The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

จุดส่องพระสมเด็จวัดระฆังแท้ บนโลกเมตาเวิร์ส พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ เล่ม ๙<br>จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสที่ระลึกครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพ ๑๕๑ปี ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี (๒๒ มิถุนายน ๒๔๑๕ ) ได้สำนึกบุญคุณและน้อมรำลึกถึงท่าน อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม พระอมตะมหาเถราจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้สร้าง&quot;พระสมเด็จวัดระฆัง&quot; อันลือลั่นทั้งแผ่นดิน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suchartyai, 2023-07-02 09:13:59

จุดส่องพระสมเด็จวัดระฆังแท้ บนโลกเมตาเวิร์ส พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่

จุดส่องพระสมเด็จวัดระฆังแท้ บนโลกเมตาเวิร์ส พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ เล่ม ๙<br>จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสที่ระลึกครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพ ๑๕๑ปี ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี (๒๒ มิถุนายน ๒๔๑๕ ) ได้สำนึกบุญคุณและน้อมรำลึกถึงท่าน อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม พระอมตะมหาเถราจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้สร้าง&quot;พระสมเด็จวัดระฆัง&quot; อันลือลั่นทั้งแผ่นดิน

โดย ดร. สุชาติ มั่นคงพิทักษ์กุล


จุดส่อง พระสมเด็จวัดระฆังแท้ บนโลกเมตาเวิร์ส เล่ม ๙ พระสมเด็จวัดระฆัง โฆสิตาราม ในโอกาสวาระที่ระลึกครบ รอบวันคล้ายวันมรณภาพ ๑๕๑ ปี ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี


จุดส่องพระสมเด็จวัดระฆังแท้ บนโลกเมตาเวิร์ส เล่ม ๙ พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม โดย ดร.สุชาติ มั่นคงพิทักษ์กุล ประสานงาน : ดร.สุชาติ มั่นคงพิทักษ์กุล ปกและรูปเล่ม : ดร.สุชาติ มั่นคงพิทักษ์กุล ถ่ายภาพ : นายสุรชัย มั่นคงพิทักษ์กุล บรรณาธิการภาพ : สุรชัย มั่นคงพิทักษ์กุล กองบรรณาธิการ : ดร.สุชาติ มั่นคงพิทักษ์กุล สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. ๒๕๓๗ พิมพ์ครั้งแรก : ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖ พิมพ์ที่ : พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตา เวิร์ส สำนักงาน : พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี หาดใหญ่ เลขที่ ๑๐ ซอย ๓ ถนนประชายินดี อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา ๙๐๑๑๐ www.prasomdej.com Facebook :https://www.facebook.com/prasomdejgrphd Line : suchartyai โทร : ๐๘๑๖๙๘๕๑๑๓


อารัมภบท หนังสือ e-book พระสมเด็จวัดระฆังเล่มนี้ชื่อว่าจุดส่องพระสมเด็จวัดระฆังแท้ บนโลกเมตาเวิร์ส พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ เล่ม ๙ จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสที่ระลึกครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพ ๑๕๑ปี ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหม รังสี (๒๒ มิถุนายน ๒๔๑๕ ) ได้สำนึกบุญคุณและน้อมรำลึกถึงท่าน อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม พระ อมตะมหาเถราจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้สร้าง"พระสมเด็จวัดระฆัง" อันลือลั่นทั้งแผ่นดิน พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี บนเมตาเวิร์ส ให้ความสำคัญในวาระโอกาสครั้งนี้ จึงได้จัด โครงการหนังสือ ebook จุดส่องพระสมเด็จวัดระฆังแท้ บนโลกเมตาเวิร์ส พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ บน โลกจักรวาลนฤมิต ครั้งแรกในโลก และ ครั้งแรกในประเทศไทย ในครั้งนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ให้ความรู้การศึกษา พระสมเด็จวัดระฆังพิม์ใหญ่ บนโลกเมตาเวิร์ส โดยนำเสนอ บทเรียน จุดส่องพระสมเด็จวัดระฆังแท้ ๙ จุด พร้อมสาธิตบนพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ องค์จริง ของ ทางพิพิธภัณฑ์ฯ การศึกษาพระสมเด็จวัดระฆัง เป็นเรื่องไม่ยาก แต่จะบอกว่าง่ายมาก เดี๋ยวจะหาว่าโม้เกินไป คงเป็นการให้ กำลังใจผู้ที่มีจิตศรัทธาใน พระสมเด็จวัดระฆังของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ มากกว่า โดยเฉพาะนักสะสมและ นักอนุรักษ์พระสมเด็จหน้าใหม่ การศึกษาพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ การจะส่องพระสมเด็จวัดระฆังให้เก่ง ต้องรอบรู้และผ่านการส่องพระสมเด็จมาจำนวนมากพอสมควร ถ้าเป็น ระยะเวลาการศึกษาต้อง ๔๐ ปีขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ผ่านหูผ่านตามามาก ที่สำคัญต้องเข้าใจเรื่องมวลสารที่นำมา กดพิมพ์พระสมเด็จ การออกแบบแม่พิมพ์กับการแกะแม่พิมพ์ และกระบวนการกดพระสมเด็จวัดระฆัง กระบวนการลงรักดำปิดทองล่องชาด หนังสื้อ ebook เล่มนี้ หวังว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดให้กับนักสะสมและนักอนุรักษ์พระสมเด็จหน้าใหม่ ในการศึกษาพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ดร. สุชาติ มั่นคงพิทักษ์กุล ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี บนเมตาเวิร์ส โรงเรียนพระสมเด็จ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๖


