หนว่ ย ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
ท่ี เรียนรู้ /ตวั ช้วี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน
8 ลักษณะและเสียง
ของเครื่องดนตรี สาระดนตรี 18 15
9 โนต้ ดนตรี
ศ 2.1 ป.3/1 • รูปรา่ งลกั ษณะของเครือ่ ง 2 5
10 เพลงพาเพลินใจ ดนตรี
11 ทักษะการขับรอ้ ง • เสยี งของเคร่อื งดนตรี
และการบรรเลง
ศ 2.1 ป.3/2 • สญั ลักษณ์แทนคุณสมบัติของ 4 5
12 การฟงั และการ เสยี ง (สูง-ตำ่ ดงั -เบา ยาว-สัน้ )
วเิ คราะหเ์ พลง
• สัญลกั ษณแ์ ทนรูปแบบ
จงั หวะ
ศ 2.1 ป.3/3 • บทบาทหน้าที่ของบทเพลง 4 5
สำคญั
- เพลงชาติ
- เพลงสรรเสรญิ พระบารมี
- เพลงประจำโรงเรียน
ศ 2.1 ป.3/4 • การขบั ร้องเด่ยี วและหมู่ 2 5
ศ 2.1 ป.3/5
• การบรรเลงเคร่ืองดนตรี
ประกอบเพลง
• การเคล่ือนไหวตามอารมณ์
ศ 2.1 ป.3/6 • การแสดงความคิดเหน็ 2 5
เกย่ี วกบั เสยี งรอ้ งและเสยี งดนตรี
- คณุ ภาพเสียงร้อง
- คุณภาพเสียงดนตรี
13 ดนตรใี น ศ 2.1 ป3/7 • การใชด้ นตรใี นโอกาสพิเศษ 2 5
ชวี ติ ประจำวัน ศ 2.2 ป3/2 - ดนตรีในงานรื่นเริง
- ดนตรีในการฉลองวันสำคัญของ
ชาติ
• ดนตรกี ับการดำเนินชวี ติ ใน
ท้องถนิ่
-ดนตรใี นชวี ิตประจำวนั
-ดนตรีในวาระสำคญั
44
หนว่ ย ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
ที่ เรียนรู้ /ตวั ช้ีวดั (ชัว่ โมง) คะแนน
• เอกลักษณ์ของดนตรีใน
14 ดนตรีในท้องถิ่น ศ 2.2 ป.3/1 ทอ้ งถิ่น 2 5
- ลักษณะเสียงร้องของดนตรีใน
ท้องถน่ิ
- ภาษาและเน้ือหาในบทร้อง
ของดนตรีในท้องถ่นิ
- เครอื่ งดนตรีและวงดนตรใี น
ทอ้ งถิน่
สาระนาฏศลิ ป์ 20 15
15 หลักและวธิ ีการ ศ 3.1 ป.3/2 • หลักและวธิ ีการปฏิบตั ิ 4 3
ปฏบิ ตั นิ าฏศิลป์ นาฏศิลป์
- การฝกึ ภาษาท่าส่ืออารมณ์
ของมนุษย์
- การฝึกนาฎยศพั ทใ์ นส่วนขา
16 สรา้ งสรรค์การ ศ 3.1 ป.3/1 • การเคล่ือนไหวในรูปแบบต่างๆ 4 3
เคล่อื นไหว - รำวงมาตรฐาน
ศ 3.1 ป.3/2 - เพลงพระราชนิพนธ์ 4 3
17 นาฏศิลปพ์ ื้นเมือง - สถานการณ์ส้นั ๆ 4 3
18 การแสดงนาฏศลิ ป์ ศ 3.2 ป.3/1 - สถานการณ์ท่ีกำหนดให้
ศ 3.1 ป.3/3
ไทย ศ 3.1 ป.3/4 • หลกั และวิธีการปฏิบัติ
ศ 3.2 ป.3/2 นาฏศิลป์
ศ 3.2 ป.3/3 - การฝึกภาษาท่าส่ืออารมณ์
ของมนษุ ย์
- การฝึกนาฎยศัพท์ในสว่ นขา
• การแสดงนาฏศิลป์พืน้ บ้าน
หรอื ท้องถิ่นของตน
• หลักในการชมการแสดง
- ผู้แสดง
- ผชู้ ม
- การมสี ว่ นรว่ ม
• การแสดงนาฏศิลป์
ลักษณะเอกลักษณ์
• ทมี่ าของการแสดงนาฏศลิ ป์
- สง่ิ ที่เคารพ
45
หน่วย ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
(ชั่วโมง) คะแนน
ที่ เรียนรู้ /ตัวชว้ี ดั
43
19 บูรณาการนาฏศลิ ป์ ศ 3.1 ป3/5 • การบรู ณาการนาฏศิลปก์ ับ
กับกล่มุ สาระอื่น 2 20
สาระการเรยี นรู้อน่ื ๆ 2 20
80 100
สอบกลางปี
สอบปลายปี
รวมตลอดปี
46
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ทัศนศลิ ป์
มาตรฐาน ศ 1.1 : สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิด ต่องานศิลปะ อย่างอิสระชื่นชม และ
ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ป.4 1. เปรยี บเทียบรปู ลกั ษณะของ • รปู ร่าง รปู ทรงในธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อมและงาน
รปู ร่าง รปู ทรง ในธรรมชาติ ทัศนศลิ ป์
ส่ิงแวดล้อม และงานทศั นศลิ ป์
2. อภิปรายเก่ียวกับอิทธิพลของสี • อิทธพิ ลของสี วรรณะอุ่น และวรรณะเยน็
วรรณะอนุ่ และสวี รรณะเยน็ ท่ีมีต่อ
อารมณ์ของมนษุ ย์
3. จำแนกทศั นธาตุของสง่ิ ตา่ ง ๆ ใน • เสน้ สี รูปรา่ ง รูปทรง พนื้ ผวิ และพื้นที่วา่ ง
ธรรมชาติสิง่ แวดลอ้ มและงาน ในธรรมชาตสิ ่งิ แวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์
ทัศนศิลปโ์ ดยเนน้ เรือ่ งเส้น สี รูปรา่ ง
รปู ทรงพื้นผวิ และ พน้ื ท่ีว่าง
4. มีทักษะพน้ื ฐานในการใช้วสั ดุ • การใชว้ สั ดุ อุปกรณส์ รา้ งงาน พิมพภ์ าพ
อุปกรณส์ รา้ งสรรค์งานพิมพภ์ าพ
5. มที กั ษะพนื้ ฐานในการใช้วัสดุ • การใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ในการวาดภาพระบายสี
อปุ กรณ์สร้างสรรค์งานวาดภาพ
ระบายสี
6. บรรยายลักษณะของภาพโดยเนน้ •การจดั ระยะความลึก นำ้ หนกั และแสงเงา ในการวาด
เร่ืองการจดั ระยะ ความลกึ น้ำหนัก ภาพ
และแสงเงาในภาพ
7. วาดภาพระบายสี โดยใชส้ วี รรณะ • การใชส้ ีวรรณะอนุ่ และใช้สวี รรณะเยน็ วาดภาพถ่าย
อนุ่ และสวี รรณะเย็น ถา่ ยทอด
ทอดความรสู้ กึ และจินตนาการ
ความร้สู กึ และจินตนาการ
8. เปรยี บเทียบความคิดความรสู้ ึก • ความเหมอื นและความแตกตา่ งในงานทศั นศิลป์
ทถี่ ่ายทอดผา่ นงานทัศนศิลป์ของ ความคดิ ความรสู้ กึ ท่ีถา่ ยทอดในงานทัศนศลิ ป์
ตนเองและบคุ คลอนื่
9. เลือกใช้วรรณะสเี พ่ือถา่ ยทอด • การเลอื กใช้วรรณะสีเพ่ือถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก
อารมณ์ ความร้สู กึ ในการสร้างงาน
ทศั นศิลป์
47
สาระท่ี 1 ทัศนศลิ ป์
มาตรฐาน ศ 1.2 : เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างทัศนศลิ ป์ ประวตั ศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณค่างานทัศนศิลป์
ทเี่ ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปญั ญาไทย และสากล
ชั้น ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ป.4 1. ระบุ และอภิปรายเกย่ี วกับงาน • งานทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมท้องถ่ิน
ทัศนศิลป์ ในเหตุการณ์ และงาน
เฉลิมฉลอง ของวัฒนธรรม ใน
ทอ้ งถ่ิน
2. บรรยายเก่ียวกับงานทศั นศิลป์ • งานทัศนศิลป์ จากวฒั นธรรมตา่ ง ๆ
ทีม่ าจากวฒั นธรรมตา่ ง ๆ
สาระท่ี 2 ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.1 : เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรอี ย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ ดนตรี ถา่ ยทอดความร้สู ึก ความคดิ
ต่อดนตรีอยา่ งอสิ ระ ชืน่ ชม และประยกุ ต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน
ชัน้ ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.4 1. บอกประโยคเพลงอยา่ งง่าย • โครงสร้างของบทเพลง
- ความหมายของ
- ประโยคเพลง
-การแบ่งประโยคเพลง
2. จำแนกประเภทของเครื่อง • ประเภทของเครื่องดนตรี
ดนตรีที่ใช้ ในเพลงทฟี่ งั
•เสียงของเครื่องดนตรแี ตล่ ะประเภท
3. ระบทุ ศิ ทางการเคลื่อนทข่ี ึ้น – • การเคล่ือนที่ขนึ้ – ลง ของทำนอง
ลง งา่ ย ๆ ของทำนอง รปู แบบ • รปู แบบจงั หวะของทำนองจงั หวะ
จงั หวะ และความเรว็ ของจังหวะ
ในเพลง ท่ีฟงั อา่ น เขียน โนต้ • รูปแบบจงั หวะ
ดนตรไี ทย และสากล • ความช้า – เร็วของจงั หวะ
4. อ่านเขียน โนต้ ดนตรีไทยและ • เครอ่ื งหมายและสญั ลักษณ์ทางดนตรี
สากล - กุญแจประจำหลกั
- บรรทัดห้าเสน้
5. รอ้ งเพลงโดยใชช้ ว่ งเสยี งที่ - โน้ตและเครอ่ื งหมายหยดุ
เหมาะสมกับตนเอง - เส้นกน้ั ห้อง
• โครงสรา้ งโน้ตเพลงไทย
- การแบ่งห้องการแบง่ จังหวะ
• การขบั ร้องเพลง ในบันไดเสียงทเ่ี หมาะสมกับตนเอง
48
ชัน้ ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
6. ใช้และเก็บเคร่อื งดนตรอี ยา่ ง • การใช้และการดูแลรักษาเครือ่ งดนตรี ของตน
ถูกต้องและปลอดภัย
• ความหมายของเน้ือหาในบทเพลง
7. ระบุวา่ ดนตรีสามารถใช้ในการ
สือ่ เร่ืองราว
สาระที่ 2 ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.2 : เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างดนตรี ประวัตศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ ค่าของดนตรีท่ีเป็น
มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
ช้ัน ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.4 1. บอกแหล่งท่ีมาและ • ความสัมพันธ์ของวถิ ีชีวิตกับผลงานดนตรี
ความสมั พันธ์ของวิถชี วี ิตไทยที่ - เนื้อหาเร่ืองราวในบทเพลงกับวถิ ชี ีวิต
สะท้อนในดนตรีและเพลงท้องถิ่น - โอกาสในการบรรเลงดนตรี
2. ระบคุ วามสำคัญในการอนุรกั ษ์ • การอนุรักษ์วฒั นธรรมทางดนตรี
สง่ เสริมวฒั นธรรมทางดนตรี - ความสำคญั และความจำเป็นในการอนุรักษ์แนวทางในการ
อนุรักษ์
สาระท่ี 3 นาฏศิลป์
มาตรฐาน ศ 3.1 : เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศลิ ป์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ คณุ ค่านาฏศลิ ป์
ถา่ ยทอดความรสู้ ึก ความคดิ อย่างอสิ ระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ ในชวี ติ ประจำวัน
ชน้ั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.4 1. ระบุทกั ษะพื้นฐานทาง • หลกั และวธิ กี ารปฏบิ ตั นิ าฏศิลป์
นาฏศิลป์และการละครท่ีใช้สื่อ - การฝกึ ภาษาท่า
ความหมายและอารมณ์
- การฝึกนาฏยศัพท์
2. ใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์ • การใช้ภาษาทา่ และนาฏยศัพท์ประกอบเพลงปลกุ ใจและ
หรือศัพท์ทางการละครง่าย ๆ ใน เพลงพระราชนพิ นธ์
การถ่ายทอดเรื่องราว
• การประดิษฐ์ท่าทางหรือท่ารำประกอบจงั หวะพื้นเมือง
3. แสดงการเคลื่อนไหวในจงั หวะ
ต่าง ๆ ตามความคดิ ของตน • การใช้ศพั ท์ทางการละครในการถา่ ยทอดเรอื่ งราว
4. แสดงนาฏศลิ ป์ เป็น คู่ และหมู่ • การแสดงนาฏศลิ ป์ ประเภทคู่และหมู่
- รำวงมาตรฐาน
- ระบำ
5. เล่าสง่ิ ทช่ี ่ืนชอบในการแสดง • การเลา่ เรื่อง
โดยเนน้ จุดสำคญั ของเร่อื งและ - จุดสำคญั
ลักษณะเดน่ ของตวั ละคร - ลกั ษณะเดน่ ของตวั ละคร
49
สาระท่ี 3 นาฏศิลป์
มาตรฐาน ศ 3.2 : เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศลิ ป์ ประวตั ิศาสตรแ์ ละวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศลิ ปท์ ่ี
เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่นภมู ิปัญญาไทยและสากล
ชั้น ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.4 1. อธบิ ายประวตั คิ วามเป็นมา • ความเป็นมาของนาฏศลิ ป์
ของนาฏศิลป์ หรือชุดการแสดง
อย่างงา่ ย ๆ
2. เปรยี บเทียบการแสดง • ทม่ี าของ ชดุ การแสดง
นาฏศิลปก์ บั การแสดงที่มาจาก
วฒั นธรรมอน่ื
3. อธบิ ายความสำคัญของการ • การชมการแสดง
แสดงความเคารพในการเรียน - นาฏศิลป์
และการแสดงนาฏศิลป์
- การแสดงของท้องถน่ิ
4. ระบุเหตุผลท่คี วรรกั ษา และ • ความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์
สืบทอด การแสดงนาฏศลิ ป์
- การทำความเคารพก่อนเรียนและก่อนแสดง
• ความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์
- คณุ ค่า
50
ศ 14101 ศลิ ปะ 4 คำอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 80 ชั่วโมง /ปี
.
