The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อารยธรรมจีนเนื้อหาลงเพจ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kunkrurachata, 2021-11-12 00:20:40

อารยธรรมจีนเนื้อหาลงเพจ

อารยธรรมจีนเนื้อหาลงเพจ

อารยธรรม
เรียนสังคมศกึ ษากับ Kunkru P’Nut

อำรยธรรมจนี สมยั กอ่ นประวตั ศิ ำสตร์ ที่สำ้ คญั 2 แหลง่ คือ

ลุ่มแมน่ ้ำฮวงโห พบควำมเจริญที่เรยี กว่ำ วฒั นธรรมหยำงเชำ ( Yang Shao
Culture ) หลกั ฐำนทเ่ี ปน็ เครอื่ งป้ันดินเผำลำยเขียนสี มกั เปน็ ลำยเรขำคณิต พืช นก สัตว์
ตำ่ งๆ และพบใบหนำ้ มนุษย์ สที ่ีใชเ้ ป็นสดี ำ้ หรอื ม่วงเขม้ ยงั มีกำรพิมพ์ลำยหรอื ขดู สลักลำย
เป็นรูปลำยจักสำน ลำยเชอื กทำบ
ลมุ่ น้ำแยงซี (Yangtze) บริเวณมณฑลชำนตุงพบ วฒั นธรรมหลงซำน
(Lung Shan Culture) พบหลกั ฐำนเปน็ เครอ่ื งป้นั ดนิ เผำเนอื ละเอยี ดสีด้ำขดั มนั เงำ
คุณภำพดเี นือบำงและแกรง่ เปน็ ภำชนะ 3 ขำ

Yang Shao Lung Shan

เรียนสงั คมศึกษากบั Kunkru P’Nut

สมัยประวตั ิศำสตรข์ องจนี แบง่ ได้ 4 ยุค

 สมยั โบรำณ เริม่ ตังแต่สมัยรำชวงศ์ชำง สนิ สดุ สมัยรำชวงศโ์ จว
 สมยั จกั รวรรดิ เริม่ ตงั แต่สมยั รำชวงศ์จิน๋ จนถึงปลำยรำชวงศช์ งิ หรือเชง็
 สมัยใหม่ เร่ิมปลำยรำชวงศเ์ ชง็ จนถึงกำรปฏิวัติเขำ้ สู่ระบอบสงั คมนยิ ม
 รว่ มสมยั เรม่ิ ตงั แตจ่ ีนปฏิวตั เิ ปลย่ี นแปลงกำรปกครองเข้ำสรู่ ะบอบ
สงั คมนิยมหรือคอมมวิ นสิ ต์จนถงึ ปจั จุบนั

เรียนสังคมศึกษากบั Kunkru P’Nut

อำรยธรรมจีนในสมัยรำชวงศต์ ำ่ งๆ มดี ังนี

 รำชวงศ์ชำง เป็นรำชวงศแ์ รกของจนี
ประดิษฐ์ตวั อกั ษรขนึ ใชเ้ ปน็ ครงั แรก พบจำรึกบนกระดองเตำ่ และกระดกู วัว

เรยี นสงั คมศึกษากบั Kunkru P’Nut

 รำชวงศ์โจว เชื่อเรื่องกษตั รยิ เ์ ปน็ “โอรสแหง่ สวรรค์

เกิดลัทธขิ งจอ๊ื แนวคดิ แบบอนรุ กั ษน์ ยิ ม เน้นควำมสมั พันธแ์ ละกำรทำ้
หน้ำที่ของผคู้ นในสังคม ใหค้ วำมสำ้ คญั กับครอบครวั และกำรศึกษำ
เกดิ ลทั ธเิ ตำ๋ โดยเล่ำจ๊ือ ที่มีแนวทำงกำรดำ้ เนินชวี ิตที่เรยี บงำ่ ย ไมต่ อ้ งมี
ระเบียบแบบแผนพธิ รี ตี องใดใด

สญั ลักษณห์ ยิน-หยาง ภาพเขยี นขงจื๊อโดยจติ รกรสมยั ราชวงศถ์ งั

เรยี นสงั คมศึกษากับ Kunkru P’Nut

 รำชวงศ์จนิ๋ หรือฉนิ
จักรพรรดทิ ี่ยิ่งใหญ่ คือ จน๋ิ ซฮี อ่ งเต้ ผู้ให้สรำ้ ง ก้ำแพงเมอื งจนี

กาแพงเมอื งจนี ได้รบั การขน้ึ ทะเบียนเป็นมรดกโลก สร้างเพ่ือป้องกนั กลุ่มขา้ ศกึ ที่หมาย
จะมารุกรานประเทศ มคี วามยาวถึง 21,196 กโิ ลเมตร ครอบคลมุ กว่า 15 มณฑลในประเทศจีน

