แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สัมฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นขนุ ยวม
หน้า |ก
คำนำ
พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕
มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภท
การศึกษา และให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในของ
สถานศึกษา และให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการศึกษาที่ต้อง
ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและวิธีการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.
๒๕๔๐ และตามกฎกระทรวงว่าดว้ ยระบบหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓ การ
บริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล หน่วยงานต้องมีแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาเป็น
เคร่ืองมือในการดำเนินงาน เพื่อกำหนดทิศทางในการพัฒนาไปสู่เป้าหมายที่กำหนด และ ตามประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของ
สถานศึกษา ฉบับลงวันที่ ๑๑ เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้สถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใช้
มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานฯเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของ
สถานศึกษา และปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาและแผนปฏิบัติการประจำปีเพ่ือ
มงุ่ มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษาภายใตก้ รอบ 3 มาตรฐานที่กระทรวงศกึ ษาธิการประกาศใช้
แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาฉบับนี้ จัดทำขึ้นเมื่อรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ไปปฏิบัติงานที่
สถานศึกษาแล้วเป็นระยะเวลา 15 วัน รองผู้อำนวยการสถานศึกษาต้องจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาของ
โรงเรียน ให้ครอบคลุมภารกิจและนโยบาย โดยจัดทำเป็นข้อตกลงการปฏิบัติงาน เพื่อที่จะนำไปสู่การ
ประเมินสัมฤทธผิ ลการปฏบิ ัติงานในระยะเวลา 1 ปี ซึง่ ต้องสอดคลอ้ งกบั ตวั ชี้วัดในการทำงาน โดยสะทอ้ นให้
เห็นถึงระดับคุณภาพและผลที่จะเกิดขึ้นกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนี้ ผลที่เกิดกับนักเรียน ผลที่เกิดกับครู ผลท่ี
เกิดกับผู้บริหาร ผลที่เกิดกับสถานศึกษา ผลที่เกิดกับผู้ รับบริการ ผลการสนองนโยบายของ
กระทรวงศึกษาธิการ/สพฐ. อื่น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีต่อสถานศึกษาซึ่งเป็น
ประโยชนต์ อ่ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา และการบริหารจดั การศึกษาของสถานศึกษา จึงได้นำเสนอเพื่อให้
เกิดประโยชน์ตอ่ ทางราชการสืบไป
นายอรรถพล ชมุ พู
รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
สารบญั หน้า |ข
คำนำ หน้า
สารบัญ ก
บทที่ ๑ บทนำ ข
๑
ประวัติที่ตัง้ ๑
ปรัชญาความขวญั สปี ระจำโรงเรียน 3
โครงสร้างบริหารการจัดการศึกษา 4
ผลการดำเนินการ 7
บทท่ี 2 การศึกษาสถานภาพ
วสิ ัยทัศนป์ ระเทศไทยปี 2561-2580 10
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน ปี 2562 10
นโยบายสำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 12
ผลการศึกษาสถานภาพสถานศึกษาสภาพปัญหาความต้องการจำเป็น 15
บทท่ี 3 ทศิ ทางการบริหารจดั การศกึ ษา 20
การบรหิ ารการศึกษา 32
วิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ เป้าประสงคห์ ลัก 30
อัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของสถานศกึ ษา 33
กลยทุ ธร์ ะดบั สถานศึกษา 34
บทที่ 4 กลยุทธ์การพัฒนาและโครงการ/กจิ กรรม 34
กลยุทธ์ระดับสถานศกึ ษา 35
เป้าหมายตัวชี้วัดความสำเร็จ 35
บทที่ 5 การบรหิ ารแผนส่กู ารปฏบิ ตั ิ 36
การบริหารแผนสกู่ ารปฏิบตั ิ 46
46
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
หน้า |1
บทที่ ๑
บทนำ
๑. ประวัติ ทต่ี ง้ั
โรงเรียนขุนยวม ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ ตำบล ขุนยวม อำเภอ ขุนยวม จังหวัด แม่ฮ่องสอน รหัสไปรษณีย์
๕๘๑๔๐ โทรศัพท์ ๐๕๓-๖๙๑๑๑๖,๐๕๓-๖๙๑๑๑๑๒
website www.kysch.ac.th email. [email protected]
จัดตั้งและเปิดทำการสอนเมื่อโรงเรียนขุนยวม ตั้งอยู่(เขตเทศบาลขุนยวม) ตำบลขุนยวม อำเภอ
ขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ โดยนายกวี รอดคำดี นายอำเภอ
ขุนยวม พร้อมราษฎรได้จัดต้ังเปน็ โรงเรียนมัธยมสามัญ โดยสร้างอาคารชั่วคราว ๑ หลัง ราษฎรบริจาคทีด่ นิ
จำนวน เน้อื ที่ ๖ ไร่ ๒ งาน๕๐ ตารางวา เปิดสอนมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๑ หอ้ งเรยี น
พ.ศ. ๒๕๐๐ สร้างอาคารเรียน ๑ หลงั ๓ หอ้ งเรียน
พ.ศ. ๒๕๐๙ สร้างอาคารเรยี นแบบ ๐๒๔ จำนวน ๖ หอ้ งเรยี น สร้างโรงฝึกงาน ๑ หลัง งบประมาณ
๓๕,๐๐๐ บาท สร้างส้วม ๑ หลงั ๕ ที่นัง่ งบประมาณ ๑๒,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๑๑ รื้ออาคาร ๒๕๐๐ มาตอ่ เติมอาคารเรยี นแบบ ป. ๑ ช
พ.ศ. ๒๕๑๔ สร้างบา้ นพกั ครู ๑ หลงั แบบมนลิ า งบประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท สร้างส้วม ๑ หลัง ๕
ทนี่ ัง่ งบประมาณ ๑๒,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๑๖ สร้างต่อเตมิ อาคาร ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ งบประมาณ ๙๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๒๐ สร้างบา้ นพักครู ๑ หลัง งบประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๒๔ สร้างสว้ ม ๑ หลงั ๕ ท่ีน่งั งบประมาณ ๑๒,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๓๘ สร้างส้วม ๑ หลงั ๒ ท่นี ่ัง งบประมาณ ๕๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๓๙ สร้างบา้ นพกั ครู ๑ หลัง แบบสปช. ๓๐๓/๒๘ งบประมาณ ๕๑๒,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๔๐ สรา้ งอาคารเรียน ๑ หลงั แบบสปช. ๑๐๕/๒๙งบประมาณ ๑,๗๐๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๔๓ ซ่อมแซมบานประตหู นา้ ต่างอาคารแบบสปช. ๑๐๕/๓๙ งบประมาณ ๒๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๔๔ ซอ่ มแซมหลงั คาบา้ นพักนักการภารโรง
พ.ศ. ๒๕๔๕ สรา้ งสนามกฬี าวอลเล่ย์บอล ปปส. งบประมาณ ๑๐๓,๐๐๐ บาท
พ.ศ.๒๕๔๕สร้างอาคารเรียนใตถ้ นุ สงู ๑หลัง๔หอ้ งเรยี นงบประมาณ ๒,๕๐๐,๐๐๐บาท
พ.ศ. ๒๕๔๖ สร้างถนนคอนกรตี ภายในโรงเรยี น งบประมาณเทศบาลตำบลขุนยวม
งบประมาณ ๕๔๖,๙๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๔๗ งบประมาณจัดซื่อเคร่ืองเลน่ ดรุ ยิ างค์ งบประมาณจากเทศบาลตำบลขุนยวม
งบประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๔๗ ห้องสว้ ม สปช. 60 ๑/26 งบประมาณจากสพฐ. จำนวนงบประมาณ ๑50,000 บาท
พ.ศ. ๒๕๔๘ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม ไดจ้ ดั สรรทีวีสี ๑๒ เครื่อง และจานดาวเทยี ม ๑
ชดุ
พ.ศ.255 ๑ สร้างอาคารเรียนใต้ถุนสูง สปช. ๑05/29 ๑ หลัง 4 ห้องเรียน งบประมาณ
2,500,000 บาท
พ.ศ. ๒๕๕๓ สร้างอาคารเอนกประสงค์ แบบ สปช ๒๐๔ / ๒๖ จำนวน ๑ หลัง งบประมาณ
๑,๒๘๘,๓๐๐ บาท
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สัมฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรยี นขนุ ยวม
หน้า |2
พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้รับจัดสรรงบก่อสร้างโรงน้ำดื่มสะอาดจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต ๑ ลำปาง
แ ล ะ อ ุ ป ก ร ณ ์ ท ี ่ เ ก ี ่ ย ว ข ้ อ ง จ ำ น ว น ๑ ห ล ั ง ง บ ป ร ะ ม า ณ ๑ ,๒ ๗ ๕ ,๐ ๐ ๐ บ า ท
พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้รับงบโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพ่ือ
การศึกษา การจัดหาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอนของสถานศึกษา CL ๒๐ งบประมาณ
๕๖๖,๔๖๐ บาท และ การจัดหาคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ห้องสมุด จำนวน ๒ ชุด งบประมาณที่ได้รับ
จัดสรร ๑๑๒,๘๔๐ บาท
พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับงบประมาณจัดสรร ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอนสำหรับสถานศึกษา
CC Type ๑ งบประมาณ ๑๔๙,๘๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้รับงบประมาณจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน รายการ สื่อห้องเรียน
อิเล็กทรอนิกสแ์ ละอปุ กรณ์เพ่ือการศึกษา จำนวน ๑ ชุด
พ.ศ.๒๕๕๗ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก สำนักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ใน
การก่อสรา้ งสว้ ม สพฐ.๔ (สว้ ม ๔ ท่ีนงั่ ) งบประมาณ ๓๒๒,๐๐๐ บาท
พ.ศ.๒๕๕๙ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก สำนักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ใน
การกอ่ สรา้ งสว้ ม สพฐ.๔ (สว้ ม ๔ ทนี่ ั่ง) งบประมาณ ๓๕๒,๐๐๐ บาท
พ.ศ.๒๕๖๐ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก สำนักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ใน
การก่อสรา้ งสว้ ม สพฐ.๔ (ส้วม ๔ ทนี่ ง่ั ) งบประมาณ ๓๘๙,๐๐๐ บาท
พ.ศ. 2562 ซ่อมบำรุงรถโรงเรียน(งบบริหารจัดการโรงเรียนที่ได้รถบริจาค) งบประมาณจากสพฐ.
จำนวนงบประมาณ ๑00,000 บาท
พ.ศ. 2562 งบห้องเรียนอัจฉริยะ งบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน
งบประมาณ 500,000 บาท
พ.ศ. 2563 ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียนอาคารประกอบ(ปูพื้นกระเบื้อง) งบประมาณจาก สพฐ.
จำนวนงบประมาณ 500,000 บาท
พ.ศ. 2563 ซ่อมบำรุงรถโรงเรียน(งบบริหารจัดการโรงเรียนที่ได้รถบริจาค) งบประมาณจากสพฐ.
จำนวนงบประมาณ ๑00,000 บาท
พ.ศ. 2563ครภุ ัณฑ์ดนตรนี าฎศลิ ป์ งบประมาณจากสพฐ. จำนวนงบประมาณ200,000 บาท
พ.ศ. 2563ครุภณั ฑห์ ้องสมุดงบประมาณจากสพฐ. จำนวนงบประมาณ343,600 บาท
ต่อมาได้เปิดทำการสอนและดำเนินการสอนชั้นอนุบาลปีที่ ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มาจนถึง
ปัจจบุ นั นบั รวมถึงปกี ารศึกษา ๒๕๖๐ เป็นเวลา 65 ปี
ท่ีตัง้ ของโรงเรยี นมีอาณาเขต ดงั น้ี
ทศิ เหนือ จรดกับ ขนส่งอำเภอขนุ ยวม
ทิศใต้ จรดกับ สำนักงานการศึกษานอกระบบ
ทศิ ตะวนั ออก จรดกบั ร้านขายของและโบสถ์ครสิ ตจักร
ทิศตะวันตก จรดกับ ถนนหมายเลข ๑๐๘
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรยี นขนุ ยวม
หน้า |3
ในพื้นที่เขตบรกิ ารประกอบด้วย หมู่ ๑ ตำบล ขุนยวม ปัจจุบันโรงเรียน ขุนยวม เป็นโรงเรยี นขนาด
กลาง เปิดทำการสอน 2 ระดับ คือ ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา และ ระดับประถมศึกษา ในรอบ ๓ ปี การศกึ ษา
ท่ีผ่านมามนี กั เรียนเฉลยี่ ปีการศึกษาละ ๓๖๐ คน และคาดการณ์ใน ๔ ปกี ารศึกษาขา้ งหนา้ จะมีนักเรียนเฉลี่ย
ปีการศกึ ษาละ ๓8๐ คน
๒. ปรัชญา/ คำขวญั /สีประจำโรงเรยี น
ปรัชญา
ชนเผ่าสามคั คี มีความร้คู ู่คณุ ธรรม
นำพฒั นาสิง่ แวดลอ้ ม พร้อมรบั ชุมชน
คำขวญั วินยั ดี มวี ชิ า กีฬาเดน่ เปน็ โรงเรยี นชนเผา่
สีประจำโรงเรียน มว่ ง หมายถงึ ความอดทน
สี ขาว หมายถงึ ความซื่อสตั ย์ บริสทุ ธ์ิ
สี
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
๓. โครงสร้างการบริหารจดั การศกึ ษา หน้า |4
แผนภูมิการบริหารจดั การศกึ ษาโรงเรียนขุนยวม คณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพื้นฐาน
ผอู้ ำนวยการโรงเรียน
รองผู้อำนวยการโรงเรยี น
คณะครู/บุคลากรทางการศกึ ษา
คณะกรรมการเครอื ขา่ ยผปู้ กครอง
สมาคมศษิ ยเ์ กา่
คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรฯ
สภานักเรยี น
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
หน้า |5
แผนงานวชิ าการ แผนงานงบประมาณ แผนบคุ ลากร แผนงานบรหิ ารท่ัวไป
๑. การพัฒนาหรือการ ๑. การจัดทำแผน ๑. การวางแผนอัตรากำลัง ๑. การพัฒนาระบบ
ดำเนนิ การเกยี่ วกบั การให้ งบประมาณและคำขอตงั้ ๒. การจดั สรรอัตรากำลงั เครอื ข่ายข้อมลู
ความเห็นการพัฒนาสาระ งบประมาณ เพื่อเสนอต่อ ข้าราชการครูและ สารสนเทศ
หลักสตู รทอ้ งถน่ิ เลขาธิการสำนักงาน บคุ ลากรทางการศึกษา ๒. การประสานงานและ
๒. การวางแผนด้านการ คณะกรรมการศึกษาขนั้ ๓. การสรรหาและบรรจุ พัฒนาเครือขา่ ย
วชิ าการ พน้ื ฐาน แต่งตงั้ สถานศกึ ษา
๓. การจดั การเรยี นการสอน ๒. การจัดทำแผนการใช้ ๔. การเปลย่ี นตำแหนง่ ให้ ๓. การวางแผนการ
ในสถานศึกษา จา่ ยเงนิ ตามที่ได้รับ สงู ขน้ึ การย้ายข้าราชการ บริหารงานการศึกษา
๔. การพฒั นาหลักสูตรใน จดั สรรงบประมาณจาก ครแุ ละบุคลากรทางการ ๔. งานวิจยั เพ่ือการพัฒนา
สถานศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ ศกึ ษา นโยบายและแผน
๕. การพฒั นากระบวนการ ศึกษาขัน้ พื้นฐานโดยตรง ๕. การดำเนินการเกี่ยวกับ ๕. การจัดระบบการบรหิ าร
เรยี นรู้ การเล่อื นขนั้ เงินเดือน และพัฒนาองค์กร
๖. การวัดผล ประเมนิ ผล ๓. การอนุมัติการจ่าย ๖. การลาทุกประเภท ๖. การพฒั นามาตรฐานการ
และดำเนินการเทยี บโอน งบประมาณท่ีได้รับ ๗. การประเมนิ ผลการ ปฏบิ ตั งิ าน
ผลการเรยี น จดั สรร ปฏบิ ัติงาน ๗. งานเทคโนโลยเี พื่อ
๗. การวิจยั เพอ่ื พฒั นา ๔. การขอโอนและการขอ ๘. การดำเนนิ การทางวินยั การศึกษา
คณุ ภาพการศึกษาใน เปลย่ี นแปลงงบประมาณ และการลงโทษ ๘. การดำเนนิ งานธรุ การ
สถานศกึ ษา ๕. การรายงานผลการ ๙. การส่งั พักราชการและ ๙. การดแู ลอาคารสถานท่ี
๘. การพฒั นาและสง่ เสรมิ ให้มี เบิกจ่ายงบประมาณ การสัง่ ให้ออกจาก และสงิ่ แวดลอ้ ม
แหล่งเรยี นรู้ ๖. การตรวจสอบ ตดิ ตาม ราชการไวก้ ่อน ๑๐. การจดั ทำสำมะโน
๙. การนิเทศการศึกษา และรายงานการใช้ ๑๐. การรายงานการ ประชากร
๑๐. การแนะแนว งบประมาณ ดำเนินการทางวนิ ัยและ ๑๑. การรบั นักเรียน
๑๑. การพัฒนาระบบประกัน ๗. การตรวจสอบ ติดตาม การลงโทษ ๑๒. การเสนอความคดิ เห็น
