รายการและเกณฑ์การแข่งขัน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
งานวิชาการมัธยมศึกษา ครั้งที่ 30
สนามแข่งขัน โรงเรียนเบญจมราชูทิศ
ศูนย์พัฒนาวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สพม.นครศรีธรรมราช
เกณฑ์การแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรยี น ครงั้ ท่ี ๖๙
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
สรปุ กิจกรรมการแขง่ ขันกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
รายการกิจกรรมการประกวด ป. ๑ – ๓ เขตพนื้ ท/ี่ ระดบั ชั้น ประเภท หมายเหตุ
แขง่ ขนั สพป. สพม.
ป. ๔ – ๖ ม.๑ – ๓ ม.๑ – ๓ ม. ๔ – ๖
๑. คัดลายมือสอ่ื ภาษาไทย เดย่ี ว ประเภททีม
- - เดีย่ ว เปน็ นกั เรียน
๒. วรรณกรรมพิจารณ์ โรงเรยี น
๓. พนิ จิ วรรณคดี - - เดย่ี ว เดยี วกัน
๔. เรียงรอ้ ยถอ้ ยความ
๔.๑ การเขยี นเรือ่ งจากภาพ - - - - เด่ียว
๔.๒ การเขียนเรียงความ -
๕. ท่องอาขยานทานองเสนาะ เด่ยี ว
๖. กวีเยาวชนคนร่นุ ใหม่
๖.๑ กลอนสี่ (๔ บท) - - - -
๖.๒ กาพย์ยานี ๑๑ (๖ บท) - - - ทีม ๒ คน
๖.๓ โคลงสี่สภุ าพ (๔ บท) - - - -
๗. ต่อคาศัพท์ภาษาไทย - - ทีม ๒ คน
(คาคมเดิม)
-- - - เดย่ี ว
รวม ๓๕ ๗๗๗
รวม ๗ กิจกรรม ๑๕ ๑๔
๒๙ รายการ
ศิลปหตั ถกรรมนักเรียนครัง้ ท่ี ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย หนา้ ๑
การแข่งขนั ทกั ษะภาษาไทย
๑. คดั ลายมือสอ่ื ภาษาไทย
๑. คณุ สมบตั ผิ ู้เขา้ แขง่ ขัน
การแขง่ ขันแบง่ เปน็ ๔ ระดบั ดงั น้ี
๑.๑ ระดับประถมศึกษาปที ่ี ๑ – ๓ เทา่ นน้ั
๑.๒ ระดบั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ – ๖ เท่านน้ั
๑.๓ ระดับมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ - ๓ เทา่ นั้น
๑.๔ ระดบั มัธยมศึกษาปีที่ ๔ – ๖ เท่านนั้
๒. ประเภทและจานวนผ้เู ข้าแข่งขัน
๒.๑ ประเภทเด่ียว
๒.๒ จานวนผ้เู ขา้ แข่งขันระดับละ ๑ คน
๓. วธิ ีดาเนนิ การและหลกั เกณฑ์การแข่งขนั
กาหนดเนื้อหาการเขียนใหเ้ หมาะสมตามระดบั ชัน้ ของนักเรียน ใชเ้ วลาสอบ ๑.๓๐ ช่ัวโมง
ชัน้ ป.๑ - ๓ ใช้ดนิ สอดา ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ความยาว ๑๐ - ๑๕ บรรทัด หรือ
ไม่เกนิ ๑ หน้ากระดาษ A ๔
ชน้ั ป.๔ - ๖ ใชป้ ากกาลูกลนื่ สีดา ขนาด ๐.๕ มม. ตวั บรรจงคร่ึงบรรทัด ความยาว ๑๕ – ๒๐ บรรทัด
หรือไมเ่ กิน ๑ หนา้ กระดาษ A ๔
ชัน้ ม.๑ – ๓ ใช้ปากกาลกู ลนื่ สดี า ขนาด ๐.๕ มม. ตวั บรรจงครึง่ บรรทดั ความยาว ๒๐ – ๒๕ บรรทดั
หรอื ไมเ่ กิน ๑ หนา้ กระดาษ A ๔
ชัน้ ม.๔ – ๖ ใชป้ ากกาลูกลน่ื สีดา ขนาด ๐.๕ มม. ตวั บรรจงครึง่ บรรทัด ความยาว ๒๐ – ๒๕ บรรทัด
หรือไมเ่ กิน ๑ หน้ากระดาษ A ๔
๔. เกณฑ์การใหค้ ะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน) ดงั น้ี
๔.๑ ใชต้ ัวอกั ษรแบบกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๕๐ คะแนน
๔.๒ ถูกต้องตามอักขรวธิ ี ๒๕ คะแนน
๔.๓ อา่ นง่าย เป็นระเบยี บ สะอาดเรยี บรอ้ ย ๒๕ คะแนน
๕. เกณฑก์ ารตัดสิน
รอ้ ยละ ๘๐ - ๑๐๐ ได้รบั รางวัลระดบั เหรียญทอง
รอ้ ยละ ๗๐ - ๗๙ ได้รับรางวลั ระดบั เหรยี ญเงนิ
รอ้ ยละ ๖๐ - ๖๙ ไดร้ ับรางวลั ระดบั เหรยี ญทองแดง
ต่ากวา่ รอ้ ยละ ๖๐ ได้รับเกียรตบิ ัตร เว้นแต่กรรมการจะเหน็ เป็นอย่างอน่ื
ผลการตัดสินของคณะกรรมการถอื เปน็ ทีส่ นิ้ สุด
ศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรยี นครง้ั ท่ี ๖๙ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย หน้า ๒
๖. คณะกรรมการการแข่งขัน ระดบั ชัน้ ละ ๓ – ๕ คน
คณุ สมบตั ิของคณะกรรมการ
๑) ผู้ทรงคณุ วุฒิ ภูมิปัญญาท้องถิน่ ด้านภาษาไทย หรือ
๒) ศกึ ษานเิ ทศก์ที่รบั ผดิ ชอบกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หรอื
๓) ครผู สู้ อนกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ขอ้ ควรคานึง
๑) กรรมการทเ่ี ปน็ ครตู อ้ งไม่ตดั สิน กรณีท่ีมีนักเรียนในสถานศึกษาของตนเข้าแข่งขนั
ในระดบั ชนั้ นัน้ และกรรมการท่เี ป็นศึกษานิเทศก์ตอ้ งไมต่ ดั สิน กรณีทม่ี ีนักเรยี นในสถานศึกษาสงั กัดเขตของตน
เข้าแขง่ ขัน
๒) กรรมการควรมีการแต่งตงั้ ใหเ้ ป็นกรรมการตัดสนิ
๓) กรรมการควรมาจากสานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาต่าง ๆ หลายเขตพ้นื ทีใ่ นภาคเดียวกัน
๔) กรรมการควรใหข้ อ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ แกน่ กั เรยี นทชี่ นะลาดบั ที่ ๑ – ๓
๗. สถานทีท่ าการแข่งขัน
ควรเปน็ หอ้ งทมี่ โี ต๊ะ เก้าอ้ี สาหรบั ผูเ้ ข้าแขง่ ขันน่ังตามเลขท่ี โดยจดั ใหเ้ หมาะสมกับนักเรยี นแต่ละระดับชน้ั
๘. การเข้าแข่งขันระดับภาค และระดบั ชาติ
๘.๑ ให้ผู้ที่เป็นตัวแทนของเขตพื้นที่การศึกษาเข้าแข่งขันระดับภาค ทุกกิจกรรมต้องได้คะแนนระดับ
เหรยี ญทอง ลาดับท่ี ๑ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป) และผู้ทเ่ี ปน็ ตวั แทนระดับภาคเข้าแขง่ ขันระดับชาติ จะตอ้ งได้
คะแนนระดับเหรียญทอง ลาดับที่ ๑ – ๓ (คะแนนรอ้ ยละ ๘๐ ข้นึ ไป)
๘.๒ กรณีแข่งขันระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ท่ีมีผู้ชนะลาดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากัน และระดับภาค
มีมากกว่า ๓ คน ให้พิจารณาลาดับท่ีตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มีผู้ที่ได้คะแนนข้อที่ ๑ เท่ากัน
ให้ดูข้อท่ี ๒ ผู้ที่ได้คะแนนข้อท่ี ๒ มากกว่าถือเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าข้อ ๒ เท่ากัน ให้ดูข้อถัดไป กรณีคะแนนเท่ากัน
ทกุ ขอ้ ให้ประธานกรรมการตัดสินเป็นผูช้ ขี้ าด
ศลิ ปหตั ถกรรมนักเรยี นคร้ังท่ี ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย หน้า ๓
๒. วรรณกรรมพจิ ารณ์
๑. คุณสมบตั ผิ ูเ้ ข้าแข่งขนั
การแข่งขันแบง่ เป็น ๒ ระดับ ดงั นี้
๑.๑ ระดับมัธยมศึกษาปที ่ี ๑ - ๓ เท่าน้ัน
๑.๒ ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ – ๖ เทา่ น้ัน
๒. ประเภทและจานวนผู้เข้าแข่งขนั
๒.๑ ประเภทเดี่ยว
๒.๒ จานวนผู้เขา้ แขง่ ขันระดับละ ๑ คน
๓. วธิ ดี าเนนิ การและหลกั เกณฑ์การแขง่ ขัน
๓.๑ คณะกรรมการเตรียมบทอ่านและคาถาม ใช้เวลาสอบ ๑.๓๐ ชั่วโมง
๓.๒ ลักษณะบทอ่านเปน็ วรรณกรรมตามความหมายของพจนานกุ รมศัพท์วรรณกรรม
ฉบับราชบัณฑติ ยสภาว่า “งานประพนั ธ์รว่ มสมัยทม่ี ีคณุ ค่า สว่ นหนง่ึ เพราะเป็นการส่ือสารความรู้
และความรสู้ กึ นึกคดิ ของผูค้ นในสังคม อกี ส่วนหนึ่งเพราะเป็นหนงั สอื ท่ีแตง่ ดีมีวรรณศิลปด์ ้วย โดยทั่วไป
มกั เรยี กวา่ วรรณกรรมปจั จุบนั ถ้าเปน็ งานประพันธ์ร่วมสมยั ที่สร้างสรรค์ในหมู่ชาวบ้านท้องถ่ินหนึ่ง ๆ
จะเรยี กวา่ วรรณกรรมท้องถ่ิน”
๓.๓ งานประพนั ธร์ ่วมสมัยในความหมายข้อ ๓.๒ หมายถึง วรรณกรรมรอ้ ยแก้วหรอื ร้อยกรอง
ทปี่ ระพันธ์ตงั้ แตส่ มยั รัชกาลท่ี ๙ เป็นตน้ ไป
๓.๔ เนือ้ หามคี วามเหมาะสมกบั ระดบั ช้ันของผู้เรียน และควรส่ือความในเชิงสร้างสรรค์
๓.๕ รปู แบบของข้อสอบ ประกอบดว้ ยแบบปรนัยและอัตนยั
๔. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (คะแนนเตม็ ๑๐๐ คะแนน)
๕. เกณฑก์ ารตดั สนิ
รอ้ ยละ ๘๐ - ๑๐๐ ไดร้ บั รางวัลระดับเหรียญทอง
ร้อยละ ๗๐ - ๗๙ ได้รบั รางวัลระดบั เหรียญเงิน
ร้อยละ ๖๐ - ๖๙ ไดร้ บั รางวลั ระดบั เหรยี ญทองแดง
ต่ากวา่ ร้อยละ ๖๐ ได้รับเกยี รติบัตร เว้นแต่กรรมการจะเหน็ เป็นอยา่ งอ่ืน
ผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นทส่ี น้ิ สุด
๖. คณะกรรมการการแข่งขัน ระดบั ช้ันละ ๓ – ๕ คน
คณุ สมบัตขิ องคณะกรรมการ
