แผนพฒั นาตนเองของครูผู้สอน
(ID PLAN : INDIVIDUAL DEVELOPMENT PLAN)
ปีการศกึ ษา 2565
โดย
นางสาวนฤมล มุธะจติ
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ชานาญการพเิ ศษ
โรงเรียนชมุ ชนบา้ นนาดิบ
ศูนยบ์ ริหารจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษาแมย่ วม-แมค่ ง อาเภอแม่สะเรียง
สงั กดั สานกั งานเขตพนื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาแมฮ่ ่องสอน เขต 2
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั พืนฐาน
บนั ทกึ ขอ้ ความ
ส่วนราชการ โรงเรยี นชมุ ชนบา้ นน้าดิบ อ้าเภอ แม่สะเรียง โทร 053681539
ที่ ศธ 04116……………………/ วนั ที่ 5 พฤษภาคม 2565
เรอื่ ง รายงานการจัดท้าแผนพฒั นาตนเองของขา้ ราชการครู (Individual Development Plan : ID Plan)
เรยี น ผอู้ า้ นวยการโรงเรยี นชุมชนบ้านนา้ ดิบ
ตามท่ีโรงเรยี นชุมชนบ้านน้าดิบ ได้มอบหมายให้คณะครูทุกคนจดั ท้าแผนพัฒนาตนเอง (Individual
Development Plan : ID Plan) เพื่อให้เกิดการวางแผนในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
เกดิ ผลดแี ก่ตนเองและราชการ และเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธิการ
บัดนี ข้าพเจ้า นางสาวนฤมล มุธะจิต ต้าแหน่ง ครู ได้จัดท้าแผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู
(Individual Development Plan : ID Plan) ปีการศึกษา 2565 เรยี บรอ้ ยแล้ว รายละเอยี ดดังแนบ
จงึ เรียนมาเพอื่ โปรดทราบ
ลงชือ่ .............................................
(นางสาวนฤมล มุธะจติ )
ตา้ แหนง่ ครู วิทยฐานะ ช้านาญการพเิ ศษ
ความเห็นหวั หน้างานบรหิ ารบคุ คล ความเหน็ ผู้อ้านวยการโรงเรยี น
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
ลงชื่อ ลงชอื่
(นางสาวป่ินวเิ ศษ มงคลวิไล) (ว่าทร่ี ้อยตรีกติ ตพิ งษ์ ทินแยง่ )
ตา้ แหน่ง ครู
ผอู้ ้านวยการโรงเรยี นชุมชนบ้านนา้ ดิบ
คานา
ตามท่ี ก.ค.ศ. ไดก้ ้าหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารพัฒนาตนเองและวชิ าชพี ครู (ว๒๒/๒๕๖๐) เม่อื วนั ท่ี
๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ขอ้ ๑. ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตอ้ งได้รับการพัฒนาอย่างตอ่ เนือ่ งทุกปี
โดยใหป้ ระเมินตนเองตามแบบ ที่ ก.ค.ศ. กา้ หนด พรอ้ มทงั จัดท้าแผนการพัฒนาตนเองเป็นรายปี ตามแบบที่
ส่วนราชการก้าหนด และเข้ารับการพัฒนาตามแผนอยา่ งเปน็ ระบบ และต่อเนื่อง ฉะนนั ก่อนจะเลอื กหลกั สูตร
การพัฒนานนั ครจู ะตอ้ งประเมินตนเอง จัดทา้ แผนพฒั นาตนเอง เพอ่ื ใหผ้ บู้ รหิ ารอนมุ ัติหลักสูตรตาม ID Plan
ดงั นนั รายงานแผนพฒั นาตนเองฉบับนี ไดจ้ ดั ทา้ ขึนเพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามแนวทางที่ ก.ค.ศ.ได้กา้ หนดไว้
และเป็นแนวทางในการกา้ กบั และติดตามการพฒั นาตนเองของขา้ พเจา้ และผ้บู ังคบั บญั ชา เพอ่ื ให้เกิด
ประโยชนท์ งั ในดา้ นวิชาชพี และ เกิดประโยชน์ต่อเนอื่ งในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน การพฒั นา
คณุ ภาพการจัดการศึกษาในภาพรวมต่อไป
นฤมล มุธะจติ
ผจู้ ัดทา้ แผนพัฒนาตนเอง
5 พฤษภาคม 2565
สารบญั
เร่อื ง หน้า
คานา ก
สารบัญ ข
สว่ นท่ี 1 ขอ้ มูลผจู้ ัดทาแผนพฒั นาตนเอง
1.1 ประวัตสิ ่วนตัว..........................................................................................................
1.2 งานในหนา้ ทที่ ่รี ับผิดชอบ.........................................................................................
1.3 ความสามารถพเิ ศษ ................................................................................................
1.4 ผลงานท่ีเกิดจากการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีในตา้ แหน่งปจั จบุ ัน
- ผลท่เี กดิ จากการจดั การเรยี นรู้......................................................................
- ผลท่เี กิดจากการพฒั นาวชิ าการ....................................................................
- ผลทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน.......................................................................................
- ผลที่เกดิ กับสถานศกึ ษา...............................................................................
- ผลที่เกิดกบั ชุมชน........................................................................................
1.5 ประวัตกิ ารเข้ารบั การพฒั นา (ในรอบ 2 ปี ที่ผ่านมา) ...........................................
สว่ นท่ี 2 ความต้องการในการพฒั นา
2.1ประเภทหลักสตู รทต่ี อ้ งการพฒั นา.......................................................................
2.2รูปแบบวิธกี ารท่พี ัฒนา.........................................................................................
2.3รายละเอยี ดจา้ เพาะหลกั สตู รที่ต้องการพฒั นา (ลา้ ดับแรก).................................
ส่วนที่ 3 รายละเอียดแผนพัฒนาตนเอง ..........................................................................
คาอธบิ าย : สมรรถนะขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน
สงั กัด สา้ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั พืนฐาน............................................
แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน
(ID PLAN : INDIVIDUAL DEVELOPMENT PLAN)
----------------------------------------------------------------------
สว่ นที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 ประวตั ิส่วนตัว
ชื่อ (นาย/นาง/นางสาว) นฤมล ช่อื สกลุ มุธะจิต อายุ 40 ปี ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ช้านาญการพเิ ศษ
วุฒกิ ารศกึ ษา
( / ) ปริญญาตรี หรอื เทียบเท่า ครุศาสตรบัณฑติ สาขา/วิชาเอก การประถมศกึ ษา
( / ) ปรญิ ญาโท หรือเทียบเท่า ครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขา/วิชาเอก การบรหิ ารการศึกษา
( ) ปริญญาเอก หรือเทียบเท่า ...................... สาขา/วิชาเอก............................................................
( ) อน่ื ๆ (โปรดระบุ)...........................................................................................................................
