The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นวัตกรรม (ระดับปฐมวัย) เทคนิคการส่งเสริมวัฒนธรรมการไหว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by NIRAMON CHUMPHON SCHOOL, 2021-07-09 01:57:50

นวัตกรรม (ระดับปฐมวัย) เทคนิคการส่งเสริมวัฒนธรรมการไหว

นวัตกรรม (ระดับปฐมวัย) เทคนิคการส่งเสริมวัฒนธรรมการไหว

นวตั กรรม (Innovation)

การจดั ประสบการณท์ เ่ี น้นเดก็ เป็นสำคัญ
เรอื่ ง เทคนคิ การสง่ เสรมิ วัฒนธรรมการไหว้

ฝา่ ยกจิ การนกั เรียนครปู ฐมวยั
โรงเรยี นนริ มลชุมพร

ตำบลตากแดด อำเภอเมืองชมุ พร จงั หวดั ชมุ พร
สงั กัดสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาเอกชน

นวตั กรรม

๑. ชือ่ ผลงาน เทคนิคการสง่ เสริมวัฒนธรรมการไหว้

๒. ชอื่ เจา้ ของผลงาน ฝ่ายวิชาการปฐมวัยโรงเรียนนิรมลชมุ พร
โรงเรยี นนิรมลชุมพร สังกดั สำนกั งานคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษาเอกชนกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ทอี่ ยู่ ๒๕๓ ตำบล ตากแดด อำเภอ เมือง จังหวดั ชุมพร รหสั ไปรษณยี ์ ๘๖๐๐๐
โทรศพั ท์ ๐๗๗ – ๕๐๒๑๔๕ เวบ็ ไซต์ www.niramon.ac.th E – mail : [email protected]
๓. หลักการเหตผุ ล/ความเปน็ มา

ปญั หาสำคัญอีกประการหนึ่งของการจดั การเรียนการสอนในปัจจบุ ัน คอื ผเู้ รียนไมค่ อ่ ย
จะสนใจในกจิ กรรมการเรยี นการสอน เกิดความเบื่อหน่าย และไม่ตั้งใจเรยี นเทา่ ทค่ี วร ซง่ึ อาจเปน็
เพราะการสอนของครูทไ่ี ม่มีอะไรแปลกใหม่ หรือน่าสนใจ โดยเฉพาะเด็กปฐมวัยซ่ึงมีชว่ งเวลาของ
ความสนใจในสงิ่ ตา่ งๆสัน้ มาก ถา้ ไม่รบี แก้ไขปญั หาการไม่ตั้งใจเรยี นของเด็กตั้งแตร่ ะดบั ปฐมวัย
จะทำใหเ้ ดก็ เกิดความไม่เขา้ ใจและไมใ่ สใ่ จต่อการเรยี นแบบตอ่ เนือ่ ง

ดังนัน้ ทางโรงเรียนนริ มลชุมพร จึงให้ความสนใจและสนับสนนุ ใหค้ รรู ะดับปฐมวัยทุก
ท่าน ไดศ้ ึกษาเทคนิคการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นการสอนท่เี หมาะสมกับเดก็ และคอยสงั เกต
พฤติกรรมการเรยี นรขู้ องเด็ก เพือ่ ท่จี ะพฒั นานวตั กรรมให้มคี ุณภาพต่อไป
๔. วตั ถุประสงค์

๔.๑. เพอื่ ให้เด็กมคี วามสนใจในการเรยี นรู้
๔.๒. เพ่อื ใหเ้ ด็กเกดิ การเรยี นรูอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ เรยี นรไู้ ด้งา่ ยและเขา้ ใจไดช้ ดั เจน
๕. แนวคดิ /ทฤษฎที ีเ่ กย่ี วขอ้ ง
โรเบริ ต์ กาเย่ (Robert Gagne) เป็นนักปรชั ญาและจติ วิทยาการศึกษาชาวอเมริกา (1916-
2002) ไดเ้ สนอแนวความคดิ เกย่ี วกับการสอน คอื ทฤษฎีเง่อื นไขการเรยี นรู้ (Condition of Learning)
โดยทฤษฎีการเรยี นรู้ของกาเย่จดั อยู่ในกลุ่มผสมผสาน (Gagne’s eclecticism) ซึ่งเช่ือว่าความรู้มี
หลายประเภท บางประเภทสามารถเข้าใจไดอ้ ย่างรวดเร็วไม่ตอ้ งใช้ความคดิ ที่ลกึ ซงึ้ บางประ เภทมคี วาม
ซบั ซ้อนจำเปน็ ต้องใช้ความสามารถในขัน้ สูง ทฤษฎกี ารเรียนรู้ของกาเย่อธิบายวา่ การ
๑. ผลการเรยี นร้หู รือความสามารถดา้ นต่าง ๆ ของมนุษย์ ซ่ึงมีอยู่ ๕ ประเภท คือ

– ทกั ษะทางปัญญา (Intellectual skill) ซ่งึ ประกอบด้วยการจำแนกแยกแยะการ
สร้างความคดิ รวบยอด การสรา้ งกฎ การสร้างกระบวนการหรอื กฎช้ันสูง

– กลวิธใี นการเรยี นรู้ (Cognitive strategy)
– ภาษาหรอื คำพดู (verbal information)
– ทักษะการเคลื่อนไหว (motor skills)
– และเจตคติ (attitude)