๑) ผทู้ รงคุณวฒุ ิ ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ ด้านภาษาไทย หรือ
๒) ศกึ ษานเิ ทศกท์ ่ีรบั ผิดชอบกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หรือ
๓) ครูผู้สอนกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ข้อควรคานึง
๑) กรรมการทเี่ ป็นครูตอ้ งไม่ตดั สนิ กรณที ี่มีนักเรยี นในสถานศกึ ษาของตนเข้าแขง่ ขนั
ในระดับชั้นนั้น และกรรมการท่เี ป็นศึกษานิเทศก์ตอ้ งไมต่ ัดสิน กรณีที่มนี ักเรียนในสถานศึกษาสังกดั เขตของตน
เขา้ แข่งขัน
๒) กรรมการควรมีการแต่งต้ังให้เป็นกรรมการตัดสนิ
๓) กรรมการควรมาจากสานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาต่าง ๆ หลายเขตพ้นื ท่ีในภาคเดียวกนั
๔) กรรมการควรให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ แก่นักเรียนท่ีชนะลาดับที่ ๑ – ๓
ศิลปหตั ถกรรมนกั เรยี นครั้งที่ ๖๙ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หน้า ๔
๗. สถานทที่ าการแข่งขัน
ควรเปน็ ห้องที่มโี ตะ๊ เกา้ อี้ สาหรับผูเ้ ข้าแขง่ ขนั นัง่ ตามเลขที่ โดยจัดใหเ้ หมาะสมกับนกั เรียนแต่ละ
ระดบั ชน้ั
๘. การเขา้ แข่งขันระดับภาค และระดบั ชาติ
๘.๑ ให้ผู้ท่ีเป็นตัวแทนของเขตพื้นท่ีการศึกษาเข้าแข่งขันระดับภาค ทุกกิจกรรมต้องได้คะแนนระดับ
เหรียญทอง ลาดับท่ี ๑ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป) และผู้ทเ่ี ปน็ ตัวแทนระดับภาคเข้าแขง่ ขันระดับชาติ จะตอ้ งได้
คะแนนระดับเหรียญทอง ลาดบั ที่ ๑ – ๓ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป)
๘.๒ กรณีแข่งขันระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา ท่ีมีผู้ชนะลาดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากัน และระดับภาค
มีมากกว่า ๓ คน ให้พิจารณาลาดับที่ตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มีผู้ที่ได้คะแนนข้อที่ ๑ เท่ากัน
ให้ดูข้อท่ี ๒ ผู้ท่ีได้คะแนนข้อท่ี ๒ มากกว่าถือเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าข้อ ๒ เท่ากัน ให้ดูข้อถัดไป กรณีคะแนนเท่ากัน
ทุกขอ้ ใหป้ ระธานกรรมการตัดสินเปน็ ผู้ชีข้ าด
ศิลปหตั ถกรรมนักเรียนครั้งท่ี ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หน้า ๕
๓. พินจิ วรรณคดี
๑. คณุ สมบตั ิผู้เข้าแข่งขนั
การแข่งขันแบง่ เป็น ๒ ระดบั ดังนี้
๑.๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ - ๓ เท่าน้ัน
๑.๒ ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ – ๖ เทา่ นั้น
๒. ประเภทและจานวนผู้เขา้ แขง่ ขัน
๒.๑ ประเภทเดย่ี ว
๒.๒ จานวนผเู้ ขา้ แขง่ ขนั ระดับละ ๑ คน
๓. วธิ ีดาเนินการและหลกั เกณฑก์ ารแขง่ ขนั
๓.๑ คณะกรรมการเตรียมบทอ่านและคาถาม ใชเ้ วลาสอบ ๑.๓๐ ชวั่ โมง
๓.๒ ลกั ษณะบทอา่ นเป็นวรรณคดีตามความหมายของพจนานกุ รมศัพท์วรรณกรรม
ฉบับราชบัณฑิตยสภาว่า “งานประพันธ์เก่าที่มีคุณค่า ส่วนหน่ึงเพราะเป็นหนังสือที่เป็นบันทึกความรู้สึก
นึกคิดของคนโบราณซึ่งมีคุณค่าควรศึกษา อีกส่วนหน่ึงเพราะเป็นหนังสือที่แต่งดีมีวรรณศิลป์ด้วย ได้พิสูจน์
คุณค่าแล้วด้วยกาลเวลาและความนิยมของผู้อ่าน โดยท่ัวไปมักเรียกว่า วรรณคดีโบราณ ถ้าเป็นงาน
ประพันธ์เก่าท่ีสร้างสรรค์ข้ึนในหมู่ชาวบา้ นท้องถ่นิ หน่งึ ๆ จะเรียกว่า วรรณคดีท้องถ่ิน วรรณคดีโบราณเป็น
สมบัติทางวัฒนธรรมที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ จึงมีคุณค่าเสมือนเป็นมรดกท่ีได้ฝากไว้ให้ชนรุ่นหลัง
จึงมกั เรยี กวรรณคดโี บราณในแง่การประเมินค่าวา่ วรรณคดมี รดก”
๓.๓ เนอ้ื หามีความเหมาะสมกับระดับชัน้ ของผู้เรียน
๓.๔ รปู แบบของข้อสอบ ประกอบด้วยแบบปรนยั และอตั นัย
๔. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน)
๕. เกณฑ์การตดั สนิ
ร้อยละ ๘๐ - ๑๐๐ ไดร้ ับรางวลั ระดบั เหรียญทอง
รอ้ ยละ ๗๐ - ๗๙ ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงนิ
รอ้ ยละ ๖๐ - ๖๙ ไดร้ บั รางวัลระดบั เหรียญทองแดง
ต่ากว่าร้อยละ ๖๐ ไดร้ ับเกยี รตบิ ัตร เวน้ แต่กรรมการจะเหน็ เป็นอยา่ งอ่ืน
ผลการตัดสนิ ของคณะกรรมการถอื เป็นท่สี ้ินสดุ
๖. คณะกรรมการการแข่งขัน ระดับชน้ั ละ ๓ – ๕ คน
คณุ สมบัติของคณะกรรมการ
๑) ผทู้ รงคุณวุฒิ ภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ ดา้ นภาษาไทย หรือ
๒) ศึกษานเิ ทศก์ท่ีรบั ผดิ ชอบกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หรือ
๓) ครูผู้สอนกลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ข้อควรคานึง
๑) กรรมการที่เป็นครูต้องไม่ตดั สนิ กรณีทม่ี นี ักเรียนในสถานศึกษาของตนเขา้ แขง่ ขนั
ในระดบั ชัน้ น้ัน และกรรมการทีเ่ ป็นศึกษานิเทศก์ตอ้ งไมต่ ัดสิน กรณีทม่ี ีนักเรียนในสถานศึกษาสงั กดั เขตของตน
เข้าแข่งขัน
๒) กรรมการควรมีการแต่งต้ังให้เปน็ กรรมการตัดสนิ
๓) กรรมการควรมาจากสานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาต่าง ๆ หลายเขตพ้ืนที่ในภาคเดียวกัน
๔) กรรมการควรให้ข้อเสนอแนะเพิม่ เติมแกน่ ักเรยี นทีช่ นะลาดบั ที่ ๑ – ๓
ศลิ ปหัตถกรรมนกั เรยี นคร้งั ที่ ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย หน้า ๖
๗. สถานทีท่ าการแขง่ ขนั
ควรเปน็ หอ้ งท่มี โี ต๊ะ เก้าอี้ สาหรบั ผู้เขา้ แข่งขันนง่ั ตามเลขท่ี โดยจดั ใหเ้ หมาะสมกับนักเรยี นแต่ละระดบั ชัน้
๘. การเข้าแข่งขนั ระดับภาค และระดบั ชาติ
๘.๑ ให้ผู้ท่ีเป็นตัวแทนของเขตพื้นที่การศึกษาเข้าแข่งขันระดับภาค ทุกกิจกรรมต้องได้คะแนนระดับ
เหรียญทอง ลาดับที่ ๑ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป) และผู้ทีเ่ ปน็ ตัวแทนระดบั ภาคเข้าแขง่ ขนั ระดับชาติ จะตอ้ งได้
คะแนนระดบั เหรียญทอง ลาดับที่ ๑ – ๓ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป)
๘.๒ กรณีแข่งขันระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา ที่มีผู้ชนะลาดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากัน และระดับภา ค
มีมากกว่า ๓ คน ให้พิจารณาลาดับที่ตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มีผู้ท่ีได้คะแนนข้อท่ี ๑ เท่ากัน
ให้ดูข้อที่ ๒ ผู้ที่ได้คะแนนข้อที่ ๒ มากกว่าถือเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าข้อ ๒ เท่ากัน ให้ดูข้อถัดไป กรณีคะแนนเท่ากัน
ทกุ ขอ้ ใหป้ ระธานกรรมการตดั สินเปน็ ผูช้ ้ขี าด
ศิลปหตั ถกรรมนักเรียนครง้ั ท่ี ๖๙ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย หน้า ๗
๔. เรียงร้อยถ้อยความ
๑. คุณสมบตั ิผูเ้ ข้าแขง่ ขัน
การแขง่ ขันแบง่ เปน็ ๔ ระดับ ดังนี้
๑.๑ ระดับประถมศึกษาปที ่ี ๑ - ๓ เทา่ นั้น
๑.๒ ระดบั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ – ๖ เทา่ นนั้
๑.๓ ระดับมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ เทา่ น้ัน
๑.๔ ระดับมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ – ๖ เทา่ นัน้
๒. ประเภทและจานวนผูเ้ ขา้ แขง่ ขัน
๒.๑ ประเภทเด่ยี ว
๒.๒ จานวนผเู้ ขา้ แขง่ ขนั ระดับละ ๑ คน
๓. วิธีดาเนินการและหลักเกณฑก์ ารแข่งขัน
๓.๑ ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ - ๓ แข่งขันเขียนเรอื่ งจากภาพ ดาเนินการดงั น้ี
๑) กรรมการเตรยี มภาพให้เหมาะสมกบั ระดบั ช้ันของผ้เู รียนโดยภาพควรส่ือความในเชงิ สรา้ งสรรค์
๒) เขยี นเรอ่ื งจากภาพตามที่กาหนด ดว้ ยลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั เว้นบรรทดั
โดยใชด้ ินสอดา ความยาว ๖ - ๘ บรรทัด และต้ังชื่อเรื่องให้เหมาะสม ใช้เวลาสอบ ๑.๓๐ ชว่ั โมง
