The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chor150311, 2023-09-29 07:36:59

หยาดหมึกบันทึกฝัน

แกมกาญจน์

หยาด ค ำรินเรียงร้อยถ้อยค ำหวำน หมึก จดจำรจำกใจใส่อักษร บันทึก สำส์นสื่อพจน์รสสุนทร ฝัน สร้ำงงำนกำนท์กลอนก ำจรไกล แกมแก้ว


คณะกรรมการชุมนุมยุวกวี ประธานชุมนุม นำงสำวฤทัยชนก คนดี รองประธานชุมนุม นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ เลขานุการ นำยขจรศักดิ์ เหมทำนนท์ เหรัญญิก นำงสำวภำจรี ใจห้ำว ปฏิคม นำยจุฑำคภัสติ์ รัตนพันธ์ ประชาสัมพันธ์ นำงสำวชนันพร ศรีใหม่ สาราณียกร นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว บรรณาธิการ นำยพิสุทธิ์ องพิสิฐ ผู้ช่วยบรรณาธิการ เด็กหญิงศิริมำศ ถำวรวงศำ ฝ่ายศิลป์/เรียงพิมพ์ นำยณัฏฐพล เขียวเสน ตรวจทาน/แก้ไข นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ที่ปรึกษาชุมนุม ครูทวี แดงหวำน ครูอุไรวรรณ สุพรรณ ครูช่อแก้ว จุลนวล หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ครูภำวณี สุคนธชำติ เจ้าของ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย โรงเรียนเบญจมรำชูทิศ นครศรีธรรมรำช


แวะทักทาย... ทุกคนบนโลกใบนี้ย่อมมีควำมหวัง และ ควำมฝัน ซึ่งควำมฝันจะเป็น จริงหรือไม่นั้นย่อมขึ้นอยู่กับกำรสำนต่อ “หยำดหมึก...บันทึกฝัน” เป็นเพียงเศษ เสี้ยวหนึ่ง ของคนกลุ่มเล็กๆ ในชุมนุมยุวกวี ที่มีควำมฝันและต้องกำรที่จะ สื่อสำรถ่ำยทอดออกมำในรูปแบบของบทกวี ในหลำกหลำยอำรมณ์ผ่ำนหยำด หมึกหยดน้อยๆ ขอขอบพระคุณ... คุณครูทวี แดงหวำน คุณครูอุไรวรรณ สุพรรณ คุณครูภำวณี สุคนธชำติ คุณครูช่อแก้ว จุลนวล ผู้สำนต่อควำมฝัน และสร้ำงแรงบันดำลใจ ให้กับพวกเรำชำวยุวกวี ตลอดจนค ำแนะน ำสั่งสอนและสนับสนุนจนเกิดเป็น “หยำดหมึก...บันทึกฝัน” ที่ส ำเร็จสมบูรณ์ ชุมนุมยุวกวี โรงเรียนเบญจมราชูทิศ


หยาดหมึก...บันทึกภาพ บันทึก... หน้า หยำดหมึก...บันทึกฝัน นำมนี้...กวีน้อย บันทึกกลอน...ก่อนแข่งขัน กลอนจำกภำพ บันทึกนี้...เวทีกลอน กำรเตรียมตัวเป็นนักกลอน มำเรียนเขียนกันเถิด หยำดหมึก...บันทึกภำพ ๑ ๒ ๑๔ ๒๙ ๓๓ ๕๘ ๖๑ ๖๔ ๖๕


๑ ๖๔ ดังแผนผังต่อไปนี้ ค.วรรณยุกต์ค ำสุดท้ำยของแต่ละวรรคนิยมให้เสียงวรรณยุกต์ต่ำงๆกันดังนี้ ๑.ค ำสุดท้ำยของวรรคแรกนิยมใช้เสียงใดก็ได้ยกเว้นเสียงสำมัญ(ถ้ำจะใช้ก็ ได้) ๒.ค ำสุดท้ำยวรรคสองต้องใช้เสียงเอก โท หรือ จัตวำ ที่นิยมใช้กันมำกที่สุด คือเสียงสำมัญ ห้ำมใช้เสียงสำมัญและตรี ๓.ค ำสุดท้ำยของวรรคสำมต้องใช้เสียงสำมัญหรือตรี ที่นิยมใช้กันมำกที่สุดคือ เสียงสำมัญ ห้ำมใช้เสียงเอก โท และจัตวำ ๔.ค ำสุดท้ำยวรรคสี่ต้องใช้เสียงสำมัญหรือตรี ที่นิยมใช้กันมำกที่สุด คือเสียง สำมัญ ห้ำมใช้เสียงเอก โท และจัตวำ หยาดหมึก...บันทึกฝัน หยาด ค ำรินเรียงร้อยถ้อยค ำหวำน หมึก จดจำรจำกใจใส่อักษร บันทึก สำส์นสื่อพจน์รสสุนทร ฝัน สร้ำงงำนกำนท์กลอนก ำจรไกล แกมแก้ว


นามนี้...กวีน้อย คือก้ำวแรกที่เริ่มต้นบนทำงฝัน ใจมุ่งมั่นสื่อผลงำนผ่ำนอักษร คือลูกหลำนแห่งวงวรรณสรรค์บทกลอน เลือดคนคอนข้นเข้มเต็มพลัง ก้ำว “แกมกาญจน์” แก้วแกม แต้มชีวิตดว้ยดวงจิตใสพิสทุธิ์รุดถึงฝ่ัง แม้ทุกข์ถมท้อกี่ครำล้ำกี่ครั้ง มีไฟหวังส่องใจให้ก้ำวเดิน นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ ชื่อ “พสิุ ทธิ์ องพสิิ ฐ”จิ ตพิ สทุ ธิ์ หมำยเร่งรุดสู่ทำงฝันวรรณศิลป์ รักดนตรี รักกีฬำ เป็นอำจินต์ ฝำกค ำรินเรียงร้อยถ้อยค ำกรอง คนลุ่มน ้ำค ำคมบ่มควำมคิด สื่อชีวิตจำกหัวใจไร้หม่นหมอง ท้ำขุนแผนมำแข่งกันแย่งวันทอง บ้ำนอยู่คลองมำไม่ยำก...ของฝำกกันนำยพสิทุธิ์องพสิฐิม.๖/๘ รำชบัณฑิตยสถำนได้บัญญัติค ำว่ำ “กลอน” กว้ำงๆไว้ว่ำ คำ ประพนั ธ์ซึ่งแต่ เดิมเรียกค ำเรียงที่มีสัมผัสทั่วไป จะเป็นโคลง ฉันท์ หรือกำพย์ก็ตำม เช่น ในค ำว่ำ ชุมนมุตำ รำกลอน เป็นต้น ลักษณะบังคับ แบบแผนหรือแต่งกลอนสุภำพมีดังนี้ ก.คณะ กลอน ๑ บทมี ๒ บำท กลอน ๑ บำทมี๒ วรรค กลอนแต่ละวรรคมี จ ำนวน ๘ ค ำเป็นพื้น (แต่ละวรรคมีจ ำนวนค ำได้ตั้งแต่ ๗ ถึง ๘ ค ำ) ในที่นี้ขออธิบำย จ ำนวนค ำในแต่ละวรรคมีได้ตั้งแต่ ๗ ถึง ๙ ค ำ กลอนสุภำพ บทหนึ่งมี ๒ บำท บำทที่ ๑ เรียกว่ำบำทเอกมี ๒ วรรคคือ วรรคสดับ และวรรครับ บำท ที่ ๒ เรียกว่ำบำทโทมี ๒ วรรคคือ วรรครองและวรรคส่ง ข้อน่ำสังเกตกำรแต่งกลอนไม่ ว่ำจะมีขนำดยำวเท่ำไดก็ตำม ต้องจบลงด้วยบำทโทหรือวรรคส่งเสมอ นอกจำกค ำที่กล่ำวมำแล้วข้ำงต้นยังมีอีกค ำหนึ่งที่ควรรู้จักคือค ำว่ำ ค ำกลอน เป็นลักษณะนำมเรียก ๒ วรรคว่ำเป็น ๑ ค ำกลอน ๒ ค ำกลอนเท่ำกับ ๑ บท ท ำนอง เดียวกับค ำว่ำบำทนั่นเอง ข.สัมผัส ในชั้นแรกขอกล่ำวถึงสัมผัสนอก คือสัมผัสบังคับที่กลอนสุภำพจน ขำดเสียมิได้และต้องใช้เป็นสัมผัสสระเพียงอย่ำงเดียวเท่ำนั้น ดังนี้ ค ำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับที่ ๓ หรือค ำที่ ๕ ของวรรคที่ ๒ ค ำสุดท้ำยของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับค ำสุดท้ำยวรรคที่ ๓ ค ำสุดท้ำยของวรรคที่ ๓ สัมผัสกับที่ ๓ หรือค ำที่ ๕ ของวรรคที่ ๔ ค ำสุดท้ำยของวรรคที่ ๔ สัมผัสกับค ำสุดท้ำยวรรคที่ ๒ ของบทถัดไป ๒ ๖๓


๒.การบันทึก ทุกคนย่อมจ ำอะไรไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้ำได้มีกำรจดบันทึกเก็บ ไว้หรือมีกำรเก็บเรื่องรำวต่ำงๆ เอำไว้แล้วก็จะมีผลช่วยให้ควำมจ ำแม่นย ำขึ้นกว่ำเดิม ส ำนวนใดที่เห็นว่ำไพเรำะ จดบันทึกเอำไว้ นี่แหละคือส่วนหนึ่งที่จัดได้ว่ำเป็น ครูของเรำทั้งในขณะนี้และในภำยภำคหน้ำ มาเรียนเขียนกลอนกันเถิด กลอนสุภาพ เป็นบทประพันธ์ซึ่งรู้จักกันทั่วไปเนื่องจำกคนไทยมีนิสัยเจ้ำบท เจ้ำกลอนมำตั้งแต่โบรำณกำล ค ำคล้องจองเป็นที่นิยมผูกขึ้นเป็นเรื่องรำว แล้วพัฒนำ มำเป็นกลอนสุภำพ สื่อควำมหมำยและสร้ำงอำรมณ์ควำมรู้สึกอันสุนทรียะให้แก่ ผู้อ่ำน ผู้ฟัง และเพื่อควำมสุขแก่ชีวิตขอเชิญชวนให้ทุกคนมำเรียนเขียนกลอนกันเถิด กลอนสุภำพ สิ่งแรกที่ควรศึกษำ เป็นเรื่องรำวของควำมเป็นมำและลักษณะ บังคับของกลอนสุภำพ เพื่อศึกษำให้เข้ำใจถึงลักษณะทั่วไปดังนี้ ความหมาย กลอน หมำยถึง บทประพันธ์ร้อยกรองประเภทหนึ่งที่นิยมสัมผัส และมีฉันท ลักษณ์เป็นแบบฉบับเฉพำะ กลอนสุภำพน ำมำจำกจ ำนวนค ำในแต่ละวรรคที่นิยม ๘ ค ำ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ำ “กลอนแปด” นอกจำกนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ำ “กลอนตลาด” ค ำ ประพันธ์จะเป็นกลอนสุภำพได้นั้นเกิดจำกกำรร้อยกรอง คือกำรคัดเลือกถ้อยค ำ และ ท ำนองเรียบๆมำเรียงร้อยเข้ำด้วยกันอย่ำงมีสัมผัสต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ นำม “ภรูิช” บ้ำนอยู่ภูกระดึง ผมซำบซึ้งในคุณค่ำภำษำศิลป์ “กีรติยาภรณ์” ก้องแผ่นดินใครได้ยินอยำกใช้ให้บอกมำ ชื่อเล่น “มาร์ก” เหมือนนำยกพกหน้ำหล่อ ได้เชื้อพ่อมำเต็มเต็มสำวใฝ่หำ ผมจริงใจจริงจังดั่งหน้ำตำ อยำกบอกว่ำ “รักนะครับ”เชิญจับจอง นำยภูริช กีรติยำภรณ์ ม. ๖/๙ ทอประกายสาดแสงแห่ง “สีรุ้ง” หมายพาดพุ่งข้ามฟ้าส่งราศี หวังเป็นดาวโดดเด่นเป็นกวี ยึดความดีบนทางธรรมน าทางใจ “ฤทัยชนก” ดวงใจพ่อก่อความรัก ค่าประจักษ์ “คนดี”นี้ยิ่งใหญ่ เดินบนทางแห่งฝันอย่างมั่นใจ สู่เส้นชัยด้วยศรัทธาค่าแห่งตน นางสาวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ ๖๒ ๓