๒. กระบวนการเรียนรู้และจดจำของมนุษย์ มนุษย์มีกระบวนการจดั กระทำข้อมลู ใน
สมอง ซึ่งมนุษย์จะอาศัยข้อมูลที่สะสมไว้มาพิจารณาเลือกจดั กระทำสง่ิ ใดสิ่งหน่งึ และในขณะที่
กระบวนการจัดกระทำขอ้ มูลภายในสมองกำลังเกดิ ข้ึน เหตุการณืภายนอกรา่ งกายมนษุ ย์มีอทิ ธิพลต่อการ
ส่งเสริมหรือการยับย้งั การ เรียนรู้ทีเ่ กิดขึน้ ภายในได้ ดงั นัน้ ในการจดั การเรยี นการสอนกาเยจ่ งึ ได้
เสนอแนะว่า ควรมกี ารจัดสภาพการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับการเรยี นรู้แตล่ ะประเภท ซึง่ มีลกั ษณะ
เฉพาะทีแ่ ตกต่างกนั และส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรูภ้ ายในสมอง โดยการจดั สภาพภายนอกใหเ้ ออ้ื ต่อ
กระบวนการเรียนรภู้ ายในของผู้เรียน

กาเย่ไดน้ ำเอาแนวความคิดมาใช้ในการเรยี นการสอนโดยยดึ หลกั การนำเสนอเนอื้ หาและจัด
กิจกรรมการเรียนรจู้ ากการมปี ฏิสัมพนั ธ์ หลกั การสอน 9 ประการ ได้แก่

1.เร่งเรา้ ความสนใจ (Gain Attention) กระตุ้นหรอื เร้าใหผ้ ู้เรยี นเกิดความสนใจกับบทเรียน
และเนือ้ หาทจ่ี ะเรยี นการเรา้ ความสนใจ ผู้เรยี นนอี้ าจทำไดโ้ ดย การจัดสภาพแวดลอ้ มใหด้ ึงดดู ความสนใจ
เชน่ การใช้ภาพกราฟกิ ภาพเคลอ่ื นไหว และ/หรือการใชเ้ สยี งประกอบบทเรียนในสว่ นบทนำ

2.บอกวัตถุประสงค์ (Specify Objective) การบอกให้ผเู้ รียนทราบถึงจุดประสงคข์ อง
บทเรียนนีม้ คี วามสำคญั เปน็ อยา่ งย่งิ โดยเฉพาะการเรยี นการสอนบนเวบ็ ท่ีผ้เู รียนสามารถควบคมุ การเรียน
ของตนเองไดโ้ ดย การเลอื กศึกษาเนือ้ หาทต่ี อ้ งการศึกษาไดเ้ อง ดงั นั้นการที่ผู้เรียนได้ทราบถงึ จุดประสงค์
ของบทเรียนล่วงหนา้ ทำให้ผู้เรียนสามารถมุง่ ความสนใจไปท่เี น้ือหาบทเรยี นทเี่ กย่ี วข้อง อีกท้ังยงั สามารถ
เลือกศกึ ษาเนอื้ หาเฉพาะท่ตี นยังขาดความเข้าใจที่จะช่วยทำให้ผูเ้ รียนมคี วามรู้ความสามารถตรงตาม
จดุ ประสงคข์ องบทเรียนท่ไี ด้กำหนดไว้

3.ทบทวนความรูเ้ ดมิ (Activate Prior Knowledge) การทบทวนความรู้เดมิ ช่วยกระตนุ้
ให้ผ้เู รียนสามารถเรยี นรู้เนื้อหาใหม่ได้รวดเรว็ ย่งิ ข้นึ รูปแบบการทบทวนความร้เู ดิมในบทเรยี นบนเวบ็ ทำได้
หลายวธิ ี เชน่ กจิ กรรมการถาม-ตอบคำถาม หรือ การแบ่งกลุ่มใหผ้ ู้เรียนอภปิ รายหรือสรุปเนื้อหาที่ได้เคย
เรียนมาแลว้ เป็นต้น

4.นำเสนอเน้อื หาใหม่ (Present New Information) การนำเสนอบทเรยี นบนเว็บ
สามารถทำไดห้ ลายรปู แบบด้วยกนั คือ การนำเสนอดว้ ย ข้อความ รปู ภาพ เสียง หรอื แมก้ ระทั่ง วีดิ
ทัศน์ อยา่ งไรก็ตามสงิ่ สำคัญทผี่ ้สู อนควรให้ความสำคญั ก็ คือผู้เรียน ผูส้ อนควรพิจารณาลกั ษณะของ
ผเู้ รยี นเป็นสำคัญเพ่อื ให้การนำเสนอบทเรียนเหมาะสมกับผู้เรียนมากท่ีสุด

5.ชแ้ี นะแนวทางการเรยี นรู้ (Guide Learning) การชีแ้ นวทางการเรียนรู้ หมายถึง การ
ชี้แนะให้ผเู้ รยี นสามารถนำความร้ทู ่ีได้เรียนใหม่ ผสมผสานกับความรเู้ ก่าท่เี คยได้เรยี นไปแลว้ เพ่ือให้
ผู้เรยี นเกดิ การเรยี นรู้ท่รี วดเร็วและมีความแมน่ ยำมากย่ิงขึ้น

