค้าและทางานเป็นกะ ซึ่งจะไม่ค่อยมีเวลาเป็นของตัวเอง และเวลา
ดาเนินชีวติ ก็จะไม่เหมอื น คนอ่ืนๆเขา พ่อกบั แมจ่ ึงให้อิสระลกู ในการตดั สินใจ เมื่อตดั สินใจจากคาพูดของพ่อ
กบั แม่แลว้ ฉันจึงเปล่ยี นใจ มาสอบเขา้ เรียนมหาวิทยาลัยราชภสั วนสุนันทาแทนในสาขาการตลาดและสอบติด
จึงตัดสนิ ใจเรียนในสาขานี้

เม่ือได้เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัย เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพคนเดียว มาเรียนคน
เดียว มาหาเพื่อนใหมข่ า้ งหน้าเอา พอ่ กับแมก่ ็เป็นห่วงมากเพราะเราเป็นผหู้ ญิง พอ่ กบั แมก่ จ็ ะคอยโทรหาทุกวัน
จนเพ่ือนทุกคนรู้และพูดกันวา่ พ่อกับแม่แก้มโทรมาทุกวนั เลย ไม่เหมอื นพ่อแมเ่ ราเลย เราก็ได้แค่ย้มิ ชีวิตเด็ก
หอ อย่ตู วั คนเดียวตอนแรกๆกป็ รบั ตัวไมค่ ่อยไดเ้ น่อื งจากอยู่บ้านมีพอ่ กับแมค่ อยช่วยเหลอื ตลอด ต้ังบริหารชีวิต
ตัวเองใหม่ อยู่คนเดียวเป็นอิสระก็จริงจะทาอะไรไปไหนมาไหนก็ได้ แต่พอเม่ือต้องมารับผิดชอบชีวิตตัวเอง
ท้งั หมด ไหนจะซักผา้ เวลาไมส่ บายกต็ ้องดูแลตัวเอง ป่วยหนักขนาดไหนก็ต้องพยุงตัวเองไปหาหมอเอง เช็ด
ตวั เอง หาข้าวกินเองทง้ั ทีไ่ ขก้ ข็ ึน้ จนทุกวันนี้ เวลาไมส่ บาย เป็นไรที่สบายมาก และอีกอย่างที่สาคัญเลยคือเรอื่ ง
จดั ระเบยี นการใช้เงินของตวั เอง พ่อกับแม่จะส่งเงินมาใหเ้ ดือนละ10,000บาท ค่าหอพัก ค่ากนิ อย่ใู นน้ีหมดจะ
ซื้อจะกินอะไรกต็ อ้ งระมดั ระวงั ใหเ้ งินพอใช้ภายใน 1 เดอื น ถึงทุกครงั้ ทพี่ อ่ กับแม่โทรมาหาก็จะถามตลอดว่าเงิน
พอใชม้ ย้ั ทกุ คร้ังถ้าเดือนไหนไม่พอจรงิ กจ็ ะขอก่อน แต่สว่ นมากจะพอ

ก่อนจะเรียนจบขา้ พเจา้ ได้เขา้ ฝึกงานท่บี ริษัทโตโยต้าธนบุรี สาขา จรญั สนิทวงศ์ ประมาณ 4
เดือน ทางบริษทั ไดส้ อนงานให้เราได้เรยี นรู้เรือ่ ง บคุ ลิกภาพ การ
พูดคุยกับลูกค้า การดูแลลูกค้าเบ้ืองต้น ซ่ึงทาให้ฉันสนใจมาก
เพราะเป็นการทางานที่ไมน่ ่าเบ่อื ไม่เหมือนงาน ออฟฟติ ทว่ั ไปที่
ฉนั เคยได้เห็น เป็นการทางานทไ่ี ม่ใช่แค่นั่งโตะ๊ ทางานอยูเ่ ฉยๆได้
พบเจอคนได้เรยี นร้จู กั นิสัยของลกู คา้ แตล่ ะคน ทาให้ฉันรสู้ กึ ชอบ
งานนี้ และพ่ีๆที่ร่วมงานด้วยใจดี อยู่ด้วยกันเหมือนพี่น้อง มี

21

อะไรก็ปรึกษาพูดคุยกนั ได้ และพวกเขายังชมฉันว่าเป็นเด็กดีขยัน และอยากรับฉันเข้าทางานที่นี่แต่เนื่องจาก
ตอนนย้ี งั ไม่มตี าแหนง่ ท่วี า่ ง

เมื่อเรียนจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ได้ประมาน 2 เดือน พ่อกับแม่อยากให้
กลับมาทางานท่ีบ้านแต่ฉันยังไม่อยากกลับ อยากใชช้ ีวิต ค้นหา
ตวั เองกอ่ น พอ่ กบั แม่กไ็ มเ่ คยห้าม ระหวา่ งนน้ั ก็สมัครงานหางาน
ทาไปหลายท่แี ต่กย็ งั ไมม่ ีทไ่ี หนรับ จนเขา้ ประมานเดอื นท่ี 4 ทาง
พี่ท่ีฉันได้ไปฝึกงานโทรมาบอกว่าตอนนี้มีตาแหน่งว่าเป็นลูกค้า
สัมพันธ์ ให้รีบมาสมัครด่วน ฉันจึงเข้าไปสมัครงาน และทาง
บริษัทได้รับฉันเข้าทางานเมื่อวันท่ี 9กันยายน 2553 ตอนน้ัน
ได้รบั เงินเดอื น อย่ทู ่ี10,000บาทถ้วน ในตาแหน่ง ลูกค้าสมั พนั ธ์
ผู้รว่ มงานในแผนก ของฉันมที ง้ั หมด30 คน แตล่ ะคนจะอยู่ต่างสาขากนั วันแรกท่ไี ปทางาน ทางบริษัทแจง้ วา่ ให้
ไปฝึกงานที่สานักงานใหญข่ องบริษัทโตโยต้าธนบรุ ี สาขาท่าพระ ก่อนเปน็ ระยะเวลา 2 อาทติ ย์ ซึง่ ที่พักของฉัน
ตอ้ งใช้ระยะเวลาในการเดินทางไปประมาน 2ช่วั โมงเพราะรถตดิ มาก รถเมล์มีสายเดยี วที่ผา่ น ตอ้ งตื่นตั้งแต่ตี
5.30 น. ยนื รอรถเมล์ประมาน1ช่ัวโมง ถ้าวันไหนไมท่ ันต้องน่งั มอเตอร์ไซส์รับจ้าง และเวลากลับบ้านงานเลิก
17.00น. กว่าจะกลับถึงทพ่ี ัก 18.30น. เป็นแบบนที้ ุกวันต้ังแตว่ ัน จ-ส เปน็ ระยะเวลา2 อาทติ ย์เต็ม และในช่วง

ฝกึ งานท่ีสานกั งานใหญ่พ่ีที่สอนงานก็จะคอยกดดนั ให้เราจารายละเอียด
การทางานให้ได้ไวมากท่สี ดุ ต้องกลับมาทบทวนทุกวัน เพราะพ่ีทีส่ อนงาน
จะคอยเรียกถามเพ่ือทดสอบว่าเราจารายละเอียดได้ม้ัยเน่ืองจากเราต้อง
พูดให้ข้อมลู กกบั ลูกค้าถา้ ใหข้ อ้ มลู ผดิ จะเกิดความเสยี หายตอ่ มาได้ และฝึก
ให้เรารับเร่ืองร้องเรียนจากลูกค้า เราจะมีวิธีรับมือกับลูกค้าอย่างไรเม่ือ
ลกู ค้าไม่พึงพอใจในสนิ คา้ ของเรา โดนกดดันแบบน้ีเป็นเวลา 2 อาทิตย์เต็มกว่าทางสานักงานใหญ่จะพิจารณา
ใหเ้ รากลบั มาทางานท่ีสาขา ได้ จนบางทรี ู้สกึ ทอ้ เหนอื่ ยกับการเดนิ ทาง แต่ต้องอดทน เพ่อื ให้ผา่ นในจดุ น้ีไปได้
และจะได้กลับมาทางานท่ีสาขาได้สบาย เพราจากท่ีพักเดินไปทางานได้ ไม่ต้องเสียค่ารถ หลังจากท่ี อดทน
ฝึกงานที่สานักงานใหญ่ผ่านไป2 อาทิตย์ ก็ได้กลับมาทางานท่ีสาขา ท่ีตัวเองได้สมัครลงเอาไว้ เมื่อได้มาทาท่ี
สาขา เปน็ การทางานที่มีความสุขมาก เพื่อรว่ มงานทุกคนมีปัญหาอะไรพูดคุยกันได้ ช่วยเหลือกนั ในทุกๆด้าน
เปน็ เหมือนครอบครวั กินข้าวกลางวนั พร้อมกนั ทากลบั ข้าวกนิ กนั ไปเท่ียว กิน นอน รบั ฟังปัญหา ให้กาลงั ใจ
ทากจิ กรรมดีๆร่วมกัน ทาให้ฉันรูส้ ึกว่าฉันอยากไปทางาน ฉันประทับใจมากกับการทางานในท่ีแรก ถงึ สวัสด์ิ
การที่บริษัทจะไม่ประทับใจ แต่ กำรได้เพ่ือนร่วมงำนท่ีเป็นมำกกว่ำเพื่อนร่วมงำน มันช่างเป็นอะไรท่ีน่า
ประทับใน แตก่ ารมีเพ่ือนร่วมงานทดี่ ีมนั ทาให้ฉนั ทางานกับบรษิ ัทนีม้ าถึง8ปดี ้วยกนั เม่อื วันเวลาผ่านไปเราเริ่ม
โตขึ้นมองหาอนาคตตัวเองมากข้ึนฉันจึงลาออกจากงาน เพราะสาเหตุอะไรท่ีทาให้ฉันลาออกจากงานเรามา
ติดตามกันในEPท่ี2 กันดีกว่า………

22

จำกพนกั งำนบรษิ ทั ……….มำเป็นครู

นางสาวนวพร ร่ืนจติ ต์

ในชวี ติ เกดิ มามแี ต่คนถามฉันวา่ โตขึ้นอยากเป็นอะไร อยากเปน็ พยาบาลเหมือนแม่ใช่ม้ยั ตอ้ ง
เป็นพยาบาลเหมือนแม่ซิ มีแต่คนพูดใส่หวั ฉันแบบนม้ี าตลอด แต่ฉันคิดในใจว่าไม่เป็นหรอกพยาบาล อดนอน
ทางานไมเ่ ปน็ เวลา เหนื่อยตอ้ งมาดูแลคนไข้ และต้องมีความอดทน เสียสละเป็นอยา่ งมาก ฉนั คดิ วา่ ฉันทาไมไ่ ด้
หรอก จนฉนั โตข้นึ ทางานบรษิ ัทมันถงึ จุดอมิ่ ตวั อยากกลับมาอยูบ่ ้านกบั แมแ่ ละพอ่ เพราะทา่ นก็อายุมากขน้ึ ทุก
วัน น้องชายฉันก็เรียนอยู่ใน กรุงเทพ ท่านอยู่บ้านกัน 2 คน จังหวะดีในช่วงเดือนตุลาคม 2561 ที่วิทยาลัย
อาชีวศึกษากาญจนบรุ ี ไดเ้ ปดิ รับสมคั ร ครพู ิเศษสอน สาขาการตลาด

วนั แรกของการกว้าเท้าเข้ามาที่วิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี เป็นวันที่สอบข้อเขียน และ
สอบสัมภาษณ์ ฉนั ตนื่ เต้นมากๆ มีคณะกรรมการคมุ สอบ มาสอบสัมภาษณ์และมีการให้สอบสอนซึ่งฉันไม่เคย
สอนมาก่อน แต่ทา่ นคณะกรรมการก็ใจดใี ห้อธบิ ายหลกั การของการตลาด หลังจากสอบเสรจ็ ก็ลุ้นตอ่ วา่ จะสอบ
ได้ม้ัยจะติดม้ัย พออีก3วันทางวิทยาลัยประกาศผล ฉันสอบติด ฉันดีใจมาก แต่ความดีใจน้ันก็มาพร้อมกับ
ความกงั วนใจเพราะฉันไมเ่ คยสอนมาก่อน ไม่เคยเรียนอาชีวะ ไม่รู้ว่าต้องสอนยังไง และต้องทาอะไรบ้าง ฉัน
วติ กกังวนมาก จนนอนไม่หลบั และร้องไห้กับแม่เล่าให้แม่ฟัง
แม่ก็ให้กาลังใจฉันว่า ฉันทาได้ ไม่มีใครเป็นครูมาตั้งแต่เกิด
หรอก ทุกคนต้องผ่านการเรียนรู้ และนึกถึงอนาคตของตัวเอง
ให้เยอะๆมนั มโี อกาสมาแล้วนะ ฉันจึงคกิ วา่ จะกลัวทาไมในเมื่อ
ฉันเคยผ่านการสอนงานเด็กที่บริษัทโตโยต้ามาแล้วก็คิดซะว่า
สอนงานน้องๆ เหมือนท่ีเราเคยทาและจากท่ีทางานเก่าเราก็
เคยพูดกบั ลกู ค้ามาตัง้ เยอะแยะจะกลัวทาไม

วนั แรกทที่ างวิทยาลยั เปิดเทอมใหค้ ณุ ครมู าทางาน เป็นวันแรกที่ได้เจอกับหัวหน้าแผนก ทา่ น
อาจารย์จินตนา รวมชมรัตน์ ท่านเป็นผู้ใหญ่ท่ีใจดีมาก แนะนาให้ฉันรู้จกั ท่านอาจารยห์ ลายๆท่าน ทาให้ฉัน
ร้สู กึ วา่ เป็นการตอนรบั ท่อี บอ่นุ มาก และฉนั ได้มเี พือ่ นร่วมงานใหม่ที่ทางานธรุ การ ในหอ้ งแนะแนวเหมือนกนั กับ
ฉันอีก1 คน ฉนั รสู้ ึกวา่ การมาทางานในวนั แรกทาให้ฉันประทบั ใจมากและไม่เสียใจท่ีตัดสินใจเปลีย่ นตัวเองมา
เปน็ คณุ ครูทน่ี ี้

และวันเปิดเทอม 2/2561 ก็มาถึง วันแรกในการสอนในชั้นเรียน เป็นอะไรที่ฉันต่ืนเต้นมาก
และเป้นวนั แรกทีใ่ สชดุ กาฎคี รง้ั แรกในชีวิต ฉนั ตื่นแตเ่ ช้า
เพ่ือมาเตรียมตัวแต่งตัวให้ดูดีท่ีสุด เพราะต้องอยู่เวร
รกั ษาการณ์หนา้ ประตูวิทยาลัย และตอ้ งขึ้นเวทีแนะนา
ตัวให้ ท่านอาจารย์และนักเรียนได้รู้จัก ตอนข้ึนเวที
แนะนาตัวฉันต่ืนเต้นมาก แต่ฉันก็เอาประสบการณ์จาก

