The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ไอซ์ ไอลดา, 2024-02-02 23:51:18

เนื้อหาบทที่ 8

เนื้อหาบทที่ 8

โปรแกรม Adobe Illustrator คือ โปรแกรมที่นิยมใช้ในการวาดภาพลายเส้น เช่น การวาดภาพ การ์ตูน การออกแบบ Logo การออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบปกหนังสือ การออกแบบป้ายโฆษณาต่าง ๆ และการออกแบบองค์ประกอบ Web Page ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายเนื่องจากเครื่องมือต่าง ๆ อำนวย ความสะดวกในการสร้างภาพได้สวยงามเหมาะสม 8.1 การเข้า/ออกโปรแกรม Adobe Illustrator การเรียกใช้โปรแกรม คือ ขั้นตอนแรกในการใช้งาน เมื่อใช้งานเสร็จแล้วควรมีการปิดโปรแกรม เพื่อ ป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจขึ้นในกรณีโปรแกรมหลายๆโปรแกรมพร้อมกัน ดังนี้ 8.1.1 การเข้าโปรแกรม Adobe Illustrator คือขั้นตอนการเรียกใช้โปรแกรมโดยการคลิก Star All Program Adobe Master Collection Adobe Illustrator รอสักครู่จะปรากฏหน้าต่าง โปรแกรม Adobe Illustrator ขึ้นมา 8.1.2 ส่วนประกอบของโปรแกรม Adobe Illustrator ดังรูปที่ 8.1 รูปที่ 8.1 ส่วนประกอบโปรแกรม Adobe Illustrator


8.1.3 การออกโปรแกรม Adobe lllustrator คือ ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อใช้งานสิ้นสุดแล้วต้องการปิด โปรแกรมดังกล่าว มีขั้นตอนดังนี้ คลิกที่ปุ่ม Close มุมขวาบนสุดของหน้าต่างหลัก หรือคลิกที่เมนูFile Exit ดังรูปที่ 8.2 8.1.4 Menu Bar เมนูบาร์คือ เครื่องมือที่เก็บรวบรวมคำสั่งไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อใช้จัดการกับภาพ และปรับค่าต่าง ๆ ดังนี้ File มีหน้าที่จัดการเกี่ยวกับการสร้าง การเปิด การบันทึกและการตั้งค่าต่าง ๆ Edit มีหน้าที่เกี่ยวกับการยกเลิก การคัดลอก การปรับเปลี่ยนต่าง ๆ Object มีหน้าที่เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนวัตถุต่าง ๆ Type มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการกับข้อความ Select มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกขอบเขตพื้นที่และการยกเลิกการเลือก Filter มีหน้าที่เกี่ยวกับการใส่ลักษณะพิเศษต่าง ๆให้กับวัตถุ Effect มีหน้าที่เกี่ยวกับการใส่ Effects ต่าง ๆให้กับวัตถุ View มีหน้าที่จัดการมุมมองหน้าต่างการทำงาน Window มีหน้าที่เปิด/ปิดพาเลตต่าง ๆ Help มีหน้าที่แนะนำการใช้เครื่องมือต่าง ๆ 8.1.5 Control Panel คือ ส่วนการปรับแต่งค่าการทำงานของเครื่องมือต่าง ๆ ซึ้งรายละเอียดจะ เปลี่ยนไปตามการเลือกเครื่องมือ หรือเลือก Object ขณะนั้น เช่น Object ทั่ว ๆไป Control Panel จะแสดง Option การกำหนดสี ขนาดของพื้นและเส้น หรือหากเลือก Object ตัวอักษรหรือข้อความจะแสดงOptionที่ เกี่ยวกับการกำหนดรูปแบบตัวอักษร เป็นต้น 8.1.6 Title Bar มีหน้าที่แสดงชื่อโปรแกรมมุมด้านซ้าย 8.1.7 Status Bar คือ แถบสถานะปรากฏอยู่ด้านล่างสุดของวินโดว์แสดงเปอร์เซ็นต์ของการ Zoom ภาพ (เลือก Zoom ภาพได้จากเมนูหรือพิมพ์ค่าลงไป)


8.1.8 Toolbox คือ เครื่องมือต่าง ๆ จำเป็นต่อการทำงานและมีจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีการรวม เครื่องมือบางอย่างเป็นกลุ่มๆ โดยมีสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมอยู่มุมขวาด้านล่าง เพื่อแสดงว่ายังมีเครื่องมืออื่น ๆ อยู่ร่วมและสามารถเรียกใช้งานได้ ดังรูปที่ 8.3


8.1.9 Palette (พาเลต) คือหน้าต่างการทำงานต่าง ๆ แต่ละพาเลตมีหน้าที่การทำงานที่แตกต่างกัน เช่น พาเลต Color สำหรับเลือกรูปแบบของหัวพู่กัน การเรียกใช้พาเลต Color คือ คลิกเมนู Windows – Color ถ้าต้องการเปิดพาเลตอื่น ๆ ทำตามขั้นตอนเดิมอีกครั้ง 8.2 การสร้างไฟล์ภาพ การสร้างไฟล์ภาพใหม่ประกอบด้วยการวาดภาพส่วนต่าง ๆ แต่ละชิ้นส่วนเรียกว่า ออบเจ็ค (Object) การวาดทั้งหมดถูกประกอบกันขึ้นมาเรียกว่า อาร์ตเวิร์ค (Artwork) การสร้างอาร์ตเวิร์คจะถูกสร้างบนพื้นที่ การทำงานซึ่งเรียกว่า อาร์ตบอร์ด (Art Board) อาร์ตบอร์ดเปรียบเสมือนกระดาษหรือผ้าใบที่ใช้วาดภาพ โดย กำหนดขนาดและคุณสมบัติก่อนลงมือวาดภาพดังนี้ 8.2.1 การสร้างไฟล์ภาพใหม่หรือการสร้างอาร์ตบอร์ด คือ การสร้างไฟล์ภาพใหม่ ดังนี้ 1. คลิกเมนู File New จะปรากฏหน้าต่าง New Document 2. Name ตั้งชื่อไฟล์ภาพ หรือเก็บไว้ขณะบันทึกไฟล์ 3. New Document Profile คลิกแล้วเลือก Profile มาตรฐานที่ตรงกับลักษณะงาน เช่น Print คือ ไฟล์เอกสารสำหรับงานพิมพ์, Web คือ ไฟล์เอกสารสำหรับงาน Web Page 4. Size คลิกแล้วเลือกขนาดพื้นที่การทำงานที่ต้องการ 5. Orientation เลือกแนวการวางแนวตั้ง หรือแนวนอน แล้วกดปุ่ม OK