อนั ศำสตรำอำวธุ พิ สทุ ธิ์ แสง ส่องส ำแดงควำมคมกล้ำให้ปรำกฏ “ภาจรี” สร้ำงสรรค์ประพันธ์พจน์ ให้งำมงดฟูเฟื่ องเลื่องโลกำ “ใจห้าว”หำญสมศกัดิ์ศรีท่ี พอ่ ให้ แต่ดวงใจเปี่ยมเต็มเข้มแข็งกว่ำ หวังจะเป็นกวีน้อยร้อยรจนำ ปรำรถนำจึงก้ำวสู่ประตูกลอน นำงสำวภำจรี ใจห้ำว ม.๕/๗ “ชนันพร”ชื่อไพเรำะเสนำะหู “ศรีใหม่”ชูเชิดให้ใจรักษำ รูปร่ำงอ้วน สูง ด ำ ข ำวำจำ ใจเก่งกล้ำห้ำวหำญเป็นอำจิณ กระฉ่อนชื่อสร้ำงไว้ให้ประจักษ์ ด้วยใจรักงำนกลอนอักษรศิลป์ เดินตำมรอยกวีใหญ่ในแผ่นดิน ฝันไม่สิ้นเดินตำมฝันสรรค์กำนท์กลอน นำงสำวชนันพร ศรีใหม่ ม.๕/๗ เช่นนี้เรำก็ทรำบว่ำเป็นค ำกลอนของบรมครูกลอน ‘สุนทรภู่’ ซึ่งระบุใจควำม ไว้อย่ำงชัดเจนว่ำ อ้อยหรือตำลจะให้ควำมหวำนแก่ลิ้นในขณะที่ยังมีน ้ำอยู่ แต่พอน ้ำ ในอ้อยหรือตำลหมดไปแล้วคงเหลือแต่ซำกซึ่งไม่มีคุณค่ำ แต่ค ำพูดคนแม้จะเนิ่นนำน สักเพียงใดก็ยังฝังแน่นในควำมทรงจ ำตลอดไป นี่ก็เป็นกำรเปรียบเทียบระหว่ำงของสองสิ่ง คือ อ้อยตำลกับค ำพูดของคน ปรัชญำต่ำงๆ เหล่ำนี้ยิ่งอ่ำนมำกเท่ำใดเรำก็ยิ่งได้รับควำมรู้เพิ่มเติมมำก เท่ำนั้น เป็นกำรประดับสติปัญญำและสมองของตนท ำให้เรำได้รับควำมแก่กล้ำที่ เรียกว่ำ ควำมรอบรู้ ควำมรอบรู้นี่แหละคือสิ่งที่ทุกคนต้องกำรได้ ต้องกำรมี ซึ่งก็มำจำกกำรอ่ำน หนังสือเป็นส ำคัญ ง.ก่อให้เกิดประสบการณ์และทักษะ ประสบกำรณ์หรือกำรพบเห็นเป็น ส่วนส ำคัญที่สุดของทุกคน กำรได้เห็นมำก ได้อ่ำนมำก ท ำให้ได้รอบรู้ว่ำจะใช้อย่ำงไร จึงจะถูกและอย่ำงไรที่ท ำให้ผิด ยิ่งอ่ำนมำกเท่ำใดก็ยิ่งท ำให้เกิดกำรพบเห็นมำกกว่ำ คนที่ไม่ได้อ่ำนเลย และเมื่อน ำเอำข้อควำมในหนังสือเรื่องใดไปอ้ำงอิงหรือวำงแนวใน กำรเขียนก็จะกระท ำได้อย่ำงถูกหลักเกณฑ์ ผิดกับผู้ที่ไม่รู้ย่อมได้รับผลน้อยกว่ำ ควำมช ำนำญและควำมจัดเจนหรือควำมรอบรู้อีกประกำรหนึ่งเป็นส่วนช่วยให้นัก กลอนเกิดควำมสำมำรถอย่ำงแท้จริงซึ่งบรรดำนักกลอนควรจะค ำนึงถึงเรื่องนี้ ให้มำกที่สุด ข้อส ำคัญคือ ขอให้อ่ำนแม้แต่เศษกระดำษหนังสือพิมพ์ เพรำะ อย่ำงน้อยก็เป็นกำรให้หนังสือได้ผ่ำนสำยตำของเรำและจะท ำให้ตัดสินใจได้อย่ำง ถูกต้อง อย่ำมัวลังเลต่อกำรอ่ำน เพรำะหนังสือก็คือเพื่อนของเรำ ครูของเรำ พิษภัย ของกำรอ่ำนย่อมไม่มี เมื่อรู้จักกำรอ่ำนที่รู้จักเลือก ๔ ๖๑


๖๐ ลองพิจำรณำเอำอย่ำงง่ำยๆ ค ำถำมที่ว่ำ เส้นตรงคืออะไร เป็นตัวอย่ำง เรำย่อมตอบ ได้ว่ำ เส้นตรงคือจุดหลำยๆ จุดมำเรียงติดต่อกันในแนวตรง แต่ถ้ำเรำอ่ำนหนังสือ ต่อไป เรำจะได้รับผลคือ เส้นตรงย่อมเกิดจำกส่วนเล็กที่สุดคือจุด และเมื่ออ่ำนเพื่อ ค้นคว้ำต่อไปอีกเรำก็จะได้รับผลคือ เส้นตรงย่อมเกิดจำกส่วนที่เล็กที่สุดคือจุด ไม่มีอะไรในโลกที่เล็กเกินกว่ำจุดอีกแล้ว จุดต่ำงๆ น ำมำเรียงติดต่อกันได้ จุดต่ำงๆ ถ้ำน ำมำเรียงกันในแนวตรงเรียกว่ำ เส้นตรง จุดทุกจุดย่อมน ำมำเรียงติดต่อกันได้ ถ้ำเอำจุดต่ำงๆ มำเรียงกัน อำจจะเป็นส่วนของเส้นตรงหรือเส้นเย้ หรือเส้น โค้งก็ได้ แล้วแต่ว่ำกำรวำงของจุดในต ำแหน่งนั้นๆ และ...ไม่มีเส้นตรงในโลก อำจจะเกิดควำมสงสัยว่ำ ท ำไมไม่มีเส้นตรงในโลก ถ้ำเช่นนั้นก็เป็นกำรพูด แบบไม่รับผิดชอบละซี เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องของแง่วิทยำศำสตร์ที่อ้ำงว่ำโลกกลม ผิว ของโลกเป็นส่วนโค้ง ดังนั้น เส้นที่มองเห็นว่ำตรงนั้น ไม่ได้ตรงจริง เพรำะเรำอยู่บนผิว โลกจึงต้องเป็นเส้นโค้งตำมผิวโลกไปด้วย แปลว่ำไม่มีเส้นตรงในโลกหรือ ตอบว่ำ มี...แต่นั่นเป็นกำรสมมติเท่ำนั้นว่ำ เป็นเส้นตรง นี่ก็เป็นเรื่องยุ่งยำก แต่ผู้อ่ำนหนังสือมำกจึงจะเข้ำใจและให้ค ำตอบ ปัญหำเช่นนี้ได้ดีค.ทา ให้เหน็ แบบแผนที่ดีข้อนี้นักกลอนเกือบทุกคนต้องอำศัยกำร ลอกเลียนแบบของคนเก่ำๆ ทั้งนั้น อย่ำงเช่นเรำพบกลอนว่ำ อันอ้อยตำลหวำนลิ้นแล้วสิ้นซำก แต่ลมปำกหวำนหูไม่รู้หำย เลือดกวียังเข้มข้นล้นดวงจิต กลั่นควำมคิดกรองควำมรักสู่อักษร “ณัฏฐพล” ยุวกวีศรีนคร หวังกำนท์กลอนธ ำรงคงคู่ไทย ร้อยมำลินอวลกลิ่นหอมพร้อมร้อยฝัน ร้อยประพันธ์ร้อยค ำรักถักทอให้ จำกหยำดหมึกจำรึกบันทึกใจ สืบสมัยต้องไม่สิ้นถิ่นนักกลอน นำยณัฏฐพล เขียวเสน ม.๕/๙ “จุฑาคภัสติ”์รักกำพย์กลอนแสนอ่อนหวำน หวังสืบสำนให้โลกรู้เฟื่ องฟูศิลป์ กล้ำต้นน้อยเพิ่งปลูกลงตรงผืนดิน อยำกเติบโตเป็นกวินถิ่นนำคร แข่งแพ้บ้ำงชนะบ้ำงยังสู้ไหว เพียงเพรำะใจมิคิดท้อและย่อหย่อน หำกแม้เหนื่อยก็ร้องเพลงแล้วไปนอน ค่อยแต่งกลอนเมื่อมีแรงแกร่งกว่ำเดิม นำยจุฑำคภัสต ิ์รัตนพันธ์ ม.๕/๑๑ ๕


อยำกเป็นนกโผผินบินบนฟ้ำ บินไปหำโลกที่เห็นฉันเป็นฉัน ไม่มีกรอบเขียนขีดไว้กีดกัน และขวำงกนั้ควำมคิดสทิธิ์เสรี แล้ววันหนึ่ง... ฉันบินไปโลกใบหนึ่ง โลกที่ซึ่งสร้ำงสุขทุกวิถี มีเพื่อนใจเป็นรสบทกวี สื่อควำมดีควำมงำมในควำมจริง นำยขจรศกั ดิ์ เหมทำนนท์ ม.๔/๗ เปี่ยมด้วยใจใฝ่รักในอักษร ทั้งกำพย์กลอนคำรมสมควำมหมำย เชิงภำษำคำรมแสนคมคำย มีหลำกหลำยลูกเล่นเห็นลีลำ แม่ให้ว่ำ “ปรมาวตี” สกุลดี “หนู แก้ว”แววภำษำ อยู่ในวงวรรณกวีห้ำปีมำ รู้คุณค่ำมีใจรักนักประพันธ์ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ การเตรียมตัวเป็นนักกลอน กำรเริ่มต้นใดๆ ต้องมีกำรเตรียมตัวเป็นปัจจัยส ำคัญในควำมส ำเร็จอันมีผล คือ ควำมรุ่งเรืองและชื่อเสียงในวันข้ำงหน้ำ นักกลอนก็เข้ำลักษณะนี้เช่นเดียวกัน ข้อส ำคัญคือ อย่ำย่อท้อ อย่ำคิดว่ำท ำได้ไม่ดี พึงเข้ำใจด้วยว่ำไม่มีใครมี ควำมรู้ควำมสำมำรถมำตั้งแต่เกิด สิ่งที่เอื้ออ ำนวยให้ส ำเร็จผลก็มำจำกควำมอดทน และควำมขยันหมั่นเพียร อะไรคือควำมอดทน อะไรคือควำมขยันหมั่นเพียร เป็นเรื่องที่ควรตั้งใจของ บรรดำนักกลอนทุกคน ไม่มีใครเขียนกลอนชิ้นแรกได้ดี แต่ต้องอดทนเขียนต่อไป ค่อยขัดค่อยเกลำ ค่อยแก้ไขทีละนิดทีละน้อย และเมื่อนั้นควำมดีหรือควำมสำมำรถก็จะเพิ่มพูนขึ้น เรื่อยๆ ซึ่งเป็นหลักของกำรท ำงำนทุกอย่ำง ดังนั้น กำรเตรียมตัวเป็นนักกลอนก็ขึ้นอยู่กับสิ่งต่ำงๆ ดังนี้ ๑.การอ่าน ควำมรู้ต่ำงๆ จะได้มำจำกกำรอ่ำนเป็นส่วนส ำคัญประกำรแรก เรำจะได้หลำยอย่ำงจำกกำรอ่ำนซึ่งมองเห็นกันอย่ำงง่ำยๆ ดังนี้ก.ทา ให้รู้ในสิ่งที่ยังไม่รู้ บำงคนสรรเสริญเรื่องของกำรอ่ำนเป็นอย่ำงมำก แม้ทุกวันนี้ทำงรำชกำรยังก ำหนดให้มีสัปดำห์กำรเขียนหนังสือเกิดขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ที่เสริมส่งให้ผู้ที่มีควำมรู้ได้แสดงออกซึ่งควำมรู้ควำมสำมำรถของตน และชวนให้ผู้อื่น ร่วมแสดงออกซึ่งควำมคิดเห็นต่ำงๆ ออกมำในรูปแบบของกำรเขียนหนังสือ ข. ท าให้ทัศนะและความคิ ดเห็ นได้ขยายกว้างขวางยิ่งขึ น้ ข้อนี้อำจจะ หนักไปทำงวิชำกำรสักหน่อย ทั้งนี้ทุกคนอำจจะรู้แล้วในสิ่งที่ตนควรรู้ แต่ในบำงครั้งก็ เป็นในแบบผิวเผิน หำกได้อ่ำนหนังสือแล้วก็ยิ่งท ำให้ควำมรู้ของตนกว้ำงขวำงยิ่งขึ้น กว่ำเดิม ๖ ๕๙๗


