The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือภายนอก
หนังสือภายใน
หนังสือประทับตรา
หนังสือสั่งการ
หนังสือประชาสัมพนธ์
หนังสือรับรอง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by hatthachai kunpukdee, 2019-11-07 03:34:40

หนังสือราชการ 6 ชนิด

หนังสือภายนอก
หนังสือภายใน
หนังสือประทับตรา
หนังสือสั่งการ
หนังสือประชาสัมพนธ์
หนังสือรับรอง

หนังสือราชการ 6 ชนิด
เสนอ

อาจารย์พชั นิยา ชุมผอม

จัดทาโดย
นายหัสถชัย กุลภกั ดี
เลขท่ี 21 ชนั้ ปวช.3

ภาคเรียนท่ี ๒ ปี การศึกษา2562
วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยรี ะนอง

คานา

การเขียนหนังสือเพื่อส่ือความหมายของทางราชการนับเป็นส่ิงสําคัญ
อย่างยิง่ ทั้งน้ีเพราะเอกสารของทางราชการที่ใช้ภาษาที่ดแี ละเหมาะสมจะส่ือ
ความหมายเพือ่ ให้เข้าใจตรงตามวัตถปุ ระสงค์ของผสู้ ่งสาร เอกสารท่ไี ดม้ กี าร
ลงนามแล้วจะบ่งถึงภาพลักษณ์และประสิทธิภาพของหน่วยงานนั้น ๆ
นอกจากการใช้ภาษาที่ดีและเหมาะสมแล้วยังจําเป็นต้องใช้แบบฟอร์มให้
ถกู ต้องตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖
และท่ีแก้ไขเพิ่มเตมิ อีกด้วย ซ่งึ ในปจั จุบันพบวา่ ยงั มีผู้ท่ีมคี วามเข้าใจ

รปู แบบ และการใช้ภาษาในทางราชการยังไม่ท่ัวถึงและมักใช้สืบทอดกันมา
อยา่ งไม่จะถกู ต้องนกั

นาย หสั ถชยั กลุ ภกั ดี

สารบัญ หนา้

เร่ือง 1
2
หนังสือภายนอก 3
รูปแบบหนังสือภายนอก 4
ตัวอยา่ งหนังสอื ภายนอก 5
หนงั สือภายใน 6
ตวั อยา่ งหนงั สือภายใน 7
หนงั สือประทับตรา 8
ตวั อยา่ งหนงั สอื ประทบั ตรา 9
หนงั สือสงั่ การ 10
ตัวอยา่ งคาสัง่
รปู แบบคาสงั่ 11
12
ระเบยี บ 13
รูปแบบระเบียบ 14
ตัวอย่างระเบยี บ 15
ขอ้ บังคับ 16
รูปแบบข้อบังคบั 17
ตวั อยา่ งข้อบงั คับ 18
หนงั สือประชาสมั พันธ์ 19
แถลงการณ์ 20
ตัวอยา่ งแถลงการณ์ 21
ข่าว 22
หนงั สือรบั รอง 23
ตวั อย่างหนงั สอื รบั รอง 24
รายงานการประชุม 25
บนั ทกึ
หนงั สืออน่ื ๆ

1

1 หนังสอื ภายนอก คือหนงั สอื ติดตอ่ ราชการที่เป็นแบบพิธีโดยใช้ตราครุฑเป็นหนงั สือติดตอ่ ระหวา่ ง

สว่ นราชการหรือสว่ นราชการมีถึงหน่วยงานอ่ืนใดซงึ่ มใิ ช่สว่ นราชการ หรือที่มถี งึ บคุ คลภายนอกให้จดั ทา
ตามแบบที่ 1ท้ายระเบียบ โดยกรอกรายละเอียดดงั นี ้

1. ท่ี ให้ลงรหสั ตวั พยญั ชนะและเลขประจาของเจ้าของเร่ือง ตามท่ีกาหนดไว้ในภาคผนวก 1ทบั เลข
ทะเบยี นหนงั สอื สง่ สาหรับหนงั สือของ คณะกรรมการให้กาหนดรหสั ตวั พยญั ชนะเพิ่มขนึ ้ ได้ตามความ
จาเป็น