6.กระตนุ้ การตอบสนองบทเรียน (Elicit Response) นักการศึกษาตา่ งทราบดีว่าการเรยี นรู้
เกดิ ขน้ึ จากการทผ่ี ู้เรียนไดม้ โี อกาสมีส่วนรว่ มใน กระบวนการเรยี นการสอนโดยตรง ดังนน้ั ในการจัดการ
เรยี นการสอนบนเว็บจงึ ควรเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นมสี ่วนร่วมในกิจกรรมการเรยี น ซึ่งอาจทำไดโ้ ดยการจัด

กิจกรรมการสนทนาออนไลน์รูปแบบ Synchronous หรือการแลกเปล่ยี นความคิดเห็นผ่านเว็บบอร์ดใน
รูปแบบ Asynchronous เปน็ ตน้

7.ใหข้ ้อมูลยอ้ นกลับ (Provide Feedback) ลักษณะเดน่ ประการหนึ่งของการเรยี นการสอน
บนเว็บก็คอื การท่ีผูส้ อนสามารถติดต่อสอ่ื สารกบั ผเู้ รียนไดโ้ ดยตรงอย่างใกล้ชดิ เน่อื งจากบทบาทของ
ผสู้ อนนนั้ เปล่ยี นจากการเป็นผู้ถา่ ยทอดความรู้แตเ่ พยี งผเู้ ดียวมาเป็นผูใ้ ห้คำแนะนำและชว่ ยกำกบั การเรียน
ของผเู้ รียนรายบคุ คล และ
ด้วยความสามารถของอินเทอร์เนต็ ทที่ ำใหผ้ ู้เรียนและผู้สอนสามารถติดต่อกันไดต้ ลอดเวลา ทำให้ผสู้ อน
สามารถติดตามก้าวหน้าและสามารถใหผ้ ลยอ้ นกลับแกผ่ ู้เรยี นแตล่ ะคนได้ด้วยความสะดวก

8.ทดสอบความรู้ใหม่ (Assess Performance) การทดสอบความรคู้ วามสามารถผูเ้ รยี น
เป็นขน้ั ตอนทส่ี ำคญั อีกขั้นตอนหนงึ่ เพราะทำใหท้ ั้งผู้เรยี นและผสู้ อนไดท้ ราบถึงระดับความร้คู วามเขา้ ใจท่ี
ผเู้ รยี นมีต่อเนอื้ หาในบทเรียนนน้ั ๆ การทดสอบความร้ใู นบทเรียนบนเว็บสามารถทำไดห้ ลายรูปแบบ ไม่
วา่ จะเป็นข้อสอบแบบปรนยั หรอื อตั นัย การจัดทำกิจกรรมการอภิปรายกลุ่มใหญห่ รอื กลมุ่ ย่อยเป็นต้น ซง่ึ
การทดสอบนผี้ ้เู รยี นสามารถทำการทดสอบบนเว็บผ่านระบบเครอื ข่ายได้

9.สรุปและนำไปใช้ (Review and Transfer) การสรุปและนำไปใช้ จัดว่าเปน็ ส่วนสำคัญ
ในขน้ั ตอนสุดทา้ ยท่ีบทเรียนจะตอ้ งสรุปมโนคตขิ องเนื้อหาเฉพาะประเด็นสำคัญ ๆ รวมทง้ั ขอ้ เสนอแนะต่าง
ๆ เพอื่ เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนได้มีโอกาสทบทวนความรขู้ องตนเองหลังจากศึกษาเน้ือหาผ่านมาแลว้ ใน
ขณะเดยี วกันบทเรยี นตอ้ งชี้แนะเนอ้ื หาท่เี กยี่ วขอ้ งหรือให้ขอ้ มูลอ้างอิงเพมิ่ เติม เพื่อแนะแนวทางใหผ้ เู้ รียน
ได้ศกึ ษาต่อในบทเรยี นถัดไปหรอื นำไปประยุกต์ใชก้ บั งานอ่ืนต่อไป
๖. การดำเนินงาน/กระบวนการ/วิธีปฎิบตั ิ

ในการจัดทำนวตั กรรม เทคนิคการสง่ เสรมิ วัฒนธรรมการไหว้ ใช้หลักการ ดำเนนิ งานสร้าง
นวัตกรรม ตามหลักการ PDCA

Plan ขน้ั วางแผน ศึกษาโครงสร้างหลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั พุทธศักราช ๒๕๖๐ เพอ่ื ใหท้ ราบ
เน้อื หาการจดั ประสบการณ์ จัดทำแผนการจัดประสบการณ์ การวางแผนงานวิธกี ารและข้นั ตอนทจี่ ำเปน็
เพ่ือให้การดำเนนิ งานบรรลุเปา้ หมาย โดยเรมิ่ จากการค้นคว้าหาขอ้ มูลเก่ยี วกบั กระบวนการสรา้ งความ
สนใจของเดก็ ให้มาสนใจกิจกรรมการจัดประสบการณ์