ขนมชิ น้ สุ ดทา้ ย เหลือ”ขนมชิ้นสุดท้ำย”หมำยลองลิ้ม ต่ำงอยำกชิมหวังครอบครอง”เป็นของฉัน” หำกต่ำงคนต่ำงแก่งแย่งไม่แบ่งปัน แล้วใครกันจะรู้ซึ้งถึงน ้ำใจ เปรียบผู้น ำเสียสละเพื่อประเทศ ยำมถึงเหตุวิกฤตคิดแก้ไข พร้อมพลีกำยถวำยตนเพื่อคนไทย“ถึงตำยไปไม่เสียดำยได้ท ำดี” ม.ต้น’๒๕๕๒ “ยุวลี ศรีสุกใส” ใจเปี่ยมรัก มุ่งทอถักอักษรกลอนภำษำ ใจมุ่งหวังด้วยรักอักษรำ เสริมคุณค่ำยุวกวีทวีไกล จำก ศ.ศ. สู่ บ.ม.เติมต่อฝัน ทุกคืนวันขอต่อสู้สู่ฟ้ำใหม่ ล้มแล้วลุกทุกข์ไม่ท้อขอก้ำวไป ด้วยหัวใจต้องฝ่ำฟันฝันเป็นจริง นำงสำวยุวลี ศรีสุกใส ม.๔/๙ “สุกัญญา” แม่ตั้งให้ภูมิใจนัก มีใจรักทำงฝันวรรณศิลป์ สกุลพ่อ“แซ่อ๋อง” ก้องธำนิน บ้ำนอยู่ถิ่น “ท่ำหลำ” เมืองป่ ำปำล์ม นำมหนู“บิว” ชื่อสั้นสั้นของฉันนะ สรีระผอม “จังฮู้” ดูเกรงขำม ตัวเล็กเล็กเป็นเด็กใต้หัวใจงำม ในทุกยำมตระหนักจิตศิษย์บอมอ นำงสำวสุกัญญำ แซ่อ๋อง ม.๔/๑๒ ๕๘ ๗


๘ “ศิริมาศ” นำมนี้ชื่อดีแท้ จะแน่วแน่ประพันธ์หมั่นฝึกฝน อำจแต่งค ำมำได้ไม่แยบยล จะอดทนพำกเพียรเขียนผลงำน ชื่อเล่น “กิ๊ก” มำจำกสำมทับหนึ่ง แสนซำบซึ้งในค ำกลอนอักษรสำร ด้วยศักดิ์ศรีลกูขำวแดงแกรง่เช่ียวชำญ สืบต ำนำนวรรณศิลป์ ถิ่นนคร เด็กหญิงศิริมำศ ถำวรวงศำ ม.๓/๑ “กาญจน์กนก” ทองค ำอันล ้ำเลิศ นำมประเสริฐชูตระกูลเพิ่มพูนผล “อุบลกาญจน์” ดอกบัวทองก้องยินยล ขอฝึกฝนพำกเพียรร ่ำเรียนไป ร้อยเรียงรักอักษรำภำษำศิลป์ คู่แผ่นดินกำนท์กลอนอักษรสมัย กำญจนก์นกสบืศกัดิ์ศรกีวีไทย ด้วยหัวใจรักประพันธ์สรรค์ค ำกลอน เด็กหญิงกำญจน์กนก อุบลกำญจน์ ม.๒/๑ ก าหนดวรรค“ ลมทะเลโชยชายล้อสายชล ” เรือเดินทำงกลำงทะเลลมเพพัด มีคลื่นซัดเบี่ยงทำงไปให้สับสน ลมทะเลโชยชายล้อสายชล อย่ำหลงกลลมเปลี่ยนทิศพำผิดทำง เปรียบชีวิตอย่ำคิดท้อต่อปัญหำ ใช้ปัญญำหลบเป็นปีกหลีกเป็นหำง เรือชีวิตล่องสู่ชัยไม่อับปำง จงก้ำวย่ำงด้วยมุ่งมั่นมิผันแปร ด.ญ.มัชฌิมำ ร่มรุกข์ม.๒/๙ ด.ญ.กัญกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ม.๑/๓ ม.ต้น ๒๕๕๒ ก ำหนดค ำหน้ำบำท ไฟ-สุม-กลุ้ม-ใจ ไฟลุกพล่ำนแผ่นดินเดือดเลือดนองหน้ำ ไทยถึงครำวิปโยคโลกแปรผัน สุมหัวคิดผลำญชำติขำดพระธรรม ไทยฆ่ำฟันข่มเหงมิเกรงกรรม กลุ้มพระทัยในหลวงทรงห่วงรำษฎร์ ไยใช้ชำติก่อสงครำมหยำมเหยียบย ่ำ ใจผูกมั่นร่วมจับมือถือพระธรรม ร่วมน้อมน ำสันติสุขปลุกแผ่นดิน ๕๗


“ คน-แพ้-เป็ น-พระ ” คนเดินดินกินเพื่ออยู่สู้ชีวิต ตัวลิขิตใจเป็นนำยกำยเป็นบ่ำว แพ้กี่ครั้งหลั่งน ้ำตำมำกี่ครำว ทุกเรื่องรำวสอนใจให้ฝ่ำฟัน เป็ นเช่นคนทั่วไปไร้คำถำ มีดวงตำชี้ทำงย่ำงสู่ฝัน พระธรรมสอนสติย ้ำน ำชีวัน “ เพรำะตัวฉัน ” ไม่มีมนต์สร้ำงผลงำน ก าหนดค า “ มิตร-เทียน-ฝัน-กวี-ดอกฟ้า-ถ่าว ” วัยผู้ใหญ่วัยเยำว์เรำวัยถ่าว ต่ำงถึงครำวจุดไฟฝันวรรณศิลป์ ก่อนเทียนดับไร้แสงแห่งมลทิน หยำดค ำรินเขียนผลงำนผ่ำนกวี ให้เป็นดั่งดอกฟ้าสงำ่ศกัดิ์เป็นมิตรรักผูกสัมพันธ์ฉันน้องพี่ สื่อควำมรักผ่ำนใจสร้ำงไมตรี มำวันนี้เพื่อสืบสำนต ำนำนกลอน บนเวทีห้ำปีกวีศิลป์ ด้วยชีวินด้วยใจรักษ์ประจักษ์ค่ำ “ประสิทธิเ์ชษฐ”์ชื่อนี้มีวิชำ เปิดม่ำนฟ้ำปล่อยใจให้โบยบิน จำกมอหนึ่งสู่มอสองร้อยกรองรักษ์ ร่วมทอถักบทกลอนขจรศิลป์ จำกสิชลมำไกลใจยลยิน ขอสืบสำนงำนกวินถิ่นบอมอ เดก็ชำยประสทิธิเ์ชษฐ์ สขุสำ รำญ ม.๒/๒ สวัสดีผมชื่อ “วิชญ์”จิตมุ่งมั่น ต่อเติมฝันแกร่งกล้ำท้ำขวำกหนำม คุณธรรมควำมดีคู่สู่นิยำม มุ่งเดินตำมควำมจริงสิ่งส ำคัญ อยู่มอสองงำนหนักภำระเหนื่อย แม้ปวดเมื่อยผมไม่ท้อขอขยัน ใจเข้มแข็งทุกปัญหำขอฝ่ำฟัน เพื่อควำมฝันขอต่อสู้สู่ฟ้ำไกล เด็กชำยวิชญ์ บุญศิริ ม.๒/๒ ๕๖ ๒ ๙


จำกเขำน้อยมำไกลด้วยใจรัก ใคร่ตระหนักคุณค่ำภำษำศิลป์ หวังมีชื่อลือเลื่องเฟื่ องระบิล ขอรักษำงำนกวินรินค ำคม “กัญกาญจน์” นำมนี้ดีประเสริฐ “พิทักษ์วงศ์” ล ้ำเลิศบรรเจิดสม ขอสืบสำนวรรณศิลป์ ตรำบสิ้นลม ด้วยคำรมแห่งรัก “นักกวี” เด็กหญิงกัญกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๑/๓ ตัวเล็กเล็กเด็กมอหนึ่งพึงช่วยจ ำ ผิวสีคล ้ำชอบค้นคิดจิตสดใส “กิติยา แก้วประจุ” คนจริงใจ เป็นน้องใหม่ขอทอถักรักกวี จำกเขำน้อยสู่ บ.ม. สำนต่อฝัน กำยใจมั่นเพียรศึกษำพำสุขี ทั้งหทัยเปี่ยมล้นบนควำมควำมดี เทิดศกัดิ์ศรกีลอนกำนทส์ำนม่นัคง เด็กหญิงกิติยำ แก้วประจุ ม.๑/๔ ก าหนดค า “ มิตร-เทียน-ฝัน-กวี-ดอกฟ้า-ถ่าว ” แดนทักษิณถิ่นกวีเมืองศรีปรำชญ์ เมืองแห่งปรำชญ์ผูกมิตรทั่วทิศ เดินตำมรอยร้อยรักษ์อักษรำ ส่งเสริมค่ำวัฒนธรรมล ้ำแผ่นดิน ร่วมสืบสำนทอประกำยฉำยไฟฝัน ถ่าวมุ่งมั่นรู้ตระหนักประจักษ์ศิลป์ ร่วมจุดเทียนแห่งไทยให้โลกยิน เฟื่ องระบิลดั่งดอกฟ้าสง่ำงำม “ ลมทะเลโชยชายล้อสายชล ” ตะวันคล้อยเลื่อนลับดับแสงจ้ำ ท้องนภำมืดแล้วไร้แววฉำย เสียงคลื่นซัดสยบกระทบทรำย ลมทะเลโชยชายล้อสายชล กำลเวลำหมุนเวียนเปลี่ยนชีวิต มีถูกผิดเกิดดับชีพสับสน ชั่วชีวิตเกิดมำสมค่ำคน น้อมพระธรรมยืนหยัดตนบนควำมดี ด.ญ.กำญจน์กนก อุบลกำญจน์ ด.ช.ประสิทธิ์เชษฐ์ สุขส ำรำญ ม.ต้น ๒๕๕๒ ๑๐ ๕๕


๕๔ ก าหนดค า “ เสา,ไหล,สกาว,ดิน,อุปสรรค,คลุก ” ดุจทวยเทพชั้นฟ้ำมำโปรดรำษฏร์ ธ เปรื่องปรำชญ์เสกสุขทุกถิ่นที่ ศูนย์รวมใจดั่งเสาหลักชนภักดี พระบำรมีเด่นดุจดำวสกาวฟ้ำชน เคล้ำทุกข์คลุกเศร้ำบรรเทำสิ้น น ้ำพระทัยไหลรินทรงคุณค่ำ อุปสรรคผ่ำนพ้นชนปรีดำ เทิดบูชำพ่อแผ่นดินทั่วถิ่นไทย “ นกพงึ่ฟ้าปลาพงึ่หนองคอยข้องเกี่ยว ” นกขำดฟ้ำปลำขำดหนองไม่ข้องเกี่ยว ตัวคนเดียวยำกฝ่ำฟันกับปัญหำ จะหันไปพึ่งใครเมื่อภัยมำ คงเหว่ว้ำอ้ำงว้ำงกลำงวังวนนกพึ่งฟ้าปลาพึ่งหนองคอยข้องเกี่ยว ควำมกลมเกลียวพำก้ำวข้ำมควำมสับสน สุขร่วมเสพทุกข์ร่วมต้ำนสำนกมล ชีวิตคนโลกควำมจริงพึ่งพิงกันนำยจฑุำคภสั ติ์ รตั นพนั ธ ์ม.๕/๑๑ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ ม.ปลำย ๒๕๕๒ “ คน-แพ้-เป็ น-พระ ” คนแบ่งแยกแตกรักสมัครสมำน ชั่วรุกรำนชำติแทบล่มจมปัญหำ แพ้กิเลสแย่งอ ำนำจขำดศรัทธำ ชีพไร้ค่ำถูกเหยียดหยำมควำมเป็นคน เป็ นคนไทยใจประสำนสมำนฉันท์ ร่วมยึดมั่นน้อมธรรมน ำเกิดผล พระภูบำลทรงแนวทำงตัวอย่ำงชน รำษฎร์สุขล้นอยู่ใต้พระบำรมี อันตัวข้ำมีนำมว่ำ “วุ ฒิ ศักดิ”์ เป็นผู้รักอักษรกลอนภำษำ ควำมหนักแน่นทำงด้ำนกำรวำจำ ได้เข้ำมำรั้วขำวแดงแห่งนคร โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ผมรัก ถึงเรียนหนักผมตั้งใจให้ครูสอน ที่ผมพูดอำจฟังดูไม่ใช่กลอน บอกไว้ก่อนถ้ำแต่งชับจะกลับมำเดก็ชำยวฒุิศกัดิ์บญุลำ ้ ม.๑/๔ แม่ให้ชื่อนำมว่ำ “ฐิติกร” ยำมหลับนอนคิดให้ได้ตำมใจฝัน เมื่อนอนเล่นมีสุขทุกคืนวัน ตั้งใจมั่นว่ำจักเป็นนักกวิน ร่วมเรียงร้อยถ้อยค ำล ำน ำเขียน ด้วยพำกเพียรสร้ำงชำติสืบศำสตร์ศิลป์ “ฐิตะกาญจน์” สกุลนี้ที่ยลยิน จะสร้ำงถิ่นสร้ำงโลกสวยด้วยบทกลอน เด็กชำยฐิติกร ฐิตะกำญจน์ ม.๑/๔ ๑๑


