The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คลังสมองของตำบล กศน.ตำบลตะลุโบะ
ภูมิปัญญาท้องถิ่น สาขาคหกรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ผักเสี้ยนดอง

คลังสมองของตำบล กศน.ตำบลตะลุโบะ
ภูมิปัญญาท้องถิ่น สาขาคหกรรม

ทอี่ ยู่ปัจจบุ ัน
บ้านเลขท่ี 11/1 หมูท่ ี่ 6 ตาบลตะลุโบะ
อาเภอเมอื ง จงั หวดั ปตั ตานี ไปรษณยี ์ ๙๔๐๐๐

ผักเสี้ยน เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีความโดดเด่นในช่วงต้นฤดูฝน
ทางตาราการแพทย์แผนไทย แบ่งผักเสี้ยนออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
ผักเสี้ยนผี และผักเสี้ยนไทย ผักเสี้ยนผี แพทย์แผนไทยจะนิยมนามา
ปรุงเป็นยารักษาโรค ส่วนผักเสี้ยนไทย นิยมนามาประกอบอาหาร
รับประทาน ซึ่งผักเสี้ยนทั้ง 2 ชนิด มีสรรพคุณที่คล้ายกันคือ ช่วยบารุง
ร่างกาย ระบายท้อง ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก ผักเสี้ยนเป็น
สมนุ ไพรที่มฤี ทธิร์ ้อน เมื่อรบั ประทานเข้าไปจะช่วยแก้ปวดเมื่อย ช่วยทา
ให้ผิวพรรณสดใส และช่วยบารุงสายตา ผักเสี้ยนมีวิตามินเอและ
วิตามินซีสูง รวมถึง แร่ธาตุต่างๆ ที่จาเป็นต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม
และธาตุเหล็ก เมื่อนาผักเสี้ยนมาประกอบอาหารโดยวิธีการดองน้ัน
วิตามินและแร่ธาตุจะไม่สลายไป เนื่องจากวิธีการดองทาให้เกิดสภาพที่
เปน็ กรด สามารถช่วยลดการระเหยของวิตามินซีได้มากกว่าการต้มที่ใช้
ความร้อน ในพื้นที่ตาบลตะลุโบะจะมีผักเสี้ยนขึ้นบริเวณบ้านเป็น
จานวนมาก นางแอเสาะ ดอเลาะ กเ็ ลยเก็บผกั เสี้ยนมาดองเป็นอาหาร
เพื่อบริโภคภายในครอบครัว ที่เหลือจากการบริโภคในครอบครัวก็จะ
นามาขายภายในตลาดนัดในหมู่บ้าน เนื่องจากเป็นอาหารที่มีรสชาติ
อร่อยและมีผลตอบรับออกมาดี จึงมีการขยายกิจการทาแปลง
เพาะปลูกให้มีมาตรฐานและขยายพื้นที่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและทาเป็น
อาชีพมาจนถึงปจั จบุ นั

วตั ถุดบิ ทใี่ ช้ในการทาผกั เส้ยี นดอง

• เกลอื
• น้ำ
• ข้ำวสุก
• นำ้ ตำลทรำย

ข้นั ตอนในการทาผกั เส้ียนดอง

1. ตดั ต้นผกั เสียนจำกโคนที่มีขนำดโตเตม็ ที่ไมอ่ ่อนเกนิ ไปและ
ไม่แก่จนใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรอื นำ้ ตำล น้ำไปล้ำงนำ้ เปล่ำ
ใหส้ ะอำด
2. น้ำผกั เสียนมำใส่กะละมังใส่เกลอื ทีละ 1 ก้ำมือคอ่ ย ๆ เท
นำ้ ใส่ขย้ำเบำ ๆ ไปกบั ผักแลว้ เทนำ้ ทิง ท้ำซ้ำ 3 ถึง 4 รอบ
3. ใสข่ ้ำวสกุ และเกลอื 2 - 3 กำ้ มือตำมควำมเหมำะสมของ
ปรมิ ำณผักเสียน คลุกเคล้ำให้เขำ้ กัน
4. เททงั หมดใส่ภำชนะโหลทมี่ ีฝำปดิ สนิทนำ้ จะต้องทว่ มผัก เก็บ
ทิงไว้ 3 วนั จึงเริม่ นำ้ ออกมำรับประทำนได้ หำกดองไว้ 5-7 วัน
ก็จะมีรสชำติที่เขม้ ขน้ ขึนเปรียวหวำนเลก็ นอ้ ยกำ้ ลงั อรอ่ ยเลย