การกำหนดค่า Option การสร้างไฟล์ภาพใหม่ ดังนี้ 1.กำหนดความกว้างและความสูง 2.พื้นที่การพิมพ์ส่วนที่เกินออกมาด้านนอกอาจมีการกำหนดค่าให้เกินออกมาเล็กน้อยเป็นการเผื่อพื้นที่ใน การตัดออก หรือเรียกว่า “ตัดตก” 3.คลิก Advanced ก่อน Color Mode เลือกโหมดสีของไฟล์ Raster Effects ความละเอียดของภาพเมื่อมีการปรับแต่งด้วย Filter/Effects Preview Mode มุมมองภาพผลลัพธ์ (ปกติจะถูกตั้งให้ตามที่เลือกตรง New Document Profile ด้านบน) 8.2.2 การสร้างไฟล์แบบรวดเร็ว โดยกดคีย์ Alt + Ctrl + N โปรแกรมจะสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่โดยไม่ มีการกำหนด Option แต่จะใช้ตาม Option ล่าสุดที่เคยกำหนดไว้ล่าสุด


8.2.3 การเปิดไฟล์ภาพที่มีอยู่แล้ว คือ ขั้นตอนการเปิดไฟล์เก่าที่ได้บันทึกแล้วขึ้นมาปรับปรุงหรือ แก้ไข มีขั้นตอนดังนี้ 1.คลิกเมนู File Open หรือกดปุ่ม Ctrl + O ที่คีย์บอร์ด 2.ระบุโฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์ภาพ 3.คลิกเลือกไฟล์ภาพที่ต้องการ 4.แสดงตัวอย่างภาพจากไฟล์ที่เลือก 5.แสดงภาพเก่าที่เคยบันทึกบนพื้นที่งาน


8.3 การปรับมุมมองและการใช้ค าสั่งเบื้องต้น การกำหนดมุมองหน้าต่างวินโดว์โปรแกรม เพื่อความเหมาะสมและสะดวกต่อการทำงาน เช่น การ ปรับมุมมองภาพ การย่อ/ขยายภาพ การเลื่อนดูภาพ การใช้เมนูลัด การยกเลิกคำสั่ง มีรายละเอียดดังนี้ 8.3.1 การปรับมุมมองวินโดว์โปรแกรม คือ การปรับมุมมองเพื่อความสะดวกในการทำงาน โดย คลิกกลุ่มเครื่องมือ Screen Mode จาก Tool Panels หรือกดคีย์ F เพื่อการสลับมุมมอง ดังนี้ 1. Normal Screen Mode คือ การแสดงส่วนประกอบทั้งหมดเหมือนกับขณะที่เปิดโปรแกรม ครั้งแรกแสดงเครื่องมือต่าง ๆ ทั้งหมดติดกับวินโดว์โปรแกรม 2. Full Screen Mode with Menu Bar คือ แสดงวินโดว์เต็มจอโดยไม่แสดงชื่อของโปรแกรม และ Taskbar ของวินโดว์ เพื่อเพิ่มพื้นที่การทำงานมากขึ้น 3. Full Screen Mode คือ แสดงพื้นที่การทำงานมากที่สุด แต่ไม่แสดงเมนูบาร์ 8.3.2 มุมมองการท างาน คือ การเปลี่ยนมุมมองให้เหมาะสมกับภาพนั้น ๆ โดยคลิกคำสั่ง View Preview หรือ View Outline (คีย์ลัด Ctrl + Y) เพื่อสลับมุมมอง Preview และ Outline ดังนี้ 1. Preview คือ การเปิดไฟล์การทำงานครั้งแรกจะทำงานในมุมมองนี้เป็นมุมมองแรก (สังเกต จากแถบ Title Bar) ซึ้งเป็นมุมมองที่เห็นสีพื้น สีเส้น Effects และลักษณะการซ้อนทับกันของ Object ตาม จริงแบบปกติ ดังรูปที่ 8.7 2. Outline คือ มุมมองภาพแบบโครงร่าง แสดงเฉพาะโครงร่างของเส้นที่ประกอบกันเป็น Object ทั้งหมดทุกภาพ Object ที่มีการซ้อนทับกันอยู่เป็นจำนวนมาก การใช้มุมมองนี้เลือกจัดการกับ Object ที่ซ้อนอยู่ด้านหลังได้ง่ายขึ้น และโปรแกรมตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วขึ้น ดังรูปที่ 8.8


8.3.3 การใช้เมนูลัด คือ การคลิกขวาบนอาร์ตบอร์ดหรือบน Object ที่เลือกไว้เพื่อเปิดเมนูลัด ซึ้งเน อีกวิธีที่ใช้เรียกคำสั่งอย่างรวดเร็วแทนการคลิกคำสั่งจากแถบเมนูหลัก เช่น การคลิกขวาบนข้อความจะแสดง คำสั่งในการปรับแต่งข้อความ หรือคลิกขวาบน Object แบบ Symbol จะแสดงคำสั่งในการจัดการกับ Symbol ดังรูปที่ 8.9 รูปที่ 8.9 การคลิกขวาบนข้อความ


8.3.4 ยกเลิกหรือท าซ้ าค าสั่ง คือ การยกเลิกคำสั่งก่อนหน้านั้นหรือยกเลิกการทำงานกลับไป 1 ขั้น ดังนี้ 1.ยกเลิกหรือทำซ้ำคำสั่งทีละคำสั่ง ดังนี้ (1)Undo คือ คำสั่งเพื่อย้อนกลับการทำงานกลับไป 1 ขั้น หรือวิธียกเลิกคำสั่งครั้งหลังสุด ที่ทำไป 1 คำสั่ง ถ้าต้องการย้อนกลับไปหลายขั้นตอนใช้คำสั่งนี้ซ้ำ ๆ โดยวิธีการเรียกให้จากเมนู Edit – Undo หรือ Ctrl + Z (2)Redo คือ คำสั่งทำซ้ำการกระทำ หรือคำสั่งที่ถูกยกเลิกไป ถ้ามีการยกเลิกหลายคำสั่ง สามารถทำซ้ำกลับมาทีละคำสั่งได้ตามจำนวน 2.ยกเลิกคำสั่งที่ทำไปแล้วทั้งหมด คือ การยกเลิกคำสั่งการทำงานทุกอย่างในขั้นตอนเดียวโดย เนื้อหาบนอาร์ตบอร์ดจะย้อนกลับไปเป็นเหมือนครั้งสุดท้ายที่ได้บันทึกไฟล์นั้น โดยการคลิกเมนู File – Revert แล้วเลือก Revert อีกครั้งเพื่อยืนยันการยกเลิกคำสั่ง 8.4 การใช้เครื่องมือวาดภาพ โปรแกรม Adobe Illustrator คือ โปรแกรมสำหรับการวาดภาพลายเส้น การปรับแต่งภาพ โปรแกรมมีเครื่องมือที่สามารถใช้วาดภาพและสามารถปรับการใช้งานได้เหมือนกับเครื่องมือวาดภาพบน กระดาษการกำหนดค่าเครื่องมือต่าง ๆ ให้ใช้งานได้ง่าย เช่น เครื่องมือ Pencil เครื่องมือ Pen และเครื่องมือ Mesh เป็นต้น 8.4.1 ส่วนประกอบของ Object คือภาพกราฟิกแบบ vector ประกอบด้วยเส้นชิ้นส่วนต่างๆ เรียกว่า Object หลายๆ ชิ้นวางรวมกัน โดยแต่ละ Object มีองค์ประกอบหลักๆ ดังนี้