จุดส่องพระสมเด็จวัดระฆังแท้ บนโลกเมตาเวิร์ส พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่( สุชาติ มันคงพิทักษ์กุล ่, ๒๕๖๖ ) การศึกษาพระสมเด็จวัดระฆัง เป็ นเรื่องไม่ยาก แต่จะบอกว่าง่ายมาก เดี๋ยวจะหาว่าโม้เกินไป คงเป็ นการ ให้กําลังใจผู้ที่มีจิตศรัทธาใน พระสมเด็จวัดระฆังของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ มากกว่า โดยเฉพาะนักสะสมและ นักอนุรักษ์พระสมเด็จหน้าใหม่ การศึกษาพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ การจะส่องพระสมเด็จวัดระฆังให้เก่ง ต้องรอบรู้และผ่านการส่องพระสมเด็จมาจํานวนมากพอสมควร ถ้าเป็ นระยะเวลาการศึกษาต้อง ๔๐ ปี ขึ้นไป ซึ่งจะทําให้ผ่านหูผ่านตามามาก ที่สําคัญต้องเข้าใจเรื่องมวลสารที่ นํามากดพิมพ์พระสมเด็จ การออกแบบแม่พิมพ์กับการแกะแม่พิมพ์ และกระบวนการกดพระสมเด็จวัดระฆัง กระบวนการลงรักดําปิ ดทองล่องชาด การศึกษาพระสมเด็จวัดระฆัง ทําไมถึงต้องสนใจเรื่องมวลสาร ต่าง ๆ ที่นํามาผสมรวมกันปั้นเป็ นก้อนกลม ๆ เล็ก เพื่อนําไปวางไว้ในแม่พิมพ์ กดลงไปในเบ้าพิมพ์ แล้วปาดให้เรียบด้วยไม้กระดาน ไม้กาบหมาก หรือ ไม้ตัด ตอก เพราะเหตุผลแรก มวลสารที่นํามาผสมผสานกันนั้น เป็ นสูตรเฉพาะของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ซึ่ ง รายละเอียดมีอะไรบ้าง หลาย ๆ ตําราพระสมเด็จกล่าวกันไว้มากมาย เพื่อให้รวดเร็วคงไม่กล่าวถึง สําหรับนัก สะสมและนักอนุรักษ์พระสมเด็จหน้าใหม่คงต้องกลับไปอ่าน บทความที่เคยเขียนไว้ เรื่อง คุย เจาะลึก การ ค้นหา มวลสาร การสร้างพระสมเด็จฯ ( สุชาติ มั่นคงพิทักษ์กุล, ๒๕๕๒ ) แต่จะทําให้เราเห็นสภาพธรรมชาติของเนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง วรรณะสีของผิวพระสมเด็จ ที่มีอายุ ๑๕๐ ปี ขึ้นไป ย่อมมีลักษณะเป็ นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่เราพอจะบอกได้ว่า เป็ นพระแท้ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เหตุผลที่สอง มีมวลสารบางอย่างที่เป็ นผงมวลสารเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็ น ก้อนศิลาธิคุณ ผงพุทธคุณคุณทั้ง ๕ หรือผงวิเศษ ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จะมีให้เห็นเฉพาะพระแท้ของวัดระฆังเท่านั้น