คุณภาพภายในและ และรายงานการใช้ ๑๑. การอทุ ธรณ์และการ เก่ยี วกับการจดั ตั้ง ยบุ
มาตรฐานการศึกษา ผลผลติ จากงบประมาณ รอ้ งทุกข์ รวมหรอื เลกิ สถานศึกษา
๑๒. การส่งเสริมชมุ ชนใหม้ ี ๘. การระดมทรัพยากรและ ๑๒. การจัดระบบและการ ๑๓. การประสานงานจัด
ความเข้มแขง็ ทางวชิ าการ การลงทุนเพอ่ื การศึกษา จัดทำทะเบียนประวัติ การศึกษาในระบบ นอก
๑๓. การประสานความ ๙. การปฏบิ ตั งิ านอน่ื ใด ๑๓. การจัดทำบญั ชรี ายชอ่ื ระบบและตามอัธยาศัย
ร่วมมอื ในการพฒั นา ตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย และการให้ความเห็น ๑๔. การระดมทรัพยากร
วิชาการกบั สถานศึกษา เกี่ยวกบั กองทนุ เพ่ือ เก่ยี วกับการเสนอขอ เพอื่ การศึกษา
และองคก์ รอนื่ การศึกษา พระราชทาน ๑๕. กิจกรรมทศั นศึกษา
๑๔. การสง่ เสริมและ ๑๐. การการบริหารจัดการ เครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ์ ๑๖. การสง่ เสริมงาน
สนบั สนนุ งานวิชาการแก่ ทรัพยากรเพื่อการศกึ ษา ๑๔. การสง่ เสรมิ การ กจิ การนกั เรียน
บคุ คล ครอบครัว องค์กร ๑๑. การวางแผนพัสดุ ประเมินวิทยฐานะ ๑๗. การประชาสัมพันธง์ าน
หนว่ ยงาน สถานศึกษา ข้าราชการครูและ การศึกษา
และสถานประกอบการอ่นื บคุ ลากรทางการศึกษา
ท่ีจดั การศึกษา
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรยี นขนุ ยวม
หน้า |6
แผนงานวิชาการ แผนงานงบประมาณ แผนบุคลากร แผนงานบรหิ ารทวั่ ไป
๑๕. การจัดทำระเบยี บและ ๑๒. การกำหนดรูปแบบ ๑๕. การสง่ เสรมิ และยก ๑๘. การส่งเสรมิ สนับสนุน
แนวปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั งาน
ดา้ นวชิ าการของ รายการ หรอื ย่องเชิดชูเกียรติ และประสานงานการ
สถานศกึ ษา
คณุ ลักษณะเฉพาะของ ๑๖. การส่งเสริมมาตรฐาน จัดการศึกษา ของ
๑๖. การคดั เลอื กหนังสือ
แบบเรียนเพ่ือใชใ้ น ครุภัณฑห์ รอื สิง่ ก่อสร้าง วิชาชีพและ บคุ คล องคก์ ร
ท่ใี ชง้ บประมาณเพ่อื จรรยาบรรณวชิ าชพี หนว่ ยงานและสถาบนั
เสนอต่อเลขาธกิ าร ๑๗. การสง่ เสรมิ วนิ ัย สงั คมอน่ื ทจ่ี ดั การศกึ ษา
คณะกรรมการ คุณธรรมจริยธรรม ๑๙. งานประสานราชการ
การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน สำหรับข้าราชการครู
๑๓. การพฒั นาระบบข้อมลู และบคุ ลากรทางการ
สารสนเทศเพื่อการ ศกึ ษา
จัดทำและจดั หาพสั ดุ ๑๘. การริเรม่ิ สง่ เสรมิ การ
๑๔. การจดั หาพสั ดุ ขอรบั ใบอนญุ าต
๑๕. การควบคมุ ดูแล ประกอบวชิ าชพี ครูและ
บำรงุ รกั ษาและ บุคลากรทางการศึกษา
จำหน่ายพสั ดุ ๑๙. การพฒั นาขา้ ราชการ
๑๖. การจดั หาผลประโยชน์ ครูและบคุ ลากรทางการ
จากทรัพยส์ นิ ศึกษา
๑๗. การรับเงนิ การเกบ็
รักษาเงนิ และการ
จา่ ยเงนิ
๑๘. การจัดทำบญั ชกี ารเงิน
๑๙. การจดั ทำรายงาน
ทางการเงิน และงบ
การเงิน
๒๐. การจัดทำหรอื จดั หา
แบบพมิ พบ์ ัญชี
ทะเบียนและ
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
หน้า |7
๔. ผลการดำเนนิ การ
๔.๑ ผลการดำเนินการท่ีผ่านมา ผลงาน รางวัลท่ีชนะการแข่งขันประกวดและได้รับ
การยกย่องของโรงเรียน ผู้บรหิ ารโรงเรยี นคณะครูและนักเรยี นในระดับต่างๆที่สำคัญดังน้ี
ประเภท ระดับ/หนว่ ยงาน ชื่อรางวัล
นักเรียน/ (ระดบั : จังหวดั ภาค
คร/ู ประเทศ)
ผู้บรหิ าร/
สถานศึกษา ระดับประเทศ ๑. รางวลั ระดบั เหรยี ญเงิน การแขง่ ขันนักอ่านขา่ วรุ่นเยาว์
ประเภทนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้
นกั เรียน ระดบั ชนั้ ป.๑-๖ งานมหกรรมความสามารถทาง
ศลิ ปหตั ถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยี ปกี ารศกึ ษา
256๑
2. รางวลั ระดบั เหรยี ญทองแดง การแข่งขันโครงงาน
วทิ ยาศาสตร์ประเภทสงิ่ ประดิษฐ์ ระดบั ช้นั ป.๔-๖ งาน
มหกรรมความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม วิชาการ และ
เทคโนโลยี ปีการศึกษา 256๑
3. รางวัลระดับเหรียญเงิน การแขง่ ขันสงิ่ ประดษิ ฐท์ าง
วิทยาศาสตร์ ระดบั ช้นั ป.๑-๖ งานมหกรรม
ความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม วชิ าการ และ
เทคโนโลยี ปีการศกึ ษา 256๑
๔. รางวัลระดับเหรยี ญทองแดง การแข่งขันการสรา้ ง
Webpage ประเภท Web Editor ระดบั ช้ัน ป.๔-๖
งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหตั ถกรรม วิชาการ
และเทคโนโลยี ปีการศึกษา 256๑
๕. รางวัลระดบั เหรยี ญเงิน การแขง่ ขนั การจัดทำหนงั สือ
เล่มเลก็ ประเภทนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการ
เรยี นรู้ ระดับชั้น ป.๔-๖ งานมหกรรมความสามารถทาง
ศลิ ปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยี ปกี ารศึกษา
256๑
6. รางวัลรองชนะเลิศ อันดบั ๑ กจิ กรรมวาดภาพใต้
แนวคดิ 60 ปี การอนรุ ักษ์สตั วป์ ่าไทย ระดับ
ประถมศึกษา งานวนั คุ้มครองสตั ว์ป่าแห่งชาติ ประจำปี
2563
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
หน้า |8
ประเภท ระดับ/หน่วยงาน ชือ่ รางวัล
นกั เรยี น/ (ระดับ : จังหวัด ภาค
ครู/ ประเทศ)
ผูบ้ รหิ าร/
สถานศึกษา ระดับประเทศ ๑. ผฝู้ ึกสอนนกั เรียนไดร้ ับรางวัลระดบั เหรียญเงิน การ
แข่งขนั นักอ่านขา่ วรุ่นเยาว์ ประเภทนักเรียนท่ีมีความ
ครู ศึกษาธิการจงั หวัด บกพร่องทางการเรยี นรู้ ระดับชนั้ ป.๑-๖ งานมหกรรม
แม่ฮ่องสอน ความสามารถทางศลิ ปหัตถกรรม วิชาการ และ
เทคโนโลยี ปีการศกึ ษา 256๑
2. ผฝู้ กึ สอนนักเรียนไดร้ ับรางวลั เหรียญทองแดง การ
แขง่ ขันโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทส่ิงประดิษฐ์
ระดบั ชั้น ป.๔-๖ งานมหกรรมความสามารถทาง
ศลิ ปหัตถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยี ปีการศกึ ษา
256๑
3. ผู้ฝกึ สอนนักเรียนไดร้ ับรางวลั เหรยี ญเงิน การแขง่ ขัน
สิ่งประดิษฐ์ทางวทิ ยาศาสตร์ ระดับชั้น ป.๑-๖ งาน
มหกรรมความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม วชิ าการ และ
เทคโนโลยี ปีการศึกษา 256๑
๔. ผู้ฝกึ สอนนักเรียนไดร้ ับรางวลั เหรียญทองแดง การ
แข่งขันการสร้าง Webpage ประเภท Web Editor
ระดับชัน้ ป.๔-๖ งานมหกรรมความสามารถทาง
ศลิ ปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยี ปกี ารศึกษา
256๑
๕. ผู้ฝกึ สอนนักเรยี นได้รบั รางวลั เหรยี ญเงิน เงิน การ
แข่งขนั การจัดทำหนังสือเล่มเลก็ ประเภทนักเรยี นทม่ี ี
ความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ ระดบั ชัน้ ป.๔-๖ งาน
มหกรรมความสามารถทางศลิ ปหตั ถกรรม วิชาการ และ
เทคโนโลยี ปีการศึกษา 256๑
6. ครผู ู้สอนดีเดน่ “ปฐมวัย”
แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นขนุ ยวม
หน้า |9
ประเภท ระดบั /หน่วยงาน ชือ่ รางวัล
นักเรียน/ (ระดับ : จังหวัด ภาค
ครู/ ประเทศ)
ผบู้ รหิ าร/
สถานศึกษา - -
ผู้บรหิ าร สำนกั งาน 1. โรงเรยี นคณุ ธรรม ที่ผา่ นการประเมิน ระดับ 3 ดาว
คณะกรรมการ ระดบั เขตตรวจราชการที่ ๑5
สถานศกึ ษา การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ประจำปกี ารศกึ ษา 2563
กรมสวัสดกิ ารและ 2. รางวลั “สถานศกึ ษาปลอดภยั ” ดีเดน่ ประจำปี
คุ้มครองแรงงาน การศึกษา 2563
สำนกั งาน 3. โรงเรียนตน้ แบบห้องเรียนสภู้ ัยฝนุ่ ระดบั ยอดเยย่ี ม
คณะกรรมการ อนั ดับ ๑ ประจำปกี ารศึกษา 2563
การศึกษาข้นั พื้นฐาน
สำนักงานเขตพน้ื ท่ี 4. โรงเรยี นตน้ แบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active
การศกึ ษาประถมศึกษา Learning โดยใชร้ ปู แบบ Co-5-steps
แมฮ่ ่องสอน เขต ๑
5.โรงเรียนตน้ แบบโรงเรยี นคณุ ภาพประจำตำบล
6. โรงเรียนต้นแบบการจดั การเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาการคำนวณ
และโคด้ ดงิ
7. สถานศึกษาต้นแบบการประกันคุณภาพภายใน ระดบั
เขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต ๑
8. โรงเรยี นขุนยวมมีผลคะแนนเฉลยี่ O-net ระดบั ช้ัน
ประถมศึกษาปที ่ี 6 ทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้สูงกว่า
คะแนนเฉล่ยี ระดบั ประเทศ
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 10
บทท่ี 2
การศึกษาสถานภาพ
1.วิสัยทัศน์ประเทศไทย ปี ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐
“ประเทศไทยมีความมนั่ คง มง่ั คง่ั ยัง่ ยืน เปน็ ประเทศพัฒนาแล้ว ดว้ ยการพฒั นาตามหลักปรชั ญา
เศรษฐกจิ พอเพียง”
ประเทศไทยได้ประกาศ วิสัยทัศน์ เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาล โดยมีชื่อว่า
“มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อสนองตอบต่อผลประโยชน์แห่งชาติอันได้แก่ การมีเอกราช อธิปไตย การดำรงอยู่
อย่างมั่นคง และยั่งยืนของสถาบันหลักของชาติและประชาชนจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ การอยู่ร่วมกันใน
ชาติอย่างสันติสุขเป็นปึกแผ่น มีความมั่นคงทางสังคมท่ามกลางพหุสังคมและการมีเกียรติและศักดิ์ศรีของ
ความเป็นมนุษย์ความเจริญเตบิ โตของชาตคิ วามเป็นธรรมและความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ความยั่งยืนของ
ฐานทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร ความสามารถในการรักษา
ผลประโยชน์ของชาติภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศ และการอยู่ร่วมกัน อย่าง
สันตปิ ระสานสอดคลอ้ งกันด้านความม่นั คงในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกอยา่ งมีเกยี รตแิ ละศักดศ์ิ รี
ความมั่นคง หมายถึง การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในประเทศ
และภายนอกประเทศในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และบุคคล มีความมั่นคงในทุก
มิติ ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง เช่น ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มี
สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ที่เข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน มี
ระบบการเมืองที่มั่นคงเป็นกลไก ที่นำไปสู่การบริหารประเทศที่ต่อเนื่อง และโปร่งใสตามหลัก ธรรมาภิบาล
สังคมมีความ ปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกกาลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความเข้มแข็ง
ครอบครัวมีความอบอุ่น มีความมั่นคงของอาหารและพลังงาน ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต มีงานและ
รายได้ที่มั่นคงพอเพียงกับการดำรงชีวิต มีที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน มีการออมสำหรับ
วยั เกษียณ
ความมั่งคั่ง หมายถึง ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่กลุ่มประเทศ
รายได้สงู ความเหลื่อมล้าของการพัฒนาลดลง ประชากรได้รบั ผลประโยชนจ์ ากการพัฒนาอยา่ งเท่าเทียมกัน
มากขึ้นไม่มีประชาชนที่อยู่ใต้เส้นความยากจน เศรษฐกิจมีความสามารถในการแข่งขันสูง สามารถสร้าง
รายได้ทั้งจากภายในประเทศและภายนอกประเทศ และเป็นจุดสำคัญของการเชื่อมโยงในภูมิภาคทั้งการ
คมนาคมขนส่ง การผลิต การค้า การลงทุน และการทำธุรกิจ นอกจากนั้นยังมีความสมบูรณ์ในทุนที่จะ
สามารถสร้าง การพัฒนาต่อเนื่องไป ได้แก่ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนที่เป็นเครื่องมือ
เคร่อื งจกั ร ทนุ ทางสงั คม และทุนทางทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ความยง่ั ยืน หมายถึง การพฒั นาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวติ ของประชาชน
ใหเ้ พมิ่ ข้นึ อยา่ งต่อเนื่อง ซึ่งเปน็ การเจรญิ เติบโตของเศรษฐกจิ ที่ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ไม่สร้าง
มลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมจนเกินความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศน์ การผลิตและการ
บริโภคเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของประชาคมโลก ซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกัน
ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น และสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพดีขึ้น คนมีความรับผิดชอบต่อ
สังคม มีความเอื้ออาทร เสียสละเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม รัฐบาลมีนโยบายที่มุ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่าง
ยั่งยืนและ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วนในสังคมยึดถือและปฏิบัติตาม
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเพอ่ื การพัฒนาในระดบั อยา่ งสมดุล มีเสถียรภาพ และย่งั ยนื
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 11
นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน
นโยบายท่ี ๑ จัดการศึกษาเพือ่ ความมน่ั คง
นโยบายที่ 2 พฒั นาคุณภาพผู้เรียน
นโยบายท่ี 3 พฒั นาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศกึ ษา
นโยบายที่ 4 สร้างโอกาสในการเขา้ ถึงบรกิ ารการศึกษาที่มคี ุณภาพ มีมาตรฐานและลดความ
เหลือ่ มลำ้ ทางการศึกษา
นโยบายท่ี 5 เพิม่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจัดการ
จุดเนน้ พิเศษ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
1. เรยี นภาษาไทย เน้นเพื่อการสื่อสาร และใช้เป็นเครือ่ งมือเพ่ือเรยี นวิชาอ่นื
2. เรยี นภาษาองั กฤษ เน้นเพ่อื การส่ือสาร
3. เรียนรู้ด้วยวิธีการ Active Learning เน้นพัฒนาทักษะกระบวนการคิด การเรียนรู้จากสถานการณ์
จริง สถานการณ์จำลอง กิจกรรมการเรียนรู้จากปัญหาและการลงมือปฏิบัติ สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา
และเรียนรู้อยา่ งมคี วามสขุ
4. เรยี นรู้ Digital และใช้ Digital เป็นเคร่อื งมือการเรยี นรู้
5. สง่ เสรมิ การเรยี นวทิ ยาศาสตร์เพอ่ื สรา้ งนวัตกรรม
6. จัดการเรียนรูท้ ห่ี ลากหลาย ท่ีเชอื่ มโยงส่อู าชพี และการมงี านทำ
7. พัฒนาครตู ามความต้องการของครูและสถานศึกษา (คูปองครู)
8. จดั ใหม้ ีโครงการ ๑ ตำบล ๑ โรงเรยี นคุณภาพ
พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาในหลวงรัชกาลท่ี ๑0
การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานใหแ้ กผ่ ู้เรยี น 4 ดา้ น
1. มีทศั นคติทถ่ี ูกต้องต่อบ้านเมือง
๑. ๑ ความรคู้ วามเขา้ ใจต่อชาตบิ ้านเมอื ง
๑.2 ยดึ มน่ั ในศาสนา
๑.3 มนั่ คงในสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
๑.4 มีความเอ้อื อาทรต่อครอบครัวและชมุ ชนของตน
2. มพี น้ื ฐานชวี ติ ที่ม่ันคง-มคี ุณธรรม
2. ๑ รู้จักแยกแยะส่ิงท่ผี ดิ -ชอบ / ชว่ั -ดี
2.2 ปฏิบัติแตส่ งิ่ ทชี่ อบ ส่งิ ทด่ี ีงาม
2.3 ปฏเิ สธส่งิ ทผี่ ดิ สิง่ ท่ีชัว่
2.4 ชว่ ยกันสรา้ งคนดีใหแ้ กบ่ ้านเมอื ง
3. มงี านทำ - มอี าชีพ
3. ๑ การเลย้ี งดลู ูกหลานในครอบครวั หรือการฝกึ ฝนอบรมในสถานศกึ ษาต้องมุ่งให้เด็กและเยาวชน
รกั งาน ส้งู าน ทำจนงานสำเร็จ
3.2 การฝึกฝนอบรมทั้งในหลักสูตรและนอกหลักสูตรต้องมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนทำงานเป็นและมี
งานทำในทีส่ ุด
3.3 ตอ้ งสนับสนนุ ผูส้ ำเรจ็ หลกั สูตรมอี าชพี มีงานทำ จนสามารถเล้ยี งตัวเองและครอบครวั
แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรยี นขนุ ยวม
ห น ้ า | 12
4. เป็นพลเมอื งดี
4. ๑ การเป็นพลเมืองดี เป็นหน้าท่ีของทุกคน
4.2 ครอบครัว-สถานศึกษาและสถานประกอบการต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสทำหน้าที่เป็น
พลเมอื งทด่ี ี
4.3 การเป็นพลเมืองดีคือ “เห็นอะไรที่จะทำเพื่อบ้านเมืองได้ก็ต้องทำ”เช่น งานอาสาสมัคร งาน
บำเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกศุ ลให้ทำดว้ ยความมีน้ำใจ และความเอือ้ อาทร
2. นโยบายสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
วิสยั ทัศน์
สร้างคณุ ภาพทุนมนษุ ย์ สู่สังคมอนาคตที่ย่งั ยืน
พันธกจิ
๑.จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติและการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ
2.พัฒนาศักยภาพผู้เรียนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มี
ความรู้ ทกั ษะวิชาการ ทักษะชีวติ ทกั ษะวชิ าชพี คณุ ลกั ษณะในศตวรรษท่ี 2๑
3.สง่ เสริมการพัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาใหเ้ ปน็ มอื อาชพี
4.สร้างโอกาส ความเสมอภาคลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษาอย่าง
ทวั่ ถงึ และเทา่ เทยี ม
5.ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยึดหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง และเป้าหมายโลกเพอ่ื การพัฒนาที่ยัง่ ยืน (SDGs)
6.พฒั นาระบบบริหารจัดการแบบบรู ณาการ และส่งเสริมใหท้ กุ ภาคสว่ นมสี ว่ นรว่ มในการ
จดั การศกึ ษา
เปา้ หมาย
๑.ผู้เรียน เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ คิดริเริ่มและสร้างสรรค์นวัตกรรม มีความรู้ มีทักษะและ
คุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 2 ๑ มีสุขภาวะที่เหมาะสมตามวัย มีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง
และปรับตัวต่อ เปน็ พลเมอื งและพลโลกที่ดี
2.ผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่
ห่างไกลทุรกันดารได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพ พร้อมก้าวสู่สากล ตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3.ครู เป็นผู้เรียนรู้ มีจิตวิญญาณความเป็นครู มีความแม่นยำทางวิชาการ และมีทักษะการจัดการ
เรียนรู้ที่หลากหลายตอบสนองผู้เรียนเป็นรายบุคคล เป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม และทักษะ ในการใช้
เทคโนโลยี
4. ผู้บริหารสถานศึกษา มีความเป็นเลิศส่วนบุคคล คิดเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม มีภาวะผู้นำทาง
วชิ าการ มสี ำนึกความรับผิดชอบ (Accountability) และการบริหารแบบรว่ มมอื
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 13
5. สถานศึกษา มีความเป็นอิสระในการบริหารงานและจัดการเรียนรู้ ร่วมมือกับชุมชน ภาคเอกชน
และผู้เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาระดับพื้นที่ จัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนเพื่อการเรียนรู้ในทุกมิติ เป็น
โรงเรยี นนวตั กรรม
6. สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา มกี ารบรหิ ารงานเชิงบรู ณาการ เปน็ สำนกั งานแหง่ นวตั กรรมยคุ ใหม่
ใช้ข้อมูลสารสนเทศและการวจิ ยั และพัฒนาในการขบั เคล่ือนคุณภาพ กำกบั ติดตาม ประเมินและรายงานผล
อยา่ งเปน็ ระบบ
7. สำนักงานส่วนกลาง ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงาน โดย กระจายอำนาจการบริหารงานและ
การจัดการศึกษาให้สถานศึกษา บริหารเชิงบูรณาการ มีระบบข้อมูลสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ กำกับ
ตดิ ตาม ประเมินผล และการรายงานผลอยา่ งเปน็ ระบบ ใช้วจิ ัยและนวัตกรรมในการขับเคลอื่ นคณุ ภาพ
ยทุ ธศาสตร์
๑. จัดการศึกษาเพ่ือความมั่นคง
๒. พัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น
๓. พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา
๔. สร้างโอกาสในการเขา้ ถงึ บรกิ ารการศึกษาทมี่ ีคณุ ภาพ มีมาตรฐาน และลดความเหลื่อมล้ำ
ทางการ ศึกษา
๕. เพ่ิมประสิทธภิ าพการบรหิ ารจดั การ
นโยบายท่ี ๑ จดั การศกึ ษาเพื่อความม่นั คง
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๑ จัดการศึกษาเพื่อความม่นั คง
๑. ผู้เรียนในเขตพฒั นาพิเศษเฉพาะกิจจงั หวัดชายแดนภาคใต้ และเขตพนื้ ที่พิเศษเฉพาะ ได้รบั การ
บริการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐานที่มีคุณภาพเหมาะสมกบั สังคมพหวุ ฒั นธรรม
2. เสรมิ สรา้ งคุณภาพประชากรวยั เรยี นกลุ่มชาติพนั ธุ์ กลุม่ ทด่ี อ้ ยโอกาส และกลุม่ ที่อย่ใู นพืน้ ที่
หา่ งไกลสงู ในถ่ินทุรกนั ดาร อาทิ พ้ืนที่สงู ชายแดน ชายฝ่งั ทะเล และเกาะแก่ง เพ่ือสรา้ งความมงั่ คงของ
ประเทศในระยะยาว
นโยบายที่ 2 พฒั นาคุณภาพผเู้ รียน
ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 2 พัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน
๑. ผู้เรียนทุกคนมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง และเป็นพลเมืองดี
ของชาติ และการพลเมืองโลกที่ดี (Global Citizen)
2. ผเู้ รียนทกุ คนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี ่านยิ มทีพ่ ึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ รับผดิ ชอบ
ต่อสังคมและผู้อ่ืน มัธยสั ถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รกั ษาศีลธรรม
3. ผู้เรียนทุกคนได้รับการพัฒนาและสร้างเสริมศักยภาพในแต่ละช่วงวัยอย่างมีคุณภาพมีทักษะที่
จำเปน็ ในศตวรรษท่ี 2 ๑ มีความเป็นเลศิ ทางด้านวชิ าการ มที กั ษะส่ือสารภาษาอังกฤษและภาษาท่ี 3 มีนิสัย
รักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต และมีทักษะอาชีพตามความต้องการและความ
ถนัด
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
ห น ้ า | 14
4. ผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ มีพัฒนาการตามศักยภาพของแต่ละบุคคล ทั้งในด้านที่มี
พัฒนาการปกติและด้านท่ีมีความบกพร่องหรอื ความแตกต่างทางการเรียนรู้ หรือความสามารถพิเศษ ตามที่
ระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลหรือแผนการให้บรกิ ารช่วยเหลือเฉพาะครอบครวั ซง่ึ จดั ทำข้ึนบน
พ้นื ฐานความต้องการจำเป็นเฉพาะของผเู้ รยี น
5. ผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ มีความพร้อมสามารถเข้าสู่บริการช่วงเชื่อมต่อ
(Transitional Services) หรือการส่งต่อ (Referral) เข้าสู่การศึกษาในระดับเดียวกันและที่สูงขึ้น หรือการ
อาชีพหรือการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คมไดต้ ามศกั ยภาพของแตล่ ะบุคคล
6. ผู้เรียนทุกคนมีทักษะชีวิต มีสุขภาวะที่เหมาะสมตามวัย มีความเข้มแข็ง อดทน และสามารถ
พึ่งตนเองได้ในสังคมอนาคตที่ซับซ้อนและการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามรูปแบบใหม่ สามารถป้องกัน
ตนเองจากปญั หายาเสพติดได้
นโยบายที่ 3 พัฒนาผบู้ รหิ าร ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา
ยุทธศาสตรท์ ่ี 3 พฒั นาผ้บู รหิ าร ครู และบุคลากรทางการศกึ ษา
ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกประเภท เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ เป็น
มืออาชีพ และมที ักษะวิชาชพี ขั้นสงู
นโยบายที่ 4 สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และลดความเหลื่อมล้ำ
ทางการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ ๔ สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และลดความเหลื่อมล้ำ
ทางการศกึ ษา
สร้างโอกาสใหป้ ระชากรวัยเรียนทุกคนเข้าถึงการบริการการเรียนรู้ที่มีคณุ ภาพ มีมาตรฐานเสมอกัน
และลดความเหลื่อมลำ้ ดา้ นการศกึ ษา
นโยบายท่ี 5 เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจดั การ
ยุทธศาสตร์ที่ 5 เพ่มิ ประสทิ ธิภาพการบริหารจดั การ
๑. สง่ เสรมิ การบริหารจัดการเขตพ้นื ที่การศกึ ษาโดยใชพ้ ้นื ทเ่ี ป็นฐาน (Area-based Management)
รปู แบบการบริหารแบบกระจายอำนาจ“CLUSTERs”
2. ส่งเสรมิ การมีสว่ นรว่ ม จดั ทำแผนบรู ณาการจดั การศึกษา ในระดบั พ้นื ท่ี
3. สร้างความเข้มแข็งในการยกระดับคุณภาพการศึกษารูปแบบเครือข่าย เช่น เครือข่ายส่งเสริม
ประสิทธิภาพการจัดการศกึ ษา ศนู ย์พัฒนากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สหวทิ ยาเขต กลุ่มโรงเรยี น ฯลฯ
4. ส่งเสริมให้ทกุ ภาคส่วนของสังคมมีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษาแบบบูรณาการที่ตอบสนองความ
ตอ้ งการของประชาชนและพ้ืนท่ี
5. สง่ เสรมิ สนับสนุน ผ้ปู กครอง ชมุ ชน สงั คม และสาธารณชน ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ และ มสี ่วน
รว่ มรับผดิ ชอบ (Accountability) ในการบริหารจัดการศึกษา
6. ส่งเสรมิ ใหท้ ุกภาคสว่ นของสงั คมเขา้ มามีส่วนรว่ มสนับสนนุ ทรพั ยากรเพ่อื การศกึ ษา
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 15
3. นโยบาย สาํ นักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาแมฮ่ ่องสอน เขต ๑
ปีงบประมาณ พ.ศ. 256๒
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต ๑ ได้ทบทวนสภาพแวดล้อมของ
องค์กร ที่พิจารณาจากเปา้ หมาย จุดเน้นของกิจกรรมสําคัญที่ได้ติดตามจากทุกกลุ่มภารกิจ และสถานศึกษา
นาํ มาปรับปรงุ งานหลักตามนโยบาย และงานสนองนโยบายให้มีมิติความต่อเนื่อง แก้จุดบกพร่อง และพัฒนา
ให้เกิด ความก้าวหน้าส่งผลสู่นโยบายด้านสังคมของรัฐบาล และนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและ
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังมีรายละเอียดของวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ และกล
ยทุ ธ์ ของสํานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาแม่ฮ่องสอน เขต ๑ ดงั ตอ่ ไปน้ี
วิสัยทศั น์ (Vision)
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต ๑ จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่เด็ก
ชาตพิ นั ธุ์ อย่างเสมอภาค ทัว่ ถงึ มคี ุณภาพ บนพน้ื ฐานความเป็นไทยและสากล
พนั ธกิจ (Mission)
๑. ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรและค่านิยมหลัก
ของคนไทย ๑2 ประการ
2. จัดการศึกษาอยา่ งมคี ุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาและสากล
3. พฒั นาคุณภาพขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
4. จดั การศึกษาข้ันพนื้ ฐานอย่างทว่ั ถึงเสมอภาคและความต้องการของทอ้ งถิ่น
5. พัฒนาระบบบริหารจดั การท่ีเน้นการมสี ่วนรว่ มการบูรณาการการจัดการศึกษา และเสริมสร้างความ
รบั ผดิ ชอบต่อคณุ ภาพการศกึ ษา
เป้าประสงค์ (Goal)
๑. ผู้เรียนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง เสมอภาค มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลาง
และค่านยิ ม ๑2 ประการ
2. ผู้เรียนมีความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย สามารถอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและ
หลากหลายชาติพันธุ์ ใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู่อยา่ งยั่งยนื ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3. สถานศึกษาสามารถใช้สื่อการเรียนการสอน เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการพัฒนาคุณภาพ
การศกึ ษา
4. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนา และสามารถใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ
และแหล่งเรยี นรู้ทเ่ี อื้อต่อการเรยี นรูป้ ฏิบตั งิ านไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและเต็มตามศักยภาพ
5. สถานศึกษามีระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียนทีเ่ ข้มแขง็
6. สพป.แม่ฮ่องสอน เขต ๑ และสถานศึกษา มกี ารบรหิ ารจัดการโดยยึดหลกั ธรรมาภิบาล
แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 16
กลยุทธ์
๑. เสริมสร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์แกผ่ ู้เรยี น ขา้ ราชการครูและบคุ ลากร
ทางการศึกษา
2. พัฒนาคุณภาพการศึกษาเพ่อื ความเป็นเลศิ อยา่ งยงั่ ยืน
3. พฒั นาขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบใหม้ ีคุณภาพ
4. สรา้ งโอกาสการและลดความเหลอ่ื มล้ำทางการศกึ ษา
5. พัฒนาระบบบริหารและจัดการตามหลกั ธรรมาภบิ าล
ตัวชีว้ ัด
เปา้ หมายและตัวช้วี ัดความสําเร็จ
กลยุทธท์ ี่ ๑ พัฒนาคุณภาพของผูเ้ รยี นตามมาตรฐานการศึกษา
ที่ เปา้ หมายความสำเร็จ ตัวชี้วัดความสำเรจ็
๑ ร้อยละนักเรยี นปฐมวัยมีพฒั นาการ ด้าน รอ้ ยละ ๑00 ของนักเรยี นปฐมวัยทไี่ ดร้ ับการ
ร่างกาย อารมณ์ สงั คมและสติปัญญา ทสี่ มดุล เตรียมความ พร้อมอยา่ งมีคณุ ภาพ
เหมาะสมกบั วยั และเรียนร้อู ย่างมคี วามสขุ
ตามมาตรฐานการศกึ ษา ระดับการศกึ ษา
ปฐมวยั