1.Stroke คือ เส้นตามรูปทรงของ Object สามารถกำหนดสี ขนาดและรูปแบบลักษณะของเส้น 2.Fill คือ พื้นที่ด้านในของ Object ซึ้งสามารถกำหนดสีได้ทั้งสีแบบทึบ สีพื้นแบบไล่โทนสี การใส่ ลวดลาย การกำหนดความโปร่งใส่ของภาพ และการปรับ Filter และ Effect ของภาพ 3.Bounding Box คือ ขอบเขตการปรับขนาดภาพ เช่น การย่อภาพและการขยายภาพหรือการหมุน ภาพในลักษณะต่าง ๆ 4.Path คือ เส้นโครงร่างพื้นฐานของ Object ปรับเปลี่ยนรูปทรงของ Object 5.Anchor Point คือ จุดกำหนดความโค้งหรือปรับความโค้ง สามารถเพิ่มและลดจำนวนจุด 8.4.2 วิธีการควบคุมเส้น Path ของภาพลายเส้น คือ การวาดภาพลายเส้นในลักษณะต่าง ๆ โดย Object ที่วาดมีเส้นโครงร่างเป็นตัวกำหนดรูปทรง เรียกว่า Path Line ดังนั้น Object ที่สร้างจะมีความ สวยงามมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการควบคุมเส้น Path ของผู้วาดเอง ถ้ามีการวาดส่วนที่มีความโค้งเว้าได้ดี รูปทรงสวยงาม การกำหนดเส้น Path แต่ละเส้นนั้นมีความสัมพันธ์กันดังรูปที่ 8.11


Anchor Point คือ จุดที่ตรึงเส้น Path แต่ละช่วงไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ อยู่ต่อเนื่อง เมื่อ Anchor Point เปลี่ยนตำแหน่งก็จะมีผลต่อรูปทรงเปลี่ยนคาม Direction คือ ส่วนที่ควบคุมความโค้งและทิศทางของเส้น Path ที่ออกจาก Anchor Point หาก แขนยาวจะได้มุมโค้งที่กว้าง ในทางตรงกันข้ามหากแขนสั้นได้มุมโค้งที่แคบหรือหากจุด Anchor Point ที่ไม่มี แขนสองจุดติดกันเส้น Path นั้นเป็นเส้นตรง จุดปลายเส้น คือ จุดสิ้นสุดของเส้น Path แบบปลายเปิด (เส้น Path ไม่ครบรอบวง) ส่วนโค้งของเส้น Path คือ ส่วนโค้งที่เกิดจากการปรับดึงแขนที่กางออกและเป็นตัวกำหนดรูปทรง ของ Object วาดเส้น Path เสร็จแล้วไปทำงาน ณ ตำแหน่งอื่น Anchor Point และแขนของ Object จะถูกซ่อน หากต้องการแสดงส่วนต่าง ๆ เส้นนั้นอีก โดยใช้เครื่องมือ (Selection) ปรับแก้ Object ทั้งหมด เช่น การ ย่อ การขยาย หรือ Direct Selection คลิกบน Object เพื่อปรับตำแหน่งเฉพาะจุดดังกล่าว 8.4.3 ตัวอย่างผลลัพธ์การใช้เส้น Path วาดรูปต่าง ๆ โดยการวาดที่มีความสวยงามเกิดจากการ วาดด้วยเส้น Path ที่มีการดัดเส้นในลักษณะต่าง ๆ ตามผู้ใช้กำหนดในตำแหน่งและทิศทาง เพื่อให้เกิดภาพที่มี ความสวยงามดังรูปที่ 8.12


8.5 การใช้สี การเลือกลักษณะการใช้สีจากพาเลต Appearance หรือการใช้สีจากพาเลต Swatches ขึ้นอยู่กับ ความต้องการของผู้ใช้ ซี่งมีการเลือกหลายรูปแบบให้เหมาะสมกับ Object นั้น ดังนี้ 8.5.1 การเลือกลักษณะการใช้สีจากพาเลต Appearance คือ การเติมสีภาพสามารถเติมเฉพาะ Stroke หรือ Fill โดยคลิกเมนู Window Appearance เพื่อแสดงพาเลต Appearance มีรายละเอียด ดังนี้ 8.5.2 การใช้สีจากพาเลต Swatches คือ การเลือกวัตถุที่ต้องการใส่สีก่อน แล้วคลิกสีที่ต้องการ (สีเหลือง) สังเกตเห็นว่าวัตถุเปลี่ยนเป็นสีที่เลือก (กำหนดสีพื้นกำหนดสีเส้น) ดังรูปที่ 8.14 8.5.3 ก าหนดสีพื้นและเส้นก่อนการวาด โดยพาเลต Color คือ การกำหนดค่าสีเริ่มต้นสีพื้นเป็นสี ขาวและเส้นเป็นสีดำ โดย Object ที่วาดขึ้นใช้สีพื้นและสีเส้นดังกล่าว แต่หากต้องการให้ Object เป็นสีที่ ต้องการต้องกำหนดสีก่อนการวาด ดังรูปที่ 8.15


8.5.4 การเติมสีพื้นและสีเส้นด้วย Color Picker คือ การเติมสีพื้นและเส้น โดยเลือก Object ก่อน แล้วคลิกเลือก สีพื้นหรือสีเส้น มีขั้นตอนดังนี้ 1. เลือก Object ดับเบิลคลิดสีพื้น (จะปรากฏ Panel Color) 2. คลิกบนแถบสีเพื่อกำหนดค่าสีขององค์ประกอบแรกหรือคลิกลากเลื่อนแถบสี 3. คลิกบนกรอบสี่เหลี่ยมใหญ่เพื่อเลือกสีที่ต้องการ คลิกปุ่ม OK


ตัวอย่างผลลัพธ์การก าหนดสีพื้นละสีเส้น 8.5.5 การก าหนดขนาดและรูปแบบเส้นด้วยพาเลต Stroke คือ การวาดภาพปกติถ้าไม่กำหนด ขนาดและรูปแบบเส้นก่อน เมื่อวาดภาพแล้วจะได้เส้นที่มีขนาดเดียว คือ 1 pt. และเป็นเส้นยาวต่อเนื่องหาก ต้องการปรับแต่งเส้นใหม่ โดยการใช้พาเลต Stroke ปรับเปลี่ยนขนาดเส้น สร้างเส้นประ และเปลี่ยนลักษณะ ปลายเส้น มีขั้นตอนดังนี้ 1. เลือกเส้นหรือภาพที่ต้องการ 2. เลือกพาเลต Stroke แล้วคลิก Stroke กำหนดค่า Option ดังรูปที่ 8.18