นำมกระผมนั้นหรือชื่อ “กมล” ซึ่งเป็นคนตระหนักรักภำษำ ตัวขำวเนียนแน่นหนักหลักปัญญำ อยำกจะมำเรียงร้อยถ้อยกวี มำสืบสำนสร้ำงสรรค์วรรณศิลป์ เลอืดกวินเป่ียมรกัม่นัศกัดิ์ศรี ยึดนิยำมตั้งตนเป็นคนดี หวังวันที่สร้ำงผลงำนเก่งกำนท์กลอน เด็กชำยกมล ศิริพันธ์ ม.๑/๕ สวัสดีฉันนี้มีนำมว่ำ “อัสมา” กล้ำหำญชำญสมร มำด้วยใจร้อยถักรักบทกลอน พึงสังวรยึดตนบนควำมดี จำก ศ.ศ. ก้ำวสู้สู่ บ.ม. สำนฝันต่อเดินทำงธรรมน ำวิถี ด้วยซำบซึ้งถ้อยรสบทกวี เทิดศกัดิ์ศรนีำ ชยัใหส้ถำบนั เด็กหญิงอัสมำ สุวรรณ์ ม.๑/๖ ก าหนดค า “ลาก, เมธี, ดี, ชาติ, กาย, ฤทัย” คือรำชำเหนือรำชันมิ่งขวัญชาติ คือปิ่นปรำชญ์เมธีศรีสมัย ครองแผ่นดินโดยธรรมน ำหลักชัย ครองฤทัยปวงชนล้นศรัทธำ ชนจมทุกข์ทรงลากชนหลุดพ้นทุกข์ ดลควำมสุขด้วยโครงกำร แก้ปัญหำรำษฎร์น้อมกายใจภักดีชั่วชีวำ เทิดพ่อฟ้ำด้วยบุญคุณควำมดี นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยจฑุำคภสัติ์รตันพนัธ ์ม.๕/๑๑ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท ์ม.๔/๗ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ กลอนสดลำกพระสิชล “ คน-ชนะ-เป็ น-มาร ” คนหน้ำเงินตีหน้ำใสใส่หน้ำกำก คิดโลภมำกโกงรัฐรำษฎร์ชำติตกต ่ำ ชนะตนไม่ได้เพรำะไร้ธรรม ต้องชอกช ้ำสิ้นทุกอย่ำงถึงทำงตัน เป็ นผู้น ำซื่อสัตย์ชัดโปร่งใส ยึดมั่นในคุณควำมดีมีสุขสันต์ มารกิเลสดับด้วยธรรมน ำชีวัน น ำชำตินั้นก้ำวไกลไร้มลทิน นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยจฑุำคภสัติ์รตันพันธ์ ม.๕/๑๑ ๑๒ ๕๓


“ทา ดใีหเ้ดก ็ ดู” ผู้ใหญ่พูดท ำจริงในสิ่งถูก ยึดฝังปลูกคุณธรรมน ำรำกฐำน รู้ผิดชอบชั่วดีมีหลักกำร รู้ครองงำนครองตนบนสำยกลำง คือเบ้ำหลอมค่ำคนผลเด่นชัด เด็กสัมผัสรู้เห็นเป็นแบบอย่ำง จึง คิดชอบดีงำมตำมแนวทำง ที่สรรค์สร้ำงควำมดีไว้ให้เด็กดู นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยจฑุำคภสัติ์รตันพนัธ ์ม.๕/๑๑ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท ์ม.๔/๗ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ กลอนสดลำกพระสิชล ก าหนดวรรค “ไทยเข้มแข ็ งแกร่งได้นั้นโดยใด” ไทยเข้มแข็งแกร่งได้นั้นโดยใด แกร่งเพรำะไทยเป็นหนึ่งเดียวกลมเกลียวมั่น ถึงแตกต่ำงไม่แตกแยกแตกสัมพันธ์ หยุดฆ่ำฟันหยุดขัดแย้งแบ่งพวกพรรค ใช้เพลงชำติปลุกใจให้หำญฮึก คั้นส ำนึกจำกหัวใจไว้เป็นหลัก มือจับมือก้อยเกี่ยวก้อยร้อยควำมรัก น้อมใจภกัดิ์พอ่แผน่ดินท่วัถ่ินไทย นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยจฑุำคภสัติ์รตันพนัธ ์ม.๕/๑๑ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท ์ม.๔/๗ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ กลอนสดลำกพระสิชล สื่อสำนผ่ำนอักษร ด้วยบทกลอนอันอ่อนหวำน พ่อให้“ศาสนภิบาล” ชื่อ“ฟาตลู ” เพิ่มพูนฝัน หวังสร้ำงสิ่งดีดี ยุวกวีที่ส ำคัญ ด้วยรักและผูกพัน จะสร้ำงสรรค์งำนกวี เด็กหญิงฟำตูล ศำสนภิบำล ม.๑/๓ นำมฉัน “นิศาชล” วัยแสนซนรักกลอนกำนท์ ร้อยศิลป์ ด้วยดวงมำลย์ หวังสืบสำนกวีไทย เรียกเล่นว่ำใบเตย คนเปิดเผยแสนจริงใจ ด้วยควำมรักห่วงใย สรรค์ศิลป์ ไทยยั่งยืนนำน เด็กหญิงนิศำชล วรดี ม.๑/๔ ฉันชื่อ “ศุภกานต์” จะเบ่งบำนเป็นกวี “จันทร์สน” สกุลดี สกุลนี้ที่ส ำคัญ บ.ม. ที่ฝันใฝ่ ฉันสอบได้อย่ำงที่ฝัน ด้วยรักและผูกพัน จะสร้ำงสรรค์กวีไทย เด็กหญิงศุภกำนต์ จันทร์สน ม.๑/๔ ๕๒ ๑๓


บันทึกกลอน...ก่อนแข่งขัน แม่ แม่คือผู้ประเสริฐเลิศคุณค่ำ ช่วยลูกยำป้องภัยให้สุขศรี แม่คือผู้เมตตำเปี่ยมปรำนี แม่ผู้มีควำมรักประจักษ์ใจ ตั้งแต่เล็กแม่เรำเฝ้ำอุ้มชู คอยเลี้ยงดูลูกกล้ำเดินเผชิญได้ แม่มีลูกลูกมีแม่แผ่อุ่นไอ ทั้งหทัยแม่พันผูกด้วยลูกยำ แม่คือครูชี้สร้ำงทำงลูกน้อย แม่เฝ้ำคอยบ่มสิ่งถูกลูกศึกษำ คอยสอนสั่งให้ลูกนี้มีปัญญำ มีธรรมำน ำจิตคิดระวัง เมื่อมีแม่ลูกสุขล้นไม่หม่นหมอง จักสมปองทุกสิ่งจริงดังหวัง แม่ผู้สร้ำงให้ลูกนี้มีพลัง คอยสอนสั่งชี้นิยำมแห่งควำมดี ร้อยมำลัยล ้ำเลิศเทิดพระคุณ ท่ำนกำรุณย์ปัดป้องทุกข์ลูกสุขี สำยสัมพันธ์แม่-ลูกผูกไมตรี แสนสุขศรีควำมรักจำกแม่เรำ เด็กหญิงฟำตูล ศำสนภิบำล ม.๑/๓ ก าหนดค า “เสา ดิน อุปสรรค คลุก สกาว” กว่ำจะเป็นดวงดำวสกำวฟ้ำ ดินต้องกล้ำก้ำวไต่บันไดฝัน อุปสรรคโถมท้ำให้ฝ่ำฟัน เพียรมุ่งมั่นด้วยตัวและหัวใจ คลุกน ้ำตำคละร้อนหนำวเคล้ำขวำกหนำม พร้อมก้ำวข้ำมหุบเหวควำมเหลวไหล สติน ำธรรมครองพ้นผองภัย เสำหลักชัยที่แท้แค่เอื้อมเอง นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท ์ม.๔/๗ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ รำงวัลสร้ำงสรรค์ กวีน้อยเมืองนคร ก าหนดวรรค “นกพงึ่ฟ้าปลาพงึ่หนองต้องข้องเกี่ยว” นกพึ่งฟ้ำปลำพึ่งหนองต้องข้องเกี่ยว ด้วยยึดเหนี่ยวน ้ำใจไมตรีจิต คนคนเดียวอยู่ไม่ได้หำกไร้มิตร ทุกชีวิตพึ่งพำอำศัยกัน เอำใจเขำใส่ใจเรำเข้ำใจแท้ รู้เผื่อแผ่โอบเอื้อเกื้อกูลมั่น อยู่พอเพียงวิถีไทยใจผูกพัน ร่วมสร้ำงสรรค์สังคมงำมด้วยน ้ำใจ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท ์ม.๔/๗ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ รำงวัลสร้ำงสรรค์ กวีน้อยเมืองนคร ๑๔ ก าหนดค าหลังค ากลอน “ต่อ-ตี-สี-ไฟ” ๒ ๕๑


ไข้หวดัใหญ่สองพนัเกำ้เขำ้แผลงฤทธิ์ จงร่วมแก้วิกฤติโรคติด ต่อ คนโกงชำติยังไม่หมดไทยทดท้อ จงเพียงพอดับชั่วช้ำที่ตรำ ตี ชำติแตกแยกชนขัดแย้งแบ่งพวกพรรค จงรู้รักหยุดอ้ำงเสื้อต่ำง สี ไฟใต้ลุกคนชั่วช้ำรุกรำวี จงท ำดีสิ้นย่อยยับดับร้อน ไฟ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รองชนะเลิศ กลอนสดมหำวชิรำวุธ ก าหนดค าหน้าค ากลอน “คน-ชนะ-เป็ น-มาร” คน ต่ำงแง่หลำกควำมฝันพันควำมคิด อย่ำยึดติดควำมเห็นตนเป็นใหญ่ ชนะ ตนด้วยเตือนตนพ้นผองภัย หลอมดวงใจรู้รักสำมัคคี เป็ น ส่วนร่วมรวมพลังทั้งรัฐรำษฎร์ ชนในชำติเลิกขัดแย้งหยุดแบ่งสี มาร ในตนลบล้ำงสร้ำงควำมดี เทิดภูมีด้วยธรรมครองของคนไทย นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท ์ม.๔/๗ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ รำงวัลสร้ำงสรรค์ กวีน้อยเมืองนคร แม่ ผู้มำกล้นกำรให้นั้นคือแม่ มีรักแท้ยิ่งใหญ่หำใดเหมือน แม้นำนวันเท่ำไรไม่ลำงเลือน ย ้ำจิตเตือนให้คะนึงถึงพระคุณ เมื่อเติบใหญ่ช่วงชีวิตเกิดริเริ่ม แม่คอยเติมสิ่งใหม่ใหม่ใจเกื้อหนุน สอนลูกยำถูก-ผิดคิดเจือจุน ดุจไออุ่นไอรักถักสัมพันธ์ รักของแม่ยำวกว่ำสำยธำรำ ชั่วชีวำสดใสใจสุขสันต์ จิตอำรีเปรียบครูผู้แบ่งปัน ทุกคืนวันลูกอิ่มยิ้มสรำญ ถึงสิบสองสิงหำมำบรรจบ ลกูนอ้มนบเทิดพระคณุอุ่นสขุศำนติ์ มอบดอกไม้จำกห้วงแห่งดวงมำลย์ ให้แด่ท่ำนสำนรักถักสำยใย กี่ห้วงกำลผ่ำนพบบรรจบนี้ ลูกท ำดีดังแม่เล่ำบอกเอำไว้ จะรักแม่สุดควำมคิดสุดจิตใน จะท ำให้แม่ส ำรำญนำนนิรันดร์ เด็กหญิงอัสมำ สุวรรณ์ ม.๑/๖ ๕๐ ๑๕