2. สว่ นราชการเจ้าของหนงั สือให้ลงชื่อสว่ นราชการ สถานที่ราชการหรือคณะกรรมการซง่ึ เป็นเจ้าของ
หนงั สอื นนั้
และโดยปกตใิ ห้ลงท่ีตงั้ ไว้ด้วย

3. วนั เดอื น ปี ให้ลงตวั เลขของวนั ที่ ชื่อเตม็ ของเดือน และตวั เลขของปีพทุ ธศกั ราชท่ีออกหนงั สอื
4. เรื่อง
ให้ลงเรื่องย่อท่ีเป็นใจความสนั้ ท่ีสดุ ของหนงั สอื ฉบบั นนั้ ในกรณีท่เี ป็นหนงั สอื ตอ่ เนื่องโดยปกตใิ ห้ลงเรื่อง
ของหนงั สือฉบบั เดมิ
5.คาขนึ ้ ต้น
ให้ใช้คาขนึ ้ ต้นตามฐานะของผ้รู บั หนงั สือตามตาราง การการใช้คาขนึ ้ ต้นสรรพนาม และคาลงท้าย
ท่ีกาหนดไว้ในภาคผนวก 2 แล้วลงตาแหน่งของผ้ทู ี่หนงั สือนนั้ มีถงึ หรือชื่อบคุ คลในกรณีท่ีมถี ึงตวั บคุ คล
ไมเ่ ก่ียวกบั ตาแหน่งหน้าที่
6. อ้างถงึ (ถ้ามี)ให้อ้างถึงหนงั สอื ทเ่ี คยมตี ดิ ตอ่ กนั เฉพาะ หนงั สือที่สว่ นราชการผ้รู ับหนงั สอื ได้รบั มากอ่ น
แล้วจะจากสว่ นราชการใดกต็ ามโดยให้ลงช่ือสว่ นราชการเจ้าของหนงั สือและเลขที่หนงั สือวนั ที่ เดือน ปี
พทุ ธศกั ราชของหนงั สือนนั้
การอ้างถงึ ให้อ้างถึงหนงั สือฉบบั สดุ ท้ายที่ตดิ ตอ่ กนั เพียงฉบบั เดยี ว เว้นแตม่ เี รื่องอ่ืนที่เป็นสาระสาคญั ต้อง
นามาพิจารณา จงึ อ้างถงึ หนงั สือฉบบั อื่น ๆ ทีเ่ กี่ยวกบั เร่ืองนนั้ โดยเฉพาะให้ทราบด้วย
7. สง่ิ ท่ีสง่ มาด้วย (ถ้ามี)ให้ลงชื่อส่งิ ของ เอกสาร หรือ บรรณสารที่สง่ พร้อมกบั หนงั สือนนั้ ในกรณีที่ไม่
สามารถสง่ ไปในซองเดยี วกนั ได้ให้แจ้งด้วยวา่ สง่ ไปโดยทางใด
8. ข้อความ
ให้ลงสาระสาคญั ของเรื่องให้ชดั เจนและเข้าใจง่าย หากมคี วามประสงคห์ ลายประการให้แยกเป็นข้อ ๆ
9. คาลงท้าย ให้ใช้คาลงท้ายตามฐานะของผ้รู ับหนงั สอื ตามตาราง การใช้คาขนึ ้ ต้น สรรพนาม และคาลง
ท้ายที่กาหนดไว้ในภาคผนวก 2
10. ลงช่ือ
ให้ลงลายมอื ชื่อเจ้าของหนงั สอื และให้พิมพช์ ่ือเตม็ ของเจ้าของลายมือชื่อไว้ใต้ลายมอื ชื่อตามรายละเอยี ดที่
กาหนดไว้ในภาคผนวก 3

2

รูปแบบหนังสือภายนอก

3

ตวั อย่างหนังสือภายนอก

4

2 หนังสือภายใน คอื หนงั สอื ตดิ ตอ่ ราชการที่เป็นแบบพิธีน้อยกวา่ หนงั สอื ภายนอก เป็นหนงั สอื ตดิ ตอ่