23

ท่ที างานเก่ามาใชใ้ ห้คลายความตนื่ เต้น การแนะนาตวั ผ่านไปได้ด้วยดี จนมาถึงเวลาเข้าชั้นเรยี น ฉนั ต้องงขึน้ ไป
สอนเดก็ นกั เรียน ครั้งแรกในชีวิตท่ีต้องทาหนา้ ที่ ท่ยี ่ิงใหญ่การให้ความรู้เดก็ นกั เรียน ฉันทาการบ้านหนังสือท่ี
ฉันต้องสอนมาอยา่ งดี และเมื่อฉันเดินเข้าไปในห้องเรียนเพ่ือทาการสอนนักเรยี นคาบแรกของฉันเปน็ นักเรียน
ชั้น ปวส. นกั ศึกษาน่ารักมากนงั่ เรียบรอ้ ย ทาความเคารพ ฉันเลยพูดคุยกบั นักศึกษากอ่ นเพอ่ื คลายความตนื่ เตน้
ที่มี นักศึกษาบางคนได้ถามฉันว่า อาจารย์อายุเท่าไหร่ค่ะ ฉันตอบไปว่า 30 เด็กๆบอกว่า คิดว่าอายุ27-28 ปี
พดู คุยกันไปสกั พักฉันก็เรมิ่ เข้าสู่บทเรยี น และเม่ือสอนใกล้หมดเวลาฉันได้สอบถามนักศึกษาว่าส่งิ ทส่ี อนไปน้ัน
เข้าใจมยั้ ครูพูดเร็วเกินไปหรือเปลา่ เพราะฉันจะตดิ พูดเร็วมากจากการอธบิ ายรายละเอยี ดรถใหล้ กู ค้าฟัง เดก็ ๆ
บอกว่าเข้าใจในสง่ิ ที่อาจารย์สอนมาก อาจารยอ์ ธบิ ายเห็นภาพ และไม่พูดเร็ว 1สัปดาห์ ฉันสอนท้ังหมด 35
คาบต่อเทอม เม่ือทาการสอนไปเรี่อยๆฉันเริ่มคิดวา่ ตัวเราเองนั้นก็ทาได้ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย ฉันเอาชนะ
ความกลัวของฉันได้แล้ว อาจจะเป็นเพราะว่านักเรียนนักศึกษาที่ฉันสอนรุ่นราวคราวเดียวกันเลยทาให้ฉัน
ปรบั ตวั ไดง้ ่าย

และงานท้าทายฉันอีก1 งานก็มาถึงเมื่อท่านอาจารย์
จินตนา รวมชมรตั น์ หัวหนา้ แผนก มอบหมายงานให้ฉนั พานักศกึ ษา
ไปแข่งทักษะ การเขยี นแผ่นธุรกิจประดับ จังหวดั ฉันรสู้ ึกกดดันมาก
เพราะวิทยาลยั ของฉันมชี ือ่ เสียงเป็นทร่ี ู้จกั แต่ทา่ น อาจารย์ในแผนกก็
ใจดีช่วยเหลือฉันตลอด ท่านอาจารย์วิลาวรรณ์ น้อยวิจิตร์ ช่วยหา
นักศึกษาที่ มีทักษะอยู่แล้วมาทาการแข่งขัน นักศึกษาทั้ง 5 คน ก็
นา่ รักอยู่ ซ้อมการเขยี นแผ่นกบั ฉันทุกวนั ไมม่ ีบ่น ท่าน อาจารยว์ ิลาวร
รณ น้อยวิจิตร์ กค็ อยให้คาปรึกษา ช่วยแกป้ ัญหาให้ตลอด และวนั ที่พานักศึกษาไปแขง่ ก็มาถึง ฉันตน่ื เต้นและ
กดดันมาก แต่ต้องทาเฉยๆไม่ให้เด็กๆรู้เพราะกลัวว่าจะไปกดดันเขาทาให้เขาไม่สามารถแข่งได้ และเวลา
ประกาศผลแขง่ ขันก็มาถึง วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาได้เป็นตัวแทนจังหวดั ไปแข่งขันต่อทร่ี ะดับภาค ฉันดีใจมากทไ่ี ม่
ทาให้วิทยาลยั เสียชอ่ื และเมื่อการเรยี นการสอน เทอม2/2561ผา่ นไป ฉนั ไดก้ ลับมาคิดทบทวนว่า สิ่งทีฉ่ ันเริ่ม
ใหม่นมี้ นั ไมไ่ ดเ้ ลวรา้ ยอย่างท่ีคดิ ถงึ คณุ ครจู ะมภี าระงานเยอะ รับผิดชอบทัง้ เด็กนกั เรียนและงานอะไรหลายๆทา
ให้เราไปมภี ูมิคุ้มกันที่จะคิดแก้ไขปัญหาอะไรใหมๆ่ ปิดเทอมแล้วจ้า ฉนั ก็มเี วลา อา่ นหนังสือเพื่อสอบเขา้ เรยี น
ครู ป.บัณฑิต จะไดเ้ พิ่มความรกู้ ารเป็นครูใหฉ้ ัน

ถึงเวลาสอบเข้าเรียนครู ป.บัณฑิตช่วง
ประมาณเดอื นสิงหา ฉันเห็นว่า ราชภัฎสวนสุนันทาเปิดรับ
สมัคร ฉนั จึงชวนเพื่อนๆท่ีวทิ ยาลัยไปสมคั รสอบพร้อมกนั ท่ี
ฉันเลือกมาสมัครสอบที่น้ีเพราะ เป็นมหาวิทยาลัยที่ฉัน
คนุ้ เคยเพราะฉันจบปริญญาตรจี ากทนี่ ี้ และทนี่ ้เี หมอื นบา้ นที่
ฉันอยากลับมาอยู่ตลอดเวลา และอีกอย่างคือ เป็น

24

มหาวทิ ยาลัยท่ีมชี อ่ื เสียงในการผลิตบคุ ลากรทางการศกึ ษาที่มีคุณภาพ และวันท่สี อบเข้ากม็ าถึง ฉนั ตนื่ ต้ังแต่ตี
5เพ่ือเดินทางมาสอบกบั เพื่อนทง้ั หมด3คน เมือ่ ทาข้อสอบข้อเขยี นเสร็จกถ็ งึ เวลาสอบสัมภาษณ์ ทา่ นอาจารย์ท่ี
สมั ภาษณ์ถามฉนั ว่าถ้ามี นักเรยี นแสดงกริ ิยาก้าวรา้ วกับเรา เราจะทายงั ไง ฉันกต็ อบคาถามจากประสบการณ์ท่ี
เป็นครูมาได้ทั้งหมด 6-7 เดือนเอามาตอบ ฉันตอบไปวา่ จะตักเตือนด้วยสายตาก่อนถ้ายังไม่หยดุ จะเรียกมา
สอบถามถึงเหตุผลทกี่ ระทาลงไปเพ่อื อะไร เราจะไม่ดุไม่ว่า แต่จะพูดบอกเขาด้วยเหตุผลว่าส่ิงท่ีนกั เรียนทานั้น
ผดิ ทาไปแล้วจะส่งผลอะไรกับนักเรยี นบ้าง ถ้าตักเตือนแลว้ ยังทาแบบเดมิ อกี อาจจะเขียนใบเตือนให้ทางฝา่ ย
ปกครองรบั ทราบ แต่จะยงั ไม่แจ้งให้ผู้ปกครองทราบการแจง้ ให้ผู้ปกครองทราบมนั เหมอื นเร่อื งท่ีรา้ ยแรงมาก
และวนั ประกาศผลก็มาถึง ฉันและเพอ่ื นสอบตดิ ทุกคน งานหนักมาอกี แล้วการหาเงินจ่ายคา่ เทอม โชคดีทฉี่ ันมี
พ่อกบั แมค่ ่อยช่วยเหลือตลอดโดยท่ฉี นั ก็มสี ่วนรว่ มในการออกค่าเทอมนี้ดว้ ย

วนั เปิดเรียนก็มาถึง เพ่ือนๆในห้องมีแต่คุณครูวัยรุ่น ทุกคนดูเกรงๆ พอเรียนไปได้สักพักทา
กิจกรรมกล่มุ ดว้ ยกันทุกคนก็เริ่มปรับตวั เขา้ กันได้ เพือ่ นในห้องทุกคนน่ารัก ชว่ ยเหลือสนบั สนนุ กนั ในทกุ ๆเรื่อง
ฉนั รสู้ ึกดีใจมากทีไ่ ดม้ าเรยี นทน่ี ้ีและไดอ้ ยู่รว่ มห้องกับเพอ่ื น

25

ชวี ิตผกผันมำเป็นครู

เจนจิรำ งอกงำม

ข้าพเจ้าในวัยเด็กเป็นเด็กนักเรียนท่ีต้ังใจเรียนมาก ไม่ด้ือ ตั้งใจฟังคาส่ังสอนของครูบา
อาจารย์ เชอ่ื ฟังพ่อแม่ เป็นเด็กท่ีเรียนเก่ง เรียนได้คะแนนดีในทุกวิชา เมื่อเรียนได้ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
และต้องไปสอบเข้าโรงเรียนประจาจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากเรียนได้ทุกวิชา จึงทาให้สอบได้แผนการเรียน
วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ พอได้เข้าไปเรียนแล้วจึงได้รู้ว่าความสามารถของตัวเองไม่ได้ถนัดทางด้านวิชา
วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เลย แต่วิชาที่เรียนไดด้ ีที่สดุ คือ วิชา ภาษาอังกฤษ ทาให้ได้ค้นพบความสามารถ
ของตวั เอง คือ เรยี นวิชาภาษาอังกฤษได้ดที ่ีสดุ แต่ก็ไมย่ ้ายแผนการเรียนไปศิลป์-ภาษา เพราะตดิ เพ่ือน จึงทา
ใหเ้ รยี นระดับมัธยมปลายแบบทรมานมาก เพราะไม่ถนัดวิชาฟิสกิ ส์ เคมี และคณิตศาสตร์ แต่กพ็ ยายาม อา่ น
หนังสอื เพอื่ ให้แค่สอบผา่ น และตั้งใจเรยี นวิชาภาษาองั กฤษมาก ได้ค้นพบวา่ อยากเรียนตอ่ ระดับมหาวิทยาลัย
ด้านวิชาภาษาอังกฤษ จึงไปหาข้อมูลว่าจะเรียนต่อคณะใด มหาวิทยาลัยใด จึงได้คาตอบอยู่ 2 คณะและ 2
มหาวิทยาลัยคือ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงปรึกษาพ่อกับแม่ จึงได้คาตอบว่าอยากให้เรียนใกล้บ้าน คือเรี ยนที่
มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น หลงั จากน้นั ต้ังแต่มัธยมศึกษาปีที่ 4 เราจึงตั้งใจเรียนภาษาองั กฤษทัง้ ในห้องเรียนและท่ี
เรียนพิเศษ สาหรับที่เรียนพิเศษ ข้าพเจ้าเรียนให้คุ้มกับเงินที่เสียไป และต้องเป้าหมายว่าจะเรียนเอกวิชา
ภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ให้ได้ จึงมวี ธิ ีฝกึ ฝนและพฒั นาตัวเอง โดยการตนื่ มาทอ่ งศพั ท์
ภาษาอังกฤษตอนตีห้าทุกๆวันก่อนไปโรงเรียน ฝึกทาข้อสอบที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย เก็บเกี่ยวความรู้จากที่
เรยี นพิเศษอย่างเต็มท่ี จนในท่สี ุดสามารถสอบตรงเพอื่ ไปศึกษาจ่อในคณะและมหาวทิ ยาลัยทต่ี งั้ ใจไว้ เม่ือเข้า
ไปเรียนในร้วั มหาวทิ ยาลัยแลว้ ค้นพบว่าข้าพเจา้ ไดเ้ ดินมาถูกทางและมคี วามสขุ มากในการเรียน 4 ปี อยากไป
เรียนในทุกๆวัน ได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษแบบลงรากลึกของภาษา วิชาที่ได้เรยี น ได้แก่ การฟัง การพูด การ
อา่ น การเขยี นภาษาอังกฤษ ซ่ึงเป็นทักษะพ้ืนฐาน 4 ด้านของการเรียนภาษา ภาษาศาสตร์ วรรณคดีอเมริกัน
วรรณคดีอังกฤษ บทกลอน บทกวี การละคร การแปล การวิจยั ซึง่ วิชาที่ชอบมากที่สุดคือ วรรณคดีอเมริกัน
และวรรณคดีอังกฤษ เน่ืองจากชอบการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมมาก ชอบการวิเคราะห์วรรณคดีและตัว
ละคร และได้มีโอกาสเรียนกับอาจารย์ที่จบปริญญาเอกทางด้านนี้มาจากประเทศอังกฤษ ทาให้ได้รับการ
ถ่ายทอดความรูจ้ ากอาจารย์ท่านน้ีได้อยา่ งเตม็ ที่ แล้วประทบั ใจอาจารยท์ า่ นนมี้ าก คอื ดร. ภารดี ตั้งแตง่ ทเ่ี ป็น
อาจารย์ทถี่ ่ายทอดความร้ไู ดเ้ ข้าใจ และมคี วามร้คู วามสามารถในดา้ นวรรณคดี ชื่นชมความเก่งของอาจารย์ทา่ น
น้ี และชวี ติ ในมหาวทิ ยาลัย ขา้ พเจา้ ได้รว่ มกจิ กรรมหลายๆกจิ กรรมในมหาวทิ ยาลัย ไดแ้ ก่ กิจกรรมรับนอ้ งใหม่
ข้าพเจ้ามีหน้าท่ีเป็นพ่ีเล้ียงน้องใหม่ ข้าพเจ้าเป็นเหรัญญิกในคณะกรรมการสโมสรคณะมนุษยศาสตร์และ
สังคมศาสตร์ เข้าร่วมกิจกรรมเชียร์กีฬาของคณะ แสดงละครเพลงภาษาอังกฤษ ซ่ึงกิจกรรมเ หล่านี้ทาให้
ขา้ พเจา้ ได้ฝึกบริหารจดั การเวลาให้ไดท้ ้ังการเรียนและกิจกกรม ฝึกใหค้ ิดทางานเปน็ ระบบและตามข้ันตอน พบ

26

เพื่อนใหม่ๆ ได้รับมิตรภาพที่ดีมาจนถึงทุกวันน้ี และข้าพเจ้าจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ศิลปศาตร
บัณฑติ เกียรตนิ ิยมอันดบั 2 มหาวิทยาลยั ขอนแกน่