๓.๒ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ - ๖ , ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ - ๓ และมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ - ๖
เขยี นเรยี งความ ดาเนินการดังนี้
๑) กรรมการเตรียมขอบเขตเนื้อหา ให้นักเรียนเขยี น ๑ ประเด็น จาก ๓ ประเดน็
๒) ให้ตวั แทนนกั เรียนจับฉลากเพยี ง ๑ ประเด็นจากที่กาหนดให้
๓) ช้ีแจงใหน้ กั เรียนเขยี นเรียงความ ตามประเด็นที่ตัวแทนนกั เรยี นจบั ฉลากได้
และตงั้ ชือ่ เรื่องใหมต่ ามประเด็นที่กาหนดให้ ใช้เวลาสอบ ๑.๓๐ ช่ัวโมง
๔) เขียนเรียงความตามข้อ ๓)
ช้ัน ป. ๔ - ๖ ความยาวไม่น้อยกว่า ๑๕ แต่ไมเ่ กิน ๒๐ บรรทัด เขียนคร่ึงบรรทดั ด้วยปากกา
สนี ้าเงนิ หรือสีดา โดยใช้ตัวอกั ษรอ่านง่าย ถูกต้องตามลักษณะวิธเี ขียนอักษรไทย
ชั้น ม. ๑ - ๓ ความยาวไม่น้อยกวา่ ๒๐ แตไ่ ม่เกิน ๒๕ บรรทัด เขยี นคร่ึงบรรทัด ดว้ ยปากกา
สนี ้าเงนิ หรอื สีดา โดยใช้ตัวอกั ษรอ่านง่าย ถูกต้องตามลักษณะวิธเี ขียนอักษรไทย
ชัน้ ม. ๔- ๖ ความยาวไม่น้อยกว่า ๒๕ แตไ่ มเ่ กนิ ๓๐ บรรทดั เขยี นครงึ่ บรรทัด ด้วยปากกา
สนี ้าเงนิ หรือสดี า โดยใช้ตวั อักษรอา่ นงา่ ย ถูกต้องตามลักษณะวธิ เี ขยี นอักษรไทย
เมอ่ื หมดเวลา ถือวา่ เสร็จส้นิ การแข่งขนั
ศิลปหัตถกรรมนักเรยี นครง้ั ที่ ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หน้า ๘
๔. เกณฑ์การพิจารณา
๔.๑ การเขยี นเรอ่ื งจากภาพ ระดับชั้น ป.๑ - ๓ (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน) ดงั นี้
รายการ คะแนน
๑. การต้ังชอ่ื เร่ือง ๑๕
- มคี าท่เี กยี่ วข้องสอดคล้องกับภาพ
- สือ่ ความหมายได้ตรงหรอื สอดคล้องกับภาพ
- ใช้คา วลี ประโยค หรอื ขอ้ ความถูกต้องตามหลักภาษา
๒. สาระสาคญั ของเร่ือง ๔๐
- ลาดับความคดิ อย่างต่อเนือ่ ง
- นาเสนอเนื้อหาตรงประเด็น
- เนือ้ หามคี วามสัมพนั ธก์ บั ภาพ
- มีความเป็นเหตุผล
- มกี ารนาเสนอแนวคิดใหม่
๓. การใช้ภาษา ๒๕
- เลือกใช้คาถูกต้อง
- เขียนเวน้ วรรคตอนถูกตอ้ ง
- ใชค้ าสภุ าพ
- ใชป้ ระโยคสือ่ ความหมายได้
- ใช้คาได้สละสลวย
๔. การเขยี นสะกดคา (เขียนผดิ ซา้ ใหน้ บั เปน็ ๑ คา) ๑๐
๕. ความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย ๑๐
- เขียนตัวอักษรอา่ นงา่ ย
- สะอาดเรยี บร้อย
รวม ๑๐๐
ศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียนครงั้ ที่ ๖๙ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย หน้า ๙
๔.๒ การเขียนเรียงความ ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ - ๖, ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ - ๓
และระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ - ๖ (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน) ดังน้ี
เกณฑ์การพิจารณา ดงั น้ี
รายการ คะแนน
๕
๑. การต้งั ชอ่ื เร่ือง
- สอดคล้องกบั หัวข้อเรียงความ
- สมั พนั ธก์ บั เนอ้ื หาทีเ่ ขยี น
- มคี วามนา่ สนใจ / แปลกใหม่
- ตงั้ ชอื่ เรอ่ื งอย่างสร้างสรรค์ ไม่ขดั ต่อหลักศลี ธรรมจรรยา
- ตง้ั ชือ่ เรื่องไดก้ ระชบั เขา้ ใจง่าย
๒. การเขยี นสว่ นนา ๑๐
- มีเน้อื หาชี้ให้เห็นความสาคัญ หรอื ปูพน้ื ฐานความเขา้ ใจให้แก่ผู้อา่ น
- สามารถกระตนุ้ และดึงดูดความสนใจของผู้อา่ นได้
- เน้อื หาในส่วนนาตอ้ งไมซ่ า้ กับส่วนสรปุ
- ปรากฏเทคนิคท่ีนา่ สนใจในการเขียนส่วนนา เช่น นาดว้ ยคาถาม นาดว้ ยสภุ าษิต
หรือบทรอ้ ยกรอง นาดว้ ยความเป็นมาของเร่ืองนาด้วยจุดประสงคข์ องการเขยี น ฯลฯ
- ความยาวของส่วนนาคิดเปน็ ประมาณร้อยละ ๒๐ ของเรียงความ
๓. การเขียนเนื้อเร่ือง ๔๐
- ลาดบั ขอ้ ความและความคดิ ตอ่ เน่ืองสอดคล้องกัน
- แสดงเหตแุ ละผลอยา่ งสมเหตุสมผล
- ปรากฏใจความสาคญั ๑ ใจความในแต่ละย่อ
- เนือ้ หาทน่ี าเสนอเปน็ ข้อเทจ็ จรงิ ถกู ต้อง
- ยกตัวอยา่ งและอา้ งองิ ประกอบโดยใชส้ านวนโวหาร สภุ าษติ คาคม ตวั เลข สถติ ิ
บุคคล ทฤษฎี หลักปรชั ญา ฯลฯ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
- ความยาวของเน้ือเรื่องประมาณร้อยละ ๖๐ ของเรียงความ
๔. การเขยี นส่วนสรปุ ๑๐
- มีเนอื้ หาสัมพันธ์กบั เน้ือหาส่วนอื่น ๆ
- มีเนอ้ื หากลา่ วปดิ ไมป่ รากฏรายละเอียดทซี่ ้ากับเนื้อเรื่อง
- ไมเ่ สนอประเด็นใหม่ทีไ่ ม่เก่ียวขอ้ ง
- ปรากฏเทคนิคท่นี ่าสนใจในการเขียนสว่ นสรุป เชน่ สังเขปสาระสาคญั ท้ังหมด เนน้ ย้าประเดน็ หลัก
ต้งั คาถามให้ผอู้ ่านฉุกคิด เสนอข้อคิดหรอื คตเิ ตือนใจ เสนอคาคมหรอื บทร้อยกรอง ฯลฯ
- ความยาวของสว่ นสรุปประมาณร้อยละ ๒๐ ของเรยี งความ
ศิลปหตั ถกรรมนกั เรยี นครงั้ ท่ี ๖๙ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย หนา้ ๑๐
รายการ คะแนน
๕. การใช้ภาษา ๒๐
- ใช้คาไดถ้ ูกต้องตามความหมาย
- ใช้ระดับภาษาได้ถูกต้องเหมาะสมตามบุคคลและสถานการณ์
- รอ้ ยเรียงประโยคได้สละสลวย/วรรณศลิ ป์
- ใชค้ าเช่อื มข้อความและย่อหน้าไดถ้ ูกต้อง
- ไม่ปรากฏสานวนภาษาต่างประเทศ
- ไม่ปรากฏการใชค้ าฟุ่มเฟือย
- ใชภ้ าษาไดก้ ระชบั อ่านเขา้ ใจง่าย
๖. การเขียนถูกต้องตามอักขรวธิ ี ๑๐
- เขยี นไดถ้ ูกต้องตามหลกั ไวยากรณ์ไทย
- สะกดคาได้ถูกต้องทกุ คา
- เวน้ วรรคตอนได้ถูกตอ้ ง
- ใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอนได้ถูกต้อง
- ไมพ่ บการฉกี คาและการตัดคา
อา่ นง่าย เปน็ ระเบยี บ สะอาดเรียบรอ้ ย ๕
รวม ๑๐๐
กรรมการจะไมพ่ จิ ารณาผลงาน ในกรณีดงั น้ี
๑) ความยาวไมเ่ ปน็ ตามท่ีกาหนด
๒) เนื้อหาไมต่ รงกับหัวข้อท่ีกาหนด
๓) องค์ประกอบเรียงความไม่ครบถ้วน
๕. เกณฑก์ ารตัดสนิ
รอ้ ยละ ๘๐ - ๑๐๐ ไดร้ บั รางวัลระดับเหรยี ญทอง
รอ้ ยละ ๗๐ - ๗๙ ไดร้ บั รางวัลระดบั เหรียญเงิน
ร้อยละ ๖๐ - ๖๙ ได้รับรางวลั ระดับเหรียญทองแดง
ต่ากว่ารอ้ ยละ ๖๐ ได้รบั เกยี รตบิ ัตร เวน้ แต่กรรมการจะเห็นเปน็ อยา่ งอ่นื
ผลการตดั สินของคณะกรรมการถอื เป็นทส่ี ้นิ สดุ
๖. คณะกรรมการการแข่งขัน ระดบั ชน้ั ละ ๓ – ๕ คน
คุณสมบตั ขิ องคณะกรรมการ
๑) ผู้ทรงคุณวุฒิ ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ินดา้ นภาษาไทย หรือ
๒) ศกึ ษานิเทศก์ท่รี ับผดิ ชอบกลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หรอื
๓) ครผู ู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ข้อควรคานงึ
๑) กรรมการที่เป็นครูต้องไม่ตัดสิน กรณีที่มีนักเรียนในสถานศึกษาของตนเข้าแข่งขันในระดับชั้นน้ัน
และกรรมการทเ่ี ป็นศึกษานิเทศก์ต้องไมต่ ัดสิน กรณีท่มี นี ักเรยี นในสถานศึกษาสงั กดั เขตของตนเข้าแข่งขัน
๒) กรรมการควรมีการแต่งต้ังให้เปน็ กรรมการตัดสนิ
๓) กรรมการควรมาจากสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาต่าง ๆ หลายเขตพื้นท่ีในภาคเดียวกนั
๔) กรรมการควรให้ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ แกน่ ักเรียนทีช่ นะลาดับท่ี ๑ – ๓
ศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียนคร้งั ที่ ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย หน้า ๑๑
๗. สถานท่ที าการแขง่ ขัน
ควรเป็นหอ้ งที่มโี ต๊ะ เกา้ อ้ี สาหรับผ้เู ขา้ แขง่ ขนั นัง่ ตามเลขท่ี โดยจดั ให้เหมาะสมกบั นกั เรยี นแต่ละ
ระดบั ชนั้
๘. การเขา้ แขง่ ขันระดับภาค และระดบั ชาติ
๘.๑ ให้ผู้ท่ีเปน็ ตวั แทนของเขตพืน้ ที่การศึกษาเข้าแขง่ ขันระดบั ภาค ทุกกิจกรรมตอ้ งได้คะแนนระดบั
เหรียญทอง ลาดับท่ี ๑ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป) และผู้ที่เปน็ ตัวแทนระดบั ภาคเขา้ แขง่ ขนั ระดบั ชาติ จะต้องได้
คะแนนระดับเหรียญทอง ลาดบั ที่ ๑ – ๓ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป)
