น้ำยาล้างจานจากมะนาว

1. 2. 3. “น้ำยาล้างจาน จากมะนาว” จัดทำโดย 1. เด็กหญิง ชญาภา เดชา ป.4/1 เลขที่ 10 2. เด็กหญิง รักชนก พงษ์อ้อ ป.4/1 เลขที่ 1 3. เด็กหญิง วีรดา ชมความสุข ป.4/1 เลขที่ 12 4. เด็กหญิง โชติกา ใจผ่อง ป.4/1 เลขที่ 20 5. เด็กชาย กันตพัฒน์ มหาสิทธิวัฒน์ ป.4/1 เลขที่ 4 6. เด็กชาย พัสกร ปิ่นน้อย ป.4/1 เลขที่ 6 ครูที่ปรึกษา 1. นางสาว ณฤดี สาระบัว 2. นางสาว ศยามล บู่ศรี ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1

คำนำ โครงงานเรื่อง น้ำยาล้างจานจากมะนาว นี้จัดทำขึ้นเพื่อต้องการศึกษาเกี่ยวกับการทำน้ำยาล้างจานด้วย ตนเอง โดยใช้ต้นทุนต่ำ เพราะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติและกระบวนการศึกษาเพื่อดูว่าน้ำยาล้างจานที่ทำ เองจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับน้ำยาล้างจานทั่วไปหรือไม่ และพบว่าน้ำยาล้างจานที่ทำเองมี ประสิทธิภาพเท่ากันกับน้ำยาล้างจานทั่วไป อีกทั้งมีต้นทุนที่ต่ำกว่า สามารถทำใช้เองได้ภายในบ้าน ทำให้ ประหยัดค่าใช่จ่ายภายในบ้านด้วย

บทคัดย่อ โครงงานเรื่อง น้ำยาล้างจานจากมะนาว จัดทำขึ้นเพื่อต้องการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับความเป็นกรดของ มะนาว ที่สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดีพอๆกับน้ำยาล้างจานที่มีสารเคมีหรือไม่ต้นทุนต่ำและไม่มีสาร ตกค้าง เพราะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ อย่างน้ำมะนาว น้ำเกลือ และหัวเชื้อน้ำยา โดยมีขั้นตอนการศึกษา ค้นคว้า โดยน้ำหัวเชื้อลงไปกวนในถังโดยใช้ไม้กวนไปทางเดิม ห้ามกวนสวนทาง และใส่มะนาว น้ำเกลือ ลง ไปทีละนิดสลับกันจนหมด กวนพักทิ้งไว้เมื่อนำไปล้างจานจะเกิดผลอย่างไร ผลปรากฏว่า เมื่อนำไปล้าง จานจะสะอาดพอๆกับน้ำยาล้างจานที่มีสารเคมีมีต้นทุนต่ำกว่า สามารถทำใช้เองได้ภายในบ้าน ทำให้ ประหยัดค่าใช้จ่าย จากการที่เราได้ศึกษา และ ได้ผลิตน้ำยาล้างจานจากมะนาวออกมาใช้นั้น มีประสิทธิภาพในการชำระสิ่ง สกปรก ซึ่งน้ำยาล้างจานของเรามีส่วนผลของน้ำด่างซึ่งมีฤทธิ์เป็นเบส ช่วยในการชำระล้างสิ่งสกปรก ส่วน มะนาวนั้นมีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งทำปฏิกิริยากับไขมัน จึงช่วยขจัดความมันและกลิ่นคาว เกลือช่วยขจัดสิ่งสกปรก ส่วนหัวเชื้อ N70 ช่วยให้น้ำยาล้างจานของเรามีฟองน่าใช้ดังนั้นน้ำยางล้างจานที่เราผลิตขึ้นนี้จึงเป็น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทางเลือกใหม่ที่ดีอีกทางหนึ่ง