สังเกต รับรู้ สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวและถ่ายทอดสิ่งที่รับรู้เป็นงานทัศนศิลป์ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการทำงาน อย่าง
ถกู ตอ้ ง เปรียบเทียบรูปรา่ ง รปู ทรง จำแนกเสน้ สี รูปรา่ ง รูปทรง พนื้ ผิว และพน้ื ที่วา่ งของธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
และงานทัศนศิลป์ที่มีอยู่ในท้องถิ่นและจากวัฒนธรรมต่างๆ ปฏิบัติงานทัศนศิลป์ด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน
เปรียบเทียบความคิดความร้สู ึกที่ถา่ ยทอดผา่ นงานทัศนศลิ ป์ของตนเองและบุคคลอ่นื
รู้โครงสร้างของบทเพลง จำแนกประเภทของเคร่ืองดนตรี ระบุทิศทางการเคลื่อนที่ขึ้น-ลง องทำนอง
รูปแบบจังหวะ ความเร็วของจังหวะเพลง อ่านและเขียนโน้ตดนตรีไทยและสากล ร้องเพลงโดยใช้ช่วงเสียงที่
เหมาะสม การใช้ ดูแล และเก็บรักษา เครื่องดนตรี บอกแหล่งที่มาและความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตกับผลงานดนตรี
ระบุวิธีอนุรักษ์ส่งเสริมวัฒนธรรมทางดนตรี สนใจและเห็นคุณค่าดนตรีท้องถิ่น ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา
ไทยและภูมิปัญญาสากล
รับรู้ ความรู้ทักษะพื้นฐานทางนาฏศิลป์และการละคร สื่อความหมายและอารมณ์ ใช้ภาษาท่าและ
นาฏยศัพทท์ างการละครในการถา่ ยทอดเรอื่ งราวประดษิ ฐ์ท่ารำประกอบเพลง แสดงรำวงมาตรฐาน ระบำ ประดิษฐ์
ท่ารำประกอจังหวะเพลง เล่าจุดสำคัญของเรื่องและลักษณะเด่นของตัวละครในการแสดง สามารถปฏิบัติการ
เคลื่อนไหวท่าทาง ลีลา ความงดงาม อย่างอิสระเพื่อสื่อความคิด จินตนาการสร้างสรรค์ เห็นคุณค่าของการแสดง
นาฏศิลป์
รหสั ตวั ช้ีวัด
ศ 1.1 ป.4/1-9,
ศ 1.2 ป.4/1-2 ,
ศ 2.1 ป.4/1-7 ,
ศ 2.2 ป.4/1-2 ,
ศ 3.1 ป.4/1-5 ,
ศ 3.2 ป.4/1-4
รวมทั้งสิ้น 29 ตวั ช้วี ัด
51
โครงสรา้ งรายวิชา
ศ 14101 ศลิ ปะ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 80 ชวั่ โมง/ปี
หน่วยท่ี ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
1 เรยี นรู้ /ตัวชีว้ ัด ( ช่ัวโมง ) คะแนน
พน้ื ฐานงาน สาระทัศนศลิ ป์ 40 30
ศิลป์ 15 10
ศ1.1ป.4/1 ∙ รูปรา่ ง รปู ทรง ในธรรมชาติ
ศ1.1ป.4/2 สงิ่ แวดลอ้ มและงานทัศนศิลป์
ศ1.1ป.4/3 ∙ อทิ ธิพลของสี วรรณะอ่นุ และ
ศ1.1ป.4/6 วรรณะเย็น
∙ เสน้ สี รปู รา่ ง รูปทรง พ้นื ผิว
และพ้ืนทว่ี ่างในธรรมชาติ
ส่งิ แวดล้อมและงานทัศนศิลป์
∙ การจัดระยะความลึก น้ำหนกั
และแสงเงา ในการวาดภาพ
2 สรา้ งสรรค์ ศ1.1ป.4/4 ∙ การใช้วัสดุ อุปกรณ์สร้างงาน 15 10
งานศิลป์ ศ1.1ป.4/5 พมิ พ์ภาพ 10 10
ศ1.1ป.4/7 ∙ การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ในการวาด
3 งานศลิ ปก์ ับ ศ1.1ป.4/8 ภาพระบายสี
วฒั นธรรม ศ1.1ป.4/9 ∙ การใชส้ ีวรรณะอุน่ และใชส้ ี
วรรณะเยน็ วาดภาพถ่ายทอด
ศ1.2ป.4/1 ความร้สู กึ และจนิ ตนาการ
ศ1.2ป.4/2 ∙ ความเหมือนและความแตกต่าง
ในงานทัศนศลิ ปค์ วามคดิ
ความรสู้ กึ ท่ถี ่ายทอดในงาน
ทศั นศิลป์
∙ การเลอื กใช้วรรณะสีเพ่ือ
ถา่ ยทอดอารมณ์ ความรู้สึก
งานทัศนศิลป์ในวัฒนธรรม
ท้องถ่นิ งานทัศนศลิ ปจ์ าก
วฒั นธรรมต่าง ๆ
52
หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
4 เรียนรู้ /ตัวชีว้ ดั ( ช่ัวโมง ) คะแนน
5 สาระดนตรี ประเภทของเคร่ืองดนตรี
เครื่องดนตรี ศ2.1ป4/2 ∙เสยี งของเครือ่ งดนตรแี ตล่ ะ 19 15
6 ทักษะดนตรี ศ2.1ป4/6 ประเภท 5 5
∙ การใชแ้ ละการดูแลรกั ษา 9 5
ดนตรกี ับ ศ2.1ป4/1 เคร่ืองดนตรี ของตน
มรดกทาง ศ2.1ป4/3 โครงสรา้ งของบทเพลง 5 5
วัฒนธรรม ศ2.1ป4/4 -ความหมายของประโยคเพลง
ศ2.1ป4/5 -การแบง่ ประโยคเพลง
ศ2.1ป4/7 ∙ การเคลื่อนที่ขึน้ – ลงของ
ทำนอง
ศ2.2ป4/1 ∙ รปู แบบจงั หวะของทำนอง
ศ2.2ป4/2 จังหวะ
∙ รูปแบบจงั หวะ
∙ ความชา้ – เรว็ ของจงั หวะ
∙ เคร่ืองหมายและสัญลกั ษณ์
ทางดนตรี
- กญุ แจประจำหลัก
- บรรทดั หา้ เสน้
- โน้ตและเครือ่ งหมายหยุด
- เส้นกั้นหอ้ ง
∙ โครงสรา้ งโนต้ เพลงไทย
- การแบ่งหอ้ ง
- การแบ่งจงั หวะ
∙ การขบั รอ้ งเพลงในบนั ไดเสียง
ท่เี หมาะสมกับตนเอง
∙ ความหมายของเน้ือหาในบท
เพลง
ความสัมพนั ธ์ของวถิ ชี วี ติ กบั
ผลงานดนตรี
- เน้ือหาเรือ่ งราวในบทเพลงกับ
วิถีชวี ิต
53
หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
7 เรยี นรู้ /ตัวชี้วดั ( ช่ัวโมง ) คะแนน
8 นาฏศิลป์กบั - โอกาสในการบรรเลงดนตรี 20 15
9 วัฒนธรรมไทย 11 5
∙ การอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมทาง
การแสดง ดนตรี 6 5
นาฏศลิ ป์กับ - ความสำคัญและความจำเป็นใน
การละคร 3 5
การอนุรักษ์
ความเปน็ มา - แนวทางในการอนุรักษ์ 1 20
และคณุ ค่า 1 20
ของนาฏศิลป์ สาระนาฏศลิ ป์ 80 100
ไทย
ศ3.1ป4/3 การประดิษฐท์ า่ ทางหรือท่ารำ
ศ3.1ป4/4 ประกอบจงั หวะพ้นื เมือง
ศ3.2ป4/1 ∙ การแสดงนาฏศิลป์ ประเภทคู่
ศ3.2ป4/2 และหมู่
ศ3.2ป4/3 รำวงมาตรฐาน
ระบำ
∙ ความเป็นมาของนาฏศิลป์
∙ ทม่ี าของชุดการแสดง
∙ การชมการแสดง
➢นาฏศลิ ป์
ศ3.1ป4/1 ➢การแสดงของทอ้ งถ่นิ
ศ3.1ป4/2
หลกั และวธิ กี ารปฏบิ ตั นิ าฏศิลป์
- การฝกึ ภาษาท่า
ศ3.1ป4/5 - การฝึกนาฏยศัพท์
∙ การใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์
ประกอบเพลงปลุกใจและเพลง
พระราชนพิ นธ์
∙ การใชศ้ ัพท์ทางการละครในการ
ถา่ ยทอดเรือ่ งราว
ศ3.2ป4/1 ความเป็นมาของนาฏศลิ ป์
ศ3.2ป4/4 ∙ ความเปน็ มาของนาฏศิลป์
- การทำความเคารพก่อนเรียน
และก่อนแสดง
∙ ความเป็นมาของนาฏศลิ ป์
คณุ ค่า
สอบปลายปี
สอบปลายปี
รวมตลอดปี
54
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5
มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้วี ดั
สาระที่ 1 ทัศนศิลป์
มาตรฐาน ศ 1.1 : สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คุณคา่ งานทศั นศิลป์ ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคิด ตอ่ งานศิลปะ อย่างอิสระชืน่ ชม และประยุกต์ใช้
ในชวี ิตประจำวนั
ชนั้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.5 1. บรรยายเกี่ยวกับจงั หวะ • จงั หวะ ตำแหนง่ ของสง่ิ ตา่ ง ๆ ในสง่ิ แวดลอ้ มและงาน
ตำแหน่ง ของสิง่ ต่าง ๆ ทป่ี รากฏ ทศั นศิลป์
ในสงิ่ แวดลอ้ ม และงานทัศนศิลป์
2. เปรยี บเทียบความแตกตา่ ง • ความแตกต่างระหวา่ งงานทศั นศลิ ป์
ระหว่างงานทัศนศลิ ป์ ท่ี
สรา้ งสรรคด์ ้วยวัสดอุ ุปกรณแ์ ละ
วธิ ีการทต่ี า่ งกนั
3. วาดภาพ โดยใช้เทคนิคของ •แสงเงา นำ้ หนัก และวรรณะสี
แสงเงา นำ้ หนัก และวรรณะสี
4. สร้างสรรค์งานป้นั จาก ดิน •การสรา้ งงานป้นั เพ่ือถา่ ยทอดจนิ ตนาการด้วยการใช้ดนิ
น้ำมนั หรือดินเหนยี ว โดยเนน้ นำ้ มนั หรือ ดนิ เหนยี ว
การถา่ ยทอดจนิ ตนาการ
5. สร้างสรรค์งานพมิ พภ์ าพ โดย • การจดั ภาพในงานพิมพ์ภาพ
เน้น การจัดวางตำแหน่งของสิ่ง
ต่าง ๆ ในภาพ
6. ระบปุ ญั หาในการจัด • การจัดองค์ประกอบศิลป์และการสอ่ื ความหมาย ในงาน
องคป์ ระกอบศิลป์ และการสือ่ ทัศนศิลป์
ความหมายในงานทศั นศลิ ป์ของ
ตนเอง และบอกวธิ กี ารปรบั ปรุง
งานให้ดขี ึ้น
7. บรรยายประโยชนแ์ ละคุณค่า • ประโยชน์และคุณคา่ ของงานทศั นศลิ ป์
ของงานทศั นศลิ ป์ทีม่ ีผลต่อชีวิต
ของคนในสังคม
55
สาระท่ี 1 ทศั นศิลป์
มาตรฐาน ศ 1.2 : เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างทัศนศิลป์ ประวตั ศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคณุ ค่างานทัศนศิลป์
ท่เี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน ภมู ิปัญญาไทย และสากล
ชนั้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.5 1. ระบุ และบรรยายเกย่ี วกับ • ลกั ษณะรูปแบบของงานทัศนศลิ ป์
ลกั ษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์
ในแหล่งเรยี นรู้หรือนิทรรศการ
ศลิ ปะ
2. อภปิ รายเกีย่ วกบั งาน • งานทัศนศิลป์ ทีส่ ะท้อนวัฒนธรรมและภูมิปญั ญาใน
ทศั นศลิ ป์ท่ีสะท้อนวัฒนธรรม ท้องถนิ่
และ ภมู ปิ ญั ญาในท้องถิ่น
สาระที่ 2 ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.1 : เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์วิเคราะห์ ดนตรีถ่ายทอดความรู้สึก ความคิด
ตอ่ ดนตรีอยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจำวัน
ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป.5 1. ระบอุ งค์ประกอบดนตรใี น • การสื่ออารมณ์ของบทเพลงด้วยองค์ประกอบดนตรี
เพลง ท่ีใช้ในการสอ่ื อารมณ์ - จงั หวะกับอารมณ์ของบทเพลง
- ทำนองกบั อารมณ์ของบทเพลง
2. จำแนกลกั ษณะ ของเสียงขบั • ลักษณะของเสียงนักร้องกลุม่ ต่าง ๆ
รอ้ งและเครื่องดนตรีท่ีอยู่ในวง • ลกั ษณะเสยี งของวงดนตรีประเภทต่าง ๆ
ดนตรีประเภทต่าง ๆ
3. อ่าน เขียนโนต้ ดนตรีไทยและ • เคร่อื งหมายและสัญลักษณด์ นตรี
สากล 5 ระดบั เสยี ง - บนั ไดเสียง 5 เสียง Pentatonic scale
- โนต้ เพลงในบันไดเสยี ง 5 เสียง Pentatonic scale
4. ใชเ้ ครอื่ งดนตรีบรรเลงจังหวะ
และทำนอง • การบรรเลงเครื่องประกอบจังหวะ
5. ร้องเพลงไทยหรือเพลงสากล
หรือเพลงไทยสากลที่เหมาะสม • การบรรเลงทำนองดว้ ยเครื่องดนตรี
กับวัย
• การรอ้ งเพลงไทยในอัตราจงั หวะสองชั้น
6. ด้นสดง่าย ๆ โดยใชป้ ระโยค • การรอ้ งเพลงสากล หรือ ไทยสากล
เพลง • การร้องเพลงประสานเสยี งแบบ Canon Round
• การสร้างสรรคป์ ระโยคเพลงถาม-ตอบ