Do ดำเนนิ การในการใชน้ วัตกรรม จัดประสบการณ์ในกิจกรรม ๖ หลกั ในการดำเนินการ
เรยี นการสอน ของทกุ ห้องเรียน มีการตรวจสอบติดตามพฤตกิ รรมของนกั เรยี นตลอดเวลาในการจัด
กจิ กรรม มีการประชุมครูทุกวัน เพื่อตรวจสอบแผนการสอนวา่ มีจดุ ใดทไี่ ม่บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ตาม
หลักกการ PLC กับคณะผ้บู ริหารและครใู นระดบั ปฐมวัยทุกคน (รายละเอียด ในภาคผนวก)

Check ประเมินผลที่ได้จากการจัดกจิ กรรม จดั ประสบการณ์ กจิ กรรม ๖ หลกั วา่ ผลการ
ประเมินท่ีได้บรรลเุ ปา้ หมายท่ีวางไว้หรอื ไม่ และมีปัญหาท่เี กิดขนึ้ ในระหว่างการใช้นวัตกรรมหรือไม่
เพอ่ื ท่จี ะใช้พัฒนานวัตกรรมใหม้ คี ณุ ภาพในการดำเนินงานต่อไป

Action นำผลการใช้นวตั กรรม เทคนิคการส่งเสรมิ วฒั นธรรมการไหว้ มาวิเคราะห์ว่าควร
ปรับปรุงหรือพัฒนาสง่ิ ทีด่ ีอยู่แล้วให้ดียิ่งข้นึ ซ่ึงหลังจากนำนวตั กรรม เทคนคิ การส่งเสริมวฒั นธรรมการ
ไหวม้ าใช้ในกิจกรรม ๖ หลัก ใชก้ ับเดก็ ปฐมวัยแล้วจะต้องทำการทดลองนวตั กรรม ซึ่งเป็นส่งิ จำเปน็ เพอ่ื
เปน็ การประเมนิ ผลและปรับปรงุ แก้ไขผลการทดลองเพ่ือใชใ้ นการปรบั ปรุงและพัฒนานวตั กรรมตอ่ ไป

แผนผงั การดำเนนิ งาน

ศึกษาสภาพปัญหา

ศกึ ษาหลกั สตู รปฐมวัย ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑

สรา้ งเทคนิคการสง่ เสรมิ วฒั นธรรมการไหว้ ในกิจกรรม ๖ หลัก
- กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจงั หวะ
- กจิ กรรมเสรี
- กจิ กรรมกลางแจ้ง
- กจิ กรรมสรา้ งสรรค์
- กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์
- กจิ กรรมเกมการศึกษา

ตรวจสอบประเมินผล ไม่บรรลุ

ดำเนินการพฒั นานวตั กรรมอย่างต่อเน่อื ง

สรุป/รายงานผล/เผยแพร่

๗. แผนการดำเนนิ งาน / ระยะเวลาในการดำเนินงาน
พฤษภาคม ๒๕๖๐ - มนี าคม ๒๕๖๓

๘. ผลท่เี กดิ จากการนำนวตั กรรมไปใช้
จาการจัดกิจกรรมจัดประสบการณ์ส่งเสริมวัฒนธรรมการไหว้ แบบบรู ณาการในกิจกรรม ๖ หลัก

ของหน่วยการเรยี นรู้ จำนวน ๒ หนว่ ย คอื หน่วยโรงเรยี นและหน่วยบ้านของฉัน พบวา่
๘.๑. ดา้ นการบรหิ าร ผบู้ รหิ ารมคี วามพึงพอใจในเทคนิคการจัดกจิ กรรมส่งเสริมวฒั นธรรมการ

ไหว้ในการ บูรณาการเขา้ กบั กจิ กรรม ๖ หลกั ของครูผสู้ อน มีการสนับสนนุ ในการทำงานของครุผ้สู อน
๘.๒. ดา้ นครผู ู้สอน เม่อื นำนวัตกรรม เทคนิคการส่งเสรมิ วฒั นธรรมการไหว้ มาใช้ เป็นการกระตนุ้

ใหค้ รผู ู้สอนตนื่ ตัวอยูต่ ลอดเวลา ในการหาเทคนิคมาใชใ้ นการดำเนินการจดั ประสบการณ์ เพอ่ื ใหก้ ารสอน
บรรลเุ ป้าหมายทีต่ ั้งไว้

๘.๓. ดา้ นผูเ้ รยี น เด็กมีความสนใจในการเรยี นรมู้ ากขึน้ สามารถเขา้ ใจในเนอื้ หาที่ครสู อนหรือจัด
กิจกรรม ทำใหเ้ ด็กสามารถเรียนรไู้ ดเ้ ร็ว มปี ระสิทธภิ าพและสามารถนำไปใชป้ ฏบิ ตั ิได้จริงในชีวิตประจำวนั
๙. ปัจจยั ท่ที ำใหป้ ระสบผลสำเร็จ