กิตติกรรมประกาศ ในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง น้ำยาล้างจานจากมะนาวในครั้งนี้ทางคณะผู้จัดทำโครงงาน ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณครูประจำชั้นและคุณครูในสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ กรดมะนาว ที่ได้ทำการผลิตกันขึ้นมาเองจากวัตถุดิบที่ปลอดสารเคมีและได้ให้คำแนะนำในเรื่องของการทำ น้ำยาล้างจาน วิธีการทำอย่างถูกต้องและถูกวิธีตลอดจนอธิบายถึงการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ ในการนำมาทำน้ำยาล้างจานและสามารถนำไปใช้ได้จริง ในการทำโครงงานนี้ได้รับคำแนะนำและคำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง รวมทั้งแนวคิดตลอดจนข้อบกพร่อง ต่างๆที่ต้องแก้ไข ทำให้คณะผู้จัดทำทำสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำโครงงานนี้ได้จนสำเร็จ ทาง คณะผู้จัดทำจึงขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้

สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก บทคัดย่อ ข กิตติกรรมประกาศ ค บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสำคัญ 1 วัตถุประสงค์ 1 สมมติฐาน 1 ตัวแปร 1 ขอบเขตของโครงงาน 2 ระยะเวลา 2 สถานที่ดำเนินงาน 2 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 บทที่ 2 แนวคิดและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3 แนวคิดการใช้STEM Education ในการทำโครงงานสะเต็มศึกษา 6 แนวคิดการใช้M-A-R-Y Model ในการทำโครงงานสะเต็มศึกษา 7 แนวคิดการใช้Six Thinking Hats ในการทำโครงงานสะเต็มศึกษา 8 แนวคิดการใช้ทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในการทำโครงงานสะเต็มศึกษา 9 แนวคิดการใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการทำโครงงานสะเต็มศึกษา 10 แนวคิดบูรณาการโตไปไม่โกงในการทำโครงงานสะเต็มศึกษา 11 แนวคิดการใช้ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในการทำโครงงานสะเต็มศึกษา 12 แนวคิดการใช้คุณธรรมตามแบบอย่างแม่พระในการทำโครงงานสะเต็มศึกษา 13 แนวคิดบูรณาการ 8 กลุ่มสาระในการทำโครงงานสะเต็มศึกษา 14 บทที่ 3 อุปกรณ์วิธีดำเนินการศึกษา วัสดุและอุปกรณ์ 15 ขั้นตอนการทำ 16 บทที่ 4 ผลการศึกษา และอภิปรายผล สรุปผลการศึกษา 25 อภิปรายผลการดำเนินงาน 25 บทที่ 5 สรุปผล ประโยชน์ข้อเสนอแนะ สรุปผลการดำเนินงาน 26 ประโยชน์ 26