พาเลต Stroke มี Option ในการปรับแต่งรูปแบบเส้นลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ 1.Weight คือ ขนาดของเส้นซึ่งมีหน่วยเป็น Point (pt.) โดย 1 pt. เท่ากับ 1/72 นิ้ว 2.Cap รูปแบบของปลายเส้นสำหรับรูปทรงปลายเปิดหรือเส้นประมี 3 แบบ คือ (1) ปลายเส้นคัดพอดีกับเส้น Path (2) ปลายเส้นโค้งมนรอบเส้น Path (3) ปลายเส้นตัดยื่นยาวรอบเส้น Path 8.6 การวาดด้วยกลุ่มเครื่องมือ Line กลุ่มเครื่องมือวาดเส้นแบบเส้นสำเร็จรูป ซึ่งการวาดนั้นทำได้ 2 วิธี คือ วาดโดยการคลิกลาก และวาด โดยกำหนดค่า Option ดังรูปที่ 8.19 8.6.1 วาดเส้นตรงด้วยเครื่องมือ Line Segment คือ การวาดลักษณะของเส้นในรูปแบบ เส้นตรง มีขั้นตอนดังนี้ 1.คลิกเครื่องมือ 2.คลิกลากบนพื้นที่การทำงานตามตำแหน่งขนาดและทิศทางที่ต้องการ (1) กดคีย์ Shift ค้างไว้ขณะวาดจะทำให้จุดเริ่มต้นที่คลิกถูกยึดออกเป็นเส้นตรง (2) กดคีย์ Alt ค้างไว้ขณะวาดทำให้จุดเริ่มต้นที่คลิกถูกยึดเป็นจุดกึ่งกลางและผลลัพธ์ของเส้น ยาวทั้ง2 ด้านเท่า ๆกัน (3)กดคีย์ ค้างไว้ขณะวาดจะเป็นการวาดเส้นใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยวนรอบจุดศูนย์กลาง ดังรูปที่ 8.20


8.6.2 การวาดเส้นโค้งด้วยเครื่องมือ Arc คือ เครื่องมือการวาดเส้นลักษณะโค้ง ดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือ 2. คลิกเมาส์ลากบนพื้นที่การทำงานตามตำแหน่งขนาดและทิศทางที่ต้องการ (1) กดคีย์ C ขณะลากเส้นจะเป็นการสลับเส้นระกว่างการวาดเส้นแบบปลายปิดและ ปลายเปิด (2) กดคีย์ F ขณะกำลังวาดเส้นจะเป็นการสลับพลิกกลับแนวโค้งของเส้น 3. กดคีย์ หรือ ขณะกำลังวาดเส้นจะเป็นการเพิ่มหรือลดความโค้งของเส้น 8.6.3 การใช้เครื่องมือ Spiral การวาดเส้นจะเป็นการเพิ่มหรือลดจำนวนโค้งเส้น ดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือ คลิกเมาส์ลากบนพื้นที่ตามตำแหน่งขนาดและทิศทางที่ต้องการ 2. กดคีย์ หรือ ขณะวาดเส้นจะเป็นการเพิ่มหรือลดจำนวนโค้งของเส้นโดยกำหนดค่า Segments หรือกำหนดค่าต่างๆ เครื่องมือวาดแล้วคลิกบนอาร์ตบอร์ด ดังรูปที่ 8.22


8.6.4 การใช้เครื่องมือ Rectangular Grid คือ การวาดเส้นกรีด (Grid) มีขั้นตอน ดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือ แล้วคลิกเมาส์ซ้าย 1 ครั้ง บนพื้นที่การทำงานจะปรากฏหน้าต่าง Rectangular Grid Tool Option ดังรูป 2. คลิกปุ่ม OK จะปรากฏรูปเส้นกริดตามรูปแบบที่กำหนดดังรูปที่ 8.23 หรือคลิกเมาส์ซ้ายค้างไว้ แล้วลากเป็นตามขนาด ดังรูปที่ 8.23


8.6.5 การใช้เครื่องมือ Polar Grid คือ การวาดเส้นรัศมี มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือ แล้วคลิกเมาส์ 1 ครั้ง บนพื้นที่การทำงานจะปรากฏหน้าต่าง Polar Grid Tool Options เพื่อกำหนดค่า ดังรูป 2. คลิกลากบนพื้นที่การทำงานตามตำแหน่งขนาดและทิศทางที่ต้องการ 3. หรือคลิกเมาส์ค้างแล้วลากตามขนาด ดังรูปที่ 8.24


8.6.6 การใช้เครื่องมือ Symbols Sprayer คือ เครื่องมือสร้างสัญลักษณ์พิเศษต่างๆ ที่โปรแกรม กำหนด มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือ แล้วคลิกเลือกสัญลักษณ์ที่ต้องการจากพาเลต Symbol 2. คลิกเลือก (Symbols) ที่ต้องการเลือก 3. คลิกเมาส์ดึงภาพจาก Symbol วางบนพื้นที่การทำงาน ดังรูปที่ 8.25


การย่อหรือขยายสัญลักษณ์นั้น คลิกเครื่องมือ แล้วคลิกสัญลักษณ์ที่ต้องการเพื่อย่อหรือขยายตาม ความเหมาะสม กรณีต้องการสัญลักษณ์พิเศษจากพาเลตอื่นๆ โดยคลิก บนพาเลต Symbol เลือกคำสั่ง Open Symbol Library แล้วเปิดพาเลตใหม่ใดๆ ดังรูปที่ 8.26


8.7 การซ่อนขอบเขตภาพ การซ่อนขอบเขตของภาพในส่วนที่ไม่ต้องการ หรือแสดงภาพเฉพาะส่วนที่ต้องการเลือกไว้ให้ปรากฏ ในลักษณะต่างๆ ตตามรูปแบบของภาพที่อยู่ด้านบนของภาพ และสามารถนำภาพดังกล่าวแก้ไขปรับแต่ง เช่น กำหนดเส้นขอบของภาพ กำหนดความฟุ้งเบลอ ดังนี้ 8.7.1 การซ่อนขอบเขตของภาพ คือ การซ่อนภาพที่อยู่ด้านล่างให้แสดงภาพในขอบเขตภาพเท่ากับ ภาพที่อยู่ด้านบน มีขั้นตอนดังนี้ 1. เปิดไฟล์ภาพ 2. วาดรูปทรงภาพด้านบน ณ ตำแหน่งที่ต้องการ ดังรูป 8.7.2 การก าหนดเส้นขอบภาพที่ซ่อนขอบเขต คือ การกำหนดขนาดเส้นหรือสีเส้นให้ภาพเพื่อความ สวยงามยิ่งขึ้น (ภาพที่ไม่มีการซ่อนขอบเขตของภาพไม่สามารถกำหนดเส้นขอบ) มีขั้นตอนดังนี้


1. คลิกเลือกภาพแล้วเลือกพาเลต Stroke เพื่อนกำหนดขนาดเส้น 2. เลือกพาเลต Color แล้วกำหนดสีเส้นขอบ ดังรูปที่ 8.28 8.8 การสร้างข้อความด้วยเครื่องมือกลุ่ม Type Tool การนำตัวอักษรหรือข้อความประกอบกับภาพเพื่อสื่อความหมาย หรือแสดงรายละเอียดต่างๆ การนำ ตัวอักษรสร้างองค์ประกอบภาพทำให้ภาพมีความน่าสนใจมากขึ้น ข้อความแบ่งออกเป็น 3 แบบ แต่ละแบบมี คุณสมบัติพื้นฐานแตกต่างกัน ดังนี้ 1. Point Type คือ ข้อความแบบง่ายๆ เหมาะสำหรับเนื้อหาที่มีความยาวไม่มากนัก เช่น ไม่กี่ ตัวอักษร หรือไม่กี่บรรทัด และมีคุณสมบัติพื้นฐานเหมือน Object ที่เป็นภาพวาดทั่วไป คือ สามารถใช้ bounding box เพื่อย่อ/ขยายขนาด หรือหมุนรูปทรงตัวอักษร 2. Area Type คือ ข้อความซึ่งเหมาะสำหรับเนื้อหาที่มีความยาวมากๆ เช่น หลายบรรทัดหรือหลาย หน้า โดยการสร้างข้อความบรรจุไว้ภายในกรอบรูปทรงใดๆ โดยสามารถเชื่อมโยงเนื้อหาจากรอบหนึ่งไปยังอีก รอบหนึ่ง และเมื่อมีการปรับรูปทรงของกรอบหนึ่งไปยังอีกรอบหนึ่ง จะส่งผลให้รูปทรงตัวอักษรเปลี่ยนแปลง