๙.๑. ไดร้ บั การสนบั สนนุ และส่งเสริม จากผูบ้ รหิ ารและคณะกรรมการสถานศึกษา
๙.๒. ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน ได้รบั การส่งเสรมิ จากเพ่ือนรว่ มงาน เป็นทปี่ รึกษาในการหา
จุดเดน่ และจุดด้อนในการใชน้ วัตกรรม โดยผา่ นกระบวนการ PLC
๙.๓. ได้รบั ความร่วมมือจากเดก็ ในการให้ความร่วมมือ ในการจัดประสบการณ์โดยการใช้
นวัตกรรม เทคนิคการสง่ เสริมวัฒนธรรมการไหว้ ในการบรู ณาการเขา้ กบั กิจกรรม ๖ หลัก
๑๐. การเผยแพร่
๑๐.๑ มกี ารเผยแพร่ไปยังห้องเรยี นต่าง ๆ ในการใชน้ วตั กรรม เทคนคิ การส่งเสรมิ วัฒนธรรมการ
ไหว้ ผา่ น
กิจกรรม ๖ หลกั
๑๐.๒ เผยแพรผ่ ลงานนวัตกรรม ทางเฟซบุ๊ก
https://www.facebook.com/niramonchumphon

ภาคผนวก

เทคนคิ การส่งเสริมวัฒนธรรมการไหว้
การจดั ประสบการณ์บูรณาการวัฒนธรรมไทย กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
ชอ่ื ครูผู้สอน นางสาวมาริน ชุ่มช่นื จิตร
ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม ๓๐ นาที
สาระทค่ี วรรู้
ประเพณไี ทยน้นั ใหค้ วามสำคญั ในการปฏิบัติตนในสงั คมเช่น มารยาทในการเคารพผู้อืน่ ท่อี ยู่
ร่วมกนั ในสงั คม ซงึ่ เป็นการแสดงออกถึงการมีสัมมาคารวะ กริ ิยาวาจาทส่ี ุภาพเรียบรอ้ ยท่ีบคุ คลพงึ ปฏิบัติ
ในสังคม โดยมีระเบียบ แบบแผนอนั เหมาะสมตามกาลเทศะจะครอบคลุมถึงวาจาตา่ งๆ เช่น การทักทาย
การทำความเคารพ การ ไหว้ การกราบ การเดิน การรบั ของ ส่งของ เป็นตน้
ขนั้ นำ
๑. ครูและเด็กร่วมกันฝึกการหายใจเข้า หายใจออก อบอุ่นร่างกายด้วยการเคลื่อนไหวท่าพื้นฐาน
การบริหารร่างกาย
๒. เด็กและครูร่วมกันกําหนดข้อตกลงตามจังหวะ ครูเคาะ 1 ครั้ง ให้เด็กๆ ไหว้ 1 คร้ัง ครูเคาะ
เร็วๆ ให้เดก็ เคลือ่ นไหวรา่ งกายไปรอบ ๆ บรเิ วณห้องเรยี น โดยไมใ่ ห้ชนกบั เพ่ือนๆ ครเู คาะ 2 ครั้ง
ให้เดก็ หยุดการเคลอ่ื นไหวทนั ที
ขัน้ สอน
๑. ครูเปดิ เพลง “ สวัสด”ี และครทู ำทา่ ทางประกอบเพลงโดยใหเ้ ด็ก ๆ ทำทา่ ทางไปพร้อมกับครู
๒. ครใู หเ้ ดก็ ออกมานำเพ่ือน ๆ ทำท่าทางประกอบเพลง โดยตวั แทนจะต้องทำทา่ ทางการไหว้
๓. เด็กและครูร่วมทำท่าทางประกอบเพลงพร้อมกันอกี รอบ
ขั้นสรุป
๑. เด็กและครูร่วมกันผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รวมถึงระบบต่าง ๆ ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติด้วยการ
นวดกล้ามเนื้อส่วนตา่ ง ๆ และการน่ังสมาธิโดยการเปดิ เพลงบรรเลงจังหวะชา้ ๆ
๒. เด็กและครสู นทนาร่วมกันเกีย่ วกับกจิ กรรมท่ีรว่ มกันทำ

เทคนิคการสง่ เสริมวฒั นธรรมการไหว้

การจัดประสบการณบ์ รู ณาการวัฒนธรรมไทย กจิ กรรม เสรี

ชอื่ ครผู สู้ อน นางอรณุ วรรณ คงเจรญิ

ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม ๓๐ นาที

สาระทคี่ วรรู้ การเล่นร่วมกันกบั เพ่ือนตามมุมประสบการณ์ เมอ่ื เพื่อนแบ่งปนั ของเล่นให้ ต้องรู้จักไหว้

ขอบคณุ

ขน้ั นำ

๑.เดก็ และครูรว่ มกนั ร้องเพลง “สวสั ดนี ้วิ มือ”

หวั แม่มอื สวัสดนี ิ้วก้อย พบกนั หนอ่ ยนิว้ ช้ี น้ิวนาง ต่อมากน็ ้ิวกลาง นวิ้ ช้ี นิ้วนางหัวแม่มือนว้ิ ก้อย

หัวแม่มือบอกลานว้ิ ก้อย ลากนั หนอ่ ย น้วิ ช้ี น้วิ นาง ต่อมาก็เป็นนิว้ กลาง นว้ิ ช้ี นิ้วนาง หวั แม่มอื -

นิว้ กอ้ ย

๒. เด็กและครูร่วมกนั สนทนาถงึ ขอ้ ตกลงและการปฏิบตั ิตนในการเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์