เหตุผลที่สาม ปูนเปลือกหอยที่นํามาผสม ดินสอพอง กับว่าน ๑๐๘ ชนิดนั้น เป็ นปูนเปลือกหอยเฉพาะที่ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ นํามาจากจังหวัดลพบุรี ลักษณะทางรูปพรรณสัณฐานของผลึกปูนเปลือกหอยทาง กายภาพ มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งหลายท่านอาจจะไม่ทราบมาก่อน โดยพบว่า ปูนขาวจากเปลือกหอยจะมีผลึกขนาด ใหญ่ ผลึกมีเหลี่ยมมน แต่ปูนขาวจากหินปูนจะมีผลึกขนาดเล็ก และผลึกมีเหลี่ยมมุม ( สุขกมล วงศ์สวรรค์, ๒๕๔๕ ) ส่วนการที่เราจะแบ่งแยกชนิด เนื้อพระสมเด็จวัดระฆังนั้น เป็ นเรื่องที่เกิดขึ้นให้เห็น ในช่วง ๕๐-๖๐ ปี ขึ้นไป ถ้าเป็ น ๑๐๐ ปี จะเริ่มปรากฏชัดมากขึ้น แต่ถ้าอายุพระสมเด็จวัดระฆัง ๑๕๑ ปีขึ้นไป ( ปัจจุบันปี ๒๕๖๖ ) ทําให้สรุปได้ง่ายขึ้น ในช่วงที่ เจ้าคุณพระธรรมถาวร (ช่วง จนฺทโชติ) เป็ นศิษย์ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับท่านเจ้าประคุณ สมเด็จฯ ยังไม่มรณภาพ นั้น ( มรณภาพในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ ) เป็ นผู้หนึ่ งที่ได้ทําแม่พิมพ์ และ ช่วยพิมพ์พระ สมเด็จ และได้พยายามรวบรวมพระสมเด็จไว้มากที่สุดเกือบทุกชนิด ( สุชาติ มันคงพิทักษ์กุล ่ , ๒๕๕๒ ) ผู้เขียนได้นํา ข้อมูลการศึกษาพระสมเด็จแท้ ในมุมองของพระอาจารย์ขวัญ วิสิฐโฐวัดระฆัง ฯ ลูกศิษย์ เจ้าคุณพระธรรมถาวร กล่ าวถึงลักษณะพระสมเด็จแท้ไว้ว่า จะต้องมีองค์คุณวิเศษ ๕ ประการ ดังนี้ ๑. ดําปนแดงเจือเหลือง หรือเหลืองอ่อนดุจงาช้างและสีอิฐ ๒. มีนํ้ าหนักเบากว่าพระพิมพ์อื่น ๆ ทั้ งสิ้ น ๓. เนื้อละเอียดอ่อน ชื้นคล้ายเปี ยกนํ้ าอยู่เสมอ แต่แข็งแกร่ง มีวัตถุเล็ก ๆ สีดําหรือแดง ฝังอยู่กับส่วนหนึ่งส่วนใด ของพระทุกองค์ ๔. แตกเป็ นลายงาช้าง หรือลายสังคโลก ๕. เมื่อหยิบเอาองค์พระขึ้นด้วยอาการสํารวม จะเกิดญาณหยังลึกสํานึกรู้ด้วยตัวเองทันทีว่า ่ นี่คือพระสมเด็จเนื้อ แท้( ตรียัมปวาย, ๒๕๑๕ )