เรื่อง หน้า ข้อเสนอแนะ 26 ภาคผนวก รูปกิจกรรม

บทที่1 บทนำ ที่มาและความสำคัญของโครงงาน น้ำยาล้างจาน คือสารชำระล้าง (detergent) ที่ใช้ช่วยในการล้างจาน มีส่วนผสมของสารลดแรงตึง ผิว (surfactant) ที่มีการระคายเคืองต่ำ ประโยชน์หลักของน้ำยาล้างจานคือใช้ล้างภาชนะและเครื่องครัว ด้วยมือ หลังจากประกอบหรือรับประทานอาหารแล้ว น้ำยาล้างจานทำให้สิ่งสกปรกและไขมันหลุดจาก ภาชนะและรวมตัวเป็นอีมัลชัน (emulsion) อยู่ในน้ำหรือฟอง (foam) เนื่องจากโมเลกุลของน้ำยาล้างจาน ประกอบด้วยส่วนที่มีขั้วและไม่มีขั้วเช่นเดียวกับผงซักฟอก ส่วนที่มีขั้วจะจับกับโมเลกุลของน้ำ และส่วนที่ไม่ มีขั้วจะจับกับสิ่งสกปรกให้หลุดออก ในสมัยก่อนมีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น สบู่ล้างจาน หรือ ครีมล้างจานเนื่องจาก เคยผลิตในรูปของสบู่และครีมมาก่อน ปัจจุบันน้ำยาล้างจานมีส่วนผสมอื่นรวมอยู่ด้วย เช่น น้ำมะนาวหรือ ชา ซึ่งเชื่อว่าเป็นการช่วยให้ภาชนะสะอาดมากขึ้นและถนอมมือมากกว่าเดิม ปัญหาที่พบได้บ่อยที่เกิดจากการล้างจานไม่สะอาด ทำให้มีเศษอาหารหลงเหลือติดอยู่ส่วนใดส่วน หนึ่งของจานเมื่อเวลาผ่านไปเศษอาหารที่เหลือเหล่านั้นอาจเน่าเสียได้เป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ได้สาเหตุ ที่เกิดจากการเน่าเสียของอาหารได้แก่ แบคทีเรีย ยีสต์ รา น้ำยาล้างจานจากมะนาว จัดทำขึ้นเพื่อ เรียนรู้วิธีการทำน้ำยาล้างจาน เพราะน้ำยาล้างจานเป็น ของใช้ที่เป็นในชีวิตประจำวัน ทุกวันเราต้องใช้น้ำยาล้างจาน เพื่อการขจัดสิ่งสกปรกจากภาชนะ ซึ่งคน ส่วนมากมักจะเลือกน้ำยาล้างจานที่สามารถทำความสะอาดได้ดีมากจนไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดกับผิวใน ภายหลัง ปัจจุบันน้ำยาล้างจานมีมากมายหลายชนิดให้เราเลือกใช้ตามความเหมาะสมและ ความชอบของ แต่ละบุคคล บางชนิดก็ผสมสมุนไพร บางชนิดก็ผสมสารเคมีเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งผู้ใช้บางรายอาจเกิด อาการแพ้สารเคมีหากใช้บ่อยเกินไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาวิธีการทำน้ำยาล้างจาน 2. เพื่อศึกษาว่าน้ำยาล้างจานจากน้ำมะนาวจะล้างสิ่งสกปรก และคราบมัน กลิ่นคาวได้หรือไม่ สมมติฐานของโครงงาน มะนาวสามารถนำมาทำน้ำยาล้างจานได้ ตัวแปร ตัวแปรต้น สารชำระล้าง N70 ตัวแปรตาม มะนาว ตัวแปรควบคุม น้ำเปล่า

ขอบเขตของโครงงาน ศึกษาน้ำยาล้างจานจากธรรมชาติ คือ น้ำยาล้างจานจากมะนาว ระยะเวลา วันที่ กิจกรรม 30 – 3 พฤศจิกายน 2566 ขั้น M – Merging ระบุปัญหา รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง และออกแบบวิธีการแก้ไข 6 – 10 พฤศจิกายน 2566 ขั้น A – Action วางแผนและดำเนินการแก้ไขปัญหา 13 – 17 พฤศจิกายน 2566 ขั้น R – Reflection ทดลอง ประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขชิ้นงาน 20 – 24 พฤศจิกายน 2566 ขั้น Y – Yielding นำเสนอผลงาน สถานที่ดำเนินงาน ห้องเรียน ป.4/1 โรงเรียนมารีวิทยา อำเภอเมืองปราจีนบุรีจังหวัดปราจีนบุรี ประโยชน์ของโครงงาน 1. สามารถทำน้ำยาล้างจานจากวัสดุตามธรรมชาติได้ 2. ลดรายจ่ายภายในครัวเรือน 3. สามารถต่อยอดความคิดนำผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานไปจำหน่ายเพื่อหารายได้เสริมได้

บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง การศึกษากรดจากน้ำมะนาวมาทำน้ำยาล้างจานมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณภาพ ว่าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้น้ำยาล้างจานได้ดีขึ้นหรือไม่ คณะผู้จัดทำได้ทำการค้นคว้าข้อมูลที่ เกี่ยวข้อง ดังมีหัวข้อต่อไปนี้ 1. ความสำคัญของน้ำยาล้างจาน 2. สารต่างๆ ที่อยู่ในน้ำยาล้างจาน สารขจัดคราบมัน