โรงเรียน ชมุ ชนบ้านนา้ ดิบ ศนู ยบ์ รหิ ารจดั การศึกษา แม่ยวม – แมค่ ง สงั กัด สพป.แมฮ่ อ่ งสอน เขต 2
เขา้ รับราชการวันท่ี 14 เดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2548 ณ โรงเรียน บา้ นบุญเลอ สงั กัด ส้านักงานเขตพืนที่
การศกึ ษาประถมศกึ ษาแมฮ่ ่องสอน เขต 2
อายุราชการจนถงึ ปจั จุบัน 16 ปี 10 เดอื น ( 30 กนั ยายน 2564)
1.2 งานในหนา้ ท่ีทร่ี ับผิดชอบ
ด้านการจัดการเรียนการสอน
1. กลมุ่ สาระที่สอน ภาษาไทย ชนั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 จ้านวน 5 คาบ / สปั ดาห์
2. กลุ่มสาระที่สอน คณิตศาสตร์ ชัน ประถมศึกษาปีท่ี 3 จ้านวน 5 คาบ / สัปดาห์
3. กลุ่มสาระที่สอน วิทยาศาสตร์ ชัน ประถมศึกษาปีท่ี 3 จา้ นวน 2 คาบ / สปั ดาห์
4. กลุ่มสาระทสี่ อน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
จ้านวน 1 คาบ / สปั ดาห์
5. กลุ่มสาระทสี่ อน ประวัติศาสตร์ ชนั ประถมศึกษาปที ่ี 3 จ้านวน 1 คาบ / สปั ดาห์
6. กล่มุ สาระทส่ี อน ศิลปะ ชัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จ้านวน 1 คาบ / สัปดาห์
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
1. กิจกรรมการสอนซ่อมเสรมิ ชนั ประถมศึกษาปที ่ี 3
2. กิจกรรมแนะแนว ชนั ประถมศกึ ษาปีที่ 3
3. กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลารู้ ชนั ประถมศึกษาปที ่ี 3
4. กจิ กรรมลูกเสือ-เนตรนารี ชัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
5. กิจกรรมชุมนุม ชัน ประถมศึกษาปีท่ี 3
6. กจิ กรรมจริยธรรม ชัน ประถมศึกษาปีท่ี 3
2. งานทีไ่ ด้รับมอบหมายนอกเหนอื จากการสอน (ภารกิจทีน่ อกเหนอื จากการสอน เช่น งาน 4 ฝ่ายของ
สถานศึกษา, กิจกรรมพเิ ศษ ฯลฯ
1. ปฏิบัตหิ น้าท่ีครปู ระจ้าชนั ประถมศึกษาปีที่ 3
2. ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีหัวหน้ากลุม่ งานบริหารงบประมาณและแผน
3. ปฏิบตั หิ น้าที่ครเู วรประจ้าวนั อังคาร
4. ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีครเู วรทา้ อาหารกลางวนั ประจ้าวันพธุ
5. ปฏบิ ัตหิ น้าที่ครูเวรนอน ดแู ลนักเรยี นพกั นอนหญิง
6. ปฏิบตั ิหนา้ ที่ผรู้ ับผิดชอบโครงการพัฒนางานการเงินและพสั ดุ
7. ปฏิบตั ิหน้าท่ีผูร้ ับผิดชอบกิจกรรมการท้าแผนปฏิบตั ิการประจา้ ปี
8. ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีผูร้ บั ผิดชอบโครงการเสรมิ สร้างและพัฒนาโรงเรยี นคุณธรรม
9. ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีผู้รับผิดชอบโครงการชุมชนสัมพนั ธ์
10. ปฏบิ ัติหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการสหกรณ์
11. ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายอ่นื ๆ ตามคา้ สัง่ ของโรงเรียน
1.3 ความสามารถพิเศษ
1. ดา้ นงานฝมี ือ งานประดษิ ฐ์ การทา้ อาหาร
1.4 ผลงาน ทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ัติหนา้ ท่ใี นตาแหน่งปจั จบุ ัน (ในระยะ 1 ป)ี
1. ผลที่เกิดจากการจดั การเรียนรู้
ได้ด้าเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน โดยร่วมกับคณะครูจัดท้าหลักสูตรสถานศึกษา
ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาตอนต้น วิเคราะห์หลักสูตร จัดท้าแผนการจัดการเรียนรู้ และน้า
แผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญ ให้ผู้เรียนได้
เรียนรู้ลงมือปฏิบัติจริง มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริงโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย โดยใช้แฟ้มสะสม
ผลงาน ชินงาน แบบฝึก โดยการวัดผลประเมินผลดังกลา่ วครอบคลุมทกุ ๆ ดา้ น ไดแ้ ก่ ด้านความรู้ การปฏบิ ัติ
ทกั ษะกระบวนการและคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ทังนีเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียนทัง 4 ด้าน ได้แก่
ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา และมีคุณธรรม จริยธรรม ทังนีเพ่ือให้นักเรียนมี
พัฒนาการที่ดี มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ตลอดจนมีการบันทึกหลังการจัดกิจกรรมการสอนอย่างสม่้าเสมอ
ทังนเี พือ่ จะไดช้ ว่ ยแกไ้ ขข้อบกพร่องใหก้ บั นกั เรียนทมี่ ีปัญหา
2. ผลทเี่ กดิ จากการพัฒนาวิชาการ
ส่งผลใหต้ นเองมีความรู้ ทกั ษะ น้ามาพัฒนาผู้เรียนในทกุ ดา้ น รวมถึงด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความมี
วนิ ัยในตนเอง ตลอดจนไดร้ ่วมพัฒนากับบุคลากรในโรงเรียน มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัตกิ าร ขยายผลการเข้า
ร่วมการอบรมเพ่ือเพ่ิมพูนความรู้ในงานต่าง ๆ ที่ทางต้นสังกัดจัดขึนและหน่วยงานต่าง ๆ โรงเรียนมีการ
เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดขี นึ โดยบุคลากรในโรงเรยี นและโรงเรยี นเปน็ ท่ียอมรบั ของบุคคลทั่วไปและหน่วยงาน
ท่ีเกี่ยวข้อง โดยมีการเผยแพร่ผลงานทางด้านวิชาการ นอกจากนันโรงเรียนยังสนับสนุนและส่งเสริมให้
บุคลากรได้พฒั นาสอื่ และนวตั กรรม เพื่อการนา้ มาใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนต่อไป
3. ผลท่ีเกดิ กับผเู้ รียน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญ มีการให้นักเรียนได้ฝึกการปฏิบัติจริง
เพื่อให้นักเรยี นได้มที ักษะต่าง ๆ ความรู้ ตลอดจนสอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมท่ีดีงาม ความมีวินัยในตนเอง
ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะ มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย มี
ความสามารถในการใช้ภาษาในการสื่อสาร และมีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ซึง่ เป็นสิง่ ที่ผูเ้ รยี นสามารถ
น้าความรู้ความเข้าใจและทักษะไปบูรณาการและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ้าวัน เป็นการเพ่ิมพูนสมรรถนะ
ตนเองให้มากขึนและส่งผลให้การใช้ชวี ติ บนพนื ฐานคณุ ธรรม น้าความรู้ และเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตลอดจนการ
อยู่ร่วมกบั ผู้อนื่ ในสังคมได้อย่างมคี วามสุข
4. ผลที่เกิดกับสถานศกึ ษา