3. Type on a Path คือ ข้อความที่เหมาะสำหรับการประดับตกแต่ง โดยตัวอักษรจะเรียงตัวไปตาม แนวของเส้น Path 8.8.1 การใช้เครื่องมือ T Type Tool และเครื่องมือ T Vertical Type Tool สร้างข้อความ คือ การสร้างข้อความแบบง่ายๆ เหมาะสำหรับเนื้อหาที่มีความยาวไม่มากนัก เช่น ไม่กี่ตัวอักษร หรือไม่กี่ บรรทัด และมีคุณสมบัติพื้นฐานเหมือนออบเจ็ค (Object) ที่เป็นภาพวาดทั่วไป คือ ใช้ bounding box เพื่อ การย่อ/ขยายขนาด มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกที่เครื่องมือ T หรือ T แล้วคลิกเมาส์บริเวณอาร์ตบอร์ดที่ต้องการพิมพ์แล้วพิมพ์ข้อความ กราฟิก 2. พิมพ์ข้อความ ดังรูปที่ 8.29 3. คลิกที่เมนู window Type Character แล้วแสดงพาเลต Character เพื่อจัดรูปแบบ ข้อความตามความเหมาะสม ดังรูปที่ 8.30


4. ปรับเปลี่ยนรูปแบบข้อความ 8.8.2 การใช้เครื่องมือ Area Type Tool และเครื่องมือ Vertical Area Type Tool การสร้างข้อความอยู่ภายขอบเขตรูปทรงหรือเส้น Path ที่สร้างไว้แล้วผลลัพธ์ที่เหมือนกับการสร้างข้อความใน กรอบสี่เหลี่ยมด้วยเครื่องมือ Type Tool แต่ต่างกันคือ ต้องวาดเส้น Path ก่อนเป็นรูปทรงใดๆ เช่น รูปทรง สี่เหลี่ยม รูปทรงวงกลม และรูปทรงอิสระต่างๆ มีขั้นตอนดังนี้ 1. สร้างวัตถุที่ต้องการพิมพ์ข้อความ 2. คลิกเครื่องมือ หรือ และกำหนดรูปแบบข้อความบน Option Bar 3. นำเมาส์สัญลักษณ์ คลิกเมาส์ภายในวัตถุที่ต้องการพิมพ์ข้อความ และพิมพ์ข้อความที่ต้องการ ขณะพิมพ์ชนขอบด้านขวาจะขึ้นบรรทัดใหม่ทันที ขึ้นย่อหน้าใหม่กดปุ่มคีย์ Enter 4. คลิกเครื่องมือ หรือ ESC เพื่อจบการพิมพ์


(1) การแทรกหรือการแก้ไขข้อความ โดยใช้เครื่องมือ Type Tool แบบใดแบบหนึ่งนำเมาส์คลิกบน ข้อความแล้วพิมพ์แก้ไขข้อความ (2) การปรับแต่งกรอบข้อความ คือ การปรับแต่งรูปทรงของกรอบข้อความหลังจากการพิมพ์แล้ว โดย ใช้เครื่องมือ Direct Selection คลิก Anchor Point แล้วคลิกลากปรับเส้นหรือใช้เครื่องมือกลุ่ม Pen Tool ปรับแต่ง มีขั้นตอนดังนี้


8.8.3 การใช้เครื่องมือ Type on a Path และ เครื่องมือ Vertical Type on a Path คือ การสร้างข้อความตามแนวบนเส้น Path โดยยึดเส้น Path เป็นเส้นบรรทัด เช่น การพิมพ์อักษรหมุนรอบ กรอบภาพต่างๆ หรือพิมพ์บนเส้น Path รูปทรงต่างๆ มีขั้นตอนดังนี้ 1. สร้างเส้น Path ที่ต้องการพิมพ์ข้อความด้วยเครื่องมือ Pen Tool 2. คลิกเครื่องมือ หรือ แล้วคลิกเมาส์บนเส้น Path 3. กำหนดค่ารูปแบบข้อความบน Option Bar แล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการ


4. คลิกเครื่องมือ หรือ ESC เพื่อจบการพิมพ์ ข้อความที่พิมพ์จะเริ่มแสดงข้อความจากตำแหน่งที่คลิกเมาส์ไปยังจุดปลายของเส้น ถ้าเส้น Path เป็น รูปทรงปลายปิดข้อความจะวนตามเข็มนาฬิกากรณีข้อความยาวกว่าเส้น Path จะทำการแสดงข้อความส่วนที่ หายไปด้วยสัญลักษณ์รูป + ขึ้นมาดังรูปที่ 9.33-1 การปรับแต่งข้อความบนเส้น Path+ คือ การปรับแต่งเส้น Path ด้วยการปรับขนาด การหมุน การ บิดเอียง และการพลิกกลับตำแหน่งข้อความ โดยการปรับส่วนประกอบต่างๆ ของข้อความบนเส้น Path ดัง รูปที่ 8.34


1. การเลื่อนตำแหน่งข้อความ คือ หากข้อความบนเส้น Path นั้นไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ เช่น ข้อความชิดด้านบนหรือตอกไปทางด้านหลังมากเกินไป สามารถขยับเลื่อนตำแหน่งใหม่ โดยใช้เครื่องมือ Selection มีขั้นตอนดังนี้ (1) คลิกเลือกเครื่องมือ (2) คลิกเลือกข้อความ (3) เมาส์ชี้จุดกึ่งกลางส่วนปลายข้อความ / แล้วคลิกลากเลื่อนตำแหน่ง 2. การพลิกกลับด้านข้อความ คือ การที่พิมพ์ข้อความบนเส้น Path ของรูปทรงแบบปลายปิด ข้อความจะหันหัวออกไปทางด้านนอกรูปทรงเสมอ แต่ข้อความสามารถพลิกกลับด้านบนเส้น Path ไปยังอีก ด้านหนึ่งได้ มีขั้นตอนดังนี้