หลังเรียนจบก็เร่ิมเข้าสู่ชีวิตการทางาน งานแรกท่ีทาเพราะเราค้นหาตัวเองว่าชอบอะไร ได้
คาตอบคือ การอ่านหนังสือ จึงทาให้ไปสมัครงานเป็นพนักงานขายหนังสือภาษาอังกฤษที่บริษัทคิโนะคูนิยะ
บุ๊คสโตร์ งานแรกที่ได้ทา สอดคล้องกบั การท่ีข้าพเจ้าชอบอา่ นหนังสือ และได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสือ่ สารกับ
ลูกคา้ ชาวตา่ งชาติ ตอบอีเมล์ลกู ค้าชาวต่างชาติ ช่วง 2 ปีแรกของการทางานมีความสขุ มาก แตเ่ มือ่ เวลาผ่านไป
ทาให้ข้าพเจ้าตระหนักถึงสุขภาพในการทางาน ข้าพเจ้าทางานเปน็ กะ มีกะเช้าเวลา 09.30 น.-18.45 น. และ
กะบ่ายเวลา 12.50 น.-22.05 น. เม่อื อายุเพ่ิมขึ้น ทาใหก้ ารทางานเป็นกะมีประสิทธิภาพลดลง พักผ่อนน้อย
ทาให้สญู เสียสุขภาพที่ดีไป ประกอบกับมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน และไม่ไดห้ ยุดวันเสาร์ อาทิตย์ ทาให้ไม่มี
เวลาไปพกั ผ่อนในวันหยดุ กบั ครอบครัว จงึ ทาใหเ้ ร่มิ หางานใหม่ท่ีเป็นเวลางานแบบเรม่ิ งานเชา้ และเลิกงานตอน
เย็นและได้หยุดเสาร์ อาทิตย์ และก็ได้งานท่ีใหม่ท่ีบริษัทเอเชีย บุ๊คส์ ทางานในหน้าท่ีเจา้ หน้าที่จัดซ้ือหนังสือ
ภาษาไทย ทางานไปไดป้ ระมาณ 6 เดือน ก็มีการย้ายแผนกไปเปน็ เจ้าหน้าที่จดั ซ้อื สนิ คา้ อย่างอน่ื ท่ีไมใ่ ชห่ นังสือ
เช่น เคร่ืองเขียนต่างๆ ของเล่นต่างๆ จากหน้าท่ีใหม่ที่ได้มีคาสั่งย้ายแผนกไปนั้น ทาได้แค่ 1 เดือน ก็รู้สึกว่า
ไม่ใชง่ านที่ข้าพเจา้ ต้องการจะทา มคี วามเครียด ความกดดนั เป็นงานทข่ี า้ พเจา้ ไม่ถนดั ชว่ งเวลาน้ันเป็นช่วงท่ี
เครียดมาก แล้วไม่อยากไปทางานเลยสักวัน และเคยตัดสนิ ใจไปแจ้งลาออก โดยไม่มงี านรองรับ แต่เน่ืองจาก
บริษัทขาดคน จึงขอให้ข้าพเจ้าทาต่ออีก 3 เดือน แต่ในขณะที่ทางานก็ได้ทบทวนตัวเองอีกครั้งว่าเราอยาก
ทางานอะไร แล้วคิดว่างานใดเหมาะสมกับข้าพเจ้าที่สุด แล้วชีวิตกม็ ีจุดเปล่ยี น คือ มีความคิดท่ีจะไปสมัครไป
เป็นครู เหตุทคี่ ิดเช่นน้ัน คือ ย้อนไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ปี 3 และ ปี 4 ข้าพเจ้าไดเ้ คยมีงานเสริม คือการ
สอนพิเศษทั้งตัวต่อตัว และเป็นติวเตอร์ท่ีสถาบันกวดวิชา จึงฉุกคิดได้ว่าข้าพเจ้าก็ถนัดงานสอน และมีความ
ต้งั ใจจะถา่ ยทอดความรทู้ ่ีได้เรยี นมาใหก้ บั ผู้อน่ื จริงๆ จึงไปสมัครงานท่โี รงเรียนเอกชน จะเรยี กได้วา่ ความโชคดี
หรือโอกาสท่ีเข้ามาได้จังหวะพอดี คือ โรงเรียนนั้นขาดครูผู้สอน และตัดสินใจรับข้าพเจ้าเข้าทางาน โดยที่
ข้าพเจ้าไม่ได้เรียนจบจากคณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ และไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู จึงต้องขอบคุณ
โรงเรียนเขมะสริ ิอนุสสรณท์ ไี่ ดใ้ ห้โอกาสน้ีแก่ขา้ พเจา้ แล้วชวี ิตก็มาถงึ จุดเปลย่ี นอกี ครัง้ หน่งึ คือ ความรสู้ กึ ที่ไดม้ า
เปน็ ครทู ง้ั ๆท่ีไม่มปี ระการณ์การสอนในโรงเรยี นใดมาก่อน เมอื่ ไดเ้ ขา้ มาสอนในโรงเรยี นจรงิ ๆ ค้นพบวา่ ขา้ พเจา้
ไดเ้ ลือกทางเดินท่ีถูกต้องให้กับชีวิตแล้ว จนถึงปัจจุบันน้ี แม้ข้าพเจ้าได้ทางานเป็นครูมาได้เพียง 6 เดือนกว่าๆ
แตข่ ้าพเจ้ามคี วามสขุ ทกุ ครง้ั ท่ไี ดท้ างาน แมง้ านและภาระท่หี นัก แต่ข้าพเจ้าอย่กู ับอาชีพนไ้ี ด้ และอดทนกบั การ
ทางานได้ ข้อดีของขา้ พเจา้ คอื รกั การสอน และมจี ิตใจเมตตากับเด็กนกั เรยี นทุกคน ข้าพเจา้ ฝึกฝน เรียนรู้งาน
ครทู ุกๆอย่างจากครูรนุ่ พใี่ นโรงเรียน เช่น เทคนคิ การสอน เทคนิคการควบคมุ ชน้ั เรียน และการเขียนแผนการ
สอน ถอื ว่าเป็นการใช้ความพยายามอย่างหนักในการเรียนรู้ เนื่องจากขา้ พเจ้าไม่ได้เรียนจบครมู า แต่ข้าพเจ้า
คิดเสมอว่าไมม่ ีสงิ่ ใดทที่ าไม่ได้ หากได้พยายามอยา่ งเต็มท่ี

27

ณ ปจั จบุ ันข้าพเจ้ากาลังเรียนประกาศนยี บตั รบณั ฑิตวิชาชีพครู คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัย
ราชภัฏสวนสุนันทา ปีการศึกษาแรก ตามเกณฑ์มาตรฐานของคุรุสภา การเรียนน้ีข้าพเจ้าได้รับความรอู้ ย่าง
เตม็ ท่ีเกี่ยวกบั วิชาชีพครู ได้แก่ วิชา จิตวทิ ยาสาหรับครู ปรัชญาการศกึ ษากับความเป็นครมู อื อาชีพ การพัฒนา
หลักสูตร การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ การฝกึ ปฏิบัติวชิ าชีพครู การไดม้ าเรียนครงั้ นี้ ทาให้ขา้ พเจา้ ได้นา
ความรู้ไดไ้ ด้ในช้นั เรยี น ไปปรบั ใช้ในการทางานจริงท่ีโรงเรยี น ข้าพเจ้าจะตง้ั ใจฝกึ ฝนตนเองในการทาหนา้ ทเ่ี ปน็
ครทู ีด่ ี จิตใจเปี่ยมไปดว้ ยความเมตตา ใหค้ วามรู้แก่ลูกศษิ ย์อย่างเต็มท่ี และจะพฒั นาตนเองใหร้ อบรู้เทา่ ทันกับ
สงั คมและความรูใ้ นปัจจุบัน

ควำมรักทีม่ ีตอ่ ศิษย์ ณ โรงเรียนเขมะสริ ิอนสุ สรณ์

28

เส้นทำงส่สู ำยอำชีพครู

นางสาวชนิศา โสรเนตร

หนึ่งชีวิตท่ีเกิดมาบนโลก เคยตั้งคาถามกับตัวเองว่า เราอยากใช้ชีวิตแบบไหน พ่อแม่เรา
เป็นอยู่อย่างไร และคนรอบตวั เราเขามคี วามสุขหรือไม่ เป็นหนง่ึ คนทชี่ อบและหลงรกั ในการจินตนาการอนาคต
ของตวั เองในอีก 5 ปี หรือ 10 ปขี ้างหน้า จินตนาการว่าเราอยู่ในภาพๆนั้น และมคี วามเชื่อเสมอว่าวันหนง่ึ ต้อง
ดีใหไ้ ด้ เพราะเราอยากเหน็ คนท่ีอยู่รอบตวั เรามีความสุข มีการเป็นอยูท่ ี่ดี ด้วยมือของเรา มีประโยคหนึ่งท่ีดัง
ก้องในหัวโดยตลอด คือ “คนโชคดี คือ คนท่ีได้ทำในสิ่งท่ีตัวเองรัก ส่วนคนมีบุญ คือ คนท่ีสำมำรถรักได้ใน
ทุกสิ่งที่ตัวเองทำ” ถ้าให้เลือกเราอยากเป็นคนโชคดีหรือคนมีบุญ ส่วนตัวดิฉันอยำกเป็นคนมีบุญ เพราะ
แน่นอนว่า ไม่ใชท่ ุกคนจบการศกึ ษามาแล้วจะได้ทางานทต่ี ัวเองรัก และจะทาอย่างไรให้อยกู่ ับสงิ่ ท่กี าลังทาอยู่
ได้ เราต้องปรบั ทมี่ มุ มอง และทศั นคติของตัวเอง ประโยคนีเ้ ปน็ สง่ิ ท่คี อยประคับประคอง คอยเตอื นสติ ชว่ งชวี ิต
การทางานของดิฉันตลอดมา ดฉิ นั เชือ่ เสมอว่า ไมม่ ีใครเก่งมาก่อนในงานๆน้นั คนทเี่ ก่งเกิดจากเขาเรยี นรู้ ลงมอื
ทา และทาเยอะมากพอ จนเขาเก่งและชานาญในสิ่งนั้นได้ ดังน้ันอาชีพครูก็เช่นกัน ดิฉันเคยไม่มั่นใจอยู่
ตลอดเวลาว่าจะสอนเด็กไดไ้ หม ฉนั ไม่ได้เก่งวชิ าการ ฉันจะทาไดห้ รอ และความกลวั เหล่านั้นได้คอ่ ยๆหายไป
เพราะเข้าใจแก่นแท้ของความเป็นครู ไดม้ าเรียนรวู้ ิชาครูเพ่ิมเติมในทุกๆวันหยุด และได้ลงมือปฏิบัติสอนจริง
จุดเร่มิ ต้นกอ่ นตัดสินใจเลือกเดินทางเข้าสู่สายอาชีพน้ีเป็นเช่นไร อยากให้มาทาความร้จู ักตัวของดิฉันตั้งแต่ยัง
เดก็ และจะไมแ่ ปลกใจเลยวา่ ทาไมดฉิ ันถึงเลือกเดินตอ่ ในเส้นทางอาชีพครูนี้

ดิฉันช่ือ ชนิศา โสรเนตร อายุ 24 ปี ช่ือเล่น ไข่มุก ดิฉันเกิดและเติบโตที่กรุงเทพฯ มีพี่น้อง
รวมตวั ของดิฉันด้วยกัน 2 คน โดยท่ดี ิฉันเป็น พี่สาวคนโต และมีน้องชายที่อายุห่างกัน 2 ปี อกี 1 คนชือ่ มิคกี้
คุณพอ่ คณุ แมเ่ ดิมทาอาชพี คา้ ขายของชา ดว้ ยเศรษฐกจิ ไมด่ ี และขัดสนเรอ่ื งเงนิ ทาใหท้ งั้ 2 ทา่ นทะเลาะกนั บอ่ ย
มากขึ้น จนชว่ งทด่ี ิฉนั จบ ม.6 กาลังขึน้ ปี 1 มหาวทิ ยาลยั ทง้ั สองท่านกไ็ ด้แยกทางกันอยู่ โดยทีต่ ัวของดิฉันและ
นอ้ งชายอยกู่ ับฝ่ายคุณพ่อ เน่อื งจากฝา่ ยทางคณุ พ่อ โดยมคี ุณป้าท่ีรับอาชีพข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ
เป็นคนสง่ ศึกษาเล่าเรียนตัง้ แต่เดก็ จนโต คุณแม่นัน้ ต้องแยกไปตั้งตัวใหม่ เหตกุ ารณท์ ่ีเกดิ ข้ึนทาใหด้ ฉิ นั เปน็ คนที่
เข้มแขง็ พยายามทาทุกอยา่ งดว้ ยตัวของเราเองให้ได้ และมองทุกอยา่ งเป็นเหตุเป็นผลมาประกอบการตดั สนิ ใจเสมอ

29

ยอ้ นกลบั ไปทช่ี ีวิตในวัยเด็ก ดิฉันเรียนจบชั้นประถมศึกษำที่ โรงเรียนวัดบำงปะกอก ซ่ึงถือ
ว่าเป็นโรงเรยี นที่ดีแห่งหนงึ่ สาหรับหลายครอบครัวในยา่ นแถวน้ันเลยเพราะเรียนฟรีตามนโยบายของรฐั ตอน
สมัยเรยี นดิฉันยังเป็นนางรา ครทู ส่ี อนราเห็นดิฉันราได้สวยเลยได้ให้โอกาสออกงานราที่โรงเรียน งานประกวด
และงานวันสาคญั ตา่ งๆ อยบู่ ่อยๆ แต่การเรียนในห้องดฉิ ันก็ไมท่ ิ้ง ตอนสมัยเรียนแตเ่ ล็ก ดิฉันเป็นเดก็ ขยนั ผล
การเรียนกลางๆมาตลอด จนมีอยู่ช่วงหน่ึงที่เป็นจุดพลิกชีวิตในเรียนจุดประกายด้านการเรียน คือ ตอนที่ข้ึน
ช้ัน ป.5 ครูประจาช้ันสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และท่านสนิทกับคุณแม่มาก ทาให้ดิฉันต้องตั้งใจเรียน
วชิ าวิทยาศาสตรต์ ลอดเวลา สมุดท่ีจดจะเรยี บรอ้ ยมาก และต้องอ่านหนงั สอื ล่วงหน้า เพื่อจะได้เขา้ ใจบทเรียน
ก่อนครูสอน ผลท่ีได้ทาให้ดิฉันสอบได้ท่ี 1 ของห้องตั้งแต่ตอนน้ันเป็นต้นมาจนจบ ป.6 พอเข้ามัธยมศึกษา
ดิฉันได้ไปสอบเข้ำท่ีโรงเรียนกำญจนำภิเษกวิทยำลัย นครปฐม (พระตำหนักสวนกุหลำบมัธยม) เป็น
โรงเรยี นในเครือของสมเดจ็ พระเทพฯ ท่ีโรงเรียนแหง่ น้ันมที ั้งเด็กนักเรยี น ไป - กลบั และนกั เรียนประจาหรือท่ี
เรียกว่า เด็กหอ ด้วยท่ีดิฉันเป็นเด็กกรุงเทพ ทาให้การมาเรยี นต่อท่ีโรงเรยี นแห่งน้ี ดิฉันจะต้องย้ายเข้ามาอยู่
หอพักหญิง เปน็ สิ่งทีย่ ากมากในชว่ งอายุ 12 ปี จาไดว้ ่าดิฉันร้องไห้เกอื บทุกครั้งเมือ่ ถึงวนั ทีต่ ้องเข้าหอ มันร้สู ึก
หดหู่ คิดถงึ บา้ น คิดถึงแม่ แต่เราตอ้ งอดทน เราต้องตั้งใจเรยี น เราตอ้ งทาให้แม่ภูมใิ จ ไม่ต้องเป็นห่วงในตัวลูก
สาวคนน้ี ดิฉันเลยต้ังปณิธานกับตัวเองใหมค่ ือ ตั้งใจเรยี น ทาใหด้ ี จะไดเ้ ข้ามหาลัยของรัฐได้ เราใช้ชีวิตเด็กหอ
ตลอด 6 ปี กับ ผลเกรดท่ีจบม.ปลายได้ด้วยเกรด 3.63 แน่นอนไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เกิดจากความตั้งใจ
ตลอด 6 ปี ทเ่ี ราไม่นอกลู่นอกทางเลย เพราะไม่อยากทาใหค้ นท่ีดฉิ ันรักเสียใจ และด้วยคะแนน GPA ท่ีดีบวก
กับคะแนนอ่ืนๆ ดิฉันจึงเลือก Admission คณะท่ีชอบและอยากเข้าอย่าง คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี
มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ บางเขน และก็สอบเข้าติดจรงิ ๆ