- ไม่สง่ เสยี งดังในเวลาเข้ามุมประสบการณ์

- เม่ือเลน่ เสร็จแลว้ ใหเ้ ก็บของใหเ้ รยี บร้อย

- เมื่อเพื่อนแบ่งปันของเลน่ ประนมมือกล่าวขอบคณุ เพ่ือนเสมอ

ขน้ั สอน

๑.เด็กเล่นตามมุมประสบการณ์ต่างๆตามความสนใจของเดก็ ดงั น้ี

- มมุ บล็อก : กิจกรรมต่อบล็อกไม้ - มมุ ดนตรี : กิจกรรมคร้ืนเครงกบั เครอื่ งดนตรี

- มุมภาษา : กจิ กรรมทำทา่ ทางตามคำสัง่ - มุมหนงั สือ : กจิ กรรมนทิ านพาเพลิน

- มุมบทบาทสมมติ : กิจกรรมการขายขนมไทย,การใชเ้ คร่อื งครวั

ข้นั สรปุ

๑. เด็กฟังครูให้สัญญาณหมดเวลาโดยการร้องเพลงเก็บของเล่น เด็กช่วยกันเก็บของเล่นเข้าที่ให้

เรียบร้อย

๒. เด็กออกมาเล่ากิจกรรมตามมุมประสบการณ์ต่างๆในห้องเรียนที่เด็กชอบ เล่าให้ครูและเพื่อน

ฟัง โดยใหเ้ ดก็ กลา่ วสวัสดที ักทาย เม่อื เลา่ จบแลว้ ใหก้ ลา่ วขอบคณุ ทุกคร้ัง

เทคนิคการส่งเสรมิ วัฒนธรรมการไหว้
การจัดประสบการณ์บูรณาการวฒั นธรรมไทย กจิ กรรม กลางแจง้
ชื่อครผู สู้ อน นางสมศรี แก้วก่ิง
ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม ๓๐ นาที
สาระท่คี วรรู้
วัฒนธรรมการไหว้ เป็นหน่งึ ในเอกลักษณ์ทแี่ สดงถึงความเปน็ ไทย ทแ่ี สดงออกถงึ การมสี มั มา
คารวะ การอ่อนนอ้ มถ่อมตน การรู้จกั แสดงความเคารพผู้อ่ืน และการรู้จกั ขอบคุณเมื่อได้รบั การชว่ ยเหลือ
หรอื ได้รบั ส่ิงใดจากผู้อ่ืนควร เพือ่ เป็นการตอบแทนนำ้ ใจ และเมือ่ ทำผดิ ไปกับเพ่ือนหรอื ผู้ใหญ่ต้องกลา่ วขอ
โทษ เพอื่ แสดงสำนึกผดิ ตอ่ การกระทำ ซงึ่ เป็นสิ่งทค่ี วรปลูกฝงั ให้เด็กในระดบั ปฐมวัยไดต้ ระหนกั และเห็น
คุณค่าของการไหว้ สามารถนำไปใชไ้ ด้จรงิ ในชวี ิตประจำวนั
ขัน้ นำ
๑. เด็กและคุณครูรว่ มกันเดนิ แถวลงสนาม
๒. เดก็ ร่วมอบอุน่ รา่ งกายด้วยวธิ ตี า่ งๆ เช่น
- การยดื กล้ามเนอื้ หนา้ ขา ๑๐ ครั้ง
- การกระโดดตบ ๑๐ ครง้ั
- แกว่งแขนสลับไป - มา ๑๐ คร้งั
- กระโดดอย่กู ับที่ ๑๐ คร้งั
ขั้นสอน
๑. เด็กและครรู ว่ มกันสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม ดงั นี้
- เดก็ หยุดเลน่ เมื่อได้ยนิ สญั ญาณนกหวดี จากคณุ ครู
- ระมัดระวังความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
- ปฏบิ ตั ิตามกฎกติกาในการเลน่ การละเลน่ พ้นื บ้าน
๒. เดก็ รว่ มกันสังเกต และรับฟงั ขั้นตอนการเล่น “วิ่งเปยี้ ว” และร่วมกนั ทบทวนขน้ั ตอนการเลน่
จากน้ัน คณุ ครูใชค้ ำถามกระตนุ้ ความเดก็ ดังน้ี
- ถา้ หากวา่ เดก็ ๆ วิ่งชนเพ่ือน แล้วเพือ่ นล้มเดก็ ๆ ควรทำอย่างไร หรือใชค้ ำพดู ใด

- ถา้ หากว่าเดก็ ๆ เป็นผู้ชนะ แต่เดก็ ๆใชผ้ า้ ตเี พ่ือนแรงเกินไป เม่ือจบเกมเดก็ ๆ
ควรทำอยา่ งไร

- ถา้ หากวา่ เด็กๆ เป็นผู้ชนะ แล้วเพอ่ื นๆ ชมว่าเก่ง เราควรทำอย่างไร หรอื ควรตอบกลับ
วา่ อะไร
วิธเี ล่น