๘.๒ กรณีแข่งขันระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา ที่มีผู้ชนะลาดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากัน และระดับภาค
มีมากกว่า ๓ คน ให้พิจารณาลาดับท่ีตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มีผู้ท่ีได้คะแนนข้อท่ี ๑ เท่ากัน
ให้ดูข้อที่ ๒ ผู้ท่ีได้คะแนนข้อที่ ๒ มากกว่าถือเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าข้อ ๒ เท่ากัน ให้ดูข้อถัดไป กรณีคะแนนเท่ากัน
ทุกข้อใหป้ ระธานกรรมการตัดสนิ เป็นผชู้ ขี้ าด
ศิลปหตั ถกรรมนกั เรยี นครง้ั ที่ ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หนา้ ๑๒
๕. ทอ่ งอาขยานทานองเสนาะ
๑. คุณสมบัตผิ ้เู ขา้ แข่งขนั
การแข่งขนั แบ่งเป็น ๔ ระดบั ดงั นี้
๑.๑ ระดบั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ – ๓ เท่านัน้
๑.๒ ระดบั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ – ๖ เท่านน้ั
๑.๓ ระดบั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ เท่านน้ั
๑.๔ ระดับมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ – ๖ เทา่ นั้น
๒. ประเภทและจานวนผเู้ ขา้ แขง่ ขนั
๒.๑ ประเภทเดีย่ ว
๒.๒ จานวนผู้เข้าแขง่ ขันระดับละ ๑ คน
๓. วิธีดาเนินการและหลักเกณฑก์ ารแขง่ ขนั
๓.๑ เน้ือหาบทอาขยานท่นี ามาใชแ้ ข่งขันทอ่ งอาขยานทานองเสนาะ ประกอบด้วยบทอาขยานบทหลกั
และบทอาขยานบทเลอื กของแต่ละชัน้ ปี จากหนังสอื อ่านเพมิ่ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย บทอาขยาน
ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของสานักงานคณะกรรมการ
การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ และให้ผู้เขา้ แข่งขนั ทอ่ งอาขยานทานองเสนาะโดยไมด่ ูบท
๓.๒ คณะกรรมการเตรยี มบทอาขยานบทหลักและบทอาขยานบทเลอื กของแตล่ ะชั้นปี จาแนกเป็น
บทอาขยานบทหลัก ๕ บท และบทอาขยานบทเลือก ๕ บท รวม ๑๐ บท โดยดาเนินการดงั นี้
๑) ใหต้ ัวแทนกรรมการจับฉลากบทอาขยานจานวน ๑ บท จาก ๑๐ บท
เพื่อให้ผ้เู ขา้ แข่งขันใช้เปน็ บทท่อง
๒) นักเรียนท่ีเข้าแขง่ ขนั ไมต่ ้องแนะนาตวั เองต่อคณะกรรมการ
๓.๓ เวลาในการทอ่ งบทอาขยานทานองเสนาะขึน้ อย่กู ับเนอื้ หาบทอาขยาน
๔. เกณฑก์ ารให้คะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน) ดงั น้ี
๑) ถูกตอ้ งตามฉันทลกั ษณข์ องบทร้อยกรอง คะแนนเต็ม ๓๐ คะแนน
๒) ถูกต้องตามอักขรวิธี เชน่ การอา่ นคา คะแนนเต็ม ๓๐ คะแนน
การออกเสียงคาควบกลา้ ร, ล ฯลฯ (ออกเสยี งผิด ๑ ครง้ั หัก ๒ คะแนน)
๓) น้าเสยี ง เช่น ความไพเราะ ความหนักเบาและความชดั เจน ฯลฯ คะแนนเต็ม ๓๐ คะแนน
๔) ให้อารมณ์ความรู้สกึ ทส่ี อดคล้องกบั เนื้อหาของบทอาขยาน คะแนนเต็ม ๕ คะแนน
๕) บคุ ลิกภาพมัน่ ใจ คะแนนเต็ม ๕ คะแนน
๕. เกณฑ์การตดั สนิ
ร้อยละ ๘๐ - ๑๐๐ ไดร้ ับรางวลั ระดบั เหรยี ญทอง
ร้อยละ ๗๐ - ๗๙ ได้รบั รางวัลระดับเหรียญเงนิ
รอ้ ยละ ๖๐ - ๖๙ ได้รบั รางวลั ระดับเหรียญทองแดง
ตา่ กวา่ ร้อยละ ๖๐ ได้รับเกยี รติบตั ร เว้นแต่กรรมการจะเหน็ เป็นอย่างอ่ืน
ผลการตดั สนิ ของคณะกรรมการถอื เปน็ ทสี่ ิน้ สดุ
ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี นครง้ั ท่ี ๖๙ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย หน้า ๑๓
๖. คณะกรรมการการแขง่ ขัน ระดบั ชัน้ ละ ๓ – ๕ คน
คณุ สมบัตขิ องคณะกรรมการ
๑) ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ดา้ นภาษาไทย หรือ
๒) ศกึ ษานิเทศก์ทรี่ บั ผดิ ชอบกลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย หรือ
๓) ครูผู้สอนกลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ขอ้ ควรคานึง
๑) กรรมการทเ่ี ปน็ ครตู อ้ งไม่ตัดสิน กรณีท่ีมนี ักเรยี นในสถานศกึ ษาของตนเขา้ แข่งขนั
ในระดับช้ันนั้น และกรรมการท่เี ปน็ ศึกษานเิ ทศก์ต้องไมต่ ัดสิน กรณีที่มนี ักเรียนในสถานศึกษาสังกัดเขตของตน
เข้าแขง่ ขัน
๒) กรรมการควรมีการแต่งต้ังใหเ้ ป็นกรรมการตัดสนิ
๓) กรรมการควรมาจากสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาต่าง ๆ หลายเขตพืน้ ท่ีในภาคเดียวกัน
๔) กรรมการควรให้ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ แกน่ ักเรยี นท่ีชนะลาดบั ท่ี ๑ – ๓
๗. สถานท่ที าการแข่งขนั
จัดห้องสอบที่มีพื้นที่ให้นักเรียนท่องอาขยานทานองเสนาะต่อหน้าคณะกรรมการ ซึ่งจะต้องมี
ห้องเก็บตัวสาหรับนักเรียนที่รอเวลาการแข่งขันซึ่งอยู่ไกลจากสถานที่แข่งขันพอสมควร เพื่อไม่ให้ได้ยินเสียง
ผู้เข้าแขง่ ขันท่ีกาลงั ดาเนินการแข่งขนั
๘. การเข้าแข่งขนั ระดบั ภาค และระดบั ชาติ
๘.๑ ให้ผู้ที่เป็นตัวแทนของเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเข้าแข่งขันระดับภาค ทุกกิจกรรมต้องได้คะแนนระดับ
เหรยี ญทอง ลาดับท่ี ๑ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป) และผทู้ เ่ี ปน็ ตัวแทนระดบั ภาคเข้าแข่งขันระดบั ชาติ จะต้องได้
คะแนนระดบั เหรียญทอง ลาดบั ที่ ๑ – ๓ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป)
๘.๒ กรณีแข่งขันระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา ที่มีผู้ชนะลาดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากัน และระดับภาค
มีมากกว่า ๓ คน ให้พิจารณาลาดับท่ีตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มีผู้ท่ีได้คะแนนข้อที่ ๑ เท่ากัน
ให้ดูข้อที่ ๒ ผู้ท่ีได้คะแนนข้อที่ ๒ มากกว่าถือเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าข้อ ๒ เท่ากัน ให้ดูข้อถัดไป กรณีคะแนนเท่ากัน
ทกุ ข้อให้ประธานกรรมการตัดสินเป็นผูช้ ขี้ าด
ศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียนครงั้ ที่ ๖๙ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หนา้ ๑๔
๖. กวเี ยาวชนคนรุ่นใหม่
๑. คุณสมบัตผิ เู้ ขา้ แข่งขนั
การแขง่ ขนั แบ่งเป็น ๓ ระดับ ดงั นี้
๑.๑ ระดับประถมศึกษาปีท่ี ๔ – ๖ เทา่ น้นั
๑.๒ ระดบั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ - ๓ เท่าน้นั
๑.๓ ระดับมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ – ๖ เทา่ นัน้
๒. ประเภทและจานวนผเู้ ข้าแขง่ ขัน
๒.๑ ประเภททีม
๒.๒ จานวนผเู้ ข้าแขง่ ขันระดับละ ๒ คน
๓. วธิ ดี าเนนิ การและหลักเกณฑก์ ารแข่งขัน
๓.๑ กรรมการกาหนดหวั ขอ้ ท่จี ะใชใ้ นการแขง่ ขนั จานวน ๓ หวั ขอ้
๓.๒ ใหน้ ักเรียนเลือกผู้แทน ๑ คน จับฉลากหัวข้อ แลว้ นาหวั ข้อท่ีจบั ฉลากได้ไปแต่งบทร้อยกรอง
๑) ชัน้ ป. ๔ - ๖ แตง่ กลอนส่ี จานวน ๔ บท
๒) ชัน้ ม. ๑ - ๓ แตง่ กาพย์ยานี ๑๑ จานวน ๖ บท
๓) ช้ัน ม. ๔ - ๖ แตง่ โคลงสี่สุภาพ จานวน ๔ บท
๓.๓ ใช้เวลาในการแต่งคาประพนั ธ์ ๑ ช่ัวโมง
* บทรอ้ ยกรองที่ผิดฉนั ทลกั ษณ์ ต่อไปน้ี กรรมการจะไม่นาไปตรวจให้คะแนน
๑) ไมม่ ีสัมผัสระหวา่ งวรรค
๒) กรณแี ตง่ กลอนส่ี หรอื กาพย์ยานี ไม่มีสัมผสั ระหว่างบท
๓) กรณแี ต่งโคลงสี่สุภาพไมม่ กี ารรอ้ ยโคลง
๔) วางตาแหนง่ คาเอกและคาโทในโคลงสี่สุภาพไม่ถูกตาแหน่ง
๕) ใช้สระเสยี งส้ัน สัมผัสกบั สระเสียงยาวเป็นสัมผสั บังคับ (เช่น ใช้ “ใจ”สมั ผัส กับ“กาย”)
๖) เขียนไมค่ รบตามท่ีกาหนด
๔. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (คะแนนเตม็ ๑๐๐ คะแนน) ดังนี้
๑) ฉันทลกั ษณแ์ ละอกั ขรวธิ ี คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน
- เขยี นตัวสะกดการันตผ์ ิด หกั คาละ ๑ คะแนน
- มีสมั ผสั ซา้ หักคะแนนตาแหนง่ ละ ๒ คะแนน
๒) ความคิดและเนอ้ื หา คะแนนเตม็ ๔๐ คะแนน