ภาพ : สมัยตอนอยู่ ป.5 เป็นนางราของโรงเรยี น

30

ภาพ : รับรางวลั ชนะเลศิ ประกวดแขง่ ขนั โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาตอนปลาย

ภาพ : เพ่ือนๆทอ่ี ยหู่ อพักหญงิ ดว้ ยกนั ขณะรว่ มกิจกรรมของหอพกั สมัยมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
ชีวติ ในรว้ั มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ทค่ี ณะเพ่ือนๆน่ารัก ทุกคนขยันมาก จะมีบุคลกิ

ทีค่ ล้ายกันคอื ความคดิ ท่เี ป็นเหตุเปน็ ผล ทาตามระเบยี บแบบแผน และขยันทอ่ งตารา แตช่ ีวิตในร้ัวมหาลัยของ
ดฉิ นั ไมใช่แค่นัน้ เพราะเป็นช่วงที่เกดิ วกิ ฤตทส่ี ุดท่ีเด็กคนหน่งึ จะเคยเจอ คือคณุ แม่ล้มปว่ ย ท่านมีอาการเหมอื น
คนเป็นโรคหัวใจ ลิ้นแน่นจุกปาก หน้าบวม ตัวเหลือง พดู ไม่ชัด เหตุการณ์มันเกิดข้ึนหลังจากที่แม่ได้ไปลงทุน
เปดิ รา้ นอาหารในย่านสมทุ รสาคร แล้วทา่ นลงทุนไปสงู การเดมิ พันครงั้ น้ที ่านตั้งใจเปลี่ยนชวี ิตการเปน็ อยู่ของ
ครอบครัว ทาให้ท่านทางานอย่างหนัก ตื่นตั้งแต่ตี 3 ตี 4 ปิดร้านประมาณ 3 ทุ่ม จึงเป็นเหตุให้ท่านล้มป่วย
กจิ การร้านอาหารในย่านสมุทรสาครต้องปิดตัวลง ความหวังในการมีรายได้ทเี พิ่มขนึ้ ในการจุนเจือครอบครัว
ต้องพับเก็บเอาไว้อย่างถาวร ตอนนั้นแทบจะมองหาทางออกไม่เจอ อาการคุณแม่ก็เร่ิมทรดุ ลง ทาให้คิดกับ
ตัวเองข้ึนเลยว่า ถ้าเรียนอย่างเดียวตอนนี้ เราได้เกรดที่ดี และครอบครัวเราล่ะ ดังนั้นต้องหาอะไรทาเพ่ิม

31

ระหว่างเรียน เพื่อส่งเงินให้แม่บ้างได้รักษาตัวเอง จึงเป็นจุดเร่ิมต้นท่ีดิฉันได้เริ่มรับสอนพิเศษตัวต่อตัว
ต้องบอกเลยว่าเดิมเป็นคนขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเองเลย ไม่มั่นใจในความรู้ที่มีว่าจะเก่งพอไปสอนเด็กไหม
แต่ทุกความกงั วลมันกา้ วผ่านด้วยการที่เรารกั เกนิ ตัวเอง เรารกั แม่มาก จึงทาใหก้ ลา้ ทาใหส้ ่ิงท่ีกลวั สดุ ท้ายชีวิต
ตลอด 4 ปี ดฉิ ันก็จบปรญิ ญาตรี พร้อมแบ่งเบาท่บี ้านได้และคุณแม่กแ็ ข็งแรงขนึ้ ประสบการณ์ตลอดชว่ งเรียน
มหาลัย เรียนไปด้วยทางานไปด้วย ทาใหด้ ิฉันมีกระดูกท่ีใหญข่ ้ึน กระดกู ในทนี่ ี้คือ ความแขง็ แกร่งทางความคิด
และจิตใจ เม่ือต้องเจอปญั หาต่างๆเขา้ มา จนเขา้ สู่ชว่ งการทางานหรือชวี ิตจรงิ ท่แี สนยาวนานของหนึ่งชวี ิต

ภาพ : ถ่ายรวมกบั เพอื่ นๆหนา้ ภาควิชาเคมี มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ บางเขน
ดิฉันจบภาควิชาเคมี ที่เรียนมาแบบเข้มขน้ ดุเดือด แต่ ณ ช่วงเวลานน้ั ประกอบกับแนวคิดด้านธุรกิจ
แนวความคิดของคนประสบความสาเร็จหลายคน ทด่ี ิฉนั ได้ศึกษาระหวา่ งเรียนปรญิ ญาเพิ่มเตมิ ผา่ นสอ่ื ตา่ งๆ ทา
ให้รู้ตัวเองว่าไมไ่ ด้อยากไปตามเส้นทางเคมีต่อ ดิฉันมองวา่ ถา้ เราเลือกเดินทางในสายน้ี สิ่งที่ตอ้ งคือการคิดค้น
วจิ ัยนวัตกรรมใหมๆ่ ในห้องแลป กลับบา้ นมาอ่านตาราเพ่ิม และกลับไปทาแลปต่อ วนลูปไปซ่ึงมนั ยังไม่ตอบ
โจทยห์ รือไลฟ์สไตล์ของดิฉนั เทา่ ไร แล้วไลฟ์สไตลข์ องดฉิ นั ท่ีตอ้ งกำรคือ กำรไดส้ ร้ำงคน เห็นการเตบิ โตของสิ่ง
ท่เี ราไดล้ ดนา้ ใส่ปุย๋ พรวนดนิ ลงไป และสไตล์การทางานไมเ่ ครยี ดหรือกดดนั ไมต่ อ้ งไปแขง่ ขันกบั ใครให้แข่งกบั
ตวั เราเอง ด้วยความท่ีเรายงั ไม่รู้จักตวั เองตั้งแต่ตอนแรกหลังจากเรียนจบ ยังเสียดายวิชาท่ีเรียนมาจึงไปสมัคร
งานแห่งแรกเปน็ บรษิ ัทนาเข้า – สง่ ออกเคมีภัณฑ์ ทาในตาแหน่งผชู้ ว่ ยฝา่ ยขาย ตอนนน้ั ทางานท่ีแรกมีไฟมาก
เพราะสิ่งท่ีทามันท้าท้ายและตอบโจทย์แนวคิดการทาธุรกิจท่ีเคยศึกษามา ได้พบเจอผู้คนมากมาย
ลงพน้ื ทไ่ี ปคยุ กับลูกค้า ทกุ อยา่ งดแู ปลกใหมไ่ ปหมด และท่ีสาคญั เจอหวั หน้าใจดีพรอ้ มจะชว่ ยเหลือเราเสมอ แต่
ด้วยระยะทางไกลจากบ้านมากจึงตัดสนิ ใจเปลี่ยนงาน มาทาฝ่ายขายท่บี ริษัทแปรงสีฟันนาเข้าจากสวิสแลนด์
แห่งหน่ึง พอมาทางานในบริษัทนี้คนเร่ิมเยอะข้ึน ปัญหาก็ตามมาด้วยความไม่เข้ากันด้วยลักษณะการทางาน
อาจจะสังเกตได้ว่า ดิฉนั ได้เลือกงานประเภทเอกชน และทาฝ่ายขายเนื่องจากรายได้ดีและมีคา่ คอมมิตชั่น เมื่อ

32

เรามาน่ังคุยกับตัวเองให้จบ มีเวลาอยู่กับตัวเองจึงเข้าใจว่าฝ่ายขายไม่เหมาะกับเรา การแข่งขัน ความกดดัน
แ ล ะ ค วา ม ค า ด ห วั ง ค่ อ น ข้ า ง สู ง จึ งได้ ตั ด สิ น ใจ อ อ ก จ า ก ร ะ บ บ เอ ก ช น ผั น ม า ป รึ ก ษ า กั บ
คุณป้า ท่านจึงแนะนาให้เข้ามาทางานท่ีสำนักงำนบริหำรงำนควำมเป็นเลิศด้ำนวิทยำศำสตร์ศึกษำ สพฐ.
กระทรวงศึกษำธิกำร ในตาแหน่งจ้างเหมาบริการ ดแู ลโครงการบา้ นนกั วิทยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย ระดับ
ประถมศึกษา และยังแนะนาให้มาเรียนต่อครู เพื่อมีใบประกอบวิชาชีพ เพราะท่านมองถึงอนาคตของเราใน
วันทีท่ ่านไม่อยู่ ท่านอยากเห็นหลานของเขาดูแลตวั เองได้ มีอาชพี ท่ีม่ันคง และถ้าแม่ของดิฉันป่วย จะมีอาชีพ
ข้าราชการน้ีเป็นอีกทางในการดูแลรักษาพ่อกับแม่ได้ แต่ตอนน้ีก็มีข่าวดีเพิ่มมาคือ ดิฉันสอบติดพนักงาน
ราชการ ของศูนย์กำรศึกษำพิเศษ ส่วนกลำง เป็นอีกหน้าที่หน่ึงท่ีดีเลย เพราะรายได้เพิ่มข้ึน มีสวัสดิการ
สาหรับตัวเอง แต่ส่ิงที่ท้าท้ายมากคือ การปรับตัวทางานร่วมกับเด็กพิเศษ เพราะเด็กเหล่าน้ันเขาจะแสดง
อาการ อารมณท์ ี่ตัวของดิฉนั เองไมส่ ามารถคาดเดาอะไรไดเ้ ลย และตอนได้มาบรรจทุ ี่น้ี ดิฉนั ได้อยูห่ ้องเรยี นเด็ก
มีความบกพร่องทางรา่ งกาย เด็กจะไมส่ ามารถหยับตัว บางคนขาผดิ รูป พดู ไมไ่ ด้ บางคนตอ้ งน่งั รถเข็น เหน็ แล้ว
ก็รู้สึกว่า เราโชคดีแค่ไหนทเ่ี กิดมามีรา่ งกายสมบรู ณ์ อวัยวะครบ 32 ประการ และเห็นความรักของผปู้ กครอง
ของเด็กพิเศษที่มตี ่อลูก ทุกคนเป็นคนใจเยน็ และให้ความรักต่อเด็ก ณ ตอนน้ีกย็ ังเปน็ ส่ิงท่ีดิฉันจะตอ้ งเรียนรู้
ต่อไป และดฉิ นั เองมเี ป้าหมายวา่ ตอนอายุ 25 ปี (เบญจเพส) ฉันจะขอทางานที่ศนู ยฯ์ กบั เด็กพิเศษ ถือวา่ เป็น
การทาบุญ และสรา้ งกุศล ที่ไมใ่ ชท่ ุกคนมโี อกาสดๆี แบบน้เี หมือนเรา

ภาพ : ประมวลการทางานท่ที างานแรก บรษิ ทั นาเข้า – สง่ ออกเคมีภัณฑ์ ทาในตาแหนง่ ผู้ช่วยฝา่ ยขาย

33

ภาพ : ประมวลการทางาน บริษัทแปรงสฟี นั นาเข้าจากสวสิ แลนด์ ในตาแหน่งฝา่ ยขาย

ภาพ : ประมวลการทางาน สานักงานบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ ภำพซ้ำย จัดงานรับตราพระราชทานโครงการบ้านนักวิทย์ฯน้อย ประเทศไทย
ภำพขวำ พาคณะบคุ ลากรทางการศึกษาประเทศกัมพชู า ศึกษาดูงานที่ประเทศไทย

34

ภาพ : ประมวลการทางาน ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษ สว่ นกลาง
ดังนัน้ เส้นทางชวี ิตของดฉิ นั ผา่ นบุญคุณคนมามากมาย เจอกัลยาณมติ ร และคนทคี่ อยขัดเกลานสิ ยั และ
ความฉลาดทางอารมณ์ มีสิ่งหนงึ่ ถ้าเราเลือกเดินทางสายอาชพี ครูแล้วนน้ั ควรปฏิบตั แิ ละรักษาเป็นระเบียบใน
การกระทางานอื่นใดคือ จรรยาบรรณวิชาชีพครู จะทาให้เราประกอบอาชีพน้ีได้อย่างมีความสุข
ไม่ตอ้ งคอยระแวงว่าตนจะทาผดิ อะไร สาคัญสดุ ท่ีตวั ศษิ ฐ์เพราะหนง่ึ ชวี ิตเขาได้เจอครูดี

35

อันวำ่ ครคู ือผ้ใู ห้

นันท์นภสั ต่ำยทอง

“ ครูคือผู้ให้ ” ให้ความรู้ ให้เวลา ให้ชีวิต รวมทั้งต้องเสียสลอีกมาก สละเวลา สละชีวิต
สว่ นตัว นั่นคือสิ่งทฉ่ี ันได้ยินมาตลอด และตัวฉนั เองก็ยังไมเ่ คยสมั ผัสกับคาๆนี้ จนกระทง่ั ฉันไดม้ าเป็นครู