จากการที่สถานศึกษามีการวางแผนปฏบิ ตั ริ าชการในการพัฒนา มเี ป้าหมาย มที ิศทางในการดา้ เนินงาน
เพื่อพัฒนาสถานศึกษาและพัฒนานักเรียน โดยมีการจัดกิจกรรม โครงการต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธ รรม ซ่ึง
นักเรียนและครูมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม มีการจัดบรรยากาศทังในและนอกห้องเรียนให้เอือต่อการ
เรียนรู้ มีการนิเทศติดตามผลการปฏิบัติงานของครู ท้าให้การปฏิบัติงานมีความสมบูรณ์และเป็นไปตาม
เป้าหมายท่ีก้าหนด มีระบบการทา้ งานเปน็ ทมี มกี ารพัฒนางานท่ีเปน็ ระบบครบวงจร ท้าให้ผลการด้าเนินงาน
เป็นทย่ี อมรบั จากผปู้ กครอง ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่
นอกจากนี สถานศึกษายงั ได้รับการยอมรับจากผูป้ กครองและชุมชนในด้านการดูแลเอาใจใสข่ องครูท่ีมี
ตอ่ นักเรียนในด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การดูแลด้านพฤติกรรม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ด้าน
กริ ิยา มารยาท ความมวี นิ ยั ในตนเองและความรับผิดชอบ
5. ผลท่ีเกิดกับชมุ ชน
สถานศึกษามีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดปีการศึกษา โดยเฉพาะกิจกรรม
ที่เก่ียวกับวัฒนธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประเพณีลอย
กระทง ประเพณีสงกรานต์ กิจกรรมเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา การทอดผ้าป่า ทอดกฐิน
งานสรงน้าพระธาตดุ งคา้ เป็นต้น ตลอดจนกจิ กรรมที่เป็นประโยชน์ กจิ กรรมวันสา้ คัญ ได้แก่ กจิ กรรมวันแม่
กจิ กรรมวันพ่อ กจิ กรรมส่งเสริมภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ จนทา้ ให้เกิดความร่วมมือ ความเข้าใจที่ดีต่อกนั เกดิ ความ
รักและความภาคภูมิใจในโรงเรียนและท้องถิ่น นอกจากนีโรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมการประชุมผู้ปกครองทุก
ภาคเรียน ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐานในแต่ละภาคเรียน เพ่ือชีแจงนโยบายของโรงเรียนและ
เพ่ือหาแนวทางในการร่วมพัฒนาโรงเรียนทังพัฒนาอาคารสถานที่และพัฒนาทางวิชาการให้เป็นไปในทาง
ทศิ ทางเดยี วกัน
1.5 ประวตั กิ ารเข้ารบั การพฒั นาตนเอง ในรอบ 2 ปีท่ีผ่านมา (ปี พ.ศ. 2564 - 2565)
ท่ี รายการทไ่ี ด้รบั การพฒั นา สมรรถนะ วัน เดอื น ปี จานวน ห น่ ว ย ง า น ท่ี หมาย
ที่พฒั นา ในการพัฒนา ชว่ั โมง เหตุ
ดาเนินการ
เรม่ิ ตน้ สินสุด การ พฒั นา
พัฒนา
1 การจดั การเรยี นการสอนออนไลนย์ ุคปกติ การพฒั นา 21 21 6 ช่ัวโมง สนง.
ใหม่ : มมุ มองของผูบ้ ริหาร นกั วชิ าการ ตนเอง พ.ค. พ.ค. คณะกรรมการ
และครู ในหัวขอ้ การส่งเสรมิ ศกั ยภาพการ 64 64 การศกึ ษาขัน
เรียนรดู้ ้วยส่อื วดิ โี อออนไลน์และห้องเรียน พืนฐาน
กลบั ดา้ นด้วยวดิ โี อแบบมีปฏิสัมพันธ์
2 ประชมุ เพื่อสร้างความเข้าใจและอบรมเชงิ การพัฒนา 26 26 6 ชว่ั โมง กสศ.
ปฏบิ ตั ิการเพอื่ พฒั นาทักษะการ PLC ท่ีมี ตนเอง พ.ค. พ.ค.
ประสิทธิภาพส้าหรบั โรงเรยี นในโครงการ 64 64
พัฒนาโรงเรยี นในพนื ท่ีหา่ งไกล ภาคเหนือ
กลุ่มจังหวดั เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน
3 การประชุมเชิงปฏบิ ัติการ พฒั นาทักษะ การพฒั นา 10 10 6 ชว่ั โมง กสศ.
(PLC With Growth Mindset) ท่ี ตนเอง ธ.ค. ธ.ค.
สอดคลอ้ งกบั ว.PA ส้าหรับโรงเรยี นใน 64 64
พืนทีห่ า่ งเพือ่ สรา้ งโอกาสทางการศึกษา
โครงการครูรกั (ษ์)ถิน่ ภาคเหนือ จังหวดั
เชยี งใหม่ จังหวัดแมฮ่ ่องสอน
4 การอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารและทดลองกรอก การพัฒนา 8 ม.ี ค. 8 ม.ี ค. 6 ช่วั โมง มหาวิทยาลัย
ข้อมูลคุณภาพตามกรอบมาตรฐานขนั ตนเอง 65 65 ธรุ กิจบัณฑิตย์
พนื ฐาน (Fundamental School Quality
Levels : FSQL) โรงเรยี นในภาคเหนือ
5 อบรมออนไลน์ในระบบ E – learning การพฒั นา 17 17 6 ชว่ั โมง สพป.เชยี งใหม่
CME2 หลกั สูตร การพฒั นาทักษะการ ตนเอง เม.ย. เม.ย. เขต 2
แกป้ ญั หาตามแนวทางการประเมินของ 65 65
PISA ด้านการร้เู รอ่ื งคณติ ศาสตร์
ส่วนท่ี 2 ข้อมลู ความตอ้ งการในการพฒั นา (กรอกขอ้ มลู ให้ครบถว้ น ตามความเปน็ จรงิ )
2.1ประเภทหลักสตู รทต่ี อ้ งการพัฒนา (สามารถเลอื กได้มากกวา่ 1 หลกั สูตร หรอื ระบหุ ลักสตู รอนื่ ๆ)
( ) การสอนในศตวรรษท่ี21
( / ) การแกป้ ัญหาผู้เรียน
( / ) จติ วิทยาการแนะแนว/จิตวทิ ยาการจดั การเรียนรู้
( ) การจดั การชนั เรียน
( / ) การวิจยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชีพ
( ) การพฒั นาหลักสูตร
( ) สะเตม็ ศึกษา (STEM Education)
( / ) การใช้สือ่ และเทคโนโลยีในการจดั การเรียนรู้
( ) การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
( / ) การออกแบบการเรียนรู้
( ) ทกั ษะภาษาอังกฤษ
( / ) ทักษะดา้ นเทคโนโลยดี ิจทิ ัล
( ) การจัดการเรียนการสอนเพ่ือฝึกทกั ษะการคิดแบบมเี หตุผลและเปน็ ขันตอน หรอื Coding
( / ) อื่นๆ (ระบ)ุ
- กระบวนการ PLC (Professional Learning Community)
- การจดั กระบวนการเรียนการสอนแบบ Active learning
2.2รปู แบบวิธีการท่ีพัฒนา (สามารถเลอื กไดม้ ากกวา่ 1 วธิ กี าร หรอื อืน่ ๆโปรดระบุ)
( / ) รบั การฝกจากการปฏิบัตงิ าน (On the Job Training)
( ) รับการสอนงาน (Coaching) จากผมู้ ีประสบการณ์
( ) รบั การฝึกปฏิบัติโดยระบบพี่เลียง (Mentoring)
( ) รบั การใหค้าปรึกษาแนะนา้ (Consulting) จากผูเ้ ชยี่ วชาญ
( ) การหมนุ เวียนงาน (Job Rotation) ภายในหนว่ ยงาน / การใหปฏบิ ัติงานในหนวยงานอนื่
( / ) การเขารวมประชุม / สมั มนา (Meeting / Seminar) จากหนว่ ยงานต้นสังกัด
( / ) การเขารวมประชมุ / สัมมนา (Meeting / Seminar) จากหนว่ ยงานภายนอก
( / ) การดงู านนอกสถานที่ (Site Visit)
( ) การฝกงานกบั ผูเช่ยี วชาญ (Counterpart)
( ) การมอบหมายงาน (Job Assignment)
( ) การติดตามหัวหนา (Work Shadow)
( / ) การเรยี นรูดวยตนเอง (Self-Learning)
( ) การเปนวิทยากรภายในหนวยงาน (In-House Instructor)
( ) อ่นื ๆ (ระบ)ุ ...................................................................................................