7. ใชด้ นตรรี ว่ มกบั กจิ กรรมใน •การบรรเลงดนตรีประกอบกิจกรรมนาฏศลิ ป์
การแสดงออกตามจนิ ตนาการ • การสรา้ งสรรคเ์ สยี งประกอบการเล่าเรื่อง
56
สาระที่ 2 ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของดนตรีที่เป็น
มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถิน่ ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
ชน้ั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
ป.5 1. อธิบายความสมั พันธ์ระหว่าง • ดนตรีกบั งานประเพณี
ดนตรกี บั ประเพณีในวัฒนธรรม - บทเพลงในงานประเพณี ในท้องถ่นิ
ต่าง ๆ - บทบาทของดนตรีในแตล่ ะประเพณี
2. อธิบายคณุ ค่าของดนตรีที่มา • คุณคา่ ของดนตรจี ากแหล่งวัฒนธรรม
จากวัฒนธรรมทตี่ า่ งกัน
- คณุ คา่ ทางสงั คม
- คณุ ค่าทางประวตั ิศาสตร์
สาระที่ 3 นาฏศลิ ป์
มาตรฐาน ศ 3.1 : เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณค์ ณุ คา่ นาฏศิลป์
ถ่ายทอดความรู้สึก ความคดิ อยา่ งอิสระ ชืน่ ชม และประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน
ชัน้ ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.5 1. บรรยายองค์ประกอบนาฏศลิ ป์ • องคป์ ระกอบของนาฏศิลป์
- จังหวะ ทำนอง คำร้อง
- ภาษาทา่ นาฏยศัพท์
- อปุ กรณ์
2. แสดงท่าทางประกอบเพลง • การประดิษฐ์ท่าทางประกอบเพลง หรือท่าทางประกอบ
หรือเรอ่ื งราวตามความคดิ ของตน เร่อื งราว
3. แสดงนาฏศิลป์ โดยเนน้ การใช้ • การแสดงนาฏศลิ ป์
ภาษาท่าและนาฏยศพั ทใ์ นการส่อื - ระบำ
ความหมายและการแสดงออก - ฟ้อน
- รำวงมาตรฐาน
4. มีสว่ นรว่ มในกลมุ่ กับการเขียน • องค์ประกอบของละคร
เค้าโครงเร่ืองหรือบทละครส้ัน ๆ - การเลือกและเขียนเคา้ โครงเรื่อง
- บทละครสั้น ๆ
5. เปรียบเทยี บการแสดง • ทม่ี าของการแสดงนาฏศิลปช์ ุดต่าง ๆ
นาฏศิลป์ชดุ ต่าง ๆ • หลักการชมการแสดง
6. บอกประโยชน์ท่ไี ด้รบั จากการ • การถ่ายทอดความรู้สกึ และคุณค่าของการแสดง
ชม การแสดง
57
สาระที่ 3 นาฏศลิ ป์
มาตรฐาน ศ 3.2 : เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์ ประวัติศาสตรแ์ ละวฒั นธรรม เหน็ คณุ ค่าของนาฏศลิ ปท์ ่ี
เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล
ชนั้ ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป.5 1. เปรยี บเทยี บการแสดง • การแสดงนาฏศิลปป์ ระเภทต่าง ๆ
ประเภท ต่าง ๆ ของไทย ในแต่ การแสดงพื้นบา้ น
ละท้องถิ่น
2. ระบุหรอื แสดงนาฏศลิ ป์ • การแสดงนาฏศิลป์ประเภทต่าง ๆ--การแสดงพื้นบ้าน
นาฏศิลป์พืน้ บา้ นที่สะท้อนถึง
วฒั นธรรมและประเพณี
58
คำอธิบายรายวชิ า
ศ 15101 ศลิ ปะ 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 80 ช่วั โมง/ปี
สังเกต รับรู้ สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวและถ่ายทอดสิ่งที่รับรู้เป็นงานทัศนศิลปใ์ ช้วัสดุอุปกรณ์ ในการทำงาน อย่าง
ถูกต้อง เปรียบเทียบงานศิลป์ที่สร้างสรรค์ด้วยวัสดุอุปกรณ์และวิธีการที่แตกต่างกัน วาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสง
เงา น้ำหนัก และวรรณะสี สร้างงานปั้นจากจินตนาการด้วย ดินน้ำมันหรือดินเหนียว สร้างงานพิมพ์ภาพ จัด
องค์ประกอบและสือ่ ความหมายในงาน ปฏิบัติงานศิลป์ด้วยความสนุกสวยความสนกุ สนานเพลิดเพลิน เปรียบเทียบ
ความคดิ ความรู้สกึ ทถ่ี ่ายทอดผา่ นงานทศั นศิลป์ของตนเองและบคุ คลอ่นื
รู้โครงสร้างของบทเพลง จำแนกประเภทของเครื่องดนตรี ระบุทิศทางการเคลื่อนที่ขึ้น-ลง ของทำนอง
รูปแบบจังหวะ ความเร็วของจังหวะเพลง อ่านและเขียนโน้ตดนตรีไทยและสากล ร้องเพลงโดยใช้ช่วงเสียงที่
เหมาะสม ระบวุ ิธีอนรุ ักษส์ ่งเสรมิ วัฒนธรรมทางดนตรี สนใจและ เห็นคุณค่าดนตรีท้องถ่นิ ที่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม
ภูมิปญั ญาไทยและภมู ปิ ัญญาสากล
รับรู้ ความรู้ทักษะพื้นฐานทางนาฏศิลป์และการละคร สื่อความหมายและอารมณ์ ใช้ภาษาท่าและ
นาฏยศพั ท์ทางการละครในการถ่ายทอดเรื่องราวประดิษฐ์ทา่ รำประกอบเพลง แสดงรำวงมาตรฐาน ระบำ ประดิษฐ์
ท่ารำประกอจังหวะเพลง เล่าจุดสำคัญของเรื่องและลักษณะเด่นของ ตัวละครในการแสดง สามารถปฏิบัติการ
เคลื่อนไหวท่าทาง ลีลา ความงดงาม อย่างอิสระเพื่อ สื่อความคิด จินตนาการสร้างสรรค์ เห็นคุณค่าของการแสดง
นาฏศลิ ป์
รหสั ตวั ช้ีวัด
ศ 1.1 ป.5/1 -3
ศ 1.1 ป.5/4 -7
ศ 1.2 ป.5/1 -2
ศ 2.1 ป.5/1-7
ศ 2.2 ป.5/1-2
ศ 3.1 ป.5/1-6
ศ 3.1 ป.5/1-2
รวมท้ังสน้ิ 26 ตวั ช้ีวัด
59
โครงสร้างรายวชิ า
ศ15101 ศิลปะ 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 80 ช่ัวโมง/ปี
หนว่ ยที่ ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
เรยี นรู้ /ตัวช้ีวดั ( ชั่วโมง ) คะแนน
สาระทศั นศลิ ป์ 39 30
10
1 ความงามจาก ศ 1.1 ป.5/1 -3 จุด เส้น น้ำหนักของแสงเงา 11
เส้นสี 10
รปู รา่ ง รูปทรง สี และพนื้ ผวิ
10
เป็นสงิ่ ท่กี ่อใหเ้ กดิ ภาพต่างๆ 15
8
และเม่ือนำสีมาสรา้ งสรรค์
7
ผลงานจะทำใหเ้ กดิ ความ
สวยงาม ดงึ ดดู ความสนใจของ
ผพู้ บเห็น
2 โลกของ ศ 1.1 ป.5/4 -7 การถา่ ยทอดประสบการณท์ ี่พบ 19
ทัศนศลิ ป์
เหน็ มาสามารถนำมาถ่ายทอด
3 ศลิ ปะในชวี ิต
เป็นภาพวาด งานปั้น งาน
4 เพลงไพเราะ
เสนาะหู พิมพ์ภาพ งานปะตดิ และงาน
แกะสลักได้
ศ 1.2 ป.5/1 -2 ธรรมชาติทีอ่ ยู่รอบตวั เรา 9
รวมทั้งสิง่ แวดล้อมท่ีมนุษยส์ ร้าง
ขึน้ สามารถนำมาสรา้ งสรรค์
เปน็ งานศิลปะท่ีสวยงามได้
สาระดนตรี 19
ศ 2.1 ป.5/1-7 การฟงั ดนตรีโดยใชห้ ลกั การ 11
ท่ีถูกต้อง ทำใหร้ ับรู้ความ
ไพเราะของดนตรีและเข้าใจ
เสยี งบรรเลงจากเคร่ืองดนตรี
ชนิดต่างๆ ได้ การร้องเพลงให้
ไพเราะ ตอ้ งเรียนรหู้ ลักการ
รอ้ งทีถ่ ูกต้อง และมกี ารฝกึ ฝน
อย่างสม่ำเสมอ
5 ดนตรนี ่ารู้ ศ 2.2 ป.5/1-2 การถา่ ยทอดทางดนตรี ส่ือให้ 8
เหน็ ถึงวฒั นธรรมประเพณใี น
ท้องถิ่นทีม่ ีคณุ ค่าท้ังดา้ นสงั คม
และประวัตศิ าสตร์
60
หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
เรยี นรู้ /ตัวชี้วัด ( ชั่วโมง ) คะแนน
สาระนาฏศิลป์ 20 15
5
6 นาฏศิลปไ์ ทย ศ 3.1 ป.5/1-6 การแสดงออกทางนาฏศลิ ปเ์ ป็น 5
น่ารู้ 5
ศ 3.1 ป.5/1-2 การสื่อความหมาย ความรู้สึก 5
มีลักษณะแตกต่างกันไปตาม 20
วัฒนธรรม ประเพณีและวิถี
ชวี ิต
7 นาฏศิลป์ใน ศ3.2ป.5/1 ∙ การแสดงนาฏศลิ ปป์ ระเภท 5
ท้องถ่ิน
ศ3.2ป.5/2 ต่าง ๆ การแสดงพืน้ บ้าน
8 การแสดง
นาฏศลิ ป์และ ∙ การแสดงนาฏศิลปป์ ระเภท
การแสดงละคร
ตา่ ง ๆการแสดงพ้นื บา้ น
ศ3.1ป.5/2ศ3.1ป. การประดิษฐ์ทา่ ทางประกอบ 10
5/3ศ3.1ป.5/4ศ เพลงหรือท่าทางประกอบ
3.1ป.5/5 เรือ่ งราว
∙ การแสดงนาฏศลิ ป์
-ระบำ
-ฟอ้ น
-รำวงมาตรฐาน
-องค์ประกอบของละคร
-การเลือกและเขียนเค้าโครง
เรอ่ื งบทละครสั้น ๆ
∙ทม่ี าของการแสดงนาฏศิลป์ชดุ
ตา่ ง ๆ
สอบกลางปี 1
สอบปลายปี 1 20
รวมตลอดปี 80 100
61
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6
มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชวี้ ดั
สาระที่ 1 ทศั นศิลป์
มาตรฐาน ศ 1.1 : สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิพากษ์ วิจารณ์
คุณคา่ งานทัศนศิลป์ ถา่ ยทอดความร้สู ึก ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะ อย่างอสิ ระ ชืน่ ชม และประยุกต์ใช้
ในชีวติ ประจำวนั
ชนั้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.6 1. ระบสุ คี ่ตู รงข้าม และอภปิ ราย • วงสธี รรมชาติ และสีคู่ตรงข้าม
เกยี่ วกบั การใช้สีคู่ตรงข้ามในการ
ถา่ ยทอดความคิดและอารมณ์
2. อธิบายหลกั การจัดขนาดสัดสว่ น • หลกั การจัดขนาด สดั ส่วนความสมดลุ ในงานทศั นศิลป์
ความสมดลุ ในการสร้างงานทัศนศิลป์
3. สรา้ งงานทัศนศลิ ป์จากรปู แบบ 2 • งานทัศนศิลป์รปู แบบ 2 มิติ และ 3 มติ ิ
มิติ เปน็ 3 มิติ โดยใชห้ ลกั การของ
แสงเงาและนำ้ หนัก
4. สร้างสรรค์งานปนั้ โดยใช้หลกั การ • การใชห้ ลกั การเพม่ิ และลดในการสรา้ งสรรคง์ านปน้ั
เพิ่มและลด
5. สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์โดยใช้ • รปู และพน้ื ท่วี า่ งในงานทศั นศิลป์
หลักการ ของรปู และพ้นื ท่วี ่าง
6. สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์โดยใช้ สี • การสรา้ งสรรค์งานทศั นศิลปโ์ ดยใช้ สีคูต่ รงข้าม
คตู่ รงขา้ มหลักการจดั ขนาดสัดส่วน หลกั การจัดขนาด สดั ส่วนและความสมดุล
และความสมดลุ
7. สรา้ งงานทศั นศลิ ปบ์ รรยาย • การสรา้ งงานทัศนศลิ ปเ์ ป็นแผนภาพ แผนผงั และ
บทบาทของงานทศั นศิลป์ ทส่ี ะท้อน ภาพประกอบ
ชีวิตและสังคม
สาระที่ 1 ทศั นศลิ ป์
มาตรฐาน ศ 1.2 : เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัตศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คณุ ค่างานทัศนศิลปท์ ่ี
เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ภมู ปิ ัญญาไทย และ สากล
ชัน้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.6 1. บรรยายบทบาทของงานทัศนศลิ ป์ • บทบาทของงานทัศนศลิ ปใ์ นชีวติ และสงั คม
ท่ีสะท้อนชีวิตและสงั คม
2. อภปิ รายเก่ยี วกบั อิทธิพลของ • อทิ ธพิ ลของศาสนาที่มตี ่องานทัศนศิลปใ์ นท้องถ่นิ
ความเช่ือความศรทั ธาในศาสนาทม่ี ี
ผลต่องานทัศนศลิ ป์ในท้องถิน่
62
ชน้ั ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.6 3. ระบุ และบรรยายอิทธิพลทา • อิทธพิ ลทางวฒั นธรรมในท้องถ่นิ ทมี่ ผี ล ตอ่ การสร้างงาน