ประโยชนข์ องผักเส้ยี น

• ชว่ ยบำ้ รงุ เลอื ดลม บำ้ รงุ ร่ำงกำยและให้พลงั งำน (ผักเสียนดอง)[4]

• ผกั เสียนมีสำรตำ้ นอนุมลู อิสระ ช่วยตอ่ ต้ำนมะเรง็ มีฤทธิ์ชว่ ยฆำ่ เชอื
(ผกั เสียนดอง)[4]

• รำกผกั เสียนใช้ต้มรับประทำนเป็นยำแกไ้ ข้ (รำก)[2] ทงั ต้นชว่ ยแกไ้ ข้ตรี
โทษ (ทังตน้ )[3]

• ผกั เสียนช่วยแก้อำกำรปวดหู (ใบ)[2]

• รำกใชต้ ้มรับประทำนเป็นยำรกั ษำโรคเลือดออกตำมไรฟัน (รำก)[2]

• เมล็ดผักเสยี นช่วยขับเสมหะ (เมลด็ )[2] สว่ นใบช่วยบำ้ รงุ เสมหะใหเ้ ป็น
ปกติ (ใบ)[3]

• รำกผักเสียนช่วยแกล้ มอันเป็นพิษ (รำก)[3]

• ทังต้น (ใบ ดอก ต้น เมลด็ รำก) มีรสรอ้ น ช่วยแกอ้ ำกำรปวดท้อง ลง
ท้อง (ทังตน้ )[3]

• เมล็ดผกั เสยี นช่วยขับพยำธิไส้เดอื น (เมลด็ )[2]

• ชว่ ยแกป้ สั สำวะพิกำร (ใบ)[5]

• ชว่ ยแก้เริม (ใบ)[5]

ประโยชนข์ องผกั เส้ียน

• ช่วยแก้เริม (ใบ)[5]ทังต้น น้ำมำต้มหรือดองรบั ประทำน มีสรรพคุณชว่ ย
ขบั ระดูของสตรี (ทงั ต้น)

• ช่วยแกป้ ระจำ้ เดอื นเสียของสตรี (ทงั ต้น)[2] ดอกชว่ ยแก้เลือดสตรอี นั อยู่
ในเรือนไฟ (ดอก)[3]

• ใบผกั เสียนช่วยแกง้ ูสวดั ได้ (ใบ)[5]

• ทงั ตน้ หรือใบใช้ตำ้ พอกรักษำฝี แก้พษิ ฝี และบรรเทำอำกำรระคำยเคือง
(ใบ, ทงั ต้น)[2]

• ชว่ ยแก้พษิ จำกแมลงสัตว์กัดต่อย แมงปอ่ งกัด หรืองกู ัด (ทงั ต้น)[2] แต่
ไมค่ วรพอกนำนเพรำะจะทำ้ ใหผ้ วิ ไหมไ้ ด้[4]

• ทังตน้ นำ้ มำตำ้ แล้วพอก ช่วยให้เลือดมำเลียงทีผ่ วิ หนงั และช่วยแก้
อำกำรปวดเมือ่ ยได้ (ทังต้น)[2]

• ใบนำ้ มำตำ้ หรือทำ ชว่ ยแกอ้ ำกำรปวดเมือ่ ย (ใบ)[2]

• ตน้ และใบใช้ตำ้ นำ้ มำพอกแกอ้ ำกำรอกั เสบ ชำ้ บวมได้ (ใบ, ตน้ )[4]

• ทงั ตน้ ใช้ปรงุ เปน็ ยำแกอ้ ำกำรเจบ็ หลังได้ (ทงั ตน้ )[2]

• ตน้ และใบน้ำมำตำ้ ใช้พอกฝใี หแ้ ตกและไม่เป็นหนองได้ (ใบ, ตน้ )[4]

• ทังต้นใช้ปรงุ เปน็ ยำแก้อำกำรเมำเหลำ้ เมำสรุ ำ (ทังตน้ )[2]