หนึ่งคา อธิษฐานจะรวมเป็ นล้านพลังจิต ล้ำนดวงจิตพลังใจไทยทั่วหล้ำ แด่พ่อฟ้ำขอตั้งจิตอธิษฐำน หนึ่งค ำพูดเกิดพลังยั่งยืนนำน ดลบนัดำลใหช้ำติไทยไดเ้ปรมปรดีิ์ ให้ชำติไทยร่มขวัญสันติสุข หมดสิ้นทุกข์หัวใจไม่แบ่งสี ทั้งเหลือง-แดงรู้รักสำมัคคี ฉันน้องพี่สุขล้นบนแผ่นดิน ประชำรำษฎร์อุ่นร่มใจใต้ร่มฉัตร ธ พิพัฒน์ดลสุขทุกที่ถิ่น ด้วยเพียงพอพออยู่รู้พอกิน องค์ภูมินทร์ทรงห่วงปวงประชำ หนึ่งค ำอธิษฐำนล้ำนล้ำนถ้อย ร่วมเรียงร้อยจำกดวงใจไทยทั้งหล้ำ ทรงครองไทยด้วยครรลองครองธรรมำ พรจำกฟ้ำขอพระองค์ทรงพระเจริญ เด็กหญิงกิติยำ แก้วประจุ ม.๑/๔ เด็กหญิงฟำตูล ศำสนภิบำล ม.๑/๓ ก าหนดค า “ดี, เมือง, สมเด็จ, ประสงค์” จำกชนบทอดลู่สู่เมืองใหญ่ น ้ำพระทัยสมเด็จแม่แผ่ไพศำล ศิลปำชีพหัตถกรรมล ้ำเลิศงำน วำงรำกฐำนชนรำกหญ้ำสู่สำกล ประสงค์แม่ประเสริฐสุดประดุจเทพ เสกสุขเสพสร้ำงศำสตร์ศิลป์ ระบิลผล ค ำแม่ตรัสสัมผัสใจไทยทุกคน กรองกมลท ำดีไทด้ว้ยใจภกัดิ์ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศักดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รองชนะเลิศ กลอนสดมหำวชิรำวุธ ก าหนดวรรค “คิดถึงวันทสี่ิน้แผ่นดนิอยู่” ทุกวันนี้เลือดย้อมทุกหย่อมหญ้ำ ไทยหันมำขัดแย้งแบ่งฝักฝ่ำย ต่ำงเอำเปรียบต่ำงเหยียบย ่ำต่ำงท ำลำย คงต้องอำยปู่ ย่ำถ้ำชำติพัง คิดถึงวันทสี่ิน้แผ่นดินอยู่ ส ำนึกรู้ “สำมัคคี” มีควำมหวัง ใจหนึ่งเดียวเร่งรุดภัยหยุดยั้ง รวมพลังเพื่อรำชันมิ่งขวัญไทย นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รองชนะเลิศ กลอนสดมหำวชิรำวุธ ๑๖ ๔๙


“ดนตรีไทย” บันไดเสียงบันดำลเพลงบรรเลงถ้อย ท ำนองร้อยจังหวะเสียงประสำน จะเข้ซอสะล้อซึงซึ้งดวงมำน แว่วขลุ่ยหวำนระนำดเสียงบำดใจ ดั่งเพลงพิณคนธรรพ์ชั้นแดนสรวง ตรำตรึงทรวงเสกสุขทุกสมัย โลกยกย่องต้องมนต์ดนตรีไทย รักษำไว้คงอยู่คู่แผ่นดิน นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รำงวัลชมเชยอันดับ ๑ กลอนสดธุรกิจบัณฑิตย์ ก าหนดค าหน้าค ากลอน “คับ-ท-ี่อยู่-ง่าย” คับ ที่อยู่ยำกจนสุดค้นแค้น แต่ในแก่นกลำงจิตพิสิฐใส ที่ สงบพบที่ท ำย ้ำที่ใจ ตั้งมั่นในคุณงำมค่ำควำมดี อยู่ อย่ำงไม่ได้อยู่อย่ำงผู้อยำก หยุดมักมำกยึด “สำยกลำง” สร้ำงวิถี ง่าย แค่ละกิเลสเหตุรำคี เพียงชีพนี้รู้ “พอ” ก็สุขใจ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รองชนะเลิศ กลอนสดมหำวชิรำวุธ หนึ่งค าอธิษฐานจะรวมเป็ นล้านพลังจิต หนึ่งค ำอธิษฐำน รวมเป็นล้ำนพลังจิต ประหนึ่งดั่งใจคิด ส่งิศกัดิ์สทิธิ์โปรดบนัดำล ลูกนั้นใคร่ขอพร ผ่ำนค ำกลอนอักษรสำร ร้อยเรียงเสียงดวงมำลย์ กลั่นขับขำนภำษำศิลป์ ขอพรเทพเทวำ จำกชั้นฟ้ำจดดำวดิน ประทำนพรภูมินทร์ ไร้รำคินแผ้วภัยพำล ธ คือมิ่งขวัญไทย รำษฎร์อิ่มใจสุขส ำรำญ ไทยจะสมัครสมำน เพื่อรำชันขวัญแผ่นดิน เด็กหญิงนิศำชล วรดี ม.๑/๔ เด็กหญิงศุภกำนต์ จันทร์สน ม.๑/๔ ๔๘ ๑๗


หนึ่งคา อธิษฐานจะรวมเป็ นล้านพลังจิต จุดแสงเทียนดวงน้อยร้อยล้ำนดวง ลุกโชติช่วงสว่ำงทั้งผืนหล้ำ จุดแสงธรรมแห่งใจไทยศรัทธำ ปลุกวิญญำณ์ก้ำวข้ำมควำมมืดมิด หนึ่งควำมดีหนึ่งจิตอธิษฐำน รวมเป็นล้ำนมนต์ขลังพลังจิต ถวำยแด่เจ้ำแผ่นดินปิ่นบพิตร หลอมควำมคิดสู่ควำมรักสำมัคคี ขอให้เสื้อเหลืองแดงหยุดแบ่งแยก หยุดเกมแตกรบรำ”กีฬำสี” ขอไฟใต้หยุดเชื้อเพลิงเหลิงโลกีย์ ทั่วถิ่นที่น ้ำใจล ้ำซับน ้ำตำ ขอคนไทยปิดทองข้ำงหลังพระ ใช่มุ่งจะดีเพื่อเฝ้ำเอำแต่หน้ำ ขอให้ควำมพอเพียงเลี้ยงชีวำ ปวงประชำเดินสำยกลำงสร้ำงสุขนำน ขอแสงบุญผุดผ่องส่องมืดบำป สันติภำพงำมเด่นบนเส้นขนำน ดอกประชำธิปไตยได้ผลิบำน บ้ำนเป็นบ้ำนอยู่รอดปลอดล ำเค็ญ ปรำรถนำอีกข้อคือ...พ่อยิ้ม คนไทยอิ่มสุขใจเพียงได้เห็น ภำพข้ำงฝำลูกเฝ้ำกรำบเช้ำเย็น เพรำะพ่อเป็นประทีปทองส่องน ำใจ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ “ศิลปวัฒนธรรม” วำดลำยเส้นเขียนลำยสือสื่อลำยลักษณ์ โลกประจักษ์ศำสตร์ศิลป์ ปิ่นสมัย โขนลิเกร ำร่ำยลวดลำยไทย งำมจิตใจพิสทุธิ์เมืองพทุธำเย็บทอปักจักสำนงำนถักร้อย บรรจงถ้อยบรรเจิดจินต์ศิลป์ ภำษำ ภูมิแผ่นดินภูมิธรรม์ภูมิปัญญำ รู้รักษ์ค่ำศิลปวัฒนธรรม นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รำงวัลชมเชยอันดับ ๑ กลอนสดธุรกิจบัณฑิตย์ “ปัญญาคืออาวุธ” มหำสมุทรหลำกเกลียวคลื่นกล้ำยืนหยัด ควำมเพียรชัดเป็นโยธำฝ่ำวิกฤติ สติเป็นหำงเสือเรือชีวิต ปัญญำคิดอำวุธฆ่ำตัณหำตน แสงเทียนธรรมส่องทำงกลำงควำมเขลำ ใช้ชำญเชำว์น ำควำมดีมีเหตุผล รู้จักเอำตัวรอดเป็นยอดคน ภัยผ่ำนพ้นฝ่ำฟันด้วยปัญญำ นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รำงวัลชมเชยอันดับ ๑ กลอนสดธุรกิจบัณฑิตย์ ๑๘ ๔๗


“เศรษฐกิจพอเพียง” ภูมิปัญญำพอเพียงเลี้ยงชีวิต ธ ประสิทธิ์ไทยประเทืองรุง่เรอืงผล ข้ำวเต็มนำปลำเต็มน ้ำฉ ่ำชีพชน ยืนหยัดบนสำยกลำงทำงสำยธรรม์ พึงพอกินพออยู่รู้พอใช้ พึงพอใจพอดีมีสุขสันต์ ธรรมสร้ำงคนชนสร้ำงชำติรำษฎร์ร่วมกัน ถวำยองค์รำชันมั่นพอเพียง “น ้าใสใจจริง” คือน ้ำใสใจจริงมิ่งขวัญชำติ ธ ครองรำชย์ “ทศพิธ” ประสทิธิ์ผล รำชกิจน ำรำษฎร์ปรำศทุกข์ทน ชุบชีพชนชื่นฉ ่ำล ้ำสุขใจ ธำรเมตตำยิ่งกว่ำมหำสมุทร จำกสูงสุดสู่รำกหญ้ำมำโปรดให้ ฝนหลวงรินพลิกชีวิตพิสิฐไกล น ้ำพระทัยคือน ้ำธรรมฉ ่ำแผ่นดิน “ความรู้คู่คุณธรรม” มีควำมรู้ไร้ธรรมน ำชีวิต อำจหลงติดเกียรติ-กำม-กินสนิ้ศกัดิ์ศรี แต่หำกน ำควำมรู้คู่ควำมดี ค่ำทวีสุขล ้ำเลิศธรรมครอง เกิดเป็นคนสร้ำงตนบนธรรมะ ลดเลิกละกิเลสเหตุหม่นหมอง เป็นดอกบัวเหนือตมสมใจปอง ชำติเรืองรองด้วย “ควำมรู้คู่คุณธรรม” นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รำงวัลชมเชยอันดับ ๑ กลอนสดธุรกิจบัณฑิตย์ กลอนจากภาพ คนหลำยคนวนว่ำยในวงวัฏฏ์ มิอำจตัดโลกลวงล่วงตัณหำ ยังเมำมึนมืดมิดปิดปัญญำ เขลำเกินกว่ำจะฉุดตนหลุดพ้นภัย น้อยคนนักเห็นแจ้งแห่งสัจจะ มีดวงตำธรรมะระลึกได้ แท้นิพพำนนั้นเกิดเพียงเปิดใจ และฝักใฝ่พร้อมรับกับ “ควำมจริง” นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ ๔๖ ๑๙


ชีวิตสุขสันต์ครอบครัวหรรษา หนึ่งครอบครัวจักสุขได้ใช้ควำมรัก และรู้จักปรึกษำถ้อยอำศัย แม่สอนลูกลูกเชื่อฟังจ ำฝังใจ พี่-น้องไซร้สมำนรักสำมัคคี จำกครอบครัวสู่สังคมอุดมสุข ไขข้องทุกข์ชำติสงบพบสุขี วอนครอบครัวหลำกชีวันทุกวันนี้ สรรค์ควำมดีสร้ำงควำมรัก “หลักครอบครัว” นำงสำวสุกัญญำ แซ่อ๋อง ม.๔/๑๒ กลอนสุภำพ “วันนั้นของวันพรุ่งนี”้ พรุ่งนี้เป็นอย่ำงไรไม่อำจรู้ แต่ต้องสู้แกร่งกล้ำฝ่ำขวำกหนำม ทุกข์ทับถมทำยท้ำพยำยำม มุ่งเดินตำมทำงธรรมน ำครรลอง น ้ำเหงื่อคือน ้ำมนต์ของคนแกร่ง ใช้น ้ำแรงลบน ้ำตำครำหม่นหมอง มีหำงเสือเป็นสติรู้ตริตรอง เพื่อวันของพรุ่งนี้จักมีชัย กลอนสุภำพบังคับค ำ “หลินปิ ง-ยิงเป้า-เงาด า-ค าไทย-ไข้หวัด-สัตว์ป่ า-ตาบอด-ยอดคน” ลืมสัตว์ป่ าช้ำงตาบอดถูกทอดทิ้ง หลงหลินปิงสัตว์นอกบอกว่ำหรู ลืมค าไทยสอนจิตลองคิดดู ตระหนักรู้คงค่ำไทยให้ยืนนำน ชำยแดนใต้ยิงเป้า เงาด าแฝง หยุดขัดแย้งจงรู้รักสมัครสมำน ไข้หวัดใหญ่สองพันเก้ำเข้ำรุกรำน ร่วมต่อต้ำนแก้ปัญหำคือยอดคน กลอนสุภำพ บรรยายเหตุการณล์ะครทจี่ัดแสดงบนเวที หำกครอบครัวแตกแยกสำแหรกขำด ผ้ำขำวอำจหม่นหมองลองตระหนัก ทุกครอบครัวอยู่ไม่ได้หำกไร้รัก ทั้งเสำหลักควรมีธรรมเหนี่ยวน ำใจ สังคมเล็กส ำคัญร่วมสรรค์สร้ำง เพื่อปูทำงเพำะบ่มสังคมใหญ่ บ้ำนเป็นบ้ำนด้วยรักน ำหลักชัย น ำชำติไทยเป็นหนึ่งเดียวกลมเกลียวกัน กลอนสดทีม ยุวกวี นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ เด็กหญิงมัชฌิมำ ร่มรุกข์ ม.๒/๙ ๒๐ ๔๕ ๑