อย่างไรก็ตาม การใช้ประสบการณ์ในการดูเนื้อพระสมเด็จและวรรณะสีของผิวพระสมเด็จ เป็ นเส้นทาง หนึ่งที่ดูจะมีความเป็ นไปได้สูงในการส่องหาพระแท้จริง ๆ เนื่องจากที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้นว่า มวลสารที่นํามากด พิมพ์พระสมเด็จวัดระฆัง เป็ นสูตรเฉพาะของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จริง ๆ การดูเนื้อพระสมเด็จและวรรณะสีของผิวพระสมเด็จ พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ที่ผ่านหูผ่านตามา ถ้าพิจารณาในเรื่องของความเก่าเนื้อพระสมเด็จ และ วรรณะสีของผิวพระสมเด็จนั้น คงไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งมีประสบการณ์ชั่วโมงบินในการส่องพระสมเด็จ มาก จํานวนมาก ๆ คงฟันธงได้ง่าย ดั่ง พระอาจารย์ขวัญ วิสิฐโฐวัดระฆัง ฯ ลูกศิษย์เจ้าคุณพระธรรมถาวร เล่าว่าเจ้า คุณพระธรรมถาวร (ช่วง) และ พระครูธรรมราต (เที่ยง) ซึ่งเป็นถานุกรมในสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ม.ร.ว เจริญ อิศรางกูร ณ อยุธยา) เป็นนักสะสมพระเครื่องรางชนิดต่างๆผู้หนึ่ง โดยเฉพาะมีความชํานาญดูพระ สมเด็จเป็นพิเศษ ไม่จําเป็นต้องหยิบพระสมเด็จขึ้นมาส่อง มองดูไกล ๆ จําได้แม่นยําว่า นี้คือ พระสมเด็จวัด ระฆังแท้ มีสีขาวนวลอมเหลืองแบบสีขาวงาช้าง และมีสีอิฐ นอกจากนี้พบเห็นการ แตกเป็ นลายงาช้าง หรือ ลายสังคโลก บริเวณผิวพระสมเด็จ การแยกลักษณะเนื้อของพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ พอจําแนกที่เห็นกันเป็นส่วนใหญ่ ดังนี้ ๑. เนื้อปูน พระสมเด็จวัดระฆังทุกพิมพ์ จะต้องมีส่วนผสมของปูนเปลือกหอยเป็นหลัก แต่จะมากน้อย ขึ้นกับผู้ที่ผสมมวลสารในวาระ นั้น ๆ อาจจะไม่สามารถคาดเดาว่าเป็นอย่างไร เนื้อปูนที่นํามาผสม มี ๒ แบบ มีทั้งปูนดิบ และ ปูนสุก ส่วนผสมของปูนทําให้พระสมเด็จมีความแกร่งมากขึ้น ตามสัดส่วนของ ปูนที่ผสมเข้าไป ๒. เนื้อปูนเพชร เป็นเนื้อพระสมเด็จที่นิยมกันในช่วงยุคปลายแล้ว ตั้งแต่การนําปูนเพชรไปทําเป็นมวล สารหลักในการสร้างพระสมเด็จบางขุนพรหม มีการนํานํ้าอ้อยมาผสมกับปูนขาว ช่างจังหวัดเพชรบุรีมี ความเชียวชาญการทําปูนเพชรมาก นอกจากนี้มีการนําเข้ามาจากเทือกเขาฮันซุย ประเทศจีน ในสมัย ปลายรัชกาลที่ ๔ และสมัยรัชกาลที่ ๕ เนื้อพระสมเด็จวัดระฆังเนื้อปูนเพชร จะมีลักษณะปูนแกร่ง สี ขาวนวล ผิวมันเป็นแวววาว ดูหนึกนุ่ม ๓. เนื้อเกสรดอกไม้ ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของเกสรดอกไม้ ทั้งดอกบัว ดอกมะลิ และ ดอกดาวเรือง เป็น ส่วนใหญ่ที่ผสมรวมกับ ดินสอพอง ว่าน ๑๐๘ และปูน ถือได้ว่าเป็นเนื้อพระสมเด็จที่มีความละเอียด มากที่สุด บริเวณผิวพระสมเด็จจะเห็นคราบของนํ้าปูนเกาะตัวเป็นบริเวณกว้าง มักเรียกกันว่าผิวแป้ง


