รายงาน
การบำรุงรักษาระบบไฟฟา้ อาคารสงู
กรณีศึกษา อาคารไอดโี อ โมบิ สุขมุ วทิ 66
เสนอ
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. กุณฑล ทองศรี
จัดทำโดย
นายปภังกร ปัณณาวิชย์ รหสั 640407300853
นายศราวุฒิ พุฒภา รหสั 640407300969
สบิ เอกวัชรนิ ทร์ หวน่ั ใจ รหัส 640407300989
นายกฤษณ์ น่มิ สุข รหสั 640407301111
นายปญั ญา ระไพเพดิ รหัส 640407301292
นายปวรเวช วันทะมาศ รหัส 640407301292
นายธนากร ฝั้นแก้ว รหัส 640407301430
นายธนภัทร สารมโน รหสั 640407301503
นางสาวรตั นาภรณ์ พัฒนาภรณ์ รหัส 640407301522
............................................................................................................................. .....
รายงานฉบบั น้เี ป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ า ทอ. 375 เทคโนโลยีวศิ วกรรมการซ่อมบำรงุ
หอ้ งเรยี น IET 19/2 สาขาวิชาเทคโนโลยีวศิ วกรรมอุดสาหการ
คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบณั ฑิต
ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564
คำนำ
รายงานฉนบั นี้จัดทำขนึ้ เพื่อเป็นสว่ นหนึ่งของรายวชิ ารายวชิ าทอ. 375 เทคโนโลยวี ศิ วกรรมการซ่อม
บำรุง เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษาเครื่องจักรในอุตสาหกรรม
กรณศี ึกษา อาคารไอดีโอ โมบิ สุขุมวทิ 66 และได้ศึกษาอยา่ งเขา้ ใจเพื่อประโยชน์กับการเรยี น
คณะผ้จู ดั ทำหวังวา่ รายงานฉบับนีจ้ ะเป็นประโยชน์กับผอู้ า่ นหรอื นกั เรยี น นกั ศกึ ษา ที่กำลังศึกษาหา
ข้อมูลเร่ืองน้ีอยู่ หากมีข้อแนะนำหรอื ข้อผดิ พลาดประการใด ผู้จดั ทำขอน้อมรับไวแ้ ละขออภยั มา ณ ทนี่ ดี้ ว้ ย
คณะผู้จัดทำ
สารบญั หนา้
เร่อื ง
บทที่ 1 บทนำ 1
3
1.1 ความเป็นมาของการบำรุงรกั ษา 6
1.2 ความหมายการบำรงุ รกั ษา
1.3 วตั ถุประสงคข์ องการบำรุงรักษา 6
บทที่ 2 ทฤษฎีท่ีเกยี่ วขอ้ ง 7
2.1 ประเภทของการบำรงุ รักษา 8
2.2 จุดมงุ่ หมายของการบำรุงรกั ษา
2.3 ทฤษฎีแผนผงั เหตุและผลของการวเิ คราะห์เครื่องจัก 10
บทท่ี 3 การดำเนนิ งาน 11
3.1 ขอ้ มูลเบื้องต้น 20
3.2 กรณีศึกษา 20
3.3 แผนผังระบบไฟฟ้าอาคาร
3.4 การควบคมุ อะไหล๋ของอุปกรณไ์ ฟฟ้าภายในอาคาร 22
บทที่ 4 ผลการเพิ่มประสิทธิภาพ 23
4.1 การวัดผลหลงั ปรับปรงุ
4.2 การวเิ คราะห์ผลหลงั การปรบั ปรงุ 24
บทท่ี 5 สรุปและข้อเสนอแนะ 24
5.1 สรปุ ผลวิจยั 25
5.2 ข้อเสนอแนะ
บรรณานกุ รม
1
บทท่ี1
บทนำ
1.1 ความเป็นมาของการบำรงุ รักษา
มนุษย์เราเริ่มรู้จักการบำรุงรักษา เมื่อเจริญเติบโตขึ้น จนกระทั่งเริ่มช่วยเหลือ ตนเองได้ใช้อุปกรณ์
เครื่องมือ ทำความสะอาดร่างกายประจำวันเปน็ เช่น แปรงสีฟัน หวี ขันน้ำ แก้วน้ำ กล่องสบู่ ฯลฯ ซึ่งอุปกรณ์
ต่าง ๆ เหล่านี้จำเป็นตอ้ งใชเ้ ป็นประจำทุกวนั จึงต้องมีการจัดเก็บ ทำความสะอาด ให้มีความพร้อมใช้งานอยู่
เสมอไม่เช่นนั้นต้องค้นหาและจดั เตรียมกันใหม่อยเู่ รื่อยหรือการท่ีเราไปหาหมอตรวจสุขภาพประจำปีก็เพ่ือให้รู้
ว่าสภาพร่างกายของเราปัจจุบันน้ียังคงปกติอยู่หรือไม่ มีสมรรถนะความพร้อมของร่างกายดีอยู่ หรือเปล่าซ่ึง
เราเรยี กกันว่า การตรวจเช็คเพอื่ การรกั ษาสขุ ภาพท่ีดีให้คงอยู่กบั ตัวเราไว้น่ันเอง
ในการปฏิบัติงาน การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร เป็นปัจจัยสำคัญ 1 ใน 4 อย่าง(4M ซึ่งประกอบด้วย
คน เครื่องจักร วัตถุดิบ และวิธีการ) ของการทำงานเพื่อให้ได้ผลผลิตออกมาดี ตามความต้องการ สมรรถนะ
ความพร้อมในการใช้งานของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร จึงมีความจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาอยู่
ตลอดเวลา เพราะถ้าเครื่องมือบกพร่องหรือใช้ไม่ได้น่ันก็คอื องค์ ประกอบในการทำงานไม่สมบูรณ์หรือไม่ครบ
ผลผลิตกจ็ ะไม่สามารถผลติ ออกมาได้หรือได้ก็ไมด่ ี
การบำรุงรักษาที่ดี เมื่อมีการใช้งานอุปกรณ์ แล้วก็จะต้องทำความสะอาด ตรวจสอบสภาพหลังการใชง้ านคนื
สภาพให้มีความพร้อมในการใช้งานตลอดเวลา และจัดเก็บให้เป็นระเบียบด้วย แต่ในทางปฏิบัติจริง ผู้คนส่วน
ใหญ่มักไม่ปฏิบัติตามน้ี ทั้งงานส่วนตัว เช่น บ้านพักอาศัย รถยนต์ หรืออุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้
ส่วนตัว และงานส่วนรวมเช่น สถานที่ราชการ อาคาร บริษัท โรงงาน เครื่องจักรจึงทำให้เกิดสภาพไม่พร้อม
ใช้งานเกดิ ขึ้นกนั บ่อยๆ
การแก้ไขปัญหาสภาพไม่พร้อมใช้งานของอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร ซึ่งเป็นเครื่องใช้ส่วนตัวเมื่อเกิด
เหตุขัดข้อง หรือผิดปกติจากสภาพการใช้งานเดิมที่เคยใช้อยู่ซึ่งมีหลายลักษณะเช่น ใช้งานไม่ได้เลยซึ่งเรา
เรียกว่าเสีย ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้างซึ่งเราเรียกว่า เดิน ๆ หยุด ๆ หรือการหยุด ชะงัก ใช้ได้เพียงบางหน้าท่ีเทา่ นัน้