2 รอ้ ยละของนักเรียนแต่ละระดับชัน้ อ่านออก รอ้ ยละ ๑00 ของนักเรียนแตล่ ะระดับชน้ั อ่าน
เขยี นได้ ตามเกณฑท์ ่ี สพฐ.กําหนด ออก เขียนได้ ตามเกณฑ์ท่ี สพฐ.กําหนด
3 ร้อยละของนักเรียน อา่ นหนังสอื อก ตามเกณฑ์ ร้อยละ ๑00 ของนักเรียน อ่านหนงั สือออก ตาม
ท่ี สพฐ. กาํ หนด เกณฑ์ท่ี สพฐ.กาํ หนด
4 นักเรียนไดร้ ับการประเมนิ ด้วยข้อสอบ ร้อยละ ๑00 ของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่
มาตรฐาน กลาง(มาตรฐานตามหลกั สูตร ๑ และ 2 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 และ 5 , ชนั้
การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน 5๑ ) ระดับเขตพืน้ ท่ี มัธยมศกึ ษาตอนต้น ปที ี่ ๑ และ 2 ไดร้ ับการ
การศึกษา ประเมนิ ดว้ ยข้อสอบมาตรฐาน กลางตาม
มาตรฐานการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน 5๑ ระดับเขต
พืน้ ที่การศึกษา
5 ผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน ร้อยละของผลการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้น
(NT)เฉล่ียเพ่ิมขน้ึ จากฐานเดิม พ้ืนฐาน (NT)ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 เฉลยี่ เพ่ิมขึ้น
จากฐานเดมิ ไม่ น้อยกว่ารอ้ ยละ 3
6 ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ (O- ร้อยละของผลการทดสอบทางการศึกษา
NET) กลุ่มสาระหลักเฉล่ยี เพิ่มขึ้นจากฐานเดิม ระดบั ชาติ (O-NET) กลมุ่ สาระหลักนกั เรียนช้นั
ประถมศกึ ษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3
เฉลี่ยเพ่ิมข้นึ จากฐานเดิมไม่ น้อยกว่าร้อยละ 3
7 สถานศึกษาใช้สอ่ื การเรียนการสอน เทคโนโลยี สถานศกึ ษาร้อยละ ๑00 ใช้สื่อการเรียนการ
และ นวตั กรรม เพื่อพฒั นาคุณภาพการศึกษา สอน เทคโนโลยแี ละนวัตกรรม เพอื่ พฒั นา
คุณภาพการศึกษา
แผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 17
ที่ เป้าหมายความสำเร็จ ตวั ชีว้ ดั ความสำเร็จ
๘ สถานศึกษาได้รับการพัฒนาตามมาตรฐาน ร้อยละ ๑00 ของจาํ นวนสถานศกึ ษาได้รบั การ
การศึกษา ขัน้ พ้นื ฐาน พัฒนาตามมาตรฐานการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน
๙ รอ้ ยละของสถานศึกษาได้รับการยกระดบั ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษาได้รบั การยกระดับ
มาตรฐานทางดา้ นภาษาอังกฤษและภาษาอ่นื มาตรฐาน ทางด!านภาษาองั กฤษและภาษาอื่น
๑๐ ร้อยละของสถานศกึ ษาจดั การเรียนรู!เชงิ ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษาจัดการเรียนร้เู ชงิ
บูรณาการSTEM ศกึ ษา บูรณาการSTEM ศกึ ษา
๑๑ ร้อยละผูเ้ รียนมที ักษะการเรียนรู!ในศตวรรษท่ี รอ้ ยละ ๑00 ผ้เู รยี นมที กั ษะการเรียนรู้ใน
2๑ ศตวรรษท่ี 2๑
๑๒ ร้อยละของสถานศึกษา (ICU) ไดร้ ับความ ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษา (ICU) ได้รับความ
ช่วยเหลือและพฒั นาเปน็ พิเศษอย่างเร่งดว่ น ช่วยเหลอื และพฒั นาเป็นพิเศษอยา่ งเร่งด่วน
กลยทุ ธท์ ี่ 2 เพ่ิมโอกาสการเขา้ ถงึ บรกิ ารการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐานให้ท่ัวถึงครอบคลุมผเู้ รียน ให้โอกาสในการ
พัฒนา เตม็ ตามศักยภาพ
ที่ เป้าหมายความสำเร็จ ตัวชี้วัดความสำเรจ็
๑ ประชากรวัยเรียนในเขตบริการและเด็ก ร้อยละ ๑00 ของผู้เรียนในเขตบริการและเด็กด้อย
ด้อยโอกาส ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โอกาส ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน -ผู้เรียนที่จบ ป.6
อย่างทัว่ ถงึ เสมอภาค แล้วเรียนต่อ ม. ๑ ร้อยละ ๑00 ผู้เรียน ที่จบ ม.3
แลว้ เรยี นตอ่ ม.4 หรอื เทียบเท่าร้อยละ 95 (94.97)
2 ผู้เรียนจบการศึกษาพื้นฐานภายในเวลาท่ี ร ้ อ ย ล ะ ๑ 00 ข อ ง ผ ู ้ เ ร ี ยน จบ ก า รศ ึ ก ษาชั้น
หลกั สูตร กาํ หนด ประถมศึกษา ปีที่ 6 (98.39) ร้อยละ ๑00 ของ
ผ้เู รียนจบการศกึ ษาช้นั มธั ยมศกึ ษา ปีท่ี 3
( ๑00)
3 สัดส่วนผู้เรียนสายสามัญ: สายอาชีพ สดั ส่วนผูเ้ รียนสายสามัญ: สายอาชีพเพ่มิ ขนึ้ 60:40
เพิ่มขึ้น
4 ร้อยละสถานศึกษามีระบบดูแลช่วยเหลือ ร้อยละ ๑00 สถานศึกษามีระบบดูแลช่วยเหลือ
นกั เรยี น อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ นกั เรียน อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
5 ร้อยละผู้เรียนได้รับการพัฒนาที่มีความ ร้อยละ ๑00 ผู้เรียนได้รับการพัฒนาที่มีความ
ต ้ อ ง ก า ร จ ํ า เ ป ็ น พ ิ เ ศ ษ ( ผ ู ้ พ ิ ก า ร ต้องการ จําเป็นพิเศษ (ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้มี
ผ้ดู อ้ ยโอกาส และผู้มีความสามารถ พิเศษ) ความสามารถพเิ ศษ)
๖ ร้อยละของสถานศึกษาได้รับบริการ ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษาได้รับบริการ
อินเตอร์เน็ต ความเร็วสูงไม่ต่ำกว่า 30 อินเตอรเ์ น็ตความเร็วสงู ไม่ต่ำกว่า 30 Mbps
Mbps
๗ ผู้เรียนทุกคนได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย ร้อยละ ๑00 ของผู้เรียนได้รับการสนับสนุน
ในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจน คา่ ใช้จ่ายทางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน
จบการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน
๘ ผูเ้ รยี นออกกลางคนั ลดลง อตั ราการออกกลางคันลดลงร้อยละ 0. ๑5
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
ห น ้ า | 18
กลยทุ ธท์ ี่ 3 ปลูกฝังคุณธรรม ความสาํ นึกในความเปน็ ชาตไิ ทย และวิถีชีวิตทอ้ งถิ่น ตามหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง
ที่ เปา้ หมายความสำเรจ็ ตัวชี้วัดความสำเร็จ
๑ นกั เรียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะ ร้อยละ ๑00 ของนักเรียนมีคุณลักษณะที่พึง
อัน พึงประสงค์ เนน้ การเรียนการสอนเพื่อเกิด ประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางและคา่ นิยม ๑2
ความ ปรองดอง ความสามคั คี ประการ ผา่ น เกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษากําหนด
2 สถานศึกษา สร้าง ส่งเสริม สนับสนุน สังคม ร้อยละ ๑00 สถานศึกษาใช้ประโยชน์จากแหล่ง
แห่งการ เรียนรู้อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญา เรียนรู้ อย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
ของเศรษฐกจิ พอเพียง พอเพียงท้งั ภายในและภายนอกสถานศึกษา
3 โรงเรียนวิถีพุทธดําเนินการตามลักษณะ 29 รอ้ ยละ ๑00 ของโรงเรียนวิถีพทุ ธผ่านเกณฑ์การ
ประการ ประเมนิ ตามมาตรฐานท่ีกาํ หนด
4 ร้อยละของสถานศึกษาได้รับการสร้าง ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษาได้รับการสร้าง
ภูมคิ ุม้ กนั ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภูมคิ ุ้มกนั ปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ
5 สพป. มีแผนการป้องกันและต่อต้านทุจริต ร้อยละ ๑00 มีแผนการป้องกันและต่อต้าน
คอรปั ชั่น ทจุ ริต คอรัปชน่ั
๖ ร้อยละของสถานศึกษามีแผนและต่อต้านการ ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษามีแผนและต่อต้าน
ทุจริต คอรัปชั่น และจัดกิจกรรมส่งเสริม การทุจริต คอรัปชั่น และจัดกิจกรรมส่งเสริม
พัฒนาคณุ ลกั ษณะ ทพ่ี ึงประสงค์ พัฒนา
คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์
๗ ร้อยละของสถานศึกษา จัดกิจกรรมเพื่อ ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษา จัดกิจกรรมเพ่ือ
เสริมสร้าง คุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับ เสรมิ สร้าง คณุ ภาพชวี ิตทีเ่ ปน็ มิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม
สิง่ แวดล้อม
๘ ร้อยละของสถานศึกษาได้จัดการขยะอย่าง รอ้ ยละ ๑00 ของสถานศึกษาไดจ้ ัดการขยะอย่าง
ถูกตอ้ งและ มปี ระสทิ ธิภาพ ถูกตอ้ ง และมปี ระสทิ ธภิ าพ
กลยทุ ธ์ท่ี 4 พฒั นาขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาทงั้ ระบบให้มคี ณุ ภาพ
ท่ี เปา้ หมายความสำเร็จ ตวั ช้วี ัดความสำเร็จ
๑ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาได้รับ ร้อยละ ๑00 ของข้าราชการครูและบุคลากร
การ พัฒนา ในการจัดการเรียนรู้และ ทางการ ศึกษา ที่ได้รับการพัฒนาในการจัดการ
ปฏิบตั งิ านอยา่ งมี คณุ ภาพ เรียนรู้และ ปฏิบัติงานอย่างมีคณุ ภาพ ร้อยละ ๑
00 ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาได้รับการเตรียมความพร้อมด้าน
ภาษาอังกฤษ เพื่อเข้าเป็นประชาคมอาเซียน ร้อย
ละ 60 ของครูทุกคนทส่ี ามารถใชภ้ าษาอังกฤษใน
การส่อื สารได
แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 19
ที่ เปา้ หมายความสำเรจ็ ตวั ช้วี ดั ความสำเร็จ
2 บุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาให้มี ร้อยละ ๑00 บุคลากรทางการศึกษาได้รับการ
คุณภาพ และสามารถปฏิบัติงานได้ตาม พัฒนาให้มี คุณภาพและสามารถปฏิบัติงานได้
มาตรฐานหรือเกณฑท์ ่ี กําหนด ตามมาตรฐานหรือ เกณฑท์ กี่ าํ หนด
3 ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาได้รับ ร้อยละ 80 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
การ เล่อื นวทิ ยฐานะให้สูงขน้ึ ศึกษา ได้รับการเลื่อนวิทยฐานะให้สูงขึ้นของผู้ที่
ย่ืนคําขอ
4 ร้อยละทั้งครูประจําการที่สอนไม่ตรงวุฒิได้รับ ร้อยละ ๑00 ครูประจําการที่สอนไม่ตรงวุฒิ
การ พัฒนา ไดร้ ับการ พฒั นา
๕ ร้อยละของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ร้อยละ ๑00 ของข้าราชการครูและบุคลากร
ศึกษา ใช้นวัตกรรม PLC (Professional ทางการศึกษา ใช้นวัตกรรม PLC (Professional
Learning Community) เพือ่ พฒั นาผู้เรียน Learning Community) เพ่ือพฒั นาผู้เรยี น
กลยุทธท์ ่ี 5 พฒั นาประสิทธิภาพการบริหารจัดการศกึ ษาสาํ นกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาและสถานศึกษา
ตาม หลกั ธรรมาภิบาล
ที่ เป้าหมายความสำเร็จ ตวั ชวี้ ัดความสำเร็จ
สถานศกึ ษาทุกแหง่ ผ่านการรับรอง ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษามรี ะบบการประกัน คณุ ภาพ
๑ มาตรฐานจาก สมศ. ภายในที่เข้มแข็ง ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษาทีเ่ ข้ารับการ
ประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบสไ่ี ดร้ บั รองคณุ ภาพ
2 สถานศึกษาทุกแห่งได้รบั การนิเทศ ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษาได้รบั การนเิ ทศ กํากบั
กํากับ ตดิ ตาม ช่วยเหลอื และรายงาน ตดิ ตาม ช่วยเหลอื และรายงานผล
ผล แบบกลั ยาณมติ ร
3 สาํ นกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาและ ๑. สํานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา มีความเขม้ แขง็ ในการ
สถานศึกษาทุกแห่งมี ความเข้มแข็งใน บริหารจดั การศกึ ษาผา่ นเกณฑม์ าตรฐานสํานกั งานเขต
การบริหารจดั การศึกษาและการมี พืน้ ที่ ในระดับค่าเฉล่ยี ดี
สว่ นร่วมจากทกุ ภาคสว่ น 2.ร้อยละ ๑00 ของสถานศึกษามีความเข้มแข็งในการ
บรหิ ารจดั การศกึ ษา และการมสี ว่ นร่วมจากทกุ ภาคส่วน
4 สถานศกึ ษาขนาดเล็กทุกแหง่ มี รอ้ ยละ 80 ของสถานศึกษาขนาดเล็กมีประสทิ ธิภาพใน การ
ประสทิ ธิภาพในการ บริหารจัดการ บรหิ ารจัดการ
5 ผู้รบั บริการมีความพงึ พอใจในการจัด รอ้ ยละ ๑00 ของผู้รบั บรกิ ารท่ีมคี วามพงึ พอใจในการจดั
การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน การศึกษาขนั้ พื้นฐาน
๖ รอ้ ยละของสถานศกึ ษาไดม้ ีการพฒั นา ร้อยละ ๑00 ของสถานศกึ ษาได้มีการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน
คณุ ภาพผู้เรียนรว่ มกับหนว่ ยงานทุ รว่ มกบั หนว่ ยงานทรุ ะดับ ผปู้ กครอง ชุมชน สังคม
ระดบั ผปู้ กครอง ชมุ ชน สังคม
๗ สพป. ยกระดับคุณภาพการศึกษา สพป. มีรูปแบบพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งมี
รูปแบบเครือขา่ ยกลุ่มโรงเรียน ศนู ย์ ประสิทธิภาพ
พฒั นากลุ่มสาระการเรียนรู้ ฯลฯ
แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 20
ความคาดหวังการนํากลยุทธ์สู่การปฏิบัติ การขับเคลื่อนนโยบาย ของสํานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 256 ๑ ให้บรรลุตาม เป้าหมาย สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
สถานศึกษา และองค์คณะบคุ คลทุกระดบั ตลอดจนผ้ทู มี่ ี ส่วนเก่ียวข้องมีการรว่ มแรงประสานใจในการบูรณา
การกลยุทธ์ ของสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา แม่ฮ่องสอนเขต ๑ กับพันธกิจ ที่เป็นภารกิจ
หน้าที่ ไปสแู่ ผนพัฒนาการศึกษาของ สํานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา ประถมศึกษาแมฮ่ ่องสอน เขต ๑ กําหนด
เป้าหมายความสําเร็จที่สะท้อนจากข้อมูลสารสนเทศและผลการดําเนินงาน ตามมาตรฐานที่ปฏิบัติได้ นําไป
จัดทําแผนปฏิบัติราชการประจําปีงบประมาณ งบประมาณ 256๑ ที่ใช้กํากับ ติดตาม ในระหว่างปีและ
ประเมินผลรายงานผลการดําเนินงานต่อสาธารณชนเมื่อเสร็จสิ้น หรือสิ้นปีงบประมาณ ซึ่งเป็นส่วน แสดง
ความรับผิดชอบ และความโปร่งใส ที่ชุมชน สังคมควรได้รับทราบในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัด
การศึกษา ของชุมชน
4. ผลการศึกษาสถานภาพสถานศกึ ษาสภาพปัญหาความต้องการจำเป็น
การวิเคราะหส์ ถานภาพของโรงเรียน
โรงเรียนขุนยวม ได้นำข้อมูลจากรายงานประจำปีของสถานศึกษา (SAR) ข้อเสนอแนะในรายงาน
ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มาดำเนินการวางแผน พัฒนาอย่าง
ต่อเนื่องซึ่งจะปรากฏในแผนพัฒนาการจัดการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อพัฒนา คุณภาพ
การศึกษาให้บรรลตุ ามวสิ ยั ทศั น์ซ่ึงผลการวิเคราะหส์ ถานภาพของสถานศกึ ษา ณ ปจั จุบันพอสรปุ ได้ ดังนี้
ขั้นตอนการประเมนิ สถานภาพของโรงเรยี น
การประเมินสถานภาพของโรงเรยี นขุนยวม ได้อาศัยหลักการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเก่ียวข้อง ได้แก่
ผบู้ ริหาร คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน นักเรียน และผู้มสี ่วนได้เสียตา่ ง ๆ ร่วมกัน เสนอแนะ
โดยมีขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ดิ งั น้ี
๑. ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วข้องร่วมกันพิจารณาความสำคัญของทุกประเด็นในแตล่ ะปัจจยั (๒S๔M/STEP) เพื่อ
พิจารณาว่า แต่ละประเด็นมีผลกระทบกับโรงเรียนมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ทุกคนได้ศึกษาประเด็นต่าง ๆ
รว่ มกนั ก่อนที่จะประเมนิ ระดบั ความรนุ แรงของผลกระทบที่มีผลต่อโรงเรยี น
๒. ผมู้ ีสว่ นเกยี่ วขอ้ งแต่ละคนใหค้ ะแนนผลกระทบท้ังท่ีเปน็ โอกาส อปุ สรรค สำหรบั สภาพแวดล้อม
ภายนอก และที่เป็นจุดแข็ง และจุดอ่อน สำหรับสภาพแวดล้อมภายใน โดยถ้ามีผลกระทบ มากที่สุดให้
คะแนนเต็ม ๕ และถา้ มผี ลกระทบนอ้ ยให้คะแนนเทา่ กับ ๑ ตามเกณฑด์ ังนี้
คะแนน ๑ หมายถงึ ประเดน็ ตัวช้วี ดั มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงเรยี นน้อยท่ีสุด
คะแนน ๒ หมายถึงประเด็นตัวชีว้ ัดมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงเรยี นนอ้ ย
คะแนน ๓ หมายถึงประเด็นตัวช้ีวัดมีผลกระทบตอ่ การดำเนินงานของโรงเรียนปานกลาง
คะแนน ๔ หมายถึงประเดน็ ตัวชว้ี ัดมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงเรียนมาก
คะแนน ๕ หมายถึงประเด็นตัวชีว้ ัดมีผลกระทบตอ่ การดำเนินงานของโรงเรยี นมากทสี่ ดุ
๓. หาคะแนนเฉลี่ยของปัจจัยแต่ละด้าน โดยแยกปัจจัยที่เป็นจุดแข็งหรือจุดอ่อน สำหรับปัจจัย
แวดลอ้ มภายใน และโอกาสหรอื อปุ สรรค สำหรบั ปัจจัยสภาพแวดลอ้ มภายนอก
๔. สรุปผลการวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มภายในและสภาพแวดล้อมภายนอกของโรงเรียน
๕. วาดวงรแี ทนไขข่ าว โดยใหท้ ิศทางไปในทิศทางเดียวกับไขแ่ ดง โดยเส้นขอบไข่ขาวไมเ่ กิน สีเ่ หลี่ยม
ทกี่ ำหนดขอบเขต
แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 21
การวิเคราะหอ์ งค์กร SWOT Analysis ของโรงเรียนขุนยวม
๑. การวิเคราะห์ปัจจยั ภายใน (Internal Environment)
จุดแข็ง จดุ ออ่ น
๑.๑ ด้านโครงสร้างงานและนโยบาย (S๑)
๑. โครงสรา้ งการบรหิ ารงานของโรงเรียนมคี วาม ๑. การปฏบิ ตั ิงานบางเรอ่ื งขาดความต่อเนื่องเกดิ
ชดั เจน เออ้ื ต่อการปฏบิ ตั งิ าน จากการเปล่ยี นแปลงนโยบายของหนว่ ยเหนอื
๒. มกี ารกระจายอํานาจแบ่งงานตามความถนดั ทาํ ๒. การดาํ เนินงานตามนโยบายซ่งึ มมี ากทําให้
ใหเ้ กิดความคล่องตัวในการปฏบิ ัติงาน เกดิ ผล กระทบตอ่ การเรยี นการสอน
๓. มีความสมั พนั ธแ์ ละวัฒนธรรมองค์กรท่ีดี
๑.๒ ดา้ นการให้บรกิ ารและผลผลิต (S๒)
๑. โรงเรยี นมีความพร้อมในการใหบ้ รกิ ารทาง ๑. นักเรียนบางส่วนมีปญั หาทางดา้ นครอบครัวมี
การศกึ ษาแกป่ ระชากรวัยเรียนในพน้ื ทบี่ ริการ ผลกระทบต่อนักเรยี นในด้านจติ ใจและดา้ นการ
ไดท้ ุกคน เรียน
๒. โรงเรียนจดั การเรียนการสอนและกจิ กรรมท่ี ๒. แหล่งเรยี นร้ภู ายในโรงเรียนไมเ่ พียงพอเชน่
สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของผูเ้ รียน หอ้ งสมดุ สนามเด็กเล่น
๓. นกั เรยี นได้รับการดูแลจากระบบดูแลช่วยเหลอื ๓. ครอบครวั นักเรียนมาจากหลายชนเผา่
นักเรยี นทเ่ี ข้มเขง็
๔. คุณภาพผเู้ รยี นดา้ นคุณธรรมจริยธรรมและ
คุณลกั ษณะที่พึงประสงคส์ ง่ ผลต่อพฤติกรรม
ของนักเรียนด้านการเรยี นและความประพฤติ
นักเรียนมีระดับผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนเพิ่มขนึ้
๕. การจดั สภาพแวดล้อมทเี่ อ้ือตอ่ การเรียนรู้
สขุ ภาพอนามัยและความปลอดภยั ของผู้เรยี น
๑.๓ ดา้ นบุคลากร (M๑)
๑. บคุ ลากรมคี วามเข้มแขง็ ทมุ่ เทการทํางาน ให้กับ ๑. บุคลากรบางส่วนยังขาดความเชี่ยวชาญในการ
ทุกภารกจิ ของโรงเรียน ใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศให้เกดิ ประโยชน์
๒. มจี าํ นวนของครูเพียงพอกับจาํ นวนนักเรียน และ ๒. นักการภารโรงที่ทําหน้าที่ในการดูแล ซ่อมแซม
การบรหิ ารจัดการ วัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลาดูแลไม่
๓. ครูมีความตื่นตัวและกระตือรือร้นในการพัฒนา ทว่ั ถึง
ตนเองนําความรู้ที่ได้มาใช้ในการจัดการเรียน
การสอน
๑.๔ ด้านการเงิน (M๒)
๑. โรงเรียนได้รับความรว่ มมือจากชุมชนในการ ๑. งบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากรัฐบาลยังไม่
ระดมทรัพยากรทางการศึกษาเป็นอยา่ งดี เพยี งพอตอ่ การบริหารจดั การ
๒. การบริหารงบประมาณของโรงเรียน ดําเนินไป
ตามแผนปฏบิ ัติการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
ห น ้ า | 22
จดุ แขง็ จดุ ออ่ น
๑.๕ ด้านวัสด/ุ อุปกรณ์ (M๓)
๑. โรงเรียนใช้อาคารสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ใน ๑. โรงเรยี นมวี ัสดุอปุ กรณ์ชํารุด เส่อื มสภาพ
การจัดการเรียนการสอนและบริการชุมชน ๒. ไมม่ รี ะบบเสียงตามสาย สง่ ผลตอ่ การ
อย่างคุ้มคา่ ประชาสมั พนั ธ์ของโรงเรียน
๒. โรงเรยี นมคี อมพิวเตอรท์ ใ่ี ช้ในการจัดการเรียน
การสอนอยา่ งเพียงพอ
๑.๖ ด้านการบรหิ ารจัดการ (M๔)
๑. โรงเรยี นไดจ้ ัดทาํ แผนปฏบิ ตั กิ ารประจําปใี ช้ เป็น ๑. การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศไม่เป็นระบบและ
เครอื่ งมอื ในการปฏิบตั งิ าน เป็นปัจจุบันทําให้ขาดความคล่องตัวในการ
๒. มีการนิเทศ กํากับ ติดตามการจัดการเรียนรู้ ปฏบิ ตั งิ าน
อยา่ งตอ่ เนื่อง ๒. โรงเรียนขาดการรายงาน/ประชาสมั พนั ธ์
๓. ผู้บริหารมีความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการ เผยแพรผ่ ลงาน
โรงเรยี นให้บรรลภุ ารกิจ
๔. เปดิ โอกาสใหท้ กุ ภาคสว่ นมีส่วนร่วมในการ
บริหารจัดการ
ผลการวิเคราะห์ปจั จัยภายนอก (External Environment)
โอกาส อุปสรรค
๒.๑ ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม (S)
๑. คนในชุมชนมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนอยู่ใน ๑. สถานที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ใกล้ตัวอําเภอ มี
เกณฑ์ทีส่ งู ผลกระทบตอ่ จำนวนนักเรยี นในโรงเรียน
๒. ชุมชนมีความเข้มแข็ง ยินดีให้การสนับสนุน ๒. การย้ายถิ่นของผู้ปกครองทําให้นักเรียนเรียนไม่
ภารกจิ ของโรงเรียน ต่อเน่ืองสง่ ผลให้ผลสมฤทธ์ิ ทางการเรียนตำ่
๓. คนในชุมชนมภี มู ิปัญญาท้องถิน่ ที่สามารถ นํามา ๓. ผูป้ กครองนกั เรียนมหี ลายชนเผ่า
เปน็ จุดเดน่ ของโรงเรยี นได้
๔. คนในชุมชนร่วมกันอนุรักษ์แหล่งเรียนรู้และ
สรา้ งจิตสาํ นกึ ในด้านต่าง ๆ ใหก้ บั นกั เรียนได้
๒.๒ ด้านเทคโนโลยี (T)
๑. ชมุ ชนเข้าถงึ เทคโนโลยสี ารสนเทศไดส้ ะดวก ๑. มีการใชเ้ ทคโนโลยีในทางลบ เชน่ เล่นเกม ดู
มากขึน้ สง่ ผลดีต่อการประชาสมั พนั ธ์ของ โทรทศั นม์ ากเกนิ ไป
โรงเรียน
๒. มีการบริการและเทคโนโลยีใหมเ่ กดิ ขึน้ เอ้ือต่อ
การเรยี นรตู้ นเองทหี่ ลากหลายมากขนึ้
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
ห น ้ า | 23
โอกาส อุปสรรค
๒.๓ ด้านเศรษฐกิจ (E)
๑. คนในชมุ ชนส่วนใหญ่มีอาชพี และที่ดนิ ทํากนิ ๑. เศรษฐกจิ โดยรวมของประเทศอยู่ในชว่ งชะลอ
เป็นกรรมสทิ ธ์ิของตนเอง ตวั ส่งผลกระทบต่อชุมชนและโรงเรยี น
๒.๔ ด้านการเมืองและกฎหมาย (P) ๒. ราคาพชื ผลทางการเกษตรตกต่ำ ทาํ ใหร้ ายได้
๑. นโยบายเรียนฟรีตั้งแต่แรกเกิดจนจบการศึกษา ของผปู้ กครองลดลง
ขัน้ พื้นฐาน มสี ่วนเพ่ิมโอกาสทางการศึกษา ๑. นโยบายดา้ นการศกึ ษามีการเปลีย่ นแปลงบ่อย
๒. นโยบายกระจายอํานาจให้อปท. มสี ว่ นให้ สง่ ผลต่อความต่อเน่ืองในการบรหิ ารจดั การศกึ ษา
สถานศกึ ษาไดร้ ับการสนบั สนุนงบประมาณ จาก
อปท. เพิม่ ข้ึน
ตาราง ๑ ตารางกาํ หนดนำ้ หนกั ปจั จยั สภาพแวดล้อมภายใน น้ำหนกั
๐.๑๐
รายการปัจจยั สภาพแวดล้อมภายใน ๐.๑๕
S๑ ด้านโครงสร้างงานและนโยบาย ๐.๒๙
S๒ ดา้ นการให้บรกิ ารและผลผลิต ๐.๒๑
M๑ ด้านบคุ ลากร ๐.๑๒
M๒ ดา้ นการเงนิ ๐.๑๓
M๓ ด้านวสั ด/ุ อปุ กรณ์
M๔ ด้านการบริหารจดั การ ๑
น้ำหนกั รวม
ตาราง ๒ การกําหนดนำ้ หนักปจั จยั สภาพแวดล้อมภายนอก น้ำหนัก
๐.๒๒
รายการปัจจยั สภาพแวดล้อมภายใน ๐.๒๙
S ด้านสังคมและวฒั นธรรม ๐.๓๑
T ด้านเทคโนโลยี ๐.๑๘
E ดา้ นเศรษฐกจิ
P ดา้ นการเมืองและกฎหมาย ๑
น้ำหนกั รวม
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ตารางกําหนดน้ำหนกั ประเดน็ ตัวชว้ี ัดของสภาพแวดล้อมภายใน ห น ้ า | 24
ตาราง ๓ ปัจจัยด้านโครงสร้างและนโยบาย (S๑ : Structure) น้ำหนกั
๔.๘๖
ประเดน็ ตัวชีวดั ๔.๑๔
S๑.๑ โครงสร้างการบริหารงานของโรงเรยี นมีความชัดเจน เออ้ื ต่อการปฏิบัติงาน ๔.๕๗
S๑.๒ การปฏิบัตงิ านบางเร่อื งขาดความต่อเนื่องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ของ ๑.๗๑
๑.๗๑
หน่วยเหนือ ๑๐.๑๔
S๑.๓ มีการกระจายอํานาจแบ่งงานตามความถนดั ทาํ ใหเ้ กิดความคลอ่ งตวั ในการ
นำ้ หนัก
ปฏบิ ัตงิ าน ๔.๗๑
S๑.๔ มคี วามสัมพันธแ์ ละวฒั นธรรมองค์กรทด่ี ี ๕.๐๐
S๑.๕ การดําเนนิ งานตามนโยบายซง่ึ มีมากทําใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ การเรยี นการสอน ๔.๕๗
๔.๕๗
น้ำหนักรวม
๔.๗๑
ตาราง ๔ ดา้ นผลผลติ ของการบริการ (S๒ : Services/Product) -๒.๐๐
-๒.๑๔
ประเด็นตวั ชี้วดั ๑๙.๔๓
S๒.๑ โรงเรียนมคี วามพร้อมในการใหบ้ รกิ ารทางการศกึ ษาแกป่ ระชากรวัยเรียนในพ้นื ท่ี
บริการได้ทุกคน
S๒.๒ โรงเรยี นจัดการเรียนการสอนและกจิ กรรมท่ีสอดคล้องกับความต้องการของ
ผเู้ รียน
S๒.๓ นักเรยี นไดร้ บั การดูแลจากระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรียนทเี่ ข้มเขง็
S๒.๔ คณุ ภาพผู้เรียนดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรมและคณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงคส์ ง่ ผลตอ่
พฤติกรรมของนกั เรียนด้านการเรยี นและความประพฤตินักเรยี นมีระดบั
ผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรยี นเพิม่ ขึน้
S๒.๕ การจดั สภาพแวดล้อมท่เี อ้ือต่อการเรียนรู้สุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของ
ผูเ้ รียน
S๒.๖ นักเรยี นบางสว่ นมีปัญหาทางด้านครอบครวั มีผลกระทบต่อนกั เรยี นในด้านจติ ใจ
และด้านการเรยี น
S๒.๗ แหลง่ เรียนรู้ภายในโรงเรียนไมเ่ พยี งพอเช่น ห้องสมดุ
น้ำหนักรวม
แผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ตาราง ๕ ปจั จยั ดา้ นบุคลากร (M๑ : Man) ห น ้ า | 25
ประเดน็ ตัวช้ีวดั น้ำหนกั
M ๑.๑ บุคลากรมคี วามเข้มแขง็ ทุม่ เทการทํางานให้กบั ทุกภารกิจของโรงเรยี น ๔.๗๑
บคุ ลากรบางสว่ นยังขาดความเช่ียวชาญในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใหเ้ กิด ๔.๕๗
ประโยชน์
M ๑.๒ มจี ํานวนของครเู พยี งพอกบั จํานวนนักเรียนและการบริหารจดั การ นักการภาร น้ำหนัก
โรงทที่ ําหน้าทใี่ นการดแู ล ซ่อมแซม วัสดอุ ปุ กรณใ์ ห้พรอ้ มใชง้ าน ตลอดเวลา ๔.๕๗
ประเดน็ ตวั ชีว้ ดั -๑.๐๐
M ๑.๓ ครมู ีความตืน่ ตัวและกระตอื รือร้นในการพฒั นาตนเองนําความรู้ท่ีได้มาใชใ้ น -๑.๒๙
๑๒.๘๖
การ จดั การเรยี นการสอน
M ๑.๔ ครูขาดแคลนกลุ่มสาระหลกั คือ ล่มุ สาระคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ นำ้ หนกั
M ๑.๕ ครูขาดการพัฒนาอยา่ งตอ่ เนื่อง ๔.๔๓
นำ้ หนักรวม ๔.๗๑
ตาราง ๖ ปจั จยั ด้านการเงนิ (M๒ : Money) -๑.๕๗
๗.๕๗
ประเด็นตวั ชีว้ ัด
M ๒.๑ โรงเรยี นไดร้ บั ความรว่ มมือจากชุมชนในการระดมทรัพยากรทางการศึกษาเปน็ น้ำหนกั
๔.๗๑
อย่างดี
M ๒.๒ การบริหารงบประมาณของโรงเรียน ดาํ เนินไปตามแผนปฏิบัตกิ าร อยา่ ง ๔.๔๓
-๑.๑๔
โปร่งใสตรวจสอบได้ -๑.๒๙
M ๒.๓ งบประมาณที่ได้รบั จัดสรรจากรฐั บาลยงั ไม่เพียงพอตอ่ การบริหารจัดการ ๖.๗๑
น้ำหนักรวม
ตาราง ๗ ปัจจยั ด้านวัสด/ุ อุปกรณ์ (M๓ : Materials)
ประเดน็ ตวั ช้วี ัด
M๓.๑ โรงเรียนใช้อาคารสถานท่ีและวสั ดุอปุ กรณใ์ นการจดั การเรยี นการสอนและ
บริการชมุ ชนอย่างค้มุ คา่
M๓.๒ โรงเรียนมวี สั ดุอปุ กรณ์ชาํ รดุ เสอ่ื มสภาพ
M๓.๓ โรงเรยี นมคี อมพิวเตอร์ท่ีใช้ในการจัดการเรียนการสอนอย่างเพยี งพอ
M๓.๔ ไม่มีระบบเสียงตามสาย ส่งผลตอ่ การประชาสัมพันธ์ของโรงเรยี น
น้ำหนักรวม
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ตาราง ๘ ปัจจัยด้านการบรหิ ารจัดการ (M๔ : Management) ห น ้ า | 26
ประเด็นตัวชว้ี ัด นำ้ หนกั
M ๔.๑ โรงเรยี นไดจ้ ดั ทําแผนปฏิบตั ิการประจาํ ปีใช้เปน็ เคร่ืองมือในการปฏิบัติงาน ๔.๕๗
M ๔.๒ มกี ารนเิ ทศ กํากบั ตดิ ตามการจดั การเรยี นรอู้ ย่างต่อเน่ือง ๔.๕๗
M ๔.๓ การจัดเก็บขอ้ มูลสารสนเทศไม่เป็นระบบและเป็นปัจจุบนั ทําใหข้ าดความ ๔.๕๗
คลอ่ งตวั ในการปฏิบัตงิ าน ๔.๕๗
M ๔ .๔ โรงเรียนขาดการรายงาน/ประชาสัมพนั ธ์เผยแพรผ่ ลงาน -๑.๑๔
M ๔.๕ ผ้บู ริหารมคี วามมงุ่ ม่ันในการบรหิ ารจดั การโรงเรยี นให้บรรจุภารกจิ -๑.๔๓
M ๔.๖ เปิดโอกาสใหท้ ุกภาคส่วนมีสว่ นร่วมในการบริหารจดั การ ๑๗.๑๔
นำ้ หนักรวม นำ้ หนกั
๔.๔๓
ตารางกําหนดน้ำหนักประเดน็ ตวั ชีว้ ดั ของสภาพแวดลอ้ มภายนอก ๔.๔๓
๔.๔๓
ตาราง ๙ ปัจจยั ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม (Social) ๔.๘๖
ประเดน็ ตวั ชี้วดั -๑.๒๙
S๑ คนในชุมชนมีรายไดเ้ ฉลยี่ ตอ่ ครัวเรอื นอยูใ่ นเกณฑ์ที่สงู -๑.๒๙
S๒ สถานที่ต้งั ของโรงเรียนอยู่ใกลต้ วั อาํ เภอ มผี ลกระทบต่อจํานวนนกั เรียนในโรงเรียน
S๓ ชุมชนมคี วามเข้มแขง็ ยนิ ดีใหก้ ารสนบั สนุนภารกจิ ของโรงเรียน ๑๕.๕๗
S๔ การยา้ ยถนิ่ ของผูป้ กครองทําให้นักเรยี นเรยี นไมต่ ่อเนือ่ งส่งผลใหผ้ ลสมั ฤทธท์ิ างการ
นำ้ หนกั
เรียนตำ่ ๔.๔๓
S๕ คนในชมุ ชนมภี มู ิปัญญาท้องถิน่ ท่สี ามารถนาํ มาเปน็ จุดเดน่ ของโรงเรียนได ๔.๔๓
S๖ คนในชุมชนร่วมกนั อนรุ กั ษศ์ นู ย์วัฒนธรรมประเพณีตา่ งๆของชนเผ่าซึง้ สามารถใช้
-๑.๔๓
เป็นแหลง่ เรียนรู้และสร้าง จิตสาํ นึกในดา้ นต่างๆ ใหก้ ับนักเรยี นได้
น้ำหนกั รวม ๗.๔๓
ตาราง ๑๐ ปจั จัยดา้ นเทคโนโลยี (Technology)
ประเด็นตวั ชีว้ ัด
T๑ มกี ารใชเ้ ทคโนโลยีในทางลบ เชน่ เล่นเกม ดูโทรทศั นม์ ากเกนิ ไป
T๒ ชมุ ชนเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศไดส้ ะดวกมากขึน้ สง่ ผลดีตอ่ การประชาสมั พนั ธ์
