รายงานการศึกษารายกรณี (case study)

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มูลวงษ์ หนา้ | 2

คำนำ

เอกสารรายงานกรณีศึกษา การวิเคราะห์ (Case Study) : Project Based Learning การพัฒนา
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษา ระยะที่ 2 เรียนรู้
ในสภาพจริงที่ สถานศึกษาต้นแบบ 5 วัน ระหว่างวันที่ 23 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565 – 27 เดือน
พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ตามแนวทางการวัดผลประเมินผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
ก่อนแตง่ ตงั้ ให้ดำรงตำแหน่ง ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ซง่ึ ผจู้ ดั ทำเอกสารฉบบั นี้ได้มาเรียนรู้ในสภาพจรงิ ท่ี โรงเรียน
บ้านปา่ ตาล ตำบลสนั ผกั หวาน อำเภอหางดง จังหวดั เชยี งใหม่ สงั กัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา
เชียงใหม่ เขต 4 ขอขอบคุณ นายศฤงคาร แป้นกลาง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นปา่ ตาล ทใี่ หค้ วามอนเุ คราะห์
อำนวยความสะดวก และชี้แนะแนวทางในการจัดทำเอกสารฉบับนีพ้ ร้อมทั้งบุคลากรของโรงเรียนบ้านป่าตาล
ทุกคน ทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องที่สนับสนุน ช่วยเหลือ ให้ความรู้และประสบการณ์อย่างดียิ่งจนงานสำเร็จลุล่วง
ด้วยดี

ขอขอบคุณ นางสาวขวัญศิริ บุญสรรค์ ผู้อำนวยการโรงเรียนโรงเรียนวัดเสม็ดเหนือ และนายสัญชัย
เงางาม ผอู้ ำนวยการโรงเรียนโรงเรียนวัดเทพราช(เทพราชวิทยาคาร)วิทยากรพี่เล้ยี ง ทใ่ี ห้ความรู้ ข้อเสนอแนะ
หลักคิด หลักการทำงานในการฝึกประสบการณ์ในครั้งนี้อย่างดียิ่ง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจนการฝึก
ประสบการณ์และจัดทำเอกสารฉบับนี้สำเร็จด้วยดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์
สำหรับผทู้ ส่ี นใจและผทู้ ีเ่ กีย่ วขอ้ งทุกภาคส่วน

นางณฐพร มลู วงษ์
ผพู้ ฒั นาตำแหนง่ รองผู้อำนวยการสถานศกึ ษา

รหัสพฒั นา P207

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มูลวงษ์ หนา้ | ก 2

ใบงาน
การวิเคราะห์ Case Study : Project Based Learning

โดย นางณฐพร มูลวงษ์ กลุม่ ท่ี P2

เรอื่ ง การพฒั นาทักษะอาชีพนกั เรยี นดอ้ ยโอกาสในชุมชนเมืองเชยี งใหม่ ดว้ ยนวัตกรรมการบรหิ ารจดั
การศกึ ษาและการจดั การเรยี นรูส้ ูผ่ เู้ รยี นในบรบิ ทเชิงพื้นท่ี โรงเรยี นบ้านป่าตาล

โรงเรียนบ้านป่าตาล เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2477 โดยขอ

อนุญาตตั้งในท่ีดิน 3 ไร่ 2 งาน 18 ตารางวา อาคารเรียนเปน็ อาคารชัว่ คราว หลังคามุง
ดว้ ยตองพลวงเครอื่ งไมไ้ ผ่ ทางราชการได้แตง่ ตง้ั ให้ นายเสนาะ บุญรอด มาดำรงตำแหนง่
ครูใหญ่ เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 4 ต่อมานายเสนาะ บุญรอด
ได้ย้ายไปเป็นเสมียนมหาดไทย ทางราชการจึงแต่งตั้งให้ นายบุญมี บุญชุม มาดำรง
ตำแหน่งแทนในปี พ.ศ. 2489 วนั ท่ี 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2491 นายสมบูรณ์ จนั ทรมานนท์ ได้รบั
การแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ ในปี 2492 พระอธิการผัด ปัญญาสาโธ เจ้าอาวาสวัดลัฏฐิวนาราม
(ป่าตาล) นายถา ชำนาญยทุ ธ ผใู้ หญ่บา้ นหมู่ 4 และครใู หญไ่ ดป้ ระชุมราษฎร มีมตเิ ปน็ เอกฉันท์ ขออนุญาต
สร้างอาคารถาวรพร้อมกับของบประมารจากทางราชการมาสมทบจำนวน 1,000 บาท ได้วางศิลาฤกษ์
ลงรากฐานเมื่อวนั ท่ี 1 เมษายน 2492 ตัวอาคารยาว 19 เมตร กวา้ ง 6 เมตร มีมขุ กลางสร้างด้วย
อิฐถือปูนเครื่องไม้จริง หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาพื้นเมือง สร้างเสร็จเมื่อ 1 พฤษภาคม 2493
สนิ้ เงนิ ทัง้ หมด 19,250 บาท

โรงเรียนบ้านป่าตาล ตั้งอยู่เลขที่ 258 หมู่ที่ 4 ตำบลสันผักหวาน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
สงั กัดสำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาเชียงใหม่ เขต 4 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ เปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับช้ันอนุบาลปที ี่ 1 ถึงระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 มีเนื้อท่ี 3
ไร่ 2 งาน มเี ขตพื้นทบี่ ริการ 3 หมู่บา้ น ไดแ้ ก่ หม่ทู ี่ 4 หม่ทู ี่ 3 หมทู่ ่ี 6 ตำบลสันผักหวาน อำเภอหางดง
จังหวดั เชียงใหม่