ทำงานไม่เต็มความสามรถที่กำหนดไว้ ใช้งานได้แต่คุณภาพของงาน ไม่สม่ำเสมอดีบ้าง เสียบ้าง ใช้ได้แต่ช้า
กวา่ เดมิ มาก
การซ่อมอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้หรือ เครื่องจักร ซึ่งเป็นของใช้ส่วนตัว ของใช้ประจำบ้านเมื่อเกิด
เหตุขัดข้อง หรือผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเครื่องมืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง
ๆ แม้แต่จักรยาน จกั รยายนต์ รถยนตก์ เ็ ช่นเดียวกัน เคร่ืองใช้ประจำบ้านส่วนใหญ่ จะใช้วธิ กี ารซ่อม แบบเสีย
แล้วจึงซอ่ ม (Break down) เช่นหลอดไฟฟา้ วิทยุ โทรทัศน์ หมอ้ หงุ ข้าวไฟฟา้ นาฬกิ า ไมโครเวฟ พัดลม แอร์
2
คอมพิวเตอร์ เครื่องเขียน โทรศัพท์ ฯลฯ ไม่มีใครใช้วิธีซ่อมก่อนเสีย (Preventive) เหมือนกับรถยนต์ เพราะ
รถยนตถ์ ้าปล่อย ให้รถถงึ กบั เสยี ว่งิ ไมไ่ ด้กจ็ ะต้องเดินกันไปทำงานเลยทีเดียว
แต่ของใช้ส่วนรวม อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักร ในบริษัทหรือโรงงานเราจะใช้วิธีการซ่อมแบบ
เคร่อื งใชป้ ระจำบ้านไม้ได้เพราะในระหว่างการปฏบิ ัติงานอยู่ ถา้ หากเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ เกิดเหตุขัดข้องใช้งาน
ไม่ได้หรือสภาพไม่พร้อมใช้งาน นั่นก็คือปฏิบัติงานไม่ได้นั่นเอง จะไม่มีผลผลิตหรือบริการออกมา ซึ่งไม่ได้
หมายความว่าจะเป็นเฉพาะบุคคลหรือหน่วยงานเดียวเท่านั้น แต่มันเชื่อมโยงกันทั้งองค์การ เพราะงานมัน
ต่อเนอ่ื งกัน ตวั อยา่ ง เชน่ ถา้ เครอ่ื งจักรเสียช่วงใด ช่วงหน่ึงของกระบวนการ กไ็ ม่มีผลผลิตหรือบริการออกมา
เลย มันสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากต่อองค์กรหรือโรงงาน ดังนั้น จึงมีแนวคิดซ่อมก่อนเสียเกิดขึ้น ใน
สถานที่ทำงาน อาคาร โรงงาน ซึ่งต่อมาเราเรียกกันว่า การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ( Preventive
maintenance ) นั่นเอง
ทำไมเมื่อมกี ารบำรุงรักษา เชิงป้องกนั แล้วรถยนต์ ยงั เสียหายระหว่างการใช้งานอยเู่ ลย ผทู้ ีข่ ับรถไปทำงาน ใช้
รถมานาน ๆ ก็จะเข้าใจได้ดี ว่าเราดูแลบำรุงรักษารถ ตามกำหนดระยะเวลาที่บริษัทผู้ผลิตกำหนดมาให้เป็น
ประจำ นำรถไปเข้าศูนย์บริการตรวจเช็กตามระยะทางและซ่อมเชิงป้องกันด้วยการเปลี่ยนอะไหล่ก่อน การ
ชำรุดเสียหายจะเกิดขึ้นทุกครั้งยอมเสียค่าใช้จ่ายมากมาย แต่รถยนต์ก็ยังมีปัญหา ในระหว่างการใช้งาน เสีย
ระหว่างการเดินทาง เช่น เครื่องยนต์ขัดข้อง แบตเตอรี่ไฟหมด ระบบส่งกำลัง เกียร์ เพลา คลัช ขัดข้อง ยาง
รั่ว ซึม แตก ระบบเบรก ศูนย์ล้อ น้ำหล่อเย็น หม้อน้ำตัน แอร์เสีย ฯลฯ ทำไมเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้น
การบำรุงรกั ษาเชงิ ปอ้ งกนั ทีท่ ำไปช่วยอะไรไมไ่ ด้เลยหรือ
เครื่องจักรในโรงงานก็ เช่นเดียวกันทำไมจึงยังมีการเสียหายระหว่างทำการผลติ (Beak down) ทั้ง ๆ นี้มีการ
บำรุงรักษาเชิงปอ้ งกัน กันอย่างดี บางโรงงานเครื่องจักรยังใหม่อยู่เลย บางโรงงานเพิ่งจะซ่อมไปเมื่อสัปดาห์ท่ี
ผ่านมานี่เอง บางโรงงานโชคดีหน่อย 6 เดือนแล้วเครื่องจักรยังไม่เสียเลย ทำไมจึงไม่มีความแน่นอนเลย ทุก
วันน้ีทำงานอยบู่ นความเส่ียงตลอดเวลา ถา้ วันไหนเครอ่ื งจกั รเสยี คนงานก็จะไม่มีอะไรทำ น่งั รอนอนรอกันว่า
เมื่อไร ช่างจะซ่อมเสรจ็ สินค้าก็สง่ ลูกคา้ ไม่ได้ รายไดก้ ไ็ มม่ ีแต่ก็ต้องจ่ายค่าแรง ใหค้ นงานเตม็ วัน ความเสียหาย
ที่เกิดข้ึนมองเห็นได้ทันที ดว้ ยเหตนุ ก้ี ระมังผูบ้ ริหารโรงงานจึงอยูเ่ ฉยไมไ่ ด้ พยายามหาวิธีดแู ลเครอ่ื งจักร ไมย่ อม
ให้เคร่อื งจกั รเสยี หาย ระหวา่ งการผลติ เพราะรฤู้ ทธิ์ เดชของ Break down ดี มวี ธิ ีการหนึ่งทโ่ี รงงานหลายแห่ง
คน้ พบ และนำไปทดลองใช้ จนประสบผลสำเร็จมาแลว้ หลายโรงงานแต่เป็นกิจกรรมสไตลญ์ ป่ี ุ่น
ประเทศญี่ปุ่นนำระบบการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน( Preventive Maintenance : PM ) มาจากประเทศ
สหรฐั อเมริกาพร้อมๆกับการเจริญเติบโตของอตุ สาหกรรมกระบวนการซ่ึงจะใช้งานเคร่ืองจักรเป็นหลัก PM จึง
มบี ทบาทสำคญั ยงิ่ ตอ่ การเพม่ิ ขน้ึ ของคุณภาพและผลผลติ ของผลิตภัณฑ์
3
ต่อมาเมื่อมีความต้องการลดแรงงานในอุตสาหกรรมประกอบและแปรรูปจึงได้มีการใช้เครื่องจักรทดแทน
คนงานมากขึ้นนั่นคือทำให้มีการพัฒนาเครื่องจักรเป็นระบบอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นจนเป็น
หุ่นยนต์ (ROBOT) ทำให้มีความสนใจพัฒนา PM เพิ่มขึ้นโดยให้มีลักษณะเฉพาะในสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งเรียกกัน
ว่า การบำรุงรักษาทวีผลที่ทุกคนมีส่วนร่วม ( TOTAL PRODUCTIVE MAINTENANCE ) หรือเรียกกันง่าย ๆ
ว่า TPM
1.2 ความหมายการบำรงุ รักษา
การบำรุงรักษา (Maintenance) หมายถึง :“การพยายามรกั ษาสภาพของเคร่ืองมอื เคร่ืองจักรต่างๆ ใหม้ สี ภาพ
ทพ่ี ร้อมจะใช้งานอยูต่ ลอดเวลา”