๑. จัดให้มผี ู้เลน่ ทีมละ ๑๐ คน หรอื นำจำนวนเดก็ ทัง้ หมดมาแบง่ ครงึ่ เท่าๆ กัน

๒. ยืนเรยี งแถวตอนอยูด่ า้ นหลังเสาประจำทมี
๓. เมอ่ื เรมิ่ การเล่นกรรมการจะให้สัญญาณ ผเู้ ล่นแตล่ ะฝา่ ยจะตอ้ งวิ่งจากฝั่งตัวเองไป
ออ้ มเสาประจำทีมของฝา่ ยตรงข้าม จากนั้นใหว้ ่ิงวนกลับมาส่งผ้าใหผ้ ู้เล่นคนถัดไปในทมี ของ
ตนเอง โดยผเู้ ลน่ แตล่ ะฝา่ ยจะตอ้ งพยายามเอาผา้ ท่ถี ืออยู่ว่ิงไล่ตฝี า่ ยตรงขา้ มให้ทัน
๔. เมื่อฝ่ายใดฝา่ ยหนงึ่ ไลต่ ฝี า่ ยตรงขา้ มไดท้ นั ถือว่าการเลน่ สนิ้ สุดลง
๕. เด็กเล่นการละเล่น “วง่ิ เปย้ี ว”
ขน้ั สรปุ
๑. เมอ่ื ไดย้ ินสญั ญาณนกหวีดจากคณุ ครู เด็กและครรู ว่ มกันทำกจิ กรรมผอ่ นคลาย Finger - Play
“นิ้วโป้งอยูไ่ หน”
๒. เด็กและครรู ่วมกันสรุป เกี่ยวกบั การละเลน่ “ว่ิงเปยี้ ว”

เทคนคิ การสง่ เสรมิ วฒั นธรรมการไหว้
การจดั ประสบการณ์บรู ณาการวัฒนธรรมไทย กจิ กรรม สรา้ งสรรค์
ชื่อครูผู้สอน นางสาวหนูพวน โพธ์ิขาว
ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม ๓๐ นาที
สาระทีค่ วรรู้
เพอื่ ส่งเสริมมารยาทไทยในการไหว้ผา่ นกจิ กรรมสรา้ งสรรค์ โดยการระบายสีเทียนและปาดภาพการไหว้
ท่ถี ูกตอ้ งและสวยงาม
ขั้นนำ
๑. เด็กและครูร่วมกนั ร้องเพลง “สวัสดเี ม่ือพบกนั ”

สวัสดี สวัสดี ยนิ ดีที่ไดพ้ บกัน
เธอและฉัน พบกันสวัสดี

๒. เดก็ และครรู ว่ มกันสนทนาเกีย่ วกบั เนื้อเพลง “สวัสดีเมื่อพบกนั ”
ข้ันสอน
๑. ครแู นะนำอปุ กรณ์ในการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ได้แก่ ใบงานภาพการไหว้,สีเทียน,พู่กนั ,สีน้ำ
๒. ครสู าธติ การทำกิจกรรมสรา้ งสรรค์ โดยให้เด็กใช้สีเทียนระบายสีบนภาพการไหวใ้ ห้สวยงาม
จากนั้นใหใ้ ช้พ่กู ันจมุ่ ลงที่สนี ้ำ และมาปาดสบี นภาพการไหวท้ ่ีเดก็ ระบาย ปาดให้ทั่วกระดาษ
จากนัน้ นำไปตากลม
๓. เด็กปฏิบัตกิ จิ กรรมโดยมีครูคอยให้คำแนะนำ
ขน้ั สรุป
๑. เด็กออกมาเล่าผลงานของตนเองให้เพื่อนและครฟู ัง โดยครใู ชค้ ำถามว่า

- ในภาพเด็กกำลงั ทำอะไรอยคู่ ะ
- เมือ่ เจอผ้ใู หญ่ เดก็ ๆควรทำอย่างไรคะ
๒. เด็กรว่ มกันเก็บอุปกรณเ์ ข้าท่ใี ห้เรียบร้อย

เทคนิคการส่งเสรมิ วัฒนธรรมการไหว้
การจัดประสบการณ์บูรณาการวฒั นธรรมไทย กจิ กรรม เสริมประสบการณ์
ชือ่ ครูผสู้ อน นางสาวเพญ็ นภา เผ่าวิหค
ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม ๓๐ นาที
สาระทค่ี วรรู้
ปลูกฝังใหเ้ ดก็ ไดเ้ ห็นถงึ ความสำคญั เก่ียวกบั วัฒนธรรมการไหว้ท่เี ปน็ เอกลักษณข์ องไทย ซงึ่ เป็น
การแสดงออกถึงการมีสัมมาคารวะ การอ่อนนอ้ มถ่อมตน ทเี่ ป็นธรรมเนยี มการทกั ทายของคนไทย การ
แสดงความเคารพตอ่ กนั เม่ือเจอหน้ากนั และสอนให้เด็กไดร้ ้จู กั การสวัสดี การขอโทษ และการขอบคณุ
ผู้อ่นื
ข้ันนำ
๑. เดก็ และคุณครรู ่วมกันรอ้ งเพลงลมเพลมพัด หลังจากจบเพลงให้เดก็ ๆ นงั่ เปน็ ครง่ึ วงกลม และ
ฟังการแนะนำนทิ าน
๒. เดก็ ร่วมกันฟังนิทาน เรื่อง ลกู ลิงสวัสดี พร้อมท้ังสนทนาอภิปรายเกย่ี วกบั เรอื่ งราวในนทิ านท่ี
ไดฟ้ ังวา่ ใคร ทำอะไร ทไี่ หน อยา่ งไร
ขัน้ สอน
๑. เด็กและครรู ่วมกนั สรา้ งข้อตกลงร่วมกนั ก่อนทำกจิ กรรม ดงั น้ี