ชีวิตในวัยเรียนของฉัน ในช่วงช้ันประถมด้วยความเป็นเด็กทาให้มีความฝันที่อยากจะเป็น
หลายอย่าง สับสนปนเป เปล่ียนไปในทุกๆวัน แต่ท่ีรู้ชัดก็คือไม่มีคาว่าอยากเป็น “คุณครู” อยู่ในความฝันท่ี
อยากจะเป็นของฉันเลย เพราะฉันเข้าใจว่าการเป็นคุณครูจะต้องเป็นคนเก่งมีความรู้ ความสามารถรอบตัว
ตัวเองนน้ั ไม่มีส่ิงเหลา่ นเ้ี ลยฉนั คดิ ว่าตนเองนัน้ เรยี นแค่ระดับปานกลาง ไม่มคี วามสามารถท่ีโดดเด่นอะไรในดา้ น
วชิ าการ แต่กลับชื่นชอบการเล่นกฬี าเปน็ ชีวิตจติ ใจจนเปน็ นกั กฬี าตัวแทนของโรงเรยี นจึงทาใหโ้ ดดเดน่ ในเรอ่ื งนี้
ถ้าเปน็ ในด้านวชิ าการคงมแี ตว่ ชิ าคณิตศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตรเ์ ท่านนั้ ท่ที าได้ดแี ละม่ันใจในการทาคะแนนสอบ
เสมอ เนื่องจากวิชาคณติ ศาสตรม์ คี ุณครูท่ีสอนคอ่ นข้างดุ และเจา้ ระเบียบเป็นอยา่ งมาก เพราะฉะน้ันการเรียน
วชิ านี้จึงต้องต่ืนตวั ตลอดเวลา สมุดทาสกปรกเลอะเทอะไม่ได้เด็ดขาดทาให้ฉันตั้งใจเรียนและสนใจท่ีจะเรียน
วชิ านี้ ส่วนวิชาวิทยาศาสตร์จะได้ลงมอื ทาจริงๆ เช่นทาการทดลอง จงึ ทาให้ชอบมากเป็นพิเศษ และด้วยการ
ชอบวิชาเหล่านี้จึงทาให้ปลูกฝงั การทางานท่เี ป็นระเบยี บมาจนถึงปัจจุบัน พอมาถงึ ในช่วงมัธยมตน้ นน้ั เป็นการ
เปล่ียนแปลงชีวิตในคร้ังแรก เพราะฉันได้ตัดสินใจไปสอบเข้าในโรงเรียนระดับจังหวัด ในตอนนั้นไม่มีความ
ม่นั ใจวา่ ตนเองจะสอบได้ เพราะตนเองจบจากโรงเรยี นเลก็ ๆ และไมม่ คี รสู อนภาษาองั กฤษ คณุ ครูในโรงเรียนจงึ
สอนกันเองทาให้ความรู้ในเรื่องภาษาอังกฤษน้อยมาก ในขณะท่ีสอบเข้าจะต้องเจอกับภาษาอังกฤษท่ีฉนั คิดว่า
เป็นวิชาท่ียากท่ีสุดสาหรับฉนั แต่ผลสอบออกมาฉันสอบเขา้ ได้ และสอบตดิ หอ้ งของเดก็ ทเี่ รียนค่อนขา้ งเกง่ ทา
ให้ตลอดเวลาท่ีเรียนน้ันทาให้เราต้องพัฒนาตนเองเป็นอย่างมาก เพื่อท่ีจะตามคนอ่ืนๆได้ทัน และแน่นอนว่า
วชิ าที่มปี ัญหาตลอดการเรยี นน้ัน นัน่ คือ “ภาษาอังกฤษ” ทุกครั้งท่ีมีการสอบเกบ็ คะแนนฉันจะเป็นคนเดียวใน
หอ้ งท่ีไม่เคยสอบไดค้ ะแนนเกินครึ่งเลยสักครั้ง มันทาให้ฉันท้อแท้และเสียใจทกุ คร้งั จึงได้เขา้ พบคณุ ครปู ระจา
วิชา แล้วเล่าปญั หาของเราให้ฟัง คุณครูประจาวิชาแนะนาวิธกี ารจดจาคาศัพท์ การทบทวนภาษาอังกฤษ และ
สอนเสริมทกุ เชา้ ก่อนเขา้ แถวตลอดเทอม ฉนั ทาตามทุกอย่าง ท่องคาศัพท์ทกุ วนั เร่ิมจาสิ่งของเคร่ืองใชใ้ กลๆ้ ตวั
เปน็ ภาษาอังกฤษ ทาใหค้ ะแนนภาษาอังกฤษดขี น้ึ มา คุณครแู ละเพ่ือนๆในห้องเรียนเหน็ ความเปลยี่ นแปลงของ
ฉันก็ช่ืนชม ตอนน้ันฉันค้นพบว่า คณุ ครทู ่ีสอนนักเรียนนั้นไม่ใช่แค่สอนหรือแคย่ ัดเยียดความรู้ให้นกั เรียนอยา่ ง
เดยี ว แต่ต้องมีวิธีการและเทคนคิ การสอนว่าจะทาอยา่ งไรให้นกั เรียนรักและสนใจในวิชาที่ตนสอนได้ อยา่ งเช่น
ฉันท่ีไม่ชอบวชิ าน้ีเลย กลับชอบวิชาน้ีขึ้นมาไม่มอี คติกับวิชาน้อี ีก ต้องขอขอบพระคณุ คุณครูเบณจวรรณ เป็น
อย่างสูงที่ทาใหล้ กู ศษิ ย์คนน้ไี ม่เดินหลงทาง และไม่เกลียดวิชาภาษาอังกฤษไปเสียกอ่ น และฉนั ได้ยกย่องให้ท่าน
เป็นครูต้นแบบของฉันมาตลอดชวี ิต สว่ นวชิ าคณิตศาสตรก์ ลับยิง่ ชอบมากกว่าเดิมเพราะคุณครูท่ีสอนน้นั สอน
สนกุ ไมก่ ดดันนักเรยี นทาให้ฉนั ย่งิ ชอบวชิ านีย้ ่ิงขึ้นไปอกี พอชว่ งมัธยมปลาย ช่วงนเี้ ป็นชว่ งท่ีฉันคร่าเคร่งกบั การ

36

เรยี นมากๆ เนื่องจากรุ่นของฉนั นน้ั ยงั มีการสอบเขา้ มหาวิทยาลยั ด้วยการ “Entrance” อยู่ ระหว่างนี้กย็ ังเล่น
กฬี าและเป็นตวั แทนของโรงเรียนเหมือนเดิม แต่ก็ไม่เคยท้ิงการเรียนเลยสักครั้ง เพราะมีเป้าหมายในการสอบ
เข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และใฝ่ฝันจะเรียนคณะสัตวศาสตร์ให้ได้ พอถึงเวลาท่ีสอบได้จริงๆเป็นช่วงเวลา
ประจวบกับทางบ้านประสบปัญหาทางการเงนิ ในยคุ “ฟองสบู่แตก” แต่ตวั ฉนั เองยืนยนั ว่าอยากเรียนอยู่ ซึง่ ที่
บ้านอนุญาตแตม่ ีขอ้ แม้ว่าตอ้ งทางานไปด้วยเรียนไปดว้ ย เรยี กว่าตอ้ งหาเงินเรียนดว้ ยตนเองน่ันเองฉันยอมรับ
ขอ้ ตกลง และเลอื กที่จะเรยี นต่อมหาวทิ ยาลยั รามคาแหง เรียกวา่ เปน็ การเปล่ียนแปลงครงั้ ท่ีสองของฉัน เพราะ
ตอ้ งเปลี่ยนมหาวทิ ยาลัยเปล่ียนการเรียนไปเรียนคณะท่ีเราจบค่อนข้างไวและไม่ได้ตั้งใจไว้วา่ จะเรียนคณะน้ี
เรยี กไดว้ า่ ชวี ิตชว่ งนเี้ ปล่ยี นแปลงตลอดเวลา เพราะต้องทางานไปด้วยเรยี นไปด้วยถือเปน็ ประสบการณ์ชีวติ อีก
อย่างหนง่ึ ต้องจดั สรรเวลาให้ได้ แบ่งเวลาใหถ้ กู ไดเ้ รยี นรูก้ ารทางานหลายๆประเภท ได้เรยี นรู้การวางตัวเวลา
ทางาน จนกระท่ังเรียนจบภายในสามปีคร่ึงและภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างมากที่สามารถผ่านช่วงเวลาท่ี
ยากลาบากมาได้

หลงั จากเรียนจบน้ัน ระหวา่ งรอขอจบกบั ทางมหาวิทยาลัยฉนั ได้ทางานครั้งแรก ตอนนัน้ ฉนั ดี
ใจมากเพราะยังไม่ทนั ไดร้ บั ปริญญาตรกี ไ็ ดท้ างานท่ีบริษัทแห่งหน่ึง เปน็ การทางานทีต่ รงกบั สายท่ีเรยี นมาพอดี
จึงได้นาความรูท้ ีเ่ รียนมา มาใชก้ ับประสบการณก์ ารทางานจริงๆ และการทางานที่นนี่ นั้ ไดท้ าใหฉ้ ันนาบางอยา่ ง
มาปรบั ใช้กับการทางานในปัจจุบันได้ ฉันทางานทน่ี ่ี 3 ปี จนสานกั งานย้ายไปในทีท่ ่ีฉนั ไมส่ ะดวกจะยา้ ยตาม จึง
ตัดสินใจเปล่ียนงานใหม่ และนั้นเป็นจุดเปล่ียนในชีวิตคร้ังท่ีสามของฉัน และเปลี่ยนไปตลอดกาลเนื่องจาก
ระหว่างทีร่ อการตอบรบั งานจากที่ต่างๆน้ัน ฉนั ได้รับโทรศัพท์จากรุ่นพ่ีคนหน่ึง รนุ่ พี่คนนเ้ี ปน็ คุณครสู อนอยู่ที่
โรงเรียนแห่งหนึง่ เขาบอกใหฉ้ นั ไปชว่ ยสอนวลิ ชาคณติ ศาสตรท์ ่โี รงเรยี นเขาให้หนอ่ ย เพราะรนุ่ พ่ีทราบวา่ ฉนั นั้น
ชอบวิชาคณติ ศาสตร์และทาวิชานไ้ี ด้ดมี าตลอด ฉันจึงรับปากและได้เข้าสอนท่โี รงเรียนแห่งนัน้ ครงั้ แรกที่สมั ผัส
การสอนทง้ั ต่ืนเต้นและสนุกมาก เราตอ้ งพัฒนาตนเองตลอดเวลา เพือ่ ท่จี ะนาความรูท้ มี่ มี าถ่ายทอดใหล้ กู ศษิ ย์
ใหม้ ากที่สุด ตอ้ งคิดตลอดเวลาวา่ พรงุ่ นเ้ี ราจะทาอะไร จะสอนอะไรทไ่ี ม่ทาใหน้ กั เรยี นเบื่อ จะหากจิ กรรมอะไรท่ี
จะใหน้ ักเรียนทั้งชนั้ เรียนมีส่วนร่วมกบั เรา อกี ท้งั ตอ้ งปรบั บคุ ลกิ ภาพของตนเองอีกด้วย ในเททอมแรกของการ
สอนน้ันได้รับผิดชอบการสอนสองวิชา น่ันคือวิชาคณิตศาสตร์ ป.5 และคอมพิวเตอร์ ม.1 ในเทอมถัดมาได้
เลอื่ นขนึ้ เป็นครูประจาช้นั ถือเป็นชว่ งเวลาท่ลี าบากในเรอ่ื งการปรับตัวเป็นอยา่ งมากเพราะตอ้ งรับผิดชอบมาก
ขนึ้ ไดเ้ รียนรปู้ ัญหาและการแก้ปญั หาไปพรอ้ มๆกนั เพราะเดก็ ๆแตล่ ะคนน้ันมีปญั หา

37

ไม่เหมือนกัน ฉันจึงต้องเรียนรู้ และเหมือนนักเรียนที่จะต้องทาการบ้านทุกวันว่าเราจะต้องทาแบบไหน ทา
อย่างไร ให้เขาก้าวผ่านปญั หาต่างๆไปได้ ต้องเรียนรู้ท้ังภายในโรงเรียน และภายนอกโรงเรียนเพื่อให้นักเรียน
ของตนเองมศี ักยภาพและเทา่ ทนั โลก นอกจากน้ยี งั ได้ทากิจกรรมต่างๆร่วมกบั นักเรยี นและเพื่อนครไู ด้ทาอะไร
ทเี่ ราไม่เคยทามาก่อน หรือไม่คิดวา่ จะทามาก่อนในชีวิต ทาให้เราเป็นคนกล้าคิดกล้าแสดงออกกล้าท่ีจะเป็น
ผนู้ านักเรียน หรือแมก้ ระทัง่ เพอ่ื นครดู ว้ ยกันเอง จนเวลาผ่านมาหลายปกี ลา้ พดู ได้ว่ามีความสขุ ในการสอน สนุก
ทกุ ครง้ั ทส่ี อน และฉนั รกั ในวิชาชีพนี้จากใจจริง ฉนั มคี วามภาคภมู ใิ จในวชิ าชพี ของตนเองเป็นอย่างมาก

แตเ่ นอ่ื งจากตัวฉันน้ันจบไม่ตรงสายวชิ าชีพน้ี จึงมีความคิดว่าทาอยา่ งไรเราจึงจะได้เรียกว่าเป็น “คุณครู” เต็ม
ตวั มคี วามรู้ ความเข้าใจในการเปน็ ครูอยา่ งแทจ้ ริง เพราะฉนั เชอื่ วา่ การมแี คจ่ ิตวญิ ญาณความเป็นครูอย่างเดยี ว
น้นั ไม่พอ จะตอ้ งมคี วามเป็นมืออาชีพในอาชีพน้ีดว้ ย จึงจะเรียกวา่ เป็น “คุณคร”ู อยา่ งสมบรู ณ์ ฉนั จึงศกึ ษาหา
ความรู้เพ่ิมเติมวา่ ควรทาอย่างไรสาหรับคนที่ไม่ได้จบครูมาโดยตรง แล้วได้รู้วา่ เราสามารถเรียนวิชาชีพครูได้
โดยการเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพครู ซงึ่ ปัจจุบนั ฉันได้ศึกษาหลักสูตรนี้อย่ทู ่ี มหาวิทยาลัยราช-ภฏั สวนสนุ ัน
ทา เป็นหลักสตู รของผทู้ ่ไี มไ่ ด้จบครูมาโดยตรง โดยมเี ง่อื นไขว่าจะตอ้ งมกี ารสอนที่สถานศึกษาและมสี ัญญาจ้าง
งานจากสถานศึกษาด้วย

ปัจจุบันฉันยังคงทางานเป็นคุณครูอยู่ ยังมีความสุขกับการสอนหนังสือเด็กๆ ได้เรียนรู้การเป็นผู้ให้
อย่างแท้จริง ได้เรียนร้กู ารเสียสละ และความอดทน ในขณะเดยี วกันก็เรียนครูควบคู่ไปด้วย ขอขอบคุณทาง
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนนั ทา ท่ีมอบโอกาสใหค้ ุณครตู วั เล็กๆคนหนึ่ง ได้ก้าวต่อไปในวิชาชพี ท่ีตนเองรัก ได้
พัฒนาศกั ยภาพของตนเองเพ่ือท่ีจะได้นาไปถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ที่จะเป็นเยาวชนของชาติในอนาคตได้เตบิ โตใน
สงั คมต่อไป

38

เมอ่ื ครง้ั วยั เยำว์
ดิฉนั เช่อื วา่ เราทุกคนเกดิ มาจะต้องมคี วามใฝฝ่ นั แต่ละคนกม็ ีความฝนั แตกตา่ งกนั ไป บางคน

ใฝฝ่ นั วา่ โตข้นึ จะเปน็ หมอ พยาบาล บ้างกจ็ ะเป็นทหาร ตารวจ หรือบางคนอาจะอยากเป็นสตั ว์แพทย์ เราทกุ
คนมสี ทิ ธ์ทิ จ่ี ะใฝฝ่ นั และทาใหม้ ันเป็นจรงิ ไดถ้ า้ หากเรามกี าลงั ใจจากคนรอบขา้ งและแรงบันดาลใจทีจ่ ะทาใหฝ้ ัน
เป็นจรงิ ในปัจจบุ ันมงี านและอาชพี ตา่ งๆมากมายใหเ้ ราเลอื กที่จะทาข้ึนอย่กู บั วา่ เราจะเลือกทางานไหน