โรยพิมพ์ ทําให้เห็นวรรณะเป็นสีขาวนวลอมเหลือง แบบสีขาวงาช้าง ดูแล้วหนึกนุ่มซึ้งฉํ่าตา บางครั้ง วรรณะออกไปทางสีขาวเทาอมเขียว ซึ่งมักนิยมเรียกกันว่า เนื้อเขียวก้านมะลิ ๔. เนื้อกระยาสารท เนื้อพระสมเด็จวัดระฆังอีกแบบหนึ่งที่เห็นกันบ่อยมากในวงการ เนื่องจาก เป็นพระ สมเด็จที่มีมวลสาร เน้นไปทางมวลสารผงศิลาธิคุณ ผงวิเศษ ๕ ว่าน ๑๐๘ และเกสรดอกไม้ ผสม จํานวนมากกว่าปูนเปลือกหอยค่อนข้างหยาบและละเอียดผสมผสานกัน ทําให้เกิดวรรณะสีนํ้าตาล อ่อน สีนํ้าตาลแก่ สีออกขาวเทา สีขาวนวล เนื้อพระสมเด็จจะมีรอยหลุ่มเล็ก ๆ มากมาย เห็นการยุบตัว ของเนื้อพระ แทบจะไม่เห็นแป้งโรยพิมพ์บริเวณผิวพระเลย ๕. เนื้อขนมตุ๊บตั๊บ เนื้อพระสมเด็จที่มีความหยาบมากกว่า เนื้อกระยาสารท เหมือนขนมตุ๊บตั๊บ วรรณะ ออกสีหม่นคลํ้า ๆ นํ้าตาลไหม้บ้าง นํ้าตาลอ่อนบ้าง สีออกขี้เถ้าบ้าง พระสมเด็จถ้าผ่านการลงรักดํา จะเห็นการแตกลายงา ได้งดงาม ๖. เนื้อว่าน พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ในยุคแรก ๆ จะมีการผสมมวลสารเน้นไปทางเนื้อว่าน ๑๐๘ ค่อนข้างมาก ผสมผสานกับดินสอพอง เกสรดอกไม้ ผงศิลาธิคุณ ผงวิเศษทั้ง ๕ และ ปูนขาว ทําให้พระ สมเด็จจะมีลักษณะวรรณะออกสีคลํ้า ๆ เนื้อพระค่อนข้างมีความละเอียดมาก บางองค์จะมีเนื้อออกสี เหลืองอมนํ้าตาลอ่อน มีสีขาวเทานวลสลับกันไป ดูแล้วหนึกนุ่มและฉํ่าตา โดยทั่วไปจะมีคราบแป้งโรย พิมพ์ตามผิวพระสมเด็จ หนาบาง ขึ้นอยู่กับ นํ้าว่านกับนํ้าปูนขาวทําปฏิกิริยามากน้อยขนาดไหน บาง องค์เนื้อพระจะดูออกฟู ๆ วรรณะดูออกขาวเทาขาวนวล จุดส่องพระสมเด็จวัดระฆังแท้จุดที่ ๑ อีกมุมมองหนึ่ง ของนักสะสมพระสมเด็จวัดระฆัง ที่มี ประสบการณ์ กว่า ๔๐ ปี ย่อมเห็นพระสมเด็จวัดระฆังมามากพอสมควร สิ่งที่แนะนําว่า การตรวจดูเส้นบังคับ พิมพ์ หรือ เรียกว่าเส้นบังคับแม่พิมพ์นั้น บนพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ควรจะมองเห็นเป็นแนวบังคับพิมพ์ ทั้ง ๔ ด้าน เนื่องจากทุกคนเข้าใจดีว่า เวลากดแม่พิมพ์ที่มีเส้นบังคับแม่พิมพ์ เพื่อให้ผู้ที่เป็นผู้กดพิมพ์พระสมเด็จ จะปั้นมวลสารเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้ววางบนแม่พิมพ์ใช้นิ้วกดลงแม่พิมพ์ ใช้ไม้กระดาน หรือกาบหมาก ปาดให้ ด้านหลังเรียบ แล้วนํามาออกจากแม่พิมพ์วางด้านหน้าให้เห็นองค์พระ แล้วตัดเนื้อพระที่เกินด้านข้าง ออกไป