1.ความสำคัญของน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างจาน คือสารชำระล้าง (detergent) ที่ใช้ช่วยในการล้างจาน มีส่วนผสมของสารลดแรงตึง ผิว (surfactant) ที่มีการระคายเคืองต่ำ ประโยชน์หลักของน้ำยาล้างจานคือใช้ล้างภาชนะและเครื่องครัว ด้วยมือหลังจากประกอบหรือรับประทานอาหารแล้ว น้ำยาล้างจานทำให้สิ่งสกปรกและไขมันหลุดจาก ภาชนะและรวมตัวเป็นอีมัลชัน (emulsion) อยู่ในน้ำหรือฟอง (foam) เนื่องจากโมเลกุลของน้ำยาล้างจาน ประกอบด้วยส่วนที่มีขั้วและไม่มีขั้วเช่นเดียวกับผงซักฟอก ส่วนที่มีขั้วจะจับกับโมเลกุลของน้ำ และส่วนที่ไม่ มีขั้วจะจับกับสิ่งสกปรกให้หลุดออก ในสมัยก่อนมีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น สบู่ล้างจาน หรือ ครีมล้างจานเนื่องจาก เคยผลิตในรูปของสบู่และครีมมาก่อน ปัจจุบันน้ำยาล้างจานมีส่วนผสมอื่นรวมอยู่ด้วย เช่น น้ำมะนาวหรือ ชา ซึ่งเชื่อว่าเป็นการช่วยให้ภาชนะสะอาดมากขึ้นและถนอมมือมากกว่าเดิม 2.สารต่างๆ ที่อยู่ในน้ำยาล้างจาน N70 เป็นสารชำระล้างประเภทเดียวกันกับ Sodium Lauryl Ether Sulfate (SLES) ที่มี สรรพคุณในการทำความสะอาด ขจัดคราบมันได้เช่นเดียวกัน แต่สารเคมี N70 จะมีความเข้มข้นเพียง 70 เปอร์เซ็นต์ และสามารถนำไปผสมน้ำ หรือสารอื่น ๆ ได้ เป็นสารชำระล้างที่มีราคาถูก จึงเป็นที่นิยมนำไปใช้ กับผลิตภัณฑ์ชำระล้างแทบทุกชนิด เช่น สบู่เหลว แชมพู ยาสีฟัน โฟมล้างหน้า น้ำยาซักผ้า ไปจนถึงน้ำยา ล้างห้องน้ำ สารเคมี N70 เป็นสารที่มีความปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง และไม่ละ คายเคืองต่อผิว มีลักษณะเป็นแป้งกึ่งโปร่งแสงสีขาวหรือสีเหลืองข้น มีกลิ่นอ่อนๆ สามารถละลายน้ำได้ง่าย ไม่ว่าจะใช้ปริมาณเท่าใด และยังให้ความเสถียรสูงอีกด้วย จึงสามารถเข้ากันได้กับสารเติมแต่งอื่น ๆ ได้อย่าง หลากหลาย แล้วยังไม่ละลายเมื่อใช้ความร้อน และจะเกิดการข้นขึ้นเมื่อผสมเข้ากับเกลือแกง โดยสารเคมี N70 มีคุณสมบัติและข้อดี ดังนี้ ขจัดไขมันได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพสูง ด้วยปฏิกิริยาของสาร N70 ทำ ให้สามารถเกาะกับไขมันและยังซึมเข้าสู่พื้นผิวต่าง ๆ ทำให้ทำความสะอาดได้หมดจด ไม่เหลือคราบหรือ รอยมัน เกิดฟองได้ดี และรวดเร็ว ซึ่งฟองที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะเป็นโฟมที่ไม่เบาเกินไป ไม่จับตัวเป็นเนื้อ ครีม และจะหายไปเมื่อมีปฏิกิริยากับไขมัน มีราคาถูก และหาซื้อได้ง่าย เพราะเป็นสารที่มีการใช้งานอย่าง แพร่หลายมาอย่างยาวนาน และการผลิตสารสกัดจากธรรมชาตินั้นทำให้มีต้นทุนไม่สูงมากนัก