คณุ คา่ และบทบาทของภมู ปิ ัญญา
ท้องถน่ิ ตอ่ ชมุ ชนและสังคม

กำรที่จะอนุรักษ์อำชีพกำรท้ำผักเสียนดองในต้ำบลตะลุโบะให้
คงอยู่ต่อไปนัน สำมำรถท้ำ ได้โดยกำรถ่ำยทอดควำมรู้ เทคนิคและภูมิ
ปัญญำ ขันตอนรวมถึงกระบวนกำรท้ำผักเสียนดองให้แก่ลูกหลำน
และคนรุ่นใหม่ หรือผู้ที่สนใจในชุมชน ซึ่งเป็นภูมิปัญญำดังเดิมของ
ชำวบำ้ น โดยกำรพฒั นำผลผลิตทงั ในเชิงปริมำณและคณุ ภำพ พร้อมทัง
ส่งเสริมให้ผลผลิตเป็นที่ยอมรบั จำกผ้บู ริโภคอยำ่ งตอ่ เนือ่ ง ร ว ม ทั ง
เผยแพร่ผลผลิตออกไปสู่ตลำดภำยนอกชุมชน เพื่อจะได้สร้ำงอำชีพ
และรำยได้ ให้แก่คนในชุมชนต่อไป อีกทังหน่วยงำนภำครัฐและเอกชน
จะต้องมีส่วนร่วมในกำรให้ควำมช่วยเหลือเก่ียวกับกำรน้ำเทคโนโลยีที่
ทันสมัยเขำ้ มำช่วยพัฒนำผลผลิตให้มีคุณภำพดียิ่งขึน รวมทังช่วยเหลือ
ในกำรบริหำรจัดกำรทังกำรผลิตและกำรหำตลำดในกำรจัดจ้ำหน่ำย
และควรมีกำรสนับสนุนให้ผู้น้ำชุมชน และผู้ประกอบกำรร่วมมือกัน
จัดทำ้ เปน็ ศนู ย์สง่ เสริม กำรเรียนรู้เพื่อจัดให้เป็นกิจกรรมกำรเรียนรู้เชิง
ปฏิบัติให้แก่เด็ก เยำวชน และประชำชนที่ สนใจได้มีโอกำสเรียนรู้และ
เขำ้ รับกำรฝกึ หัดอำชีพกำรทำ้ ผักเสียนดองจำกปรำชญ์ชำวบ้ำน และยัง
เปน็ กำรปลูกฝังให้เยำวชนคนรุ่นใหม่ได้ตระหนักและเล็งเห็นคุณค่ำของ
ภูมิปัญญำท้องถิ่น กำรท้ำผักเสียนดอง เพื่อพัฒนำอำชีพกำรท้ำ
ผักเสียนดอง และช่วยกันสืบทอดภูมิปัญญำกำรท้ำผักเสียนดอง ของ
ชุมชนต้ำบลตะลโุ บะอยำ่ งตอ่ เนื่องและยั่งยืน

ใบผักเสียน ใบเป็นใบประกอบ มี 3-5 ใบย่อย ก้ำนใบมีควำมยำว

ประมำณ 3-8 เซนติเมตร ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่กลับหรือรูปใบ
หอกกลบั ยำวประมำณ 2.5-5 เซนติเมตร ปลำยใบแหลม โคนเรียวสอบ
สว่ นขอบใบเปน็ จักฟนั เลื่อยละเอยี ด และมีใบประดับจำ้ นวนมำก ใบย่อยมี
3 ใบ ยำวประมำณ 0.5-2.5 เซนตเิ มตร กำ้ นสัน

ดอกผักเสียน ออกดอกเป็นช่อที่ปลำยก่ิง ยำวประมำณ 5-2 เซนติเมตร

ขยำยอีกในช่อผล มีดอกจ้ำนวนมำก ส่วนก้ำนดอกยำวประมำณ 1-2
เซนตเิ มตร กลีบเลียงดอกมี 4 กลีบ ลักษณะเป็นรูปใบหอก ยำวได้ประมำณ
7 มิลลิเมตร มีเกสรตัวผู้ 6 อันติดบนก้ำนชูเกสรร่วมที่ยำวประมำณ 0.8-
2.3 เซนตเิ มตร ก้ำนมีเกสรสมี ่วง ยำวประมำณ 1-2 เซนติเมตร อับเรณูมีสี
เขียวอมน้ำตำล ลักษณะเป็นรูปขอบขนำน ยำวประมำณ 1-3 มิลลิเมตร
กำ้ นรังไข่สนั ยำวประมำณ 1-2 มิลลิเมตร ย่นื ยำว 1-1.4 เซนตเิ มตร ในผล
รังไข่เป็นรูปทรงกระบอกสัน ๆ ยำวประมำณ 2-3 มิลลิเมตร ก้ำนเกสรตัว
เมียสัน ยอดเกสรเป็นตมุ่ และตดิ ทน