2.3รายละเอยี ดจาเพาะหลักสตู รทต่ี อ้ งการพัฒนา (ลาดับแรก) ภายในปีการศึกษา 2565
(แหลง่ ข้อมลู จากประกาศรายช่ือหลกั สูตรท่ไี ด้รับการรับรองจากสถาบันคุรพุ ัฒนา หรือ ก.ค.ศ.หรือ สพฐ.
หรือ หลักสูตรการพฒั นาอน่ื จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน)
2.3.1รายละเอียดหลกั สูตรใดท่ที า่ นต้องการพัฒนา (ระบุชื่อหลักสูตร /รายละเอยี ดเฉพาะ /
แหลง่ พฒั นา ฯลฯ)
กระบวนการ PLC (Professional Learning Community)
การจดั กระบวนการเรยี นการสอนแบบ Active learning
2.3.2 เพราะเหตใุ ดท่านจงึ ต้องการเข้ารบั การพัฒนาในหลักสตู รนี
เพ่อื เป็นแนวทางในการจดั การเรยี นการสอน หรือจัดกิจกรรมเสรมิ ใหก้ ับนกั เรียนท่ีมีความพร้อม ก้าว
ทนั กับสถานการณใ์ นปัจจบุ นั เพื่อเป็นการมงุ่ ให้นักเรียนไดเ้ รยี นรู้รอบด้านอยา่ งสรา้ งสรรค์ มคี วามสุข ตลอดจน
ทกั ษะการเรียนรู้ การคิด และการใช้ชวี ิตประจ้าวันได้
2.3.3ท่านคาดหวงั สิง่ ใดจากการเขา้ รบั การพฒั นาในหลกั สตู รนี
ไดร้ บั ความรู้ ทักษะและแนวทางด้าเนนิ การเพือ่ สร้างสรรคก์ จิ กรรม และการด้าเนนิ กิจกรรม เพอ่ื
น้าไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนอ์ ยา่ งสูงสดุ กับผู้เรียนต่อไป
2.3.4ท่านจะนาความรจู้ ากหลกั สูตรไปพฒั นาการสอนของทา่ นอยา่ งไร
น้าความรู้ ทักษะและแนวทางดา้ เนินการเพือ่ สร้างสรรค์กิจกรรม และดา้ เนินกิจกรรม มาปรับใช้ใน
การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนในระดบั ชนั ประถมศึกษา เพอื่ นา้ ไปใช้ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์อย่าง
สงู สดุ กบั ผู้เรยี นต่อไป
ส่วนที่ 3 รายละเอยี ดแผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ประจาปกี ารศกึ ษา 25
(ชือ่ /สกุล) นางสาวนฤมล มธุ ะจติ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ชานาญการพ
ท่ี สมรรถนะ หวั ขอ้ / รปู แบบ วธิ ีการพัฒนา
ทจี่ ะ ประเด็น
พฒั นา การพัฒนา
***
1. การจดั การ อบรมเชิง - ศึกษาเป้าหมายการจัดการศึกษา หลักสูตร ระ
เรยี นรู้ ปฏิบัตกิ าร จิตวทิ ยา ทักษะการคดิ และผเู้ รยี น
- ศึกษาและวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช
ประถมศกึ ษาปที ี่ 3
- พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นกระบวนการ
วิเคราะห์เนือหาสาระ ท้าแผนการจัดการเรียนรู้ท
สร้างเคร่ืองมือวัดและประเมินผลตามสภาพจริง
คุณธรรมและชินงาน
- น้าแผนการจัดการเรยี นรูไ้ ปจัดการเรยี นการสอน เ
เป็นระบบและวเิ คราะห์ผลการเรียนเชิงสถติ ิ รายงาน
การสอน และแกไ้ ขปญั หาจากการจัดการเรยี นร้ดู ้วย
การทา้ วิจัยในชันเรยี น
- การสรา้ งสือ่ การสอน
- จัดทา้ วิจยั ในชนั เรียนเพื่อพัฒนานกั เรียน
565
พิเศษ โรงเรยี น ชุมชนบา้ นนาดบิ
ระยะเวลาการพัฒนา แหลง่ ผลทีค่ าดวา่ จะ หมาย
เร่ิมตน้ สนิ สดุ ไดร้ บั เหตุ
พัฒนา
/แหลง่ - นกั เรียนเกิดการ
เรียนรทู้ เี่ หมาะสม
เรียนรู้ ตรงตาม
จุดประสงค์
ะบบการเรียนการสอน ปีการศกึ ษา ปกี ารศึกษา หนว่ ยงาน สามารถศกึ ษาได้
2565 2565 ตน้ สงั กดั ด้วยตวั เอง
- นกั เรียนมีแหล่ง
ชีวัด รายวิชาในระดับชัน เรยี นรูท้ ่ี
หลากหลาย
รคิด ท้าหน่วยการเรียน - ครไู ด้พัฒนา
ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญ ตนเอง
งทังด้านความรู้ ทักษะ
เก็บรวบรวมขอ้ มลู ให้
นผลโดยการบนั ทึกหลงั
ย
ท่ี สมรรถนะ หัวขอ้ / รูปแบบ วิธกี ารพฒั นา
ที่จะ
ประเดน็
พัฒนา การพัฒนา
***
2. การพฒั นา อบรมเชงิ - ศึกษาคุณธรรม การจัดกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน การ
ผเู้ รียน ปฏิบัตกิ าร ระบบดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน
- จดั กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน การซ่อมเสรมิ
(1) จัดกจิ กรรม Home Room
(2) กวดขนั พฤตกิ รรมเบย่ี งเบนและด้าเนนิ การแก้ไข
(3) กจิ กรรมซ่อมเสริม
(4) เย่ยี มบา้ นนกั เรยี น
- ตดิ ตาม สงั เกต สัมภาษณ์ การตรวจสอบ
- การประเมิน การจดั กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียนและตร
ๆ
- ดา้ เนินกิจกรรมชุมชนแหง่ การเรียนรูท้ างวิชาชีพ (P
- สง่ เสริมและพฒั นานกั เรยี นส่กู ารแขง่ ขนั ทักษะทาง
3. การ อบรมเชิง - จัดบรรยากาศชันเรียนใหเ้ ปน็ ศนู ยก์ ารเรยี น มมี ุมห
บริหาร ปฏบิ ตั กิ าร - สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ เนน้ การปฏิสมั พนั ธ์ เร
จัดการชัน ส่วนร่วม แบบร่วมมือร่วมใจ(Cooperative learnin