ภายในกระทรวงทบวงกรม หรือจงั หวดั เดยี วกนั ใช้กระดาษบนั ทกึ ข้อความในการจดั ทา
1. สว่ นราชการ ให้ลงชื่อสว่ นราชการเจ้าของเร่ือง หรือหนว่ ยงานท่ีออกหนงั สอื โดยมีรายละเอยี ดพอสมควร
ถ้าสว่ นราชการท่ีออกหนงั สอื อยใู่ นระดบั กรมขนึ ้ ไป ให้ลงช่ือสว่ นราชการเจ้าของเรื่องทงั้ ระดบั กรมและกอง
ถ้าสว่ นราชการที่ออกหนงั สืออย่ใู นระดบั ตา่ กวา่ กรมลงมา ให้ลงช่ือสว่ นราชการเจ้าของเร่ืองเพียงระดบั กอง
หรือสว่ นราชการเจ้าของเร่ือง พร้อมทงั้ หมายเลขโทรศพั ท์ โทรสาร (ถ้ามี) และไปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์

รูปแบบหนังสือภายใน

3 หนังสอื ประทบั ตรา คอื หนงั สอื ที่ใช้ประทบั ตราแทนการลงช่ือของหวั หน้าสว่ นราชการระดบั กรมขนึ ้

ไป โดยให้หวั หน้าสว่ นราชการระดบั กองหรือผ้ทู ี่ได้รับมอบหมายจาก หวั หน้าสว่ นราชการระดบั กรมขนึ ้ ไป
เป็นผ้รู บั ผดิ ชอบลงช่ือย่อกากบั ตรา หนงั สอื ประทบั ตราให้ใช้ได้ทงั้ ระหวา่ งสว่ นราชการกบั สว่ นราชการ และ

ระหวา่ งสว่ นราชการกบั บคุ คลภายนอกเฉพาะกรณีท่ีไมใ่ ชเ่ รื่องสาคญั

5

ตวั อย่างหนังสอื ภายใน

6

3 หนังสือปะทบั ตรา คือ หนงั สอื ทีใ่ ช้กระดาษตราครุฑจดั ทา โดยประทบั ตราแทนการลงชอ่ื
ของหวั หน้าสว่ นราชการระดบั กรมขนึ ้ ไป โดยให้หวั หน้าสว่ นราชการระดบั กอง หรือผ้ทู ีไ่ ด้รับ
มอบหมายจากหวั หน้าสว่ นราชการระดบั กรมขนึ ้ ไป เป็นผ้รู ับผิดชอบลงชื่อยอ่ กากบั ตราหนงั สอื
ประทบั ตราให้ใช้ได้ทงั ้ ระหวา่ งสว่ นราชการกบั สว่ นราชการ และระหวา่ งสว่ นราชการกบั
บคุ คลภายนอก เฉพาะกรณีทไ่ี ม่ใชเ่ รื่องสาคญั ได้แก่

1. การขอรายละเอียดเพม่ิ เตมิ
2. การสง่ สาเนาหนังสอื สงิ่ ของ เอกสาร หรือบรรณสาร
3. การตอบรับทราบท่ีไม่เก่ยี วกบั ราชการสาคญั หรือการเงิน
4. การแจ้งผลงานทไ่ี ด้ดาเนนิ การไปแล้วให้สว่ นราชการท่ีเกีย่ วข้องทราบ
5. การเตอื นเรื่องท่ีค้าง
6. เรื่องซง่ึ หวั หน้าสว่ นราชการระดบั กรมขนึ ้ ไปกาหนดโดยทาเป็นคาสงั่ ให้ใช้หนงั สอื
ประทบั ตรา

รูปแบบหนังสือประทบั ตรา

7

ตวั อย่างหนังสือประทบั ตรา

8

4 หนังสือส่งั การ ได้แก่ คาสง่ั มี 3 ชนิด ระเบียบ และข้อบงั คบั

• คาสงั่ คอื บรรดาข้อความท่ีผ้บู งั คบั บญั ชาสงั่ การให้ปฏิบตั ิโดยชอบด้วยกฎหมาย ให้ใช้กระดาษตราครุฑ
• ระเบียบ คือ บรรดาข้อความท่ีผ้มู ีอานาจหน้าที่ได้วางไว้โดยอาศยั อานาจของกฎหมายหรือไมก่ ็ได้ เพ่ือถือ
เป็นหลกั ปฏิบตั งิ านเป็นการประจา ให้ใช้กระดาษตราครุฑ
• ข้อบงั คบั คือ บรรดาข้อความที่ผ้มู ีอานาจหน้าท่ีกาหนดให้ใช้ โดยอาศยั อานาจของกฎหมายท่ีบญั ญตั ใิ ห้
กระทาได้ ให้ใช้กระดาษตราครฑุ