การบำรุงรักษานั้นครอบคลุมไปถึงการซ่อมแซมแซม (Repair) เครื่องด้วย ในงานบริหารการผลิตหรือ
การบริการ มกั จะหลีกเล่ยี งงานเพิ่มเติมทีส่ ำคญั งานหน่ึงคอื การซอ่ มและบำรุงรักษา ไปไม่ได้ ถงึ แม้ว่างานซ่อม
และบำรุงรักษาไม่ใช่งานผลิตโดยตรง แต่งานซ่อมและบำรุงรักษาก็มีบทบาทช่วยให้การผลิตและการบริการ
ขององค์กรนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกปัจจุบันที่การผลติ และการบริการจำเป็นท่ีจะตอ้ ง
อาศยั อปุ กรณแ์ ละเครือ่ งจักรมากขน้ึ การทเี่ ครื่องจกั รเกิดขัดขอ้ งขึ้นมากะทนั หันหรือไม่สามารถใช้งานได้ จะทำ
ให้มีผลกระทบโดยตรงต่อประสทิ ธิภาพการผลิตและการบรกิ ารนน้ั ๆ การท่จี ะได้มาซึ่งเครอ่ื งจกั รท่ีมคี ณุ ภาพน้ัน
ต้องประกอบดว้ ย
(1) มีการออกแบบที่ดีและตรงตามความประสงค์ต่อการใช้งาน มีความเที่ยงตรงแม่นยำ รวมทั้ง สามารถ
ทำงานได้เต็มกำลงั ความสามารถท่ีออกแบบไว้
(2) มกี ารผลิต (หรือสรา้ ง) ที่ให้ความแข็งแรงทนทาน สามารถทำงานได้นานที่สดุ และ ตลอดเวลา
(3) มกี ารตดิ ตัง้ ในสถานทีท่ เี่ หมาะสมและสะดวกต่อการใช้งาน
(4) มกี ารใชเ้ ปน็ ไปตามคุณสมบัตแิ ละสมรรถนะของเครอ่ื ง
(5) มีระบบการบำรุงรักษาที่ดีเนื่องจากเครื่องมือเครื่องใช้เมื่อถูกใช้งานไปนาน ๆ ก็ต้องมีการ เสื่อมสภาพ
ชำรุด สึกหรอ เสียหายขัดข้อง ดังนั้น เพื่อให้อายุการใช้งานเครื่องมือเครื่องใช้ยืนยาว สามารถใช้งานได้ตาม
ความต้องการของผู้ใช้ ไมช่ ำรดุ หรอื เสยี บ่อยๆ ต้องมี “การบำรงุ รักษา เคร่อื งจักรเครื่องมือเครื่องใช้” ในระบบ
การดำเนนิ งานดว้ ย จึงจะสามารถควบคมุ การทำงานของเคร่ืองมือได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
1.2.1 จุดมุ่งหมายของการบำรงุ รักษา
1.2.1.1. เพื่อให้เครื่องมือใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล (Effectiveness) คือ สามารใช้เครื่องมือ
เครอ่ื งใช้ไดเ้ ต็มความสามารถและตรงกับวัตถุประสงค์ท่ีจดั หามามากท่ีสุด
4
1.2.1.2. เพื่อให้เครื่องมือเครื่องใช้มีสมรรถนะการทำงานสูง (Performance) และช่วยให้เครื่องมือ
เครื่องใช้มีอายุการใช้งานยาวนาน เพราะเมื่อเครื่องมือได้ใช้งานไประยะเวลาหนึ่งจะเกิดการสึกหรอ ถ้าหาก
ไม่มกี ารปรบั แต่งหรอื ซอ่ มแซมแล้ว เคร่อื งมืออาจเกิดการขดั ข้อง ชำรดุ เสยี หายหรอื ทำงานผิดพลาด
1.2.1.3. เพื่อให้เครื่องมือเครื่องใช้มีความเที่ยงตรงน่าเชื่อถือ (Reliability) คือ การทำให้เครื่องมือ
เครอื่ งใช้มีมาตรฐาน ไมม่ คี วามคลาดเคลอ่ื นใด ๆ เกิดขน้ึ
1.2.1.4. เพื่อความปลอดภัย (Safety) ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญ เครื่องมือเครื่องใช้จะต้องมีความ
ปลอดภัยเพียงพอต่อผู้ใช้งาน ถ้าเครื่องมือเคร่ืองใช้ทำงานผิดพลาด ชำรุดเสียหาย ไม่สามารถทำงานได้
ตามปกติ อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และการบาดเจ็บต่อผู้ใช้งานได้ การบำรุงรักษาที่ดีจะช่วยควบคุมการ
ผดิ พลาด
1.2.1.5. เพื่อลดมลภาวะของสิ่งแวดล้อม เพราะเครื่องมือเครื่องใช้ที่ชำรุดเสียหาย เก่าแก่ ขาดการ
บำรุงรกั ษา จะทำใหเ้ กิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เชน่ มีฝุน่ ละอองหรือไอของสารเคมีออกมา มเี สยี งดัง เป็น
ตน้ ซ่ึงจะเปน็ อันตรายต่อผปู้ ฏิบัติงานและผทู้ เ่ี กย่ี วข้อง
1.2.1.6. เพื่อประหยัดพลังงาน เพราะเครื่องมือเครื่องใช้ส่วนมากจะทำงานได้ต้องอาศัย
พลงั งาน เช่น ไฟฟ้า น้ำมนั เช้อื เพลิง ถ้าหากเครอื่ งมอื เครื่องใช้ได้รบั การดูแลให้อยู่ในสภาพดี เดนิ ราบเรียบ
ไม่มีการรวั่ ไหลของน้ำมนั การเผาไหม้สมบรู ณ์ กจ็ ะสนิ้ เปลืองพลังงานน้อยลง ทำใหป้ ระหยดั คา่ ใช้จ่ายลงได้
1.2.2 การบำรงุ รักษาเครอ่ื งมอื
เครื่องจักร เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงฝึกงานส่วนใหญ่จะมีราคาแพง ถ้าหากมีการชำรุดเสียหายเกิดขึ้น
แลว้ ย่อมจะเป็นการเปลืองงบประมาณของสถานศึกษาเป็นอยา่ งมาก
การบำรุงรักษาเครื่องจักร อุปกรณ์และเครื่องมือนับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ควรทำการซ่อมแซมต่อเมื่อได้เกิด
ข้อบกพร่องบางอย่างแก่เครื่องจักรแล้วเท่านั้น ควรป้องกันโดยการบำรุงรักษาเครื่องจักร อุปกรณ์และ
เครื่องมอื เหลา่ นน้ั ให้สามารถใช้งานไดอ้ ยา่ งประสิทธภิ าพ
1.2.3 วตั ถุประสงคใ์ นการบำรุงรักษาเครอ่ื งจกั รอุปกรณ์
การบำรงุ รักษาเคร่ืองจักรอปุ กรณ์และเครอ่ื งมอื มวี ัตถุประสงค์หลายๆประการ ไดแ้ ก่
1.2.3.1. เพื่อชะลอความเสื่อมสภาพของเคร่อื งจักร เคร่ืองมือ และอุปกรณ์
1.2.3.2. เพอ่ื ประหยดั คา่ ใชจ้ ่าย ในการซ่อมแซมในส่วนทีช่ ำรุด และส่วนทเี่ กีย่ วข้อง
1.2.3.3. เพื่อปอ้ งกันอันตรายท่ีเกดิ ขึน้ กบั ผปู้ ฏบิ ตั งิ านเนื่องจากอุบตั เิ หตุ
1.2.3.4. เพื่อลดเวลาสูญเปล่าเน่ืองจากต้องหยดุ ทำงาน เน่ืองจากการซ่อมแซม
1.2.3.5. เพื่อความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ยในการปฏิบตั ิงาน