วิสัยทัศน์
โรงเรียนบ้านป่าตาล เป็นสถานศึกษาที่มีหลักสูตรฐานสมรรถนะที่เหมาะสมกับผู้เรียน สอดคล้องกับ
ท้องถ่ิน โดยมสี ว่ นร่วมของทกุ ภาคสว่ น มกี ระบวนการจดั การการเรียนรู้เชงิ รุก ม่งุ เนน้ ใหน้ กั เรยี นมีทักษะอาชีพ
ทักษะชีวิต และทักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 เป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง มีคุณธรรมจริยธรรมบนพืน้ ฐานแหง่
วฒั นธรรม

พนั ธกิจ
1. พัฒนาระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธภิ าพ สามารถให้บรกิ ารทางการศึกษาอย่างท่ัวถึง และ
มคี ุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มลู วงษ์ หน้า | 12

2. จดั ทำและพฒั นาหลักสตู รสถานศึกษาทีต่ อบสนองต่อนักเรยี นและท้องถิ่นตามมาตรฐานการศึกษา
แห่งชาติ

3. พัฒนาครูให้สามารถนำหลักสูตรไปใช้จัดการเรียนรู้ใด้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้นักเรียนบรรลุ
ตามเป้าหมายการเรียนรู้

4. พัฒนากิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องกับความต้องการและธรรมชาติของผู้เรียน เพื่อให้
นักเรียนพัฒนาไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ รวมทั้งพัฒนากิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ อาชีพและการหารายได้ระหว่าง
เรียนศิลปวัฒนธรรมพน้ื บา้ นลา้ นนา สุขภาพอนามยั ตลอดจนวิถชี ีวิตประชาธิปไตย

5. พัฒนาโรงเรยี นใหเ้ ป็นแหล่งเรียนรู้ ด้านการบูรณาการการเรยี นรู้ โดยใช้ศิลปวฒั นธรรมชุมชนและ
หลักเศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ ฐาน

6. พัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เออ้ื ตอ่ การเรียนรู้ สะอาด ร่มร่ืน ปลอดภัย
7. พฒั นาการมีสว่ นร่วมของชุมชนและหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้อง เพือ่ การจัดการศกึ ษาอย่างมีคุณภาพและ
ท่ัวถงึ

เปา้ หมาย
1. สถานศึกษามีระบบการบริหารจดั การทมี่ ปี ระสิทธิภาพและเกิดประสิทธผิ ล
2. สถานศึกษามีหลักสูตรสถานศึกษาที่ตอบสนองต่อนักเรียนและท้องถิ่นตามมาตรฐานการศึกษา
แห่งชาติ
3. มีกระบวนการจดั การเรยี นการสอนอย่างหลากหลายที่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ
4. ผู้เรียนมีทักษะและความรู้สอคคล้องกับความต้องการ และธรรมชาติของผู้เรียนได้เต็มตาม
ศักยภาพมีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้อาชีพ และการหารายได้ระหว่างเรียนศึกษาศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน
ลา้ นนา มสี ุขภาพอนามยั ตลอดจนวิถีชีวติ ประชาธปิ ไตย
5. สถานศึกษามแี หล่งเรียนรู้ที่สามารถพฒั นาผู้เรียนได้อย่างคุ้มค่า
6. สถานศึกษามสี ภาพแวดลอ้ มของโรงเรยี นให้เอือ้ ตอ่ การเรยี นรสู้ ะอาดร่มร่นื ปลอดภัย
7. ผมู้ ีสว่ นเก่ยี วขอ้ งทุกฝ่ายมีสว่ นรว่ มในการจดั การศึกษาของสถานศึกษา

ปรัชญาของโรงเรยี น
นตถฺ ิ ปญญฺ า ส มา อา ภา : แสงสว่างใดเสมอดว้ ยปญั ญาไม่มี

คำขวญั
โรงเรียนจัดการศึกษาสนองความต้องการของผู้เรียนและชมุ ชนในทุกทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวติ
เพื่อบุคคล มีคุณภาพทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ตามคำขวัญของโรงเรียน รักสะอาด
มารยาทดี มีวินัย ใชเ้ รียนรู้

อตั ลักษณ์
นกั เรียนมอื อาชีพ

เอกลักษณ์
สรา้ งเสรมิ รายได้สู่อาชีพเชิงคุณธรรม

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มลู วงษ์ หน้า | 2

แผนภมู ิโครงสรา้ งการบริหารงานของโรงเรยี นบ้านป่าตาล

1. สภาพปจั จุบัน/ปัญหา

การศกึ ษาเปน็ รากฐานท่ีสำคัญในการพัฒนาคนให้เปน็ มนุษย์ท่ีสมบรู ณ์และดำรงชีวิตอยู่ในสังคม
ได้อย่างมีความสุข ดังที่พระราชบัญญัติกรศึกษาแห่งชาติ พศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4)
พ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้ในมาตรา 6 ว่าการจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่
สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนรรมในการดำรงชีวิต
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มาตรา 7 ในกระบวนการเรียนรู้ต้องมุ่งปลูกฝังจิตสำนึก ที่
ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จัก
รักษาและสง่ สริมสทิ ธิ หน้าท่ี เสรีภาพ ความคารพกฎหมาย ความเสมอภาค และศกั ด์ิศรคี วามเป็นมนุษย์มี
ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ รวมทั้งส่งเสริมศาสนา
ศิลปะ วัฒนรรมของชาติ การกีฬา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและความรู้อันเป็นสากล ตลอดจน
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบอาชีพ รู้จักพึ่งตนเอง มี
ความคดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ ใฝร้แู ละเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนือ่ ง และมาตรา 22 การจดั การศกึ ษาต้องยืด
หลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสมารถเรียนรู้และพัฒนตนเองได้และถือว่าผู้เรียนความสำคัญที่สุด
กระบวนการจัดการศกึ ษตอ้ งสง่ เสริมให้ผ้เู รียนสามารถพฒั นาตามธรรมชาตแิ ละเต็มตามศักยภาพ