สารขจัดคราบมัน Linear Alkylbenzene Sulfonates, Sodium Salt (LAS) จัดเป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดประจุลบ (anionic surfactant) LAS เป็นสารผสมของสารที่มีจำนวน คาร์บอนอยู่ระหว่าง 10-14 อะตอมบนสายอัลคิล (alkyl chain) ซึ่งต่อกับวงแหวนเบนซินที่ตำแหน่งพารา 1 LAS ในรูปของเกลือโซเดียมจัดเป็นสารสำคัญในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้า และ ผลิตภัณฑ์ล้าง จาน ในความเข้มข้นระหว่าง 5-25 %2 เนื่องจาก LAS สามารถทำให้สิ่งสกปรก หรือคราบไขมันหลุดจาก ผิวของผ้าหรือจานชามได้ สารกันเสีย GLYDANT (ไกลเดนท์) สารกันบูด กันเสีย ใช้กับเครื่องสำอางค์ น้ำยาล้างจาน ซักผ้า ปรับผ้านุ่ม ครีมบำรุง เคมี ของเหลวสีขาวใส สารกันเสียป้องกันเชื้อราได้กว้าง เช่น เชื้อแบคทีเรียทั้งแกรมบวก-ลบ ราและยีสต์ มักใช้กับผลิตภัณฑ์ บำรุงสุขภาพ เครื่องสำอาง สบู่ แชมพู ครีมทาผิว น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า ปริมาณการใช้ประมาณ 0.5-1% ของน้ำหนักสินค้า มีประสิทธิภาพมาก ทั้งนี้หากใช้ในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ระคายเคืองผิวได้ มะนาว มะนาว เป็นพืชชนิดหนึ่ง ผลมีรสเปรี้ยว จัดอยู่ในสกุลส้ม (Citrus) ผลสีเขียว เมื่อสุกจัดจะเป็นสี เหลือง เปลือกบาง ภายในมีเนื้อแบ่งเป็นกลีบ ชุ่มน้ำมาก นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ด้วย ลักษณะทั่วไป ดอก ใบ และผลมะนาว ผลมะนาวโดยทั่วไปมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 – 4.5 เซนติเมตร ต้นมะนาวเป็นไม้พุ่มเตี้ย สูง เต็มที่ราว 5 เมตร ก้านมีหนามเล็กน้อย มักมีใบดก ใบยาวเรียวเล็กน้อย คล้ายใบส้ม ส่วนดอกสีขาวอม เหลือง ปกติจะมีดอกผลตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าแล้ง จะออกผลน้อย และมีน้ำน้อย มะนาวเป็นพืชพื้นเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้คนในภูมิภาคนี้รู้จัก และใช้ประโยชน์ จากมะนาวมาช้านาน น้ำมะนาวนอกจากใช้ปรุงรสเปรี้ยวในอาหารหลายประเภทแล้ว ยังนำมาใช้เป็น เครื่องดื่ม ผสมเกลือ และน้ำตาล เป็นน้ำมะนาว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศทั่ว โลก นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิดยังนิยมฝานมะนาวเป็นชิ้นบาง ๆ เสียบไว้กับขอบแก้ว เพื่อใช้ แต่งรส ในผลมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยถึง 7% แต่กลิ่นไม่ฉุนอย่างมะกรูด น้ำมะนาวจึงมีประโยชน์สำหรับ ใช้เป็นส่วนผสมน้ำยาทำความสะอาด เครื่องหอม และการบำบัดด้วยกลิ่น (aromatherapy) หรือน้ำยาล้าง จาน

บทที่3 อุปกรณ์ วิธีดำเนินการศึกษา 1. วัสดุและอุปกรณ์ 1. N70 2. สารขจัดคราบมัน 3. เกลือ 4. น้ำเปล่า 5. สารกันเสีย 6. กลิ่นมะนาว 7. สีผสมอาหารสีเหลือง 8. น้ำต้มมะนาว

2 ขั้นตอนการทำ ขั้นตอนที่ 1 นำมะนาวมาล้าง และ คัดลูกมะนาว ขั้นตอนที่ 2 หั่นลูกมะนาว

ขั้นตอนที่ 3 นำน้ำเปล่าและมะนาวลงไปในหม้อและต้มให้เดือด ขั้นตอนที่ 4 นำผงขมิ้นใส่ลงไปในหม้อต้ม

ขั้นตอนที่ 5 ต้มต่อประมาณ 10 นาที ขั้นตอนที่ 6 นำน้ำต้มมะนาวมากรองด้วยกระชอนและผ้าขาวบาง

ขั้นตอนที่ 7 นำน้ำใส่ลงไปในกาละมัง ขั้นตอนที่ 8 ตวงส่วนผสม

ขั้นตอนที่ 9 นำผงฟองใส่ลงไป ขั้นตอนที่ 10 นำเกลือและน้ำใส่ลงไปในถ้วยและคนให้เกลือละลาย

ขั้นตอนที่ 11 นำน้ำเกลือที่คนละลายหมดแล้วใส่ลงไป ขั้นตอนที่ 12 ใส่สารขจัดความมันลงไป