- ไม่สง่ เสียงดงั ขณะทำกจิ กรรม
- ตง้ั ใจฟงั คณุ ครสู อน
- ไมแ่ กล้งเพ่อื น
๒. เดก็ และครรู ่วมกนั สนทนาพูดคุย เกยี่ วกับวัฒนธรรมการไหวท้ ่ีเปน็ เอกลักษณ์ของไทย โดยครู
ใช้คำถามต่างๆ เพื่อกระตุ้นความคิดเดก็ เชน่
- เด็กๆ คดิ ว่าเราควรไหว้ หรอื ทำความเคารพบุคคลใดบ้าง
- เดก็ ๆ คดิ ว่ามีการไหว้แบบใดบ้าง
- เดก็ ๆ คิดวา่ เราไหวเ้ พื่ออะไร และทำไมตอ้ งไหว้
๓. เดก็ และครรู ว่ มกนั สาธติ การไหวท้ ีถ่ ูกตอ้ ง มี ๓ ระดับ โดยให้ตัวแทนเด็กออกมาสาธติ การไหว้ท่ี
ถกู ต้องให้เพ่ือนๆ ดู
- ระดับท่ี ๑ การไหวพ้ ระ
- ระดับที่ ๒ การไหว้ผมู้ ีพระคณุ และผอู้ าวโุ ส
- ระดบั ท่ี ๓ การไหว้บุคคลท่ัวไปและผูเ้ สมอกัน
ข้ันสรุป
๑. เดก็ และครูร่วมกันทำกจิ กรรมผ่อนคลาย Finger Play “ชนู ้วิ ”
๒. เดก็ และครรู ว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกบั วฒั นธรรมการไหว้

เทคนคิ การสง่ เสริมวฒั นธรรมการไหว้

การจดั ประสบการณ์บรู ณาการวฒั นธรรมไทย กจิ กรรม เกมการศกึ ษา

ชอ่ื ครูผ้สู อน นางสาวจุรยี ์ ครองพุ่มวิจิตร

ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม ๓๐ นาที

สาระท่ีควรรู้ เพ่อื ปลูกฝังให้เดก็ เรยี นร้กู ารไหว้ การเคารพ ซ่งึ เปน็ แบบอย่างเรื่องมารยาททด่ี ีงามตามแบบ

ไทย

ขน้ั นำ

๑. ให้เด็กนงั่ ลอ้ มกนั เป็นวงกลม จากน้นั เดก็ และครรู ่วมกนั รอ้ งเพลง “สวสั ดีเธอจา๋ ” ดงั นี้

สวัสดีเธอจ๋า สวสั ดี ชืน่ ชีวี ยิ้มแย้มแจ่มใส

เราพบกนั วันน้แี สนดใี จ ร่ืนเรงิ ไปรอ้ งรำใหส้ ำราญ

๒. เด็กและครูรว่ มกันสนมนาเก่ียวกับเน้อื หาในเพลง “สวสั ดเี ธอจ๋า”

๓. ครสู รา้ งขอ้ ตกลงก่อนการเลน่ เกมจับคภู่ าพการไหว้กับเงาท่ีเหมือนกนั ดงั น้ี

- เมื่อเล่นเสร็จแล้ว ให้ยกมือพร้อมพูดว่า“เสร็จแล้วค่ะ/ครับ”และไม่รบกวนกลุ่มอื่นที่ยังทำ

กิจกรรม

ไม่เสร็จ

ขน้ั สอน

๑. ครแู นะนำสาธติ และอธบิ ายการเล่นเกมจับคู่ภาพการไหวก้ ับเงาท่ีเหมือนกัน โดยให้เดก็ นำภาพ

การไหว้ไปวางบนแผ่นชาร์จท่ีมีภาพเงาอยู่ วางให้ตรงกับภาพที่เหมือนกัน

๒.ครใู หเ้ ด็กปฏบิ ัติกจิ กรรมเกมการศึกษา “เกมจับคู่ภาพการไหวก้ บั เงาทเี่ หมือนกัน” โดยครจู ะส่ง

สัญญาณทกุ ๆ ๕ นาที ให้เด็กแต่ละกลมุ่ สลับกันจนเลน่ เกมครบทุกกลุ่ม

ขน้ั สรปุ

๑. เดก็ และครูร่วมกันสรุปเก่ยี วกับเกมจับคูภ่ าพการไหว้กับเงาทเ่ี หมือนกนั ดังน้ี การไหวเ้ ป็นส่ิงท่ี

สำคัญ เม่ือพบผู้ใหญ่ ต้องรูจ้ ักสวสั ดี ทกั ทาย หรอื การขอโทษ เพอื่ แสดงถึงความมีมารยาทท่ีดีและ

ความเคารพ ให้เกียรตกิ นั เป็นตน้ จากนั้นเมื่อเด็กเล่นเสรจ็ แล้ว ให้เด็กเก็บเกมเข้าทีใ่ ห้เรียบรอ้ ย

ภาพประกอบ กจิ กรรม ๖ หลกั

กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ กจิ กรรมเสรี

กิจกรรมกลางแจง้

กจิ กรรมเสริมประสบการณ์

กจิ กรรมเกมการศกึ ษา


Click to View FlipBook Version