โรงเรียนบ้านป่าตาลเป็นโรงเรียนขนาดกลางตั้งอยู่ในชุมชนบ้านป่ าตาลที่ประชากรส่วนใหญ่
ประกอบอาชีพปนั้ ตุ๊กตาดินและทำอฐิ มอญ นอกจากนย้ี ังประกอบอาชีพการเกษตรตามฤดูกาลและรับจ้าง
ทว่ั ไป สภาพความเปน็ อยู่ค่อนข้างยากจน เมอ่ื จบการศึกษาจากโรงเรียนไปแล้ว ส่วนใหญ่จะเรียนต่อเพียง
แคใ่ นระดบั การศึกษาภาคบังคับ คุณภาพชีวิตโดยทวั่ ไปไม่ดีเท่าท่ีควร กอปรกบั การศึกษาของประเทศไทย
ท่ีผ่านมานักเรยี นที่จบการศึกษาเพยี งแคร่ ะดบั ประถมศึกษาหรือแม้แต่การศึกษาภาคบงั คับ ยังไม่มีความรู้
ความสามารถเพียงพอที่จะไปประกอบอาชีพ ทำมาหากิน สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ต้อง
เรียนต่อในระดับสูงๆ เท่านั้นที่จะพอมีความหวัง จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงว่าเด็กนักเรียนที่ไม่มีโอกาสได้
เรียนต่อในระดับสูงๆจะทำอย่างไร จะอยู่อย่างไร ดังนั้นโรงเรียนบ้านป่าตาล จึงให้ความสำคญั กับการฝกึ

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มลู วงษ์ หน้า | 23

ใหน้ ักเรยี นได้เรียนรูเ้ รื่องอาชีพต้ังแต่เยาว์วัย เป็นการสรา้ งภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียน ซึ่งเมื่อจบการศึกษาไป
แล้วสามารถที่จะนำความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ที่ได้รับจากการเรียนรู้ในโรงเรียนไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวนั ทง้ั ในสว่ นทเ่ี ป็นอาชพี หลกั หรอื อาชีพเสริมรายได้

2. วธิ ีการดำเนินงานของสถานศึกษา

แนวการพัฒนาทักษะอาชพี นักเรยี นด้อยโอกาสในชุมชนเมืองเชียงใหม่ ด้วยนวตั กรรมการบรหิ าร
จัดการศึกษาและการจดั การเรียนรูส้ ู่ผู้เรยี นในบริบทเชิงพ้ืนที่ โรงเรียนบา้ นป่าตาล ไดก้ ำหนดแนวการ
พัฒนาดังกล่าวให้เปน็ ไปตามแผนพฒั นาการศกึ ษา โดยกำหนดวตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายของการ
ดำเนนิ การ เพ่ือใหบ้ รรลผุ ลสำเร็จคอื

วตั ถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพนักเรยี นโรงเรยี นบ้านปา่ ตาล โดยใช้นวัตกรรมการบรหิ ารและการจัดการ
สถานศกึ ษาแบบมสี ่วนรว่ มตามวงจรคณุ ภาพของเดมม่ิง (PM & PDCA) การบรหิ ารการศกึ ษาแบบบรู ณาการ
PATAN MODEL และรูปแบบการเรยี นรู้ PATAN PRACTICAL LEARNING METHOD (PPL)
๒. เพอ่ื สรา้ งเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดา้ นนวตั กรรมการพฒั นาคุณภาพการศึกษาที่เป็นตน้ แบบ
นวัตกรรมในรูปแบบเครือข่ายทีม่ บี รบิ ทใกล้เคียงกนั ตัง้ แต่ระดับท้องถิน่ ถึงประเทศ

เปา้ หมาย
ตัวชว้ี ัดเชิงปริมาณ
1. นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นปา่ ตาลร้อยละ 100 ได้รับการพัฒนาทกั ษะอาชพี ทห่ี ลากหลาย โดยใช้
นวัตกรรมการบรหิ ารและการจัดการสถานศึกษาแบบมสี ว่ นรว่ มตามวงจรคณุ ภาพของเดมมง่ิ (PM & PDCA)
การบรหิ ารการศึกษาแบบบูรณาการ PATAN MODEL และรปู แบบการเรียนรู้ PATAN PRACTICAL
LEARNING METHOD (PPL)
2. โรงเรยี นบา้ นป่าตาลไดส้ ร้างเวทีแลกเปลีย่ นเรียนร้ดู า้ นนวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพการศึกษาท่ี
เปน็ ตน้ แบบนวตั กรรม ในรูปแบบเครอื ขา่ ยที่มบี รบิ ทใกล้เคียงกัน ครบทุกระดบั ต้ังแตร่ ะดบั ท้องถิ่นถึงประเทศ
ตัวชว้ี ดั เชิงคณุ ภาพ
1. นกั เรยี นโรงเรียนบ้านปา่ ตาลไดร้ ับการพฒั นาทักษะอาชพี ที่หลากหลาย โดยใช้นวตั กรรมการ
บรหิ ารและการจัดการสถานศึกษาแบบมสี ว่ นร่วมตามวงจรคณุ ภาพของเดมม่ิง (PM & PDCA) การบริหาร
การศึกษาแบบบรู ณาการ PATAN MODEL และรปู แบบการเรียนรู้ PATAN PRACTICAL LEARNING
METHOD (PPL)
2. โรงเรยี นบ้านป่าตาลได้สรา้ งเวทีแลกเปลีย่ นเรยี นรดู้ ้านนวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพการศึกษาท่ี
เป็นต้นแบบนวัตกรรม ในรูปแบบเครือขา่ ยท่ีมีบริบทใกลเ้ คียงกัน ต้ังแต่ระดับท้องถนิ่ ถงึ ประเทศ