ดิฉันช่อื นางสาวจริ ชยา บ้านกลางกาจร มพี ่ีนอ้ งทงั้ หมดจานวน 8 คน เป็นบตุ รคนสุดท้อง
น้องเล็ก ดฉิ ันมาจากครอบครัวเล็กๆในชมุ ชนชาวเขา ท่ีเรียกกันว่า ชาวเขาเผา่ กะเหรยี่ ง ต.เขาโจด อ.ศรสี วัสด์ิ
จ.กาญจนบรุ ี นับถอื ศาสนาพธุ หมบู่ า้ นของฉนั เปน็ หมบู่ ้านเลก็ ๆทอ่ี าศยั อยู่ตามชายเขามแี สงตะเกียงให้ความ
สวา่ งในเวลาคา่ คนื ไมม่ ีรถเมล์ ไมม่ รี ถจกั ยานยนต(์ ตอนเดก็ ๆเรยี กวา่ รถเครอ่ื ง) มีแต่2เท้ากา้ วเดินเลาะชายปา่
ชายเขาและบนถนนลกู รงั บ้านดิฉันหา่ งไกลความเจรญิ เหลอื เกิน ไมม่ ีไฟฟา้ ไมม่ ถี นนลาดยาง เหมือนในเมอื ง
เพราะสาเหตุน้ีทที่ าให้พีๆ่ ของฉนั ไมไ่ ด้รบั การศึกษาเลย เพราะทนี่ นั่ ไม่มีโรงเรยี น ส่วนตวั ดฉิ ันเองถอื วา่ โชคดเี ปน็
ทส่ี ุดเพราะวา่ ไดเ้ รียนหนังสอื และจบการศกึ ษาขน้ั สูงสดุ ถึงปริญญาตรเี ลยดเี ดยี ว

ตั้งแตช่ นั้ ประถมศกึ ษาปที ี1่ -ชัน้ ประถมศึกษาปี6 ดิฉนั ศกึ ษาทโี่ รงเรยี นวดั ถ้าองจุ ต.นาสวน อ.
ศรีสวสั ด์ิ และอาศัยอยใู่ นบ้านพักเดก็ ในโรงเรยี น จะไดก้ ลบั บ้านก็ช่วงปิดเทอมเท่านนั้ ดงั นน้ั ใน1 ปกี ารศกึ ษา
ดฉิ ันจะไดก้ ลบั บา้ นแค่ 2 คร้งั น่ันคือปิดเทอมเล็กและปดิ เทอมใหญ่ ดงั ท่กี ลา่ วมาแลว้ ข้างตน้ ว่าโรงเรียนและ
บ้านห่างกัน 60 กโิ ลเมตร ซง่ึ ตอ้ งใช้เวลาในการเดินทางถงึ 2 วนั เนื่องจากไม่มรี ถในการเดนิ ทาง จากนัน้ ศกึ ษา
ตอ่ ในระดับมธั ยมศกึ ษาทีโ่ รงเรยี นศรสี วสั ดิพ์ ทิ ยาคม ต.ท่ากระดาน อ.ศรสี วสั ด์ิ และยงั คงอาศยั หอพักใน
โรงเรยี นเช่นเดมิ คะ

39

ในชว่ งชน้ั ม.6 เช่อื วา่ ทุกๆคนคงมคี วามคิดเรอื่ งการศึกษาตอ่ วา่ เราตอ้ งการทจี่ ะเรียนอะไร
เพ่ือทจ่ี ะได้ทางานดๆี หรอื งานท่ีเราชอบ บางคนกอ็ าจจะไปตอ่ สายอาชพี ซงึ่ เรียนรเู้ รือ่ งการประกอบอาชีพ
โดยตรงเพอ่ื ทจ่ี ะได้มีประสบการณแ์ ละบางคนอาจจะเลือกเรียนตอ่ ในสายสามญั ซง่ึ กเ็ ปน็ ทางเลือกอีกทาง ความ
ใฝฝ่ ันของแตล่ ะคนอาจจะไมเ่ หมอื นกัน แต่ทกุ คนกม็ สี ทิ ธิท์ ่ีจะคดิ มีสทิ ธท์ิ จี่ ะทาใหฝ้ นั นั้นเป็นจรงิ และตัวดฉิ นั
เองเลือกเรียนสายสามญั ในเอก วทิ ย์-คณติ เพียงหวังจะสอบเขา้ ศึกษาพยาบาลทหาร เพราะแมอ่ ยากใหร้ บั
ราชการในตอนน้ัน แตส่ ุดทา้ ยกส็ อบไมต่ ดิ ความหวงั และความใฝ่ฝนั ทจ่ี ะรบั ราชการเรมิ่ เลอื นราง หลงั จากจบ
ม.6 ดิฉันก็ไดเ้ ขา้ ศกึ ษาต่อในระดบั ปรญิ ญาตรที ม่ี หาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบรุ ีสาขานเิ ทศศาสตรแ์ ขนงวิชาการ
โฆษณา จบออกมากจ็ ะทางานเกย่ี วกบั การโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ ทางนีแ้ หละทเี่ ราชอบ เพราะโดยสว่ นตัวเปน็
คนทีช่ อบในการสนทา พบปะผู้คน ได้พดู คุยแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นกบั ผอู้ นื่ เม่ือเวลาผ่านไปเข้าสปู่ ที ่ี 4 เทอม
สดุ ทา้ ยก็ได้ไปฝกึ ประสบการณ์ท่ี กรมประชาสมั พนั ธ์เขต 8 กาญจนบรุ ี ฝึกเกี่ยวกับการทาสกปู๊ ข่าว เขียนข่าว
ทาสปอร์ตวิทยุ และไดร้ บั คัดเลือกใหจ้ ดั รายการวทิ ยอุ อกอากาศ ซึ่งเปน็ งานท่ีใฝฝ่ ันและอยากทา ตอนน้ันมี
ความสุข และสนกุ กับการฝกึ งานมากและจะตอ้ งสอบเข้าทางานในหน่วยงานน้ใี ห้ได้
............................................................................................................................. .................................

...ส่ิงทเ่ี รำเลอื กอำจไมใ่ ชส่ ง่ิ ท่เี รำชอบ แต่เรำจะต้งั ใจทำมันใหอ้ อกมำสมบรู ณ์ท่สี ุด...
ดฉิ นั ไมเ่ คยคดิ วา่ เม่อื โตขนึ้ ฉันอยากเป็นครู และอาชพี ครกู ็ไมใ่ ช่ความฝันของฉนั แต่อาชีพครู

เป็นอาชีพทผ่ี ูเ้ ปน็ แม่ของดฉิ ันอยากใหเ้ ป็น จะดว้ ยเหตผุ ลอะไรกต็ ามแต่ ดฉิ นั คิดวา่ จะทาให้สาเรจ็ เพราะเชอ่ื
อยา่ งยิ่งวา่ ถา้ เราตงั้ ใจทาอะไรแลว้ มันจะสาเรจ็ ตามความประสงคข์ องเราอยา่ งแนน่ อนหลงั จากจบการศึกษา
งานแรกทีไ่ ดท้ าคอื เปน็ พนกั งานบรษิ ทั อซี ซู ุกาญจนบรุ ี ตาแหน่งเจ้าหนา้ ที่สินเช่ือทางานทีน่ ่เี ป็นเวลา 3 ปี 5
เดือน เป็นอนั ตอ้ งลาออกเน่อื งจากคลอดบุตรและไมม่ ีคนชว่ ยเลีย้ ง ทางานทีน่ ีไ่ ดเ้ งินเดือนคอ่ นขา้ งดี บวกกบั คา่
คอมมิชชน่ั ถอื ว่าพอใจในค่าตอบแทน จากนัน้ เม่อื ลกู โตพอที่จะเข้าเนอสเซอร่ไี ด้ ก็สง่ ลกู เขา้ โรงเรียนและดิฉนั ก็

40

ไดเ้ ร่ิมงานใหมอ่ กี ที่หนงึ่ ในศาลากลางจงั หวัดกาญจนบรุ ี ในตาแหนง่ ลกู จ้างช่ัวคราวของพฒั นาชมุ ชน ทางานได้
3 ปี 2 เดอื น กเ็ ป็นอนั ตอ้ งลาออกอีกครงั้ ด้วยเหตผุ ลเดมิ คือ ลาคลอดบตุ รและอยเู่ ล้ยี งบตุ รคนท่ี 2 เปน็
ระยะเวลา 3 เดือน

และนีค่ งเป็นการเปลยี่ นแปลงอีกครง้ั ของชีวติ คือ ได้เข้ามาทางานในโรงเรยี นอนุบาลวดั ไชยชมุ
พลชนะสงคราม ทาในตาแหนง่ ผู้ชว่ ยแม่ครวั ครูอตั ราจ้างในเวลาเดียวกนั หน้าทหี่ ลักคือช่วยงานโครงการ
อาหารกลางวันของโรงเรยี นในช่วงเช้า และสอนหนังสอื ในชว่ งบ่าย วนั แรกทไี่ ด้เรมิ่ สอนดิฉนั ยงั จาไดด้ ีว่าเกรง็
มากๆ อาจเป็นเพราะไมเ่ คยทจ่ี ะตอ้ งมายนื สอนใครหน้ากระดานมีเด็กนักเรียนหลายๆ คนคอยมองทุกท่วงท่า
การเคล่ือนไหว จึงทาให้ดิฉันค่อนข้างเครียดและกดดันเอามากๆในตอนน้นั ทกุ ๆ วนั หลังจากหมดช่ัวโมงสอน
ผมก็จะคอยเข้าไปปรกึ ษาคุณครแู ต่ละทา่ นในรายวชิ านนั้ ๆ เก่ียวกบั เทคนคิ และวธิ ีการสอนต่างๆ เพ่ือนามาใช้ใน
การปรับปรงุ วธิ ีการสอนของวนั รงุ่ ขน้ึ ต่อไปทาแบบนี้ไปเรื่อยๆจนในทสี่ ุดความเขินอายท่ีจะตอ้ งไปยนื สอนเด็ก
นักเรยี นทหี่ นา้ กระดานก็ค่อยๆ หายไป กลายเป็นความสขุ ท่ไี ดส้ อนนกั เรียนเขา้ มาทดแทน มันเป็นความสุข ความ
ประทับใจอยา่ งบอกไมถ่ กู กบั การเข้าสู่วชิ าชพี ครูอยา่ งเตม็ รปู แบบของดิฉนั จนมาถึงเมื่อเดือนมิถุนายน ที่
ผ่านมาได้เห็นประกาศของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทาเร่อื งประกาศรบั สมคั รนักศกึ ษาหลกั สูตร
ประกาศนยี บัตรบัณฑติ วิชาชีพครู ปกี ารศึกษา 2562 นับว่าเป็นโอกาสอนั ดีของดิฉันทีจ่ ะได้พัฒนาตนเองให้เขา้ สู่
วิชาชีพครู และความเป็นครูอย่างแทจ้ รงิ จงึ ไดเ้ ดินทางเข้าไปสมคั รและสอบคัดเลือกจนไดร้ บั การคัดเลอื กให้เข้า
ศึกษาต่อในท่สี ุด มันเปน็ จดุ เร่มิ ตน้ เล็กๆ ของดฉิ ันในการพัฒนาความรคู้ วามสามารถด้านวิชาชีพครูเพ่ือที่จะ
ได้นาไปใช้ในการพัฒนานักเรียน นักศึกษา สถานศึกษา อันเป็นทรัพยากรที่สาคัญของประเทศชาตติ ่อไป

ดิฉนั ดีใจท่ไี ด้มาเจอเพอ่ื นๆรว่ มช้นั เรยี นห้องนม้ี าก ร่นุ ที่ 4 หอ้ ง 2 รูส้ ึกวา่ เพอ่ื นๆทกุ คนนา่ รักมี
ความเป็นกนั เอง ปรกึ ษาพูดคุยแลกเปลยี่ นประสบการณ์ความคิดเห็น รสู้ ึกอบอนุ่ และรกั เพ่อื นๆทกุ คน ทกุ ส่ิง
อย่างท่เี กดิ ขึน้ และบรรยากาศทอ่ี บอนุ่ ของห้องเรียนจะเปน็ หอ้ งทส่ี นุกสนานครืน้ เครงเป็นกนั เองมิได้ หากขาด
บุคคลสาคญั คือ อาจารยท์ ่เี คารพรกั ใหค้ วามเป็นกันเอง ในวชิ าเรยี น และวิชาการดารงชพี ดฉิ ันรสู้ ึกว่าโชคดี
เหลอื เกนิ ท่ีได้มาพบเจอกนั ในทแ่ี ห่งน้ี

อกี หนึ่งกาลงั ใจสาคัญคือมารดาผู้ให้กาเนดิ ท่านประสงค์และหวังอยากให้ดิฉันได้รบั ราชการครู ท่าน
บอกกบั ดฉิ นั ว่า อาชีพครูจะทาใหด้ ิฉันมีชวี ิตที่สุขสบายในบนั้
ปลายชีวิตเพราะอาชีพครเู ปน็ อาชีพทมี่ ่นั คง และเป็นเกยี รติ
อย่างสงู ดิฉนั ก็เชอ่ื เช่นนน้ั แต่ อกี หนงึ่ ความเชอื่ ของฉนั ทอ่ี ยใู่ น
ใจฉันคอื ฉนั จะไม่ใชแ่ คเ่ ปน็ ครูได้ แต่ ฉันจะเป็นครทู ด่ี ี ฉนั รมู้ นั
ยาก แตว่ ่าถา้ เรากา้ วเดินไปพรอ้ มกับความฝนั และ ไม่ละทง้ิ มนั
ให้มนั เดนิ คู่ไป กบั เรา ฉนั เชือ่ ว่า ฝันของฉนั เองหรือกับทกุ คน
จะต้องเป็นจรงิ

คำพอ่ ทกั สู่งำนสร้ำงคน 41

ฐิตมิ ำ ชวี ินวรศกั ด์ิ

ข้าพเจ้าเกิดในตระกูลท่ีเป็นเชื้อสายจีนจึงต้องถูก
บังคับให้เรียนโรงเรียนท่ีมีภาษาจีนตั้งแต่เด็ก ข้าพเจ้ามี
ความรู้สึกไม่ชอบในการเรียนภาษาจีนเป็นอย่างมาก ทั้งข้ี
เกียจ ทั้งเบื่อในวิชาภาษาจีน แต่แล้วคนเราเกลียดอะไรมัก
ได้อยา่ งนน้ั ข้าพเจ้าเรยี นภาษาจนี ตงั้ แต่
เด็กจนถึงระดับปริญญาตรี โดยที่ได้คาแนะนาที่น่าท่ึงจากผู้เป็นบิดาว่า “ลูกอย่ำทิ้ง
ภำษำจีนนะลูก” ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจเรียนต่อจนจบปริญญาตรี และระหว่างที่เรียน
ปริญญาตรใี จคิดเสมอว่าอยากเปน็ มัคคุเทศก์ แต่แลว้ ชวี ิตก็หนั เห เนอ่ื งจากเพือ่ นสนทิ ของ