กลอนดอกสร้อย “ดาวสีด า” ดำวเอ๋ยดำวสีด ำ ตอ้งตกต่ำ เกียรติกำมกินสนิ้ศกัดิ์ศรี จำกดำวเด่นเป็นดำวด ำซ ้ำรำคี หมดควำมดีไม่รักเรียนเปลี่ยนชีวำ รักพ่อแม่รักตนไว้ใฝ่ธรรมะ ลดเลิกละกิเลสเหตุตัณหำ สร้ำงค่ำตนพ้นพิษอวิชชำ ที่ปลำยฟ้ำดำวดวงใหม่สุกใสเอย กลอนสักวำ “ปลาใหญ่ในนา ้ตนื้ ” สักวำปลำใหญ่ในน ้ำตื้น ต้องขมขื่นแหวกว่ำยในบึงหนอง มิอำจฝืนคนจับปลำจับตำมอง อย่ำลอยล่องท ำตัวมัวรอรี ดั่งผู้น ำยิ่งใหญ่ใจสะอำด น ำชนชำติพ้นทุกข์ล้นสุขี จะคิดท ำสิ่งใดตรองให้ดี บ้ำนเมืองมีหูตำทุกครำเอย กลอนสุภำพ “เสียงเต้นของหัวใจ” รวยหรือจนสูงหรือต ่ำด ำหรือขำว ทุกครั้งครำวเสียงหัวใจใช่เต้นต่ำง วัดค่ำคนที่ธรรมชี้น ำทำง สุขสรรค์สร้ำงห่ำงไกลไฟรำคี หูรับฟังตำมองดูรู้ดีชั่ว กระท ำตัวสติน ำล ้ำวิถี สร้ำงชีวิตสุขล้นบนควำมดี ทุกนำทีใจเต้นเป็นเสียงธรรม แม้กินข้ำวคงไม่ต้องลองร้ำนหรู น ้ำในคูยังอำบได้ไม่ขื่นขม เป็นเยี่ยงครูอยู่เยี่ยงทำสปรำศทุกข์ตรม เปลี่ยนอำรมณ์จงปล่อยวำงสร้ำงสิ่งดี กุมควำมคิดให้โชติช่วงดั่งดวงแก้ว จิตผอ่งแผว้บรสิทุธิ์ผดุผอ่งศรี ช่วยเหลือคนส่องตะเกียงเลี้ยงชีวี โลกเปรมปรดีิ์คือนิยำมควำม “เพียงพอ” เด็กหญิงกัญกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๑/๓ ๔๔ ๒๑


กา หนดคา บูชิต,รงค,์แวะ,หนิ น้อมเชิดชูบูชิตอุทิศรัก แด่เสำหลักชำยชำญทหำรกล้ำ มำดับดิ้นในรงค์รบจบชีวำ แวะสักกำระคุณพ่อบุญไทย หินรำยล้อมหลุมศพนักรบกำจ พลีเพื่อชำติมิเสียดำยกำยหม่นไหม้ ตำยเพียงตัวแต่ควำมดีนี้เกรียงไกร ดีคงไว้คู่ผืนหล้ำจำรึกคุณ นำงสำวสุกัญญำ แซ่อ๋อง ม.๔/๑๒ รักในวัยเรียน ปลูกต้นรักในวัยเรียนเพียรทุกข์ยำก แสนล ำบำกเยำวชนต้องหม่นหมอง มัวเรียนรักไม่เรียนคิดผิดครรลอง ต้องตริตรองยึดธรรมน ำจิตใจ ค ำพ่อแม่คือธรรมะอันประเสริฐ สุดล ้ำเลิศลูกจดจ ำน ำสดใส รักพ่อแม่อยู่ในห้วงดวงหทัย คงฝังในดวงจิตนิจนิรันดร์ เด็กหญิงกิติยำ แก้วประจุ ม.๑/๔ กลอนดอกสร้อย “โลกเอ๋ยโลกทัศน์” โลกเอ๋ยโลกทัศน์ มองให้ชัดควำมจริงที่ยิ่งใหญ่ ทุกซอกหลืบทุกคืบศอกตอกย ้ำใจ มองสิ่งใดแล้วคิดพิจำรณำ สังคมเรำรักเท่ำหนังชังเท่ำเสื่อ ขอเพียงเพื่อมองแง่ดีอย่ำงมีค่ำ โลกทัศน์มองชั่วดีใช่ที่ตำ แต่ศรัทธำด้วยใจใฝ่ธรรมเอย กลอนสักวำ “ความดทีเี่ลือกได้” สักวำควำมดีที่เลือกได้ อยู่ที่ใจคิดกระท ำน ำวิถี เพียงเริ่มต้นลงมือแน่แต่ตอนนี้ มิรอรีให้กำลล่วงผ่ำนพ้น มือสะอำดใจสว่ำงทำงสงบ โมหะลบโลภะล้ำงสร้ำงเหตุผล ท ำทุกที่ทุกเวลำหน้ำที่ตน คุณค่ำคนคือควำมดีที่สร้ำงเอย กลอนสุภำพ “ความตายในคนเป็ น” เพรำะหลงเกียรติกำมกินสนิ้ศรศีกัดิ์เพรำะจมปลักกิเลสเหตุตัณหำ เพรำะคุณธรรมห่ำงเหินเกินเยียวยำ เพรำะอัตตำอัดตนจนหมองใจ ตำยก่อนตำยสังคมไทยมีให้เห็น ตำยทั้งเป็นตำยซำกยำกแก้ไข จงท ำดีมีธรรมน ำหลักชัย คนเป็นอย่ำฝักใฝ่ ตำยก่อนตำย นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รองชนะเลิศ กลอนสดเดี่ยว ยุวกวี ๒๒ ๔๓


๒๓ ๑ กลอนดอกสร้อย “ฝูงอกีา” ฝูงเอ๋ยฝูงอีกำ คุณธรรมด้อยค่ำน่ำสงสำร มิอำจเอำชนะเหตุกิเลสมำร ส่อสันดำนตัณหำตีตรำตน ยำมบุญสูงฝูงกำมำเป็นหงส์ ยำมบุญลงหงส์เป็นกำน่ำฉงน เป็นมนุษย์ยึดคุณธรรมน ำกมล จึงหลุดพ้นวังวน “กำ” ล ้ำค่ำเอย กลอนสักวำ “คุณค่าค าว่าคน” สักวำคนหรือสัตว์เดรัจฉำน วัดที่ด้ำนคุณธรรมน ำยึดถือ วัดที่ด้ำนกำรงำนกำรฝีมือ ใช่ที่ชื่อเสียงซ้องก้องเกียรติตน ใช่วัดที่หล่อหรือสวยรวยหรือมี ใช่วัดที่เงินทองกองพูนผล ใช่วัดที่ควำมศกัดิ์สทิธิ์อิทธิพล แต่ค่ำคนอยู่ที่ควำมดีเอย กลอนสุภำพ “ความรักในวัยเรียน” เมื่ออยู่ในวัยเรียนอย่ำเพียรรัก พึงตระหนักในงำนกำรศึกษำ ตั้งใจมั่นเชื่อฟังครูรู้วิชำ ใช้ปัญญำตริตรองกรองชั่วดี ควำมรักในห้องเรียนเพียรสร้ำงได้ คือรักในเพื่อนพ้องเหล่ำน้องพี่ ก้ำวสู่ฝันพันผูกปลูกไมตรี สำมัคคีวัยใสในห้องเรียน รักในวัยเรียน เรำนักเรียนอย่ำผลีผลำมมีควำมรัก จะอกหักร้องไห้ใจเศร้ำหมอง กำรเรียนแย่รักห ้ำหั่นผิดครรลอง อย่ำหันมองมีรักในวัยเรียน หำกคิดรักในวัยเรียนจะเวียนหัว อย่ำพันพัวรักไม่แน่ย่อมแปรเปลี่ยน เร่งคิดท ำตร ำตรำกสู้พำกเพียร มุ่งอ่ำนเขียนสู่ทำงสร้ำงสุขตน เด็กหญิงศิริมำศ ถำวรวงศำ ม.๓/๑ รักในวัยเรียนที่เพียรหำ แบ่งเวลำรู้หน้ำที่ควำมดีมั่น เพรำะกำรเรียนทุกอย่ำงทำงส ำคัญ เป็นคนนั้นมีพลังไม่นั่งนอน เกิดเป็นคนเชี่ยวชำญในกำรเรียน อย่ำเบียดเบียนคนอื่นฝืนค ำสอน หำกเรียนรักกำรเรียนนั้นจะสั่นคลอน เรียนถำวร “รักไม่ยุ่งมุ่งแต่เรียน” เด็กชำยวิชญ์ บุญศิริ ม.๒/๒ รักวัยเรียนเหมือนจุดเทียนกลำงฝน จะหมองหม่นทุกสิ่งทิ้งอ่ำนเขียน ขึ้นชื่อว่ำเด็กน้อยคอยพำกเพียร รู้รักเรียนเรื่องรักจงหักใจ หำกมีรักต้องรักเป็นเห็นว่ำดี แต่ต้องมีควำมคิดจิตวิสัย หำกรักแล้วต้องพำกเพียรเรียนต่อไป ควรรู้ใฝ่รู้เรียนบ้ำงอย่ำร้ำงรำ เด็กหญิงนิศำชล วรดี ม.๑/๔ ๔๒


แรกเริ่มรักในวัยเรียนเพียรสนุก กลับทนทุกข์หำกหัวใจไม่ตั้งมั่น ต้องเลิกรำพลัดพรำกไปจำกกัน ทุกคืนวันชอกช ้ำระก ำใจ แต่กลับลืมคนรักที่ห่วงหำ ลืมบิดำมำรดำที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่รักกว่ำชีวำยิ่งกว่ำใคร หลอมสำยใยแทนคุณอุ่นชีวำ เด็กหญิงฟำตูล ศำสนภิบำล ม.๑/๓ ส่งดอกไม้แทนคิดถึงซึ้งคุณค่ำ สื่อสัญญำแทนหัวใจอุ่นไฟฝัน คู่หนุ่มสำวมอบควำมหวำนสื่อสำรกัน หลอมชีวันเป็นหนึ่งซึ้งสำยใย มองควำมรักอย่ำมองแค่เพียงผ่ำน มองให้นำนรักนั้นไม่หวั่นไหว คิดตริตรอง “มองรักแท้”จนแน่ใจ สร้ำงวันใหม่สำยสัมพันธ์นั้นยั่งยืน เด็กหญิงศิริมำศ ถำวรวงศำ ม.๓/๑ เป็นนักเรียนต้องขยันหมั่นศึกษำ ต้องค้นหำควำมจริงสิ่งแปลกใหม่ หัดอ่ำนเขียนเช้ำค ่ำจดจ ำใจ ทบทวนในสิ่งที่รู้ครูสอนมำ หมั่นพำกเพียรมีส ำนึกรู้ฝึกฝน หัดท ำตนรู้ตั้งใจใฝ่ ศึกษำ น ำควำมรู้สู่คนดีมีวิชำ ภำยภำคหน้ำถึงเส้นชัยครองใจตน เด็กหญิงศุกกำนต์ จันทร์สน ม.๑/๔ “แค่คิดดีหวังดีก็มีหวัง” แค่คิดดีหวังดีก็มีหวัง สร้ำงพลังรำกฐำน “สมานฉันท์” ถึงเชื้อชำติศำสน์ไหนไทยด้วยกัน หยุดฆ่ำฟันขัดแย้งแบ่งพวกพรรค อย่ำหลงผิดแตกแยกแม้แตกต่ำง ปูแนวทำงร่มเย็นไว้เป็นหลัก เดินสำยกลำงทำงสำยธรรมน ำควำมรัก ผูกสมัครแน่นเหนียวกลมเกลียวใจ ทุกวันนี้ศึกนอกใดไม่เร่ำร้อน กลัวแต่หนอนเบื้องลึกศึกในไส้ สักวันคงหมดสิ้นแผ่นดินไทย หำกเรำไม่ “รู้รักสามัคคี” มือจับมือใจเกี่ยวร้อยตำมรอยพ่อ ร่วมสำนต่อคุณธรรมน ำวิถี หลอมพลงัแหง่รกัภกัดิ์ภมูี คิดท ำดีสำนหวังสู่สังคม นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รำงวัลเหรียญทอง แข่งขันกลอนสดเดี่ยว งำนศิลปหัตถกรรมนักเรียน ภำคใต้ ๒๔ ๔๑