4.1 คาส่งั คอื บรรดาข้อความท่ีผ้บู งั คบั บญั ชาสงั่ การให้ปฏิบตั ิโดยชอบด้วยกฎหมาย

1. คาสงั่ ให้ลงช่ือสว่ นราชการ หรือตาแหนง่ ของผ้มู ีอานาจที่ออกคาสง่ั
2. ที่ ให้ลงเลขที่ท่ีออกคาสง่ั โดยเร่ิมฉบบั แรกจากเลข 1 เรียงเป็นลาดบั ไปจนสนิ ้ ปีปฏทิ นิ ทบั เลขปี
พทุ ธศกั ราชท่ีออกคาสงั่ เช่น 3/2556
3. เร่ือง ให้ลงช่ือเร่ืองที่ออกคาสงั่
4. ข้อความ ให้อ้างเหตทุ ี่ออกคาสงั่ และอ้างถงึ อานาจท่ีให้ออกคาสง่ั (ถ้ามี) ไว้ด้วย แล้วจงึ ลงข้อความท่ี
สงั่ และวนั ใช้บงั คบั
5. สงั่ ณ วนั ที่ ให้ลงตวั เลขของวนั ท่ี ข่ือเตม็ ของเดอื น และตวั เลขของปีพทุ ธศกั ราชที่ออกคาสง่ั
ตวั อย่าง สงั่ ณ วนั ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556
6. ลงชื่อ ให้ลงลายมอื ช่ือผ้อู อกคาสง่ั และพิมพช์ ่ือเตม็ ของเจ้าของลายมอื ช่ือไว้ใต้ลายมือชื่อ
7. ตาแหน่ง ให้ลงตาแหน่งของผ้อู อกคาสงั่

9

ตวั อย่างคาส่งั

10

รูปแบบคาส่งั

11

4.2 ระเบียบ คอื บรรดาข้อความท่ีผ้มู อี านาจหน้าที่ได้วางไว้ โดยจะอาศยั อานาจของกฎหมายหรือไมก่ ็

ได้

เพื่อถือเป็นหลกั ปฏบิ ตั ิงานเป็นการประจา

1. ระเบียบ ให้ลงชื่อสว่ นราชการท่ีออกระเบียบ
2. วา่ ด้วย ให้ลงชื่อของระเบียบ
3. ฉบบั ที่ ถ้าเป็นระเบยี บที่กลา่ วถึงเป็นครงั้ แรกในเรื่องนนั้ ไมต่ ้องลงวา่ เป็นฉบบั ท่เี ทา่ ใด แตถ่ ้าเป็น
ระเบียบเรื่องเดยี วกนั ท่ีมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้ลงเป็น ฉบบั ที่ 2 และท่ีถดั ๆ ไปตามลาดบั
4. พ.ศ. ให้ลงตวั เลขของปีพทุ ธศกั ราชท่ีออกระเบยี บ
5. ข้อความ ให้อ้างเหตผุ ลโดยย่อ เพื่อแสดงถงึ ความมงุ่ หมายท่ีต้องออกระเบียบ และอ้างถงึ กฎหมาย
ที่ให้อานาจออกระเบียบ (ถ้าม)ี
6. ข้อให้เรียงข้อความที่จะใช้เป็นระเบียบเป็นข้อๆ โดยให้ข้อ 1 เป็นชื่อระเบียบ ข้อ 2 เป็นวนั ใช้บงั คบั
กาหนดวา่ ให้ใช้บงั คบั ตงั้ แตเ่ มอ่ื ใด และข้อสดุ ท้ายเป็นข้อผ้รู ักษาการ ระเบยี บใดถ้ามมี ากข้อหรือหลาย
เรื่อง จะแบ่งเป็นหมวดกไ็ ด้ โดยให้ย้ายข้อผ้รู ักษาการไปเป็นข้อสดุ ท้ายก่อนทีจ่ ะขนึ ้ หมวด 1
7. ประกาศ ณ วนั ท่ี ให้ลงตวั เลขของวนั ที่ ช่ือเตม็ ของเดือน และตวั เลขของปีพทุ ธศกั ราชที่ออกระเบยี บ
8. ลงช่ือ ให้ลงลายมอื ช่ือผ้อู อกระเบียบ และพิมพ์ชื่อเตม็ ของเจ้าของลายมือช่ือไว้ใต้ลายมือช่ือ
9. ตาแหน่ง ให้ลงตาแหนง่ ของผ้อู อกระเบียบ