กระบวนการผลติ ผลงาน/ขน้ั ตอนการดำเนินงาน
โลกในยุคศตวรรษที่ 21 หรือยุคแห่งการสื่อสารไร้พรมแดน ซึ่งเป็นผลจากการนำเครือข่าย

โทรคมนาคมดิจิทลั มาใช้รว่ มกบั การพัฒนานวตั กรรมและวิทยาการต่าง ๆ ซึ่งช่วยใหเ้ ราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้
รวดเร็วมากขึ้นภายในเวลาไม่กี่นาที นักเรียนในยุคศตวรรษที่ 21 จึงควรได้รับการจัดการศึกษาที่สร้าง

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มลู วงษ์ หน้า | 42

ภูมิคุ้มกันต่อการเปลย่ี นแปลงทีเ่ กิดขึ้น ยกระดับความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาทักษะ
ท่ีดขี ้ึน อาชีพการงานทด่ี ขี ้ึน สงั คมทด่ี ขี น้ึ และโอกาสการดำรงชีวิตทด่ี ีขึ้น กอปรกับนโยบาย Thailand ๔.๐ ซึ่ง
มจี ุดเนน้ หนงึ่ ท่ีตอ้ งพัฒนาให้ คนไทย เป็น Digital Thai ที่สามารถดำรงชีวติ เรยี นรู้ทำงาน และประกอบธุรกิจ
ได้อย่างเป็นปกติสุขในโลกยุคดิจิตอล แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะด้านอาชีพเป็นสิ่งสำคัญที่
โรงเรียนควรปลูกฝังและพัฒนา โรงเรียนบ้านป่าตาลได้เล็งเห็นความสำคญั ดังกลา่ วจงึ มุง่ เน้นการพัฒนาทกั ษะ
อาชพี ของนักเรยี น ซึ่งทกั ษะอาชีพทส่ี อดคล้องกบั บริบทของชุมชน บ้านป่าตาล ได้แก่ (1) อาชีพช่างป้ันตุ๊กตา
ดนิ ย้ิมบา้ นป่าตาล (2) อาชพี ชา่ งตดั ผม (3) อาชพี เกษตรกร (4) อาชีพทำขนมและเครือ่ งด่มื เชน่ กาแฟ (5)
อาชีพนักดนตรีไทยและนักแสดงนาฏศิลป์ และ (6) อาชีพการทำผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง ควบคู่ไปกับ
คุณธรรม 8 ประการในการประกอบอาชีพ โดยมีกรอบแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรม ด้านการบริหารจัด
การศกึ ษาและการจัดการเรียนร้สู ่ผู ู้เรียน

3. การวิเคราะห์ข้อมูล

ตามทโี่ รงเรยี นบ้านปา่ ตาล ไดก้ ำหนดจดุ เนน้ เพ่ือการพฒั นาทักษะอาชีพนักเรยี นโรงเรียนบ้าน
ป่าตาล โดยใช้นวัตกรรมการบริหารและการจัดการสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมตามวงจรคุณภาพของเดมม่ิง
(PM & PDCA) การบริหารการศึกษาแบบบูรณาการ PATAN MODEL และรูปแบบการเรียนรู้ PATAN
PRACTICAL LEARNING METHOD (PPL) ตามแผนภาพ

โรงเรียนบ้านป่าตาลไดใ้ ช้หลักการบรหิ ารจัดการสถานศึกษาแบบมสี ว่ นร่วมตามวงจรคุณภาพ
เดมมิ่ง (PM & PDCA) ดำเนินการบริหารจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่หลากหลายเข้ามา
ขับเคล่ือนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาภายใต้กระบวนการ PDCA ซ่งึ เป็นวงจรการบริหารงานคุณภาพ ย่อ
มาจาก 4 คำ ได้แก่ Plan (วางแผน), Do (ปฏิบตั )ิ , Check (ตรวจสอบ) และ Act (การดำเนินการใหเ้ หมาะสม)

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มูลวงษ์ หน้า | 52

ซึ่งวงจร PDCA สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุก ๆ เรื่อง ซึ่งโรงเรียนได้นำมาใช้ในการขับเคล่ือนการพัฒนาทักษะ
อาชีพตกุ๊ ตาดนิ ยิ้มบา้ นป่าตาล ซ่งึ รายละเอยี ดในแต่ละขัน้ ตอน ดังน้ี

1. การวางแผน (Plan)