(1) คลิกเลือกเครื่องมือ (2) คลิกเลือกข้อความ (3) เมาส์ชี้จุดกึ่งกลางส่วนกลาง / แล้วคลิกลากพลิกกลับข้อความ 3. การปรับแต่งแนวเส้นข้อความ คือ การปรับรูปทรงของเส้น Path ที่ใช้เป็นแนวข้อความใหม่ โดยใช้ เครื่องมือ Direct Selection มีขั้นตอนดังนี้ (1) คลิกเลือกเครื่องมือ เลือก Anchor Point บนเส้น Path (2) คลิกลากปรับแต่งเส้น Path (เช่น ย้าย Anchor Point และปรับแขน)


8.9 การสร้างข้อความหลายบรรทัด การสร้างข้อความบรรจุภายในกรอบรูปทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากวิธีนี้จะเหมือนกับการสร้าง ข้อความในวัตถุรูปสี่เหลี่ยม ดังนี้ 8.9.1 การสร้างข้อความแบบหลายบรรทัด คือ การสร้างข้อความและแก้ไขข้อความภายในรูปทรง มี ขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือ T แล้วคลิกเมาส์ค้างไว้ ณ จุดเริ่มต้นข้อความแล้วลากเมาส์ไปยังตำแหน่งสิ้นสุดการ พิมพ์ข้อความ 2.กำหนดค่า Option ต่างๆ ของข้อความ 3. คลิกตำแหน่งที่ต้องการพิมพ์ข้อความ โดยพิมพ์ไปเรื่อยๆ เมื่อถึงขอบสิ้นสุดจะขึ้นบรรทัดใหม่ให้ อัตโนมัติการกด Enter คือ การขึ้นบรรทัดใหม่ 4. คลิกเครื่องมือ หรือกดคีย์ ESC เพื่อจบการพิมพ์ การสร้างข้อความแนวตั้ง คือ เปลี่ยนจากการคลิกเครื่องมือ T เป็น T แทนการพิมพ์ภาษาไทยอาจ พบสัญลักษณ์ - อยู่ท้ายบรรทัด (บนเส้นกรอบภาพหรือเลยกรอบภาพออกไป) แสดงว่าบรรทัดนั้นไม่มีการ เคาะวรรค โปรแกรมจึงตัดข้อความขึ้นบรรทัดใหม่ให้ ซึ่งอาจจะมีความผิดพลาดในการตัดคำ เช่น คำว่า เฉพาะ อาจเป็นตัวอักษร “เฉ” ท้ายบรรทัดด้านบนตัวอักษร “พาะ” หน้าบรรทัดถัดไป ซึ่งไม่ถูกต้อง การแก้ไขทำได้ โดยคลิกวาง Cursor ตรงจุดที่ต้องการตัดคำแล้วกดคีย์ Shift + Enter หากข้อความยาวเกินกรอบสี่เหลี่ยมที่ สร้างไว้จะปรากฏสัญลักษณ์ + อยู่ด้านล่างขวาของกรอบและข้อความบางส่วนตกหายไป การแก้ไข คือ คลิก เลือกเครื่องมือ แล้วคลิกลากขยายกรอบให้มีขนาดเพิ่มขึ้น เพื่อแสดงข้อความทั้งหมดหรือเชื่อมโยงข้อความ ที่เหลือไปแสดงบนกรอบอื่น


8.9.2 การจัดการข้อความ คือ การปรับเปลี่ยนรูปแบบอักษรลักษณะต่าง ๆ มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเลือกข้อความที่ต้องการปรับเปลี่ยน 2. คลิกเมนู Window Type Paragraph แสดงพาเลต Paragraph ดังรูปที่ 8.39 8.10 การเลือกและการปรับแต่งรูปแบบข้อความ การเลือกข้อความที่ต้องการ โดยเลือกเครื่องมือ หลังจากการเลือกข้อความแล้วการ ปรับแต่งจะมีผลกับข้อความ ส่วนที่เลือกไว้เท่านั้นหรือเลือกทั้งหมดใช่เครื่องมือ ซึ่งเป็นการเลือกทั้งหมด การปรับแต่งจะมีผลต่อข้อความทั้งหมด เช่น การกำหนดสีพื้นและสีเส้นขอบอักษร การสร้างอักษรกราฟิก สไตล์ การกำหนดรูปแบบอักษร ดังนี้ 8.10.1 การเลือกข้อความบางส่วน คือ การเลือกข้อความที่ต้องการ โดยเลือกเครื่องมือ หรือเครื่องมืออื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน แล้วนำเมาส์คลิกคลุมข้อความที่เลือก โดยหลังการเลือก ปรับข้อความจะมีผลกับข้อความที่เลือกไว้เท่านั้น มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือ 2. คลิกลากคลุมข้อความ


8.10.2 การเลือกข้อความทั้งหมด คือ การเลือกโดยการใช้เครื่องมือ เพื่อเลือกข้อความดังกล่าว จะมีผลกับข้อความทั้งหมดพร้อม ๆ กัน มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือ 2. คลิกเลือกข้อความแล้วกำหนดสีฟื้น 8.10.3 ก าหนดสีฟื้นและสีเส้นขอบตัวอักษร คือ การกำหนดสีฟื้นและสีเส้นขอบให้กับตัวอักษร วิธีการเช่นเดียวกันกับ Object มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเลือกข้อความ 2. เลือกพาเลต Color แล้วกำหนดสีฟื้นและเส้นขอบ 3. เลือกพาเลตสะโตรกแล้วกำหนดขนาดแล้วกำหนดขนาดรูปแบบเส้น


8.10.4 ตกแจ่งข้อความด้วยค าสั่งกราฟิกสไตล์ (Graphic Styles) คือ การใส่กราฟิกสไตให้ Object ทั่วไป โดยใช้พาเลตกราฟิกสไตล์ซึ่งมีรูปแบบ Style ใน Bilbray ของสไตล์ที่เหมาะสมสำหรับ ใช้กับข้อความโดยเฉพาะ เช่น พาเลต Type Effects วิธีการเรียกใช้คำสั่ง คือ Window Graphic Style Libraries Type Effects มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิดเมนู Window Graphic Style Libraries Type Effects 2. คลิกเลือกข้อความ 3. เลือกพาเลต Type Effects แล้วเลือก Style 8.11 การปรับแต่ง ดัดแปลง และจัดรูปทรงภาพ การวาดภาพหรือวัตถุใด ๆ โดยใช้เครื่องมือวาดรูปทรงต่าง ๆ เช่น เครื่องมือ Pen Tool เครื่องมือวาด รูปทรงเรขาคณิต และรูปทรงสำเร็จรูปจากพาเลต Symbol สามารถดัดแปลงเส้นและปรับรูปทรงเพื่อให้ได้ ภาพต่าง ๆ ได้หลากหลายมากขึ้น เช่น การปรับย่อ/การขยาย การหมุน และการพลิกกลับ และการจัดลำดับ ภาพ ดังนี้ 8.11.1 การย่อ/ขยาย โดยคลิกที่เครื่องมือ Selection แล้วคลิกวัตถุที่ต้องการ ซึ่งแต่ละมุม สามารถปรับรูปทรง การย่อ/ขยาย โดยคลิกเมาส์ซ้ายค้างไว้ ณ มุมใด ๆ ของวัตถุ แล้วคลิกลากดึงย่อหรือขยาย ดังรูปที่ 8.44