- ตรงประเด็น หมายความว่า นกั เรียนจะต้องใช้หวั ข้อท่กี าหนดให้เป็นแกนเร่ือง
- เสนอแนวคิดสรา้ งสรรค์ หมายความว่า เนือ้ หาท่ีนกั เรยี นเสนอนนั้ ให้แง่คิดที่เป็น
ประโยชน์แกผ่ ู้อา่ น เช่น แง่คดิ ในการดารงชีวิต การเข้าใจสังคม การปฏบิ ตั ิตนให้เปน็ ประโยชนต์ ่อสังคม
- เสนอแนวคิดแปลกใหม่ หมายความวา่ แนวความคดิ ทเ่ี สนอในเนอื้ หาไม่คอ่ ยมีใคร
กลา่ วถงึ เปน็ แนวความคดิ ที่มเี หตผุ ลและอยู่ในขอบเขตของหัวขอ้
๓) กวโี วหาร คะแนนเต็ม ๔๐ คะแนน
- เลือกใช้คาเหมาะแกเ่ น้ือหาและบรบิ ท
- เล่นสมั ผสั อักษร เลน่ คา ไพเราะ สละสลวยและราบรนื่ ชว่ ยให้คาประพนั ธ์ไพเราะยงิ่ ข้ึน
- ใชโ้ วหารตา่ ง ๆ สง่ เสรมิ เน้อื หาให้มีความหมายลึกซึ้งกินใจ เชน่ กล่าวเปรียบเทยี บ
ใชบ้ ุคลาธษิ ฐาน เปน็ ตน้
ศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรียนครงั้ ที่ ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย หนา้ ๑๕
๕. เกณฑก์ ารตัดสิน
ร้อยละ ๘๐ - ๑๐๐ ได้รบั รางวลั ระดบั เหรียญทอง
ร้อยละ ๗๐ - ๗๙ ได้รับรางวลั ระดับเหรียญเงนิ
รอ้ ยละ ๖๐ - ๖๙ ได้รบั รางวลั ระดบั เหรยี ญทองแดง
ต่ากวา่ รอ้ ยละ ๖๐ ได้รับเกยี รติบัตร เว้นแต่กรรมการจะเห็นเปน็ อย่างอนื่
ผลการตดั สนิ ของคณะกรรมการถอื เป็นทส่ี ้ินสุด
๖. คณะกรรมการการแขง่ ขัน ระดบั ชน้ั ละ ๓ – ๕ คน
คุณสมบตั ขิ องคณะกรรมการ
๑) ผู้ทรงคณุ วุฒิ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ินดา้ นภาษาไทย หรือ
๒) ศึกษานิเทศก์ท่รี บั ผดิ ชอบกลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย หรอื
๓) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ขอ้ ควรคานึง
๑) กรรมการท่ีเป็นครตู ้องไม่ตดั สนิ กรณีท่ีมีนักเรยี นในสถานศึกษาของตนเขา้ แขง่ ขนั
ในระดับชน้ั นนั้ และกรรมการทเ่ี ป็นศึกษานิเทศก์ต้องไม่ตัดสิน กรณีท่ีมนี ักเรียนในสถานศึกษาสังกัดเขตของตน
เข้าแข่งขนั
๒) กรรมการควรมกี ารแต่งตง้ั ให้เปน็ กรรมการตดั สนิ
๓) กรรมการควรมาจากสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ หลายเขตพนื้ ที่ในภาคเดียวกัน
๔) กรรมการควรให้ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติมแกน่ ักเรยี นท่ชี นะลาดบั ที่ ๑ – ๓
๗. สถานทท่ี าการแข่งขนั
ควรเป็นห้องท่มี โี ต๊ะ เก้าอ้ี สาหรับผ้เู ข้าแขง่ ขันเปน็ ทีม โดยจดั ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละระดบั ช้นั
๘. การเข้าแขง่ ขันระดับภาค และระดบั ชาติ
๘.๑ ให้ทีมทีเ่ ป็นตวั แทนของเขตพื้นที่การศึกษาเขา้ แข่งขันระดับภาค ทุกกจิ กรรมตอ้ งได้คะแนนระดบั
เหรยี ญทอง ลาดบั ที่ ๑ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป) และทีมท่ีเปน็ ตวั แทนระดบั ภาคเข้าแข่งขนั ระดับชาติ จะต้อง
ไดค้ ะแนนระดับเหรียญทอง ลาดับท่ี ๑ – ๓ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป)
๘.๒ กรณีแข่งขันระดับเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษา ท่ีมที มี ชนะลาดับสูงสดุ ได้คะแนนเท่ากัน และระดับภาค มี
มากกวา่ ๓ ทมี ให้พิจารณาลาดับท่ีตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มที มี ท่ีได้คะแนนข้อท่ี ๑ เท่ากนั
ให้ดูข้อท่ี ๒ ทมี ท่ีได้คะแนนข้อที่ ๒ มากกวา่ ถือเป็นผูช้ นะ แต่ถา้ ข้อ ๒ เทา่ กนั ใหด้ ูข้อถดั ไป กรณีคะแนนเทา่ กัน
ทกุ ข้อใหป้ ระธานกรรมการตดั สินเป็นผู้ชข้ี าด
ศลิ ปหัตถกรรมนกั เรียนครง้ั ท่ี ๖๙ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย หน้า ๑๖
๗. ตอ่ คาศพั ทภ์ าษาไทย (คาคมเดมิ )
๑. คณุ สมบัตผิ ู้เขา้ แขง่ ขนั
การแข่งขนั แบ่งเปน็ ๓ ระดับ ดงั น้ี
๑.๑ ระดับประถมศึกษาปที ่ี ๔ - ๖ เท่าน้ัน (ประเภททีม ๒ คน)
๑.๒ ระดับมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ - ๓ เทา่ นนั้ (ประเภททมี ๒ คน)
๑.๓ ระดบั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ - ๖ เทา่ นน้ั (ประเภทเดยี่ ว)
๒. วิธดี าเนินการและหลกั เกณฑก์ ารแขง่ ขนั
๒.๑ ระดบั เขตพ้ืนที่การศกึ ษา
๒.๑.๑ โรงเรียนสามารถส่งตัวแทนเขา้ แขง่ ขัน จานวนไมเ่ กิน ๑ ทีม/ ระดบั ชั้น
๒.๑.๒ ระยะเวลาดาเนินการแขง่ ขัน ๑ วัน
๒.๑.๓ เขตทม่ี จี านวนทมี เขา้ ร่วมการแข่งขนั ๒ ทีม กาหนดให้ทัง้ ๒ ทมี มาแข่งในรอบตัดสิน
๒ เกม โดยไม่ต้องมีรอบคัดเลือก และผลดั กนั เรม่ิ ต้นเกมก่อน - หลัง เพ่ือความยุติธรรม
๒.๑.๔ เขตท่ีมีจานวนทีมเขา้ ร่วมการแข่งขนั ๓ – ๖ ทมี กาหนดใหท้ กุ ทีมแข่งขันกนั ในรอบ
คัดเลอื กแบบพบกันหมด (Round Robin) ตามระบบการแข่งขนั สากล ในกรณีท่ีมที มี แข่งขันไม่มากและสามารถ
จัดแขง่ แบบพบกนั หมดได้ในเวลาท่กี าหนด แต่ละทมี จะได้แข่งขนั กบั คูแ่ ขง่ ขันทุกโรงเรยี น จากนั้นนาทมี ท่ีมผี ล
คะแนนดีที่สดุ ๒ ลาดบั แรก เขา้ สู่รอบชงิ ชนะเลศิ โดยทาการแขง่ ขนั รอบชงิ ชนะเลิศ ๒ เกม และผลดั กนั เริ่มตน้
เกมก่อน - หลงั เพือ่ ความยตุ ิธรรม
๒.๑.๕ เขตที่มจี านวนทมี เข้าร่วมการแข่งขนั ต้งั แต่ ๗ ทีมขึน้ ไป กาหนดให้ทกุ ทีมแข่งรอบ
คดั เลอื กโดยใช้ระบบประกบคู่การแขง่ ขนั (Pairing) วิธกี าร King of the Hill (KOTH) ตามระบบการแขง่ ขนั
สากล รอบคัดเลือกจานวน ๕ เกม และรอบชงิ ชนะเลศิ ๒ เกม โดยดาเนินการแขง่ ขันตามโปรแกรม ดังนี้
เกมท่ี ๑ กรรมการประกบคู่แขง่ ขันแบบสุ่ม (Random) ดว้ ยวธิ จี บั สลาก เม่อื แข่งขัน
เสรจ็ ให้บันทึกผลการแขง่ ขนั ในใบบันทึกผลการแข่งขัน (master score card) และสง่ ให้กรรมการจดั ลาดบั คะแนน
เกมที่ ๒-๕ กรรมการประกบคู่การแข่งขันวิธีการ King of the Hill (KOTH)
ในทุกรอบ โดยนาผู้เข้าแข่งขันที่มีลาดับคะแนนหลังจากจบเกมก่อนหน้านี้มาประกบคู่ใหม่ และให้ทีมอันดับ
๑ พบ ๒ และ ๓ พบ ๔ ไปเรื่อย ๆ จนครบทุกทีมท่ีเข้าร่วมการแข่งขัน หลังจบการแข่งขันในแต่ละเกม
ให้ผู้เข้าแข่งขันบันทึกผลการแข่งขันในใบบันทึกผลการแข่งขัน (master score card) และส่งให้กรรมการ
จัดลาดับคะแนน
จากนั้นนาทมี ทม่ี ผี ลคะแนนดีท่สี ดุ ๒ ลาดบั แรก ในรอบคัดเลือก เข้าสรู่ อบชงิ ชนะเลิศ
โดยทาการแข่งขันรอบชงิ ชนะเลศิ ๒ เกม และผลัดกนั เร่ิมต้นเกมก่อน - หลัง เพอ่ื ความยุติธรรม
๒.๑.๖ ในกรณที ่ีผเู้ ข้าแข่งขนั ทมี ใด มผี ลการแข่งขันท่ีจะเข้าสรู่ อบชิงชนะเลศิ แน่นอนแล้ว
แม้จะแพใ้ นเกมท่เี หลอื ในการแขง่ ขันรอบคัดเลือก โดยให้ผ้เู ข้าแขง่ ขนั ทมี นั้นเข้าสูร่ อบชงิ ชนะเลศิ โดยไม่ต้อง
แข่งขนั ในเกมที่เหลืออีก (ระบบ Gibsonize)
๒.๑.๗ ตวั แทน ๑ ทมี เขา้ สรู่ อบระดับภาค
หมายเหตุ โปรแกรมจดั อนั ดับและประกบคู่อตั โนมตั ิ และแบบฟอร์มใบบนั ทึกผลการแขง่ ขัน (master score
card) แบบฟอรม์ กระดาษตรวจคาศัพท์ กระดาษบนั ทึกคะแนน เพือ่ ใชใ้ นการแขง่ ขัน สามารถดาวน์โหลดไดท้ ี่
Facebook : การต่อคาศพั ท์ภาษาไทย (คาคมเดมิ ) ศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน
https://www.facebook.com/groups/๑๖๔๘๗๓๑๑๗๓๗๐๕๑๕/
ศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียนคร้งั ท่ี ๖๙ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หน้า ๑๗
๒.๒ ระดับภาค
๒.๒.๑ ทมี ทีไ่ ดเ้ ปน็ ตวั แทนของเขตพ้ืนที่การศึกษาเขา้ แขง่ ขันในระดับภาค
๒.๒.๒ ระยะเวลาดาเนนิ การแขง่ ขัน ๑ วนั
๒.๒.๓ กาหนดใหท้ กุ ทมี แข่งรอบคัดเลือกโดยใชร้ ะบบประกบคู่การแข่งขนั (Pairing)
วิธีการ King of the Hill (KOTH) ตามระบบการแขง่ ขนั สากล รอบคัดเลือกจานวน ๖ เกม และรอบชิงชนะเลิศ
๒ เกม โดยดาเนินการแขง่ ขัน ดังน้ี
เกมที่ ๑ กรรมการประกบคู่แขง่ ขนั แบบสุ่ม (Random) ดว้ ยวิธจี บั สลาก โดยจัดเปน็