วฒั นธรรมในท้องถิน่ ทมี่ ีผลตอ่ การ ทศั นศิลป์
สรา้ งงานทศั นศิลป์ของบุคคล
สาระท่ี 2 ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.1 : เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี
ถา่ ยทอดความรูส้ กึ ความคิดต่อดนตรอี ยา่ งอสิ ระ ชื่นชมและประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ป.6 1. บรรยายเพลงทฟี่ ัง โดยอาศยั • องคป์ ระกอบดนตรีและศัพทค์ ีต
องค์ประกอบดนตรแี ละศัพทส์ ังคตี
2. จำแนกประเภทและบทบาท • เครื่องดนตรีไทยแตล่ ะภาค
หน้าทีเ่ ครือ่ งดนตรไี ทยและเครอ่ื ง • บทบาทหนา้ ท่ีของเคร่ืองดนตรี
ดนตรีท่มี าจากวฒั นธรรมตา่ ง ๆ • ประเภทของเครื่องดนตรสี ากล
3. อา่ น เขียนโนต้ สากลทำนองง่ายๆ • เคร่อื งหมายและสญั ลักษณท์ างดนตรี
4. ใช้เครอ่ื งดนตรบี รรเลงประกอบ • การรอ้ งเพลงประกอบดนตรี
การรอ้ งเพลง ด้นสด ที่มจี งั หวะ
และทำนองงา่ ย ๆ • การสร้างสรรค์รปู แบบจังหวะและทำนองด้วยเคร่ือง
5. บรรยายความรสู้ ึกท่มี ตี ่อดนตรี ดนตรี
6. แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับ
ทำนองจงั หวะ การประสานเสยี ง • การบรรยายความร้สู กึ และแสดงความคดิ เห็นที่มีต่อบท
และคณุ ภาพเสยี งของเพลงที่ฟงั เพลง
- เนอ้ื หาในบทเพลง
- องค์ประกอบในบทเพลง
- คณุ ภาพเสยี งในบทเพลง
สาระท่ี 2 ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.2 : เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเห็นคุณค่าของดนตรีที่เป็น
มรดกทางวัฒนธรรมภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ภมู ิปญั ญาไทยและ สากล
ชนั้ ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
ป.6 1. อธิบายเรื่องราวของดนตรีไทย • ดนตรไี ทยในประวตั ิศาสตร์
ในประวตั ศิ าสตร์
- ดนตรีในเหตกุ ารณ์สำคญั ทางประวตั ิศาสตร์
2. จำแนกดนตรที ี่มาจากยคุ สมัยที่ - ดนตรีในยคุ สมัยตา่ ง ๆ
ตา่ งกนั - อทิ ธิพลของวัฒนธรรมที่มีตอ่ ดนตรี
3. อภปิ รายอิทธพิ ลของวัฒนธรรม
ต่อดนตรใี นทอ้ งถิ่น
63
สาระที่ 3 นาฏศิลป์
มาตรฐาน ศ 3.1: เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถา่ ยทอดความรูส้ ึก ความคดิ อยา่ งอิสระชน่ื ชมและประยุกต์ชวี ติ ประจำวัน
ชั้น ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
ป.6 1. สรา้ งสรรคก์ ารเคล่ือนไหวและการ • บทบาทและหนา้ ทีใ่ นงานนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร
แสดงโดยเน้นการถา่ ยทอดลีลาหรอื
อารมณ์
2. ออกแบบเคร่อื งแต่งกาย หรอื • การออกแบบสรา้ งสรรค์
อปุ กรณ์ประกอบการแสดงอย่างง่าย - เคร่ืองแตง่ กาย
- อปุ กรณ์ ฉากประกอบการแสดง
3. แสดงนาฏศลิ ปแ์ ละละครงา่ ย ๆ • การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการแสดงละคร
- รำวงมาตรฐาน
- ระบำ
- ฟ้อน
- ละครสรา้ งสรรค์
4. บรรยายความรูส้ กึ ของตนเองท่ีมี • บทบาทและหนา้ ท่ใี นงานนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร
ต่องานนาฏศลิ ป์และการละครอย่าง
สรา้ งสรรค์
5. แสดงความคดิ เหน็ ในการชมการ • หลักการชมการแสดง
แสดง การวิเคราะห์ ความรู้สึกชน่ื ชม
6. อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง • องคป์ ระกอบทางนาฏศลิ ป์และการละคร
นาฏศิลป์และการละครกับส่งิ ทีป่ ระสบ
ในชวี ิตประจำวนั
สาระที่ 3 นาฏศลิ ป์
มาตรฐาน ศ 3.2 : เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศลิ ป์ประวัตศิ าสตร์และวฒั นธรรมเห็นคณุ คา่ ของนาฏศลิ ป์ท่ี
เปน็ มรดกทางวัฒนธรรมภมู ิปัญญาท้องถ่นิ ภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล
ช้ัน ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.6 1. อธบิ ายส่งิ ทม่ี คี วามสำคัญต่อการแสดง • ความหมาย ความเปน็ มา ความสำคัญ ของนาฏศิลป์และ
นาฏศิลปแ์ ละละคร
ละคร
- บคุ คลสำคัญ
- คณุ ค่า
2. ระบุประโยชนท์ ีไ่ ดร้ บั จากการแสดง • การแสดงนาฏศิลปแ์ ละละคร ในวนั สำคญั ของโรงเรยี น
หรือการชมการแสดงนาฏศิลปแ์ ละละคร
64
คำอธิบายรายวชิ า
ศ 16101 ศิลปะ 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศิลปะ
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 80 ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาปฏิบัติกิจกรรมเกี่ยวกับทัศนธาตุ สีคู่ตรงข้าม การจัดขนาด สัดส่วน ความสมดุล รูปแบบ 2 มิติ 3 มิติ
โดยใช้หลักการของแสงเงา น้ำหนักและงานสร้างสรรค์อื่นๆ รู้และเข้าใจบทบาทของงานทัศนศิลป์ที่สะท้อนชีวิตและ
สังคม อทิ ธิพลของความเชื่อ ความศรทั ธา ในศาสนา และวัฒนธรรมท่มี ผี ลต่อการสร้างงานทัศนศลิ ป์ในทอ้ งถิ่น
ศึกษาเกย่ี วกบั องค์ประกอบของดนตรี ศพั ทส์ ังคีตในบทเพลง ประโยคและอารมณ์ของบทเพลงท่ขี ับร้อง และ
บรรเลงเครื่องดนตรี ด้นสดที่มีจังหวะ ทำนองง่ายๆ อ่าน เขียนตัวโน้ตไทยและสากลตามทำนองเพลง รู้และเข้าใจ
เรื่องราวดนตรีในประวัติศาสตร์ อิทธิพลของวัฒนธรรมต่อดนตรี รู้คุณค่าดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่างกัน เห็น
ความสำคญั ในการอนุรักษ์
ศึกษาเกย่ี วกับการแสดงนาฏศิลป์ และการแสดงละครงา่ ยๆ ถ่ายทอดลลี าหรืออารมณ์ และสามารถออกแบบ
เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การแสดง เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์และละครกับสิ่งที่ประสบในชีวติ ประจำวัน
ตระหนกั และเห็นคณุ คา่ ของวัฒนธรรม ประเพณี การรักษาและสบื ทอดการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
โดยใช้ทกั ษะกระบวนการฝึกปฏิบตั ิจริง สคี ตู่ รงข้าม การจดั ขนาด สัดสว่ น ความสมดลุ รปู แบบ 2 มิติ 3 มิติ
แสง เงา น้ำหนัก องค์ประกอบดนตรี ศัพท์สังคีต ตัวโน๊ต การแสดงละคร การออกแบบเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์
เพื่อให้เกิดความชำนาญ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน มีจิตศิลปะ คุณธรรมจริยธรรม
และคา่ นิยมท่ดี งี าม
รหสั ตัวชี้วัด
ศ 1.1 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป.6/5 , ป.6/6 , ป.6/7
ศ 1.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3
ศ 2.1 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป.6/5 , ป.6/6
ศ 2.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3
ศ 3.1 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป.6/5 , ป.6/6
ศ 3.2 ป.6/1 , ป.6/2
รวม 27 ตัวชี้วดั
65
โครงสร้างรายวชิ า
ศ 16101 ศลิ ปะ 6 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 80 ช่ัวโมง/ปี
หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
1 เรียนรู้ /ตัวช้ีวดั (ชวั่ โมง) คะแนน
2
เรอื่ ง พนื้ ฐานงาน สาระทัศนศิลป์ 39 30
3 ศิลป์ 15 10
ศ 1.1 การวาดภาพระบายสี ตอ้ งมี
4 เรอ่ื ง สร้างสรรค์ 19 10
5 งานศิลป์ ป.6/1 ป.6/2 ความรูท้ างทัศนธาตเุ ป็นพ้นื ฐาน
5 10
เร่ือง ศลิ ปะกับชีวิต ป.6/3 ป.6/4 สำคัญในการวาดภาพสีเปน็
19 15
เร่ือง เสยี งเพลง ป.6/5 ป.6/7 สว่ นประกอบของทศั นศิลป์ เมอ่ื 6 5
ไพเราะ
ศ 1.2 ป.6/1 นำมาทดลองสีด้วยวธิ ีการต่างๆ 7 5
เรอ่ื ง บรรเลงเพลง
สนุก ป.6/2 ป.6/3 จะไดภ้ าพท่ีสวยงาม
ศ 1.1 ภาพแบบไทย มเี อกลักษณ์
ป.6/1 ป.6/2 เฉพาะตวั แตกต่างจากภาพ
ป.6/3 ป.6/4 สากล ซง่ึ การวาดภาพทั้งสอง
ป.6/5 ป.6/7 แบบหรอื การวาดภาพแบบอน่ื
ศ 1.2 ต้องใช้ทัศนธาตุ และความคิด
ป.6/1 ป.6/2 จินตนาการ ในการสรา้ งสรรค์
ป.6/3 ผลงาน
ศ 1.1 ศิลปะ เปน็ สิง่ ท่ีมคี ณุ คา่ แสดงถงึ
ป.6/1 ป.6/2 ความมวี ฒั นธรรม นักเรยี นจึง
ป.6/3 ป.6/4 ควรเรียนรู้ความเป็นมา และ
ป.6/5 ป.6/7 อนรุ กั ษ์ให้สืบทอดตอ่ ไป
ศ 1.2 ป.6/1
ป.6/2 ป.6/3
สาระดนตรี
ศ 2.1 ป.6/1 การฟังเพลง
ป.6/2 ป.6/3 เพอ่ื รับรู้ความไพเราะของ
ป.6/4 ป.6/5 เสยี งดนตรีตอ้ งฟังอย่างตั้งใจ
ป.6/6 และมหี ลักการฟังทด่ี ี
ศ2.2 ป.6/1
ป.6/2 ป.6/3
ศ 2.1 ป.6/1 การบรรเลง
ป.6/2 ป.6/3 ดนตรีให้ไพเราะ ต้องมีหลักการ
ป.6/4 ป.6/5 เลา่ ทถ่ี กู วิธแี ละการดูแลรักษา
ป.6/6 เครอื่ งดนตรีที่ถูกต้อง
ศ 2.2 ป.6/1
ป.6/2 ป.6/3
66
หน่วยท่ี ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
6 เรียนรู้ /ตวั ช้วี ดั (ชั่วโมง) คะแนน
7 เรื่อง ภูมปิ ญั ญาทาง ศ 2.1 ป.6/1 ดนตรีมีประวัติความเป็นมา 6 5
8 ดนตรี ป.6/2 ป.6/3 ยาวนานและมีววิ ฒั นาการอย่าง 20 15
5 5
9 ป.6/4 ป.6/5 ตอ่ เนื่อง จึงมีคุณคา่ ทาง
5 4
ป.6/6 วัฒนธรรมควรแกก่ ารศึกษาและ
5 3
ศ 2.2 ป.6/1 อนรุ ักษ์ไว้
ป.6/2 ป.6/3
สาระนาฏศิลป์
เรื่อง การละคร ศ 2.1 ป.6/1 การแสดงละครใหป้ ระสบ
ป.6/2 ป.6/3 ผลสำเร็จตอ้ งมีความรู้พนื้ ฐาน
ป.6/4 ป.6/5 ในการแสดงและอาศยั เทคนิค
ป.6/6 การแสดงออก รวมถงึ การสร้าง
ศ 2.2 ป.6/1 เร่อื งในการแสดงท่ีดี
ป.6/2 ป.6/3
เรื่อง นาฏศลิ ป์ไทย ศ 2.1 ป.6/1 ภาษาทา่ เปน็
เบอื้ งตน้ ป.6/2 ป.6/3 พน้ื ฐานในการแสดงนาฏศิลป์
ป.6/4 ป.6/5 ไทย ผู้ทแี่ สดงภาษาท่าได้ดี
ป.6/6 สามารถสื่ออารมณแ์ ละ
ศ2.2 ป.6/1 ความหมายใหผ้ ู้อื่นรับรแู้ ละ
ป.6/2 ป.6/3 เขา้ ใจได้
เรือ่ ง นาฏศิลป์นา่ รู้ ศ 2.1 ป.6/1 นาฏศิลปไ์ ทย
ป.6/2 ป.6/3 เป็นการแสดงท่ีมเี อก
ป.6/4 ป.6/5 ลกั ษณะเฉพาะและมีลีลาออ่ น
ป.6/6 ช้อยสวยงาม
ศ 2.2 ป.6/1
ป.6/2 ป.6/3
10 เรื่อง ละครไทย วิถี ศ 2.1 ป.6/1 โขน เปน็ นาฏ 53
ไทย ป.6/2 ป.6/3 ศิลปะชน้ั สงู แสดงถึงศิลปะที