โรงเรยี นบา้ นปา่ ตาลได้ดำเนนิ การวางแผนพัฒนาทักษะอาชีพนักเรียนโดยไดร้ ะดมความคิดจากทุกภาค
ส่วน ที่หลากหลายเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบโครงการหนึ่งโรงเรียนหนึ่งอาชีพหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งได้
วเิ คราะหจ์ ดุ เด่น จุดด้อย จุดแข็ง จุดออ่ น และโอกาส อปุ สรรค ตามกระบวนการ SWOT พร้อมทง้ั ร่วมกำหนด
เป้าหมายและกระบวนการต่าง ๆ ร่วมกันโดยได้ข้อสรุปว่าทักษะอาชีพที่ต้องการให้เกิดแก่นักเรียนโรงเรียน
บ้านป่าตาลได้แก่ (1) อาชีพช่างปั้นตุ๊กตาดนิ ยิ้มบ้านป่าตาล ซึ่งเป็นอาชีพท่ีแตกต่างจากที่อื่น ๆ เนื่องจากเป็น
อาชีพที่สืบสานภูมิปัญญาประติมากรรมดินเผาบ้านป่าตาล (2) อาชีพช่างตัดผม (3) อาชีพเกษตรกร (4)
อาชพี ทำขนมและเคร่ืองดมื่ เช่น กาแฟ (5) อาชีพนักดนตรไี ทยและนักแสดงนาฏศลิ ป์ และ (6) อาชีพการ
ทำผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง บนพื้นฐานคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ตามอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของ
โรงเรียนทไ่ี ด้กำหนดร่วมกัน

2. ข้นั การดำเนินงาน (Do)

โรงเรียนบ้านป่าตาลได้ดำเนินการตามกระบวนการ/กิจกรรม ที่ได้ออกแบบไว้ใน โครงการโรงเรียน
ส่งเสริมอาชีพ และโรงเรยี นพ้นื ทน่ี วัตกรรมจังหวดั เชียงใหม่ ดา้ นการสง่ เสรมิ อาชีพนกั เรียน ดังนี้

2.1 อาชพี ช่างปน้ั ตุก๊ ตาดนิ ย้มิ บา้ นปา่ ตาล
2.2 อาชีพช่างตดั ผม
2.3 อาชีพเกษตรกร “ยวุ เกษตรกร”
2.4 อาชีพทำขนมและเคร่ืองด่มื
2.5 อาชีพนักแสดงดนตรไี ทยและดนตรนี าฏศลิ ป์
2.6 อาชพี ทำผลติ ภัณฑเ์ ครื่องหนงั
3. C – Check (การติดตามตรวจสอบ)

โรงเรียนบ้านป่าตาลได้ดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ และวัดผลกระบวนการทำงาน โดย
รว่ มกนั สรา้ งระบบกลไกในการติดตามผลการดำเนินงานที่ใชโ้ รงเรียน เป็นฐาน (School Based) และประเมิน
เองเป็นระยะ ๆ โดยใช้เครื่องมือและวิธีการที่หลากหลายสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ว่าเป็นไปตาม
เป้าหมายที่กำหนดไว้หรือบรรลุตามแผนงานหรือไม่ มีปัญหาอุปสรรคอย่างไร เพื่อให้ได้สารสนเทศและผล
การประเมนิ ทเี่ ชือ่ ถอื ได้

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มลู วงษ์ หน้า | 26

4. A – Act การปรับปรุงพฒั นาและช่นื ชม
โรงเรียนบ้านป่าตาลได้นำสารสนเทศผลการประเมิน วิธีปฏิบัติที่ดีและการศึกษาแนวคิด

ทฤษฎีเพ่มิ เตมิ มาใชป้ รบั ปรงุ พัฒนาระบบงานอย่างต่อเน่ือง เพ่อื ให้เกดิ วัฒนธรรมคณุ ภาพทส่ี ะท้อนการพัฒนา
อย่างยั่งยืน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพการศึกษา สร้างเครือข่ายร่วม
พัฒนาคุณภาพการศึกษา พัฒนาระบบสารสนเทศให้มีความถูกต้องครบถ้วนครอบคลุมเป็นปัจจุบันที่เพียงพอ
ต่อการตัดสินใจ ปรับทิศทางการพัฒนาทักษะอาชีพนักเรียนที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงที่อาจ
เกิดขึ้นได้ในอนาคต อีกทั้งได้สื่อสารสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน เห็นคุณค่าของการทำงานร่วมกนั
จนไดผ้ ลลัพธเ์ ชิงประจกั ษเ์ ปน็ ผลงานหรอื รางวลั ท่ีผู้เกี่ยวขอ้ งทกุ ฝา่ ยร่วมยนิ ดีและช่ืนชมร่วมกนั

ขั้นตอนการดำเนินงานใหเ้ หมาะสมจะพจิ ารณาผลที่ไดจ้ ากการตรวจสอบ ซึง่ มอี ยู่ 2 กรณี คือ
กรณที ี่ 1 (A1) คอื ผลท่ีไดไ้ มบ่ รรลุวตั ถุประสงคต์ ามแผนทีว่ างไว้ โรงเรยี นจะนำข้อมูล

ที่รวบรวมไว้มาวเิ คราะห์และพิจารณาว่าควรจะดำเนินการอย่างไร เช่น มองหาทางเลือกใหม่ที่น่าจะเปน็ ไปได้
ใช้ความพยายาม ให้มากข้ึนกว่าเดิม ขอความชว่ ยเหลอื จากผู้รู้ หรือเปลีย่ นเปา้ หมายใหม่ เป็นตน้