5
1.2.4 ลักษณะของการบำรงุ รกั ษา
การบำรงุ รกั ษาเครือ่ งจกั ร อุปกรณแ์ ละเครื่องมือแบ่งออกเป็น 2ลกั ษณะคือ
1.2.4.1. การบำรงุ รกั ษาเพ่อื ป้องกันไมใ่ หเ้ กิดการเสียหาย
1.2.4.2. การซอ่ มบำรุงเมอ่ื เคร่อื งจักรอปุ กรณ์ชำรุด
1.2.5 ขน้ั ตอนการบำรงุ รักษาเพอ่ื ป้องกนั
1.2.5.1. กำหนดนโยบายในการบำรุงรกั ษา
1.2.5.2. ทำการเลอื กและกำหนดอปุ กรณ์เครื่องจักรอปุ กรณท์ สี่ ำคญั
1.2.5.3. ทำการกำหนดมาตรฐาน
1.2.5.4. การวางแผนบำรุงรกั ษา
1.2.5.5. การวางแผนตรวจสอบ
1.2.5.6. การดำเนินการ
1.2.5.7. การบันทกึ
1.2.5.8. การประเมนิ ผล
1.2.6 ผลเนอื่ งมาจากการจัดมาตรการบำรงุ รักษาที่ถูกต้อง
1.2.6.1. ทำให้สามารถซ่อมเครื่องจักร อุปกรณ์และเครื่องมือที่ชำรุดได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ผู้
ซอ่ มไม่ตอ้ งเสียเวลาวนิ ิจฉยั สาเหตุและวธิ ีแก้ไขอาการท่ปี รากฏออกมาและยังชว่ ยให้ซ่อมได้ถกู จดุ อีกด้วย
1.2.6.2. สามารถใช้เปน็ ข้อมลู สำหรบั การจดั ทำคู่มือปฏิบตั ิงานซ่อมและบำรุงรักษา โดยยกสาเหตุและ
วธิ ีแก้ไขในแตล่ ะเรือ่ งไปเป็นหัวขอ้ เรอ่ื งสำหรบั พจิ ารณาการเขียนคู่มอื ปฏิบตั งิ าน
1.2.6.3. ใชว้ างแผนหรือกำหนดแผนงานบำรุงรกั ษา โดยการนำเอาผลการวเิ คราะห์แนวโนม้ ซึ่งคาดว่า
เครื่องจักรจะถึงกำหนดการชำรุดเมือ่ ใด
1.2.6.4. ใช้เป็นแนวทางของการจัดเตรียมอะไหล่สำหรับการซ่อมและบำรุงตลอดจน การจัดเตรียม
งาน เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ตา่ งๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสมและถกู ต้องอกี ดว้ ย
1.2.6.5. ใช้เป็นข้อมูลในการวิจัยเครื่องจักรน้ัน เพื่อพิจารณา ว่าสมควรจะใช้ต่อไปหรือสมควรเลิกใช้
หรือควรจะปรับปรงุ อย่างไร
1.2.7 การจัดบำรุงรกั ษาให้มีประสิทธภิ าพ
การจัดบำรุงรักษาให้มีประสิทธิภาพจำเป็นจะต้องทราบถึงอุปสรรคต่าง ๆ อย่างชัดเจนและพยายามขจัด
อุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดข้ึนเหล่านั้นแลว้ กำหนดเป็นแนวทางท่ีแน่นอนในการบำรุงรักษาต่อไป
6
1.2.7.1. อุปสรรคทีม่ ีผลตอ่ การบำรุงรกั ษา
1.2.7.2. แนวทางปฏิบตั เิ กย่ี วกบั การบำรุงรักษา
1.3 วัตถปุ ระสงคข์ องการบำรงุ รัก
1.3.1 ปรับปรุงพฒั นาคุณภาพของผลิตภณั ฑ์
1.3.2 ลดคา่ ใชจ้ า่ ย และการส้ินเปลือง
1.3.3 ปรบั ปรุงพฒั นาสถานะของการบำรุงรักษา
1.3.4 ปรับปรุงพฒั นาเคร่ืองจักร อปุ กรณ์ให้มีประสิทธภิ าพ
1.3.5 ปรบั ปรงุ พัฒนาประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการบำรุงรกั ษา
บทที่ 2
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
2.1 ประเภทของการบำรุงรกั ษา
Preventive Maintenance (PM) คือ การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เป็นหนึ่งในรูปแบบการดูแลสภาพ
เคร่ืองจักรและอุปกรณภ์ ายในโรงงาน ทใี่ ชก้ ารตรวจสอบ ซอ่ มแซม หรือเปลีย่ นแปลงอปุ กรณต์ ่างๆ ตามเวลาที่
มีการกำหนดเอาไว้
ยกตัวอย่าง ชิ้นส่วนอุปกรณ์ A มีอายุการใช้งานขั้นต่ำอยู่ที่ 4,500 ชั่วโมง แผนการทำ Preventive
Maintenance คอื การเปล่ียนช้ินสว่ นอปุ กรณ์ A ภายใน 4,400 ชวั่ โมง เพ่ือปอ้ งกันความผิดพลาดทอ่ี าจเกิดข้ึน
ในกระบวนการผลิต แมว้ ่าในความเป็นจริง ชนิ้ ส่วนอปุ กรณ์ A จะสามารถใชไ้ ดม้ ากกว่า 4,500 ชว่ั โมงก็ตามที
ข้อดีและข้อเสียของ PREVENTIVE MAINTENANCE
ข้อดี
ทำให้การผลิตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง การใช้งาน Preventive Maintenance ทำให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่
เกี่ยวข้องมีการวางแผนระยะยาวในการใช้งาน คนในโรงงานรับรู้ว่าอุปกรณ์ใดควรเปลี่ยนเวลาไหน หลีกเลี่ยง
อุบตั เิ หตหุ รอื ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึน้ จากอายุการใชง้ าน รวมถึงการใชง้ านอุปกรณ์ที่หมดระยะเวลาประกัน
ได้ประหยัดค่าใช้จ่าย Preventive Maintenance ช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจนทำให้ส่งผลกระทบต่อ
7
งานและต้นทุนโดยรวมได้ อีกทั้งยังส่งผลให้เคร่ืองจกั รและอุปกรณ์ที่เกี่ยวขอ้ งสามารถทำงานไดอ้ ย่างยาวนาน
ย่งิ ขึน้ อีกด้วย
ข้อเสีย
ข้อมูลไม่ Real-Time สิ่งที่เป็นจุดด้อยมากที่สุดสำหรับ Preventive Maintenance คือปัจจัยด้าน “เวลา”
เนื่องจากความเป็นแผนงานที่ตรงไปตรงมา ขาดความยืดหยุ่น ทำให้การบำรุงรักษาอุปกรณ์บางประเภท ช้า
เกินไป หรือเรว็ เกนิ ไป อกี ทง้ั ยังไมส่ ามารถปอ้ งกนั กรณีเครือ่ งจักรเสียหายแบบไม่คาดคิดได้ด้วย
ใช้เวลาในการบำรุงรักษามากพอสมควร เนื่องจาก Preventive Maintenance จะมีการทำงานตามตาราง
เสมอ ทำให้ทางโรงงานต้องมีการแบ่งเวลามาทำงานในการบำรุงรักษา ซึ่งบางครั้งเราก็จำเป็นต้องเปลีย่ นหรือ
ซอ่ มแซมทง้ั ๆทีเ่ ครอื่ งจักรไม่มปี ญั หาใดๆ
2.2 จดุ มุ่งหมายของการบำรุงรกั ษา