8.11.2 การหมุนวัตถุโดยคลิกที่เครื่องมือ Rotate แล้วคลิกเมาส์ซ้ายค้างไว้ ณ บริเวณภาพ เพื่อปรับหมุนวัตถุตามต้องการ ดังรูปที่ 8.45 8.11.3 การจัดล าดับการงวางภาพ คือ การจัดวางภาพที่มีการวางซ้อนกันหลาย ๆ ภาพ เพื่อให้ได้ องค์ประกอบภาพที่เหมาะสม ดังนี้ 1. Bring to Front คือ การนำภาพไว้ข้างหน้าสุด โดยคลิกภาพที่ต้องการ (สีเขียว) แล้วคลิกขวาเลือก Arrange Bring to Front ดังรูปที่ 8.46


2. Bring forward คือ การนำภาพไว้ข้างหน้าถัดมาอีก 1 ขั้น โดยคลิกภาพที่ต้องการ (สีชมพู) แล้ว คลิกขวาเลือก Arrange Bring Forward ดังรูปที่ 8.47 3. Send Backward คือ การย้ายภาพไว้ข้างหลังถัดไปอีก 1 ขั้น โดยคลิกภาพที่ต้องการ (สีเขียว) แล้ว คลิกขวาเลือก Arrange Sand Backward ดังรูปที่ 8.48 4. Send to back คือ การย้ายภาพไว้ข้างหลังสุด โดยคลิกภาพที่ต้องการ (สีเขียว) แล้วคลิกขวาเลือก Arrange Seand to back ดังรูปที่ 8.49


8.12 การใช้พาเลต Pathfinder พาเลตการลักษณะของวัตถุที่เรียงช้อนกัน เพื่อการตัด การเจาะทะลุฟื้นหลัง และรวมวัตถุที่มี การช้อนทับกันอยู่ตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป โดยแบ่งคำสั่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Shape Modes และ Pathfinder การเรียกใช้คลิกเมนู Window Pathfinder เพื่อแสดงพาเลต ดังรูปที่ 8.50 8.12.1 การท างานในส่วนของ Shape Modes คือการเรียกใช้คำสั่ง 2 แบบ ดังนี้ 1. คลิกปุ่มคำสั่งจะทำให้เส้น Path ของวัตถุถูกตัดหรือรวมกันโดยทันที 2. กดคีย์ Alt + คลิกปุ่มคำสั่ง เป็นการตัดหรือรวมโดยเส้น Path ยังคงรูปทรงเดิมไม่ได้ ถูกตัดหรือรวมจริง ๆ


3.การแบ่งกลุ่มการทำงานเครื่องมือในกลุ่ม Shape Modes ดังนี้ 1. เครื่องมือ Add to shape คือ การรวบรวมหรือวัตถุเข้าด้วยกัน โดยเลือกใช้ คุณสมบัติสีฟื้นและสีเส้นของวัตถุที่อยู่ด้านบนสุด มีขั้นตอนดังนี้ (ก) คลิกเลือกวัตถุทั้งหมด (ข) คลิกเครื่องมือ รวมวัตถุที่เรียงซ้อนกันเข้าด้วยกัน โดยสีจะเปลี่ยนไปตามสี ที่อยู่ด้านบนสุด ดังรูปที่ 8.53 2. เครื่องมือ Subtract from shape area คือ การตัดเจาะวัตถุที่อยู่ด้านล่างสุดท้าย รูปทรงของวัตถุทุกชิ้นอยู่ที่ด้านบน โดยที่สีเส้นของวัตถุด้านล่างคงเดิม ดังนี้ (ก) สร้างวัตถุเพิ่มด้านบนสุดแล้วเลือกวัตถุทั้งหมด (ข) คลิกเครื่องมือ เพื่อตัดส่วนที่วัตถุที่ถูกตัดจะยังคงสีเดิม ดังรูปที่ 8.55 3. เครื่องมือ Intersect area คือ การตัดฟื้นที่วัตถุด้านนอกออก และเหลือไว้ เฉเพาะส่วนที่ช้อนทับกัน โดยการเลือกใช้คุณสมบัติสีฟื้นและสีเส้นวัตถุที่อยู่ด้านบน ดังนี้


(ก) สร้างวัตถุ 2 ชิ้นแล้วเลือกวัตถุทั้งหมด (ข) คลิกเครื่องมือ เพื่อตัดวัตถที่ไม่ทับกันออก โดยวัตถุที่ถูกตัดจะเปลี่ยนเป็นสี ด้านบน ดังรูปที่ 8.55 (4) เครื่องมือ Exclude overlapping Shape area คือ การตัดพื้นที่วัตถุส่วนที่ซ้อนทับกันออก และเหลือเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ด้านนอก โดยเลือกใช้คุณสมบัติสีพื้นและเส้นขอบวัตถุที่อยู่ด้านบนสุด มีขั้นตอนดังนี้ (ก) สร้างวัตถุแล้วเลือกวัตถุทั้งหมด (ข) คลิกเครื่องมือ เพื่อตัดวัตถุส่วนที่ทับกันออก โดยวัตถุที่ถูกตัด จะเปลี่ยนเป็นสีที่อยู่ ด้านหน้าสุด (สีม่วง) ดังรูปที่ 8.56 8.12.2 การท างาน Pathfinders คือ เครื่องมือสำหรับรวมและตัดเจาะวัตถุ โดยที่เส้น Path จะ เปลี่ยนไปตามรูปทรงใหม่ทันที และหลังจากใช้คำสั่งแล้ววัตถุทั้งหมดจะถูกรวมกลุ่มกัน (Group) ซึ่งจาก ต้องการแยกวัตถุออกจากกันนั้นต้องยกเลิก (Ungroup) หรือเลือกเครื่องมือ (Group section) ย้าย ตำแหน่ง ดังนี้


1. เครื่องมือ Divide คือ การตัดแปลงพื้นที่ด้วยเส้นพาธของวัตถุทุกชิ้นที่ซ้อนทับกันไม่ว่าวัตถุ ใดจะอยู่ด้านบนหรือด้านล่าง โดยการตัดส่วนที่ทับกันออกเป็นส่วนๆ สามารถดึงวัตถุออกแต่ละชิ้นส่วนเลือก วัตถุทั้งหมด (1) สร้างวัตถุแล้วเลือกวัตถุทั้งหมด (2) คลิกเครื่องมือ การตัดเจาะวัตถุด้านล่าง (สีเขียว) ดังรูปที่ 8.57 2. เครื่องมือ Trim คือ การตัดเจาะวัตถุด้านล่างด้วยรูปทรงวัตถุที่อยู่ด้านบนสุด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะ เป็นรูปทรงที่มีแต่สีพื้น โดยไม่มีเส้นและสามารถแยกชิ้นส่วนภาพออกจากกันได้ มีขั้นตอนดังนี้ (1) สร้างวัตถุแล้วเลือกวัตถุทั้งหมด (2) คลิกเครื่องมือ การตัดเจาะวัตถุด้านล่าง (สีเขียว) ดังรูปที่ 8.58