ผลผักเสียน ผลมีลักษณะเป็นฝักยำวคล้ำยถั่วเขียว

ฝกั มีสีเขยี วเปล่ยี นเป็นสีนำ้ ตำลออ่ น ฝักยำวประมำณ4-9.5
เซนตเิ มตร ดำ้ นในฝกั มเี มลด็ จำ้ นวนมำก

เมล็ดผกั เสียน เมล็ดมีสนี ้ำตำลแดงปนสีดำ้ ผิวเมล็ดมรี อย

ย่น ยำวประมำณ 1.5 มิลลิเมตร

สถานภาพและการดารงอยขู่ องภมู ปิ ญั ญา

ภูมิปัญญำ เป็นองค์ควำมรู้ ทักษะต่ำง ๆ และประสบกำรณ์ของ
มนุษย์ ผ่ำนกำรลองผิดลองถูก เป็นสิ่งที่สั่งสมมำตังแต่อดีต โดยผ่ำน
กระบวนกำรศึกษำ สังเกต คิดวิเครำะห์จนตกผลึกเป็นองค์ควำมรู้ที่
สำมำรถน้ำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยในแต่ละสังคม แต่ละชุมชนจะมีภูมิ
ปญั ญำ ซึง่ ถือวำ่ เปน็ องค์ควำมรู้ที่มีคุณค่ำ มีประโยชน์ต่อประชำชน ภูมิ
ปญั ญำท้องถิ่น หมำยร่วมถึง ทุกสิ่งทุกอย่ำงทีช่ ำวบำ้ น คิดค้นขึน แล้วนำ
มำปรับปรุงแก้ไขพัฒนำแก้ปัญหำ เป็นทัง สติปัญญำและองค์ควำมรู้
ทังหมดของชำวบ้ำน ดังนัน จึงมีควำมครอบคลุมเนือหำสำระและ
แนวทำงด้ำเนินชีวิตในวง

ปัจจุบันผู้ประกอบกำรได้ยึดอำชีพกำรท้ำผักเสียนดองเลียง
ชีพในครอบครัว เป็นครอบครัวพอเพียงสำมำรถน้ำรำยได้จำกกำรขำย
ผักเสียนดอง ซึ่งได้ท้ำเป็นอำชีพหลักในครอบครัวได้เป็นอย่ำงดี โดยมี
กำรต่อยอดและมีกำรพัฒนำกิจกำรโดยกำรขยำยแปลงให้สำมำรถ
เพำะปลูกได้มำก เพื่อจะได้ขยำยตลำดให้หลำกหลำยยิ่งขึน ปัจจุบันได้
ท้ ำ เ ป็ น อ ำ ชี พ ห ลั ก ใ น ก ำ ร ด้ ำ ร ง ชี วิ ต ต่ อ ไ ป ไ ด้ ก ำ ร ท้ ำ ผั ก เ สี ย น ด อ ง ไ ด้
ด้ำเนินงำนเป็นระยะเวลำนำนถึงรุ่นที่ 3 ก็ยังคงด้ำเนินกำรผลิตอย่ำง
ต่อเนื่องและยังคงอนุรักษ์ภูมิปัญญำและพร้อมที่จะพัฒนำชุมชนอย่ำง
ตอ่ เนือ่ งต่อไป

ในที่นีได้ไปสัมภำษณ์และถอดองค์ควำมรู้ จำก นำงแอเสำะ
ดอเลำะ อยบู่ ้ำนเลขที่ 11/1 หมู่ที่ 6 ต้ำบลตะลุโบะ อ้ำเภอเมือง
จังหวัดปัตตำนี รหัสไปรษณีย์ ๙๔๐๐๐ จุดเริ่มต้นของกำรท้ำ
ผักเสียน แต่เดิมผักเสียนเป็นวัชพืชขึนตำมธรรมชำติบริเวณริม
ทำงที่รกร้ำง ชอบดินชืน ไม่นิยมกินสดเพรำะมีสำรไฮโดรไซยำไนด์
ซึ่งเป็นพิษต่อประสำทส่วนกลำง ต้องน้ำไปดองเสียก่อนสำรพิษนี
จึงละลำยไป ผักเสียนสดมีรสขม ดังนัน ในกำรท้ำเป็นอำหำรจึง
เหมำะส้ำหรับน้ำมำดองเปรียว ซึ่งให้รสชำติดีที่สุด เมื่อ
เปรียบเทียบกับกำรน้ำไปปรุงด้วยวิธีอื่น และสำมำรถท้ำเป็น
อำชีพหลกั ไดจ้ นถึงปัจจุบนั


Click to View FlipBook Version