เรยี น ตนเองท่ีสอดคลอ้ งสัมพันธก์ บั แผนการจดั การเรียนร
ระยะเวลาการพัฒนา แหลง่ ผลที่คาดวา่ จะ หมาย
พฒั นา ไดร้ บั เหตุ
เรม่ิ ตน้ สินสดุ /แหล่ง
- นั ก เ รี ย น มี
เรียนรู้ คณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์และผ่าน
รพัฒนาทกั ษะชีวติ และ ปกี ารศึกษา ปกี ารศกึ ษา หน่วยงาน กิจกรรมพัฒ นา
2565 2565 ต้นสงั กดั ผเู้ รียน
- นกั เรยี นความ
ขปรบั ปรงุ ความสามารถ
และทักษะทาง
รวจสอบแบบบนั ทกึ ตา่ ง วิชาการ
PLC) เพือ่ พฒั นาผู้เรยี น ปีการศึกษา ปีการศกึ ษา หน่วยงาน - บรรยากาศชัน
งวชิ าการ 2565 2565 ตน้ สังกดั
เรยี นที่ดมี ผี ลต่อ
หนงั สือ ปา้ ยนิเทศ มุมสอ่ื การเรียนรู้
รียนแบบกล่มุ แบบมี
ng) และเรียนด้วย - การ
รู้ เตรียมพร้อมทา้
ให้มีเอกสารวิชาท่ี
ทา้ การสอนที่
สมบรู ณ์
สมรรถนะ หวั ขอ้ / รูปแบบ วธิ กี ารพัฒนา
ท่ี ท่ีจะพฒั นา ประเดน็ การ
- จัดทา้ ขอ้ มูลชันเรียน สารสนเทศ ทา้
*** พฒั นา เอกสารหลักสูตร เชน่ แบบบันทกึ
พฤตกิ รรม
4. การมุ่ง อบรมเชิง - การประเมิน ผลงานนักเรยี นและ
ผลสัมฤทธ์ิ ปฏบิ ัตกิ าร หอ้ งเรยี น
- จดั กจิ กรรมการเรียนร้ทู ่ีเน้นผเู้ รียนเปน็
5. การพัฒนา อบรมเชิง ส้าคัญ
ตนเอง ปฏบิ ัติการ - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเนน้ ใหผ้ เู้ รียน
ไดป้ ฏบิ ัติจริง
- จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ส่อื
นวัตกรรมท่นี า่ สนใจทังทางเทคโนโลยี
และแหล่งเรียนรู้
- จัดกระบวนการเรียนการสอนแบบ
Active learning
- เข้ารับการอบรม สัมมนาที่หน่วยงาน
ต้นสังกัด หน่วยงานอนื่ ๆจดั ขึน
- แลกเปล่ียนเรียนรู้กับบุคลากรใน
โรงเรียน
- เข้ารับการพัฒนาตนเองตามความ
สนใจ ปกี ารศกึ ษา 2565
- ศึกษาเอกสาร ผลงานทางวิชาการจาก
ต้ารา วารสาร
ระยะเวลาการพฒั นา แหล่งพฒั นา ผลทคี่ าดวา่ จะได้รับ หมาย
เร่มิ ตน้ สนิ สุด /แหลง่ เรยี นรู้ เหตุ
ปกี ารศึกษา ปีการศึกษา หนว่ ยงานต้น - ผูเ้ รียนเกดิ ความสนใจ ตงั ใจ มี
2565 2565 สงั กดั
ความกระตอื รือรน้ ทจ่ี ะเรียนรู้
- เกิดความรู้ความเข้าใจอยา่ งถาวร
- มีผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นทด่ี ีขึน
- มีทกั ษะในการปฏบิ ัติกิจกรรมตาม
ศักยภาพของแต่ละบคุ คล
ปกี ารศกึ ษา ปีการศกึ ษา หนว่ ยงานตน้ - ตนเองเปน็ ผูม้ ีคุณภาพ ไดร้ ับการ
2565 2565 สังกดั
พฒั นาไปในทิศทางที่ดขี นึ สง่ ผลและ
เกดิ ประโยชนต์ อ่ ผูเ้ รียน โรงเรยี น
สมรรถนะ หัวขอ้ /
ท่ี ทจ่ี ะพัฒนา ประเด็นการ รปู แบบ วธิ ีการพฒั นา
*** พฒั นา
- ดา้ เนนิ การชุมชนการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ
(PLC)
- สืบค้นความรู้ทางอนิ เตอรเ์ นต็
6. การวเิ คราะห์ อบรมเชงิ - ศกึ ษาขันตอนการทา้ วิจยั ในชันเรยี น
สงั เคราะหแ์ ละ ปฏิบตั กิ าร - ศึกษาปญั หาทีเ่ กิดจากการจัดการเรยี น
การวิจัยเพอื่ การสอน
พัฒนาผ้เู รยี น - จัดท้าวิจัยในชันเรียนเพ่ือแก้ปัญหา
ตลอดจนพัฒนาผ้เู รียน
7. การท้างานเปน็ อบรมเชงิ - ร่วมกิจกรรมทเ่ี น้นการทา้ งานเป็นทมี
ทีม ปฏบิ ตั กิ าร - ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพ่ือน
ร่วมงาน โดยรู้จักการเป็นผู้ให้และผู้รบั ท่ี
ดี
- มีความสามัคคใี นหมู่คณะ
- ด้าเนนิ กิจกรรมชุมชนการเรยี นรู้ทาง
วิชาชพี (PLC)
ระยะเวลาการพัฒนา แหลง่ พฒั นา ผลทีค่ าดวา่ จะไดร้ บั หมาย
เรม่ิ ตน้ สินสดุ /แหลง่ เรียนรู้ เหตุ
ปกี ารศกึ ษา ปีการศกึ ษา หน่วยงานตน้ - ครมู คี วามรูค้ วามสามารถในการ
2565 2565 สังกดั
เขียนผลงานทางวชิ าการและวจิ ยั ใน
ชันเรยี นแบบงา่ ยได้
- ผู้เรยี นไดร้ ับการแก้ปญั หาท่ีถกู วิธี
โดยครทู า้ การวิจยั ในชันเรยี น
- ครมู กี ารท้าวิจัยในชนั เรยี นอยา่ ง
ต่อเนื่อง
ปีการศึกษา ปกี ารศกึ ษา หน่วยงานตน้ - เกิดความสามัคคใี นหมู่คณะ
2565 2565 สงั กัด
- ส่งผลใหก้ ารด้าเนินงานตา่ ง ๆ
บรรลผุ ลสา้ เรจ็ ตลอดจนการมี
ความสขุ ในการปฏบิ ัตงิ าน
ท่ี สมรรถนะ หัวขอ้ /ประเด็น รูปแบบ วิธกี ารพฒั นา
ที่จะพฒั นา *** การพฒั นา
8. วนิ ยั คณุ ธรรม อบรมเชิง - เข้ารับ การอ บรมพั ฒ น าด้าน คุณ
จรยิ ธรรมและ ปฏิบตั กิ าร จริยธรรม
จรรยาบรรณ - เข้าร่วมกิจกรรมค่ายคุณธรรมท่ีโรงเ
วชิ าชีพ ขนึ
- สวดมนต์ ไหวพ้ ระ ทา้ บุญทุกวันพระ
- ด้ารงชีวิตโดยยึดหลักปรัชญ าเศร
พอเพียง
- ปฏิบัติตนตามกฎของโรงเรียน
- อทุ ศิ เวลาใหก้ บั นกั เรียน/โรงเรียน
- มีจิตสาธารณะ
- ประพฤติปฏิบตั ติ นในวิชาชพี โดยรักแล