ของโรงเรยี น
T๓ มกี ารบริการและเทคโนโลยใี หมเ่ กดิ ขน้ึ เอื้อต่อการเรียนร้ตู นเองทหี่ ลากหลายมาก
ขนึ้
นำ้ หนกั รวม
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 27
ตาราง ๑๑ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ (Economic)
ประเด็นตัวชีว้ ัด นำ้ หนกั
E๑ เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอยใู่ นชว่ งชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อชุมชนและ ๔.๗๑
สถานศึกษา -๑.๒๙
E๒ ราคาพืชผลทางการเกษตรตกตำ่ ทําให้รายได้ของผ้ปู กครองลดลง -๑.๒๙
E๓ ชุมชนมีอาชพี และทด่ี นิ ทาํ กินเปน็ กรรมสทิ ธ์ิของตนเอง ๒.๑๔
นำ้ หนกั รวม
ตาราง ๑๒ ปัจจยั ด้านการเมืองและกฎหมาย (Politics)
ประเด็นตัวชวี้ ดั น้ำหนัก
๔.๗๑
P๑ นโยบายดา้ นการศึกษามีการเปล่ยี นแปลงบอ่ ย ส่งผลต่อความตอ่ เน่ืองในการ
บริหารจดั การศึกษา ๔.๕๗
P๒ นโยบายเรียนฟรีตั้งแตแ่ รกเกิดจนจบการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน มสี ่วนเพมิ่ โอกาสทาง -๑.๗๑
การศึกษา
๗.๕๗
P๓ นโยบายกระจายอํานาจให้อปท. มสี ว่ นให้สถานศึกษาได้รับการสนบั สนนุ
งบประมาณจาก อปท. เพ่ิมขึ้น
น้ำหนักรวม
สถานภาพของโรงเรียน
ผลจากการวิเคราะห์สถานภาพแวดล้อมของโรงเรียนขุนยวม อําเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ดําเนินการโดยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการคณะทํางาน ได้นําผลจากการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการไปดําเนินการ
วิเคราะหส์ ภาพปจั จุบนั ปญั หา และความต้องการของโรงเรยี น ผลการวเิ คราะหแ์ บง่ ออกเปน็ ๓ ประเด็น คือ
๒.๑ ผลการวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มภายใน
๒.๒ ผลการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอก
๒.๓ การประเมนิ สถานภาพของโรงเรียนขุนยวม
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 28
ผลการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายใน
ตารางแสดงคา่ น้ำหนกั คะแนนเฉลยี่ ปัจจยั สภาพแวดลอ้ มภายใน (๒S๔M)
ปัจจยั ภายใน น้ำหนกั ค่าคะแนนเฉลีย่ น้ำหนัก สรปุ
คะแนน เฉลยี่
๑. ดา้ นโครงสรา้ งและนโยบาย (S๑) ๐.๑๐ ๐.๐๙
๒. ด้านผลผลติ และบริการ (S๒) ๐.๑๕ จุดแขง็ จุดออ่ น จดุ แข็ง จดุ ออ่ น ๐.๒๑
๓. ด้านบุคลากร (M๑) ๐.๒๙ ๐.๖๔
๔. ด้านการเงิน (M๒) ๐.๒๑ ๒.๗๑ -๐.๖๙ ๐.๒๗ -๐.๑๙ ๐.๓๐
๕. ด้านวัสดุ/อุปกรณ์ (M๓) ๐.๑๒ ๐.๑๑
๖. ด้านการบรหิ ารจดั การ (M๔) ๐.๑๓ ๓.๓๗ -๐.๕๙ ๐.๕๑ -๐.๓๐ ๐.๓๒
๑.๐๐ ๑.๖๗
รวม ๒.๗๗ -๐.๒๐ ๐.๘๐ -๐.๑๖
๓.๐๕ -๐.๕๒ ๐.๖๔ -๐.๓๔
๒.๒๙ -๐.๖๑ ๐.๒๗ -๐.๑๗
๓.๐๕ -๐.๑๙ ๐.๔๐ -๐.๐๘
การวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมภายในของโรงเรียนคณะทํางานได้ดําเนนิ การพจิ ารณาจากจุดแข็ง และ
จุดออ่ นซ่งึ ไดจ้ ากการอบรมเชิงปฏิบตั ิงานโดยมีปจั จัยทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห๖์ ปัจจัยคอื
๒.๑ ปัจจัยด้านโครงสร้างและนโยบาย พบว่าโครงสร้างการบริหารงานของโรงเรียนมีความชัดเจน
เอื้อต่อการปฏิบัติงานมีการกระจายอํานาจแบ่งงานตามความถนัดทําให้เกิดความคล่องตัวในการ ปฏิบัติงาน
และมีความสัมพันธ์และวัฒนธรรมองค์กรที่ดีแต่ก็มีประเด็นที่เป็นจุดอ่อนคือการปฏิบัติงาน บางเรื่องขาด
ความต่อเนื่องเกดิ จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของหนว่ ยเหนือ และการดําเนนิ งานตาม นโยบายซง่ึ มีมากทํา
ให้เกิดผลกระทบต่อการเรียนการสอนจึงสามารถสรุปได้ว่าสรุปได้ว่าเป็นปัจจัยที่เป็น จุดแข็งเนื่องจาก
โรงเรยี นมกี ารจดั การองคก์ รโครงสรา้ งและมนี โยบายการบรหิ ารงานที่ดี
๒.๒ ปัจจัยด้านการให้บริการและผลผลิต พบว่าโรงเรียนมีความพร้อมในการให้บริการทาง
การศึกษาแก่ประชากรวัยเรียนในพื้นที่บริการได้ทุกคน มีจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมที่สอดคล้องกับ
ความต้องการของผู้เรียนนักเรียนได้รับการดูแลจากระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เข้มเข็งคุณภาพผู้เรียน
ด้านคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์สง่ ผลต่อพฤตกิ รรมของนักเรียนดา้ นการเรยี นและ ความ
ประพฤตินักเรียนมีระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น และการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการ เรียนรู้
สุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของผู้เรียน แต่มีจุดอ่อนอยู่บ้างคือนักเรียนบางส่วนมีปัญหา ทางด้าน
ครอบครัวมีผลกระทบต่อนักเรียนในด้านจิตใจและด้านการเรียน พร้อมทั้งแหล่งเรียนรู้ภายใน โรงเรียนไม่
เพียงพอเช่น ห้องสมุดซึง่ จัดวา่ เป็นปจั จัยสําคัญทีจ่ ะช่วยส่งเสรมิ การเรียนรู้ของนักเรียน แต่ โดยรวมสามารถ
สรปุ ไดว้ ่าดา้ นการใหบ้ รกิ ารและผลผลิตเปน็ จดุ แขง็ ของโรงเรียนขุนยวม
๒.๓ ปัจจัยด้านบุคลากร พบว่าบุคลากรมีความเข้มแข็ง ทุ่มเทการทํางานให้กับทุกภารกิจของ
โรงเรยี นมีจาํ นวนของครเู พยี งพอกบั จํานวนนักเรียนและการบรหิ ารจัดการครมู ีความต่ืนตวั และ กระตือรือร้น
ในการพัฒนาตนเองนาํ ความร้ทู ไี่ ด้มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน แต่ก็พบวา่ บคุ ลากร บางส่วนยงั ขาดความ
เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์และไม่มีนักการภารโรงที่ ทําหน้าที่ในการดูแล
ซ่อมแซม วัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลาแต่ปัจจัยด้านบุคลากรก็ถือว่าเป็นจุด แข็งที่มีความสําคัญ
ของโรงเรยี น
แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 29
2.4 ปัจจัยด้านการเงินจากการวิเคราะห์สรุปได้ว่าโรงเรียนได้รับความร่วมมือจากชุมชนในการ
ระดมทรพั ยากรทางการศึกษาเป็นอย่างดีการบริหารงบประมาณของโรงเรียน ดาํ เนินไปตามแผนปฏบิ ัติ การ
อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้แต่กพ็ บว่าโรงเรียนมีจุดอ่อนในเรื่องของงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจาก รัฐบาลยงั
ไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการ
2.5 ปัจจัยด้านวัสดุอุปกรณ์จากการวิเคราะห์สรุปได้ว่าโรงเรียนใช้อาคารสถานที่และวัสดุอุปกรณ์
ในการจัดการเรียนการสอนและบริการชุมชนอย่างคุ้มค่าโรงเรียนมีวัสดุอุปกรณ์ชํารุดเสื่อมสภาพไม่มี ระบบ
เสียงตามสาย สง่ ผลต่อการประชาสมั พนั ธ์ของโรงเรยี น
2.6 ปัจจัยด้านการบริหารจัดการ จากการวิเคราะห์สรุปได้ว่าโรงเรียนได้จัดทําแผนปฏิบัติการ
ประจาํ ปใี ชเ้ ป็นเคร่อื งมอื ในการปฏิบตั งิ านมีการนเิ ทศ กาํ กบั ติดตามการจัดการเรยี นรอู้ ย่างตอ่ เนื่อง
สรปุ ผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน
ผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในตามปัจจัยทั้ง ๖ ประเด็นดังกล่าวข้างต้นสรุปในภาพรวมได้
ว่าปัจจัยต่างๆดังกล่าวเป็นปัจจัยที่เป็นจุดแข็งของโรงเรียนที่เอื้อต่อการพัฒนาโดยการให้บริการด้าน
การศึกษาของโรงเรียนขุนยวมมีการจัดระบบด้านโครงสร้างและนโยบายด้านผลผลิตด้านบุคลากรด้าน
การเงินวัสดุอุปกรณ์และด้านการบริหารจัดการเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาแต่ประสบปั ญหาในประเด็น
ที่ว่างบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากรัฐบาลยังไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการ ทําให้โรงเรียนพัฒนาได้ไม่
บรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคท์ ีไ่ ดต้ ง้ั ไว้เทา่ ท่คี วร
ผลการวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมภายนอก
ตารางสรปุ ผลการวิเคราะห์การประเมนิ สถานภาพขององค์กร
ปัจจัยภายนอก นำ้ หนัก คา่ คะแนนเฉลีย่ นำ้ หนกั สรปุ
คะแนน เฉลี่ย
๑. ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม (S) ๐.๒๒ จดุ แขง็ จดุ อ่อน จดุ แขง็ จดุ อ่อน ๐.๓๘
๒. ด้านเทคโนโลยี (T) ๐.๒๙ ๓.๐๒ -๐.๔๓ ๐.๖๗ -๐.๒๙ ๐.๔๕
๓. ด้านเศรษฐกจิ (E) ๐.๓๑ ๒.๙๕ -๐.๔๘ ๐.๘๖ -๐.๔๑ ๐.๐๗
๔. ด้านการเมอื งและกฎหมาย (P) ๐.๑๘ ๑.๕๗ -๐.๘๖ ๐.๔๙ -๐.๔๒ ๐.๒๔
๑.๐๐ ๓.๑๐ -๐.๕๗ ๐.๕๖ -๐.๓๒ ๑.๑๔
รวม
คณะทํางานได้ดําเนินการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกของโรงเรียนขุนยวม โดยจําแนก ปัจจัย
ในการวิเคราะห์๔ ปัจจยั คอื
๑.๑ ปจั จัยดา้ นสังคมและวฒั นธรรมเนือ่ งจากคนในชุมชนมีรายไดเ้ ฉล่ียต่อครวั เรอื นอยู่ในเกณฑ์ที่ สูง
พร้อมทั้งชุมชนมคี วามเข้มแข็ง ยินดีให้การสนับสนุนภารกิจของโรงเรียน และมีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มี ความรู้
ความสามารถ และมีความพร้อมในการถ่ายทอดให้กับนักเรียน ส่งผลให้โรงเรียนพัฒนาเป็นจุดเด่น ของ
โรงเรียนได้และคนในชุมชนร่วมกันอนุรักษ์เตยปาหนัน ซึ่งสามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และสร้าง จิตสํานึกใน
ด้านต่าง ๆ ให้กับนักเรียนได้แต่ก็ยังมปี ัจจยั ท่ีส่งผลกระทบกับโรงเรียน คือสถานที่ตั้งของ โรงเรียนอยู่ใกลต้ ัว
อําเภอ มผี ลกระทบต่อจาํ นวนนักเรียนในโรงเรียนและปัญหาการยา้ ยถ่ินของผปู้ กครอง ทําให้นกั เรียนเรียนไม่
ต่อเนื่องส่งผลใหผ้ ลสัมฤทธิท์ างการเรียนต่ำ แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านัน้ จึง สามารถสรปุ ได้ว่า ปัจจัยด้าน
สงั คมและวัฒนธรรมเออ้ื ตอ่ การพฒั นาโรงเรียนขนุ ยวม
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 30
๑.๒ ปัจจัยด้านเทคโนโลยีจากการวิเคราะห์สรุปได้ว่าเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาและการ
ให้บรกิ ารทางการศึกษาของโรงเรยี นเนื่องจากหน่วยงานภาครฐั ให้การส่งเสริมสนับสนนุ ด้านความพร้อม ของ
โรงเรียน ชุมชนมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นผลดีต่อการศึกษาของบุตรหลาน และการติดต่อปร ะสานกับ
โรงเรียน ทําให้มีการเรียนรู้ติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆที่ทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์แม้ว่าจะมีการนํา
เทคโนโลยไี ปใชอ้ ยา่ งผดิ วัตถปุ ระสงค์รวมทั้งผปู้ กครองบางส่วนยังขาดความร้ดู ้านเทคโนโลยที ี่ทันสมยั แต่ เป็น
เพยี งส่วนน้อยเทา่ นนั้
๑.๓ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจจากการวิเคราะห์สรุปได้ว่าเป็นปัจจัยที่ยังคงเอื้อต่อการพัฒนาและการ
ให้บริการทางการศึกษาของโรงเรียนเนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐในด้านงบประมาณ
และชมุ ชนมีความเปน็ อย่แู บบพอเพียง มรี ายไดพ้ อเล้ียงตัว
๑.๔ ปัจจัยดา้ นการเมอื งและกฎหมายเป็นปัจจัยทีเ่ อ้ือต่อการพัฒนาทางดา้ นการศึกษาของ โรงเรียน
แม้ว่าการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีบ่อยๆทําให้การทํางานไม่ต่อเนื่องรวมการประสานราชการ และความ
ซ้ำซ้อนในการจัดทําระบบข้อมูลเพื่อสนองนโยบายของหลาย ๆ หน่วยงาน ที่กระทบต่อเวลา เรียน ระเบียบ
กฎเกณฑ์ใหม่ๆ ทําให้ครูเกิดความตื่นตัวในการพัฒนาตนเองและพัฒนางาน เพื่อ ความก้าวหน้าในวิชาชีพ
การเมอื งทอ้ งถนิ่ ส่งผลกระทบต่อบทบาทการมสี ่วนรว่ มของคณะกรรมการ สถานศกึ ษาในการใหค้ วามร่วมมือ
สนับสนนุ กจิ กรรมตา่ งๆของโรงเรียน แตม่ ผี ลตอ่ การพัฒนาการศกึ ษา ของโรงเรียนเพยี งเล็กน้อยเท่าน้ัน
สรุปผลการวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมภายนอก
ผลการวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอกตามปจั จัยท้งั ๔ ประเด็นดังกล่าวขา้ งต้นสรุปในภาพรวม ได้
ว่าปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าวเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาและการให้บริการทางการศึกษาของโรงเรียนขุนยวม
โรงเรียนมีสภาพสังคมวัฒนธรรมที่ดีงามแข็งแกร่งมีการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น มีแหล่งเรียนรู้และ แหล่ง
วัฒนธรรม ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนให้การส่งเสริมสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและ งบประมาณ
และเนอื่ งจากมีการประกาศใช้พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๒ ส่งผลใหก้ าร จัดการศึกษาของ
โรงเรียนขุนยวม มกี ารพฒั นาในทกุ ๆ ด้านอย่างเปน็ ระบบชัดเจนและต่อเนอื่ ง
การประเมนิ สถานภาพของโรงเรียน
ตารางสรปุ ผลการวเิ คราะหป์ ระเมนิ สถานภาพองค์กร
สภาพแวดล้อมภายใน สภาพแวดลอ้ มภายนอก
ปัจจัย สรปุ น้ำหนกั ปจั จัย สรุปน้ำหนัก
คะแนน คะแนน
๑. ดา้ นโครงสร้างและนโยบาย (S๑) ๐.๐๙ ๑. ด้านสงั คมและวฒั นธรรม (S) ๐.๓๘
๒. ด้านผลผลิตและบริการ (S๒) ๐.๒๑ ๒. ดา้ นเทคโนโลยี(T) ๐.๔๕
๓. ด้านบุคลากร (M๑) ๐.๖๔ ๓. ด้านเศรษฐกจิ (E) ๐.๐๗
๔. ดา้ นการเงนิ (M๒) ๐.๓๐ ๔. ดา้ นการเมืองและกฎหมาย (P) ๐.๒๔
๕. ดา้ นวัสดุ/อปุ กรณ์ (M๓) ๐.๑๑
๖. ดา้ นการบริหารจดั การ (M๔) ๐.๓๒
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 31
สรปุ ผลการประเมินสถานภาพของโรงเรียน
ผลการประเมินสถานภาพของโรงเรียนจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกและภายในของ
โรงเรียนขุนยวม ดังกล่าวข้างต้นสามารถประเมินสถานภาพของโรงเรียนได้อยู่ในลักษณะ “เอื้อและ แข็ง”
(STAR) กล่าวคือ โรงเรียนมีโอกาสที่ จะพัฒนาภารกิจในการจัดการศึกษา และให้บริการทางการ ศึกษากับ
ชุมชนหรือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ บุคลากรปฏิบัติหน้าที่ตรงตาม ความรู้
ความสามารถของตนเอง และมีการพฒั นาตนเองอย่างสม่ำเสมอ กอ่ ใหเ้ กดิ การปฏบิ ัติหน้าที่ท่ีมี ประสิทธภิ าพ
การบริหารการจัดการที่เป็นระบบชัดเจนและมีคุณภาพ ด้านผลผลิตและการให้บริการที่ดีมี ชื่อเสียงเป็นจุด
แข็ง ในการพัฒนาภายใต้การส่งเสริมสนับสนุนจากปัจจยั ภายนอก ซึ่งได้แก่ปัจจัยด้านสังคม และวัฒนธรรม
ด้านเทคโนโลยีด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมืองและกฎหมาย ซึ่งมีระเบียบพระราชบัญญัติท่ี เอื้อต่อการ
ดําเนินการ
ภาพแสดงตำแหน่งสถานภาพของโรงเรียนขุนยวม