ขั้นตอนที่ 13 คนให้ส่วนผสมเข้ากัน ขั้นตอนที่ 14 นำน้ำมะนาวที่ต้มไว้มาใส่

ขั้นตอนที่ 15 คนให้เข้ากัน ขั้นตอนที่ 16 พักทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง

ขั้นตอนที่ 17 นำน้ำยามากรอกลงในขวด

บทที่ 4 ผลการศึกษา และอภิปรายผล สรุปผลการศึกษา ลักษณะของน้ำยาล้างจานจากมะนาวจะมีสีเหลืองใส มีกลิ่นหอมของมะนาว และมีลักษณะของ น้ำยาข้นเหนียว เมื่อผสมกันน้ำจะมีฟองมาก เมื่อน้ำเอาน้ำยาล้างจานจากมะนาว ที่เราได้ทดลองผลิตขึ้นนั้น ไปล้างจานชามที่เราใช้บรรจุอาหาร แล้ว ผลปรากฏว่า จานชามที่มีสิ่งสกปรกติดอยู่สะอาดขึ้น ไม่มีคราบมัน และไม่มีกลิ่นคาว ซึ่งให้ผลเป็นที่น่า พอใจอย่างมาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆของมะกรูดที่ใช้ อภิปรายผลการดำเนินงาน เมื่อนำไปล้างจาน น้ำยาล้างจานจากมะนาวมีความสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกติดอยู่บนจาน ไม่มีคราบ มัน และไม่มีกลิ่นคาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆของมะกรูด

บทที่5 สรุปผล ประโยชน์ ข้อเสนอแนะ สรุปผลการดำเนินงาน จากการที่เราได้ศึกษา และ ได้ผลิตน้ำยาล้างจานจากมะนาวออกมาใช้นั้น มีประสิทธิภาพในการ ชำระสิ่งสกปรก ซึ่งน้ำยาล้างจานของเรามีส่วนผลของน้ำด่างซึ่งมีฤทธิ์เป็นเบส ช่วยในการชำระล้างสิ่ง สกปรก ส่วนมะนาวนั้นมีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งทำปฏิกิริยากับไขมัน จึงช่วยขจัดความมันและกลิ่นคาว เกลือช่วย ขจัดสิ่งสกปรก ส่วนหัวเชื้อ N70 ช่วยให้น้ำยาล้างจานของเรามีฟองน่าใช้ ดังนั้นน้ำยางล้างจานที่เราผลิตขึ้น นี้จึงเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทางเลือกใหม่ที่ดีอีกทางหนึ่ง ประโยชน์ 1. ผลิตน้ำยาล้างจานจากมะนาวที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับน้ำยาล้างจานได้มากขึ้น 2. สามารถรู้ได้ว่าการใช้กรดจากมะนาวทำให้ล้างจานได้สะอาดขึ้น ข้อเสนอแนะ 1. ปรับปรุงเรื่องการขจัดคราบมัน ด้วยการเพิ่มความเป็นกรดโดยการใช้มะกรูดช่วย 2. ควรศึกษาข้อมูลของวัตถุดิบอื่นที่สามารถนำมาใช้แทนมะนาว

ภาคผนวก

รวมภาพการทำงาน กลุ่มน้ำยาล้างจานจากมะนาว นำมะนาวมาล้างให้สะอาด หั่นมะนาว ใส่ลงไปในหม้อและต้มให้เดือด ใส่ผงขมิ้นลงไปประมาณ1ช้อนโต๊ะ ต้มต่อประมาณ 10 นาทีนำน้ำต้มมะนาวมากรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่น้ำลงไปในถัง12ลิตร ตามด้วยใส่ผงฟองลงไป250กรัม นำน้ำปริมาณ300มิลลิลิตรและเกลือปริมาณ250 กรัม ใส่ลงไปในชามและคนให้เกลือละลาย

นำน้ำเกลือที่คนไว้มาใส่ลงไปในถัง ตามด้วย ใส่สารขจัดความมันลงไป400กรัม คนให้ส่วนผสมเข้ากัน นำน้ำต้มมะนาวใส่ลงไปในถัง คนให้ส่วนผสมเข้ากัน พักทิ้งไว้6ชั่วโมง นำน้ำยามากรอกลงในขวด

สมาชิกในกลุ่ม