ตามแนวเส้นบังคับพิมพ์ ให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก หรือ สี่เหลี่ยมผืนผ้านั้นเอง ยกเว้นด้านซ้ายมือองค์พระ หาก มีการตัดชิดเส้นซุ้มไปมาก ก็จะไม่เห็นเส้นบังคับพิมพ์ จุดส่องพระแท้ จุดที่ 2 การมองดูพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ โดยมองจากภาพกว้าง ๆ ภาพใหญ่ทั้งองค์พระ ทุกส่วนที่เป็นรอยนูนเป็นเส้นสายทั้งหลาย เช่น เส้นซุ้ม องค์พระ ฐานทั้ง ๓ ชั้น แม้กระทั่งเส้นบังคับพิมพ์ จะต้อง มีร่องรอยของการเหี่ยวย่น หดตัว มีริ้วรอยที่เป็นหลุมบ่อ ขยุกขยิก เส้นสายจะต้องไม่ นูนดูเรียบร้อยเด็ดขาด ถ้า เป็นเช่นนั้นไม่ต้องเสียเวลาหยิบพระขึ้นมาส่องให้เมื่อยลูกกระตา ที่เห็นและสังเกตได้ชัด การหดห่อตัวและริ้วรอยขยุกขยิกของเส้นซุ้ม การหดตัวของพระเกศจะไม่เป็น แนวตรง มีลักษณะดูพลิ้วไหว คดไปมา ปลายพระเกศบางองค์จะมีการสะบัดโค้งเล็กน้อย เนื่องจากมาจาก สาเหตุการหดตัวและยุบตัวของเนื้อพระนั่นเอง ส่วนพระเกศของพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ที่เห็นกันเป็นประจํา มีพระเกศแบเรียวมีทั้งแบบสั้น และยาว พระเกศแบบปลี และพระเกศที่มีลักษณะทะลุเส้นซุ้มออกไปจรดเส้นบังคับพิมพ์ จุดส่องพระแท้จุดที่ ๓ ให้สังเกตบริเวณหัวไล่ทั้งสองข้างขององค์พระ การออกแบบแม่พิมพ์และแกะแม่พิมพ์ นั้น ให้หัวไหล่ขวาขององค์พระจะดูค่อนข้างหนาและโค้งมนลงมา ส่วนหัวไหล่ซ้ายองค์พระจะดูบางกว่าและโค้ง แหลมพอสมควร สังเกตซอกรักแร้ซ้ายจะถูกแกะพิมพ์ให้ดูเป็นร่องลึก แหลม ทําให้ดูสูงกว่าซอกรักแร้ด้านขวา ซึ่งดูตื้นกว่า จุดส่องพระแท้จุดที่ ๔ ลําแขนขององค์พระ ที่เห็นชัดเจน ลําแขนซ้ายจากข้อศอกไปถึงพระหัตถ์บริเวณนูนตรง กลาง ที่เรียกว่าลําแขนท่อนล่าง จะดูสั้นกว่า ลําแขนท่อนล่างข้างขวาอย่างชัดเจน จุดส่องพระแท้จุดที่ ๕ ให้สังเกตบริเวณหัวเข่าซ้ายขององค์พระ จะมีการยกตัวสูงขึ้นกว่าหัวเข่าขวาอย่างเห็นได้ ชัด เนื่องจาก บริเวณหัวเข่าซ้ายจะมี เส้นชายจีวร ลากจากข้อศอกซ้าย ผ่านต้นขาไปยังหัวเข่าซ้าย