กล่มุ ละ ๔ ทีม
เกมที่ ๒ หลังจบการแขง่ ขันเกมที่ ๑ ให้ผูเ้ ข้าแข่งขนั สลับคแู่ ขง่ ขัน โดยผชู้ นะจะแขง่ กับ
ผ้ชู นะท่อี ยูใ่ นกล่มุ เดียวกนั และทมี ทเ่ี หลืออกี ๒ ทมี (ผแู้ พ้) ในกลมุ่ นน้ั จะมาแข่งกนั จบเกมใหส้ ง่ ใบบนั ทึก
ผลการแข่งขนั (master score card) จากน้ันใหก้ รรมการจัดเรียงอันดบั ตามผลการแข่งขัน เพื่อประกบคู่
การแขง่ ขนั ในเกมที่ ๓
เกมท่ี ๓ กรรมการประกบคู่การแข่งขนั วธิ กี าร King of the Hill โดยนาผ้เู ขา้ แข่งขนั ท่ี
มีลาดบั คะแนนหลงั จากจบเกมที่ ๒ มาประกบคู่ใหม่ ให้ทีมอันดับ ๑ พบ ๒ และ ๓ พบ ๔ ไปเรื่อย ๆ จนครบ
ทุกทีมทเี่ ข้ารว่ มการแขง่ ขัน
เกมที่ ๔ หลงั จบการแข่งขันเกมท่ี ๓ ให้ผ้เู ข้าแขง่ ขันสลับคู่แขง่ ขัน โดยผชู้ นะจะแข่ง
กับผู้ชนะท่ีอย่ใู นกลุ่มเดียวกนั และทีมท่ีเหลืออีก ๒ ทีม (ผู้แพ้) ในกลุ่มนนั้ จะมาแข่งกนั จบเกมใหส้ ง่ ใบบันทึก
ผลการแขง่ ขนั (master score card) จากนัน้ ให้กรรมการจัดเรยี งอนั ดบั ตามผลการแข่งขนั เพ่ือประกบคู่
การแข่งขันในเกมที่ ๕
เกมท่ี ๕ กรรมการประกบคู่การแข่งขันวธิ ีการ King of the Hill โดยนาผู้เขา้ แขง่ ขัน
ที่มลี าดับคะแนนหลังจากจบเกมท่ี ๔ มาประกบค่ใู หม่ ใหท้ ีมท่ีมีลาดับคะแนน ๑ พบ ๒ และ ๓ พบ ๔ ไปเร่ือย ๆ
จนครบทกุ ทีมทเี่ ข้ารว่ มการแข่งขนั จบเกมใหส้ ง่ ใบบนั ทึกผลการแขง่ ขนั (master score card)
เกมท่ี ๖ กรรมการประกบคู่การแข่งขนั วธิ กี าร King of the Hill โดยนาผู้เข้าแข่งขนั
ทมี่ ลี าดบั คะแนนหลังจากจบเกมท่ี ๕ มาประกบคใู่ หม่ ใหท้ ีมทมี่ ีลาดับคะแนน ๑ พบ ๒ และ ๓ พบ ๔ ไปเรื่อย ๆ
จนครบทุกทีมทีเ่ ข้ารว่ มการแขง่ ขัน จบเกมให้ส่งใบบนั ทึกผลการแข่งขนั (master score card)
จากนั้นนาทมี ที่มผี ลคะแนนดีที่สุด ๒ ลาดับแรก ในรอบคดั เลือกเข้าสู่รอบชงิ ชนะเลิศ
และทมี ทีม่ คี ะแนนท่ี ๓ และ ๔ เข้าสรู่ อบชงิ อันดบั ท่ี ๓ โดยทาการแขง่ ขัน ๒ เกม และผลัดกันเร่มิ ตน้ เกม
กอ่ น - หลงั เพื่อความยุติธรรม
๒.๒.๔ ในกรณีทผ่ี เู้ ขา้ แขง่ ขันทีมใด มีผลการแข่งขันที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลศิ แน่นอนแล้ว
แม้จะแพ้ในเกมที่เหลอื ในการแข่งขนั รอบคัดเลือก โดยให้ผ้เู ขา้ แขง่ ขันทีมน้ันเขา้ สู่รอบชงิ ชนะเลิศ โดยไม่ต้อง
แขง่ ขันในเกมทีเ่ หลอื อกี (ระบบ Gibsonize)
๒.๒.๕ ตวั แทน ๓ ทีมทม่ี ผี ลการแขง่ ขันอนั ดบั ๑ - ๓ เป็นตวั แทนเขา้ แข่งขนั ระดับชาติ
ศิลปหัตถกรรมนกั เรยี นครั้งที่ ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย หนา้ ๑๘
๒.๓ ระดับชาติ
๒.๓.๑ ทมี ท่ไี ด้เป็นตวั แทนของภาคเขา้ แขง่ ขันในระดับชาติ
๒.๓.๒ ระยะเวลาดาเนินการแขง่ ขนั ๑ วัน
๒.๓.๓ กาหนดใหท้ กุ ทีมแข่งรอบคัดเลือกโดยใช้ระบบประกบคู่การแข่งขัน (Pairing)
วิธีการ King of the Hill (KOTH) ตามระบบการแขง่ ขันสากล รอบคัดเลอื กจานวน ๖ เกม และรอบชิงชนะเลิศ
๒ เกม โดยดาเนินการแข่งขัน ดังน้ี
เกมท่ี ๑ กรรมการประกบคู่แข่งขนั แบบสุ่ม (Random) ด้วยวิธจี ับสลาก เมอ่ื แขง่ ขนั
เสร็จใหบ้ ันทึกผลการแขง่ ขนั (master score card) และสง่ ให้กรรมการจัดเรียงลาดบั คะแนน
เกมที่ ๒ - ๖ กรรมการประกบคกู่ ารแขง่ ขนั วิธีการ King of the Hill ในทุกรอบ
โดยนาผู้เขา้ แข่งขนั ท่มี ลี าดบั คะแนนหลงั จากจบเกมกอ่ นหน้าน้ี มาประกบคู่ใหม่ ให้ทีมอันดับ ๑ พบ ๒ และ
๓ พบ ๔ ไปเรื่อย ๆ จนครบทุกทมี ที่เข้ารว่ มการแข่งขนั จบเกมใหส้ ่งใบบนั ทกึ ผลการแข่งขัน (master score
card) และส่งให้กรรมการจดั เรียงลาดบั คะแนน
จากนนั้ นาทมี ที่มีผลคะแนนดีที่สุด ๒ ลาดับแรก ในรอบคดั เลอื ก เขา้ สูร่ อบชิงชนะเลิศ
และทมี ทมี่ คี ะแนนที่ ๓ และ ๔ เข้าสู่รอบชงิ อนั ดับท่ี ๓ โดยทาการแขง่ ขัน ๒ เกม และผลดั กันเร่มิ ตน้ เกม
ก่อน - หลงั เพื่อความยุติธรรม
๒.๓.๔ ในกรณีทีผ่ ู้เขา้ แข่งขนั ทมี ใด มีผลการแขง่ ขนั ท่ีจะเข้าสู่รอบชิงชนะเลศิ แน่นอนแล้ว
แม้จะแพ้ในเกมทีเ่ หลือในการแข่งขนั รอบคดั เลือก โดยใหผ้ เู้ ข้าแขง่ ขันทมี นั้นเข้าสู่รอบชงิ ชนะเลิศ โดยไมต่ ้อง
แข่งขนั ในเกมทเี่ หลอื อกี (ระบบ Gibsonize)
๓.เกณฑ์การตดั สนิ
ร้อยละ ๘๐ - ๑๐๐ ได้รบั รางวัลระดบั เหรียญทอง
ร้อยละ ๗๐ - ๗๙ ได้รับรางวัลระดบั เหรยี ญเงิน
ร้อยละ ๖๐ - ๖๙ ได้รบั รางวัลระดบั เหรยี ญทองแดง
ต่ากว่ารอ้ ยละ ๖๐ ไดร้ บั เกยี รติบตั ร เว้นแต่กรรมการจะเหน็ เป็นอยา่ งอืน่
ผลการตดั สนิ ของคณะกรรมการถอื เปน็ ท่สี ิ้นสดุ
๔. คณะกรรมการการแข่งขัน ระดบั ชน้ั ละ ๓ – ๕ คน
คุณสมบตั ิของคณะกรรมการ
๑) ผู้ทรงคณุ วุฒิ วทิ ยากร นักกีฬาคาคม ทม่ี ีความรู้ ความยุตธิ รรม มีความเข้าใจในระบบการแข่งขนั
ตลอดจนกฎและกติกาการแข่งขันเปน็ อย่างดี หรอื
๒) ศกึ ษานิเทศก์ทรี่ ับผดิ ชอบกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ทม่ี คี วามรูก้ ฎกติกาการแข่งขัน หรอื
๓) ครูผู้สอนกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ที่มคี วามรู้กฎกตกิ าการแขง่ ขัน
ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี นครงั้ ที่ ๖๙ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย หนา้ ๑๙
ข้อควรคานึง
๑) กรรมการท่เี ป็นครตู อ้ งไม่ตัดสนิ กรณที ่มี ีนักเรยี นในสถานศกึ ษาของตนเขา้ แข่งขัน
ในระดับชน้ั น้นั และกรรมการท่เี ปน็ ศึกษานเิ ทศก์ต้องไมต่ ัดสิน กรณีทมี่ นี ักเรียนในสถานศึกษาสงั กัดเขตของตน
เข้าแขง่ ขนั
๒) กรรมการควรมีการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตัดสนิ
๓) กรรมการควรมาจากสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาต่าง ๆ หลายเขตพน้ื ท่ีในภาคเดยี วกนั
๔) กรรมการควรให้ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติมแก่นักเรยี นที่ชนะลาดบั ที่ ๑ – ๓
๕. กตกิ าเพิม่ เติม
๕.๑ กฎและกติกาการแข่งขัน การลงคาศัพทใ์ นกระดาน ตอ้ งประกอบด้วยพยัญชนะอย่างน้อย ๑ ตวั
ผสมกับสระ หรือพยญั ชนะอย่างน้อยอกี ๑ ตวั เชน่ สี , กา , กก เปน็ ต้น นอกจากนี้ให้ใชก้ ฎ กตกิ า และ
ระบบการแขง่ ขันแบบมาตรฐานสากลของสมาคมครอสเวิร์ด เอแม็ท คาคม และซูโดกแุ ห่งประเทศไทย
เท่าทไ่ี ม่ขดั หรือแย้งกับเกณฑ์น้ี
๕.๒ อุปกรณ์ในการแขง่ ขัน ผ้เู ขา้ แข่งขนั ทุกทีมจะต้องเตรยี มอุปกรณ์ในการแขง่ ขนั มาเอง ไดแ้ ก่
กระดานทีใ่ ชใ้ นการแข่งขนั , แป้นวางเบยี้ , ตวั เบี้ย และเบ้ยี สารอง (กรณตี ัวเบย้ี หาย) โดยทาสญั ลกั ษณ์
เคร่อื งหมาย หรอื เขียนช่ือโรงเรยี นให้เรียบร้อยเพ่ือใชใ้ นการแขง่ ขัน
๕.๓ เวลาในการแขง่ ขัน
๕.๓.๑ ใชเ้ วลาแขง่ ขนั ฝ่งั ละ ๒๒ นาที โดยใช้นาฬกิ าจับเวลาแบบเปลี่ยนสลบั (Switch
Toggle) หรือ Chess Clock ทุกเกม เพ่ือป้องกนั ปัญหาความล่าชา้ ในการเลน่ การตัดเกม และการถ่วงเวลา
๕.๓.๒ หากไมม่ ีนาฬิกาให้ใช้แทบ็ เลต็ พีซี หรือสมารท์ โฟน (แนะนาใหใ้ ชร้ ะบบ Android)
โดยติดตง้ั แอพพลเิ คช่ันสาหรับจับเวลาเพมิ่ เติม ซ่ึงสามารถดาวนโ์ หลดแอพพลิเคชัน่ เพ่ือนามาใช้จบั เวลาได้
โดยพมิ พ์คน้ หาใน App Store คาว่า “Scrabble Clock” หรือ “Chess Clock”
๕.๓.๓ ผ้เู ขา้ แข่งสามารถนาสมาร์ทโฟนที่มีโปรแกรมนาฬกิ าจบั เวลามาใช้ในการแข่งขนั ได้
คูแ่ ขง่ ขันสามารถตรวจสอบและทดสอบการใช้งานของนาฬิกาท่ีคูต่ ่อสเู้ ตรียมมากอ่ นได้
๕.๓.๔ กอ่ นแข่งให้ตรวจสอบแบตเตอร่ีที่เหลือก่อนใชท้ ุกครั้ง เพือ่ ป้องกนั เคร่ืองดับระหว่างแข่งขัน
๕.๓.๕ ในการแข่งขันตอ้ งมนี าฬกิ าจบั เวลาหรอื อปุ กรณ์จับเวลาทุกเกมการแข่งขนั
ในกรณีไม่มีอุปกรณจ์ บั เวลา กรรมการต้องบริหารจัดการเวลาในการแขง่ ขนั ตามเวลาท่กี าหนด