เรียนสงั คมศกึ ษากับ Kunkru P’Nut

 รำชวงศ์ฮนั่ เปน็ ยคุ ทองดำ้ นกำรคำ้ ของจนี มีกำรคำ้ ขำยกบั อำณำจกั รโรมนั
อำหรับและอินเดีย โดยเส้นทำงกำรค้ำทเ่ี รยี กวำ่ เสน้ ทำงสำยไหม(Silk Road)
มกี ำรสอบคัดเลือกบุคคลเข้ำรับรำชกำรเรยี กว่ำ จอหงวน

เสน้ ทางสายไหมมคี วามยาว 6,437 กิโลเมตร (4,000 ไมล)์ ไดช้ ือ่ มาจาก
การค้าผ้าไหมจีนท่ีมีกาไรมากตลอดเส้นทาง เริม่ ต้ังแต่ราชวงศ์ฮั่น

เรยี นสงั คมศึกษากบั Kunkru P’Nut

 รำชวงศส์ ยุ เปน็ ยคุ แตกแยกแบง่ เปน็ สำมกก๊
 รำชวงศถ์ ัง

ยุคทองของอำรยธรรมจนี พระพทุ ธศำสนำมีควำมเจรญิ รงุ่ เรือง
พระถังซำ้ จง๋ั เดนิ ทำงไปศกึ ษำพระไตรปิฎก ในชมพูทวีป

ยคุ ทองของกวีนิพนธจ์ ีน เช่น หวำงเหวย่ หลไ่ี ป๋ ตฝู้ ู้

พระถงั ซมั จงั๋ บรรพชาเป็นสามเณรเมอ่ื อายุ 13 ปี
มคี วามสามารถในการแสดงธรรม ตัดสินใจเดนิ ทางไป
แสวงธรรมในอินเดีย ออกเดนิ ทางเมื่อ พ.ศ.1170

เรยี นสงั คมศึกษากบั Kunkru P’Nut

 รำชวงศซ์ อ้ ง
ก้ำวหนำ้ ด้ำนกำรเดนิ เรอื ส้ำเภำ รู้จกั ใชเ้ ขม็ ทศิ ลูกคิด ฝังเขม็

เรือสาเภาจนี เป็นประดษิ ฐกรรมโบราณ ลกู คดิ แบง่ เปน็ 2 สว่ น ส่วนบนมแี ถวละ
ของจีน สญั ลกั ษณ์รปู “เรอื สาเภาจนี ”กลายเปน็ 2 ลูก ส่วนลา่ งมี 5 ลกู แตม่ บี างแบบที่ทาต่าง
สัญลักษณอ์ ยา่ งหนงึ่ ของเกาะฮ่องกง ออกไป แถวบนมีลกู เดยี ว แถวลา่ งมี 4หรอื 5 ลกู
แตว่ ธิ คี ดิ ใชห้ ลักอนั เดียวกนั

เรียนสงั คมศกึ ษากับ Kunkru P’Nut

 รำชวงศห์ ยวน
รำชวงศช์ ำวมองโกล ฮ่องเตอ้ งค์แรกคือกบุ ไลขำ่ น หรือ หงวนสีโจว๊ ฮอ่ งเต้
ชำวตะวันตกเข้ำมำติดตอ่ คำ้ ขำยมำก เชน่ มำร์โคโปโล พอ่ ค้ำชำวเมอื ง

เวนีส อิตำลี

มารโ์ ค โปโล เกิดในปี 1254 ที่เมืองเวนิส ประเทศอติ าลี
เปน็ นักเดินทางคา้ ขายและนักสารวจท่ีเดินทางจากยโุ รปไปยังเอเชีย
ในช่วงปี 1271 ถึง 1295 ใช้เวลาอยใู่ นประเทศจนี นาน 17 ปี
และเดินทางออกจากแผ่นดินใหญ่ในปี 1292

เรยี นสังคมศึกษากับ Kunkru P’Nut

 รำชวงศห์ มงิ หรอื เหมง็ มีนวนิยำยทส่ี ้ำคัญ ได้แก่ สำมกก๊ ไซอ๋ิว
สรำ้ งพระรำชวังหลวงปักกงิ่ (วังตอ้ งห้ำม)

พระราชวงั ตอ้ งห้ามแหง่ เมอื งปกั กงิ่ เคยเปน็ พระราชวังทป่ี ระทบั ของจกั รพรรดิ

ในสมัยราชวงศห์ มงิ และราชวงศ์ชิง และปจั จุบนั เปน็ พิพิธภัณฑ์พระราชวงั มพี ้นื ท่รี วมกวา่ 720,000
ตารางเมตร ไดร้ ับการยกยอ่ งจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก

เรียนสังคมศกึ ษากบั Kunkru P’Nut

 รำชวงศช์ ิงหรือเช็ง
รำชวงศเ์ ผ่ำแมนจู จนี เส่อื มถอยควำมเจริญทุกดำ้ น สงครำมฝนิ่ จนี รบแพ้
อังกฤษ พระนำงซสู ไี ทเฮำเขำ้ มำมอี ทิ ธิพลมำก

พระนางซสู ไี ทเฮา ชื่อเสียงของพระนางเป็นประเด็น
ถกเถียงของนักประวตั ศิ าสตรท์ ้ังในและนอกประเทศจนี มาเสมอ
มุมมองท่มี ีมายาวนานเหน็ ว่า พระนางเปน็ ผู้ปกครองทีอ่ ามหติ
บ้าอานาจ ทาให้ราชวงศช์ งิ ลม่ สลาย

เรียนสงั คมศึกษากับ Kunkru P’Nut

จนี ยคุ สำธำรณรฐั และยคุ คอมมวิ นิสต์

ปลำยรำชวงศ์ชงิ ดร.ซุนยตั เซน็ จัดตังสมำคมสนั นิบำตล้มลำ้ งรำชวงศช์ ิง
นโยบำยโคน่ ล้มรำชวงศ์แมนจู จดั สรรที่ดนิ แก่ประชำชน และก่อตงั พรรคกก๊ มินตง๋ั

ซนุ ยตั เซน็ รว่ มกบั ยวน ซไี ข ลม้ รำชวงศช์ งิ ไดส้ ำ้ เร็จเปลยี่ นกำรปกครองเปน็
ระบอบสำธำรณรัฐ ซนุ ยตั เซน็ เสนอ ยวน ซไี ข เปน็ ประธำนำธิบดี แต่สถำปนำตนเป็น
จักรพรรดิและรอื ฟ้ืนระบบศักดินำ

ยวน ซไี ข เสยี ชีวิต ดร.ซนุ ยตั เซน็ เปน็ ประธำนำธิบดี แต่เปน็ ไมน่ ำนกเ็ สียชวี ติ

ซุน ยตั เซน็ เป็นนกั ประชาธิปไตยและนักปฏิวัติ
ผไู้ ด้รับการกล่าวขานวา่ เปน็ "บิดาของชาติ" และ
"ผูบ้ กุ เบกิ การปฏวิ ตั ิประชาธปิ ไตย

เรียนสงั คมศึกษากบั Kunkru P’Nut

เจียงไคเช็ค ขนึ เป็นผูน้ ้ำพรรคก๊กมินต๋ังและผนู้ ำ้ จนี แตป่ ระสบปัญหำ
ฉอ้ รำษฎร์บังหลวง กดขร่ี ำษฎร

จนี ปฏิวตั อิ กี ครงั โดยพรรคคอมมิวนิสตจ์ ีน ของ เหมำ เจอ๋ ตงุ
รัฐบำลเจยี งไคเช็ค ต่อสกู้ บั พรรคคอมมิวนิสต์แต่แพ้ เหมำ เจอ๋ ตงุ
สถำปนำ “สำธำรณรัฐประชำชนจนี ” ปกครองด้วยระบอบคอมมวิ นสิ ต์

เหมา เจอ๋ ตง ประธานพรรคคอมมวิ นิสต์
แหง่ สาธารณรัฐประชาชนจนี

เจยี งไคเชค็ เรยี นสงั คมศึกษากับ Kunkru P’Nut
ประธานรฐั บาลจนี ชาตนิ ิยม สมยั ที่ 1, 3

เหมำ เจอ๋ ตงุ เสียชวี ติ เติงเสยี่ วผงิ ขนึ เปน็ ผนู้ ำ้ จนี แทน ประกำศ
พฒั นำประเทศด้วย นโยบำยสที่ นั สมยั คือดำ้ นเกษตรกรรม อุตสำหกรรม
กำรทหำร วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี อนญุ ำตให้ต่ำงชำตเิ ข้ำมำลงทนุ
ภำยในประเทศ รวมทังผอ่ นปรนวถิ ีกำรด้ำเนินชีวิตของประชำชนให้คลำยควำม
เข้มงวดลง

เต้ิงเสย่ี วผงิ
ประธานคณะกรรมาธิการที่ปรกึ ษาส่วนกลาง
แหง่ พรรคคอมมิวนิสต์

เรยี นสงั คมศกึ ษากบั Kunkru P’Nut


Click to View FlipBook Version