“พลเอกเปรม ตณิสูลานนท์ รัฐบุรุษผู้ซอื่สัตย์สุจริต และจงรักภักดีต่อแผ่นดิน” เกียรติคุณงดงำมตำมแบบบท เกียรติยศจอมทัพน่ำนับถือ จริยธรรมเลิศล้นชนเลื่องลือ จดจำรชื่อจำรึกนำมค่ำควำมดี เป็นผู้น ำผู้รู้ผู้หำญกล้ำ ด้วยศรัทธำสัตยซ์่ือคือศกัดิ์ศรี พร้อมทุ่มเทอุทิศชีวิตพลี ทำ หนำ้ท่ีสงูสทิธิ์จิตวิญญำณ สติมั่นปัญญำมุ่งมำนะ เสียสละมองกำรณ์ไกลไปรอบด้ำน สุจริตคิดชอบกอปรสร้ำงงำน อุดมกำรณ์โอบเอื้อเพื่อแผ่นดิน รัฐบุรุษจงรักภักดีรำช ชีพรองบำทจิตตรงใจตงฉิน รับใช้ชำติช่วยเหลือชนผลระบิล ประเทืองถิ่นประพฤติธรรมประจ ำใจ ควำมเป็นกลำงวำงตนเหตุผลล ้ำควำมเป็นธรรมหลอมเกรำะแกร่งแห่งกำรให้ ควำมเป็นคนยึดหลักธรรมน ำหลักชัย ควำมเป็นไทยสูงส่งคงนิยำม เอกบุรุษสรรเสกเอกลักษณ์ เด่นประจักษ์ในแผ่นดินถิ่นสยำม ปณิธำนร้อยเรื่องรำวชนก้ำวตำม แบบอย่ำงงำมตอบแทนคุณแผ่นดิน นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รำงวัลชนะเลิศกำรประกวดบทร้อยกรอง ของหอจดหมำยเหตุนำยกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลำนนท์ พรปี ใหม่ พรเอ๋ยพรปีใหม่ คิดสิ่งใดสมหวังดังประสงค์ ไร้โรคำปลอดทุกข์สุขด ำรง ชีพยืนยงเงินทองกองทวี ไทยทั้งปวงน้อมน ำรำชด ำรัส ปฏิบัติคุณธรรมน ำวิถี ลืมอดีตเลวร้ำยเมื่อกลำยปี เริ่มต้นท ำสิ่งดีปีใหม่เอย นำย ขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ ช้าเป็ นกาล นานเป็ นคุณ ช้ำได้พร้ำเล่มงำมเพรำะควำมมั่น เวลำนั้นน ำชีวิตยั้งคิดได้ เร่ง-รวด-เร็ว อำจน ำพำมหำภัย สงบใจ "ช้ำเป็นกำล นำนเป็นคุณ" ท ำกำรใดใช้สติตริตรองก่อน ค ำแม่สอนควรกระท ำน้อมน ำหนุน ควำมช้ำนำนคือแนวทำงสร้ำงต้นทุน จักค ้ำจุนควำมส ำเร็จสร้ำงเพชรงำม นำงสำวสุกัญญำ แซ่อ๋อง ม.๔/๑๒ ๔๐ ๒๕


ความฝันของพ่อ พ่อของฉันฝันว่ำฉันกล้ำหำญ อุดมกำรณ์ปัญญำล ้ำน ำเหตุผล ประพฤติชอบกอปรธรรมน ำทำงตน สมค่ำคนฝันของพ่อขอแค่นี้ พ่อแห่งไทยฝันว่ำไทยกล้ำแกร่ง หยุดยื้อแย่งยืดเยื้อเสื้อแบ่งสี สมำนฉันท์หลอมรักสำมัคคี เพียงท ำดีฝันของพ่อก็เป็นจริง นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ ฉันคือแสงรุ้งรุ่งเรืองรอง ฉันเกิดมำบนถิ่นแผ่นดินแม่ ฉันแน่วแน่สร้ำงชำติผงำดกล้ำ ฉันคิดดีท ำดีมีธรรมำ ฉันศรัทธำบรรพชนทนพลีกำย “ฉันนั้นคือแสงรุ้งรุ่งเรืองรอง” ฉันปกป้องรักชำติมุ่งมำดหมำย ฉันคือเยำวชนคนหญิงชำย แม้ฉันตำยเพื่อแผ่นดินก็ยินยอม นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ “ สุนทรภู่ครูกลอนอักษรศลิป์ ” ชื่นค ำคมชมค ำกำนท์หวำนค ำภู่ โลกเชิดชูธีรธรอักษรศิลป์ กรองควำมคิดจำกปัญญำมำร่ำยริน เอกกวินสรรค์เสกเอกผลงำน หยั่งรำกแก้วคงมั่นฉันทลักษณ์ แนบแน่นหนักอำรมณ์ผสมผสำน สะท้อนภำพเรื่องรำวเล่ำนิทำน เล่นโวหำรวรรณทัศน์สัมผัสใจ ด้วยเมำเหล้ำเจ้ำชู้หลำกคู่ชิด ผ่ำนชีวิตล่วงรู้โลกโศกสดใส ประสบกำรณ์พบร้อนหนำวทุกครำวไป น ำปรับใช้อรรถรสจรดควำม แต่งเสภำละครกลอนนิรำศ ดั่งปำนวำดวิถีทำงอย่ำงล้นหลำม จินตนำกำรสูงส่งคงควำมงำม สมนิยำมศกัดิ์ศรกีวีไทย หลำกข้อคิดจำกกลอนสุนทรภู่ ค ำกลอนครูอมตะล ้ำสมัย ร่วมเรียนรู้ซำบซึ้งตรึงตรำใจ เกริกเกรียงไกรศรัทธำแกร่งถำวร ศำสตร์ระบิลศิลป์ ระบือลือเลิศลักษณ์ เด่นประจักษ์สัจธรรมแห่งค ำสอน เลือดกวีสืบสำยขจำยขจร มำลัยกลอนร้อยกรองมำบูชำครู นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ ชนะเลิศประกวดกลอนวันสุนทรภู่ของกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ๒๖ ๓๙


“สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ” อุ่นอ้อมอกดวงใจไทยทั่วหล้ำ คู่บุญญำจอมบดินทร์ปิ่นสยำม เลิศพระเกียรติเลอพระยศปรำกฏงำม เกริกพระนำมรำชินีศรีแห่งไทย สองพระหัตถ์โอบอุ้มคุ้มครองรำษฎร์ สองพระบำทย่ำงเยี่ยมชนผลยิ่งใหญ่ สองพระเนตรสร้ำงงำนมองกำรณ์ไกล เสริมหลักชัยคุณธรรมน ำชีวิต ศิลปำชีพชุบชีพคนชนบท ดับรันทดฝ่ำควำมจนพ้นวิกฤติ ทรงช่วยเหลือทรงเสริมส่งทรงอุทิศ วำงแนวคิดเลิศด ำริปณิธำน ไหม มัดหมี่ ซิ่น ตีนจก ยก มัดย้อม ปั้น ถัก หลอม เย็บ ทอ ปัก ร้อย จักสำน สืบเส้นไหมทอสำยลำยตระกำร ภูมิชำวบ้ำนรังสรรค์ภูมิปัญญำ จำกป่ ำเขำดอยภูสู่เมืองใหญ่ ทรงห่วงใยทรัพย์สินดินน ้ำป่ ำ มรดกไทยเลื่องล้นชนศรัทธำ พลิกฟื้นค่ำนิมิตผลโลกยลยิน ดอกมะลิผลิงำมดั่งควำมรัก งำมประจักษ์ควำมดีไม่มีสิ้น สริกิิติ์สิริแท้แม่แผ่นดิน ล้ำนดวงจินต์จงรักเทิดภักดี นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รำงวัลชนะเลิศ กำรประกวดบทอำเศียรวำทวันแม่ ของกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ขา ตอนขำมำมำดีไม่มีชั่ว มำแตต่วักบัใจใสพิสทุธิ์ อย่ำก่อกรรมท ำใจให้ช ำรุด เป็นมนุษย์หรือคนด้วยผลกรรม ตอนขำกลับกลับไปไม่มีเหลือ แม้กำยเนื้อดินกลบเรียบคนเหยียบย ่ำ ก่อนล่วงลับสร้ำงควำมดีมีพระธรรม จงจดจ ำ “ขำกลับ” ลับแต่ตัว นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ ก ำหนดวรรค “เลือดนักฝันฝันนักสู้สู้เล่หล์วง” ฝันจำกใจรำกหญ้ำฝ่ำเล่ห์ร้ำย คนคิดขำยแผ่นดินจงสิ้นหมด ถอดหน้ำกำกปิดฉำกมำรกำรทรยศ อนำคตชำติสูงค่ำอย่ำเสี่ยงดวง หยุดอ่อนแอจนอธรรมครอบง ำจิต รู้จักคิดรักแผ่นดินถิ่นแหนหวง “เลือดนักฝันฝันนักสู้สู้เล่หล์วง” หลุดพ้นบ่วงเกมมำรนักกำรเมือง นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ ๓๘ ๒๗


ในหลวง หนึ่งในโลกครองใจใครทั้งโลก นับเป็นโชคยิ่งใหญ่ไทยมีพ่อ หนึ่งปรัชญำ ธ สอนให้ไทยเพียงพอ ยำมใจท้อเพียงเพ่งภำพซำบซึ้งนัก หนึ่งยิ้มพ่อคือยิ้มพิมพ์ใจรำษฎร์ รอยพระบำทคือรอยธรรมน ำเป็นหลัก หน่งึในหลวงหน่งึในใจไทยพรอ้มภกัดิ์ ร่วมใจรักเทิดพระองค์ทรงพระเจริญ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ “ ตามรอยพ่อของแผ่นดิน ” บุญของโลกโชคของชนคนทั้งชำติมีปิ่นปรำชญ์แผ่นดินเป็นปิ่นขวัญ รอยพระบำทคือรอยธรรมน ำชีวัน ให้รำษฎร์นั้นเดินตำมรอยควำมดี “ปลูกต้นไม้ในใจคน”จนฝังลึก ปลูกส ำนึกรักษ์ดินน ้ำน ำวิถี ปลูกปัญญำก่อนสิ้นไร้โลกใบนี้ หยุดย ่ำยีท ำร้ำยท ำลำยล้ำง ใจอย่ำอยู่อย่ำงอยำกให้ยำกยุ่ง ลดเฟ้อฟุ้งโกยกอบตอบแทนบ้ำง เป็นผู้ให้เอื้อสุขทุกที่ทำง เป็นผู้สร้ำงรำกฐำนธำรน ้ำใจ “เศรษฐกิจพอเพียง” เลี้ยงประเทศ พัฒน์เกษตรตำมหลักคิด “ทฤษฎีใหม่” ภูมิปัญญำเรียนรู้สู่หลักชัย ประหยัดใช้ประยุกต์งำนประมำณตน “รู้รักสำมัคคี” เป็นที่ตั้ง หลอมพลังคุณธรรมล ้ำเลิศผล เดินสำยกลำงสร้ำงสังคมสมเป็นคน ยืนหยัดบนนิยำมควำมเป็นไทย จำกหนึ่งมือหนึ่งควำมดีที่สร้ำงสำน รวมเป็นล้ำนควำมดีที่ยิ่งใหญ่ รวมควำมภกัดิ์ถวำยองคพ์ระทรงชยั รวมหัวใจรักแนบแน่นพ่อแผ่นดิน นายขจรศกัด์ิเหมทานนท์ม.๔/๗ รำงวัลชนะเลิศประกวดบทอำเศียรวำทของกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ๒๘ ๓๗