ป.6/4 ป.6/5 ทรงคณุ ค่าต่อวัฒนธรรมไทยจึง
ป.6/6 ควรเรียนรู้และอนรุ ักษ์ไว้ให้คง
ศ2.2 ป.6/1 อยู่ตลอดไป
ป.6/2 ป.6/3
สอบกลางปี 1 20
สอบปลายปี 1 20
รวมตลอดปี 80 100
67
สือ่ /แหล่งเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ได้จัดทำสื่อและจัดให้มีแหล่งเรียนรู้ตามหลักการ และนโยบายของการจัด
การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน ดังนี้
สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ทักษะ
กระบวนการ และคุณลกั ษณะตามมาตรฐานของหลักสตู รได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ สอ่ื การเรยี นรู้ มีหลากหลายประเภท
ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่ายการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีในท้องถิ่นการเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มี
ความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ และลีลาการเรียนรู้ที่หลากหลายของผู้เรียนการจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้เรียนและ
ผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมีคุณภาพจากสื่อต่าง ๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้
ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่าง
พอเพียง เพอ่ื พฒั นาให้ผู้เรียน เกดิ การเรียนรู้อย่างแท้จริงสถานศึกษาเขตพ้นื ที่การศึกษา หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องและผู้มี
หนา้ ที่จัดการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ควรดำเนินการดงั น้ี
๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่ายการเรียนรู้ที่มี
ประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเรียนรู้
ระหวา่ งสถานศกึ ษา ทอ้ งถิ่น ชมุ ชน สงั คมโลก
๒. จดั ทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้งจัดหาส่ิงท่ี
มอี ยูในทอ้ งถ่ินมาประยกุ ต์ใช้เป็นส่อื การเรยี นรู้
๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้
ธรรมชาติของสาระการเรยี นรู้ และความแตกต่างระหว่างบคุ คลของผู้เรียน
๔. ประเมนิ คณุ ภาพของสื่อการเรียนรู้ท่ีเลอื กใช้อย่างเป็นระบบ
๕. ศกึ ษาคน้ คว้า วิจยั เพือ่ พฒั นาส่อื การเรยี นรู้ให้สอดคล้องกับกระบวนการเรยี นรู้ของผู้เรยี น
๖. จัดให้มกี ารกำกับ ตดิ ตาม ประเมนิ คุณภาพและประสิทธภิ าพเกยี่ วกบั สอ่ื และการใช้ส่ือการเรยี นรู้เป็นระยะ
ๆ และสม่ำเสมอ
ในการจัดทำ การเลือกใช้และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษาควรคำนึงถึงหลักการ
สำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้
การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคงของชาติ ไม่ขัดต่อศีลธรรม มี
การใช้ภาษาท่ถี ูกต้อง รูปแบบการนําเสนอทเี่ ข้าใจงา่ ย และนา่ สนใจ
ในการจัดการเรียนรู้ทุกรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สถานศึกษาส่งเสริม สนับสนุนการจัดการ
กระบวนการเรยี นรู้จากแหล่งเรียนรู้ดงั นี้
๑. ห้องสมุดโรงเรยี น และห้องสมดุ หน่วยงานอ่ืน ๆ ใกล้เคยี ง
๒. แหล่งวทิ ยาการทั้งภาครฐั และเอกชน ซง่ึ ให้บริการความรู้ในเรอ่ื งตา่ ง ๆ
๓. ภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ปราชญ์ชาวบ้าน ท่มี คี วามรู้ความสามารถ มปี ระสบการณ์งานศลิ ปะ สาขาตา่ ง ๆ ท่ีมีอยู่
ในชุมชนท้องถนิ่ ฯลฯ
๔. สื่อประกอบการสอน เช่น แผนภาพ แผนภูมิ เครื่องโทรทัศน์ เครื่องดนตรีไทย เครื่องดนตรีสากล เครื่อง
แตง่ กายนาฏศิลป์
๕. สื่อส่งิ พิมพ์ตา่ ง ๆ เช่น เอกสารประกอบการสอน แผ่นพับ วารสาร หนังสอื อ้างอิง หนังสือพมิ พ์
๖. ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น อุทยานแห่งชาติ สวนสตั ว์ พพิ ธิ ภณั ฑ์ วัด และโบราณสถาน
๗. ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ เช่น อนิ เทอร์เน็ต ซดี ี–รอม วซี ีดี วีดที ศั น์ ฯลฯ
๘. นิทรรศการ(ช่ัวคราว)/ นิทรรศการ(ถาวร) จดั แสดงผลงานของศิลปนหลากหลายรูปตาม สถานท่ีตามความ
เหมาะสมต่าง ๆ
68
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ คะแนน
80
อัตราส่วนคะแนน คะแนนระหว่างปการศกึ ษา : สอบปลายปการศึกษา = ๘๐ : ๒๐ 60
รายการวัด
20
ระหว่างภาค มีการวัดและประเมินผล ดงั น้ี 20
๑. คะแนนระหว่างปกี ารศกึ ษา 100
๑.๑ วดั โดยใช้แบบทดสอบ
๑.๒ วดั ทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ (เลือกวดั ตามแผนการจดั การเรยี นรู้)
๑.๒.๑ ภาระงานทีม่ อบหมาย
- การทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะ
- การประเมินกิจกรรม/ช้ินงาน (ทัศนศลิ ป์ ดนตรี นาฏศลิ ป์)
- การรว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้
๑.๒.๒ แฟ้มสะสมงาน
๑.๒.๓ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
๑.๓ วัดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และเจตคตทิ ี่ดีตอ่ วชิ าศิลปะ
๒. คะแนนสอบกลางปีการศกึ ษา วดั และประเมนิ ผลโดยใช้แบบทดสอบ
คะแนนสอบปลายปีการศึกษา มวี ดั และประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบ
รวม
เกณฑก์ ารวดั ผลประเมนิ ผล
๑. การวดั และประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบ
๑.๑ เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบเลือกตอบ พจิ ารณาจากความถกู ผิดของการเลือกตอบ
ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผดิ ให้ ๐ คะแนน
๑.๒ เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบถูกผิด พิจารณาจากความถูกผดิ ของคําตอบ
ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผิดให้ ๐ คะแนน
๑.๓ เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบเติมคำ พิจารณาจากความถกู ผิดของคำตอบ
ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผิดให้ ๐ คะแนน
๑.๔ เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบจับคู่ พจิ ารณาจากความถกู ผดิ ของการจบั คู่
จบั คถู่ ูกให้ ๑ คะแนน จับคู่ผิดให้ ๐ คะแนน
๑.5 เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบเปรียบเทยี บ พิจารณาจากความถูกผดิ ของการเปรียบเทียบ
เปรยี บเทยี บถูกให้ ๑ คะแนน เปรยี บเทยี บผดิ ให้ ๐ คะแนน
69
๑.6 เกณฑ์การให้คะแนนแบบทดสอบแบบเขียนตอบ พิจารณาจากคำตอบในภาพรวมทั้งหมด โดยกำหนด
ระดบั คะแนนเป็น ๔ ระดับ ดังนี้
ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน
๓ ตอบไดถ้ ูกต้อง สามารถอธบิ ายเหตุผลได้อย่างชดั เจน
๒ ตอบไดถ้ ูกต้อง สามารถอธิบายเหตผุ ลได้เป็นบางส่วน แต่ยงั ไมช่ ัดเจน
๑ ตอบไดถ้ ูกต้อง แต่ไมส่ ามารถอธิบายเหตผุ ลได้
๐ ตอบไม่ถูกต้อง และไม่สามารถอธบิ ายเหตุผลได้
๑.๗ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบต่อเน่ือง
(๑) เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบทดสอบแบบต่อเน่ืองที่กำหนดสถานการณ์
พจิ ารณาจากความถูกผดิ ของคำตอบ ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผิดให้ ๐ คะแนน
(๒) เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบทดสอบแบบต่อเนื่องสองข้ันตอน
โดยกำหนดระดบั คะแนนเป็น ๓ ระดบั ดังนี้
ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน
๒ เลือกคำตอบและบอกเหตผุ ลประกอบถกู ต้อง
๑ เลือกคำตอบถูกต้อง แต่บอกเหตุผลประกอบไม่ถูกต้อง หรือ เลือกคำตอบไม่ถูกต้อง
แต่บอกเหตุผลประกอบได้สอดคล้องกับคำตอบทีเ่ ลือก
๐ เลือกคำตอบและบอกเหตุผลประกอบไม่ถูกต้อง
๑.๘ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบทดสอบแสดงวธิ ที ำ
โดยกำหนดระดับคะแนนเป็น ๕ ระดับ ดังนี้
ระดบั คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน
๔ คำตอบถูกต้องและแสดงวิธีทำที่มีประสิทธิภาพ โดยแสดงถึงการคิดอย่างเป็นระบบ
และการคิดวิเคราะห์
๓ คำตอบถูกต้องและแสดงวธิ ที ำถกู ต้องสมบรู ณ์
๒ คำตอบถกู ต้อง แสดงวธิ ที ำถกู ต้องแตย่ ังไมส่ มบูรณ์
๑ คำตอบถูกต้อง มีการแสดงแสดงวธิ ีทำแต่ยังไมถ่ ูกตอ้ งสมบูรณ์
๐ คำตอบไม่ถูกต้อง และแสดงวธิ ีทำไม่ถูกต้อง
70
๒. การวดั และประเมนิ ผลด้านทกั ษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ
๒.๑ ภาระงานท่ีมอบหมาย
- ใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทกั ษะ
กำหนดเกณฑก์ ารทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะ ๔ ระดบั ดงั น้ี
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน
๔ (ดีมาก) - ทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะครบถว้ นและเสร็จตามกําหนดเวลา
- ทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะได้ถูกต้อง
- แสดงลำดบั ขั้นตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะชัดเจน เหมาะสม
๓ (ด)ี - ทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะครบถว้ นและเสร็จตามกำหนดเวลา
- ทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะได้ถกู ต้อง
- สลับขั้นตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะ หรือไม่ระบขุ ัน้ ตอน ของ
การทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะ
๒ (พอใช้) - ทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะครบถวน แต่เสร็จหลงั กำหนดเวลาเล็กน้อย
- ทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะขอ้ ไม่ถูกตอ้ ง
- สลบั ขั้นตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะ หรือไม่ระบุขั้นตอน ของ
การทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะ
๑ (ปรับปรุง) - ทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะไมค่ รบถว้ น หรือไม่เสร็จตามกำหนดเวลา
- ทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะไมถ่ ูกตอ้ ง
- แสดงลำดับขั้นตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะไม่สัมพันธ์กับ
โจทย์หรือไมแ่ สดงลำดับข้ันตอน
- การประเมนิ กจิ กรรม/ชิน้ งาน (ทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศลิ ป์)
กจิ กรรม/ชนิ้ งานทัศนศิลป์ กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ผล เป็น ๓ ระดับ ดังน้ี
ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพิจารณา
๓ (ด)ี - เตรยี มอุปกรณ์ครบและเลือกใช้งานได้เป็นอยา่ งดี
- ตง้ั ใจทำงาน จนงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายเสรจ็ สมบูรณ์
- สามารถสร้างสรรคผ์ ลงานด้วยตวั เอง นำเสนองานที่แปลกใหม่และโดดเด่น
- ทำงานเสรจ็ ตามเวลาทกี่ ำหนด ช้ินงานมคี วามสมบูรณ์ครบถว้ น
๒ (พอใช้) - เตรียมอุปกรณ์ครบและเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม
- ตั้งใจทำงานบ้าง แตไ่ มต่ ลอดเวลา
- สามารถทำงาน คิดงานเองไดแ้ ตท่ ำงานไมโ่ ดดเด่นหรือแปลกใหม่
- ทำงานเสรจ็ ตามเวลาท่กี ำหนด แต่ชน้ิ งานขาดความสมบูรณ์
๑ (ปรบั ปรุง) - เตรยี มอปุ กรณ์ไมค่ รบ เลือกอุปกรณ์มาใช้งานไมถ่ กู ต้อง
- ไมค่ ่อยให้ความร่วมมอื กับผู้สอนและสมาธสิ ัน้
- สร้างสรรค์ผลงานไมไ่ ด้ ถ้าไมม่ แี บบอย่างใหท้ ำตาม
- ทำงานไมเ่ สรจ็ ตามเวลาท่ีกำหนด และขาดความสมบูรณ์ของชิ้นงาน
71
กจิ กรรมดนตรีกำหนดเกณฑ์การประเมนิ ผล เป็น ๓ ระดบั ดงั น้ี
ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา
๓ (ด)ี - จงั หวะ ทำนอง ไมผ่ ดิ พลาดหรือผิดพลาดเล็กน้อย การวางท่าทางถูกต้อง มคี วาม
สง่างามในการเล่นดนตรี
๒ (พอใช้) - จงั หวะ ทำนอง ผดิ พลาด ๕-๖ แห่ง การวางท่าทางถกู ตอ้ งมีความสง่างาม ในการ
เล่นดนตรแี ต่ยังขาดความมัน่ ใจ
๑ (ปรับปรุง) - จังหวะ ทำนอง ผิดพลาดค่อนข้างมาก หรือ ๗ แห่ง ขึ้นไป การวางท่าทาง ขาด
ความสง่างามและขาดความมน่ั ใจ
กจิ กรรมขับร้อง กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ผล เป็น ๓ ระดบั ดงั นี้
ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา
๓ (ด)ี - จังหวะ ทำนอง ไม่ผิดพลาดหรือผิดพลาดเล็กน้อย ออกเสียงชัดเจนตลอดเพลง
อักขระ/ควบกลํา้ ผิดพลาดเลก็ น้อย แสดงลีลาท่าทางสร้างสรรคแ์ ละม่นั ใจ
๒ (พอใช้) - จังหวะ ทำนอง ผดิ พลาด ๕-๖ แห่ง ออกเสยี งไม่ชดั เจนบางแห่ง อักขระ/ ควบกลํ้า
ผิดพลาด ๕-๖ แห่ง แสดงลีลาท่าทางอย่างมนั่ ใจ
๑ (ปรับปรุง) - จังหวะ ทำนอง ผิดพลาดค่อนข้างมาก หรือ ๗ แห่งขึ้นไป ออกเสียงคลุมเครือ
อักขระ/ควบกลาํ้ ผดิ พลาดมาก ๗ แห่งขนึ้ ไป แสดงลีลาท่าทางเพียงเล็กน้อย
กิจกรรมนาฏศลิ ป์กำหนดเกณฑ์การประเมินผล เป็น ๓ ระดับ ดงั นี้
ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การพิจารณา
๓ (ด)ี - เคลื่อนไหวตรงทำนองและจังหวะตลอดเพลง การแสดงอารมณ์และความรู้สึก
สอดคล้องกับจงั หวะเพลง
- มคี วามมน่ั ใจในการแสดงออก
- ปฏิบัติตามขั้นตอนตามบทบาทหน้าที่และปรับปรุงแก้ไขปญหาอุปสรรค อย่างมี
ประสิทธภิ าพ
- ทุ่มเทอย่างเต็มความสามารถในการปฏิบัติงานจนสำเร็จและรับผิดชอบต่อ ความ
ผิดพลาดทเี่ กิดขึ้น
- ผลงานมคี วามสมบรู ณ์มีคณุ ภาพและน่าสนใจ
๒ (พอใช้) - เคลื่อนไหวตรงทำนองและจังหวะผิดพลาดไม่ตลอดเพลง การแสดงอารมณ์
ความรู้สกึ สอดคล้องกับจังหวะเพลง
- มีทา่ ทางเคอะเขินในการแสดงออก
- มีการปฏิบตั ติ ามขน้ั ตอนตามบทบาทหน้าท่ีแตต่ อ้ งได้รับคำแนะนำ
- รว่ มปฏบิ ตั งิ านตามจนสำเรจ็
- ผลงานมีความบกพร่องเลก็ น้อย
๑ (ปรบั ปรงุ ) - เคลื่อนไหวไม่ตรงทำนองและจังหวะ ผิดพลาดไม่ตลอดเพลง การแสดงอารมณ์
ความรู้สึกสอดคล้องกับจงั หวะเพลง
- ขาดความมน่ั ใจในการแสดงออก
- ไมป่ ฏิบตั ติ ามขัน้ ตอนหรือข้ามขนั้ ตอน
- รว่ มปฏิบัตงิ านเป็นบางครงั้ หรือต้องทำตามคำส่งั
- ผลงานไม่นา่ สนใจ มีความบกพร่องมาก
72
- การประเมินผลการร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้
การร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ส่วนใหญ่มอบหมายภาระงานเป็นกลุ่มกำหนดเกณฑ์ การประเมินผลการ
รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ดงั นี้
รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา
๑. การวางแผน
๓ (ดี) - วางแผนและมอบหมายหน้าที่ให้สมาชิกได้ชดั เจน
๒. ความร่วมมอื ใน ๒ (พอใช้) - วางแผนแต่มอบหมายหน้าท่ีให้สมาชกิ ไมช่ ัดเจน
กลมุ่ ๑ (ปรับปรงุ ) - ไมม่ ีการวางแผน
๓. ทักษะการ ๓ (ด)ี - ทกุ คนทำงานตามหน้าที่รับผดิ ชอบ
ปฏบิ ตั กิ าร ๒ (พอใช้) - สมาชิกส่วนมากทำงานตามหน้าท่ี
๔. การเขยี นรายงาน ๑ (ปรบั ปรุง) - สมาชิกไม่ทำงานตามหน้าที่
๓ (ดี) - ปฏิบัตติ ามขนั้ ตอนอย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
๕. เวลา ๒ (พอใช้) - ปฏบิ ัติตามขนั้ ตอนแตย่ งั มขี อ้ ผดิ พลาดเป็นบางส่วน
๑ (ปรบั ปรุง) - ไมส่ ามารถปฏบิ ัตไิ ดต้ ามขนั้ ตอนและมีความผดิ พลาด
๓ (ด)ี - เขยี นรายงานไดถ้ ูกต้องเหมาะสมและนำเสนอได้สมบูรณ์
๒ (พอใช้) - เขียนรายงานไมส่ มบูรณ์
๑ (ปรับปรงุ ) - รายงานมีขอ้ ผิดพลาดหรือไม่เขยี นรายงาน
๓ (ดี) - ปฏิบตั งิ านเสร็จสมบูรณ์ตามเวลาทก่ี ำหนด
๒ (พอใช้) - ปฏบิ ตั งิ านเสร็จตามเวลาทก่ี ำหนดแต่ไมส่ มบูรณ์
๑ (ปรับปรุง) - ปฏบิ ัติงานไม่เสร็จสมบูรณ์ตามเวลาทก่ี ำหนด
๒.๒ แฟ้มสะสมงาน
การประเมนิ แฟม้ สะสมงาน กำหนดเกณฑ์การประเมนิ เป็น ๔ ระดบั
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การพิจารณา
๔ (ดมี าก)
๓ (ด)ี - ผลงานมีรายละเอียดอย่างเพียงพอที่แสดงถึงระดับความรู้และพัฒนาการ
๒ (พอใช้) ของผู้เรยี น และแสดงถงึ ความเข้าใจในเรื่องท่ีศกึ ษา
๑ (ปรับปรุง) - ผลงานมีรายละเอียดอย่างเพียงพอที่แสดงถึงระดับความรู้และพัฒนาการ
ของผู้เรียน ไมม่ ีข้อผิดพลาดทแี่ สดงว่าไมเ่ ขา้ ใจ
- ผลงานมีรายละเอยี ดแสดงไว้ในบนั ทึกให้เห็นถึงระดับความรู้และพัฒนาการ
ของผู้เรียน แต่พบว่าบางส่วนมีความผิดพลาดหรือไม่ชัดเจนหรือแสดงถึง
ความไมเ่ ขา้ ใจ ในเร่ืองทศ่ี ึกษาของผู้เรียน
- ผลงานมีข้อมูลน้อย ไม่มีรายละเอียดแสดงไว้ในบันทึกหรือแสดงให้เห็นถึง
ระดบั ความรู้และพัฒนาการของผู้เรยี น
73
๒.3 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
- การประเมินผลสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ประเมินโดยใช้แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
กำหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ดังนี้
ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การให้คะแนน
(๓) ดีเย่ียม
ผู้เรียนปฏบิ ตั ติ นตามสมรรถนะจนเป็นนิสัย และนาํ ไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน เพื่อประโยชน์สุข
(๒) ดี ของตนเองและสงั คม โดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดับ ดีเย่ียมจำนวน ๓-๕ สมรรถนะ
และไม่มสี มรรถนะใดไดผ้ ลการประเมินต่ำกว่าระดบั ดี
(๑) พอใช้
ผู้เรียนมีสมรรถนะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เป็นการยอมรับของสังคม พิจารณา
(๐) ปรบั ปรุง จาก
๑. ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน ๑-๒ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการ
ประเมินตำ่ กว่าระดบั ดี หรอื
๒. ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน ๒ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการ
ประเมินต่ำกว่าระดับผ่าน หรอื
๓. ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการ
ประเมินต่ำกว่าระดบั ผ่าน
ผู้เรยี นรับรู้และปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์และเงอื่ นไขทสี่ ถานศึกษากำหนด พจิ ารณาจาก
๑. ได้ผลการประเมินระดับผ่าน จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการ
ประเมินตำ่ กว่าระดบั ผ่าน หรือ
๒. ไดผ้ ลการประเมินระดับดี จำนวน ๒ สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะใด ได้ผลการประเมิน
ต่ำกว่าระดบั ผ่าน
ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยพิจารณา จากผลการ
ประเมินระดบั ต้องปรบั ปรงุ ตั้งแต่ ๑ สมรรถนะ
เกณฑ์การให้คะแนน ๓ คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบตั สิ มำ่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบอ่ ยครงั้ ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั บิ างคร้ัง ให้ ๐ คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิน้อยครั้ง ให้
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
๑๓-๑๕ ดเี ยี่ยม (๓)
๙-๑๒
๕-๘ ดี (๒)
ต่ำกว่า ๕ ผ่าน (๑)
ไมผ่ ่าน (๐)
74
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ช่อื .......................................................นามสกลุ ....................................................เลขที.่ .............ช้นั ...................