12

รูปแบบระเบียบ

13

ตวั อย่างระเบียบ

14

4.3 ข้อบงั คบั คือ บรรดาข้อความท่ีผ้มู อี านาจหน้าท่ีกาหนดให้ใช้โดยอาศยั อานาจของกฎหมายที่

บญั ญตั ใิ ห้กระทาได้ใช้กระดาษตราครุฑและให้จดั ทาตามแบบที่ 6 ท้ายระเบยี บ โดยกรอกรายละเอยี ดดงั นี ้

3.1 ข้อบงั คบั ให้ลงช่ือสว่ นราชการท่ีออกข้อบงั คบั
3.2 วา่ ด้วย ให้ลงชื่อของข้อบงั คบั
3.3 ฉบบั ที่ถ้าเป็นข้อบงั คบั ที่กลา่ วถึงเป็นครงั้ แรกในเรื่องนนั้ ไมต่ ้องลงวา่ เป็นฉบบั ท่ีเท่าใด แตถ่ ้าเป็น
ข้อบงั คบั
เรื่องเดยี วกนั ท่ีมกี ารแก้ไขเพิ่มเติมให้ลงเป็นฉบบั ท่ี 2 และที่ถดั ๆ ไปตามลาดบั
3.4 พ.ศ. ให้ลงตวั เลขของปีพทุ ธศกั ราชท่ีออกข้อบงั คบั
3.5 ข้อความ ให้อ้างเหตผุ ลโดยย่อเพื่อแสดงถงึ ความมงุ่ หมายที่ต้องออกข้อบงั คบั และอ้างถงึ กฎหมาย
ท่ีให้อานาจออกข้อบงั คบั
3.6 ข้อ ให้เรียงข้อความท่ีจะใช้บงั คบั เป็นข้อ ๆ โดยให้ ข้อ 1 เป็นช่ือข้อบงั คบั ข้อ 2 เป็นวนั ใช้บงั คบั
กาหนดวา่
ให้ใช้บงั คบั ตงั้ แตเ่ มื่อได้และข้อสดุ ท้ายเป็นข้อผ้รู กั ษาการข้อบงั คบั ใดถ้ามีมากข้อหรือหลายเร่ืองจะแบง่ เป็น
หมวดก็ได้โดยให้ย้ายข้อผ้รู ักษาการไปเป็นข้อสดุ ท้ายก่อนที่จะขนึ ้ หมวด 1

3.7 ประกาศ ณ วนั ที่ ให้ลงตวั เลขของวนั ท่ี ชื่อเตม็ ของเดือน และตวั เลขของปีพทุ ธศกั ราชที่ออก
ข้อบงั คบั

3.8 ลงชื่อ ให้ลงลายมือช่ือผ้อู อกข้อบงั คบั และพิมพช์ ื่อเตม็ ของเจ้าของลายมือชื่อไว้ใต้ลายมอื ช่ือ
3.9 ตาแหนง่ ให้ลงตาแหนง่ ของผ้อู อกข้อบงั คบั

15

รูปแบบข้อบงั คบั

16

ตวั อย่างข้อบังคับ

17

5 หนังสือประชาสัมพนั มี 3 ชนิด ได้แก่ ประกาศ แถลงการณ์ และขา่ ว

• ประกาศ คือ บรรดาข้อความที่ทางราชการประกาศ หรือชีแ้ จงให้ทราบ หรือแนะแนวทางปฏิบตั ิ ให้
กระดาษตราครุฑ

• แถลงการณ์ คือบรรดาข้อความท่ีทางราชการแถลงเพื่อทาความ เข้าใจในกิจการของทางราชการ หรือ
เหตกุ ารณ์ หรือกรณใี ด ๆ ให้ทราบชดั เจนโดยทวั่ กนั ให้ใช้กระดาษครุฑ

• ขา่ ว คือ บรรดาข้อความท่ีทางราชการเหน็ สมควรเผยแพร่ให้ทราบ

5.1 ประกาศ คอื บรรดาข้อความที่ทางราชการประกาศหรือชีแ้ จงให้ทราบ หรือแนะแนวทางปฏิบตั ิ