กระทูท้ี่๑ กลอนสภุำพกำ หนดคำ หนำ้วรรค “ ลด-โลก-ร้อน-ด้วย-บุญญา-พระ-บาร-มี” ลดโลกร้อนด้วยพอเพียงเลี้ยงชีวิต โลกวิกฤติก็ร่มเย็นเป็นสุขได้ ร้อนเพียงโลกคนทั่วหล้ำอย่ำร้อนใจ ด้วยหลักชัยตำมรอยธรรมน ำชีวัน บุญญา ธ ปกเกล้ำเหล่ำทวยรำษฎร์ พระคือปรำชญ์ชี้แนวทำงสร้ำงสุขสันต์ บารมีทรงเมตตำคุณำนันต์ มีรำชันดับร้อนภัยให้ร่มเย็น กระทูท้ี่๒ กลอนดอกสร้อย “ พระเอ๋ยพระบารมี” พระเอ๋ยพระบำรมี ปกเกศีป้องภัยไทยสขุศำนติ์ น ้ำพระทัยไหลหลั่งดั่งทิพย์ธำร เสกโครงกำรพลิกผืนดินสร้ำงสินไทย ธ คือเทพชั้นฟ้ำมำโปรดรำษฎร์ รอยพระบำทคือรอยธรรมน ำสุขให้ ภูมิแห่งปรำชญ์เพียงพอก่อหลักชัย มำลำใจถวำยรักภักดีเอย กระทูท้ี่๓ กลอนสักวำ “ สักวาโลกร้อนผ่อนคลายได้” สักวำโลกร้อนผ่อนคลำยได้ หำกร่วมใจป้องกันแก้ปัญหำ ตำมรอยพ่อพอเพียงเลี้ยงชีวำ หยุดไขว่คว้ำประโยชน์ตนผลก ำไร พอประมำณรู้ประหยัดหัดประยุกต์ คนก็สุขโลกก็เย็นเป็นสดใส โลกใบเดียวบ้ำนหลังเดียวเกี่ยวสำยใย หลั่งน ้ำใจดับโลกร้อนก่อนสำยเอย ประพันธ์โดย... นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยณัฏฐพล เขียวเสน ม.๕/๙ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท ์ม.๔/๗ นำงสำวปรมำวตี หนูแก้ว ม.๔/๘ ก ำหนดค ำหน้ำบำท เก็บ-หอม-รอม-ริบ เก็บอำวุธวำงทิฐิสติมั่น เลิกฆ่ำฟันขัดแย้งแบ่งยศฐำ หอมควำมดีน้อมธรรมน ำชีวำ ร่วมจับมือสร้ำงค่ำปัญญำชน รอมชอมรักสมำนใจให้แนบแน่น ป็นปึกแผ่นเชื่อมรอยต่อก่อเกิดผล ริบหรี่แล้วศึกสงครำมควำมมืดมน เกิดเป็นคนต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ม.ตัน’๒๕๕๒ ๓๖ ๒๙


ตี-ปลา-หน้า-ไซ ตีบทแตกวำงตนเป็นคนซื่อ ชนนับถือเบื้องหลังลวงร้อยบ่วงเล่ห์ ปลาติดอวนเพียงเขำแสร้งแกล้งทุ่มเท จึงหันเหเลือกเขำเข้ำสภำ หน้าที่ชนเลือกคนดีมีควำมสัตย์ ช่วยพิพัฒน์ชำติไทยให้ก้ำวหน้ำ ไซแห่งธรรมกรองดีชั่วเถิดตัวปลำ น ำชีวำก้ำวล่วงพ้นบ่วงมำร ม.ปลำย ‘๕๒ การประชันกลอนสดเฉลิมพระเกียรติ “กวีร่วมสมัยใส่ในลดโลกร้อน” จัดโดยมูลนิธิ ๕ ธันวำมหำรำชร่วมกับสมำคมกวีร่วมสมัย รอบคัดเลือก กระทูท้ี่๑ กลอนสุภำพ “ โลกเราร้อนเลวร้ายลงทุกวัน ” เรือนกระจกขั้วโลกร้อนบั่นทอนโลก แผ่นดินโศกฟ้ำร ่ำสำยน ้ำเศร้ำ ธำรน ้ำแข็งไหลหลำกยำกบรรเทำ โลกของเรำเลวร้ำยลงทุกวัน ด้วยมนุษย์เหยียบย ่ำธรรมชำติ ใช้อ ำนำจสูบประโยชน์โทษมหันต์ โลกคือบ้ำนหลังเดียวกลมเกลียวกัน ร่วมรักษ์มั่นสร้ำงโลกสวยด้วยสองมือ กระทูท้ี่๒ กลอนดอกสร้อย “ โลกเอ๋ยโลกร้อน ” โลกเอ๋ยโลกร้อน ภัยบั่นทอนสะเทือนทุกข์ทุกแห่งหน ดินน ้ำป่ ำโอดครวญป่ วนเหลือทน น ้ำมือคนเหยียบย ่ำมุ่งท ำลำย เพียงน ้ำค ำไม่เพียงพอต่อกำรแก้ น ้ำใจแผ่ดับโลกร้อนก่อนเกินสำย คั้นส ำนึกหลอมแรงร่วมรวมใจกำย ดับภัยร้ำยพิทักษ์รักโลกเอย กระทูท้ี่๓ กลอนสักวำ “ สักวาฝนฉ่า สุขลา ้เลิศ ” สักวำฝนฉ ่ำสุขล ้ำเลิศ ธ ก่อเกิดโครงกำรบันดำลผล น ้ำพระทัยไหลจำกฟ้ำมำสู่ชน ดับทุกข์ทนทั่วแคว้นแผ่นดินไทย ฟ้ำห่วงดิน ธ ห่วงชนเกิดฝนหลวง รำษฎร์ทั้งปวงร่มเย็นสุขทุกสมัย เป็นน ้ำหนึ่งหลอมเกรำะแกร่งแห่งน ้ำใจ ร่วมเทิดไท้รำชันขวัญชำติเอย ๓๐ ๓๕


“ สุขร่มเย ็ นท่วัหล้า ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ” กำรเมืองยุ่งกำรเงินแย่กำรแก้ยำก กรรมวิบำกรำษฎร์วิบัติรัฐวิกฤติ ด้วยด ำรัสพระทรงธรรมชี้น ำทิศ เปลี่ยนชีวิตพลิกฟื้นผืนแผ่นดิน พืชเต็มไพรข้ำวเต็มนำปลำเต็มน ้ำ ชนชื่นฉ ่ำอุดมสมบูรณ์สิน เดินตำมรอยของพ่อพออยู่กิน ควำมสุขรินดับร้อนผ่อนทุกข์ทน ประพฤติชอบประกอบชัดประหยัดใช้ เกรำะป้องภัย “สำยกลำง” สร้ำงกุศล ยึดล ำแข้งเป็นหนึ่ง “ตนพึ่งตน” ยืนหยัดพ้นควำมประมำทวำดหลักชัย พึงพอใจในสิ่งที่ตนมี พึงพอดีในสิ่งที่ตนได้ พึงโอบเอื้ออำรีมีน ้ำใจ เป็นผู้ให้แผ่เผื่อเพื่อแบ่งปัน ข่มตัณหำกิเลสด้วยเหตุผล มุ่งอดทนอดออมพร้อมอดกลั้น มีสติคงคู่รู้เท่ำทัน ภูมิคุ้มกันชีวิตคิดท ำดี ภูมิปัญญำ “พอเพียง” เลี้ยงชนชำติ ภูมิรู้ปรำชญ์ภูมิธรรมน ำวิถี ภูมิแผ่นดินภูมิรักสำมัคคี ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มใบบุญ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รำงวัลชมเชยบทร้อยกรอง ของกองทัพบกฯ ตีปลาหน้าไซ ท ำกิจใดไม่ยั้งคิดย่อมผิดพลำด ผลนั้นอำจน ำพำภัยไร้ควำมหวัง เพรำะตีปลำหน้ำไซไม่ระวัง ขึ้นสู่ฝั่งแพ้พ่ำยมิได้ปลำ กอปรกำรใดให้แน่วแน่ถ่องแท้ก่อน ยึดค ำสอนส ำนวนควรศึกษำ ควำมรอบคอบคือกรอบมั่นแห่งปัญญำ พึงจ ำอย่ำสร้ำงอุปสรรคก่อนหลักชัย เดก็ชำยประสทิธิเ์ชษฐ์ สขุสำ รำญ ม.๒/๒ นำงสำวสุกัญญำ แซ่อ๋อง ม.๔/๑๒ ๓๔ ๓๑


ภาพทเี่ราหลงลืม เอ็นปูดโปนมือจับปืนยืนป้องชำติ เพื่อสุขรำษฎร์สละสิ้นแม้ดิ้นดับ ภำพทหำรล้ำนศรัทธำค่ำควรนับ แต่คนกลับมองข้ำมควำมข้นแค้น ภำพคนไทยมอบรักสมัครสมำน ถูกมองผ่ำนไม่เห็นรักเคยหนักแน่น ไทยฆ่ำไทยเป็นภำพเศร้ำเข้ำทดแทน ทั่วถิ่นแดนรำษฎร์ปวดร้ำวทุกครำวครำ ภำพที่ไทยเป็นไทยไม่เป็นทำส คนร่วมใจสร้ำงชำติประกำศกล้ำ ภำพผู้น ำควำมสัตย์ซื่อซื้อศรัทธำ เหลือเพียงภำพที่เงินตรำซื้อค่ำคน ภำพดีดีหลงลืมไปใกล้ฝังกลบ ภำพอยำกลบแต่กลับจ ำท ำหมองหม่น ปล่อยภำพชั่วกลืนใจให้ทุกข์ทน เดินทำงผิดหลงเกมกลของคนเลว ภำพขมขื่นมองเห็นเป็นฉำกฉำก ฉุดกระชำกหัวใจให้ตกเหว ร่ำงทั้งร่ำงเหมือนมอดไหม้ด้วยไฟเปลว ใจล้มเหลวกำยยับเยินเกินเยียวยำ ย้อนมองภำพดีดีในชีวิต รู้จักคิดก่อนชีพสิ้นดินกลบหน้ำ ใจพสิทุธิท์ำ ดีมีธรรมำ ใช้ปัญญำปลดห้วงทุกข์สุขน้อมน ำ รวมทุกภำพในใจให้หวนคิด ภำพชีวิตสร้ำงสุขทุกเช้ำค ่ำ ภำพที่ลืมจงฟื้นใหม่ใช้ใจจ ำ เพื่อตอกย ้ำไทยเป็นไทไม่เคยลืม นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำยพสิทุธิ์องพสิฐิม.๖/๘ บันทึกนี้...เวทีกลอน “ เรารักพระเจ้าอยู่หวัและพระราชินี” เมื่อเป็นเด็กแม่ให้กรำบภำพข้ำงฝำ ไร้เดียงสำก็ท ำไปได้ทุกสิ่ง จนรับรู้จำกหัวใจได้เห็นจริง พระเป็นยิ่งเทพชั้นฟ้ำมำโปรดชน ธ คือศูนย์รวมใจไทยทั้งชำติ ฉัตรปกรำษฎร์เป็นสุขทุกแห่งหน หนึ่งในโลกหนึ่งในใจไทยทุกคน พระภูวดลทีฆรำชปรำชญ์แผ่นดิน แม่แห่งไทย “สริกิิติ์” สถิตฟ้ำ คู่บุญญำพระภูบำลสำนศำสตร์ศิลป์ ชนชื่นฉ ่ำน ้ำพระทัยหลั่งไหลริน ธรรมประทินไทยประเทืองเป็นเมืองทอง ป่ ำจดเขำเหนือจดใต้ไกลจดใกล้ นกเต็มไพรข้ำวเต็มนำปลำเต็มหนอง ชำติอิ่มสุขชนอิ่มใจไทยอิ่มท้อง พ่อปกป้องแม่ปกปักลูกภักดี สูงยิ่งฟ้ำยังโปรดให้ดินใกล้ฟ้ำ ทุกหย่อมหญ้ำ ธ ยำตรย่ำงสร้ำงวิถี ด้วยหัตถ์ทิพย์โอบอุ้มชนพ้นรำคี ค่ำทวีบุญของโลกโชคของชน ภูมิปัญญำภูมิธรรมน ำภูมิชำติ ภูมิแห่งปรำชญ์ภูมิพลังรังสรรค์ผล ยึดปรัชญำพอเพียงเลี้ยงชีพตน น้อมกมลรองพระบำททุกชำติไป พระด ำริพระด ำรัสตรัสกอปรก่อ ค ำของพ่อคือค ำครูผู้ยิ่งใหญ่ ค ำของแม่ทุกค ำตรัสสัมผัสใจ แผ่นดินไทยจึงร่มเย็นเป็นนิรันดร์ เสื้อสีใดใจสีเดียวกลมเกลียวรัก ผูกสมัครใจประสำนสมำนฉันท์ หมื่นควำมภกัดิ์แสนควำมดีลำ้นชีวนั เทิดมิ่งขวัญสองพระองค์ทรงพระเจริญ ประพันธ์โดย... นำงสำวแกมกำญจน์ พิทักษ์วงศ์ ม.๖/๔ นำงสำวฤทัยชนก คนดี ม.๕/๖ นำยขจรศกัดิ์เหมทำนนท์ม.๔/๗ รำงวัลชนะเลิศ ประกวดบทร้อยกรองของ สพท.นศ.๑ ๓๒ ๓๓


Click to View FlipBook Version