กาลครั้งหนึ่ง ณ หมู่บ้านที่แสนอบอุ่น มีเด็กหญิงหน้าตาน่ารัก นั่ง นั่ เล่นดูคุณแม่ทำ อาหารอยู่ในครัว เพื่อนบ้านทุกคนต่างพากัน เรียกเธอว่า "หนูน้อยหมวกแดง" ตามสีของหมวกที่เธอใส่เป็น ประจำ และวันนี้เธอก็ได้รับคำ สั่ง สั่ จากคุณแม่ ให้นำ อาหารและ ขนมไปเยี่ยมคุณยายซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านข้าง ๆ
"เอาตะกร้านี้ไปส่งให้ถึงมือคุณยายนะจ๊ะ แล้วก็รีบไปรีบกลับ อย่าไป เที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล อย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้าด้วยล่ะ เข้าใจไหม ?" คุณแม่คนสวยกำ ชับด้วายความเป็นห่วง ลูกสาวตัว น้อยก็ตอบรับและสัญญา แล้วออกจากบ้านไปอย่างร่าเริง
ระหว่างทางไปบ้านคุณยาย บังเอิญมีหมาป่าเจ้าเล่ห์เดิน มาพบกับหนูน้อยหมวกแดง จึงเข้าไปทักทายหวังจับเด็ก หญิงทำ เป็นอาหารมื้อเย็น "สวัสดีจ้ะสาวน้อย มาทำ อะไรใน ป่าตรงนี้คนเดียวเหรอจ๊ะ ?"
"หนูกำ ลังไปเยี่ยมคุณยายที่หมู่บ้านใกล้ ๆ นี้เองค่ะ" หนูน้อย หมวกแดงตอบอย่างเป็นมิตร แต่กลับทำ ให้เจ้าหมาป่าคิดอุบาย หลอกล่อ หวังจับคุณยายของเธอมาเป็นเหยื่อด้วยอีกคน "แต่ว่า สาวน้อย.. เอาตะกร้าเล็ก ๆ ไปแค่นี้ คุณยายเสียใจแย่เลย ฉันว่า เราไปเก็บดอกไม้สวยๆ มาเป็นของขวัญเพิ่มกันเถอะ" หมาป่า ชักชวนให้หนูน้อยหมวกแดงออกนอกเส้นทาง มันจะได้รีบตรง ไปจับคุณยายกินก่อน แล้วดักรอหนูน้อยหมวกแดงที่บ้านนั้นเลย
โชคไม่ดีที่หนูน้อยหมวกแดงหลงเชื่อคำ ชวน แล้วหันไปเก็บ ดอกไม้ และเดินเล่นอย่างเพลิดเพลินจนลืมทั้งเวลา ทั้งคำ ตักเตือนของคุณแม่ไปหมดสิ้น
กระทั่ง ทั่ เจ้าหมาป่าเดินทางไปถึงหมู่บ้านข้าง ๆ แล้วจับตัวคุณ ยายซ่อนเอาไว้ในตู้ ก่อนนำ เสื้อผ้ามาใส่ เพื่อปลอมตัวเป็นคุณ ยายนอนป่วยอยู่บนเตียง รอให้หนูน้อยหมวกแดงมาถึงแล้วจับ กินทั้งยายทั้งหลานพร้อมกันทีเดียว
เมื่อหนูน้อยหมวกแดงรู้ตัวว่าทำ ผิดคำ สั่ง สั่ คุณแม่ ก็รีบวิ่งไปหาคุณ ยายที่บ้านทันที แต่กลับพบว่าคุณยายของเธอนั้นมีท่าทางและ หน้าตาแปลกประหลาดไปจากเดิม
"คุณยายคะ ทำ ไมคุณยายต้องนอนคลุมโปงด้วยล่ะคะ ?" หนูน้อยถามด้วยความสงสัย "ยายเป็นไข้ไม่สบาย ยายเลยหนาวจ้ะหลาน" หมาป่าดัดเสียงตอบ คุณยายคะ ทำ ไมเสียงของคุณยายแปลกจังเลยคะ ?" หนูน้อยถามอีกครั้ง "ยายเจ็บคอ ไอหนักมาก เสียงเลยเพี้ยนไปหน่อยจ้ะหลาน" หมาป่า ตอบพร้อมแกล้งทำ เป็นไอค่อกแค่ทำ ให้หนูน้อยหมวกแดงสังเกตเห็น เขี้ยวแหลมในปาก
"คุณยายคะ ทำ ไมคุณยายถึงมีเขี้ยวยาวขนาดนั้นล่ะคะ ?" หนูน้อยหมวกแดงถาม แล้วค่อย ๆ เดินถอยออกมา เพราะเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย "ก็เพราะยายมีเขี้ยวไว้จับหลานกินไงล่ะ เจ้าหนูน้อย !!" คราวนี้หมาป่าไม่แสร้งทำ ตัวใจดีอีกต่อไป พร้อมกระโจนมาตะครุบตัวหนูน้อยหมวกแดงอย่างเกรี้ยวกราด แต่โชคดีที่เสียงกรี๊ดของหนูน้อยดังไปถึง นายพรานหนุ่มสองคนที่ผ่านมาพอดี
ปัง ปัง ปัง !!! เสียงปืนดังขึ้นสามนัด พร้อมกับร่างของ หมาป่าดิ้นรนอย่างเจ็บปวด นายพรานหนุ่มบุกเข้ามาช่วยชีวิต หนูน้อยหมวกแดง และพาคุณยายออกจากตู้เสื้อผ้าได้อย่าง ปลอดภัย หนูน้อยหมวกแดงสารภาพความผิด และขอโทษคุณ ยายที่ตัวเองเถลไถลจนได้รับอันตรายกันทั้งคู่
"ยายไม่โกรธอะไรหรอกจ้ะ แค่หนูไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว แต่ ต้องสัญญากับยายก่อนนะว่าจะไม่เชื่อฟังคนแปลกหน้า ไม่ เล่นซนจนลืมเวลาแบบคราวนี้อีก" หนูน้อยหมวกแดงพยัก หน้ารับคำ พอคุณยายเห็นดังนั้นก็ยิ้มรับ แล้วเลี้ยงอาหารมื้อ อร่อยให้นายพรานแทนคำ ขอบคุณ ก่อนทั้งสองจะพาหนู น้อยหมวกแดงกลับสู่อ้อมกอดของคุณแม่ที่บ้านโดย สวัสดิภาพ..
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เด็ก ๆ ควรมีวินัยในตนเอง และเชื่อฟังคำ สั่ง สอน รวมถึงคำ แนะนำ ของคุณพ่อคุณแม่ ถ้าได้รับ อนุญาตให้ออกไปข้างนอกแล้ว ก็ไม่ควรเถลไถลไปไหน ไกลจนมืดค่ำ และควรกลับบ้านให้ตรงเวลาที่กำ หนด ที่ สำ คัญต้องพยายามหลีกเลี่ยง ไม่พูดคุย หรือรับของจาก คนแปลกหน้าโดยเด็ดขาด เพราะพวกเขาอาจเป็นคนไม่ ดีที่หวังขโมยทรัพย์สินเงินทอง หรือทำ ร้ายร่างกายแล้ว เป็นอันตรายต่อชีวิต เหมือนกับหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ ที่ คิดวางแผนกินหนูน้อยหมวกแดงเป็นอาหาร แต่ถ้าเผลอ ทำ ตัวผิดไป ก็ต้องรู้จักขอโทษขอโพย เอาความผิดพลาด มาเป็นบทเรียน แล้วอย่ากลับไปทำ ผิดซ้ำ สองอีกนะคะ