จุดส่องพระแท้จุดที่ ๖ พระเพลา หรือ หน้าตักขององค์พระ เป็นแบบปางสมาธิ มีลักษณะขาขวาทับขาซ้าย สังเกตหน้าแข้งซ้าย และจะมีปลายพระบาทยื่นลํ้าออกมาจากแนวพระเพลา และเห็นลํ้าออกมาจากหัวเข่าขวา ออกมาเห็นเด่นชัดมาก จุดส่องพระแท้จุดที่ ๗ ฐานชั้นบน ปกติบางคนสังเกตไม่ออกว่าเป็นอย่างไร ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องส่องพระใน แนวราบ ดูจากฐานด้านล่างขึ้นไป พระเพลาองค์พระ ปกติลักษณะสัณฐานการแกะพิมพ์ชองฐานบน จะดู ลักษณะสัณฐานที่สอดรับกับ พระเพลา คล้ายๆกัน นูนหนา กว่าฐานชั้นกลาง แต่จะมีความกว้างที่แคบกว่าไม่ มากนัก โดยมุมซ้ายสุดของฐานบน จะดูตํ่าว่าหัวเข่าซ้าย ในทางกลับกัน หัวเข่าขวาจะอยู่เสมอหรือตํ่าว่ามุม ขวาสุดฐานบนเล็กน้อย นอกจากนี้ ถ้าส่องพระด้านข้างแนวราบจากฃวาไปซ้ายองค์พระ บริเวณช่องผนังพื้นผิวระหว่างพระ เพลากับฐานชั้นบนจะดูสูงกว่า พื้นผิวพระภายในเส้นซุ้ม จะมีลักษณะสูงจากด้านขวาลาดลงไปทางด้านซ้าย องค์พระ จุดส่องพระแท้จุดที่ ๘ การส่องบริเวรเส้นซุ้มของพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ สิ่งที่สังเกตเบื้องต้นลักษณะ เส้นสายของเส้นซุ้มนูนหนา ต้องมีการห่อตัวหดตัวให้เห็นชัดเจน มีร่อยรอยการหดตัว มีริ้วรอยขยุกขยิก เหี่ยว ย่น มีหลุมบ่อเล็ก ๆ และ มีเส้นแตกลาย ตลอดแนวเส้นซุ้ม ที่เรียกกันว่า เส้นหวายผ่าซีก ลักษณะของการแกะเส้นซุ้มของช่างแกะแม่พิมพ์ ส่วนใหญ่เส้นซุ้มจะถูกเริ่มต้นจากมุมขวาล่าง ลาก เอียงเข้าหาพระเล็กน้อยแล้วลากเป็นเส้นตรงยาวไปถึงบริเวณไหล่หรือพระพักตร์ แล้วโค้งเข้าหายอดเส้นซุ้ม ส่วนเส้นซุ้มด้านซ้ายลากเส้นซุ้มจากมุมซ้ายค่อย ๆโค้งขึ้นไปถึงพระพักตร์ บริเวณนี้เส้นซุ้มจะดูขนาดบางลดลง เส้นซุ้มจะมีการเอียงเข้าหาองค์พระมากกว่า ไปหายอดเส้นซุ้ม ทําให้ส่วนยอดโค้งทั้งสองข้างดูไม่สมดุลกัน อย่างชัดเจน แต่บางครั้ง จะสังเกตลักษณะของเส้นซุ้มสลับกัน จากซ้ายไปขวา ขอสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นช่าง แกะแม่พิมพ์ที่มีความถนัดซ้ายมือ กับ ถนัดขวามือ เป็นสําคัญ


จุดส่องพระแท้จุดที่ ๙ การสังเกตบริเวณพื้นผนังผิวพระสมเด็จ จากเส้นซุ้มเข้าหาองค์พระ จะมีลักษณะเอียง ลาดเข้าหาองค์พระเล็กน้อย ไม่เรียบเสมอกัน แต่พื้นผนังผิวพระสมเด็จนอกเส้นซุ้มไปจรดกรอบเส้นบังคับพิมพ์ จะดูสูงกว่า ด้านใน และจะดูค่อนข้างโค้งเอียง ไปหาขอบพระ ต้องใช้วิธีส่องพระสมเด็จในแนวราบจะเห็น ชัดเจน สุดท้าย การแยกพิมพ์ของ พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ในหลาย ๆ ตํารา และ หลาย ๆ นักสะสม พระสมเด็จ และครูบาอาจารย์ รุ่นหลัง ๆ มีการแยก พิมพ์ออกเป็น ๔ แม่พิมพ์ คือ แม่พิมพ์ที่๑ บางครั้งเรียกว่า พิมพ์ใหญ่ A หรือ พิมพ์ทรงพระประธาน จะมีเส้นแซมเรียวเล็กโค้งสวยงาม ใต้ พระเพลา บางครั้งเรียกว่า เส้นนิสีทนะ หรือ เส้นผ้าปูรองนั่ง มีหน้าอกลําตัวผายส่วนใหญ่ แม่พิมพ์ที่ ๒ เรียกว่า พิมพ์ใหญ่ กรอบกระจก จะมีลักษณะเส้นบังคับพิมพ์ทั้ง ๔ ด้าน เป็นเส้นรูปเหมือนกรอบ กระจก เป็นอกแบบตัววี ส่วนใหญ่ พระเกศไม่ทะลุเส้นซุ้ม แม่พิมพ์ที่ ๓ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ มีพระเกศจรดเส้นซุ้ม หน้าอกกึ่งผาย แคบ พระเกศจะเรียวยาว แม่แบบที่ ๔ พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ที่มีพระเกศทะลุเส้นซุ้มไปจรดเส้นบังคับพิมพ์เส้นบนสุด ลําตัวส่วน ใหญ่เป็นอกตัววี นอกจากนี้แล้ว การแยกพิมพ์พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ยังมีการแยกแม่พิมพ์ตาม รูปลักษณะของ พุทธศิลป์ พระพุทธรูปตามพระอุโบสถ หรือตามยุคสมัย เช่น สมัยเชียงแสน สมัยสุโขทัย สมัยอู่ทอง สมัยลพบุรี สมัยอยุธยาและ สมัยรัตนโกสินทร์ โดยแม่พิมพ์พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ นั้น ช่างแกะแม่พิมพ์ นิยม แกะ เป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน ผสมผสานกับ สมัย สุโขทัยเป็นหลัก แต่พุทธศิลป์ สมัยรัตนโกสินทร์ อยุธยา ก็มี ความนิยมกันพอสมควร