๕.๓.๖ หากมีผู้เล่นใช้เวลาเกิน จะถูกหักคะแนนนาทีละ ๑๐ คะแนน เศษวินาทีจะถูกนับเป็น
๑ นาที ตัวอย่างเช่น นาย ก ใช้เวลาตดิ ลบ -๓.๑๘ นาที จะถอื ว่านาย ก ใชเ้ วลาเกิน ๔ นาที และจะถูกหักคะแนน
๔๐ คะแนนตามกฎ (นาฬิกาท่ีใช้ต้องตั้งค่าโปรแกรมให้เวลาติดลบได้) ผู้เล่นควรฝึกการใช้นาฬิกาจับเวลา
ให้ชานาญก่อนแข่งเพ่ือให้การแข่งขันเป็นไปตามมาตรฐานสากล ท้ังนี้ในการแข่งขันแต่ละเกม กาหนดเวลา
ไม่เกิน ๖๐ นาที หากเกินเวลาท่กี าหนดกรรมการตดั สินสามารถทาการตดั เกมการแข่งขันได้
ศลิ ปหัตถกรรมนกั เรียนครัง้ ท่ี ๖๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย หนา้ ๒๐
๕.๔ การขอตรวจคาศัพท์ (Challenge)
๕.๔.๑ กรรมการใชพ้ จนานุกรมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หรอื สบื ค้นคาศพั ทไ์ ด้
จากเว็บไซต์ราชบัณฑิตยสถาน http://www.royin.go.th/dictionary/ เพื่อสง่ เสริมการใชภ้ าษาไทย
อย่างถูกต้อง และไดเ้ รียนรู้ความหมายของคาศพั ท์ โดยยกเว้นคาท่ไี ม่นามาใชใ้ นการแขง่ ขัน ดังน้ี
๑) คาท่มี เี คร่ืองหมายยัตภิ งั ค์ – ต่อท้าย เช่น สถิร- , ทกั ษ-
๒) คาทม่ี ีการเวน้ วรรคในระหวา่ งคา เชน่ ก หัน
๓) คาทม่ี ีเครื่องหมายไปยาลน้อย (ฯ) เชน่ ฯพณฯ
๔) คาท่ีมีไม้ยมก (ๆ) เชน่ รถตุก๊ ๆ
โดยใหผ้ เู้ ล่นเขยี นคาศัพท์ที่ขอตรวจคาศพั ท์ (challenge) ลงในกระดาษตรวจคาศัพท์
จากนัน้ นาไปให้คณะกรรมการรว่ มพจิ ารณา ผลการตรวจคาศัพท์ของคณะกรรมการถือเปน็ ทส่ี ้นิ สุด
๕.๔.๒ ผเู้ ล่นจะสามารถขอตรวจคาศัพทไ์ ด้กต็ อ่ เมอื่ คูต่ ่อสู้ขานแตม้ และกดเวลาแล้วเท่านั้น
หากคูต่ ่อสยู้ ังไมข่ านแตม้ และไม่กดเวลา การขอตรวจคาศัพท์ (challenge) ไม่เปน็ ผล
๕.๔.๓ การพจิ ารณาคาศพั ท์ท่สี งสยั ก่อนทจ่ี ะมีการขอตรวจคาศพั ทห์ รอื ดาเนนิ การเลน่ เกม
ต่อไป (Hold) ใช้เวลาไม่เกนิ ๑ นาที
๕.๕ คะแนนในแตล่ ะเกม ทีมจะบนั ทกึ ในใบบนั ทึกผลการแขง่ ขนั (master score card) ในช่อง WTL
ทมี ที่ชนะบันทึกดว้ ยตัว W มคี ่าเทา่ กับ ๒ คะแนน , เสมอบนั ทกึ ด้วยตัว T มคี ่าเทา่ กับ ๑ คะแนน
และแพ้บนั ทกึ ด้วยตัว L มคี า่ เท่ากบั ๐ คะแนน
๕.๖ การจดั อันดับคะแนน ให้นับคะแนนรวมจากเกมท่ีชนะ (W) และเสมอ (T) กอ่ นเปน็ ลาดบั แรก
หากคะแนนเทา่ กัน ใหใ้ ช้ผลต่างสะสม (Difference) เป็นตัวตัดสิน
๕.๗ ผลตา่ งสงู สุดต่อเกม (Maximum Difference)
๕.๗.๑ ผลต่างสูงสุดไมเ่ กนิ ๒๕๐ ถ้าเกินกวา่ น้ันใหป้ ดั ลงเหลือ ๒๕๐ เฉพาะเกมสดุ ท้าย
ผลตา่ งไม่เกนิ ๒๐๐ ถา้ เกินใหป้ ัดลงเหลอื ๒๐๐
๕.๗.๒ รอบชิงชนะเลศิ ไม่มีผลต่างสงู สุดต่อเกม (Maximum Difference)
๕.๗.๓ ในกรณที ่ไี มม่ คี ู่แขง่ ขัน ผเู้ ข้าแข่งขันจะไดช้ นะในเกมนั้น ๑๐๐ (ชนะบาย)
๕.๘ ในกรณีทีจ่ าเปน็ ตอ้ งหยดุ เกมต้องควา่ เบ้ียทกุ ครง้ั เชน่ ตรวจสอบคะแนนให้ตรงกนั , ตัวเบยี้ ชารดุ
(ใหเ้ รียกกรรมการเท่าน้ัน) เป็นตน้
๖.นิยามศพั ท์
Pairing คือ ระบบประกบคู่การแข่งขนั
King of the Hill (KOTH) คือ ระบบประกบคกู่ ารแขง่ ขัน โดยใช้คะแนนการแขง่ ขันทีมอันดับ ๑ พบ ๒
และ ๓ พบ ๔ ไปเร่ือย ๆ จนครบทุกทีมทเ่ี ข้าร่วมการแข่งขัน
Gibsonize คอื ในกรณีทผ่ี เู้ ข้าแขง่ ขันทมี ใด มผี ลการแข่งขันท่จี ะเข้าสู่รอบชงิ ชนะเลิศแน่นอนแล้ว
แม้จะแพใ้ นเกมที่เหลือในการแข่งขันรอบคัดเลือก โดยใหผ้ ้เู ขา้ แข่งขันทมี น้ันเขา้ ส่รู อบชิงชนะเลิศ โดยไมต่ ้อง
แข่งขนั ในเกมท่เี หลอื อีก
Hold คอื การพจิ ารณาคาศัพทท์ ่ีสงสัยก่อนทีจ่ ะมีการขอตรวจคาศพั ท์หรือดาเนินการเลน่ เกมต่อไป
ใช้เวลาไม่เกิน ๑ นาที
ศิลปหตั ถกรรมนกั เรียนคร้ังท่ี ๖๙ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย หนา้ ๒๑
๗. ขอ้ ปฏบิ ตั ขิ องผ้เู ข้าแขง่ ขัน ครูผฝู้ กึ สอน และกรรมการ
๗.๑ ไมอ่ นญุ าตให้ผู้เขา้ แข่งขันเข้าห้องนา้ หรือลุกจากโต๊ะแขง่ ขนั ระหว่างการแขง่ ขัน ต้องทากิจธุระ
ใหแ้ ล้วเสร็จก่อนเร่มิ การแข่งขันในแต่ละเกม หากมีความจาเป็นตอ้ งขออนญุ าตคณะกรรมการทุกคร้ัง และ
ตอ้ งมีกรรมการไปดว้ ย
๗.๒ หา้ มนาเครอ่ื งมือสอ่ื สารเข้าในสถานที่แขง่ ขัน ยกเว้นนาฬิกาจับเวลา หรืออุปกรณ์ในการจับเวลา
๗.๓ หา้ มบนั ทึกวดิ ีโอหรือเผยแพร่ภาพระหว่างการแขง่ ขนั
๗.๔ ใหจ้ บั ถุงเบ้ยี ในระดบั สายตาหรอื ให้พ้นสายตา จบั เบี้ยใหค้ รบและวางเบ้ยี ท่จี บั ลงบนโตะ๊ กอ่ นใส่
ในแปน้ วางเบ้ียเทา่ นนั้ ห้ามวางถงุ เบ้ียบนโต๊ะแล้วจับเบย้ี ห้ามจับเบยี้ ใตโ้ ต๊ะ หรือเปิดเบยี้ ดูใต้โต๊ะ ตามกฎกตกิ า
และมารยาทในการแข่งขัน ผู้เล่นฝ่ายตรงขา้ มสามารถตกั เตือนไดห้ ากผู้เลน่ อีกฝา่ ยมีพฤติกรรมดงั กล่าว และ
สามารถเรยี กกรรมการมาตักเตอื นหากยงั ทาซา้ เม่ือจับเบ้ยี เสรจ็ แล้ว ใหร้ ดู เชือกปดิ ถุงเบีย้ ให้เรียบรอ้ ย
๗.๕ การทุจริตในการแขง่ ขนั ผู้เขา้ แขง่ ขนั ที่ทุจรติ ในการแข่งขันจะถูกตัดสทิ ธใ์ิ นการแขง่ ขัน
๗.๖ ไมอ่ นญุ าตใหค้ รูผูฝ้ กึ สอนหรอื บคุ คลภายนอกทไ่ี ม่ได้มีส่วนเกย่ี วข้องในการแขง่ ขันเขา้ บรเิ วณสถานท่ีแข่งขนั
ศิลปหตั ถกรรมนกั เรียนครั้งที่ ๖๙ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หน้า ๒๒
รายการแข่งขันทกั ษะงานมหกรรมวชิ าการมัธยมศกึ ษา คร้ังท่ี ๓๐ ปี การศกึ ษา ๒๕๖๕
รายการประเภทแข่งขันภายใน (ไม่ส่งตอ่ ระดบั ภาค)
ศนู ยพ์ ฒั นาวิชาการกลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
สรุปกิจกรรมการแขง่ ขนั กลมุ่ วชิ าภาษาไทย
ท่ี เลขรายการ ช่ือกิจกรรม ระดบั ชนั้ ประเภท หมาย
(ปี62) ม.1-3 เหตุ
ม.4-6 เดีย่ ว
1 752 การฟัง ม.1-3 ม.1-3 เดย่ี ว
ม.4-6 ทมี 3 คน
2 754 การฟัง ม.4-6 ม.1-3 ทีม 3 คน
ม.4-6 เดย่ี ว
3 759 ตอบคาถามสารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน ม.1-3 ม.1-3 เดย่ี ว
ม.4-6 เดี่ยว
4 760 ตอบคาถามสารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน ม.4-6 เดี่ยว
5 761 เลา่ นิทานพืน้ บา้ น ม.1-3
6 762 เล่านิทานพน้ื บา้ น ม.4-6
7 763 นักเรยี นดีเด่น ม.1-3
8 764 นักเรียนดเี ดน่ ม.4-6
รวมทงั้ สนิ้ 8 รายการ
ลงช่ือ..............................................นายทะเบยี น
(นางชอ่ แกว้ จุลนวล)
งานมหกรรมวิชาการมธั ยมศึกษา คร้ังท่ี ๓๐ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕
๑. การฟงั
๑. ผู้เขา้ แขง่ ขัน มี ๒ ระดบั ชัน้ ม.ต้น และ ช้ัน ม.ปลาย ให้สง่ ระดับละ ๑ คน
๒. การจดั การแข่งขนั แขง่ ขันชั้น ม.ตน้
แข่งขนั ชัน้ ม.ปลาย
ผ้เู ข้าแข่งขนั รายงานตัวตอ่ กรรมการกอ่ นการแขง่ ขนั ๓๐ นาที
๓. เน้อื หาการฟงั ประเภทบนั เทงิ คดี, ขอ้ ความจรรโลงใจ, เกร็ดความรู้เก่ยี วกับภาษาไทย ขา่ ว,
๔. กติกาการแข่งขนั นิทาน, เรื่องเลา่ (เนื้อหาอาจมที ้งั รอ้ ยแก้วและร้อยกรอง
ความยากง่ายของเนือ้ หาเหมาะสมกบั ระดบั ชนั้ เรยี น
จุดประสงคข์ องการฟัง เพ่ือจบั ใจความสาคัญ, แยกขอ้ เท็จจริง,ตคี วาม,
วิเคราะห)์
การจดั การแขง่ ขัน มีขัน้ ตอนดงั นี้
๔.๑ ใหฟ้ งั ขอ้ ความจากแถบบันทกึ เสียง ๑ ครั้ง แล้วตอบคาถาม
(ประมาณ ๑๐ คาถาม) จานวน ๓ ชุด
๔.๒ ตอบคาถามลงในกระดาษคาตอบทกี่ รรมการแจกให้
๔.๓ ตดั สินโดยใช้คะแนนรวมท้งั ๓ ชดุ
๕. เกณฑ์การตัดสินและรางวลั มอบเกียรตบิ ัตรแกผ่ ูเ้ ข้าแข่งขัน ตามระดบั คะแนน
คะแนน ๘๐ – ๑๐๐ คะแนน ระดับเหรียญทอง
คะแนน ๗๐ – ๗๙ คะแนน ระดบั เหรียญเงนิ
คะแนน ๖๐ – ๖๙ คะแนน ระดับเหรยี ญทองแดง
- ได้คะแนนต่ากว่าร้อยละ ๖๐ ได้รบั เกยี รตบิ ตั ร เว้นแต่คณะกรรมการ
มคี วามเห็นเปน็ อย่างอน่ื
งานมหกรรมวชิ าการมธั ยมศกึ ษา คร้ังท่ี ๓๐ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕
๒. ตอบคาถามสารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน
๑. ผู้เขา้ แขง่ ขนั มี ๒ ระดับ ชน้ั ม.ต้น และ ชน้ั ม.ปลาย ใหส้ ่งระดบั ละ ๑ ทีม
ทีมละ ๓ คน
๒. สารานุกรมท่ใี ช้ในการแข่งขัน กาหนดให้ใช้สารานกุ รมไทย ฉบับเยาวชน
ระดบั ม.ตน้ เล่มท่ี ๒๔ ๒๗ ๓๒
ระดบั ม.ปลาย เลม่ ท่ี ๓๔ ๓๖ ๓๗
๓. การจดั การแข่งขนั ผู้เขา้ แข่งรายงานตัวต่อกรรมการกอ่ นการแข่งขนั ๓๐ นาที
ใช้ข้อสอบปรนัย ๔ ตวั เลือก จานวน ๑๐๐ ข้อ ๑๐๐ คะแนน
ใช้เวลาทาข้อสอบ ๑.๓๐ ชวั่ โมง
๔. เกณฑ์การตัดสนิ และรางวัล มอบเกียรตบิ ัตรแก่ผเู้ ขา้ แขง่ ขนั ตามระดับคะแนน
คะแนน ๘๐ – ๑๐๐ คะแนน ระดบั เหรยี ญทอง
คะแนน ๗๐ – ๗๙ คะแนน ระดับเหรียญเงิน
คะแนน ๖๐ – ๖๙ คะแนน ระดับเหรียญทองแดง
- ไดค้ ะแนนต่ากว่ารอ้ ยละ ๖๐ ไดร้ ับเกียรติบัตร เว้นแต่คณะกรรมการ
มคี วามเหน็ เป็นอยา่ งอนื่
งานมหกรรมวชิ าการมธั ยมศกึ ษา คร้ังที่ ๓๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
๓. เลา่ นิทานพื้นบ้าน
๑. ผู้เข้าแข่งขัน มี ๒ ระดับ ช้นั ม.ตน้ และ ชั้น ม.ปลาย ใหส้ ง่ ระดบั ละ ๑ คน
๒. การจดั การแขง่ ขนั ผู้เขา้ แข่งขนั รายงานตวั ต่อกรรมการก่อนการแข่งขนั ๓๐ นาที
จับฉลากหมายเลขประจาตวั และลาดับการแขง่ ขัน แลว้ ติดหมายเลขไวท้ ่ี
หน้าอกทับชอื่ ย่อโรงเรียน
๓. หลกั เกณฑก์ ารแข่งขัน ๓.๑ นิทานทเี่ ล่าจะต้องเป็นนทิ านพ้ืนบา้ น
๓.๒ ใชเ้ วลาในการเลา่ นิทาน ๕ – ๗ นาที
๓.๓ แตง่ กายด้วยชดุ นักเรยี นและหา้ มใช้อุปกรณ์ประกอบการเล่านิทาน
๓.๔ ภาษาที่ใชเ้ ปน็ ภาษาถิน่ ใต้
๔. เกณฑก์ ารให้คะแนน การแข่งขนั มรี อบเดยี ว เกณฑ์การใหค้ ะแนนมี ดังน้ี
๔.๑ การลาดับเนื้อเรอ่ื ง ๓๐ คะแนน
๔.๒ ท่าทางและลลี าในการเล่าเรื่อง ๓๐ คะแนน
๔.๓ การใชภ้ าษาและน้าเสียงในการเลา่ ๓๐ คะแนน
๔.๔ การใช้เวลา ๑๐ คะแนน
รวม ๑๐๐ คะแนน
๕. เกณฑก์ ารตดั สนิ และรางวลั มอบเกยี รตบิ ัตรแกผ่ ู้เข้าแข่งขัน ตามระดบั คะแนน
คะแนน ๘๐ – ๑๐๐ คะแนน ระดบั เหรยี ญทอง
คะแนน ๗๐ – ๗๙ คะแนน ระดบั เหรยี ญเงิน
คะแนน ๖๐ – ๖๙ คะแนน ระดบั เหรยี ญทองแดง
- ได้คะแนนตา่ กว่ารอ้ ยละ ๖๐ ไดร้ บั เกยี รติบตั ร เวน้ แต่คณะกรรมการ
มคี วามเหน็ เป็นอย่างอ่ืน
งานมหกรรมวิชาการมธั ยมศึกษา คร้ังท่ี ๓๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
๑. ผูเ้ ข้าแข่งขนั ๔. นกั เรียนดีเดน่
๒. การจดั การแขง่ ขนั
มี ๒ ระดบั ชั้น ม.ต้น และ ชนั้ ม.ปลาย ให้ส่งได้ระดับละ ๑ คน
๑. ให้โรงเรียนคัดเลอื กนักเรียน ม.ตน้ และม.ปลาย ท่มี ผี ลงานทางด้าน
ภาษาไทยดีเดน่ ระดบั ละ ๑ คน
๒. จัดทาประวตั แิ ละผลงาน พร้อมภาพถา่ ย ขนาดกระดาษ A ๔ แนวตงั้ จานวน
๑ หน้ากระดาษ
๓. สง่ ประวตั แิ ละผลงาน เปน็ ไฟล์ PDF ทาง Google form ที่ศูนยก์ าหนด ภายใน
วันที่ ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๕ ภายในเวลา ๒๔.๐๐ น. เทา่ นนั้
สแกน QR-Code เพือ่ ส่งประวตั ิ
นักเรยี นดเี ดน่ ทาง Google form
๓. การลงทะเบยี น โรงเรียนจะต้องลงทะเบยี นรายชื่อนักเรยี นดเี ดน่ ทง้ั ช้นั ม.ตน้ และม.ปลาย
เหมอื นกบั ลงทะเบยี นนักเรียนท่เี ขา้ แขง่ ขันทกั ษะอน่ื ๆ ให้ทันเวลาตามท่ีระบบ
การแข่งขันกาหนด ส่งประวัตแิ ละผลงาน เปน็ ไฟล์ PDF ทาง Google form
ท่ีศูนย์ฯกาหนด จงึ จะได้รับเกียรติบัตรนกั เรยี นดีเด่น
นกั เรียนดีเดน่ ด้านภาษาไทย รูป
ชอ่ื -สกุล........................................ ถ่าย
โรงเรยี น...................................................
ข้อมลู ส่วนตัว
.................................................................................
.................................................................................
การศกึ ษา
.................................................................................
................................................................................
ผลงานทางด้านภาษาไทย
.................................................................................
.................................................................................
ภาพกิจกรรม
งานมหกรรมวิชาการมธั ยมศกึ ษา คร้ังท่ี ๓๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
ตารางการแขง่ ขนั ทักษะศูนย์พัฒนาวิชาการกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
งานมหกรรมวิชาการมัธยมศกึ ษา ครงั้ ที่ 30 ประจาปีการศกึ ษา 2565
ณ สนามโรงเรยี นเบญจมราชทู ศิ นครศรีธรรมราช
ระหวา่ ง วันที่ 16-18 เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2565
ที่ รายการแข่งขนั สถานที่ วนั ที่ เวลา หมายเหตุ
อาคาร 1 ช้ัน 3 หอ้ ง 131-133
1 การแข่งขนั วรรณกรรมพิจารณ์ ม.1-ม.3 อาคาร 1 ชั้น 3 ห้อง 131-133 16 พ.ย.65 09.00-12.00 น.
2 การแข่งขันวรรณกรรมพจิ ารณ์ ม.4-ม.6 อาคาร 2 ช้นั หอ้ ง 231-232
3 การแข่งขนั การท่องอาขยานทานองเสนาะ ม.1-ม.3 อาคาร 2 ชน้ั 3 หอ้ ง 233-234 16 พ.ย.65 13.00 เปน็ ตน้ ไป
4 การแขง่ ขันการทอ่ งอาขยานทานองเสนาะ ม.4-ม.6 อาคาร 5 ช้ัน 1 หอ้ งคุณพ่อนบั 16 พ.ย.65 09.00 เป็นต้นไป
5 การแข่งขันต่อคาศพั ท์ภาษาไทย (คาคมเดมิ ) ม.1-ม.3 อาคาร 7 ชั้น 2 หอ้ ง 721-723
6 ตอบคาถามสารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน ม.1-ม.3 อาคาร 7 ชน้ั 2 ห้อง 725-727 16 พ.ย.65 09.00 เป็นตน้ ไป
7 ตอบคาถามสารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน ม.4-ม.6 อาคาร 5 ชน้ั 1 หอ้ งคณุ พ่อนบั 16 พ.ย.65 09.00 เป็นตน้ ไป
8 การแข่งขันตอ่ คาศพั ท์ภาษาไทย (คาคมเดมิ ) ม.4-ม.6 อาคาร 1 ช้นั 3 หอ้ ง 131-132 16 พ.ย.65
9 การแขง่ ขันเรยี งร้อยถ้อยความ ม.1-ม.3 อาคาร 1 ชั้น 3 ห้อง 131-132 09.00-12.00 น.
10 การแข่งขนั เรียงร้อยถอ้ ยความ ม.4-ม.6 อาคาร 2 ชั้น ห้อง 231-232
11 การแข่งขนั คัดลายมอื ส่อื ภาษาไทย ม.1-ม.3 อาคาร 2 ชัน้ 3 ห้อง 233-234 16 พ.ย.65 09.00-12.00 น.
12 การแขง่ ขนั คัดลายมือสือ่ ภาษาไทย ม.4-ม.6 อาคาร 2 ชั้น หอ้ ง 231-232
13 การแข่งขนั พนิ ิจวรรณคดี ม.1-ม.3 อาคาร 2 ชั้น 3 ห้อง 233-234 17 พ.ย.65 09.00 เปน็ ตน้ ไป
14 การแข่งขนั พินจิ วรรณคดี ม.4-ม.6 อาคาร 6 ชั้น 1 ห้องประดู่แดง
อาคาร 6 ชั้น 1 ห้องประด่แู ดง 17 พ.ย.65 09.00-12.00 น.
15 การแข่งขนั กวีเยาวชนคนรนุ่ ใหม่ กาพยย์ านี ๑๑ ม.1-ม.3 อาคาร 1 ชั้น 3 ห้อง 131-132
16 การแข่งขนั กวีเยาวชนคนรุ่นใหม่ โคลงสี่สภุ าพ ม.4-ม.6 อาคาร 1 ช้ัน 3 หอ้ ง 131-132 17 พ.ย.65 13.00 เป็นต้นไป
17 เล่านิทานพืน้ บา้ น ม.1-ม.3 อาคาร 5 ชน้ั 1 หอ้ งคณุ พ่อนบั
18 เล่านิทานพ้นื บา้ น ม.4-ม.6 17 พ.ย.65 09.00-12.00 น.
19 การฟงั ม.1-ม.3 อาคาร 5 ชั้น 1 ห้องคุณพ่อนับ
17 พ.ย.65 09.00-12.00 น.
20 การฟงั ม.4-ม.6 อาคาร 1 ชั้น 2 ห้อง 123
21 นกั เรียนดีเด่น ม.1-ม.3 อาคาร 1 ชน้ั 2 ห้อง 123 17 พ.ย.65 13.00 เปน็ ตน้ ไป
22 นกั เรียนดีเด่น ม.4-ม.6
17 พ.ย.65 13.00 เปน็ ต้นไป
18 พ.ย.65 08.30-10.00 น.
18 พ.ย.65 10.30 - 11.30 น.
18 พ.ย.65 09.00-12.00 น.
18 พ.ย.65 13.00 เป็นตน้ ไป
18 พ.ย.65 09.00 - 10.30 น.
18 พ.ย.65 11.30 เปน็ ต้นไป
สง่ ประวตั นิ กั เรยี นทาง google form ภายใน 12
พฤศจิกายน 2565
งานมหกรรมวชิ าการมธั ยมศกึ ษา คร้ังท่ี ๓๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
งานมหกรรมวชิ าการมธั ยมศกึ ษา คร้ังที่ ๓๐ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