1. ประกาศ ให้ลงชื่อสว่ นราชการที่ออกประกาศ
2. เร่ือง ให้ลงชื่อเร่ืองที่ประกาศ
3. ข้อความ ให้อ้างเหตผุ ลที่ต้องออกประกาศและข้อความท่ีประกาศ
4. ประกาศ ณ วนั ที่ ให้ลงตวั เลขของวนั ที่ ชื่อเตม็ ของเดอื นและตวั เลขของปี พทุ ธศกั ราชท่ีออกประกาศ
5. ลงชื่อ ให้ลงลายมอื ช่ือออกประกาศ และพิมพ์ช่ือเตม็ ของเจ้าของลายมอื ชื่อไว้ใต้ลายมือชื่อ
6. ตาแหน่ง ให้ลงตาแหนง่ ของผ้อู อกประกาศในกรณีทกี่ ฎหมายกาหนดให้ทาเป็นแจ้งความให้เปลยี่ นคา
วา่ ประกาศ เป็น แจ้งความ

รูปแบบประกาศ

18

5.2 แถลงการณ์ คือ บรรดาข้อความทที่ างราชการแถลงเพื่อทาความเข้าใจในกิจการของทาง
ราชการ หรือเหตกุ ารณ์หรือกรณีใด ๆ ให้ทราบชดั เจนโดยทว่ั กนั

1. แถลงการณ์ ให้ลงชื่อสว่ นราชการทอี่ อกแถลงการณ์
2. เร่ือง ให้ลงชอ่ื เรื่องที่ออกแถลงการณ์
3. ฉบบั ที่ ใช้ในกรณีท่จี ะต้องออกแถลงการณ์หลายฉบบั ในเร่ืองเดียวที่ตอ่ เนื่องกนั ให้ลงฉบบั ท่ี
เรียงตามลาดบั ไว้ด้วย
4. ข้อความ ให้อ้างเหตผุ ลทีต่ ้องออกแถลงการณ์และข้อความที่แถลงการณ์
5. สว่ นราชการท่อี อกแถลงการณ์ ให้ลงชือ่ สว่ นราชการท่ีออกแถลงการณ์
6. วนั เดือน ปี ให้ลงตวั เลขของวนั ที่ ชอื่ เต็มของเดือน และตวั เลขของปีพทุ ธศกั ราชทอ่ี อก
แถลงการณ์
รูปแบบแถลงการณ์

19

ตวั อย่างแถลงการณ์

20

5.3 ข่าว คือ บรรดาข้อความทท่ี างราชการเห็นสมควรเผยแพร่ให้ทราบ

1. ขา่ ว ให้ลงชอ่ื สว่ นราชการทอี่ อกข่าว
2. เร่ือง ให้ลงชือ่ เร่ืองที่ออกข่าว
3. ฉบบั ที่ ใช้ในกรณีทจี่ ะต้องออกข่าวหลายฉบบั ในเรื่องเดียวที่ตอ่ เน่อื งกนั ให้ลงฉบบั ทเ่ี รียง
ตามลาดบั ไว้ด้วย
4. ข้อความ ให้ลงรายละเอยี ดเกยี่ วกบั เร่ืองของขา่ ว
5. สว่ นราชการที่ออกขา่ ว ให้ลงชือ่ สว่ นราชการท่อี อกข่าว
6. วนั เดอื น ปี ให้ลงตวั เลขของวนั ที่ ช่ือเตม็ ของเดอื น และตวั เลขของปีพทุ ธศกั ราชที่ออกขา่ ว
รูปแบบข่าว

21

6 หนังสือรับรอง คือหนงั สอื ที่สว่ นราชการออกให้เพื่อรับรองแกบ่ คุ คล นิตบิ คุ คล หรือหน่วยงานเพ่ือ

วตั ถปุ ระสงคอ์ ย่างหนง่ึ อยา่ งใดให้ปรากฏแกบ่ คุ คลโดยทวั่ ไป ไมจ่ าเพาะเจาะจง ให้ใช้กระดาษครุฑ

รูปแบบหนังสือรับรอง

6 หนังสือรับรอง

22

ตวั อย่างหนังสอื รับรอง

23

6.1รายงานการประชุม

24

6.2บนั ทกึ

25

6.3หนังสอื อ่นื ๆ


Click to View FlipBook Version