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี น และขดี ✓ลงในชอ่ งทตี่ รงกับคะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
สมรรถนะด้าน รายการประเมนิ ดีเยีย่ ม ดี ผ่าน ไมผ่ ่าน
(3) (2) (1) (0)
1. ความสามารถ 1.1 มคี วามสามารถในการรบั -สง่ สาร
ในการส่อื สาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความ
เข้าใจ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
1.3 ใชว้ ิธกี ารสือ่ สารทเ่ี หมาะสม มปี ระสทิ ธิภาพ
1.4 เจรจาตอ่ รองเพ่ือขจัดและลดปญั หาความขัดแย้งต่าง ๆ ได้
1.5 เลือกรับและไมร่ ับขอ้ มลู ข่าวสารด้วยเหตผุ ลและถกู ต้อง
สรุปผลการประเมิน รวม ........ คะแนน ระดับ ...........
2. ความสามารถ 2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์
ในการคิด 2.2 มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ
2.4 มคี วามสามารถในการสรา้ งองค์ความรู้
2.5 ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาเกย่ี วกับตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม
สรุปผลการประเมนิ รวม ........ คะแนน ระดับ ...........
3. ความสามารถ 3.1 สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ทเ่ี ผชิญได้
ในการแกป้ ญั หา 3.2 ใช้เหตผุ ลในการแกป้ ญั หา
3.3 เข้าใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปล่ียนแปลงในสงั คม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรูม้ าใช้ในการป้องกนั และ
แก้ไขปัญหา
3.5 สามารติดสนิ ใจไดเ้ หมาะสมตามวัย
สรปุ ผลการประเมิน รวม ........ คะแนน ระดับ ...........
4. ความสามารถ 4.1 เรียนรดู้ ว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวัย
ในการใชท้ ักษะ 4.2 สามารถทำงานกลุ่มรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้
ชีวิต 4.3 นำความรู้ท่ไี ด้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั
4.4 จัดการปญั หาและความขดั แย้งได้เหมาะสม
4.5 หลกี เลยี่ งพฤตกิ รรมไม่พึงประสงคท์ ่สี ่งผลกระทบต่อตนเอง
สรุปผลการประเมิน รวม ........ คะแนน ระดบั ...........
5. ความสามารถ 5.1 เลือกและใช้เทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวยั
ในการใช้ 5.2 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
เทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยไี ปใชพ้ ฒั นาตนเอง
5.4 ใช้เทคโนโลยีในการแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์
5.5 มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี
สรปุ ผลการประเมนิ รวม ........ คะแนน ระดับ ...........
ระดับคุณภาพตามเกณฑก์ ารประเมินในหลักสูตรรายชน้ั
ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
75
3. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
การประเมินผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมินโดยใช้แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์กำหนด
เกณฑใ์ นการประเมิน ดังน้ี
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน
(๓) ดเี ยยี่ ม
ผู้เรียนปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป็นนิสัยและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อประโยชน์สุข
ของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมินทั้ง ๘ คุณลักษณะ คือ ได้ระดับ ๓
จำนวน ๕-๘ คุณลักษณะ และไม่มคี ณุ ลักษณะใดได้ผลการประเมนิ ต่ำกว่าระดับ ๒
(๒) ดี ผู้เรยี นมีคณุ ลกั ษณะในการปฏิบัตติ ามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เป็นการยอมรบั ของสงั คม พิจารณาจาก
(๑) ผ่าน ๑. ได้ผลการประเมิน ระดบั ๓ จำนวน ๑-๔ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใด ไดผ้ ลการ
ประเมินต่ำกว่าระดบั ๒ หรอื
๒. ได้ผลการประเมิน ระดับ ๓ จำนวน ๔ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมินตำ่ กว่าระดับ ๑ หรือ
๓. ได้ผลการประเมิน ระดบั ๒ จำนวน ๕-๘ คณุ ลักษณะ และไม่มคี ณุ ลักษณะใด ไดผ้ ลการ
ประเมินต่ำกว่าระดับ ๑
ผู้เรยี นรบั รู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขทีส่ ถานศกึ ษากำหนด พจิ ารณาจาก
๑. ได้ผลการประเมิน ระดับ ๑ จำนวน คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมนิ ตำ่ กว่าระดบั ๑ หรอื
๒. ได้ผลการประเมิน ระดับ ๒ จำนวน ๔ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมนิ ตำ่ กว่าระดบั ๑
(๐) ไมผ่ ่าน ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยพิจารณาจากผลการ
ประเมิน ระดบั ๐ ตั้งแต่ ๑ คุณลักษณะขน้ึ ไป
เกณฑ์การให้คะแนน ๓ คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั บิ ่อยครง้ั ให้ ๑ คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางครั้ง ให้ ๐ คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั นิ ้อยครั้ง ให้
76
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ช่อื .......................................................นามสกุล....................................................เลขท่ี. .............ชนั้ ...................
คำช้ีแจง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น และขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับคะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
สมรรถนะด้าน รายการประเมนิ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไม่ผ่าน
(3) (2) (1) (0)
1. รกั ชาติ - ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้
ศาสน์ กษตั ริย์ - เขา้ ร่วมกิจกรรมทีส่ รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และ
เป็น ประโยชน์ต่อโรงเรียน
- เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏบิ ัติตาม
หลัก ศาสนา
- เข้ารว่ มกจิ กรรมที่เก่ยี วกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
ตามที่ โรงเรียนจัดข้นึ
2. ซื่อสตั ย์ - ให้ขอ้ มลู ท่ีถกู ต้อง และเป็นจรงิ
สุจรติ - ปฏิบัติในสิง่ ทถ่ี ูกต้อง
3. มีวินัย - ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ
รบั ผดิ ชอบ ครอบครัว มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกจิ กรรม
ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
4. ใฝเ่ รียนรู้ - รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้
- รจู้ กั จัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม
- เชื่อฟงั คำสั่งสอนของบดิ า
- มารดา โดยไม่โต้แย้ง
– ตั้งใจเรียน
5. อยอู่ ยา่ ง - ใช้ทรัพยส์ ินและสิ่งของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
พอเพยี ง - ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรู้คณุ ค่า
- ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ
6. มงุ่ มั่นในการ - มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ด้รบั
ทำงาน มอบหมาย
- มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพื่อใหง้ าน
สำเรจ็
7. รักความเปน็ - มีจติ สำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย
ไทย - เหน็ คุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มจี ติ - รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
สาธารณะ - รู้จกั การดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสงิ่ แวดลอ้ มของ
หอ้ งเรยี นและโรงเรียน
ระดบั คุณภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ในหลักสตู รรายชนั้
ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน
77
เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการเรียน
1. เกณฑ์การตัดสนิ ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนน
ผลการเรยี นดีเย่ยี ม ๘๐ - ๑๐๐
ระดับผลการเรยี น ผลการเรยี นดมี าก ๗๕ – ๗๙
๔ ๗๐ – ๗๔
๓.๕ ผลการเรียนดี ๖๕ – ๖๙
๓ ผลการเรยี นค่อนข้างดี ๖๐ – ๖๔
๒.๕ ผลการเรียนปานกลาง ๕๕ – ๕๙
๒ ๕๐ – ๕๔
๑.๕ ผลการเรียนพอใช้ 0 - ๔๙
๑ ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ
๐ ผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์
๒. เกณฑ์การตัดสินผลการเรียน ร และ มส.
2.๑) ตัดสินผลการเรียน ร หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ได้เนื่องจาก ผู้เรียนไม่มีข้อมูล
ผลการเรียนในรายวิชาครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไม่ได้ส่งงานที่ มอบหมายให้ทำซ่ึง
งานน้ันเป็นส่วนหนึง่ ของการตัดสนิ ผลการเรยี น หรอื มีเหตสุ ดุ วสิ ัยท่ีทำให้ประเมนิ ผลการเรยี นไม่ได้
2.2) ตัดสินผลการเรียน มส. หมายถึง ผู้เรียนไม่มีสิทธิเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผู้เรียนมี
เวลาเรยี นไมถ่ งึ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้งั หมด และไม่ไดร้ บั การผ่อนผนั ให้เขา้ รบั การวัดผลปลายภาคเรยี น
การประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และการเขยี น
เกณฑ์การประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์และการเขียน คะแนนเต็ม 10๐ คะแนน
ระดบั คุณภาพ ความหมาย ชว่ งคะแนน
ดเี ย่ยี ม 80 - 10๐
ดี มีผลงานทีแ่ สดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คิด 65 – 79
ผ่าน วิเคราะห์และเขยี น ท่ีมีคุณภาพดีเลิศอยู่เสมอ 5๐ – 64
ไมผ่ ่าน มผี ลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิด 1 - 49
วเิ คราะห์และเขยี น ท่ีมคี ณุ ภาพเป็นที่ยอมรับได้
มผี ลงานที่แสดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คิด
วิเคราะห์ และเขียน ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ
ได้ แตย่ งั มขี อ้ บกพร่องบางประการ
ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน
คิดวิเคราะห์และเขียน หรือถ้ามีผลงาน ผลงาน
น้ันยงั มีข้อบกพร่องทีต่ ้องการได้รับการปรับปรุง
แก้ไขหลายประการ
78
บรรณานุกรม
กรมวิชาการ.(๒๕๕๕). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๕ และพระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาภาคบงั คบั พ.ศ. ๒๕๔๕.กรงุ เทพฯ : อักษรไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๔๕). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๕. กรุงเทพฯ :
ครุ ุสภาลาดพร้าว.
________________. (๒๕๕๑). หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ :
ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั .
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน. (๒๕๕๗,๒๙ กันยายน). แนวปฏิบัติเก่ียวกบั ค่านยิ มหลัก ๑๒
ประการสู่การปฏิบตั .ิ กรุงเทพฯ : ผ้แู ต่ง.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๑). แนวทางการบริหารจัดการหลักสูตร. กรุงเทพฯ : ชุมนุม
สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั .
_____________________________. (๒๕๕๑). ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการ
เรยี นรู้ศิลปะ. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั .
79
ภาคผนวก
80
ภาคผนวก ก
คำอภิธานศพั ท์
81
อภธิ านศัพท์
ทศั นศิลป์
โครงสรา้ งเคลอื่ นไหว (mobile)
เป็นงานประติมากรรมทมี่ โี ครงสร้างบอบบางจัดสมดลุ ดว้ ยเส้นลวดแขง็ บาง ๆ ทม่ี ีวัตถรุ ูปร่าง รูปทรงตา่ ง ๆ ท่ี
ออกแบบเชอ่ื มติดกับเส้นลวด เป็นเครื่องแขวนที่เคลื่อนไหวได้ด้วยกระแสลมเพียงเบา ๆ
งานสอื่ ผสม (mixed media)
เป็นงานออกแบบทางทศั นศิลป์ท่ปี ระกอบด้วยหลายสือ่ โดยใชว้ ัสดุหลาย ๆ แบบ เช่น กระดาษ ไม้ โลหะ
สรา้ งความผสมกลมกลืนดว้ ยการสร้างสรรค์
จงั หวะ (rhythm)
เป็นความสัมพันธข์ องทัศนธาตุ เช่น เส้น สี รูปร่าง รูปทรง น้ำหนักในลักษณะของการซำ้ กัน สลับไปมา หรือ
ลกั ษณะลื่นไหล เคล่อื นไหวไม่ขาดระยะจังหวะที่มคี วามสัมพนั ธ์ต่อเนื่องกนั จะชว่ ยเน้นให้เกิดความเดน่ หรือทางดนตรี
ก็คอื การซำ้ กันของเสียงในช่วงเท่ากนั หรอื แตกต่างกนั จังหวะใหค้ วามรสู้ กึ หรือความพอใจทางสนุ ทรยี ภาพในงานศลิ ปะ
ทศั นธาตุ (visual elements)
สิ่งที่เป็นปัจจัยของการมองเหน็ เป็นส่วนตา่ ง ๆ ที่ประกอบกันเป็นภาพ ได้แก่ เส้น น้ำหนัก ที่ว่าง รูปร่าง
รปู ทรง สี และลักษณะพ้นื ผิว
ทศั นยี ภาพ (perspective)
วิธเี ขยี นภาพของวัตถใุ ห้มองเห็นว่ามรี ะยะใกล้ไกล
ทัศนศลิ ป์ (visual art)
ศลิ ปะทีร่ บั รู้ไดด้ ้วยการเห็น ไดแ้ ก่ จติ รกรรม ประตมิ ากรรม ภาพพมิ พ์ และงานสร้างสรรค์อ่ืน ๆ ทร่ี ับรู้ด้วยการเห็น
ภาพปะตดิ (collage)
เป็นภาพที่ทำขึ้นด้วยการใชว้ ัสดุต่าง ๆ เช่น กระดาษ ผ้า เศษวัสดุธรรมชาติ ฯลฯ ปะติดลงบนแผ่นภาพด้วยกาว
หรอื แปง้ เปียก
วงสธี รรมชาติ (color circle)
คือวงกลมซ่งึ จดั ระบบสใี นแสงสรี ุ้งท่ีเรยี งกนั อยู่ในธรรมชาติ สีวรรณะอุ่น จะอยู่ในซีกท่มี ีสีแดงและเหลอื ง ส่วน
สีวรรณะเย็นอยูใ่ นซีกท่มี สี เี ขียว และสีม่วง สีคู่ตรงขา้ มกันจะอยตู่ รงกันข้ามในวงสี
วรรณะสี (tone)
ลักษณะของสีที่แบ่งตามความรู้สึกอุ่นหรือเย็น เช่น สีแดง อยู่ในวรรณะอุ่น (warm tone) สีเขียวอยู่ใน
วรรณะเย็น (cool tone)
สคี ู่ตรงข้าม (complementary colors)
สีที่อยู่ตรงกันข้ามกันในวงสีธรรมชาติเป็นคู่สีกัน คือ สีคู่ที่ตัดกันหรือต่างจากกันมากที่สุด เช่น สีแดงกับสี
เขียว สีเหลอื งกับสีมว่ ง สีนำ้ เงินกบั สสี ้ม
องค์ประกอบศิลป์ (composition of art) วชิ าหรือทฤษฎีท่เี ก่ียวกบั การสรา้ งรปู ทรงในงานทศั นศิลป์
82
ดนตรี
การดำเนนิ ทำนอง (melodic progression)
1. การก้าวเดินไปขา้ งหนา้ ของทำนอง
2. กระบวนการดำเนินคอรด์ ซงึ่ แนวทำนองขยบั ทลี ะขัน้
ความเข้มของเสียง (dynamic)
เสยี งเบา เสยี งดงั เสยี งท่มี ีความเข้มเสียงมากกย็ ิ่งดังมากเหมอื นกบั loudness
ดน้ สด
เป็นการเลน่ ดนตรหี รอื ขับรอ้ ง โดยไมไ่ ดเ้ ตรียมซ้อมตามโน้ตเพลงมาก่อน ผู้เล่นมีอสิ ระในการกำหนดวิธีปฏิบัติ
เครื่องดนตรีและขับร้อง บนพื้นฐานของเนื้อหาดนตรีที่เหมาะสม เช่น การบรรเลง ในอัตราความเร็วที่ยืดหยุ่น การ
บรรเลงดว้ ยการเพมิ่ หรอื ตัดโนต้ บางตวั
บทเพลงไลเ่ ลียน (canon)
แคนอน มาจากภาษากรกี แปลว่า กฎเกณฑ์ หมายถึงรปู แบบบทเพลงทีม่ ีหลายแนวหรือดนตรีหลายแนว แต่
ละแนวมีทำนองเหมือนกัน แต่เริ่มไม่พร้อมกันแต่ละแนว จึงมีทำนองที่ไล่เลียนกันไปเป็นระยะเวลายาวกว่าการเลยี น
ทั่วไป โดยทั่วไปไม่ควรต่ำกว่า 3 ห้อง ระยะขั้นคู่ระหว่างสองแนวที่เลียนกันจะห่างกันเป็นระยะเท่าใดก็ได้ เ ช่น แค
นอนคู่สอง หมายถึง แคนอนที่แนวทั้งสองเริ่มที่โน้ตห่างกันเป็นระยะคู่ 5 และรักษาระยะคู่ 5 ไปโดยตลอดถือเป็น
ประเภทของลลี าสอดประสานแนวทำนองแบบเลยี นทม่ี กี ฎเกณฑ์เข้มงวดทีส่ ุด
ประโยคเพลง (phrase)
กลุ่มทำนอง จงั หวะทเ่ี รยี บเรยี งเช่ือมโยงกนั เปน็ หนว่ ยของเพลงที่มีความคดิ จบสมบรู ณใ์ นตัวเอง มกั ลงทา้ ย
ดว้ ยเคเดนซ์ เป็นหนว่ ยสำคญั ของเพลง
ประโยคเพลงถาม - ตอบ
เป็นประโยคเพลง 2 ประโยคที่ต่อเนื่องกันลีลาในการตอบรับ – ส่งล้อ – ล้อเลียนกันอย่างสอดคล้อง เป็น
ลักษณะคล้ายกันกับบทเพลงรูปแบบ AB แต่เป็นประโยคเพลงสั้น ๆ ซึ่งมักจะมีอัตราความเร็วเท่ากันระหว่าง 2
ประโยค และความยาวเท่ากัน เช่น ประโยคเพลงท่ี 1 (ถาม)มีความยาว 2 หอ้ งเพลง ประโยคเพลงท่ี 2 (ตอบ) ก็จะมี
ความยาว 2 หอ้ งเพลง ซึ่งจะมลี ีลาตา่ งกนั แต่สอดรบั กันได้กลมกลนื
ผลงานดนตรี
ผลงานท่ีสรา้ งสรรค์ข้ึนมาโดยมคี วามเกี่ยวข้องกบั การนำเสนองานทางดนตรี เช่น บทเพลง การแสดงดนตรี
เพลงทำนองวน (round)
เพลงที่ประกอบด้วยทำนองอย่างน้อย 2 แนว ไล่เลียนทำนองเดียวกัน แต่ต่างเวลาหรือจังหวะ สามารถไล่
เลียนกันไปไดอ้ ย่างตอ่ เน่อื งจนกลับมาเรม่ิ ตน้ ใหมไ่ ด้อีกไม่มีวันจบ
รปู ร่างทำนอง (melodic contour)
รูปรา่ งการข้ึนลงของทำนอง ทำนองท่ีสมดลุ จะมที ศิ ทางการข้ึนลงท่ีเหมาะสม
สสี นั ของเสียง
ลักษณะเฉพาะของเสียงแต่ละชนิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะต่างกัน เช่น ลักษณะเฉพาะของสีสันของเสียงผู้ชาย
จะมีความทุ้มต่ำแตกต่างจากสีสันของเสียงผู้หญิง ลักษณะเฉพาะของสีสันของเสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งจะมีความ
แตกต่างจากเสียงเดก็ ผูช้ ายคนอนื่ ๆ
83
องค์ประกอบดนตรี (elements of music)
ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เกดิ เสียงดนตรี ได้แกท่ ำนอง จงั หวะ เสียงประสาน สสี ันของเสยี ง และเนื้อดนตรี
อัตราความเรว็ (tempo)
ความช้า ความเรว็ ของเพลง เชน่ อลั เลโกร(allegro) เลนโต (lento)
ABA
สัญลักษณ์บอกรูปแบบวรรณกรรมดนตรแี บบตรบี ท หรือเทอร์นารี (ternary)
ternary form
สังคีตลักษณ์สามตอน โครงสร้างของบทเพลงที่มีส่วนสำคัญขยับทีละขั้นอยู่ 3 ตอน ตอนแรกและตอนที่ 3
คอื ตอน A จะเหมอื นหรอื คล้ายคลึงกนั ทงั้ ในแง่ของทำนองและกุญแจเสียง สว่ นตอนที่ 2 คอื ตอน
B เป็นตอนที่แตกตา่ งออกไป ความสำคญั ของสงั คีตลักษณ์น้ี คือ การกลบั มา ของตอน A ซึง่ นำทำนองของ
ส่วนแรกกลับมาในกุญแจเสียงเดิมเป็นสังคีตลักษณ์ที่ใช้มากที่สุดโดยเฉพาะในเพลงร้อง จึงอาจเรียกว่า สังคีตลักษณ์
เพลงรอ้ ง (song form) ก็ได้
นาฏศลิ ป์
การตบี ท
การแสดงท่ารำตามบทร้อง บทเจรจาหรือบทพากย์ควรคำนึงถึงความหมายของบท แบ่งเป็นการตีบท
ธรรมชาติ และการตบี ทแบบละคร
การประดิษฐท์ า่
การนำภาษาท่า ภาษานาฎศิลป์ หรือ นาฏยศัพท์มาออกแบบ ให้สอดคล้องสัมพันธ์กับจังหวะทำนอง บท
เพลง บทรอ้ ง ลีลา ความสวยงาม
นาฏยศัพท์
ศัพท์เฉพาะทางนาฎศิลป์ ที่ใช้เกี่ยวกับการเรียกท่ารำ กิริยาที่แสดงมีส่วนศีรษะใบหน้าและไหล่ ส่วนแขน
และมือ ส่วนของลำตวั สว่ นขาและเท้า
บุคคลสำคญั ในวงการนาฎศลิ ป์
เป็นผเู้ ช่ียวชาญทางนาฎศิลป์ และภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ ทสี่ รา้ งผลงาน
ภาษาท่า
การแสดงทา่ ทางแทนคำพดู ใชแ้ สดงกริ ิยาหรืออริ ยิ าบถ และใชแ้ สดงถงึ อารมณภ์ ายใน
ส่วนขาและเท้า
กิริยาแสดง เชน่ กระทบ ยดื ยุบ ประเท้า กระดกเท้า กระทุ้ง จรด ขยับ ซอย วางส้น ยกเท้า ถัดเทา้
สว่ นแขนและมือ
กริ ยิ าทแ่ี สดง เชน่ จีบ ตัง้ วง ล่อแกว้ ม้วนมือ สะบดั มือ กรายมือ สา่ ยมือ
สว่ นลำตวั
กิรยิ าทแ่ี สดง เช่น ยักตวั โย้ตัว โยกตัว
สว่ นศรี ษะใบหนา้ และไหล่
กิรยิ าทแ่ี สดง เช่น เอียงศีรษะ เอยี งไหล่ กดไหล่ กล่อมไหล่ กล่อมหนา้
84
สง่ิ ท่เี คารพ
ในสาระนาฎศิลป์มีส่ิงที่เคารพสืบทอดมา คือ พ่อแก่ หรือพระพรตฤษี ซึ่งผู้เรียนจะต้อง แสดงความเคารพ
เม่ือเร่ิมเรียนและกอ่ นแสดง
องคป์ ระกอบนาฎศลิ ป์
จังหวะและทำนองการเคลื่อนไหว อารมณ์และความรู้สึก ภาษาท่า นาฎยศัพท์ รูปแบบของการแสดง การ
แต่งกาย
องค์ประกอบละคร
การเลือกและแตง่ บท การเลือกผ้แู สดง การกำหนดบุคลิกของผู้แสดง การพฒั นารูปแบบของการแสดง การ
ปฏิบตั ิตนของผแู้ สดงและผ้ชู ม
85
ภาคผนวก ข
คำสง่ั โรงเรยี นบา้ นวงั ตาอินทร์
- แตง่ ตง้ั คณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนบา้ นวังตาอินทร์ พ.ศ. 2564 ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551
- คำส่งั แตง่ ต้ังคณะกรรมการบริหารหลกั สตู ร และงานวชิ าการสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
86
87
88
89
90
ภาคผนวก ค
ประกาศ/คำสง่ั กระทรวภงศาึกคษผนาธวิกาคร
- คำสั่ง ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระ
ประกาศ...ภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551
- คำสั่ง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และ
วิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
- คำสั่ง ยกเลิกมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ 2 การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ 3
เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ในกลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และเปลย่ี นช่ือกล่มุ สาระการเรียนรู้
- คำสั่ง การปรับปรุงโครงสร้างเวลาเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551
- ประกาศ การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
- ประกาศ การบริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษาขัน้ พื้นฐาน
91
92
93