2.2.1. เพื่อให้เครื่องมือใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล (Effectiveness) คือ สามารใช้เครื่องมือ
เคร่ืองใชไ้ ดเ้ ต็มความสามารถและตรงกบั วตั ถปุ ระสงค์ทจ่ี ดั หามามากท่ีสุด
2.2.2. เพื่อให้เครื่องมือเครื่องใช้มีสมรรถนะการทำงานสูง (Performance) และช่วยให้เครื่องมือ
เครื่องใช้มีอายุการใช้งานยาวนาน เพราะเมื่อเครื่องมือได้ใช้งานไประยะเวลาหนึ่งจะเกิดการสึกหรอ ถ้าหาก
ไมม่ กี ารปรับแต่งหรอื ซอ่ มแซมแล้ว เครื่องมืออาจเกิดการขัดข้อง ชำรดุ เสียหายหรือ ทำงานผดิ พลาด
2.2.3. เพื่อให้เครื่องมือเครื่องใช้มีความเที่ยงตรงน่าเชื่อถือ (Reliability) คือ การทำให้เครื่องมือ
เครื่องใช้มีมาตรฐาน ไมม่ คี วามคลาดเคลือ่ นใด ๆ เกิดขึน้
2.2.4. เพื่อความปลอดภัย (Safety) ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญ เครื่องมือเครื่องใช้จะต้องมีความ
ปลอดภัยเพียงพอต่อผู้ใช้งาน ถ้าเครื่องมือเครื่องใช้ทำงานผิดพลาด ชำรุดเสียหาย ไม่สามารถทำงานได้
ตามปกติ อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และการบาดเจ็บต่อผู้ใช้งานได้ การบำรุงรักษาที่ดีจะช่วยควบคุมการ
ผดิ พลาด
2.2.5. เพื่อลดมลภาวะของสิ่งแวดล้อม เพราะเครื่องมือเครื่องใช้ที่ชำรุดเสียหาย เก่าแก่ ขาดการ
บำรงุ รักษา จะทำให้เกิดปญั หาดา้ นสิ่งแวดล้อม เชน่ มฝี ่นุ ละอองหรือไอของสารเคมีออกมา มเี สียงดัง เป็น
ต้น ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผปู้ ฏิบตั งิ านและผทู้ เ่ี กย่ี วข้อง
2.2.6. เพื่อประหยัดพลังงาน เพราะเครื่องมือเครื่องใช้ส่วนมากจะทำงานได้ต้องอาศัยพลังงาน เชน่
ไฟฟา้ น้ำมนั เช้ือเพลิง ถ้าหากเคร่ืองมือเครื่องใช้ได้รบั การดูแลให้อยูใ่ นสภาพดี เดินราบเรียบไม่มีการรั่วไหล
ของนำ้ มัน การเผาไหม้สมบูรณ์ ก็จะส้นิ เปลืองพลังงานน้อยลง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้
8
สรปุ บทความ
Preventive Maintenance เป็นหนึ่งในกระบวนการบำรุงรักษาในอุตสาหกรรมที่ทุกโรงงานควรให้
ความสนใจเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเบื้องต้น ก่อนเข้าสู่ระบบ Predictive Maintenance ที่ปัจจุบัน
กรรมวิธีนี้สามารถทำได้สะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้นด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Automation และ IoT
ทำให้สามารถคาดการณ์และตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ในกระบวนการต่างๆ ไดแ้ บบเรยี ลไทม์ เพิ่มความแม่นยำ
ในการประเมนิ และการบำรงุ รกั ษายิ่งขนึ้ ไปอีก
2.3 ทฤษฎีแผนผงั เหตุและผลของการวิเคราะห์เครื่องจกั ร
แผนผังสาเหตุและผล เปน็ แผนผังทีใ่ ช้แสดงความสัมพันธ์อย่างเป็นระบบระหว่างสาเหตุ หลายสาเหตุ
ทีเ่ ปน็ ไปได้จากการวิเคราะหป์ ญั หา ที่สง่ ผลกระทบใหเ้ กิดปญั หาของเครอ่ื งจกั ร โดยมหี ลกั การวิเคราะห์ดังนี้
2.3.1 การวิเคราะห์แบบ Why-Why Analysis เป็นเครื่องมือที่สามารถวิเคราะห์ หาสาเหตุของ
ปัญหาหรือปัจจัยทีเ่ ป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาของเครื่องจกั รหรอื ปรากฏการณ์อย่างเป็น ระบบเป็นขัน้ ตอน เพื่อ
แกไ้ ขปัญหาและปอ้ งกันไมใ่ หเ้ กิดข้ึนอีก โดยมีขัน้ ตอนดงั นี้
2.3.1.1 การกำหนดหัวข้อปัญหาหรือปรากฏการณ์ให้ชัดเจน หากกำหนดหัวข้อ ของปัญหาไม่
ชดั เจนจะทำใหก้ ารวเิ คราะห์ มขี อบเขตท่กี ว้างมากเกินไป ดงั นั้นจงึ ตอ้ งกำหนดหัวข้อให้ ชดั เจนเพ่ือง่ายต่อการ
วิเคราะห์ปัญหา หากมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากเกินไป ทำให้ยากที่จะหาสาเหตุ ที่แท้จริงรวมถึงวิธีการแก้ไขที่
ตามมามักจะมมี ากเกนิ ไปทจ่ี ะนำมาปฏั ิบตั ิ ในการกำหนดหวั ขอ้ จะตอ้ งมีการตรวจสอบสถานทีจ่ ริง ดสู ภาพของ
ปัญหาทีแ่ ทจ้ รงิ เกบ็ ขอ้ มลู จรงิ และแยกแยะปัญหาให้ชดั เจน
2.3.1.2 การศึกษาโครงสร้างและหน้าที่ของส่วนที่เป็นปัญหา กรณีที่เกิดปัญหา เกี่ยวข้องกับ
เครื่องจักรให้ทำการศึกษาและเขียนภาพสเก๊ตชข์ องโครงสร้างกลไกและการทำงานของ เครื่องจักร แต่ถ้าหาก
เป็นปญั หาเกย่ี วกบั ข้ันตอนการทำงานทว่ั ๆ ไป ให้เขียนขนั้ ตอนการทำงานหรือ แผนผงั การไหลของงานและให้
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่ของแต่ละขั้นตอนหลังจากนั้นให้นำภาพสเก๊ตช์ของส่วนที่เกิดปัญหามาถ่ายทอด
ใหท้ มี งานฟัง เพอื่ ทำงานให้ทกุ คน ไดใ้ ชค้ วามรแู้ ละแสดงความคดิ เห็นอย่างไดเ้ ต็มที่
2.3.1.3 การกำหนดหัวข้อสำรวจ เปน็ การหาปัจจยั ท่กี ่อให้เกิดปัญหาสาเหตหุ รือ ปรากฏการณ์โดยมี
แนวทางพิจารณาปัญหาจากสภาพที่ควรจะเป็น หรือพิจารณาจากหลักเกณฑ์ทาง ทฤษฎีที่ก่อให้เกิด
ปรากฏการณป์ ญั หา
9
2.3.1.4 การตรวจสอบและยืนยันผลหัวข้อสำรวจ ทีมงานซ่อมบำรุงจะต้องลงไป ตรวจสอบท่ี
เครอ่ื งจกั รหรือกระบวนการผลิตตามหวั ข้อสำรวจท่ีกำหนดไว้ เมอ่ื ไปตรวจสอบแลว้ ไม่พบ ขอ้ บกพร่องจะให้ใส่