ศรทั ธาในวชิ าชพี ของตนเอง โดยมวี นิ ยั ใ
ตนเอง
9. การบริการท่ดี ี อบรมเชงิ - ให้ค้าปรกึ ษาแก่ นกั เรียน ผปู้ กครอง
ปฏบิ ตั กิ าร - ใหบ้ ริการนกั เรียน เชน่ การสอนซ่อมเ
- ให้บรกิ ารผปู้ กครอง เช่น การเยี่ยมบ้า
- ให้ บ ริก ารเพ่ื อ น ร่ว ม งาน เช่ น
คา้ ปรึกษา
- ให้บริการทางวิชาการแก่ครูและบ
ทางการศึกษาทงั ในโรงเรียนและนอกโร
- ให้บริการทางวิชาชีพเผยแพร่ผลงาน
ออนไลน์
ระยะเวลาการพัฒนา แหลง่ พฒั นา ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ บั หมายเหตุ
/แหล่งเรยี นรู้
ณธรรม เริม่ ตน้ สินสุด - ตนเองเป็นผู้ทมี่ ี
เรียนจัด หน่วยงานต้นสงั กัด คุณธรรม จรยิ ธรรม
ปีการศกึ ษา ปีการศึกษา - มวี นิ ัย มีความ
ร ษ ฐ กิ จ 2565 2565 รบั ผดิ ชอบ
- มคี วามก้าวหน้าใน
วิชาชีพ
- มีความภาคภูมใิ จใน
ความเปน็ ครู
ละ
ใน
ปกี ารศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา หน่วยงานต้นสังกัด - เกดิ ผลดตี อ่ เพอื่ น
2565 2565
เสริม รว่ มงานในโรงเรียน
าน และตา่ งโรงเรยี น เพอื่
ก ารให้ นา้ มาพัฒนาการเรยี น
การสอน
บุคลากร
รงเรยี น
นผ่านส่ือ
ท่ี สมรรถนะ หัวข้อ/ประเดน็ รูปแบบ วิธีการพัฒนา
ท่จี ะพฒั นา *** การพฒั นา
10. การสรา้ งความ อบรมเชงิ - เข้าร่วมการประชุมผู้ปกครอง /กร
รว่ มมอื กบั ชมุ ชน ปฏิบตั กิ าร สถาน ศึกษาเพื่อรับทราบ นโยบา
ทางการจดั กิจกรรมของสถานศึกษา
- เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนทังงานป
และกิจกรรมที่เป็นประโยชน์
- ใหค้ วามรว่ มมือแก่ชมุ ชน
- ขอความร่วมมอื จากชุมชนบางโอกาส
- เย่ยี มบ้านนักเรียน
ลงชื่อ........................................................................
(นางสาวนฤมล มธุ ะจิต)
ผู้จัดท้าแผนพัฒนาตนเอง
ระยะเวลาการพัฒนา แหล่งพัฒนา ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั หมายเหตุ
เริ่มต้น สนิ สดุ /แหลง่ เรยี นรู้
รรมการ ปีการศึกษา ปกี ารศึกษา - ชมุ ชนให้ความ
ย แน ว 2565 2565 หนว่ ยงานต้นสังกดั ร่วมมอื ในกิจกรรมตา่ ง
ๆท่สี ถานศกึ ษาจดั ขนึ
ประเพณี อย่างเตม็ ใจ
- ชมุ ชนมคี วามพึง
พอใจในกิจกรรมท่ี
ผู้เรียน และ
สถานศึกษาจดั ขึน
ความเหน็ ของผบู้ งั คับบัญชา
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ........................................................................
(ว่าทีร่ ้อยตรีกิตติพงษ์ ทินแย่ง)
ผ้อู ้านวยการโรงเรียนชมุ ชนบ้านน้าดิบ
คาอธิบาย(เพ่มิ เตมิ )
1. แผนพัฒนาตนเอง สามารถจา้ แนกเป็น แผนการพฒั นาด้วยตนเอง , แผนการพัฒนาตนเองรว่ มกบั
บคุ ลากรภายในและภายนอกสถานศกึ ษา , แผนการขอรบั การสนบั สนนุ การพัฒนาจากหนว่ ยงาน
2. แนวทางการกาหนดแผนการพฒั นา ตามแบบฟอรม์ ID Plan
2.1 การวเิ คราะหผ์ ลการประเมนิ สมรรถนะของครผู ู้สอน เพอ่ื นา้ มาก้าหนดเป็นแผนการพฒั นา หรือ
การวางแผนพัฒนา ขึนอยกู่ ับความตอ้ งการของครผู ูส้ อน และ/หรอื นโยบายการพฒั นาการจดั การ
เรียนการสอนของสถานศกึ ษานนั ๆ
2.2 เลอื กสมรรถนะทต่ี อ้ งการหรอื มคี วามจา้ เปน็ ต้องพฒั นามากทีส่ ุด เรยี งตามล้าดบั บันทึกในช่อง
“สมรรถนะทต่ี ้องการพฒั นา”
2.3 ครผู ู้สอนศึกษารายละเอยี ดในแต่ละสมรรถนะ ว่ามีความจ้าเป็นหรือตอ้ งการพัฒนาในดา้ นใด เพ่ือ
กา้ หนดความตอ้ งการและสืบคน้ หลักสูตร หรอื ประเด็นทค่ี วรพฒั นา ในแตล่ ะสมรรถนะนันๆ
2.4 ศึกษาข้อมลู หลกั สูตร หวั ข้อ หรือประเด็นตอ้ งการพฒั นา จากประกาศรายชอื่ หลักสูตรการพัฒนาท่ี
ผา่ นการรบั รองจาก สถาบันครุ พุ ฒั นา / ก.ค.ศ หรือ สพฐ. หรอื จากหนว่ ยงานภายใน ภายนอกที่
ประชาสมั พนั ธข์ ้อมูลการอบรมพฒั นาต่างๆ หรอื สืบค้นด้วยตนเอง และบนั ทึกในชอ่ ง “หวั ขอ้
หรอื ประเด็นการพัฒนา”
2.5 ผ้สู อน สามารถวางแผนกา้ หนดแนวทางหรือวธิ ีการพัฒนาได้ หลากหลายรปู แบบ รายละเอียด
ประเภทแนวทางและวิธกี ารพัฒนา ในรายละเอียด “คมู่ ือการประเมนิ ตนเองและการจดั ทา
แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล” ระบใุ นชอ่ ง “รูปแบบ/วธิ กี ารพฒั นา”
2.6 ผสู้ อน วางแผนกา้ หนดระยะเวลาการพฒั นาตนเอง ในชอ่ งระยะเวลา “เริ่มต้น และสินสดุ ”
อาจจะกา้ หนดเปน็ ชว่ งเดือนทีจ่ ะพัฒนา
2.7 ผู้สอนระบุ แหลง่ ทใ่ี ห้ความรู้ หรือสถานทใ่ี นการพัฒนา โดยระบุในช่อง “แหลง่ พฒั นาหรอื แหล่ง
เรียนรู้” ในการพฒั นาตนเองหลกั สูตรหรอื หวั ขอ้ ต่างๆ ซง่ึ อาจจะเป็นสถานที่ หน่วยงาน สถาบนั
บคุ คล