ขา้ พเจ้าแนะนาให้ขา้ พเจ้าเข้ามาสมคั รเป็นครูสอนพิเศษภาษาจีนในสถาบนั สอนภาษาY M
C A เน่อื งจากในขณะน้ันทางสถาบันขาดแคลนครูผู้สอนภาษาจีน ขา้ พเจ้าจงึ ตัดสินใจเข้า
มาสมัครแล้วลองฝกึ สอน ข้าพเจา้ สอนได้ 3 ปีจนถึงปี 4 ข้าพเจ้าได้หยุดสอนไป เน่ืองจาก
จะตอ้ งมาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ท่สี ายการบนิ แห่งหนง่ึ พอเรยี นจบปริญญาตรี ข้าพเจา้ ได้
ทางานอยใู่ นส่วนของงานเงินกู้ กยศ.ของกองพฒั นานกั ศึกษามหาวิทยาลยั ราชภัฏเชยี งใหม่
ทาอยู่ 5 ถึง 6 เดอื น ขา้ พเจ้ากไ็ ด้มโี อกาสไปเปน็ ครูสอนภาษาจีนใหก้ บั มหาวิทยาลยั ราชภัฎ
นครสวรรค์ สอนเป็นเวลา 2 เดอื นแทนอาจารยค์ นจีน พอครบ2เดือนจาเปน็ จะต้องออกมา เนอื่ งด้วยข้าพเจ้า
เองยังไม่มีวุฒิการศึกษาปริญญาโท จากน้ันกลับมาเชียงใหม่ได้มาสมัครสอนท่ีมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น
ในขณะทส่ี อนท่ีมหาวทิ ยาลัยฟาอสี เทร์นขา้ พเจ้าไดม้ โี อกาสไปเปน็ อาจารย์แลกเปล่ียนท่ีวทิ ยาลัย ของเมือง 12
ปนั นา ข้าพเจา้ ไดส้ อนภาษาไทยใหก้ ับนกั เรียนจนี ทน่ี น่ั เปน็ เวลาหนึง่ ปี จากนน้ั ไดก้ ลับมาสอนท่มี หาวิทยาลัยฟา
อสี เทรน์ เป็นอาจารย์สอนภาษาจนี ให้กับนักเรียนไทยอกี 3 ปี จนในปีพุทธศกั ราช 2558 ความฝันทีข่ ้าพเจา้ หวัง
ไว้กเ็ ป็นความจริงข้าพเจ้าได้ทุนการศึกษาจากรฐั บาลจีนซึ่งเปน็ ทุนให้เปล่า ในขณะน้ันรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
และได้ไปเรียนรู้การใช้ชีวติ ท่ีประเทศจีนประสบการณ์ต่าง ๆ สามารถนามาแนะนานักเรียนและผู้อื่นได้ พอ
กลับมาจากการเรียนต่อกม็ าสมคั รเป็นลา่ มของบริษทั เครอื เจรญิ โภคภัณฑห์ รอื ซีพที าไดอ้ ยู่ 2 เดือน จึงยา้ ยมา
ทาท่ีสถาบันการจดั การ

42

ปัญญาภิวัฒน์ เน่ืองจากอยากจะสอนนักศึกษา การสอนจงึ กลายเปน็ เหมอื นดงั่ ชวี ติ จติ ใจของข้าพเจ้าไปโดยไม่

รตู้ ัว จากนั้นเพราะข้าพเจ้ามีครอบครวั และได้ตง้ั ครรภ์ ทางสามีจงึ แนะนาใหม้ าสมคั รเปน็ ครูทม่ี หาวิทยาลัย
ราชภัฏสวนสุนนั ทา เพ่ือจะได้มเี วลาดูแลครอบครัวและลูข้าพเจา้ จึงเดนิ ทางมาสมคั รและไดส้ อนมจนถงึ ปจั จบุ ัน

ข้าพเจ้าจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะมนุษยศาสตร์สาขาภาษาจีนจึงขาดซึ่งใบ
ประกอบวิชาชีพครแู ละการที่ข้าพเจ้ามาทางาน ณ มหาวิทยาลยั ราชภัฎสวนสุนันทา มีความจาเป็นต้องมีใบ
ประกอบวิชาชีพครูจงึ พยายามหาทางเรียนใบประกอบวิชาชีพครูและด้วยความโชคดีท่ีมรี ุ่นพี่ที่ทางานท่ีน่ารัก
ท่านได้แนะนาให้จึงได้มาสมัครและได้เรียนใบประกอบวิชาชีพครูตามท่ีต้ังใจไว้ ในความเป็นจริงข้าพเจ้าเอง
ต้องการที่จะเรียนใบประกอบวิชาชีพครูมานานหลายปีแล้วแต่เนื่องด้วยภาระหน้าที่และต้องไปศึกษาต่อ
ต่างประเทศจึงไม่มีโอกาสแต่ในปีนี้ได้จังหวะ ข้าพเจ้าจึงทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างเต็ม 100% เพื่อไป
ประกอบวชิ าชีพครูนี้ เนือ่ งจากใบประกอบวิชาชีพครูสาคญั กบั อาชพี ที่สร้างคนนี้มาก ท้ังในทางของมาตรฐาน
วิชาชีพและในทางของความภูมิใจในความเป็นครทู ี่สมบรู ณแ์ บบขา้ พเจ้าจึงตัดสินใจมาเรียนถึงแมจ้ ะตอ้ งเหนื่อย
ทอ้ แทแ้ ต่ขา้ พเจ้าก็จะไม่ท้อถอยเป็นอันขาด เพื่ออนาคตของการทางานต่อไป ในการได้มาเรียนใบประกอบ
วชิ าชีพครนู ั้นขา้ พเจ้าสามารถนาความรทู้ ้ังในเร่ืองปรชั ญาการศึกษาในเร่อื งหลกั สูตรการศกึ ษา จติ วทิ ยาสาหรับ

43

การศกึ ษา รวมไปถงึ การประเมินเชน่ รู้วธิ กี ารประเมนิ ข้อสอบเด็กให้เหมาะสมกับชว่ งวยั ช่วงชัน้ รู้หลกั การเขียน
แผนการสอนและการจดั การเรียนการสอนให้เหมาะสมกับเด็กรู้ว่าเดก็ ที่ต้องการการดแู ลเปน็ พเิ ศษเราต้องเข้า
หาเขาอยา่ งไร เพอ่ื ให้เขาไดร้ ับความรแู้ ละยอมทาตามในส่ิง

ทีเ่ ราอยากใหเ้ ขาทาการเรียนใบประกอบวชิ าชีพครนู น้ั ไมเ่ พยี งแตไ่ ดร้ จู้ กั ท่านอาจารย์ท่ีมเี มตตาต่อขา้ พเจา้ และผู้
ทมี่ าเรียนทกุ คนแลว้ ยังได้มิตรภาพท่นี ่ารกั และอบอุ่นอกี ทกุ คนชว่ ยเหลือการแนะนาและคอยเกอื้ กลู กนั มากมี
น้าใจและคอยเป็นกาลงั ใจให้กันและกันอยเู่ สมอข้าพเจ้าประทบั ใจเปน็ อย่างมากและสัญญาว่าจะต้งั ใจเรยี นใบ
ประกอบวชิ าชพี ครจู นไดร้ บั ใบประกอบวชิ าชพี ครมู าชืน่ ชมอยา่ งแนน่ อน ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ทน่ี ่ารกั
คอยเมตตาคอยดแู ลเอาใจใส่ขา้ พเจา้ และเพือ่ น ๆ เสมอมา ครูคือผสู้ ร้างแตม่ ิใชส่ ร้างตึกหรือสิง่ กอ่ สรา้ งตา่ งๆ
แต่ครคู อื ผู้สร้างคนใหม้ ีความรู้ คอยอบรมศษิ ย์ใหเ้ รียนรูท้ ง้ั วชิ าการและวิชาชีวติ ดงั นั้นจากคาท่ีบดิ าทกั จนมาถึง
วนั นอี้ าชพี ทีส่ รา้ งคนไดก้ ลายเป็นอาชีพท่ีข้าพเจา้ รกั และจะตงั้ ใจปฏบิ ตั กิ ารสอนใหด้ ียง่ิ ๆ ขนึ้ ไป

คนเป็นครูมใิ ชส่ กั แตส่ อน พอถงึ ตอนส้นิ เดือนรบั สินไหม
คนเป็นครตู ้องเสียสละทัง้ กายใจ เพ่อื ศิษยไ์ ด้ความรเู้ ปน็ คนดี

44

กำรเดินทำงของควำมฝัน

นางสาวจริ วดี วนั ทาดี

เร่ืองราวมันมอี ยูว่ า่ เหมอื นกับในละคร แต่มันเปน็ เร่อื งจรงิ ๆในทกุ ฉากทกุ ตอน . . .

ครัง้ เม่ือฉนั จาความได้ ย้อนกลับไปประมาณสมัยอนุบาลตอนนั้นฉันอายุประมาณ 4-5 ขวบ ฉันเปน็ เด็กผหู้ ญิง
ตัวเล็กๆคนหนงึ่ ซงึ่ อาศัยอย่กู ับพ่อและแม่ เราอยู่ด้วยกนั เป็นครอบครัวพอ่ แม่ลูก ฉันเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส ฉัน
มักจะมีเพ่อื นเลน่ ที่อยูบ่ ริเวณรอบๆบ้านด้วยกัน ฉันมนี อ้ งๆที่อย่ใู นบา้ นเดียวกัน ในระแวกบ้านน้ัน ฉนั จะเป็นพ่ี
ที่โตสุดในตอนน้ัน ตอนเด็กๆ ฉันมักชอบชวนน้องๆเล่นครูนักเรียน โดยที่ฉนั นั้นจะขอรับบทบาทเป็นครูเสมอ
เพราะด้วยเหตุใดฉนั เองก็ไม่รู้ แต่ฉันชอบสอนน้องๆ ชอบอยากให้น้องๆ มาเรยี นรู้กับฉัน เมอื่ ฉันรู้ความขึ้นมา
อกี เริม่ มีการเติบโต ฉันอยู่ประมาณประถมศึกษาปที ่ี 1 ฉันได้เรยี นกับคุณครูท่านหน่ึง ท่านเป็นคุณครูทนี่ ่ารัก
สอนเข้าใจ คอยดูแลเอาใจใส่นักเรียนเสมอ ฉันรักและเคารพคณุ ครูท่านน้ีมาก คุณครทู าให้ฉนั รกั ในการเรียน
มากข้นึ เสมอ ทาให้ฉันอยากไปโรงเรียนทุกวัน คุณครทู าให้ฉันร้สู ึกวา่ โรงเรียนนั้นอบอุ่น มีเหตุการณ์ครง้ั หนึ่ง
ฉันป่วยไม่สบายเป็นไข้เลือดออก ฉันงอแงมาก เพราะฉันอยากไปโรงเรียน แต่มันจาเป็นท่ีฉันจะต้องนอน
โรงพยาบาล ฉันบอกแมฉ่ ันว่าหนอู ยากไปโรงเรียนหนูอยากหายไวๆ แม่ฉนั จงึ บอกว่าแค่อาทติ ยเ์ ดยี วเดยี๋ วก็หาย
แล้วจะได้ไปโรงเรียนนะ ความรู้สึกในตอนนั้นฉันดีใจมาก ฉันพยายามรักษาตัวเพ่ือให้หายไวๆ เพราะฉันไม่
อยากขาดเรียน ฉันอยากไปโรงเรียนไปเจอคณุ ครู ไปเจอเพอ่ื นๆและไปเรียนนนั่ เอง คุณครชู อบแต่งตัวสวยๆมา
โรงเรยี น คุณครูชอบใส่รองเท้าส้นสงู คุณครแู ต่งตัวเรียบร้อย ฉันมองดูการแต่งตวั ของคุณครูทุกวัน มีครั้งหนึ่ง
ตอนฉันเรียนพเิ ศษหลงั เลกิ เรียนแล้ว ฉันเหน็ คุณครใู สร่ องเท้าส้นสงู มันน่าสนใจมาก ฉันจงึ ลองขอคุณครูใส่ แต่
ในตอนน้ันด้วยความทฉี่ นั เปน็ เดก็ กใ็ ส่แบบขาๆไป ไมไ่ ด้คิดอะไรเพียงคิดแค่ว่ามนั สวยดีและโตขึน้ ฉนั อยากจะใส่
แบบน้ีบ้างจัง คุณครูบอกฉันว่าถ้าอยากจะแต่งตัวสวยๆแบบนี้ ก็ต้องตั้งใจเรียน ไม่เกียจคร้านในหน้าท่ี
รบั ผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง เม่ือเติบโตข้ึนอย่างเร่ือยๆ มักมีคาถามที่คุ้นหูกันเสมอด้วยคาถามท่ีว่า โตขึ้น
เด็กๆอยากเป็นอะไร เม่อื ฉันไดฟ้ ังคาถามน้ีจากคุณครทู ่านไหน ฉันมักจะตอบเสมอเลยวา่ หนูอยากเป็นครูค่ะ
ด้วยตอนน้ัน ฉันกค็ งยังไม่ได้คิดแน่อะไรมาก แตด่ ้วยความท่ีอยากเป็นครคู ือฉันอยากแต่งตัวสวยๆน่นั เอง ด้วย
สภาพแวดลอ้ มต่างๆ ฉันมกั จะอยกู่ บั ครู ฉนั มักจะอย่กู บั เพ่ือนทีม่ แี ม่เปน็ คุณครู ฉันมกั ชอบชว่ ยเหลืองานครู ฉัน
ชอบไปช่วยคุณครูทางานตอนปิดเทอม ฉันชอบไปโรงเรยี น ฉนั ไม่ชอบปดิ เทอมฉันอยากอยูโ่ รงเรียนมากกว่า
บ้าน ฉนั อยากเจอเพื่อนๆมากกว่าอยู่บ้าน ในตอนสมัยประถมฯจนถึงมธั ยมต้น ฉนั เป็นคนชอบเล่นกีฬามากๆ
ฉันเป็นนักกีฬาโรงเรียนฟุตซอลหญิง แต่ฉันรักการเล่นกีฬาฉันจึงเล่นกีฬาทุกประเภท เช่น ฟุตซอล
วอลเลย์บอล เปตอง ตะกร้อ เป็นต้น การเล่นกฬี าของฉัน มันทาให้ฉันมีความสุขมาก ฉันมาพัฒนาตัวเองขึ้น
เรือ่ ยๆ จนฉันไดร้ ับรางวลั เป็นนักกีฬายอดเยี่ยมของโรงเรียน ในตอนน้ันความฝันการเป็นครูของฉนั กย็ ังไมไ่ ด้
สญู หายไปไหน แต่ฉันเร่ิมมีความคิดแล้วว่า ฉันอยากจะเป็นครูพละนั่นเอง เพราะฉนั รู้สึกว่าได้อยู่กับกีฬา ได้
เล่นกีฬาไดอ้ อกกาลงั กายฉันมีความสุขกับการไดอ้ อกกาลังกายทีเ่ ลน่ กีฬาแบบนี้ เม่อื คร้ันฉันจบ ม.3 ฉันจาเป็น
ท่ีจะต้องไปต่อโรงเรียนมัธยมท่ีอื่น แต่ในละแวกบ้านฉันนี้ ฉันอยากจะเข้าเรียนในโรงเรียนหน่ึงมากที่สุด