กรณีที่ 2 (A2) ผลที่เกิดขึ้นเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โรงเรียนก็จะนำแนวทางหรือ
กระบวนการปฏิบัตินั้นมาจัดทำให้เป็นมาตรฐาน พร้อมทั้งหาวิธีการที่จะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งอาจ
หมายถงึ สามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วกวา่ เดมิ หรือเสยี คา่ ใช้จา่ ยนอ้ ยกว่าเดมิ หรอื ทำใหค้ ุณภาพดียง่ิ ข้นึ

4

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มลู วงษ์ หนา้ | 72

ขัน้ ตอนการจัดการเรยี นรตู้ ามรูปแบบการเรียนรู้ Patan Practical Learning Method (PPL)
ขน้ั ท่ี 1 Awareness สร้างความตระหนักรู้

ความตระหนักหมายถึงการที่ผู้เรียนมีความรับผิดชอบ เห็นคุณค่าและการอนุรักษ์สืบทอด
ตลอดไปความตระหนักเป็นส่ิงสำคัญ ซึ่งการให้ผู้เรียนทุกคนมีความตระหนกั ในการเรียนรู้และสืบสานอนุรักษ์
งานปนั้ ต๊กุ ตา ดินยมิ้ ไดท้ ุกคนนัน้ จำเปน็ ตอ้ งมีขน้ั ตอนดงั น้ี คอื

1. ใผู้เรียนจะต้องได้เรียนรู้ถึงภูมิปัญญาในอดีตของชุมชน โดยเรียนรู้จากครูภูมิปัญญา
โดยตรง จากการศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง

2. ผู้เรียนสามารถถา่ ยทอดความรูส้ กึ ออกมาในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้
3. ผเู้ รียนมคี วามภมู ใิ จในวิถชี ีวิตแบบดั้งเดิมของชมุ ชน
ข้นั ท่ี 2 Inspiration เพิ่มแรงบันดาลใจ (QBL)
แรงบันดาลใจ หมายถึงพลังที่ทุกคนใช้ในการผลักดันตนเองไม่ว่าจะมาจากความคิดหรือการ
กระทำเพื่อให้เดินไปสู่เป้าหมายให้สำเร็จ ดังนั้นการที่ผู้เรียนได้เกิดแรงบันดาลใจในการปั้นตุ๊กตาดินยิ้มเพ่ือ
สร้างรายได้สู่อาชีพนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำนักเรียนได้ศึกษาประสบการณ์จริงจากครูภูมิปัญญาจาก
การเล่าเรื่องความสำเร็จของการปั้นตุ๊กตาดินยิ้ม การสร้างรายได้จากการปั้นตุ๊กตาดินยิ้ม โดยผู้เรียนสำรวจ
แหล่งเรียนรู้ในชุมชนแต่ละรูปแบบของตุ๊กตาดินยิ้มจนผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นที่จะ เรียนรู้และฝึกปฏิบัติ
จริงในการป้นั ตุ๊กตาดนิ ยม้ิ ตามแบบอยา่ งของ ครูภมู ปิ ญั ญาเพอ่ื สรา้ งรายไดส้ ู่อาชพี ตอ่ ไป
ขน้ั ท่ี 3 Practicalลงมอื ปฏิบตั ิ (PrBL หรืออื่น ๆ)
เมอ่ื ผ้เู รียนไดเ้ กดิ แรงบนั ดาลใจแลว้ ขัน้ ตอนต่อไปคือการลงมือปฏบิ ตั ิโดยศกึ ษาจาก
1. การสาธิตการป้ันของครูภูมิปัญญาในท้องถิ่น ในการปั้นตุ๊กตาดินยิ้มรูปแบบต่าง ๆ อาทิ

ตกุ๊ ตาหมูยิ้ม ชา้ งยิม้ ยีราฟย้มิ คนยม้ิ
2. ลงมอื ป้ันตามแบบ
3. ปรบั ปรุงพฒั นาแกไ้ ขการป้ันจากแบบที่ป้ันให้มีความสวยงามมากข้นึ
4. ปั้นตามแบบและจินตนาการของตนเอง โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย ความนิยมและ

ความตอ้ งการของลกู ค้า
5. นำชนิ้ งานไปเผาในเตาเผาแบบไร้มลพษิ ของโรงเรียน
6. นำช้ินงานมาตกแตง่ ลงสใี หเ้ กดิ ความสวยงาม
7. นำชนิ้ งานไปจำหน่าย
ขั้นท่ี 4 After Action Review ชืน่ ชมวพิ ากษแ์ ลกเปล่ยี นประสบการณส์ รุปบทเรียน
การชื่นชมวิพากษ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์เป็นขั้นตอนที่สำคัญของการปั้นตุ๊กตาดินยิ้ม เป็น
การประเมินผลงานของตนเองโดยมี ครู เพ่ือนนกั เรียน ผู้ปกครอง หรอื อ่นื ๆ เป็นผู้ประเมนิ เพ่อื จะได้นำผลของ
การประเมนิ ไปพัฒนาชิน้ งานของตนเองและเป็นการได้รับข้อมูลย้อนกลับถึงระดบั ความก้าวหน้าของตนเอง
ขน้ั ที่ 5 Developmentปรับปรงุ ผลงานสรา้ งรายไดส้ ู่การมีอาชีพ
การปรับปรุงและพัฒนาเปน็ ขั้นตอนสุดท้ายที่ผูเ้ รียนจะได้ใช้ความรู้ ประสบการณ์ ทักษะการ
ปั้น การลงสีตุ๊กตาที่ได้เรียนมา มาปรับปรุงและพัฒนางาน โดยนำผลจากการวิพากษ์ผลงาน มาเป็นข้อมูล
นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างมูลค่าของสินค้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม ขั้นตอนนี้จึงเป็นการสร้างมูลค่าของสินค้าให้เพม่ิ
สูงข้นึ เป็นขัน้ ตอนท่ีผเู้ รียนจะได้เกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ ทน่ี อกเหนือไปจากการปั้นตามแบบไดอ้ ีกด้วย