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 32
บทที่ 3
ทศิ ทางการบรหิ ารจดั การศกึ ษา
๑. การบริหารจดั การศึกษา
โรงเรียนขุนยวม แบ่งโครงสร้างการบริหารงานเปน็ ๔ ด้าน ได้แก่ ด้าน บริหารงานวิชาการ
บริหารงานบุคคล บริหารงานงบประมาณ และบริหารงานทั่วไป ผู้บริหารยึดหลักการบริหาร/เทคนิคการ
บริหารแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน(SBM) เป็นการบริหารที่มีคณะ
กรรมสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้ามามีสว่ นร่วมในการดำเนินงาน เกี่ยวกับการวิเคราะหศ์ ักยภาพของโรงเรยี น
การกำหนดวสิ ยั ทัศน์ เปา้ หมาย กลยทุ ธ์ การวางแผนพัฒนาการจดั การศกึ ษาและแผนการปฏบิ ตั ิการประจำปี
การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ การประเมินตนเอง การทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี และ
รายงานการประเมินตนเอง นอกจากนี้ได้นำหลักธรรมาภิบาลเข้ามาบริหาร ในเรื่องการพิจารณาความดี
ความชอบ การลงโทษ การเลื่อนขั้น การแต่งตั้งโยกย้าย ยึดหลักความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และได้นำ
หลักการบรหิ ารงานแบบ PDCA ซ่งึ มกี ารดำเนินงาน ๔ ขั้นตอน ได้แก่ วางแผน (P) ปฏบิ ัติ (D) ตรวจสอบ(C)
และการปรบั ปรงุ การดำเนินงาน(A) ร่วมกันระหวา่ งผบู้ ริหารโรงเรียน คณะครู และคณะกรรมการสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน โดยใช้กระบวนการบริหารงานภายใต้โมลเดลการศึกษา KHUNYUAM Model สู่ SML นักเรียน
คณุ ภาพ การบรหิ ารจดั การคุณภาพ และกระบวนการจดั การเรยี นรู้คณุ ภาพ
แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
ห น ้ า | 33
ความหมายของโมเดลการบริหาร K H U N Y U A M model
P. Plan (วางแผน) หมายถึง การกาํ หนดเปา้ หมาย / วัตถุประสงคใ์ นการดําเนินงาน วธิ กี าร และขน้ั ตอนท่ี
จําเป็นเพอื่ ใหก้ ารดําเนินงาน
K. Knowledge การสร้างองค์ความรู้ และการรวบรวมความรูส้ กู่ ารปฏบิ ัติ
H. Hierarchy การวางแผน จดั ลำดบั ความสำคัญของการทำงาน
D. Do (ปฏิบตั ิ) หมายถงึ การปฏบิ ัติให้เป็นไปตามแผนที่ได้กําหนดไว้
U. eqUity เตรยี มการจัดการศึกษาด้วยความเสมอภาค มปี ระสทิ ธภิ าพ
N. Network and Communication การสร้างเครือขา่ ย ขยายความรว่ มมอื
C. Check (ตรวจสอบ) ประเมินผลการปฏบิ ัติงาน
Y. Yield มีผลงานเป็นทปี่ ระจักษ์ เน้นผลสมั ฤทธข์ิ องการปฏิบตั ิงาน
U. sUpervision การนเิ ทศ ให้คำปรกึ ษา แนะนำ
A. Action (การปรับปรงุ ) แกไ้ ขปัญหาทเี่ กิดขึ้นหลงั จากได้ทาํ การตรวจสอบแลว้
A. Analysis การวเิ คราะหภ์ ารกิจ งาน ของสถานศึกษา
M. Meeting การประชมุ เพือ่ ทบทวนภารกิจ และเผยแพรผ่ ลงาน เพอ่ื การให้ไดร้ ับ
ข้อมลู ย้อนกลบั เพื่อการปรบั ปรงุ หรอื พฒั นางาน
เป้าหมายการบริหารโดยใช้ K H U N Y U A M model
S. Student ผลที่เกิดขนึ้ กับนักเรียน
M. Management กระบวนการบริหารและการจดั การที่มีประสทิ ธภิ าพ
L. Learning กระบวนการจัดการเรยี นรูท้ ี่บรรลุวัตถุประสงคก์ ารจดั การศึกษาของ
สถานศึกษา
๒. วสิ ัยทศั น์ พันธกิจ เป้าประสงคห์ ลกั
วิสัยทศั น์
“โรงเรียนขนุ ยวม จดั การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานให้แก่เด็กชาติพนั ธอ์ุ ยา่ งเสมอภาคทว่ั ถงึ มีคุณภาพ”
พนั ธกิจ (Mission)
๑. จัดการศึกษาอย่างมีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน
2. พัฒนาระบบบริหารจัดการที่เน้นการมีส่วนร่วมกับชุมชน ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้องในการจัด
การศกึ ษา
3. ส่งเสรมิ การจดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning ผา่ นกระบวนการ PLC
4. พัฒนาขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาท้ังระบบให้มีคุณภาพ
เป้าหมาย (Objectives)
๑. ผ้เู รยี นไดร้ ับการพัฒนาตามมาตรฐานการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
๒. สถานศึกษามีการบริหารจัดการที่เน้นการมีส่วนร่วมกับชุมชน ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้อในการ
จัดการศึกษา
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นขนุ ยวม
ห น ้ า | 34
๓. ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาไดร้ ับการพฒั นาท้งั ระบบให้มีคุณภาพ
๔. ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ร้อยละ ๑๐๐ จดั การเรยี นรูท้ ี่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญและ
สามารถใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเตม็ ตามศักยภาพ
๓. อตั ลักษณ์และเอกลกั ษณะของสถานศึกษา
อัตลกั ษณ์ของสถานศกึ ษา
รา่ เรงิ แจม่ ใส ร่วมใจทำงาน รกั การกีฬา
เอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา
ชนเผา่ สามัคคี
๔. กลยทุ ธร์ ะดบั สถานศกึ ษา
กลยทุ ธ์ที่ ๑ พัฒนาคณุ ภาพของผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษา
กลยุทธ์ที่ ๒ พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษา เน้นกับการมีสว่ นร่วมกบั
ชุมชน
กลยุทธ์ที่ ๓ ส่งเสริมให้ครูจัดประสบการณ์ และกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรยี นเป็น
สำคญั
แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 35
บทท่ี 4
กลยุทธ์การพฒั นาและโครงการ/กิจกรรม
กลยทุ ธร์ ะดับสถานศกึ ษา
กลยุทธ์ที่ ๑ พัฒนาคุณภาพของผ้เู รยี นตามมาตรฐานการศึกษา
กลยทุ ธ์ที่ ๒ พฒั นาประสิทธภิ าพการบรหิ ารจัดการศึกษาของสถานศึกษาตาม หลกั ธรรมภิบาล
กลยทุ ธท์ ี่ ๓ ส่งเสรมิ ให้ครูจัดประสบการณ์ และกระบวนการจดั การเรียนการสอนท่เี น้นผเู้ รียนเป็น
สำคัญ
การบรหิ ารจัดการในรปู แบบ KHUNYUAM สนอง กล่มุ งานท่ี
โครงการ/กิจกรรม Model กลยุทธ์ รับผดิ ชอบ
K H eqU N Y sU A M
Student งานบริหาร
โครงการพฒั นามาตรฐาน ✓ ✓ ✓ 1 วชิ าการ
การศึกษาปฐมวยั
Management งานบริหาร
โครงการพัฒนา ✓✓✓✓ ✓ ✓ ✓ 2 ทัว่ ไป
กระบวนการบริหารและ
การจดั การระดบั ปฐมวัย
Learning งานบรหิ าร
โครงการพัฒนาการ ✓ ✓✓ 3 วิชาการ
ประสบการณ์ที่เน้นเด็ก
เปน็ สำคญั
Student งานบรหิ าร
โครงการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิ ✓ ✓ ✓ ✓ 1 วชิ าการ
ทางวชิ าการของผู้เรียน
Management งานบรหิ าร
โครงการพัฒนา ✓✓✓✓ ✓ ✓ ✓ 2 ท่วั ไป
กระบวนการบรหิ ารและ
การจดั การ
Learning งานบริหาร
โครงการพัฒนา วิชาการ
กระบวนการจัดการเรยี น ✓ ✓✓ 3
การสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็
สำคญั
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 36
เปา้ หมายและตัวช้ีวดั ความสําเร็จ
กลยทุ ธ์ท่ี ๑ พัฒนาคุณภาพของผ้เู รยี นตามมาตรฐานการศกึ ษา
ท่ี เป้าหมายความสำเรจ็ ตัวชว้ี ดั ความสำเรจ็
๑ เดก็ ปฐมวัยโรงเรยี นขนุ ยวม ร้อยละ 93 มี ๑.เดก็ ปฐมวัยโรงเรยี นขุนยวม ร้อยละ 93 มี
พฒั นาการดา้ นร่างกาย แข็งแรง มีสุขนสิ ัย พฒั นาการดา้ นร่างกาย แขง็ แรง มสี ขุ นิสัยทดี่ ี และ
ทดี่ ี และดูแลความปลอดภยั ของตนเองได้ ดูแลความปลอดภยั ของตนเองได้
2 เด็กปฐมวยั โรงเรยี นขุนยวม ร้อยละ 94 มี 2.เด็กปฐมวัยโรงเรียนขนุ ยวม รอ้ ยละ 94 มี
พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ควบคุม พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ ควบคมุ และ
และแสดงออกทางอารมณ์ได้ แสดงออกทางอารมณ์ได้
3 เดก็ ปฐมวัยโรงเรียนขนุ ยวม ร้อยละ 94 มี 3. เด็กปฐมวยั โรงเรยี นขุนยวม รอ้ ยละ 94 มี
พัฒนาการดา้ นสังคม ช่วยเหลอื ตนเอง พฒั นาการดา้ นสังคม ช่วยเหลอื ตนเอง และเป็น
และเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของสงั คม สมาชิกที่ดีของสงั คม
4 เดก็ ปฐมวยั โรงเรียนขนุ ยวม รอ้ ยละ 90 มี 4.เดก็ ปฐมวัยโรงเรียนขุนยวม ร้อยละ 90 มี
พฒั นาการด้านสติปัญญา สอ่ื สารได้ มี พฒั นาการด้านสติปญั ญา ส่ือสารได้ มที ักษะการคิด
ทกั ษะการคดิ พ้นื ฐาน และแสวงหาความรู้ พ้นื ฐาน และแสวงหาความรู้ได้
ได้
5 ผูเ้ รยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ มีคุณภาพ ๑. นกั เรยี นร้อยละ ๗๕ มคี วามสามารถในการอา่ น
ในระดับดีเลิศ การเขยี น การส่ือสารและการคดิ คำนวณ
๒. นกั เรียนร้อยละ ๗๐ มีความสามารถในการ
วิเคราะห์และคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ อภปิ ราย
แลกเปลยี่ นความคิดเห็น และแก้ปัญหา
๓. นักเรยี นร้อยละ ๖๐ มคี วามสามารในการสร้าง
นวัตกรรม
๔. นกั เรียนรอ้ ยละ ๗๕ มคี วามสามารถในการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศ และการส่อื สาร
๕.นักเรียนร้อยละ ๖๕ มผี ลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนตาม
หลกั สตู รสถานศึกษา
6. นักเรยี นร้อยละ ๙๐ มีความรู้ ทักษะพื้นฐานและ
เจตคตทิ ีด่ ีต่องานอาชพี
7. นักเรยี นรอ้ ยละ ๙๐ มคี ณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
ตามหลักสตู ร ๘ ประการ และความสามัคคี
8. นักเรยี นรอ้ ยละ ๙๐ มคี วามภมู ิใจในท้องถ่นิ และ
ความเปน็ ไทย
9. นกั เรียนรอ้ ยละ ๙๐ ยอมรับที่จะอย่รู ว่ มกนั บน
ความแตกต่างและหลากหลาย
๑0. นักเรียนร้อยละ ๙๐ มีสขุ ภาวะทางร่างกายและ
ลกั ษณะจติ สงั คม
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 37
กลยุทธ์ท่ี ๒. พัฒนาประสทิ ธภิ าพการบริหารจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษาตาม หลักธรรมาภบิ าล
ที่ เป้าหมายความสำเรจ็ ตวั ช้วี ัดความสำเร็จ
๑ กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ
๑.โรงเรียนขนุ ยวมให้มีหลักสตู รคลมุ พัฒนาการท้ัง 4
ระดบั ปฐมวัย มีคุณภาพในระดบั ดีเลิศ ดา้ น สอดคล้องกับบรบิ ทท้องถิน่
2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ มี ๒.โรงเรียนขุนยวมมคี รูปฐมวยั เพยี งพอกับชนั้ เรยี น
คณุ ภาพในระดบั ดีเลิศ ๓.ครูปฐมวยั โรงเรียนขนุ ยวมมีความเช่ยี วชาญด้านการ
จัดประสบการณ์
๔.โรงเรียนขนุ ยวมมสี ภาพแวดล้อมและสอ่ื การเรยี นรู้
อยา่ งปลอดภยั และเพยี งพอ
๕.โรงเรียนขนุ ยวมมบี ริการสอื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ
และสอื่ การเรียนร้เู พื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์
๖.โรงเรยี นขนุ ยวมมรี ะบบบริหารคุณภาพท่เี ปดิ โอกาส
ใหผ้ เู้ กยี่ วขอ้ งทกุ ฝ่ายมีสว่ นร่วม
๑. มเี ปา้ หมาย วิสัยทัศน์ และพันธกจิ ที่สถานศกึ ษา
กำหนดชัดเจน สอดคล้องกบั บรบิ ทของสถานศึกษา
ความตอ้ งการชมุ ชน นโยบายรฐั บาล แผนการศกึ ษา
แห่งชาติ เปน็ ไปได้ในการปฏิบตั ิ
๒. มรี ะบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาโดย
ใช้ Khunyuam Model มปี ระสทิ ธิภาพ สง่ ผลตอ่
คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
โดยความร่วมมอื ของผเู้ กยี่ วข้องทุกฝ่าย
๓. มกี ารดำเนินงานพัฒนาวิชาการทเ่ี น้นคุณภาพผเู้ รียน
รอบด้านตามหลักสตู รสถานศึกษาและทุก
กลุม่ เป้าหมาย เช่ือมโยงกับชีวิตจรงิ
๔. มีการพฒั นาครูและบุคลกรใหม้ คี วามเชี่ยวชาญทาง
วชิ าชพี าตรงตามความต้องการของครแู ละ
สถานศกึ ษา
๕. จัดหรอื ปรับสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท้ังภายใน
และภายนอกสถานศึกษา ให้ปลอดภัยและเอื้อต่อ
การเรยี นรู้ จดั เทคโนโลยี สง่ิ อำนวยความสะดวก สอ่ื
บรกิ ารและความช่วยเหลืออ่นื ใดทางการศกึ ษา ให้
ผเู้ รียนได้เข้าถึงและใชป้ ระโยชนไ์ ดจ้ ากแหล่งเรยี นรู้
ตามศกั ยภาพและประเภทของความพิการ
๖. จดั หา พฒั นา และบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ
อยา่ งเป็นระบบ เพื่อใชใ้ นการบรหิ ารจัดการ และการ
จดั การเรียนร้ตู ามศักยภาพและประเภทของความ
พิการ
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
ห น ้ า | 38
กลยุทธ์ที่ ๓ สง่ เสริมให้ครูจัดประสบการณ์ และกระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
ที่ เป้าหมายความสำเรจ็ ตัวช้ีวัดความสำเร็จ
๑ ครูมีกระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่ ๑.ครไู ดจ้ ดั ประสบการณ์ที่สง่ เสริมใหเ้ ดก็ มีพัฒนาการ
เน้นผูเ้ รียนเปน็ สำคัญระดบั ปฐมวยั มี ทกุ ด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ
คณุ ภาพระดบั ดี ๒.เดก็ ไดร้ ับประสบการณ์ตรง เลน่ และปฏิบัติอย่างมี
ความสุข
๓.หอ้ งเรยี นมบี รรยากาศทเ่ี อ้ือต่อการเรยี นรใู้ ช้ส่อื
และเทคโนโลยที เี่ หมาะสมกบั วัย
๔.ครูมกี ารวัดและประเมินพัฒนาการเดก็ ตามสภาพ
จริงและนำผลการประเมินพัฒนาการเดก็ ไป
ปรบั ปรุง
2 ครูรอ้ ยละ ๘๐ มีกระบวนการจัดการเรยี น ๑. ครูร้อยละ ๙๔ จัดการเรยี นรู้ผา่ นกระบวนการคิด
การสอนที่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ มคี ุณภาพ และปฏบิ ตั ิจริงตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวดั
ระดบั ดเี ลศิ ของหลกั สตู รสถานศึกษา มีแผนการจดั การ
เรยี นรูท้ ี่สามารถนำไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตได้
๒. ใช้ส่ือ เทคโนโลยีสารสนเทศและแหลงเรียนรู้
รวมทัง้ ภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่นทเี่ อ้ือตอ่ การเรยี นรู้
๓. มีการบรหิ ารจัดการผูเ้ รียน โดยเนน้ การมี
ปฏิสัมพันธ์เชงิ บวก ครูรกั เด็ก ให้เดก็ รกั ครู และ
รกั ทจี่ ะเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ร่วมกันอย่างมี
ความสขุ
๔. มีการตรวจสอบและประเมนิ ผ้เู รยี นอย่างเป็น
ระบบ มขี ้ันตอนโดยใชเ้ คร่ืองมือและวธิ กี ารวดั
และประเมนิ ผลทเ่ี หมาะสมกับเป้าหมายในการ
จัดการเรียนรู้ ใหข้ ้อมูลยอ้ นกลบั แกผ่ ้เู รียนและ
นำผลมาพัฒนาผู้เรยี น
๕. มีชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี ระหวา่ งครแู ละ
ผูเ้ ก่ียวข้องเพือ่ พฒั นาและปรับปรุงการจดั การ
เรียนรู้ ครู และผ้เู กีย่ วข้องมีการแลกเปล่ียน
เรยี นรู้
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 39
กลยทุ ธท์ ี่ ๑ พฒั นาคณุ ภาพของผูเ้ รียนตามมาตรฐานการศึกษา