คำว่า “OK’’ สว่ นหัวข้อใดท่พี บขอ้ พบพรอ่ งจะใหใ้ ส่คำว่า “NG’’ (No Good)ง
2.3.1.5 การหาสาเหตุของปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาหรือปรากฏการณ์ โดยให้อ่านย้อนหลังจาก
“ทำไม” เฉพาะหัวข้อที่ใส่คำว่า “NG” เท่านั้นและให้ถาม “ทำไม” ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบสาเหตุที่สามารถ
เช่อื มโยงไปสกู่ ารแกไ้ ขปอ้ งกันไม่ใหเ้ กดิ ซำ้ อีก
2.3.1.6 การตรวจสอบความถกู ตอ้ งตามตรรกวิทยา โดยใหอ้ ่านยอ้ นหลงั จาก “ทำไม” ท่ีชอ่ งสดุ ทา้ ย
มายงั ปรากฏการณ์เพือ่ การตรวจสอบความเปน็ เหตุเป็นผลซึ่งกนั และกนั
2.3.1.7 การกำหนดมาตรการแก้ไขที่ป้องกันการเกิดซ้ำ หลังจากได้สาเหตุ ที่แท้จริงจากในช่อง
“ทำไม” ท้ายสดุ ของแต่ละสาเหตทุ ีส่ ามารถทำใหเ้ กิดปญั หาและปารกฏการณ์
10
บทท่ี 3
การดำเนินงาน
3.1 ข้อมูลเบอื้ งตน้
อาคาร ไอดโี อ โมบิ สุขุมวิท 66 เปน็ คอนโดของเครือ บรษิ ัท อนนั ดา ดีเวลลอปเมน้ ท์ จํากดั (มหาชน)
ที่ไดด้ ำเนนิ การก่อสร้าง พ.ศ 2561 โดย บริษทั ฑีฆากอ่ สร้าง จำกัด มีจำนวน ยนู ติ ที่ 298 ยนู ติ จำนวนชั้น 28
ชั้น โดยมี บริษัท เดอะเวิร์คส์ คอมมิวนิตี้ แมนเนจเม้นท์ จำกัด เป็นฝ่ายบรหิ ารอาคาร มาตั้งแต่โครงการสร้าง
เสร็จ โดยมีฝ่ายวิศวกรรมอาคาร ได้เป็นผู้ดูแลงานระบบต่างๆภายในอาคาร ให้เป็นไปตามความเรียบร้อยทาง
ISO9001-2015 และจัดการซ่อมบำรุง PM ใหร้ ะบบตา่ งๆใหอ้ ยูใ่ นการใชง้ านได้ตลอดเวลา
3.1.1 ฝา่ ยวิศวกรรมอาคาร สิง่ ท่ีฝ่ายวศิ วกรรมอาคารดูแลน้ัน มีระบบการดูแลแบบ PM
Preventive Maintenance คือ การบำรงุ รักษาเชิงปอ้ งกัน เปน็ หนึ่งในรปู แบบการดูแลสภาพเครอ่ื งจักรและ
อุปกรณภ์ ายในอาคาร ทใ่ี ชก้ ารตรวจสอบ ซอ่ มแซม หรือเปล่ียนแปลงอุปกรณต์ า่ งๆ ตามเวลาท่ีมกี ารกำหนด
เอาไว้
ภาพที่ 3.1 รายชื่อระบบทต่ี ้องตรวจเช็คภายในอาคาร
11
ฝา่ ยวิศวกรรมอาคารจะมีตารางแผนในการ PM Preventive Maintenance ในแต่ล่ะปีว่าจะให้ ช่างอาคารไป
ตรวจเช็คหรอื PM อะไรในแต่ล่ะปี
ภาพท่ี 3.2 ภาพตาราง PM ประจำปี
3.2 กรณีศกึ ษา
ผู้จัดทำจะขอเสนอการ PM ระบบ ไฟฟา้ ภายในอาคารจะเร่ิมจากการ PM RMU MDB EMDB และ Capacitor
Bank การให้บริการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า (ประจำปี ): PM : ELECTRICAL SYSTEM PREVENTIVE
MAINTENANCE ปัจจุบันปัญหาของระบบไฟฟ้าที่ขัดข้อง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินงานขององค์กร
หน่วยงานหรือ อาคาร และยังทำให้สูญเสียโอกาสในการแข่งขันเชิงธุรกิจ มักมีสาเหตุมาจากการขาดการ
วางแผนในการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าที่เหมาะส ม ดังนั้นการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ( Electrical System
Preventive Maintenance ) จงึ เป็นแนวทางที่จะชว่ ยรักษาความเสถยี รภาพของระบบไฟฟ้าไดส้ งู
เทคโนโลยีทีท่ ันสมัยที่สดุ ณ ปจั จบุ ัน โดยสามารถตรวจเชค็ อุปกรณ์ไฟฟา้ เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์
ของ จุดต่อไฟฟ้าต่างๆ อุปกรณ์เปิด-ปิดไฟฟ้า สายไฟ ฟิวส์ คาปาซิเตอร์ มอเตอร์ ท่อเคมีต่างๆ และเตาหลอม
เป็นต้น ซึ่งเป็นการตรวจวัดอุณหภมู ิแบบไม่สมั ผัสวัตถุแต่สามารถวัดอุณหภูมไิ ด้ โดยจะมีภาพแสดงที่จอ LCD
ของกล้องอินฟราเรด ทำให้สามารถพบจุดที่มีปัญหาและแก้ไขได้ทันที พร้อมทั้งยังสามารถบันทึกภาพเพ่ือ
นำมาทำรายงานในการวิเคราะห์ปัญหาที่พบ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระบบไฟฟ้าและความ
สญู เสียเชงิ ธรุ กจิ
12
3.2.1 ตารางขอ้ มูลระบบขัดขอ้ ง การวดั ผลเพ่ือนำเอาปริมาณการเกิด การขัดข้อง ขณะการเดินระบบ
MDB เพ่ือหาวธิ ีการจดั การแก้ไขปัญหาทีเ่ กดิ ขน้ึ โดยใชต้ ารางที่ใชแ้ สดง ให้เหน็ ถึงความสมั พนั ธร์ ะหว่างสาเหตุ
ของความบกพรอ่ งกับปริมาณการเกดิ ความขัดขอ้ งขณะเดนิ ระบบ จากการเกบ็ ข้อมูลของการขดั ขอ้ งมกี ารเกิด
ปรมิ าณค่อนข้างสูงสง่ ผลให้ มีความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าอื่นๆในอาคาร
ตารางท่ี 3.1 สถานการณท์ ำงานของระบบ MDB
3.2.2 PM MDB PM TRANSFORMER การบำรงุ รักษาระบบไฟฟา้ ประจำปี
Preventive Maintenance มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากความพร้อมของระบบไฟฟ้าสำหรับ อาคาร
โรงงาน คอนโด หรือ หน่วยงานตา่ งๆ มีความสำคญั มาก เพ่ือใหส้ ามารถที่จะใชง้ านระบบไฟฟ้าได้อย่างต่อเน่ือง
ไม่ติดขัด หรือ หยุดชะงักไป เพราะความบกพร่องของระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบไฟฟ้าหลักของ
อาคาร โรงงาน คอนโด หรือ หน่วยงานต่างๆ เช่น ริงเมนยูนิต ตู้เมนสวิทซ์บอร์ด ตู้คาปาซิเตอร์ หม้อแปลง
ไฟฟ้า การPM ริงเมนสวิตซ์ (Ring Main Unit) ตู้เมนสวิทซ์บอร์ด (MDB) และตู้ย่อยไฟฟ้า (DB) หม้อแปลง
ไฟฟ้า (Transformer) คือการตรวจเช็ค ทำความสะอาด และ ทดสอบฟังก์ชั่นต่างๆ ของอุปกรณ์ ให้พร้อมใช้
งานไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพอยู่เสมอดงั น้นั การบำรงุ รกั ษาระบบไฟฟ้า
• ริงเมนสวิตซ์ (Ring Main Unit)
• ตู้เมนสวิทซ์บอร์ด (Main Distribution Board MDB)
• คาปาซิเตอร์ (Capacitor)
• หม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer)
• เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker)
จึงมีความสำคัญ จำเป็นต้องบำรงุ รักษาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เป็นการตรวจสอบ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้
งานระบบไฟฟา้ ในกิจการต่างๆ ได้อยา่ งตอ่ เน่ืองและมีความปลอดภยั ในการใช้งาน โดยระบบในการตรวจสอบ
ทไี่ ดม้ าตรฐาน และเครอ่ื งมอื ทีค่ รบถว้ นทางด้านวิศวกรรมไฟฟา้
13
3.2.3 การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ริงเมนยูนติ ( Preventive Maintenance PM RING MAIN
UNIT )
• ทำความสะอาด ตรวจเชค็ และ หล่อล่ืนกลไกการปฏิบตั ิการของ RING MAIN UNIT
• ทดสอบ กลไกการปฏิบตั กิ าร ชดุ สวติ ซ์ตดั ต่อ
• ตรวจเชค็ กลไกการปฏิบตั ิการ ระหว่าง ชดุ สวิตซ์ตดั ตอ่ กบั การต่อลงดิน
• ตรวจเช็ค กลไกการปฏบิ ัตกิ าร ระหว่าง ชดุ สวติ ซ์ตัดตอ่ กับฟวิ ส์
• ตรวจสอบความเป็นฉนวนของอปุ กรณ์
• ตรวจสอบการรั่วไหลของสาร SF6
• จัดทำรายงานและเสนอแนะเพอ่ื แกไ้ ขกรณตี รวจพบปัญหา
3.2.4 การบำรุงรักษาระบบไฟฟา้ ตู้MDB ( Preventive Maintenance PM MDB )
• วดั คา่ ความเป็นฉนวนของบสั บารเ์ มน (Mega ohm Test)
• วดั ค่าความต้านทานของสายดิน (Ground Resistance Test)
• ทำความสะอาด เชด็ คราบ ดดู ฝุ่น ภายในและภายนอกตู้
• กวดขนั น็อต ตามจดุ ต่อตา่ งๆ
• ตรวจวดั หาความร้อนสะสมตามจดุ เช่อื มต่อ (Thermo scan)
• ทดสอบ ACB Air Circuit Breaker
• จัดทำรายงานและเสนอแนะเพ่ือแกไ้ ขกรณตี รวจพบปัญหา
3.2.5 การบำรงุ รักษาระบบไฟฟา้ คาปาซิเตอร์ ( Preventive Maintenance PM Capacitor )
• ตรวจสอบการทำงานของระบบควบคุมทั้ง Auto/manual
• ตรวจสอบ Fuse Base และ HRC Circuit Breakers
• ตรวจสอบสภาพและวดั คา่ คาปาซิเตอร์ ( Capacitor Test)
• ทำความสะอาด และ กวดขันนอ็ ต
• ทำรายงานเพอ่ื เสนอแนวทางแกไ้ ขกรณีตรวจพบปญั หา
14
3.2.6 การบำรุงรกั ษาระบบไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟา้ ( Preventive Maintenance PM
Transformer )
• ตรวจเช็ค จุดเชือ่ มตอ่ บุชชง่ิ
• ตรวจสอบความเป็นฉนวนของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
• กวดขัน และ ตรวจเช็ค การเช่ือมต่อระหว่าง หม้อแปลง กับ สายส่ง
• ทดสอบคา่ ความเป็นฉนวนของนำ้ มนั หม้อแปลงไฟฟ้า ตามมาตรฐาน ASTM D877 (Oil Type)
• วดั ค่าความต้านทานของสายดนิ (Ground Resistance Test)
• ทำความสะอาด หม้อแปลงไฟฟ้า
• ทำรายงานเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขกรณีตรวจพบปัญหา
3.2.7ภาพการบำรุงรกั ษาระบบไฟฟา้ อาคาร
ภาพที่ 3.3 Thermo scan ภาพถา่ ยความร้อน
15
ภาพท่ี 3.4 ดูดฝุน่ ทำความสะอาด เช็ดคราบสกปรก ท้ังภายใน และ ภายนอก
ภาพท่ี 3.5 กวดขันน็อต ตามจุดต่อต่างๆ ที่บสั บาร์ และ เบรกเกอร์
16
ภาพท่ี 3.6 วดั ค่าความเป็นฉนวน Mega ohm Test
ภาพท่ี 3.7 ตรวจวัดคา่ คาปาซเิ ตอร์ Capacitor Test
17
ภาพท่ี 3.8 ทดสอบ Air Circuit Breaker (ACB)
ภาพที่ 3.9 วดั ค่าความต้านทานของสายดินระบบกราวด์
18
ภาพท่ี 3.10 ภาพถ่ายความร้อน Thermo scan
ภาพท่ี 3.11 ทำความสะอาด ตรวจเช็คอปุ กรณ์ภายนอก บชุ ชง่ิ ขั่วต่อสาย แรงสงู และ แรงต่ำ กวดขัน
และตรวจเช็ค การเช่อื มตอ่ ระหว่าง หม้อแปลง กับ สายส่ง
19
ภาพท่ี 3.12 ตรวจสอบความเป็นฉนวนของหม้อแปลงไฟฟ้า
ภาพท่ี 3.13 เกบ็ น้ำมนั หม้อแปลง เพื่อนำไปทดสอบคา่ ความเปน็ ฉนวนของนำ้ มนั หม้อแปลง
20
3.3 แผนผงั ระบบไฟฟา้ อาคาร
ภาพที่ 3.14 แผนผงั ระบบไฟฟา้ อาคาร
3.4 การควบคุมอะไหล่ของอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคาร
ไฟฟ้าในอาคารจะมีอยู่หนึ่งสิ่งที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าสิ้นเปลืองนั้นคือ หลอดไฟ ที่ใช้สำหรับในการส่อง
สว่างอยู่ตลอดเวลา 24ชั่วโมง จึงต้องเน้นหลอดไฟที่มี วัตต์ ขนาดต่ำและเป็นหลอดไฟชนิด E27 LED ซึ่งจะ
สามารถประหยัดคา่ ไฟฟ้าให้กับทางเจา้ ของรว่ มของคอนโดได้ และมีระยะเวลาใช้งานมากกว่าหลอดไฟชนิดอ่ืน
ที่ไม่ใช้หลอดไฟแบบ LED ทางฝ่ายบริหารอาคารจรึงมีการวิเคราะห์การใช้งานในช่วงเวลาทีม่ ีผูค้ นในเวลาเลิก
งานของเจ้าของร่วมคอนโด เวลา 18.00-23.00น. จะเป็นเต็มไลน์ทางเดินส่วนกลาง 23.00-06.00น. จะปิด
ไลนไ์ ฟของทางเดนิ สว่ นกลางให้เว้นเป็น ดวงเว้นดวง เพื่อลดการใชง้ านของไฟฟา้
21
3.4.1 การสั่งซื้อหลอด ทางฝ่ายบรหิ ารอาคารจะติดต่อหาร้านผูจ้ ำหน่ายไวใ้ ห้ คณะกรรมการเลอื ก
เอาไว้ 3 เจ้าเพอ่ื ให้คณะกรรมการเป็นบคุ คลตัดสินใจเลอื ก ในการสงั่ ซื้อหลอดไฟ