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มูลวงษ์ หนา้ | 28

โรงเรียนบ้านป่าตาล มีการสร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านนวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาที่เป็นต้นแบบนวัตกรรม ในรูปแบบเครือข่ายที่มีบริบทใกล้เคียงกัน ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงประเทศ
เพื่อให้นักเรียนโรงเรียนบ้านป่าตาลได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพที่หลากหลาย โดยใช้นวัตกรรม การบริหาร
และการจัดการสถานศึกษาดังกล่าว จากการที่โรงเรียนบ้านป่าตาลได้สร้างวิธีปฏิบัติที่ดีในการทำงาน(Best
Practice) ในโครงการหน่ึงโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม และ ออกแบบนวัตกรรมการพฒั นาทักษะอาชีพนักเรยี น
โรงเรียนบ้านป่าตาลทั้งสามด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการจัดการเรียนรู้ และด้านการ
สง่ เสริมผู้เรียนให้เต็มตามศกั ยภาพ มาตั้งแต่ ปกี ารศึกษา 2559 – 2564 รวมระยะเวลา 6 ปี ท่มี กี ารพัฒนา
สงู ขึน้ มาอยา่ งตอ่ เนื่อง อนั กอ่ ให้เกิดประโยชน์ต่อสถานศึกษาอื่น ตอ่ วงวชิ าการ และตอ่ สงั คมอยา่ งเป็นรูปธรรม
มาอย่างต่อเนื่อง ดังน้ี

1. นำผลงานไปร่วมจดั นิทรรศการประชาสมั พนั ธ์เผยแพรก่ ิจกรรมของโรงเรยี น
2. เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ศึกษาดูงานดา้ นทกั ษะอาชีพของโรงเรียนตา่ ง ๆ
3. ไดร้ บั เชิญเปน็ วิทยากรแลกเปลย่ี นเรยี นร้ใู นโครงการโรงเรียนสจุ ริต/บริษัทสร้างการดี
4. โรงเรยี นได้รับการประเมนิ คดั เลอื กเปน็ สถานศึกษาตน้ แบบการนิเทศภายใน ปกี ารศึกษา
2564 ระดบั สพป.เชียงใหม่ เขต 4 และระดับชาติ โดย สพฐ.