เป้าประสงค์ ตัวชี้วดั ความสำเรจ็ ข้อมูล ค่าเปา้ หมายตวั บ่งชี้ความสำเรจ็ โครงการ
เชงิ กลยทุ ธ์
ปฐี าน ปี ๖3 ปี ๖4
๑.เด็กปฐมวัย ๑.เด็กปฐมวัย 93 95 96 โครงการพัฒนา
โรงเรียนขนุ ยวม โรงเรยี นขนุ ยวม มาตรฐาน
รอ้ ยละ 93 มี รอ้ ยละ 93 มี การศกึ ษา
พัฒนาการด้าน พฒั นาการด้าน ปฐมวยั
ร่างกาย แข็งแรง ร่างกาย แข็งแรง
มีสขุ นสิ ัยท่ดี ี และ มสี ขุ นสิ ยั ทีด่ ี และ
ดแู ลความ ดูแลความ
ปลอดภัยของ ปลอดภัยของ
ตนเองได้ ตนเองได้
2.เด็กปฐมวัย 2.เดก็ ปฐมวัย 94 95 96
โรงเรียนขุนยวม โรงเรยี นขนุ ยวม
ร้อยละ 94 มี ร้อยละ 94 มี
พฒั นาการด้าน พฒั นาการดา้ น
อารมณ์ จติ ใจ อารมณ์ จติ ใจ
ควบคมุ และ ควบคุม และ
แสดงออกทาง แสดงออกทาง
อารมณ์ได้ อารมณ์ได้
3. เดก็ ปฐมวยั 3. เด็กปฐมวยั 94 95 96
โรงเรยี นขุนยวม โรงเรยี นขุนยวม
ร้อยละ 94 มี รอ้ ยละ 94 มี
พัฒนาการดา้ น พฒั นาการดา้ น
สังคม ช่วยเหลอื สังคม ชว่ ยเหลอื
ตนเอง และเป็น ตนเอง และเป็น
สมาชกิ ท่ีดขี อง สมาชิกทด่ี ีของ
สังคม สงั คม
4.เด็กปฐมวยั 4.เดก็ ปฐมวัย 90 9๑ 92
โรงเรยี นขนุ ยวม โรงเรียนขนุ ยวม
ร้อยละ 90 มี รอ้ ยละ 90 มี
พฒั นาการดา้ น พัฒนาการด้าน
สติปัญญา สตปิ ัญญา สือ่ สาร
สอ่ื สารได้ มี ได้ มีทักษะการคิด
ทกั ษะการคดิ พน้ื ฐาน และ
พน้ื ฐาน และ แสวงหาความรไู้ ด้
แสวงหาความรไู้ ด้
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 4402
เป้าประสงค์ ตัวชี้วดั ความสำเร็จ ข้อมูล ค่าเปา้ หมายตัวบง่ ช้คี วามสำเร็จ โครงการ
เชิงกลยุทธ์
ปีฐาน ปี ๖3 ปี ๖4
5. ผู้เรยี นมี ๑. นกั เรยี นร้อยละ 75 76 77 โครงการพฒั นา
ผลสัมฤทธ์ทิ าง ๗๕ มี ผลสมั ฤทธทิ์ าง
วชิ าการ มี ความสามารถใน วิชาการของ
คุณภาพใน การอ่าน การเขียน ผู้เรยี น
ระดับดีเลิศ การสื่อสารและการ
คิดคำนวณ
2. นกั เรียนรอ้ ยละ 70 75 75
๗๐ มี
ความสามารถใน
การวิเคราะห์และ
คิดอย่างมี
วจิ ารณญาณ
อภปิ ราย
แลกเปลยี่ นความ
คดิ เหน็ และ
แก้ปญั หา
๓. นักเรยี นรอ้ ยละ 60 62 63
๖๐ มคี วามสามาร
ในการสรา้ ง
นวัตกรรม
๔. นักเรยี นร้อยละ 75 77 77
๗๕ มี
ความสามารถใน
การใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ และ
การสอ่ื สาร
๕. นกั เรียนร้อยละ 75 76 78
๗๕ มผี ลสมั ฤทธิ์
ทางการเรียนตาม
หลักสตู ร
สถานศึกษา
6. นกั เรยี นร้อยละ 90 9๑ 93
๙๐ มีความรู้
ทกั ษะพื้นฐานและ
เจตคติทด่ี ตี ่องาน
อาชีพ
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สัมฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
ห น ้ า | 41
เป้าประสงค์ ตวั ชีว้ ัดความสำเร็จ ข้อมูล ค่าเปา้ หมายตวั บง่ ช้คี วามสำเรจ็ โครงการ
เชิงกลยุทธ์ ปีฐาน ปี ๖3 ปี ๖4 โครงการพัฒนา
๗. นกั เรียน รอ้ ยละ 80 90 92 ผลสัมฤทธ์ทิ าง
วชิ าการของ
๙๐ มคี ณุ ลกั ษณะ
ท่ีพึงประสงคแ์ ละ ผเู้ รียน
ค่านยิ ม และ
คณุ ลกั ษณะตามท่ี
สถานศึกษากำหนด
คือ การพึงพา
ตนเอง
8. นักเรียนร้อยละ 90 9 ๑ 92
๙๐ มคี วามภมู ใิ จ
ในท้องถน่ิ และ
ความเปน็ ไทย
9. นกั เรียนร้อยละ 90 9 ๑ 92
๙๐ ยอมรบั ท่จี ะอยู่
ร่วมกนั บนความ
แตกตา่ งและ
หลากหลาย
๑0. นักเรยี นรอ้ ยละ 90 9 ๑ 92
๙๐ มีสุขภาวะทาง
รา่ งกายและ
ลกั ษณะจติ สังคม
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาในระยะเวลาการประเมนิ สัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 42
กลยทุ ธ์ ๒. พัฒนาประสิทธิภาพการบรหิ ารจดั การศึกษาของสถานศึกษาตาม หลกั ธรรมาภิบาล
เป้าประสงค์ ตวั ช้ีวัดความสำเร็จ ข้อมลู ปี คา่ เป้าหมายตวั บ่งช้ี โครงการ
เชิงกลยุทธ์ ฐาน ความสำเร็จ
ดเี ลิศ โครงการพฒั นา
๑.กระบวนการ ๑.โรงเรยี นขุนยวมใหม้ หี ลกั สูตร ปี ๖3 ปี ๖4 กระบวนการ
บริหารและการ คลุมพฒั นาการทงั้ 4 ดา้ น ดเี ลิศ ดีเลิศ ยอดเยี่ยม บริหารและการ
จดั การระดบั สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทท้องถิ่น ดเี ลิศ จัดการระดบั
ปฐมวยั มี ๒.โรงเรียนขนุ ยวมมคี รปู ฐมวยั ปฐมวัย
คุณภาพใน เพยี งพอกับชั้นเรียน
ระดบั ดเี ลศิ ๓.ครปู ฐมวัยโรงเรียนขนุ ยวมมี ดเี ลิศ ยอดเยย่ี ม โครงการพัฒนา
กระบวนการ
ความเชี่ยวชาญดา้ นการจดั บริหารและการ
ประสบการณ์ จดั การ
๔.โรงเรยี นขนุ ยวมมี ดเี ลิศ ยอดเยย่ี ม
สภาพแวดล้อมและสื่อการ
เรยี นรอู้ ย่างปลอดภัยและ
เพียงพอ
๕.โรงเรยี นขุนยวมมีบริการส่อื
เทคโนโลยีสารสนเทศและส่ือ
การเรียนรูเ้ พือ่ สนบั สนุนการจัด
ประสบการณ์
๖.โรงเรียนขนุ ยวมมรี ะบบ
บริหารคุณภาพท่ีเปดิ โอกาสให้
ผูเ้ กย่ี วข้องทกุ ฝา่ ยมสี ่วนร่วม
2.กระบวนการ ๑. มเี ป้าหมาย วิสัยทัศน์ และ
บริหารและการ พันธกิจที่สถานศกึ ษากำหนด
จัดการ มี ชัดเจน สอดคล้องกบั บริบทของ
คุณภาพใน สถานศกึ ษา ความต้องการ
ระดบั ดีเลศิ ชมุ ชน นโยบายรัฐบาล แผนการ
ศึกษาแห่งชาติ เปน็ ไปได้ในการ
ปฏบิ ัติ
๒. มรี ะบบบริหารจัดการ
คณุ ภาพของสถานศึกษาโดยใช้
Khunyuam Model มี
ประสิทธภิ าพ ส่งผลต่อคณุ ภาพ
ตามมาตรฐานการศึกษาของ
สถานศึกษา โดยความรว่ มมือ
ของผู้เกย่ี วข้องทกุ ฝา่ ย
แผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขุนยวม
ห น ้ า | 43
เปา้ ประสงค์ ตวั ช้ีวดั ความสำเรจ็ ขอ้ มลู ปี คา่ เป้าหมายตวั บง่ ช้ี โครงการ
เชิงกลยทุ ธ์ ฐาน ความสำเร็จ
ดีเลิศ โครงการพฒั นา
2.กระบวนการ ๓. มีการดำเนินงานพฒั นา ปี ๖3 ปี ๖4 กระบวนการ
บรหิ ารและการ วิชาการทเี่ นน้ คณุ ภาพผูเ้ รียน ดีเลิศ บรหิ ารและการ
จดั การ มี รอบดา้ นตามหลักสตู ร ดีเลศิ ดีเลิศ ยอดเยี่ยม จัดการ
คณุ ภาพใน สถานศกึ ษาและทุก
ระดับดเี ลศิ กลุม่ เป้าหมาย เช่ือมโยงกับชีวิต ดเี ลศิ ดเี ลศิ ยอดเย่ียม
จรงิ ดีเลิศ ยอดเยี่ยม
๔. มีการพฒั นาครแู ละ ดีเลศิ ยอดเยี่ยม
บคุ ลากรให้มีความ เช่ียวชาญ
ทางวชิ าชีพาตรงตามความ
ตอ้ งการของครแู ละสถานศึกษา
๕. จดั หรือปรับสภาพแวดล้อม
ทางกายภาพทง้ั ภายในและ
ภายนอกสถานศกึ ษา ให้
ปลอดภยั และเออื้ ต่อการเรยี นรู้
จดั เทคโนโลยี ส่งิ อำนวยความ
สะดวก สื่อ บรกิ ารและความ
ช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา
ให้ผ้เู รยี นได้เข้าถงึ และใช้
ประโยชน์ได้จากแหล่งเรียนรู้
ตามศักยภาพและประเภทของ
ความพกิ าร
6. จดั หา พฒั นา และบริการ
เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง
เปน็ ระบบ เพ่ือใชใ้ นการ
บรหิ ารจัดการ และการ
จดั การเรยี นรู้ตามศักยภาพ
และประเภทของความพกิ าร
แผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 44
กลยุทธ์ที่ ๓ สง่ เสริมให้ครจู ัดประสบการณ์ และกระบวนการจัดการเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ
เป้าประสงค์เชิงกล ตัวชว้ี ัดความสำเรจ็ ข้อมลู ปี ค่าเปา้ หมายตัวบ่งชค้ี วามสำเร็จ โครงการ
ยทุ ธ์ ฐาน ปี ๖3 ปี ๖4
๑.ครูมีกระบวนการ ๑.ครูไดจ้ ัด ดี ดเี ลศิ ยอดเยย่ี ม โครงการ
จดั การเรียนการ ประสบการณ์ท่ี พฒั นาการ
สอนทเี่ นน้ ผเู้ รยี น ส่งเสริมใหเ้ ดก็ มี ประสบการณ์ท่ี
เป็นสำคัญระดับ พัฒนาการทุกด้าน เน้นเด็กเป็นสำคญั
ปฐมวยั มี อย่างสมดุลเต็ม
คณุ ภาพระดับดี ศกั ยภาพ
๒.เดก็ ได้รบั
ประสบการณ์ตรง
เล่นและปฏิบัตอิ ย่างมี
ความสุข
๓.ห้องเรยี นมี
บรรยากาศทเ่ี อ้ือตอ่
การเรียนรู้ใชส้ ือ่ และ
เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม
กับวัย
๔.ครมู ีการวดั และ
ประเมินพัฒนาการ
เดก็ ตามสภาพจริง
และนำผลการ
ประเมนิ พฒั นาการ
เดก็ ไปปรบั ปรุง
2. ครรู อ้ ยละ ๘๐ ๑. ครรู อ้ ยละ ๙๔ 94 95 96 โครงการพฒั นา
มกี ระบวนการ จดั การเรียนร้ผู า่ น กระบวนการ
จัดการเรียนการ กระบวนการคิดและ จัดการเรยี นการ
สอนท่เี น้นผเู้ รยี น ปฏิบัติจรงิ ตาม สอนทเี่ นน้ ผูเ้ รยี น
เปน็ สำคัญ มี มาตรฐานการเรยี นรู้ เปน็ สำคญั
คณุ ภาพระดับดี ตัวชีว้ ดั ของหลักสตู ร
เลิศ สถานศกึ ษา มี
แผนการจดั การเรยี นรู้
ท่สี ามารถนำไป
ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตได้
แผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธิผล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชมุ พู รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นขุนยวม
ห น ้ า | 45
เป้าประสงค์เชงิ กล ตัวชว้ี ัดความสำเรจ็ ขอ้ มูลปี คา่ เป้าหมายตวั บง่ ชค้ี วามสำเรจ็ โครงการ
ยุทธ์ ฐาน ปี ๖3 ปี ๖4
๒. ใชส้ ่ือ เทคโนโลยี ดีเลิศ
2. ครูรอ้ ยละ ๘๐ สารสนเทศและแหลง ดเี ลิศ ดเี ลิศ ยอดเยยี่ ม โครงการพัฒนา
มกี ระบวนการ เรยี นรู้ รวมทั้งภูมิ
จดั การเรยี นการ ปญั ญาท้องถน่ิ ทเ่ี อื้อ ดีเลิศ กระบวนการ
สอนที่เน้นผูเ้ รียน ต่อการเรียนรู้
เปน็ สำคัญ มี ดเี ลศิ จดั การเรียนการ
คุณภาพระดับดี ๓. มกี ารบรหิ าร
เลิศ จัดการผ้เู รยี น โดย สอนท่ีเน้นผเู้ รียน
เนน้ การมีปฏสิ ัมพนั ธ์
เชิงบวก ครรู กั เดก็ ให้ เปน็ สำคญั
เด็กรกั ครู และรักที่จะ
เรียนรู้ สามารถเรยี นรู้ ดีเลิศ ยอดเยีย่ ม
รว่ มกันอยา่ งมี
ความสุข ดเี ลศิ ยอดเยี่ยม
๔. มกี ารตรวจสอบ ดเี ลศิ ยอดเย่ียม
และประเมินผเู้ รยี น
อยา่ งเปน็ ระบบ มี
ขัน้ ตอนโดยใช้
เครื่องมอื และ
วธิ ีการวัดและ
ประเมนิ ผลที่
เหมาะสมกับ
เป้าหมายในการ
จัดการเรียนรู้ ให้
ขอ้ มูลย้อนกลับแก่
ผู้เรยี นและนำผล
มาพฒั นาผเู้ รยี น
๕. มชี ุมชนแหง่ การ
เรยี นรทู้ างวชิ าชีพ
ระหวา่ งครูและ
ผเู้ กย่ี วข้องเพอื่
พัฒนาและ
ปรับปรุงการ
จัดการเรยี นรู้ ครู
และผ้เู กี่ยวข้องมี
การแลกเปลยี่ น
เรียนรู้
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมนิ สัมฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม
ห น ้ า | 46
บทที่ 5
การบรหิ ารแผนสู่การปฏิบัติ
เพื่อให้แผนพัฒนาการจัดการศึกษาสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมาย พันธกิจและวิสัยทัศน์ที่กำหนด
ควรมีการสรา้ งเครื่องมือ กลไกบคุ คล/คณะบคุ คลติดตามวัดและประเมินผลการดำเนินงาน ดังนี้
๑. การจดั ใหม้ ีส่วนรว่ มจากคณะครู ผู้แทนนกั เรยี น/ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษาในการ
รา่ งและจดั ทำแผนพัฒนาการจัดการศกึ ษาอยา่ งท่วั ถงึ และครอบคลมุ ทุกกลุ่มคณะ
๒. การจัดให้มีกลไกการประสานแผนงานและกลยุทธ์ต่าง ๆภายในแผน การกำหนดบุคคลหรือ
คณะบุคคลร่วมรบั ผดิ ชอบการดำเนนิ งานในแตล่ ะกลยทุ ธ์
๓. การสร้างหรือทบทวนความรู้ การสร้างความเข้าใจในการวางแผน การจัดทำแผน การ
ดำเนนิ งานตามแผนและการประเมินตนเองพร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานในสว่ นท่ีรบั ผดิ ชอบแก่คณะครู
๔. การจัดให้มีการประชาสัมพันธใ์ หผ้ ู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายไดท้ ราบสาระสำคญั อย่างง่ายๆของ
แผน ตลอดทั้งภาพแนวทางการดำเนนิ งานท่ชี ัดเจน
๕. การจดั ใหม้ ีการพฒั นาระบบฐานขอ้ มูลให้เป็นปจั จุบนั เพอื่ ใช้ประโยชนใ์ นการ
ปรบั ปรงุ กจิ กรรม โครงการ กจิ กรรมหลัก เป้าหมายและตัวชว้ี ัดความสำคญั ใหส้ อดคล้องและทันกับสภาพที่
มีอยแู่ ลว้ จรงิ
๖. มกี ารพฒั นาสมรรถนะและศกั ยภาพของคณะครูในการนำแผนสู่การปฏิบัติ
๗. มีเวทีหรือจัดให้มีการประชุมทางวิชาการหรือประชุมย่อยที่มีการนำและเปิดโอกาสให้มีการ
พูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูล ปัญหา และแนวปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงานตาม
แผน
๘. มกี ารปรับปรงุ เชื่อมโยงกบั นโยบายและแผนพฒั นาการศกึ ษาของหน่วยงานต้นสงั กัดหรือสว่ น
ราชการท่เี กีย่ วข้องรายปเี สมอ
๙. มีการปรับปรุงพฤติกรรมของผู้บริหาร ให้มีคุณลักษณะตามวิสัยทัศน์ที่กำหนด และมีความ
เป็นผู้นำที่จะนำโรงเรียนไปสู่วิสัยทัศน์ได้จริง พร้อมทั้งเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการคิดริเริ่ม
ตัวอยา่ งงานหรอื วธิ กี ารทำงานอย่างง่ายและเกิดผลดใี นทางปฏบิ ตั ิแกค่ ณะครูเสมอ
๑๐. มีความพยายามหรือมกี ารปฏิบัตงิ านตามบทบาทหนา้ ทที่ ้งั สว่ นของผู้บริหารและคณะครู
ตามท่ีกำหนดไวใ้ นแผน
๑๑. มคี วามพยายามหรือมกี ารชักจงู กำกับใหน้ ักเรยี นเกดิ การปฏิบัติหน้าท่ีตามท่ีกำหนดไว้ใน
แผน
๑๒. มีการประสาน การสนับสนนุ การจัด การหว่านล้อมให้เกดิ ความร่วมมือหรือข้อตกลงในการ
ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของผู้ปกครอง ชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นและองคก์ รสถาบันอ่ืน ตามทก่ี ำหนดไวใ้ นแผน
๑๓. มีการตดิ ตาม วดั และประเมินผลแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ดังนี้
(๑) ติดตามความก้าวหน้าประจำปี เป็นการติดตามความก้าวหน้าของตัวชี้วัดในแต่
ละกลยุทธ์ เพื่อตรวจสอบถึงผลงานที่เกิดขึ้นจริง เปรียบเทียบกับเป้าหมายที่กำหนด อันจะนำไปสู่การ
ทบทวนปรับปรุง แก้ไขเป้าหมายและกลยทุ ธใ์ ห้มคี วามเหมาะสมต่อไป
แผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมนิ สมั ฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผู้อำนวยการโรงเรยี นขนุ ยวม
ห น ้ า | 47
(๒) การวัดและประเมนิ ผลในระยะคร่ึงแผน เปน็ การประเมินผลในชว่ งปกี ารศึกษาแรก
ของแผน คอื เมอ่ื สิ้นสุดปกี ารศึกษา ๒๕63 เพือ่ ทบทวนผลความกา้ วหน้าและปัญหาอุปสรรค รวมทั้งทบทวน
กลยุทธ์ ตวั ชีว้ ัด เปา้ หมาย หรอื เพอ่ื การปรับเปลย่ี นแผนปฏบิ ตั ิการประจำปีการศึกษา ๒๕64
(๓) การประเมินผลเมื่อส้ินสุดแผน เปน็ การประมวลผลแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ๓
ปี เมื่อสิ้นสุดปีการศึกษา ๒564 เพื่อสรุปผลการพัฒนาการจัดการศึกษา พิจารณาผลสัมฤทธิ์ของงานที่
เกิดขนึ้ ตลอดช่วงเวลา 1 ปีการศกึ ษา และเพ่อื ใชเ้ ปน็ ฐานขอ้ มลู หลกั ในการจดั ทำแผนพฒั นาการจัดการศึกษา
ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๖3 – ๒๕64
๑๔. การจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีการศึกษาตามแผนปฏิบัติการประจำปี
การศกึ ษา
แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในระยะเวลาการประเมนิ สัมฤทธผิ ล ๑ ปี | ของนายอรรถพล ชุมพู รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนขนุ ยวม