ตารางท่ี 3.2 ตารางการส่ังซื้อหลอดไฟ
3.4.2 การเบกิ หลอดไฟฟา้ การเบิกหลอดไฟท่ีนำไปเปลยี่ นในชัน้ ทางเดนิ ส่วนกลาง ช่างอาคารจะต้อง
แจง้ ใหห้ วั หนา้ ชา่ งทราบและบันทกึ ในสต๊อกของหลอดไฟทุกคร้งั
ตารางที่ 3.3 ตารางเบิกหลอดไฟ
22
บทที่ 4
ผลการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ
ผลของการได้ทีท่ ำ PM Preventive Maintenance ระบบไฟฟา้ ทำใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพของการทำ PM
ในรอบประจำปีของอาคารที่มีแผนกำหนดเอาไว้ในการ PM ระบบไฟฟ้า เพราะการทำ PM ในรอบปีของการ
ตรวจสอบระบบ จะได้รู้ถงึ ปัญหาของระบบว่ามีสิง่ ท่ผี ิดปกติของระบบไฟฟา้ ในอาคารหรือไม่ จงึ ทำใหแ้ สดงเห็น
ถึงความสำคญั ของการทำ Preventive Maintenance หรือ PM
4.1 การวดั ผลหลังปรบั ปรุง
4.1.1 การนำ PM มาปรบั ปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ MDB การวัดผลจะต้องรวบรวม
ข้อมูลกอ่ นและหลังการปรบั ปรงุ เพอื่ นำมาเปรยี บเทียบผลที่ได้จากดำเนนิ งานโดย ใชห้ ลกั การบำรุงรักษา
ตง้ั แต่ กรกฎาคม 2563 ถึง ตุลาคม 2563 ดังแสดงจากตางที่ 4.1
ตารางท่ี 4.1
ข้อมลู จากตารางที่ 4.1 เป็นการรวบรวมระยะเวลาเดนิ ระบบของ MDB เวลาระบบทำงาน เวลาระบบ
เสีย จำนวนครั้งที่ระบบหยุดทำงาน ข้อมูลจากตารางเดือน กรกฎาคม - ตุลาคม โดยนำหลักการ PM เข้ามา
บำรุงระบบ MDB
ตารางที่ 4.2
ข้อมูลจากตารางที่ 4.2 ทำให้เห็นถึงระหว่าง เดือน กรกฎาคม – ตุลาคม เวลาระบบเสียของ ระบบ
MDB นั้นมันมีแค่เดือนเดียว เวลาเสียแค่ 15 นาที จึงทำให้เห็นประสิทธิที่ภาพของการ PM Preventive
Maintenance ในการบำรุงรักษาระบบ
23
4.2 การวเิ คราะห์ผลหลังการปรับปรงุ
หลังการปรับปรุงโดยวิธีการนำ PM Preventive Maintenance มาดำเนินการโดยทำการวัดผล 4
เดือนตั้งแต่ เดือน กรกฎาคม – ตุลาคม ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานของ ระบบ MDB ในการเสียได้
ยาวนานขึ้น
ภาพท่ี 4.1 ภาพเวลาระบบทำงานของแต่ละ่ เดือน
ภาพที่ 4.2 ภาพเวลาเสียหายของระบบของแตล่ ่ะเดอื น
ภาพที่ 4.2 จะเหน็ ไดว้ า่ หลัง PM Preventive Maintenance ปรับปรงุ ระบบMDB ไฟฟา้ ในอาคารไป
ในเดือน กรกฎาคม – ตลุ าคม มอี ตั ราเสียลดนอ้ ยลงไปมากจาก มกราคม – มถิ ุนายน
บทท่ี 5
24
สรปุ และขอ้ เสนอแนะ
5.1 สรุปผลวจิ ัย
การนำวิธี Preventive Maintenance มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากความพร้อมของระบบไฟฟ้า
สำหรับ อาคาร คอนโด หรอื หนว่ ยงานตา่ งๆ มีความสำคญั มาก เพื่อใหส้ ามารถทจ่ี ะใชง้ านระบบไฟฟา้ ได้อย่าง
ต่อเนื่อง ไม่ติดขัด หรือ หยุดชะงักไป เพราะความบกพร่องของระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบไฟฟ้า
หลักของ อาคาร คอนโด หรือ หน่วยงานต่างๆ เช่น ริงเมนยูนิต ตู้เมนสวิทซ์บอร์ด ตู้คาปาซิเตอร์ หม้อแปลง
ไฟฟ้า การ PM ริงเมนสวิตซ์ (Ring Main Unit) ตู้เมนสวิทซ์บอร์ด (MDB) และตู้ย่อยไฟฟ้า (DB) หม้อแปลง
ไฟฟ้า (Transformer) คือการตรวจเช็ค ทำความสะอาด และ ทดสอบฟังก์ชั่นต่างๆ ของอุปกรณ์ ให้พร้อมใช้
งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยูเ่ สมอดังนัน้ การบำรงุ รักษาระบบไฟฟ้า
• รงิ เมนสวติ ซ์ (Ring Main Unit)
• ตู้เมนสวิทซบ์ อร์ด (Main Distribution Board MDB)
• คาปาซิเตอร์ (Capacitor)
• หม้อแปลงไฟฟา้ (Transformer)
• เซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker)
จึงมีความสำคัญ จำเป็นต้องบำรุงรักษาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เป็นการตรวจสอบ เพื่อให้เจ้าของร่วมคอนโด
มัน่ ใจในการใช้งานระบบไฟฟ้า ในกิจการตา่ งๆ ได้อย่างต่อเนอื่ งและมีความปลอดภยั ในการใช้งาน โดยระบบใน
การตรวจสอบท่ไี ด้มาตรฐาน และเครอ่ื งมือท่ีครบถว้ นทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า
5.2 ข้อเสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะสำหรบั งานวิจยั ในอนาคตทจ่ี ะศึกษาเพ่ิมเติมดงั น้ี
5.2.1 จดั ทำแผนการเกิดเหตขุ ดั ขอ้ ง กรณีไฟฟ้าดับแกไ้ ขเบอื้ งตน้ ใหก้ ับชา่ งอาคาร
5.2.2 มัน่ ตรวจเช็คระบบไฟฟา้ เบ้ืองตน้ รู้วธิ ีอ่านคา่ ตา่ งๆในระบบไฟฟา้
5.2.3 ควรมีการอบรมดา้ นความรูเ้ บ้ืองตน้ ให้สำหรบั ช่างอาคาร
25
บรรณานุกรม
บริษทั เดอะเวริ ์คส์ คอมมวิ นิต้ี แมนเนจเมน้ ท์ จำกัด (2563) ตาราง PM และตารางสต๊อกของ : คน้ เม่ือ
18/11/64
การวางแผน PM ในงานซ่อมและการบำรุงรักษา – (Preventive Maintenance) :ค้นเมือ่ 18/11/64 เว็บ
https://naichangmashare.com/2020/04/21/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%
A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99-pm-
%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B9%88%
E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0/