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๑. พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๒. พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๓. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๔. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๕. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๖. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๗. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๘. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๙. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๑๐. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๑๑. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๑๒. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๑๓. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๑๔. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๑๕. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๑๖. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


๑๗. เจ้าของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เมตาเวิร์ส


บรรณานุกรม กรมท่า. (๒๕๕๐). ตํารับพรหมรังสี.กรุงเทพฯ : สํานักงานนิตยสารอุณมิลิต ธรรมสภา. (๒๕๓๘). ชีวิต การงาน หลักธรรม สมเด็จพระพุมาจารย์ (โต พรหมรังษี). กรุงเทพฯ : ธรรมสภา จําลอง มัลลิกะนาวิน. (๒๕๑๗). ภาพและประวัติ พระสมเด็จโต. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. ฉันทิชัย. (๒๔๙๕). สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต ) เล่ม ๑.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ อักษรประเสริฐ. แฉล้ม โชติช่วง และมนัส ยอขันธ์. (๒๕๓๔). สมเด็จโต.กรุงเทพฯ: ห้าง ยอแสงเภสัช ผู้ผลิตยาเม็ดยอแสง. ตรียัมปวาย. ( ๒๕๑๕). ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่องฯ เล่ม ๑ พระสมเด็จฯ. กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์รวมสาส์น. พระธรรมธีรราชมหามุนี. (๒๕๑๙). ตํานานพระสมเด็จและปฐมอัครกรรม. กรุงเทพฯ : บริษัท บีทีเอส เพลส จํากดั. พระยาทิพโกษา (สอน โลหะนันทน์). (๒๕๑๓). ประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) จากบันทึกของ มหาอํามาตย์ตรี พระยาทิพโกษา (สอน โลหะ นันทน์) หนังสืออนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพนางส้มจีน ทิพโกษา (โลหะ นันทน์) ๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๓. กรุงเทพฯ. พลาดิสัย สิทธิธัยกิจ. (๒๕๕๐). สมเด็จพระพุฒาจารย์โต.กรุงเทพฯ : สํานักพิมพ์บันทึกสยาม. สุชาติ มันคงพิทักษ์กุล. (๒๕๕๒). ่คุย เจาะลึก การค้นหา มวลสาร การสร้าง


พระสมเด็จฯ. สงขลา : สํานักพิมพ์ออนไลน์พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒา จารย์ โต พรหมรังสี. สุขกมล วงศ์สวรรค์. ( ๒๕๔๕). การวิเคราะห์ปู นขาวจากเปลือกหอยที่แหล่ง โบราณคดีวังไผ่ อําเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี. วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์)). มหาวิทยาลัยศิลปากร. อรรคเดช กฤษณะดิลก. (๒๕๔๖). ปทานุกรม พระสมเด็จเล่มที่ ๑.กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจํากด ทิพยวิสุทธิ ั์. เฮง อิฏฐาจาโร, พระมหา. (๒๔๙๒). ประวัติสังเขปสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) . กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์กฤษณปกรณ์.


Click to View FlipBook Version