3. เครื่องมือ Merge คือ การรวบรวมวัตถุที่มีสีเหมือนกันเข้าด้วยกันและตัดเจาะวัตถุออก จากกันเมื่อมีสีต่างกัน มีขั้นตอนดังนี้ (1) สร้างวัตถุแล้วเลือกวัตถุทั้งหมด (2) คลิกเครื่องมี ดังรูปที่ 8.59 4. เครื่องมือ Crop คือการตัดวัตถุชื้นที่อยู่ด้านล่างให้มีรูปทรงเหมือนวัตถุที่อยู่ด้านบน ขั้นตอนดังนี้ (1) สร้างวัตถุแล้วเลือกวัตถุทั้งหมด (2) คลิกเครื่องมือ ดังรูปที่ 8.60 5. เครื่องมือ Outline คือ การแบ่งเส้น Path ของวัตถุที่ซ้อนทับกันออกเป็นท่อนๆ ตรงจุดติดกัน แต่ละจุด และทั้งนำสีพื้นของวัตถุนั้นๆ ใช้เป็นสีเส้นและยกเลิกสีพื้นเดิมออก แต่ขนาดเส้นจะถูกปรับเป็น 0 ดังนั้นหลังจากใช้คำสั่งนี้แล้วต้องกำหนดขนาดเส้นใหม่อีกครั้ง มีขั้นตอนดังนี้ (1) สร้างวัตถุแล้วเลือกวัตถุทั้งหมด (2) คลิกเครื่องมือ แล้วกำหนดเส้นขนาดเท่ากับ 8 ดังรูปที่ 8.61


6. เครื่องมือ Minus Back คือ การตัดส่วนด้านหน้าออก โดยใช้วัตถุที่อยู่ด้านหลังล่าง (สีเขียว) ในการตัด มีขั้นตอนดังนี้ (1) สร้างวัตถุแล้วเลือกวัตถุทั้งหมด (2) คลิกเครื่องมือ ดังรูปที่ 8.63


สรุปสาระส าคัญ โปรแกรม Adobe Illustrator คือ โปรแกรมสร้างภาพแบบ Vector ที่ใช้งานง่ายมีลักษณะการทำงาน คล้ายๆ กับโปรแกรม Adobe Photoshop กราฟิกแบบลายเส้นการใช้เครื่องมือวาดรูป โดยประกอบด้วยส่วน ต่างๆ เช่น การเข้า/ออกโปแรแกรม Adobe Illustrator ส่วนประกอบหน้าต่างโปรแกรม กล่องเครื่องมือการ สร้างไฟล์รูปภาพใหม่หรือจะนำภาพจากภายนอกเข้ามาตกแต่งแก้ไขการปรับมุมมองวินโดว์โปรแกรมการปรับ มุมมองเพื่อความสะดวกในการทำงาน โดยคลิกกลุ่มเครื่องมือ Screen Mode และการปรับมุมมองการทำงาน คือ การเปลี่ยนมุมมองให้เหมาะสมกับชิ้นงาน โดยคลิกคำสั่ง View Preview หรือ View Outline การ ใช้เส้นพาธ การวาดรูปเองโดยใช้เครื่องมือ Pen Tool, Stroke คือ เส้นตามขอบรูปทรงของ Object สามารถ กำหนดสี ขนาด และรูปแบบลักษณะของเส้น สีพื้น (Fill) คือ พื้นที่ด้านในของ Object สามารถกำหนดสีทั้งสี แบบทึบ การกำหนดสีพื้นแบบไล่โทนสี การใส่ลวดลายกำหนดความโปร่งใสของภาพและการปรับกำหนดค่า Filter, Effect ของ Bounding Box คือ ขอบเขตการปรับขนาดภาพ เช่น การย่อภาพการขยายภาพ และหมุน ภาพในลักษณะต่างๆ ได้ เส้น Path คือ เส้นโครงร่างพื้นฐานของ Object การกำหนดและปรับเปลี่ยนรูปทรง ของ Object, Anchor Point คือ จุดกำหนดความโค้งหรือปรับความโค้งสามารถเพิ่มและลดจำนวนจุดได้แล พการวาดรูปจากเครื่องมือสำเร็จในโปรแกรมโดยสามารถนำเครื่องเหล่านี้ประยุกต์ใช้ในการวาดรูปแบบต่างๆ การเปิดไฟล์ที่มีอยู่แล้วมุมมองของภาพ การใช้เครื่องมือวาดภาพ ส่วนประกอบของ object วิธีการควบคุมเส้น Path การใช้สี โดยการเลือกลักษณะการใช้สีจากพาเลตต่างๆ การวาดเส้นด้วยกลุ่มเครื่องมือวาดเส้น (Line) กลุ่มเครื่องมือวาดเส้น ที่ใช้สำหรับวาดเส้นแบบเส้นแบบสำเร็จรูปการวาดนั้นทำได้ 2 วิธี คือ วาดโดยการคลิก ลาก และวาดโดยการกำหนด Option ประกอบด้วยเครื่องมือๆ เช่น เครื่องมือ Line Segment เครื่องมือ Arc เครื่องมือ Spiral เครื่อง Rectangular Grid และเครื่องมือ Polar Grid และการซ่อนขอบเขตภาพ โดยการใช้ คำสั่ง Make Clipping Mask การสร้างข้อความด้วยเครื่องมือ Type มี 3 แบบ คือ เครื่องมือ Point Type Area และ Type on a Path สร้างข้อความที่สะดวกสวยงาม การปรับเปลี่ยนรูปทรง การปรับแต่งข้อความบนเส้น Path คือ การปรับแต่ง เส้น Path ด้วยการปรับขนาด การหมุนข้อความ การบิดเอี และพลิกกลับตำแหน่ง โดยการปรับส่วนประกอบ ต่างๆ ของข้อความบนเส้นพาธ การกำหนดสีพื้นและสีเส้นขอบให้กับอักษรวิธีการเช่นเดียวกันกับวัตถุทั่วไป เช่น การตกแต่งข้อความด้วยกราฟิกสไตล์เช่นการใส่กราฟิกสไตล์ให้ Object ทั่วไป โดยใช้พาเลตการฟิกสไตล์ (Graphic Styles) มีรูปแบบสไตล์ในไลบรารีของสไตล์ที่เหมาะสมสำหรับใช้กับ


ข้อความโดยเฉพาะ เช่น Type Effects การปรับแต่งดัดแปลงจัดทรงภาพ คือ การวาดภาพใดๆ โดยใช้ เครื่องมือวาดรูปทรงต่างๆ เช่น เครื่องมือ Pen Tool วาดรูปอิสระ เครื่องมือวาดรูปทรงเลขาคณิต และรูปทรง สำเร็จรูป Symbol โดยสามารถดัดแปลงเส้น และปรับรูปทรงเพื่อให้เป็นภาพต่างๆ มีควรมหลากหลายมากขี้น เช่น การปรับย่อ/การขยาย การหมุนและการพลิกกลับ การจัดลำดับภาพใช้พาเลต Pathfinder จัดการ ลักษณะของวัตถุที่เรียงซ้อนกัน การตัด เจาะทะลุ และรวมวัตถุที่มีการซ้อนทับกันอยู่ตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป โดย แบ่งคำสั่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่ม Shape Modes และ Pathfinders


Click to View FlipBook Version