2.8 “ผลทีค่ าดวา่ จะได้รับ” คอื ความคาดหวงั ท่จี ะได้รับจากการพฒั นาตนเองตามหลักสูตรและ
ประเด็นตา่ งๆ ไม่วา่ จะเปน็ ผู้ตอ่ ความกา้ วหน้าของผู้พัฒนาฯ , ผลตอ่ สถานศกึ ษา ต่อผู้เรยี น ตอ่
การจดั การการเรียนการสอน หรอื การพฒั นาส่งผลตอ่ ผอู้ น่ื ท่เี กย่ี วขอ้ ง เปน็ ต้น
2.9 ครผู ู้สอน อาจระบแุ หลง่ งบประมาณท่คี าดวา่ จะได้รบั ในช่อง “หมายเหตุ” เพื่อสนับสนนุ การ
พฒั นาตนเองในแตล่ ะหวั ขอ้ ได้ ซึง่ สถานศกึ ษาบางแห่ง ได้ก้าหนดแผนการพฒั นาบคุ ลากร ไวใ้ น
แผนปฏบิ ัตริ าชการประจา้ ปี อยแู่ ลว้ หรือ เปน็ แผนของครูผ้สู อนทตี่ งั เป้าหมายไวว้ ่าจะขอรบั การ
สนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานอ่นื ๆเพอ่ื พฒั นาตนเอง
3. ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั สมรรถนะข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน
1. สมรรถนะหลกั (Core Competency) ประกอบดว้ ย 5 สมรรถนะ คือ
1.1 การมุ่งผลสัมฤทธ์ิในการปฏิบัติงาน (Working Achievement Motivation) หมายถึง ความ
มุ่งม่ันในการปฏิบัติงานในหน้าท่ีให้มีคุณภาพ ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ โดยมีการ
วางแผน กา้ หนดเป้าหมาย ตดิ ตามประเมินผลการปฏิบัตงิ าน และปรับปรงุ พัฒนาประสิทธิภาพและผลงาน อย่าง
ตอ่ เนอ่ื ง ประกอบด้วยตัวบ่งชี 3 ด้าน คือ
1.1.1 ความสามารถในการวางแผนการก้าหนดเปา้ หมาย การวเิ คราะห์สงั เคราะหภ์ ารกิจงาน
1.1.2 ความมุ่งมั่นในการปฏบิ ัติหน้าท่ี ใหม้ คี ณุ ภาพ ถกู ตอ้ ง ครบถ้วนสมบรู ณ์
1.1.3 ความสามารถในการตดิ ตามประเมินผลการปฏบิ ัติงาน
1.1.4 ความสามารถในการพฒั นาการปฏบิ ัตงิ านให้มปี ระสิทธิภาพอยา่ งตอ่ เนื่องเพ่ือให้งานประสบ
ความสา้ เร็จ
1.2 การบริการท่ีดี (Service Mind) หมายถึงความตังใจและความเต็มใจในการให้บริการ และการ
ปรับปรงุ ระบบบรกิ ารให้มีประสทิ ธภิ าพอย่างต่อเนื่อง ประกอบดว้ ยตวั บง่ ชี 2 ดา้ น คอื
1.2.1 ความตังใจและเตม็ ใจในการให้บริการ
1.2.2 การปรับปรงุ ระบบบริการใหม้ ปี ระสิทธภิ าพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รบั บรกิ าร
1.3 การพัฒนาตนเอง (Self- Development) หมายถึงการศึกษาค้นคว้า หาความรู้ ติดตามและ
แลกเปล่ียนเรียนรู้องค์ความรู้ใหม่ๆ ทางวิชาการและวิชาชีพ มีการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม เพื่อพัฒนา
ตนเอง และพัฒนางาน ประกอบดว้ ยตวั บ่งชี 3 ดา้ น คือ
1.3.1 การศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ ติดตามองค์ความรู้ใหม่ๆ ทางวชิ าการและวชิ าชีพ
1.3.2 การสร้างองคค์ วามรแู้ ละนวัตกรรมในการพฒั นาองคก์ รและวิชาชีพ
1.3.3 การแลกเปลย่ี นความคิดเห็น และสร้างเครือข่าย
1.4 การทางานเป็นทีม (TeamWork) หมายถึงการให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือ สนับสนุนเสริมแรงให้
ก้าลังใจแก่เพ่ือนร่วมงาน การปรับตัวเข้ากับผู้อื่นหรือทีมงาน แสดงบทบาทการเป็นผู้น้าหรือผู้ตามได้อย่าง
เหมาะสมในการท้างานร่วมกับผู้อื่น เพ่ือสร้างและด้ารงสัมพันธภาพของสมาชิก ตลอดจนเพื่อพัฒนาการจัด
การศึกษาให้บรรลผุ ลสา้ เรจ็ ตามเป้าหมาย ประกอบด้วยตัวบ่งชี 5 ดา้ น คือ
1.4.1 การใหค้ วามรว่ มมือ ช่วยเหลือและสนบั สนนุ เพื่อนรว่ มงาน
1.4.2 การเสริมแรงใหก้ ้าลังใจเพือ่ นร่วมงาน
1.4.3 การปรบั ตัวเขา้ กับกลุ่มคนหรือสถานการณ์ท่ีหลากหลาย
1.4.4 การแสดงบทบาทผู้นา้ หรอื ผู้ตาม
1.4.5 การเข้าไปมีส่วนร่วมกับผู้อ่ืนในการพัฒนาการจัดการศึกษาให้บรรลุผลส้าเร็จตาม
เปา้ หมาย
1.5 จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพครู (Teacher’s Ethics and Integrity) หมายถึงการ
ประพฤตปิ ฏิบัติตนถูกต้องตามหลักคุณธรรม จริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพครู เป็นแบบอย่างทดี่ ีแก่ผู้เรียน และ
สงั คม เพอ่ื สรา้ งความศรทั ธาในวชิ าชีพครู ประกอบด้วยตัวบง่ ชี 4 ด้าน คือ
1.5.1 ความรกั และศรัทธาในวชิ าชพี
1.5.2 มีวินัย และความรับผดิ ชอบในวิชาชีพ
1.5.3 การด้ารงชีวิตอย่างเหมาะสม
1.5.4 การประพฤตปิ ฏิบัติตน เปน็ แบบอยา่ งที่ดี
2. สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) ประกอบดว้ ย 6 สมรรถนะ คอื
2.1 การบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ (Curriculum and Learning Management)
หมายถึง ความสามารถในการสร้างและพัฒนาหลักสูตรการออกแบบการเรียนรู้อย่างสอดคล้องและเป็นระบบ
จัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญ ใช้และพัฒนาส่ือนวัตกรรมเทคโนโลยีและการวัด ประเมินผลการเรียนรู้
เพือ่ พัฒนาผ้เู รยี นอย่างมปี ระสิทธิภาพและเกิดประสทิ ธผิ ลสูงสุด ประกอบด้วยตวั บ่งชี 5 ด้าน คือ
2.1.1 การสร้างและพฒั นาหลกั สูตร
2.1.2 ความรู้ความสามารถออกแบบการจัดการเรียนรู้
2.1.3 การจดั การเรยี นรู้ที่เนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสา้ คญั
2.1.4 การใชแ้ ละพัฒนาส่อื นวัตกรรมเทคโนโลยีเพอ่ื การจดั การเรียนรู้
2.1.5 การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
2.2 การพัฒนาผู้เรียน (Student Development) หมายถึงความสามารถในการปลูกฝังคุณธรรม
จรยิ ธรรม การพัฒนาทักษะชีวติ สุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ความเป็นประชาธิปไตยความภูมิใจในความเป็นไทย
การจัดระบบดูแลช่วยเหลือผเู้ รยี นเพื่อพัฒนาผูเ้ รียนให้มีคุณภาพ ประกอบด้วยตัวบ่งชี 4 ดา้ น คือ
2.2.1 การปลกู ฝังคุณธรรมจริยธรรมใหแ้ ก่ผ้เู รยี น
2.2.2 การพฒั นาทักษะชวี ิต และสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตผู้เรยี น
2.2.3 การปลูกฝงั ความเปน็ ประชาธปิ ไตย ความภมู ิใจในความเป็นไทยให้กับผู้เรยี น
2.2.4 การจดั ระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน
2.3 การบริหารจัดการชันเรียน (Classroom Management) หมายถึง การจัดบรรยากาศการ
เรียนรู้การจัดท้าข้อมูลสารสนเทศและเอกสารประจ้าชันเรียน/ประจ้าวิชา การก้ากับดูแลชันเรียนรายชัน/
รายวิชา เพ่อื ส่งเสรมิ การเรียนร้อู ยา่ งมคี วามสุขและความปลอดภัยของผ้เู รยี น ประกอบด้วยตัวบง่ ชี 3 ด้าน คอื
2.3.1 จดั บรรยากาศท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ความสุขและความปลอดภยั ของผู้เรยี น
2.3.2 จดั ท้าข้อมลู สารสนเทศและเอกสารประจา้ ชนั เรียน/ประจา้ วิชา
2.3.3 กา้ กับดแู ลชันเรียนรายชัน/รายวชิ า
2.4 การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน (Analysis & Synthesis &
Classroom Research) หมายถึง ความสามารถในการท้าความเข้าใจ แยกประเด็นเป็นส่วนย่อย รวบรวม
ประมวลหาข้อสรุปอยา่ งมรี ะบบและน าไปใช้ในการวิจัยเพ่ือพัฒนาผูเ้ รียน รวมทังสามารถวิเคราะห์องค์กรหรือ
งานในภาพรวมและด้าเนนิ การแก้ปัญหา เพ่อื พฒั นางานอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วยตวั บ่งชี 3 ด้าน
2.4.1 การวเิ คราะห์
2.4.2 การสังเคราะห์
2.4.3 การวิจัยเพอ่ื พฒั นาผูเ้ รยี น
2.5 ภาวะผู้นาครู (Teacher Leadership) หมายถึงคุณลักษณะและพฤติกรรมของครูท่ีแสดงถึง
ความเก่ียวข้องสัมพันธส์ ่วนบุคคลและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกนั ทังภายในและภายนอกห้องเรยี นโดย
ปราศจากการใช้อทิ ธิพลของผู้บริหารสถานศึกษา ก่อให้เกิดพลังแห่งการเรียนรู้เพ่ือพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ให้มี
คุณภาพ ประกอบดว้ ยตัวบ่งชี 5 ด้าน
2.5.1 วุฒิภาวะความเปน็ ผู้ใหญท่ ีเ่ หมาะสมกบั ความเป็นครู
2.5.2 การสนทนาอยา่ งสร้างสรรค์
2.5.3 การเป็นบคุ คลแห่งการเปล่ียนแปลง
2.5.4 การปฏิบตั งิ านอย่างไตรต่ รอง
2.5.5. การมงุ่ พฒั นาผลสัมฤทธ์ิผเู้ รยี น
2.6 การสร้างความสมั พันธแ์ ละความร่วมมอื กับชุมชนเพอื่ การจัดการเรียนรู้ การสร้างความสมั พนั ธ์
และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้ (Relationship & Collaborative – Building for
Learning Management) หมายถึงการประสานความร่วมมือ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเครือข่ายกับ
ผู้ปกครอง ชุมชน และองค์กรอื่นๆ ทังภาครัฐและเอกชน เพ่ือสนับสนุนส่งเสริมการจดั การเรียนรู้ ประกอบด้วย
ตวั บ่งชี 2 ดา้ น
2.6.1 การสรา้ งความสมั พันธแ์ ละความร่วมมอื กับชุมชนเพอื่ การจดั การเรยี นรู้
2.6.2 การสรา้ งเครือข่ายความร่วมมอื เพอ่ื การจดั การเรยี นรู้
คาอธบิ ายวิธีการพัฒนาสมรรถนะ สญั ลกั ษณ์ และความหมาย
A: Active Learning (เรียนรูจ้ ากการปฏบิ ัต)ิ C: Coaching (การสอนงาน)
CE: Continuing Education (ศกึ ษาต่อ) E: Expert Briefing (พบผูเ้ ช่ยี วชาญ)
F: Field Trip (ศึกษาดงู าน) J: Job Swap (แลกเปล่ยี นงาน)
M: Mentoring (ติดตามโดยพเ่ี ลียง) JR: Jop Rotation (หมุนเวยี นงาน)
OJT: On the Job Training (สอนขณะปฏิบตั ิงาน) P: Project Assignment (มอบหมายงาน)
S: Self-Study (ศึกษาด้วยตนเอง) T: Training, Workshop (การฝึกอบรม/ประชมุ ปฏบิ ตั ิการ)