45

โรงเรียนนั้นคือ “ โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ” น่ันเอง ซ่ึงในตอนน้ันฉันจาได้ว่าฉันไม่ชอบเรียนวิชาอะไรเลย
นอกจากคอมพิวเตอรแ์ ละพละ เม่ือต้องเข้ามาเรียนม.ปลายมีการแบ่งแยกสายเรียน ฉนั เลือกที่จะสอบเข้ามา
เรียนสายศิลป์ภาษา ซึง่ ในตอนน้ันสายศิลปภ์ าษาวิชาหลักก็คือ อังกฤษ-สังคม ในตอนท่ีสอบเข้ามาฉันจาได้ว่า
โรงเรียนเปิดรับเพยี ง 25 คนเทา่ นัน้ แต่มีนกั เรียนมาสมัครสอบกนั เปน็ 100 คน หน่งึ ในนน้ั ฉันกม็ าสอบ
ฉันรู้สึกต่ืนเตน้ มากและมีความกังวลวา่ ฉนั จะสอบเขา้ มาเรียนท่นี ีไ่ ด้หรือไม่ จนมาถึงวนั สอบ ฉันกม็ าสอบและรอ
จนถึงวันประกาศสอบปรากฏว่า สิ่งที่ทาให้ฉันภูมิใจมากท่ีสุด ในตอนน้ัน คือฉันสอบได้ลาดับที่ 3 ซ่ึงทาง
โรงเรยี นรบั แค่ 25 คน เพราะทางโรงเรียนจะมีการรับนกั เรียนในสงั กัดของเขาก่อน จึงมีการเปดิ โอกาสให้เด็ก
ภายนอกโรงเรียนในส่วนน้อย เม่อื ฉนั รู้ว่าฉันสอบตดิ ฉนั รีบโทรบอกพอ่ บอกแม่บอกป้าบอกญาติๆ ว่าฉนั จะได้
เรียนม.ปลายแล้ว แม่ดใี จมากที่ลูกตัวเองน้ันสอบได้ทาได้ ฉันภูมิใจในตัวเองเช่นกัน เมอ่ื ฉันได้เข้ามาเรียนใน
โรงเรียนวดั นวลนรดิศ ฉนั รู้สกึ ภมู ิใจมาก ทไี่ ด้เรียนในโรงเรยี นแหง่ หนง่ึ ซึง่ เปน็ โรงเรียนท่ีมชี ื่อเสยี งในยา่ นฝั่งธน
ระดับนึง คาถามท่ีฉันยังพบเหมือนเดิม คือ โตข้ึนอยากเป็นอะไร แต่เม่ือมาถึงในจุดท่ีเราเติบโตขึ้นมาแล้ว
คุณครจู ะถามเราตอ่ ว่าเราอยากสอบเขา้ คณะอะไร อยากเรียนอะไร ซึ่งมันทาใหฉ้ นั คดิ แล้ววา่ เมื่อจบไป เราจะ
ไปเรยี นอะไรเราจะเปน็ อะไรเราจะสอบอะไร เมื่อฉนั อยู่ ม.5 เริ่มคดิ เร่ิมยา้ ตัวเองแลว้ วา่ จดุ มุ่งหมายของเราน้ัน
คืออะไร แต่ใจของฉันน้ันยังคงแน่วแน่เหมือนเดิม ฉันยังอยากท่ีจะเป็นครู เมื่อฉันอยู่ม.6 เทอมสุดท้ายแล้ว
จะต้องมีการสอบเข้ามหาลัย ฉันก็คิดแล้วว่าฉันจะต้องสอบ PAT 5 ความถนัดทางวิชาชีพครู ฉันจะต้อง
Entrance เข้าเรียนตอ่ ในศึกษาศาสตร์หรอื ครุศาสตร์ใหไ้ ด้ ฉันและเพือ่ นๆ สมัครสอบในทุกๆ การสอบเขา้ ของ
มหาลัย ความประมาทของฉันก็เกดิ ขึ้น เมอื่ ฉนั สมัครสอบ 7 วชิ าสามัญ แต่ฉนั ลมื จ่ายตังคค์ า่ สมัครสอบ แต่เมื่อ
ฉันนึกขึ้นได้มันก็สายไปแล้วซึ่งมันหมดเวลาจ่ายตังค์แล้ว ทาให้ฉันไม่สามารถท่ีจะเอ็นทรานซ์เข้ามหาลัยได้
นนั่ เอง เปน็ จดุ เปลี่ยนความคดิ ฉนั ทฉ่ี ันจะต้องสอบตรงเขา้ มหาวิทยาลัยอยา่ งเดยี วน่ันเอง ทาให้ฉันตัง้ หน้าต้งั ตา
ม่งุ ม่นั ท่ีจะหามหาวทิ ยาลยั ในการที่จะได้เรียนครู ฉันเลือกสอบท่มี หาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสุนันทา เป็นการสอบ
ตรงคร้งั แรก ฉันเลือกสอบสาขาวิชานวตั กรรมและเทคโนโลยกี ารศึกษา คณะครศุ าสตร์ ผลสอบของฉัน
ฉนั สอบไมต่ ิด ไม่รู้วา่ ดว้ ยความยากมากหรือตัวฉันเองที่ไม่อ่านหนงั สือมากพอ ฉนั จึงรอรอบต่อไปเม่ือมาถึงรอบ
2 ฉันกลับไปสอบในคณะและสาขาเดิม ทาใหฉ้ ันสอบติด ฉันดีใจมากท่ีฉนั มที ีเ่ รยี นแลว้

เม่ือฉันก้ำวเข้ำสู่กำรเรียนในมหำวิทยำลัย เป็นนักศึกษาในคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ราชภัฏสวนสุนันทา ความเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตได้เกดิ ข้ึน มีทั้งกฎมีทั้งระเบียบเต็มไปหมด ถึงแม้จะเป็น
การเรยี นในระดับมหาวิทยาลัยแลว้ ถ้าพูดถึงการเรียนในคณะครศุ าสตร์ เป็นปกตทิ ีจ่ ะมีกฎและระเบียบในการ
เรยี น เม่อื ฉันเรม่ิ เข้าปี 1 ฉันไดพ้ บเจอเพ่อื นๆหลากหลายมากมาย ท้งั เพื่อนท่ีมาจากต่างจังหวัดและเพอ่ื นท่ีมา
จากกรุงเทพฯเหมือนกัน ฉันต้องปรับตัวเข้าหากับเพื่อนๆเหมือนกับเพ่ือนท่ีปรับตัวเข้าหากับฉัน ใน
มหาวิทยาลัยเม่ือฉันเป็นเฟรชช่ี มีกิจกรรมมากมายที่พวกเราจะต้องทา ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมบังคับ หรือ
กิจกรรมท่ีเอาหน่วยเสรมิ ซ่ึงจาเป็นอยู่แล้วที่เด็กมหาลัยทุกคนจะต้องเอาหน่วยกิตในเรื่องของกิจกรรมหรือ
แม้กระทั่งวชิ าการ ก็มหี นว่ ยกิตให้เราเก็บอยู่เรื่อยๆเหมือนกัน การมาเรียนของฉันในทกุ ๆวัน ฉนั จะตอ้ งแตง่ ตัว
ใหถ้ ูกระเบยี บตามกฎและข้อบังคับของคณะครศุ าสตร์ ซง่ึ ส่ิงน้ีเอง เปน็ จุดเรม่ิ ตน้ ทีท่ าให้ฉัน มรี ะเบียบวนิ ยั มาก
ขนึ้ ตลอดระยะเวลา 4 ปีท่ีฉันได้เรียนในรั้วมหาลัยแห่งน้ี ทาให้ฉนั ได้พบประสบการณ์มากมาย ไม่วา่ จะเป็น
ทางการเรียนการใช้ชีวิตเพื่อนอาจารยผ์ ู้สอน การดารงชีวิตอกี มากมาย เป็นการเอาตวั รอดทีค่ ่อนข้างยาก จะ

46

มาถึงวันที่เราเรียนจบได้ ต้องผ่าน อุปสรรค และขวากหนามทขี่ วางกั้น คอยท่ีจะขดั ขวางเราตลอดทาง แต่ฉัน
และเพื่อนก็พากนั ฝ่าฟันจนผ่านมาได้ หลักสูตรของสาขาวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษาของคณะครุ
ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั
ราชภฏั สวนสุนันทา เป็นหลักสูตร 4 ปี ซ่ึงจะไมม่ ใี บประกอบวชิ าชีพ ทาใหฉ้ ันและเพอ่ื นๆ ตอ้ งมีแนวคิดหนทาง
ทีจ่ ะไปเป็นครู ตามความฝันของแต่ละคนให้ได้ เมอื่ พวกเราใกล้เรียนจบพวกเราพยายามคน้ หางานที่รับครูที่ไม่
มใี บประกอบวิชาชีพเพื่อให้พวกเรานัน้ ได้ไปสอนไดท้ าการสอน ตามที่พวกเราอยากทา ฉันหางานก่อนเรยี นจบ
จนไดไ้ ปเจอวิทยาลยั แห่งหน่ึงรับสมคั รครคู อมพวิ เตอร์ ฉันจะไปสมคั รท่วี ิทยาลัยแห่งนน้ั ไว้

เมื่อฉันเรียนจบเขาเรียกฉันไปสมั ภาษณ์และฉันกไ็ ด้เริ่มงานท่นี นั่ เปน็ ทีแ่ หง่ แรก ฉนั รู้สึกดใี จมากทีฉ่ ันไดท้ าหนา้ ที่
เป็นครูผู้สอน ฉันดีใจที่ได้สอนนักเรียนฉันดีใจที่ได้เป็นผู้ให้ความรู้แก่นักเรียน ฉันปฏิบัติหน้าที่ในการทางาน
อย่างเต็มท่แี ละเตม็ ศกั ยภาพของฉัน เพ่ือใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพแก่นักเรียนมากทสี่ ุด ฉนั ทางานทนี่ นั่ ได้เป็นเวลา 6
เดอื น

47

ก็เกดิ ความผิดพลาดในชีวติ ด้วยท่ีว่าเกือบมีปัญหา ในการทางาน ขึ้นมานิดหน่อยจึงทาให้ฉันน้ันเลือกลาออก
เม่ือฉนั ลาออกจากท่ีทางานเกา่ โรงเรียนท่ีฉนั เคยเรียนจบมาเมอื่ ตอนมอปลาย มกี ารรับสมัครบุคคลเข้ามาเป็น
เจ้าหน้าท่ีสานักงานผอ. ในตอนน้ันฉันคิดว่างานอะไรก็ได้ท่ีอยู่ในโรงเรียน ฉันจึงมาสมัครสอบปฏิบัติและ
สัมภาษณ์ ทางโรงเรียนรบั แค่เพยี ง 1 คน แตม่ ีคนมาสัมภาษณ์ประมาณ 10 คน เม่ือถึงวนั ประกาศผล เป็นช่ือ
ฉนั เองทมี่ สี ทิ ธคิ์ นเดยี ว ฉันรสู้ กึ ดีใจท่ฉี นั ได้เรมิ่ งานใหม่และเปน็ โรงเรยี นทฉี่ นั คนุ้ เคยนน้ั เอง เม่อื ฉันได้เข้าทางาน
ในโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ฉันมีเป้าหมายขึ้นมาอีกครั้งว่าฉันจะต้องเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรประกาศนียบัตร
บัณฑติ วิชาชีพครู ด้วยความบังเอญิ ความโชคดฉี ันเห็นที่คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสนุ ันทาเปดิ รับ
นกั ศึกษาเขา้ ศึกษาในหลักสูตรประกาศนยี บัตรบัณฑิตวิชาชีพครปู ีการศกึ ษา 2561 ซึง่ ตอนนน้ั ฉนั ก็ไดไ้ ปสมคั ร
และไปสอบขอ้ เขียนและสัมภาษณ์ เมื่อถึงวนั ประกาศผลไมไ่ ด้เปน็ อยา่ งทีห่ วังไว้ หนึ่งในน้ันไมไ่ ดม้ ีชือ่ ฉันเลย
ใน 90 คน ฉันรู้สึกเศรา้ และเสียใจ พยายามที่จะหาวิธีที่จะไดเ้ รียนแต่ไม่เป็นผล ฉันรอระยะเวลาผา่ นไปเป็น
ประมาณปีกว่า คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาได้เปิดรับนักศึกษาหลกั สูตรประกาศนียบัตร
บัณฑิตวชิ าชีพครูปีการศึกษา 2562 ความหวังของฉันยังไม่ได้หมดแค่น้ี ฉันยังมคี วามมุ่งม่ันและต้ังใจไปสมัคร
สอบและสอบสมั ภาษณ์เหมือนอยา่ งเช่นเคย แต่ในปีนี้ผลเป็นอย่างคาดหวังไว้ 1 ใน 90 คนน้ันมีชือ่ ฉันด้วย
ทาให้ฉนั ดีใจเป็นอย่างย่ิงที่ฉันจะได้เข้าศึกษาต่อแล้ว ฉันต้องเป้าหมายไว้วา่ เม่อื ฉันได้เรียนฉันจะเรียนและให้
เตม็ ท่ีใหส้ มกบั ระยะเวลาตลอด 1 ปีที่ฉนั เสียเวลามา เม่ือถงึ วนั รายงานตวั ฉนั รสู้ ึกดใี จและรีบมารายงานตัว
ฉนั ไดก้ ลับเขา้ มาศึกษาในคณะครุศาสตร์มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนนั ทาอกี ครั้งแต่ในหลักสูตรประกาศนียบัตร
บัณฑิตวชิ าชีพครู ซ่ึงในหลายๆวิชาที่ได้เรียนน้ันเมื่อครงั้ ตอน ปริญญาตรี ฉนั ได้เรียนความรูพ้ ้ืนฐานมาบ้างอยู่
แล้ว ฉันมีความสุข ที่ได้เรียนในหลักสูตรนี้ มันเป็น ตัวช่วยเด่ยี วท่ีจะทาให้ฉันน้ันได้ใบประกอบวชิ าชพี ครู ฉัน
ตั้งใจมุ่งมั่นแลว้ ว่าจะตง้ั ใจเรียนให้เต็มที่ และฉันก็ทาอย่างน้ันอยู่สม่าเสมอ มาถึง ณ ตอนนี้ฉนั กย็ ังคงพยายาม
ทาให้เตม็ ที่ เพอ่ื ความใฝฝ่ นั ของฉนั ในการเป็นข้าราชการครนู น่ั เอง


Click to View FlipBook Version