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มลู วงษ์ หน้า | 92

กรอบแนวคิดการพฒั นารปู แบบการบรหิ ารจดั การศึกษา PATAN MODEL

MODEL ผ้บู รหิ าร ครู นกั เรียน

P- บริหารจัดการโดยเนน้ การมีสว่ นรว่ มของ จัดการเรียนรทู้ ีเ่ นน้ การมีส่วนรว่ มของ นักเรยี นเรยี นรู้รว่ มกันอย่างมคี วามสขุ
Participation ผู้เกย่ี วขอ้ งทุกฝา่ ย ครู ชุมชน ภูมปิ ัญญา นักเรยี น
A- ท้องถ่ิน หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง นักเรียนมที ักษะกระบวนการเรยี นรู้ มี
Active ผบู้ ริหารสง่ เสรมิ สนบั สนุนชว่ ยเหลือให้ครู ครูจดั กิจกรรมการเรยี นรู้บูรณาการ ทักษะการคดิ วเิ คราะหต์ ัดสนิ ใจ สรปุ
Learning เกิดการเรยี นรู้โดยการคดิ และการปฏบิ ตั ิ Active Learning ใหน้ ักเรยี นเรียนรู้ ความร้ไู ด้ด้วยตนเอง และมีทกั ษะการ
จรงิ จากการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ตาม อยา่ งมคี วามหมายโดยการคิดและการ ปฏบิ ัติงานด้านอาชีพ พรอ้ มทงั้ สามารถ
T- สภาวะปกตินำสกู่ ารแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ปฏิบตั ิจรงิ PATAN PRACTICAL นำไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ
Tepid & Time ร่วมกัน LEARNING (PPL)
เนน้ การเรยี นรู้ เพอื่ ความเขา้ ใจและ นักเรยี นเรยี นรู้และอย่รู ว่ มกนั อย่างมี
A - Applying สรา้ งบรรยากาศท่อี บอนุ่ ในการทำงาน นำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ นำไปเป็น ความสขุ เหน็ คุณคา่ ของตนเองและผ้อู น่ื
ร่วมกนั ด้วยความเปน็ กัลยาณมติ รและอทุ ศิ พนื้ ฐานการประกอบอาชีพในอนาคตได้ ม่ันใจ กลา้ คดิ กล้าแสดงออก มเี หตผุ ล มี
N - Native ตนเพอื่ ความสำเร็จของงาน อยา่ งเตม็ เวลา ครอู ุทศิ ตนเพื่อศษิ ยอ์ ยา่ งเตม็ เวลาและ ความเป็นประชาธิปไตย
และความสามารถ เต็มความสามารถ โดยการสร้าง (คารวะธรรม สามคั คีธรรม ปญั ญาธรรม)
บรรยากาศการเรียนรทู้ ่อี บอนุ่ เปน็ มีความรักและเออื้ อาทรตอ่ กัน
สนับสนนุ ใหค้ รนู ำมาประยกุ ต์ใช้ กัลยาณมิตร ส่งเสรมิ การจดั การ มีคุณธรรมพนื้ ฐาน 8 ประการในการ
ในการเรยี นรู้ ชัน้ เรียนโดยใหเ้ รยี นร้แู ละอยรู่ ว่ มกนั ดว้ ย ประกอบอาชพี
วิถปี ระชาธิปไตย นกั เรยี นนำความรไู้ ปประยุกต์ใชใ้ น
เปิดโอกาสให้สังคมไดม้ ีส่วนร่วม ในการจัด สถานการณ์จรงิ แกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์
การศกึ ษา โดยนำบรบิ ทชมุ ชน มาใช้ใน ครนู ำความรู้จากการประชมุ อบรมมา ตามศกั ยภาพของตน เกิดความเปน็ น
การจดั การเรยี นรู้ เพอ่ื สืบสานไวซ้ งึ่ ภูมิ ประยกุ ตใ์ ช้ออกแบบและการเรียนรู้ ที่ วัตกรในการพัฒนาผลติ ภัณฑ์ วธิ กี าร
ปัญญาทอ้ งถนิ่ อันเปน็ เอกลกั ษณข์ อง สนองตอบความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล จำหนา่ ย และอาชพี ตกุ๊ ตาดินยิม้ และ
ชมุ ชน และ โรงเรยี น เช่น ศลิ ปหัตถกรรม ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั ชวี ิตจริง เปน็ นวัตกรในอาชพี ท่ีตนเองสนใจเพอื่
พื้นบ้าน ตกุ๊ ตาดนิ ยิ้มบา้ นป่าตาล และนำ ประโยชน์ต่อตนเองครอบครวั และสงั คม
อาชีพในชมุ ชนรวมถงึ อาชพี ท่สี อดคล้องกบั ครจู ัดโอกาสไห้นกั เรยี นศกึ ษาเรียนรู้ นักเรยี นเหน็ คณุ ค่าและรว่ มมือสืบสานงาน
ความถนดั ความสนใจของนกั เรยี น และ ศลิ ปหัตถกรรมพน้ื บา้ น โดยอาศยั ภูมิ ศิลปหัตถกรรมพน้ื บ้านของชุมชน คือ
ตอบโจทยข์ องสภาวการณป์ จั จบุ นั ปัญญาทอ้ งถนิ่ และใชช้ มุ ชนเปน็ แหลง่ ตุก๊ ตาดินยิม้ บา้ นปา่ ตาล อย่าง
เรียนรู้ และศึกษาอาชีพทหี่ ลากหลาย สรา้ งสรรค์ และเรียนรเู้ พ่อื สรา้ งพืน้ ฐาน
ตามความถนดั และความสนใจ การประกอบอาชพี ในอนาคต

5. ข้อเสนอแนะของผ้ศู กึ ษาดูงาน

ในการศึกษาการวิเคราะห์ Case Study การพัฒนาทักษะอาชีพนักเรยี นด้อยโอกาสในชุมชน
เมืองเชยี งใหม่ ด้วยนวตั กรรมการบริหารจดั การศกึ ษาและการจัดการเรยี นรู้สผู่ ู้เรยี นในบรบิ ทเชงิ พนื้ ที่ โรงเรียน
บ้านป่าตาล ข้าพเจ้าจึงมีข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อให้เป็นสถานศึกษาที่ประสบ
ผลสำเร็จใน ตามสังคมที่ดีขึ้นและโอกาสการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น กอปรกับนโยบาย Thailand ๔.๐ ซึ่งมีจุดเน้น
หนงึ่ ทตี่ ้องพฒั นาให้ คนไทย เปน็ Digital Thai ทีส่ ามารถดำรงชวี ิต เรยี นรทู้ ำงาน และประกอบธุรกิจได้อย่าง
เป็นปกติสุขในโลกยุคดิจิตอล กระบวนการบริหารที่มีการเผยแพร่ผลงานและการจัดระบบงานภายใน

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มูลวงษ์ หน้า | 210

สถานศกึ ษา เปน็ ไปอยา่ งมคี ุณภาพและเกดิ ความคล่องตวั ด้วยการจดั เกบ็ เอกสารผา่ นระบบ อินเตอร์เนต็ ผ่าน
Application Padlet และการนำเสนอหรือรายงานผ่านควิ อาร์โค้ด เพ่ืองา่ ยต่อการบริหารจัดการ

การเสนอแนะดังกล่าวจะเป็นแนวทางและต้นแบบที่สำคัญในการนำไปใช้ในการบริหาร
จัดการสถานศึกษาที่ข้าพเจ้าจะไปดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาในลำดับต่อไป ทั้งนี้เพื่อ
เกิดประโยชนท์ ส่ี งู สุดแก่ผู้เรยี นเป็นสำคญั ตอ่ ไป

นางณฐพร มลู วงษ์
ผู้เขา้ รับการพัฒนาก่อนแตง่ ต้งั

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มลู วงษ์ หน้า | 211

ภาคผนวก
ภาพความสำเร็จของการพัฒนาของโรงเรียนบ้านปา่ ตาล

รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มูลวงษ์ หน้า | 122

8
รายงานการศึกษารายกรณี (Case Study) ณฐพร มูลวงษ์ หนา้ | 2